ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอโทษที...คนนี้พี่จองแล้ว  (อ่าน 197599 ครั้ง)

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
น้องมีนจ๊ะ เลิกขวางทางรักพี่ชายได้สักที

เดี๋ยวก็ยุให้พี่เมฆาลากไปปล้ำซะหร๊อกกก หึหึ

น้องฟ้าก็ใจอ่อนลงเรื่อยๆ อีกไม่นานคงรักพี่ซันเต็มหัวใจ

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
งานนี้รวีทางสะดวกเห็นๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[ พี่น้องคู่นี้มุ้งมิ้งกันจัง  น้องมีนน่ารักเนอะ พี่เมฆรุกเลยๆ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ให้ไปเลยยยยย 3 คำ   "น่ารั๊กกก....อ่ะ"
อ่านแล้วมันกรุบกริบ ๆ กิ๊วก๊าว ดีค่ะ

ปูลู  ว่าแล้วก็ขอจองตั๋วล่วงหน้า  สำหรับเรื่องของอีกคู่ด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ Moonwish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
น้องฟ้าหนูเขินง่ายไปมั้ยลูก ไม่ระวังตัวอีกต่างหาก
เป็นแบบนี้กลัวพี่ซันจะบรรลุเป้าหมายง่ายไป
เพราะมีนก็ไม่น่าจะเอาอยู่ พี่ซันดูร้ายเกิน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
คุณพ่อณรงค์ทราบแล้วจะว่าไวบ้างอ่าเนี่ย

  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เหมือนจะทางสะดวกนะแบบนี้

ออฟไลน์ rule

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
2คู่ชู้ชื่น

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
รู้สึกมีนจะเด่นกว่าแล้วนะ อิอิอิอิ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
น้องมีน จะหวง ขอหวงแบบน่ารักๆนะลูก
ด่านคุณแม่นี่ผ่านแล้ว คุณพ่อจะว่าไงหว่า?
แต่ด่านน้องฟ้านี่แหละสำคัญสุด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
น้องฟ้าจะได้เป็นสะใภ้มาเฟีย  :-[

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

บทที่ 8



   ณ ห้างแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งนับว่าไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับห้างในตัวเมืองหลวง ทว่าก็มีข้าวของมากมายเพียงพอต่อความต้องการของคนพื้นที่ซึ่งแวะเวียนมาซื้อหาสินค้าภายในนี้

   "เอาข้าวยี่ห้อนี้เป็นไงครับน้องฟ้า พี่ถามเพื่อนมาแล้ว เห็นว่ายี่ห้อนี้หุงอร่อยและได้มาตรฐานส่งออกต่างประเทศด้วยนะครับ"

   เวหามองยี่ห้อข้าวที่รวีชี้ให้เขาดู ก่อนจะนิ่วหน้า แล้วตอบกลับไป

   "เรื่องนี้คงต้องถามมีนดูครับ เพราะเขามาซื้อของเข้าบ้านกับแม่อยู่บ่อย ๆ ...เอ่อ ส่วนผมไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่"

   รวีอมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู เมื่อเห็นอาการอึกอักขัดเขินของเด็กหนุ่ม จากนั้นจึงหันไปทางมีนาที่กำลังเดินดูยี่ห้อข้าวสารอื่น ๆ อยู่กับเมฆา

   "น้องมีนครับ เอายี่ห้อนี้ไหมครับ"

   มีนาหันไปมองก่อนจะชะงัก แล้วเงยหน้าดูราคาข้าวสารที่ห้อยบอกไว้ด้านบน

   "...แพงชะมัด ไม่เอาหรอกครับ ถึงจะดูน่าอร่อยแต่แพงขนาดนี้ ซื้อยี่ห้ออื่นคุ้มกว่า"

   มีนาบอกปฏิเสธทำเอารวีขมวดคิ้วยุ่ง หากแต่ชั่วครู่เจ้าตัวก็ยิ้มหวานแล้วบอกต่อ

   "แต่พี่ชอบกินยี่ห้อนี้นี่ครับ...กินยี่ห้ออื่นก็อร่อยสู้ไม่ได้...นะครับ ยังไงพี่ก็จ่ายเงินเองอยู่แล้ว ระหว่างที่อยู่ที่นี่ พี่ขอกินยี่ห้อที่ตัวเองชอบนะครับ"

   มีนาชะงักแล้วหน้ามุ่ยใส่ ส่วนเมฆาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เมื่อเห็นเพื่อนหาเรื่องลื่นไหลทำตามใจตัวเองไปได้อีกครั้ง

   "ถ้างั้นก็ตามใจคุณแล้วกัน แล้วอย่าลืมบอกแม่อย่างที่บอกกับผมด้วยล่ะ ว่าผมห้ามแล้วแต่คุณอยากกินยี่ห้อนี้เอง!"

   รวียิ้มรับอย่างพึงพอใจ ส่วนเวหาลอบถอนหายใจเบา ๆ  จากนั้นเมฆาก็เดินมาคุยกับเพื่อนของตน ก่อนจะช่วยกันขนถุงข้าวลงรถเข็น จนพวกเวหาและมีนาตาค้าง

   "เดี๋ยว! นั่นพวกคุณจะซื้อกี่ถุงกันน่ะ!"

   มีนาโพล่งใส่ด้วยความตกใจ เพราะพวกเมฆากับรวีกำลังขนถุงข้าวถุงที่แปดลงรถเข็นและยังมีทีท่าว่าจะหยิบต่ออีก

   "หือ...ก็เราว่าจะอยู่พักร้อนสักสองอาทิตย์ ก็เลยคิดว่าจะซื้อข้าวไปสักยี่สิบถุงน่ะครับน้องมีน  เอ...แค่นี้มันจะพอแน่นะเมฆ"

   ท้ายประโยครวีหันไปถามเพื่อนสนิท ซึ่งเมฆาก็มีสีหน้าไม่แน่ใจ  ทำเอามีนาเม้มปาก แล้วตรงเข้าไปดึงรถเข็นออกมาจากชายหนุ่มทั้งสองอย่างหงุดหงิด

   "อยู่แค่สองอาทิตย์แต่ซื้อยังกับจะกินเป็นปี! เอาแค่สี่ห้าถุงก็พอแล้ว ถ้าพวกคุณตะกละกินจนมันหมดได้ ค่อยมาซื้อใหม่ทีหลัง!"

   สองหนุ่มมองคนตัวเล็กตาปริบ ๆ ก่อนจะหันมาสบตากัน แล้วถอนหายใจเบา ๆ ทว่าก็ยังคงหันไปต่อรอง จนสุดท้ายก็ได้ข้าวมาสิบถุง

   "ผมว่าเราไปเอารถเข็นมาเพิ่มดีกว่านะครับ..."

   เวหาที่เห็นข้าวสารเต็มรถเข็นหันไปบอกรวี ซึ่งรวีเองก็เห็นดีด้วย

   "งั้นนายกับน้องมีนไปจ่ายค่าข้าวสาร แล้วเอาข้าวไปเก็บในรถก่อน เดี๋ยวพวกฉันจะซื้อพวกเครื่องปรุงตามไปทีหลังนะ..."

   "ไม่ต้องเลย! เดี๋ยวก็ได้ซื้อโน่นนี่มาจนล้นรถอีกหรอกครับ!"

   มีนารีบแย้ง แล้วจึงตัดสินให้รวีกับเมฆาเอาข้าวสารไปจ่ายเงินและเก็บในรถก่อน ส่วนพวกตนจะซื้อพวกเครื่องปรุงเอง

   "อืม...งั้นเอาไปว่าให้เจ้าเมฆมันเอาข้าวไปเก็บ แล้วพี่ก็เดินซื้อของกับพวกน้องมีนกับน้องฟ้าดีกว่าครับ ซื้อเสร็จจะได้จ่ายเงิน แล้วตามไปสมทบกันที่รถเลย สะดวกกว่านะครับ"

   เมฆามองเพื่อนที่ไล่ให้ตนไปที่รถแทนตาปริบ ๆ ก่อนจะเปรยขึ้นมาบ้างอย่างเบื่อหน่าย

   "เดี๋ยวฉันก็เข็นข้าวสารตามพวกนายไปนี่ล่ะ หรือไม่ก็วางไว้ก่อน ไม่มีใครเขามาหยิบไปหรอกน่า แล้วพอจ่ายเงินก็ค่อยไปพร้อมกัน มันไม่เสียเวลามากไปนักหรอก"

   รวีทำเสียงหงุดหงิดในลำคอเบา ๆ แต่ก็ยอมทำตามที่เพื่อนสนิทบอก ส่วนเวหานั้นเห็นด้วยกับที่เมฆาพูด และมีนารีบตัดบทด้วยความเบื่อหน่าย

   "เอางั้นก็ได้ครับ! รีบ ๆ ไปซื้อเหอะ เดี๋ยวผมจะได้กลับไปช่วยแม่ทำมื้อกลางวันต่อ!"

   พอได้ยินคนตัวเล็กบอกแบบนั้น เวหาก็รีบเดินไปเอารถเข็นคันใหม่มา โดยมีรวีคอยเดินตามติดไปไม่ห่าง ส่วนมีนาพอจะเดินตาม ก็ถูกเมฆาจับข้อมือเอาไว้เสียก่อน

   "อยู่เฝ้าข้าวสารเป็นเพื่อนพี่เถอะ เดี๋ยวจะมีคนมาแอบหยิบไปนะครับ"

   มีนาขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด

   "รู้แล้วน่า! ปล่อยมือได้แล้ว!"

   "ครับ ๆ ปล่อยก็ปล่อย..."

   เมฆาทำเป็นพูดทว่ากลับดึงมืออีกฝ่ายมาจูบหลังมือเบา ๆ แล้วค่อยปล่อยออก ทำเอาคนถูกจูบมือชะงัก หน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองรอบด้าน ซึ่งโชคดีว่าตรงโซนนี้ไม่มีผู้คนอยู่นอกจากเขาสองคน

   "คุณ!"

   "อ๊ะ ๆ อย่าโวยวายสิครับน้องมีน พี่ยิ่งเป็นพวกบ้าจี้อยู่ เกิดตกใจเสียงโวยวายของน้องมีนขึ้นมา แล้วจะได้เผลอจับน้องมีนมากอดมาจูบเอาเข้าก็ได้...อยากให้เป็นแบบนั้นหรือครับ"

   มีนาสะดุ้งโหยงใบหน้าแดงวาบด้วยความฉุนสุดขีด เจ้าตัวด่าพึมพำใส่อีกฝ่ายว่าโรคจิต หากแต่เมฆากลับหัวเราะในลำคอแล้วโค้งน้อย ๆ ยิ้มรับ

   "ขอบคุณครับสำหรับคำชม"

   "คนเค้าด่าต่างหากไม่ได้ชม!"

   มีนาแย้งกลับไปไม่ดังนัก เพราะกลัวอีกฝ่ายจะแกล้งทำอย่างที่พูดเมื่อก่อนหน้ากับตนเข้าให้เหมือนกัน

   "หึ ๆ อย่าซีเรียสครับ พี่เห็นน้องมีนเครียด ๆ เลยหาเรื่องมาแกล้งแหย่ให้อารมณ์ดีขึ้นต่างหาก  เอ้า! พวกเจ้าซันกับน้องฟ้ามาแล้วล่ะครับ ยิ้มหน่อยสิครับ เดี๋ยวคุณพี่ชายจะกังวลเข้าให้นะครับ"

   เมฆาบอกพร้อมเอานิ้วชี้แตะที่มุมปากของตัวเองแล้วยิ้มกว้างโชว์ ทำให้คนมองที่กำลังหงุดหงิดปนโมโหถึงกับชะงัก แล้วสุดท้ายจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมาอย่างนึกปลง

   "คุณนี่นะ...นอกจากโรคจิตแล้วยังบ้า ๆ บอ ๆ อีกต่างหาก เสียดายหน้าตาเป็นบ้า!"

   เมฆาหัวเราะให้กับคำบ่นของเด็กหนุ่ม ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะไปด้วยดีกับคนที่เดินมาด้วยกัน

   "แทบไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะได้มีโอกาสเห็นเจ้าซันเอาใจคนอื่นแบบนี้  เคยเห็นแต่มันวางมาดเชิดหยิ่งมีสาวเดินตามตื๊อต้อย ๆ  นี่ถ้าเอาเรื่องไปบอกพวกสาว ๆ ที่เคยถูกหมอนี่หักอก มีหวังคงได้คำสาปแช่งและสมน้ำหน้าตามมาเพียบแหงม!"

   คำบ่นพึมพำของชายหนุ่ม ทำให้มีนาที่ยืนอยู่ด้วยต้องหันไปมองรวีอีกครั้ง เด็กหนุ่มเม้มปากน้อย ๆ และคิดว่าเมฆานั้นไม่ได้พูดอะไรเกินจริงนัก ไม่ว่าจะด้วยหน้าตา รูปร่าง รวมไปถึงฐานะการเงิน  ไม่แปลกเลยที่รวีจะเสน่ห์แรงจนมีแต่คนอยากได้เป็นแฟนเช่นนั้น

   "ถ้าพี่ฟ้าเป็นผู้หญิงเสียหน่อย ไอ้เรื่องความโรคจิตชอบเด็กนั่น ก็คงพอจะมองข้ามได้บ้างอยู่หรอกนะ"

   เมฆาเกือบหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำเรียกถึงเพื่อนจากปากร่างเล็กข้างกายตน

   "พี่ว่าลองคิดในแง่ดี การที่จะหาคนที่รักมั่นคงกับเรามาหลายปีไม่เปลี่ยน แม้ขนาดที่ว่ากลับมาเจอกันอีกครั้งในสภาพที่อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ทำให้ความรู้สึกรักนั้นเปลี่ยนไปได้...คนแบบนี้หาได้ยากอยู่นะครับ"

   มีนาขมวดคิ้วพลางนิ่งคิดตาม แล้วจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เพราะความมั่นคงรักเดียวใจเดียวของรวี ก็คงมีส่วนที่ทำให้มารดาของเขายอมเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มจีบเวหาได้เช่นนี้ด้วยนั่นเอง

   "มาแล้ว ๆ ไปเลือกซื้อของกันต่อเถอะครับ!"

   รวีที่เดินมาถึงบอกพร้อมกับยิ้มแย้มอารมณ์ดีอย่างเต็มที่ เนื่องจากตนได้มีโอกาสอยู่ข้าง ๆ เวหาตลอดเวลาเช่นนี้ เห็นดังนั้นมีนาจึงลอบถอนหายใจ แล้วจึงเปรยโพล่งขัดขึ้นมา

   "พี่ซันไม่ต้องไปหรอก! เดี๋ยวก็หยิบโน่นซื้อนี้ตามใจชอบอีก!"

   พอได้ยินดังนั้นรวีก็ชะงักนิ่งอึ้ง ส่วนเวหาเตรียมจะแย้งด้วยความเกรงใจชายหนุ่ม แต่มีนาก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

   "พี่ซันกับพี่ฟ้าอยู่เฝ้าข้าวสารกันแถวนี้ล่ะ เดี๋ยวผมกับพี่เมฆจะไปซื้อพวกเครื่องปรุงเอง!"

   ทั้งสามหนุ่มเงียบกริบ ก่อนที่รวีจะเบิกตากว้างมองคนตัวเล็กอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

   "มองทำไม! ที่เลือกแบบนี้เพราะเห็นว่าพวกพี่แต่ละคนไม่มีใครชำนาญเรื่องในครัวหรอกนะ ขืนให้ไปช่วยกันเลือกก็ยิ่งมากคนมากความ ก็เลยไปเลือกเองแบบนี้นั่นล่ะ!"

   มีนารีบแก้ตัว ทำเอาเมฆาที่มองอยู่อมยิ้ม แล้วจึงแสร้งทำเป็นพูดหยอกขึ้นบ้าง

   "อ้าว...แล้วทำไมต้องให้พี่ไปช่วยด้วยล่ะ น้องมีนก็ไปเลือกเองคนเดียวสิครับ"

   ขาดคำของชายหนุ่ม ไม่เพียงแต่มีนาจะทำตาถลึงมองมา แม้แต่รวีก็ส่งสายตาเย็นชาสุดโหดจ้องมอง เสียจนเมฆาต้องกลืนน้ำลาย

   "ง่า...ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง  อ้าว! เดี๋ยวสิครับน้องมีน อย่าเพิ่งไป เดี๋ยวพี่ไปช่วยเข็นให้นะครับ!"

   เมฆารีบจ้ำพรวดวิ่งตามคนตัวเล็กที่เข็นรถเข็นว่าง ๆ ออกไปด้วยความงอน ทิ้งให้รวีกับเวหาอยู่เฝ้ารถเข็นใส่ข้าวสารกันอยู่สองคน

   "พี่เมฆนี่เค้าเป็นคนตลกดีนะครับ"

   เวหายกเรื่องของคนที่เดินจากไปมาคุย ทำให้คนฟังชะงักแล้วจึงย้อนถามกลับไปด้วยสีหน้าขรึมลง

   "น้องฟ้าชอบคนคุยตลกหรือครับ แล้วแบบพี่คงน่าเบื่อใช่ไหมครับ"

   เวหาจ้องมองคนพูดพลางหลุบตาหลบ ก่อนจะพึมพำตอบไปเสียงแผ่ว

   "ผมเองก็ไม่ได้ชอบคนแบบไหนเป็นพิเศษหรอกครับ...ขอแค่จริงใจให้กัน ไม่โกหกกัน แค่นี้ก็คบหากันได้สบาย ๆ แล้วครับ"

   คำตอบของเด็กหนุ่มทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง พอมองใบหน้าผิวสีคล้ำแดดของอีกฝ่ายก็เห็นว่ามันค่อนข้างแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด ทำให้คนมองยิ่งใจเต้นแรง และนึกอยากจะดึงร่างข้างกายมากอดเสียเดี๋ยวนั้น ทว่าชายหนุ่มก็ต้องทนข่มใจท่องให้ตนใจเย็นลง เพราะนี่เป็นที่สาธารณะโล่งแจ้ง แถมเวหาเองก็ยังไม่ได้ยอมตกปากรับรักเขาเลยสักนิด

   "พี่ซัน..."

   เวหาเงยหน้ามองอีกฝ่ายเพราะเห็นว่ารวีเงียบไปนาน แต่แล้วเขาก็ได้เห็นร่างสูงมองเมินไปทางอื่น ท่าทางหลุกหลิก เอามือปิดปากทำเหมือนพึมพำอะไรบางอย่างอยู่ตลอด

   "พี่ซันครับ เป็นอะไรไปหรือครับ"

   เวหาถามต่อ ซึ่งก็ทำให้รวีสะดุ้งโหยง แล้วจึงรีบหันมา ก่อนจะหน้าแดงให้เห็นนิด ๆ ทำเอาคนมองนิ่งอึ้ง

   "เอ่อ...คือพี่..."

   รวีพยายามจะคิดหาเรื่องแก้ตัว ทว่าพอนึกได้ที่เวหาพูดว่าไม่ชอบคนโกหก เขาเลยตัดสินใจพูดออกไปตามตรง

   "คือพี่...พี่ดีใจที่น้องฟ้าดูไม่มีท่าทางรังเกียจ พี่ก็เลยรู้สึกอยากกอดน้องฟ้านะครับ...แต่ก็กลัวน้องฟ้าโกรธ เลยพยายามหักห้ามใจตัวเองอยู่นี่ล่ะครับ"

   รวีบอกแล้วก็นึกขอบคุณที่เมฆาตามมีนาไปเสียได้ เพราะหากเมฆาอยู่ที่นี่ด้วย เขาคงไม่กล้าบอกความในใจให้คนที่เขาหลงรักได้รับรู้ง่าย ๆ เช่นนี้แน่ 

   ทางด้านเวหาพอได้ยินคำพูดนั้นของชายหนุ่ม เขาก็ถึงกับตกตะลึง ก่อนจะหน้าแดงหนักขึ้นกว่าเดิม พลางก้มหน้าก้มตาหลบด้วยความเขิน เนื่องจากไม่คิดว่ารวีนั้นจะกล้าพูดความรู้สึกออกมาตรง ๆ เช่นนี้ แถมยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าอาย ที่คนทั่วไปไม่น่าจะพูดออกมาได้ง่าย ๆ เสียด้วย



   ทว่าระหว่างที่บรรยากาศของอีกคู่หนึ่งกำลังเป็นสีชมพูอมม่วงอย่างเป็นใจ  หากแต่คู่ที่กำลังเดินจับจ่ายซื้อเครื่องปรุงเข้าครัว ก็กำลังมีบรรยากาศชวนให้อึดอัดแทน เนื่องจากคนตัวเล็กนั้นยังคงไม่หายงอนที่โดนแกล้งแหย่เมื่อก่อนหน้านั้น

   "น้องมีนครับ...พี่ขอโทษนะ พี่รู้ว่าน้องยอมเปิดโอกาสให้เจ้าซันกับน้องฟ้ามัน ...พี่ดีใจน่ะ ก็เลยแค่แกล้งแหย่เท่านั้นเองครับ"

   มีนาหยุดเข็นรถ แล้วหันขวับมามองคนที่เดินตามง้อตนอย่างหงุดหงิด

   "ก็รู้ทั้งรู้ ยังมาทำให้โมโหอีก! พี่เป็นพวกโรคจิตไม่พอ ยังเป็นมาโซ ชอบให้คนโมโหด่าใส่ อีกด้วยหรือไง!"

   เมฆาชะงัก แล้วหลุดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว โดยมีคนตัวเล็กยืนหน้ามุ่ยมองอย่างไม่สบอารมณ์นัก

   "ฮะ ๆ พี่เพิ่งจะได้รู้จักตัวเองก็วันนี้ล่ะ น้องมีนนี่สุดยอดไปเลย คุยด้วยไม่เท่าไหร่ ก็มองออกว่าพี่เป็นคนยังไงได้เลยนะเนี่ย!"

   "ไม่ต้องมาขำเลย คนโรคจิต หน้าด้าน!"

   มีนาแย้งกลับไปด้วยความโมโหที่เพิ่มพูนมากขึ้น

   "แต่ก็หล่อแล้วก็เร้าใจนะครับ"

   มีนาอยากจะตวาดใส่คนตรงหน้าที่เถียงย้อนกลับมาหน้าตาเฉย แต่ก็กลัวจะเป็นจุดสนใจ เขาจึงหันไปมองเครื่องปรุงบนชั้นวางแล้วหยิบมันมาอย่างละขวดแทบจะไล่เรียงกันไปใส่รถเข็นเป็นการประชด ทว่าแทนที่เมฆาจะห้าม เจ้าตัวกลับช่วยหยิบช่วยจัดของในรถเข็นให้เป็นระเบียบเสียแทน และพออารมณ์หงุดหงิดเริ่มคลายลง มีนาก็ได้สติแล้วมองของในรถเข็นอย่างตกตะลึง

   "น้องมีนนี่ช็อปปิ้งเก่งใช่เล่นเลยนะครับ ไว้คราวหน้าเรามากันอีกนะครับ"

   เมฆาแสร้งทำเป็นเอ่ยชมด้วยสีหน้าไร้เดียงสา แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มไม่มีอารมณ์จะใส่ใจ เจ้าตัวจ้องของในรถเข็นแล้วพึมพำตามมาอย่างร้อนรน

   "บ้าจริง! ขืนขนกลับไปหมดนี่ ได้โดนแม่บ่นกรอกหูยาวเป็นวันแน่ โอ๊ย! นี่ฉันต้องเอาไปเก็บอีกสินะ อะไรของมันกันนะวันนี้  ซวยจริง ๆ!"

   "หึ ๆ ไม่ต้องตกใจแบบนั้นครับ พี่จัดเรียงชนิดไว้แล้ว เดี๋ยวเราก็เอาคืนตามชนิดของมัน ช่วยกันแป๊บเดียวก็เสร็จครับ"

   เสียงของเมฆาที่ดังขึ้นทำให้ร่างเล็กชะงัก แล้วจึงหันไปมองซึ่งก็เห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มแย้มอ่อนโยนส่งให้ ไม่ได้ทำหน้าตาล้อเลียนหรือแกล้งแหย่เขาอย่างก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

   "เอ้า! ไปกันเถอะครับ ถ้าน้องมีนกลับไปไม่ทันทำมื้อกลางวัน พี่คงเสียดายแย่เลย"

   เมฆาพูดตัดบททำให้คนนิ่งอึ้งชะงัก แล้วพยักหน้าหงึกหงักตามมาอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มที่เข็นรถและช่วยหยิบของขึ้นคืนชั้นวางไปอย่างเงียบ ๆ  โดยที่เมฆาเองนั้นแม้จะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขิน แต่เขาก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และช่วยเก็บของที่หยิบซ้ำมาคืนชั้นวางไปอย่างเงียบ ๆ เช่นเดียวกัน



...
...

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
...
..

   หลังจากที่ยืนโต้เถียงกันเรื่องจำนวนเครื่องปรุงแต่ละชนิดว่าจะเป็นอย่างละ 2 หรือ 3 ขวด ก็เสียเวลาไปพักใหญ่ ๆ จนรวีกับเวหาต้องตามมาสมทบ

   "แค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับ รีบกลับกันเถอะครับ เดี๋ยวจะกลับไม่ทันมื้อกลางวันเอา"

   เวหาบอกกับเมฆา ซึ่งรวีก็รีบยืนยันเห็นดีด้วยกับคำพูดของเด็กหนุ่มทันที ทำเอาเมฆาถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นทุกคนจึงเข็นรถไปที่แคชเชียร์ ทว่าพอจะใกล้ถึง มีนาก็ชะงักแล้วนึกบางอย่างขึ้นมาได้

   "อ๊ะ! มีนลืมซื้อน้ำตาลอะพี่ฟ้า  มีนวิ่งไปเอาก่อนนะ รอแป๊บนึง!"

   มีนาบอกแล้วก็วิ่งไป ทำให้เวหาถอนหายใจเบา ๆ  ทว่าสักพักเจ้าตัวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

   "อ๊ะ...ผมก็ลืมเหมือนกัน ว่าจะซื้อน้ำหวานให้แม่ชงใส่ตู้เย็นไว้กินกลางคืนสักหน่อย  เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมมานะครับ"

   ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะพูดจบดี รวีก็รีบเสนอตัวขึ้นมาทันที

   "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนนะครับ!"

   "เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่หยิบน้ำหวานขวดเดียวเอง"

   เวหาบอกอย่างเกรงใจ อีกอย่างเวลาที่อยู่ใกล้ ๆ กับรวี ก็ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ แถมวางตัวไม่ถูกอีกต่างหาก

   "งั้นผมไปนะครับ เดี๋ยวจะรีบกลับ"

   เวหาตัดบทแล้วรีบจ้ำพรวดไป แต่ก็ยังชะงักแล้วหันมายิ้มให้คนที่มองตาม ทำให้รวีที่กำลังรู้สึกแย่เล็กน้อยที่ถูกปฏิเสธ ถึงกับตกตะลึง

   "โอ้! ดูเหมือนสถานการณ์จะดำเนินไปได้ด้วยดีนะเพื่อน"

   รวีไม่ได้ใส่ใจคำแซวของเพื่อนสนิทแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนี้ชายหนุ่มกำลังยิ้มกว้างอย่างยินดีมองตามไล่หลังเวหาไปอยู่นั่นเอง



   อีกด้านหนึ่ง มีนากำลังเลือกถุงน้ำตาลทรายในกระบะใหญ่ที่ห้างจัดวางไว้ และเมื่อเลือกได้แล้วเจ้าตัวก็เตรียมจะเดินกลับไปสมทบกับคนอื่น ทว่าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเด็กวัยรุ่นสองคนแถวนั้นเดินเข้ามาแล้วขวางทางเอาไว้

   "ไง! น้องคนสวย มาซื้อของคนเดียวหรือจ๊ะ ให้พวกพี่ช่วยเดินช็อปปิ้งเป็นเพื่อนเอาไหม"

   มีนามองคนพูดที่น่าจะอายุมากกว่าตนอยู่สามสี่ปี แล้วเบ้หน้าใส่

   "ไม่ต้อง ฉันเดินคนเดียวได้ ขอทางด้วย!"

   วัยรุ่นทั้งสองยักไหล่นิด ๆ แต่ก็ยังคงคอยขวางหน้าขวางหลังไม่ให้อีกฝ่ายไปไหนได้อยู่ดี

   "ดุจังน้า น้องคนสวย แต่ก็ดี พวกพี่ชอบคนปากจัด เพราะเวลาจับจูบมันแซบดี!"

   หนึ่งในนั้นเอ่ยแซวแล้วอีกคนก็หัวเราะรับเป็นลูกคู่ มีนาพยายามมองหาคนช่วย แต่แผนกนั้นแทบไม่มีคนอยู่ ทว่าสักพักเด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างอย่างยินดี เมื่อเห็นว่าพี่ชายของตนกำลังเดินตรงเข้ามา

   "พี่ฟ้า!"

   เวหาหันไปมองตามต้นเสียงแล้วก็หรี่ตามอง ก่อนจะเดินตรงไปหาคนกลุ่มนั้น

   "ขอโทษนะครับ มีธุระอะไรกับน้องของผมหรือครับ"

   เวหาเดินตรงไปแล้วดึงมือมีนาให้มาอยู่ข้างตน ซึ่งก็สร้างความไม่สบอารมณ์กับวัยรุ่นทั้งสองที่ยืนอยู่ยิ่งนัก

   "แหม ๆ พวกผมกำลังคุยกับน้องคนสวยคนนี้สนุก ๆ อยู่เลยนะครับ  คุณพี่ชายช่วยถอยไปห่าง ๆ ได้ไหมครับ ถ้าคุณพี่ไม่อยากเจ็บตัวอะนะ!"

   หนึ่งในนั้นขู่ แต่เวหายังคงจ้องอีกฝ่ายนิ่งอย่างไม่เกรงกลัว วัยรุ่นทั้งสองทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิด แล้วเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็ดึงคอเสื้อของเวหาเข้ามาใกล้ ๆ

   "กูละเกลียดไอ้พวกหน้าหล่อ ๆ ทำตัวนิ่ง ๆ เป็นพระเอกแบบมึงจังเลยว่ะ...สงสัยคงจะต้องอัดให้หายหมั่นไส้ซักหน่อยล่ะมั้ง!"

   "พี่ฟ้า! ปล่อยพี่ฟ้านะ! ใครก็ได้ครับ ช่วยด้วย! ยาม! ตำรวจ!"

   เสียงมีนาตะโกนโวยวายด้วยความตกใจ ทำให้คนแถวนั้นต่างทยอยเดินมาดู และเสียงของเด็กหนุ่มก็ยังคงดังแว่วไปถึงชายหนุ่มที่ยืนรออีกสองคนด้วย

   "หนอย! ไอ้นี่! หยุดโวยวายสักทีสิวะ!"

   วัยรุ่นอีกคนที่อยู่ใกล้มีนาเตรียมเงื้อมือขึ้นจะตบคนตัวเล็กที่กำลังยืนตะโกนเรียกให้คนอื่นช่วย ทว่าเวหาที่อยู่ใกล้นั้นไวกว่า เด็กหนุ่มผลักเจ้าคนที่จับคอเสื้อตนไปแรง ๆ ทำให้ฝ่ายที่ไม่ระวังตัวหงายหลังล้มไปนั่งก้นจ้ำเบ้า  ส่วนอีกคนก็ถูกเวหานั้นจับข้อมือที่กำลังเงื้อตบน้องตนเอาไว้ทัน ก่อนเจ้าของมือจะร้องโอ้ยลั่น เพราะแรงบีบจากมือของเด็กหนุ่ม

   "พี่ฟ้า!"

   มีนาเข้าไปเกาะพี่ชายแน่น หลังจากที่เวหาสะบัดมือที่จับข้อมืออีกฝ่ายทิ้งไปแรง ๆ วัยรุ่นทั้งสองกัดฟันกรอด และก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปรุมเล่นงานเอาคืนคนที่ยืนอยู่ ร่างสูงร่างหนึ่งก็เดินหน้าบึ้งถมึงทึงมาขวางเอาไว้เสียก่อน

   "อะไรของไอ้ฝรั่งนี่วะ หลบไปโว้ย! คนจะมีเรื่องกัน!"

   "มีเรื่องรึ...ขอโทษทีนะไอ้หนู แต่ฉันไม่อนุญาตให้มี...แต่ถ้ายังอยากจะมี ก็เข้ามาได้เลย!"

   รวียิ้มกวน ๆ แต่นัยน์ตาคมกริบนั้นวาววับ ชนิดที่ทำให้คนมองหนาวเยือกอย่างลืมตัว

   "พี่ฟ้า...เอาไงดีล่ะ ถ้ามีเรื่องกันในห้างแบบนี้ พ่อกับแม่รู้เข้าคงโดนดุแน่เลย"

   มีนาพึมพำถามพี่ชาย ซึ่งเวหาก็เห็นด้วย เพราะเขาเองก็แค่จะป้องกันตัวเองและน้องชายเท่านั้น และเขาก็ไม่อยากให้เรื่องราวลามปามกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอีกด้วย

   "พี่ซันครับ...อย่าให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ"

   เวหาเดินมาดึงแขนเสื้อของชายหนุ่ม ทำให้รวีชะงัก จากนั้นเจ้าตัวก็มองวัยรุ่นตรงหน้าทั้งสอง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

   "ถ้าน้องฟ้าว่าแบบนั้น ก็เอาแบบนั้นก็ได้ครับ"

   รวีหันมายิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กหนุ่ม ซึ่งก็ทำให้เวหายิ้มตอบ ทว่าวัยรุ่นทั้งสองที่โดนเมิน ยามนี้กำลังรู้สึกเดือดดาล และหนึ่งในนั้นก็คว้าขวดแก้วของผลิตภัณฑ์ที่กำลังลดราคาอยู่แถวนั้น เตรียมจะตรงเข้าไปฟาดรวีที่หันหลังให้อยู่ เรียกเสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนเตือนจากคนที่ได้เห็นกันถ้วนหน้า ทว่า...

   "นายเป็นคนลงมือก่อนสินะ...เพราะอย่างนั้นฉันก็คงต้องป้องกันตัวเอง...ถูกไหม"

   รวีที่หันขวับมาแล้วจับข้อมือข้างที่กำลังฟาดขวดใส่เขาไว้ได้ทัน บอกพลางแย้มยิ้มเย็นชาชวนขนลุกให้อีกฝ่าย จากนั้นเขาก็บิดแขนข้างที่จับอยู่ ส่วนอีกมือก็ดึงเอาขวดในมือนั้นมาถือเอง และพอปล่อยมือออก แขนของวัยรุ่นคนนั้นก็ห้อยตกอยู่ข้างลำตัว พร้อมกับเสียงโวยวายด้วยความตกใจปนเจ็บปวด

   "อ๊าก! แขนชั้น แขนชั้นหลุดแล้ว!"

   "ที่ถูกก็คือไหล่ต่างหากที่หลุด  เอ้า! เมฆมาพอดี แจ้งตำรวจให้ด้วยสิ อยากขึ้นโรงพักเมืองไทยมาตั้งนานแล้ว เคยเข้าออกแต่โรงพักเมืองนอก อยากรู้ว่าที่นี่จะต่างกันขนาดไหน!"

   รวีบอกกับเมฆาที่มาพร้อมยามของห้าง ทางด้านเมฆาพอได้ยินและเห็นสภาพของวัยรุ่นทั้งสอง ที่คนหนึ่งไหล่หลุด ส่วนอีกคนก็ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เจ้าตัวก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

   "เอ้า! เอาไงเด็ก ๆ จะเลิกแล้วต่อกัน หรือจะตามกันไปโรงพักดีเอ่ย แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าไปถึงที่นั่น ฉันจะไม่ยอมกลับบ้านมือเปล่าเฉย ๆ แน่ ...อย่างน้อยก็ต้องขอหักซี่โครง หรือเลาะกระดูกพวกแกออกมาเล่นสักชิ้นสองชิ้นล่ะนะ"

   ท้ายประโยครวีกระซิบข้างหูเด็กวัยรุ่นที่ไหล่หลุด ทำเอาเด็กคนนั้นตาเบิกกว้าง พร้อมกับละล่ำละลักบอก

   "ผะ...ผมขอโทษครับ  ผมกลัวแล้วครับ  ปล่อยผมไปเถอะครับพี่!"

   เพื่อนวัยรุ่นอีกคนพอเห็นดังนั้นก็มองซ้ายมองขวา แล้วรีบวิ่งหนีแหวกฝูงชนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าคนที่ไหล่หลุดมองตามไปด้วยความตกใจ

   "อ้าว! เพื่อนหนีเสียแล้ว...คราวหน้าก็เลือกเพื่อนดี ๆ หน่อยแล้วกัน เอ้า! กัดฟันซะ เดี๋ยวจะต่อไหล่ให้!"

   รวีบอกกับเด็กวัยรุ่นคนนั้น อีกฝ่ายรีบหลับตากัดฟัน ซึ่งแม้จะเจ็บแปลบชั่วครู่ แต่แขนของเขาก็เริ่มขยับได้ตามเดิมอีกครั้ง

   "จำไว้...เป็นเด็ก ก็ทำตัวให้สมเด็ก อย่าข้ามรุ่นหาเรื่องกับผู้ใหญ่ เพราะคราวหน้าอาจจะไม่ใช่แค่ไหล่หลุดแบบนี้หรอกนะ"

   รวียิ้มขู่เตือน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าหงึกหงัก แล้วรีบวิ่งหนีไปจากฝูงชนที่ยืนดูอยู่  จากนั้นเสียงเปาะแปะปรบมือก็ดังขึ้นจากคนเหล่านั้น รวียิ้มน้อย ๆ แล้วโค้งให้ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับเวหา ซึ่งเด็กหนุ่มก็ยังคงใจหายใจคว่ำกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ไม่หาย เพราะหากเมื่อครู่นี้รวีโต้ตอบไม่ทัน มีหวังชายหนุ่มคงหัวแตกได้เลือดเข้าให้แล้ว

   "เดี๋ยวฉันไปเคลียร์กับทางห้างก่อนนะ พวกนายไปจ่ายค่าของก่อนเลยแล้วกัน"

   เมฆาบอกกับเพื่อนของตน พร้อมส่งสายตาอย่างแฝงความนัยให้กัน จากนั้นรวีจึงชักชวนเวหากับมีนาให้ไปที่ช่องจ่ายเงินพร้อมกับเขาแทน

   "ไปกันเถอะครับน้องมีน น้องฟ้า  อ๊ะ! ว่าแต่น้องฟ้าได้น้ำหวานหรือยังครับ"

   "ยังครับ...แต่ไม่อยากกินแล้วล่ะครับ...ผมว่ารีบกลับบ้านกันดีกว่า"

   เวหาบอกกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้รวีถอนหายใจ แล้วจึงหันไปทางมีนาแทน

   "แล้วน้องมีนล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง ได้น้ำตาลหรือยังครับ"

   มีนาชะงัก แล้วมองถุงน้ำตาลในมือ เขาคิดว่ารวีก็คงจะเห็นอยู่ แต่พยายามชวนคุยให้เขาหายตกใจ คิดได้ดังนั้นเด็กหนุ่มก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตรมากกว่าเดิม

   "เอาล่ะครับ ถ้างั้นก็ไปจ่ายเงินกันดีกว่า...อ้อ เดี๋ยวนะครับ"

   รวีซึ่งบังเอิญหันไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยกมือถือขึ้นถ่ายรูปเขา ทำให้เจ้าตัวเผยรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก แล้วจึงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งอึ้งเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินมาหาตน

   "คุณผู้หญิงครับ ผมไม่ห้ามหรอกครับถ้าคุณอยากจะถ่ายภาพผมเก็บไว้  แต่ผมไม่อยากให้ภาพของผมหลุดเผยแพร่ในที่สาธารณะเลยนะครับ...คนอื่น ๆ ก็ด้วยนะครับ ถ้ามีใครก่อนหน้านั้นได้ถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปเอาไว้ หากคุณจะดูเองผมก็คงไม่ว่าอะไร แต่รบกวนอย่าอัพขึ้นสื่อบนเน็ตเลย...เพราะผมคงจะสืบหาต้นตอการปล่อยภาพหรือคลิปได้ไม่ยากนักหรอกนะครับ เอาจริง ๆ ผมก็ไม่อยากจ้างทนายฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลาพักผ่อนในไทยนัก...พวกคุณเองก็คงเหมือนกันใช่ไหมครับ"

   รวียิ้มหวานเยียบเย็นให้กับกลุ่มคนแถวนั้น ซึ่งแต่ละคนก็ยิ้มเจื่อน แล้วพากันพยักหน้าหงึกหงักรับรู้ ก่อนจะแยกย้ายไปคนละทาง ส่วนสาวเจ้าก็รีบลบภาพแล้วโชว์ให้อีกฝ่ายได้เห็น ซึ่งรวีก็ยิ้มหวานฉ่ำพร้อมโค้งศีรษะนิด ๆ ขอบคุณเจ้าหล่อน ทำเอาเจ้าตัวยืนเคลิ้มเสียจนเพื่อนที่มาด้วยต้องเขย่าเรียกสติอยู่สักพักเลยทีเดียว



   ทางด้านเวหากับมีนา ยืนนิ่งอึ้งมองรวีจัดการสถานการณ์ภายในห้างกันอยู่เงียบ ๆ และพอรวีกลับมา ทั้งสองคนก็สะดุ้งจนชายหนุ่มชะงักแล้วถามกลับด้วยสีหน้าที่ขรึมลง

   "กลัวพี่หรือครับ"

   เวหามองใบหน้าหล่อเหลานั้นนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ส่งให้

   "ไม่หรอกครับ แค่ตกใจนิดหน่อยเท่านั้น...ไม่คิดว่าพี่ซันจะ...เอ่อ...จะดูเท่แบบนี้"

   รวีนิ่งอึ้งไปชั่วครู่กับคำพูดของเด็กหนุ่มและพอตั้งสติได้ เจ้าตัวก็รีบย้อนถามกลับไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น

   "น้องฟ้าชมพี่ว่าเท่หรือครับ! พี่ไม่ได้ฟังผิดใช่ไหมครับ!"

   เวหาหน้าแดงนิด ๆ แล้วพยักหน้าค่อย ๆ ทำเอารวีลืมตัวรวบร่างของเด็กหนุ่มมากอดแน่น ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงมีนากระแอมรัวตามมา

   "อะแฮ่ม ๆๆๆ จะทำอะไรช่วยเกรงใจแล้วก็รักษาหน้าพี่ชายผมหน่อยเหอะ คุณพี่ซัน!"

   รวียิ้มเจื่อน แล้วปล่อยร่างของเด็กหนุ่มออกจากอ้อมกอดอย่างนึกเสียดาย ส่วนเวหานั้นพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาอยู่เช่นนั้น จนมีนาต้องจูงมือพี่ชายเดินไปจ่ายเงิน พร้อมกับหันมาบอกคนที่ยืนอึ้งมองอยู่

   "เอ้า! ยืนอยู่ทำไมล่ะครับ  รีบ ๆ ตามมาสิครับ จะได้ไปจ่ายเงินแล้วก็กลับกันสักที!"

   รวีสะดุ้งก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มกว้างรับอย่างอารมณ์ดี เพราะดูเหมือนว่านอกจากเวหาที่เริ่มยอมรับในตัวเขา แม้แต่ก้างขวางคออย่างมีนา ก็ดูเหมือนจะเริ่มทำดีกับเขาด้วยบ้าง คิด ๆ ดูแล้ว ก็น่าจะขอบคุณวัยรุ่นสองคนที่มีเรื่องกันเมื่อครู่อยู่ไม่น้อยทีเดียว



   หลังจากจ่ายเงินเสร็จและขนของมาเก็บที่รถได้สักพัก เมฆาก็เดินยิ้ม ตามมาที่รถ ก่อนจะยัดเทปวิดีโอม้วนหนึ่งใส่มือของรวีแล้วกระซิบบอก

   "ทีแรกจะให้เขาลบทิ้งอย่างเดียวแล้ว แต่แจ็คพอตได้เห็นภาพนายตอนกอดน้องฟ้าพอดี ก็เลยให้เขาบันทึกเก็บเอาไว้แล้วขอม้วนเทปเขามา นายจะได้เอาไว้เป็นที่ระลึกยังไงล่ะ"

   รวีตาเบิกกว้างรับเทปมาถืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะดึงร่างเพื่อนสนิทมากอดแล้วผลักออกอย่างไม่ใส่ใจ พลางพุ่งความสำคัญมาที่เทปในมือแทน ทำเอาเด็กหนุ่มทั้งสองที่หันมาเห็น ถึงกับทำตาปริบ ๆ อย่างแปลกใจ

   "เอ้า! งั้นเราเปลี่ยนคนขับขากลับดีกว่า เพราะขืนให้เจ้าซันขับกลับตอนนี้ พี่ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ ว่าเราจะกลับถึงบ้านได้โดยสวัสดิภาพล่ะนะ!"

   เมฆาที่หันไปสังเกตเห็นสายตาของเด็กหนุ่มทั้งสอง รีบเปลี่ยนเรื่องคุย ทำให้รวีหันขวับมามองเพื่อน แต่พอเห็นเมฆาขยิบตาแล้วบุ้ยใบ้ไปที่เวหา เจ้าตัวก็ร้องอ๋อเบา ๆ แล้วยิ้มรับ ก่อนจะหันไปทางคนที่ยืนอยู่

   "น้องฟ้าครับ นั่งเบาะหลังกันนะครับ ส่วนน้องมีนจะมาเบียดกันที่เบาะหลังก็ได้นะครับ แต่พี่ว่านั่งหน้าสบายกว่า จริงไหมครับ"

   มีนามองคนที่พูดตัดสินใจให้เองเสร็จสรรพ แล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินมานั่งด้านหน้าข้างคนขับแต่โดยดี

   "ครับ ๆ เอาไงก็ได้ แต่รีบกลับบ้านกันสักทีเถอะครับ!"

   มีนาเปรยประชดอย่างหมั่นไส้ ทำให้คนซึ่งกำลังนั่งประจำที่คนขับอมยิ้ม ก่อนจะโน้มตัวไปช่วยดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาให้ร่างเล็กที่กำลังดึงออกมาอย่างลำบากเนื่องจากความไม่คุ้น ทำเอามีนาถึงกับสะดุ้งโหยงหน้าแดงระเรื่อ เพราะเมฆานั้นชะโงกหน้าเข้ามาใกล้กับตนอย่างน่าหวาดเสียว

   "เรียบร้อยแล้วครับน้องมีน"

   เมฆาบอกคนตัวเล็ก ซึ่งมีนาก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วก้มหน้านิ่งเงียบ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงเห็นว่าใบหูขาว ๆ นั้น แดงระเรื่อให้ตนได้เห็น ทำให้เมฆาเผลอหลุดหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างนึกเอ็นดู 

    ส่วนทางด้านคนนั่งเบาะหลังเองนั้น ต่างก็ไม่มีใครสนใจคนนั่งด้านหน้าเท่าใดนัก เพราะรวีเองก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าเวหาตรง ๆ ด้วยแววตาหวานซึ้งไม่วางตา  ส่วนเวหาเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ทำให้เด็กหนุ่มจำต้องก้มหน้างุด ๆ ไม่กล้าเงยหน้ามองคนนั่งข้าง ๆ ด้วยความเขิน และเป็นเช่นนั้นไปจนเกือบตลอดทางกลับบ้านเลยทีเดียว




... TBC ....


ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แหม.. ต้องให้น้องมีนรีบไปเอาน้ำตาลมาเพิ่มแล้วละ
ที่เอามานั้น ตอนนี้คงจืดสนิทไปแล้ว  :impress3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ซันเท่ห์มากกกกก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
พี่ซันเนี่ยแอบโหดนะเนี่ยระวังน้องกลัวน้า
อย่าเพิ่งแสดงตัวตนมากนักเดี๋ยวน้องเตลิด :z1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เส้นทางรักของรวีกำลังไปได้สวยเลยนะเนี่ย
เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ๊ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1: คืบหน้าแล้ว สองคู่เลยนะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
*มาต่อแล้วค่ะ เกือบลืมแปะ แหะ ๆ  :o8: *


บทที่ 9



   พอกลับมาถึงบ้าน เมฆาและรวีต่างเสนอให้ปิดเรื่องวัยรุ่นที่มาหาเรื่องในวันนี้ เพื่อไม่ให้วารีและณรงค์ไม่สบายใจ โดยที่เวหากับมีนาเองนั้นก็เห็นดีด้วย

   "กลับมาแล้วหรือจ๊ะ ไหนดูซิ ว่าซื้ออะไรกันมาบ้าง..."

   วารีที่ออกมาต้อนรับยืนนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เมื่อได้เห็นจำนวนข้าวของที่ทั้งสี่คนซื้อมา เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเหลือบไปมองลูกชายทั้งสองด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย ทำเอาเวหากับมีนาหน้าสลดจนสองหนุ่มต้องรีบช่วยแก้ตัว

   "น้องมีนกับน้องฟ้าช่วยกันบอกแล้วล่ะครับ แต่พวกผมกลัวว่าถ้าซื้อน้อยจะไม่พอ ก็เลยซื้อมาตุนไว้ จะได้ไม่ต้องไปซื้อหลาย ๆ รอบยังไงล่ะครับ"

   วารีฟังที่รวีบอกแล้วหันไปทางลูกชายของเธอ ซึ่งทั้งสองก็พยักหน้าหงึกหงักเป็นการยืนยันคำพูดนั้น ทำให้หญิงสาวต้องถอนหายใจอีกครั้ง

   "เฮ้อ! เอาเถอะ น้าก็คิดไว้บ้างแล้วว่าคงจะออกมาราว ๆ นี้  เอ้า! ช่วยกันขนของเข้าบ้านกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวสักพักข้าวกลางวันก็เสร็จแล้วล่ะ"

   วารีสรุปตัดบท ทำให้หนุ่ม ๆ ต่างลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วจึงช่วยกันขนของเข้าที่พักกันอย่างขยันขันแข็ง จนหญิงสาวที่มองอยู่อดยิ้มไม่ได้



   หลังจากนั่งพักคุยกันรออาหารกลางวันอยู่ครู่ใหญ่ ณรงค์ก็กลับมาจากสวน ซึ่งรวีกับเมฆาก็ไหว้ทักทายอีกฝ่ายตามมารยาท ณรงค์นั้นยกมือรับไหว้ หากแต่มีสีหน้าที่ขรึมกว่าปกติจนคนอื่น ๆ ประหลาดใจ ยกเว้นก็แต่วารีที่พอจะรู้ดีอยู่แล้วว่า เป็นเพราะเหตุใดสามีของเธอจึงมีท่าทางผิดปกติให้เห็นเช่นนี้

   "คุณรวี พอจะมีเวลาพูดคุยกับผมตามลำพังสักครู่ไหมครับ"

   ณรงค์หันไปทางรวีแล้วเอ่ยขึ้น ทำให้คนฟังชะงัก ก่อนจะบังเอิญเหลือบไปเห็นวารีถอนหายใจเบา ๆ เพียงเท่านั้นชายหนุ่มก็พอจะคาดเดาสถานการณ์ในยามนี้ขึ้นมาได้

   "ได้ครับคุณน้า"

   รวีพยักหน้าพร้อมตอบรับด้วยท่าทางจริงจังไม่แพ้กัน จากนั้นพวกเขาจึงเดินกันไปทางหลังบ้าน ทำให้เวหาที่มองตามไปนึกแปลกใจในท่าทางของบิดา และนึกสงสัยว่าทั้งคู่จะสนทนากันเรื่องใด

   "แม่บอกเรื่องที่พี่ซันเขามาตามจีบลูกให้พ่อรู้ไปแล้วล่ะ"

   เสียงมารดาที่ขัดขึ้นเบา ๆ ทำเอาเวหา มีนา รวมไปถึงเมฆาที่ยืนมองตามไล่หลังของชายสองคนนั้นไปสะดุ้งโหยง แล้วต่างหันกลับมามองคนพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง

   "ยังไงสักวันก็ต้องรู้อยู่ดีใช่ไหมล่ะ อีกอย่างดูจากท่าทางของตาซันก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรด้วย แม่เลยชิงบอกพ่อเขาก่อน ขืนปล่อยให้รู้เองทีหลังมีหวังโกรธแย่"

   เมฆามองหญิงสาวตรงหน้าเขาพลางกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเอ่ยถามกลับไปบ้าง

   "แล้วคุณน้าณรงค์ว่ายังไงครับ โกรธที่เจ้าซันมาจีบน้องฟ้าหรือเปล่าครับ"

   เวหาที่ถูกเอ่ยถึงชะงักเล็กน้อย เจ้าตัวมองไปยังทิศที่คนทั้งคู่เดินหายไป ก่อนจะหันกลับมารอฟังคำตอบของมารดาอย่างเป็นกังวล

   "ก็ไม่โกรธอะไรหรอกจ้ะ แต่ก็ขรึม ๆ ไป...บางทีพ่อเค้าอาจจะทำใจลำบากนิดหน่อย  เพราะถึงจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่พ่อเค้าก็รักหนูเหมือนลูกในไส้คนหนึ่งเลยนะจ๊ะฟ้า"

   เวหาเม้มปากน้อย ๆ ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักรับรู้ด้วยความตื้นตัน ส่วนเมฆาถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเปรยขึ้นบ้าง

   "ถ้าไม่มีเรื่องราวอะไรใหญ่โตก็ดีนะครับ...ผมเข้าใจว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คงจะทำใจยากในเรื่องนี้  ขนาดพ่อแม่ของเจ้าซันยังช็อกและไม่ยอมรับเรื่องนี้เลย  ไม่สิ...จะว่าไปที่ฟังมาก็แค่ฝ่ายพ่อนั่นล่ะครับ...เจ้าซันเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับพ่อมาตั้งหลายปี จนแทบจะตัดพ่อตัดลูกกันด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเจ้าซันก็ทำให้พ่อเขายอมรับเรื่องความรักที่เขามีต่อน้องฟ้าได้ และยอมปล่อยให้มาเมืองไทยนี่ล่ะครับ"

   คำบอกเล่าของเมฆาทำให้วารีและสองพี่น้องถึงกับตกตะลึงและนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่  โดยเฉพาะเวหา เขาไม่คิดว่านอกจากเรื่องความรู้สึกที่มั่นคงต่อเขามาตลอดแล้ว รวียังถึงกับต้องทะเลาะกับบิดาเพื่อเขาอีกด้วย

   "ผม...ไม่เข้าใจเลย...ทำไมเขาถึงได้มั่นคงกับผมถึงขนาดนี้ล่ะครับ"

   "เรื่องนี้น้องฟ้าคงต้องไปถามกับเจ้าซันมันเองแล้วล่ะครับ ว่าเพราะอะไร"

   เมฆาตอบคำถามนั้นพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ส่วนทางด้านมีนาเองก็จ้องมองพี่ชายนิ่ง เขามั่นใจว่าเวหาเริ่มใจอ่อนและสงสารรวีเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นเขากลับไม่กล้าแย้งอะไรออกไป เพราะตัวเขาเองพอได้ยินเช่นนี้ ก็เริ่มชักจะใจอ่อนต่อความรักที่รวีมีให้กับพี่ชายของเขาบ้างแล้วเหมือนกัน   

   ส่วนทางด้านเวหานั้น เด็กหนุ่มกำลังนิ่งเงียบครุ่นคิดถึงวันแรกที่ตนได้พบกับรวี แม้เขาจะจำอีกฝ่ายไม่ได้สักนิด ทว่าเวลาที่สายตาอ่อนโยนแน่วแน่จริงใจคู่นั้นจ้องมองมายังเขาทีไร เวหาก็อดรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจอย่างบอกไม่ถูกขึ้นมาทุกที

    เด็กหนุ่มไม่คิดหรอก ว่าสิ่งนั้นจะเป็นความรัก เพราะว่ามันยังคงเร็วเกินไปสำหรับเขา หากแต่เวหาก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่า เขานั้นรู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของรวีที่มีให้กับเขา และรู้สึกพึงพอใจที่อีกฝ่ายแสดงออกให้เห็นว่าเขานั้นสำคัญมากกับตนเองเพียงใด

    ...มันอาจจะยังไม่ถูกเรียกว่ารัก แต่เขาก็เริ่มจะคิดว่า มันคงจะดีไม่น้อย หากเขาได้อยู่เคียงข้างกับรวีตลอดไปเรื่อย ๆ เช่นนี้...

   

   อีกด้านหนึ่ง ณรงค์กับรวีกำลังยืนอยู่ด้านหลังบ้าน ชายหนุ่มสูงวัยมองเหม่อสายตาไปยังลำคลองเบื้องหน้า ก่อนจะเปรยขึ้นหลังจากเงียบมาสักครู่

   "คุณรวี ...คุณน่ะชอบเวหาลูกชายของผมใช่ไหม"

   รวีแม้จะพอคาดเดาได้ แต่ก็ยังคงสะดุ้งนิด ๆ ทว่าพออีกฝ่ายหันมาสบตาเขา ชายหนุ่มก็มีสายตาจริงจังพร้อมเอ่ยตอบกลับ

   "ครับ! ผมชอบน้องฟ้า...ชอบมานานแล้วตั้งแต่เมื่อสิบห้าปีก่อน"

   พอได้เห็นแววตาแน่วแน่ของอีกฝ่าย ณรงค์ก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยตามมาแผ่วเบา

   "แต่ตอนนั้นฟ้าก็เพิ่งแค่สามขวบนะ..."

   "ครับ...แค่สามขวบ แต่ผมก็ชอบเขา"

   ณรงค์มีสีหน้าอึ้ง ๆ ปนลำบากใจที่จะพูดต่อ ทำให้รวีนึกขำแล้วจึงเป็นฝ่ายพูดเสียเอง

   "ผมเข้าใจนะครับ ว่ามันอาจจะดูไม่ปกตินัก แต่ความรู้สึกของผมตอนนั้นเป็นของจริง และมันก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อน ...ไม่สิ...อาจจะเปลี่ยนไปตรงที่ว่า ผมตอนนี้เริ่มชอบเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นทุกครั้งที่ได้เจอกันนั่นล่ะครับ"

   ณรงค์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะมองอย่างไรก็ไม่เห็นว่ารวีนั้นมีวี่แววโกหกหลอกลวงหรือล้อเล่นแต่อย่างใด

   "แล้วถ้าฟ้าไม่รู้สึกแบบเดียวกับคุณล่ะ คุณจะทำอย่างไร จะออกจากชีวิตของเขาไปจริง ๆ อย่างที่เคยบอกแน่น่ะหรือ"

   คำถามถัดมา ทำให้รวีชะงัก เขายิ้มกับตัวเองน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบออกไปตามตรงโดยไม่คิดปิดบัง

   "บอกตามตรงนะครับ ผมไม่คิดว่าจะตื๊อแค่ครั้งสองครั้งแล้วยอมแพ้หรอกครับ ...ผมตั้งใจจะตื๊อจีบไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้องฟ้าจะเห็นใจและยอมรับรักผมจนได้ ...แต่คุณน้าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่มีวันทำร้ายหรือบีบบังคับใจน้องฟ้าเด็ดขาด และถ้าเกิดสุดท้ายแล้ว น้องฟ้าก็ให้ผมได้แค่พี่ชาย ผมก็จะตัดใจและยอมรับผลที่เกิดขึ้น และจะไปจากชีวิตของน้องฟ้าอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้จริง ๆ"

   ณรงค์นิ่งพิจารณาชายผู้อ่อนวัยกว่าตนอยู่สักพัก แล้วจึงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

   "เฮ้อ...เอาเถอะ เรื่องของความรัก ยังไงมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน  ถ้าคุณสัญญาว่าจะให้เกียรติลูกชายผมและไม่บังคับจิตใจเขา ผมก็คงไม่คิดจะไปขัดขวางอะไรเรื่องความรักของคุณหรอกนะ"

   รวีชะงัก ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความยินดี ที่อีกฝ่ายนั้นยอมรับเรื่องความรักของเขาง่ายดายกว่าที่เขาเคยคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นเสียอีก

   "ขอบคุณครับคุณน้า...ขอบคุณจริง ๆ ครับ"

   ณรงค์มองชายผู้อ่อนวัยกว่าตนที่โค้งศีรษะให้เขา แล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะแสร้งถามหยอกออกไป

   "แล้วก่อนหน้านั้น ที่เห็นว่าสนใจเรื่องลงทุนเกี่ยวกับการเกษตรนั่น พูดเพื่อเอาใจผม หรือคิดจะทำจริง ๆ ล่ะ"

   รวีชะงักแล้วจึงเงยหน้ามองคนพูด ก่อนจะยิ้มแย้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้ายิ้มกระเซ้าของอีกฝ่าย

   "เรื่องนั้นผมพูดจริงนะครับ ...ผมคิดว่าจะมาทำธุรกิจลงทุนในไทยนี่ล่ะครับ  ผมไม่ชอบงานของพ่อผมเท่าไหร่ นอกจากเรื่องน้องฟ้าแล้ว ที่ผมตื๊อมาไทยให้ได้ ก็เพราะอยากจะพิสูจน์ฝีมือตัวเองให้พ่อผมได้เห็นว่า ไม่ต้องพึ่งพาอิทธิพลของเขา ผมก็ทำมาหากินเหมือนชาวบ้านได้เช่นกัน"

   ณรงค์นิ่วหน้าเล็กน้อย เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาเช่นนั้น

   "คุณไม่ค่อยจะถูกกับพ่อของคุณนักหรอกหรือ"

   รวียิ้มน้อย ๆ แล้วตอบกลับไปตามตรง 

   "ก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างล่ะนะครับ...แม่เคยบอกว่าผมกับพ่อนิสัยคล้ายกัน ก็เลยทะเลาะกันง่าย ...แต่จริง ๆ แล้วผมว่าตัวผมนิสัยดีกว่าพ่อนิดหน่อยล่ะนะครับ"

   ท้ายประโยครวีบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้คนมองถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องของบิดาตนให้อีกฝ่ายได้ฟังต่อ

   "เรื่องของเรื่องก็คือ พ่อไม่เห็นด้วยที่ผมชอบผู้ชายด้วยกัน และพ่อก็อยากให้ผมรับช่วงงานที่เขาทำอยู่ต่อ...แต่ผมก็ปฏิเสธเขาทั้งสองเรื่องนั่นล่ะครับ ...สำหรับเรื่องงานที่ผมจะเลือกทำเองพ่อก็พอยอมรับได้ แต่เรื่องน้องฟ้านี่ผมต้องใช้ความพยายามทั้งตื๊อทั้งใช้เล่ห์กลอยู่หลายปี กว่าพ่อจะยอมรับได้ล่ะนะครับ ก็ลำบากอยู่เหมือนกัน ...แต่ก็คุ้มค่านะครับ เพราะน้องฟ้าที่ผมชอบ เติบโตขึ้นมาอย่างที่ผมคาดฝันไว้...เขายังคงโตมาเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี และรักครอบครัวมากอีกด้วย... คนแบบนี้ล่ะครับ ที่ผมอยากให้มาอยู่เคียงข้างและเป็นคู่ชีวิตกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายจากกันไป"

   ณรงค์มองชายหนุ่มที่พูดถึงลูกชายของเขาด้วยสีหน้าอ่อนโยน แล้วจึงลอบถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นตามมา

   "ผมดีใจนะที่ได้ยินว่าคุณยอมทำทุกอย่างเพื่อฟ้าแบบนั้น...ถึงฟ้าจะไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของผม แต่ผมก็รักเขาเหมือนเขาเป็นสายเลือดของผมคนหนึ่ง...ถ้าเกิดอนาคตข้างหน้าพวกคุณใจตรงกันแล้ว ผมก็คงวางใจฝากลูกชายของผมไว้กับคุณได้ใช่ไหม"

   รวีนิ่งเงียบไปพัก แล้วจึงโค้งศีรษะให้คนตรงหน้าอย่างสุภาพ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาประสานสายตากับอีกฝ่ายนิ่ง

   "ถ้าเวลานั้นมาถึง ผมขอสัญญากับคุณน้าว่า ผมจะดูแลน้องฟ้าให้เป็นอย่างดี และจะใช้ทั้งชีวิตนี้ปกป้องเขาให้เขามีรอยยิ้มได้ตลอดไปครับ"

   "อืม...ผมเชื่อว่าคุณจะรักษาสัญญา"

   ณรงค์รับคำก่อนจะนิ่งเงียบไปอีกสักพัก แล้วเอ่ยถามบางสิ่งที่ทำให้รวีสะดุ้ง

   "แล้วเพื่อนคุณล่ะ...คงไม่ได้คิดมาจีบมีนาอีกคนใช่ไหม"

   รวียิ้มเจื่อนไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธออกไป เพราะเท่าที่สังเกตดูเขาก็เห็นว่าเพื่อนของเขาเริ่มจะสนใจมีนาเข้าบ้างให้แล้ว

   "เอ่อ...เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจนักครับ"

   ชายหนุ่มเลี่ยงตอบ ทำให้คนสูงวัยกว่าขมวดคิ้วนิด ๆ

   "ถ้าแค่หยอกล้อเล่น ๆ ผมก็ไม่ว่าอะไร ...แต่ถ้าไม่จริงจังก็อย่ามาให้ความหวังกัน  มีนายังเด็กบางครั้งก็แยกแยะไม่ออกระหว่างจริงจังกับล้อเล่น ผมไม่อยากให้ลูกชายผมกลายเป็นของเล่นใคร คุณเข้าใจนะ"

   รวีเม้มปากน้อย ๆ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วจึงพยักหน้ารับรู้ค่อย ๆ

   "ครับ...ผมจะพูดคุยกับเมฆเรื่องนี้เอง ถ้าเขาไม่คิดจริงจังกับน้องมีน ผมจะเตือนไม่ให้เขาเข้าใกล้น้องมีนมากเกินไปอย่างที่เป็นอยู่....แต่ถ้าเขาเกิดจริงจัง ผมเองก็อยากให้คุณน้าให้โอกาสกับเพื่อนของผมเหมือนที่ให้กับผมบ้าง... เมฆเขาอาจจะดูเหมือนเพลย์บอยทำตัวล่องลอยไปสักหน่อย แต่เขาก็เป็นคนดีและน่าคบหาคนหนึ่ง บางทีถ้าเขาเจอคนที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันตลอดไป เขาก็คงพร้อมจะทำทุกอย่างให้คนที่เขารักมีความสุข...ผมเชื่อเช่นนั้นครับ"

   ณรงค์รับฟังแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้ารับรู้ตามมาค่อย ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้รวียิ้มออก

   "ขอบคุณคุณน้ามากเลยครับ...ผมอยากให้พ่อจอมเอาแต่ใจของผม ได้มาเจอคุณน้าสักครั้งจังเลย  เผื่อกลับไปจะได้นิสัยดีขึ้นกว่านี้บ้าง"

   รวีบอกพร้อมยิ้มแย้มจริงใจเสียจนคนฟังไม่กล้าพูดอะไรแย้งออกไป นอกจากยิ้มเจื่อนตอบรับเท่านั้น พวกเขาคุยกันถึงเรื่องเวหาอยู่อีกสักพัก ทั้งคู่จึงพากันเดินตรงกลับเข้าบ้าน แล้วก็ได้พบว่าสมาชิกคนอื่นกำลังนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก และจ้องมองมายังพวกเขาทันทีด้วยสายตากังวลแกมสงสัย

   "ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า...พ่อก็แค่อยากคุยกับคุณรวีเขา ตามประสาว่าที่พ่อตาในอนาคตก็เท่านั้นเอง"

   ณรงค์แกล้งหยอก ทำเอาเวหาหน้าแดงวาบ ส่วนมีนาสะดุ้งโหยง

   "แม้แต่พ่อก็ยอมรับหรือครับ!"

   "พ่อน่ะก็แล้วแต่พี่ของลูกต่างหาก...แต่ดูจากท่าทางของพี่ชายลูกที่เห็น บางทีที่พ่อพูดออกไป ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องจริงตามมาในไม่ช้านี้ก็ได้มั้ง"

   ณรงค์เปรยยิ้ม ๆ ซึ่งก็ทำให้เวหาก้มหน้างุด ๆ ไม่กล้าพูดอะไร มีนามองพ่อทีพี่ชายที แล้วจึงโพล่งออกมาอย่างหงุดหงิด

   "ลูกชายทั้งคน ทำไมยกกันให้ง่ายแบบนี้! แล้วนี่ถ้ามีผู้ชายมาขอมีนบ้าง หวังว่าพ่อแม่คงจะไม่ยกให้ง่าย ๆ แบบพี่ฟ้าอีกคนนะนั่น!"

   เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังประสานขึ้นหลังจากมีนาพูดจบ จากนั้นวารีจึงเอ่ยขึ้นมาก่อนอย่างอารมณ์ดี

   "ถ้ามีนโอเค แม่กับพ่อก็คงไม่คิดขัดล่ะนะ แม่ถือหลักว่า เรื่องความรักก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน พ่อกับแม่ทำได้ก็เพียงมองดูอยู่ห่าง ๆ และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ก็เท่านั้น ส่วนเรื่องการตัดสินใจก็เป็นหน้าที่ของลูก ที่จะเป็นคนตัดสินใจเลือก พ่อแม่ไม่เข้าไปก้าวก่ายหรอกจ้ะ"

   มีนานิ่งอึ้ง แล้วจึงแสร้งทำเสียงในลำคออย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่พอคนอื่นเผลอเขาก็แอบชำเลืองมองเมฆาที่กำลังนั่งคุยแสดงความยินดีกับรวีแทน ก่อนจะรีบตวัดสายตากลับเมื่อคนที่ถูกมองเหมือนจะรู้สึกตัว ทางด้านเมฆานั้นอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังแสร้งทำเป็นมองไปทางอื่นแต่ใบหน้ากับใบหูขาวเนียนนั่นดูแดงระเรื่อนิด ๆ พอจะให้จับผิดได้อยู่ดี

   "เอาล่ะจ้ะ ในเมื่อเคลียร์กันเรียบร้อย ก็ไปยกกับข้าวมาตั้งโต๊ะดีกว่าอ้อ! ซัน ถ้าเกิดฟ้ายอมตกลงคบด้วยจริง ๆ ล่ะก็ น้าขออะไรจากเธอสักอย่างจะได้ไหมจ๊ะ"

   วารีหันไปถามรวีที่มีสีหน้าประหลาดใจแกมสงสัย เช่นเดียวกับคนอื่นในห้อง ทว่าชายหนุ่มก็ยังคงพยักหน้ารับรู้ตอบกลับไป

   "ได้ครับ คุณน้าอยากขออะไรหรือครับ"

   วารียิ้มหวาน แล้วจึงบอกในสิ่งที่ทำให้หนุ่ม ๆ ในห้องพากันนิ่งเงียบไปตาม ๆ กัน

   "ถ้าซันอยากได้น้องไปเป็นเจ้าสาว น้าก็อยากขอให้ฟ้าเขาเรียนให้จบ ป.ตรีเสียก่อน แล้วระหว่างนั้นก็อยากให้ซันหักห้ามใจ ไม่ชิงสุกก่อนห่ามกับน้องเขา ซันจะให้สัญญากับน้าเรื่องนี้ได้ไหมล่ะจ๊ะ"

   "คุณแม่! ขออะไรออกไปน่ะครับ!"

   มีนาโพล่งออกไปด้วยความอายแทนพี่ชาย ทว่าวารีนั้นกลับหันมามองลูกชายคนเล็กของเธอแล้วย้อนกลับหน้าตาเฉย

   "อ้าว! ก็ขอเรื่องปกติตามประสาคนเป็นแม่น่ะสิจ๊ะ หรือมีนอยากให้พี่ของมีนเสียตัวก่อนแต่ง"

   หนุ่ม ๆ แต่ละคนทำหน้ากันแทบไม่ถูก ทางด้านณรงค์ทำเป็นเปรยบอกพึมพำขอตัวไปเตรียมยกกับข้าวมาขึ้นโต๊ะในครัวแทน ส่วนเมฆาแสร้งทำเป็นมองไปทางอื่น และเวหานั้นยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่ตามเดิม หากแต่ที่จริงแล้วนั้นเด็กหนุ่มกำลังรู้สึกอับอายจนแทบไม่อยากนั่งอยู่แถวนี้ด้วยซ้ำ

   "เอ้า! ว่าไงจ๊ะตาซัน ให้สัญญากับน้าเรื่องนี้ได้ไหม"

   รวีกลืนน้ำลายลงคอ พอหันไปมองเวหาที่นั่งก้มหน้าก้มตาแต่ใบหูแดงก่ำนั่น ก็ทำให้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหันมาตอบหญิงสาวอย่างไม่เต็มเสียงนัก

   "ได้ครับ...ผมจะพยายามรักษาสัญญา เอ่อ...แต่ถ้าเกิดเผลอตัวกอดไปบ้าง จูบไปบ้าง จะเป็นอะไรไหมครับ"

   มีนาหันขวับไปมองคนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่ารวีจะกล้าพูดออกมาแบบนี้ ส่วนเวหาเริ่มทนไม่ไหว เจ้าตัวลุกพรวด แล้วบอกมารดาด้วยใบหน้าแดงก่ำ

   "ผมว่าผมไปช่วยพ่อยกกับข้าวด้วยดีกว่า ขอตัวนะครับ!"

   บอกจบเจ้าตัวก็วิ่งพรวดพราดหายไปในครัวอย่างรวดเร็ว ทำให้แต่ละคนมองไปตาปริบ ๆ จากนั้นวารีจึงหันมาทางรวีอีกครั้งก่อนจะสนทนากันต่อถึงเรื่องเมื่อครู่

   "อืม...สำหรับคำตอบของซันเมื่อสักครู่ ถ้าพวกเธอเป็นคู่รักกันแล้ว เรื่องสัมผัสแตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง ก็คงจะเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ...แต่ที่น้าต้องยื่นข้อเสนอเช่นนี้ให้กับซัน ก็เพราะน้าอยากจะพิสูจน์ดูว่า ซันจะรักฟ้ามากพอที่จะหักห้ามใจตัวเองในเรื่องนี้ได้ไหม ...ถึงฟ้าจะไม่ใช่ลูกสาว แต่ในเมื่อซันอยากขอเขาไปเป็นเจ้าสาว ซันก็ควรจะทำตามประเพณีที่ดีงามของไทย จริงไหมล่ะจ๊ะ... แต่ถ้าเรื่องแค่นี้ซันยังทำไม่ได้ ถ้าปล่อยให้ไปอยู่ด้วยกัน น้าก็ชักจะไม่มั่นใจเสียแล้วล่ะว่าซันจะดูแลลูกชายของน้าได้เป็นอย่างดีไหมล่ะนะ"

   เมฆาเหลือบมองว่าที่แม่ยายของเพื่อนสนิทแล้วกลืนน้ำลายลงคอ เพราะที่ผ่านมาเห็นว่าวารียอมไฟเขียวเรื่องจีบลูกชายง่าย ๆ แต่เอาจริง ๆ แล้วก็ใช่ว่าหญิงสาวจะยอมให้เพื่อนของเขาคบหากับลูกของเธอได้ง่ายดายอย่างที่พวกเขาเคยคาดคิดไว้ก่อนหน้านั้น

   "ครับ...ผมจะพยายามอดทนอดกลั้น ไม่ชิงสุกก่อนห่ามก่อนที่น้องฟ้าจะเรียนจบให้ได้ครับ"

   รวีรับคำกลับไปอย่างนึกปลง เพราะแค่รู้ว่าเวหาเองก็ดูไม่รังเกียจและเริ่มแสดงว่าเจ้าตัวก็มีใจกับเขาให้ได้เห็น แค่นี้เขาก็แทบจะโผเข้าไปกอดเด็กหนุ่มเข้าให้แล้ว แต่ขืนเขาลืมตัวทำเกินเลยไปกับเวหาอย่างที่ต้องการ มีหวังวารีหรือแม้แต่เวหาเองก็อาจจะผิดหวังในตัวเขาก็เป็นได้ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้รวีพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้กลับมาหาคนที่เขารัก ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ความต้องการทางร่างกายเพียงชั่ววูบ มาทำให้ความรักของเขาต้องพังทลายลงได้เป็นแน่   

   ทางด้านวารีพอเธอสังเกตเห็นแววตาที่ดูหนักแน่นจริงจังขึ้นของรวี เธอก็ยิ้มออกมานิด ๆ อย่างพึงพอใจ จากนั้นเธอจึงชักชวนหนุ่ม ๆ ให้ไปร่วมโต๊ะอาหาร ซึ่งป่านนี้น่าจะถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วโดยทั้งสามคนก็ต่างพยักหน้าหงึกหงักตอบรับ แล้วเดินตามหญิงสาวไปอย่างเงียบเชียบเรียบร้อย จนวารีที่เหลือบมองดูถึงกับอมยิ้มอย่างนึกขำแกมเอ็นดูเลยทีเดียว



   หลังจากพวกรวีกลับไปบ้านพักของพวกเจ้าตัวแล้ว  มีนาก็ลงมือถามบิดากับมารดาของตนอย่างสงสัย ว่าเหตุใดจึงยอมรับเรื่องที่รวีมาตามจีบเวหาได้ง่ายนัก  ซึ่งณรงค์ก็หันไปมองภรรยาแล้วยิ้มน้อย ๆ โดยวารีเองก็ยิ้มตอบ ก่อนจะหันมาชวนลูกชายทั้งสองไปยังห้องรับแขก เพื่อนั่งฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้

   "ลูกรู้ไหมว่า ก่อนที่แม่จะแต่งงานกับพ่อเจตรินของลูกน่ะ แม่กับพ่อณรงค์คนนี้เคยคบกันมาก่อน"

   วารีหันไปถามเวหา ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งแล้วหันมามองบิดาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เช่นเดียวกับมีนาที่มองทั้งคู่สลับไปมาอย่างตกใจเช่นกัน

   "ไม่แปลกหรอกที่พวกลูกไม่รู้เรื่องนี้ เพราะแม่ไม่คิดจะเล่าให้ฟัง จนกว่าจะถึงวันที่พวกลูกเติบโต และมีความรักเช่นกันน่ะจ้ะ"

   วารีอมยิ้มเมื่อเห็นลูกชายทั้งสองทำหน้าตาประหลาดใจปนสงสัย เห็นดังนั้นเธอจึงเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตให้บุตรชายฟังต่อ

   "แม่กับพ่อณรงค์เคยคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน พอเราเรียนจบ พ่อณรงค์เค้าก็ไปสู่ขอแม่กับคุณตาแล้วก็คุณยาย แต่ตอนนั้นพ่อณรงค์เค้าฐานะการเงินไม่ค่อยดีนัก คุณตากับคุณยายก็เลยรังเกียจและไม่ยอมยกแม่ให้ แถมยังบังคับจับแม่ให้ไปแต่งงานกับลูกชายเพื่อนของพวกเขาอีก ทำให้พ่อณรงค์ต้องยอมตัดใจและไปจากชีวิตของแม่ในที่สุด..."

   ณรงค์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยตามมาเมื่อเห็นวารีดูมีสีหน้าเศร้านิด ๆ ยามเมื่อหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต

   "ก็เพราะพ่อเจตรินของฟ้าเขาเป็นคนดี แล้วก็มีฐานะการงานมั่นคง...ที่สำคัญพ่อเพิ่งจะได้รู้ตอนที่พ่อแอบไปพบเขาเพื่อจะคุยตกลงเรื่องแม่ของลูก  คุณเจตรินเขาบอกพ่อว่าที่จริงเขาน่ะแอบชอบแม่ของลูกมานานแล้ว แต่แม่ของลูกคิดกับเขาแค่พี่ชายคนหนึ่ง จึงทำให้เขาไม่กล้าเผยตัว จนกระทั่งถูกพ่อแม่บังคับให้จับแต่งงานเช่นนี้ ...เขาขอโทษพ่อและบอกพ่อว่าจะพยายามพูดเรื่องนี้ให้พ่อแม่ของตนเข้าใจ และยกเลิกการแต่งงานให้ได้ เพราะเขาไม่อยากให้วารีเสียใจ....พอพ่อเห็นดังนั้น พ่อจึงได้ตัดสินใจออกไปจากชีวิตแม่ของลูก โดยเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้วารีได้อ่าน ...ในเนื้อความนั้น พ่อเขียนต่อว่าตัวเองว่าเป็นคนไร้ค่า ไม่คู่ควรกับแม่ของลูก....พ่อรู้ดีว่าแม่ของลูกไม่ชอบคนที่ท้อแท้ง่าย มองโลกในแง่ร้าย ไม่สู้คน ...พ่อจึงทำเป็นว่าพ่อกำลังกลายเป็นคนเช่นนั้น ...แล้วก็ได้ผล แม่ของลูกโกรธพ่อและเสียใจมาก สุดท้ายเขาจึงตอบตกลงและยอมแต่งงานกับคุณเจตรินแทนในที่สุด"

   มีนากับเวหานิ่งอึ้งรับฟังในสิ่งที่พวกตนไม่เคยรู้มาก่อน โดยเฉพาะเวหานั้นเขากำพร้าบิดาตั้งแต่เกิดเพราะอุบัติเหตุ ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงความอบอุ่นหรือมีความทรงจำเกี่ยวกับบิดาแท้ ๆ ของตนมาก่อน

   "พี่เจตรินเป็นคนดีมาก...แต่น่าเสียดายที่อายุสั้น เขาตายก่อนที่ฟ้าจะคลอดเพราะอุบัติเหตุ แถมคุณพ่อของพี่เจตริน ก็มาหัวใจวายตายตามลูกชายไปอีก แถมเรื่องสมบัติของฝ่ายพ่อลูกก็มาถูกพวกญาติพี่น้องที่เหลือโกงไป ตอนนั้นแม่ไม่มีกระจิตกระใจจะไปสู้รบปรบมือกับพวกญาติของพ่อลูกสักนิด  แม่ได้แต่เคว้งคว้างไม่รู้จะทำยังไง แม่ร้องไห้ทุกวัน ข้าวปลาก็แทบไม่ได้กิน จนคุณตาและคุณยายของลูกก็เครียดตาม และสุดท้ายพอพ่อณรงค์รู้ข่าว เขาก็รีบกลับมาหาแม่ มาช่วยดูแล ปลอบโยนให้แม่คลายเศร้า...ตอนแรกแม่ก็โมโหและไม่ต้องการให้เขาเข้าใกล้  แต่พ่อณรงค์เขาเตือนสติแม่เรื่องลูก ทำให้แม่กลับมาคิดได้ และกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้ง ส่วนคุณตาคุณยายเห็นว่าพ่อณรงค์ทำเพื่อแม่ ก็เลยไม่ต่อต้านหรือขับไล่รังเกียจเขาอีก..."

   เวหาหันกลับไปมองคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาต่างสายเลือด แล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะลุกไปนั่งคุกเข่าข้างอีกฝ่าย พลางไหว้ที่ตักขอบคุณที่ณรงค์มีส่วนทำให้เขาเกิดมาดูโลกใบนี้อย่างปลอดภัยได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ณรงค์ลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างตื้นตัน ส่วนวารียิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ และมีนาก็มีรอยยิ้มยินดีและปลื้มปีติที่ได้รู้ว่าณรงค์ซึ่งเป็นบิดาแท้ ๆ ของตนเป็นคนดีถึงเพียงนี้

   "จากนั้นพ่อก็ใช้เวลาเกือบห้าปี เทียวไปเทียวมาเยี่ยมเยียนฟ้ากับแม่ และสร้างเนื้อสร้างตัวจนพอมีพอกิน ก่อนจะมาขอแม่ของลูกแต่งงาน ซึ่งคราวนี้คุณตาคุณยายของพวกลูกต่างก็ยอมรับให้พ่อเป็นลูกเขยของพวกท่านได้สักทีล่ะนะ"

   ณรงค์เล่าเสริมเรื่องราวของภรรยา พร้อมกับขยิบตาให้ในท้ายประโยค  ซึ่งก็ทำให้ลูกชายทั้งสองอมยิ้มน้อย ๆ ส่วนวารีหัวเราะเบา ๆ แล้วจึงบอกกับลูกชายที่รักทั้งสองคนของเธอต่อ

   "ก็เพราะว่าพ่อและแม่เคยมีความรักที่ไม่สมหวังเพราะถูกกีดกันจากผู้ให้กำเนิด ดังนั้นพ่อกับแม่จึงตัดสินใจแล้วว่า หากวันใดพวกเรามีลูก และลูก ของเรามีความรัก ...เราจะขอแค่คอยดูแลพวกเขาอยู่ห่าง ๆ และให้คำแนะนำในฐานะคนในครอบครัว ให้เขาได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางความรักของเขาเอง ...ไม่ว่าจะออกมาสุขหรือทุกข์ พวกเราในฐานะพ่อและแม่ ก็จะคอยอยู่เคียงข้างลูก ๆ ของเราเสมอ... ทีนี้ลูกเข้าใจหรือยังล่ะจ๊ะ ว่าทำไมพ่อและแม่ถึงไม่คิดจะเข้าไปขัดขวางในเรื่องนี้"

   มีนากับเวหานิ่งอึ้งไปสักพักใหญ่ จากนั้นสองพี่น้องจึงตรงเข้าไปสวมกอดมารดาและบิดาสลับกันอย่างตื้นตัน ทั้งคู่ต่างให้สัญญาว่า จะพยายามใช้สติไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลในเรื่องของความรักในอนาคตข้างหน้านี้ และจะไม่ประพฤติเสื่อมเสียอะไรให้พ่อแม่ต้องผิดหวังในตัวพวกเขาอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ทำให้วารีและณรงค์นั้นมีรอยยิ้มอย่างชื่นชมและพึงพอใจในบุตรทั้งสองของพวกเขาเป็นยิ่งนัก



... TBC ...

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและน่ารักกันมาก

ส่วนพี่ซันก็อดใจไว้ก่อนนะ อย่าเผลอปล้ำน้องฟ้าทำเมียเข้าล่ะ

เดี๋ยวอดแต่งงาน อิอิ  น้องมีนก็เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้พี่เมฆาเหมือนกันนะจ๊ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L1: อบุอุ่นจังค่ะ  สงสัยว่าลูกสองคนคงได้ออกเรือนพร้อมกัน 
:pig4:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ปลื้มคุณพ่อคุณแม่

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
น่ารัก อบอุ่น :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ความรักมั่นคง

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ jj_girl

  • รูปโปรไฟล์ขำๆ นะคะ / Cr.สาววายในตำนาน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ครอบครัวนี้น่ารักจริงๆ ><

เชียร์น้อง ฟ้ากับพี่ซัน และ พี่เมฆกับน้องมีน

ฟินเวอร์  :hao7: :hao7: :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด