[JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก" (SS1 end) ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก" (SS1 end) ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 30805 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

..................

สวัสดีค่ะ

เพิ่งเคยเขียนนิยายเป็นเรื่องแรก ขอฝากตัวด้วยนะคะ
เรื่องนี้เป็นแฟนฟิค JGV ค่ะ เรามีโมเดลในดวงใจอยู่หลายคน อยากจับมาปู้ยี่ปู้ยำ เอ๊ย มาเป็นพระเอกค่ะ มาเป็นพระเอกของเรามาก ๆ เลยตัดสินใจเขียนเป็นเรื่องออกมา

เรื่องนี้เป็นตอนสั้น ๆ นะคะ จับคู่โมเดลตามใจฉัน และพื้นฐานของเรื่องนี้คือวงการ JGV ซึ่งเรามโนเอาทั้งสิ้นนะคะ ข้อมูลไม่อิงความเป็นจริงใด ๆ เพราะคงไม่มีค่ายหนังจีวีของจริงที่ไหนจะอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรักเท่ากับบริษัทนี้อีกแล้วค่ะ

"The Company - บริษัทสร้างรัก"
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2014 11:27:55 โดย Mettnoon »

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #1 เมื่อ16-08-2014 11:52:06 »

สำหรับ SS1 แต่งเอาไว้หกคู่ค่ะ

Atsushi (MC) x Tsubasa (MC)
Kazuki (Coat) x Tsubasa (Coat)
Eiji (KO) x Teppei (ตัวละครสมมติ)
Tsuyoshi (ตัวละครสมมติ) x Hikaru (Coat)
Kikuchi (KO) x Toshi (KO)
Daiji (Coat) x Sora (Coat)

จะทยอยลงนะคะ หวังว่าจะมีคนชอบนะ :hao5:

สร้างรักครั้งแรก: Atsushi x Tsubasa

     ความรู้สึกของสึบาสะในขณะนี้เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายใจ มันช่างต่างจากครั้งแรกที่เขามาที่นี่ ในตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองตัดสินใจเด็ดขาดและพร้อมแล้วที่จะเดินในเส้นทางสายนี้
     เด็กหนุ่มกำลังต้องการเงินสักก้อนหนึ่งเพื่อเป็นทุนในการแยกออกมาอยู่คนเดียว เขาต้องการเงินอย่างเร็วที่สุด แต่ไม่สามารถหางานพิเศษที่จะได้เงินขนาดนั้นได้ ตอนนั้นเองที่เขาได้นามบัตรของโนมูระ
     โนมูระซังเป็นพนักงานของค่ายหนังจีวีชื่อดัง สึบาสะพบกับเขาตอนกำลังเดินเล่นอยู่ที่ชิบูยะ โนมูระเข้ามาทักและยื่นนามบัตรให้ บอกว่ารูปร่างหน้าของเด็กหนุ่มตรงกับอิมเมจที่ค่ายต้องการ สึบาสะเป็นผู้ชายตัวเล็ก หน้าหวาน ตาโต แก้มป่อง ผิวขาวเนียนผ่อง ท่าทางสุภาพเรียบร้อย โนมูระใช้คำชมว่าน่ารักกับสึบาสะ
     “สึบาสะคุง คนที่ตัวเล็กหน้าเด็ก แล้วก็น่ารักอย่างเธอน่ะเหมาะสมกับหนังจีวีมากที่สุด”
     โนมูระพูดอย่างนี้ ในขณะที่สึบาสะยังลังเลอยู่มาก
     “ผมไม่ได้เป็นเกย์”
     นอกจากนั้นเขายังไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องเพศมากเกินไปกว่าจูบแบบเด็ก ๆ กับเพื่อนผู้หญิง เขายังไม่เคยเจอใครที่ชอบมากพอจะทำเรื่องอย่างว่าด้วยได้เลย
     “นักแสดงก็มีทั้งที่เป็นและไม่เป็น ทุกอย่างมันเป็นการแสดง นักแสดงมีหน้าที่เล่นไปตามบทบาทที่กำหนดไว้เท่านั้น” โนมูระอธิบาย เขาเห็นสึบาสะยังทำหน้าไม่ค่อยดีนักก็ปลอบว่า
     “ไม่ต้องห่วงหรอกนะสึบาสะคุง ค่ายของเราน่ะมีชื่อเสียงที่ดี เราให้ความสำคัญกับนักแสดงของเรา เธอสามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงแนวไหน ไม่มีการบังคับใจ ไม่มีสัญญาทาส ไม่มีการหลอกลวง ฉันถึงเลือกทำงานกับที่นี่ยังไงล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยเป็นผู้กำกับนะ กำกับหนังเอวี แต่ค่ายที่ฉันอยู่น่ะต่างกับที่นี่เหมือนฟ้ากับเหว ในที่สุดฉันก็ลาออกมา ก็อย่างว่าแหละนะโลกนี้มันมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เรื่องของฉันน่ะช่างเถอะ มาพูดเรื่องของเราต่อดีกว่า ฉันยังไม่ได้บอกเธอเรื่องค่าตัวใช่ไหม ลองฟังดูแล้วเก็บเอาไปคิดนะ ถ้าสนใจก็โทรมาหาฉัน”
     ค่าตอบแทนที่โนมูระบอกนั้นสูงจนน่าตกใจ แต่โนมูระบอกว่ามันไม่มากหรอกถ้าเทียบกับสิ่งที่นักแสดงจะต้องเจอ ค่าตอบแทนเรตที่สูงที่สุดนั้นให้สำหรับนักแสดงที่เปิดเผยหน้าตาและยอมเล่นบทฝ่ายรับ ถ้าไม่เปิดเผยหน้าตา ไม่ยอมเป็นฝ่ายรับ ไม่ให้มีการสอดใส่ ไม่ให้ใครแตะต้องสัมผัส เรตค่าตัวที่ได้จะลดหลั่นลงอีก เรตต่ำสุดนั้นต่างกับเรตที่สูงที่สุดถึงยี่สิบเท่าทีเดียว
     สึบาสะคิดทบทวนดูแล้ว เขาอยากได้เรตที่สูงที่สุด ถ้าเขายอมทำ แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น เขาก็จะมีเงินพอจะทำในสิ่งที่คิดเอาไว้
เด็กหนุ่มไปที่บริษัทค่ายหนังตามแผนที่ที่โนมูระให้มา บริษัทเป็นอาคารสูงสามชั้น ข้างในตกแต่งอย่างสวยงาม ตามผนังติดรูปของนักแสดงในค่ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นสตาร์ของค่าย ค่าตัวสูง เด็กหนุ่มไม่คิดอยากมีรูปติดอยู่ตรงนี้หรอก เขาเพียงแต่ต้องการเงินตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้เท่านั้น
     นอกจากสึบาสะยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่มาสมัครเป็นนักแสดง ส่วนใหญ่หน้าตาดีกันทั้งนั้น มีตั้งแต่อายุไล่เลี่ยกับสึบาสะไปจนถึงแก่กว่าหลาย ๆ ปี เด็กหนุ่มเหลือบมองไปรอบ ๆ แล้วก็ไปสบตากับเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้า น่าจะอายุไล่เลี่ยกัน เด็กหนุ่มคนนั้นย้อมผมสีทองสว่าง ด้านหน้าไว้เป็นหน้าม้า หน้าตาน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง พอเห็นสึบาสะมองมาก็ยิ้มให้ สึบาสะยิ้มตอบอย่างเงอะงะ ก่อนจะรีบหลบตาลงต่ำ กังวลว่าจะเสียมารยาทที่ไปมองคนอื่นเข้า
     เด็กหนุ่มรออยู่ไม่นานโนมูระก็ออกมาพาเข้าไปในห้องทำงาน บอกให้เขากรอกข้อมูลส่วนตัว ซักถามอะไรอีกเล็กน้อย แล้วก็ส่งสัญญาให้อ่าน สึบาสะเตรียมใจว่าจะต้องทำทุกอย่างแล้ว แต่วันนั้นก็ไม่มีอะไร โนมูระซังบอกว่าจะจัดวันทดสอบหน้ากล้องทีหลัง หากผ่านก็เซ็นสัญญา ทางค่ายจะป้อนงานให้ ซึ่งวันที่นัดก็คือวันนี้
     สึบาสะกำลังรอให้มีใครสักคนมาเรียกเขา จะต้องทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ คิดแค่นี้ตัวของเขาก็สั่นเทา

     อัตสึชิจอดรถสปอร์ตสีเงินของเขาที่ที่จอดรถประจำตัว ในฐานะน้องชายเจ้าของค่ายควบตำแหน่งรองประธาน เขามีที่จอดรถส่วนตัว ไม่ต้องแย่งกับใคร เมื่อลงมาจากรถก็พบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มคนหนึ่งยืนยิ้มกว้างจนตาหยีอยู่ข้างรถ
     “โอ๊ะ โชจัง” อัตสึชิทักทายพร้อมกับตรงเข้าไปกอดเอาไว้ ทำท่าจะจูบเอาเสียด้วย ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าโชรีบเบือนหน้าหนีพร้อมกับเอาสองมือยันหน้าเขาเอาไว้ พลางบ่นว่า
     “เล่นอะไรบ้า ๆ อีกแล้วอัตสึซัง”
     “ก็โชจังน่ารักก็ต้องอยากจูบเป็นธรรมดา หรือนายกลัวใครมาเห็น”
     กังวานเสียงตอนพูดประโยคหลังมีแววล้อเลียน โชหัวเราะเบา ๆ
     “กลัวเหมือนกันแหละ หรือคุณไม่กลัว”
     คราวนี้อัตสึชิพลอยหัวเราะไปด้วยอีกคน แล้วก็ยอมปล่อยตัวโชแต่โดยดี
     ใครคนนั้นที่กำลังพูดถึงกันอยู่คือ นางิ เป็นนักแสดงระดับสตาร์ของค่ายเช่นเดียวกับโช แต่พูดไปแล้วนางิดังกว่าโชเสียอีก ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาราวเทพบุตร ผิวขาวผ่อง และรอยยิ้มที่งดงาม นางิแสดงได้ทั้งบทอุเคะและเซเมะ แต่ถ้าคู่กับโช นางิจะเป็นฝ่ายรับ เพราะโชรูปร่างสูงใหญ่กว่า ผิวสีเข้ม ใบหน้าหล่อคม เหมาะกับบทเซเมะมากกว่าและเล่นเข้ากับนางิได้เป็นอย่างดี สองคนกลายเป็นคู่ขวัญของค่าย ซึ่งแรก ๆ ทางค่ายก็สร้างภาพคู่รักโปรโมตให้ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เกิดตกหลุมรักกันเข้าจริง ๆ จนได้
     อัตสึชิเป็นคนเลือกสองคนนี้มาประกบคู่กัน โชเป็นรุ่นน้องของเขา ในช่วงที่ค่ายเริ่มตั้ง เขาชวนโชเข้ามาทำงานเพราะคิดว่าโชจะดังได้ไม่ยากและเป็นตัวโปรโมตค่ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็เป็นไปตามที่คิด หลังจากเล่นไปสองเรื่อง โชก็ดังเป็นพลุแตก อัตสึชิจึงไปดึงตัวนางิมาจากค่ายอื่นเพื่อโชโดยเฉพาะ
     เซเมะสุดหล่อกับอุเคะรูปงาม เป็นส่วนผสมที่ลงตัวและทั้งคู่ก็มีเคมีระหว่างกันเหลือล้น คู่ขวัญนางิ-โชก็เลยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น
     นางิตกหลุมรักโชตั้งแต่ต้น แต่รุ่นน้องของเขาออกจะซื่อบื้ออยู่สักหน่อย นิสัยของโชนั้นขี้เล่น ขี้แกล้ง อารมณ์ดี และซนเป็นลิงเป็นค่าง แต่ไม่ค่อยสังเกตสังกาอะไรนัก ถึงแม้นางิจะแสดงออกให้เห็นชัดเจนขนาดนั้นจนคนลือกระหึ่มกันทั้งค่าย รุ่นน้องของเขามันก็ยังไม่รู้ตัวอยู่ดี
     ตอนแรกอัตสึชิก็ไม่รู้ เขาสนิทสนมกับโชในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องอยู่แล้ว เจอโชเมื่อไหร่ก็จะแกล้งกอดบ้างจูบบ้าง หลัง ๆ เขาเริ่มสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตและสายตาพิฆาตของนางิที่มักจะวนเวียนอยู่ข้างตัวโชเสมอ นางิแสดงความเป็นเจ้าของโชชัดเจนและจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงทุกครั้งถ้าเขาหรือใครคิดจะเคลมโชในแบบที่ไม่ใช่เรื่องงาน
     อัตสึชิเคยลองหนหนึ่ง ผลคือนางิอาละวาดจนกระเจิดกระเจิงกันทั้งบริษัท แต่ผลพวงจากการลองดีครั้งนั้นคือโชรู้สึกตัวและอิทธิฤทธิ์ของนางิก็เป็นเรื่องที่ทุกคนกล่าวขวัญถึงด้วยความหวาดผวามาจนกระทั่งทุกวันนี้
     “ฉันไม่ยักรู้ว่าวันนี้นายมีงานด้วย” อัตสึชิเปรยขณะที่เดินเข้ามาในบริษัทด้วยกัน
     “ไม่ได้ลงในตารางครับ งานทดสอบหน้ากล้องเด็กใหม่ พอดีผมว่าง โนมูระซังก็เลยขอร้องให้ช่วยหน่อย” โชบอก ความจริงเรื่องทดสอบเด็กใหม่นี้ไม่ต้องถึงระดับสตาร์ของค่ายอย่างเขาหรอก นอกจากจะตั้งใจใช้เขาดันเด็กหน้าใหม่ที่มีแววว่าจะดัง ปกติคนที่ทำหน้าที่นี้จะเป็นสตาฟหรือนักแสดงที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยหน้าตา แต่งานนี้โนมูระขอร้องเขาเป็นพิเศษ
     “ไม่ได้ลงในตาราง แล้วบอกนางิจังรึเปล่าเนี่ย”
     “ไม่บอกไม่ได้หรอกครับ” โชทำหน้าสยดสยอง ท่าทางที่บ่งบอกว่ากลัวแฟนสุดชีวิตนั่นทำให้อัตสึชิอดขำไม่ได้
     “ถ้าไม่ยอมบอกแล้วมารู้ทีหลัง ผมตายแน่”
     “มีแฟนขี้หึงก็ลำบากอย่างนี้ล่ะนะ” ชายหนุ่มรุ่นพี่แกล้งแหย่
     ทั้งสองคนเดินผ่านบริเวณที่จัดเป็นห้องให้นักแสดงนั่งรอสมัครหรือทดสอบหน้ากล้อง ข้างในห้องมีคนนั่งรออยู่หลายคน กระจายกันอยู่ตามมุมต่าง ๆ ที่ตั้งโซฟาและเก้าอี้ไว้
     “ผมจะได้เล่นกับใครน้า”
     โชมองไปทางห้องนั้น อัตสึชิมองตาม สายตาของเขากวาดมองไปรอบ ๆ ก่อนจะสะดุดอยู่ที่ร่างเล็ก ๆ ที่นั่งจ่อมจมอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ ใบหน้าน่ารักมีร่องรอยสับสนไม่แน่ใจ ท่าทางดูตื่นกลัวเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังหลงทาง
     “อัตสึซัง ผมจะไปหาโนมูระซังนะครับ จะไปด้วยกันไหม”
     อัตสึชิละสายตาจากเด็กคนนั้นหันมาตอบโชว่า
     “นายไปก่อนเถอะ ฉันต้องเอาหน้าไปให้พี่เห็นก่อน แล้วจะตามไปดูทดสอบหน้ากล้อง เริ่มเมื่อไหร่นะ”
     “อีกครึ่งชั่วโมงครับ”
     โชแยกตัวไปแล้ว อัตสึชิหันไปมองเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนั้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มยังมีสีหน้าไม่ค่อยดีนักจนอัตสึชิอดคิดไม่ได้ว่า หน้าตาท่าทางยังดูเด็กเหลือเกิน คิดยังไงถึงมาเล่นหนังแบบนี้กันหนอ แต่เวลาหลายปีที่อยู่ในวงการนี้มา หน้าตากับนิสัยของคนบางทีก็สลับซับซ้อน หน้าใสตาใสท่าทางน่ารักแบบนี้ตัวจริงอาจจะร้ายกาจมากก็ได้
      อย่างเจ้านางินั่นไง
      อัตสึชิละความสนใจจากเด็กหนุ่มคนนั้น เขาก้าวยาว ๆ ตรงไปที่ลิฟท์ซึ่งจะพาเขาไปสู่ห้องทำงานของพี่ชายของเขาซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุด



ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #2 เมื่อ16-08-2014 11:59:04 »

สร้างรักครั้งแรก: Atsushi x Tsubasa (ต่อ)

     การทดสอบหน้ากล้องจัดเป็นรอบ รอบละสามคน คนที่มาสมัครเป็นนักแสดงจะถูกจัดเข้าห้องห้องละหนึ่งคน ภายในห้องจะมีตากล้องและสตาฟคอยดูแลอยู่ นักแสดงจะได้โจทย์ตามที่ตัวเองเคยแจ้งข้อมูลเอาไว้ว่าแสดงได้ถึงระดับไหน ถ้าผ่าน คือแสดงไปได้ตลอดรอดฝั่ง แล้วได้เซ็นสัญญา ค่ายจะเอาเทปนี้ไปรวมเป็นโปรเจ็คแล้วจัดจำหน่าย แต่ถ้าไม่ผ่านหรือนักแสดงไม่ขอเล่นอีกแล้ว เทปจะถูกทำลายทันที
     สึบาสะได้รอบที่สอง โนมูระให้เขารอในห้องห้องหนึ่งที่จัดเป็นห้องนอน หน้าตาเหมือนห้องในโรงแรมหรู ๆ มีเตียงและเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นครบครัน โนมูระบอกว่า หลายห้องในบริษัทตกแต่งเอาไว้เพื่อเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำด้วย
     เด็กหนุ่มเดินไปนั่งลงบนเตียง หัวใจเต้นโครมครามด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขารอให้มีใครสักคนเข้ามา แต่ก็ไม่มีใครเลย
สึบาสะไม่รู้ว่าในอีกห้องหนึ่งมีอะไรเกิดขึ้น

     อัตสึชิอยู่กับโชในห้องมอนิเตอร์ซึ่งสามารถมองเห็นห้องทดสอบทุกห้องผ่านหน้าจอที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะได้ เมื่อโนมูระเดินเข้ามา อัตสึชิก็ถามว่า
     “ทำไมต้องใช้โชกับเด็กคนนี้ครับโนมูระซัง”
     “นี่เป็นครั้งแรกของสึบาสะคุงครับ เด็กไม่เคยมีประสบการณ์แม้แต่กับผู้หญิงมาก่อน เรียกว่าไม่รู้อะไรเลย ผมก็เลยอยากให้ครั้งแรกนี่เป็นอะไรที่ดีสักหน่อยจึงต้องรบกวนโชคุง”
     โนมูระอธิบาย
     “เห จริงเหรอเนี่ย” โชอุทาน “โนมูระซังเอ็นดูสึบาสะคุงมากจริง ๆ เลยนะ ใจดีจัง”
     โนมูระยิ้มเล็กน้อยเมื่อโดนโชแซว
     “ก็ดูเขาสิโชคุง” โนมูระบุ้ยใบ้ให้ดูจอมอนิเตอร์ เด็กหนุ่มที่ชื่อสึบาสะนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียง ดวงตาที่กวาดมองไปรอบตัวแสดงความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด
     “อายุเพิ่งจะสิบแปด ยังเด็กอยู่เลย จากที่คุยก็ดูซื่อ ๆ ท่าทางเรียบร้อย ถ้าเราทำอะไรให้ได้บ้างก็น่าจะทำนะ”
คนฟังทั้งคู่ไม่แปลกใจ โนมูระเป็นคนใจดีอย่างนี้เสมอ เขาคิดถึงจิตใจคนรอบตัวและคอยดูแลทุกคนอยู่ตลอด แต่ไม่รู้ทำไม วันนี้อัตสึชิกลับรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์กับความใจดีของโนมูระสักเท่าไหร่ รุ่นน้องตัวดีของเขาก็อีกคน ดูระริกระรี้ที่จะได้เล่นคู่กับเด็กคนนั้นอย่างน่าหมั่นไส้
     มันน่าเอาไปฟ้องนางิจังนัก
     อัตสึชิรู้สึกขวางหูขวางตาขึ้นมาทันที เขาเลยโพล่งออกมาว่า
     “ฉันเล่นแทนโชเอง”
     โชอ้าปากค้าง โนมูระเองก็ตกใจ ไม่เคยมีผู้บริหารคนไหนลงมาเล่นเองแบบนี้ แต่นี่อัตสึชิซังถึงขนาดเป็นคนออกปากด้วยตัวเอง
     “ผมหูฝาดไปรึเปล่าเนี่ย” โชอุทาน
     “ทำไม ไม่ดีรึ นายจะได้รีบกลับไปหานางิจังไง ถ้าฉันจำไม่ผิด บ่ายนี้นางิจังไม่มีคิวนะ คงไปคอยนายอยู่แล้วล่ะ”
     โชเกาหัว หันไปมองโนมูระ ฝ่ายหลังก็ดูงง ๆ ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกัน
     “ได้ไหม โนมูระซัง” อัตสึชิถามย้ำเสียงเข้ม
     “ได้สิครับ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” โนมูระรีบตอบ จะมีปัญหาอะไรได้ยังไงในเมื่อน้องชายเจ้าของค่ายพูดซะขนาดนี้ เขาหันไปพยักหน้ากับตากล้องให้ตามอัตสึชิไป

     


     .....
     ไม่เคยโพสต์นิยายหรือเล่นเว็บบอร์ดแบบนี้ หากผิดพลาดยังไง ต้องขอโทษด้วยนะคะ
     ตอนต่อ ๆ ไปก็ Reply ไปเรื่อย ๆ เลยโนะ ^_____^

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #3 เมื่อ16-08-2014 20:07:58 »

     เสียงประตูห้องเปิดทำให้สึบาสะสะดุ้งจนตัวลอย เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับตากล้องหนึ่งคน ผู้ชายคนนี้ใส่เสื้อนอกสีเข้มทับเสื้อยืดคอวีลายทางสีน้ำเงินสลับขาว สวมกางเกงยีนสีเข้ม เป็นผู้ชายที่ไม่หล่อสะดุดตา แต่ดูดีมาก
     เขาแนะนำตัวเองว่าชื่ออัตสึชิ
     สึบาสะตัวเกร็งเมื่ออัตสึชินั่งลงข้าง ๆ สายตาของเด็กหนุ่มตวัดมองตากล้องที่ไปยืนอยู่ที่มุมหนึ่ง
     “ไม่ต้องสนใจกล้อง สึบาสะคุง” อัตสึชิพูดเมื่อเห็นสายตาของสึบาสะ “คิดแค่ว่ามีฉันกับเธอสองคนอยู่ในห้องนี้เท่านั้นก็พอ”
     เด็กหนุ่มพยักหน้า เขาหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้ามองหน้าอัตสึชิ หัวใจเต้นโครมคราม รู้ตัวว่าอีกไม่นานแล้วที่จะต้องทำมัน
     “เธอจะต้องเข้าฉากกับฉัน”
     มือของอัตสึชิวางลงบนเข่าของเด็กหนุ่ม สึบาสะขยับจะเขยิบตัวหนีโดยอัตโนมัติ แต่อีกมือหนึ่งของอัตสึชิเลื่อนไปโอบไหล่ไว้ บีบนิด ๆ เป็นเชิงเตือน สึบาสะจึงชะงักนิ่งทันที เขาสบตากับอัตสึชิแวบหนึ่งก่อนจะเสมองไปทางอื่น
     สายตาของอัตสึชิทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ หัวใจก็เต้นแปลก ๆ ด้วย
     “ผมจะต้องทำอะไรบ้างครับ” เด็กหนุ่มอ้อมแอ้มถาม
     “เราจะคุยกันสักนิดหน่อยให้เธอหายเกร็ง แล้วฉันจะบอกเธอว่าต้องทำอะไรบ้าง เธอแค่ทำตามฉันก็พอ”
     สึบาสะพยักหน้า อัตสึชิเชยคางเด็กหนุ่มขึ้นให้มองเขา
     “อายุเท่าไหร่แล้วล่ะสึบาสะคุง”
     เด็กหนุ่มตาพร่าไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของอัตสึชิจนแทบลืมว่าถูกถามว่าอะไร มือไม้ของเขาก็ดูจะเกะกะเก้งก้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน
     “ปี..ปีนี้..สิบแปดครับ” เขาตอบตะกุกตะกัก
     “เรียนจบรึยัง”
     “จบแล้วครับ”
     “แล้วมีแผนจะทำอะไรต่อ จะเข้ามหาวิทยาลัยมั้ย หรือทำงานเลย”
     “อยากเรียนต่อครับ”
     “ด้านไหน เธอสนใจอะไรเป็นพิเศษ”
     “ภาษาอังกฤษครับ”
     “ชอบภาษาเหรอ”
     “ครับ ผมชอบเรียนภาษา อยากแปลหนังสือ”
     “เก่งจัง” อัตสึชิลูบหัวสึบาสะด้วยความเอ็นดู ขณะที่พูดคุยกัน มือของเขาลูบขาสึบาสะเบา ๆ สัมผัสได้ว่าเด็กหนุ่มคลายความเกร็งลงเรื่อย ๆ
     “เธอพอจะรู้ใช่ไหมว่าวันนี้เราต้องทำอะไรกันบ้าง ทำใจให้สบาย ๆ นะสึบาสะคุง ไม่ต้องเกร็ง ถ้าเธอรู้สึกไม่ดีหรือไม่สบายใจ อยากจะหยุด เธอบอกฉันได้ตลอด”
     สึบาสะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังตัวเกร็งเมื่ออัตสึชิเริ่มสัมผัสเขา จากขาเลื่อนมาที่หน้าอก นิ้วของอัตสึชิลูบไล้ไปมา สึบาสะหดตัวหนีโดยอัตโนมัติ แต่อัตสึชิโอบไหล่เขาไว้แน่น เด็กหนุ่มหลับตาเมื่อริมฝีปากของอัตสึชิประกบเข้ากับริมฝีปากของเขา
ลิ้นร้อน ๆ ของอัตสึชิแทรกเข้าไปทันทีเมื่อสึบาสะเผลอเผยอริมฝีปาก เด็กหนุ่มบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงเมื่อลิ้นของเขาถูกลิ้นของอีกฝ่ายตวัดรัดพันและไล้เลียไปมา แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย
     อาจจะเพราะอ้อมกอดของอัตสึชิอบอุ่นเกินกว่าที่เขาคิด
     เด็กหนุ่มปล่อยให้อัตสึชิกอด เขาแทบไม่รู้สึกตัวว่าเสื้อผ้าถูกถอดออกจากตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ สติกลับคืนมาอีกทีก็ตอนที่ถูกดันให้นอนลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลและอัตสึชิเลื่อนตัวลงไปข้างล่าง
     สึบาสะคราง สองมือจิกผ้าปูที่นอนแน่น ถ้าอัตสึชิทำให้เขามากกว่านี้ เขาต้องหลั่งออกมาแน่ ๆ แต่อัตสึชิก็หยุดก่อน ชายหนุ่มจูบสึบาสะอีกครั้ง
     “ไหวมั้ยสึบาสะคุง”
     อัตสึชิลูบหัวสึบาสะที่ยังคงหลับตาอยู่ เด็กหนุ่มหอบหายใจน้อย ๆ พยักหน้าเบา ๆ ชายหนุ่มจึงยิ้มให้ ก้มลงไปกระซิบข้างหูว่า
     “ไม่ต้องกลัวนะ”
     ร่างกายของสึบาสะถูกเขาสัมผัสจนแทบจะทุกตารางนิ้ว ผิวขาวเนียนของเด็กหนุ่มนุ่มมือมากจนเขาไม่อยากจะหยุด และทุกครั้งที่เขาเล่นด้วย ใบหน้าของสึบาสะจะซับสีเลือดขึ้นมาทันที แก้มป่องสองข้างแดงระเรื่อ น่ารักจนเขาอดใจไม่อยู่
     อัตสึชิจูบแล้วจูบอีก สึบาสะก็สนองตอบมากขึ้นเรื่อย ๆ
     “ฉันจะใช้นิ้วนะ”
     อัตสึชิกระซิบ เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมอง สายตาของเขาคงหวาดหวั่นพอดูจึงได้เห็นรอยยิ้มปลอบประโลมของอัตสึชิ ชายหนุ่มก้มลงจูบหน้าผากของสึบาสะก่อนจะเลื่อนตัวลงไปข้างล่าง แล้วยกสะโพกของสึบาสะขึ้นมา
     เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บทันทีเมื่อนิ้วของอัตสึชิสอดเข้าไป เขาอยากจะถอยหนี เขาเจ็บ แต่สิ่งที่เขาทำกลับเป็นอ้าปากรับจูบของอัตสึชิ สองมือของเขาเกาะบ่าของอีกฝ่ายแน่น สึบาสะจูบมากขึ้น เมื่ออัตสึชิขยับนิ้วและสอดนิ้วเพิ่มเข้าไป เด็กหนุ่มรู้สึกว่าความเจ็บมันคลายลงได้ ขอเพียงแค่ริมฝีปากของอัตสึชิไม่ถอนออกจากริมฝีปากของเขา
     “อัตสึชิซัง”
     เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มเรียกชื่อเขาและมองเขาด้วยสายตาที่เหมือนกับจะเรียกร้อง
     อัตสึชิห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ชายหนุ่มหยุดแค่จะสวมถุงยางอนามัยเท่านั้น เขาแทรกตัวเข้าไปในตัวของสึบาสะทันที เด็กหนุ่มเจ็บจนตาพร่า เขาคิดว่าตัวเองคงกรีดร้องออกมา แต่ไม่มีเสียงเพราะอัตสึชิจูบปิดปากของเขาเอาไว้ก่อน ตัวของเขาก็ถูกกอดจนแน่น
     “ทำใจสบาย ๆ สึบาสะคุง ไม่เป็นไร” อัตสึชิกระซิบปลอบ “อย่าเกร็ง”
     เขาจูบอีก แล้วก็จูบไปเรื่อย ๆ จนอีกฝ่ายผ่อนคลายลง ชายหนุ่มจึงเริ่มขยับ ทันทีที่เขาทำ สึบาสะก็รัดตัวเขาแน่น ไม่ต้องมองก็รู้ว่าน้ำอุ่น ๆ เหนียว ๆ เปรอะอยู่ที่หน้าท้องของเขา
     “ผะ...ผม อัตสึชิซัง” เด็กหนุ่มหน้าเหยเก แค่โดนกระตุ้นนิดเดียว เขาก็เสร็จเสียแล้ว
     “ช่างมัน ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มจูบหน้าผากและลูบหัวเด็กหนุ่ม “ฉันจะทำนะ ถ้าเจ็บก็เกาะฉันไว้”
     อัตสึชิขยับ ไม่ว่าอะไรที่เด็กหนุ่มกอดเขาแน่นและจิกบ่าเขาด้วยความลืมตัว สึบาสะน้ำตาไหล เขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บประสานไปกับเสียงปลอบของอัตสึชิที่ดังอยู่ข้างหู
     “เด็กดี สึบาสะ”
     เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บมากขนาดนี้มาก่อน ยิ่งอีกฝ่ายขยับเข้าไปลึกขึ้นและกระแทกตัวกระชั้นเป็นจังหวะ เขายิ่งเจ็บ อยากจะให้อัตสึชิหยุด แต่เขากลับกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น
     สึบาสะกลัว แต่เขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอยู่ในอ้อมแขนของอัตสึชิ
     เขาไม่เข้าใจเหมือนกัน เขารู้สึกแปลก ๆ อัตสึชิยังขยับอยู่ในตัวของเขา เขาเจ็บ แต่มันก็รู้สึกแปลก ๆ ด้วย
     “สึบาสะ”
     อัตสึชิเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่ขาดเป็นห้วง ตัวของเขาถูกกระแทกแรงขึ้นทุกที เสียงครางของเขาประสานไปกับเสียงหอบของอัตสึชิ เขาไม่อยากคิดอะไรอีกแล้วนอกจากขยับตัวรับแรงกระแทกถี่ ๆ จากอัตสึชิ
     “ฉันไม่ไหวแล้ว” ชายหนุ่มเสียงสั่น เขาขยับตัวจนสุดกำลังพร้อมกับปลดปล่อยออกมาจนหมด
     อัตสึชิหอบจนตัวโยนอยู่เหนือร่างของสึบาสะที่กระตุกน้อย ๆ ดวงตากลมโตของสึบาสะจับจ้องอยู่ที่เขาด้วยท่าทีที่บอกว่าไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดี ตัวของเขายังอยู่ในตัวของสึบาสะ เขาไม่ได้ทำอย่างที่นักแสดงจีวีทำคือดึงออกมาและหลั่งใส่คู่ของตัวเอง เขาปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้น ถูกตอดรัดแน่นจากข้างในตัวของสึบาสะ
     ชายหนุ่มก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร อัตสึชิรู้สึกดี ดีมากเมื่อได้กอดสึบาสะ แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลง อะไรบางอย่างในตัวเขามันก็เดือดพล่าน ยิ่งเห็นสึบาสะนอนมองเขาตาแป๋ว ท่าทางน่ารักไร้เดียงสา ความรู้สึกของเขายิ่งปั่นป่วนพลุ่งพล่าน เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวและหงุดหงิดขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร
     ชายหนุ่มดึงตัวออกและลุกขึ้นอย่างรวดเร็วกระแทกกระทั้นจนคนที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกประหลาดใจ สึบาสะค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง สะโพกของเขาเจ็บหนึบ แต่เขาทนได้ เด็กหนุ่มมองอัตสึชิที่สวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วด้วยสายตาไม่เข้าใจ และยิ่งอึ้งมากขึ้นเมื่ออัตสึชิที่สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าของสึบาสะที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วโยนใส่หน้าเขา
     สึบาสะผงะ แต่เขาไม่ทันจะพูดอะไร ประตูห้องก็เปิดออกเสียก่อน โนมูระซังกับผู้ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักเดินเข้ามา
     “เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ยอัตสึชิซัง สึบาสะคุง”
     โนมูระถามทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติในห้อง เขาเหลือบมองอัตสึชิที่ยืนหน้าบึ้ง แล้วมองสึบาสะที่นั่งหน้าเผือดอยู่บนเตียง สองมือกอดเสื้อผ้าเอาไว้แน่น ก่อนจะหันไปหาตากล้องที่เปรียบเสมือนคนกลาง แต่ตากล้องหนุ่มสั่นหน้าปฏิเสธทันที เขาไม่รู้อะไรเหมือนกันและตอนนี้กำลังเกรงรัศมีความโกรธของท่านรองประธานจนตัวสั่นไปหมดแล้ว โนมูระจึงโบกมือเป็นสัญญาณให้ออกไป ตากล้องหนุ่มก็รีบลนลานออกไปพร้อมกับกล้องในมือทันที
     “มาก็ดีแล้วโนมูระซัง คุณเอาค่าเสียเวลาให้เด็กคนนี้ไปซะ แล้วบอกให้เขากลับไป ผมไม่อนุญาตให้เด็กคนนี้มาเหยียบที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง”
     โนมูระอ้าปากค้าง โชมองรุ่นพี่อย่างไม่เข้าใจ อัตสึชิไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไป แต่ยังทันเห็นสึบาสะที่นั่งอยู่บนเตียงน้ำตาร่วงผล็อยลงมา อัตสึชิใจหายวูบ แต่เขาข่มใจตัวเองเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับกระแทกประตูปิดตามหลังดังปัง
     โชคอย่น เขามองสึบาสะที่นั่งน้ำตาไหลอยู่บนเตียงด้วยความเห็นใจ โนมูระเกาหัว เขาไม่เข้าใจสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ดูจากจอมอนิเตอร์ก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไร โชคุงยังแซวอัตสึชิซังอยู่เลยว่าทำท่ามีความสุขเอามาก ๆ แต่ทำไมจู่ ๆ ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
     “เอ้อ.. งั้นเดี๋ยวฉันไปจัดการเรื่องเช็คให้ก็แล้วกัน” โนมูระพูด แล้วออกจากห้องไป เหลือแค่โชกับสึบาสะสองคนที่อยู่ในห้องนั้น
     “ใส่เสื้อผ้าซะก่อนเถอะสึบาสะคุง” โชบอกด้วยเสียงนุ่มนวล เมื่อเห็นสึบาสะยังนั่งนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เดิม สึบาสะมองเขาด้วยสายตางง ๆ โชจึงยิ้มให้
     “ฉันชื่อโช เป็นนักแสดงค่ายนี้ มาเถอะสึบาสะคุง ใส่เสื้อผ้าซะ นายลุกไหวไหม”
     สึบาสะพยักหน้า เขาทำตามที่โชบอกด้วยอาการเหมือนคนใจลอย
     โนมูระเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับเช็คค่าตัว เขาจัดการให้สึบาสะในเรตเดียวกับนักแสดง
     “นี่เช็คค่าตัวของเธอ ฉันขอโทษด้วยนะสึบาสะคุงที่เธอต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ แต่อัตสึชิซังตัดสินใจไปแล้ว ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ เราคงจ้างเธอไม่ได้นะ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”
     เด็กหนุ่มรับเช็คมาพับใส่กระเป๋ากางเกง เขาเช็ดน้ำตาเงียบ ๆ
     “โชคุง ฉันฝากเธอเดินไปส่งสึบาสะคุงหน่อยได้ไหม ฉันยังมีงานต้องทำอีกน่ะ รบกวนหน่อยนะ”
     โชรับคำ โนมูระหันมาหาสึบาสะอีกครั้ง เขาตบไหล่เด็กหนุ่มเบา ๆ
     “ดูแลตัวเองด้วยนะ สึบาสะคุง ฉันไปล่ะ”
     “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ” สึบาสะก้มศีรษะและกล่าวลา โนมูระยิ้มให้ แล้วเปิดประตูห้องออกไป
     “งั้นเราก็ไปกันเถอะ ฉันจะไปส่งนายหน้าตึก” โชบอกพร้อมกับจับต้นแขนสึบาสะดึงให้เดินตามมาซึ่งเด็กหนุ่มก็เดินตามไปด้วยท่าทางที่เหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีความรู้สึก สุดแล้วแต่ใครจะบอกให้ทำอะไร
     ระหว่างทาง สึบาสะก็ถามขึ้นมาว่า
     “ผู้ชายคนนั้น อัตสึชิซัง เขาเป็นใครครับ”
     “น้องชายเจ้าของค่าย ตำแหน่งรองประธาน ดูแลฝ่ายการผลิตและการตลาด”
     สึบาสะนิ่งไปครู่ก่อนจะถามว่า
     “ผมทำอะไรผิดเหรอครับ เขาถึงโกรธผมมากขนาดนั้น”
     “เอ้อ...” โชตอบไม่ถูกเพราะเขาก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ “ฉันเองก็ไม่รู้หรอก แต่ปกติอัตสึซังไม่ใช่คนแบบนี้ เขาเป็นคนใจเย็น ใจดี อารมณ์ดี”
     “ถ้าอย่างนั้นผมคงทำอะไรไม่ดีลงไปจริง ๆ จนเขาโกรธ”
     โชอยากปฏิเสธว่ามันไม่จริง แต่เขาเองก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จึงทำได้แค่ปลอบใจเด็กหนุ่มรุ่นน้องไปว่า
     “เอาเถอะ อย่าคิดมากเลย เมื่อกี้ฉันเห็นนายเล่นนะ นายก็ไม่เลวนี่นา ถ้าที่นี่ไม่รับนายก็ลองไปที่อื่นดูไหม หน้าตาน่ารักอย่างนาย ค่ายอื่นเขาต้องสนใจแน่”
     สึบาสะไม่พูดอะไร แต่ในใจของเขาไม่มีที่ไหนอีกแล้ว
     ที่อื่นที่คงไม่มีอ้อมกอดที่อบอุ่นแบบนั้น
     โชเดินมาส่งที่ด้านหน้าตึก เขาตบไหล่สีบาสะเป็นเชิงลา
     “ฉันส่งนายแค่นี้นะ กลับดี ๆ ล่ะ ดูแลตัวเองด้วย”
     “ขอบคุณครับ” สึบาสะก้มศีรษะให้ เขาเหลือบมองไปทางประตูตึกอีกครั้งก่อนจะตัดใจ หันหลังเดินมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดเพื่อกลับบ้าน

