{ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าหากจัดพิมพ์นิยายเรื่อง Not fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้ (ฉบับรีไรท์+ตอนพิเศษ)

อุดหนุนแน่นอน
19 (26.8%)
ขอดูราคาก่อน
51 (71.8%)
ไม่อุดหนุน
1 (1.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 71

ผู้เขียน หัวข้อ: {ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END  (อ่าน 521416 ครั้ง)

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จัดการเลยพี่อันนนน สนุกมากจ้ารอตอนต่อไปนะคะ :hao3:

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
งานหนักแน่พี่ใหญ่

ออฟไลน์ oumpatta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-43
เบื่อบุคคลที่3ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับความสัมพันธ์ของ2คนนี้มากจนเกินไป
แล้วอันจะกลับไทยกับปัง ให้เดาว่าไปถึงคงน่ารำคาญมากแน่ๆ
จะหวังดีแต่ทำไมต้องทำตัวน่ารำคาญ อย่างยึดโทรศัพท์ครั้งที่แล้ว คือเพื่อ?
ลดบทบาทหน่อยเถอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2016 23:48:46 โดย oumpatta »

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ในที่สุดปังก็ยอมที่จะคุยกันก่อน แต่แว่พี่ชายสุดหวงกลับมาด้วยนี่สิ
งานนี้จะมีต่อยไหมล่า คือไม่รู้จะเชียร์ใครดี พี่ใหญเรตติ้งตกหนักมาก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew1: ดีใจจ้ะ ที่ได้เจอน้องปังกับพี่ใหญ่อีกครั้ง ตอนนี้ความรักของทั้งคู่เดินมาถึงทางแยกแหละ ว่าจะเดินกันต่อหรือว่าจะแยกกันเดินยังไงขอให้ความรักของทั้งสองจะนำทางแยกนี้มาบรรจบกันอีกครั้งน่ะ รับรองกลับคราวนี้พี่ใหญ่ได้ดิ้นอีกแน่ ๆ เพราะมีอันฟาร์กลับไปด้วย แรกเริ่มต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ ว่าเป็นหนุ่มใหม่  :katai3: ปังปังงวดนี้ต้องปลดแอกตัวเอกแหละ งานนี้ต้องเดินไปพร้อมกันน่ะ อย่าเป็นช้างเท้าหลัง  :o8:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เอาเเล้ววววววววว อิพี่ใหญ่ ใจขาดแน่

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
กลับมาแล้วคุยกันดี ๆนะ ใหญ่ห้ามดุน้องปังเด็ดขาดไม่งั้นจะให้อัลฟาร์มารับปังไปอยู่ด้วยจริง ๆ นะ! o6

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :katai5:

ติดธุระเรื่องเรียนนะคะ อาจจะมาต่อให้ช้ามากหน่อย 55555

แต่แอบมาเม้าส์มอยว่าตอนหน้าเราจะวางเรื่องเครียดมาย้อนหลังวันวาเลนไทน์ ครั้งแรกของพี่ใหญ่และปังปังกันก่อน

เป็นตอนพิเศษนะคะ (คิดไว้แล้วยังไม่ได้พิม มัวแต่ยุ่งๆอยู่)  :katai4:

คิดถึงนะคะ จุ๊บๆ

ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยน๊าาาา  :katai2-1:

❌ 守ります มาเฟียลูกแหง่ ❌

เพจติดตามข่าวสารคะ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa


 :bye2:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ตามสบายเลยจ้า ยังไงก้อรอติดตามอยู่แล้วจ้า  :mew1:

ออฟไลน์ เซยูเนียส

  • เป็ดขึ้นคาน
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
พี่ใหญ่แย่แน่ ฝ่าด่านพี่เมียให้ได้นะ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
สวัสดีคะ คิดถึงทุกคนจังเลย คิดถึงปังปังกันไหม 55555  :katai5:

เรื่องนี้จะอัพอีก 1-2 วันนะคะ กำลังพิมพ์อยู่เน้อ ต้องพิมพ์และทำงานไปด้วย  :mew1:

รักและคิดถึงทุกคนนะคะ ช่วงนี้ฤดูกาลสอบด้วย ตั้งใจอ่านหนังสือ และสู้ๆไปพร้อมๆกันนะ  :katai3:

เจอกันเร็วๆนี้คะ ไม่นานเกินรอ เลิฟๆ   :3123: :L2: :กอด1:

ปล ตอนหน้าปังกับพี่ใหญ่จะเจอกันแล้ว

ปล 2 มีตัวละครใหม่  :hao3:

ฝากเพจนะคะ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

 :bye2:


ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
{CH 46 อึดอัดหรืออบอุ่น}




*** แจ้งเปลี่ยนชื่อ จากอันฟาร์ เป็น อลัน คะ



-ตัวเล็ก-


   ครบหนึ่งอาทิตย์ที่ปังปังหายไป เฮ้อ อ่อ นี้ผมตัวเล็กเองนะไม่ใช่ที่ไหน ตัวเล็กแสนน่ารัก มีสามีชื่อเสาร์ ไอ้หมาจอมเจ้าเล่ห์นั้นแหละ อย่างที่ผมบอกไว้บรรทัดบนนั้นแหละครับ ปังปังหายไปครบอาทิตย์แล้ว ผมรู้ว่าปังอยู่ ออสเตรเลียแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เมื่อหลายวันก่อนเห็นไอ้เสาร์คาบข่าวมาบอกว่าพี่ใหญ่บ้าคลั่งจะออกจากห้องให้ได้และคนกากๆอย่างมันก็ไม่สามารถห้ามพี่ใหญ่ได้ แต่โชคดีที่แม่ผมคุณนายขี้แกล้งไหวพริบดีเรียกพี่ใหญ่ไปคุยเลยสงบลงหน่อย พี่ใหญ่ตอนนี้เลยดูครึมๆเหมือนตอนที่ยังไม่เจอปังปัง ไม่สิ ผมว่าหนักกว่าเก่าอีก ไม่พูดไม่คุยเล่น ไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้นยิ่งกว่าท่อนซุงที่ลอยน้ำอีก … เฮ้อ ไอ้คนเฝ้าดูมันทรมานใครจะเห็นใจตัวเล็กบ้างเนี้ย


   “ไอ้เล็กกินข้าว”


   “ไม่หิวอะ หยุดบังคับกันสักทีได้ไหม”


   ผมบอกไอ้เสาร์ที่ยื่นจานข้าวที่ผมเขี่ยไปเขี่ยมาอยู่นานเข้ามาใกล้ผมเข้าไปอีก ผมถูกไอ้หมาลากมากินข้าวตอน 3 ทุ่มกว่าๆหลังจากที่เคลียงานเสร็จที่ร้านหมี่เกี้ยวหน้าซอยสุดโปรดของปังปังกับผม มาทีไรผมอนุญาตให้ปังกินสองชามทุกที เพราะผมก็สวาปามไปสามจานเหนาะๆ ปังยังชมผมเลยว่ากินเก่งตัวบวมขึ้น แต่นั้นก็ไม่ทำให้ผมดีใจหรอกนะ ตัวบวมๆนะตัวบวม แต่หลังจากที่ปังปังหายไปแบบไม่ค่อยดีนัก ก็ทำให้น้ำหนักผมลงฮวบ ตัวกลับมาตัวเดิมเลย ฮือออ เล็กยอมอ้วนนะ ปังกลับมาเหอะ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะตึงเครียดกว่านี้ เล็กเป็นห่วงงงงงงงง 


   “ไอ้พี่ใหญ่ก็บ้า ไอ้ปังก็บ้า มึงจะบ้าไปอีกคนเหรอไง”


   “อย่ามาหยาบคายนะไอ้บ้า”


   หน่อยแหนะมาว่าคนอื่นได้ยังไง ใช่สิ ไอ้บ้าเสาร์ไม่ได้เครียดแบบผมนี้ ผมกลัวปังจะไปแบบไม่กลับมาอีกแล้วกลัวว่าพี่ใหญ่จะไม่กลับมาร่าเริงอีกแล้ว แต่ผมก็รู้ดีนะ ว่าทุกอย่างของปังอยู่ที่นี้ แล้วเขาจะต้องกลับมา โง่จริงๆ ถ้าเป็นเล็กนะ เล็กไม่ยอมให้ยัยบ้านั้นทำแบบนั้นกับแฟนหรอก ตายเป็นตายสิ กล้านอกใจกันก็ต้องเจอกันสักหน่อย จะต่อยให้หน่อยหงายทั้งอีตัวผู้อีตัวเมียนั้นแหละ เชอะๆ


   “เออๆจะทำอะไรก็ทำ แต่กินก่อน แล้วอย่าเสือกเขี่ยผักทิ้งนะไอ้แมว”


   “เสาร์ เจอนางนั้นบ้างไหม”


   “นางไหนละ นางสาวหรือว่านางใน” ผมอยากจะบิดๆจมูกโด่งๆของคนตรงหน้าให้เบี้ยวไปเลย ไม่รู้ไปรักมันได้ยังไงคนเจ้าเล่ห์อย่างนี้ หล่อก็หล่อถูกสเป็คดีหรอกแต่เรื่องหยาบคายกับนิสัยเกรียนๆกวนบาทานี้เป็นของแถมที่เล็กไม่ปลื้มเลยให้ตายสิ


   “ตลกเหรอ นางมิ้นต์โรคจิตอ่ะ ที่จ้องจะแย่งผัวชาวบ้านอ่ะ!” ผมตวาดลั่นจนโต๊ะข้างๆหันมามอง ทำไมละ ก็จะแย่งผัวจริงๆอ่ะ ผัวใครไม่ผัวมาผัวเพื่อนเล็ก บ้าหรือเปล่า อย่าให้พ่อเจอนะจะโชว์คาราเต้สายดำให้ช้ำไปทั้งตัวเลย หึ


   “โอ้ย เบาๆ นี้มึงเป็นผู้ชายนะไอ้พูดจาแบบนั้นได้ยังไงไอ้เล็ก” ไอ้เสาร์ทำหน้าตาเลิ่กลั่กตาเจ้าชู้ของมันเบิ่งกว้างก่อนจะกัดฟันพูดกับผม หึ ผู้ชายแล้วไง ก็ผู้ชายอย่างผมนี้แหละที่ด่าผู้หญิงไร้ยางอายแบบนั้น ทำไมละ ถึงผมเป็นผู้ชายผมก็มีสามี แถมไม่ได้แย่งใครด้วย ทำไมผมจะด่าไม่ได้ !


