ตอนที่ ๗๑
“ไปไหนกันมาเหรอบอมบ์”หมวดบูมนุ่งผ้าเช็ดตัวดูทีวีคนเดียวในห้อง พอผมเปิดประตูเข้าไปก็ทำหน้าเหวอๆใส่
“ไปนั่งเล่นมา อะไร พร้อมสำหรับคืนนี้แล้วเหรอ”ผมผลักหมวดบูมคร่อมทันที
“พร้อมบ้าอะไรเล่า ยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
“อาบพร้อมกัน”
“อย่ามาทะลึ่ง เออะ อิ่มอ่ะบอมบ์”ดูสิ พอสนิทกันก็เรอใส่หน้ากันซะแล้ว
“ก็เห็นง่วนอยู่กับเมนูอาหาร ขนาดว่าผมออกไปข้างนอกยังไม่สนใจกันเลย”
“หูย งอนกันซะด้วย เออ กับข้าวเขาอร่อยดีนะบอมบ์ นี่ถ้าไม่อิ่มก่อนจะซัดให้เรียบเลย”
“อาบน้ำกัน”ผมก้มลงซุกที่ซอกคอผู้หมวด
“อูยยยย เสียวว่ะบอมบ์ ต่างคนต่างอาบดีกว่าไหม”
“ไม่ดีครับ นะๆๆๆ”
“อ้อนตีนกูจริง”
“หึหึ”
“ปิดม่าน ปิดประตูห้องน้ำด้วย”สำเร็จ ขอปิดม่าน ปิดประตูจู๋จี๋กับที่รักก่อนนะ
ตื่นเช้ามาด้วยความปลอดโปร่ง ผมรีบลงจากเตียงไปอาบน้ำล้างหน้าแล้วเคาะห้องแม่เพื่อดูลูก เจ้าลูกชายยังหลับปุ๋ยเลยครับ เสียดายไม่ได้พาแม่ดูตะวันขึ้น พรุ่งนี้ค่อยว่ากันแล้วกันครับ ผมนั่งมองเจ้าลูกชายแปบหนึ่ง ทั้งคู่ก็ตื่นขึ้น ตื่นมาทำหน้ามึนๆใส่ผมก่อนจะปีนๆไต่ๆมานั่งซบที่ตัก
“นอนอิ่มไหมลูก”ผมก้มลงมองหน้าใสๆของเจ้าลูกชายที่ทำหน้าง่วงๆ ผมให้ลูกนั่งซบอีกครู่หนึ่งจึงพาไปอาบน้ำแปรงฟัน โดยมีแม่เป็นคนคอยช่วยบอกช่วยสอน ผมยังเลี้ยงลูกไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ในหลายๆอย่างผมก็ทำเองนะครับ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนข้าว ป้อนนม สารพัดอย่าง มีบางเวลาที่ลูกป่วนเอามากๆ ผมก็เคยเหนื่อยเหมือนกันครับ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์ไว้ ไม่ดุลูก เพราะผมคิดว่าตอนผมเด็กๆผมคงจะซนกับแม่มากกว่านี้ ยังจำได้เลยว่า ผมเรียน ป.๔ แล้วยังให้พ่อกับแม่อุ้มไปโรงเรียนเลย ผมก็ทำเวรทำกรรมกับพ่อแม่ไว้เยอะเหมือนกันนะ พอมาเจอลูกซน ลูกงอแงเอาแต่ใจในบางครั้ง ผมเลยไม่ดุลูก ไม่ตีลูก ก็พยายามเลี้ยง พยายามอดทนให้มากๆ เพราะถ้าเมื่อไหร่เราทำให้ลูกกลัว ผมกลัวว่าลูกจะฝังใจ วัยเด็กเป็นวัยที่ยังไม่ประสีประสาก็จริง แต่ถ้าเกิดเราไม่ระงับอารมณ์ ตะคอกลูก ดุลูก หัวใจดวงน้อยๆของลูกก็จะเต็มไปด้วยความกลัว เขากลัวคนอื่นก็พอว่านะครับ แต่กลัวพ่อแม่ตัวเองนี่ ผมว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คงทรมานน่าดู
“แสบ ซ่า ยิ้มหล่อให้พ่อถ่ายรูปหน่อย เอ้า หนึ่ง สอง สาม ยิ้มมมมมมมม”ผมฉีกยิ้มให้เจ้าตัวเล็กแล้วถือสมาร์ทโฟนตั้งท่าถ่ายรูปเจ้าลูกชายที่อาบน้ำปะแป้ง เจ้าตัวเล็กทั้ง ๒ ของผมทำหน้างงๆใส่แต่ก็ยอมยิ้มนิดหน่อย ผมกดชัตเตอร์รูปภาพไปหลายรูปก่อนจะก้มลงหอมแก้ม รักมากขึ้นทุกวัน นี่ถ้าผมต้องไปทำหน้าที่ต่อ ผมคงจะคิดถึงลูกมากแน่เลย “แม่ยิ้มหน่อย เอ้า หนึ่ง สอง สาม ยิ้มมมมมม”ผมหันกล้องไปที่แม่ผมบ้าง แม่ผมก็ยิ้มนิดหน่อย จากนั้นก็หอมแก้มแม่ครับ
“วันนี้จะไปไหนกันลูก ไปดำน้ำเหรอ”
“ครับ ไปนั่งเรือยอร์ชเล่นด้วยกันแม่”
“แม่ว่า แม่จะเมาเรือเอานะสิ จะไปก็ไปกันหนุ่มๆ สาวๆ แม่มันแก่แล้ว”
“นะแม่ ลองไปดูสักหน่อย แล้วรู้ได้ไงว่าเมาเรือ เคยนั่งเรือยัง”
“ยัง แม่ก็พูดไปงั้น เห็นมันโคลงเคลงๆ ชวนเวียนหัว เอ้า ไปก็ไป แต่ถ้าให้แม่ลงไปดำผุดดำว่ายกับพวกแกก็คงไม่ไหวเหมือนกันนะ หนุ่มๆสาวๆมีแรงก็เล่นกันไปเถอะ แม่ขอนั่งดูแล้วกัน”
“ครับ ป่ะตัวเล็ก ไปกินข้าวกัน ข้าวยัง”
“อำๆ”เจ้าแสบมองหน้าผม ทำหน้างงใส่พ่ออีกนะลูก
“ครับ อำๆ กินข้าวไง ป่ะ”
ความซนของเจ้าลูกชายไม่มีสิ้นสุด กว่าจะป้อนข้าวอิ่ม ผมต้องอุ้มไปเดินที่ชายหาด ผมอุ้มเจ้าแสบ ส่วนไอ้ภีมอุ้มเจ้าซ่า มีแม่ผมกับพี่พรคอยช่วยผลัดกันป้อนข้าว กินไปเล่นไป แต่ผมไม่ได้ให้เล่นน้ำนะครับ แค่พามาเฉียดๆ ตอนนี้คนอื่นก็ตื่นกันหมดแล้ว หาข้าวปลาอาหารกันกินรับผิดชอบตัวเอง ผมว่าจะไปดำน้ำดูปลา ปะการังสักประมาณ ๑๐ โมง เพราะถ้าสายกว่านี้ไม่ไหวเหมือนกัน แดดแรง ไม่ได้ห่วงผิวตัวเองนะครับ ห่วงสุขภาพลูก ก็มีนิดหนึ่งที่กลัวผิวมันจะกร้านแดดจนเกินไป แต่อย่างว่ามาถึงทะเลแล้วตัวไม่ดำกลับบ้านนี่เหมือนมาไม่ถึง จริงไหมครับ
กิจกรรมยามเช้าของเราเดินทางมาถึง เราเช่าเรือกัน ๓ ลำ กระจายๆกันไปครับเพราะคนมันเยอะจริง ก็มีครูที่สอนดำน้ำมาบอกทริคเล็กๆน้อยๆ ผมไม่ได้ดำกับเขานะครับเพราะต้องอุ้มลูก ดูแลเจ้าตัวเล็ก ก็ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอกครับ ผมมาดำบ่อยแล้วละ มาภูเก็ตทีไรก็มาดำน้ำดูปะการังตลอด
“หูย ข้างล่างสวยมากเลย มีปลาว่ายใกล้ๆด้วย”ไอ้ภูมิพูดอวดสิ่งที่ตนได้เห็น
“บู”เจ้าตัวเล็กมองหน้าไอ้ภูมิแล้วเรียก พลางชี้นิ้ว
“พี่ภูมิไง พี่ภูมิว่ายน้ำ เจอปลาตัวเล็กๆด้วย”พี่ภาพูดกับเจ้าตัวเล็ก เจ้าลูกชายก็ทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ แหม รู้ไปซะทุกเรื่องนะไอ้ตัวแสบของพ่อ
“พี่ภูมิเจอปลาด้วย มันว่ายวิ้งๆๆๆๆๆ”ไอ้ภูมิเอามือประกบทำเป็นตัวปลาว่ายไปมา หยอกล้อกับเจ้าลูกชาย เจ้านี่ก็หัวเราะคิกคัก อารมณ์ดีเสียจริง
ทุกคนต่างสนุกสนานกับการดำน้ำดูปะการัง จนเกือบบ่ายเราจึงขึ้นฝั่งครับ ขึ้นมาอาบน้ำท่ากินข้าวปลาอาหาร ทุกคนต่างบริการตัวเอง นั่งเล่นสักพักหนึ่งพี่ติกับพี่ชิตก็เดินทางมาถึง ไม่ได้มากันแค่ ๒ คน พาเมียพี่แกมาด้วย
“พี่ติ พี่ชิต สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ทันทีที่เห็น หมวดบูมหมวดเต้ยรีบไปช่วยลากกระเป๋าพ่อตัวเองทันทีเลยครับ
“สวัสดีบอมบ์ พี่เบิ้ล พี่น้อย พี่นิด สวัสดีพี่ แม่ สวัสดีครับ”
“อือๆ สวัสดีๆ”
“สวัสดีจ้า”
“ไหนหลานล่ะบอมบ์ อยากเห็นหน้า”พี่ชิตถามผม
“ไม่รู้พี่ๆเขาพาไปไหนแล้วอ่ะพี่ เมื่อกี้ยังอยู่แถวนี้เลย”
“อือ คงจะโตขึ้นเยอะเนอะ เดี๋ยวยังไงขอเอาของไปเก็บแปบนะ ขออนุญาตสักครู่นะครับ”
“ค่ะ เชิญตามสบายเลยนะคะ”แม่ผมยิ้มให้ พี่ชิตเอาของไปเก็บ แล้วพี่ติก็ตามไป หายกันไปพักใหญ่จากนั้นผู้ใหญ่ก็มานั่งพูดคุยทักทายกัน เขาก็คุยเรื่องงานเรื่องการ เรื่องนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย จนไอ้ซันกับฟางพาลูกชายผมเข้ามาในโถง มาถึงพี่ติแย่งไปอุ้มไปหยอกเล็กน้อยก่อนที่เจ้าลูกชายจะงอแงทำหน้าง่วงนอน
“มำๆ”เจ้าซ่าทำหน้าอ้อนผม
“ปล่อยพ่อก่อนสิ เดี๋ยวพ่อจะเทนมให้”ผมพยายามแกะเจ้าลูกลิงที่เกาะตัวผมแน่นยิ่งกว่าอะไรดี พอให้แม่ผมอุ้มก็ทำหน้าบู้บี้ใส่ ผมรีบเทนมใส่ขวดอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ให้ไอ้ซันกับมหาอุ้มมาที่ห้องแม่ผม เจ้าตัวเล็กงอแงมาตลอดทางเลยครับ จนมาถึงที่นอน พอวางลงนอนก็พากันปีนมานั่งซุกที่ตักผม “อ้าว ไหนว่าจะนอนอ่ะลูก”ผมมองหน้าลูกงงๆ ผมวางลูกให้นอนก็ไม่ยอมนอนครับ จะมานั่งตักผมอย่างเดียว สุดท้ายเลยต้องนอนเป็นเพื่อน ช่วงนี้อาศัยเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ค่อยได้อ่านหนังสือให้ลูกฟังเลยครับ ชักจะเริ่มขี้เกียจมากขึ้นทุกวัน
ลูกหลับแล้ว แล้วพ่อจะอยู่ทำไม ก็หลับตามไปด้วย แต่หลับได้ไม่นานครับ ชั่วโมงเดียวก็ตื่น วันนี้แม่ผมกับลูกสะใภ้ไปเดินเที่ยวซื้อข้าวของ ก็ตามสไตล์ของผู้หญิงครับ ไปซื้อข้าวของเสื้อผ้า ส่วนผู้ชายอย่างพี่ๆก็เข้าไปนวดตัว แล้วหนุ่มโคถึกอย่างพวกผมก็หากิจกรรมทำซึ่งมีเยอะมากเลยครับ ส่วนผมก็ไม่ได้ไปไหน อยู่กับลูก ที่จริงอยากพาลูกไปเที่ยวในหลายๆที่นะครับ แต่กลัวลูกพักผ่อนไม่เพียงพอ เด็กกำลังอยู่ในวัยกินวัยนอน ต้องการความเจริญเติบโตทางร่างกาย ก็เอาตามที่เหมาะสมไปครับ พูดเหมือนดูดีเนอะ แต่พอเอาจริงก็พาลูกเที่ยวแหลกลาญเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ
“ไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาหรอกเหรอ”หมวดบูมโทรเข้าเครื่องผมให้ผมเปิดห้องให้ เจอหน้าดำๆแล้วอดขำไม่ได้
“ไม่อ่ะ ลูกนอนอยู่เหรอ”
“อือ”ผมพยักหน้าแล้วเดินมานั่งข้างเตียง เจ้าลูกชายหลับปุ๋ย มองแล้วก็หมั่นเขี้ยวลูกตัวเอง หยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปสักหน่อย ที่จริงอยากได้กล้องถ่ายรูปดีๆสักตัวนะครับ เพียงแต่ว่าซื้อไปแล้วโอกาสใช้ในตอนนี้ยังมีน้อย แล้วเทคโนโลยีของมือถือก็พัฒนาไปรวดเร็วมากทำให้เราไม่ต้องพกกล้องตัวบะเร่อบะร่า ก็ใช้มือถือถ่ายมันไปก่อนแล้วกัน ปลดเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที
“พ่อให้มาถามว่าเมื่อไหร่พี่บอมบ์จะไปบอกพ่อว่าเราคบกัน”
“หือ”ผมหันหน้าไปมองหมวดบูมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกี้ได้ยินแต่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่
“พ่อให้มาถามว่าเราคบกันเหรอ แล้วเมื่อไหร่พี่บอมบ์จะบอกพ่อ”
“อ้าว พี่ติรู้แล้วเหรอเนี่ย กะว่าจะฉุดลูกชายเอาไปทำเมียก่อนนะ รอลูกโตแล้วค่อยไปขอขมาที่หลัง”ผมพูดติดตลก
“เอ่อ รู้สึกว่าโดนจับทำเมียไปตั้งหลายครั้งแล้วนะบอมบ์ สัส ก็ไปบอกพ่อแล้วกัน คงไม่มีอะไรหรอก ท่านแค่อยากได้รับคำยืนยันว่าจะดูแลลูกชายตัวน้อยๆของท่านจนฟ้าดินสลาย”หมวดบูมทำหน้าเพ้อ
“นี่คือเรากำลังดูอาละดินอยู่ใช่ป่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ เออๆ ก็มาบอกแค่นี้ อยากไปว่ายน้ำ เย็นนี้ว่ายน้ำกัน เห็นนมฝรั่งแล้วมันรู้สึกคึกคัก”
“เห็นนมผมแล้วรู้สึกไง ไม่คึกคักบ้างเหรอ”
“เอ่อ ถ้าจะนมใหญ่ขนาดนี้ ไปซื้อยกทรงใส่เลยดีไหมพี่”หมวดบูมยื่นมือมาบีบหน้าอกแข็งๆของผม ปกติของคนมีกล้ามเนื้ออุดมสมบูรณ์แบบบะเร่อบะร่า แต่ถามว่านมผมใหญ่ไหม ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันก็เป็นก้อนๆนะ แต่ไม่ได้นุ่มหรือบึ้มบั้มตั้งเต้าแบบผู้หญิงเท่านั้นเอง มันก็เป็นกล้ามเนื้อส่วนหน้าอกอ่ะ ส่วนของหมวดบูมก็มีครับแต่ไม่ได้ใหญ่โตแบบหน้าอกของผม
“ขอกินนมหน่อย”ผมเลิกเสื้อหมวดบูมจะเอาหน้าซุก
“หือ พอๆ เมื่อคืนก็อ่วมอรทัยไปแล้วไม่ใช่เหรอ บอกว่าอย่าทำรอยก็ไม่ยอมฟัง ดีนะไม่มีใครเห็น”มีรอยแดงๆที่ใกล้ๆกับหัวนมของหมวดบูม พี่แกทำหน้าเครียดๆ หึหึ ไม่อยากจะให้เป็นรอยหรอกครับ แต่มันหมั่นเขี้ยว กัดเพลินเลยแดงเห่อขึ้นมาซะงั้น
“มาทะเลแล้วเป็นไงบ้าง”
“มองหน้าสิ”หมวดบูมชี้ที่ใบหน้าตัวเอง ผมหันไปมองหน้าพี่แก ผิวขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย พี่แกไม่ได้เป็นคนขาวมากนะครับ แต่ขาวกว่าผม ส่วนที่โดนแดดโดนฝนก็เข้มๆตามสภาพไปครับ ในร่มผ้านี่สิขาว เนียนด้วย ผมชอบนอนลูบหลังผู้หมวด ไม่นุ่มแต่มันเนียน กับอดีตแฟนของผมก็เหมือนกันนะ ผมชอบนอนกอดแล้วลูบที่แผ่นหลัง ผิวผู้หญิงนะนุ่มและนิ่มมาก ส่วนของที่รักตรงหน้าผิวจะเนียนแต่แข็งแกร่ง ไม่นุ่มมือก็จริงแต่สัมผัสแล้วแปลกใหม่เสมอ เฮ้อ กูเพ้อถึงแผ่นหลังแบบเมื่อคืนอีกแล้ว “เฮ้ยบอมบ์ ให้มองหน้าไม่ได้มองอย่างอื่น วู้ ดูทำหน้าเข้าสิ คิดอะไรไม่ดีแน่เลย”
“รู้ด้วยเหรอ”ผมฉีกยิ้ม
“เราอยู่ด้วยกันมาเกือบปีแล้วนะบอมบ์ มองตาก็พอจะรู้ว่าคิดอะไร โดยเฉพาะเวลาอยู่กับมหา ที่จริงแยกๆกันบ้างก็ดีนะ มหาเป็นคนดี มีจิตใจอ่อนโยน มาคบกับมึงแล้ว กลายเป็นคนบ้ากามไปในพริบตา”
“ผมผิดเหรอ”ผมยังยิ้มโชว์ฟันขาว ไม่รู้มีเศษผักชีติดฟันหรือเปล่า แต่มั่นใจว่าวันนี้ไม่ได้กินผักชีครับ ถ้าจะมีก็พริกล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ
“ผิดมาก ทำคนนิ่งๆให้กลายเป็นคนหื่นเนี่ย”
“ฮ่าๆๆๆ มันอยู่ที่ตัวมันเองมากกว่าเหอะ ดูอย่างผู้หมวดสิ ผมชวนหื่นตั้งหลายครั้งแล้วทำไมไม่เห็นหื่นกับผมบ้าง”
“มีนะ แต่ไม่แสดงออก วู้ คุยเรื่องอื่นเลย เดี๋ยวของขึ้นจะลำบากกันทั้งคู่”
“ผมไหวนะ”
“แล้วถามกันบ้างไหมว่าไหวหรือเปล่า”
“เหอ นอนอย่างเดียวไม่ได้ออกแรงสักหน่อยก็มาบอกว่าเหนื่อย คนเหนื่อยควรจะเป็นผมมากว่า”
“แล้วมึงเคยเหนื่อยไหมล่ะ เมื่อคืนแม่งจ้วงเอาๆ ไม่เอาแล้วเว้ย เปลี่ยนเรื่อง คืนนี้ขอลากิจด้วยนะ หมดแรง ไปนอนกับไอ้มหาเลย ๒ คน”
“เรื่องอะไรล่ะ มีแฟนก็ต้องนอนกอดแฟนสิ”ผมเอาแขนพาดไปที่ต้นคอของหมวดบูม กึ่งๆกอดอ่ะครับ จากนั้นเราก็นั่งคุยกัน คุยเสียงเบาๆครับ คุยดังเดี๋ยวลูกตื่นมาเตะ ไม่ดีครับ
“น่าจะอยู่เล่นสงกรานต์ด้วยกันที่กทม.เนอะ”
“ทิ้งบ้านมานานแล้ว แม่บ่นๆว่าอยากกลับบ้านตั้งหลายวันแล้วอ่ะ”
“ก็อยู่เป็นเพื่อนเข้าเวรหน่อยดิ เดี๋ยวไปขอแม่ให้”
“อ้อนเหรอ”
“เออดิ ให้ ๒ ครั้งก็ได้”ชูนิ้วชวนทะลึ่ง ไหนว่าไม่คุยเรื่องนี้แล้ววะ
“คิดว่าเอามาล่อแล้วจะอยู่เหรอ”
“ก็คิดว่าน่าจะอยู่เลยต้องเอามาล่อ แล้วจะอยู่ไหม”
“หึหึ อยากอยู่ด้วยจัง คืนละ ๒ ครั้งเอวคงได้เคล็ดพอดี เดี๋ยวพฤษภาผมก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว อยากกลับไปอยู่บ้านบ้าง รู้สึกว่าทางบ้านเริ่มจะมีปัญหาก่อตัว”
“อุตส่าห์ลงทุนเปลืองเนื้อเปลืองตัวไม่สนใจกันซะแล้ว อือ กลับก็กลับ แล้วไอ้ซันต้องกลับด้วยไหม จะได้บอกผู้กองให้”
“ไม่รู้มันสิ แล้วแต่มัน ที่ผมกลับไปเพราะอยากไปเคลียร์เรื่องที่นาอ่ะ จะไปตกลงกับคนเช่าว่าจะเอายังไง แล้วจะไปทวงหนี้ด้วย”
“เป็นนายทุนเหรอ”
“ไม่หรอก ก็ช่วยๆกันเหอะครับ ปีนี้ผมว่าจะให้พี่นพทำคนเดียวมั้ง ให้คนอื่นทำแล้วเรื่องเยอะ นี่ผมว่าผมก็ไม่ได้คิดค่าเช่าไม่แพงนะ ไม่มีใครอยากจะให้เลย หึ เขาคิดว่าผมเป็นเพื่อนเล่นมั้ง”พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็มันคันมือคันตีน คือที่นาผมก็มีเยอะพอสมควร มรดกตกทอดจากพ่อ และมรดกของแม่ผมรวมกันก็เกินร้อยไร่ ทีนี้ครอบครัวผมไม่ได้ทำนาเกือบ ๑๐ ปีแล้ว ปล่อยให้คนอื่นเช่าทำ แม่ผมเป็นคนคิดค่าเช่า ก็ไม่ได้แพงอะไรมากมายเพราะถือว่าช่วยๆกัน ปีแรกๆก็จ่ายค่าเช่าดีครับแต่พอหลังๆชักจะเริ่มหาเล่ห์กลเบี้ยวค่าเช่า แม่ผมก็ไม่ค่อยอะไรเพราะคิดว่าเขาคงไม่มีจะจ่ายจริงๆ คงติดหนี้ติดสินค่าใช้จ่ายเยอะ แม่ผมก็ไม่ได้เอาเต็มจำนวน ลดให้แล้วลดให้อีก ปีล่าสุดก็ยังมีคนลองดี ไม่จ่ายค่าเช่าหลายคน ปีนี้ผมเลยคิดว่าต้องไปเคลียร์กันสักหน่อย ถือว่าช่วยเหลือกันเยอะมาพอสมควรแล้ว เดี๋ยวกลับบ้านค่อยไปว่ากันครับ
“บู”เจ้าตัวเล็กคลานมาแล้วจับหัวหมวดบูมเรียกชื่อ ผมรีบหันไปมอง เจ้าซ่านั่นเอง ส่วนเจ้าแสบยังหลับอยู่ครับ
“ครับ ตื่นแล้วเหรอ”
“บำๆ”เจ้าซ่าคลานมาที่ผมแล้วไต่ๆตัวผมไถลลงมานั่งตักจนได้ ผมก้มลงหอมแก้มฟัดเหวี่ยงเบาๆ เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคักถูกใจ ผมอุ้มพาไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนผ้าอ้อมแล้วจับใส่กางเกง เจ้าตัวเล็กเดินไปนั่งที่ตักหมวดบูมแล้วหยิบรีโมทมาเล่น นั่งเล่นสักพักเข้าแสบก็ตื่น
“แอ๊”ผมรีบโผล่หน้าขึ้นไปให้ลูกเห็นหน้าทันที ให้ลูกรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว
“ไงสุดหล่อ ตื่นแล้วเหรอ หืม ตื่นแล้วเหรอ”ผมเอาหน้าไปซุกที่พุงเจ้าตัวเล็ก
“อือ”เจ้าตัวเล็กจับที่หัวผม ผมเงยหน้าก่อนจะก้มหอมแก้มลูกชาย แล้วอุ้มพาไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุดใหม่ จากนั้นก็พาออกจากห้องลงไปด้านล่าง ไปหาของกิน ร้อนๆแบบนี้คงไม่มีอะไรจะอร่อยเท่าไอศกรีมใช่ไหมครับ ผมสั่งไอศกรีมถ้วยใหญ่มา ๑ ถ้วย เจ้าตัวเล็กตาโตใส่เชียวครับ แย่งช้อนจะตักกินเอง
“เดี๋ยวพ่อป้อนลูก ไม่ต้องตักกินเอง เดี๋ยวเลอะ”
“แอ๊ บำๆ”เจ้าตัวเล็กไม่ยอม
“แสบ นั่งนิ่งๆ ไม่งั้นพ่อไม่ให้กินแล้วนะ หนูตักก็เลอะเต็มตัวสิ มาพ่อป้อนมา”เจ้าตัวเล็กไม่ยอม ผมเลยต้องจับมือแล้วค่อยๆตักไอศกรีมให้เจ้าตัวเล็กป้อนตัวเอง เฮ้อ ลูกดื้อเหมือนพ่อมันเลยครับ ฮ่าๆๆ กว่าเจ้าตัวเล็กจะพอใจก็นานเหมือนกัน ไอศกรีมละลายไปบ้างเล็กน้อยแต่ไม่เหลือเพราะมี อามหา กับ พี่หนูคอยช่วยแย่งกิน ส่วนหมวดบูม หมวดเต้ยไปเทคแคร์พ่อแม่ตัวเองครับ