{ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าหากจัดพิมพ์นิยายเรื่อง Not fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้ (ฉบับรีไรท์+ตอนพิเศษ)

อุดหนุนแน่นอน
19 (26.8%)
ขอดูราคาก่อน
51 (71.8%)
ไม่อุดหนุน
1 (1.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 71

ผู้เขียน หัวข้อ: {ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END  (อ่าน 523918 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
มิ้นท์แรดมากอ่ะ ยี๋ แต่ก็ยัวเคืองพี่ใหญ่อยู่นะคนอ่านข้อหาเผลอไผล เสี้ยวนาทีก็ไม่ได้
ปังน่าสงสารร้องไห้ตลอดเลย ป่วยอีกลูก พี่ใหญ่มีคู่แข่งละคร้าบ จัดได้ว่าสูสี ดูเป็นคนจริง เจอน้องไม่กี่วันหลงแล้ว
ทายได้เลยเดี๋ยวมีต่อยแย่งน้องค่ะ แรงทั้งคู่ขนาดนี้ พี่ใหญ่จะหาน้องเจอไหมนะ

คิดถึงนะคะ มาต่ออีกน้า ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew1: หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลย แต่เราก้อรอคุณเสมอน่ะ เสียดายบทเลิฟระหว่างปังกับพี่ใหญ่จัง อุตส่าห์จะเป็นความทรงจำที่ดีกลายเป็นความทรงจำก่อนจากไปซะ  :ruready แต่ปังเข้มแข็งดีน่ะ สั่งสอนใหญ๋ไปน่ะ ถูกแล้วชอบทนงตนดีนัก ปากก้อหนักมีอะไรก้อไม่พูด ชอบให้ปังห่วงและคิดมากอยู่เรื่อยเลยน่ะ รู้ว่าน้องเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว ยังชอบทำให้เป็นเรื่องอยู่เรื่อยเลย  :mew2: ตอนนี้เจอคู่แข่งรายใหม่แหละ สมน้ำหน้า น่ากลัวสุด ๆ ด้วย เพราะเท่ หล่อ ใจเย็น และเอ็นดูปังอีก เป็นที่พึ่งได้ด้วย  :กอด1: แต่ปังรักเดียวใจเดียวน่ะ  :L2: อาศัยว่าพี่ใหญ่สะสมความทรงจำดี ๆ ระหว่างกันไว้เยอะน่ะเนี่ย  :katai3: มาต่อไว ๆ น่ะจ้ะ มันค้างจ้ะ  :impress2:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
คิดถึงมากพรุ่งนี้มาอัพต่อเลยได้ไหม :mew2:

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สมหน้าพี่ใหญ่นะ  :z6:  รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ค้างมาก ตัดตอนได้ค้างสุดๆ

แม่ใหญ่โทรมาทำไมนะ คู่แข่งพี่ใหญ่น่ากลัวใช่เล่นต่างกันมาก น้องปังเปรียบเทียบเห็นได้ชัดมากอ่ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ค้างอย่างแรงงงงงงง พี่ใหญ่รีบไปง้อเลยนะ สงสารหมูแดงมากๆ ร้องไห้ตาบวมหมดแล้วนั้นน่ะ

ออฟไลน์ sakurako12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อิพี่ใหญ่จัดการเคลียกะมิ้นให้จบก่อนดีม๊ะ
เดียวพอตามปังกลับมาได้ก็จะมาดราม่ากันอีรอบ มันจะเบื่อไป

แล้วอันฟาร์อ่ะ จะน่ารำคาญไปไหน
การแสดงออกไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ารักและเป็นห่วง แต่กลับรู้สึกว่าจุ้นจ้านมากกว่า
กะคนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงอาทิตย์แล้วเจอกันในฐานะน้องด้วย มันมองไม่เห็นโมเม้นท์
ของความประทับใจใดๆ จนเกิดเป็นความรักเลย
เข้าใจว่าผู้เขียนอยากผูกปม "คู่แข่งหัวใจ" ระหว่าที่ปังกะพี่ใหญ่ห่างกัน
แต่ว่าการไม่มีอารัมภบทของคู่แข่งเลย มันดูโดดไปค่ะ ไม่อิน

ส่วนปังๆ นี่เลิกซื้อบื้อได้ซักที จะดีมากค่ะ ตอนก่อนว่าไม่มีพัฒนาการ
ตอนหลังนอกจากไม่มีพัฒนาการแล้ว ยังแย่กว่าเดิมอีก มันทำให้ดูอืดยิ่งกว่าเส้นมาม่าอีก

แต่เป็นกำลังใจและชื่นชมในความพยายามรังสรรค์ผลงานค่ะ

ปล. หวังว่าเอาตอนนี้มาส่งแล้วจะไม่หายไปเป็นเดือนอีกนะคะ



ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ใหญ่มีคู้แข่งแล้ว หึหึ!!!

ออฟไลน์ aommaboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไปเลยพี่ใหญ่ คิดถูกละ อันก็รีบทำคะแนนนะ

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
เจอกันก็อย่ามัวแต่
ทะเลาะกันล่ะ คุย
กันให้รู้เรื่อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
พี่อันรักษาระยะด้วยนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได
«ตอบ #1721 เมื่อ18-01-2016 15:11:08 »

พี่ใหญ่มีคู่แข่งแล้ว!

ออฟไลน์ Nattiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
แจ้งข่าวฮะ

น้องปังจะอัพสัปดาห์หน้านะคับ ขอโทษที่หายไปนาน เพราะการเรียนด้วยเลยทำให้สมองตันๆ

สามสี่ตอนหลังๆเพื่อนๆอาจจะไม่ค่อยชอบใจนักต้องขอโทษนะคะ คนเขียนอาจจะรีบใส่ดราม่า

แบบประเดประดังเข้าไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวดราม่าก็ผ่านพ้นและกลับมาหวานแหววเหมือนเดิมคะ

เพราะเรื่องนี้ไม่เน้นดราม่ามากมายอยู่แล้วแค่พอหอมปากหอมคอ

แต่ดูเหมือนคนเขียนจะใส่ผิดจังหวะไปหน่อย พอกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นถึงได้เข้าใจว่ามันหลุดคอนเซปไปนิดนึง

แต่รับรองเลยคะ เดี๋ยวก็กลับมาน่ารักเหมือนเดิม ส่วนเรื่องพี่อันกับมิ้นต์ ก็ขอให้ติดตามชมนะคะ

ถ้าเรื่องนี้มีหวังจะได้รวมเล่ม คนเขียนจะแจ้งรีไรท์อีกทีนะคะ

ขอบคุณทุกการติดตามและขอโทษที่อาจจะทำให้เพื่อนๆผิดหวังในดราม่าที่มากเกินพอดี

พี่ใหญ่ยังคงเป็นนักศึกษา ถึงตัวจะโตแต่ยังไงก็มองข้ามไม่ได้ว่าวุฒิภาวะก็ยังน้อยในการตัดสินใจ

การจัดการกับเรื่องที่เกินกว่าตัวเอง ทุกคนยังต้องเรียนรู้และเติบโตและสามารถทำผิดพลาดกัน

ส่วนปังปัง ด้วยพื้นฐานนิสัยที่เป็นลูกแหง่ขี้นอยส์ต่างๆนานาคนเขียนเลยเขียนซะน่ารำคาญไปบ้าง

แต่น้องก็ยังน่ารักเสมอจริงไหมคะ ถ้ายังไงติชมกันได้คะเพราะคนเขียนไม่ได้

เขียนไว้อ่านคนเดียวฉะนั้นเรายินดีรับคำติชมทุกประการเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่เอาแต่พอดีเนอะ

อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีเดี๋ยวจะเสียกำลังใจเปล่าๆ

คนเขียนไม่ได้มาแก้ตัวแทนตัวละครแต่ว่ากันด้วยการดำเนินเรื่องของเส้นเรื่อง และนิสัยหลักของตัวละคร

รักคนอ่านทุกคนคะ ขอบคุณที่ติดตาม และเจอกันอาทิตย์หน้าคะ

 :bye2:

ฝากเพจนะคับบ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa


ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
รอติดตามจ้า

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
รอติดตามจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ Soda.wine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
{CH 45 ปังปังห่างไกล}




ผมไม่ได้อยากอ่อนแอ ไม่มีใครหรอกอยากมานั่งร้องไห้ทั้งวันแบบนี้ เมื่อก่อนผมไม่เคยเป็น ถึงจะขี้ขลาดแค่ไหน ผมก็ไม่เคยร้องไห้ให้ใครแบบนี้ เว้นแต่ตอนที่แม่ผมเสีย ในตอนนั้นผมยังเด็กและยังไม่รู้เรื่อง แต่ทุกรสภาพกลิ่นเสียง ทุกอย่างก็ยังตราตรึงอยู่ เพียงแต่ว่ามันเบาบางมากเท่านั้น เพราะท่านจากไปด้วยความรัก แม้แต่ตอนที่พ่อตี หรือโดนแกล้งโดนรังเกียจ ผมก็โดนจนชินไม่มีอะไรต้องซีเรียท


   แต่สถานการณ์ตอนนี้ สภาพจิตใจผมแย่ชะมัดเลย แค่คิดถึงน้ำตามันก็ไกลในใจมันเต้นตุ๊บๆ เหมือนจะระเบิด สรุปแล้วในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา มันคืออะไร เราเป็นแฟนกัน ผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกัน คำพูดที่หนักแน่น การกระทำที่ทำให้เชื่อใจ ทุกความอบอุ่นของอ้อมกอดที่มอบให้ ... มันปลอมหมดเลยงั้นเหรอ แล้วทำไม … ทำไมถึงเป็นแบบนั้น และต่อจากนี้ผมควรจะทำยังไงดี .... ไม่ใช่แค่ผม แต่พ่อด้วย …


   หลายวันมานี้หลับตาลงทีไร ผมก็จิตนาการเรื่องของผมกับพ่อไปเรื่อยๆ และทางออกที่ดีที่สุด คงไม่พ้นที่ผมกลับพ่อจะต้องกลับไปสู่ที่เดิม บ้านหลังเดิม ที่มีแค่เราพ่อลูก ส่วนผมก็คงต้องทำเรื่องย้ายมหาลัยมาเรียนใกล้บ้าน ไม่รู้ว่าสามารถโอนหน่วยกิตได้หรือเปล่า ... แต่ผมคงอยู่ไม่ไหวหากต้องเดินผ่านคนขี้โกหกทุกวัน ต้องกลับไปนอนที่เดิมๆ ... มันคงทรมาน แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว … ถึงตัวเล็กจะเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ  คุณแม่ใจดี เนียร์ บ๊อบแอน โทนี่ และเจ้าวัวจะน่ารัก แต่ผมก็ ...


ก๊อก ก๊อก ก๊อก !



   “ข้าเข้าไปนะ ” เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกของพ่อผดุงดังขึ้น ทำให้ผมที่ซุกตัวเองในผ้าห่ม ลืมตาขึ้นยันตัวลุกขึ้นนั่ง โลกทั้งโลกเหมือนขว้างไปหมด หน้าร้อนผาวไม่สบายตัวเอาซะเลย ทำไมไข้ผมถึงหายช้าแบบนี้นะ จะทรมานกันถึงไหน


   “ดีขึ้นหรือยัง” 


   “จ๊ะ ดีขึ้นแล้ว พ่อถืออะไรมาจ๊ะ กลิ่นเหมือนยาเลย” ผมทักขึ้นเมื่อเห็นพ่อเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับหม้อดินเผาที่มีควันกรุ่นๆ โชคดีที่บ้านป้าเบลมีเครื่องทำความร้อนทั่วทุกมุมห้อง อากาศที่อุณหภูมิลดต่ำตอนฝนตกแบบนี้เลยไม่ทำให้พ่อของผมที่เป็นคนขี้หนาวป่วยไปด้วยอีกคน ไม่งั้นผมคงนอยกว่านี้อีกหลายเท่า เฮ้อ ...


   “ก็ยาน่ะสิวะ นี้ดีนะที่ข้าพกยาสมุนไพรมาด้วย สองสามวันมานี้เอ็งเอาแต่ตอนข้าเลยไม่อยากให้เอ็งกิน ถ้าตอนนี้เอ็งดีขึ้นแล้วก็ลุกขึ้นมากินสักหน่อยจะได้หายสักที ข้าละไม่ชอบที่เห็นเอ็งเหมือนคนจะตายแบบนี้” ผมเม้มปากตัวเองแน่น ก่อนจะพยักหน้าและรับยาที่พ่อตักใส่ถ้วยกระเบื้องมาถือเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆยกขึ้นดื่ม และเบ้ปากแทบจะร้องไห้เพราะมันขมไปทั้งคอ


   “แคกๆๆๆ ขะ ขมชะมัด”


   “เอ๊า กินน้ำซะ” ผมรับน้ำมาจากพ่อและกระดกจนหมดแก้ว พ่อผมเอาเราะเมื่อเห็นผมเอาแลบลิ้นออกมาด้านนอก เพราะไม่อยากให้ลิ้นโดนน้ำลายเพราะมันขมสุดๆ 


   “น้ำผึ้งหมดเหรอพ่อ ทำไมไม่ใส่มาสักนิด โธ่” พ่อหัวเราะเสียงดังขึ้นไปอีก นี้สรุปแกล้งผมใช่ไหม คือปกติพ่อจะรู้ว่าผมไม่ชอบกินขม เวลาไม่สบายทีไรยาแผนปัจจุบันเอาผมไม่ค่อยอยู่ ต้องสมุนไพรแท้ๆนี้แหละผลชะงักดีนัก แต่พ่อก็จะใส่น้ำผึ้งให้ไม่ขมมากนี้หน่า ... ใจร้ายชะมัดเลย แบร่


   “โทษทีข้าลืมซื้อ หึหึ”


   “ไม่ได้แกล้งหนูใช่ไหม” ผมเอียงคอถามและนั่งพิงหัวเตียงมองไปยั่งภาพของพ่อผดุงที่หัวเราะอยู่ เฮ้อ … พ่อคิดถึงแม่บ้างไหมนะ เหงาบ้างหรือเปล่าที่อยู่คนเดียวกับลูกไม่ได้เรื่องอย่างผม เหนื่อยไหมที่หาเลี้ยงผมด้วยตัวเพียงคนเดียวแบบนี้


   “เอ็งจะได้หายไวๆไง” มือผอมแกร่นและกร้านจากการทำงานหนักแต่ทว่ากลับแข็งแกร่งและอบอุ่นของพ่อวางบนหัวของผม ก่อนจะลูบเบาๆอย่างปลอบปะโลม


   “ข้ากับแม่เอ็งน่ะ เคยโกรธกันขนาดที่แม่ของเอ็งหนีข้าไปอยู่บ้านเพื่อนเลยนะไอ้ปัง หึหึ ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นข้าคงกินเหล้ามากไปหน่อยละมั้ง บวกกับแม่เอ็งท้องเอ็งด้วยเลยน้อยใจไปกันใหญ่ ข้าน่พตามง้อแม่เอ็งตั้งหลายวันกว่าจะกลับมาได้ ใจข้าอกไปอยู่ตาตุ่ม นึกว่าเมียจะน้อยใจไม่กลับมาซะแล้ว จากนั้นมาข้าก็เลิกเหล้าเด็ดขาดเลย หึหึ” ผมนั่งฟังพ่อเงียบๆ น้ำเสียงของพ่อดูมีความสุขเอาซะมากๆ จนผมต้องเอามือทั้งสองข้างกุมเข้าหากัน ในท้องร้อนผาวเพราะยาสมุนไพรออกฤทธิ์