   “ทำไมอ่ะ จะเรียกมีอะไรหรือเปล่า นางมิ้นต์ๆๆๆๆๆๆ อุ๊บ”


   “แดกเข้าไปสิหมูแดงมึงเนี้ย พูดมากฉิบ” ผมย่นหน้าเคี้ยวหมูแดงที่ถูกยัดเข้ามาในปากและบ้วนเอาผักคะน้าที่เสียบติดมาด้วยทิ้ง ไอ้หมานี้พูดไม่จำว่าผมไม่กินผัก ไม่ชอบกินผัก และไม่อยากกินผักด้วย ผมมันสัตว์กินเนื้อ จำไว้ด้วยยยยยยยย!!!


   เสาร์พาผมไปเดินเล่นที่ตลาดหลังข้างมหาลัยที่คึกคักไปด้วยนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เสริมและนักท่องราตรีหาของกินตอนกลางคืนผมไถตังเจ้าบ้าไปเยอะเหมือนกันได้ทั้งของกินของใช้น่ารักๆมาเต็ม ผมแอบเห็นตุ๊กตาเสือตัวนึงขนาดท่อนแทน แต่ที่ทำให้ผมแทบใจละลายเพราะเจ้าเสือขนปุยกำลังนอนกดหมูตัวอ้วนสีขมพูน่ารักน่ากอดอยู่ด้วย … ทำผมจิ้นไปไกลเลยละ เฮ้อ แต่น่าเสียดายที่เจ้าเสือจอมเชื่องกลายเป็นเสือดุโหดร้ายไปแล้ว ส่วนเจ้าหมูก็หายสาบสูญไป … เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออ


   “อยากได้เหรออย่างมึงต้องตัวนี้” เสียงกระซิบข้างหูทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเผลอหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจ้าแมวหมู ตุ๊กตาที่เหมือนแมวหวัก ตาโตหน้าตาเจ้าเหล่ สีขาวทั้งตัวมีลายด้านหลังเหมือนเต่าทองแต่เป็นสีเทาและสีส้ม ขนนุ่มนิ่ม รู้สึกจะอยู่ในการ์ตูนเรื่องนัตสึเมะนี้แหละแต่ผมจำชื่อไม่ได้หรอกไม่ได้ดูมานานแล้ว น่าร๊ากกกกกกกกกกกก


   “อยากได้อ่ะ ตัวเท่าไหร่เหรอ”


   “ฮ่าๆๆๆๆ กูไม่ซื้อให้หรอก เปลือง”


   “เดี๋ยวซื้อเอง! ตัวนี้เท่าไหร่ครับ” ผมยื้อเอาเมี้ยวตัวโตมาอุ้มไว้ ก่อน


   “500 จ้า”


   “แพงจัง ลดหน่อยสิครับ”


   “นี้ครับป้า”


   “เอ๊ะ ไหนบอกไม่ซื้อไง”


   “ขื่นให้ผมซื้อกลับไปคงงอนกูแย่”


   “พูดจาให้มันเพราะๆไม่ได้หรือไงนะ”


   ผมบ่นไม่จริงจังมากนัก กอดเจ้าตุ๊กตาเมี้ยวเอาไว้ก่อนที่เจ้าของมือหยาบๆแต่ก็อบอุ่นพอใช้ได้จะจับมือผมและจูงเดินต่อไป เอาจริงๆ ไม่ใช่ผมไม่รู้หรอกนะว่าความสัมพันธ์ของเรามันเริ่มต้นแปลกๆ ในวันนั้นที่โรงพยาบาลที่หมอนั้นจูบผม มันก็แค่ประชดปังกับพี่ใหญ่เพราะหมอนี้ชอบปังปัง แต่ไม่รู้ตัวว่าชอบพอโดนพี่ใหญ่ปาดหน้าเค้กไปก็เลยหัวเสีย ต่อว่าผมเองที่ประหลาดดันไปหลงกับจูบแรกที่แสนประหลาดนั้นได้ ทำให้เกิดเป็นความรู้สึกที่ประหลาดขึ้น จากนั้นเรื่องราวความรักประหลาดๆของผมกับนายเสาร์ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างกะทันหันนั้นแหละครับ  ผมไม่คิดมากหรอกนะเรื่องนี้หมอนี้เคยชอบปัง ใครๆก็ชอบปังทั้งนั้นแหละ เพราะปังอบอุ่นและนิสัยดี แถมยังน่าค้นหาและน่าแกล้ง เพราะถึงยังไง คนที่ปังรักก็คือพี่ใหญ่ และตอนนี้ คนที่หมอนี้รัก ก็คือผม ตัวเล็กยังไงละ หึหึ


   จะว่าความรักของผมมันประหลาด แต่ผมว่าของปังและพี่ใหญ่ประหลาดกว่าเห็นๆนะ คิกๆ เอาเถอะๆ เอาแต่เม้าคนอื่นอยู่นั้นแหละ  เฮ้อ … เมื่อไหร่ปังจะกลับมานะ เล็กคิดถึงจะตายแล้ว ของเล็ก แค่ความรู้สึก แต่พี่ใหญ่ของเล็กนะสิ จะตายจริงๆแล้ว ปังรู้ไหม …


   “พี่อลัน!!!”


   เอ๊ะ เสียงคุ้นๆ … ผมชะงักขณะที่เสาร์พาผมมาเอารถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ลานจอดรถของตลาดที่อยู่ติดกับรั้วมหาลัย ก่อนจะหันไปมองตามเสียง ด้วยปฎิกิริยาตอบสนอง ผมรีบผลักนายเสาร์ให้ไปหลบหลังมุมกำแพงที่เพิ่งเดินผ่านมาทันที คนที่เดินผ่านมาผ่านไปต่างมองด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่มีใครเจ้ามาจุ้นวุ่นวายให้รำคาณใจ ลองเข้ามายุ่งสิ พ่อจะขบหัวให้กลับบ้านไม่ถูกเลย


   “โอ้ยอะไรเนี้ย!”


   “เงียบๆ และถือตุ๊กตาด้วย” ผมยื่นตุ๊กตาในมือให้นายเสาร์ถือเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆชะเง้อออกไปมอง  …


   ปะ ปัง ปังปังของผมจริงๆ ด้วย ดะ ดีใจ ดีใจจะตายอยู่แล้ว ในที่สุดปังก็กลับมา แต่พอมองดีๆแล้ว … โธ่ … แค่อาทิตย์เดียวเองทำไมปังถึงผอมลงไปอย่างงั้นละ ถึงจะไม่ได้ผอมแบบที่ผมตั้งใจเอาไว้แต่คาดว่าคงลงมาไม่ต่ำกว่า 5 โลแน่ๆ เพราะน้ำหนักลงหรือเปล่านะ ทำให้เพื่อนตัวโตของผมดูน่ารักขึ้นยิ่งอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตผ้าบางสีดำกับกางเกงขาสั้นสีขาวกับรองเท้าผ้าใบสีเทาที่ดูก็รู้ว่าปังไม่ได้ซื้อเองน่ารักจังเลยอยากให้พี่ใหญ่ได้เห็นจังเลย


   “คิก ปังทำท่าตลกอีกแล้ว”ผมแอบขำนิดๆเมื่อปังปังทำหน้าฉงนกับคนในรถ เก๊งคันหรูสีดำที่ติดฟิมล์ค่อนข้างหนาที่จอดอยู่ตรงหน้าผมไม่ห่างมากนัก มันใกล้พอที่จะให้ผมได้ยิน  แต่ผมมองไม่ค่อยชัดว่าใครกันที่อยู่ด้านใน ก่อนจะทำท่ากระวนกระวายโบกมือไปมา


   ประตูรถอีกฝั่งก็เปิดออก พร้อมกับร่าง … หล่ออะไรเบอร์นั้น … ร่างสูงพอๆกับพี่ใหญ่ขาวสะอาดหมดจดทุกตารางนิ้วในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีฟ้าแขนสั้น กางเกงสแล็กสีขาวสะอาดกับใบหน้าที่คมชัดไปทุกสัดส่วนตามฉบับคนต่างประเทศ นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนกับผมหยักโศกสีข้างฟาง แล้วรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั้นมันอะไร!!!!!


   “ไปครับพี่อยากไปเดินด้วย”


   “แต่ว่า …”


   “ไปครับ ไม่ดื้อสิ”


   “อ่ะ! อย่าจับหัวปังนะ!!!!!!” ผมรีบกระโจนออกไปดึงมือหนาๆที่บังอาจมาแตะต้องเพื่อนของผมออกก่อนจะมองคนตัวสูงที่ยืนค้ำอยู่อย่างไม่เกรงกลัว! ปังของพี่ใหญ่ ของพี่ใหญ่เท่านั้นเล็กไม่อนุญาติให้ใครแตะต้อง!!!!


   “ตัวเล็ก …เสาร์”


.


.


.


-ย้อนเวลากลับไปเช้าก่อนเหตุข้างต้น-


   ให้ตายสิ อาการแบบนี้มาเยื่อนผมอีกแล้ว มึนงงกับเวลาและอากาศไปหมดเลย เจ็ทแล็คครั้งแรกในชีวิตผม ความจริงผมน่าจะเป็นตอนไปออสเตรเลียด้วยแต่บังเอิญตอนนั้นคงไม่สบายอยู่เลยไม่สบายซับซ้อนไม่ได้ เฮ้อ … ผมกลับมาไทยแล้วครับเพิ่งถึงเมื่อคืนตอนเที่ยงคืน พ่อผดุงและผมถูกพี่อลันยัดใส่รถแท็กซี่ทันทีที่มาถึง และพาเราสองพ่อลูกมาที่บ้านหลังนี้ของพี่อลัน ตามที่ตกลงกันเอาไว้ ผมยังไม่มีโอกาศได้สำรวจบ้านนี้เท่าไหร่เพราะกลับก็อาบน้ำนอนเลยไม่ได้สนใจอะไรกันเพราะอาการมึนๆงงๆกันทั้งสองพ่อลูก เกือบแล้วที่จะนอนไม่หลับเพราะเวลาไม่ตรงกับที่ต่างประเทศ แต่ในที่สุดด้วยความเพลียที่สะสมมาจากการนั่งหลังขดหลังแข็งบนเครื่องบินอยู่หลายชั่วโมง ผมก็หลับไปในที่สุด ภายในห้องนอนที่แสนนุ่มสบายที่พี่อลันจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว 


   และก็ตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าควรจะตื่นดีไหมในเวลาสิบโมงเช้าตอนนี้  แต่เสียงกุกกักๆ ด้านล่างก็ทำให้ผมอยู่นิ่งไม่ได้ เลยต้องลุกขึ้นมานั่งมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองอยู่ในห้องขนาดไม่เล็กหรือไม่ใหญ่เกินไปนักพอๆกับหอพักที่ผมอยู่อาจจะกว้างกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำละมั้ง บนเตียงเดียวสีขาวสะอาดที่อยู่ชิดกำแพงด้านหน้าต่างที่เปิดรับลมจากด้านนอก ม่านสีฟ้าที่พลิ้วตามลมอยู่ทำให้ห้องดูอบอุ่นไปเลย อีกด้านมีตู้เสื้อผู้ โต๊ะทำงาน และ ทีวีเครื่องเล็กๆตั้งอยู่รวมไปถึงเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่บนเพดาน แต่ห้องนี้กลับ พัดลมเครื่องสูงที่ทำหน้าที่ของมันยามเช้าที่ได้ดีบวกกับลมเย็นๆที่พัดจากด้านนอกทำให้อากาศโปร่งโล่งสบายเลยละ


   เสียงนกร้องจากด้านนอกทำให้ผมรู้ว่าผมกลับมาถึงไทยแล้ว กลับมาถึงแผ่นดินเกิดที่ผมแอบหนีออกไปมา ต่อไปนี้ผมจะไม่หนีอะไรอีกแล้ว ผมต้องคุยกับพี่ใหญ่ให้รู้เรื่อง ถ้าหาก … เขายังรักและไม่ได้ตั้งใจกับเหตุการณ์นั้นจริงๆ ผมจะไม่สงสัยอะไรในตัวเขาอีก และพร้อมกับให้อภัยทุกอย่างรวมไปถึงขอโทษที่ทำแบบนี้ด้วย แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่ในคำว่าพอดีและขอบเขตที่ผมวาดเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ถ้าในทางกลับกัน ทุกอย่างก็คงต้องจบ เพราะผมและเขาก็เหมือนเดินบนเส้นทางคู่ขนานด้วยกันทั้งคู่ เขามีทุกอย่าง ส่วนผมก็ด่อยทุกอย่าง นั้นยังคงเป็นความจริงที่ชัดเจนละนะ ในจุดๆนี้ผมคงไม่หาว่าใครผิดว่าใครถูก เพียงแต่ต้องการความชัดเจนและความจริงเท่านั้น เพราะสำหรับผม พี่ใหญ่นั้นดีกว่าผู้ชายทุกๆคน … อยู่แล้ว คิดถึงจัง เจอหน้าเราจะพูดอะไรกับเขาเป็นคำแรกดีนะ …


ก๊อก ก๊อก ก๊อก 


   “คะครับ” ผมสะดุ้งเมื่ออยู่ๆประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้น


   “สวัสดีครับ ผมชื่อปาล์มนะครับเป็นเพื่อนบ้านของพี่อลัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ”


   พะ เพื่อนบ้านเหรอ แล้วเพื่อนบ้านขึ้นมายิ้มหน้าแป้นตรงหน้าผมได้ยังไง ผมหัวเราะแห้งๆก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินไปยกตรงหน้าของผู้ชายที่สูงพอๆกับผมแต่เพียวบางและดูแข็งแรงกว่าผมเยอะ เขามีใบหน้าที่ดูไร้เดียงสา ตาโตเหมือนไข่เป็ดที่ยิ้มจนตาหยีกับจมูกที่เรียวรับกับปากสีอ่อนกำลังยิงฟันขาวครบ 32 ซีกมาทางผม ผมสีหม่นเขียวที่ยาวซอยสั้นเปิดข้างเซตขึ้นไปอย่างเฮี้ยวๆกับหูที่เจาะอยู่หลายรู แต่ก็อยู่ในชุดนักศึกษา ที่ทำให้ผมรู้ว่าเขาคงอยู่รุ่นๆเดียวกับผมนี้แหละ


   “เอ่อ ผมชื่อปังครับ”


   “เรียนอยู่ที่ไหนเหรอ” เขาพูดไปหัวเราะ ทำให้ผมยิ้มๆเพราะเพิ่งสังเกตว่าปาล์มมีไฝ่เม็ดเล็กๆที่ริมฝีปากด้วย ดูท่าจะปากจัดหน้าดู


   “มหาลัย XXX ปี2 ครับ”


   “อ่อๆ รุ่นน้องดิกูอยู่ ปี 3 มหาลัยรัฐบาล YYY ว่าแต่ไม่เคยรู้เลยนะว่าพี่อลันมีน้องด้วย” 


   “เอ่อ…” ผมควรบอกไหมว่าผมก็เพิ่งรู้ว่ามีพี่ชายเหมือนกัน 


   “ทำอะไรกันสองคน ปาล์มพี่ให้ขึ้นมาตามปังไม่ใช่มาป่วน” เสียงของพี่อลันดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงจะมายืนช้อนหลังปาล์มที่กำลังคุยถูกคอกับผมอยู่ จนเจ้าหัวจิ๊ปากอย่างหมั่นเขี้ยวและหันไปตบปุ๊บๆเข้าที่อบแกร่งของพี่ชายผม สองคนนี้สนิทกันดีจริงๆเลยน้า


   “โธ่ อย่าเข้มนักเลยพี่ แค่ทำความรู้จักเพื่อนใหม่เท่านั้นแหละนะ พี่เองนั้นแหละคิดจะกลับก็กลับบ้าหรือเปล่า”


   “หึหึ ลงไปด้านล่างเลยไอ้แสบ” ปาล์มทำหน้าเบื่อก่อนจะวิ่งลงบันได้ไป ผมชะเง้อมองตามก่อนจะหัวเราะออกมาอย่าเสียไม่ได้ พี่ปาล์มดูเปิ่นๆยังไงไม่รู้ แต่ผมก็ไม่มีสิทธิไปว่าคนอื่นเขาเท่าไหร่หรอกนะ ฮ่าๆๆ


   “ดีขึ้นหรือยัง” มือหนาวางลงบนหัวของผมอย่างอ่อนโยน ผมยิ้มและคว้าเอามือของเขาลงก่อนจะค่อยๆปล่อยให้มันกลับไปแนบตัวของเขาตามเดิม


   “ครับ เดี๋ยวได้ออกกำลังอีกหน่อยคงปรับตัวได้”


   “ดีแล้ว งั้นรีบอาบน้ำลงไปทานข้าวนะ วันนี้เราต้องจัดบ้านกัน”


   “ครับผม” โชคดีแล้วที่วันนี้ไม่มีเรียน ผมคงมีเวลาพอที่จะกลับไปเคลียปัญหา รวมไปถึงอุปกรณ์เสื้อผ้านักศึกษาด้วย เฮ้อ … หวังว่ากลับไปหอแล้วจะไม่โดนพี่ใหญ่ขยำหรอกนะ ยิ่งเหมือนเสืออยู่  …คิดแล้วก็เสียวสันหลังชะมัด คงโกรธและเป็นห่วงผมน่าดู เตรียมใจเอาไว้ได้เลยปังเอ้ยยยยยย!


   “เป็นอะไร”


   “ปะ เปล่าครับ”


   “ถ้าไม่อยากกลับไปก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จัดการให้” เขาทำท่าจริงจัง จนผมต้องยกมือห้าม พี่อลันเป็นพี่ชายที่ดี ในบางทีก็ดีเกินไป ถ้าผมไม่ห้ามเอาไว้คงจัดแจงทุกอย่างไม่เสร็จสรรพหมดแล้วแน่ๆ ผมอาจจะเป็นเด็กออซซี่ไม่ได้กลับมาไทยแล้วก็ได้


   “มะ ไม่ครับ … ผมอยากกลับ เพราะผมจะไม่หนีปัญหาอีกแล้ว”


   “หึ โอเคครับ เอาละเจ้าอ้วนไปอาบน้ำได้แล้วครับ”  เขาหัวเราะนิดๆก่อนจะผลักหลังให้ผมเดินเข้ามาในห้องและประตูห้องก็ปิดเหมือนเดิม ผมยืนอยู่กลางห้องคิดอะไรอยู่สักพักก็เดินไปค้นเอาผ้าขนหนูและเสื้อผ้าง่ายๆในกระเป๋าเดินทางขึ้นมาเดินเข้าห้องน้ำไป


   “ปังๆ กินข้าวกันๆ”


    ยังไม่ทันที่ผมจะเดินลงบันไดลงไปสุด เสียงร่าเริงของพี่ปาล์มก็ดังขึ้น กลิ่นส้มตำไก่ย่างลอยมาเตะจมูกผมซะแทบหัก และก็จริงๆ เพราะตอนนี้พี่ปาล์ม พี่อลัน และพ่อ กำลังนั่งล้อมวงกันบนพื้นบ้านกลางห้องรับแขกที่เฟอร์นิเจอร์ด้านหลังวางอยู่ระเกะระกะ คาดว่าเพิ่งยกลงมาจากรถ และยังไม่ได้จัดให้เข้าที่เท่าไหร่นัก ผมยิ้มให้ทุกคนก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆพ่อของผมขนาบข้างด้วยพี่ปาล์ม 


   “พ่อโอเคนะ”


   “สบายมาก” ผมยิ้มให้พ่อหลังจากถามสารทุกข์สุขดิบเรียบร้อย ก่อนจะหันไปมองพี่ปาล์มที่ตอนนี้หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับหน้าแดงๆของพี่ชายผมที่หน้าเปลี่ยนสีไป


   “อ่อนวะ กินเผ็ดก็ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”


   “ตลกมากนักไอ้ลิง”


   พี่ชายผมหัวเราะไม่ออกได้แต่หยิบน้ำกระดกเข้าปากอย่างเสียมิได้ ส่วนคนที่ดูร่าเริงเพราะสามารถแกล้งคนได้ ก็จกข้าวเหนียวกินต่ออย่างไม่รู้สึกรู้สา ผมยิ้มๆก่อนจะก้มลงกินอาหารไทยที่ห่างหายไปกว่าสัปดาห์โดยมีพี่ปาล์มคอยชวนคุยนั้นคุยนี้จนผมและพ่อแทบไม่เป็นอันกินเลยละ 


   โดยสรุปแล้ว พี่ปาล์มเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชายอีกหนึ่งคนชื่อปายซึ่งแต่งงานมีลูกแฝดไปแล้วอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ชื่อลุงหลงและป้าผิง  เป็นเพื่อนของพี่อลันที่นานๆทีจะมาไทยเพื่อทำธุรกิจร้านอาหารที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนไว้ และอีกหลายต่อหลายเรื่องเลยที่พี่ปาล์มเล่าให้เราฟังทั้งตอนแรกที่เจอกับพี่อลันที่ย้ายมาอยู่ใหม่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และไปๆกลับๆไทยอยู่ปีละ 2-3 ครั้ง  หรือจะตอนที่ตัวเองแกล้งสาวาซาบิลงไปในอาหารหหลอกให้พี่อลันกิน ทุกอย่างล้วนเป็นวีรกรรมที่แสบทรวงทั้งนั้น พี่อลันเองก็แก้เผ็ดด้วยการเข็กหัวไปโป๊กใหญ่ๆ ล้วนเป็นเวลาสั้นๆในทุกๆปีที่สองคนนี้ได้แกล้งได้หยอกกันแต่ก็ดูสนิทสนมกันมากๆเลยละ


   ตลกดีเหมือนกันได้นั่งฟังเรื่องราวของใครสองคน และสุดท้ายก็นั่งคิดถึงใครอีกคนที่อยู่ไม่ไกลแต่ยังไปหาไม่ได้เพราะยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะออกหัวหรือออกก้อยในอนาคต


   หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ทุกคนก็เริ่มช่วยกันจัดบ้านโดยผมถือโอกาสสำรวจบ้านไปด้วย บ้านที่ผมอยู่ตอนนี้เป็นบ้านเดี่ยว ปูนสองชั้นที่ตั้งติดกับกำแพงบ้านหลังข้างๆ แต่เป็นบ้านหลังสุดท้ายเลยมีอานาเขตให้ทำสวนได้ พี่อลันกับพ่อจึงตกลงกันเอาไว้ว่าจะจัดสวนและแอบไปหลบวางแผนในสวนหลังบ้านกัน ส่วนผมและพี่ปาล์ม ก็อยู่จัดของภายในบ้านชั้นล่าง ซึ่งแบ่งเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องทำงานเล็กๆที่ตั้งอยู่ใกล้ๆห้องนั่งเล่น เวลาล่วงเลยไปถึงบ่ายโมงกว่าๆป้าผิงที่เพิ่งกลับมาจากขายของที่ตลาดก็เข้ามาช่วยเราจัดบ้านด้วยอีกแรก ซึ่งอาสาทำมื้อเที่ยงให้เราฝากท้องกันอีกด้วย


   กว่าจะจัดบ้านเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปกว่าบ่ายสี่โมงกว่าๆ ทุกคนต่างหลบอากาศร้อนมาภายในห้องรับแขกที่จัดเสร็จสรรพ ซึ่งผมจัดวางโซฟาไว้ติดพนังอีกฝั่งแบ่งพื้นที่ให้ TV และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย ป้าผิงเองก็ยกน้ำแตงโมมาให้เราแก้กระหายกันหลังทำงานเสร็จ ส่วนพ่อของผมก็ขอตัวไปพักในห้องของตัวเองบนชั้น 2 เหมือนกัน


   “เดี๋ยวพี่มานะ” หลังจากพักกันหายเหนื่อยพี่อลันก็ขอตัวขึ้นไปคุยโทรศัพท์ที่ดังขัดจังหวะการพักผ่อน ทำให้ในห้องรับแขกมีผมกับพี่ปาล์มอยู่ด้วยกัน 2 คน


   “อ๊า ได้ออกกำลังกายรู้สึกดีชะมัด”


   “พี่ปาล์มครับ”


   “ว่า ?”


   “พี่มีที่ชาร์จของ XXX รุ่น XXX ไหมครับ”


   “ก็มีน่ะนะทำไมเหรอ”


   “เอ่อ ผมขอยืมหน่อยได้ไหมครับพอดีว่า … ผมทำของตัวเองหาย แค่ไม่นานหรอกครับ”


   “อ่อ ได้ดิ งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้” พี่ปาล์มลุกขึ้นเดินออกจากบ้านไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมสายชาร์จแบต ผมยิ้มร่าก่อนจะก้มหัวขอบคุณและขอตัวขึ้นมาบนห้องของตัวเองทันที ผมหยิบเอาโทรศัพท์ที่อยู่ในลิ้นชักขึ้นมาและเสียบชาร์จทิ้งเอาไว้ด้วยความดีใจ เพราะว่าแบตหมดมานานเลยกว่าจะติดก็คงต้องใช้เวลา


   ผมตั้งใจจะติดต่อตัวเล็กตั้งแต่อยู่ที่ออสเตรเลียแล้วแต่ไม่มีโอกาส เพราะเดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้บ้างที่ไม่เป็นใจ เดี๋ยวพี่อลันยึด
โทรศัพท์บ้างละเดี๋ยวแบตหมด สารพัดจะเป็นอุปสรรค จนวันนี้ผมคงได้คุยกับตัวเล็กสักที … เฮ้อ งีบสักพัก ไว้ตื่นขึ้นมาค่อยโทรก็ได้ละมั้ง … จนแล้วจนรอด ผมก็ทิ้งกายลงอย่างเหน็ดเหนื่อยบนเตียงหนาและหลับไปในบ่ายแก่ๆของวันนั้น รอกันอีกสักนิดนะครับพี่ใหญ่ …


   “เอาละ”


   ผมตื่นมาในช่วง 6 โมงเย็น อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็มานั่งจ้องโทรศัพท์ที่เปิดขึ้นมามีทั้งข้อความไลน์ เฟชบุ๊ก หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมี ทั้งมิสคอลอีกไม่ต่ำกว่า 100 สาย แต่เหมือนว่าพักหลังๆมานี้พี่ใหญ่จะไม่โทรเท่าไหร่ อย่างมากก็วัน2-3สาย มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆและก็ไม่กล้าที่ต่อสายหาใครทั้งนั้นเพราะกลัวว่าคนที่รับสายจะพูดอะไรก่อนเป็นคำแรก เลยปิดเครื่องเก็บลงกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ที่พร้อมจะเผชิญกับความจริงที่อยู่ตรงหน้า    


   “ทำอะไรจ้ะพ่อ”


   พ่อที่ทำลังก้มๆเงยๆกับไมโครเวฟในห้องครัวอยู่เงยขึ้นมามองผมที่เดินเข้าไปช่วยแกแกะแกงถุงเทใส่ชามกระเบื้อง และเอาเข้าเตาไมโครเวฟให้ เห็นละก็สงสารแกนะครับ เหมือนยังปรับตัวไม่ได้เลย เฮ้อ หรือว่าผมจะพาพ่อกลับไปอยู่บ้านเก่าดีนะ อย่างน้อยท่านก็ยังมีเพื่อนคุยบ้าง แต่บ้านหลังนั้นก็เก่าแล้วผมกลัวว่าพ่อจะล้มไปอีกถึงจะเป็นบ้านของพ่อและแม่ แต่ตอนนี้พ่อของผมก็สำคัญที่ไม่ใช่เหรอ ท่านก็แก่ลงทุกวันแล้วแท้ๆ …ครั้นจะกลับบ้านพี่ใหญ่ก็คงไม่ใช่ที่… ทำไมผมถึงรู้สึกเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่อง จัดการอะไรไม่ได้เลยสักอย่างนะ …


   “พี่อลันไปไหนจ้ะ” ผมถามขึ้นหลังจากที่ยกกับข้าวกับปลาสองสามอย่างมาวางบนโต๊ะทานข้าวก่อนจะเดินกลับไปคดข้าวใส่จานทั้งของตัวเองและของพ่อ


   “เห็นมันบอกว่าจะไปดูร้านอาหารมันหน่อยคงกลับดึกๆ … เอ็งจะมานั่งกินข้าวกับข้าทำไมไอ้ปัง”


   “อ้าว ก็…” ผมงงไปหมด อะไรกันเหมือนพ่อกำลังจะไล่ผมเลย


   “เฮ้อ ข้ากินคนเดียวได้ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก อย่างข้าไม่เหงาง่ายๆหรอกไอ้ปัง เอ็งมีอะไรจะไปจัดการก็ไปเถอะ ก่อนที่จะค่ำไปมากกว่านี้”


ต่อด้านล่าง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2016 23:25:47 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4



   “แต่ …”


   “ก่อนที่ไอ้ลันจะกลับมาและจะไม่ได้ไป”


   “งั้นหนูไปก่อนนะพ่อ อยู่คนเดียวได้นะ พ่อจำเบอร์หนูได้ใช่ไหม จำวิธีใช้โทรศัพท์ได้ใช่ไหม”


   “เออๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแค่ข้าตะโกนไอ้ปาล์มขี้คุยมันก็หูผึงมาแล้วละ เอ็งจะไปไหนก็ไปเถอะ อ่อ ฝากบอกไอ้ใหญ่ด้วย ไว้ว่างๆมากินข้าวฝีมือข้าอีกนะ” ผมฝื่นหัวเราะก่อนจะรีบเดินออกมาจากบ้าน อดไม่ได้ที่จะหันหลังกับไปมองพ่อที่นั่งอยู่ในบ้านคนเดียว … บางทีไม่นาน พ่อคงจะปรับตัวได้ แต่ถ้าพ่อผมเอ่ยปากสักนิดว่าต้องการอะไร หรืออยากอยู่ที่ไหน … ก็คงดีกว่านี้ 


   จนแล้วจนรอด ผมก็พาตัวเองมานั่งอยู่บนแท็กซี่จนได้ ตื่นเต้นชะมัดเลยกลัวว่าพี่อลันรู้และจะโกรธหรือเป็นเรื่องใหญ่และอีกมุมกลัวว่าการที่ไปเจอจะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง กลัวเสียตะคอก กลัวการดุด่าว่ากล่าว กลัวการเสียใจ กลัวการจะพบเจอ กลัวทุกอย่างเลย… ใจผมเต้นตุ๊บตั๊บๆ เหมือนจะหลุดออกมา … และกลัวที่สุดคือกลัวว่าพี่ใหญ่จะเสียใจและไม่ให้อภัยกับการที่ผมหายไป มันสับสนไปหมด ในใจของผมตอนนี้ความโกรธมันสลายกลายเป็นความวิตกแทนแล้ว ในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน ครอบครัว พี่ใหญ่ มิ้นต์ เพื่อน ทำให้ผมอยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้และหันหลังให้กับทุกอย่างทิ้งและเริ่มต้นใหม่เหมือนเกมที่ถ้าไม่พอใจก็รีเซตและเริ่มใหม่ได้


   แต่นี้คือชีวิต … ชีวิตที่มีทั้งความทรงจำที่สวยงามอบอุ่นและความทรงจำที่มืดมน เหมือนจุดพีคในชีวิตที่ผมสับสนไม่รู้จะไปข้างหน้าหรือข้างหลังดี … เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้และเกลียดทุกอย่างที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ … อยากกลับไปในวันที่ผมกับพี่ใหญ่ยังดีกันอยู่จริงๆ … ไม่ชอบแบบนี้เลย …


   ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาลูบๆคลำๆก่อนจะตัดสินใจเปิดเครื่องขึ้น ไม่นานไฟหน้าจอก็สว่างและฟังซ์ชั่นก็เริ่มทำงานทำกลไกของมัน โปรแกรมไลน์ถูกเปิดเป็นอับดับแรก ผมเริ่มอ่านข้อความในกลุ่มของภาคก่อน และก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่มีงานอะไรที่เป็นชิ้นโตๆ มีบางคนเข้ามาไถ่ถามถึงผมบ้าง แต่ตัวเล็กก็เป็นฝ่ายตอบไปแทน ต่อมาก็คือข้อความของเสาร์ ล้วนแต่เป็นถ้อยคำเถื่อนๆด่าทอบ้างแช่งบ้าง ไล่ให้กลับมาบ้างตามสไตล์ ต่อมาก็ถึงตัวเล็ก สติกเกอร์รัวมาสารพัดอารมณ์ ทั้งอ้อนวอนทั้งขู่เข็น แต่สองสามวันหลังมานี้แอบส่งรูปของกิน กับข้าวของเครื่องใช้ประโคมหน้าประโคมผิวเซ็ตใหม่ที่ซื้อมาให้ผมดูพร้อมบอกสรรพคุณประหนึ่งว่าผมเห็นและต้องรีบวิ่งกลับมาหาอย่างงั้น และคนสุดท้ายดูข้อความที่ขึ้นเตือนแล้วประมาน 30 กว่าข้อความ … พี่ใหญ่


   ‘มึงอยู่ไหนถ้าไม่กลับมาอย่าหาว่ากูไม่เตือน’


   ‘อยู่ไหนวะ!!!!!!’


   ‘เมื่อไหร่จะกลับคิดถึง อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม’


   ‘ปัง พี่ขอโทษกลับมาเถอะนะ พี่ขอโทษจริงๆ เราคุยกันหน่อยได้ไหมครับ ..’


   ‘วันที่ 4 แล้วนะที่หายไป เป็นยังไงบ้างวะไอ้หมู กูจะบ้าตายแล้วมึงรู้ไหม เมื่อไหร่มึงจะกลับมาสักที กูไม่ได้มีอะไรกับมิ้นต์จริงๆ ในวันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ ทุกอย่างที่เห็นไม่ใช่เรื่องจริง ขอโทษที่ไม่ได้อธิบายตั้งแต่แรก ขอโทษจริงๆ เราคุยกันหน่อยเถอะนะ ขอร้อง อย่างน้อยก็ติดต่อกลับมาบ้าง …พี่รักเรานะปัง รักปังคนเดียวแบบที่รักใครไม่ได้อีกแล้ว’



   “ฮึก” ผมสะอื้นออกมาและรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว ผมไล่อ่านไปทีละอันจนมาหยุดอันสุดท้ายของเมื่อวัน 2 วันก่อน และหลังจากนั้นก็ไม่มีข้อความมาอีกเลย ข้อความทุกข้อความสะท้อนอารมณ์ของพี่ใหญ่ที่โกรธผมมากในตอนแรก และจากความโกรธก็ค่อยๆกลายเป็นความเป็นห่วง … เจ็บจังเลย


ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



   “อ่ะ … พะ  พี่ใหญ่”


   ผมทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่ๆโทรศัพท์ในมือผมสั่นอย่างกับเจ้าเข้าและโชว์เบอร์ที่คุ้นเคยขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว … ยะ แย่แล้ว พะพี่ใหญ่ เบอร์พี่ใหญ่จริงๆนั้นแหละ เอายังไงดีจะรับหรือไม่รับ หรือจะ …. อ้าวดับไปแล้วเฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย


ครืดดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


   ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกก โทรมาอีกแล้ว!!!! ยะ แย่แล้ว ๆๆๆๆทำไงดี … จริงสิ ผมต้องคุยนี้หน่านั้นคือเหตุผลที่ผมกำลังจะไปที่หอพักตอนนี้ … ผมสมควรจะรับ … รับแล้วควรจะพูดยังไงดีละ … เขินจังแฮะ ให้ตายสิผมสับสนในอารมณ์ไปหมดแล้วนะ!!!! เอาละ เข้มแข็งปัง … ปังจงเข้มแข็ง


   “ฮะ ฮะ ฮัลโหล”


   “…”


   “พะพี่ใหญ่ครับ”


   “อยู่ไหน” เสียงทุ้มต่ำที่ผมจำได้ดี ถามกลับมาเบาหวิว…


   พี่ใหญ่ พี่ใหญ่จริงๆนั้นแหละ ผมไม่อยากทะเลาะแล้ว ผมไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจ็บปวด ผมยังทำให้ทุกคนเจ็บปวดไปกับผมด้วย ทั้งพี่ใหญ่ ตัวเล็ก เสาร์ เพื่อนๆ และไหนจะคุณแม่ของพี่ใหญ่ และพ่อของผมอีก ฮึก ไม่เอาแล้ว อย่างน้อยถ้าผมได้คุย ทุกอย่างถ้ามันจะออกหัวหรือออกก้อยก็ขอให้มันชัดเจนไปเลย ทุกอย่างจะได้เคลีย ฮึก ผมไม่อยากได้ยินเสียงเจ็บปวดของพี่ใหญ่แบบนี้อีก ไม่เอาแล้ว


   “… ฮึก พะ พี่ใหญ่”


   “อยู่ไหนปัง”


   “กำลังไปหอครับ ฮึก” ผมตอบไปตามความจริงเพราะในตอนนี้สมองของผมโล่งไปหมดเลย เหมือนยกภูเขาออกจากอก ทั้งๆที่เป็นเพียงคำไม่กี่ประโยค … คิดถึงฮึก ผมคิดถึงพี่ใหญ่จังเลย



   “…”


   “ผม … ผะผม…”


   “รีบๆมา พี่คิดถึง”  ใช่ ฮึก ใช่แล้ว ใช่แล้วผมก็คิดถึงพี่ใหญ่เหมือนกัน ฮึก


   “ฮึก เราต้องคุยกันนะพี่ใหญ่ นะครับผม ผม …”


   “อื้ม ไม่ต้องร้อง เราต้องคุยกัน”  ผมพยักหน้าตอบรับในลำคอ และจากนั้นเราสองคนก็เงียบลง เสียงเพลงจากพี่แท็กซี่ดังแทรกเราสองคน ผมเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนจะเงี่ยหูฟังคนในโทรศัพท์ที่ได้ยินเพียงหัวใจของเขา …


   “พี่ใหญ่…”


   “พี่กลัวว่าวางแล้วจะติดต่อเราไม่ได้อีก” ผมเบะปากจะร้องไห้อีกครั้งแต่ก็ต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ และตอบไป


   “ผมจะไม่หายไปไหนอีกแล้วครับ …” เสียงตอบรับในลำคอของเขาดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะน้อยๆ …ตลกจังที่นานๆพี่ใหญ่หัวเราะในเวลาแบบนี้ ผมก็พลอยหัวเราะไปด้วยสิ ประหลาดคน


   “ถึงไหนแล้ว” เสียงทุ้มอบอุ่นดังถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักครู่… อ่า นั้นสิถึงไหนแล้วนะ ผมมัวแต่สนใจโทรศัพท์เลยไม่ได้สนใจเส้นทางสักเท่าไหร่ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นว่าอีกประมาน  1 ป้ายรถเมก็ถึงมหาลัยแล้ว


   “อ่อ … ใกล้แล้วครับ อ่ะ … พี่ใหญ่แค่นี้ก่อนนะครับ” ผมรีบกดวางสายทันที เพราะตอนที่เงยขึ้นมองทางผมเห็นรถของพี่อลันเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้มหาลัย มาได้ยังไงน่ะ … หรือว่า เค้าจะมาหาพี่ใหญ่ … จะมาจัดการพี่ใหญ่งั้นเหรอ … ถ้าสองคนนี้เจอกัน โลกต้องแตกแน่ๆ!


ครืดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด



   “พะ พี่ครับจอดด้านหน้านี้แหละครับ” ผมบอกที่โชเฟอร์ในขณะทีโทรศัพท์ในมือผมสั่นเบอร์ที่โชว์ขึ้นชื่อว่าอลันที่ไม่รู้ว่าไปเมมไว้ตั้งแต่ตอนไหน


   ผมก้าวลงจากแท็กซี่หน้ามหาลัยใกล้ๆ ลานจอดรถที่อีกฝั่งเป็นตลาดนัดของมหาลัย โดยไม่ลืมที่จะจ่ายเงินด้วย พี่อลันหัวเราะออกมาตามสาย ผมรู้สึกร้อนๆหนาวๆ เลิกลั่กไปหมดเลยให้ตายสิ มันจะเรื่องอะไรกันนักกันหนาผมไม่เข้าใจ ว่าแต่ผมควรจะรับโทรศัพท์ดีไหมละ …


เอี๊ยดดดดด !


   รถสีดำคันหรูปาดเข้ามาตรงหน้าผม …. ก่อนที่กระจกจะเลื่อนลงพร้อมกับหน้าบึ้งตึงของพี่อลันที่มองมายังผมเหมือนกำลังหาคำตอบ … รู้งี้ผมรีบวิ่งไปแอบก็ดีหรอก


   “ขึ้นรถครับ”


   “พี่อลัน … คะ คือปัง … ไม่สิพี่กำลังจะไปไหนครับ”


   “หึ แล้วเราจะไปไหนละ พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าพี่จะพาเรามาเองเล่นโดดหนีมาก่อนแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ คิดถึงมันมากเหรอไงไอ้เลวนั้นน่ะ”


   “พี่อลัน!!!!!”


   “ครับ ?” ผมไม่เคยเห็นลุคกวนประสาทคนแบบนี้ของเขามาก่อนเลย … ผมเปิดประตูและเอื้อมตัวเข้าไปใกล้ๆพี่อลันที่ยิ้มรับอยู่อย่างเอาใจ เพราะรู้ว่าคนอย่างพี่ชายผมใช้ไม้แข็งไม่ได้ ก็คงต้องใช้ไม้อ่อนนี้แหละ


   “พี่อลันก็ผิดสัญญากับปังเหมือนกัน ทำไมพี่ต้องมาหาพี่ใหญ่ก่อนด้วย” ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่ง เขาหัวเราะน้อยๆก่อนจะวางมือบนหัวผมยีไปมา


   “พี่ก็แค่จะมาแอบดูหน่อยเท่านั้นแหละ ใครจะไปคิดว่าเจอไอ้ดื้อแถวนี้ด้วย”


   “ผมแค่จะมาซื้อของเท่านั้นแหละ” ผมก้มหน้ามองมือต่ำไม่อยากจะสบตาพี่อลันตอนนี้เลยให้ตายสิ ทำไมเขาถึงเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ หรือว่าเมืองไทยอากาศร้อนกันแน่


   “โอเค งั้นพี่ซื้อด้วยและกลับบ้านกัน”


   “ไม่เป็นไรครับ ผมซื้อของเยอะพี่จะรอนาน”


   ผมรีบโบกมือไปมา โดยไม่ทันสังเกตว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นอย่างกับเจ้าเข้าอยู่ อย่าเพิ่งประเดประดังผมตอนนี้ได้ไหมละครับ ฮืออออออออ พี่อลันไม่สนใจผมเปิดประตูลงจากรถมาก่อนจะขยับมายืนตรงหน้าผมที่หน้างอก้มมองพื้นอยู่ … ทำไมมีแต่คนบังคับผมละ …


   “ไปครับพี่อยากไปเดินด้วย”


   “แต่ว่า …”


   “ไปครับ ไม่ดื้อสิ” มือใหญ่ของพี่อลันวางบนหัวผมอย่างปลอบใจแต่ผมไม่ปลอดโปร่งไปด้วยกลับรู้สึกอึดอัดและคับข้องใจทำอะไรไม่ได้นอกจากจำยอม … ดูท่าทางวันนี้ผมกับพี่ใหญ่คงไม่ได้เจอกันแล้ว แต่แล้วมือของพี่อลันก็ถูกปัดทิ้งอย่างแรงจนผมตะลึง เสียงแว๊ดเล็กๆที่คุ้นเคยดังขึ้น


   “อ่ะ! อย่าจับหัวปังนะ!!!!!!” 


   “ตัวเล็ก …เสาร์” ผมอุทานออกมาเบาๆ ตัวเล็กพ่นหายใจออกมาอย่างโมโหก่อนจะสะบัดมือพี่อลันทิ้งและวิ่งมาเกาะผม ส่วนนายเสาร์จอมนักเลงก็จ้องเขม็งไปที่พี่อลัน ยะ อย่ามีเรื่องกันนะ



   “ตัวเล็ก …”


   “เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้เล็กต้องจัดการไอ้ฝรั่งนี้ก่อน” ตัวเล็กถกแขนเสื้อขึ้นอย่าเอาเรื่อง เดี๋ยวสิใจเย็นกันก่อนนนนนนนนนนนนนน!


   “ไม่ได้นะเล็กนั้นพี่ปังเอง”


   “พี่ ? ปังมีพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” ตัวเล็กเอียงคอมาถามผม ผมถอนหายใจนิ่งก่อนจะจับแขนเพื่อนตัวเล็กให้สงบลงอย่าเพิ่งขึ้นตัวเล็ก ตัวนายเล็กบอบบางกว่าพี่อลันเหมือนกับภูเขาและต้นหญ้า อย่าไปมีเรื่องกับเขาเลยนะ


   “ก็ … คือพี่อลันครับนี้ตัวเล็กกับเสาร์ เพื่อนผมเอง ทั้งสองคน … นี้พี่อลันพี่ชายปังเอง”


   “อะ เอ่อ … โอเคยอมก็ได้ … สวัสดีครับ” ตัวเล็กยอมยกมือไหว้พี่อลันที่เหยียดยิ้มมุมปาก ผิดกับนายเสาร์ที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังเพิ่งสังเกตุว่าร่างสูงโปร่งนั้นมีตุ๊กตาแมวหน้าตาประหลาดๆอยู่ด้วยแฮะ


   “สวัสดีครับ” พี่อลันหัวเราะก่อนจะรับไหว้ตัวเล็ก เขาเหลือบไปมองนายเสาร์นิดนึงก่อนจะหัวเราะและออกมาหันมาเจอผมและเลิกคิ้วเชิงถามว่าจะเอายังไงกับชีวิต


   “ตัวเล็กเอาไว้คืนนี้ปังโทรหานะ”


   “เอ๊ะ ทำไมละ ไม่กลับหอเหรอ พี่ใหญ่รออยู่นะ” ผมรู้สึกตงิดในใจเมื่อได้ยินชื่อของพี่ใหญ่ ผมอยากเจอเขาแต่ดูเหมือนถ้าผมเจอ พี่ใหญ่ก็ต้องเจอกับพี่อลันเหมือนกัน … ฟ้าถล่มดินทลายแน่ๆ … น่ากลัวชะมัด


   “เอ่อ … ไม่ละ ฝากดูพี่ใหญ่ด้วยนะ เอาไว้พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัยนะ”


   “ดะ เดี๋ยวปังและปังไปอยู่ที่ไหน” เล็กจับแขนของผม ผมมองเพื่อนตัวเล็กที่มองมาที่ผมอย่างเห็นใจและออดอ้อน ผมยิ้มและก้มหน้ามองแขนที่ถูกเล็กจับไว้ ก่อนจะวางมือลงบนมือตัวเล็กและพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น


   “บ้านพี่อลันน่ะ … ปังไปก่อนนะเล็ก แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ”


   “ปะ ปังปัง ฮึก ปังจะไม่หนีไปอีกใช่ไหม”


    ตัวเล็กสะอื้นขึ้นมาพร้อมกับแขนที่ตวัดกอดแขนผมไว้แน่น ผมหัวใจกระตุกทันที รู้ทั้งรู้ว่าตัวเล็กห่วงผมมากแค่ไหน บางทีวันนั้นผมก็ไม่หน้าหนีไปแบบนั้นเลย ผมมันแย่เองแหละ ผมเองที่เป็นคนทำทุกอย่างพัง ไม่ใช่มิ้นต์หรือพี่ใหญ่ ผมเองที่เป็นคนทำให้ทุกคนเสียใจ ขอเพียงแค่ผมรับฟังเรื่องก็ไม่แย่ขนาดนี้ 


   “แน่นอนสิ ทุกอย่างของปังอยู่ที่นี้ แต่ขอเวลาหน่อยนะ”


   ผมว่าก่อนที่ตัวเล็กจะยอมพยักหน้าและปล่อยแขนผมออก พี่อลันยิ้มก่อนจะแตะข้อศอกผมให้เข้ารถไป ผมพยักหน้าพยายามเม้มปากไม่ให้ร้องไห้ออกมาอีกรอบ ก่อนที่จะมุดเข้าไปในรถตามที่พี่อลันต้องการ และนั่งก้มหน้าอยู่อย่างงั้น พี่อลันเดินขึ้นมาอีกฝั่งก่อนจะเข้ามานั่งประจำที่คนขับ


   “เป็นเพื่อนที่ดีนะครับ”


   “…” ผมไม่ตอบ รถตกอยู่ในความเงียบก่อนที่พี่อลันจะเปิดเพลงคลอขึ้นและสตาร์ทรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน อึดอัดชะมัด …


   “กลับบ้านกันนะครับ”


   “…”


เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


   ยังไม่ทันที่รถยนต์จะได้ออกเสียงเบรกก็ดังสนั่นไปทั่ว ผมตื่นตะลึงเงยหน้าขึ้นนึกว่ารถที่ไหนชนกัน แต่แล้วก็ต้องจุกอกพูดไม่ออกเมื่อบิ๊กไบค์สีดำคันคุ้นเคยจะมาจอดขวางหน้ารถเก๊งคันหรูของพี่อลันเอาไว้ … ร่างสูงตระง่านนั่งคล่อมบนอ่านรถในสภาพเสื้อยืดสีเลือดหมูตัวบางกางเกงยีนต์พอดีตัวหมวกกันน็อกใบใหญ่ค่อยๆถูกถอดออก่อนที่หน้าตาถมึนตึงไม่เป็นมิตรจะส่อแววมาทางผมและพี่อลันนิ่ง …


   “พี่ใหญ่ …”


   “หึ…ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” ผมไม่ตอบเพียงแต่สบตาพี่ใหญ่ผ่านแผ่นฟิมล์หนาของรถ … นะ น้ำตาผมจะไหล คิดถึงผมคิดถึงพี่ใหญ่ โดยที่ไม่ทันสังเกตว่าพี่อลันขยับเกียร์เตรียมออกตัวไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น


   “พี่อลัน!!!!!!!” ผมตวาดพี่อลันลั่นเมื่อเห็นเขาเร่งเครื่องเหมือนจะชนพี่ใหญ่อยู่รอมร่อ พี่ใหญ่ไม่ได้สนใจลุกขึ้นมายืนและเตรียมจะเดินเข้ามาหารถเหมือนกัน


เอี๊ยดดดดดด ปัง!


   ผมสะดุ้งน้ำตาไหลเมื่อพี่อลันกระชากรถทำให้ชนกับร่างแกร่งของพี่ใหญ่ ถึงมันจะไม่แรงนักแต่ก็ทำให้หัวใจผมแทบบ้า พี่ใหญ่ไม่ได้หนีแต่ลุกขึ้นยืนตัวตรงที่จ้องมาที่ผม ฮึก ไม่ไหวแล้ว


   “อย่าเปิดประตูออกไปปัง”


    มือที่จับประตูของผมพยายามดึงประตูออก แต่มันไม่ออกเพราะพี่อลันล็อกประตูเอาไว้ ก่อนจะหันมามองหน้าพี่อลันผ่านม่านน้ำตาที่ไหลลงมาอีกแล้ว จะให้ผมเป็นไอ้ปังขี้ขลาดไปถึงไหน จะทำให้ผมอึดอัดไปถึงไหน ฮึก จะดูแลผมไปถึงไหน ผมอยากเป็นตัวของผมเอง อยากตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองบ้าง!!!!!



ต่อด้านล่างคะ



ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4

   “ผมจะไม่ยุ่งทำพี่อีกถ้าพี่ทำตัวแบบนี้ คนนั้นคือแฟนของปัง เรากำลังมีปัญหากัน ต้องเคลียกันต้องปรับความเข้าใจกัน แต่พี่กลับทำแบบนี้ พี่จะฆ่าพี่ใหญ่เหรอไง!!!!” ผมตวาดลั่น พี่อลันมองหน้าผมนิ่งก่อนจะแสยะยิ้มออกมาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งงัน


   “อยากจะด่าจะว่าอะไรพี่ก็ตาม แต่พี่ไม่ยอมให้ปังไปไหนทั้งนั้น เราต้องกลับบ้านกับพี่”


   “ไม่!!!!! ปล่อยปังไป!!!! ฮึก ทำไมพี่เป็นแบบนี้ละครับ ฮึก ทำไมพี่ต้องขัดขวางปังด้วย ผมไปทำอะไรให้ ผมแค่อยากเจอแฟนของผม … ฮึก ผมอึดอัด พี่เข้าใจผมไหมครับ ผมอึดอัดทุกครั้งที่อยู่กับพี่!!!!!” ผมตวาดลั่น ครั้งนี้พี่ชายของผมหรี่ตามองก่อนจะทำท่าเร่งเครื่องอีกครั้ง … มะ ไม่ ฮึก พี่ใหญ่ทำไมไม่หลบ ฮืออออ


   “หยุด ฮึก หยุดเดี๋ยวนี้ ปล่อยผมไป ฮึก ปล่อยผมไป ไม่งั้นผมจะเกลียดพี่ ผมจะเกลียดพี่ให้มากกว่าที่ผมจะกลับมามองหน้าพี่ได้อีก”


    ผมสะอื้นเอามือปิดตาไม่อยากมองภาพตรงหน้า กลัว ฮึก ผมกลัวว่าพี่ใหญ่จะตาย ผมคงอยู่ไม่ได้ แค่อาทิตย์เดียวที่ห่างกัน ทั้งๆไม่รู้ว่าควรจะโกรธอะไรขนาดนั้น ผมก็จะบ้าตายอยู่แล้ว และทำไมผมต้องมาเจอกับคนบ้าอำนาจแบบนี้อยู่ได้ ทำไมผมจะทำตามที่ผมคิดบ้างไม่ได้!


แก๊ก …


   “10 นาที กลับมาเจอพี่ที่นี้ ถ้าไม่กลับมาอย่าหวังจะได้กลับมาไทยอีกเลย ถึงเวลานั้นจะโกรธจะเกลียดหรือจะอะไรพี่พี่ก็ไม่แคร์ทั้งนั้น” ผมเบะปากก่อนจะรีบเปิดประตูออกไป ทันทีที่ผมเปิดออกไปได้ร่างของผมก็ถูกกระโจนใส่และกระชากเข้าไปกอดไว้แนบอกแกร่งที่แสนจะคิดถึง … ฮึก อบอุ่นจังเลย


   “คิดถึง …”


   “ผมก็คิดถึงพี่เหมือนกันครับ”


   ผมคล้องคอกอดบ่าแกร่งแน่นเช่นเดียวกับเขาที่กอดเอวของผมแน่นต่างคนต่างอยู่ในความเงียบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากสะอื้นฮักฟังเสียงลมหายใจของอีกคนอยู่อย่างงั้น … คิดถึง ฮึก เราจะไม่โกรธกันอีกแล้วใช่ไหมครับ ไม่เอาแล้วนะ พี่ใหญ่ยังรักปังปังก็พร้อมจะอภัยให้แล้ว ฮึก ไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว


   “กลับหอ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูของผม และผละออก ดวงตาที่เคยดุดันกลับส่อแววอบอุ่นจนผมอยากกอดเอาไว้แบบนี้ตลอดไป ฮึก เราจากกันทำให้รู้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นมีค่าแค่ไหน


   “ไม่ได้ครับ ฮึก ผมมีเวลาแค่10 นาที เราคุยกันเถอะนะ ฮึก เราคุยกันให้เข้าใจเถอะ”


   “เพราะอะไรถึงกลับไม่ได้ … แล้วไอ้หอกนั้นมันเป็นใคร”


   “มะ ไม่ ฮึก พี่อลันเป็นพี่ชายปังเอง ไปครับพี่ใหญ่ แล้วผมจะอธิบายให้ฟังนะ”


ผมจับมือพี่ใหญ่นิ่งเขาขมวดคิ้วและพยักหน้าก่อนจะพาผมเดินไปด้านในมหาลัยที่บริเวณสระบัวใกล้ๆกับประตูมหาลัย ภายในยังมีนักศึกษาเดินผ่านไปมาแต่ไม่มากนัก มืดสลัวมีเพียงไฟที่ส่องมาจากทางเดินเท่านั้น ทำให้บรรยากาศเงียบสงัด  มือหนาจับมือของผมไม่ปล่อย พอมาถึงได้ก็กระชากผมเข้าไปกอดอีก ผมซึมซับความอบอุ่นนั้นนิ่ง ดีแล้วละที่กลับมา ดีแล้วละ ฮึก


“ไม่ไปไหนอีกแล้วนะปัง พี่ขอโทษที่ทำแบบนั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ พี่กับมิ้นต์เรามีความสัมพันธ์กันเมื่อหลายปีก่อนตอนที่พี่ไปตามหาสุชาดา แค่คืนเดียวเท่านั้น  แค่เท่านั้นเอง พี่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายมาแบบนี้ และไม่ได้บอกเราเพราะพี่กลัวเราคิดมาก เพราะเรื่องมันไม่มีอะไรแล้ว คืนนั้น …”


“ครับ ปังเข้าใจแล้ว ฮึก ไม่ต้องพูดแล้วครับ ถ้าพี่ใหญ่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก ฮึก ตั้งแต่แรก”


ผมเอามือปิดปากหนาที่พูดอย่าสับสน ก่อนจะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาที่ข้างแก้มให้พี่ใหญ่… แย่ซะแล้วผมทำเสือร้ายร้องไห้ซะแล้ว เขาพยักหน้าก่อนจะก้มลงมาเอาหน้าผากชนหน้าผมนิ่งตาของเราผสานกันก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบรรจงจูบเบาๆที่ริมฝีปากของผมพร้อมกับประโยคที่เหมือนน้ำเย็นชะโลมจิตใจ …


“ขอโทษ …”


“อย่าเป็นแบบนั้นอีกนะ ปังทำใจไม่ได้หรอก …”


“ครับ สัญญา” เขาก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง … แต่คราวนี้ผมยกมือทั้งสองข้างกอดบ่าเขาไว้แน่นก่อนที่ลมหายใจของเราจะประสานด้วยความคิดถึง … รัก … ผมรักพี่ใหญ่ …


“ผมเองก็ขอโทษที่ไม่ฟัง เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งจนเกิดเป็นปัญหาแบบนี้”ผมพูดเสียงเบาหวิวเมื่อเราผละออกจากกัน
“หึหึ อภัยให้ครับเมีย”


แปะ!



   อดบ่นไม่ได้เพราะพี่ใหญ่อยู่ๆก็มีอารมณ์ขี้เล่นขึ้นมาซะแบบนั้นก็ต้องโดนตีปากแบบนี้แหละ เราหัวเราะให้กันก่อนที่ความเงียบจะปลกคลุมและพี่ใหญ่ก็ก้มลงมาหอมหน้าผากผมอีกครั้ง และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กระด่าง


“ไอ้หมอนั้นมันเป็นใคร”


“พี่อลันครับ เป็นลูกชายป้าเบล เค้าดูแลผมอยู่ครับ … เอ่อ พักนี้ผมคงต้องไปอยู่บ้านพี่อลันสักพักนะครับ”


“ทำไม ?”


“ก็เอ่อ … ”


“ถ้าไม่อยากอยู่หอก็ย้ายไปอยู่บ้านแม่ซะ ไม่ต้องไปอยู่บ้านมัน”


“ผมก็อยากทำแบบนั้น แต่ผม … พี่อลันดีกับผมมาก พี่ใหญ่เข้าใจไหมครับ คือ รอให้มีโอกาส ผมจะกลับมาอยู่กับพี่นะ ถือว่าเว้นระยะเพื่อคิดถึงดีไหมครับ” ผมยิ้มให้เขาที่อมยิ้มอยู่ไม่ห่างก่อนจะเขินเมื่อคิ้วหนาเลิกมองอย่างประหลาดใจ อะ อะไรเล่า …


“ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนั้น”


“แฮะๆ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับพี่ใหญ่ …” ผมยิ้มก่อนจะสะดุ้งนิดๆเมื่อร่างสูงก้มลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่


“จะสั่งอะไรก็ว่ามาเลยครับเมีย ผัวจะไม่ขัดใจ แต่มันน่าเสียดายที่จะไม่ได้นอนกอดเมียทุกคืน”


“บะ บ้า” ผมยิ้มเขินๆ ก่อนจะถูกดึงเข้าไปกอดอีกครั้งด้วยความคิดถึง


“ผอมลงไปเยอะเลยนะปัง กลับมาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่จะขุนให้ตัวเท่าโอ่งเลย” คิก ยังไงพี่ใหญ่ก็ยังเป็นพี่ใหญ่วันยังค่ำ อบอุ่นจังเลยอ้อมกอดของพี่ใหญ่ ไม่อยากออกจากวงแขนนี้เลย … น่าเสียดายเวลาที่หายไปจริงๆ …


“อะแฮ่ม! เกินมา 10 นาทีแล้ว” เสียงของพี่อลันดังขัดจังหวะเราทั้งคู่ แต่พี่ใหญ่ไม่ยอมปล่อยผม เขาเงยหน้าขึ้นไปมองพี่อลันนิ่ง ผมรู้สึกถึงรังสีอำมหิตของทั้งคู่ได้ … แย่ชะมัด


“ไอ้เสาร์ไอ้บ้าบอกให้สกัดไง จะอ่อนไปถึงไหนเนี้ย!!!” เสียงของตัวเล็กโวยวายตามหลังมา ก่อนที่พี่ใหญ่จะค่อยๆคลายแขนออก เปลี่ยนมาเป็นกอบกุมมือผมไว้แน่น ก่อนจะพาผมเดินผ่านพี่อลันไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาพาผมมาส่งที่รถ เบาะหลังก่อนจะแทรกตัวเองเข้ามานั่งด้วย … เอ่อคือ …


“พี่ใหญ่อย่ามีเรื่องกันเลยนะครับ”


“หึ” พี่ใหญ่สบถออกมาก่อนจะก้มลงมาหอมกระหม่อมผมอย่างปลอบใจ รู้สึกตัวจะละลายแล้วนะ


แก๊ก …


“จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมไอ้เด็กเปรต”


พี่อลันถามขึ้นเสียงเข้มทันทีที่เปิดประตูฝั่งคนขับออก ผมมองเขาสองคนเลิกลั่กก่อนจะหันมาขอความเห็นใจของพี่ใหญ่ เขามองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่และยิ้มให้ผมบางๆ ก่อนจะก้มลงมาจุ๊บปากผมเบาๆ ไม่ได้ละลาบละล้วงอะไร ขะ เขิน …



“ถึงบ้านแล้วโทรหาพี่ด้วย เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว เข้าใจไหมครับปังปัง” ผมพยักหน้าอย่างเขินๆ ก่อนที่หัวของผมจะถูกพี่ใหญ่ดึงไปชนกับแก้มสากของเขาทำให้ผมต้องหอมเขาอย่างเสียมิได้ ฮ่าๆๆๆ ชอบวิธีการบังคับแบบนี้ของพี่ใหญ่จัง



“ลงไปได้ละ” พี่อลันพูดเตือนขึ้นมาอีก พี่ใหญ่หรี่ตามองก่อนจะยิ้มมุมปากให้พี่ชายผม และเปิดประตูลงจากรถไป ไม่วายที่จะมองหน้าผมด้วยแววตาที่อ่อนโยน …



เมื่อพี่ใหญ่ออกจากรถไปและ ประตูทุกบานก็ถูกล็อกและรถของพี่อลันก็กระชากออกตัวในทันที ผมมองพี่ใหญ่จนลับตาก่อนจะหันกลับมานั่งมองมือตัวเองเพราะสัมผัสได้กับบรรยากาศมาคุภายในรถที่ขับอย่างรวดเร็ว …


ผมมาถึงบ้านด้วยเวลาที่ไวกว่าเมื่อตอนไป เพราะพี่อลันพุ่งขึ้นทางด่วนมาเลย พอลงจากรถได้ พี่ชายของผมก็เดินขึ้นบ้านไม่สนใจผมที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินตามเขาไป และก็ต้องชะงักเมื่อเสียงเฮฮาดังออกมาจากภายในบ้าน


“รุกฆาต!!!!! ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เด็กกระจอก!” เสียงของพี่ผมดังขึ้นด้วยความสนุกสนานเฮฮาภาพที่ผมเห็นคือพ่อของผมกำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ที่โต๊ะม้าหินในบ้านที่เปิดไฟเสียจนสว่างกับพี่ปาล์มที่นุ่งเสื้อกล้ามสีขาวกับผ้าขาวม้า … ดูมันจะเกินอายุไปหน่อยหรือเปล่านะ


“โอ้ยลุงปาล์มไม่เล่นแล้ว เบื่อ อ้าวพี่อลันสวัสดีครับ อะ อ้าวพี่!!!” พี่ปาล์มพยายามร้องทักพี่อลันที่ยกมือไหว้พ่อและเดินหนีเข้าไปในบ้านพี่ปาล์มรีบเดินตามเข้าไป มีเสียงโวยวายในบ้านแปปเดียวก็สงบไปด้วยกันทั้งคู่ ผมมองตามอย่างรู้สึกผิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เวลาที่พี่อลันโมโหก็น่ากลัวใช่ย่อยนี้นะ



“กลับมาแล้วเหรอไอ้ปังเป็นไงบ้าง”


“คุยกันแล้วครับ” พ่อพยักหน้าไม่ถามอะไรมาก ผมเลยนั่งลงคุยกับพ่อสักพัก พ่อก็ขอตัวไปนอนประจวบเหมาะสวนทางกับพี่ปาล์มที่เดินออกมาจากบ้านด้วยท่าทีหงุดหงิดและเดินกลับบ้านไป ไม่ทักทายผมสักคำ เอ๊ะ … อะไรกันน่ะ พาลโกรธผมกันหมดเลยเหรอ


ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านตามพ่อไปพอขึ้นมาบนห้องได้ก็ต่อสายหาพี่ใหญ่ทันที เราคุยกันในสารพัดเรื่องส่วนมากผมจะเป็นฝ่ายคุยฝ่ายถามซะมากกว่าและเลี่ยงที่กลับไปพูดถึงเรื่องมิ้นต์หรือบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น แต่เลือกที่จะคุยเรื่องอนาคตของเราสองคนซะเป็นส่วนใหญ่ พี่ใหญ่บอกว่าในตอนนี้บริษัทที่เขาเคยไปฝึกงานรับเขาเข้าทำงานแล้วในฐานะพนักงานโดยไม่ต้องสมัครหรือสัมภาษณ์ แต่ก็ต้องทดลองงาน 3 เดือนตามกฎหมายเหมือนกัน พี่ใหญ่บอกว่าทำงานที่นี้ดีเพาะมีโอกาสโตเยอะเลยทีเดียวส่วนผมก็เล่าประสบการณ์ที่ออสเตรเลียให้พี่ใหญ่ฟังเหมือนกัน เราคุยกันเหมือนไม่ได้คุยกันนานมาก จนเวลาล่วงเลยไปเที่ยงคืน หนังตาผมเริ่มปิดเพราะเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน


“อาบน้ำหรือยังเนี้ยมัวแต่คุยอยู่นั้นแหละ”


“ยังเลยครับ ผมไม่เคยพูดเยอะขนาดนี้เลยในชีวิต”


“พูดมากไง ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่ มหาลัยนะ”


“ครับ ฝันดีนะครับพี่ใหญ่” ผมยิ้มให้กับโทรศัพท์ทั้งๆที่ตาจะปิด ก่อนจะยิ้มกว้างเข้าไปอีกเมื่อพี่ใหญ่บอกฝันดีผมด้วยถ้อยคำที่โหดๆ ผสมกับความขี้เล่น …


“หึหึ พี่จะพาตัวปังกลับมาให้ไวที่สุด ฝันดีครับหมูแดง”


ผมชอบพี่ใหญ่ที่เป็นแบบนี้จัง ไม่สิไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็รักพี่ใหญ่อยู่ดีนั้นแหละ ผมบอกฝันดีเค้าอีกทีก่อนจะกดวางสายและพาตัวเองเข้ามาอาบน้ำในห้องน้ำทั้งๆที่แสนง่วง พอออกมาได้ก็ล้มตัวลงนอนทั้งๆที่ตัวยังชื้นในเสื้อตัวบาง และก็หลับไปจริงๆ ในความฝันถ้อยคำบอกรักของพี่ใหญ่ยังคงสะท้อนดังไปมาอยู่แบบนั้น …


โดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่าร่างสูงใหญ่ค่อยๆเข้ามาในห้องและนั่งที่ริมเตียงของผม ลูบศรีษะของผมไปมาก่อนจะยกผ้าขึ้นห่มให้อย่างใจเย็นและอ่อนโยน ดวงตาสีฟ้าสะท้อนกับไฟหัวเตียวที่เปิดไว้สลัวๆ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปนอกห้องด้วยความห่อเหี่ยวใจ …




======================

จบแล้ว ไม่เคยเขียนอะไรที่ยาวแบบนี้มาก่อน ให้ตายสิ เหนื่อยสุด 55555555

ในที่สุดสองคนก็เจอกันและคืนดีกันแล้ว เรื่องของทั้งคู่เกิดความการไม่คุยและคิดกันไปต่างๆนานา

จนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ ใครมีแฟนก็อย่าให้ปัญหาคาราคาซังนะคะ รีบๆคุยรีบๆเข้าใจกันนะ อย่าให้การคิดไปเองมาตัดสินปัญหานะคะ #ส่วนคนเขียนไม่มีแฟนหลบแปป 5555

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ติชมนะคะ จะนำไปประยุกต์ใช้ในภายภาคหน้า  :mew1:

เจอกันตอนหน้าคะ

ฝากนิยายเรื่องใหม่คะ

守ります มาเฟียลูกแหง่

ฝากเพจนะคะ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

 :bye2:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-03-2016 21:40:33 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เฮ้อ   นี่ขนาดไม่หนีนะ
แปลกใจเรื่องอลันนี่แหละ
ทำไมปังต้องเกรงใจอะไรขนาดนั้น
เพิ่งได้เจอกันแท้ๆ  ถึงเดือนไหม?
อลันถึงได้เจ้ากี้เจ้าการเจ้าชีวิตยิ่งกว่าพ่อ
ป้าเบลที่เป็นป้าแท้ๆเสียอีกยังไม่อะไรเท่า
พ่อปังเองก็ปล่อยปังให้ตัดสินใจอะไรเอง
เป็นลุกครึ่งโตต่างประเทศที่เกรียนได้ตามไทยแท้ๆจริงๆ
มีปาล์มโผล่ขึ้นมา หวังว่าคงจะไม่เล่นประเด็นเข้าใจผิดหรือตามราวีอีกแล้วนะ

คำผิด - ออสเตรเลีย   สายชาร์จ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ oumpatta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-43
รำคาญอลันอ่ะ กลับไปอยู่ที่ที่ควรอยู่เถอะ บอกตรงๆหน้าด้านมาก
ปังพูดไปขนาดนั้นยังจะอยู่ต่อ แล้วถามจริง อลันนี่ประเสริฐมากถึงขนาดต้องทำตามเลยเหรอปัง????

คนที่บังคับชีวิตคนอื่นแล้วมาบอกว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันดีนี่ที่บ้านต้องสั่งสอนมาแบบไหนนะ....
เรียกว่าเอาตัวเองเป็นศูณย์กลางจักรวาลมั้ยนะ....
เอานางไปทิ้งงงงงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2016 11:38:54 โดย oumpatta »

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ดีกันแล้ว เย้ พี่อลันกับพี่ปาล์มเชิญไปคู่กันค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :hao7:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: คืออยากให้อลันคู่กับปาล์มจังเลยน่ะ ท่าทางจะใกล้เกลือกินด่างรึเปล่าเนี่ย อลันเอ๋ย ตัวเล็กน่ารักจังชอบ  :mew1:

ออฟไลน์ เซยูเนียส

  • เป็ดขึ้นคาน
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
โธ่ๆ พี่อลันช่างน่าเห็นใจ ก็นะ สายเลือดเดียวกันไม่พอยังเป็นคนมาทีหลังอีก ก็อยากจะส่องอยู่ห่างๆ มาตลอดเองนิ โฮะๆๆ แบบนี้ใช้คำว่า มคปด. ไม่ได้ด้วยนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เย้ คืนดีกันแล้ว บรรยากาศรอบตัวปังดูดีขึ้นมากเลย

รอตอนต่อไป ปังจะกลับมาอยู่กับใหญ่ยังไง

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮือออ สงสารพี่ใหญ่มากๆๆเลยอ่ะ จะโกรธพี่อลันแล้วนะ เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน อย่าทำหวงนักหวงหนาไปหน่อยเลย :z6:
รีบมาต่อเร็วๆนะ เค้ารอ :ling1:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เป็นพี่ชายต้องให้น้องเติบโตนะพี่อลัน
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
คนเขียนติดเรียนนะคะ

ปี 4 งานเยอะมาก จะมาต่อให้ไวที่สุดคะ

รักเสมอนะคะ คิดถึง ฮิฮิ

 :hao7:

ติดตามข่าวสารในเพจได้น้าา

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

 :bye2:



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด