Not Fat
{CH 22 กอดนะ}
ผมนอนมองหน้าพี่ใหญ่ที่นอนหลับตาพริ้ม ตอนนอนก็น่ารักดีหรอก แต่พอลืมตานี้ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นคนล่ะคนได้นะ ทั้งชอบดุ ทั้งชอบตะคอกผม แถมยังชอบบังคับ แต่เค้าก็ดูแลผมดีมากๆเลยนะ เค้าไม่ก้าวกายส่งที่ผมทำ ไม่ห้าม แต่เรื่องลดน้ำหนักนี้ อะไรไม่ได้เลย ทั้งห้ามทั้งขู่ เฮ้อ …
‘เป็นเมียฉันสิ’
… (_////_) ทำไมต้องพูดแบบนั้นล่ะ
หมับ “ผอมลงนะ หึหึ” ผมตกใจ รีบผละตัวออก แต่เค้าไม่ยอมปล่อยผมรัดแน่นซะยิ่งกว่าปลิงซะอีก อื้ออออออ
“นิสัยเสียแล้วนะ” ผมพูดงอนๆมองหน้าคนเจ้าเล่ห์ที่หลับตาแต่เหยียดยิ้มมุมปากอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“กล้านะเดี๋ยวนี้ ฟ๊อดดดด” ผมนิ่ง คะ เค้า … หอมแก้มผมล่ะ (กระซิบ)
ผมรีบหลุบเข้าไปในผ้าห่ม ไม่กล้ามองหน้าเค้าอีกแล้ว คนเจ้าเล่ห์นิสัยไม่ดี หึ คิดว่าจะดีแล้วซะอีกนะ เค้าทำแบบนั้นได้ยังไง ผมน่าเกียจนะ ผมไม่น่ารักเหมือนนายเอกในฟิควายนะที่แก้มย้วยปากแดงน่ารัก ไม่ได้ตัวเล็กๆนะ … ทำไมล่ะ เค้าไม่รังเกียจผมหรือไง ขนาดผมยังรังเกียจตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย
“เป็นอะไรอีกล่ะ” น้ำหนักตัวของพี่ใหญ่ทับลงมาหาผมเต็มแรงก่อนที่มือใหญ่จะโอบกอดผมไว้ผ่านทางผ้าห่มที่พันตัว … อึดอัดอ่ะ หายใจจะไม่ออกแล้ว งืออออออออ อ
“ฮึก แฮ่กๆๆๆ พี่ใหญ่บ้า!” ไม่สะทกสะท้านแถมยังทำหน้าล้อเลียนผมอีก
“เลิกบ้าได้ล่ะ อ้วนแล้วไง ? ดำแล้วไง ? ช่างแม่งมันสิ แค่ปังเป็นปังก็พอ หึหึ” เขาก้มลงมาจุ๊บเปลือกตาผมอีกจุ๊บเล็กๆ และกลิ้งไปนอนกอดผมข้างๆ ผมหน้าร้อนผ่าวปากสั่นพูดไม่ออก
“พะ พี่ใหญ่รู้ตัวรึเปล่าว่าพะ พูดอะไรออกมา”
“หึหึ เมามั้ง ไหนลองมาจุ๊บสิมีกลิ่นเหล้าไหมล่ะ”
“บ้า” ผมบ่นเบาๆก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียง ได้ยินเสียงหัวเราะดังอยู่ด้านหลัง ผมเม้มปากแน่นก่อนจะรวบรวมพลังใจพูดออกมาถึงเสียงมันจะเบาไปหน่อยแต่ผมก็อยากจะได้ยินคำตอบ
“ผมเป็นไอ้อ้วนเฉิ่มๆนะ ไม่ได้น่ารักเหมือนใครนะ”
“ก็บอกแล้วไงช่างมัน”
“แต่ผมไม่น่ารักจริงๆนะ ทำไมพี่ถึงบอกชอบผม”
“เรื่องของฉันน้า” ผมปัดมือปลาไหลทิ้งก่อนจะพยายามรวบรวมความกล้าอีกรอบ บ้าจังสติสตางค์ผมจะหายเพราะคนๆนี้มือปลาไหลนี้แหละ
“ผมนิสัยน่ารำคาญนะ”
“รู้แล้ว”
“ผมยังดำด้วย ปกติคนอื่นเค้าจะชอบขาวๆหุ่นดีๆไม่ใช่หรือไงครับ”
“สงสัยฉันชอบของแปลกมั้ง” เขาพูดแบบไม่แยแสอะไรเท่าไหร่ คนพันธุ์นี้เป็นคนแบบไหนกันนะ
“แต่ผม …”
“พูดมากจัง พอได้แล้วน๊า มั่นใจได้แล้ว นายเป็นนายก็พอ ตามนั้น มานอนต่อมีเรียนบ่าย 2 ไม่ใช่หรือไง”
และผมก็โดนเค้าฉุดลงไปนอนก่ายอีกรอบ เค้านอนหนุนไหล่ผมในขณะที่ผมนอนตัวแข็งมาก … เค้าคิดกับผมแบบนั้นจริงๆใช่ไหม เค้าไม่ได้หลอกผมใช่ไหม ผมอยากจะมั่นใจ แต่ถ้าผมมั่นใจแล้ววันไหนที่ผมต้องผิดหวัง ผมจะเป็นยังไง … มันผิดตรงที่เราต่างกันมากเกินไป …
“หิวก็ปลุกนะ” ผมเม้มปากก่อนจะพยักหน้าแรงๆ น้ำตาไหลออกมาจากหางตาผมรีบมุดลงซบแขนแกร่งของเขาก่อนจะค่อยๆเผลอหลับไปอีกรอบ …
.
.
.
“ปังปัง”
เล็กวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาผมที่นั่งเลื่อยใหม่ทำงานอยู่หลังช้อป อีก 2 เดือนจะ มีงานที่ มหาลัยจัดให้มหาลัยอื่นเข้ามาดูงาน ภาคเลยยอมไม่ได้ ต้องใหญ่โตกันหน่อย ผมปีหนึ่งไม่ได้ช่วยคิดหรอกครับแต่ต้องนั่งเหลาไม้กันไปตามระเบียบ โดยมีพี่ใหญ่เทียวไปเทียวมาแกล้งผมตลอด งืมมมมม ขนมนมเนยนี้ผมต้องใช้สกิลอดกลั่นขั้นสุดยอมกันเลยทีเดียว
“ขนมพวกนี้ไม่ดีเลยนะ พี่ใหญ่ใช่ไหมเนี้ย ฮึ ” เล็กเก็บขนมที่พี่ใหญ่ซื้อมายั่วผมใส่ถุงก่อนจะวางน้ำเต้าหู้เจ้าอร่อยหน้า ม ลงข้างๆตัวผม เท่านั้นยังน่ารักไม่พอยังเจาะเทใส่แก้วให้ผมและฉีกยิ้มล่ายื่นให้ผมเหมือนจะให้กินทันทีทันใด ปกติก็แบบนี้อยู่แล้วนะ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแปลกกว่าทุกที มีอะไรรึเปล่าแมวเมี้ยวตัวนี้
“กินสิ วันนี้เล็กใจดีให้แม่ค้าใส่น้ำตาลทรายแดงด้วยนะ” นั้นไง ไม่ปกติจริงๆด้วย
“มีอะไรรึเปล่าเล็ก” ผมรับมากินก่อนจะถามขึ้นเบาๆ เล็กทำปากยื่นปากยาวเหมือนเด็กเวลางอลผู้ใหญ่ทำก่อนจะหัวเราะคิกคักขึ้น
“เมื่อกี้เล็กไปฟังพี่ใหญ่ประชุมมาล่ะ แล้วๆรู้ไหม ในงานจะมีการประกวดวาดผ่านทัศนคติด้วยล่ะ แล้วรู้ไหมรางวัลอะไร ทิปเที่ยวทะเล 3 วัน 2 คืน เงินอีก 5,000 แถมแพ็กเกตคอสผิวสวยหน้าใสด้วยนะ และที่สำคัญ เล็กลงชื่อปังเป็นคนแรกเลยยยยยยยย”
แกร็ง …
ไม้ในมือผมนี้หล่นเลยครับ …
“ทะ ทำไมไม่ปรึกษากันก่อน” ผมหันไปถามเล็ก ผมไม่ชอบเวทีการประกวดเพราะถ้าผมแพ้จะถูกมองว่าเป็นตัวตลกและมันมักจะเป็นอย่างงั้นมาตลอด ทั้งตอนที่แข่งวิ่งกีฬาสีตอนเด็กๆที่ผมลื่นล้มหัวคะมำ นั้นก็หัวเราะกันทั้งสนาม แข่งวิชาการแพ้ก็ถูกมองว่าโง่ ผมถึงไม่อยากแข่งอีกแล้ว
“ก็เล็กรู้น่ะสิถ้าบอกปังก่อนปังจะปฏิเสธ นี้เห็นไหม คอร์สนี้ไงที่เล็กเคยให้ปังลง แต่ปังบอกมันแพงไม่เอา นี้ไง ฟรี ฟรี ฟรี อิอิ เดี๋ยวเล็กเทรนให้น๊า แล้วยังได้ไปทะเลด้วยน๊า ไปกับพี่ใหญ่ไง นะๆๆๆๆ ” ผมมองกระดาษที่เล็กยื่นให้กับหัวทุยๆที่คลอเคลียที่แขนผมไม่ยอมปล่อย
“ถ้าปังปังลงแข่ง พี่ใหญ่ก็จะภูมิใจนะ ไม่ต้องชนะก็ได้แค่เอาชนะใจตัวเองก็พอ” ผมเม้มปาก … พี่ใหญ่จะภูมิใจจริงๆใช่ไหม …
“จริงเหรอ”
“อือ จริงๆนะ สู้ๆนะปัง งานนี้ทั้งเงินทั้งเที่ยวทั้งสวยยยยยยยย” ผมพยักหน้าก่อนจะก้มเก็บไม้มานั่งเหลาต่อ แต่ในใจก็คิดไม่ตกอยู่ดี
.
.
.
“กินซะ ซื้อมาให้เสียของหมด”
ผมส่ายหน้ากับขนมปังเนยที่พี่ใหญ่ยื่นมาให้ น่าอร่อยมาก แต่ตอนนี้ 2 ทุ่มกว่าแล้วแถมเล็กก็นั่งมองอยู่ และมีอีกหลายคนที่ยังทำงานกันไม่เลิกด้วย พวกพี่โย่งมองมาทางนี้และล้อเลียนผมด้วย อึกอัดจังไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้เลย ผมก้มหน้าเอากระดาษทรายขูดท่อ PVC ไปเรื่อยๆ จนสีฟ้าของมันเปื้อนเต็มมือ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือเย็นๆของพี่ใหญ่ยับแก้มผมและบีบแรงๆ จนผมเผลออ้าปากจะร้องเท่านั้นแหละไอ้ขนมปังเยิ้มๆแสนอร่อยก็ถูกยัดเข้ามาในปากของผม … เจ็บแก้มอ่ะ อร่อยด้วย … งัมๆๆๆๆ
“เอาอีกไหม” ผมพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัวกินขนมไปอีกคำนึง โอ้ยยยยยย ฟินฟุดๆ ไม่ได้กินมานานแล้วอร่อยมากๆๆเลย
“ถ้ายิ่งกินกับเปปซี่จะยิ่งอร่อยนะ กินอีกสิ หึหึ” หลอดถูกมาจ่อที่ปากผม ผมดูดขึ้นอย่างไม่รีรอ พี่ใหญ่ใจดีพี่ใหญ่น่ารักป้อนผมเยอะๆนะ อ้า สดชื่นไม่ได้กินมานานมากแล้วนะ อดกินตั้งแต่รู้จักกับเล็กนั้นแหละ
“อะแฮ่ม! พอแล้วพี่ใหญ่ แหม ปังปังฟินเลยนะ” อยู่ๆถาดขนมกับเปปซี่ก็ถูกแย่งไปจากมือพี่ใหญ่ผมมองตาค้างแต่ก็ต้องยิ้มแหะๆออกมาเมื่อเห็นตัวเล็กยืนทำหน้าโมโหแต่อมยิ้มอยู่ เพลินไปหน่อยเดียวเอง แต่อร่อยมากเลยนะ อยากกินอีกยังไม่หมดเลยนี้หน่า
“อะไรไอ้เล็ก เอามา กินให้หมดเสียของ”
“เดี๋ยวเล็กกินเอง พี่ใหญ่นิสัยไม่ดี รู้ทั้งรู้ว่าน้องกำลังลดน้ำหนักกับปังปังอยู่ก็ชอบมาเป็นมาร” อร่อยจริงๆนะเมื่อกี้อ่ะ ผมชะเง้อมองในมือเล็กอย่างมีความหวังแต่เล็กเดินหนีผมไปเลย … อยากกินอีกอ่ะ
“ถ้าอยากกินอีกเดี๋ยวจะพาไปกินที่ร้าน”
“ปังปัง!!! นี้ชาเขียวต้นตำหรับ เตือนตัวเองไว้นะ ว่าต้องผอม!” เล็กวิ่งกลับมากระซิบผมพร้อมกับชาเขียวในมือที่ยัดใส่มือผม … ใช่สิผมต้องผอม ผมกระดกชาเชียวแบบไม่มีน้ำตาลและขมปี๊ดเข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะมองพี่ใหญ่ที่นั่งมองผมอยู่ข้างๆ และก้มขัดท่อต่อไป อดใจเอาไว้ เมื่อกี้กินไปตั้งเยอะ ตบะจะแตกแล้วให้ตายสิ …
.
.
.
คืนนี้พี่ใหญ่ไปกินเหล้าหลังจากที่กลับมาจากทำงานภาคที่หลังมหาลัยอีกตามเคยไม่รู้เป็นอะไรทำงานกันทีไรงานกินเหล้าต้องมาตลอดพี่พวกนี้ ผมเลยมานอนห้องตัวเอง ซึ่งเล็กดีใจมากๆแต่ก็ไม่วายกร่นบ่นพี่ใหญ่ที่ชอบไปกินเหล้าตลอด ผมเองก็ไม่อยากขัดเหมือนกันเพราะแค่บุหรี่เค้าก็เต็มกลืนแล้ววันนี้ยังไม่เห็นเค้าสูบเลย … บางทีเค้าอาจจะรักษาสัญญาก็ได้นะ … -////-
“นี้คือรายละเอียดผลงานนะปังปัง” ผมก้มอ่านเอกสารโปสเตอร์ที่เล็กยื่นมาให้ เค้าบอกในนี้ว่าผลงานต้องออกมาเป็นแบบร่างและโมเดล … โมเดลด้วยเหรอ เอ๊ะ สมาชิกสามคนนี้หนา
“อิอิ นี้ไงมีเล็ก แล้วก็ไอ้บ้าเสาร์ น่าเสียดายถ้าไม่ติดว่าต้องเป็นชั้นปีเดียวกันนะ เล็กจะใช้งานพี่ใหญ่ให้เข็ดเลย” เล็กพูดอย่างมาดมั่น ผมล่ะนึกสภาพไม่ออกจริงๆว่าเสาร์กับผมร่วมงานกันสภาพจะออกมาเป็นยังไง ผมเหลือบไปมองที่หัวข้อ
“ความหวัง” ผมอ่านออกมาเบาๆเล็กที่กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงตัวเองหันมายิ้มหวานก่อนจะพิมพ์ไลน์ตอนใครบางคนไป ผมเม้มปากหันไปมองกระดาษในมือ และหันไปมองโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเอง ป่านนี้พ่อจะเป็นยังไงบ้างนะ ไม่ได้คุยกันตั้งหลายอาทิตย์แล้ว
“พ่อจ๋า” ผมกรอกเสียงลงไปทันทีที่มีคนรับสาย ลมเย็นๆพัดผ่านหน้าผมซอยตอนกลางคืนยังคึกคักเหมือนทุกวันริมระเบียงตอนนี้ก็เงียบและมืดมาก คงไม่มีใครสังเกตเห็นผมหรอก
“ว่าไงโทรมาซะดึกดื่น ข้านอนแล้วนะเว้ย” เสียงแหบพร่านที่ผมจำได้ดี พ่อผมยังสบายดีไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร
“พ่อเล่าตอนที่พ่อเจอกับแม่ให้ฟังหน่อยสิ … ผมอยากฟังอีก”
“บร๊ะ! เอ็งนี้ฟังตั้งแต่เล็กจนโต! เออๆ ข้าจะเล่าให้ฟังเอง” ผมเหยียดยิ้มก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆฟังเรื่องที่พ่อเล่าเหมือนกับตอนเด็กๆ ผมมีความสุขจริงๆที่ได้ยินเสียงของพ่อ เหมือนได้กลับไปนอนที่ตักของพ่อ เหมือนได้กลับไปที่บ้าน …. คิดถึง
.
.
.
-ใหญ่- “ปังล่ะ”
ผมเปิดประตูเข้ามาเห็นไอ้ตัวเล็กกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ผมล่ะไม่มีกระจิตกระใจจะกินเหล้าเลยให้ตายสิ ก่อนที่จะเจอไอ้หมูปังผมกินได้เป็นน้ำ โดยไม่มีภาระเป็นห่วงอยู่ด้านหลัง แต่เดี๋ยวนี้แค่คิดว่ามีคนรออยู่ห้องแล้วมันก็ทำให้ผมกินไม่ลง แต่ก็นั้นล่ะ มีเด็กอ้วนรอผมอยู่และดูสิพอเข้าไปในห้องก็ไม่เจอ เลยต้องเข้ามาหาในห้องนี้ เป็นอย่างที่คาด เจ้าหมูปังกำลังนั่งคุยโทรศัพท์หลังตาพริ้มยิ้มเหมือนมีความสุขเอาซะมากๆ … เห็นแล้วก็โมโห
แก๊ก “อยู่ที่นี้หนูสบายดีครับ ตัวเล็กน่ารัก พี่ใหญ่ใจดีครับไม่ต้องห่วง ครับ ครับ แล้วหนูจะโทรมาหาใหม่นะ อ่ะ พี่ใหญ่!” ไอ้เด็กอ้วนเหมือนตกใจที่หันมาเห็นผมยืนกอดอกมองอยู่ ที่แท้ก็คุยกับพ่อนี้เอง นึกว่าคุยกับใคร หึหึ ดูสิถ้าเจอผมในคราบนี้ไอ้หมูอ้วนปังปังจะทำยังไง
“คุยกับใคร”
“พ่อครับ พี่ใหญ่มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ไม่เชื่อ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”
“…”หึหึ ถึงกับสลดก้มหน้าเลยทีเดียว
“ถามว่าคุยกับใคร” ผมถามเสียงนิ่งตีหน้าตาย เจ้าปังยื่นโทรศัพท์ให้ผมอย่างกล้าๆกลัวๆ ผมเหลือบมองก่อนจะปัดมือออกเบาๆ เจ้าเด็กนี้ชะงัก ก่อนจะเงยหน้ามองผมปากสั่นตาแดง … เอาแล้วไอ้เด็กขี้แย ร้องไห้ง่ายจริงๆ
“หึ อยากจะทำอะไรก็ทำ”
ผมว่าและแกล้งเดินออกมาจากห้องไอ้ตัวเล็กที่แอบฟังอยู่เอียงคอมองผมอย่างเจ้าเล่ห์เหยียดยิ้มเหมือนรู้ทัน ผมมองหน้านิ่งก่อนจะยกมือขึ้นจรดริมฝีปากเหมือนเป็นนัยๆบอกให้เงียบปากเอาไว้ ก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องและเข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว พอออกมาจากห้องน้ำก็เจอตุ๊กตาตัวอ้วนที่นั่งอยู่ปลายเตียงจ้องมองผมไม่วางตาปกติถ้าผมเปลือยท่อนบนออกมาแบบนี้เค้าจะแอบเข้าไปอยู่ในผ้าห่มเขินอายเหมือนผู้หญิง
“มาทำไม” ผมถามเสียงนิ่งเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมตัวเอง ก่อนจะรู้สึกถึงมืออุ่นๆที่ยื่นมาจับไหล่ผม
“ผมเช็ดให้”
“ไม่ต้อง” ไอ้หมูแดงชะงัก หึหึ ยิ่งแกล้งยิ่งสนุก
“ฮึก ผมไม่ได้คุยกับใครนะ เช็กได้เลยผมคุยกับพ่อจริงๆ ฮึก ไม่เห็นต้องโกรธกันเลย” ไอ้หมูแดงนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนจะเริ่มฟูมฟายออกมา หึหึ ร้องไห้เลยหรือไอ้หมูอ้วน เลิกแกล้งดีไหมน๊า ไม่เอาดีกว่า
คิดแบบนั้นได้ก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่เจ้าตัววางไว้ข้างตัวมาดู ความจริงก็ไม่ได้กดอะไรหรอก ก่อนจะโยนมันขึ้นไปไว้บนเตียงเจ้าปังยังก้มหน้าสะอึกสะอื้นอยู่ ผมแกล้งไม่สนใจเดินไปสวมเสื้อผ้าและเปิดไปปิดไฟนอนลงบนเตียงแต่ก็ยังแอบดูว่าไอ้เด็กอ้วนจะทำอะไรต่อ หึหึ และมันก็น่ารักเกินคาด
“พ่อจริงๆนะ ฮึก ไม่ได้คุยกับใครนะ กอดนะปังกอดนะ ” ปากก็บ่น แขนก็กอดผมจากด้านหลังเบาๆ … หึ น่ารักจริงๆ
ก่อนที่ผมจะตัดสินใจจะแกล้งต่อหรือพอแค่นี้ร่างกายมันก็หันไปหอมแก้มที่ละมุนไปด้วยกลิ่นแป้งชั้นดีและโอบกอดร่างนั้นไว้เช่นกัน ทั้งห้องค่อยๆเงียบลงและจมอยู่ในความอบอุ่น …
ดีแล้วที่ไอ้หมูนี้เป็นปังปัง ดีแล้วที่เป็นหมูแดง …
=========================
มาน้อยแต่มาฟิน ฮ่าๆๆๆๆๆ 
ตอนที่นี้ทุกคนคงหวังแต่ว่า อย่าให้พี่กาจกับมาใช่ม้า ฮ่าๆๆๆ
ยังก่อนยังไม่ให้กลับ
เจอกันตอนหน้าจ้าาา ไม่นานเกินรอ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa