♠When the wind blows back ♠ ตอนพิเศษ I'm yours (13/02/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♠When the wind blows back ♠ ตอนพิเศษ I'm yours (13/02/15)  (อ่าน 529509 ครั้ง)

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #210 เมื่อ13-10-2014 07:59:45 »

สมัยเรียนน่ารักกันมากเลย เฟยกวนๆวินก็ดูโวยวาย 5555
แต่เหตุผลของวินก็ทำให้เห็นใจนะ แล้วเอาเงินไปทำอะไรล่ะ
วินคงยังรักเฟยแต่ไม่กล้ากลับไป เจ็บไหม แต่อย่าหนีไปอีกเลยนะ
อยู่เคลียร์กัน คุยให้เข้าใจกันดีกว่า จะได้กลับไปหวานชื่นแบบวันวาน
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #211 เมื่อ13-10-2014 08:13:11 »

น่ารักดีอ่าาาาาาาา....

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #212 เมื่อ13-10-2014 08:28:55 »

พี่เฟยน่ารักจริงๆ o13

ออฟไลน์ schneesturm_fubuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #213 เมื่อ13-10-2014 08:52:41 »

   o22 อ่านแล้วแอบช็อค อดีตของพี่เฟยช่างน่าเจ็บปวด โถๆๆๆๆ พ่อคุณของน้อง

ถ้าเข้าใจไม่ผิด จนถึงวันนี้พี่เฟยก็ยังไม่รู้สินะว่าพี่ตี๋หนีนางไปเพราะ ไปมีอะไรๆกะญาติตัวเอง

กำลังลองมโนว่าถ้าพี่เฟยรู้จะเป็นไง โตขึ้นกว่าเดิมมากแล้วนี่นะ จะรับมือกับเรื่องราวแบบนั้นยังไง

ดีใจนะที่เวสต์เขียนเรื่องของพี่เฟยขึ้นมา นางเป็นตัวประกอบในนิยายที่เวสต์เขียนได้มีเสน่ห์และน่าติดตาม

มากกว่าใหญ่(รักเร่) ซะอีก อ่านนิยายเวสต์มา เราชอบใหญ่+มิน มากสุด แต่พอมาเจอพี่เฟยใน Adore you เท่านั้น

ใหญ่ตกกระป๋องเลยจ้า555



ออฟไลน์ ender_m

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #214 เมื่อ13-10-2014 09:24:56 »

โยววว พี่เฟยเปรี้ยวน้าเนี่ย เปรี้ยวปี๊ดๆ

ตี่ตี๋ น่ารัดมากอะ ว่าแต่เหตุใดน้องจึงร้อนเงินตลอดๆเยี่ยงเน้

ออฟไลน์ pp_psj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #215 เมื่อ13-10-2014 11:40:49 »

อดีตนี่น่ารักกันมากอะ ตี่ตี๋ของพี่เฟย :-[

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #216 เมื่อ13-10-2014 11:56:12 »

เง้ออออ วินจ๋าาา ไม่คิดลองคุยกับเฟยดูเหรอลูกกก

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #217 เมื่อ13-10-2014 11:59:31 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ collon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #218 เมื่อ13-10-2014 12:21:05 »

มีแต่คนรักพี่เฟยยยยยยยยยยยยยยยย
เรารักต่ตี๋  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #219 เมื่อ13-10-2014 12:34:39 »

ตี่ตี๋น่าย้ากกกกกกกกกกกก  :hao5:

ชอบบรรยากาศวันวานยังหวานอยู่มากเลย
มันมุ้งมิ้ง กุ๊งกิ๊ง ความน่ารักเบิกบานสดใสโลกกลายเป็นสีชมพู
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกพี่เฟยพระเอกมากอ่ะ (อันที่จริงนางก็เป็นพระเอกอยู่แล้วนะ ถถถถ)

คือสารภาพว่าไม่ค่อยอ่านแนวรุกหน้าสวยเท่าไหร่ เพราะนึกภาพไม่ค่อยออก กร้ากกก
แต่คือพออ่านเรื่องนี้ล่ะแบบ โอ้ยยยยย พี่เฟยขาาา ก๊าวมากกก กระชากหัวใจแล้วปาใส่รัวๆ

เอนี่เวย์ เหตุผลของตี่ตี๋ดราม่ามากกว่าที่คิด TvT
โฮฮฮฮ เชื่อนะว่าถ้าคุยกัน พี่เฟยน่าจะยอมฟัง แต่ก็นะ เข้าใจอารมณ์ตี่ตี๋แหละว่าไปทรยศเค้าไว้
คงไม่มีหน้ากลับมาคุยใหม่ แต่ไม่เป็นไร พี่เฟยจะสู้ววววววววววว ล้มหมียังล้มได้เลย ตี่ตี๋คนเดียวทำไมจะเอาคืนไม่ได้!!

*ชูป้ายไฟพี่เฟย*


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
« ตอบ #219 เมื่อ: 13-10-2014 12:34:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #220 เมื่อ13-10-2014 12:58:35 »

ตอนมหาลัยมุ้งมิ้งจัง...

ตอนนี้หน่วงเข้าไปค่ะ หน่วงเข้าไป :ling1:


ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #221 เมื่อ13-10-2014 13:04:22 »

 :mew1:

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #222 เมื่อ13-10-2014 15:14:38 »

"มึงกับคุณมิ่งฟ้า ตอนคบกันใครผัวใครเมียวะ ทางนั้นก็หน้าว้านหวาน ครั้นจะบอกว่ามึงเป็นผัวก็ดูท่าไม่น่าทำเป็น"

"หยาบคายว่ะพี่ชิต" ผมพูดพลางส่ายหัว "ดูถูกเกินไปแล้ว"

"ดูถูกมึง?"

"ดูถูกมัน"


คือชอบบทสนทนาตอนนี้
ให้อารมณ์ตี่ตี๋อวยผัว ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #223 เมื่อ13-10-2014 15:53:37 »

เหตุผลของตี๋ มันบอกไม่ถูกอ่ะ ว่าจะเห็นใจดีไหม ยิ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องเฟยยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่ ได้ไม่ไกลตัวเลย  ก็เข้าใจนะว่าตี๋คงไม่อยากรบกวนเฟยด้วยส่วนหนึ่งเฟยคงไม่มีเงินมากในตอนนั้น ตี๋ไม่อยากให้เฟยเดือดร้อนไปมากกว่านี้ แต่เฟยเป็นแฟนนะ ถ้ารักกันมันก็ต้องพูดต้องบอกกันบ้าง จะมีไม่มีก็เถอะอย่าคิดเองเออเอง มันทำให้เจ็บปวดทั้งสองฝ่าย ทั้งที่ยังรักกันแต่มีเส้นบางแต่เหนียวมากั้นเอาไว้ เปิดใจคุยกันเถอะตี๋เอ้ย  :เฮ้อ:  ชอบบรรยากาศตอนคบกันจัง  :-[   เห็นด้วยกับตี๋ อย่าดูถูกมัน เพราะผมโดนมันฟันมาแล้ว  :laugh:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #224 เมื่อ13-10-2014 17:30:29 »

ได้รู้ความจริงของวินแล้ว เป็นแบบนี้เอง

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #225 เมื่อ13-10-2014 18:21:47 »

คือเฟยรู้ไม๊อ่ะว่าวินหนีมาเพราะอะไร แต่คาดว่าน่าจะไม่รุ้นะ แล้วคือถ้ารู้ขึ้นมาาาาจะเกิดไรขึ้น 555

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #226 เมื่อ13-10-2014 19:34:13 »

พี่เฟยนี่มันตัวกวนป่วนหัวใจชัดๆ แต่เป็นคนที่เอาเรื่องอารมณ์มาดำเนินชีวิตเยอะมากนะ ถ้ารักใครคือต้องเอาให้ได้อ่ะ
นึกถึงตอนวินหนีไป แกคงเจ็บหนัก แต่เรื่องวินไปนอนกับญาติแกนี่แกรู้เรื่องไหม หรือเราเก็บรายละเอียดไม่หมด
คือปูมหลังเรื่องนี้จัดว่าแรงมาก แต่ก็นะ อดีตคืออดีต ถ้ายังรักและยังลืมกันและกันไม่ได้ขนาดนี้ก็คัมแบ็คกันเห๊อะ
เชียร์ขาดใจมาก คือเสน่ห์แรงทั้งคู่ คงเป็นคู่รักสุดฮอตอ่ะ

ตอนสมัยเรียนน่ารักมากกกก หยอกกันไปมา ถ้าไม่เลิกกันนี่ลูกโตละ 555 น่ารักแล้วรักไหม รักกกกกกกก
โอ๊ย น่ารักอ่ะ เฟยน่ารักมาก แต่ก็ใช้วินเก่งมาก แต่มีแฝงประสงค์ดีไว้ในนั้นด้วยนะ วินนี่ทำตัวน่าเป็นห่วงตลอด

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #227 เมื่อ13-10-2014 22:44:14 »

 :pig4: :mew2:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #228 เมื่อ13-10-2014 23:33:49 »

 :เฮ้อ: อีกนานแค่ไหนกว่าจะ come back จริงๆ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #229 เมื่อ14-10-2014 02:41:34 »

โถ่ตี่ตี๋ อดีตมันผ่านไปแล้วนะ แก้ไม่ได้แล้ว
ลองเล่าให้เฟยฟังก่อนสิ ถ้ามันรับไม่ได้ก็ค่อยปล้ำมันทำเมียแทนและกัน ฮ่าๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
« ตอบ #229 เมื่อ: 14-10-2014 02:41:34 »





ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #230 เมื่อ14-10-2014 10:27:18 »

ชอบมากเลยค่ะ

รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #231 เมื่อ14-10-2014 15:11:24 »

หูยยยยย...ตอนละอ่อนคู่นี้เขามุ้งมิ้งกันน่ารักอ่ะ(อยากมีส่วนร่วมด้วยคน)

ถ้าพี่เฟยรู้ความจริงเรื่องวินคงเสียใจแย่
แล้วทำไมวินถึงทำแบบนั้นล่ะ?
อยากรู้เหตุผลจริงๆ(มีไหม?)

วินนายก็ให้อภัยตัวเองได้แล้วนะ
มันผ่านไปแล้ว :L2:

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
Re: ♠When the wind blows back ♠ 05 Reason (12/10/14)
«ตอบ #232 เมื่อ19-10-2014 21:12:11 »

ยู้ฮู...พี่เฟยมายังน้า
มาดันรอจ้า

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #233 เมื่อ19-10-2014 23:50:46 »

06 memories of the beach




สุดสัปดาห์นี้ผมถูกบังคับไม่ให้เอางานกลับมาทำที่บ้าน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลยสักนิดที่จะหยัดตัวลุกขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ยังหนักหัวอยู่จากพิษของเครื่องดื่มที่ซัดอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อคืน ความทรงจำสุดท้ายของผมคือยกแก้วขึ้นดื่ม ดื่ม แล้วก็ดื่ม
พลิกตัวสลัดอาการเมื่อยขบของกล้ามเนื้อแล้วบิดแขนขึ้นเล็กน้อยโดยที่ยังไม่ลืมตา เมาวันเว้นวันแบบนี้เมื่อก่อนไม่มีโอกาสหรอกครับ เพิ่งมาหนัก ๆ ช่วงเรียนจบมากกว่า

“ลุกขึ้นมากินยาก่อน”

เสียงนั่นราบเรียบ คุ้นหู ผมครางอู้อี้ในลำคอเป็นการประท้วงแต่ก็ยังไม่ทำตามคำสั่ง สิ่งที่ได้ยินต่อจากนั้นคือลมหายใจที่ถูกระบายมาแผ่ว ก่อนแขนที่เหยียดตึงไปคนละทิศละทางจะถูกจับให้กลับมาอยู่ใต้ผ้าห่ม

“วิน...”

เสียงทุ้มเรียกอีกครั้ง ผมพลิกตัวหนี ยกหมอนขึ้นมาปิดหูตัดรำคาญก่อนเตียงนอนจะยวบลงไปจากน้ำหนักของอีกฝั่ง และตามด้วยเสียงปลุกของคนอาศัยร่วมครั้งสุดท้าย


“ตี๋”

เฮือก!

ได้ผลดีเกินคาด เด้งตัวลุกขึ้นมาเหมือนผีจีนถูกปลุก ไอ้ตัวการที่นั่งอยู่อีกฟากของเตียงหัวเราะหึหึ หน้าตาสดใส ผมบดริมฝีปากเข้าหากันแล้วขว้างหมอนใส่มันทันที

“ตกใจหมดไอ้เหี้ย”

“เฮ้ย ๆ ใจเย็น ตกใจอะไรของมึง”

“ก็....” ไม่มีคนเรียกด้วยชื่อนี้นานแล้วนี่หว่า

ผมไม่ตอบ ปล่อยให้ความคิดจุกอยู่ในลำคอ ไอ้เฟยขยับตัวเล็กน้อยแล้วเอื้อมตัวมาใกล้ ใช้หลังมืออังหน้าผากผมอย่างถือวิสาสะ

“เมื่อเช้ามืดมีไข้”

“กูเนี่ยนะ?”

“เออออ” ไอ้เฟยลากเสียง แต่ยังทิ้งรอยยิ้มไว้ที่มุมปาก “เมาแล้วเรื้อนตั้งแต่เมื่อไร”

“กูเนี่ยนะ?” ปกติก็ไม่นะครับ ผมเป็นพวกเมาหลับเสียมากกว่า คู่กรณีไม่ตอบแต่เปลี่ยนมาผลักหัวผมให้หงายหลังแบบที่ชอบทำ

“เครียดอะไรหรือไง”

“อะไร ไม่นี่...งานก็ผ่านแล้ว”

“แล้วกระโดดลงไปในน้ำพุทำไม”

"กูเนี่ยนะ?"

ถามย้ำตัวเองเป็นรอบที่สาม สายตาคมมีประกายระยิบระยับมองหยอกล้อ ผมไม่ตอบ เพราะจำไม่ได้ ก้มหน้าลงมองชุดนอนที่เป็นเสื้อยืดตัวใหญ่สีขาวกับกางเกงบอลผ้าลื่นผิวก็รู้ทันทีว่าเป็นของใคร เพราะเจ้าของห้องตอนนี้ก็แต่งองค์ในชุดที่ไม่ต่างกันนัก ซึ่งผมรู้สึกว่าเสื้อยืดคอย้วย มีร่องรอยของสีน้ำที่เลอะประปรายนี่แหละเหมาะกับมันที่สุด

“จะเอากลับห้องก็ห่วง เลยหิ้วมานอนด้วย แต่แค่เช็ดตัวเอาสาหร่ายออกจากตัวมึงให้กับเปลี่ยนเสื้อผ้านะ ไม่ได้ทำอะไร ถึงอยากจะทำก็เถอะ”

“มึงนี่มัน!”

“รู้ว่ามึงไม่ชอบให้ฉวยโอกาส”

ผมเงียบเสียงลงหลังจากประโยคนั้นจบ เงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของประโยคราบเรียบแล้วก็เบือนสายตาหนี ความร้อนวิ่งพล่านจากเส้นเลือดสู่เส้นเลือด แก้มทั้งสองข้างร้อนฉ่าจนรู้ได้ด้วยตัวเองว่ามันคงแดงแน่ ๆ

“แต่อย่าไปเละเทะแบบนี้ที่ไหนแล้วกัน คนอื่นเขาไม่ใช่เทวดาแบบกู”

คนพูดพูดนิ่ม ๆ ยกมุมปากลงข้างหนึ่งทำให้กลายเป็นว่าอีกฝ่ายกำลังแค่นยิ้มเบี้ยว ๆ ให้ผม มือขาวยกขึ้นหยิบปอยผมที่ร่วงลงมาขึ้นทัดหูตัวเอง ผมมองพ่อเทวดาที่ว่าด้วยหางตา แต่พอเห็นดวงตาสีดำขลับมีภาพของตัวเองสะท้อนในนั้นกลับคิดว่าอีกฝ่ายใช้คำว่าซาตานที่รอให้เหยื่อตายใจค่อยเชือดกันจะเหมาะกว่า

“ขอบคุณที่ดูแลครับ”

“เวลาคุณพูดเพราะ ๆ ก็น่ารักดี” ผมเงยหน้า นึกติดใจกับคำว่าคุณที่อีกฝ่ายใช้ “เรามาคุยกันด้วยชื่อเพราะ ๆ ดีไหม คุณ-ผม ที่จริงมันก็ไม่ได้แย่เท่าไรนะ แต่ถ้าดีกว่านี้เรียกแทนตัวเองว่าตี่ตี๋ด้วยก็ได้ คุณเฟยกับตี่ตี๋ ดูเหมือนหลุดเข้าไปในยุคนางทาส”

“เพ้อเจ้อ”

“นี่ผมพูดจริง ๆ นะครับคุณวายุ” เสียงนั้นอ่อนลง เช่นเดียวกับแววตา ผมยอมรับว่านี่เป็นอีกครั้งที่มันทำให้ผมคุมอัตราการเต้นของหัวใจตัวเองไม่อยู่ “เรียกชื่อกันใหม่ ทำความรู้จักกันใหม่ เริ่มต้นกันใหม่”

“แต่ว่า...”

“เป็นต้นว่า วันนี้ไปขับรถเล่น ทำความรู้จักกันหน่อย เป็นไง”

ผมมองหน้ามัน เจ้าของผมยาวสีดำขลับที่ถูกรวบเป็นปมไว้ด้านหลังยังมีทีท่าสบาย ๆ มือใหญ่เอื้อมมาลูบแก้มผมเบาก่อนจะผละออกในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้ผมต้องหลุบสายตาลงก่อนจะเบือนหน้าหนีออกจากการจับจ้องของอีกฝ่ายไปยังห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้างที่ตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ของที่ใช้ไม่ใช่ของแพง หรือหรูหราเหมือนเล็กซัสสีดำของมัน ห้องที่ดูเป็นพื้นที่ส่วนตัวของไอ้เฟย ไม่ใช่คุณมิ่งฟ้าที่ใคร ๆ รู้จัก

โลกของมันยังเหมือนเดิม

เป็นผู้ชายปอน ๆ ที่ใช้หนังหนาหลอกล่อคนอื่นให้ติดกับ เป็นผู้ชายซกมกที่กินอาหารบนเตียงแล้วทิ้งจานข้าวไว้ใกล้ ๆ ในถังขยะเต็มไปด้วยซากกระดาษวาดเขียน และที่บ่งบอกความเป็นมันมากที่สุดคือภาพวาดสีน้ำที่เจ้าตัวบรรจงแต่งแต้มมันด้วยหัวใจ ผมจำได้มาตลอดว่าเฟยอยากเรียนจิตรกรรมแต่อากงมันสั่งให้เรียนวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็จะให้เรียนต่อคณะบริหารธุรกิจมาจัดการกับงานของครอบครัวเสียที ทั้ง ๆ ที่เฟยเป็นหลานชายคนรอง แต่กลับได้รับการไว้ใจจากอากงจนน่ามันไส้
กระนั้น...มันก็ยังดื้อดึงจนอากงยอมลงมาเจอครึ่งทางที่คณะสถาปัตยกรรมได้อยู่ดี


“ภาพนั้น...” เสียงทุ้มพูดขึ้นขณะที่เจ้าของภาพขยับตัวเองมาใกล้ มือไม้มันเหมือนอ่อนแรงจนต้องวางเท้าด้านหลังผมคล้ายจะโอบอยู่ในที

ภาพที่มันพูดถึงคือรูปทะเลของหัวหิน ผมจำได้แม่น วิวที่อยู่เป็นห้องพักเกสต์เฮ้าส์ชั้นสองที่ตอนคบกันเราไปพักด้วยกันบ่อย ๆ หัวหินกับกรุงเทพ อยู่ห่างกันไม่กี่ชั่วโมง ไอ้เฟยจะขับมอ’ไซค์พาผมซ้อนไปสัปดาห์ละครั้งเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศวาดรูปตามตลาดโต้รุ่งที่เป็นอาชีพเสริมของผมอีกอย่าง


“มึงกลับไปที่นั่นเหรอ”

“อืม...วันนี้เราไปกันไหม ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเหมือนที่เคยทำ”

ผมบดริมฝีปากเข้าหากันอย่างคนใช้ความคิดอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ในอกตอบตกลงไปแล้ว เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู อ่อนโยนและเว้าวอน “แค่กูกับมึง...”

ผมก็เหมือนโดนคำสาปให้ปฏิเสธไม่ลงอีกต่อไป




สายลมตอนเย็นไม่ได้ทำร้ายผมกับสารถีคนขับ สมัยก่อนผมกับมันใช้มอเตอร์ไซค์ธรรมดา ๆ เป็นยานพาหนะ ออกเดินทางห้าทุ่มวันศุกร์ ถึงก็ประมาณตี 5 แวะพักตามปั๊มรายทางกันบ้าง กว่าจะถึงที่พักก็พระอาทิตย์ขึ้นพอดี มีเวลานอนครึ่งวันเช้าก่อนบ่าย ๆ ลงเล่นทะเล แล้วตามด้วยหอบอุปกรณ์ไปตลาดโต้รุ่ง วาดรูปขายให้นักท่องเที่ยว แต่วันนี้เมื่อออกเดินทางเที่ยงวัน สิ่งที่ทำร้ายผมกับมันคือแดดจ้า ๆ ของพระอาทิตย์เมืองไทยต่างหาก

ผมสวมเสื้อยืดของเฟย ตัวที่คอย้วยน้อยที่สุด เลอะสีน้อยที่สุดกับกางเกงเลของมันเช่นเดียวกัน โชคดีที่มินิมาร์ทใต้คอนโดมีขายชั้นในเลยไม่ต้องรบกวนมันมาก ต่อให้สมัยเรียนเคยใช้ร่วมกันบ่อยแต่มาถึงตอนนี้ก็อดกระดากไม่ได้ สวมคลุมทับด้วยสเวตเตอร์หนังกันแดดสีน้ำตาลเข้มซึ่งเป็นอะไรที่โคตรของโคตรไม่เข้ากันเลย อย่าบอกใครเชียวว่าจบมาทางสายนี้ ไม่อย่างนั้นความน่าเชื่อถือของวิชาชีพจะถูกมองติดลบอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนคุณมิ่งฟ้าก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่มันสวมเสื้อกล้ามสกรีนลายกระทิงแดงตัวละ 200 บาท กับกางเกงขาสั้นประมาณเข่า กับหมวกกันน็อก ไม่มีชุดคลุม ไม่ทากันแดด และนั่นตอบคำถามผมแทบจะในทันทีว่าทำไมผิวที่เคยขาวจัดมันถึงดูคล้ำลงทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วมันเป็นพวกโดนแดดแล้วจะผิวลอก ตัวแดงเฉย ๆ เท่านั้น


“แวะเติมน้ำมันนะ”

คนขับรถเอี้ยวตัวกลับมาพูด เสียงมันอู้อี้เพราะหัวอยู่ในหมวกกันน็อก ผมพยักหน้าตอบก่อนกระชับแขนที่โอบมันไว้ให้แน่นขึ้นเมื่อถึงทางเลี้ยว รถมอเตอร์ไซค์สี่สูบ สองร้อยแรงม้าสีแดงสดขับที่ความเร็วไม่ต่ำกว่า 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมาตลอดทางทำให้เราใกล้ถึงที่หมายเร็วกว่าปกติ ผมเห็นทะเลอยู่ไกล ๆ เป็นทะเลที่ผมถูกพามาหลอกฟัน จะพูดแบบนั้นก็คงไม่ผิด ช่วงปิดเทอมปีหนึ่ง แสงดาว สายลม เสียงคลื่นและเบียร์



“มันจะเวิร์กเหรอวะ”

ผมเปิดกระป๋องเบียร์ ยกขึ้นดื่มอึก ๆ อยู่ริมชายหาด เจ้าของเบียร์ทั้งถุงนั้นไหวไหล่ก่อนทำตามในแบบเดียวกัน “มึงกลัวอะไร”

“ไม่รู้สิ มันแปลก ๆ ปกติก็วาดแค่ที่ตลาดรถไฟคนยังไม่ค่อยเยอะเลย แล้วนี่โผล่มาถึงหัวหิน”

“นักท่องเที่ยวเขาชอบ” ไอ้เฟยอายุ 19 ปีพูดด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว เอนตัวใช้แขนเท้ากับเม็ดทรายละเอียด “เวิร์กไม่เวิร์กพรุ่งนี้ก็รู้”

“มึงมาขำ ๆ ไง แต่กูไม่ใช่...กูต้องใช้เงิน”

“เอาไปทำอะไรนักหนา ที่บอกว่าแม่ป่วยยังไม่หายอีกเหรอ”

“ยัง” ไม่ใช่โรคที่จะหายในวันสองวัน แถมยังต้องใช้เงินเยอะอีกต่างหาก “ช่วงนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ก็จริง แต่อยากเก็บไปเรื่อย ๆ”

“งกเข้าเส้นเลือดแล้ว ตี่ตี๋”

“มึงนี่ก็ชอบเรียกกูว่าตี่ตี๋จัง”

มันเรียกผมด้วยชื่อนี้ตั้งแต่วันเปิดเทอม ไม่ตี่ตี๋ก็ตี๋ เรียกกันจนที่คณะลืมชื่อเล่นจริง ๆ ผมไปแล้ว จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ตี๋มากนะ เป็นผู้ชายผิวขาว ตัวเล็ก ตาเป็นตาสองชั้นหลบใน ไม่ใช่ว่าอาตี๋แผ่นดินใหญ่แบบคนเรียก “ตี่ตี๋แปลว่าน้องชาย”

“กูเหมือนน้องชายมึงนักหรือไงไอ้สัตว์”

“ไม่เหมือน ไม่อยากให้เหมือนด้วย”

ชายหนุ่มผมยาวประบ่าพูดยิ้ม ๆ ยังเงยหน้ามองท้องฟ้าทั้ง ๆ ที่ประโยคนั้นมันช่าง...ทำให้ผมใจสั่น

ผมรู้สึกมาสักพักแล้ว ว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับอีกฝ่ายมัน ค่อนข้างแปลก ไม่รู้สิ...อธิบายยังไงดี แต่มันไม่ใช่ไปในทิศทางของเพื่อนผู้ชายสักเท่าไร

“แล้วอยากให้เป็นอะไรล่ะ” ถามพลางกลั้นหายใจ ยกเบียร์ขึ้นดื่มแก้เก้อ แต่ก่อนจะตอบใด ๆ ก็ตาม เสียงหัวเราะอย่างมีเลศนัยของอีกฝ่ายก็ลอยมา เป็นเสียงหัวเราะแบบเย้าแหย่อยู่ในทีซึ่งนั่นกำลังทำให้ผมหน้าร้อนฉ่า “หัวเราะอะไร”

“มึงรู้ว่ากูอยากให้มึงเป็นอะไร”

ผมเงียบ...ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “มึงรู้ตัวมานานแค่ไหนแล้วว่าเป็นแบบนั้น”

“แบบนั้น? เกย์น่ะเหรอ นานแล้ว”

“แต่กูยังเห็นมึงดูหนังโป๊ชายหญิง”

“กูดูหนังโป๊ชายชายมึงก็หอบข้าวหอบของหนีกูไปแล้วสิ” เวรเอ๊ย นี่เป็นแผนการมันมาตลอดเลยใช่ไหม ผมทำหน้ามุ่ย ยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง “แต่ผู้ชายที่กูใช้เวลาจีบนานที่สุดคือมึงเลยนะ”

“กูต้องภูมิใจไหม”

“แหง” มิ่งฟ้าพูดกลั้วหัวเราะก่อนจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ควันสีขาวจางไปเมื่อลมพาคลื่นทะเลพัดเข้าหาฝั่ง

“มึงเคยนอนกับผู้ชายไหมวะ”

“ครั้งแรกตอนมอ1”

“ไวไฟ” ผมบ่นพลางรับบุหรี่จากมันมาสูบ เรื่องขึ้นครูนี่เพิ่งเคยลองตอนมอ5 เพื่อน ๆ ในห้องพากันไปตีหม้อในเมือง แต่ก็เริ่มกับผู้หญิงนะครับ ไม่เคยรู้สึกว่าเพศชายเป็นเพศที่ดูเซ็กซี่แต่อย่างใด “มันโอเคเหรอวะ กูหมายถึง...อย่างที่กู...เอ่อ...เคยจูบกับมึง ก็เพราะมึงสวย...นึกออกไหม คือ...ผู้ชายคนอื่น...”

“มึงคิดว่ากูชอบถึก ๆ ล่ำ ๆ เหรอ”

“อ้าว...ก็เห็นพี่เก่งจีบมึง”

“ไอ้เหี้ย มึงเห็นกูเล่นกับมันหรือไงล่ะ” ก็ไม่ได้เล่นด้วยหรอก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจ เขามาคุยด้วยมันยังยิ้มแฉ่ง ตาหวานรับอยู่เลย “แล้วสเป๊กมึงนี่ยังไง”

ผมถามพลางพ่นควันบุหรี่ปุ๋ย ๆ เงยหน้ามองท้องฟ้า คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม เห็นดาวชัดสว่างโร่ไปหมด รู้ตัวอีกทีก็เมื่อแขนทั้งสองข้างถูกสัมผัส ไอ้เฟยลุกขึ้นมานั่งซ้อนท้ายผมจากด้านหลัง

“แบบมึงไง”

ผมเผลอทำบุหรี่หล่นพื้นเมื่อคางแหลมยื่นมาเกยบนบ่า หันหน้าไปอีกทีก็ถูกอีกฝ่ายรุกล้ำอาณาเขตอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากได้รูปกดลงมาแล้วใช้ปลายลิ้นเกลี่ยให้ผมเผยอออก กลิ่นของเบียร์ที่ตีกันคลุ้งอยู่ในริมฝีปาก หวานซาบซ่าจากปลายลิ้นสู่ปลายลิ้น
เฟยเป็นคนจูบเก่ง และจูบของมันก็ชวนผมเคลิบเคลิ้มได้เสมอ ๆ

“ตี๋...”

ผมปรือตาเปิดขึ้น มองกรอบตาไล่ลงมายังสันจมูกและริมฝีปากที่แดงช้ำของอีกฝ่าย ใบหน้าสวยคมดูดุดันเมื่ออารมณ์พวยพุ่งขึ้นด้วยบรรยากาศและรสจูบ “คืนนี้กูขอนะ...”




“ถามว่าจะเอาอะไร”

ผมสะดุ้งเมื่อเบียร์เย็น ๆ แนบลงข้างแก้ม มองของในตะกร้าที่ซื้อมาแล้วก็เงยหน้าขึ้นจ้องตู้ใส่เครื่องดื่มในมินิมาร์ทต่อ “ไฮเนเก้น อาซาฮี สิงห์ ลีโอ ช้าง”

“ลีโอแล้วกัน”

ผมตอบพลางเปิดตู้เย็นหยิบออกมาทันที ส่วนคนที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้พูดอะไร ถือตะกร้าให้ผมนิ่ง ๆ แล้วยกไปจ่ายเงิน ผมหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้มันออกหมดไม่ใช่เพราะมันรวย แต่เพราะผมไม่มี มาถึงตอนนี้พอมีใช้บ้างก็ไม่อยากเอาเปรียบ

“เก็บไปเลย” เฟยพูดดัก เอามือปัดแบงค์พันของผมออกแล้วยื่นให้พนักงานคิดเงิน ผมพยายามแย่งมันจ่ายแต่สายตาคมก็จ้องมองมาจนต้องเก็บแบงค์ใหญ่ใส่กระเป๋าในที่สุด

“เดี๋ยวกูออกค่าโรงแรม”

“ไม่ต้อง กูชวนมึงมาเอง”

“งั้นก็แยกห้อง”

ผมพูดเสียงแข็ง แต่ชายหนุ่มผิวขาวกร้านแดดกลับยิ้มเจ้าเล่ห์และนั่นทำให้ผมรู้สึกตัวว่าเผลอพูดไปในทำนองที่ว่าจะนอนห้องเดียวกันไปเรียบร้อยแล้ว เฟยไหวไหล่ ยื่นถุงของกินเล่นให้ผมอุ้มขณะที่ตัวเองไปไขรถมอเตอร์ไซค์ “งั้นนอนห้องเดิมนะ ไม่แพงเท่าไร”

ห้องเดิมที่ว่า แม่งหมายถึงห้องริมหน้าต่าง เตียงเดียวและนั่นเป็นสาเหตุให้มันยิ้มตาเป็นประกาย ผมทุบหลังมันดังอึกแต่เจ้าตัวกลับผิวปากอารมณ์ดี ผมปีนขึ้นไปนั่งบนรถหลังจากมัน อีกประมาณ  นาทีน่าจะถึงที่พัก ไม่ได้โทรจองล่วงหน้า แต่นี่มันวันเสาร์กลางเดือนคนไม่น่าจะมากเท่าไร

“บอกไว้ก่อน กูไม่ให้มึงทำหรอกนะ”

“มึงนี่คิดเกินกูไปหนึ่งสเตปอีกนะ”

“ไม่ได้คิดเกินสเตปโว้ย” เขาเรียกว่ารู้สันดาน รู้ไส้รู้พุงหมดต่างหากถึงได้ดักคอเอาไว้แบบนี้ ไอ้เฟยหันมากลัดตัวล็อกของหมวกกันน็อกให้ผมก่อนสวมของตัวเองแต่ก็ยังไม่ออกรถมันยิ้มผ่านตาทะลุช่องว่างเล็ก ๆ ที่เป็นกระจกหมวกนิรภัยแล้วโยกหัวผมไปมา

“เมื่อก่อนก็ไม่เห็นเป็นคนคิดมากแบบนี้ มึงเป็นอะไร เห็นเหม่อบ่อย ๆ”

“ก็คิด...” ผมเงียบไปพักหนึ่งแต่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการคำตอบ “มึงแน่ใจแล้วเหรอวะที่ทำแบบนี้...มึงไม่โกรธกูหรือไง มึงไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมตอนนั้นกูถึงหนีมึงไป ถ้ามึงรู้เหตุผลขึ้นมามึงจะรับไหวเหรอ เฟย...กูว่า...”

“ก่อนหน้านี้กูคิดมาตลอดว่าถ้าเจอมึงอีกครั้งกูจะฆ่ามึง หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วให้ปลาโลมาแดก”

“โลมาเนี่ยนะ” ผมทำหน้าแหยง นึกถึงหน้าตาไร้เดียงสากับกิตติศัพท์ที่เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามแล้วขนลุกขนพอง

“แต่พอเจอเข้าจริง ๆ กูเสือกอยากมีมึงข้างๆ เหมือนเมื่อก่อนมากกว่า”

“กูควรไว้ใจคนที่คิดจะฆ่ากูแล้วโยนศพให้โลมาเหรอวะ บอกกูมาว่ามึงมีแผนอะไรกันแน่”

“บอกก็ไม่เรียกว่าแผนสิไอ้ทึ่ม” ผมถูกดัดมะเหงกผ่านหมวก ได้ยินเสียงป๊อกเบา ๆ จากด้านนอก ตัวเองไม่เจ็บหรอก แต่นิ้วคนดีดนั่นไม่รู้เป็นยังไง “เอาเป็นว่ากูจะทิ้งทิฐิทั้งหมดอย่างที่ชอบทำ กูไม่ใช่พวกยึดติดอะไรอยู่แล้ว มึงก็รู้ กูอยากทำอะไรก็ทำ อยากคุยก็คุย อยากเฟลิตก็เฟลิต ให้กูเครียดเรื่องอากงจับกูยัดเข้าบริษัทเรื่องเดียวก็พอแล้วมั้ง ต้องมาทะเลาะกับความรู้สึกของตัวเองอีกเหรอ”

มันเป็นบรรยากาศที่แย่มาก กลิ่นของน้ำมันลอยตลบ ผมนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่โดยมีมันเอี้ยวตัวมาคุยด้วย เสียงเครื่องยนต์ทำงาน แต่กลับดูทำน้อยกว่าหัวใจของผมตอนนี้

“กูยังรักมึงอยู่ ที่เหลือก็อยู่ที่มึง...ยังไม่ต้องรีบตอบกูก็ได้ว่ารู้สึกยังไง แค่บอกว่าจะให้โอกาสกูไหม”

“กู...”

ผมตอบไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไม่อยากให้โอกาสแต่ไม่รู้ว่าถ้ามันรู้ความผิดที่ผมเคยทำ จะกล้าบอกว่าไม่เป็นไรเหมือนตอนนี้หรือเปล่า ครั้นจะสารภาพบาปออกไปก็ไม่กล้า บอกตรง ๆ เลยว่ากลัว แค่มันหมดรักผมก็คงเจ็บจนทนไม่ได้แล้ว ถ้าถึงขั้นต้องเกลียดกันขึ้นมา

“ที่จริง กูว่ากูได้คำตอบแล้วนะ”

มิ่งฟ้าพูดยิ้ม ๆ ก่อนหันหน้ากลับไป ผมยังคงบดริมฝีปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ก่อนจะถูกดึงมือไปให้โอบเอวมันเอาไว้

“แค่มึงตกลงมาด้วยวันนี้ก็พอแล้วตี๋”

ผมแนบหน้าไปกับแผ่นหลังของมัน กระชับแขนกอดอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นโดยอัตโนมัติ เฟยมันรู้จุดอ่อนผม แน่นอน มันรู้ใจผมเสียดียิ่งกว่าผมรู้ใจตัวเองเสียอีก




เสียงกระป๋องเบียร์เปิดดังแป๊ก ก่อนจะมีฟองเอ่อขึ้นมาเล็กน้อยบนปากกระป๋องจนต้องรีบยกเครื่องดื่มขึ้นกรอกปากเฟยแวะซื้อกล่องโฟมใบเล็ก ๆ สำหรับใส่น้ำแข็งแช่เครื่องดื่ม ใช้รองเท้ารองก้นแล้วนั่งมันลงบนผืนทรายง่าย ๆ เส้นผมสีดำยาวถูกรวบไว้หลวม ๆ ปลิวไปทางด้านหลัง ขณะที่ผมหน้าม้าของผมพัดเปิดขึ้นจนเห็นหน้าผากกว้างดั่งรันเวย์ พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน แต่คาดว่าอีกคงไม่นานเท่าไรนัก

“ช่วงนี้มึงไมได้คบใครเหรอวะ”

ผมถามลอย ๆ แต่โดยบริบทแล้วอีกฝ่ายย่อมรู้ดีว่าผมกำลังคุยกับใคร มันส่ายหน้าไปมาแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่ม “เลิกกับมึงไปก็คบจริง ๆ จัง ๆ ไม่กี่คน เจอแต่คนไม่ใช่”

“เจอคนที่ไม่ใช่หรือไม่อยากจะหยุดที่เขากันแน่” ผมแค่นหัวเราะ แซวมันตามสันดานเก่า “ไม่รู้ว่ะ มันคบแล้วมันไม่หายเหงา”

“เหงาหรือขี้เงี่ยน มักมาก ไม่รู้จักพอ”

“มาเป็นชุด หยาบคายอีกต่างหาก” เฟยพูดพลางผลักหัวผมจนจมูกจิ้มกับกระป๋อง สักพักก็หัวเราะขึ้นมา “กลับไปจีบไอ้ยูด้วย”

“ยูไหน?” เลิกคิ้วถาม อย่าบอกนะว่าน้องยู ที่เข้าปี 1 หน้าตาเซื่อง ๆ ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น ๆ เอาจริง มีช่วงหนึ่งน้องมันมาก้อร่อก้อติกผมเหมือนกันนะ หมายถึงลับหลังไอ้เฟย ลับแบบลับสุดยอด “ยู ที่ตัวสูง ๆ หน่อย หุ่นอวบนิด ๆ ปะวะ”

“เดี๋ยวนี้ผอมลงกว่าตอนปี 1 แล้ว”

“มีกล้ามปะ”

“นิดหน่อย นี่มึงถามถึงมันทำไม”

“อ้าว ก็มึงเล่าเอง” คนขี้หึงทำท่าหงุดหงิดขึ้นมา อะไรวะ ตัวเองพูดก่อนแท้ ๆ แถมยังเป็นฝ่ายไปจีบน้องมันก่อนด้วย “น้องมันเป็นรุกไม่ใช่เหรอ”

“ตอนนี้มีผัวไปแล้ว ผัวเด็กด้วย โคตรเซ็ง กูโคตรเฟล ใครจะไปคิดว่าแพ้เด็ก”

“เสียดายว่ะ” เอาจริง ๆ น้องมันน่ารักนะ หมายถึงนิสัย เวลาอยู่ใกล้ ๆ แล้วชอบเทคแคร์คนอื่นเป็นเจ้าหญิง ท่าทางไม่ได้เจ้าชู้อะไรด้วย ไม่เหมือนกับไอ้คนข้าง ๆ ผมนี่ “แฟนน้องมันเป็นไงวะ”

“เป็นผู้ชายงี่เง่า ขี้หึง อวดรวย หน้าตาก็งั้น ๆ”

“งั้น ๆ?” ถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ สีหน้าไอ้เฟยบ่งบอกถึงความหมั่นไส้ออกมาชัดเจน สักพักมันก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มต่อก่อนสารภาพ “เออ หล่อ เป็นเดือนเศรษฐศาสตร์ ถามทำไม มึงสนใจหรือไง”

“จะสนได้ยังไงล่ะวะ ไม่เคยเจอหน้ากันสักหน่อย” ผมตอบกลั้วหัวเราะ ไอ้เวรนี่ก็ปัญญาอ่อนจริง “ถ้าเป็นน้องยูล่ะว่าไปอย่าง” ไอ้เฟยแยกเขี้ยวใส่ผมแล้วโน้มตัวลงมาจูบ กลิ่นเบียร์หวาน ๆ ติดปลายลิ้น ก่อนจะเจ็บนิด ๆ เพราะฟันเรียงขาวของมันกัดริมฝีปากผมไปด้วย

“อย่าแม้แต่จะคิด”

ผมยิ้ม รู้สึกอุ่นในอกเวลาที่มันทำท่าหึงออกมาแบบเปิดเผย ที่จริงแล้วผมจะเห็นมันเป็นแบบนี้เฉพาะตอนที่อยู่กันสองคนเท่านั้น ถ้าเป็นที่สาธารณะมักจะตีหน้านิ่งบอกว่าไม่พอใจเสียมากกว่า ไม่อย่างนั้นก็เรื่องพูดกระทบกระเทียบนี่งานถนัด แต่ไม่บ่อยนัก ส่วนหนึ่งอาจเพราะนิสัยเดิมมันเป็นคนไม่ค่อยเครียดเลยไม่ชอบสร้างสภาวะกดดันให้ตัวเองเท่าไร แต่ถ้าโมโหทีไรก็เอาเรื่องไม่ใช่น้อย

“ทีมึงยังไปจีบน้องมันเลย”

“ก็แหย่เล่น เห็นว่ามันชอบกูมาตั้งนาน”

“หลงตัวเอง” พูดพลางหัวเราะในลำคอ ไอ้เฟยเองก็ยิ้ม “หรือมึงดูไม่ออกว่าน้องมันชอบกู?”

“ก็พอจะรู้” เคยอาละวาดตอนไอ้เฟยไปหลีน้องยูครั้งหนึ่ง แต่พอรู้ว่าทางนั้นเป็นรุกก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ไอ้เฟยเองก็ไม่ค่อยไปวอแวให้เห็นด้วย “น้องมันตาบอดชั่วขณะ ตอนที่ชอบมึง”

“ทุกวันนี้มันก็ชอบ”

“แล้วทำไมมึงแพ้ไอ้เด็กนั่น”

“กูไม่เอาจริงต่างหาก” เจ้าของใบหน้าสวยไหวไหล่ด้วยท่าทีสบาย ๆ จนน่าหมั่นไส้ก่อนยกเบียร์ขึ้นดื่มแล้วถาม  “มึงล่ะ ที่ผ่านมาเป็นไง ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ กูไม่ใช่คนขี้เสือก”

“อ้อเหรอ งั้นไม่เล่า”

“เฮ้ย เล่าดิ    ๆ เออ กูมันขี้เสือกเอง พอใจยัง” ผมหัวเราะอีกครั้งกับหน้ากระเง้ากระงอดของมัน ไอ้เฟยเอาข้อศอกมาเขี่ยเบา ๆ มองผมตาเยิ้ม แก้มขาวมีรอยบุ๋มลงไปนิด ๆ เมื่อมันกดริมฝีปากลงไปในองศาที่น่ามอง ผมทำลอยหน้าลอยตาอยู่พักใหญ่ก่อนคนข้าง ๆ จะเอาศอกมากระทุ้งซ้ำ

“อย่าลีลา เดี๋ยวจะโดน”

“ฮ่า ๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก หลังแม่เสียก็ทำตัวสำมะเรเทเมาไปช่วงหนึ่ง”

“แม่มึง...”

“นานแล้วแหละ” ผมพูดยิ้ม ๆ นึกถึงตัวเองช่วงนั้นที่เกกมะเหรกเกเร “ก็...ทั้งเหล้า ทั้งยา ทั้งเซ็กซ์...ไม่ค่อยมีอะไรน่าจำหรอก”
“ช่วงใจแตก ว่างั้น”

ผมพยักหน้า ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม “สิ่งที่มีค่าที่สุดของกูหายไปทีละอย่างสองอย่าง ทำใจไม่ได้ ไม่อยากแม้แต่จะมีชีวิตอยู่ต่อ มันเหมือนไม่เหลือใคร ไม่รู้จะใช้ชีวิตอยู่ทำไม แต่ดันรับปากแม่ไว้แล้วว่าจะไม่ฆ่าตัวตาย”

"กูดีใจนะที่มึงสัญญากับแม่อย่างนั้น"

"มันแย่จนมึงนึกไม่ออกเลยแหละว่ากูผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง เลิกกับแฟน แม่ตาย เงินก้อนสุดท้ายใช้ไปกับการผ่าตัด สุดท้ายต้องขายบ้านที่อยู่มาชั่วชีวิตเอาเงินมาต่ออนาคตตัวเอง"

"แล้วเอาเงินที่ไหนไปลองยา"

"เงินที่นอนกับคนอื่น บางทีก็เจอคนใจดีแบ่งเศษเงินให้"

เกิดความเงียบขึ้นชั่วคราวระหว่างผมกับมัน หัวใจที่บิดเป็นเกลียวคล้ายคลื่นที่ม้วนตัวจนมวนท้อง ผมสารภาพกึ่งหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด รอดูปฏิกิริยาของมันว่าจะรับได้มากน้อยแค่ไหน ปรายมองอีกฝ่ายด้วยหางตา ไม่กล้ามองมันเต็ม ๆ เพราะไม่อยากเห็นความเจ็บปวดที่สะท้อนอยู่ในตาคู่นั้น

ไอ้เฟยยกเบียร์ขึ้นดื่ม พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับพยายามจะกดสิ่งที่สะท้อนในอกลงให้ลึกสุดใจ“ทำไมไม่กลับมาหากู”

“อย่ารู้เลย รู้แค่กูไม่ใช่ผู้ชายใส ๆ แบบที่มึงจะหลอกอึ๊บได้เหมือนตอนนั้นแล้วก็พอ”

“กูดูออกหรอกน่า” ไอ้เฟยพูดพลางถอนหายใจ ทอดสายตามองไกลไปสุดขอบน้ำที่บรรจบกันกับขอบฟ้า “มองในแง่ดีมึงก็กลายเป็นคนที่ดูเซ็กซี่ขึ้นไง”

“ทำไม ตูดกูกลมขึ้นเหรอ”

“อันนี้ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยลองเห็นแบบเน้น ๆ” ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเปิดเรื่อง แต่พอมันตบมุกก็ดันเขินเองเฉย หางตาที่มองล้อเป็นประกายวาววับจนผมต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีก่อน “ทะลึ่ง”

“มึงเริ่ม”

“พอเลย...” มันยิ้ม ยิ้มให้ผมแบบที่บอกว่าเรื่องที่ผ่านมาไม่เป็นไร ผมคิดว่ามันน่าจะโมโหกว่านี้ แต่บางทีก็ประเมินผิดเพราะไม่ใช่แค่เวลาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ทั้งผมและมันช่วงที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันต่างเติบโตกันขึ้นอย่างไม่รู้ตัว กระนั้นเราต่างก็ยังคงทิ้งร่องรอยความเป็นตัวเราเองในสมัยก่อนไว้ให้พอจำได้ว่าอีกฝ่ายเคยเป็นยังไง

ไอ้เฟยเปิดเบียร์กระป๋องใหม่ พระอาทิตย์ค่อย ๆ จมไปในทะเลสีฟ้าคราม เมฆสีส้มอ่อนแสงลงเรื่อย ๆ และเปลี่ยนมาเป็นสีหม่น ๆ ของช่วงใกล้ค่ำ ที่จริงแล้วตั้งใจจะมาเดินตลาดโต้รุ่ง หาที่นั่งว่าง ๆ กางอุปกรณ์วาดภาพขายแต่ผมกลับชอบมากกว่าที่จะมานั่งใช้เวลาให้หมดไปเรื่อย ๆ กับมันตรงนี้

เหมือนเรากลับไปเป็นเด็กด้วยกันอีกครั้ง


“ถ้าหยุดเวลาไว้ตรงนี้ได้ก็ดีเนอะ ไม่อยากกลับกรุงเทพเลยว่ะ มีแต่เรื่องน่าเบื่อ”

“เช่น...”

“กลับไปเป็นคุณมิ่งฟ้าขี้เก๊กนั่นไงล่ะ อึดอัดฉิบหาย ใครเป็นต้นคิดว่าเป็นหัวหน้าแล้วต้องแต่งตัวดีวะ โคตรน่ารำคาญ”

“กูว่าแล้ว” ไม่ผิดจากที่ผมคิดสักเท่าไรเลย ไอ้คุณมิ่งฟ้าที่เจอ ๆ นั่นมันตัวปลอม “แล้วผมมึงอากงไม่สั่งให้ตัดเหรอ”

“สั่ง แต่วันแรกที่ไปทำงานตัดไม่ทัน”

“แล้ว...?”

“ก็มาเจอมึง เลยคิดว่ารอให้มึงตัดดีกว่า”

“มั่นใจว่ากูจะตัดผมให้มึงขนาดนั้นเชียว” ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจับมันตัดผมบ่อยมากครับ ไอ้บ้านี่ขี้เกียจเข้าร้านตัดผม ปล่อยผมจนยาวกระเซอะกระเซิง สุดท้ายเลยต้องจับมานั่งนิ่ง ๆ บนโซฟาแล้วจัดการแม่งเลย แรก ๆ มีแหว่งบ้างตามประสาคนไม่เคย หลัง ๆ ไม่รู้ดีขึ้นหรือชินตาเลยไม่รู้สึกตลกแล้ว

“กูอาจจะตัดหัวมึงไปเลยก็ได้นะเฟย”

“มึงไม่ทำหรอก” ไอ้เฟยพูดยิ้ม ๆ “มึงรักกูออกจะขนาดนี้”

เจ้าของใบหน้ารูปไข่หันหน้ามาหาผม หยอดยิ้มหวานเยิ้มแบบที่ชวนฝันและนั่นทำให้ผมไม่กล้าเถียงมันอีก ไอ้คนหลงตัวเอง...ถึงในใจจะด่ามันอย่างนั้น แต่ผมกลับเงียบเสียงไปปล่อยให้   ทะเลและคลื่นคอยขับกล่อมเราทั้งสองคน
โอเคว่ะ ผมรักมันจริง ๆ แต่ไม่บอกมันหรอก เดี๋ยวจะเหลิง ผมมองฝูงนกที่บินกลับรังในคอนค่ำ มองแสงสีตามทางเดินที่จุดขึ้นมาให้ความสว่าง สีเหลืองนวลยามราตรี เอนคอไปซบไหล่กว้างเบา ๆ อย่างคนละเมอ

ถ้าหยุดเวลาไว้ตรงนี้ได้จริง ๆ ก็คงดี




TBC

อยากหยุดเวลาไม่ให้วันจันทร์มาถึงจังเลยค่ะ /กรีดร้อง ชีวิตมนุษย์เงินเดือนผู้แสนจะสิ้นหวัง โฮรววว ช่วงทำงานแล้วยุ่งมากๆเลย แต่ละตอนอาจจะไม่ยาวเท่าเหมือนตอนเขียนคำประกาศฯนะคะ สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ หันหน้าคุยกันแล้ว เย้
พี่เฟยจะหลอกอึ๊บพี่ตี๋ได้หรือเปล่า เดี๋ยวตอนหน้าน่าจะได้รู้ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
Re: ♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #234 เมื่อ20-10-2014 00:16:20 »

ตอนที่พี่เฟยบอกว่า  ทำไมไม่กลับมาหากู  เรานี่สตั้นเลยค่ะ   คือแบบ นิ่ง เครียด เศร้า  กดดัน   แบบอยากจะร้องไห้  โอ้ยยยยยย  ตอนนี้เราว่ามันหวานมากเลยนะ   แต่มันได้อารมณ์เศร้าๆยังไงไม่รุ้  บอกไม่ถูก  พูดไม่ออก   เหมือนจะหวาน  แต่ติดเศร้าอะ

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #235 เมื่อ20-10-2014 00:31:08 »

อ่านพาร์ทนี้ละอุ่นไปทั้งใจ

แต่เจอคำว่า "ทำไมไม่กลับมาหากู" นี่น้ำตาไหลเลย
คือโคตรหน่วง ทำเอานิ่งทั้งคนอ่าน ทั้งตี๋ เศร้าไปหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2014 00:35:09 โดย Qix9y_ »

ออฟไลน์ followme

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
Re: ♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #236 เมื่อ20-10-2014 00:40:55 »

รอตอนหน้า ตอนพี่เฟยอึ๊บพี่ตี๋

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: ♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #237 เมื่อ20-10-2014 00:41:18 »

ผิดมั้ยถ้าเราอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น จะได้ไม่มีดราม่าใดโผล่มาทำร้ายกันอีก รีบๆ เคลียร์ รีบๆ รักกันเถอะ  :m15:

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
Re: ♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #238 เมื่อ20-10-2014 00:42:47 »

ดีใจที่เค้าคุยกันได้แบบไม่ทะเลาะกันสักที

ดูว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น

อีเรื่องหลอกอึ๊บก็อยากรู้

แต่ที่อยากรู้ที่สุดคือเรื่องที่วินเคยไปนอนกับญาติของพี่เฟยมากกว่า

เฟยจะว่าไงน้าาา ถ้ารับได้กับการที่วินไปนอนกับคนอื่นเพื่อเงิน

จะรับได้มั้ย ถ้ารู้ว่าวินไปนอนกับญาติของเฟยเพื่อเงินเหมือนกัน

ยังไม่ปลายเดือนเลย ไม่ต้องการมาม่ามากไปกว่านี้แล้ว

ขอหวานๆชื่นๆจะหึงจะหวงจะป่วงก็ได้ มาม่าพอแล้วน้าาาาาา

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
Re: ♠When the wind blows back ♠ 06 memories of the beach (19/10/14)
«ตอบ #239 เมื่อ20-10-2014 01:09:26 »

พี่เฟยคนดี
ยิ่งอ่านยิ่งรักพี่เฟย

ปรับความเข้าใจกัน เปิดอกคุยกัน รักกันๆ

พี่เฟยเอาตี่ตี๋กลับมาให้ได้น๊าาาาา
ตี่ตี๋ให้โอกาสตัวเองด้วยน๊าาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด