ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว  (อ่าน 196865 ครั้ง)

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
ยกให้พี่ซันเป็นเจ้าพ่อบุญทุ่มค่ะ ทุ่มเทสุดยอดจริงๆ

เหมาะแล้วที่จะมาเป็นสามีของน้องฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ อิอิ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พ่อบุญทุ่มจริงๆ

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ทั้งทุ่มเทและทุ่มทุนขนาดนี้คงไม่รอดแน่ :hao6:

ออฟไลน์ Moonwish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
มะ ไม่น่ารอดนะน้องฟ้า

ออฟไลน์ jj_girl

  • รูปโปรไฟล์ขำๆ นะคะ / Cr.สาววายในตำนาน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เสี่ยซันลงทุนมากค่ะ  งานนี้น้องฟ้าจะไปไหนรอด

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
วางแผนมาเป็นยังดี 555+
ทำการบ้านมาดีมากๆ อิอิ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
แหมลงทุนสร้างแลนมาร์คซะใกล้บ้านน้องฟ้าเลยนะ ทุ่มสุดๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
พ่อบุญทุ่มนะเนี่ย พี่ซัน คึคึ
ยอมมาอยู่ใกล้ๆบ้านน้องฟ้าเลยทีเดียว

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เจ้าแผนการจริงๆ เชียว

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
 :m3: :m3: :m3: ซันเนี่ยทุ่มทุนสร้างจริงๆ
น้งฟ้าก็รีบๆใจอ่อนรับพี่ซันเค้าหน่อย :oni3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ตอนนี้ถึงกับสงสารน้องฟ้าเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

บทที่  5



   เมฆายืนมองเพื่อนที่เดินออกมาจากห้องอาบน้ำบนบ้าน ทั้งตัวของรวีมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบเอวไว้อยู่ เจ้าตัวนั้นกำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีชนิดชวนให้คนมองหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   "ดีใจล่ะสิ ได้มีโอกาสเก็บแต้มโดยไม่คาดฝันแบบนี้น่ะ"

   รวีหันมามองเพื่อนก่อนจะยักไหล่นิด ๆ พลางหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางที่วางเอาไว้กับพื้นบ้านแถวนั้นมาสวมใส่ เนื่องจากเจ้าของเก่าได้ขนเฟอร์นิเจอร์หลักย้ายไปหมด จึงเหลือแต่เพียงบ้านโล่ง ๆ ซึ่งทั้งคู่เองนั้นก็เตรียมจะสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์มาลงเพิ่มภายในวันนี้อยู่แล้ว

   "ฉันเองก็ดีใจที่จะได้กลายเป็นผู้มีพระคุณในสายตาของน้องฟ้าและคนในครอบครัวเขา...แต่เอาจริง ๆ แล้ว ฉันก็ไม่อยากให้น้องฟ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงอันตรายแบบนี้บ่อย ๆ นักหรอก"

   เมฆารับฟังแล้วก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ถ้าหากพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วเวหาก็อาจจะมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้

   "คราวหน้าน้องเขาก็คงไม่ประมาทอีกแล้วล่ะ เจอแบบนั้นเข้าไปก็คงขวัญเสียอยู่บ้างหรอก"

   "อืม...ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะรับอาสาไปปลอบขวัญน้องฟ้าเอง...นี่ใกล้เที่ยงหรือยังน่ะ ถ้าพวกเราไปเร็วก่อนหน้านัดนิดหน่อยจะดูน่าเกลียดไปไหมวะเมฆ"

   รวีหันไปถามเพื่อน ซึ่งเมฆาก็ยกนาฬิกาข้อมือมาดูเวลาก่อนจะเบ้หน้าใส่

   "เพิ่งสิบโมงเองนา อย่างน้อยก็ไปสักราว ๆ ห้าโมงดีกว่า จะได้ดูไม่จงใจเกินไป ทางโน้นเขาจะได้ไม่อึดอัดนักด้วย"

   "โห! ให้รออีกตั้งชั่วโมงเลยนี่นะ!"

   คนเอาแต่ใจเริ่มโวยวายด้วยความหงุดหงิด ทำเอาเมฆาต้องรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาเพื่อเบรกอารมณ์ขุ่นมัวของอีกฝ่ายเสียก่อน

   "งั้นระหว่างว่าง ๆ นี่ เราก็สำรวจแต่ละห้องไปสิ ว่าจะซื้ออะไรเข้ามาเพิ่มดี...ที่แน่ ๆ พวกเตียง โต๊ะ เก้าอี้ ก็ต้องซื้อใหม่หมดยกเซ็ตนี่ล่ะนะ"

   พอได้ยินดังนั้นรวีก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเรื่องที่เพื่อนสนิทเสนอ เพราะจะว่าไปแล้วถ้าไม่นับแผนการที่จะหาเรื่องอยู่ใกล้ชิดกับเวหา บรรยากาศโดยรวมของบ้านหลังนี้ก็ค่อนข้างน่าอยู่ถูกใจเขาพอสมควรเลยทีเดียว

   "ก็ได้...งั้นฉันจองห้องวิวศาลาน้ำห้องนี้แล้วกัน เผื่อตื่นเช้ามา จะได้เห็นน้องฟ้ามายืนโบกมือทักทายให้ที่ริมคลองฝั่งโน้นก็ได้"

   รวีบอกพร้อมรอยยิ้ม ส่วนเมฆาที่อยู่ด้วยกันอยากจะแย้งกลับไปว่า หากเห็นแบบนั้นแสดงว่ารวีก็คงยังหลับฝันไม่ตื่นอยู่หรอก แต่ขืนเขาหลุดปากพูดแบบที่ใจคิดออกไปจริง ๆ รับรองรวีคงบ่นอุบและโมโหใส่เขาอีกเป็นแน่

   

   อีกด้านหนึ่งหลังจากเวหาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดผมเรียบร้อย เขาจึงมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มารดาและน้องชายฟัง ซึ่งนั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มโดนมารดาตำหนิร่ายยาวใส่ไปตามระเบียบ ทว่าพอดุลูกชายเสร็จ วารีก็หวนคิดถึงเด็กลูกครึ่งข้างบ้าน ที่สามีเล่าให้ฟังว่า อีกฝ่ายนั้นอ้างว่ารู้จักเธอและเวหามาก่อน

   "ถ้าเป็นผู้ชายผมสีน้ำตาลออกแดง ๆ หน่อย แล้วก็ตาสีเขียวสวย ๆ หน้าตาดีมาก ๆ นั่นก็คงใช่หนูซันเขานั่นล่ะค่ะ...เด็กคนนี้น่ารักนะคะ ช่างพูดช่างคุย รู้จักกาลเทศะ แถมยังมาคอยเล่นเป็นเพื่อนกับฟ้าเขาทุกวัน ตาฟ้าของเราก็ติดหนูซันเขาน่าดูเชียวล่ะ ตอนที่หนูซันย้ายไปต่างประเทศในช่วงแรก ๆ ตาฟ้าร้องไห้หาพี่เขาทุกวันเลยล่ะนะคะ"

   พอได้ยินมารดาเล่าเช่นนี้เวหาก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าในตอนเด็กตัวเองจะสนิทสนมกับรวีเป็นพิเศษขนาดนั้น

   "สนิทกันขนาดนั้นเลยหรือครับ แต่พี่ฟ้าไม่เห็นจะจำเขาได้สักนิดนี่ครับ"

   มีนาขัดมารดาขึ้นบ้างเมื่อได้เห็นสีหน้าของพี่ชายยามนี้ และนั่นก็ทำให้เวหาชะงักก่อนจะเหลือบไปมองน้องชายตาปริบ ๆ

   "แหม! ก็นั่นมันตอนพี่ชายของลูกแค่สามขวบเองนะ ถ้าฟ้าจำได้ดีไม่ลืมสิ ถึงน่าแปลก ขนาดแม่เองก็ยังลืม ๆ เลือน ๆ ไปบ้างแล้ว จำได้ก็แค่ว่า สองคนนี้สนิทกันมากก็เท่านั้นล่ะ"

   วารีบอกพร้อมยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งก็ทำให้มีนาแอบลอบถอนหายใจ เพราะพอจะคาดเดานิสัยของพี่ชายตนได้อยู่บ้าง ลองแบบนี้เวหาก็คงจะต้องรู้สึกผิดที่จดจำเรื่องสมัยเด็กไม่ได้ และอาจรู้สึกสงสารรวีที่ยังมั่นคงกับเจ้าตัวมานานถึงขนาดนั้น ยิ่งรวีเพิ่งจะทำคะแนนเรื่องช่วยชีวิตเวหาเอาไว้เมื่อครู่ที่ผ่านมาแบบนี้ด้วยแล้ว มีหวังงานนี้พี่ชายของเขาคงใจอ่อนยอมลดการ์ดปล่อยให้อีกฝ่ายมาอ้อนทำคะแนนขอความรักเพิ่มได้อีกเป็นแน่



   พอถึงเวลาห้าโมงเช้า เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น ทางด้านเวหาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องรับแขกกับบิดานั้นชะงักเล็กน้อย และเพราะมีนากำลังเข้าครัวทำกับข้าวกับมารดาของเขาอยู่ เด็กหนุ่มจึงเป็นฝ่ายที่ต้องไปต้อนรับแขกที่มาเร็วก่อนกำหนดเข้ามาในบ้านแทน

   "สวัสดีครับคุณรวี คุณเมฆา"

   เวหาพนมมือไหว้ทั้งคู่ เล่นเอาเมฆายกมือรับไหว้แทบไม่ทัน ส่วนรวีขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วรีบบอกกลับไป

   "ไม่เอาสิครับ...บอกแล้วว่าให้เรียกพี่ซันยังไงล่ะครับ"

   เวหายิ้มเจื่อน แล้วจึงตัดสินใจเรียกตามที่อีกฝ่ายต้องการ

   "ครับ...พี่ซัน"

   รวียิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ และพอประตูรั้วเปิด ชายหนุ่มก็เข้ามาพร้อมกับกระเช้าขนมหวานหลากชนิดใบโต และหนึ่งในนั้นก็เป็นช็อกโกแลตยี่ห้อราคาแพงที่เวหานึกอยากกินแต่ไม่กล้าซื้อรวมอยู่ด้วย

   "ของเยี่ยมทักทายสำหรับเพื่อนบ้านใหม่น่ะครับ...น้องฟ้าไม่รังเกียจของหวานใช่ไหมครับ"

   รวีที่สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายออก ถามพร้อมยิ้มน้อย ๆ ซึ่งเวหาก็กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะยิ้มเขิน ๆ ส่งให้

   "ครับ...ไม่รังเกียจครับ เอ่อ...จริง ๆ ก็ค่อนข้างชอบมากด้วยซ้ำ"

   รวีใจเต้นตึกตัก มีความสุขที่ได้เห็นใบหน้ายิ้มเขินของเด็กหนุ่มที่ตนหลงรัก ส่วนเมฆานั้นแอบอึ้งปนทึ่ง ที่เห็นอีกฝ่ายยังคงชอบขนมหวานเหมือนตอนเด็ก แม้จะโตมาหุ่นล่ำมาดแมนขนาดนี้แล้วก็ตาม

   "ดีจัง...พี่นึกว่าจะเตรียมมาเก้อเสียแล้ว"

   ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นโล่งอก จนเพื่อนสนิทที่มองอยู่อดหมั่นไส้นิด ๆ ไม่ได้ เพราะรู้ดีว่ารวีนั้นมีข้อมูลส่วนตัวของเวหาอยู่แล้ว และข้อมูลนั่นก็รวมไปถึงเรื่องของกินที่ชอบและเกลียดอยู่ด้วยเรียบร้อย

   "เอ่อ...ขอบคุณนะครับอ๊ะ! เข้าไปในบ้านดีกว่าครับ"

   เวหารีบชวนทั้งสองคนเข้าบ้าน เพราะขืนอยู่คุยกันแบบนี้ต่อไป มีหวังเขาคงต้องเผลอใจอ่อนเห็นใจอีกฝ่าย อย่างที่น้องชายของเขากลัวล่วงหน้าเข้าให้เป็นแน่

   "สวัสดีครับ คุณน้าวารี คุณน้าณรงค์....คุณน้าวารีจำผมได้ไหมครับ ผมซัน ยังไงล่ะครับ"

   รวีไหว้ทักทายทันทีที่เห็นบิดามารดาของเวหาซึ่งวารีที่วางมือจากอาหารกลางวันมารอดูหน้าแขกของเธอ ก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมากของอีกฝ่าย

   "สวัสดีจ้ะ...แหม! ตาซันหรือนี่ โตขึ้นมากเลยนะ แถมยังหล่อขึ้นกว่าตอนเด็กอีกจมเลยนะจ๊ะ"

   "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ...เอ่อ...มีอะไรหรือครับคุณน้าณรงค์ ทำไมจ้องผมแบบนั้นล่ะครับ"

   รวีหันไปมองชายวัยกลางคนที่จ้องมองตนเขม็งอย่างแปลกใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ขมวดคิ้วน้อย ๆ ก่อนจะตอบออกไปตามตรง

   "อืม...คือผมสงสัยมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ริมคลองนั่นแล้ว...คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง ผมยังไม่เคยแนะนำตัวกับคุณมาก่อนเลยนี่ ...แถมฟ้าก็ยังบอกว่าไม่เคยบอกเรื่องนี้กับคุณอีกต่างหาก"

   รวีชะงักกึกเช่นเดียวกับเมฆา ทางด้านเมฆานั้นทำปากบ่นอุบอิบใส่เพื่อนที่ดันเผลอตัวแสดงออกมากเกินไป ส่วนรวีนิ่งคิดประมวลผลชั่วครู่แล้วจึงแย้มยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยตามมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสไร้พิรุธให้จับผิด

   "อ๋อ...ตอนผมมาดูที่แถวนี้แรก ๆ ผมก็ชวนคุณภรรยาเจ้าของบ้านที่ผมซื้อเขาคุยโน่นนี่เรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับคนแถวนี้น่ะครับ ไหน ๆ ก็จะมาอยู่แล้ว ผมก็เลยอยากรู้จักเพื่อนบ้านแถวนี้ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ขอความช่วยเหลือได้...คุณภรรยาเจ้าของบ้านเขาก็ใจดีนะครับบอกให้ฟังชี้ให้ดูว่าหลังไหนใครเป็นใคร ...ตอนที่ผมได้ยินว่าบ้านหลังนี้เจ้าของบ้านชื่อณรงค์ มีภรรยาชื่อวารี มีลูกชายสองคน คนโตชื่อเวหา คนเล็กชื่อมีนา ผมเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันนะครับ ว่าจะเป็นคนเคยรู้จักกันแบบนี้...ตอนที่รู้ว่าคนที่ชื่อเวหาเป็นคนเดียวกับน้องฟ้า ผมงี้ตกใจแทบแย่แน่ะครับ"

   พอได้ยินที่รวีบอก ทั้งวารีและณรงค์ก็พากันพยักหน้าหงึกหงักรับรู้อย่างเลิกสงสัย เพราะภรรยาของเศรษฐีจุก เจ้าของบ้านเดิมที่พวกรวีซื้อมานั้น เป็นคนพูดเก่ง แถมยังชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน เจ้าหล่อนนั้นรู้จักแทบทุกเรื่องในครอบครัวคนอื่น ๆ ละแวกนี้ เสียยิ่งกว่ารู้เรื่องราวของครอบครัวตัวเองเสียอีก

   ส่วนทางด้านมีนาที่แอบโผล่หน้าจากครัวมาแอบมองชายหนุ่มนั้นยังคงขมวดคิ้วยุ่งจ้องมองรวีอย่างไม่ไว้วางใจนัก ทำเอาเมฆาที่หันไปเห็นอดขำไม่ได้ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเพื่อนนั้นช่างลื่นไหลและหัวไวพอที่จะหยิบข้อมูลของเพื่อนบ้าน มาสร้างเรื่องโกหกบิดามารดาของเวหาได้เช่นนี้

   "ขนมเยอะเชียว...นี่แสดงว่าซันยังจำได้สินะจ๊ะ ว่าฟ้าเขาชอบขนมมากขนาดไหน"

   วารีเอ่ยทักเมื่อเห็นเวหาวางตะกร้าขนมไว้บนโต๊ะรับแขก ซึ่งพอได้ยินดังนั้นรวีก็อมยิ้มน้อย ๆ ส่วนเวหาหน้าแดงนิด ๆ ด้วยความเขินในเรื่องที่ตนยังคงชอบกินขนมหวานเหมือนสมัยตอนเด็ก ๆ อยู่

   "เด็กคนนี้นี่นะ ตอนเด็ก ๆ กินแต่ขนมอย่างอื่นไม่ค่อยสนใจ เลยกลายเป็นเด็กอ้วนเสียจนหมอต้องสั่งงด แต่เจ้าตัวไม่ยอม เลยลงท้ายว่าจะขยันออกกำลังกาย และกินอาหารอย่างอื่นด้วยให้ครบห้าหมู่ แต่ขอให้ได้กินขนมหวานที่เจ้าตัวชอบเหมือนเดิม ...น้าเห็นเขาพยายามขนาดนี้ก็เลยปล่อยให้กินต่อ แต่ก็ต้องคอยควบคุมอยู่ตลอดไม่ให้กินมากเกินไปนั่นล่ะจ้ะ"

   วารีเล่าอดีตของบุตรชายให้อีกฝ่ายฟัง ซึ่งก็ทำให้รวีสนอกสนใจเป็นยิ่งนัก ส่วนเมฆานั้นพึมพำเบา ๆ อย่างเข้าใจได้สักทีว่า ทำไมคนชอบกินของหวานอย่างเวหา ถึงได้เติบโตมาหุ่นดีแบบนักกีฬาเช่นนี้

   "อยากเห็นน้องฟ้าตอนตุ้ยนุ้ยจัง คงต้องน่ารักมากเลยนะครับ"

   รวีเอ่ยพร้อมรอยยิ้มจริงใจชนิดที่ทำให้เพื่อนสนิทต้องกลืนน้ำลายลงคอ ส่วนมีนาที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอย่างไรกับพี่ของตน ก็ถึงกับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดว่ารวีจะคลั่งไคล้ในตัวของพี่ชายเขาถึงขนาดนี้

   "จะดูรูปในอัลบั้มไหมล่ะจ๊ะ เพราะกว่ากับข้าวจะเสร็จก็อีกสักพักเลยน่ะจ้ะ"

   วารีเสนอความคิด ซึ่งรวีก็รีบพยักหน้าหงึกหงักตอบรับ ทำเอามีนากับเวหาที่อ้าปากจะห้ามต้องหยุดชะงัก ส่วนณรงค์นั้นลอบมองบุตรชายของเขาอย่างรู้สึกสงสัยต่อท่าทีแปลก ๆ ของเจ้าตัวที่แสดงออกให้ได้เห็นในบางครั้ง

   "ฟ้าไปหยิบอัลบั้มให้พี่เขาสิจ๊ะ  ถ้าอย่างนั้นน้าขอตัวก่อนนะซัน จะไปทำกับข้าวต่อน่ะ"

   "ครับ...ขอโทษทีนะครับที่มารบกวนก่อนหน้าเวลานัดแบบนี้"

   "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ คนกันเองทั้งนั้น"

   วารีบอกพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในครัว ทำให้มีนาต้องตามไปเป็นลูกมือมารดาต่ออย่างจำใจ ส่วนเวหาก็ลุกไปค้นอัลบั้มสมัยเด็กมาให้รวีตามคำสั่งของมารดา เหลือแต่เพียงณรงค์ที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องรับแขกต่อ เห็นดังนั้นรวีจึงชวนอีกฝ่ายคุยไปพลาง ๆ ก่อน

   "ผมได้ยินมาว่าคุณน้าณรงค์เคยได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำจังหวัดด้วย ...แสดงว่าคุณน้าต้องเอาใจใส่ผลผลิตของตัวเองมากเลยสินะครับ"

   ณรงค์แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มรู้เรื่องของเขา แต่พอคิดว่าภรรยาของเศรษฐีจุกคงจะเป็นคนเล่าให้ฟัง เจ้าตัวก็เลยไม่ใส่ใจอะไรนัก

   "ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคุณ ผมก็ดูแลเพาะปลูกไปตามที่มีคนเขาแนะนำนั่นล่ะ อะไรที่ว่าดีเราก็เอามาทดลอง ถ้าได้ผลก็ทำต่อไป ไม่ได้ผลก็ปรับปรุงแก้ไขเอา จนกระทั่งมันดีขึ้นเองล่ะนะ"

   "ผมเองก็คิดเอาไว้เหมือนกันว่า จะมาลงทุนธุรกิจในไทย นี่ก็เล็ง ๆ เอาไว้เกี่ยวกับพวกพืชผักผลไม้แปรรูปเพื่อส่งออกอะไรพวกนี้ ...ผมไม่อยากเน้นพวกผลไม้หรือผักสดอะไรพวกนั้นหรอกนะครับ แต่ผมอยากลงทุนเกี่ยวกับพวกผลผลิตต่าง ๆ ในยามที่มันล้นตลาดจนราคาตกต่ำเสียจนน่าใจหายนั่นมากกว่า แทนที่บรรดาเกษตรกรจะยอมขายขาดทุนให้พ่อค้าคนกลางในราคาไม่กี่บาท สู้ให้พวกเขาเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยการขายตรงกับโรงงานแปรรูปที่รับซื้อโดยตรงจะดีกว่า...ส่วนจะแปรรูปเป็นอะไรบ้าง ผมก็คิดไว้หลายอย่างอยู่...ยังไงว่าง ๆ ผมจะมาขอคำแนะนำจากคุณน้าบ้างนะครับ"

   ณรงค์นั่งรับฟังความคิดของอีกฝ่ายอย่างสนใจ ในฐานะที่เขาเป็นเกษตรกรคนหนึ่ง ย่อมเข้าใจถึงปัญหาที่ชายหนุ่มบอกมาเป็นอย่างดี เพราะนิสัยเกษตรกรไทยส่วนใหญ่ มักจะแห่กันเพาะปลูกพืชผลที่มีราคาดีตาม ๆ กัน โดยไม่ได้คำนึงถึงว่ามันจะมีผลิตผลล้นตลาด จนฉุดให้ราคาตกต่ำในอนาคตแต่อย่างใด ยิ่งถ้าใครปลูกพืชผักหรือผลไม้ชนิดเดียวทั้งหมด หากผลผลิตนั้นเกิดล้นตลาดจนราคาตก ก็แทบจะเรียกได้ว่าถึงขั้นขาดทุนสิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยทีเดียว



   เวหาชะงักฝีเท้าอย่างประหลาดใจที่เห็นณรงค์กับรวีและเมฆานั้นพูดคุยกันด้วยท่าทางถูกคอ  เพราะณรงค์เป็นพวกไม่ค่อยชอบสนทนาเรื่องเรื่อยเปื่อยอื่น ๆ สักเท่าใดนัก จะมีก็แต่เรื่องการเกษตรนี่ล่ะที่เจ้าตัวพอจะโปรดปรานอยู่บ้าง

   "อัลบั้มมาแล้วครับ"

   "อ๊ะ...น้องฟ้า มาแล้วหรือครับ"

   รวีหันไปยิ้มกว้างให้กับเด็กหนุ่ม ซึ่งเวหาก็ชะงักแล้วยิ้มเจื่อน ๆ ตอบ ส่วนณรงค์หันไปมองบุตรชายอย่างแปลกใจอีกครั้ง แต่เขาก็ตัดสินใจปล่อยให้ทั้งคู่พูดคุยรำลึกความหลัง แล้วเลี่ยงไปช่วยภรรยาในครัวแทน ทำเอามีนาสะดุ้งโหยง แล้วเริ่มลังเลว่าจะบอกบิดากับมารดาเรื่องที่รวีนั้นจงใจมาจีบพี่ชายดีหรือไม่กันแน่

   "ขอโทษนะครับคุณน้า...เอ่อ...ผมเห็นว่ายังพอจะมีเวลา เลยอยากให้น้องมีนาช่วยพาไปชมสวนผลไม้ของที่บ้านหน่อยน่ะครับ"

   เมฆาที่โผล่หน้ามาในครัว ทำเอามีนาที่เตรียมจะบอกเรื่องรวีกับบิดาและมารดาของตนชะงักนิ่ง แต่พอเด็กหนุ่มจะบอกปฏิเสธ ณรงค์ก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

   "ได้สิครับ ...มีนพาพี่เขาไปดูสวนของเราสิลูก"

   "ใช่จ้ะ ไปเถอะ เดี๋ยวทางนี้แม่จัดการเอง ...เหลือแค่ตั้งเตาเคี่ยวแกงให้น้ำงวดลงอีกหน่อยก็เสร็จแล้วล่ะ"

   วารีเสริมตามมาทำเอามีนานิ่งอึ้งแต่ยังไม่ทันได้ประท้วงอะไร เมฆาก็รีบจูงมือเด็กหนุ่มไปด้วยกันกับตนทันที

   "เรารีบไปกันเถอะครับน้องมีน จะได้กลับมาทันข้าวกลางวันพอดียังไงล่ะครับ"

   เมฆาบอกพร้อมยิ้มหวาน ทำให้คนมองชะงักและขณะกำลังอึ้ง ๆ ก็ถูกจูงมือเดินไปด้วยกันเรียบร้อย ทางด้านเมฆานั้นขยิบตาให้กับรวีตอนเดินผ่านอีกฝ่าย ซึ่งรวีก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มรับนิด ๆ ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้าตนอีกครั้งหนึ่ง




 
:L1:


มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงจะรู้แล้วสินะคะว่าทำไมน้องฟ้าเขาถึงหุ่นดี แต่ถึงจะล่ำแต่น้องฟ้าก็ยังน่ารัก อ่อนหวาน แล้วยังโดนล่อด้วยขนมได้เหมือนเดิมนะเอ้อ! 555

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โชคชะตาพรหมลิขิตบ้าบออะไรของแกฮะ อีตาพี่ซัน  :beat: :beat:
นี่มันอำนาจเงินของแกล้วนๆเลยนะเฮ้ย!
ขอโทษที่รุนแรงนะคะพอดีหมั่นไส้มาจากตอนที่แล้ว  :z6:

แหมม่ น้องฟ้า
หุ่นล่ำมาดแมนแบบนี้ เสียดายที่นิสัยน่ารักไปหน่อย(?)
น่าจะเพิ่มเลเวลความโหดขึ้นมาซัก 2-3 ระดับนะคะ
พี่ซันจะได้หงอยๆบ้าง

นิยายน่ารักมากเลยค่ะ อ่านเพลิน อ่านไปยิ้มไป
พี่ซันก็น่ารักพอๆกับน่าหมั่นไส้นั่นแหละค่ะ
น้องฟ้าก็น่ารักมากๆ คือเข้าใจอารมณ์ผู้ชายหล่อแต่ยิ้มแล้วน่ารักนะคะ
โอ๊ย คิดแล้วก็....  :-[ :-[

ไว้มาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รุกหนักเลยนะสองหนุ่ม 5555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น้องฟ้ามีที่มาของความล่ำที่น่ารักจริงๆ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แหม พี่ซันนี่เลื้อยได้ใจจริง ๆ เอาไปเลยเต็มสิบ

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
คุณแม่เตรียมตัวเรียกสินสอดได้เลยค่ะ

มีแววว่าลูกๆกำลังจะได้ออกเรือนในเร็วๆนี้ อิอิ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Phoenix_SM

  • สล็อตผู้หิวโหย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตามมาจากกิจกรรมค่ะ :katai5:
ยังคงแอบหมั่นไส้พี่ซันอยู่นิดๆ ถถถ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สู้ๆ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องฟ้าก็ยังคงจำพี่ซันไม่ได้อยู่ดี อิอิ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ใครที่หมั่นไส้พี่ซัน ....เชิญตามสบายเลยค่ะ ! 555 พอดีเน้นเขียนคาแรกเตอร์ออกมาให้ช่างตื๊อ + หน้าด้านหน้าทน ชวนให้หมั่นไส้อยู่แล้วค่ะ หุ ๆ ......เรื่องนี้เน้นเวอร์ ๆ เป็นหลักค่ะ อาจจะลงเอยกันง่ายนิด ก็ถือว่าอ่านคลายเครียดนะคะ ^^




บทที่ 6



   มีนาถูกเมฆาจูงมือเดินผ่านประตูหลังบ้านออกไปทางถนนด้านหลัง ชายหนุ่มมองเห็นสะพานข้ามคลองอยู่เบื้องหน้าก็อมยิ้มน้อย ๆ แล้วเดินตรงไป ก่อนจะชะงักเมื่อคนตัวเล็กพยายามดึงมือของตนออก แถมยังขืนตัวไม่ยอมเดินไปต่อด้วยกัน

   "อ้าว...มีอะไรหรือครับน้องมีนา หรือว่าไม่อยากพาพี่เดินเที่ยว"

   มีนามองคนพูดแล้วแยกเขี้ยวใส่อย่างไม่สบอารมณ์นัก

   "ฮึ! ก็รู้ตัวนี่...อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ว่าคุณดึงผมออกมาเพราะอยากให้เพื่อนคุณทำคะแนนกับพี่ชายของผมน่ะ! คอยดูเถอะ ผมจะบอกเรื่องนี้กับพ่อและแม่ พวกคุณจะได้เข้าใกล้พี่ฟ้าไม่ได้อีก!"

   เมฆาถอนหายใจแผ่วเบา เพราะเขาคาดเดาสถานการณ์เช่นนี้ได้ จึงตัดสินใจดึงตัวมีนาออกมานี่ล่ะ

   "พี่รู้นะครับ ว่าน้องมีนาไม่อยากให้เจ้าซันมันจีบน้องฟ้า...แต่พี่ขอเตือนน้องมีนาไว้ก่อนเลยว่า อย่าได้ใช้วิธีหักดิบ ไล่เจ้าซันให้ไม่เหลือทางเลือกแบบนั้น...เพราะมันจะไม่เป็นผลดีทั้งกับตัวน้องมีนาและครอบครัวของน้องเลยนะ"

   มีนาขมวดคิ้วยุ่ง แต่พอเขาจะย้อนถามกลับไป เด็กหนุ่มก็ต้องแปลกใจเมื่อเมฆาปล่อยมือออกจากข้อมือเขา แถมยังมีสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมลงจนเขาชะงัก

   "พี่เป็นเพื่อนกับซันมานานหลายปี ก็สนิทกันพอสมควร...ซันมันเป็นคนใจร้อนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แถมไม่เลือกวิธีการอีกต่างหาก นี่เพราะมันรักน้องฟ้ามาก และรู้ว่าน้องฟ้าเป็นคนรักครอบครัว มันก็เลยใช้วิธีแบบละมุนละม่อมอย่างที่เป็นอยู่...แต่ถ้าน้องมีนาเร่งตัดช่องทางในการจีบน้องฟ้าของมันลงแต่เนิ่น ๆ แบบนั้น  พี่ว่ามันคงเปลี่ยนไปใช้วิธีรุนแรงที่พี่เชื่อว่าน้องมีนาคงไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่ ...พี่ไม่ได้อยากขู่นะครับ แต่น้องมีนาอย่าคิดริเล่นกับไฟดีกว่า เพื่อตัวน้องมีนาและครอบครัวของน้องมีนาเองด้วย"

   เด็กหนุ่มนิ่งเงียบรับฟังอย่างหวาดระแวง แม้จะดูเหลือเชื่อแต่สีหน้าและแววตาของเมฆาก็ดูจริงจังจนไม่เหมือนคนโกหกแต่อย่างใด

   "เชอะ! เพื่อนของคุณจะทำอะไรได้ จะฉุดพี่ผมงั้นรึ!"

   มีนาแกล้งทำเป็นประชดลองเชิง ซึ่งก็ดูเหมือนเมฆาจะอ่านสีหน้านั้นออก เจ้าตัวหัวเราะเบา ๆ แล้วเปรยตอบตามมา

   "ถ้าแค่ฉุดไปเฉย ๆ ก็ดีน่ะสิครับ...พี่กลัวจะ...อืม...แต่คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ถึงหมอนั่นจะเด็ดขาด แต่ก็ไม่น่าจะโหดเหี้ยมขนาดนั้น  เฮ้อ! แต่ก็ไม่แน่ พี่เองก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับด้านมืดของเจ้าซันมันสักเท่าไหร่ด้วย...ยังไงหมอนั่นก็สืบสายเลือดมาจากมาเฟียตัวจริงเสียจริงนี่นา"

   มีนาเผลอกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อรู้ว่ารวีนั้นเป็นถึงลูกชายของมาเฟียเช่นนี้ แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงทำใจกล้า ปากดีย้อนกลับไป

   "มาเฟียนี่นะ ...ตลกตายล่ะ"

   "หึ ๆ น้องมีนาไม่อยากเชื่อก็ได้นะครับ พี่ไม่บังคับอะไร ก็แค่อยากจะเตือนด้วยความหวังดี  อ้อ! แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ หมอนั่นเป็นคนที่รักษาสัญญาเป็นอย่างดี ลองถ้าถึงที่สุดแล้ว พี่ชายของน้องมีนาไม่สนใจเขา...ซันเขาก็พร้อมจะรักษาสัญญาและยอมจากไปเองนั่นล่ะครับ"

   มีนานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเมฆาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ตน

   "มะ...มีอะไร...จู่ ๆ จะยื่นหน้าเข้ามาทำไมกัน!"

   มีนารีบถามอย่างตกใจพร้อมกับถอยหลังไปสองสามก้าว เนื่องจากอีกฝ่ายนั้นยื่นหน้าเข้ามาเสียใกล้จนชวนให้หวาดเสียวเลยทีเดียว

   "ก็เห็นน้องมีนาเงียบไปเลยแปลกใจน่ะครับ เอาล่ะครับ...เราจะไปเดินชมสวนกันได้หรือยังครับ"

   เมฆาถามต่อพร้อมยิ้มหวานติดเจ้าเล่ห์ ชวนให้คนมองนึกหมั่นไส้ จึงประชดตอบกลับไปเสียงห้วน

   "ฮึ! ไปก็ได้!"

   "ถ้าอย่างนั้นขอเชิญเจ้าถิ่นนำไปได้เลยครับ"

   เมฆาแสร้งทำเป็นโค้งน้อย ๆ ให้อย่างนอบน้อม เรียกความหงุดหงิดให้กับมีนาเพิ่มขึ้น เจ้าตัวจึงเดินกระแทกเท้าหนัก ๆ นำหน้าไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก ส่วนเมฆานั้นเดินอมยิ้มตามไป ชายหนุ่มชักรู้สึกสนุกขึ้นมานิด ๆ ที่ได้แกล้งให้ใบหน้าหวานนั้นบึ้งตึงขึ้นมาได้เช่นนี้



   อีกด้านหนึ่งรวีที่อยู่ในห้องรับแขกกำลังเปิดอัลบั้มสมัยเด็กของเวหามานั่งดู แล้วพอได้เห็นเด็กหนุ่มในวัยสิบขวบ เจ้าตัวก็ตาเบิกกว้าง เพราะร่างเล็กกลมป้อมนั้นน่าจะหนักได้ถึงเกือบหกสิบกิโลได้ทีเดียว

   "โห...น่ารักจังเลยนะครับ...แต่ทำไมรูปน้องฟ้าตอนนี้ถึงไม่ค่อยมีตอนยิ้มเลยล่ะครับ"

   รวีซึ่งสังเกตดูรูปถ่ายของอีกฝ่ายในแต่ละรูป ไม่ว่าจะเป็นรูปเดี่ยวหรือรูปคู่กับคนอื่น ไม่มีรูปไหนที่อีกฝ่ายจะยิ้มให้เห็นนัก

   "เอ่อ...พอดีตอนนั้นผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปน่ะครับ"

   รวีขมวดคิ้วนิด ๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นเพราะอะไร เจ้าตัวก็ถอนหายใจแผ่วเบาตามมา

   "น่าเสียดายนะครับ เพราะสำหรับพี่แล้ว น้องฟ้าน่ารักที่สุดตอนยิ้มนี่ล่ะครับ...ไม่ว่ารูปร่างภายนอกจะเป็นแบบไหน แต่รอยยิ้มของน้องฟ้าก็ยังดูน่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยนอยู่ดี"

   รวีบอกจบก็ยิ้มน้อย ๆ ส่งให้ แล้วหันไปสนใจรูปถ่ายของอีกฝ่ายต่อ โดยไม่ทันได้สังเกตคนที่กำลังชะงักและมีสีหน้าผิดแปลกไปชั่ววูบหนึ่งทางด้านเวหาจึงพยายามทำตัวให้เป็นปกติอีกครั้ง แม้เมื่อครู่จะเผลอหลุดใจเต้นไปบ้างก็ตาม

   "อา...หมดเสียแล้ว น่าเสียดายจัง ถ้ามีมากกว่านี้ก็ดีสินะ"

   รวีพึมพำแล้วเงยหน้ายิ้มหวานกับอีกฝ่าย

   "ไว้เราไปถ่ายกันเองหลาย ๆ รูป จะได้เอามาเพิ่มรวมในอัลบั้มนี่ดีไหมครับ"

   "เอ่อ...ถ้าแค่ถ่ายรูป ก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ"

   เวหาบอกอึกอักอย่างลำบากใจ เมื่อเห็นดังนั้นรวีจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยตามมา

   "น้องฟ้าไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ครับ ถ้าไม่ชอบหรือไม่พอใจ จะปฏิเสธพี่มาตรง ๆ ก็ได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจอะไรพี่นักหรอกนะ"

   "ตะ...แต่ คุณอายุมากกว่า แล้วก็เคยสนิทกันมาก...เอ่อ...ถึงผมจะจำไม่ได้ก็เถอะครับ"

   เวหาแย้งเสียงค่อย ซึ่งพอได้ยินดังนั้นคนฟังก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ

   "แต่พี่อยากให้น้องฟ้าเป็นกันเอง และคุ้นเคยกับพี่เหมือนตอนเด็ก ๆ มากกว่า...ตอนเด็ก ๆ น้องฟ้าน่ารักและซื่อตรงกับตัวเองมาก ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ... ไหน ๆ น้องฟ้าก็อุตส่าห์ให้โอกาสรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างเราแล้วทั้งที พี่ก็ขอโลภมากอีกนิด...พี่อยากขอให้น้องฟ้าทำตัวตามสบายกว่านี้ ...จะได้ไหมครับ"

   เวหานิ่งอึ้งและเงียบไปสักพัก ก่อนจะมีรอยยิ้มน้อย ๆ ตามมา พร้อมกับอาการพยักหน้าตอบรับ

   "ครับ...ไว้ผมจะลองดู"

   รวียิ้มตอบอย่างพึงพอใจ พวกเขานั่งคุยกันสักพักใหญ่ วารีก็เรียกเวหาให้มาช่วยยกกับข้าวขึ้นโต๊ะ ซึ่งรวีก็รีบอาสาไปช่วย และเมื่ออาหารเตรียมขึ้นโต๊ะเรียบร้อยพร้อมทาน พวกมีนาและเมฆาก็ตามมาสมทบพอดี

   "ว้าว! กับข้าวน่าทานจังเลยครับ อาหารไทยนี่ล่ะดีที่สุด กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ!"

   เมฆาอุทานขึ้นเมื่อได้เห็นอาหารบนโต๊ะ ซึ่งก็ทำให้วารียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามมา

   "ดีใจนะจ๊ะที่ชอบ อ้อ! แกงพะแนงหมูถ้วยนี้ มีนเขาปรุงเองเลยนะ ซันกับเมฆลองชิมดูสิจ๊ะ ว่าจะถูกปากไหม"

   วารีเชื้อเชิญแขกทั้งสองให้ลองตักชิมหลังจากที่พวกเขานั่งร่วมโต๊ะกันเรียบร้อย ซึ่งทั้งคู่ก็ต่างตักชิมกันคนละคำ และหลังจากกินเสร็จ เมฆาก็หันไปทางวารีทันที

   "คุณน้าคิดสินสอดเท่าไหร่สำหรับลูกชายคนเล็กครับ...ผมจะได้บอกผู้ใหญ่ทางฝั่งผมให้เตรียมไว้ให้เรียบร้อย"

   ทั้งโต๊ะเงียบกริบไปชั่วขณะ ก่อนที่วารีจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ส่วนณรงค์นั้นอมยิ้มน้อย ๆ ทางด้านเวหาพอเห็นบิดามารดาหัวเราะเขาก็ถอนหายใจเบา ๆ พร้อมรวี หากแต่เวหานั้นเป็นการถอนหายใจอย่างโล่งอก ส่วนรวีถอนหายใจด้วยความเอือมระอาแทน ทั้งหมดแทบไม่มีใครถือสาเอาความเรื่องที่เมฆาพูด ยกเว้นมีนาที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงด้วยความโมโหที่ถูกล้อเลียนเอาเช่นนี้

   "แหม! ตาเมฆ ทำสีหน้าจริงจังเสียจนน้านึกว่าจะมาขอตามีนไป จริง ๆ เสียอีก...รายนี้ยังให้ไม่ได้หรอกจ้ะ ต้องให้เรียนจบก่อน ถึงตอนนั้นถ้ายังไม่เปลี่ยนใจค่อยมาตกลงกันใหม่ก็แล้วกันนะจ๊ะ"

   "แม่ครับ!!"

   มีนาโพล่งใส่มารดาที่ทำเป็นพูดเล่นอย่างโมโหปนอาย ส่วนณรงค์นั้นสั่นศีรษะไปมาอย่างเอือมระอา ต่อความร่าเริงของภรรยา ที่มักจะหาเรื่องชอบแกล้งแหย่ลูกรักของเจ้าหล่อนเล่นเช่นนี้เสมอ

   "พอได้ยินน้าวารีพูดแบบนี้ ทำให้ผมอดนึกถึงสัญญาของพวกเราเมื่อก่อนไม่ได้เลยนะครับ...ไม่ทราบว่าน้าวารีจะลืมไปหรือยัง..."

   จู่ ๆ รวีก็เอ่ยขัดการสนทนาของทุกคนขึ้น ทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบอีกครั้ง ทางด้านวารีครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วจึงย้อนถามกลับไปอย่างสงสัย

   "เอ...สัญญาอะไรหรือจ๊ะ...ซันบอกน้าได้ไหม เผื่อน้าจะพอจำได้บ้าง"

   เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำไม่ได้จริง รวีก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยตามมา

   "ถ้าน้าวารีจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ...จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรมากนัก...อ๊ะ! ทานข้าวกันดีกว่าครับ เดี๋ยวแกงเย็นหมด"

   ชายหนุ่มตัดบทแล้วตักอาหารกินต่อ และนั่นจึงทำให้ทั้งโต๊ะหันมาให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าอีกครั้ง แม้จะยังคงสงสัยในสิ่งที่รวีพูดทิ้งไว้ก่อนหน้านั้นอยู่ก็ตาม

   หลังจากมื้ออาหารที่แสนอร่อยผ่านพ้นกันอย่างอิ่มหนำสำราญถ้วนหน้าไปแล้ว พวกวารีกับเมฆาก็อาสาช่วยเก็บล้างจานเพื่อขอบคุณที่เลี้ยงอาหาร หากแต่วารีก็บอกปฏิเสธไป เพราะทั้งคู่นั้นเป็นแขกของบ้าน มีนาจึงอาสาไปช่วยมารดาเก็บล้างแทน ส่วนเวหาก็รับหน้าที่เป็นเพื่อนคุยของทั้งคู่ เพราะณรงค์นั้นขอตัวไปดูแลสวนผลไม้ต่อนั่นเอง

   "แม่ไปสัญญาอะไรไว้กับผู้ชายคนนั้นหรือครับ"

   มีนาถามมารดาระหว่างช่วยเก็บล้างจานด้วยความสงสัยที่ยังคงไม่จางหาย ซึ่งพอได้ยินดังนั้นวารีก็ขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วเอ่ยตามมา

   "แม่ก็จำไม่ได้เหมือนกัน  เอ...แต่พี่ซันเขาพูดขึ้นมาตอนแม่กำลังแซวเรื่องลูกกับพี่เมฆเขาอยู่สินะ..."

   มีนานิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์อีกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องที่มารดาแหย่ตน แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร วารีก็พลันชะงัก พลางนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะพึมพำบางอย่างตามมา

   "หรือว่าจะเป็นเรื่องนั้น...บ้าน่า...เด็กคนนี้ยังคิดแบบเดิมอยู่อีกหรือ..."

   พูดแค่นั้นหญิงสาวก็ทิ้งจานที่กำลังล้างอยู่ไว้ในอ่างน้ำ แล้วก้าวเดิน ฉับ ๆ ออกไปยังห้องรับแขก ทำให้มีนาที่กำลังช่วยมารดาล้างจาน ต้องรีบปิดน้ำจากก๊อกน้ำ พลางเดินตามไปอย่างงุนงง

   "อ้าว...คุณน้ามีอะไรหรือครับ"

   รวีที่หันมาเห็นอีกฝ่ายเดินมาเอ่ยทัก ซึ่งก็ทำให้เวหาและเมฆามองตามมาเป็นตาเดียว

   "มีอะไรหรือครับแม่ ทำไมทำหน้าเครียดจัง"

   เวหาถามมารดาอย่างประหลาดใจ ซึ่งวารีก็ยืนตั้งสติเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่าย อันเป็นเวลาเดียวกับที่มีนาตามมารดามาทันพอดี

   "เอ่อ...สิ่งที่น้าจะถามต่อไปนี่ ถ้าน้าพูดอะไรผิดไป ซันก็ทักท้วงได้เลยนะ..."

   รวีขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างรับรู้และรอในสิ่งที่หญิงสาวจะบอก

   "คือ...ที่ซันบอกว่าน้ากับซันเคยสัญญาอะไรบางอย่างเอาไว้...นั่นใช่สัญญาที่น้าเคยบอกว่าจะยกตาฟ้าให้เป็นเจ้าสาวของซัน...ถ้าซันบรรลุนิติภาวะแล้ว และยังชอบตาฟ้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน...ใช่หรือเปล่าจ๊ะ"

   พอขาดคำของวารี มีนา เวหา หรือแม้กระทั่งเมฆาเองก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน ยกเว้นรวีที่ชะงักไปชั่วครู่ หากแต่สักพักก็มีรอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏที่ริมฝีปากได้รูปนั่น

   "แหม! ผมก็นึกว่าคุณน้าจะจำไม่ได้แล้วเสียอีก ดีจริง ๆ นะครับ ที่คุณน้าไม่ใช่ผู้ใหญ่ประเภทที่พูดหลอกให้ความหวังเด็กไปวัน ๆ แบบนั้น"

   วารีกลืนน้ำลายในลำคอต่อคำพูดที่แสนจะแทงใจดำนั่น สิ่งที่เธอภาวนาให้เธอจำผิด กลับเป็นความจริงที่เคยเกิดขึ้นทุกประการ ทั้งนี้ที่เคยให้สัญญาไป ก็เพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะหลงรักลูกชายของตนได้อย่างจริงจังมาเนิ่นนานเช่นนี้นั่นเอง

   "นี่แสดงว่าซันยังชอบฟ้าเขาอยู่อีกหรือจ๊ะ"

   วารีลองหยั่งเชิงถามต่อ ซึ่งรวีก็ไม่คิดจะปิดบังอะไร เพราะยังไงเขาก็ต้องการบอกให้บิดาและมารดาของเวหารับรู้ไว้ในที่สุดอยู่แล้ว

   "ใช่ครับ...แล้วผมก็ขออนุญาตน้องฟ้าเขาแล้วด้วย น้องเขายอมให้โอกาสผมจีบเขา ผมก็เลยตัดสินใจเลือกจีบแบบเข้าตามตรอก ออกตามประตูแบบนี้ล่ะครับ"

   วารีหันไปมองลูกชายคนโตของเธอด้วยสายตาตกตะลึง ทำเอาเวหาต้องรีบหลบตาทันควัน

   "หึ ๆ คุณน้าไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเข้าใจดี ถึงน้องฟ้าเขาจะยอมให้โอกาสผมจีบเขาก็ตาม แต่ก็เพราะความสงสารนั่นล่ะครับ อีกอย่างก็ใช่ว่าเขาจะยอมรับรักผมง่าย ๆ หรอกนะครับ และท้ายที่สุดก็ต้องขึ้นอยู่กับความรู้สึกของน้องฟ้าด้วย... ถ้าน้องฟ้ายอมรับรักผมไม่ได้จริง ๆ ผมก็จะตัดใจเองครับ"

   วารีหันมามองชายหนุ่มลูกครึ่งนิ่งสักพัก ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา

   "น้าดีใจนะที่ซันคิดถึงความรู้สึกของฟ้าด้วย  น้าเองสมัยก่อนก็พูดจาไม่รู้จักคิดไปหน่อย  ไม่นึกเลยว่าซันจะจริงจังกับฟ้ามาจนถึงป่านนี้ เอาเถอะ ลองซันรักของซันมานานตั้งหลายปี แถมน้าก็เคยรับปากไว้ด้วย ดังนั้นน้าก็จะไม่ขวางเรื่องนี้ก็แล้วกัน ...ขออย่างเดียวอย่าฝืนใจบังคับน้องก็พอ สัญญากับน้าได้ไหมจ๊ะ"

   วารีบอกพลางจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาจริงจังกว่าเดิม ซึ่งรวีเองก็ยิ้มตอบรับพร้อมกับพยักหน้าแล้วจ้องอีกฝ่ายตอบอย่างไม่คิดหลบตา

   "ได้ครับ...ผมให้สัญญา ผมจะไม่ทำอะไรที่เป็นการบังคับฝืนใจน้องฟ้าเด็ดขาด"

   วารีถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะแย้มยิ้มน้อย ๆ ส่งให้ แล้วจึงนึกขึ้นได้ว่าหล่อนยังคงล้างจานค้างอยู่ จึงรีบขอตัวกลับไปทำงานต่อ ส่วนมีนานั้นลังเลระหว่างจะอยู่ขัดขวางไม่ให้รวีจีบพี่ชายหรือช่วยงานมารดาดี  เห็นดังนั้นเมฆาจึงอมยิ้มน้อย ๆ แล้วจูงมือร่างเล็กให้เข้าไปในครัวด้วยกันแทน โดยแลกกับการจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่ตนรู้ของเพื่อนสนิทให้ฟัง จึงทำให้สองแม่ลูกยอมให้ชายหนุ่มอยู่ช่วยงานในครัวด้วยกันแต่โดยดี

   อีกด้านหนึ่ง เวหาที่อยู่กันตามลำพังกับรวี รู้สึกวางตัวลำบากขึ้นมากกว่าเดิม เนื่องจากเขาไม่คิดว่ามารดาจะเคยตกปากสัญญากับอีกฝ่ายเช่นเดียวกับตนสมัยเด็ก แถมตอนนี้มารดายังเปิดไฟเขียวยอมให้รวีจีบเขาตามสบายโดยไม่คิดขัดขวางอีกต่างหาก

   "น้องฟ้าครับ พี่บอกแล้วไงครับว่าน้องฟ้าไม่ต้องกังวล ไม่ต้องลำบากใจ  น้องฟ้าก็ทำตัวแบบเดิม ๆ นี่ล่ะครับ พี่เองก็ใช่ว่าจะเร่งรัดฟังคำตอบจากน้องฟ้าเสียตอนนี้เมื่อไหร่  ระยะนี้ก็ให้น้องฟ้าถือเสียว่าเราคบกันแบบพี่ ๆ น้อง ๆ ไปก่อนก็ได้นะครับ"

   เวหาเงยหน้าสบตาคนที่หลงรักตนด้วยสายตาประหลาดใจนิด ๆ และนั่นทำให้คนมองอมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู

   "ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ พี่พูดจริง ๆ ...พี่รอมาแล้วสิบห้าปี รออีกนิดหน่อยทำไมจะไม่ได้ แค่น้องฟ้าไม่รังเกียจพี่ เท่านี้พี่ก็ดีใจมากแล้วล่ะครับ"

   เวหาสะดุ้งนิด ๆ ที่อีกฝ่ายคาดเดาความคิดของเขาได้ แถมท่าทางอ่อนโยนและรอยยิ้มใจดีนั่น ก็ทำให้เขาเริ่มคิดว่า หากอีกฝ่ายไม่ได้หลงรักเขา เด็กหนุ่มก็คงพร้อมที่จะยินดีต้อนรับรวีเป็นเสมือนพี่ชายของตนคนหนึ่งได้โดยไม่ยากนัก

   "พี่ซัน... ขอบคุณนะครับ ที่เข้าใจผม"

   รวีชะงักกึก เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเล่นของตนพร้อมมีรอยยิ้มเอียงอาย นิด ๆ ให้ได้เห็น เขาอยากจะจับมือของเด็กหนุ่มขึ้นจูบหรือแม้แต่ดึงร่างนั้นมากอด แต่ขืนทำแบบนั้นตอนนี้ มีหวังคงโดนเวหาเหินห่างกว่าเดิมเป็นแน่

   "เอ่อ...อืม...ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่ขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับ ว่าจะไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์มาเข้าบ้านด้วยน่ะครับ"

   เวหาพยักหน้ารับรู้แล้วยิ้มให้อีก ซึ่งก็ทำให้คนมองใจเต้นแรงมากขึ้นและเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ จึงจำต้องหาเรื่องเลี่ยงให้พ้นคนตรงหน้าให้เร็วที่สุด ก่อนจะเผลอลืมตัวทำอะไรแปลก ๆ ออกไปจนได้

   "งั้นเดี๋ยวพี่ไปลาคุณน้าวารีก่อนแล้วกันนะครับ"

   บอกจบรวีก็จ้ำพรวดเข้าไปในครัว ซึ่งเขาก็ได้เห็นสองแม่ลูกกำลังนั่งฟังเพื่อนของเขา นินทาเรื่องเขาสมัยเรียนอย่างสนุกสนานกันอยู่เลยทีเดียว

   "อะแฮ่ม! เมฆ! กลับกันได้แล้ว เดี๋ยวต้องไปซื้อของต่ออีก...เดี๋ยวผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับคุณน้า ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ด้วยนะครับ อาหารอร่อยทุกอย่างเลยครับ"

   "เอ๋...จะกลับแล้วหรือจ๊ะ น้านึกว่าซันจะอยู่คุยกับฟ้าเขาอีกนาน ๆ สักหน่อย"

   วารีถามอย่างแปลกใจ แต่นั่นก็ทำให้เวหาที่เดินตามมาและมีนาหันไปมองมารดาของตนตาปริบ ๆ เลยทีเดียว

   "อยากอยู่คุยนานกว่านี้เหมือนกันล่ะครับ แต่พอดีต้องไปเลือกซื้อของอีกนาน...ยังไงผมฝากลาคุณน้าณรงค์ด้วยนะครับ ไว้ว่าง ๆ ผมจะแวะมาเยี่ยมอีก"

   รวียกมือไหว้อำลาหญิงสาว ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือรับไหว้ จากนั้นรวีก็หันไปทางมีนาและเวหาบ้าง

   "พี่ไปแล้วนะครับ น้องฟ้า น้องมีน"

   สองพี่น้องยกมือไหว้อีกฝ่ายที่อายุมากกว่าตามมารยาท ซึ่งก็ทำให้เมฆาที่ลอบมองอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นสีหน้าของคนน้องที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ยกมือไหว้แบบขอไปทีหรือไหว้ประชดเพื่อนเขาให้เห็นแต่อย่างใด ประกอบกับที่ได้พูดคุยกันระหว่างเดินเล่นที่สวนก่อนหน้านั้น ก็ทำให้เมฆายิ่งมั่นใจว่ามีนานั้นเป็นเด็กดีคบหาง่ายคนหนึ่ง

   "เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่ประตูนะครับ"

   เวหาอาสาตามไปส่งชายหนุ่มทั้งคู่ ซึ่งก็ทำให้มีนาตาเบิกกว้างใส่พี่ชาย แล้วจึงรีบโพล่งตามมา

   "ถ้าอย่างนั้นผมก็ไปด้วยคน!"

   เวหามองน้องชายแล้วลอบถอนหายใจ เขาเชื่อเลยว่าหลังจากที่รวีกับเมฆากลับไปแล้ว เขาคงได้โดนมีนาบ่นใส่อีกมากมายตามมาหลังจากนี้เป็นแน่

   

   หลังออกจากบ้านของเวหามาแล้ว เมฆาก็สังเกตเห็นเพื่อนของตนลอบหายใจอย่างโล่งอก ทำให้ชายหนุ่มนึกสงสัยเป็นยิ่งนัก

   "อะไรของนาย ได้มีโอกาสอยู่กันตามลำพังแท้ ๆ แถมแม่เขาก็เปิดไฟเขียวขนาดนี้ แต่ไหงถึงรีบชิ่งนักล่ะ"

   เมฆาถามเพื่อนออกไปตามตรง ทำให้คนฟังชะงัก ก่อนจะทำหน้ายุ่งใส่เพื่อนสนิท

   "ก็ขืนไม่รีบชิ่ง ก็มีหวังได้เผลอปล้ำน้องเขาเข้าให้สิวะ! เด็กอะไรไม่รู้ น่ารักน่ากอดชะมัด ยิ่งเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวยิ้มให้แบบนั้น ทำเอาฉันแทบคุมตัวเองไม่อยู่เลยว่ะ!"

   เมฆานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจตามมาเช่นเดียวกัน

   "เฮ้อ...นายนี่มันเข้าขั้นยากจะเยียวยาแล้วว่ะซันเอ๋ย...โรคจิตของแท้เลยนะนายน่ะ"

   "เขาเรียกว่าคลั่งรักโว้ย ไม่ใช่โรคจิต!"

   รวีเถียงกลับ แต่นั่นทำให้คนฟังนิ่วหน้า แยกไม่ค่อยออกว่าระหว่างโรคจิตหรือคลั่งรัก แบบไหนมันจะฟังดูดีกว่ากัน

   "เออ ๆ คลั่งรักก็คลั่งรัก...ไปซื้อของกันเถอะว่ะ เดี๋ยวคืนนี้จะได้นอนที่บ้านใหม่กันเลย ไม่ต้องพึ่งโรงแรม"

   เมฆาตัดบทอย่างเอือมระอา ซึ่งก็ทำให้คนฟังเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะยักไหล่ แล้วเดินตรงไปที่รถยนต์ส่วนตัวอย่างเห็นดีด้วย เพราะทั้งเขาและเมฆาเป็นพวกช่างเลือก และคงต้องใช้เวลาเลือกสรรซื้อหาเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกใจพวกตน อีกสักพักใหญ่ ๆ กันเลยทีเดียว



.... TBC ....

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
น้องฟ้าตกทีนั่งลำบากซะแล้ว  :katai3:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
สนุกอ่าๆๆๆๆ ชอบคู่น้องมีน 5555

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
* เกือบจะลงตอนซ้ำเสียแล้วสิคะ ดันลืมแก้ชื่อหัวตอน ^^"





บทที่ 7



   หลังจากที่พวกรวีและเมฆากลับไปได้สักพัก  ณ บริเวณศาลาพักผ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ คนที่นั่งอยู่ในนั้นกำลังนั่งนิ่งเงียบกริบ เมื่อเห็นน้องชายของตนซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามทำหน้าบึ้งใส่

   "พี่ฟ้า!  รู้ไหมว่าทำไมมีนถึงโมโหน่ะ!"

   มีนาเริ่มต้นพูดขึ้นก่อน ซึ่งคนฟังก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วตอบกลับไปเสียงอ่อย

   "พี่รู้...แต่พี่ซันเขาก็น่าสงสารไม่ใช่หรือ อีกอย่างเขาก็ให้เกียรติพี่ดี ยอมให้พี่เป็นคนตัดสินใจเองด้วยนะ"

   มีนาตาเบิกกว้าง แล้วรีบโพล่งย้อนกลับไปอย่างหงุดหงิด

   "พี่ฟ้า! อย่าบอกนะว่าแค่นี้ก็ใจอ่อนแล้ว! ให้ตายเถอะ! ทำไมพี่ถึงเป็นคนแบบนี้นะ!"

   "มีนล่ะก็...พี่ยังไม่ได้ใจอ่อนสักหน่อย แค่อยากจะบอกว่าพี่ซันเขาก็เป็นคนดีน่าคบหาเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง"

   เวหาแย้งกลับ แต่เท่าที่ฟังดู มีนาก็พอจะคาดเดาความรู้สึกของพี่ชายได้บ้างแล้วว่า คงจะเริ่มใจอ่อนต่อรวีเข้าบ้างให้แล้ว

   "บ้าจริง! ช่วงนี้ไม่น่าปิดเทอมเลย ไม่อย่างนั้นหมอนั่นก็คงมาหาพี่ทุกวันแบบนี้ไม่ได้หรอก!"

   มีนาบ่นพาลไปถึงเรื่องเรียนทำให้คนมองถอนหายใจเบา ๆ

   "มีนล่ะก็ ถึงเขาจะตื๊อยังไง แต่ถ้าพี่ไม่ตกลง มันก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมล่ะ"

   "มันจะมีปัญหา ก็เพราะมีนกลัวพี่ตอบตกลงนี่ล่ะ!"

   มีนาประชดใส่ ก่อนจะเอ่ยต่อ

   "พี่ฟ้ารู้ไหมว่าพี่ซันของพี่น่ะ พ่อของเขาเป็นมาเฟียนะ พี่อยากไปเป็นสะใภ้มาเฟียหรือไง!"

   เวหาขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วจึงย้อนถามกลับไป

   "มาเฟีย? แล้วมีนรู้ได้ไงว่าพ่อของพี่ซันเขาเป็นมาเฟียน่ะ"

   มีนาชะงัก ก่อนจะบอกออกไปตามตรง

   "ก็หมอนั่น...เอ่อ..พี่เมฆนั่นเล่าให้ผมฟังยังไงล่ะ!"

   เวหาขมวดคิ้วยุ่งมากขึ้นไปอีก

   "แล้วพี่เมฆเขาจะเล่าเรื่องนี้ให้มีนฟังทำไมกัน เรื่องนั้นมันจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เพื่อนของเขาดูไม่ดียิ่งขึ้นไปอีกไม่ใช่หรือ"

   มีนาสะดุ้งเล็กน้อย แล้วจึงบอกออกไปตามตรง

   "ก็ผมคิดจะเอาเรื่องที่หมอนั่นจีบพี่ฟ้าไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง อีตาพี่เมฆนั่นก็เลยขู่ผมไง"

   เวหารับฟังแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยพึมพำตามมา

   "แต่ที่พี่เห็น พี่ซันเขาก็ไม่มีท่าทีข่มขู่อะไรพี่เลยนะ มีนคิดมากไปเองมากกว่า หรือไม่บางทีพี่เมฆเขาก็อยากแกล้งหลอกมีน ให้มีนกลัวไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ก็ได้ แต่มาถึงตอนนี้บอกไม่บอกก็ไม่ต่างกันแล้วนี่นะ"

   "เชอะ! ก็ใช่น่ะสิ แม่นะแม่ ดันเห็นดีเห็นงามอนุญาตให้ผู้ชายมาจีบลูกชายของตัวเองซะงั้น! นี่เดี๋ยวก็คงพูดกล่อมให้พ่อยอมรับอีกคนแน่ พ่อยิ่งยอมฟังแม่ทุกเรื่องอยู่ด้วย"

   มีนาบ่นอุบ ซึ่งก็ทำให้เวหาสั่นศีรษะไปมาเบา ๆ

   "ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง หรือว่ามีนอยากให้พ่อแม่ทะเลาะกัน"

   มีนาเม้มปากน้อย ๆ ทำหน้ายุ่ง แล้วบ่นใส่

   "ฮึ! ถ้าพี่ฟ้าว่าดีก็คงดีนั่นล่ะ! มันเรื่องของพี่ฟ้านี่ ไม่ใช่เรื่องของมีนสักหน่อย!"

   เวหาถอนหายใจอีกครั้ง แล้วจึงลูบศีรษะของน้องชายอย่างเอ็นดู

   "ไม่เอาน่า อย่างอนสิ  พี่รู้หรอกน่าว่ามีนห่วงพี่ แต่พี่ไม่อยากให้มีนต้องมาคอยเครียดเรื่องพี่แบบนี้  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะมีน คนเราถ้าเป็นเนื้อคู่กัน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคยังไงก็ย่อมได้อยู่เคียงคู่ กลับกันถ้าไม่ใช่ ต่อให้มีคนอุ้มสมช่วยเหลือเปิดทางให้คู่กันขนาดไหน มันก็ไม่มีทางจะคู่กันไปได้หรอกนะ"

   มีนารับฟังคำพูดของพี่ชายก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมาอย่างนึกปลง

   "ก็คงถูกของพี่ฟ้านั่นล่ะ เอาเหอะ! มีนไม่อยากจะคิดมากเรื่องนี้เท่าไหร่แล้ว ขึ้นอยู่กับพี่ฟ้าแล้วกัน  อืม...มีพี่เขยเป็นมาเฟียก็คงเข้าท่าดีล่ะมั้ง  อ๊ะ! ไม่สิ มีนไม่อยากให้พี่ฟ้าแต่งออกนอกบ้านไปแบบนั้น  เอาเป็นว่าถ้าพี่ฟ้ายอมรับเขาเป็นแฟนเมื่อไหร่ ก็บอกให้หมอนั่นแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ฝั่งเราแทนดีกว่า หุ่นอย่างพี่ฟ้ากดหมอนั่นได้สบาย ๆ อยู่แล้ว  ฮ่า ๆ"

   มีนาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแทน แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มพูดนั้น กลับทำให้คนฟังหน้าแดง แล้วจึงตวาดใส่น้องชายลั่นเพื่อแก้เขิน

   "เดี๋ยวเถอะมีน! พูดอะไรของเราเนี่ย! พี่ยังไม่ได้ไปตกปากรับคำกับพี่ซันเขาสักหน่อย!  ฮึ! คอยดูนะ การบ้านปิดเทอมของมีน พี่จะปล่อยให้มีนทำเองทั้งหมดให้เข็ด!"

   "เอ๋! อะไรกัน! เรื่องการบ้านของมีนมาเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย! ไม่นะพี่ฟ้า ถ้าพี่ฟ้าไม่ช่วยสอนเลขล่ะก็ มีนคงทำเองไม่รอดแน่อะ!"

   มีนาโวยวายตอบ แต่เวหานั้นงอนที่ถูกน้องชายล้อเลียนเข้าให้แล้ว ทำให้มีนาต้องตามง้อยกใหญ่ และลงท้ายเด็กหนุ่มก็ต้องสัญญาว่า จะทำขนมหวานที่เวหานั้นชอบให้กิน ซึ่งก็ทำให้อีกฝ่ายเริ่มมีรอยยิ้มและยอมยกโทษให้น้องชายในที่สุด

   

   หลังจากใช้เวลาพักใหญ่ ๆ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจได้แล้ว  รวีก็สั่งให้ทางร้านมาจัดส่งให้ด่วน ซึ่งก็ไม่เสียแรงที่ชายหนุ่มเลือกซื้อจากร้านราคาแพง ที่คนแถวนั้นไม่กล้าเฉียดเข้าไป  สินค้าทุกชิ้นจึงมีจัดพร้อมส่งไม่ให้ลูกค้าต้องเสียอารมณ์รออย่างที่ควรจะเป็น

   "ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยเป็นธุระให้"

   รวีบอกกับคนส่งของจากทางร้านพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบพร้อมยกมือไหว้ก้มหัวปลก ๆ ขอบคุณ ยามเมื่อแบงค์พันจากมือของอีกฝ่ายยื่นส่งให้กับพวกตนคนละใบเช่นนี้

   "ทิปหนักจังเลยน้า รู้งี้ฉันไปลงทุนช่วยเขาขนของอีกคนก็ดีเนาะ"

   เมฆาเอ่ยแซวเพื่อน หลังจากที่คนส่งของจากทางร้านเฟอร์นิเจอร์กลับไปหมดแล้ว

   "หึ! ก็เขาอดทนต่อความจู้จี้ของฉันกับนายได้เป็นอย่างดี ก็ต้องทิปให้สักหน่อยสิ"

   เมฆารับฟังเพื่อนบอกแล้วก็หัวเราะในลำคอตามมา เพราะก็จริงอย่างที่รวีบอก พวกเขาต้องใช้เวลาถึงเกือบสองชั่วโมง ในการขนย้ายของและจัดของให้เข้าที่เข้าทางแบบนี้

   "แต่ก็ค่อนข้างถูกใจฉันมากอยู่นะ  อืม...แล้วข้าวเย็นพวกเราเอาไงดี ไปขอบ้านน้องฟ้ากินอีกดีไหม"

   ท้ายประโยครวีนั้นหันไปถามเพื่อนสนิท ซึ่งเมฆาก็ถอนหายใจตามมา

   "เฮ้อ! อย่าเลยน่าซัน...เราเพิ่งจะไปกันเมื่อตอนกลางวันเองนะ ฉันว่าน้องฟ้าเขาคงยังไม่ลืมหน้านายหรอก"

   รวีหันไปมองเพื่อนของตนตาปริบ ๆ ก่อนจะทำเสียงในลำคอเบา ๆ อย่างไม่สบอารมณ์นัก

   "ฮึ! คนรักกันก็อยากเห็นหน้ากันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งนั้นล่ะ คนไม่เคยมีความรักอย่างนายไม่รู้หรอกน่า!"

   เมฆาเหลือบมองเพื่อนอย่างเอือมระอา แต่ก็ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงอีกฝ่าย จึงได้เปลี่ยนเรื่องสนทนาแทน

   "แล้วเรื่องของกินจะเอายังไง ถ้าจะไปเบียดเบียนบ้านน้องฟ้าทุกมื้อแบบนั้น ฉันว่ามันก็น่าเกลียดนา  อืม...แต่ฉันกับนายก็ไร้ฝีมือทำกับข้าวทั้งคู่   เอ...หรือว่าจะจ้างแม่บ้านมาชั่วคราวดี"

   เมฆาถามเพื่อนของตน ซึ่งรวีก็ขมวดคิ้วยุ่ง ทว่ายังไม่ทันตอบอะไร เสียงกดกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มชะโงกหน้าออกไปดูผ่านหน้าต่างห้อง และพอเห็นว่าเป็นใคร รวีก็แทบจะรีบวิ่งลงจากเรือนมาหาคนด้านล่างทันที

   "น้องฟ้า! มีอะไรหรือครับ ถึงมาหาพี่แบบนี้!"

   รวีถามด้วยใบหน้าตื่นเต้นยินดี เสียจนคนมองตอบรู้สึกเขินนิด ๆ ส่วนคนที่มาเป็นเพื่อนเหลือบมองอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะกระแอมเบา ๆ ขัด

   "อะแฮ่ม! มากันสองคนแต่ทักคนเดียวแบบนี้นี่จงใจหรือเปล่าครับ!"

   รวีชะงักก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กแล้วยิ้มให้

   "อ้อ! ขอโทษทีครับน้องมีน  พอดีพี่ดีใจที่ได้เห็นน้องฟ้า เสียจนลืมมองรอบข้างเลยล่ะครับ"

   คำพูดที่แสนจะจริงใจทำให้มีนาทำเสียงพึมพำบ่นอุบอิบ ส่วนเวหารู้สึกอายเพิ่มขึ้นจนใบหน้าเริ่มมีสีเรื่อขึ้นมาน้อย ๆ 

   "เหอะ ๆ อย่ามัวยืนจีบกันหน้าบ้านอยู่เลย เดี๋ยวก็ได้กลายเป็นเป้าสายตาชาวบ้านหรอกครับพวกคุณ"

   เมฆาแกล้งกระเซ้า ทำให้เวหากับมีนาชะงัก จากนั้นมีนาก็รีบจูงมือพี่ชายเข้ามาในเขตบ้านเพื่อป้องกันข่าวลือแปลก ๆ จากเพื่อนบ้านละแวกนี้ทันที

   "พวกพี่เพิ่งลงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เสร็จน่ะ พวกน้องฟ้ากับน้องมีนอยากเดินชมบ้านด้วยกันไหมครับ"

   รวีถามเด็กหนุ่มทั้งสอง ทางด้านมีนานั้นแม้จะอยากชมรอบบ้านหลังนี้ที่เขาคุ้นเคยมานาน แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้ามาก็จริง ทว่าเขาก็ไม่อยากให้เวหาอยู่ใกล้รวีมากไปกว่านี้นัก เพราะแม้เวหาจะเคยบอกเขาว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดก็ตาม แต่ถ้าเขาป้องกันเอาไว้บ้าง บางทีไอ้ที่ควรจะเกิดก็อาจจะไม่เกิดจริงก็เป็นได้

   "ไม่ล่ะครับ พวกเราแค่มาเพราะแม่สั่งให้มาก็แค่นั้น"

   พอได้ยินดังนั้น ก็ทำให้รวีกับเมฆามองมีนาอย่างประหลาดใจ

   "คุณน้าวารีสั่งมา?"

   "ครับ...แม่เห็นพวกคุณเพิ่งย้ายมาอยู่วันนี้ อาจจะลำบากเรื่องอาหารการกินในวันแรก ๆ เลยมาชวนคุณไปกินข้าวเย็นด้วยกันน่ะครับ"

   เวหาเป็นฝ่ายอธิบายให้ทั้งคู่ฟัง ซึ่งพอได้รับฟังก็ทำให้รวีกับเมฆารู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของหญิงสาวยิ่งนัก

   "ขอบคุณนะครับ แต่จะไม่เป็นการรบกวนทางบ้านน้องฟ้ามากไปหรือครับ"

   รวีบอกด้วยสีหน้าเกรงใจ ทำเอาเมฆาจ้องมองเพื่อนตาปริบ ๆ เพราะอีกฝ่ายเพิ่งจะบอกเขาก่อนหน้านั้นให้ไปขอข้าวบ้านเวหากินอยู่หยก ๆ

   "ไม่หรอกครับ แม่บอกว่าพวกคุณ...เอ่อ...พวกพี่ซันกินง่ายกว่าที่คิด ดังนั้นก็เลี้ยงได้สบาย ๆ อยู่แล้ว"

   รวียิ้มกว้างตอบรับ เพราะอีกฝ่ายนั้นยอมเรียกเขาว่าพี่อย่างที่เขาอยากได้ยินอีกครั้งหนึ่ง

   "ใช่! ทอดไข่เจียวแจกโปะข้าวคนละฟอง แค่นั้นก็น่าจะพออิ่มแล้วล่ะ!"

   มีนาเอ่ยประชดขัดขึ้น ทำให้เวหาลอบถอนหายใจเบา ๆ

   "ไข่เจียวหรือ ก็ดีนะครับ ถ้าเป็นไข่ที่น้องมีนทอดคงอร่อยน่าดู"

   เมฆาแทรกขัดขึ้นบ้าง ทำให้คนตัวเล็กหันขวับมามองแล้วจ้องตาดุถลึงใส่ แต่ก็แลดูน่ารักเสียจนชายหนุ่มนึกขำ

   "ถ้าอย่างนั้นมื้อนี้ก็คงต้องขอรบกวนน้องฟ้าอีกมื้อนะครับ...อ้อ ขอฝากท้องอีกมื้อนะครับน้องมีน"

   รวีหันไปบอกมีนาท้ายประโยค ซึ่งอีกฝ่ายก็ค้อนนิด ๆ ให้อย่างนึกหมั่นไส้ แต่ก็จำต้องพาชายหนุ่มทั้งสองไปร่วมอาหารมื้อเย็นตามคำสั่งของมารดาอยู่ดี



   มื้อเย็นวันนี้เป็นกับข้าวง่าย ๆ แต่ถูกใจคนกินอย่างรวีและเมฆาที่ไม่ค่อยได้กินอาหารไทยบ่อยนัก ไข่เจียวที่มาจากไข่ไก่เลี้ยงของบ้าน น้ำพริก ผักลวกจิ้มจากพืชผักสวนครัวที่ปลูกริมรั้วและในสวน ปลานิลทอดจากในบ่อปลาที่ณรงค์ขุดไว้ รวมแล้วก็แทบจะไม่ต้องไปซื้อหาอะไรมาเพิ่มเติมในมื้อนั้นมากนัก

   "ดีจังเลยนะครับ แบบนี้ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกมากเลยทีเดียว"

   เมฆาบอกกับวารีอย่างชื่นชม หลังจากได้รู้ที่มาที่ไปของวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารมื้อนี้

   "ใช่จ้ะ ยิ่งถ้าเราไม่ฟุ้งเฟ้ออะไรมากนัก แค่นี้ก็กินอยู่ได้อย่างพอเพียงแล้ว"

   "ผมเข้าใจครับ เมื่อกลางวันได้แวะไปดูสวนผลไม้ของคุณน้า เห็นน้องมีนบอกว่าทำแบบเกษตรผสมผสาน มีทั้งปลูกพืชผัก ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่...ผมเห็นเข้ายังชอบใจเลยครับ"

   เมฆาเอ่ยตอบอย่างร่าเริง ส่วนรวีนั้นหันไปสนทนากับณรงค์บ้าง

   "คุณน้าไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีในการเพาะปลูกสินะครับ"

   "ครับ ผมทำปุ๋ยน้ำชีวภาพใช้เอง ลดต้นทุนไปได้เยอะ แล้วก็ได้ผลค่อนข้างดีด้วยล่ะครับ"

   ณรงค์บอกพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร พวกเขากินกันไปและพูดคุยกันเรื่องเพาะปลูกรวมถึงเรื่องทั่ว ๆ ไป ซึ่งก็ไม่พ้นการใช้ชีวิตอยู่ละแวกนี้ และเมื่อกินเสร็จอิ่มหนำสำราญกันแล้ว วารีก็เสนอให้ทั้งสองหนุ่มมากินข้าวที่บ้านของหล่อนได้ทุกวันในระหว่างที่อยู่อาศัยที่นี่

   "ก็ซันกับเมฆบอกว่าไม่ทานมื้อเช้าไม่ใช่หรือจ๊ะ เพราะฉะนั้นมื้อกลางวันกับเย็นก็มาทานด้วยกันสิ คนเยอะครึกครื้นดีออก"

   วารีชวนอย่างจริงใจซึ่งณรงค์เองก็ยิ้มพร้อมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เวหาเองก็ยิ้มน้อย ๆ ให้อย่างไม่นึกรังเกียจ ยกเว้นแค่มีนาที่มีใบหน้าไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าใดนัก

   "ผมดีใจนะครับที่คุณน้าไม่รังเกียจพวกเราสองคน แต่พวกเราสองคนก็ไม่อยากรบกวนหรือเป็นภาระกับพวกคุณน้าให้มากนัก แค่นี้ก็โดนน้องมีนมองเขม่นเข้าให้แย่แล้วล่ะนะครับ"

   รวีที่หันไปเห็นใบหน้าของคนตัวเล็กเข้าพอดีแสร้งบอกด้วยสีหน้าที่ทำเป็นฝืนยิ้มลำบากใจ และนั่นก็ทำให้มีนาสะดุ้งโหยง และยิ่งต้องหลุดยิ้มเจื่อนเมื่อบิดาและมารดาหันมามองตำหนิตน

   "ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย! อย่ามองกันแบบนี้สิครับพ่อ! แม่!"

   "หึ ๆ เจ้าซันมันล้อเล่นน่ะครับ น้องมีนออกจะใจดีไปชวนพวกเรามากินข้าวเย็นถึงที่บ้านแบบนั้น แถมยังบอกว่าจะทอดไข่ให้กินเป็นพิเศษอีก เพราะฉะนั้นพวกคุณน้าอย่าดุน้องเขาเลยนะครับ"

   เมฆารีบแก้ตัวแทนเด็กหนุ่ม ซึ่งก็ทำให้รวีหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วเอ่ยเสริมขึ้น

   "ก็ประมาณนั้นล่ะครับ ผมแค่อยากจะแหย่น้องมีนเขาสักหน่อยเอง พี่ขอโทษด้วยนะครับน้องมีน"

   มีนาทำเสียงฮึในลำคอ พร้อมกับค้อนขวับให้นิด ๆ อย่างหมั่นไส้ ก่อนที่จะเหลือบไปมองเมฆาเล็กน้อย แต่พอเห็นอีกฝ่ายหันมาสบตาพร้อมกับยิ้มหวานให้ตน เด็กหนุ่มก็ต้องรีบหันขวับไปมองทางอื่นแล้วพร่ำบอกตัวเองที่จู่ ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างประหลาดให้สงบจิตใจลงได้สักที



   จากนั้นสักพัก ทั้งหมดก็ตกลงกันได้ โดยที่ตอนแรกรวีกับเมฆานั้นจะขอมีส่วนในการช่วยเรื่องค่ากับข้าวในแต่ละมื้อ ซึ่งวารีและณรงค์ก็ปฏิเสธไม่ยอมรับข้อเสนอโดยเด็ดขาด แต่ชายหนุ่มทั้งคู่ก็ไม่อยากจะเอาเปรียบ ลงท้าย   มีนาก็เลยเสนอให้พวกรวีและเมฆาซื้อพวกข้าวสารกับเครื่องปรุงรสเข้าบ้านแทน แล้วที่เหลือก็ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายอะไรอีก ซึ่งแม้วารีกับณรงค์จะไม่ค่อยชอบใจกับข้อเสนอนี้นัก แต่เมื่อพวกรวีกับเมฆา รวมถึงลูกชายทั้งสองของเธอเห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์ ผู้ใหญ่ทั้งสองจึงจำใจยอมรับข้อเสนอครั้งนี้ไปโดยปริยาย

   "ถ้าอย่างนั้นตอนสามโมงเช้า พี่จะมารับน้องฟ้ากับน้องมีนไปที่ห้างนะครับ จะได้ไปช่วยกันซื้อของเข้าบ้านยังไงล่ะครับ"

   "ซื้อของแค่นี้ซื้อตามร้านของชำทั่วไปก็ได้ ไม่เห็นต้องไปซื้อที่ห้างเลยนี่ครับ!"

   มีนาที่พอจะรู้ทันว่ารวีนั้นต้องการอยู่ใกล้ชิดพี่ชายของตนรีบขัดขึ้น ทว่ารวีนั้นกลับหันมายิ้มน้อย ๆ ให้ ด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาไม่รู้เท่าทันแทน

   "ก็เพราะว่าที่บ้านพี่ยังขาดของใช้อยู่หลายอย่างน่ะครับ เลยจะไปเลือกซื้อที่โน่นทีเดียวเลย เอ่อ...แต่ถ้าน้องมีนรำคาญไม่อยากมาด้วยก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ให้น้องฟ้านำทางให้เองก็ได้...น้องฟ้าล่ะครับ สะดวกไหม"

   มีนาอ้าปากค้างที่เห็นรวีนั้นพูดให้เขาดูแย่ในสายตาของพ่อแม่ได้อีกครั้ง แถมยังคิดจะกันเขาออกไปแล้วอยู่กับพี่ชายของเขาตามลำพังอีก

   "โอเคครับ! สามโมงเช้าสินะครับ ถ้าอย่างนั้นมีนกับพี่ฟ้าจะได้เตรียมตัวรอเอาไว้!"

   เมฆาเหลือบมองร่างเล็กที่โพล่งแย้งก่อนที่พี่ชายของเจ้าตัวจะตอบตกลงอย่างนึกขำ แล้วจึงเอ่ยขึ้นมาบ้าง

   "ตกลงครับ ไว้สามโมงเจอกัน  พวกคุณน้าจะฝากซื้ออะไรเพิ่มเติมก็คิดเอาไว้นะครับ เดี๋ยวพวกผมจะได้ขนมาให้ทีเดียวเลย"

   "ของพวกน้าน่ะหรือ ไม่มีอะไรต้องซื้อหรอกจ้ะ แล้วพ่อล่ะจ๊ะจะฝากอะไรให้หนุ่ม ๆ ซื้อบ้างไหม"

   "ของพ่อก็ไม่มีอะไรเหมือนกันนั่นล่ะแม่ ส่วนพวกคุณก็ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากนอกจากของกินที่คุยกันหรอกนะ มันจะสิ้นเปลืองเสียเปล่า ๆ"

   ณรงค์เอ่ยดักไว้ก่อน ทำให้เมฆาและรวีสะดุ้งนิด ๆ พวกเขายิ้มเจื่อนส่งให้ ก่อนจะขอตัวลากลับบ้านพักเพราะก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ซึ่งคราวนี้ทั้งครอบครัวของเวหาต่างก็เดินออกมาส่งแขกทั้งคู่พร้อมกัน สร้างความประทับใจให้กับรวีและเมฆาเป็นยิ่งนัก

   "พรุ่งนี้ถ้าพวกพี่เขาซื้ออะไรฟุ่มเฟือยเกินไป พวกลูก ๆ ต้องช่วยกันห้ามพี่เขานะ...เรื่องอาหารการกิน แค่เพิ่มมาสักคนสองคน มันไม่เป็นภาระอะไรให้บ้านเรานักหรอก มันเทียบไม่ได้เลยกับการที่พี่เขาช่วยชีวิตลูกเอาไว้น่ะ เข้าใจไหมฟ้า"

   ณรงค์บอกกับเวหาหลังจากที่ชายหนุ่มทั้งสองกลับไปแล้ว ซึ่งเวหาก็พยักหน้าน้อย ๆ พร้อมยิ้มรับ ส่วนมีนาทำเสียงพึมพำในลำคออย่างหมั่นไส้เมื่อคิดถึงหน้ารวีขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นเขาก็อดนึกขอบคุณชายหนุ่มไม่ได้อยู่ดี ในเรื่องที่เจ้าตัวช่วยเหลือพี่ชายของเขาเอาไว้ไม่ให้จมน้ำในครั้งก่อน

   "เอาล่ะ หนุ่ม ๆ แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว ส่วนลูกสองคนก็อย่านอนดึกมากนัก ถึงตอนนี้จะปิดเทอมก็เถอะ แต่ถ้านอนดึกตลอด เดี๋ยวมันจะเคยชินเอา เข้าใจนะ!"

   วารีกำชับตามมาทำเอาเวหาและมีนาขานรับคำเสียงอ่อย เพราะพวกเขานั้นก็ถือโอกาสช่วงปิดเทอมเข้านอนเสียดึก โดยอ่านหนังสือบ้าง เล่นเกมบ้าง ไปตามวัยของตน ซึ่งถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมพวกเขาก็แทบจะทำเช่นนี้ไม่ได้ เพราะจะโดนวารีบ่นเอายกใหญ่นั่นเอง



   ก่อนเวลาสามโมงเช้าเล็กน้อย พวกรวีกับเมฆาก็ขับรถยนต์คันหรูมาจอดรอที่หน้าบ้านของเวหา เด็กหนุ่มจึงรีบออกมาพร้อมน้องชาย โดยมีวารีเดินตามมาส่ง

   "ไม่ต้องซื้ออะไรให้สิ้นเปลืองนักนะจ๊ะ ซัน เมฆ"

   วารีเอ่ยดักคอ ซึ่งก็ทำให้สองหนุ่มส่งยิ้มเจื่อน จากนั้นรวีจึงเดินมาเปิดประตูหน้าข้างคนขับให้เวหาขึ้นนั่ง ทำเอามีนามองตาปริบ ๆ แต่พอจะค้าน เมฆาก็มาจับบ่าของตนแล้วพาเดินไปขึ้นรถด้านหลังด้วยกัน

   "นั่งด้านหลังดีกว่านะครับน้องมีน เบาะกว้างนั่งสบายกว่าเยอะเลยล่ะครับ"

   มีนาหันขวับมาจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาดุ ๆ แต่เมฆาก็ยังอมยิ้มตอบ แถมดันตัวร่างเล็กเข้าไปในรถอย่างง่ายดายอีกต่างหาก

   "ไปล่ะครับ แล้วจะรีบกลับมาก่อนข้าวกลางวันนะครับ"

   รวีหันไปบอกหญิงสาวซึ่งวารีก็ยิ้มรับ จากนั้นสองหนุ่มก็ขึ้นรถและขับออกไป โดยมีวารีไล่มองตามไปจนสุดสายตา เจ้าหล่อนถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยพึมพำตามมา

   "หวังว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไรกันหรอกนะ เฮ้อ! ที่เหลือก็ต้องเล่าให้พ่อเค้ารู้สักทีนั่นล่ะ ขืนมารู้ทีหลังคงงอนแย่เลย!"

   วารีบ่นกับตัวเอง แล้วจึงตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือนี้ไปคุยกับสามี เรื่องของรวีแทน ซึ่งเธอเชื่อว่าสามีของเธอนั้นเป็นคนมีเหตุผลพอจะรับฟังในเรื่องที่เธอจะเล่าได้เป็นอย่างดีแน่



   ระหว่างขับรถรวีก็เอาแต่เหลือบมองคนนั่งข้าง จนมีนาต้องคอยกระแอมเตือนเป็นระยะ เนื่องจากเห็นพี่ชายของตนหลุดอาการเขินนิด ๆ ให้ได้เห็นนั่นเองแต่พอเห็นรวีทำเป็นไม่สนใจเขา แถมเวหาก็ยังทำสีหน้าปรามเขาอย่างเกรงใจชายหนุ่มอีก มีนาจึงทำเสียงฮึในลำคอเบา ๆ ทว่านั่งรถไปสักพักเจ้าตัวก็นึกอะไรได้ แล้วแสร้งทำเป็นชวนพี่ชายคุยแทน

   "เฮ้อ! ปิดเทอมยาว ๆ แบบนี้ก็น่าเบื่อนะ นี่ถ้าเป็นเปิดเทอมก็คงสนุกพิลึก  อ๊ะ! จริงสิพี่ฟ้า พี่ต้นเพื่อนสนิทม๊ากมากของพี่ โทรมาหาบ้างป่ะ ชวนเขามานอนค้างบ้านเราบ้างดีไหม พี่เขาคุยสนุกดีออก มีนชอบ!"

   "หือ...ต้นน่ะหรือ ก็มีโทรมาบ้างนะ...ถ้ามีนอยากให้ต้นมาค้างจริง ๆ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะโทรไปถามดูให้แล้วกัน"

   มีนายิ้มกว้างรับ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อมองกระจกหน้ารถแล้วสะท้อนให้เห็นคนขับที่กำลังมีสีหน้าบึ้งตึงดูน่ากลัว ทางด้านเมฆาพอหันมาเห็นสีหน้าของมีนาที่ลืมตัวเผลอกลัวไปชั่วขณะนั้น ชายหนุ่มก็หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะแสร้งโพล่งขัดขึ้นมา

   "คนชื่อต้นนี่เพื่อนน้องฟ้าหรือครับ สนิทกันมากไหมครับเนี่ย"

   "หือ...ต้นน่ะหรือครับ เราเรียนมัธยมปลายห้องเดียวกันมาสามปี ก็เลยสนิทกันพอสมควรน่ะครับ"

   เวหาบอกไปตามตรงอย่างไม่คิดสะกิดใจแต่อย่างใด ทว่ารวีนั้นกลับเงียบไปแถมยังเหยียบคันเร่งไวขึ้นอย่างลืมตัวอีกต่างหาก

   "อะแฮ่ม! แล้วสนิทกันมาก จนถึงกับทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ น้องฟ้าหึงได้เลยไหมล่ะครับ ...ถ้าใช่ พี่คงต้องขอร้องน้องฟ้า ว่าอย่าเพิ่งเรียกเขามาค้างด้วยช่วงนี้เลย  เดี๋ยวเพื่อนพี่จะนั่งเศร้าเสียเปล่า ๆ"

   รวีสะดุ้งนิด ๆ เช่นเดียวกับเวหา ทางด้านเวหาหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินปนตกใจ แล้วรีบโพล่งบอกกับรวีที่หันมามองตน

   "ปะ...เปล่านะครับ...ต้นเป็นแค่เพื่อนเฉย ๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น อีกอย่างต้นเขาก็มีแฟนแล้วด้วยครับ!"

   ทางด้านมีนาแม้จะไม่สบอารมณ์ที่พี่ชายแก้ตัวให้รวีฟังแบบนั้นก็ตาม แต่ตอนนี้เขาคงต้องให้ความสำคัญกับชายหนุ่มมากกว่า เนื่องจากรวีเอาแต่มองพี่ชายของเขานิ่งอึ้งแบบนั้น ทั้งที่ตัวเองกำลังขับรถอยู่แท้ ๆ

   "ไอ้พี่ซันโว้ย! ดูทางข้างหน้าสิวะ! จะชนแล้วนะนั่น!"

   เสียงตะโกนของมีนาทำให้รวีสะดุ้ง ก่อนจะหันขวับไปมองทางแล้วรีบหักโค้งหลบก่อนที่รถของตนจะชนกับทางกั้นตรงหัวโค้งแห่งหนึ่ง ซึ่งก็เรียกเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกจากคนที่นั่งมาด้วยแต่ละคนทันที

   "เกือบไปแล้ว...ขอบคุณน้องมีนนะครับที่ช่วยเตือน"

   เมฆาหันมายิ้มหวานให้กับคนนั่งข้างตน แต่คนตัวเล็กนั้นกลับแยกเขี้ยวใส่อย่างหงุดหงิด เพราะว่าหากเมื่อครู่นี้เมฆาไม่แกล้งพูดแหย่พี่ชายของตนและเพื่อนของเจ้าตัว พวกเขาก็คงไม่ต้องเจอเรื่องราวชวนหวาดเสียวแบบเมื่อครู่นี้หรอก

 

.... TBC ....

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
คุณแม่เซนส์ดีจริงๆ

แล้วคุณพ่อจะรับได้ไหมค้านี่ ถึงคุณวารีจะบอกว่าคุณพ่อมีเหตุผลก็เถอะ ...แต่ก็นะ

เฮ้ออออ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทางโล่งเลยซิเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด