Not Fat
{CH18 ผิดใจ}
“เป็นอะไรเธอหน้าบูดเบี้ยวเชียว” อาจารย์ที่คุมเวรห้องสมุดอยู่กับผมถามขึ้น ผมหันไปก้มหัวให้แกก่อนจะฝืนยิ้มให้
“เปล่าครับ…”
ตกใจตัวเองที่อยู่ๆก็พูดไม่ชัดแย่ชะมัดผมเกลียดเหล็กดัดฟัน น้ำลายก็คอยจะไหลอยู่ตลอดเวลา กินข้าวก็แปลกๆ กินน้ำนี้ก็เหล็กเย็นจนเสียวฟันเลยอ่ะ… วันนี้เป็นวันที่สองที่ผมไปติดเครื่องมือมาหลังจากที่เคลียช่องปากแล้วเรียบร้อยขนาดแค่เริ่มต้นติดแค่ข้างบนนะครับ มันยังนรกขนาดนี้แล้วถ้าเดือนหน้าผมไปติดข้างล่างชีวิตผมจะเป็นยังไง เหมือนฟันทั้งปากโดนดึง ตึงมาก ต้องกินยาแก้ปวดทุกๆสี่ชั่วโมง เล็กบอกว่าเดี๋ยวก็จะชินเอง แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะชินได้รึเปล่าอ่ะถ้าต้องเจ็บแบบนี้ทุกเดือน จะไหวไหมนะ นี้ผมก็ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้ามีแต่เล็กเอานมมาให้กิน พอตกเย็นเล็กมีไปเรียนพิเศษภาษาส่วนผมก็มาทำบรรณารักษ์ในห้องสมุดเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือฟันของผม ฮือออออออออออ ไม่อยากดัดแล้วอ่ะ ไม่ดัดแล้วอ่ะ มันตึง มันเจ็บไปหมดแล้ว
ผมคว้ายาแก้ปวดมากิน เพราะอาการเจ็บมันเริ่มบอกให้ผมรู้ว่า เลย 4 ชั่วโมงมาแล้ว แต่อยู่ๆขวดน้ำผมก็ถูกแย่งไป พี่ใหญ่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมยังแย่งน้ำที่เหลืออยู่ค่อนขวดผมไปกินหน้าตาเฉยจนหมด ฮือออ ผมเจ็บมากเลยนะ
“มีปัญหาอะไร”
“…” ผมส่ายหน้าก้มหน้าลงกับเคาเตอร์ ทั้งปวดทั้งตึงจนผมอยากจะวิ่งไปร้านหมอฟันให้เค้าเอาออกให้ซะเดี๋ยวนี้
หมับ “งืออออออ” ผมอุทานออกมาเมื่อพี่ใหญ่คว้าหน้าผมไปขยุ้มเต็มแรง ผมเจ็บจนต้องผงะปัดมือปิศาจบ้าออก และไถเก้าอี้ที่นั่งอยู่ออกห่างคนนิสัยไม่ดี
“เป็นอะไร ถามอีกทีถ้าไม่ตอบจะโดนไม่ใช่น้อย”
“ปะ ปวดฟันครับ” สุดท้ายผมก็กลัวเค้าหัวหด
เค้ามองหน้าผมฉงนก่อนสีหน้าเค้าจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยก้มมองดูยาแก้ปวดที่หมอให้มาที่วางอยู่บนเคาเตอร์กับผมสลับกัน ก่อนจะหันหลังเดินออกไป … อะไรของเค้า นี้หรือที่พี่ใหญ่บอกผมเป็นแฟนเค้า ผมมีอะไรที่พอจะเชื่อได้บ้างว่าเค้าพูดจริงจัง … ไม่สิ ผมก็ไม่น่าเชื่อตั้งแต่แรก ความจริงแล้วใครจะมาสนใจคนแบบผม … คิดแล้วตึงจี๊ดเลย …
หลังจากที่นั่งคิดอยู่นานสองนานอาการเจ็บมันก็เริ่มหนักขึ้น เฮ้อ ผมต้องลงไปซื้อน้ำเองสินะ อีตาพี่ใหญ่จำไว้เลยนะ …
“จะไปไหน” ผมชะงักมือที่กำลังค้นหาตังในกระเป๋าเป้ของตัวเอง … พี่ใหญ่มาทำไมอีก … แถมในมือมีขวดน้ำไม่เย็นสองขวดใหญ่ๆอีกด้วย
“กินยาซะ”
“แต่ผมกินหมดนี้ไม่ไหวนะครับ … ครับกินครับ” ผมก้มหน้ากินยาเพราะเห็นสายตาคมกริบที่มองถามผมประมาณว่ากวนบาทาเค้าหรอ เปล่านะ ก็น้ำขวดใหญ่ตั้งสองขวดแบบนี้ผมเอามาอาบได้สบายเลยนะ … กินไม่หมดหรอก
“ดื้อ”
“ครับ ?” พอกินยาเสร็จเสียงบ่นของเค้าก็ดังเข้ามาในโสนประสาทผม
“เจ็บและไม่เจียม”
“…”
“บ้าบอคอแตก”
“…”
“บ้าผู้ชายมากไปแล้วรู้ตัวไหม”
“พี่พูดอะไร”
“ลงทุนดัดฟันรอเวลาไอ้พลสินะ ฮึ มันไม่สนใจนายหรอก” ผมนิ่งเงียบ มองแผ่นหลังของพี่ใหญ่ที่เดินจากไป … ผม… จากวันนั้นที่ไปรับน้อง ผมไม่เคยคิดถึงพี่กาจพลเลย … แต่ผมจะเริ่มคิดถึงขึ้นมานิดๆแล้วหลังจากที่ปากของปิศาจตัวร้ายเอ่ยคำบ้าบอพวกนั้นออกมา …
.
.
.
“ปังปัง หายเจ็บบ้างไหม ไหนเล็กดูหน่อย”
เล็กกระเด้งขึ้นมาบนเตียงที่ผมกำลังนอนอ่านหนังสือสอนวาดภาพทิวเขาอยู่เอามือเล็กๆมาจับแก้มผมอย่างอ่อนโยนไม่เหมือนพี่ชายที่ขยุ้มแก้มผมจนสิวแทบแตก ผมที่เพิ่งกินยาแก้ปวดไปตอนสองทุ่มเลยยีฟันให้เล็กดูเหล็กที่ผมเพิ่งแปลงทำความสะอาดมา เล็กเป็นคนเลือกสีให้ผมเล็กบอกสีฟ้าสวยสุดเหมาะสุดแล้ว ผมก็ไม่ปฏิเสธ ในขณะที่เล็กกำลังสำรวจช่องปากผมอยู่ ผมก็เหลือบมองโทรศัพท์ตัวเองเป็นระยะๆ … ไม่รู้เหมือนกันรออะไร แต่ด้วยความเคยชินว่าถ้าเวลานี้ ข้อความจากใครคนนึงจะเด้งขึ้นมาเป็นประจำ …
“ทนหน่อยนะ เดี๋ยวสักสามสี่วันก็น่าจะไม่ค่อยปวดแล้ว”
“อือ … เล็กพี่ใหญ่ของเล็กเป็นคนยังไงหรอ” เล็กมองผมตาโตก่อนจะยิ้มหัวเราะล่าออกมาและลงไปกอดพุงผมไว้แน่น ก่อนจะหัวเราะคิงคักเหมือนเด็กถูกใจของเล่น ผมชักอายแล้วสิ ผมแค่รู้สึกเข้าไปถึงเค้าแค่นั้นเอง
“พี่ใหญ่เป็นคนแปลกๆนะ อิอิ เหมือนที่ปังปังเข้าใจนั้นแหละ แต่เค้าก็เป็นคนอ่อนโยนมากเลยนะ นี้ตอนเล็กเด็กๆ เล็กจำได้นะว่าพี่ใหญ่อุ้มหมาดำเล็กๆเข้ามาในบ้าน บอกพ่อแม่ว่าจะเลี้ยง เพราะมันถูกทิ้งมา แต่ไม่นานมันก็ตายเพราะโรคไต … ตอนนั้นแหละมั่งที่เล็กเห็นพี่ใหญ่ร้องไห้ พี่ใหญ่เป็นคนไม่ค่อยยิ้มหรอก แต่พอมีปังปัง พี่ใหญ่ยิ้มบ่อยมากเลยน๊า อิอิ” เล็กเอาหน้าถูพุงผม … เพราะผมเค้าถึงยิ้มหรอ ไม่จริงหรอเค้าชอบแกล้งผมจะตาย อีกอย่างผมก็ …
ครืดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดด ผมมองไปที่โทรศัพท์ตัวเองก่อนจะถอนหายใจวูบเมื่อมันไม่ใช่ของผม แต่เป็นของตัวเล็ก ผมเม้มปากมองตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นไปเลื่อนโทรศัพท์เปิดดู ตัวเล็กย่นปากก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปและวางมันลงและหันมาซุกผมต่อ งอแงเฉยเลย
“เป็นอะไร ?” ผมถาม
“เปล่าอ่ะ” เล็กตอบกลับมาก่อนจะหมุนตัวกลิ้งตกลงไปด้านล่างและคลานไปนอนเล่นเตียงตัวเอง ผมมองตามก่อนจะลอบถอนหายใจอยู่คนเดียวเมื่อมองโทรศัพท์ตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่ เฮ้อ … นอนดีกว่าเดี๋ยวปวดฟันอีก
“เล็กปิดไฟเลยนะ” เล็กขานรับก่อนจะเอื้อมตัวไปเปิดโคมไฟที่อยู่ตรงกลางหัวเตียงผมเดินไปปิดไฟหน้าห้องก่อนจะเดินมาล้มตัวนอน มองโทรศัพท์อีกไม่กี่อึดใจก็หลับไปเพราะความเพลียตลอดทั้งวัน … ไม่มีข้อความสำหรับวันนี้
.
.
.
“เล็ก เล็ก”
เสียงแปร่งๆของปังปังดังขึ้นปลุกตัวเล็กที่นอนหลับอยู่เจ้าคนนอนขี้เซ้าไม่แม้แต่กระดิกตัวแถมยังมีเสียงกรนน้อยๆยืนยันว่าจะไม่ตื่นขึ้นมาถ้ายังไม่เช้า หมูปังถอนหายใจเฮือกใหญ่เอามือกุมแก้มตัวเอ็งน้ำตาแทบไหลเพราะทั่วทั้งปากทั้งตึงและเจ็บ จนจะชาไปหมดแล้วยาก็หาไม่เจอไม่รู้เพื่อนเอาไปไว้ไหน เวลาตอนนี้ก็ตี 3 กว่า ร้านยาข้างล่างคงปิดแล้วเป็นแน่ ความเจ็บปวดจากเครื่องมือดัดฟันที่ปังปังยังไม่ชินทำให้เค้าสะดุ้งตื่นขึ้นมา ไม่ว่าจะบ้วนปาก นั่งอ้าปากเป่าพัดลม ยังไงก็ไม่หาย มีทางเดียวคือหายาแก้ปวดมากิน ปังปังน้ำตาไหลด้วยความเจ็บก่อนจะตัดสินใจวิ่งไปห้องข้างๆที่มีพี่ใหญ่อยู่ เคาะประตูเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ปัง ปัง ปัง!!!!
“ฮึก พี่ใหญ่เปิดหน่อย”
ไม่กี่อึดใจประตูก็เปิดออกพี่ใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงบอลยืนมองปังปังที่ร้องไห้เพราะความเจ็บรู้สึกแก้มตัวเองบวมเปล่งออกมาทั้งๆที่หน้ายังเหมือนเดิม ก่อนที่จะถามขึ้นปังปังก็พูดขึ้นด้วยสำเนียงแปร่งๆจนพี่ใหญ่ขมวดคิ้วมอง
“ขอยาแก้ปวดหน่อย ฮึก ผมหาไม่เจอ เจ็บมากเลย อยากถอดออกแล้ว”พูดแค่นั้นมือใหญ่ก็ฉุดแขนปังปังที่กุมแก้มตัวเองอยู่เข้าไปในห้องและปิดประตูโครมใหญ่ไม่สนใจเพื่อนรอบๆห้องที่เปิดมาดูอย่างเคืองๆ
ภายในห้องที่ปังปังมาปัดกวาดเช็ดถูให้ทุกสัปดาห์นั้นเริ่มมีผ้ากองเล็กๆวางอยู่ในตะกร้าและกระดาษชีทเกลื่อนเต็มโต๊ะ กลิ่นบุหรี่จางๆนั้นทำให้ปังปังรู้สึกแตกต่างไปจากครั้งแรกที่เข้ามาในห้อง พี่ใหญ่พามานั่งที่เตียงก่อนจะเดินไปค้นหาอะไรสักอย่างในตู้เสื้อผ้า ปังปังกัดริมฝีปากกลั้นเสียงหัวเราะแต่ก็รู้สึกจี๊ดขึ้นสมองอีกรู้สึกเหมือนเหล็กมันบีบฟันจนเข้าตัวสะอื้นออกมา
“รอเดี๋ยว อดทนหน่อย เป็นไงล่ะซ่าดีนัก”
“…” ปังปังไม่ตอบอะไรแต่ก้มหน้านิ่ง และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบมีแต่เสียงค้นของกุกกักๆของพี่ใหญ่ ปังปังภาวนาขอให้พี่ใหญ่เจอยาไวๆ
“อะ” ปังปังรีบรับยามากินพร้อมกับน้ำที่พี่ใหญ่ส่งมาให้ทันที
ก่อนจะก้มหน้าลงซุกแขนตัวเอง ผ่านไปไม่กี่นาทีอาการปวดก็เริ่มทุเลาลงจนเกือบเป็นปกติ พอหายแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองพี่ใหญ่ที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ปลายเตียง ก่อนจะเม้มปากและพูดขึ้นเบาๆ
“ขอบคุณครับ ผะ ผมกลับห้องนะครับ” ปังปังลุกขึ้นจะเดินออกจากห้องไปแต่ต้องชะงักเมื่อเสียงดุๆของพี่ใหญ่ดังขึ้นขัดไว้เสียก่อน
“ใครอนุญาต”
“เอ่อ …”
“ตัวเล็กขี้เซ้าใช่ไหมล่ะ”
“ครับ …” ปังปังก้มหน้าไม่กล้าสบตาเมื่อนึกถึงว่าตัวเองวิ่งมาเคาะห้องคนที่ไม่สมควรเคาะ …
“งั้นต่อไปนี้ ถ้ารู้ตัวว่าต้องปวดอีกให้มานอนห้องฉัน … ไม่ต้องมองหน้าบอกให้ทำก็ทำ”
ปังปังเม้มปากมองพี่ใหญ่ที่เดินไปปิดไฟอย่างไม่เข้าใจก่อนที่ทั่วทั้งห้องจะมืดลงทันใดนั้นแขนของพี่ใหญ่ก็โอบรอบไหล่ของปังปังและเหนี่ยวลงมาทันทีที่หลังสัมผัสเตียงปังปังก็แทบจะเป็นบ้าเสียงลมหายใจที่ดังใกล้จนหัวใจสั่นไหว … ความสับสนนั้นทำให้ปังปังพูดปฏิเสธสัมผัสไม่ออกในความเงียบนั้นใจของปังปังเหม่อลอยไปไกลแสนไกล … น่าแปลกที่ความเจ็บหายเป็นปลิดทิ้ง ความง่วงจากยาที่แรงกว่าตัวที่เคยกิน ทำให้ปังปังหลับไปอย่างง่ายดายในอ้อมกอดแข็งแกร่งที่ปังปังคิดว่าน่ากลัว …
“ขอโทษ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นในความเงียบ … โดยที่คนที่อยากให้รับรู้ไม่มีทางได้ยิน…
.
.
.
“คิกๆ”
ผมมองตัวเล็กที่ยิ้มอย่างมีเลศนัยมองผมกับพี่ใหญ่ที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างกันในร้านโจ๊กตอนเช้าก่อนไปเรียน ผมเม้มปากไม่กล้าหันไปมองพี่ใหญ่ที่พูดอย่างภูมิอกภูมิใจหน้าตายว่าผมไปนอนห้องเค้ามาเมื่อคืนเพราะเล็กตื่นขึ้นมาเจอผมเดินเข้าห้องพอดี … ตัวเล็กฟินแต่ผมนี้แทบจะมุดโต๊ะหนี … พอมาย้อนกลับไปคิดว่าต้องเจอปิศาจใช้เป็นหมอนข้างอยู่ตลอดเกือบ 3 ชั่วโมงเต็ม แถมผมยังไปน้ำลายยืดติดหมอนเค้าไว้อีก … แย่ชะมัด ผมรู้สึกแย่จริงๆนะ
“จิ๊” ผมจิ๊ปากเมื่อความปวดเริ่มมาเยือนตามเวลาของมันถึงจะดีขึ้นกว่าเมื่อเช้ามืดแต่มันก็ทำให้ผมรำคาญ จะกินก็ลำบากจะเคี้ยวก็ลำบาก … ผมอยากถอดออกแล้ว
“เจ็บหรอปังปัง เดี๋ยวก็ชินนะอดทนหน่อย แหม ได้ยาดีทุกวันเดี๋ยวก็หายเนอะ พี่ใหญ่เนอะ”
“อือ” มาองมาอืออะไรพี่น้องสองคนนี้ ผมละเชื่อเขาเลยจริงๆ
“เป็นบ้าอะไร!” ผมตกใจสะดุ้งตัวตรงเมื่ออยู่ๆเสียงตะคอกดังขึ้นด้านหลังผมพอหันไปมองก่อนจะเห็นว่าไอ้หมาบ้าเสาร์กำลังจ้องตัวเล็กเขม็ง คนทั้งร้านหันมามองเป็นตาเดียวพี่ใหญ่ก็มองไอ้เสาร์นิ่งพลางเหลือบไปมองตัวเล็กที่ก้มหน้ากินข้าวต้มไม่สนใจ … อะ อะ อะไรกันอะบรรยากาศแบบนี้
“…”
“เฮ้ย! อย่ากวนตีนมาคุยกันให้รู้เรื่อง”
“จะ ใจเย็นสิ”
“ไม่ต้องเสือก!”
ปัง! ผมสะดุ้งอีกรอบก็พี่ใหญ่นะสิอยู่ๆก็ทุบโต๊ะดังปัง ทำไมพวกเขาถึงทำให้ผมตกใจไม่จบไม่สิ้นนะ
“อยากจะฆ่ากันก็ไปฆ่ากันที่อื่น ไม่ใช่ที่นี้ เกรงใจกูบ้าง!!!!!” ผมมองหน้าเค้าเงิบใหญ่ก่อนจะหันไปมองไอ้บ้าเสาร์ที่ทำหน้าอย่างถือดี แต่ก็เดินอ้อมโต๊ะไปฉุดกระชากตัวเล็กออกไป
“ปล่อยนะไอ้บ้า ปังปังช่วยเล็กด้วยพี่ใหญ่ต่อยมันเลย อืออออออออ ปล่อยยยยยยยย!!!”ผมจะวิ่งตามออกไปด้วยเพราะเล็กตะโกนให้ผมช่วยแต่พี่ใหญ่กลับฉุดผมให้นั่งลงที่เดิม … นั้นน้องพี่นะ ถ้าไอ้บ้าเสาร์มันทำอะไรขึ้นมาล่ะจะทำยังไง
“กินให้หมด”
“แต่พี่ใหญ่ตัวเล็ก …”
“ไอ้เล็กมันดูแลตัวเองได้”
“แต่ …”
“ถ้าพูดอีกคำเดียว จะจับข้าวกรอกปาก กินให้หมด!”
“คะ ครับ” ผมก้มหน้ากินข้าวต่อไปทั้งๆที่ยังตึงๆฟันอยู่อะไรมันก็ไม่อร่อยทั้งใน ในใจก็เป็นห่วงตัวเล็กมากๆ ไอ้หมาบ้านั้น จะทำอะไรเล็กรึเปล่า … หรือว่าเล็กจะเป็นฝ่ายปราบหมานะ … เฮ้อ มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี้ยยยยยย!
==========================
เสาร์เป็นระ ? ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ใครจิ๊กหมอนบ้าง อิอิ 
อาการปวดฟัง ตึงฟัน ในช่วงแรกๆของการดัดฟัน แล้วแต่คนนะค่ะว่าจะปวดแค่ไหน
เค้าเองก็ไม่เคยดัดฟันแต่ถามจากเพื่อนที่เค้าเพิ่งเริ่มดัดมาว่าอาการเป็นยังไง ฮ่าๆๆๆ
คือตอนนั้นมันกินยาเป็นขนมเลยอ่ะ 3 วันแรก หลังจากนั้นก็ค่อยๆดีขึ้น เดือนต่อไปก็เป็นอีก แต่นานๆไปก็จะชิน 
เจอกันตอนหน้าจ้า