     แต่ถามว่าเขาลืมได้ไหม
     คำตอบคือไม่...

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #4 เมื่อ16-08-2014 20:14:38 »

สร้างรักครั้งแรก: Atsushi x Tsubasa (ต่อ)

     สึบาสะน้ำตาไหลทุกครั้งเมื่อคิดถึงวันที่เขาอยู่ในอ้อมกอดของอัตสึชิ
     เป็นครั้งแรกกระมังที่เขารู้สึกว่าตัวเองชอบใครสักคน
     เด็กหนุ่มกำลังจะย้ายออกจากอพาร์ตเม้นท์ที่แชร์อยู่กับเพื่อน เขาทำตัวให้ยุ่ง จะได้ลืม แต่เขาลืมไม่ได้ และทุกครั้งที่กลับมาถึงห้อง เห็นทาโร่เพื่อนของเขาอยู่กับไมโกะจังอย่างมีความสุข เขายิ่งรู้สึกหดหู่ สึบาสะต้องออกไปอยู่ข้างนอก ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นสวนสาธารณะเล็ก ๆ ใกล้อพาร์ตเม้นท์
     เขานั่งอยู่บนชิงช้า แหงนมองท้องฟ้าที่ขมุกขมัวเหมือนกับใจเขาตอนนี้
     คิดถึงอัตสึชิซัง
     จนบัดนี้เขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเรื่องมันกลายเป็นอย่างนั้น
     เด็กหนุ่มเช็ดน้ำตาป้อย ๆ
     เขาอยากรู้เหลือเกิน แต่ไม่กล้าถาม
     แล้วจะปล่อยให้ไม่รู้ต่อไปอย่างนี้เหรอ
     เสียงข้างในตัวของเขาถาม
     จะอยู่กับความไม่รู้ไปตลอดแบบนี้จริง ๆ เหรอ
     สึบาสะลุกขึ้น เขาออกวิ่ง
     พอกันทีกับความไม่รู้ เขาต้องถามอัตสึชิซังให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
     เด็กหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าบริษัท เขาลืมคิดไปว่าตัวเองถูกห้ามมาที่นี่อีก ถ้าบอกว่ามาพบอัตสึชิซัง เขาก็คงไม่ได้พบแน่ ๆ ถ้างั้นก็ขอพบโนมูระซัง เด็กหนุ่มแจ้งกับพนักงานต้อนรับ แต่โนมูระซังไม่อยู่
     สึบาสะกำลังจะลองเสี่ยงแจ้งว่าขอพบอัตสึชิซังอยู่แล้วถ้าไม่เห็นร่างสูงใหญ่ของโชเดินออกมาจากด้านในเสียก่อน
     “โชซัง!” สึบาสะร้องเรียก
     โชหยุดเดิน หันมองตามเสียงเรียก เช่นเดียวกับชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาหล่อเหลาที่เดินอยู่ข้าง ๆ ดวงตาของฝ่ายหลังพุ่งปราดมาที่สึบาสะและจับจ้องอย่างไม่วางตาทันที
     “โฮ่ สึบาสะคุง ไปยังไงมายังไงกัน” โชทัก สึบาสะฉวยโอกาสนี้เดินมาหาทันที ขณะที่นางิเหลือบตามองโชด้วยสายตามีคำถาม โชรีบออกตัวอย่างรวดเร็ว
     “คนนี้แหละสึบาสะคุงที่ฉันเล่าให้นายฟังน่ะ”
     “อ้อ” นางิทำสุ้มเสียงเข้าใจแบบที่โชฟังแล้วรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ยังไงก็ไม่รู้
     “โชซัง สวัสดีครับ” สึบาสะทัก โชยกมือรับ แล้วรีบแนะนำคนข้างตัวทันที
     “นี่นางิ แฟนฉัน”
     “สวัสดีครับ” สึบาสะทักทาย นางิก้มศีรษะรับ เขายิ้มให้สึบาสะด้วยรอยยิ้มที่เหมือนนางฟ้า ถ้าเป็นเวลาปกติสึบาสะคงตาค้างไปนิด ๆ และคิดว่ามีคนที่ยิ้มสวยแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย แต่ตอนนี้จิตใจของเขาจดจ่อแต่เรื่องของอัตสึชิเท่านั้น
     “นายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ อัตสึซังสั่งห้ามนายเข้ามาที่นี่นะ” โชถาม
     “ผมอยากพบอัตสึชิซังครับ ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันนั้น ผมอยากรู้เหตุผลครับ”
     โชรู้สึกยุ่งยากใจ เขาหันไปสบตากับนางิ ฝ่ายหลังบอกว่า
     “อัตสึซังอยู่ในห้อง”
     “กรุณาพาผมเข้าไปหาเขาหน่อยได้ไหมครับ ผมขอร้อง” สึบาสะพูดพร้อมกับก้มศีรษะลงต่ำ
     “เฮ้ย เงยหน้าขึ้นก่อน ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ ต้องให้เขาอนุญาตก่อน” โชรีบพูด
     “แต่ถ้าบอก เขาอาจจะไม่ให้ผมเข้าไป”
     ยุ่งแล้วไง... โชเกาศีรษะอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี นางิเอื้อมมือมาจับไหล่ของสึบาสะ บอกว่า
     “อย่างที่โชพูดนั่นแหละ สึบาสะคุง เราพาเธอเข้าไปพบอัตสึซังไม่ได้หรอก เราต้องบอกเขาก่อน แล้วถ้าเขาอนุญาต เธอก็เข้าไปพบได้”
     “แล้วถ้าเขาไม่อนุญาต”
     “เธอก็พบไม่ได้”
     สึบาสะคอตก หน้าสลดจนนางิกับโชรู้สึกสงสาร โชจับไหล่ทั้งสองข้างของสึบาสะไว้เมื่อบอกว่า
     “เอายังงี้ดีกว่า นายกลับไปก่อน แล้วฉันจะลองพูดกับอัตสึซังให้ ได้ผลยังไงจะติดต่อกลับไป ถ้าให้อัตสึซังเห็นนายอยู่ที่นี่คงไม่ดีแน่”
     “สายไปแล้วล่ะ” คนข้างตัวของเขาเปรยขึ้น “เพราะอัตสึซังเดินออกมานั่นแล้ว”
     สึบาสะหันขวับไปมอง อัตสึชิก็ชะงักเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่กับโชและนางิ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
     สึบาสะวิ่งเข้าไปหา แต่เมื่อหยุดยืนอยู่ต่อหน้าคนที่อยากเจอมาตลอด เขาก็เกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ
     “ฉันสั่งห้ามเธอมาที่นี่อีกไม่ใช่รึ” อัตสึชิเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
     “แต่ผมอยากพูดกับคุณ อัตสึชิซัง ผมขอโทษที่ขัดคำสั่งคุณ แต่ผมอยากรู้เหตุผลว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธผม ไม่ให้ผมทำงานที่นี่ ผมทำอะไรผิดเหรอครับ”
     “เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอไม่เหมาะสมกับงานที่นี่ เธอไม่ผ่าน”
     “ถ้างั้นผมจะพยายามใหม่ ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้งได้ไหมครับ ผมอยากจะทำงานที่นี่จริง ๆ ผมจะปรับปรุงตัวเอง ได้โปรดเถอะครับ”
     สึบาสะเอื้อมมือไปจับแขนของอัตสึชิโดยไม่รู้ตัว สีหน้าแววตาของเขาอ้อนวอน น้ำตาจวนเจียนจะหยด และเมื่ออัตสึชิปลดมือของเขาออกจากแขน น้ำตาของเขาก็ร่วงลงอาบแก้ม
     “เธอกลับไปเถอะ ฉันไม่มีโอกาสให้เธอ”
     อัตสึชิตัดบทอย่างเฉียบขาด ขยับจะหันหลังกลับ แต่สึบาสะทรุดตัวลงก้มศีรษะจรดพื้นขอร้องเขา
     “ได้โปรดเถอะครับอัตสึชิซัง ให้โอกาสผมด้วย ผมจะทำทุกอย่าง ผมจะปรับปรุงตัวเอง ขอร้องเถอะนะครับ”
     โชกับนางิที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ พอเห็นสึบาสะก้มหัวขอร้องอย่างนั้น ก็รีบเดินเข้ามาหาทันที โชดึงตัวสึบาสะให้ลุกขึ้น พลางสบถ
     “บ้าเอ๊ย ทำอะไรของนายน่ะ”
     นางิเรียกผู้บริหารหนุ่มเสียงเบา
     “อัตสึซัง”
     อัตสึชิเหมือนคนเพิ่งสร่างตะลึง เขาได้สติเมื่อได้ยินเสียงนางิ เห็นใบหน้าหวานน่ารักของสึบาสะเปื้อนคราบน้ำตา เห็นโชมองมาด้วยสีหน้าลำบากใจ และเห็นสายตาของคนอื่น ๆ มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
     “โธ่เว้ย” ในที่สุดอัตสึชิก็สบถเสียงดัง แล้วคว้าข้อมือของสึบาสะลากให้ตามเขาไปในลักษณะหัวซุน โชอ้าปากค้าง ส่วนนางิเห็นภาพนั้นแล้วก็หัวเราะเอื่อย ๆ พอคนรักหันมามอง เขาก็เปรยว่า
     “เด็กคนนั้นน่ารักนะ”
     “มันใช่เวลาพูดอย่างนี้ไหมเนี่ยนางิจัง นายไม่ห่วงเลยเหรอ อัตสึซังลากสึบาสะคุงไปแล้วนะ จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
     “จะเป็นอะไร้” นางิลากเสียงยาว แววตาเจ้าเล่ห์ชนิดขัดกับหน้าตาที่หล่อเหลาราวเทพบุตรของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก
     “สึบาสะคุงไม่เป็นอะไรหรอก คนที่เป็นน่ะอัตสึซังต่างหาก”
     “นายพูดอะไรของนาย”
     “ก็นะ อัตสึซังห้ามไม่ให้สึบาสะคุงมาที่นี่ใช่ไหม ไม่ให้ทำงานที่นี่ด้วย ชัดเจนออกอย่างนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”
     เห็นโชยังจับต้นชนปลายไม่ถูก นางิก็หัวเราะอย่างเอ็นดู จับมือคนรักเอาไว้
     “ท่านประธานไม่ชอบให้ผู้บริหารยุ่งกับเด็กในสังกัด มันจะเสียการปกครอง เข้าใจรึยัง ถ้าสึบาสะคุงทำงานที่นี่ อัตสึซังลำบากแน่ ๆ”
     โชร้องอ๋อทันที เขาบีบมือตอบนางิ แล้วหันไปยิ้มกวน ๆ ให้
     “ดีเนอะที่ท่านประธานไม่ห้ามนักแสดงในสังกัดมีความรัก ไม่งั้นฉันก็คงลำบากเหมือนกัน ว่าแต่คืนนี้ใครจะอยู่ข้างบน ฉันรึว่านาย”
     “บ้า” นางิตวัดค้อนน้อย ๆ แต่สายตาแพรวพราว

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #5 เมื่อ16-08-2014 21:55:25 »

ติดตามๆ
รออ่านตอนต่อไปจร้า
เป็นกำลังใจให้น๊า
 :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #6 เมื่อ16-08-2014 22:28:20 »

เป็นบริษัทที่แลดูอบอุ่นนะ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ๊ะ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #7 เมื่อ16-08-2014 22:34:30 »

ติดตามๆ สนุกดีค่า

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #8 เมื่อ17-08-2014 09:37:11 »

สร้างรักครั้งแรก: Atsushi x Tsubasa (ต่อ)

     อัตสึชิลากตัวสึบาสะมาที่รถของเขาแล้วดันตัวเด็กหนุ่มเข้าไปข้างใน ตลอดทางที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน อัตสึชิไม่พูดอะไรเลย พลอยทำให้สึบาสะนั่งเงียบไปด้วย เขานั่งตัวลีบ ขณะที่อัตสึชิขับรถด้วยท่าทางเคร่งเครียด ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในแมนชั่นหรูแห่งหนึ่ง
     สึบาสะถูกลากให้ตามเข้าไปในห้องห้องหนึ่งในแมนชั่นนั้น เด็กหนุ่มไม่กล้าถามว่าเป็นห้องของใคร เขามองอัตสึชิถอดเสื้อนอกโยนลงไปบนโซฟา และพอเขาเรียกชื่อ อัตสึชิที่ยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำก็หันมาดึงตัวเขาเข้าไปในห้องนอน
     “เดี๋ยวก่อนครับ อัตสึชิซัง” เด็กหนุ่มพยายามรั้งตัวเองไว้ แต่สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ เขาโดนโยนลงไปบนเตียง พร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ของอัตสึชิทาบทับลงมา สายตาของชายหนุ่มฉายแววอันตรายจนสึบาสะรู้สึกกลัว
     “เธออยากเป็นมากนักรึนักแสดงจีวีน่ะ จะบอกให้นะว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่ได้สนุก เธอต้องเจอกับอะไรต่อมิอะไรที่ทำให้เธอเจ็บปวด อับอาย ต้องทำอะไรที่เธอไม่ชอบ อย่างนี้”
     พูดจบอัตสึชิก็ดึงเสื้อนอกที่สึบาสะสวมอยู่ออกแล้วกระชากเสื้อเชิ้ตตัวในจนขาดติดมือ สึบาสะผวาจะหนี แต่ตัวของเขาถูกกดติดกับฟูกที่นอน ริมฝีปากก็ถูกบดขยี้อย่างรุนแรง และอัตสึชิยังตะปบมือลงไปคลึงเคล้นร่างกายของเขาอย่างไม่ปราณี สึบาสะดิ้นหนี แต่ไม่พ้น เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด
     อัตสึชิไม่หยุดแค่นั้น เขาบีบปากสึบาสะออก แล้วดันตัวเองเข้าไปข้างใน เด็กหนุ่มสำลัก กระอักกระไอจนน้ำตาร่วง
     “นี่แหละสิ่งที่เธอต้องเจอ” เสียงของอัตสึชิดังอยู่เหนือร่างของเด็กหนุ่ม “ทั้งรุนแรงทั้งหยาบคายแบบนี้ และเธอจะไม่ได้เจอแค่คนเดียวด้วย เธอยังจะต้องฝืนใจทำอะไรมากมายที่เธออาจไม่อยากจะทำ”
     สึบาสะเช็ดน้ำตา แต่มันยังไม่ยอมหยุดไหล เขาเข้าใจสิ่งที่อัตสึชิต้องการจะบอก แต่เขาจะไม่ยอมแพ้ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้เขาได้ทำงานกับอัตสึชิ ได้อยู่ใกล้ ๆ กับอัตสึชิ
     เด็กหนุ่มคลานเข้าไปหาอัตสึชิทั้งที่น้ำตายังนองหน้า มือข้างหนึ่งของเขาจับสะโพกของอีกฝ่ายไว้
     “สึบาสะ...เธอ...” อัตสึชิพูดอะไรไม่ออกเมื่อปากและมือของสึบาสะขยับทำให้เขา
เด็กแท้ ๆ ทำยังไม่ค่อยจะเป็นเลย
     หัวใจของอัตสึชิอ่อนยวบ เขาทนไม่ไหวที่เห็นสึบาสะคนนั้นตั้งหน้าตั้งตาทำอะไรแบบนี้ สุดท้ายเขาก็ครางออกมา
     “โธ่ สึบาสะ”
     ชายหนุ่มดันตัวสึบาสะออก
     “พอแล้วล่ะ ไม่ต้องทำอีกแล้ว พอได้แล้ว”
     เด็กหนุ่มสั่นหน้าแรง ๆ ขยับจะเข้าไปอีก แต่ถูกรวบร่างไปกอดเอาไว้แน่น แน่นมากจนคนถูกกอดรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
     “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอเจ็บหรือร้องไห้อย่างนี้เลย”
     สึบาสะสะอื้นอยู่กับอกของอัตสึชิ
     “ฉันเห็นความตั้งใจของเธอ แต่ฉันไม่มีวันยอมให้เธอทำงานอย่างนี้เด็ดขาด”
     อัตสึชิพูด เขาประคองหน้าของสึบาสะด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วจูบซับน้ำตาให้อย่างทะนุถนอม
     “ทำไมล่ะครับ”
     อัตสึชิไม่ตอบคำถาม เขามองสึบาสะนิ่ง เด็กหนุ่มร้องไห้จนตาบวม ปากกับแก้มก็แดงไปหมด แต่กลับทำให้ดูน่ารักยิ่งกว่าปกติเสียอีก แล้วพอไม่ได้คำตอบ สึบาสะก็เอียงคอเล็กน้อย ดวงตาใสแจ๋วเต็มไปด้วยความสงสัย ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว เขาจูบสึบาสะแทนคำตอบ แล้วกอดร่างเล็ก ๆ แนบอก
     “ยังอยากรู้อยู่รึเปล่าว่าทำไม” อัตสึชิกระซิบถามอยู่ข้างหู เด็กหนุ่มรีบพยักหน้า เขาอยากได้ยินจากปากของอัตสึชิมากกว่าอะไรทั้งหมด
     “เพราะฉันชอบเธอ”
     สึบาสะมองสบตากับอัตสึชิ เด็กหนุ่มมองเห็นความจริงจังอยู่ในสายตานั้น
     “ฉันสนใจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ความจริงคนที่จะต้องเล่นคู่กับเธอวันนั้นคือโช แต่ฉันก็เล่นซะเอง เพราะฉันไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นแตะต้องเธอ ฉันรู้สึกทนไม่ได้เอาเลยจริง ๆ ถ้าต้องเห็นเธอกอดกับผู้ชายคนอื่น”
     เด็กหนุ่มหลับตา รู้สึกว่าหัวใจพองฟูคับอก
     “ฉันขอโทษนะเรื่องวันนั้น แต่ฉันอยากให้เธอเสียใจจะได้ล้มเลิกที่จะทำงานอย่างนี้ เธอโกรธฉันมากเลยใช่ไหม”
     สึบาสะสั่นหน้าแรง ๆ เขาเงยหน้าขึ้น ยิ้มอาย ๆ ให้ ก่อนจะบอกว่า
     “ผมไม่ได้โกรธหรอก”
     “ค่อยยังชั่ว” คนฟังโล่งใจ แล้วสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อถามสึบาสะว่า
     “แล้วเธอคิดยังไงกับฉัน ชอบฉันบ้างรึเปล่า”
     เด็กหนุ่มหน้าแดง เขาก้มหน้างุด ไม่ยอมตอบคำถาม แต่พอถูกรุกเร้ามากเข้าก็พยักหน้า...นิดเดียว แต่เท่านั้นก็เกินพอ สึบาสะโดนกดลงกับฟูกที่นอนทันที
     “อัตสึชิซัง เดี๋ยวก่อนครับ”
     เด็กหนุ่มพยายามจะเรียก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมหยุด ร่างกายของอัตสึชิแข็งขันขึ้นจนสึบาสะรู้สึกได้เหมือนกัน
     “หยุดไม่ได้แล้วนะ” อัตสึชิกระซิบเสียงแตกพร่า “และฉันไม่รับรองว่าครั้งนี้ฉันจะยั้งตัวเองอยู่เหมือนครั้งที่แล้ว ฉันอาจจะทำให้เธอต้องร้องไห้อีก”
     “ถ้าต้องร้องไห้เพราะคุณ ผมก็ไม่ว่าอะไร”
     “เด็กดี” อัตสึชิให้รางวัลด้วยการจุ๊บเบา ๆ ที่ปากก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่ลึกล้ำมากขึ้นซึ่งอีกฝ่ายก็สนองตอบด้วยความเต็มใจ
มือของอัตสึชิเลื่อนมาเกาะกุมมือสองข้างของสึบาสะ แล้วก็พาให้เด็กหนุ่มขยับไปพร้อมกับเขา
     สึบาสะหลับตา ปล่อยให้หัวใจของเขาซึมซับสัมผัสจากอัตสึชิ แล้วเมื่อได้ยินเสียงกระซิบที่ริมหู เขาก็ลืมตาขึ้นมาเพื่อสบตากับชายหนุ่ม แล้วตอบด้วยความรู้สึกทั้งหมดจากหัวใจว่า
     “ผมก็ชอบคุณครับ”
     อัตสึชิยิ้ม เขากอดสึบาสะแน่นขึ้นอีก กอดแน่นจนเหมือนอยากจะให้ร่างทั้งสองหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ยังไปไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เสียงโทรศัพท์ของอัตสึชิดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
     เจ้าของโทรศัพท์สบถอย่างหัวเสีย เขากดตัดสายทิ้ง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ยังดังไม่ยอมหยุด
     “อาจจะเป็นเรื่องงานก็ได้นะครับ เมื่อตอนบ่ายคุณรีบร้อนออกมา อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นที่บริษัท”
     อัตสึชิหน้ามุ่ย คว้าโทรศัพท์มาดู แต่แล้วก็ต้องกัดฟันกรอด
     “เจ้าตัวแสบนางิ”
     “นางิซังทำไมเหรอครับ” เด็กหนุ่มถาม
     “ไม่มีอะไรหรอก แล้วก็ไม่ใช่เรื่องงานด้วย เจ้านางิมันอยากจะแกล้งฉันเลยโทรมาแกล้งขัดจังหวะ กะจะก่อกวนกันชัด ๆ”
พูดจบอัตสึชิก็กดปิดโทรศัพท์ทันที
     “นางิซังน่ะเหรอครับแกล้งคุณ” สึบาสะไม่อยากจะเชื่อ นางิซังที่หล่อเหลาและท่าทางใจดีคนนั้นน่ะเหรอ
     “อย่าให้หน้าตามันหลอกเอาทีเดียว ไอ้เจ้านี่มันแสบ แสบกว่าเจ้าโชซะอีก”
     อัตสึชิคำราม เขาดึงตัวสึบาสะเข้ามากอดแนบอกอีกครั้ง
     “เอาล่ะ เลิกพูดถึงคนอื่นสักที มาต่อเรื่องของเรากันดีกว่า ฉันไม่ยอมให้โดนขัดจังหวะอีกแล้วนะคราวนี้”
     สึบาสะหัวเราะคิก แล้วก็ยอมทำตามแต่โดยดี

     อีกด้านหนึ่ง คนที่ถูกปิดโทรศัพท์ใส่ก็ไม่รู้สึกโกรธเคืองอะไร คาดเอาไว้แล้วด้วยซ้ำว่าอัตสึชิต้องทำแบบนี้ นางิยิ้มกริ่มกับโทรศัพท์ในมือจนโชที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ
     “ยิ้มอะไรนางิจัง”
     โชถามอย่างระมัดระวัง
     “ไม่มีอะไร แค่รู้สึกสนุกนิดหน่อย”
     แน่ล่ะ จุดอ่อนของอัตสึชิเผยออกมาให้เห็นแบบนี้แล้ว จะไม่ให้เขารู้สึกสนุกได้ยังไง
     “นายคิดจะทำอะไร”
     โชไม่เชื่อ ก็รอยยิ้มของนางิจังน่ะน่าหวาดหวั่นน้อยอยู่เมื่อไหร่ ลองยิ้มแบบนี้ทีไร เป็นต้องมีเรื่องอะไรทุกทีสิน่า
     นางิไม่สนใจคำคาดคั้นของคนรัก เขาดื่มกาแฟจนหมดถ้วย แล้วลุกขึ้นยืน
     “ไม่ได้วางแผนอะไรหรอกน่า แค่กำลังคิดว่าฉันเปลี่ยนใจแล้ว คืนนี้ให้โชจังอยู่ข้างล่างดีกว่า”
     “หา” โชอุทาน ก่อนจะโวยวาย “ไม่เอา ครั้งที่แล้วฉันก็อยู่ข้างล่างไปแล้วนะ ครั้งนี้มันต้องเป็นนายสิ”
     “ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำ” นางิพูดแล้วเดินลอยหน้าลอยตาจากไปโดยไม่สนใจโชที่ยืนหน้ายุ่ง แล้วเมื่อโชเห็นคนรักเดินฉับ ๆ ไปแบบนั้น เขาก็รีบวิ่งตามโดยส่งเสียงอุทธรณ์ไปตลอดทาง
     “โธ่ นางิจัง นะ เปลี่ยนใจเถอะ”
     “ไม่เอา”
     “เปลี่ยนใจเถอะ นะ นะ”
     “ไม่”
     “นางิจังอะ”
     “...”
     เสียงของนางิกับโชเบาลงไปเรื่อย ๆ จนไม่ได้ยินเมื่อทั้งสองเดินออกไปจากโถงที่จัดไว้เป็นที่สำหรับพักผ่อนและดื่มกาแฟแล้ว ทั้งสองคนไม่รู้ตัวว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งได้ยินเสียงสนทนานั้นด้วย และใครคนนั้นก็ยืนนิ่งแอบเหลี่ยมผนังด้านหนึ่งอยู่ สายตาที่มองไปที่นางิกับโชนั้นมีแววเศร้าเร้นลึก
     เสียงกระแอมเบา ๆ ข้างหลังทำให้ใครคนนั้นสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อหันไปมองก็เห็นผู้ชายที่ไม่ชอบหน้ายืนยิ้มเผล่อยู่
     “ยืนแอบฟังชาวบ้านเขาพลอดรักกันนี่มันเสียมารยาทนะสึบาสะ”
     “ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย คาสุกิ”
     คนที่ถูกเรียกว่าสึบาสะหน้าบึ้ง เขาสูงเลยไหล่ของคาสุกิมานิดหน่อยเท่านั้น เมื่อมายืนเผชิญหน้ากัน สึบาสะจึงต้องเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นมอง
     “ไม่เกี่ยว แต่เห็นแล้วรำคาญตาที่นายยังอาลัยอาวรณ์เจ้าโชมันอยู่ได้ มันมีแฟนไปแล้ว แฟนมันก็ขี้หึงแถมยังร้ายกาจ นายอยากจะโดนเจ้านางิมันฉีกอกเอารึไง”
     “ฉันบอกแล้วว่ามันไม่เกี่ยวกับนาย” สึบาสะเสียงแข็ง จริง ๆ เขาอยากตะโกนใส่หน้าคาสุกิเลยด้วยซ้ำ แต่เกิดมาไม่เคยตะโกนเสียงดังใส่ใครสักที เวลาโกรธหรือไม่พอใจ แรงสุดที่ทำได้คือพูดด้วยเสียงที่เข้มและแข็งขึ้นนิดหน่อยแบบนี้เท่านั้นเอง
     คาสุกิมองคนหน้าบึ้งเสียงแข็งด้วยสายตาเอ็นดู สึบาสะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี อาจจะไม่ได้หล่อเหลาปานเทพบุตรอย่างนางิ แต่ก็มีความนุ่มนวล ดวงตาเรียวมักจะทอประกายอ่อนโยน ริมฝีปากบางค่อนข้างกว้างแต่ก็ไม่น่าเกลียด ยิ่งเวลายิ้มน้อย ๆ นั้นยิ่งทำให้ใบหน้าทั้งหน้าดูนุ่มนวล ทั้งที่สึบาสะไม่ใช่ผู้ชายเอวบางร่างน้อย เขาค่อนข้างจะตัวหนาหน่อยเสียด้วยซ้ำ มีกล้ามเนื้อเพราะออกกำลังกายและรักษารูปร่างอย่างดี แต่เวลายิ้มทีไร กลับดูน่าปกป้อง น่าทะนุถนอม และอีกอย่างหนึ่งสำหรับคาสุกิ
     มันน่า...จับกด
     ส่วนเขา ในสายตาคนตรงหน้า เขาคงเป็นหมาป่าตัวร้าย
     คาสุกิเป็นคนที่หน้าตาออกจะร้ายและเจ้าเล่ห์ รอยยิ้ม สายตา รวมทั้งหนวดบาง ๆ ที่คางยิ่งส่งให้ใบหน้าเขาไปในทางนั้น ยิ่งประกอบกับความปากจัด พูดจาทิ่มแทงคนอื่น ยิ่งทำให้แคแร็คเตอร์ร้ายของเขาเด่นชัดขึ้น แต่ผู้ชายอย่างนี้ก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงและมีเสน่ห์ คาสุกิไม่เคยขาดคนห้อมล้อม ไม่ว่าจะชายหรือหญิง แต่หัวใจของเขากลับมาซบอยู่แทบเท้าผู้ชายที่ไม่สนใจเขาสักนิดอย่างสึบาสะ
     แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่มีวันปล่อยสึบาสะไปเด็ดขาด
     “แต่ฉันอยากเกี่ยว” คาสุกิสืบเท้าเข้ามาใกล้ สึบาสะเขยิบหนีจนหลังชิดกำแพง แต่พอจะก้าวไปทางด้านข้าง มือสองข้างของคาสุกิก็ยกขึ้นยันผนังไว้ทั้งสองข้าง กักตัวสึบาสะเอาไว้ไม่ให้หนีรอดไปจากตรงนี้
     “เจ้าหมีโชมันไม่ชอบกินแกะหรอกนะ จะบอกให้ ลูกแกะเป็นเหยื่ออันโอชะของหมาป่าตัวร้ายอย่างฉันต่างหาก”
      พูดจบก็ก้มลงจูบสึบาสะอย่างรวดเร็ว และยังสอดลิ้นตามเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดเล่นกับลิ้นของอีกฝ่ายด้วย คนถูกจู่โจมอย่างกะทันหันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดที่ตอนนี้รัดแน่นจนสะบัดไม่หลุด สึบาสะพยายามจะเบือนหน้าหนีจูบ แต่คาสุกิตามติดไม่หยุด จวบจนพอใจนั่นแหละ เขาจึงถอนริมฝีปาก คลายอ้อมแขน ปล่อยตัวสึบาสะให้เป็นอิสระ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตบหน้าทันที พร้อมสำทับ   เสียงแข็งที่สุดเท่าที่พยายามทำได้ในชีวิตแล้วว่า
      “เลวที่สุด”
     แล้วก็เดินหน้าคว่ำแกมวิ่งหนีไป คาสุกิลูบแก้มข้างที่โดนตบ มีแรงแค่นั้นไม่ได้ทำให้เจ็บหรอก แค่พอแสบ ๆ คัน ๆ แต่สึบาสะที่เดินหน้างอออกไปแบบนั้นนี่สิ น่ารักที่สุด
     คาสุกิรีบสาวเท้าตามออกไปอย่างรวดเร็วทั้งที่มือยังกุมแก้มตัวเองอยู่ ปากก็พูดยั่วแหย่สึบาสะไปตลอดทาง จนเจ้าตัวต้องเอามือปิดหูไว้จนไม่ได้ระวังเกือบจะชนคนที่เดินสวนมา
     “อุ๊ย ขอโทษ ชุนคุง เป็นอะไรรึเปล่า” สึบาสะอุทานด้วยความตกใจ แต่คนเกือบโดนชนยิ้มให้จนตาหยีพลางสั่นศีรษะ
     “ไม่เป็นไรครับสึบาสะซัง ผมไม่ได้โดนชน” แล้วเมื่อหนุ่มน้อยเห็นคาสุกิเดินตามมาข้างหลัง เขาก็รีบก้มศีรษะให้พร้อมกับกล่าวทักทาย
     “สวัสดีครับคาสุกิซัง”
     ชุนใช้คำสุภาพเพราะทั้งคาสุกิและสึบาสะเป็นรุ่นพี่ เข้าทำงานมาก่อนและยังอาวุโสกว่าด้วย
     คาสุกิยกมือรับคำทักทาย ก่อนจะใช้มือข้างนั้นโอบไหล่สึบาสะเข้ามาหาตัว
     “ขอโทษทีนะชุน แฟนฉันก็ซุ่มซ่ามอย่างนี้แหละ” เขายั่วแหย่
     “เจ้าบ้า ใครเป็นแฟนนายกัน” สึบาสะรีบสะบัดตัวออก
     ชุนยิ้มด้วยความขบขัน เรื่องคาสุกิตามตื๊อสึบาสะนี่ไม่มีใครในค่ายที่ไม่รู้ และดูเหมือนว่าทุกคนก็เทใจเชียร์คาสุกิอย่างเต็มที่ และเอาใจช่วยให้สึบาสะใจอ่อนเสียที
     “โนมูระซังโทรตามผมเข้ามารับตารางงานใหม่ ของพวกคุณเรียบร้อยแล้วเหรอครับ
     “เรียบร้อยแล้ว ฉันได้เล่นกับนายหลายคิวเลยนา เตรียมตัวไว้ให้ดี” คาสุกิตอบ
     “จริงเหรอครับ ผมยินดีมากเลยที่จะได้ร่วมงานกับคาสุกิซัง” ชุนพูดอย่างร่าเริง
     “เออใช่ ตะกี้ฉันเห็นไคกับจินมันนั่งประจันหน้ากันอยู่ในโรงอาหารแน่ะ ก่อนไปหาโนมูระซังนายแวบไปหาพวกมันหน่อยดีกว่า ฉันกลัวว่าป่านนี้พวกมันอาจจะกัดหัวกันตายไปแล้วก็ได้”
     “อ้าว ตายละ” ชุนอุทาน แล้วขอตัวทันที
     เรื่องที่ไคกับจินแข่งกันจีบชุนก็ไม่มีใครในค่ายที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน รวมทั้งเรื่องที่ชุนยังไม่สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะลงเอยกับใคร ไคกับจินจึงเป็นคู่แข่งกันอย่างเปิดเผย หากสบโอกาสก็อาจจะพูดจากระแทกแดกดันประชดประชันใส่กันบ้าง แต่ถึงทั้งสองจะฮึ่มฮั่มใส่กันมากแค่ไหน แต่เมื่อมีชุนอยู่ใกล้ ๆ ทั้งคู่ก็พร้อมสงบศึกกันโดยทันที แล้วพากันมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ชิดชุนชนิดไม่มีใครยอมใคร เหมือนครั้งนี้ เมื่อเห็นชุนเดินเข้ามาในโรงอาหาร ไคกับจินก็รีบแข่งกันวิ่งเข้าไปหา แล้วพาชุนมานั่งที่โต๊ะแบบแทบจะเรียกได้ว่าประคับประคองมาเลยทีเดียว
     “อิจฉาชุนซังจังเลยมีหนุ่มหล่อสองคนมาคอยตามจีบ”
     เสียงล้อเลียนลอยลมมาจากคนที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ แล้วคนล้อก็ส่งยิ้มกวน ๆ มาให้
     “มานาโตะ” ชุนทักทาย “มาคนเดียวเหรอ ฮารุมะล่ะ”
     “อยู่โน่นครับ” เขาบุ้ยใบ้ไปที่เด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันที่กำลังสั่งอาหารอยู่ สองคนนี้ก็ตัวติดกัน ถ้านอกเวลางานแล้วล่ะก็ เห็นมานาโตะที่ไหนก็ต้องเห็นฮารุมะที่นั่น และเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกถามถึง ฮารุมะหันมามอง ชุนจึงโบกมือทัก ฮารุมะยกมือรับแล้วหันกลับไปรออาหารต่อ
     ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ค่อนข้างคลุมเครือ ทั้งสองคนไม่เคยบอกว่าคบกัน แต่ก็เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา ความสัมพันธ์เหมือนเพื่อนสนิทมากกว่าคนรัก แต่ก็อาจจะไม่ใช่เพราะมีคนเคยเห็นทั้งสองคนจูบกันนอกเวลางาน แต่ถ้าใครไปถาม คำตอบมักจะเป็นปฏิเสธทุกครั้ง
     ทั้งหมดอยู่ที่โรงอาหารกันได้สักพักก็วงแตกเมื่อโนมูระเดินมาโวยวายด้วยความหัวเสียว่ามาถึงกันแล้วแทนที่จะไปหาเขาจัดการเรื่องตารางงานให้เสร็จก็กลับมานั่งสุมหัวกันอยู่ในโรงอาหาร ปล่อยให้เขาต้องรอเงก
     ผู้จัดการหนุ่มเท้าเอว ส่ายหน้าด้วยความอ่อนระอาใจขณะที่มองพวกนั้นแตกกระเจิดกระเจิงออกไปจากโรงอาหาร แต่ก็มีความเอื้อเอ็นดูอยู่ในสายตานั้น เด็กพวกนี้อาจจะร้ายบ้าง เกเรบ้าง ห่ามบ้างอะไรบ้าง แต่เขาก็ดูแลมาตั้งแต่ต้นทั้งนั้น เปรียบเหมือนกับน้องชายนั่นแหละ ตราบใดที่เจ้าพวกนี้ยังทำงานอยู่ในธุรกิจนี้และสังกัดค่ายนี้ เขาก็จะดูแลพวกมันอย่างดีที่สุด
     นี่เป็นความตั้งใจของโนมูระตอนที่รับปากกับท่านประธานว่าจะมาทำงานให้และก็เป็นสิ่งที่เขายังยึดถือมาตลอดจนถึงตอนนี้ด้วย




     .....จบคู่แรกแล้วค่ะ
     มาเอาใจช่วยคู่สองกันต่อเนอะ :)

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #9 เมื่อ17-08-2014 11:05:23 »

มมาเอาใจช่วยคู่ต่อไปจร้า
 :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
« ตอบ #9 เมื่อ: 17-08-2014 11:05:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #10 เมื่อ17-08-2014 13:52:14 »

 :mc4:รอลุ้นคู่ต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
สร้างรักคู่ที่สอง: Kazuki x Tsubasa

     “นี่มันหมายความว่าอะไรครับโนมูระซัง”
     สึบาสะวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะตรงหน้าผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัทที่เป็นค่ายหนังจีวีชื่อดังที่เขาสังกัดอยู่ โนมูระมีสีหน้าลำบากใจเมื่อเห็นตารางงานใหม่ที่เขาเป็นคนเรียกให้สึบาสะเข้ามารับเอง
     “ทำไมเปลี่ยนตารางงานของผมกะทันหันแบบนี้ครับ แล้วยังต้องเล่นกับ...” สึบาสะตวัดสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่โซฟาในห้องทำงานของโนมูระด้วยท่าทางที่กวนประสาทที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
     “คนที่จะต้องเล่นเป็นชุนไม่ใช่เหรอครับ”
     “ตอนแรกก็เป็นแบบนั้นล่ะนะสึบาสะคุง” โนมูระพยายามอธิบาย “แต่พอดีมีโปรเจ็คท์ใหม่ให้ชุนเขาเล่นพอดี เราเลยต้องหาคนมาแทน แล้วอัตสึชิซังก็เสนอชื่อของเธอขึ้นมา บอกว่าแคแร็คเตอร์ของเธอเหมาะกับโปรเจ็คท์นี้ ทุกคนก็เห็นด้วย”
     “ข่มขืนนี่นะครับ” สึบาสะหน้างอ อันที่จริงเขาก็พอรู้ว่าตัวเองเป็นที่นิยมในบทของฝ่ายรับมากกว่า บทถูกข่มขืนหรือถูกมัดก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเล่น เพียงแต่เขาเล่นกับคนอื่น ไม่เหมือนคราวนี้ที่คู่ของเขาคือ..คาสุกิ
     สึบาสะกับคาสุกิเคยจับคู่เล่นด้วยกันอยู่สองสามครั้งเท่านั้น นับว่าน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่น อาจจะเพราะยังไม่มีโปรเจ็คท์ที่เหมาะสม และต่างคนต่างก็มีคู่ที่เข้ากันได้มากกว่า แต่ครั้งนี้ต้องเจอกันหลายคิวทีเดียว
     ความจริงสึบาสะไม่มีปัญหากับบท แต่เขาไม่อยากเล่นกับคาสุกิ
     หมอนั่นมันต้องฉวยโอกาสเอาเปรียบเขาแน่นอน
     สึบาสะรู้ดีว่าคาสุกิคิดยังไงกับเขา แต่เขาไม่ได้ชอบคาสุกิ
     “นายกลัวฉันเหรอ” เสียงยั่วแหย่ลอยลมมาให้ได้ยิน สึบาสะหันไปโต้ทันที...ด้วยน้ำเสียงที่พยายามแข็งอย่างเต็มที่แล้ว
     “ใครบอกว่าฉันกลัวนาย”
     “งั้นก็เล่นสิ ในฐานะนักแสดง นายไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะเล่นหรือไม่เล่นกับใครนะ นี่มันเป็นงาน”
     สึบาสะเงียบเพราะเถียงไม่ออก โนมูระรีบไกล่เกลี่ย
     “ฉันขอโทษนะสึบาสะคุงที่ไม่ได้คุยกับเธอก่อน แต่เรื่องมันด่วนจริง ๆ ครั้งนี้ถือว่าช่วยฉันเถอะนะ เรื่องคาสุกิก็ไม่ต้องห่วง ฉันจะปรามมันเองว่าไม่ให้มายุ่มย่ามกับเธอ”
     อย่างกับว่าจะทำได้นี่ สึบาสะมองหน้ายิ้มกริ่มแบบร้ายกาจสุด ๆ ของอีกฝ่ายแล้วไม่มั่นใจเลยว่าโนมูระจะสามารถปรามคาสุกิได้
     หมอนั่นออกจะร้าย แล้วก็รังแกเขามาตั้งหลายครั้งแล้ว
     ไม่ถึงขั้นจับกดหรอก แต่แค่จูบก็แย่แล้ว
     ที่แย่กว่านั้นคือ หัวใจเขาเต้นโครมครามทีเดียวแหละ เลยไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่งกับผู้ชายคนนี้นัก
     แต่ในที่สุดสึบาสะก็ต้องยอมอย่างไม่มีทางเลือก ปกติเขาก็ปฏิเสธใครไม่ค่อยจะเป็นอยู่แล้ว เมื่อโนมูระขอร้องให้ช่วย มีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้ สึบาสะก็ต้องยอมเล่นกับคาสุกิอยู่ดี
     “เป็นอะไรไปรึเปล่า สึบาสะ หน้าตาไม่สบายนะ”
     สึบาสะสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงทัก
     “โชคุง” สึบาสะก้มหัวทักทายเล็กน้อย โชยิ้มกว้างให้ ก่อนจะนั่งลงตรงข้าม
     “นายไม่สบายรึเปล่าเนี่ย”
     “เปล่าหรอก คิดอะไรเพลินอยู่เฉย ๆ” สึบาสะปฎิเสธ
     “นี่ใบอะไรน่ะ” โชเอื้อมมือมาคว้ากระดาษที่อยู่ตรงหน้าสึบาสะไปดูโดยที่ฝ่ายหลังคว้าไม่ทัน
     “ตารางงานนี่นา โห คิวเยอะจัง ไม่หนักเกินไปเหรอ”
     “ก็ไม่หรอก” สึบาสะยิ้มนิด ๆ หัวใจพองฟูขึ้นมานิด ๆ เมื่อได้ยินคำถามแสดงความเป็นห่วงของโช “เล่นแทนชุนก็เลยดูเยอะนิดนึง”
     “จริงสินะ เจ้านั่นมีโปรเจ็คท์ใหม่ผุดขึ้นมาพอดี ได้ยินนางิจังพูดอยู่เหมือนกัน”
     ชื่อของนางิที่ออกมาจากปากของโชทำให้ใจที่พองฟูแฟบลง
     “รู้ไหม พวกนั้นจะไปถ่ายกันที่ออนเซ็นที่โอซาก้าล่ะ น่าอิจฉาเป็นบ้าเลย” โชพูดต่อโดยไม่ได้สังเกตสังกาอะไร แม้แต่น้ำเสียงเศร้า ๆ ของสึบาสะที่ถามว่า
     “นายคงอยากไปด้วยสินะ”
     “แน่นอน ฉันอยากไปแช่น้ำร้อน ชวนนางิจังตั้งหลายครั้งแล้ว หมอนั่นไม่ว่างสักที แต่นี่ดันมาได้ไปทำงานซะงั้น นี่ถ้าฉันไปขอโนมูระซังเปลี่ยนตัวกับเจ้าไคหรือจิน คิดว่าพวกมันจะยอมมั้ย”
     “คงยาก เพราะชุนเล่นนี่นา ไคกับจินไม่มีทางถอนตัวแน่นอน”
     โชฟังแล้วทำปากยื่นอย่างน่าเอ็นดู เหมือนเด็กโดนขัดใจ สึบาสะคิด สายตาที่มองโชก็อ่อนโยนลงจนคนอีกคนหนึ่งที่แอบดูอยู่ห่าง ๆ รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที
     “แต่โชคุงก็จะได้ไปเล่นสกีไม่ใช่เหรอ น่าสนุกดีออก”
     ได้ยินอย่างนั้นโชก็ดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เขาชอบกีฬา ยิ่งเป็นสกีหรือสโนว์บอร์ดยิ่งเข้าทางเลย
     “นั่นสินะ ชักคอยไม่ไหวแล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูด “ว่าแล้วเย็นนี้ไปดูรองเท้าใหม่ดีกว่า นี่ฉันคงไม่เห่อไปหน่อยหรอกนะ” ประโยคท้ายหันมาถาม สึบาสะสั่นศีรษะยิ้ม ๆ
     โชยิ้มกว้างตอบอีกครั้ง แล้วยกนาฬิกาขึ้นดู ก่อนอุทานว่า
     “อ๊ะ ได้เวลาแล้วนี่นา เดี๋ยวฉันต้องไปรับนางิจังแล้ว ไปก่อนนะสึบาสะ”
     โชไม่ฟังคำตอบด้วยซ้ำ เขาพูดแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินฉับ ๆ ออกไปจากห้องกาแฟ ทิ้งให้สึบาสะนั่งอึ้งอยู่กับที่ ปากที่จะเตรียมพูดลาตอบอ้าค้าง
     คาสุกิที่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ ยกมือขึ้นกอดอก สายตาที่จับจ้องไปที่สึบาสะเข้มจัดจนเข้าขั้นอันตราย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2014 23:40:56 โดย Mettnoon »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #12 เมื่อ17-08-2014 20:24:18 »

อ๊ายยยยย แอบรักกันเป็นทอดๆ
สะบาสะ น่าสงสาร

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #13 เมื่อ17-08-2014 21:06:24 »

บริษัทนนี้อลเวงหน้าดูเลยนะ

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #14 เมื่อ18-08-2014 09:19:22 »

สร้างรักคู่ที่สอง: Kazuki x Tsubasa (ต่อ)

     สึบาสะมองคาสุกิที่เงียบขรึมผิดปกติด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก ปกติคาสุกิไม่เคยเงียบแบบนี้ เขาเป็นคนช่างคุย คล้าย ๆ กับโชเหมือนกัน กองถ่ายที่มีคาสุกิมักไม่ค่อยเงียบเหงา แต่นี่เงียบกริบและมีบรรยากาศมาคุแบบแปลก ๆ สตาฟก็คงรู้สึกถึงรังสีอำมหิตของคาสุกิเช่นกัน เพราะไม่มีใครเข้าไปใกล้เขาเลย ได้แต่เมียงมองและซุบซิบกัน สตาฟคนหนึ่งถึงกับมาขอร้องให้เขาช่วยเอาบทไปให้คาสุกิหน่อยเพราะไม่กล้าเอาเข้าไปให้เอง สึบาสะก็ไม่อยากทำ แต่บอกแล้วว่าเป็นคนที่ปฏิเสธใครไม่เป็น เขาจึงต้องทำเป็นใจดีสู้เสือเข้าไปหาคาสุกิที่นั่งสูบบุหรี่อยู่เงียบ ๆ
     “นี่บทของนาย”
     คาสุกิไม่พูดอะไร แต่ดึงกระดาษในมือสึบาสะไปทันที
     “มีใครเอาเบียร์มาให้นายรึยัง” สึบาสะถามต่อ ถึงเขาจะไม่ค่อยอยากเข้าใกล้คาสุกิเท่าไหร่ แต่ด้วยนิสัยช่างเป็นห่วงและชอบดูแลคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะถาม
     หรือบางทีคาสุกิเขาอาจจะไม่ค่อยสบาย
     “ฉันกินแล้ว” คาสุกิตอบห้วน ๆ และอ่านบทในมือง่วนโดยไม่เงยหน้ามองใคร สึบาสะจึงจำเป็นต้องถอยห่างออกมา นั่งอ่านบทของตัวเองและฟังสตาฟบรีฟคิวที่จะต้องถ่าย
     โปรเจ็คท์นี้เป็นซีรีย์ข่มขืนในหลายบทบาทและสถานการณ์ ในโรงเรียน ในที่ทำงานอาชีพต่าง ๆ สึบาสะกับคาสุกิถ่ายสี่เรื่อง เรื่องละสามสิบถึงสี่สิบห้านาที
     เรื่องแรกเป็นสถานการณ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศเดียวกัน ความยาวของเรื่องสามสิบนาทีเท่านั้น แต่ใช้เวลาถ่ายนานเพราะต้องถ่ายหลายเทคให้ได้หลายท่าและเอามาตัดต่อรวมกัน กว่าจะครบสี่เรื่อง ทั้งเขาและคาสุกิต้องมีเซ็กซ์กันหลายครั้ง ถึงตอนนี้สึบาสะเหลือบมองคาสุกิที่เปลี่ยนชุดเป็นสูทเรียบร้อย กำลังยืนให้ช่างเช็คผมครั้งสุดท้าย คาสุกิเป็นคนตัวสูง ใส่สูทแล้วสมาร์ตมากจนอดชมไม่ได้จริง ๆ สึบาสะมองเพลินจนเบนสายตาหลบแทบไม่ทันเมื่อสายตาของคาสุกิตวัดมามอง
     สึบาสะรีบเบือนหน้าหลบ เขาจึงไม่เห็นรอยยิ้มร้ายของคาสุกิ
     “เอาล่ะ เตรียมพร้อมเข้าฉากได้”
     เสียงผู้กำกับให้สัญญาณ สึบาสะนั่งประจำที่อยู่ที่โต๊ะ กำลังนั่งอ่านแฟ้มเอกสาร เมื่อคาสุกิเดินเข้าประตูมา เขาก็พุ่งตรงมาหาสึบาสะและซ้อนกอดจากทางด้านหลัง สึบาสะสะบัดตัวออก แต่ไม่หลุดเพราะอ้อมกอดของคาสุกิรัดแน่น เขาจับหัวสึบาสะให้เอี้ยวหน้ามาหาและบดขยี้ริมฝีปากของสึบาสะอย่างรุนแรง
     “ค..คาสุกิ” สึบาสะพยายามกระซิบเมื่อคาสุกิซุกหน้าเข้ามาไซ้ไปตามซอกคอ เขาอยากบอกคาสุกิให้ลดความรุนแรงลงกว่านี้เพราะคาสุกิไม่แค่เลียอย่างเดียวอย่างที่บทสั่ง แต่ยังกัดด้วย ตอนนี้สึบาสะเริ่มดิ้นจริงแล้ว เมื่อคาสุกิเล่นนอกบทแบบนั้น แต่ก็หยุดคาสุกิไม่ได้
     สึบาสะถูกดันตัวให้นอนคว่ำลงบนโต๊ะ คาสุกิดึงเข็มขัดของตัวเองออกมาแล้วมัดข้อมือสึบาสะไพล่หลังเอาไว้
     “คะ...คาสุกิ ไม่เอา..” ริมฝีปากของสึบาสะถูกปิดด้วยมือของคาสุกิทันที ร่างของคาสุกิยังซ้อนหลังเขาอยู่
     “เสร็จฉันล่ะสึบาสะ” คาสุกิกระซิบไม่ให้กล้องได้ยิน แล้วจับสึบาสะเปลื้องผ้าทั้งที่ยังโดนเขามัดมือไพล่หลังไว้ สึบาสะดิ้นหนี ตาเหลือก คราวนี้เขาพยายามจะร้องให้สตาฟช่วย แต่โดนคาสุกิใช้เสื้อเชิ้ตของตัวเองม้วนและให้เขาคาบไว้ในปากเสียก่อน
     ไม่เอา ไม่เอานะ ช่วยด้วย
     สึบาสะพยายามส่งสายตาบอกคนอื่น แต่แล้วก็คิดได้ว่าเรื่องที่ถ่ายทำอยู่มันคือการข่มขืน สิ่งที่คาสุกิทำแม้จะนอกบทไปบ้างแต่ก็ยังอยู่ในธีมเรื่อง สตาฟจึงไม่สงสัยอะไร แล้วเขาก็ดันบอกสตาฟไม่ได้ด้วยว่าเขากำลังจะถูกข่มขืนจริง ๆ
     น้ำตาของสึบาสะไหลออกมาเมื่อคาสุกิแทรกตัวเข้ามาในตัวของเขา ไม่มีการเล้าโลม ไม่มีความอ่อนโยน ทุกอย่างดิบเถื่อนและรุนแรง เขาถูกกระแทกจนร่างกายกระเด็นกระดอนไปตามแรงของคาสุกิ ความเจ็บวูบขึ้นมาจนตาพร่า ก่อนที่คาสุกิจะถอนตัวออกไป
     กล้องซูมจับมาที่หน้าเปื้อนน้ำตาของเขา แล้วผู้กำกับก็สั่งคัต
     “พักสิบห้านาที เตรียมคิวต่อไป”
     หมดไปท่านึงแล้ว ยังต้องถ่ายอีกสองครั้ง เขาต้องโดนคาสุกิข่มขืนอีกสองครั้ง
     สตาฟเป็นคนมาปลดเข็มขัดให้
     “เหนื่อยหน่อยนะสึบาสะซัง”
     สึบาสะรับผ้าเช็ดตัวชุบน้ำที่สตาฟยื่นมาให้ เขาตรงไปหาคาสุกิที่กำลังจุดบุหรี่สูบ แล้วขว้างผ้าเช็ดตัวในมือใส่คาสุกิทันที
     “นายทำอย่างนี้ทำไม คาสุกิ” ทั้ง ๆ ที่โกรธ แต่เสียงของสึบาสะก็แข็งไม่ได้มากไปกว่านี้
     “ฉันทำอะไร” คาสุกิยิ้มยียวน
     “นายเล่นนอกบท”
     “ฉันปล้ำนาย มันนอกบทตรงไหน นายเองก็ออกจะแสดงได้สมบทบาท” คาสุกิเชยคางสึบาสะขึ้น “คิวหน้าไม่มีผ้าปิดปาก นายครางได้เต็มที่เลย”
     “ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันไม่เล่นกับนายแล้ว” สึบาสะหมุนตัวจะเดินหนี แต่ถูกคาสุกิดึงมือไว้
     “ปล่อยนะ”
     “ไม่ปล่อย” แล้วคาสุกิก็หันไปพูดกับตากล้องและสตาฟที่กำลังมองอยู่ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นว่า
     “ถ่ายต่อได้เลย สึบาสะเค้าไม่อยากรอแล้ว”
     “หา อะไร” สึบาสะอุทานได้แค่นั้นก็ถูกกระชากแล้วผลักลงบนโต๊ะที่เดิม แต่คราวนี้สตาฟรู้แล้วว่าคาสุกิทำอะไรลงไป ผู้กำกับมัตสึดะจึงต้องเข้ามาห้ามทัพ
     “พักก่อนเถอะ เอาไว้ค่อยถ่ายต่อ สตาฟช่วยดูสึบาสะคุงหน่อย ส่วนคาสุกิ นายมาคุยกับฉันก่อน”
     คาสุกิทำเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความไม่สบอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ แต่ก็ยอมเดินตามผู้กำกับไป แล้วก็เลยโดนเทศน์ไปยกหนึ่งและถูกปรามไม่ให้เล่นอะไรนอกบทอีก
     ชายหนุ่มเจ้าของสมญาหมาป่าตัวร้ายเหมือนจะเชื่อฟังผู้กำกับ เทคต่อมา เขาทำตัวดีขึ้น แม้จะมิวายแอบกัดสึบาสะเล่นบ้างหรือขยับตัวแรง ๆ แต่ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามบท ทุกคนจึงค่อยคลายใจว่าการถ่ายทำครั้งนี้คงจบลงด้วยดี
     มารู้ทีหลังว่าคิดผิด หมาป่าก็คือหมาป่า เมื่อไหร่ที่ลูกแกะเผลอตัว ก็จะโดนขย้ำทันที
     เทคสุดท้ายเมื่อผู้กำกับสั่งเดินกล้อง คาสุกิยัดของตัวเองเข้าปากของสึบาสะทันทีอย่างไม่ปราณีปราศรัย ไม่สนใจว่าสึบาสะจะรู้สึกคับปากคับคอจนสำลัก เขาจับหัวสึบาสะไว้และขยับเอว สึบาสะน้ำตาร่วงอีกรอบขณะใช้ปากให้คาสุกิ
     “โอ๊ย เจ้าคาสุกิ” ผู้กำกับมัตสึดะมึนหัวตึ้บขึ้นมาทันที เขาสั่งคัต สตาฟรีบวิ่งเข้าไปดูสึบาสะที่ยังไอไม่หยุด
     “นายทำตัวดี ๆ หน่อยได้ไหม” มัตสึดะโวย แล้วหันไปหาสึบาสะ
     “ไหวรึเปล่าสึบาสะคุง พอก่อนไหม”
     ชายหนุ่มหยุดไอแล้ว เขากำลังใช้ผ้าที่สตาฟเอามาให้เช็ดน้ำตา ส่วนตัวต้นเหตุนั้นจุดบุหรี่สูบอย่างสบายใจเฉิบ ไม่มีท่าทีเดือดร้อนสักนิด
     “ไหวครับ รีบถ่ายให้เสร็จดีกว่า”
     สึบาสะตอบ เขาไม่อยากมาถ่ายซ่อม ไม่อยากเข้าฉากกับคาสุกิมากไปกว่านี้อีกแล้ว เอาแค่ของวันนี้ให้มันเสร็จไปสักที เหลืออีกนิดหน่อย เขาคงทนได้ แล้วเขาก็ต้องทนจริง ๆ เพราะถึงจะโดนคาดโทษไว้ คาสุกิก็ไม่ยั้งมือสักนิด เขากระแทกสึบาสะจนหัวสั่นหัวคลอน ไม่เพียงเท่านั้นยังหลั่งให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนตัวของสึบาสะอย่างที่ไม่ควรจะเป็นด้วย
     สึบาสะนอนหอบอยู่บนโต๊ะ ตามเนื้อตัวเลอะเทอะด้วยน้ำจากในตัวของคาสุกิ เขาหมดแรง ลุกขึ้นไม่ไหว จึงได้แต่นอนนิ่งหลับตาอยู่อย่างนั้น
     เท็ปเปซึ่งเป็นตากล้องหลักของโปรเจ็คท์นี้เห็นสภาพนักแสดงแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เขาหันไปพูดลอย ๆ กับคาสุกิที่ยังยืนสูบบุหรี่ได้อย่างใจเย็นว่า
     “ยิ่งชอบก็ยิ่งทำรุนแรงเนี่ยมันเป็นตรรกะที่ใช้ไม่ได้นะ คนที่เรารักเราก็ควรต้องทะนุถนอม ไม่ใช่แกล้งให้เจ็บตัว”
     คาสุกิร้องฮึอย่างไม่สบอารมณ์

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #15 เมื่อ18-08-2014 10:20:20 »

คาสุกิ นายเอสมาก จัดเต็มเหลือเกิน
ปล. อยากให้อัพชื่อตอนขึ้นหัวกระทู้ด้วยอะค่า จะได้รู้ว่าตอนใหม่มาแล้ว

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #16 เมื่อ18-08-2014 11:33:53 »

คาสุกิ นายเอสมาก จัดเต็มเหลือเกิน
ปล. อยากให้อัพชื่อตอนขึ้นหัวกระทู้ด้วยอะค่า จะได้รู้ว่าตอนใหม่มาแล้ว

เราต้องแก้ยังไงอะคะ แก้ที่หัวกระทู้แรกสุดเลยใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
"The Company - บริษัทสร้างรัก" [JGV]18/8/57-P.1
«ตอบ #17 เมื่อ18-08-2014 12:09:30 »

สงสารสึบาสะ มากกกกกกกกกกกกกก


(ปล.ไปแก้ที่ทู้แรกของคุณ  มุมขวาตรงเป็ด มันจะมีคำว่าอ้างถึง  แก้ไข ลบทิ้ง
เราคลิกหัวข้อ "แก้ไข" มันจะเข้าตรงตอบแล้วแก้ตรงเรื่องค่ะ"
จะได้หัวข้อกระทู้แบบเรา
(ถ้าจะกรุณาเขียนบอกว่าเป็นตอนของใคร อัพเมื่อไร หน้าที่เท่าไร )แฟนคลับอย่างเราจะได้รู้ค่า :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2014 12:14:19 โดย moredee »

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [JGV FanFic] "The Company - บริษัทสร้างรัก"
«ตอบ #18 เมื่อ18-08-2014 19:23:40 »

สร้างรักคู่ที่สอง: Kazuki x Tsubasa (ต่อ)

     เมื่อสึบาสะลืมตาขึ้นมาอีกที สตาฟก็หายไปกันหมดแล้ว เหลือแต่คาสุกิคนเดียว เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กำลังสูบบุหรี่และจ้องมองสึบาสะอยู่
     “คนอื่น ๆ เขากลับไปหมดแล้ว ฉันบอกว่าฉันจะดูแลนายเอง” คาสุกิบอกเมื่ออ่านสายตาของสึบาสะได้
     “ฉันดูแลตัวเองได้” สึบาสะปฏิเสธทันที “นายอย่ามายุ่งกับฉัน”
     สึบาสะคว้ากล่องกระดาษทิชชูมาเช็ดคราบตามเนื้อตัวออกก่อน แต่เมื่อขยับลงจากโต๊ะ เขากลับยืนไม่อยู่และคงจะล้มลงไปแล้ว ถ้าคาสุกิไม่เข้ามารับตัวเอาไว้
     “ไม่ไหวแล้วยังจะปากแข็งอีก” คาสุกิเอ็ดเบา ๆ กอดร่างของสึบาสะไว้แนบอก
     “ก็เพราะใครล่ะ บ้า ทำไม่ยั้งมือเลย”
     คาสุกิไม่โกรธที่โดนต่อว่า เขากลับหัวเราะร่าชอบอกชอบใจ สึบาสะอดรู้สึกไม่ได้ว่าคาสุกิกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว
     “ปล่อยได้แล้ว ฉันเดินเองได้” สึบาสะดิ้นหนี แต่คาสุกิกลับอุ้มเขาขึ้น
     “ฉันพานายไปอาบน้ำเอง อ๊ะ อย่าดิ้นนะ เดี๋ยวตกลงไปไม่รู้ด้วย” สึบาสะที่ทำท่าจะดิ้นอีกเลยต้องหยุดด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่ สองมือของเขาเหนี่ยวคอคาสุกิไว้ไม่ให้ตก ทำให้หน้าของเขาอยู่ใกล้กับหน้าของคาสุกิเพียงแค่นิดเดียว
     “วันนี้นายเป็นอะไร”
     สึบาสะอดถามไม่ได้ เขามองใบหน้าหล่อร้ายที่อยู่ห่างจากใบหน้าของเขาอย่างเต็มตา สบตากับคาสุกิที่เหลือบตามองตอบพอดี แต่คาสุกิไม่ตอบ แค่ยิ้มมุมปากนิดเดียวก่อนจะวางร่างในอ้อมแขนลงหน้าห้องน้ำ
     “นายอาบน้ำเองไหวไหม หรืออยากให้ฉันอาบให้”
     “บ้า ฉันอาบเองได้ นายอะไปห่าง ๆ เลย” สึบาสะผลักมือของคาสุกิที่ยุ่มย่ามกับตัวเขาออกไป ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็ออกมา คาสุกิยืนพิงผนัง สูบบุหรี่รออยู่ เมื่อเห็นสึบาสะเดินออกมา ก็บอกว่า
     “เดี๋ยวฉันไปส่งนายเอง”
     “ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้”
     สึบาสะปฏิเสธโดยที่ไม่ต้องคิดเลย เขาไม่เคยให้คาสุกิไปที่บ้าน ไม่เคยคิดจะให้ไปด้วย มันยิ่งโรคจิตอยู่ จะทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ จนถึงตอนนี้ถ้าไม่นับฝ่ายบุคคลของบริษัทก็ดูจะมีแค่โชคนเดียวที่รู้จักบ้านของเขา โชรู้นางิก็คงรู้ แต่เรื่องนั้นก็ช่วยไม่ได้
     คาสุกิพยายามจะตื๊อ แต่สึบาสะไม่ใจอ่อน เขาเรียกแท็กซี่กลับเองโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะโวยวายอย่างไร
     หนีได้หนีไปนะสึบาสะ คาสุกิขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นายไม่รอดมือฉันหรอก

     คาสุกิรู้ตัวว่าการถ่ายทำครั้งที่แล้ว เขาทำตัวไม่ค่อยดีนัก ในการถ่ายทำครั้งที่สองเขาจึงพยายามไม่ทำตัวมีปัญหาอะไรอีก ไม่นอกบท ไม่แกล้งสึบาสะ ซึ่งเมื่อไม่มีเรื่องอะไรมากระตุ้นให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างครั้งก่อน ชายหนุ่มก็ทำตัวดีได้เหมือนกัน
     ระหว่างที่ถ่ายทำเรื่องที่สองซึ่งเป็นเรื่องระหว่างเจ้านายและลูกน้องในร้านอาหาร คาสุกิจึงได้เห็นรอยยิ้มของสึบาสะตั้งแต่เริ่มกองจนกระทั่งเลิก และในเมื่อบรรยากาศของกองถ่ายดี การถ่ายทำก็ราบรื่นจนเสร็จเร็วกว่ากำหนด สตาฟจึงจัดแจงจะไปดื่มกันต่อหลังจากนั้น แต่สึบาสะปฏิเสธที่จะไป เขาขอตัวกลับบ้านหลังจากเลิกกอง คาสุกิอยากจะตามสึบาสะกลับบ้านไปด้วย แต่ทีมงานกลับไม่ปล่อยเขา ชายหนุ่มถูกลากไปที่บาร์กับคนอื่น ๆ
     คาสุกิได้นั่งกับสาวผมยาวแต่งตัวเปรี้ยวจัดที่แสดงความชื่นชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น
     “เดี๋ยวเราไปต่อที่อื่นกันนะคะคาสุกิซัง”
     ริมฝีปากสีแดงสดกระซิบอยู่ข้างหูของเขา อายูมิเคล้าคลอคาสุกิด้วยความหลงใหล มือลูบไล้แขนแข็งแรงของคาสุกิเล่นไปมา หน้าอกที่มีมากเหลือเฟือเบียดดันอยู่กับท่อนแขน น้ำเสียงเซ็กซี่และเนื้อนุ่ม ๆ ของสาวสวยทำให้เลือดในกายเขาสูบฉีด คาสุกิไม่ปฏิเสธ เขาตามอายูมิเข้าไปในโรงแรมที่เปิดห้องไว้สนุกสนานกันในคืนนี้
     แต่เมื่อเรือนร่างอวบอัดเปล่าเปลือยของอายูมิเข้ามาใกล้ชิดกับเขา คาสุกิกลับคิดถึงรูปร่างแข็งแรงมีกล้ามเนื้อพอประมาณของใครอีกคนหนึ่ง ผิวของคนคนนั้นขาวนวลเนียน สัมผัสนุ่มมือ รอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยน
     สึบาสะ...
     คาสุกิหลับตา แล้วก็ผลักอายูมิที่กำลังจะใช้ปากให้เขาออกเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงไปสวมเสื้อผ้า เขาโยนเงินปึกหนึ่งลงบนเตียงตรงหน้าอายูมิที่มองตามอย่างไม่เข้าใจและไม่พอใจเลย
     “นี่มันอะไรกันคะ คาสุกิซัง”
     “โทษทีนะ แต่ฉันทำกับเธอไม่ได้ซะแล้วล่ะ แฟนฉันขี้งอน ถ้ารู้เข้าคงงอนฉันไม่ยอมเลิกแน่” คาสุกิตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้อายูมิมองตามตาค้าง
     เขาตู่เอาสึบาสะเป็นแฟนอีกแล้ว แต่เมื่อไหร่นะจะยอมเป็นจริง ๆ สักที
     คาสุกิกดโทรศัพท์หาคนที่เขาคิดถึงทันที ป่านนี้จะนอนรึยังก็ไม่รู้ แต่ถ้ายังไม่นอน แล้วจะยอมรับโทรศัพท์ของเขาไหมนะ
     “สวัสดีครับ” เสียงงัวเงียของสึบาสะดังมาตามสาย “สึบาสะพูดครับ”
     คาสุกิยิ้มนิด ๆ กับโทรศัพท์ในมือ คงนอนแล้ว และกดรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดูชื่อสินะ ถ้ารู้ว่าเป็นเขาโทรมาเอาป่านนี้ สึบาสะคงหน้างอ
     “ฉันเอง คาสุกิ”
     “คาสุกิเหรอ นายโทรมาทำไมตอนดึก ๆ เนี่ย คนจะนอน”
     นั่นยังไง เสียงใส ๆ เมื่อกี้บ่นอุบทันที
     “ฉันคิดถึงนาย อยากคุยด้วย”
     “จะบ้าเหรอ เพิ่งเจอกันเมื่อเย็นนี้เอง พรุ่งนี้เดี๋ยวก็เจออีก จะมาคิดถึงอะไรเนี่ย ไม่เอาละ ฉันวางหูดีกว่า จะได้นอน แล้วนายอย่าโทรมากวนฉันอีกล่ะ”
     “เดี๋ยวก่อนสิสึบาสะ อย่าเพิ่งวางสาย” คาสุกิเรียกเอาไว้ “ฉันคิดถึงนายจริง ๆ นะ นายคิดถึงฉันบ้างไหม”
     “บ้า ฉันจะไปนอนแล้ว อย่าโทรมากวนฉันด้วยเรื่องเหลวไหลแบบนี้อีกนะ”
     เสียงอ่อนโยนที่กำลังเอ็ดเขานั้นไม่น่ากลัวเลยสักนิด คาสุกิยิ้มนิด ๆ กับตัวเอง คนปลายสายวางหูไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ก็อย่างที่สึบาสะพูดนั่นแหละ
     พรุ่งนี้ก็ได้เจอ

     สึบาสะอยากเปลี่ยนคำพูดที่เคยบอกว่าคาสุกิทำตัวดีขึ้นนัก ตอนถ่ายเรื่องที่สอง เขาทำตัวน่ารัก ไม่นอกบท ไม่ฉวยโอกาส แต่พอมาวันนี้ มือไม้ของหมอนั่นกลายเป็นปลาหมึกอีกแล้ว คาสุกิเข้ามาก้อร่อก้อติกกับเขาทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามาในกอง
     “คิดถึงจังเลย” คาสุกิเข้ามากอดสึบาสะเอาไว้แน่น
     “กอดทำไมเนี่ย ปล่อยฉันนะ อึดอัด” สึบาสะพยายามผลักตัวคาสุกิออกอย่างทุลักทุเล ในขณะที่คนอื่น ๆ เห็นเข้าก็พากันหัวเราะ เท็ปเปออกปากแหย่ว่า
     “รักกันจริง ๆ เลยน้าสองคนนี้”
     “ไม่ใช่นะ” สึบาสะรีบปฏิเสธ เขาดันตัวคาสุกิออกจนสำเร็จ
     “ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”
     “ก็คนคิดถึง ก็ต้องกอดสิ ธรรมดาจะตาย”
     คาสุกิยักคิ้วยียวน พยายามจะเข้ามากอดอีก แต่สึบาสะเบี่ยงตัวหลบ หน้างอ
     “ถ้านายอยากจะกอดใครสักคนก็นู่น รอไปกอดสาวสวยคนเมื่อคืนสิ อย่ามายุ่งกับฉัน”
     คาสุกิฟังแล้วสะดุ้งโหยง บ่นพึม
     “เฮ้ย ใครมันปากโป้งวะ”
     สตาฟหัวเราะกันคิกคัก แต่ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนเอาเรื่องมาฟ้องสึบาสะสักคน คาสุกิเกาหัวอย่างไม่รู้จะทำไงดี ส่วนสึบาสะก็สะบัดหน้าเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ ไม่ยอมพูดกับคาสุกิอีกจนถึงเวลาเข้าฉาก

     ผู้กำกับสั่งเดินกล้อง เรื่องนี้สึบาสะต้องเล่นบทถูกมัด เขาโดนคาสุกิจับใส่กุญแจมือแล้วล็อกไว้กับหัวเตียง เขาถูกผูกตาไว้ด้วย ร่างเปลือยเปล่าของสึบาสะนอนแผ่อยู่บนเตียงตรงหน้าคาสุกิ ปกติแล้วในเวลางาน คาสุกิไม่ได้มีอารมณ์เต็มร้อยหรือตื่นเต้นอะไรมากมาย ทุกอย่างเป็นงาน เขาก็เล่นไปตามบทบาท ทำไปตามหน้าที่ แต่เมื่อคู่ของเขาคือสึบาสะ แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้ากล้องและมีคนอยู่ด้วยอีกหลายคน คาสุกิกลับรู้สึกเหมือนจะยั้งตัวเองไม่อยู่ เขามีอารมณ์อยากจะทำให้มันสุด ๆ ไปเลย ยิ่งเมื่อสึบาสะครางฮือ บิดตัวเร่า ๆ แค่โดนเขาเขี่ยยอดอกเล่น มันยิ่งปลุกอารมณ์เขาอย่างบอกไม่ถูก เสียงร้องของสึบาสะเมื่อเขาใช้ปาก ใช้มือก็เช่นกัน มันช่างเซ็กซี่และแทบทำให้เขาสติกระเจิดกระเจิง ชายหนุ่มกระแทกตัวเองเข้าหาสึบาสะแบบไม่มียั้ง ส่งให้สึบาสะนอนหอบแรง ๆ อยู่ใต้ตัวเขา
     ผู้กำกับสั่งให้เล่นต่อเนื่องเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนอารมณ์กำลังได้ คาสุกิปลดกุญแจมือและผ้าผูกตาออก เมื่อจับสึบาสะขึ้นมาอยู่บนตัวเอง มือจับสะโพกของสึบาสะกดลงแรง ๆ ไปพร้อมกับแอ่นตัวรับ สึบาสะหลับตาแน่น แต่ส่งเสียงครางไม่หยุด สุดท้ายร่างของสึบาสะถูกเขากดลงนอนคว่ำกับฟูกที่นอน มือสองข้างของสึบาสะถูกดันติดหัวเตียง แต่คาสุกิพลั้งมือไปหน่อย มือของเขากดมือของสึบาสะผิดท่า เมื่อเขาออกแรงขย่มตัว มือของสึบาสะก็ซ้น
     “โอ๊ย เจ็บ คาสุกิ”
     สึบาสะร้อง แต่คาสุกิไม่สนใจ เขากดสึบาสะติดกับเตียง หน้าของสึบาสะโดนอัดลงกับหมอนจนเขาไม่สามารถเปิดปากร้องได้ ได้แต่อดทนจนคาสุกิเสร็จและถอนตัวออกมา
     “สึบาสะ...”
     คาสุกิตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นสึบาสะกุมมือซ้าย หน้าตาเหยเก พอเขาเอื้อมมือไปหา ก็โดนสึบาสะตวาดใส่อย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
     “ไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉัน!”
     “ฉันขอโทษ”
     “ฉันบอกว่าเจ็บ นายก็ยังไม่ยอมหยุด!”
     “สึบาสะ ฉันขอโทษ”
     สึบาสะหันหลังให้ เขายื่นมือให้มัตสึดะดู คนอื่น ๆ ก็มารุมสึบาสะ และชายหนุ่มก็ถูกประคองไปที่ห้องพยาบาลทันที
     คาสุกิรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามไปที่ห้องพยาบาล สึบาสะทำแผลเสร็จแล้วและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เขากำลังจะกลับบ้าน
     “ฉันไปส่งนะสึบาสะ”
     คาสุกิรีบเสนอตัว แต่สึบาสะทำหน้าบึ้งใส่และหันไปขอร้องให้เท็ปเปไปส่งเขาแทน
     เท็ปเปตบไหล่คาสุกิเบา ๆ
     “ไม่ต้องห่วงนะคาสุกิคุง เดี๋ยวฉันไปส่งสึบาสะคุงเอง นายก็รอให้สึบาสะคุงอารมณ์ดีสักหน่อยก่อนแล้วค่อยคุยเถอะ ตอนนี้คุยไปก็คงไม่ยอมฟังหรอก”
     คาสุกิยอมทำตาม เขามองตามสึบาสะไปด้วยความเป็นห่วง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2014 21:48:44 โดย Mettnoon »

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
โธ่ อุตส่าห์เปลี่ยนยุทธวิธีเข้าหา แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ (แอบสมน้ำหน้าเบา ๆ  :hao7:)
สู้ต่อไปนะคาสุกิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คู่นี้ท่าทางจะไม่ง่ายนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ mamie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-5
สนุกมากค่ะ คุคิ

มาอัพบ่อยๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
สร้างรักคู่ที่สอง: Kazuki x Tsubasa (ต่อ)

     สึบาสะกลับมาถึงห้องเรียบร้อยโดยมีเท็ปเปช่วยหิ้วกระเป๋าและถือของมาส่ง เขาอาสาจะไปซื้อข้าวกล่องมาให้ แต่สึบาสะปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
     “อย่าลำบากดีกว่าครับเท็ปเปซัง ผมแค่มือซ้นนิดเดียว ออกไปซื้อเองได้ครับ แค่ต้องรบกวนให้มาส่งก็ขอบคุณมากแล้วครับ”
     เท็ปเปยิ้มนิด ๆ
     “ก็ถ้าแค่นั้น เธอก็อย่าโกรธคาสุกิคุงเขามากนักล่ะ ดูเขาเป็นห่วงเธอมากนะ”
     สึบาสะไม่ยอมตอบ ปากเม้มแน่น
     “ถ้าหมอนั่นโทรมา เธอก็คุยด้วยสักหน่อยแล้วกันนะ สงสารมัน หน้าจ๋อยเลย”
     “ทำไมใคร ๆ เข้าข้างแต่คาสุกิ” สึบาสะอดบ่นไม่ได้ “เขาทำผมเจ็บนะ”
     “หมอนั่นมันไม่ได้ตั้งใจหรอก” เท็ปเปพูดแค่นั้นก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “เอาเถอะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะ ถ้ามีอะไรฉุกเฉินก็โทรเรียกได้”
     “ขอบคุณมากครับ”
     หลังจากเท็ปเปออกไปแล้ว สึบาสะก็เอาโทรศัพท์มือถือที่ปิดเสียงไว้ขึ้นมาดู
     สายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสายจากคาสุกิ
     ฮึ!
     สึบาสะวางโทรศัพท์ลงบนเตียงอย่างไม่สนใจ เขาทิ้งตัวลงนอน
     ถามว่าโกรธไหมเรื่องมือ คำตอบที่ได้คือไม่โกรธ แต่ไม่พอใจเรื่องที่คาสุกิไม่สนความรู้สึกของเขามากกว่า
     เอาแต่ใจตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ
     เรื่องเมื่อคืนก็อีก อยู่กับผู้หญิง แล้วยังมีหน้าโทรมาบอกว่าคิดถึงเขา
     คนร้ายกาจ!
     เสียงโทรศัพท์สั่น เขาหยิบขึ้นมาดู กะว่าถ้าเป็นคาสุกิจะกดตัดสายซะ แต่ชื่อที่ขึ้นหน้าจอกลับเป็นอีกคนหนึ่ง
     “โชคุง” สึบาสะกดรับสายทันที
     “โย่ สึบาสะ เป็นไงมั่ง ได้ข่าวว่ามือเจ็บเหรอ”
     “ซ้นนิดหน่อย ไม่เป็นไรมากหรอก ขอบคุณนะที่โทรมา”
     “เจ้าคาสุกินี่ก็นะ ไม่ยั้งมือเลยสิท่า เจ้าหมอนี่เป็นยังงี้ทุกที” โชบ่น เขาเคยจับคู่กับคาสุกิเหมือนกัน เจ้าหมอนั่นชอบเล่นแรง เล่นกับมันต้องคอยปรามเอาไว้ดี ๆ ไม่งั้นเจ็บตัวเอาได้ง่าย ๆ
     “แล้วนี่นายกินอะไรรึยัง ทำอะไรสะดวกไหม ยังไงฉันซื้อข้าวเข้าไปให้นายดีมั้ย ฉันมาถ่ายแถว ๆ อพาร์ตเม้นท์นายพอดี เดี๋ยวเข้าไปหา”
     “จะรบกวนรึเปล่าโชคุง”
     “ไม่หรอก นี่ก็ถ่ายใกล้เสร็จแล้ว งั้นเดี๋ยวถ่ายเสร็จ ฉันแวะซุเปอร์แถวนี้ซื้อข้าวกล่องเข้าไปให้นายละกันนะ”   
     โชวางสายไปแล้ว สึบาสะยิ้มกับตัวเองด้วยความดีใจเมื่อคิดว่าโชจะมาหา เขารีบเดินไปเปิดตู้เย็น โชคดีที่ยังพอมีเบียร์เหลืออยู่ กับแกล้มก็พอมี เขาอาจจะทำอะไรง่าย ๆ ให้โชได้บ้าง
     เย็นนี้จะได้กินข้าวกับโช บางทีเจ็บตัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
     สึบาสะจัดโต๊ะรอโชเอาไว้เรียบร้อย พอได้ยินเสียงกริ่งประตู เขาก็รีบไปเปิดทันที แต่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับถุงข้าวของหลายใบ กลับไม่ใช่โช
     “คาสุกิ นายมาได้ยังไง” รอยยิ้มบนหน้าของสึบาสะเลือนหายไป
     “เสียใจล่ะสิที่เป็นฉัน ไม่ใช่เจ้าโช” คาสุกิแสยะยิ้ม เขาคว้าประตูไว้ทันก่อนที่สึบาสะจะปิดมันใส่หน้าเขา
     “เจ้านั่นน่ะมันโทรหาฉัน บอกว่ามันมาหานายไม่ได้แล้ว มันต้องไปหาเจ้านางิ ให้ฉันมาแทน บอกที่อยู่ของนายให้เสร็จ มันน่ะไม่ได้ให้ความสำคัญกับนายเท่าแฟนมันหรอกนะ แค่เจ้านางิโทรมาเรียก มันก็ทิ้งนายได้ทันที”
     “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ”
     “ทำไม ทนฟังไม่ได้เหรอ”
     สึบาสะไม่อยากได้ยินคำพูดเชือดเฉือนของคาสุกิอีกแล้ว ไม่อยากเห็นรอยยิ้มเยาะ ๆ ของคาสุกิด้วย ชายหนุ่มพยายามจะผลักคาสุกิออกไปให้พ้นประตู แต่ทำไม่ได้ เพราะฝ่ายนั้นดันตัวเองเข้ามาในห้องจนสำเร็จ แล้วปิดประตูทันที คาสุกิถือวิสาสะเข้ามาในห้องของสึบาสะ เอาถุงหลายถุงที่หิ้วมาด้วยวางลงบนโต๊ะ
     คาสุกิยิ้มเยาะหยันอีกเมื่อเห็นตะเกียบสองคู่และแก้วน้ำที่สึบาสะจัดไว้
     “อุตส่าห์จัดรอเจ้าโช เสียใจด้วยนะที่ต้องผิดหวัง”
     “นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”
     คาสุกิยักไหล่ ไม่สนใจคำไล่ของสึบาสะแม้แต่น้อย เขาเอาของสดที่ซื้อมาใส่ตู้เย็น ปากก็พูดว่า
     “ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม ฉันจะทำอะไรให้นายกินละกัน”
     “ไม่เอา ฉันไม่กิน นายกลับไปนะ” สึบาสะดึงแขนคาสุกิ แต่เขาก็นิ่งอึ้งไปเมื่อเห็นสายตาเจ็บปวดของคาสุกิที่เบือนกลับมามองสบตาด้วย
     คาสุกิมองคนที่เขาชอบด้วยแววตาตัดพ้อจนคนถูกมองทำอะไรไม่ถูก
     มือของสึบาสะปล่อยแขนของคาสุกิทันที แล้วในพริบตานั้นเขาก็ถูกคาสุกิดึงตัวเข้าไปกอดแน่น สัมผัสของคาสุกิไม่ได้เป็นแบบล้อเล่นหรือหมาหยอกไก่อย่างที่เคยทำ แต่อ้อมกอดของเขามั่นคงและสั่นนิด ๆ จนสึบาสะไม่กล้าจะขยับตัว ได้แต่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนนั้น
     “ให้ฉันดูแลนายบ้างได้ไหม” เสียงของคาสุกิอ้อนวอน “ฉันรู้ว่านายเกลียดฉัน นายชอบเจ้าโชมัน แต่ฉันขอร้องล่ะ แค่วันนี้ก็ได้ ให้ฉันเป็นคนดูแลนายนะ อย่าปฏิเสธฉันเลย”
     “คาสุกิ”
     “ฉันขอโทษที่ทำนายเจ็บ ฉันเสียใจ สึบาสะ ฉันเสียใจจริง ๆ นายยกโทษให้ฉันได้ไหม”
     สึบาสะใจอ่อนยวบ เขาไม่ใช่คนใจแข็งอยู่แล้ว ได้ยินคาสุกิพูดถึงขนาดนี้ จะให้เขาโกรธต่อก็ทำไม่ลงจริง ๆ
     “ฉันไม่ได้โกรธนายสักหน่อย” เสียงของสึบาสะอ่อยลง มือที่ตกอยู่ข้างตัวเลื่อนขึ้นมาจับชายเสื้อของคาสุกิไว้
     “ขอโทษนะที่ตะกี้ไล่นาย”
     “ไม่เป็นไร” มือของคาสุกิลูบผมสึบาสะด้วยความเอ็นดู “นายไม่โกรธเรื่องที่ฉันมาที่นี่ด้วยใช่ไหม”
     มือของสึบาสะที่กำชายเสื้อของคาสุกิอยู่คลายออกทันที เขายกมือขึ้นปาดน้ำตา
     “สึบาสะ” คาสุกิคลายอ้อมแขน ใจหายวูบ   
     “ฉันทำให้นายเสียใจอีกแล้ว” คาสุกิพูด แล้วโอบตัวอีกฝ่ายมากอดเอาไว้อีกครั้ง
     สึบาสะสั่นศีรษะแรง ๆ พลางสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของคาสุกิ
     “ให้ฉันแทนที่โชได้ไหมสึบาสะ ฉันขอเป็นคนดูแลนายเองนะ”
     สึบาสะไม่ตอบ เขาสะอื้นไม่หยุด
     “ฉันชอบนายจริง ๆ นะสึบาสะ”
     คาสุกิจูบหน้าผากของสึบาสะ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ขัดขืน เขาก็เลื่อนริมฝีปากไปที่ตา แก้ม มือก็เช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน สายตาของคาสุกิสบกับสึบาสะ และริมฝีปากของสึบาสะก็เผยอออกนิด ๆ อย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากของคาสุกิขยับไปประกบทันที และเรียกร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ลิ้นของเขาสอดเข้าไปพันอยู่กับลิ้นของอีกฝ่าย สึบาสะจูบตอบ เขากอดคอคาสุกิ อ้อมแขนของคาสุกิจึงรัดแน่นขึ้นราวกับไม่อยากจะปล่อยร่างของสึบาสะอีกแล้ว ทั้งสองคนจูบกัน ร่างของทั้งคู่เลื่อนลงบนพื้น คาสุกิถอนริมฝีปากออก แล้วอุ้มสึบาสะไปวางลงบนเตียง
     เสื้อผ้าถูกถอดออกจนหมด คาสุกิกระซิบข้างหูสึบาสะอีกครั้ง
     “ฉันชอบนาย”
     สึบาสะหลับตาลง ซึมซับความสุขที่คาสุกิมอบให้ผ่านมือและริมฝีปาก เขาครางไม่หยุด ตัวแอ่นขึ้นลงตามแรงดูดของคาสุกิ และเปิดปากรับริมฝีปากของคาสุกิที่เลื่อนขึ้นมาหา คาสุกิตั้งใจทำให้สึบาสะเต็มที่ เขายกสะโพกของสึบาสะขึ้น นิ้วมือและลิ้นไล้ไปทั่วบริเวณที่ทาเจลไว้จนชุ่ม ก่อนจะดันตัวเองลึกลงไปข้างใน
     สึบาสะสะดุ้ง หน้าตาเหยเก เขาจิกผ้าปูที่นอนแน่น เสียงครางและเสียงสูดริมฝีปากของทั้งคู่ดังประสานกัน คาสุกิโน้มตัวลงมากอดสึบาสะไว้ขณะที่ขยับเอวไม่หยุด แล้วยกพลิกตัวสึบาสะให้หันหลัง ยิ่งคาสุกิเข้ามาลึกเท่าไหร่ สึบาสะยิ่งทนไม่ไหว เขาขยับสะโพกรับและจัดการตัวเองไปด้วย
     “คาสุกิ ฉันไม่ไหวแล้ว”
     “ไปพร้อมกัน สึบาสะ”
     คาสุกิหลับตาเมื่อรู้สึกถึงการตอดแน่นในตัวของสึบาสะ เขายิ่งขยับแรงขึ้นเมื่อสึบาสะร้องเรียกชื่อเขาไม่ขาดปาก
     “คาสุกิ คาสุกิ”
     “สึบาสะ”
     เขาจับหน้าของสึบาสะให้เอี้ยวมารับจูบของเขาซึ่งอีกฝ่ายก็เผยอริมฝีปากรับอย่างเต็มใจ แล้วคาสุกิก็พาสึบาสะขยับไปพร้อม ๆ กับเขาจนหมดแรงไปด้วยกันทั้งคู่

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ว้าย เรื่องนี้แปลกดีนะคะ
อ่านแล้วเหมือนได้ดู GV อยู่เลย
 :z1: :pighaun: :m25:
ถ้าจะให้ดี รบกวนช่วยใส่รูปของพระนายบ้างได้มั้ยคะ
เพราะคนที่เราจำหน้าได้มีไม่กี่คนเอง
คนอื่นอาจจะเคยเห็นหน้าแต่จำชื่อไม่ได้อ่ะ อิอิ
ขอบคุณนะคะ
 :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
สึบาสะใจอ่อนแล้ว

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
 :jul1:
เลือดท่วม สึบาสะเริ่มสนใจคาสุกิแล้วใช่มั๊ย

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
ถามใจตัวเองดีๆนะสึบาสะ

ออฟไลน์ Mettnoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
สร้างรักคู่ที่สอง: Kazuki x Tsubasa (จบ)

     คาสุกิกับสึบาสะนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียง สึบาสะไม่ได้ร้องไห้แล้ว เขานอนซบอกของคาสุกิอยู่ โดยมีฝ่ายหลังลูบผมเขาเล่นช้า ๆ ด้วยความเอ็นดู แล้วคาสุกิก็พูดขึ้นว่า
     “มีความสุขจัง”
     สึบาสะเงียบ แต่แอบอมยิ้ม
     “นายล่ะ รู้สึกยังไง มีความสุขไหม”
     สึบาสะเงียบอีก คาสุกิเลยถือโอกาส
     “ไม่ตอบแสดงว่าชอบสินะ”
     “บ้า คิดไปเองตลอด นายอะ” สึบาสะเงยหน้าขึ้นมาค้านทันควัน แต่หน้าแดงแปร๊ด คาสุกิหัวเราะชอบใจ เขากอดสึบาสะไม่ยอมปล่อย
     “นายยังจะปฏิเสธฉันอีกไหม”
     “ฉันไม่รู้”
     “นี่นายยังไม่คิดจะตัดใจจากเจ้าโชอีกงั้นเหรอ”
     “เรื่องโชคุงน่ะคงต้องพอซะที ฉันไม่ได้มีหวังตั้งแต่ต้นแล้ว นายก็รู้ดีนี่นา”
     “งั้นก็ให้โอกาสฉันสิ ให้ฉันได้พิสูจน์ว่าฉันน่ะดีกว่าเจ้าโชมันไม่รู้กี่เท่า”
     “ไม่เอาอะ ฉันไม่ไว้ใจนาย”
     “ทำไม”
     คาสุกิขมวดคิ้ว แล้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบ เขาก็เลยบีบปากสึบาสะ พลางคาดคั้น
     “บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
     “โอ๊ย ทำอะไรของนายน่ะ คาสุกิ ฉันเจ็บนะ” สึบาสะร้อง เขาตีมือคาสุกิที่บีบปากเขาอยู่ อีกฝ่ายยอมปล่อยมือ แต่ยังไม่ละสายตาจากสึบาสะ
     “อย่าเล่นแรง ๆ แบบนี้ ฉันไม่ชอบ”
     “แน่ใจเหรอว่าไม่ชอบ” คาสุกิแหย่ ทำให้อีกฝ่ายหน้าคว่ำทันที
     “นายก็เป็นซะอย่างนี้ ทำตัวเป็นเล่น แล้วฉันจะไว้ใจนายได้ยังไง อีกอย่างนึง วันนี้นายบอกว่าชอบฉัน แต่นายก็ทำฉันเจ็บ นายบอกว่าคิดถึงฉัน แต่นายก็ไปนอนกับผู้หญิง ฉันไม่ให้โอกาสนายหรอก”   
     หางเสียงมีรอยสะบัด คาสุกิรู้ตัวทันที
     “อ๋อ เรื่องนี้เองใช่ไหม ฉันไม่ได้มีอะไรกับแม่สาวคนนั้นนะ”
     คาสุกิแก้ตัว แต่สึบาสะสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนทันที
     “แล้วไปที่โรงแรมกับเขาทำไม”
     “ตอนแรกก็คิดจะทำเหมือนกัน” คาสุกิหยุดเมื่อเห็นหน้างอง้ำของสึบาสะ แล้วก็รีบพูดต่อ “แต่ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันทำไม่ได้ ฉันนึกถึงหน้านาย ฉันก็เลยหยุด”
     “หมายความว่ายังไง”
     “ฉันรู้ว่านายต้องทำหน้ายังงี้น่ะสิ” คาสุกิบีบจมูกของสึบาสะที่กำลังงอนเล่น “นายต้องงอนฉันแน่ ๆ ฉันเลยไม่ทำไง”
     “บ้า นายจะทำอะไรมันก็เรื่องของนาย ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉัน”
     คาสุกิดึงตัวสึบาสะเข้ามากอดอีก ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะดิ้นหรือผลัก น้ำเสียงของเขาไม่มีการล้อเล่นอีกแล้ว
     “ฟังนะ ฉันก็เป็นอย่างนี้แหละ ปากเสีย ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจนาย ทำนายเจ็บตัว ทำนายร้องไห้ แต่ฉันไม่เคยโกหกนาย ฉันบอกว่าไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ และฉันบอกว่าฉันชอบนาย มันก็หมายความตามนั้นจริง ๆ ไม่มีวันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”
     เขาจ้องลงไปในตาของสึบาสะที่ยังคงมีความไม่แน่ใจ
     “ขอแค่นายให้โอกาสฉัน ฉันจะทำให้นายเห็นเอง”
     สึบาสะมองเห็นความมั่นคงและจริงใจในดวงตาของคาสุกิ แม้ว่าเขาพยายามจะปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม
     คาสุกิไม่โกหกเขาหรอกใช่ไหม
     ตลอดเวลาที่ผ่านมา คาสุกิก็คือคาสุกิ เขาไม่เคยปิดบังความร้ายกาจของตัวเอง เขาแสดงตัวตนของเขาให้เห็นมาตั้งแต่ต้น และเมื่อบอกว่าชอบ เขาก็ทำทุกอย่างให้รู้ว่าชอบเหมือนกัน
     ทำในแบบของตัวเองนี่แหละ
     “ว่าไงล่ะ อย่าเงียบสิ”
     สึบาสะโดนบีบปากอีก
     เนี่ย คาสุกิสไตล์ บอกว่าชอบ แต่ทำคนอื่นเจ็บตัวตลอด
     “โอ๊ย ให้โอกาสก็ได้ แต่นายเลิกบีบปากฉันสักที มันเจ็บนะ”
     สึบาสะหน้างอ ปัดมือคาสุกิออก เขาหมั่นไส้ท่าทางลิงโลดของคาสุกิเมื่อได้ยินคำตอบของเขาจริง ๆ แล้วนั่น มือของคาสุกิเริ่มยุ่มย่ามกับเขาอีกแล้ว สึบาสะต้องหาวิธีปรามให้ได้แล้วล่ะมั้ง ไม่งั้นเขาตายแน่
     “คาสุกิ” สึบาสะเรียกอีกฝ่ายเสียงอ่อน พร้อมกับจับมือที่กำลังลูบไล้เนื้อตัวเขาเล่น รั้งเอาไว้ให้หยุด
     “หือม์?” คาสุกิขานรับ เขาชะงักเมื่อสบสายตาวิงวอนอ่อนหวานของสึบาสะ
     “ครั้งนี้นายช่วยอ่อนโยนกับฉันหน่อยนะ คาสุกิ ฉันอยากให้นายกอดฉันเบา ๆ มากกว่า”
     สึบาสะลูบแขนอีกฝ่าย
     “นะ คาสุกิ ไม่กระแทกด้วยได้ไหม ฉันเจ็บ”
     เจอทั้งน้ำเสียงและสายตาแบบนั้นเข้าไป คาสุกิรู้สึกเหมือนโดนมนตร์สะกดทันที แล้วเมื่อสึบาสะเลื่อนตัวมากอดเขาไว้อย่างอ่อนโยน คาสุกิก็รู้ตัวแล้วว่าเขาไม่มีวันไปไหนได้รอด
     แล้วไม่ว่าสึบาสะต้องการอะไร คาสุกิคนนี้พร้อมจะทำให้ได้ทุกอย่าง!
     
     การถ่ายทำเรื่องสุดท้ายของโปรเจ็คท์ล่าช้ากว่าที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะถึงแม้ว่าสตาฟทุกคนจะพร้อม แต่ก็ยังไม่มีใครคิดจะทำงาน ต่างพากันจับกลุ่มกระซิบกระซาบกันให้แซดไปทั้งกอง สายตาชำเลืองมองไปยังนักแสดงสองคนของโปรเจ็คท์นี้ที่กำลังนั่งคุยกันอย่างไม่สะทกสะท้านต่อเสียงกระซิบกระซาบรอบตัว
     ถ้าแค่นั่งคุยกันเฉย ๆ มันคงไม่เป็นประเด็นขนาดนี้ แต่นี่คาสุกินั่งซ้อนหลังสึบาสะอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน มือข้างหนึ่งจับผมสึบาสะม้วนเล่นกับปลายนิ้วขณะฟังอีกฝ่ายคุย ส่วนสึบาสะก็ยอมนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในอ้อมแขนของคาสุกิแต่โดยดีโดยไม่พยายามผลักหรือสะบัดตัวออกเหมือนที่เคยทำ
     “นี่มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย หรือสองคนนั้นตกลงปลงใจกันแล้ว”
     เท็ปเปที่มีกล้องถ่ายวีดิโออยู่ในมือหันไปตามเสียงที่ได้ยิน เขาก้มศีรษะทักทายอัตสึชิที่เดินมาหยุดอยู่ข้างตัว
     “ก็น่าจะยังงั้นครับอัตสึชิซัง แต่ตกลงกันได้ก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นกว่าจะถ่ายเสร็จ สึบาสะคุงคงจะเจ็บตัวยิ่งกว่านี้”
     “ก็ดันไปถูกใจเจ้าคาสุกิเข้านี่ละน้า”
     อัตสึชิส่ายหน้า เขารู้จักนิสัยนักแสดงในสังกัดทุกคนนั่นแหละ รู้ว่าใครเป็นยังไง ไม่งั้นก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ แล้วอย่างเจ้าคาสุกินี่ก็เป็นพวกบ้าพลัง แต่ถ้ารักใครก็รักจริงเหมือนกัน สึบาสะคงลำบากอยู่สักหน่อย แต่ก็มั่นใจได้ว่าเจ้าคาสุกิมันจะหัวปักหัวปำอยู่ที่สึบาสะคนเดียวแน่นอน
     จากความตั้งใจว่าจะแวะเยี่ยมกองถ่ายและแวะมาดูสึบาสะที่ข้อมือเจ็บ กลายเป็นต้องมาเป็นพยานรักของนักแสดงสังกัดตัวเองอีกคู่ซะอย่างนั้น
     อัตสึชิเรียกเสียงดัง
     “เฮ้ย เจ้าสองคนตรงนั้นน่ะ จะจีบกันอีกนานไหม ถึงเวลาทำงานแล้วนะ”
     สึบาสะกับคาสุกิหยุดคุยกันทันที แต่ยังไม่แยกห่างจากกัน   
     “สวัสดีครับอัตสึชิซัง มาเยี่ยมกองถ่ายเหรอครับ” สึบาสะก้มศีรษะให้พร้อมกับทักทายอย่างสุภาพ
     “ใช่ เห็นว่ามือเจ็บเหรอสึบาสะ หายดีแล้วใช่ไหม”
     “หายดีแล้วครับ ขอบคุณครับที่เป็นห่วง”
     “งั้นถ้าคราวหลังเจ้าคาสุกิมันเล่นแรงนักก็ยันมันออกมาเลย ไม่ต้องกลัวนะ ฉันเข้าข้างเธอเอง”
     อัตสึชิแนะนำ ทำเอาคาสุกิบ่นอุบ ขณะที่สึบาสะหัวเราะชอบใจ
     ผู้กำกับมัตสึดะหาจังหวะอยู่นานแล้ว พอเห็นอัตสึชินำร่องให้ เขาก็กระมิดกระเมี้ยนเข้ามาขออนุญาตขัดจังหวะ บอกว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว จะเริ่มเดินกล้องในอีกห้านาที คาสุกิกับสึบาสะจึงยอมแยกห่างออกจากกันได้
     เรื่องสุดท้ายนี้เป็นเรื่องราวของเพื่อนนักเรียนสองคน นักแสดงทั้งคู่ใส่กักคุรันและนั่งคุยกันอยู่ในห้องที่เซ็ตเป็นห้องเรียน ก่อนที่คาสุกิซึ่งรับบทเป็นคนที่แอบชอบเพื่อนตัวเองมานานจะรุกเข้าหาสึบาสะและจับกดโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องแสดงท่าทางขัดขืนและไม่ยินยอม
     แต่สิ่งที่ทั้งสองคนถ่ายทอดออกมานี้คงเป็นซีนข่มขืนที่หวานที่สุดกระมัง
     เท็ปเปถ่ายไปส่ายหน้าไปด้วยความอ่อนใจ ผู้กำกับมัตสึดะเกาหัวอย่างไม่รู้จะทำยังไงถูก ส่วนอัตสึชิโคลงศีรษะพลางบ่นพึม
     “เอาเข้าไปไอ้คู่นี้”
     คาสุกิกดสึบาสะลงกับโต๊ะเรียน ฝ่ายหลังดิ้นก็จริง แต่ไม่เหมือนโดนข่มขืน เหมือนเพื่อนสองคนเล่นสนุกกันมากกว่า สึบาสะหน้างอ ต่อว่าต่อขาน พยายามจะทุบถองคาสุกิ ปากบอกไม่นะ ไม่นะ แต่สายตาหวานฉ่ำ ไอ้ฝ่ายคาสุกิก็มองอีกฝ่ายตาพราว แลบลิ้นเลียริมฝีปาก และรุกอีกฝ่ายเต็มที่ เซอร์วิสสุดพลัง ทำให้สึบาสะครางไม่ยอมหยุด ตัวอ่อนปวกเปียก เรียกชื่อคาสุกิไม่ขาดปาก
ทั้งสองคนไม่สนใจแล้วว่ายังมีคนอยู่อีกหลายคนในห้องนี้
     อัตสึชิกลอกตา
     “สาบานว่านี่คือการข่มขืนแล้วใช่ไหม”
     คนรอบตัวพร้อมใจกันหัวเราะเบา ๆ ด้วยความขบขันกันหมดและเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องพูดออกมาเลยว่า
     ยอมให้ก่อนเทคหนึ่งก็แล้วกัน...





     ......
     จบคู่ที่สองแล้วค่ะ ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์นะคะ ดีใจอะที่มีคนอ่าน  :hao5:
     พรุ่งนี้จะมาอัพต่อเรื่องของตากล้องของเรานะคะ

ออฟไลน์ mamie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-5

ฟินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 :-[ :-[

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
ตกกระปุกน้ำผึ้งแล้ววววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด