“เย็นนี้กูมีนัดกินข้าวที่บ้านมิว..”
“ครับ..”
“มึงอยากรู้ไหม ว่ากูต้องไปเจอใครบ้าง..” มันว่าแล้วส่งยิ้มเยาะๆ มาให้ “กูต้องไปเจอว่าที่ลูกเขยคนเล็กของบ้านนั้น..”
“...”
“ซึ่งเป็นคนที่มึงรู้จักดี..”
ผมไม่ตอบโต้อะไรมัน..ทำแค่เบือนหน้าออกไปมองนอกกระจกรถ รู้สึกเหมือนเส้นทางจากบ้านมันมาจนถึงมหาวิทยาลัยนี่มันช่างไกลเสียจริงๆ เพราะมันไกลเสียจนผมแทบจะทนนั่งฟังมันพูดจาเยาะเย้ยแทบไม่ไหว..
.
.
แล้วตอนนี้ระหว่างผมกับวีเป็นยังไงงั้นเหรอ ?
มันก็แค่ไม่มีอะไรเพิ่มมากขึ้นไปกว่าเดิม..และเหมือนมันจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ ในเมื่อเขาไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนกับผมได้..ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันจึงแย่ลง ผมเลือกจะใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่ไปพบไปเจอเขาเหมือนเมื่อก่อนอีก..แม้กระทั่งเวลาที่เขามาดักรอผมที่หน้าตึกเรียน หรือแม้เราจะบังเอิญเจอกันที่ไหนสักแห่งในมหาวิทยาลัย ผมก็จะทำเหมือนมองไม่เห็นเขา
ผมไม่อยากเจ็บอีก เพราะแค่ความทุกข์ในชีวิตที่ผมต้องเจอตอนนี้..มันก็มากเกินพอแล้ว
.
.
“กูจะถอนหมั้น..”
ไม่รู้สิครับ..ผมว่าผมฟังคำนี้มาตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับมันเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะทำอะไรได้ หลายครั้งที่มิวลุกขึ้นเอามีดมากรีดแขนตัวเองเพื่อยื้อสถานะคู่หมั้น..หลายครั้งที่มันถูกแม่เรียกไปต่อว่าเพราะสิ่งที่มิวเอาไปฟ้อง สุดท้ายผมก็เห็นว่ามันก็ทำได้แค่พูดอยู่เหมือนเดิม..
“ทำสักทีสิครับ..” ผมพูดออกไปแบบไม่ได้คิดอะไร “เมื่อไรจะทำได้สักที..”
คงเพราะคำๆ นี้..คือคำที่ผมอยากได้ยินจากปากของใครบางคน ผมเลยพูดมันออกมาแบบไร้สติได้ขนาดนี้..แต่ส่วนลึกๆ บางอย่างในใจของผมเองก็เหมือนอยากจะลองทดสอบมันอยู่เหมือนกัน
เพราะผมอยากรู้ว่ามันจะทำเพื่อผมได้ไหม..แล้วถ้ามันทำได้ วีจะรู้สึกว่าตัวเองก็ควรทำแบบนั้นเพื่อผมบ้างหรือเปล่า..
“กูจะพยายาม..”
ก็แค่นั้น..แค่คำว่าพยายามของมันที่ผมไม่ได้รู้สึกอยากเชื่อสักนิด มันไม่เคยขัดคำสั่งของแม่ได้..ไม่ว่าจะเพราะความรัก หรือเพราะความสงสารที่มันมีต่อแม่ของมันผมก็ไม่อาจรู้ แต่มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด..
แม่ที่เจ็บปวดเพราะความรักที่มีให้พ่อมัน..
และแม่ที่เจ็บปวดเพราะความไม่รักของพ่อมัน..
แม่ที่มันเลือกที่จะถนอมเอาไว้ให้ดีที่สุด..
.
.
มันมาส่งผมที่หน้าตึกคณะก่อนจะรีบไปทำงาน เย็นนี้มันคงมารับผมไม่ได้..เพราะมันต้องไปกินข้าวที่บ้านมิว เหมือนๆ กับวีที่ต้องไปกินข้าวกับมีน..
“ทิว..” ผมรีบเดินหนีทันทีที่ได้ยินเสียงเขา “เดี๋ยวสิทิว..”
เหนื่อยที่จะต้องมองหน้าเขา..แต่แขนที่ถูกรั้งเอาไว้ทำให้ผมไม่สามารถหนีไปไหนได้ “อะไร..”
“ทำไมต้องหลบหน้าผม..”
“...”
“ทำไมล่ะทิว..”
“เหอะ !”
ผมสะบัดแขนออกจากมือเขาแรงๆ ก่อนจะเดินนำเขาไปที่หลังตึกเดิมที่เราเคยคุยกัน ผมไม่รู้หรอกว่าเขายังจะต้องการพูด..ต้องการอธิบายอะไรอีก แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นตอนเราเถียงกัน..แล้วเอาไปฟ้องมันอีก
“มีอะไร..”
“ทิวหลบหน้าผมทำไม..”
ผมถอนหายใจออกมา..รู้สึกเบื่อๆ กับคำถามของเขา คำถามที่เขาเองควรจะรู้คำตอบมันดีที่สุด !
“ทิว..”
“จะให้ผมทำยังไง..จะให้คุยกับวีในฐานะไหนเหรอ..” ผมถามกลับไป “ผมไม่ได้เลวพอจะไปแย่งของๆ ใครหรอกนะ..”
“แล้วเขาล่ะ..ที่ทิวยังยุ่งกับเขา นั่นไม่ได้แย่งใครเลยใช่ไหม”
เพี๊ยะ !!
ผมตบหน้าเขา..ก่อนจะจ้องเขาด้วยความโกรธอย่างที่สุด !
นี่เขาคิดว่าผมเป็นคนยังไง..คิดว่าทุกอย่างที่ผมต้องเจอมันคือสิ่งที่ผมเลือกเองได้ใช่ไหม การที่ผมต้องนอนกับคนที่มีสายเลือดเดียวกันมันคือสิ่งที่ผมอยากทำใช่หรือเปล่า..
ทั้งๆ ที่เขาเองก็รู้..รู้ดีทุกๆ อย่าง ว่าผมต้องทำแบบนั้นไปเพราะอะไร แล้วทำไมยังกล้าพูดจาทำร้ายจิตใจผมแบบนี้ !
“ผมไม่คิด..ไม่คิดว่าวีจะพูดแบบนี้..”
“...”
“ขอบคุณที่ทำให้คนโง่ๆ อย่างผมได้เข้าใจ..”
“...”
“ว่าผมมันไม่เคยมีค่าในสายตาใครเลย..”
“ทิว..”
ผมเดินออกมาจากตรงนั้นทันที..เดินตรงออกมาจากมหาวิทยาลัยแล้วกลับไปนอนที่คอนโด โดดเรียนโดยไม่สนใจว่ามีงานที่จะต้องส่งอาจารย์ในวันนี้..เพราะตอนนี้แค่จะยืน ผมยังแทบไม่ไหวเลย..
Ma-NuD_LaW
คะแนนวีตกฮวบเลยแฮะ..
.
.
คำต้องห้ามของวันนี้คือ "สั้น"
ใครพูดคำนี้ โดน..