   “พ่อคิดถึงแม่ไหม” เสียงอ่อยของผมถามขึ้น พ่อผดุงมองผมและยิ้มกว้างให้พยักหน้านิดๆ


   “เมียข้าทั้งคนนะไอ้ปัง หึหึ แต่ข้าไม่เสียใจหรอกนะ ที่ทุกวันนี้แม่เอ็งไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะแม่เอ็งไม่เคยไปไหน แต่ยังอยู่ตรงหน้าข้า และอยู่ในใจของข้าตลอดเวลา” พ่อชี้มาที่ผม ก่อนจะเอามือทาบที่หัวใจตัวเอง ผมเหรอ …


   อ่า ...ใช่มีแต่คนบอก แม่กับผมน่ะเหมือนกันมาก แต่ผมว่าไม่เห็นเหมือนแม่ผมน่ะสวยจะตาย ท่านเป็นคนท้วมนิดๆไม่ถึงกับอ้วน ใบหน้าอิ่มผิวขาวเหลืองตามเชื้อสายจีนของท่าน ดวงตาหวานคม จมูกจิ้มลิ้มปากเล็กบางเป็นกระจับ รูปของท่านหนึ่งเดียวที่ผมมีอยู่ตอนนี้คงอยู่ในห้องพ่อผดุงที่บ้านของพี่ใหญ่ … 


   “เรื่องของข้าและเมียข้า เอ็งคงรู้หมดแล้ว ความรักของข้าไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ ไม่สมหวังเหมือนในละครน้ำเน่า แต่ข้าทั้งสองคนก็ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่รักกัน หึหึ เอ็งเข้าใจไหมไอ้ปัง เข้าใจที่ข้าพูดหรือเปล่า” ผมก้มหน้าหลบตาของพ่อส่ายหน้าไปมา … ผมไม่รู้ว่าพ่อพูดถึงอะไร ผมไม่รู้ ...


   “ข้าถามจริง เอ็งเชื่องั้นหรอว่าไอ้ใหญ่มันหักหลังเอ็ง ...”


   เหมือนความคิดของผมทั้งหมดที่เฝ้าโทษใครอีกคนมาชะงักลง … ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหนละ พี่ใหญ่จูบมิ้นต์นั้นคือความจริงที่ผมเห็น และเขาไม่ได้เมา ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจ ตั้งใจที่จะหลอกผมเพราะเห็นผมโง่   



   “ทุกอย่างที่เอ็งผ่านมา มันไม่พิสูจน์อะไรได้เลยหรือไงไอ้ปัง”



   “พ่อกำลังจะพูดอะไรกันแน่ พี่ใหญ่จูบกะ ...”


   “เฮ้อ ... เอ็งเห็นแต่เอ็งไม่เข้าใจไงไอ้ปัง เอาเถอะ คิดเอาเองข้าไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับปัญหาของวัยรุ่น แต่ข้าเชื่อว่าข้าดูคนไม่ผิด คนที่มันจริงใจและจริงจังกับความรักและชีวิตขนาดนั้น ถ้ารองได้ให้มันรักใครรักคน มันก็จะทุ่มเททั้งชีวิตและไม่มีทางหักหลังคนที่มันรักหรอก อย่ามัวแต่เศร้าคุยกันซะบ้างแล้วใช้สมองอันน้อยนิดของเอ็งว่ามันสมควรจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า โตจนหมาเลียปากไม่ถึงแล้วอย่าโง่”



   พ่อพูดจบก็เดินออกนอกห้องไป ...แรงชะมัดด่าว่าผมโง่ด้วยละ เฮ้อ ... ผมอาจจะโง่จริงๆก็ได้ แล้วทำควรจะทำยังไงละทีนี้ … สับสนไปหมดสรุปผมหรือพี่ใหญ่กันแน่ที่ผิด หรือบางทีเรื่องนี้มันไม่มีคนถูกเลยกันแน่ …      




 
.


.


.


   “ตาใหญ่ นั่งก่อนสิ”


   ร่างสูงของพี่ใหญ่เดินเข้าบ้านของตนเองที่ผู้เป็นแม่นั่งคอยอยู่ก่อนแล้วบนโซฟาลายดอกไม้ในห้องรับแขก เพราะกับการต้อนรับของเจ้าสามสหายที่ตัวโตกันผิดหูผิดตา ทั้งบ๊อบแอนโทนี่แมวสีขาวบริสุทธิ์ที่กระโดดลงจากตักมารดาวิ่งมาหาเขาพร้อมๆกับเจ้าเนียร์ฮักกี้น้อยที่บัดนี้กลายเป็นเจ้าตัวยักษ์และเจ้าวัวหมาพันธ์ลายวัวที่ตัวเล็กกว่าเจ้าเนียร์หน่อยเดียว ทั้งสามต่างคิดถึงร่างสูงและเข้ามาคลอเคลียหวังให้เจ้านายที่รักนั่งลงมาเล่นกับตัวเอง แต่ร่างสูง ณ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ร่วมกับอะไรทั้งนั้น ที่มานี้ได้เพราะเห็นแก่มารดาขอร้อง ไม่เช่นนั้นป่านนี้พี่ใหญ่คงอยู่ที่สนามบินแล้วเป็นแน่


   “แม่มีอะไรครับ”


   เสียงทุ้มต่ำถามขึ้นพร้อมกับเดินไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าไม่สู้ดีนัก รีบๆลนๆจนผู้เป็นแม่เหมือนได้เห็นภาพในอดีตนั้นอีกครั้ง แต่เมื่อครั้งสุชาดา เธอไม่ได้อยู่เคียงข้างลูกชายเพราะทำงานอยู่ต่างประเทศ และในตอนนี้เธอไม่มีวันจะให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเป็นอันขาด


   “จะไปไหนตาใหญ่”


   “หาปังครับ”


   “ใหญ่ ถ้ายังเห็นแม่เป็นแม่ แม่ขอให้ใหญ่ฟังแม่ได้ไหมลูก” คุณนายของบ้านพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือเรียวขาวของตัวเองมาจับที่ต้นแขนของลูกชายคนโตที่มักจะเป็นผู้ใหญ่อยู่เสมอ แต่ในตอนที่ผิดหวังและเสียใจ ภาวะในการตัดสินใจมักจะเป็นศูนย์ ไม่ว่าจะครั้งไหนๆก็ตาม


   “อีก 2 ชั่วโมงเครื่องจะออกนะแม่ ผมต้องรีบแล้ว” พี่ใหญ่พูดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่


   ตาคมก้มลงไปมองเจ้าวัวที่ซบบนเท้าของเขา พาลให้นึกถึงใครบางคนที่อ้วนเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ คิดถึง อยากเจอ อยากกอด อยากขอโทษ อยากอธิบาย จนหัวใจแกร่งแทบจะระเบิดออกมา อดไม่ได้ที่จะลงไปใช้มือลูบหัวของเจ้าวัวอยากเอ็นดู ไม่เพียงเจ้าวัวที่มีความทรงจำของเขาและปัง ยังมีเจ้าเนียร์และบ๊อบอีกด้วยที่ตั้งท่าอยู่ใกล้ๆ


   “ใหญ่ลูกคิดดีแล้วเหรอที่ตามหนูปังไป ลูกคิดว่าไปแล้วอะไรมันจะดีขึ้นงั้นเหรอลูก” ใบหน้าคมเข้มนั้นแสยะยิ้มก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย แน่สิ ถ้าเขาไปเจอปัง เขาจะลากปังกลับมาโดยไม่ให้เจ้าหมูอ้วนไอ้อุทรใดๆ ทั้งนั้น ขอแค่ได้เจอจะไม่ปล่อยให้ไปไหนเด็ดขาด เพราะปังเป็นของเขา ของเขาเพียงคนเดียว


   “ตาใหญ่ ลูกมีภาวะความเป็นผู้นำที่สูงและมักจะเป็นผู้ใหญ่เหนือกว่าเด็กที่รุ่นเดียวกัน แต่รู้ไหมทุกครั้งที่ลูกไม่มีสติ ลูกมักจะทำอะไรเหมือนเด็กเอาแต่ใจ และขาดวุฒิภาวะในการตัดสินใจและไม่สนอะไรทั้งนั้น ซึ่งนี้คือข้อเสียของลูก สุชาดากับหนูปัง ไม่ใช่คนเดียวกันนะลูก หนูปังดีกว่าสุชาดาหลายเท่า แม่ถามจริงๆเถอะ ใหญ่รักและเชื่อใจน้องบ้างไหม”


   “มันโง่ ถ้าผมไม่ไปตาม มันคงไม่กลับมา ผมไม่ยอมให้มันไปไหน เพราะมันเป็นของผม”


   “แม่ว่าหนูปังฉลาดออกที่หนีไป” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะร่างสูงคิดว่ามันโง่มากที่หนีคนอย่างเขาเพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาก็จะต้องตามหาจนเจอ และสุดท้ายเขาก็จะพันธนาการไม่ให้ปังไปไหนเลยตลอดชีวิต


   “แม่เชื่อว่าเรื่องนี้เราสองคนผิดทั้งคู่นะใหญ่ ปังผิดที่ไม่คิดจะฟังใหญ่ ใหญ่เองก็ผิดที่มีอะไรไม่พูดไม่อธิบาย ทั้งๆที่ต้องอธิบายมีโอกาสเยอะแยะแต่ก็ยังใจเย็น จนเรื่องมันออกมาแบบนี้ แล้วก็มานั่งเสียใจโทษคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยคิดจะโทษตัวเองที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ปากบอกว่าตัวเองผิดอยากขอโทษแต่ในใจกลับปฎิเสธและโยนความผิดให้ทุกคน รวมไปถึงหนูปังด้วย แม่พูดถูกไหมใหญ่ ?”


   ร่างสูงนิ่งสงัด จริงทุกคำที่แม่ของเขาพูด ... แม่ของเขาเป็นคนที่มองคนออกจากหน้าที่การงานที่ต้องพบเจอคนมากมายและแข็งแกร่งมากกว่าผู้หญิงคนไหนๆ ที่เลี้ยงลูกเพียงคนเดียวมาตลอด 20กว่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุและทิ้งพวกเขาและบริษัทเอาไว้เบื้องหลัง ใหญ่รู้ข้อนี้มาตลอด และหวังว่าสักวันเขาจะเป็นเสาหลักครอบครัว แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะรู้สึกแล้วว่า เขามันก็แค่เด็กคนนึง เด็กที่จะไม่รู้จักโต และปิดกั้นการเรียนรู้ตลอดมา


    “ผมควรทำยังไง” พี่ใหญ่พูดเสียงเบาหวิว ทุกอย่างที่เขาคิดเขาอ่านมันดูเด็กน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้า เผลอๆคนที่โตกว่าเขาอาจจะเป็นตัวเล็กน้องของเขาก็ได้


   “รอไง ใหญ่ต้องรู้จักรอ รู้จักเรียนรู้ในความรักที่เอื้ออาทรกัน รอให้รู้จักความรักแบบผู้ใหญ่ ให้สมกับที่หนูปังจะฝากชีวิตไว้ได้”


   “แต่…”


   “แม่เชื่อว่าแม่ดูคนไม่ผิด หนูปังไม่ใช่คนโง่ เป็นเพียงคนที่เชื่อความรู้สึกมากกว่าเหตุและผล ในบางครั้งก็ซื่อจนน่ารำคาญและทำให้เราหัวเสียหลายต่อหลายครั้ง แต่หนูปังก็น่ารักไม่ใช่หรือไงตาใหญ่” ร่างสูงพยักหน้าอย่างจำยอม


   เขาค่อยๆลุกขึ้น เดินขึ้นไปบนชั้นสองเงียบๆ เข้าไปในห้องของปังปังเจ้าหมูน้อยของเขาที่อยู่ติดกับห้องของเขา ผ้าปูที่นอนสีฟ้าสดใส เฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งด้วยสีขาวและสีครีมดูเรียบง่าย มองออกไปที่หน้าต่างมองเห็นท้องฟ้าอันสดใส ร่างสูงค่อยๆนั่งลงบนเตียงที่แสนจะคุ้นเคย ตาคมเหม่อมองไปบนฟ้าที่ว่างเปล่า ในใจที่เคยร้อนรุ่มเริ่มที่จะเบาบางลงวางพาสปอร์ทและตั๋วเครื่องบิน ที่ถือไว้แน่นอยู่ตลอดเวลาลงไว้ข้างกายก่อนจะล้มตัวลงใช้แขนข้างนึงหนุนศรีษะเอาไว้


   มุมปากยกยิ้มเล็กๆเมื่อมองไปบนเพดานเห็นสติกเกอร์สะท้อนแสงรูปเสือและหมูตัวน้อยที่เคียงข้างกัน ไม่รู้ว่าเจ้าหมูดื้อเอาขึ้นไปติดเมื่อไหร่แต่มันน่ารักเอาซะมากๆ มันทำให้เขาผ่อนคลายและมั่นใจว่า ต่อให้เขาไม่บังคับจิตใจของปังปังเหมือนทุกครั้ง ในสักวันปังปังจะต้องกลับมาหาเขา ไม่ใช่เพราะปังรักเขา หรือ เขารักปัง แต่เพราะเรารักกันต่างหาก


    “ถ้าคิดดูดีๆแล้ว พี่บังคับเรามาตลอดเลยนะปังปัง ....” พี่ใหญ่ยกแขนข้างซ้ายขึ้นก่อนที่แหวนสีเงินเรียบบนนิ้วนางจะสะท้อนกับแสงแดดอุ่นๆด้านนอก พราวระยับจนเขาต้องยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ... แหวนที่แทนตัวเองและปังปัง แหวนที่เขาทำให้ปังปังกับมือตัวเอง


   “พี่ขอโทษ พี่จะรอ รอวันที่เรากลับมา และพี่จะไม่ทำให้มันเป็นแบบนี้อีก ...ถือซะว่าการรอคอยคือบทลงโทษของเราทั้งสองคนแล้วกันนะเจ้าหมูแดง”  เขาพึมพำก่อนจะปิดตาลง พักผ่อนหลังจากที่ไม่ได้นอนมาหลายวัน


   ในเมื่อตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ เขาก็ทำได้เพียงรอคอยอย่างมีความหวัง ในวันข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้ ต่อให้สุดที่รักของเขาจะตัดสินใจยังไง คนหัวรั้นอย่างเขาก็จะไม่ฝื่นใจอีก ขอแค่อีกคนมีความสุข นั้นก็คือความสุขของเขาไม่ใช่หรือไง ใช่แล้ว ปังไม่เหมือนสุชาดา ไม่เหมือนมิ้นต์ ไม่เหมือนใครทั้งนั้น ... เพราะปังคือปัง เจ้าหมูตัวร้ายที่กล้าขโมยหัวใจของเสือร้ายจอมทรนงอย่างเขา


-ปัง-



   “ป้าเล็กครับ”


   ผมเดินลงมาด้านล่างเห็นป้าเล็กแม่บ้านคนไทยวัยกลางคนกำลังเดินผ่านมาพอดี โชคดีนะครับที่ป้าเบลจ้างคนไทยมาเป็นแม่บ้านไม่อย่างงั้นผมคงพูดกับเขาไม่รู้เรื่องแน่ๆ ว่าแต่ทุกคนไปไหน ทำไมเงียบจัง พี่อลัน ป้าเบล พ่อหายไปไหนกันหมดนะ ทั้งๆที่ฝนตกทั้งวันแบบนี้แท้ๆ 


   “หนูปังดีขึ้นแล้วเหรอคะ ดีจริงๆเลยนะคะ”


   “แหะๆ ได้ยาดีนะครับ” ผมว่าและเดินไปหาป้าเล็ก เอาจริงๆตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากกินยาของพ่อเข้าไปในท้องก็ร้อนเหงือออกและตาสว่าง ไข้เข้ยคลายลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อาจจะมีไออยู่บ้างนิดหน่อยปะปลายตามอาการ


   “ว่าแต่หายไปไหนกันหมดครับเนี้ย” ผมถามป้าเล็กที่ยืนมองผมอยู่ยิ้มๆ


   “คุณนายกับคุณผดุงออกไปซื้อของเมื่อกี้คะ ส่วนคุณอลันเห็นว่าจะไปซื้อขนมเจ้าอร่อยให้คุณปังนะคะ”


   “ทั้งๆที่ฝนตกแปปนี้น่ะหรือครับ”


   “คะ แหม พวกท่านๆไปรถยนต์กันไม่เป็นไรหรอกคะ อีกอย่างฝนซาแล้วด้วย ว่าแต่หนูปังเพิ่งหาย มากินซุปให้คล่องคอดีกว่านะคะ” ผมยิ้มรับก่อนจะโดนป้าเล็กลากเข้ามานั่งในห้องอาหารที่เมื่อเช้าลงมาหาพี่อลันให้พาไปหาตาแล้วทีนึง เฮ้อ ไม่คุ้นเคยเอาซะเลยกับบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม


   “รอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวป้าไปตักซุปให้นะจ๊ะ”


   ผมพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนที่ป้าเล็กจะหายเข้าไปในครัว เฮ้อ อยากได้โทรศัพท์ผมคืนจังอย่างน้อยก็ขอติดต่อตัวเล็กสักหน่อย หลังจากที่พ่อพูดมันก็ทำให้ผมเป็นห่วงพี่ใหญ่มาก ถึงจะยังไม่พร้อมที่จะเจอ แต่อย่างน้อยก็ขอรู้ก็ยังดีว่าตอนนี้พี่ใหญ่เป็นยังไงบ้าง เขาโอเคใช่ไหมเท่านั้นเอง ถ้าเค้ายังรักผมเหมือนที่พี่เค้าบอก เขาคงทั้งโมโหทั้งเป็นห่วงกันอยู่แน่ๆ หวังว่าเขาคงไม่รีบมาหิ้วผมกลับไปหรอกนะ งื้อ เฮ้อ นี้ผมหวังอะไรอยู่นะ


จริงสิ พี่อลันไม่อยู่นี้ …



“มาแล้ว อ้าวหนูปังไปไหนลูก”


“ปังขอไปนอนพักอีกสักพักนะครับ ขอโทษครับป้าเล็ก”


“อะ โอเคจ้า”


ตอบป้าเล็กเสร็จตัวผมก็รีบวิ่งขึ้นบันไดก่อนจะย่องไปห้องของพี่อลันที่อยู่สุดทางเดินทางขวามือ ก่อนจะกลั้นหายใจพึมพำขอโทษเบาๆและบิดลูกบิดเข้าไปในห้องของพี่อลัน ขอโทษนะครับพี่อลัน ผมอยากได้โทรศัพท์ผมคืนจริงๆ ไม่มีเจตนาจะล้วงล้ำพื้นที่ของพี่เลย


“ว้าว ห้องสวยจัง”


ผมอุทานออกมาเบาๆเมื่อเปิดเข้าไปเห็นห้องของพี่อลันที่ตกแต่งด้วยสีขาวและสีน้ำเงินเข้มดูสดใสและน่าค้นหาเหมือนพี่อลันเลย  พี่อลันจะเก็บโทรศัพท์ผมไว้ตรงไหนนะ โต๊ะลิ้นชักหัวเตียงหรือเปล่านะ นึกได้ผมก็รีบเดินไปหามันทันที อ่ะ ไม่มีอะ มีแต่พวกนาฬิกากับพวกเครื่องประดับเล็กๆน้อยเอง หรือว่าอยู่ตรงโต๊ะทำงานตรงมุมห้องนะ


แก๊ก แก๊ก



   “ล็อกอะ” น่าสงสัย เจ้าลิ้นชักนี้น่าสงสัย พี่อลันเอาของมีค่าใส่ไว้ข้างเตียงแต่กลับไม่ใส่โทรศัพท์ผมไปด้วย แล้วลิ้นชักนี้ก็ล็อก ผมปล่อยมือจากลิ้นชักนี้ และก้มลงไปค้นในลิ้นชักอื่นๆ พร้อมกับชั้นหนังสือที่วางเอาไว้อย่างเร่งด่วน งื้อ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนขี้ขโมยเลย แต่ผมแค่จะเอาของๆผมคืนเองนะ


   “อยู่ไหนนะ” แย่ชะมัด แค่โทรศัพท์เครื่องเดียวพี่อลันเอาไปวางไว้ไหนนะ เฮ้อ …


   หาตรงไหนก็ไม่เจอ ... ผมถอยหายืนกอดอกกลางห้องก่อนจะมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ผมเพิ่งค้นไปและหาอะไรไม่เจอนอกจากเสื้อผ้าราคาแพงของพี่อลัน ...จริงสิหลังตู้หรือเปล่านะ แล้วพี่อลันจะเอาโทรศัพท์ของผมไปไว้ทำไมบนนั้น ช่างเหอะ ก็หาทุกซอกทุกมุมแล้วมันไม่เจอนี้หน่า …


    “ฮึบ ระวังตกนะ” ไม่มีใครเตือนผมหรอก ผมนี้แหละเตือนตัวเอง โต๊ะทำงานของพี่อลันถูกมาเป็นบันไดให้ผมขึ้นไปบนหลังตู้ได้ ขอโทษนะครับพี่อลัน แงงงงงงงงงงงง อ่ะ ... กุญแจล่ะ


   พอไม่เจอโทรศัพท์ก็ต้องลงมาจากหลังตู้และนั่งลงบนเก้าอี้ที่ลากมา พิจารณากุญแจดอกเล็กๆในมือมันดอกเล็กเกินกว่าจะเป็นกุญแจบ้านละนะ ...หรือว่าจะเป็น … กุญแจลิ้นชักโต๊ะทำงาน ต้องใช่แน่ๆเลย


   “ขอโทษนะครับพี่อลัน ขอดูแปปนึงนะ”  ขอโทษพี่เขาเสร็จผมก็รีบเดินไปที่โต๊ะทำงานและจ่อกุญแจที่ชิ้นชักสรุปมันเข้ากันได้พอดีเป๊ะ งื้อออออออออออออ ปังขอโทษ!


แก๊ก …


   ผมค่อยๆกลั้นใจเปิดลิ้นชักหลังจากที่ไขปลดล็อกมันได้  …. ไม่มีครับ ไม่มีโทรศัพท์ของผม ... มีแต่รูปของผม ... ทั้งนั้นเลย ...


   “ปัง ทำอะไรในห้องพี่”

.
.
.

ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2016 21:45:55 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
   “อ่ะ พี่อลัน! ขะ ขอโทษครับ ๆ ผะ ผม ...”


   ยะ แย่แล้ว พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายืนหน้าบึ้งมองมาที่ผม มือทั้งสองข้างถือถาดขนมปังที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วอยู่ด้วย … ผมรีบปิดลิ้นชัดก่อนจะถอยหลังกรูไปติดกำแพงห้อง ฮืออออออ ผมต้องโดนด่าแน่ๆที่เข้ามาในห้องไม่ได้รับอนุญาต ผมยังถูกจับได้อีก ถ้าผมเป็นโจร คงเป็นไอ้โจรอ้วนโง่งี่เง่าแน่ๆ ...แต่ที่ช็อกกว่าก็รูปผมนี้แหละ ไม่ใช่รูปที่มาถึงที่นี้แล้ว แต่เป็นรูปของผมที่อยู่เมืองไทยต่างหาก …


   “เห็นแล้วสินะ เฮ้อ ปังลงไปรอพี่ด้านล่าง เดี๋ยวพี่ตามไป”

 
   “คะ ครับ …”


   “โทรศัพท์เราอยู่ที่พี่นี้แหละ ไม่ต้องไปหาที่ไหน” พี่อลันพูดในขณะที่ผมเดินผ่านก่อนจะยื่นถาดขนมปังมาให้ผมถือผมไม่ทันมองหน้าพี่เค้าเพราะไม่กล้าจะสบตา ก็ไอ้ปังมันมีความผิดอยู่นี้ครับ ทดแทนด้วยไขมันผมได้ไหม จะได้ไม่โกรธผม งื้ออออออ


   พอลงมาด้านล่างผมก็เดินมานั่งที่โซฟาห้องรับแขก มองไปรอบๆไม่เห็นใครสักคน ขนมปังตรงหน้าผมก็หอมฉุยจนอดใจไม่ไหวต้องหยิบขึ้นมากิน ... ว๊าว ไส้นมอันนี้อร่อยจังเลย ...


พรึบ !



   กล่องสีดำถูกวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าผม ด้วยความตกใจขนมปังรสสตอเบอรี่อันที่ 2 เกือบติดคอหมดแหนะ ดีนะที่มือใหญ่ยื่นแก้วนมอุ่นๆมาให้ผม เลยรอดตายไป


   “ขะ ขอบคุณครับ แล้วก็ขอโทษที่เอ่อ ... เข้าไปให้ห้องพี่อลันโดยไม่ได้รับอนุญาติ” ผมเงยหน้ามองพี่อลันก่อนจะหลบตาลงมองมือตัวเองที่ถือขนมปังค้างเอาไว้


   “หึ หายดีแล้วซนนะเราเนี้ย”   


   เขาว่าและนั่งลงข้างๆผมใช้มือหนาวางหัวของผมไม่มีความรู้สึกโกรธรู้สึกเคืองแต่อย่างใด  ... ผมก็โล่งอก แต่มันแปลกๆเลยทำให้ปฎิกิริยาร่างกายสั่งบอกให้ผมถอยห่ายจากพี่เขา มือหนาชะงักเมื่อผมถอยห่าง ตาสีฟ้าของเขามองมาที่ผมเชิงหยอกล้อ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังเอื้อมไปหยิบกล่องมาวางบนตักของผม และปิดกล่องออกให้ผมดู ผมชะเง้อลงไปมองก่อนจะเอ๋อทันที เมื่อเห็นว่ารูปของผมทั้งนั้นที่อยู่ในกล่อง ทั้งแต่เป็นไอ้อ้วนน่าเกลียดตอน ม ต้น – ม ปลาย จนเข้ามหาลัยและรูปของผมกับพี่ใหญ่ ตัวเล็กอีกเป็นจำนวนมาก ... เหมือนเขารู้จักผมมากกว่าตัวผมเองด้วยซ้ำไป


   “พี่ไม่ใช่โรคจิต ไม่ต้องกลัว หึหึ ขยับเข้ามา พี่จะเล่าให้เราฟังความจริงให้ฟังเอง”


   ผมเม้มปาก ก่อนจะขยับหน้าและขยับเข้าไปหาพี่อลัน เขาใช้แขนแกร่งของตัวเองวาดมากอดผมเอาไว้ ทำให้เรานั่งแทบจะเกยตักกัน ถึงจะเขินๆ แต่เขาก็พี่ชายผม และเขาก็ดีกับผมตลอดผม ผมไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายผมหรอกนะ


   “หึหึ คุณตาน่ะนะ นิสัยปากแข็ง อคติสูง แต่จริงๆท่านใจดี ท่านส่งคนตามเราตลอดนั้นแหละปัง คอยสอดส่องตลอดเวลา แต่ไม่ให้ความช่วยเหลืออะไร เพราะอคติที่มีมากกว่าแค่นั้นเอง พี่เห็นเราตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน”


   “ผมไม่รู้” ผมส่ายหน้าไปมา มองภาพของเด็กตัวอ้วนคนนึง ในชุดพละของเด็กอนุบาล ...


   จะว่าไปผมก็น่ารักดีนะ มองไปอีกภาพในมือพี่อลันเป็นภาพที่ผมในชุด นักเรียน ม ปลาย กำลังถูกเพื่อนแกล้ง ... อ่ะ มีนายเสาร์ด้วย หึ หมาบ้าเอ้ย! ตอนนั้นยังไล่แกล้งผมอยู่เลย มาถึงตอนนี้เปลี่ยนเป้าหมายไปแกล้งตัวเล็กต่อ แถมยังรักเพื่อนผมอีก ทุเรศชะมัดเลย ฮิฮิ


   “หน้าที่ถูกส่งต่อให้คุณแม่  คุณแม่ของพี่อยากจะไปหาเราตั้งนานแล้วปัง แต่ท่านไม่มีความกล้าพอ พี่เคยขอแม่ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ท่านไม่อนุญาต จนถึงวันนี้ วันที่พี่ได้เจอกับน้องของพี่ … บอกตรงๆไม่ใช่สภาพที่พี่ปลื้มสักเท่าไหร่ หึ ว่าแล้วเชียวว่าไอ้หมอนี้มันไม่ซื่อ” พี่อลันโยนภาพของผมที่นั่งกินข้าวและอีกหลายๆภาพของผมและพี่ใหญ่อยู่ด้วยกัน เขาดูโมโกแล้วด้วย ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาสีฟ้า ก่อนจะบีบแขนของเขาเบาๆ เขายิ้มให้ผมและหอมหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน … เขินชะมัด


   “พี่ขอโทษที่ทำให้เรากลัวนะปัง แต่พี่ไม่คิดที่จะทำร้ายเราเลย พี่อาจจะเป็นพี่ชายที่หวงน้องไปหน่อย แต่กับไอ้หมอนี้พี่ไม่ยอมจริงๆนะปัง ... อยู่ที่นี้ไหม พี่จะหามหาลัยดีๆให้ อยู่กับเราที่นี้นะปัง” ผมเม้มปากและก้มหน้าส่ายหัวไปมา ... ที่นี้ไม่ใช่ที่ของผม …


   “พี่ครับ ทุกอย่างของผมอยู่ที่เมืองไทยครับ … ภาพของพี่ ไม่ใช่แค่ทำให้ผมรู้ว่าพี่และป้าเบลคอยเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา ...แต่ผมยังรู้อีกด้วยว่า ผมควรที่จะฟังพี่ใหญ่บ้าง เพราะเราสองคนผ่านอะไรด้วยกัน มาเยอะเหลือเกินครับ”


   ผมพูดตามตรง … พี่อลันชะงักไปนิดนึงก่อนจะก้มลงมามองผมอีกครั้ง ตาสีฟ้าหม่นลงไปในทันที ผมขอโทษ ... แต่ภาพพวกนี้มันเตือนให้ผมรู้ว่า ผมรักพี่ใหญ่มากแค่ไหน เราควรจะคุยกัน ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป ... ความรักของเราไม่ใช่เรื่องตลกๆ ที่คนๆนึงจะหายมาเงียบๆ และปล่อยให้อีกคนคิดไปเองคนเดียว ถึงพี่ใหญ่จะทำผิดและเกิดอะไรขึ้น เราควรที่จะเปิดใจคุยกันก่อน ... ถึงแม้ปลายทางเป็นยังไงก็ตาม


   “หึ ก็ได้ครับ แต่พี่จะให้โทรศัพท์เราพรุ่งนี้ หลังจากที่ไปเยี่ยมคุณตาเสร็จสิ้นแล้ว ตกลงไหมครับ”


   “... ฮะ” ผมพยักหน้าอย่างจำยอม ก่อนที่พี่อลันจะลุกขึ้นเอารูปไปเก็บ แต่ผมขอรูปหนึ่งใบเอาไว้ เขาถอนหายใจนิดนึงก่อนจะตกลง ... มันเป็นรูปของผมกับพี่ใหญ่ ในวันที่เรายิ้มให้กัน ดูแล้วอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย ...


.


.


.


   เช้าตรู่ของวันนั้น ผมตื่นขึ้นมาดวยความกระปี้กระเป่า แต่ก็ยังสายกว่าพี่อลันกับป้าเบลและพ่อผดุงที่ลงมาก่อนแล้ว เราช่วยกันจัดอาหารเครื่องดื่มสำหรับปิกนิค และอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดป้ายหินของคุณตา รวมไปถึงดอกไม้หลากหลายตระกูลที่ล้วนแต่เป็นสีขาว สีที่คุณตาของผมชอบ เมื่อจัดเตรียมเสร็จก็นั่งกินข้าวพูดคุยกันสารพัดเรื่อง ไม่พ้นเรื่องของผมที่ป่วยจนงอแง และดื้อกับพี่อลัน แถมยังขี้อ้อนร้องไห้ไม่หยุดด้วย ทำให้ผมอายแทบซุกหน้าลงไปใต้โต๊ะเลย ในตอนสายๆ เราทั้งหมดขึ้นรถตู้ที่จอดเตรียมไว้โดยมีพี่อลันเป็นคนขับ ป้าเบลนั่งข้างๆ ส่วนผมและพ่อนั่งด้านหลัง ส่วนป้าเล็กก็อยู่ที่บ้านเพราะเห็นว่าจะมีเอกสารงานของพี่อลันมาส่งที่บ้าน


   เรามาถึงโบส์ถนอกเมืองของศาสนาคริสต์ พื้นที่สงบที่พระเจ้าสรรสร้าง และขับเลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นสุสานของชาวคริสต์ที่เงียบสงบบนเนินเขา ปูด้วยพื้นหญ้าสีเขียวขจีชุ่มไปด้วยไอแดดอ่อนๆ ที่ไม่ร้อนจนเกินไปนัก แท่นหินสลักชื่อถูกเรียงรายกันดูสวยงาม แต่กลับดูวังเวงและลึกลับ  และสำหรับผมมันหดหู่จนผมอยากจะร้องไห้เลยละ


   “เดินตามพี่มานะครับ”


   พี่อลันในเสื้อสูทสีดำไม่ต่างจากผมและพ่อ ส่วนป้าเบลใส่ชุดกระโปรงสีดำเรียบร้อย เดินจูงผมไปเงียบๆ เราเดินผ่านแท่นหินน้อยใหญ่ บางแท่นก็มีดอกไม้สดๆวางอยู่และบางแท่นก็เหมือนขาดการชำระล้างมานาน ทำให้ฝุ่นขึ้นเต็มไปหมด จนมาหยุดยืนอยู่ที่แท่นหินแท่นหนึ่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ผลิดอกผลิใบสง่างาม


   “ไหว้ตาสิหนูปัง”


   “ครับ … สวัสดีครับคุณตา” ผมขานรับป้าเบล ก่อนจะหันมาคุกเข่า พร้อมๆกับพ่อที่คุกเข่าลงเหมือนกัน พี่อลันกับป้าเบลพอเห็นผมทำก็ถอยหลังออกไปยืนห่างจากเราเล็กน้อย เหมือนจะปล่อยให้เราทั้งสองคน ได้พบปะกับคุณตาเพียงลำพัง


   “พ่อครับ… ผมผดุงนะครับพ่อ ...คนที่พ่อเกลียดนักหนา ผมไม่รู้จะแก้ตัวยังไง แต่ผมรักลูกสาวของพ่อ ผมรักปลายครับพ่อ ...ถึงแม้ผมจะดูแลเธอไม่ได้ ทำให้เธอตาย ...แต่ผมก็ดูแลลูกของเราอย่างดีนะครับ พอจะทดแทนบาปกรรมของผมได้บ้างไหมครับ ผมขอโทษครับ ผมทำได้เพียงเท่านี้ ... ผมขอโทษครับที่ไม่เคยไปกราบเท้าพ่อ ผมขอโทษครับ”


   ผมเม้มปากกลั้นน้ำตา มองภาพของพ่อผดุงชายร่างผอมบาง ก้มลงกราบแทบดินตรงหน้าหลุมศพของคุณตา และก้มอยู่อย่างงั้นไม่ยอมเงยขึ้นมา ทำให้ผมต้องจับไหล่ของพ่อและค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น พ่อของผมไม่มีน้ำตา แต่สีหน้าไม่ดีนัก เขาค่อยๆลุกขึ้นและเดินถอยหลังออกไป พี่อลันกับป้าเบลต่างปลอบใจพ่อผมอยู่เงียบๆจากทางด้านหลัง ผมมองแท่นหินที่สลักชื่อของคุณตานิ่ง ... หวังฉาน เล็ง ... คุณตาของผมชื่อเล็ง ...


   “ตาเล็งครับ ผมปังเองนะครับ หลานชายของตา ที่ตาไม่เคยเห็นหน้า ผมมาหาตาแล้วนะครับ คุณตาฮะ อย่าโกรธพ่อกับแม่เลยนะ พวกท่านรักกันจริงๆ นะครับ คุณตาเกลียดคนจนหรือครับ ทำไมถึงไม่ชอบพ่อผดุง พ่อผดุงเป็นคนดีมากๆ ที่ปังโตมาอ้วนท้วนสมบูรณ์แบบนี้เพราะพ่อผดุงนะครับ”


    ใบไม้ไปนึงหล่นมาจากต้นไม้ใหญ่ลงบนมือของผม ก่อนที่สายลมจะหอบเอากลิ่นของดอกอะไรสักอย่างมาปะทะกับจมูกผม กลิ่นของมันหอมๆเย็นๆ ได้กลิ่นแล้วจิตใจสงบเหลือเกิน ตอนนี้ความหวาดกลัวสถานที่ของผมไม่หลงเหลือแล้ว แต่กลับรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูกเลย ... 


   “คุณตาครับ … ปังรักคุณตานะครับ ขอโทษที่เราทำให้คุณตาผิดหวังแล้วผิดหวังอีก แต่ปังเชื่อว่า ตอนนี้คุณตาคงอยู่กับคุณแม่ของปังบนสวรรค์ใช่ไหมครับ ... ปังสัญญานะครับถ้าปังโตขึ้น ปังจะรวยๆ และทำให้พ่อผดุงแข็งแรงมีความสุข ถึงเวลานั้น... ผมจะกลับมาหาคุณตาอีกนะครับ ปังรักคุณตามากๆเลยนะครับ แม่ครับ ถ้าแม่ฟังปังอยู่กับตา แม่ไม่ต้องเป็นห่วงปังนะครับ ปังจะเข้มแข็งให้มากๆ ปังจะไม่อ่อนแออีกแล้ว” ผมพูดจบก็บรรจงวางช่อดอกไม้สีขาวไว้หน้าหลุมศพ ก่อนจะจูบลงที่แท่นหินอย่างแผ่วเบา และก้มลงกราบอีกครั้ง


   “ปังขอขมาในทุกสิ่งที่เราทำให้คุณตาเล็ง ไม่สบายนะครับ ” ผมพึมพัมพูดก่อนจะเหยียดยิ้มเมื่อตนเองรู้สึกถึงสายลมที่พัดผ่านไปรอบๆตัว ... ปังว่าปังรับรู้นะครับตา ...ขอบคุณที่รักผม และติดตามผมตลอดมา ต่อจากนี้ หลานของคุณตาจะไม่อ่อนแอแล้วครับ …


   เมื่อไหวคุณตาเสร็จ ผมกับพี่อลันต่างช่วยกันทำความสะอาดแท่นหินของคุณตา ส่วนคุณพ่อและป้าเบล ก็เดินไปที่รถเอาของปิคนิคมาปูใต้ลมเงาต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ ... ผมเห็นมีคนมาไหว้ญาติเหมือนกันสองถึงสามครอบครัว พวกเขาดูอัธยาศัยดีไม่ต่างจากคนไทย ยิ้มหัวเราะทักทาย แบ่งปันอาหารแลกเปลี่ยนกันมากมาย ภาษาอังกฤษที่ผมพอจับใจความได้แต่ไม่มากนักทำให้ผมมึนงง มีคนถามมาทีต้องให้พี่อลันช่วยแปลให้อีกที ถึงจะกินข้าวกันที่สุสานแต่เราก็ไม่ได้เอะอะโวยวายกันจนเสียงดังรบกวนใครมากนัก และผมไม่แน่ใจว่าเขาให้เข้ามากินได้หรือเปล่า แต่พี่อลันบอกว่าเป็นประเพณีของบ้านไปแล้วว่า 1 ปีจะต้องมากินข้าวพร้อมตา 1 ครั้ง 


   ตอนบ่ายแก่ๆ เมื่อตะวันเริ่มจะทอแสง เราพากันกลับบ้าน แต่พอพี่อลันส่งป้าเบลและพ่อผดุงเสร็จ ก็ขับรถพาผมออกมาจากบ้านอีก ผมไม่รู้ว่าเขาจะพาผมไปไหน ได้แต่นั่งเงียบๆมาตลอดทาง คิดถึงเรื่องของวันนี้เงียบๆ และนึกย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องของพี่ใหญ่ ที่แวบเข้ามาในหัว ในคืนนั้นที่เราสองคนทะเลาะกันหนักมากๆ ... เรามีอะไรกัน แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าเขินตรงไหน หรือว่าน่าประทับใจอะไร เพราะมันเหมือนผมทำลงไปด้วยความประชดพี่ใหญ่ และพี่ใหญ่ก็ทำลงไปเพราะต้องการเพียงที่จะเหนียวรั้งผมเอาไว้ ... มันเจ็บปวด จนผมไม่อยากที่จะคิดถึงมันเลย ...


   “ถึงแล้วครับ” เสียงของพี่อลันปลุกสติของผมให้กลับมา ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆไม่ให้คนตัวใหญ่ข้างๆเห็น เขายิ้มให้ผมเหมือนแสงตะวันที่ใกล้จะตกทางด้านหลังเลย


   ผมพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูลงไปยืน มองออกไปตรงหน้าเห็นเป็นทะเลสาบน้ำสีฟ้าสดใส รอบข้างเรารายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลากสี ดูมีชีวิตชีวา ใต้พื้นท้องฟ้ายาวเย็นแบบนี้ทำให้ทะเลสาบตรงหน้าผมเป็นสีส้มนวลไปทั้งท้องน้ำ มองออกไปเห็นสะพานใหญ่เชื่อมระหว่างสองฟากของทะเลสาบเอาไว้ สดชื่อจังเลย


   “ทะลสาบกริฟฟินครับ” พี่อลันเดินมายืนข้างผมก่อนจะพูดขึ้นผมหันไปพยักหน้าให้และหัวเราะเบาๆ เพราะพี่อลันส่งสายไหมสีชมพูมาให้ เขาแอบไปซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย ผมรับมาอย่างไม่ปฎิเสธ อิอิ เด็กไม่ควรปฎิเสธของที่ผู้ใหญ่ให้สินะ


   “ถ้าปังกลับไปไทยแล้วจะทำยังไงต่อไป”


   “ปังจะไปคุยกับพี่ใหญ่ครับ และคงกลับไปอยู่ที่บ้านหลังเก่าของเราพ่อลูก ส่วนเรื่องเรียน คงไม่มีปัญหา ปังคงต้องอยู่ให้ได้ เพราะเรื่องส่วนตัว ปังจะไม่เอามาปนกับการเรียนเพราะพ่อผดุงเหนื่อยมามากพอแล้วครับ” ผมตอบเสียงอ้อมแอ้มก้มหน้ากินสายไหมในมืออย่างที่กลัวมันจะหลงลงไป พี่อลันวางมือลงบนศรีษะผมเอาจะขยี้เบาๆและพูดออกมาบ้าง


   “พี่สนับสนุนให้ออกมาจากบ้านหลังนั้นนะครับ แต่ไม่สนับสนุนให้กลับไปอยู่บ้านตัวเอง ... พี่จะให้เราไปอยู่บ้านพี่ที่กรุงเทพ ถึงมันจะไม่ใหญ่มากนัก แต่รับรองเรากับพ่ออยู่กันได้สบายเลยละ”


   “แต่ …”


   “ถ้าปังปฎิเสธพี่ พี่จะไม่ให้ไอ้นี้คืน” ผมตาวาวขึ้นทันทีที่เห็นพี่อลันชูโทรศัพท์ของผมขึ้นมาให้ดู เขาเลิกคิ้วเชิงถามผมเลยต้องจำยอมและพยักหน้ารับเป็นการสัญญา เขาจึงยื่นโทรศัพท์ให้กับผม ผมรับมากุมเอาไว้พร้อมๆกับสายไหม อย่างเด็กหวงของ ... ตัวเล็กกลับไปบ้านเราคุยกันนะ ...


   “แล้วจะกลับวันไหนครับ”


   “ปังลามาได้แค่ อาทิตย์เดียวครับพี่อลัน”


   “หึหึ งั้นพรุ่งนี้เก็บของนะ”พี่ชายผมพูดพร้อมกับโยกศรีษะผมไปมาอย่างถือสนิท ผมหัวเราะเพราะจักกะจี้หดคอหนีคนขี้แกล้งที่ใช้มืออีกข้างมาแหย่ที่คอของผมไม่เลิก


   “...อ่อ ไม่ใช่แค่ของเรานะ ของพี่ด้วย”


   “ฮืม ?” ผมชะงักกลื่นน้ำลายเหนียวลงคอฝืดๆ ถึงแม้จะเป็นคำพูดธรรมดาๆ แต่มันทำให้ผมรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว


   “ไม่ต้อง งง ... พี่จะไปกับเราที่เมืองไทย”


แหงะ …   



=========================


กลับมาแล้วจ้า คึคึ นานไปนิดหน่อย แต่ก็ยังมาเร็วกว่าครั้งที่แล้วนะ เง้อออออ

คิดถึงกันไหม ทั้งปังปังและพี่ใหญ่กำลังเรียนรู้ในความรักแบบผู้ใหญ่กันอยู่ มาคอยติดตามกันต่อนะคะ

เรื่องสุสาน เค้าไม่แน่ใจว่าบรรยายได้ถูกหรือเปล่าเพราะส่วนตัวไม่เคยไป ถ้าผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยนะคะ

รักทุกคนนะคะ เลิฟ ติชมได้นะคะ  :katai5:




เอารูปปังปังกับพี่ใหญ่มาฝากคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

รวมไปถึงคนนี้



น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

สุดท้ายฝากนิยายเรื่องใหม่ของเค้าด้วยน๊า
พ่อของแม่ ต้องเปนคุณตา  ไม่ไช่คุณปู่นะค่ะ จุ้บ จุ้บ

แก้ไขเรื่องปู่ - ตาแล้วนะคะ ซอรี่ อิอิ จุ๊บๆ  :katai4: :katai5:


❌ 守ります มาเฟียลูกแหง่ ❌
สอบถาม ติดตามข่าวสาร พูดคุย กันได้ที่เพจนะคะ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

 :bye2:

[/color]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2016 21:51:44 โดย pa_pa »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ouioui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เราเบื่อมือที่สามที่มาแนวหวังดีของทุกเรื่องไม่เว้นเรื่องนี้555+

..

ขอบคุณค่ารออ่านจนตี 1

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
พี่ใหญ่สู้ๆ มีตัวมารกลับมาพร้อมปังด้วยอีก เฮ้อออ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เข้าใจกันสักทีเถอะ รอนานแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ปังน่าจะอยู่นานๆ  หน่อย  พี่ใหญ่จะได้คลั่งมั่งอ่ะ    :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
พี่ใหญ่และน้องปังสู้ๆนะ  :mew1:

ออฟไลน์ sunshine2513

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พ่อของแม่ ต้องเปนคุณตา  ไม่ไช่คุณปู่นะค่ะ จุ้บ จุ้บ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ดูท่ารอบนี้พี่ใหญ่ต้องพิสูจน์ตัวเองบ้างแล้ว

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กร๊ากกกกกกด พี่อันจะไปแสดงอิทธิฤทธิ์ที่ไทยแล้ว
พี่หวงน่องนี่น่ากลัวที่สุด
พี่ใหญ่จะทำยังไงน้ออออ รอตอนต่อไปน้าา

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ครั้งนี้พี่ใหญ่รับศึกหนักซะแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด