ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1049574 ครั้ง)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดใจหญิงคนนั้น จะก่อมาม่าไรอ่ะเนี่ย

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ยังติดใจบิวอยู่อ่ะ  มิอาจปล่อยผ่าน

สองแสบช่างน่ารัก เทใจให้น้องแสบซ่าดีก่า

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เพิ่งเห็นว่าเอามาลงใหม่ .. ขอบคุณนะครับ

จะตามเป็นกำลังใจให้ต่อเหมือนเดิม  กลับมาอ่านอีกครั้งก็หลงแสบซ่าอีกจนได้ อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
น่าสงสาร 2 ผู้หมวดจัง

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
แกล้งกันตั้งแต่หัวดำยันหัวหงอก ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ แสบซ่าก็น่ารัก

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
เห็นคอมเม้นด่าบอมตอนที่แล้ว แล้วสยองเลย 555555 รอบอมไปขอบูมอยู่นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๗๑

“ไปไหนกันมาเหรอบอมบ์”หมวดบูมนุ่งผ้าเช็ดตัวดูทีวีคนเดียวในห้อง พอผมเปิดประตูเข้าไปก็ทำหน้าเหวอๆใส่

“ไปนั่งเล่นมา อะไร พร้อมสำหรับคืนนี้แล้วเหรอ”ผมผลักหมวดบูมคร่อมทันที

“พร้อมบ้าอะไรเล่า ยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

“อาบพร้อมกัน”

“อย่ามาทะลึ่ง เออะ อิ่มอ่ะบอมบ์”ดูสิ พอสนิทกันก็เรอใส่หน้ากันซะแล้ว

“ก็เห็นง่วนอยู่กับเมนูอาหาร ขนาดว่าผมออกไปข้างนอกยังไม่สนใจกันเลย”

“หูย งอนกันซะด้วย เออ กับข้าวเขาอร่อยดีนะบอมบ์ นี่ถ้าไม่อิ่มก่อนจะซัดให้เรียบเลย”

“อาบน้ำกัน”ผมก้มลงซุกที่ซอกคอผู้หมวด

“อูยยยย เสียวว่ะบอมบ์ ต่างคนต่างอาบดีกว่าไหม”

“ไม่ดีครับ นะๆๆๆ”

“อ้อนตีนกูจริง”

“หึหึ”

“ปิดม่าน ปิดประตูห้องน้ำด้วย”สำเร็จ ขอปิดม่าน ปิดประตูจู๋จี๋กับที่รักก่อนนะ


ตื่นเช้ามาด้วยความปลอดโปร่ง ผมรีบลงจากเตียงไปอาบน้ำล้างหน้าแล้วเคาะห้องแม่เพื่อดูลูก เจ้าลูกชายยังหลับปุ๋ยเลยครับ เสียดายไม่ได้พาแม่ดูตะวันขึ้น พรุ่งนี้ค่อยว่ากันแล้วกันครับ ผมนั่งมองเจ้าลูกชายแปบหนึ่ง ทั้งคู่ก็ตื่นขึ้น ตื่นมาทำหน้ามึนๆใส่ผมก่อนจะปีนๆไต่ๆมานั่งซบที่ตัก

“นอนอิ่มไหมลูก”ผมก้มลงมองหน้าใสๆของเจ้าลูกชายที่ทำหน้าง่วงๆ ผมให้ลูกนั่งซบอีกครู่หนึ่งจึงพาไปอาบน้ำแปรงฟัน โดยมีแม่เป็นคนคอยช่วยบอกช่วยสอน ผมยังเลี้ยงลูกไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ในหลายๆอย่างผมก็ทำเองนะครับ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนข้าว ป้อนนม สารพัดอย่าง มีบางเวลาที่ลูกป่วนเอามากๆ ผมก็เคยเหนื่อยเหมือนกันครับ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์ไว้ ไม่ดุลูก เพราะผมคิดว่าตอนผมเด็กๆผมคงจะซนกับแม่มากกว่านี้ ยังจำได้เลยว่า ผมเรียน ป.๔ แล้วยังให้พ่อกับแม่อุ้มไปโรงเรียนเลย ผมก็ทำเวรทำกรรมกับพ่อแม่ไว้เยอะเหมือนกันนะ พอมาเจอลูกซน ลูกงอแงเอาแต่ใจในบางครั้ง ผมเลยไม่ดุลูก ไม่ตีลูก ก็พยายามเลี้ยง พยายามอดทนให้มากๆ เพราะถ้าเมื่อไหร่เราทำให้ลูกกลัว ผมกลัวว่าลูกจะฝังใจ วัยเด็กเป็นวัยที่ยังไม่ประสีประสาก็จริง แต่ถ้าเกิดเราไม่ระงับอารมณ์ ตะคอกลูก ดุลูก หัวใจดวงน้อยๆของลูกก็จะเต็มไปด้วยความกลัว เขากลัวคนอื่นก็พอว่านะครับ แต่กลัวพ่อแม่ตัวเองนี่ ผมว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คงทรมานน่าดู

“แสบ ซ่า ยิ้มหล่อให้พ่อถ่ายรูปหน่อย เอ้า หนึ่ง สอง สาม ยิ้มมมมมมมม”ผมฉีกยิ้มให้เจ้าตัวเล็กแล้วถือสมาร์ทโฟนตั้งท่าถ่ายรูปเจ้าลูกชายที่อาบน้ำปะแป้ง เจ้าตัวเล็กทั้ง ๒ ของผมทำหน้างงๆใส่แต่ก็ยอมยิ้มนิดหน่อย ผมกดชัตเตอร์รูปภาพไปหลายรูปก่อนจะก้มลงหอมแก้ม รักมากขึ้นทุกวัน นี่ถ้าผมต้องไปทำหน้าที่ต่อ ผมคงจะคิดถึงลูกมากแน่เลย “แม่ยิ้มหน่อย เอ้า หนึ่ง สอง สาม ยิ้มมมมมม”ผมหันกล้องไปที่แม่ผมบ้าง แม่ผมก็ยิ้มนิดหน่อย จากนั้นก็หอมแก้มแม่ครับ

“วันนี้จะไปไหนกันลูก ไปดำน้ำเหรอ”

“ครับ ไปนั่งเรือยอร์ชเล่นด้วยกันแม่”

“แม่ว่า แม่จะเมาเรือเอานะสิ จะไปก็ไปกันหนุ่มๆ สาวๆ แม่มันแก่แล้ว”

“นะแม่ ลองไปดูสักหน่อย แล้วรู้ได้ไงว่าเมาเรือ เคยนั่งเรือยัง”

“ยัง แม่ก็พูดไปงั้น เห็นมันโคลงเคลงๆ ชวนเวียนหัว เอ้า ไปก็ไป แต่ถ้าให้แม่ลงไปดำผุดดำว่ายกับพวกแกก็คงไม่ไหวเหมือนกันนะ หนุ่มๆสาวๆมีแรงก็เล่นกันไปเถอะ แม่ขอนั่งดูแล้วกัน”

“ครับ ป่ะตัวเล็ก ไปกินข้าวกัน ข้าวยัง”

“อำๆ”เจ้าแสบมองหน้าผม ทำหน้างงใส่พ่ออีกนะลูก

“ครับ อำๆ กินข้าวไง ป่ะ”

ความซนของเจ้าลูกชายไม่มีสิ้นสุด กว่าจะป้อนข้าวอิ่ม ผมต้องอุ้มไปเดินที่ชายหาด ผมอุ้มเจ้าแสบ ส่วนไอ้ภีมอุ้มเจ้าซ่า มีแม่ผมกับพี่พรคอยช่วยผลัดกันป้อนข้าว กินไปเล่นไป แต่ผมไม่ได้ให้เล่นน้ำนะครับ แค่พามาเฉียดๆ ตอนนี้คนอื่นก็ตื่นกันหมดแล้ว หาข้าวปลาอาหารกันกินรับผิดชอบตัวเอง ผมว่าจะไปดำน้ำดูปลา ปะการังสักประมาณ ๑๐ โมง เพราะถ้าสายกว่านี้ไม่ไหวเหมือนกัน แดดแรง ไม่ได้ห่วงผิวตัวเองนะครับ ห่วงสุขภาพลูก ก็มีนิดหนึ่งที่กลัวผิวมันจะกร้านแดดจนเกินไป แต่อย่างว่ามาถึงทะเลแล้วตัวไม่ดำกลับบ้านนี่เหมือนมาไม่ถึง จริงไหมครับ

กิจกรรมยามเช้าของเราเดินทางมาถึง เราเช่าเรือกัน ๓ ลำ กระจายๆกันไปครับเพราะคนมันเยอะจริง ก็มีครูที่สอนดำน้ำมาบอกทริคเล็กๆน้อยๆ ผมไม่ได้ดำกับเขานะครับเพราะต้องอุ้มลูก ดูแลเจ้าตัวเล็ก ก็ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอกครับ ผมมาดำบ่อยแล้วละ มาภูเก็ตทีไรก็มาดำน้ำดูปะการังตลอด

“หูย ข้างล่างสวยมากเลย มีปลาว่ายใกล้ๆด้วย”ไอ้ภูมิพูดอวดสิ่งที่ตนได้เห็น

“บู”เจ้าตัวเล็กมองหน้าไอ้ภูมิแล้วเรียก พลางชี้นิ้ว

“พี่ภูมิไง พี่ภูมิว่ายน้ำ เจอปลาตัวเล็กๆด้วย”พี่ภาพูดกับเจ้าตัวเล็ก เจ้าลูกชายก็ทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ แหม รู้ไปซะทุกเรื่องนะไอ้ตัวแสบของพ่อ

“พี่ภูมิเจอปลาด้วย มันว่ายวิ้งๆๆๆๆๆ”ไอ้ภูมิเอามือประกบทำเป็นตัวปลาว่ายไปมา หยอกล้อกับเจ้าลูกชาย เจ้านี่ก็หัวเราะคิกคัก อารมณ์ดีเสียจริง


ทุกคนต่างสนุกสนานกับการดำน้ำดูปะการัง จนเกือบบ่ายเราจึงขึ้นฝั่งครับ ขึ้นมาอาบน้ำท่ากินข้าวปลาอาหาร ทุกคนต่างบริการตัวเอง นั่งเล่นสักพักหนึ่งพี่ติกับพี่ชิตก็เดินทางมาถึง ไม่ได้มากันแค่ ๒ คน พาเมียพี่แกมาด้วย

“พี่ติ พี่ชิต สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ทันทีที่เห็น หมวดบูมหมวดเต้ยรีบไปช่วยลากกระเป๋าพ่อตัวเองทันทีเลยครับ

“สวัสดีบอมบ์ พี่เบิ้ล พี่น้อย พี่นิด สวัสดีพี่ แม่ สวัสดีครับ”

“อือๆ สวัสดีๆ”

“สวัสดีจ้า”

“ไหนหลานล่ะบอมบ์ อยากเห็นหน้า”พี่ชิตถามผม

“ไม่รู้พี่ๆเขาพาไปไหนแล้วอ่ะพี่ เมื่อกี้ยังอยู่แถวนี้เลย”

“อือ คงจะโตขึ้นเยอะเนอะ เดี๋ยวยังไงขอเอาของไปเก็บแปบนะ ขออนุญาตสักครู่นะครับ”

“ค่ะ เชิญตามสบายเลยนะคะ”แม่ผมยิ้มให้ พี่ชิตเอาของไปเก็บ แล้วพี่ติก็ตามไป หายกันไปพักใหญ่จากนั้นผู้ใหญ่ก็มานั่งพูดคุยทักทายกัน เขาก็คุยเรื่องงานเรื่องการ เรื่องนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย จนไอ้ซันกับฟางพาลูกชายผมเข้ามาในโถง มาถึงพี่ติแย่งไปอุ้มไปหยอกเล็กน้อยก่อนที่เจ้าลูกชายจะงอแงทำหน้าง่วงนอน

“มำๆ”เจ้าซ่าทำหน้าอ้อนผม

“ปล่อยพ่อก่อนสิ เดี๋ยวพ่อจะเทนมให้”ผมพยายามแกะเจ้าลูกลิงที่เกาะตัวผมแน่นยิ่งกว่าอะไรดี พอให้แม่ผมอุ้มก็ทำหน้าบู้บี้ใส่ ผมรีบเทนมใส่ขวดอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ให้ไอ้ซันกับมหาอุ้มมาที่ห้องแม่ผม เจ้าตัวเล็กงอแงมาตลอดทางเลยครับ จนมาถึงที่นอน พอวางลงนอนก็พากันปีนมานั่งซุกที่ตักผม “อ้าว ไหนว่าจะนอนอ่ะลูก”ผมมองหน้าลูกงงๆ ผมวางลูกให้นอนก็ไม่ยอมนอนครับ จะมานั่งตักผมอย่างเดียว สุดท้ายเลยต้องนอนเป็นเพื่อน ช่วงนี้อาศัยเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ค่อยได้อ่านหนังสือให้ลูกฟังเลยครับ ชักจะเริ่มขี้เกียจมากขึ้นทุกวัน

ลูกหลับแล้ว แล้วพ่อจะอยู่ทำไม ก็หลับตามไปด้วย แต่หลับได้ไม่นานครับ ชั่วโมงเดียวก็ตื่น วันนี้แม่ผมกับลูกสะใภ้ไปเดินเที่ยวซื้อข้าวของ ก็ตามสไตล์ของผู้หญิงครับ ไปซื้อข้าวของเสื้อผ้า ส่วนผู้ชายอย่างพี่ๆก็เข้าไปนวดตัว แล้วหนุ่มโคถึกอย่างพวกผมก็หากิจกรรมทำซึ่งมีเยอะมากเลยครับ ส่วนผมก็ไม่ได้ไปไหน อยู่กับลูก ที่จริงอยากพาลูกไปเที่ยวในหลายๆที่นะครับ แต่กลัวลูกพักผ่อนไม่เพียงพอ เด็กกำลังอยู่ในวัยกินวัยนอน ต้องการความเจริญเติบโตทางร่างกาย ก็เอาตามที่เหมาะสมไปครับ พูดเหมือนดูดีเนอะ แต่พอเอาจริงก็พาลูกเที่ยวแหลกลาญเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ

“ไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาหรอกเหรอ”หมวดบูมโทรเข้าเครื่องผมให้ผมเปิดห้องให้ เจอหน้าดำๆแล้วอดขำไม่ได้

“ไม่อ่ะ ลูกนอนอยู่เหรอ”

“อือ”ผมพยักหน้าแล้วเดินมานั่งข้างเตียง เจ้าลูกชายหลับปุ๋ย มองแล้วก็หมั่นเขี้ยวลูกตัวเอง หยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปสักหน่อย ที่จริงอยากได้กล้องถ่ายรูปดีๆสักตัวนะครับ เพียงแต่ว่าซื้อไปแล้วโอกาสใช้ในตอนนี้ยังมีน้อย แล้วเทคโนโลยีของมือถือก็พัฒนาไปรวดเร็วมากทำให้เราไม่ต้องพกกล้องตัวบะเร่อบะร่า ก็ใช้มือถือถ่ายมันไปก่อนแล้วกัน ปลดเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที

“พ่อให้มาถามว่าเมื่อไหร่พี่บอมบ์จะไปบอกพ่อว่าเราคบกัน”

“หือ”ผมหันหน้าไปมองหมวดบูมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกี้ได้ยินแต่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่

“พ่อให้มาถามว่าเราคบกันเหรอ แล้วเมื่อไหร่พี่บอมบ์จะบอกพ่อ”

“อ้าว พี่ติรู้แล้วเหรอเนี่ย กะว่าจะฉุดลูกชายเอาไปทำเมียก่อนนะ รอลูกโตแล้วค่อยไปขอขมาที่หลัง”ผมพูดติดตลก

“เอ่อ รู้สึกว่าโดนจับทำเมียไปตั้งหลายครั้งแล้วนะบอมบ์ สัส ก็ไปบอกพ่อแล้วกัน คงไม่มีอะไรหรอก ท่านแค่อยากได้รับคำยืนยันว่าจะดูแลลูกชายตัวน้อยๆของท่านจนฟ้าดินสลาย”หมวดบูมทำหน้าเพ้อ

“นี่คือเรากำลังดูอาละดินอยู่ใช่ป่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ เออๆ ก็มาบอกแค่นี้ อยากไปว่ายน้ำ เย็นนี้ว่ายน้ำกัน เห็นนมฝรั่งแล้วมันรู้สึกคึกคัก”

“เห็นนมผมแล้วรู้สึกไง ไม่คึกคักบ้างเหรอ”

“เอ่อ ถ้าจะนมใหญ่ขนาดนี้ ไปซื้อยกทรงใส่เลยดีไหมพี่”หมวดบูมยื่นมือมาบีบหน้าอกแข็งๆของผม ปกติของคนมีกล้ามเนื้ออุดมสมบูรณ์แบบบะเร่อบะร่า แต่ถามว่านมผมใหญ่ไหม ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันก็เป็นก้อนๆนะ แต่ไม่ได้นุ่มหรือบึ้มบั้มตั้งเต้าแบบผู้หญิงเท่านั้นเอง มันก็เป็นกล้ามเนื้อส่วนหน้าอกอ่ะ ส่วนของหมวดบูมก็มีครับแต่ไม่ได้ใหญ่โตแบบหน้าอกของผม

“ขอกินนมหน่อย”ผมเลิกเสื้อหมวดบูมจะเอาหน้าซุก

“หือ พอๆ เมื่อคืนก็อ่วมอรทัยไปแล้วไม่ใช่เหรอ บอกว่าอย่าทำรอยก็ไม่ยอมฟัง ดีนะไม่มีใครเห็น”มีรอยแดงๆที่ใกล้ๆกับหัวนมของหมวดบูม พี่แกทำหน้าเครียดๆ หึหึ ไม่อยากจะให้เป็นรอยหรอกครับ แต่มันหมั่นเขี้ยว กัดเพลินเลยแดงเห่อขึ้นมาซะงั้น

“มาทะเลแล้วเป็นไงบ้าง”

“มองหน้าสิ”หมวดบูมชี้ที่ใบหน้าตัวเอง ผมหันไปมองหน้าพี่แก ผิวขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย พี่แกไม่ได้เป็นคนขาวมากนะครับ แต่ขาวกว่าผม ส่วนที่โดนแดดโดนฝนก็เข้มๆตามสภาพไปครับ ในร่มผ้านี่สิขาว เนียนด้วย ผมชอบนอนลูบหลังผู้หมวด ไม่นุ่มแต่มันเนียน กับอดีตแฟนของผมก็เหมือนกันนะ ผมชอบนอนกอดแล้วลูบที่แผ่นหลัง ผิวผู้หญิงนะนุ่มและนิ่มมาก ส่วนของที่รักตรงหน้าผิวจะเนียนแต่แข็งแกร่ง ไม่นุ่มมือก็จริงแต่สัมผัสแล้วแปลกใหม่เสมอ เฮ้อ กูเพ้อถึงแผ่นหลังแบบเมื่อคืนอีกแล้ว “เฮ้ยบอมบ์ ให้มองหน้าไม่ได้มองอย่างอื่น วู้ ดูทำหน้าเข้าสิ คิดอะไรไม่ดีแน่เลย”

“รู้ด้วยเหรอ”ผมฉีกยิ้ม

“เราอยู่ด้วยกันมาเกือบปีแล้วนะบอมบ์ มองตาก็พอจะรู้ว่าคิดอะไร โดยเฉพาะเวลาอยู่กับมหา ที่จริงแยกๆกันบ้างก็ดีนะ มหาเป็นคนดี มีจิตใจอ่อนโยน มาคบกับมึงแล้ว กลายเป็นคนบ้ากามไปในพริบตา”

“ผมผิดเหรอ”ผมยังยิ้มโชว์ฟันขาว ไม่รู้มีเศษผักชีติดฟันหรือเปล่า แต่มั่นใจว่าวันนี้ไม่ได้กินผักชีครับ ถ้าจะมีก็พริกล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ

“ผิดมาก ทำคนนิ่งๆให้กลายเป็นคนหื่นเนี่ย”

“ฮ่าๆๆๆ มันอยู่ที่ตัวมันเองมากกว่าเหอะ ดูอย่างผู้หมวดสิ ผมชวนหื่นตั้งหลายครั้งแล้วทำไมไม่เห็นหื่นกับผมบ้าง”

“มีนะ แต่ไม่แสดงออก วู้ คุยเรื่องอื่นเลย เดี๋ยวของขึ้นจะลำบากกันทั้งคู่”

“ผมไหวนะ”

“แล้วถามกันบ้างไหมว่าไหวหรือเปล่า”

“เหอ นอนอย่างเดียวไม่ได้ออกแรงสักหน่อยก็มาบอกว่าเหนื่อย คนเหนื่อยควรจะเป็นผมมากว่า”

“แล้วมึงเคยเหนื่อยไหมล่ะ เมื่อคืนแม่งจ้วงเอาๆ ไม่เอาแล้วเว้ย เปลี่ยนเรื่อง คืนนี้ขอลากิจด้วยนะ หมดแรง ไปนอนกับไอ้มหาเลย ๒ คน”

“เรื่องอะไรล่ะ มีแฟนก็ต้องนอนกอดแฟนสิ”ผมเอาแขนพาดไปที่ต้นคอของหมวดบูม กึ่งๆกอดอ่ะครับ จากนั้นเราก็นั่งคุยกัน คุยเสียงเบาๆครับ คุยดังเดี๋ยวลูกตื่นมาเตะ ไม่ดีครับ

“น่าจะอยู่เล่นสงกรานต์ด้วยกันที่กทม.เนอะ”

“ทิ้งบ้านมานานแล้ว แม่บ่นๆว่าอยากกลับบ้านตั้งหลายวันแล้วอ่ะ”

“ก็อยู่เป็นเพื่อนเข้าเวรหน่อยดิ เดี๋ยวไปขอแม่ให้”

“อ้อนเหรอ”

“เออดิ ให้ ๒ ครั้งก็ได้”ชูนิ้วชวนทะลึ่ง ไหนว่าไม่คุยเรื่องนี้แล้ววะ

“คิดว่าเอามาล่อแล้วจะอยู่เหรอ”

“ก็คิดว่าน่าจะอยู่เลยต้องเอามาล่อ แล้วจะอยู่ไหม”

“หึหึ อยากอยู่ด้วยจัง คืนละ ๒ ครั้งเอวคงได้เคล็ดพอดี เดี๋ยวพฤษภาผมก็กลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว อยากกลับไปอยู่บ้านบ้าง รู้สึกว่าทางบ้านเริ่มจะมีปัญหาก่อตัว”

“อุตส่าห์ลงทุนเปลืองเนื้อเปลืองตัวไม่สนใจกันซะแล้ว อือ กลับก็กลับ แล้วไอ้ซันต้องกลับด้วยไหม จะได้บอกผู้กองให้”

“ไม่รู้มันสิ แล้วแต่มัน ที่ผมกลับไปเพราะอยากไปเคลียร์เรื่องที่นาอ่ะ จะไปตกลงกับคนเช่าว่าจะเอายังไง แล้วจะไปทวงหนี้ด้วย”

“เป็นนายทุนเหรอ”

“ไม่หรอก ก็ช่วยๆกันเหอะครับ ปีนี้ผมว่าจะให้พี่นพทำคนเดียวมั้ง ให้คนอื่นทำแล้วเรื่องเยอะ นี่ผมว่าผมก็ไม่ได้คิดค่าเช่าไม่แพงนะ ไม่มีใครอยากจะให้เลย หึ เขาคิดว่าผมเป็นเพื่อนเล่นมั้ง”พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็มันคันมือคันตีน คือที่นาผมก็มีเยอะพอสมควร มรดกตกทอดจากพ่อ และมรดกของแม่ผมรวมกันก็เกินร้อยไร่ ทีนี้ครอบครัวผมไม่ได้ทำนาเกือบ ๑๐ ปีแล้ว ปล่อยให้คนอื่นเช่าทำ แม่ผมเป็นคนคิดค่าเช่า ก็ไม่ได้แพงอะไรมากมายเพราะถือว่าช่วยๆกัน ปีแรกๆก็จ่ายค่าเช่าดีครับแต่พอหลังๆชักจะเริ่มหาเล่ห์กลเบี้ยวค่าเช่า แม่ผมก็ไม่ค่อยอะไรเพราะคิดว่าเขาคงไม่มีจะจ่ายจริงๆ คงติดหนี้ติดสินค่าใช้จ่ายเยอะ แม่ผมก็ไม่ได้เอาเต็มจำนวน ลดให้แล้วลดให้อีก ปีล่าสุดก็ยังมีคนลองดี ไม่จ่ายค่าเช่าหลายคน ปีนี้ผมเลยคิดว่าต้องไปเคลียร์กันสักหน่อย ถือว่าช่วยเหลือกันเยอะมาพอสมควรแล้ว เดี๋ยวกลับบ้านค่อยไปว่ากันครับ

“บู”เจ้าตัวเล็กคลานมาแล้วจับหัวหมวดบูมเรียกชื่อ ผมรีบหันไปมอง เจ้าซ่านั่นเอง ส่วนเจ้าแสบยังหลับอยู่ครับ

“ครับ ตื่นแล้วเหรอ”

“บำๆ”เจ้าซ่าคลานมาที่ผมแล้วไต่ๆตัวผมไถลลงมานั่งตักจนได้ ผมก้มลงหอมแก้มฟัดเหวี่ยงเบาๆ เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคักถูกใจ ผมอุ้มพาไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนผ้าอ้อมแล้วจับใส่กางเกง เจ้าตัวเล็กเดินไปนั่งที่ตักหมวดบูมแล้วหยิบรีโมทมาเล่น นั่งเล่นสักพักเข้าแสบก็ตื่น

“แอ๊”ผมรีบโผล่หน้าขึ้นไปให้ลูกเห็นหน้าทันที ให้ลูกรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว

“ไงสุดหล่อ ตื่นแล้วเหรอ หืม ตื่นแล้วเหรอ”ผมเอาหน้าไปซุกที่พุงเจ้าตัวเล็ก

“อือ”เจ้าตัวเล็กจับที่หัวผม ผมเงยหน้าก่อนจะก้มหอมแก้มลูกชาย แล้วอุ้มพาไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุดใหม่ จากนั้นก็พาออกจากห้องลงไปด้านล่าง ไปหาของกิน ร้อนๆแบบนี้คงไม่มีอะไรจะอร่อยเท่าไอศกรีมใช่ไหมครับ ผมสั่งไอศกรีมถ้วยใหญ่มา ๑ ถ้วย เจ้าตัวเล็กตาโตใส่เชียวครับ แย่งช้อนจะตักกินเอง

“เดี๋ยวพ่อป้อนลูก ไม่ต้องตักกินเอง เดี๋ยวเลอะ”

“แอ๊ บำๆ”เจ้าตัวเล็กไม่ยอม

“แสบ นั่งนิ่งๆ ไม่งั้นพ่อไม่ให้กินแล้วนะ หนูตักก็เลอะเต็มตัวสิ มาพ่อป้อนมา”เจ้าตัวเล็กไม่ยอม ผมเลยต้องจับมือแล้วค่อยๆตักไอศกรีมให้เจ้าตัวเล็กป้อนตัวเอง เฮ้อ ลูกดื้อเหมือนพ่อมันเลยครับ ฮ่าๆๆ กว่าเจ้าตัวเล็กจะพอใจก็นานเหมือนกัน ไอศกรีมละลายไปบ้างเล็กน้อยแต่ไม่เหลือเพราะมี อามหา กับ พี่หนูคอยช่วยแย่งกิน ส่วนหมวดบูม หมวดเต้ยไปเทคแคร์พ่อแม่ตัวเองครับ

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
“อาบอมบ์ ว่ายน้ำกัน”ไอ้กลางชวนผม พี่น้องภูมิ ภีม ก็พร้อมแล้วครับ

“เลี้ยงลูกให้ดิ”ผมมองหน้า ก็อยากว่ายกับเขาเหมือนกันนะ แต่ว่าลูกนี่สิ จะโยนภาระไปให้คนอื่นมันก็ไม่ควรทำ ลูกของเรา เราต้องดูแล

“แสบ ซ่า ว่ายน้ำกัน”

“อ๊า”พอได้ยินว่าว่ายน้ำก็หน้าชื่นตาบานเชียวไอ้ลูกชาย

“ไม่ต้องเลย อยู่นี่แหละ เรายังเล็กอยู่”ผมมองหน้าเจ้าลูกชาย

“บี”ไอ้ลูกชายตัวแสบชี้ที่ไอ้ภีม ไอ้ภีมหันมามองแล้วคว้าตัวไปอุ้ม

“มีอะไรเหรอ อยากว่ายน้ำล่ะสิ ป่ะ ว่ายน้ำกัน พาน้องไปว่ายน้ำนะอา”

“เฮ้ยภีม มึงจะพาไปว่ายยังไง ไม่รู้เหรอว่าน้องยังเล็ก ว่ายน้ำก็ไม่เป็น แสบมานี่มา”

“อ๊า”เจ้าตัวเล็กไม่สนใจผมเลยครับ กวักมือ จากนั้นพี่ๆก็ไปหาอุปกรณ์มาได้ครับ เป็นห่วงยางกับกะละมัง เอากะละมังวางซ้อนในห่วงยางแล้วจับลูกชายตัวดีของผมนั่งในกะละมัง ผมได้แต่ส่ายหัวกับความคิดแผลงๆของพวกมัน เจ้าตัวดีก็เหลือเกินครับ หัวเราะคิกคักสนุกสนานเฮฮา โดยไม่รู้ว่ามันอันตรายบ้างเลย

“ว้าย ภีม พาน้องไปเล่นน้ำแบบนั้นได้ไง เอาขึ้นมาเดี๋ยวนี้”พี่ภาร้องตกอกตกใจกับภาพที่เห็น “ภีม พาน้องขึ้นมา เดี๋ยวตกน้ำตกท่าไปใครรับผิดชอบหึ๊ เล่นอะไรให้มันดูความเหมาะสมหน่อยสิ ไม่รู้เหรอว่าน้องยังเล็กอยู่น่ะ”

“ไม่เห็นต้องดุเลยแม่”ไอ้ภีมเถียง

“ถ้าไม่ดุแกจะฟังเหรอ แสบ ซ่า มานี่ลูก บอมบ์ปล่อยให้ลูกเล่นแบบนี้ได้ไง มันอันตรายนะ”พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วยเลยครับ

“เล่นอะไรกันอ่ะภีม ไม่รู้จักโต ถ้าเกิดห่วงยางคว่ำไปใครจะคว้าน้องทัน หึ๊”พี่เบิ้ลดุลูกชายแล้วครับ

“โหยพ่อ นิดเดียวเอง”

“นิดเดียวของแก แต่ถ้าน้องเกิดจมน้ำขึ้นมา มันจะนิดเดียวอีกต่อไปไหม ชอบนักไอ้เล่นแผลงๆเนี่ย มานี่เลยตัวแสบ ดื้อจริง”พี่เบิ้ลดุไอ้ภีมก่อนจะก้มลงไปอุ้มลูกชายผมแล้วพูดด้วยความเอ็นดู เจ้าตัวเล็กมองห่วงยางตาละห้อยเลยครับ แล้วสุดท้ายเป็นไง

“แงๆๆๆๆ”ร้องไห้น่ะสิ เอาแล้วไง กูจะโอ๋ลูกยังไงวะ เจ้าตัวเล็กร้องงอแงชี้ไปที่ห่วงยางอย่างเดียว พี่เบิ้ลอุ้มพาออกไปแต่ร้องลั่นและดิ้นด้วยครับ เอาล่ะสิ

“ชูว์ ไม่เอาไม่ร้อง เดี๋ยวพ่อเบิ้ลพาไปเดินทะเลนะ”

“แงๆๆๆๆ”มีเหรอจะฟังครับ จะไถลตัวลงอย่างเดียว ผมเดินตามไป ร้องทั้งพี่ทั้งน้องเลยครับ เฮ้อ พี่เบิ้ลเดินพาออกมาที่ทะเลแล้วเจ้าตัวเล็กยังไม่ยอมหยุดร้อง จนผมต้องไปขออุ้มด้วยแขนซ้ายขวา

“จุ๊ๆๆ ไม่เอา ไม่ร้อง เดี๋ยวพ่อพาเดินไปดูปูตัวใหญ่ๆดีไหม”หาเรื่องหลอกเด็กไว้ก่อนครับ เจ้าตัวเล็กร้องชี้ไปที่ห่วงยางอย่างเดียวเลยครับ แต่เจ้าลูกชายตัวดียังร้องงอแงไม่ยอมครับ ผมเลยต้องพาเดินชี้นกชี้ไม้ ชี้ไปที่ทะเลบ้างอะไรบ้าง กว่าจะหยุดร้องไห้นี่ร่วมชั่วโมง บอกแล้วอย่าให้พี่แกงอแงใส่ นานๆมาทีนี่จัดเต็ม

“ยิ้มหล่อก่อนสิ ยิ้มมมมมมม”

“อือ”เจ้าลูกชายทำหน้างงๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา จะเช็ดให้มือก็ไม่ว่าง เลยวางถูกบนตักทั้ง ๒ คนแล้วเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อย

“หล่อแล้ว ลูกพ่อหลอแล้วเว้ย”ผมยิ้มให้ลูกชาย เจ้าตัวเล็กลงเดินบนพื้นทรายเตาะแตะ แต่ไม่กล้าลงทะเล ผมก็นั่งชวนเล่น มีคนเดินไปมายิ้มให้ด้วย ผมก็ยิ้มกลับ ลูกชายเล่นดินเล่นทรายจนพอใจครับ แล้วแม่ผมจึงตามมาเจอ

“พาลูกมาซะไกลเชียว แม่โทรหาก็ไม่รับอีก”

“ไม่ได้เอามือถือมาอ่ะแม่”มาตัวเปล่า เสื้อก็ถอดเปลือยหน้าอก ใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวอยู่เนี่ย

“พาพ่อมาเที่ยวเล่นหรอลูก หืม”แม่ผมลูบหัวเจ้าเด็กแสบ ๒ ตัว แสบสมชื่อจริงๆ

“อ๊ะ”เจ้าแสบชี้ไปที่ทะเล ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ยยยย นั่งกล่อมลูกอยู่อีกครู่หนึ่งจึงพาเดินกลับไปที่โรงแรม ก็ไกลเหมือนกันนะครับ เล่นเอาซะหอบเลยทีเดียว ทีแรกก็คิดว่าจะนั่งรถกลับ แต่อยากเดิน พอเดินเข้าจริงก็หอบเหมือนกันนะครับ


มาถึงโรงแรมไอ้ภีมกับพี่น้องตัวป่วนก็ทำหน้าจ๋อยๆครับ คงจะโดนพี่เบิ้ลดุไปเยอะเลยมั้ง ปกติพี่เบิ้ลนานๆจะดุลูกชายทีนะครับ เพราะถือว่าเรามีอะไรเราคุยกันก่อน เคารพทุกสิทธิทุกเสียงภายในบ้าน มีอะไรคุยกัน ทำความเข้าใจกัน และพยายามไม่ปิดบังเรื่องที่ทางบ้านควรจะรู้ พี่น้องภูมิ ภีมก็ดีครับ พูดง่าย แต่บางครั้งก็มีดื้อ มีซน มีความคิดแบบแปลกๆ จนพี่เบิ้ลต้องดุในบางครั้ง พี่เบิ้ลไม่ได้ปิดกั้นทางความคิดแต่จะเป็นคนชี้แจงหรือถามจนกว่าความคิดเหล่านั้นมันตกผลึกจริงๆ คนผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขาย่อมรู้อะไรดีไม่ดีกว่าพวกเรารุ่นหลังๆ แต่กับบางคนก็แก่ตัวเปล่า ก็อย่าไปว่าเขา ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองทุกคน ไม่มีใครเด่นกว่า ไม่มีใครด้อยกว่า เพราะจุดสุดท้ายก็แค่ที่นอนกว้างศอกยาววามีฝาที่ไม่สามารถส่งชิงโชคได้ มันก็แค่นี้

“ขอโทษนะอา ผมมันดื้อเอง”ไอ้ภีมยกมือไหว้ผม ผมก็พยักหน้ารับไว้ไม่ได้ อุ้มลูกอยู่

“บี”เจ้าแสบเรียกชื่อพี่ชายแล้วโผเข้าใส่ เด็กหนอเด็ก นี่แหละเขาเรียกว่าเด็กครับ ใสๆ

“ครับผม พาพ่อไปเดินเที่ยวมาเหรอ หืม”ไอ้ภีมรับเจ้าแสบไปอุ้ม ส่วนเจ้าซ่ากอดคอผมทำหน้าเพลียๆ

“บำๆ”เจ้าแสบชี้มาที่ผม

“พ่อบอมบ์ จะให้พ่ออุ้มเหรอ”

“อ๊า”เจ้าแสบร้องส่งเสียงดัง จากนั้นก็คิกคักกันตามประสาที่น้อง ไม่ค่อยอยากให้เรียกพี่สักเท่าไหร่ เพราะดูจากสภาพหน้านี่มันรุ่นพ่อชัดๆ ฮ่าๆๆๆ

เจ้าแสบกับเจ้าซ่าถูกพาไปเที่ยวเล่นอีกที่หนึ่ง โดยมีผู้ใหญ่ตามไปดูแลอีกที ส่วนผมก็มานั่งพักผ่อน มองชายหาด พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว เย็นนี้เราคงจะมีปาร์ตี้ปิ้งย่างอาหารทะเล ใครใคร่กินแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมก็คงว่ากันอีกที

“พร้อมกันยังครับ ถ้าพร้อมก็กินกันเลยนะ”ไอ้ตั้มเป็นคนพูดเปิดงาน ปาร์ตี้มื้อเย็นมื้อนี้มันก็คงเป็นคนเลี้ยงเหมือนเดิมครับ ใจใหญ่จริงเพื่อนกู เมื่อถึงเวลากิน ก็ถึงเวลากวนของลูกชาย เห็นพ่อกินข้าวไม่ได้ต้องมากวนพ่อตลอด

“จะกินอะไรลูก”เจ้าตัวเล็กนั่งตักผมแล้วชะเง้อหน้ามองคนนู้นทีคนนี้ที มีพี่ๆมาคอยบริการปิ้งย่าง ลูกชายตัวดีนั่งนิ่งๆบนเก้าอี้ ส่วนอีกคนนั่งตักพ่อ กะว่าพ่อไม่ต้องลุกเดี๋ยวมีคนบริการ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้นครับ ผมไม่ได้ลุกไปไหนเลย มีคนหยิบนั่นหยิบนี่มาให้ตลอด

“บี”เจ้าตัวแสบร้องเสียงดัง ทำเอาทุกคนหันมามอง ไอ้ภีมรีบแจ้นมาหาทันที

“ไงตัวเล็ก อยากกินอะไร”

“ไม่ต้องอุ้มน้องพาไปแถวเตานะภีม ให้น้องอยู่ตรงนี้แหละ”พี่ภารีบดักคอไอ้ภีมก่อน

“ครับแม่ แม่ก็ จะกลัวอะไร”ไอ้ภีมยังต่อล้อต่อเถียง

“อย่าให้แม่ต้องเป็นคนพูดมากนะภีม แม่ไม่ชอบ เราโตแล้ว คุยกันดีๆ ลูกควรจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะภีม”

“หูยแม่ ไม่เห็นต้องดุกันเลย”ไอ้ภีมรีบคุกเข่าเข้าไปกอดเอวพี่ภาแล้วซุกหัวที่หน้าท้อง

“มีดดาบกว่าจะคมกล้าเขาต้องตีแล้วตีอีก คนเรากว่าจะโตก็ต้องดุบ้างสอนบ้าง เป็นผู้ใหญ่น่ะไม่ใช่เป็นแต่ตัว ความคิดความอ่าน การมองโลกก็ต้องโตตามไปด้วย แม่ไม่อยากจะพูดสอนตอนกินข้าวกินปลาแบบนี้นะภีม มันไม่เหมาะ”

“ครับแม่ ไม่เถียงแม่แล้ว แม่ดุ เล่นกับน้องสนุกกว่า จริงไหมแสบซ่า”

“บู”เจ้าซ่าทำปากจู๋ใส่ทำเอาไอ้ภีมขำกลิ้งเลยครับ

เราสนุกกับงานปาร์ตี้ครั้งนี้มาก ไม่มีแอลกอฮอล์มาเจือปนแม้แต่นิดเดียวเพราะผมก็ไม่กิน พี่เบิ้ลและผู้ใหญ่ท่านอื่นๆก็ไม่มีใครกิน อีกอย่างคือมีลูกชายตัวแสบ ๒ ลิงที่นั่งเกาะหนึบอยู่กับผม แม่ผมเลยสั่งห้าม แต่ก็ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด แค่บอกว่าใครกินเหล้าก็อย่ามาใกล้ให้น้องได้กลิ่น เดี๋ยวน้องจำกลิ่นเหล้าได้ มันเป็นการเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทุกคนเลยพร้อมใจกันกินปิ้งย่างกันอย่างเดียวครับ ก็ไม่เห็นมีใครบ่นด้วยนะ ลองบ่นดูครับพี่สะใภ้ผมเล่นงานกันทุกคนแน่นอน

“อิ่มแล้วเหรอพี่”ผมแอบทิ้งลูกเดินมานั่งเงียบๆข้างๆพี่ติ

“อือ พี่กินได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แล้วเราล่ะ ไม่กินต่อเหรอ พี่เห็นไม่ค่อยจะได้กินอะไรกับเขาเลยนี่”

“แฮะๆ กินพี่ แค่ไม่ได้ลุกเท่านั้นเอง ดูลูกชายพี่สิ ง่วนอยู่แต่กับหน้าเตา”ผมมองไปที่หมวดบูมซึ่งพี่แกมีความสุขมาก ยืนกินหน้าเตาเลยทีเดียว ที่จริงก็มีพนักงานมาคอยบริการปิ้งย่างให้นะครับ แตพี่แกไม่ทันใจ กว่าจะหั่นจะแกะได้ วัยรุ่นใจร้อนก็งี้เลยไปยืนหน้าเตาหน้ามันเชียวครับ

“เขาชอบอาหารทะเลน่ะ ยิ่งมาเจอของสดๆแบบนี้ก็ของชอบเลยทีเดียวล่ะ คนอื่นไม่สนใจทั้งนั้น กินลูกเดียว”

“ดูท่าจะจริงนะพี่”

“เออ แล้วเราล่ะ เป็นไงบ้าง กับลูกชายพี่น่ะ”

“ก็พี่ว่าอะไรไหม คือผมก็กุ๊กกิ๊กกับลูกของพี่มาพักใหญ่ๆแล้วล่ะครับ”พี่ติตบมาที่ไหล่ผมเบาๆ

“เฮ้อ บอมบ์ พี่ก็ไม่ได้เห็นด้วยหรอกนะที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้”พี่ติถอนหายใจ ผมหันไปมองหน้าด้วยใจระทึก

“ครับ”

“คือ พี่เองก็มีความหวังกับลูกชายของพี่นะ ว่าเขาควรจะเดินทางไปในทิศทางไหน เราก็สนิทกันมานานด้วยนะบอมบ์ พี่คิดว่าบอมบ์มองอนาคตของน้องกับลูกชายพี่ยังไง”

“ก็ คือ ผมก็ไม่รู้สิพี่ ผมไม่เคยมองอนาคตว่าต้องไปยังไง ผมมองแค่ว่าทุกวันนี้ เรามีใจให้กัน ก็เพียงพอ”

“บอมบ์ น้องคิดดีแล้วใช่ไหม มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ พี่ว่าบอมบ์เป็นผู้ใหญ่ มองอะไรได้หลายอย่าง และพี่ว่าบอมบ์ก็ควรที่จะคิดอะไรได้ในอีกหลายแง่มุม”

“พี่ไม่เห็นด้วยกับการคบกันของผมกับหมวดบูมเหรอพี่”

“บอมบ์ พ่อแม่ก็อยากให้ลูกชายของตนเดินทางไปในทางที่ถูกที่ควรนะ ไม่มีใครที่จะหน้าชื่นตาบาน ยิ่งเราอยู่ในวงการทหารด้วย การคบกันแบบนี้ โอเค คน ๒ คนอ่ะมันเข้าใจกัน แต่คนอื่นรอบข้างเขาจะเข้าใจกับเราด้วยหรือเปล่า บอมบ์คิดดีแล้วเหรอ?”

“พี่ติครับ ผมขอพูดจากใจผมแล้วกันนะครับ คือผมคิดว่าผมใคร่ครวญอะไรหลายๆอย่างมาพอสมควรแล้ว ผมอาจจะเห็นแก่ตัวที่ต้องบอกกับพี่ว่า ผมกับลูกชายพี่เรารักกัน ผมอาจจะเห็นแก่ได้ที่คบกันโดยที่ในสังคมยังมีอะไรที่เราไม่คาดฝันอีกเยอะ แต่ผมก็คิดว่าทุกอย่างมันผ่านไปได้ และผ่านไปได้ด้วยดี ความรัก การคบหาดูใจกัน โอเคว่าสังคมเขายอมรับในเรื่องของหนุ่มสาว หญิงชายกันมากกว่าที่จะเป็นคู่ชายด้วยกันเอง แต่ผมก็คิดว่า ความรักถึงแม้ในอยู่ในรูปแบบไหน มันก็คงเป็นความรัก”

“อืม พี่ก็เข้าใจนะ แต่พี่คิดว่า เราควรจะเดินทางให้ถูกต้องมากกว่าถูกใจไหม เรื่องที่เราถูกใจใช่ว่าจะถูกต้อง เรื่องที่ถูกต้องก็ใช่ว่าจะถูกใจเรา บอมบ์มองคนรอบข้างเป็นไง”

“คนรอบข้างผมคิดว่า ถ้าคนใกล้ตัวเราเข้าใจในตัวเรา คนอื่นที่ไกลตัวเรา เราก็ไม่ต้องไปแคร์ ที่เรากลัว เพราะเรากลัวคนไกลจะติฉินนินทาว่าร้ายเราต่างๆ แต่เราไม่เคยกลัวคนใกล้ตัวเรา ตอนนี้พี่ๆ แม่ผมเอง และเพื่อนที่ใกล้ชิดผม ทุกคนก็เข้าใจว่ามันเป็นยังไง ผมต้องขอโทษพี่ด้วยนะครับถ้ามันทำให้พี่ผิดหวังในตัวลูกชายของพี่ พี่ช่วยบอกผมหน่อยว่าผมควรทำยังไง”

พี่ติเงียบไปพักใหญ่ ผมเองก็นั่งมองทุกคนกำลังสนุกสนาน นี่เรากำลังทำลายชีวิตลูกชายของเขาหรือเปล่า มันอาจจะใช่สำหรับเรา เราคิดว่าถูกต้อง แต่เราลืมนึกถึงสิ่งสำคัญ โอเคว่าแม่ผมยอมรับไปแล้ว แต่อีกฝ่ายเขาไม่ยอมรับ เราควรจะดันทุรังต่อไปหรือไม่ ความรักเป็นเรื่องของคน ๒ คน แต่อย่าลืมว่ามีคนหลายคนที่ใกล้ชิดที่เราไม่ควรมองข้าม

“บอมบ์”พี่ติเรียกผมเสียงเบา

“ครับ”ผมหันไปมองด้วยใจที่ลุ้นระทึก เขาจะว่าอะไรผมหรือเปล่า จะแตกหักหรือจะเดินหน้าต่อไป

“พี่ฝากลูกชายพี่ด้วยนะ”พี่ติวางมือมาที่หลังมือผมแล้วเอานิ้วประสาน พี่ติไม่ได้มองหน้าผม แต่มองไปด้านหน้า มองลูกชายที่กำลังมีความสุขกับอาหารการกิน ผมมองหน้าพี่ติด้วยความตะลึงใจ

“ครับพี่ ผมรับปากครับ”

“อืม”พี่ติพยักหน้าแล้วก็ลุกเดินออกไป ผมไม่รู้พี่ติคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ตอนนี้ทุกอย่างราบรื่นดีแล้ว พ่อกับแม่ของผู้หมวดโอเคกับการคบหาในครั้งนี้ ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก ใครหลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ผมยอมรับถ้าในสายตาของคนๆนั้นไม่เหมาะสม แต่ในเมื่อคนรอบข้างของผมเขายอมรับ ในสิ่งที่พวกผมเป็นอยู่ ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ญาติเรา พี่น้องเรา เขาโอเคแล้ว คนอื่นก็คือคนอื่น คนที่สำคัญคือคนรอบข้าง หรือคนอื่นอาจจะยินดีด้วย ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยเราเห็นคุณค่า หรือแม้มันอาจจะด้อยค่าหรือมันล้ำค่าในสายตาของใครต่อใคร


ดึกสงัดเรามานั่งเรียงรายกันที่ชายหาด ผู้ใหญ่เข้านอนกันหมดแล้วรวมทั้งลูกชายของผมก็หลับปุ๋ย ผม มหา อีหนู ๒ หมวด รวมทั้งฝรั่งหัวทองหมอยยองมานั่งรับลงเรียงกันเป็นหน้าตับ พรุ่งนี้บางจะมีคนบางส่วนที่มีหน้าที่ต้องทำจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพ

“คือเราจะมาสวิงกิ้งกันที่ชายหาดเหรอ”ฝรั่งเป็นคนถามหลังจากที่พวกเราเงียบมากันมานพอสมควร

“พี่เจิด คนบ้า คิดอะไรอกุศล แบบนี้หนูก็รับไม่อั้นน่ะสิ สงสารหนูบ้าง”อีหนูตีไหล่ผัวฝรั่งของมัน ตกลงมันจะติหรือจะยังไงกันแน่

“กูว่ามึงหนักกว่าคนอื่นนะหนู”ไอ้มหาจิ้มนิ้วไปที่หน้าอกอีหนู

“ฮ่าๆๆๆ ก็แหม หนุ่มหล่อทั้ง ๕ กับเกย์ริมหาด มันน่าคิดนี่นา”

“ฝรั่ง พาเดินไปพาดบ่าที่หน้าโขดหินแถวนู้นสิ”ผมชี้ไปที่มืดๆ

“ตรงนี้ก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ”แล้วก็พากันหัวเราะกันทั้งวง

“ไปละนะ ไปรับลมก่อน”อีหนูจูงมือกับฝรั่งไปเดินรับลมยามค่ำคืน ผมมองตามคล้อยหลัง จนทั้งคู่หายไปกับความมืด

“มานั่งคิดไปเราเหมือนเด็กเอาแต่ใจเนอะ”ผมเปรยขึ้นมาเบาๆ

“หึหึ มึงไม่ดีใจเหรอวะบอมบ์”ไอ้มหาหัวเราะในลำคอ

“ก็ดีใจนะ แต่ถ้าคิดอีกมุมหนึ่ง เราก็เหมือนเด็กเอาแต่ใจ”

“เอาน่า เราตัดสินใจที่จะเดินทางกันแบบนี้แล้ว ความรู้สึกต่างๆของเราไม่สามารถที่จะย้อนไปได้แล้ว มีแต่ทางที่เราจะเดินไปข้างหน้า บุกป่าฝ่าดงกันอย่างเดียว เราผ่านกันมาพอสมควรแล้วละบอมบ์”ไอ้มหามองหน้าผม

“เออ กูก็คิดอีกมุมหนึ่ง ขอโทษนะผู้หมวดที่ผมต้องพาผู้หมวดมาเดินทางสายนี้”

“คิดมากกว่ากูอีกนะเนี่ย”หมวดบูมลูบเหม่งผม

“เออ คิดอะไรมากมายวะบอมบ์ ไม่มีอะไรที่ถูกใจใครคนทั้งโลกและไม่มีอะไรที่จะผิดใจคนทั้งโลก เรามองกันมุมไหน เรามองในแง่ดีหรือมองในแง่เสีย เรามองด้านมืดหรือเรามองกันด้านสว่าง เรามองกันด้านไหน โลกก็เป็นแบบนี้ มันเป็นของมันแบบนี้ วุ่นวายของมัน แต่เราก็ต้องอยู่กับมัน อยู่ให้รอด บนโลกใบนี้ ใครมองเรายังไงก็ช่างเขาเถอะ เรามีอะไรที่จะต้องทำมากกว่าที่จะมานั่งมองคนอื่นเขาคิดดีหรือไม่ดีกับเรา”หมวดเต้ยพูดยาว ซึมซับแนวคิดจากไอ้มหาไปเยอะแน่ๆเลย

“อืม ก็นิดหนึ่งว่ะ แต่กูก็โอเคนะ ขอบคุณที่เข้าใจกัน”ผมจับมือทุกๆคน

บางครั้งมันก็อาจจะมีความคิดที่เราคิดอีกมุมหนึ่งซึ่งมันมีประเด็นที่ควรจะใส่ใจและพิจารณาไปกับมัน เราอาจจะเป๋ไปกับมันบ้างในบางครั้ง แต่ก็อย่าลืมจุดยืนของเรา จุดยืนที่ทำให้เราต้องฟันฝ่า จุดยืนที่ทำให้เราต้องเดินทางกันต่อไป พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร มันขึ้นอยู่กับวันนี้เราทำอะไร เราจะเดินเคียงข้างกัน เดินไปด้วยกัน..........ความรัก
     

 


           

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ลุ้นแทบแย่ คิดว่าพี่ติพ่อหมวดบูมจะโหดซะแล้ววว.  :katai1:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เย้ พ่อตารับรู้แล้วววว

 :mc4: :mc4: :mc4:

ขอให้ทั้งคู่รักกันตลอดไป

ถือไม้เท้ายอดองกระบองยอดเพชร


ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ขอบคุณพี่ติที่อนุญาตให้คบกันนะ

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1038
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
พ่อหมวดบูมรับรู้แล้ว และยอมรับได้
ดูแลผู้หมวดดีๆนะบอมบ์
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
 พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้แล้วก็แต่งเลย.... :laugh:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ลุ้นแทบแย่ แต่ชอบการคุยกันทั้งของ พี่ติ กับบอมบ์มากเลยอ่ะ มันเป็นเองของพื้นฐานของเหตุผล ที่ต้องคิดไตร่ตรองดีๆ แค่คำว่ารักคำเดียว มันอยู่ไม่ได้อ่ะ เพราะเราไม่ใช่ตัวคนเดียว ชอบบอมบ์ ที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่แบบนี้

ออฟไลน์ hormonesyj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
ไม่อยากให้มีดราม่าเลย 
พ่อก็รับรู้แล้ว :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ AMMY★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ผ่านด่านพ่อบูมได้แล้ว
ทีนี้ก็เหลือเรื่องแม่ชาลีสินะ


 :pig4:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
พ่อผู้หมวดเข้าใจจริงๆด้วย

เพราะเค้ารู้จักตัวตนของทั้งลูกตัวเองและพี่บอมบ์ดีว่า เป็นยังไง

พ่อแม่ คนใกล้ชิด ยอมรับได้ เราก็ไม่ต้องไปสนใครแล้ว

จะทำไรก็ให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้

ยังสงสัยแม่ของชาลีอยู่ ใครกัน?

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๗๒ หวนคืน

“ตัวเล็ก อย่าซนกับคุณย่านะ”

“บำๆ”

ผมลูบหัวเหม่งๆของลูกชายทั้ง ๒ คนแล้วก้มลงจูบ เจ้าตัวเล็กทำหน้าชื่นมื่นมีความสุข คิดถึงลูกมากเลยครับไม่อยากจากลูกไป นี่สินะที่เขาเรียกว่าความรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่ มันยิ่งใหญ่แบบนี้สินะ เจ้าตัวเล็กไม่มีอาการงอแงแต่อย่างใด ผมไหว้และกอดแม่แน่นๆก่อนจะออกเดินทางกลับมาทำงานที่กองร้อยต่อ จากมาด้วยความอาลัยอาวรณ์ ตลอดเวลา ๓ เดือนที่อยู่กับลูกผมผูกพันมาก เฮ้อ ผมโบกมือลาเจ้าลูกชายก่อนจะปิดประตูรถแล้วถอยออกจากบ้านก่อนจะมุ่งตรงมาที่เมืองหลวง

ระหว่างทางที่แวะผมก็โทรหาแม่ตลอดว่าลูกชายเป็นไงบ้าง เจ้าตัวแสบทั้งคู่ของผมยังปกติร่าเริง กินนมแล้วนอนหลับอุตุอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน เฮ้อ คิดถึงลูกมากเลยครับ คุยกับแม่พอเป็นให้หายคิดถึงลูกแล้วรีบเดินทางต่อไป

มาถึงกรุงเทพก็เกือบจะ ๔ โมงเย็นแล้วผมเอารถไปจอดที่บ้านพี่เบิ้ล ให้ไอ้ภูมิมันเอาไปใช้ ไอ้ภูมิยังไม่มีรถเป็นของตัวเองครับ ที่จริงมันก็มีเงินเยอะนะแต่มันไม่ยอมซื้อ เอาของผมไปใช้ตลอด แต่ผมก็ไม่ได้หวงของหรอกครับ ของอาหลานก็เป็นของคนในครอบครัว ใช้มันดีๆ ดูแลมันดีๆก็โอเคแล้วครับ

“น้องล่ะอา ไม่ได้พามาด้วยเหรอ”ไอ้ภูมิรีบถามหาเจ้าตัวเล็กทันทีที่ผมโผล่หน้าให้มันเห็น ไม่นึกไม่คิดว่ามันจะติดน้องขนาดนี้ นี่ถ้ามีลูกเป็นของตัวเองมว่าคงไม่ต้องเป็นอันทำงานทำการแน่เลย

“อยู่บ้านสิ ไม่ได้พามาด้วย”

“อ้าว ให้อยู่บ้านทำไม ทำไมไม่พามาอยู่นี่ อยู่นู้นย่าก็เหนื่อยอีก”

“ก็โทรไปคุยกับย่าของแกสิว่าอยากมาหรือไม่อยากมา”แม่ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบห่างจากบ้านสักเท่าไหร่ครับ ถ้าให้มาอยู่กรุงเทพสักสัปดาห์น่ะแม่ผมโอเคเลย แต่ให้มาอยู่นานๆ แม่ผมบ่นว่าเบื่อ เพราะอยู่กรุงเทพไม่เหมือนกับอยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างจังหวัดได้พบปะคนนั้นคนนี้ เพื่อนบ้านร้านตลาดพูดคุยไปทำบุญทำทานที่วัดใกล้บ้าน อีกอย่างแม่ผมไม่อยากทิ้งบ้านไปไหนนาน เพราะของสำคัญๆเยอะมากเลยครับ นี่ช่วงที่มาดูผมหลังจากที่ผมนอนโรงบาลพอแม่ผมอยู่ได้เกือบสัปดาห์แม่ก็บอกว่าอยากกลับบ้าน ดีที่พี่สะใภ้ผมขอไว้ ก็เลยอยู่นานจนไปถึงได้ไปเที่ยวทะเลกัน



“อ้าว มานี่ได้ไง ไหนว่ามาถึงตอนเช้า”หมวดบูมทำหน้าแปลกใจที่เห็นผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องของพี่แก

“ใครบอกว่ามาถึงตอนเช้า กอดหน่อยดิ คิดถึง”ผมดึงผู้หมวดมากอดแน่นๆ

“ไม่เหม็นเหรอ วันนี้เหงื่อท่วมตัวเลยนะ น้ำท่ายังไม่ได้อาบด้วย”

“จะทักว่าเหม็นทำไม เมื่อกี้ไม่เหม็น พอทักแล้วเหม็นทันที เปรี้ยวซะด้วย”เหม็นแต่ก็ยังกอดไว้เหมือนเดิมครับ ผู้หมวดใส่ชุดพราง ถอดคอมแบทเรียบร้อยแล้ว รู้สึกว่ากลิ่นเบื้องล่างของพี่แกจะโชยมาเบาๆนะครับ “ไปอาบน้ำเถอะ ชักอยากจะอ้วกละ ฮ่าๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆ แปบนึงนะ”

“อย่าช้าล่ะ”

นั่งรอผู้หมวดอาบน้ำครึ่งชั่วโมง พี่แกออกมาหน้าตาสดใส นุ่งผ้าขนหนูแล้วเช็ดตัวต่อหน้าต่อตาผม เห็นแล้วก็มีอารมณ์บ้างนิดหน่อย ฮ่าๆๆ ผู้หมวดใส่กางเกงในแล้วเดินไปเดินมา ถามว่าไอ้บอมบ์ทนได้ไหม

“บูม ทำไมต้องยั่วพี่ด้วย”

“ยั่วบ้าบออะไรวะ กำลังหาเสื้อผ้าใส่อยู่เนี่ย”ผมกอดผู้หมวดที่กำลังทำหน้าตาขมวดมุ่นอยู่ แต่มีเหรอกูจะปล่อย ผมประกบจูบแล้วลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง อดอยากปากแห้งมาหลายวัน ขอเถอะที่รัก

“ขอนะ ครั้งหนึ่งแล้วออกไปกินข้าว แม่ง โคตรอยากเลยว่ะ”ผมมองตาหมวดบูม

“สัส วันนี้เมื่อยขา”

“ไม่ต้องทำอะไรมาก นอนนิ่งๆแล้วมันจะดีเอง”

“ไว้ใจได้เหรอวะ”

“นะครับที่รัก”หมวดบูมมีสีหน้าลังเลว่าจะเอายังไงดี ขอเถอะนะ พี่อยากมากเลย หึหึ ผมไม่รอคำตอบให้เสียเวลาเปล่า จับมัดมือชกซะเลย คลุกคลีตีโมงปล้ำจูบ ปล้ำกอด ซุกไซร้ไปที่ซอกคอ แผ่นหลัง และท่าที่ผู้หมวดชอบ



“เอาออกได้แล้วมั้งบอมบ์ อย่าแกล้งกันดิวะ”เสร็จภารกิจอาหารมื้อเย็น จานนี้จานเด็ดซะด้วย ผมมองหน้าหมวดบูมก้มจูบทีหนึ่งก่อนจะถอดอวัยวะออกจากช่องทางเบื้องหลัง แล้วถอดถุงยางจัดการให้เรียบร้อย จากนั้นก็พากันไปอาบน้ำอีกครั้ง

“ไปกินข้าวกัน”

“คือควรจะชวนตั้งแต่เจอหน้ากันแล้วใช่ป่ะ นี่มันกี่โมงแล้ววะ ๓ ทุ่มได้แล้วมั้งเนี่ย รีบทำรีบเสร็จก็ไม่ได้เว้ย แล้วพรุ่งนี้จะวิ่งไหวไหมกู ใกล้จะไปฝึกแล้วด้วย”

“เฮ้อ ทำไมต้องไปฝึกด้วยครับผู้หมวด อยู่เฉยๆไม่ได้เหรอ”

“ตอนนี้มีแรงอะไรที่เราทำได้ก็รีบทำไปก่อน ไปฝึกหลักสูตรนี้ผ่าน ก็ว่าจะพักสัก ๒-๓ ปีมั้ง”

“ก็เห็นฝึกมาตั้งเยอะแล้วนี่ครับ ทำไมต้องไปฝึกช่วงที่ผมอยู่กองร้อยด้วยล่ะ คิดถึงนะ อยากเจอหน้าทุกวัน”

“หูย ปากหวาน กลับมาจากฝึกเราก็ได้เจอหน้ากันอยู่แล้วนี่ ช่วงนี้มาแปลกเว้ยบอมบ์ งอแงเหมือนเด็กเลย ติดมาจากลูกป่ะวะ เออ ว่าแต่ทำไมไม่พาแสบซ่ามาอยู่นี่ซะละ อ้อนๆแม่หน่อยก็ได้นะ พามาอยู่นี่เวลาคิดถึงก็ขอลาผู้กองกลับไปหา”

“แม่ผมไม่อยากอยู่กรุงเทพครับ ทรัพย์สมบัติที่บ้านเยอะ กลัวขโมยขโจรน่ะ ป่ะๆ เดี๋ยวไม่ได้กินข้าวกินปลากันพอดี”ลงมาด้านล่างของบ้าน บ้านนี้ไม่ใช่บ้านของพี่ตินะครับ เป็นบ้านอีกหลังหนึ่งของผู้หมวด ไม่ได้อยู่หมู่บ้านเดียวกับหมวดเต้ยด้วยครับ พี่แกมีหลายบ้านซะเหลือเกิน เห็นว่าแฟลตในค่ายทหารพี่แกก็สละให้คนอื่นไปอยู่แล้วนะครับเพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่แฟลต

ขับรถออกมาหาอะไรกินด้านนอก ช่วงเวลานี้ก็ ๓ ทุ่มแล้วครับ แต่โชคดีที่ยังมีร้านรวงเปิดขายข้าวปลาอาหารอยู่บ้าง เราเลยมาฝากท้องกับร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่ง สั่งอาหารง่ายๆมากินกันแล้วพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย ผมต้องกลับเข้ากองพันพรุ่งนี้ในช่วงเช้าพร้อมกับผู้หมวด พอกินอิ่มแล้วจึงโดนลากมาตัดผมโกนหนวดอีกรอบให้มันถูกระเบียบทหาร

“ช่วงนี้กองพันงานเยอะนะบอมบ์ กลับเข้าไปอาจจะโดนเวรโดนอะไรบ้างนะ”

“มันก็ต้องโดนอยู่แล้วครับผู้หมวด ถ้าผมไม่คิดถึงเรื่องนี้ผมคงไม่กลับหรอก ผมก็กลับมาทำหน้าที่ของผมให้สมบูรณ์”

“ไม่บอกลุงเบิ้ลว่าจะขออยู่บ้านล่ะ”

“ผมพูดไปหลายครั้งแล้วนะครับ ผมไม่อยากเอาเปรียบใคร ผมจับโดนใบแดงมาเป็นทหาร ผมก็ต้องมาทำหน้าที่ของทหารให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ผมไม่อยากเป็นขี้ปากใครว่าเด็กเส้น แค่ผมสนิทกับผู้หมวดที่ผ่านๆมาคนเขาก็พูดว่าผมต่างๆนานา นี่ยิ่งมารู้ว่าผมเป็นน้องชายนายพล เขาก็คงจะพูดไม่ดีกับผม คนเรานะผู้หมวดเวลามีอำนาจเราก็อย่าคิดว่าเราเด่นกว่าใครหรือเรามีอภิสิทธิ์กว่าใครอื่น ทุกคนเท่าเทียมกัน ผมไม่เอาเปรียบหรอก เอาเปรียบคนด้วยกันเองผมก็ไม่อยากจะเอาเปรียบ แล้วนี่มาเอาเปรียบแผ่นดิน มันบาปหนักนะผู้หมวด”

“อืม เหนื่อยหน่อยนะ”

“เหนื่อยไม่กลัวหรอกครับ กลัวแค่ไม่มีอะไรจะให้ผมทำนี่แหละ กลับบ้าน ขออีกครั้งได้ป่ะ”

“เมื่อกี้ไม่พอไงวะ พอเลยบอมบ์”

“หูยที่รัก พอผมเข้าไปในค่ายเราก็ไม่ได้มีโอกาสทำแบบนี้กันอีกแล้วนะครับ ผมก็คงได้แค่อาศัยมือแล้วก็คิดถึงหน้าผู้หมวดเวลาเสียว เฮ้อ เราคงได้แค่ชักว่าวในห้องน้ำสินะ”ผมซบหน้าลงที่พวงมาลัย อ้อนหน่อยครับ

“เดี๋ยวคิดอีกที”แสดงว่ามีโอกาส ฮ่าๆๆๆ


“เอาดาวไปติดด้วยไหมล่ะบอมบ์”ผู้หมวดแกแซวเล่นหลังจากที่ผมกำลังติดเครื่องหมายที่ชุดอ่อน ก็มีเครื่องหมายเหล่าอยู่ที่ปกคอด้านซ้าย ปกคอด้านขวาเป็นเครื่องหมายของหน่วยที่ผมสักกัดอยู่ จากนั้นบนหน้าอกจะมีเครื่องหมายสำคัญอยู่บนป้ายชื่อ ด้านซ้ายก็จะเป็นแพแถบครับ ผมติดของผมเสร็จผมก็ติดเครื่องหมายใส่ชุดอ่อนของผู้หมวด มีเครื่องหมายติดที่หน้าอกเยอะดีครับ ที่จริงมีเยอะกว่านี้แต่แกติดแค่ไม่กี่เครื่องหมายครับ และก็มีดาวบนบ่า ตอนนี้มีข้างละ ๒ ดาวแล้วนะครับ เป็นว่าที่ร้อยโท อีกไม่กี่เดือนคงจะได้เป็นร้อยโทเต็มตัวล่ะมั้ง

“ของผู้หมวดติดดาว ๕ แฉกแบบนี้ ส่วนผมคงติดได้แค่ดาวเทียมล่ะมั้งครับ ฮ่าๆๆ”

“เออ ก็คิดไปนั่น ทำไมไม่อยากเป็นทหารอ่ะบอมบ์ ลุงเบิ้ลก็เป็น ลุงน้อย ลุงนิด พี่ภูมิ พี่ภีม คนอื่นๆก็เป็นกันเกือบทั้งตระกูล ทำไมมึงไม่อยากเป็นวะ”

“ก็เคยไปสอบนะ ติดแล้วด้วยแต่ไม่เอาครับ ไม่รู้สิ ผมคิดว่าไม่ใช่แนวทางที่ผมชอบที่แท้จริง ผมเห็นพ่อเป็นนักรบผมก็ชอบนะ แต่รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุด ผมก็เลยเลือกที่จะมาดิ้นรนเรียนมัธยมปลายที่กรุงเทพ มาทำงานสารพัดอย่าง เสิร์ฟบ้าง ล้างจาน เป็นเด็กในสนามกอล์ฟ ก็ทำหลายๆอย่าง รู้สึกว่านี่แหละที่ผมชอบ ผมชอบทำงานแบบนี้ แล้วก็เอ็นท์เข้ามหาลัย ทำงาน หาช่องทางที่จะต่อยอดเงิน สนุกดีครับ อีกอย่าง ถ้าผมเป็นทหารผมคิดว่าผมคงไม่ได้มาเจอผู้หมวดแน่นอน”

“อืม ก็จริง เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว คนเราก็มีแนวทางเป็นของตัวเองเนอะ”

“รองเท้าจะขัดเองหรือให้ผมขัดให้”

“ขัดให้หน่อยดิ ได้ป่ะ”

“ไม่ปฏิเสธหรอก ขัดสองข้าง ข้างละยก ดีไหมครับ”

“งั้นขัดเองดีกว่า จะได้นอนหลับสบาย”

“ไปนั่งอยู่เฉยๆเลยไป หึหึ”ผมหยิบรองเท้าของผมมาลงกีวีทั้งซ้ายขวา จากนั้นก็เอาสำลีชุบน้ำ บีบเอาน้ำออกจนมันหมาดๆแล้วค่อยๆขัดรองเท้า ค่อยๆวนๆไปทีละนิดจนรองเท้าเริ่มเงาวับ อยู่ค่ายใครไม่ขัดรองเท้าให้เงานี่โดนลงโทษครับ เสื้อผ้าหน้าผมเหมือนกัน ใครผมยาว ใครมีหนวด ใครไม่กันจอน เล็บเลิบ เสื้อผ้ารีดหรือไม่รีด ต้องเนี๊ยบตั้งแต่การสวมหมวกไปจนถึงรองเท้าเลยครับ แต่ก็มีคนโดนแดกกันทุกวัน ผมก็มีบ้างบางครั้งครับไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ก็มีบ้างที่โดนลงโทษ เราผิดเราก็ยอมรับครับ การลงโทษก็จะวิดพื้นบ้าง พุ่งหลังบ้าง แต่ถ้าวันไหนหมู่อาร์ตเข้าเวร เขาจะตีครับ เอาไม้เรียวขนาดใหญ่กว่าหัวแม่มือ ฟาดโป้งๆ ไปหลายที ผมไม่เคยโดนเขาลงโทษครับเพราะผมจะมองหน้าเวลาเขาตรวจ แล้วเขาก็จะทำหน้าตาเฉยใส่ผม กลับไปนี่ไม่รู้ยังไง มองหน้ากันไม่ติดหรอกครับ

ขัดรองเท้าของตัวเองเสร็จแล้วก็มาขัดให้กับหมวดบูมต่อครับ ทั้งคอมแบทและคัทชู ส่วนหมวดบูมนั่งมองผมขัดแล้วชวนคุย ผมก็ไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างอ้างตัวว่าเป็นผัวแล้วไม่ทำอะไรเลยนะครับ ก็นะ จัดหนักเขาก่อนกินข้าวรอบหนึ่งแล้ว เอาใจแฟนหน่อยครับ เล็กๆน้อยๆก็ยังดีเพราะราตรีนี้อีกยาวไกล

“ให้กอดไหม”หลังจากเสร็จกิจกามอาบน้ำท่าเรียบร้อยแล้ว ห้องนอนก็อยู่ในสภาพที่เย็นฉ่ำท่ามกลางพฤษภาคใ เราแต่งตัวกันง่ายๆใส่เสื้อกล้ามกางเกงกีฬา กางเกงในไม่ต้องถามหาเพราะใส่นอนแล้วอึดอัด ผู้ชายเป็นแบบนี้กันหลายคน ไม่ค่อยชอบใส่กางเกงในนอนครับ ผมตะแคงเอามือเท้าแล้วมองหน้าหมวดบูมที่นอนแผ่บนที่นอนอย่างหมดแรง ก็นะ เมื่อกี้หลายท่าเสียเหลือเกิน ฮ่าๆๆ

“อืม อยากกอดก็กอด ไม่อยากกอดก็ไม่ต้องกอด”อารมณ์ไหน จับน้ำเสียงได้ว่าไม่ขุ่นเคือง แต่คำพูดที่พูดออกมา มันก็น่าฉงน

“อารมณ์ไหนวะ โกรธเหรอ”

“เปล่า ก็มันร้อนไง ถ้าอยากกอดก็ไม่ว่าอะไร ไม่กอดก็ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อกี้มากกว่ากอดแล้วนี่”ผู้หมวดอธิบาย ผมพยักหน้าตามไปด้วยจากนั้นก็ดับไฟในห้องจนมืดสนิทแล้วกอดผู้หมวดเบาๆ

“จุ๊บ ราตรีสวัสดิ์ครับผู้ฝึก”

“หึหึ อยากเป็นทหารใหม่เหรอ ไปลงหน่วยฝึกซะสิ”

“หูย เห็นแล้วเหนื่อยครับ คิดๆไปแล้วไม่นาเชื่อว่าผมจะทนมาได้ โดนแดกก็หนักกว่าคนอื่น เฮี้ยวกว่าคนอื่นอีก”

“เออ ก็ดีแล้ว เพราะแต่ละผลัดน่ะ โห เข้ามาบางทีนะเจอหนีหน่วยฝึกไป ใครเป็นผู้ฝึกนี่โดนสอบเครียดเลย นี่ตอนบูมฝึกผลัดของพี่บอมบ์นะ หวั่นใจมาก เพราะไหนจะตัวก็ใหญ่แถมใจถึงซะด้วย หน้าอินทร์หน้าพรหมก็ไม่สนใจทั้งนั้น ในใจตุ้มๆต่อมๆ กูจะฝึกผลัดนี้ได้ตลอดรอดฝั่งมั้ยวะ ฮ่าๆๆ”

“ถ้าผมเกิดบ้าจริงๆนะ ผมว่าค่ายแตกแน่เลย”

“เออดิ นี่ขนาดไม่บ้านะ ก็ยังป่วนกองพันได้ขนาดนี้ แล้วก็ไม่บอกทีแรกว่าเป็นใคร ไอ้เราก็จัดหนักซะทั้งมือทั้งตีน นี่มารู้ทีหลังก็หวั่นใจ เขาจะเอาเรื่องไหมวะ ยศของพ่อก็สู้ไม่ได้ซะด้วย ไหนจะแบ็คหลังที่เป็นญาติอีก หูย แต่ก็เนอะ ผ่านมาแล้ว ผ่านมาด้วยดีซะด้วย”หมวดบูมเอาขามาก่ายผมแล้วกอดตัวผมไว้

“ผมไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครหรอกครับ ยกเว้นว่าใครจะมาเป็นพิษเป็นภัยกับผมก่อน ผมทำเพราะผมปกป้องสิทธิของผม แต่กับผู้หมวด ผมโดนต่อยผมไม่กล้าต่อยกลับคืนหรอก เพราะอะไรรู้ป่ะ”

“กลัวหน้าบูมพังไงวะ”

“เปล่า หน้าพังก็พาไปทำหน้าใหม่ แต่ถ้าใจมันพังลงแล้วจะหาหมอมารักษามันคงยาก กูรักมึงนะไอ้หมวด”

“อืม เหมือนกันไอ้ยักษ์หน้ามึน”




ตี ๕ ครึ่งผมก็ลืมตาตื่นขึ้น มันตื่นเวลานี้จนติดเป็นนิสัยไปแล้วครับ ผมตื่นหมวดบูมก็ตื่นตามด้วย พี่แกกอดคอผมแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้ม ยั่วกูแต่เช้าอีกแล้ว ฮ่าๆๆ จากนั้นก็ลุงมากินน้ำอุ่น ๑ แก้วเข้าไปแปรงฟันแล้วจะขี้เยี่ยวอาบน้ำท่าก็ว่ากันไป ๖ โมง ๑๕ นาที ผมออกไปหาซื้อพวกกับข้าวกับปลามากิน ผมเป็นคนที่กินโจ๊กแล้วมันไม่อยู่ท้องสักเท่าไหร่ เลยจัดหนักกับข้าว ๓ อย่างและข้าวอีก มานั่งกินกับผู้หมวดในบ้าน ๒ คนแล้วก็แต่งตัวเรียบร้อย ใส่ชุดอ่อนเต็มยศ ผู้หมวดก็ใส่ชุดอ่อนดูสง่าผ่าเผย

“ถ้าผมไม่จีบผู้หมวด ผมว่าคงมีหลายๆคนชายตามองผู้หมวดจนแทบคอเคล็ดแน่เลย”

“ตอนนี้ก็มีนะ เด็กมหาลัยที่อยู่ในหมู่บ้านนี้อ่ะ เวลาบูมออกไปซื้อของกินก็มักจะมีคนมอง ทั้งชายทั้งหญิง ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยจะมีมากเท่านี้ หรือเพราะเราไม่สังเกตเองนะ เออ แล้วว่าแต่คนอื่น หัดดูตัวเองบ้างนะ ไอ้พ่อลูกอ่อนนี่เสน่ห์แรงนักเชียว ตอนไม่มีนี่แม้แต่หมาไม่อยากจะชายตามอง พอมีแฟนปั๊บ งงว่ะพี่บอมบ์”

“ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันก็เป็นกันหลายคนนะ ตอนเมียไม่มีทำไมไม่เจอ มาเจออีตอนมีเมียแล้ว ไอ้เราจะทิ้งของเก่าไปหาของใหม่ก็ใช่ว่าเป็นคาสโนว่าตัวพ่อ พอครั้นจะควบหลายคนหัวใจเรามีดวงเดียว เปิดให้ใครมาเช่าอยู่แล้วห้องหนึ่ง อีกสามห้องก็คงต้องเก็บไว้ทางบ้าน เก็บไว้ให้ลูก อีกห้องก็เก็บไว้ให้ตัวเอง เวลาที่ท้อแท้ก็ยังมีตัวเราเองที่จะดูแล สรุปคือ ผมรักผู้หมวดครับ”

“ฮ่าๆๆๆ แล้วก็พูดซะยาวเหยียดนะ”เวลาผู้หมวดยิ้มนี่หล่อนะครับ เป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจ

“ผู้หมวด โทรหาแม่ให้หน่อยสิครับ”ผมยื่นโทรศัพท์ให้ผู้หมวด พี่แกรีบจัดการโทรหาแม่ผมทันทีครับแล้วก็เปิดสียงคุยกันครับ ลูกชายผมยังร่าเริงปกติ วิ่งเล่นป่วนบ้านเย้วๆ ผมก็โอเคแล้วครับที่ลูกยังร่าเริงเป็นปกติ ส่วนผมเองนี่สิไม่ปกติเพราะคิดถึงลูก ฮ่าๆๆ

“นี่ถ้าโตคงจะป่วนน่าดูเลยนะบอมบ์”

“ใช่ ผมว่าคงวุ่นวายน่าดู”ผมพยักหน้าเห็นด้วย ป่วนก็ป่วนเถอะครับ ผมก็คงต้องรับมือกับลูกพอสมควร ต้องทำใจครับคนจะมีลูก ให้ลูกได้ดั่งใจคงเป็นไปไม่ได้ ขนาดเราเองเรายังไม่ได้ดั่งใจของพ่อแม่เลยครับ ลูกเราก็คงจะเหมือนกัน เราคงได้แค่บอกสอนในสิ่งที่สำคัญๆ คอยชี้แนะแนวทาง รีบๆโตนะไอ้เด็กดื้อของพ่อ

มาถึงกองพันก็ ๗ โมงเกือบจะครึ่งแล้วครับ เอารถมาจอดที่โรงรถ ผู้หมวดลงจากรถ พวกที่ทำความสะอาดอยู่ใกล้ๆทำความเคารพ ส่วนผมจัดการถือข้าวของของตัวเองด้วย ของผู้หมวดด้วย ทหารในกองร้อยสั่งตรงทำความเคารพ ผู้หมวดก็โค้งให้ตามธรรมเนียม มีคนเคารพเราเราก็ต้องแสดงความเคารพตอบ

มีเรื่องหนึ่งเด็กแถวบ้านมันเล่าให้ฟัง มันไปเป็นทหารครับ ฝึกจนอยู่กองร้อยทำการทำงานของกองร้อยแล้วละครับ แล้วก็มีนายสิบหน้าใหม่มาบรรจุ ด้วยความที่มันเป็นพลทหารก็ทำความเคารพนายสิบซึ่งยศสูงกว่า มันเล่าให้ผมฟังว่าเจอหน้าทุกครั้ง ทำความเคารพแต่นายสิบคนนั้นไม่สนใจแม้แต่จะพยักหน้าให้ คือเฉยเมยไปเลยน่ะครับ แล้วทีนี้พวกมันทนไม่ไหว หลายครั้งจัด วันหนึ่งครับทำความเคารพแล้วนายสิบคนนั้นยังเฉยเมยเหมือนเดิม ทีนี้ล่ะโดนเลยครับ ตีนเน้นๆถีบปึ้งไปทันทีจากนั้นก็คนละตั๊บสองตั๊บ จนนายสิบคนนั้นน่วมเลยครับ พวกมันก็ติดคุกไปตามระเบียบส่วนนายสิบคนนั้นก็ย้ายไปทำงานที่อื่น คิดว่าคงจะเข็ดครับ

เรื่องนี้ผมก็เคยหมั่นไส้รุ่นพี่ที่มหาลัยเหมือนกันครับ ผมยกมือไหว้แต่ทำเฉยเมย วันหลังผมไม่ยกมือไหว้ แล้วทีนี้กลับมาหาเรื่องผมว่าผมไม่มีสัมมาคาระ มาด่าผมต่อหน้าเพื่อน ผมเลยตอกกลับไปหนักพอสมควรครับ ผมไม่ได้ใช้กำลังนะ ผมพูดด้วยเหตุผล ผมไม่รู้นะว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง แต่สำหรับผม ผมคิดแบบนี้ เราอยากได้การปฏิบัติเช่นไรจากบุคคลอื่น เราก็ควรปฏิบัติกับบุคคลอื่นเช่นนั้น เราอยากให้คนอื่นดีกับเรา เราก็ควรดีกับคนอื่นก่อน มีคนไหว้ก็ต้องมีคนรับไหว้ เราอย่าโทษคนอื่นเสียจนลืมมองความประพฤติของตัวเราเอง

เอาของขึ้นไปเก็บในห้องผู้หมวดจากนั้นผมก็ไปยังที่นอนของผมครับ สภาพยังเหมือนเดิม เปิดตู้มาดูของทุกอย่างยังอยู่ครบเหมือนเดิม แสดงว่าไม่มีคนมาแตะต้องอะไรของผม ผมเอากระเป๋าใส่ในตู้แล้วออกไปหาผู้หมวดซึ่งอยู่ในห้องทำงานของพี่แก เช้าๆแบบนี้ทหารกำลังทำความสะอาดมีเสียงนกหวีดบ้างเล็กน้อย จนใกล้จะ ๘ โมงผู้กองเข้ากองร้อย ที่รู้เพราะได้ยินเสียงเป่านกหวีดแล้ววิ่งรายงานของสิบเวรนะครับ จนครู่หนึ่งผู้กองขึ้นมาด้านบน หมวดบูมออกมาทักทายครับ ผมก็ออกมาด้วยแนะนำตัวว่าเป็นใครอะไรยังไง

“อืม มีอะไรก็บอกพี่แล้วกันนะ เป็นกันเองนะบอมบ์”ผู้กองแตะที่ไหล่ผมเบาๆ ผมก็ยิ้ม ผู้กองคนนี้ชื่อไผ่ครับ สูงสัก ๑๗๕ ได้มั้ง เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับผู้กองเล็กที่ผมรู้จัก ดูท่าแล้วพี่แกคงจะใจดีครับ

ใกล้จะ ๘ โมงผมลงไปเคารพธงชาติบางคนเจอหน้าผมก็เข้ามาทักทาย บางคนก็อึ้งๆ ผมเข้าไปคุยกับแก๊งของผม

“พี่บอมบ์จะมาก็ไม่บอกก่อน”อีหนูเข้ามากอดแขนผม ตลอดเลยครับ แต่ผมไม่ถือ

“บอกตั้งนานแล้วเหอะว่าจะมากองร้อย แต่ไม่ได้บอกว่าวันไหนแค่นั้นเอง เลิกทำตัวตุ๊ดได้แล้วมั้งหนู เป็นทหารน่ะ แมนๆหน่อย”

“บ้า มาต่อยกันเลยไหม”อีหนูทำเสียงเข้มชูไม้ชูมือ ทำเอาผมขำพรืด

“ตบยุงให้ตายก่อนเหอะค่อยมาต่อยกูอ่ะ เป็นไงบ้างวะ ไอ้ ๔ ดอ”ผมทักีรุ่นน้อง ไอ้สภาพบุรุษ ๔ ด. ด่าน เด็ดดวงเดือน

“ก็โอเคนะพี่ ว่าแต่พี่เป็นไงบ้าง ตัวขาวขึ้นนะ”

“เออ ก็นั่งๆนอนๆ เลี้ยงลูก เอ้าเฮ้ย ใกล้ถึงเวลาแล้ว จัดแถวเว้ย”ผมพูดไม่ดังนักแต่ก็มีทหารมายืนจัดแถวเรียบร้อย จากนั้นผู้ช่วยสิบเวรซึ่งเป็นรุ่นพี่มายืนหน้าแถว พอใกล้เวลา สัญญาณเพลงดังขึ้นสั่งตามระเบียบพัก

“กองร้อยอาวุธเบาที่ ๑ เตรียมตัวเคารพธงชาติ”ผู้ช่วยสิบเวรกล่าวด้วยนำเสียงที่เข้มแข็ง “แถว”พอสั่งคำว่าแถวทหารจะสูดลมหายใจเข้าแรงๆให้ได้ยิน “ตรง”มือที่ไขว้หลังลดมาชิดกับลำตัวตรงตะเข็บกางเกง  เท้าซ้ายยกชิดอัดเข้ามากับเข้าขวา มีเสียงอัดของเท้าดังแป๊ก จากนั้นพวกเราก็ร้องเพลงชาติ แต่สัญญาณที่กองพันเปิดเป็นเสียงแตรครับ ร้องเพลงชาติจบก็สั่งตามระเบียบพัก จากนั้นก็สั่งแถวตรงแล้วสิบเวรสั่งพักแถว

“สวัสดีครับจ่า”พอพักแถวผมรีบเข้าไปทักจ่าวิน ทำท่าวันทยหัตถ์ด้วยกิริยาท่าทางที่เข้มแข็ง มีคนที่ไม่กินเส้นกับผมทำตัวเฉยๆลีบๆเล็กๆไป ส่วนคนที่ไม่อะไรกับผมก็พูดคุยทักทาย

“เออ หายเงียบไปเลย เออ ของฝากจ่าได้แล้วนะขอบคุณมาก”จ่าตบไหล่ผมเบาๆ ผมย่อตัวลงจะคุกเข่ากับพื้นแต่จ่าตบที่เก้าอี้ให้นั่งข้างๆผมก็เลยนั่ง คุยกับจ่าเรื่องไปเที่ยวครับ ผมนั่งคุยกับจ่าอยู่พักใหญ่ หมู่อาร์ตเจอหน้าผมก็พยายามหลบหน้า ส่วนคนอื่นๆที่เคยทำร้ายผมก็เช่นเดียวกัน ไม่กล้าสู้หน้าผม ผมก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วครับ ถามว่าไม่พอใจไหม ตอนนี้ก็ยังไม่พอใจอยู่นะครับ แต่ก็คงไม่คิดจะไปต่อยอดทางด้านการจองล้างจองผลาญกันหรอกครับ มันเสียเวลา เราเอาเวลามาทำอย่างอื่นที่มันสร้างสรรค์จะดีกว่าครับ ปล่อยให้ผลของการกระทำของเขาเองเป็นคนจัดการ ผมเชื่อแหละครับใครทำอะไรกับใครไว้อย่างไร ไม่ช้าหรือเร็วเขาก็ต้องได้รับผลที่เขาทำไว้

๘ โมง ๒๐ เราต้องตั้งแถวที่หน้ากองร้อยเพื่อจะเดินแถวไปรวมพล การรวมพลก็จะมีทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ ๒ วันที่ต้องไปรวมพลเพื่อไปฟังข่าวจากผู้พันและจากสายงานต่างๆ พอถึงเวลานายทหารเวรก็สั่งทุกกองร้อยแล้วตรง กล่าวคำปฏิญาณแล้วร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พอเสร็จสิ้นพิธีแล้วผู้พันก็จะเดินมา นายทหารเวรสั่งทำความเคารพแล้ววิ่งรายงานยอดกับผู้พัน พอเสร็จแล้วก็สั่งตามระเบียบพักจากนั้นสายงานก็มาชี้แจงเกี่ยวกับงานต่างๆหรือข่าวคราว แล้วที่สำคัญอีกไม่กี่วันทหารรุ่นพี่ก็ใกล้จะปลดแล้วครับ วันนี้ซ้อมปลดในกองพัน พรุ่งนี้ไปทำพิธีปลดที่กรมครับ ส่วนเรื่องอื่นๆก็ว่ากันไป พอสายงานกล่าวเสร็จเรียบร้อยจากนั้นผู้พันก็พูดคุยกับกำลังพลในแถว ชี้แจงเรื่องราว ข้อควรงดเว้น ข้อควรปฏิบัติแล้วก็พูดถึงภาคกองพันที่เราจะต้องออกไปฝึกในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่จะถึง ช่วงนี้ก็มีการจัดกำลังไปบ้างแล้วครับ แล้วก็วกมาเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ ๓ เดือนก่อน ไม่ใช่เรื่องอะไร เรื่องของผมนั่นแหละครับ

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
“กองพันทหารราบที่.... แถว ตรง”นายทหารเวรสั่งทำความเคารพผู้พันหลังจากเลิกฟังคำชี้แจง แล้วนายทหารเวรกลับหลังหันมาให้แต่ละกองร้อยแยกย้ายกันปฏิบัติงาน

“บอมบ์ๆ เดี๋ยวอยู่คุยกับพี่ก่อนแปบนึง”จ่ากองร้อยซึ่งก็คือจ่านิคลูกพี่คลังอาวุธคนเก่าของไอ้มหากำลังจะสั่งหน้าเดินพอดี ผู้พันดันเรียกชื่อผมซะก่อน แทนตัวเองว่าพี่ซะด้วย

“ขออนุญาตครับจ่า”ผมพูดกับจ่าแล้วเดินออกจากแถวไปหาผู้พัน

“สวัสดีครับ”ผมทำท่าวันทยหัตถ์แบบแข็งแรง ทำความเคารพเหล่านายทหารที่ยืนอยู่บริเวณนี้ด้วยครับ

“อืม ไม่เห็นจะโทรบอกพี่ก่อนเลยว่าจะเข้ากองพัน”ผู้พันจับที่ไหล่ของผม

“แฮะๆ แก้ไขครับ  ผมบอกกับผู้หมวดก่อนแล้ว.....”ผมก็คุยไปเรื่อยเปื่อย

“อือ เอางี้ไหม ถ้าบอมบ์ไม่อยากทำงานพี่ให้ลาพักก็ได้นะ”

“ไม่เป็นไรครับผู้พัน ผมตั้งใจจะมาทำงานให้ครบตามวาระ ถ้าผมจะพักเดี๋ยวผมบอกดีกว่าครับ”

“อืม งั้นก็แล้วแต่บอมบ์แล้วกันนะ แล้วเป็นไงบ้าง....”ผู้พันถามถึงอาการทั่วไป และทางบ้าน ถามได้แปบนึงพี่น้อยแกก็แวบมาที่กองพัน ทำเอาหลายๆคนสะดุ้ง พี่น้อยชอบแกล้งครับ

“มากรุงเทพนี่ไม่ไปให้พี่เจอหน้าเจอตาเลยนะบอมบ์”พี่น้อยต่อว่าผม

“ขอโทษครับ”ผมเข้าไปกอดพี่น้อยไม่นานมาก จากนั้นก็คุยกันเรื่อยเปื่อยครับ จนพักใหญ่พี่น้อยก็กลับไปทำงานครับ ส่วนผมกลับมาที่กองร้อย มานั่งอ้อนผู้หมวด



“ฝึกภาคกองพันเสร็จไปฝึก...ต่อจะไหวเหรอบูม”

“ไหวสิ เคยผ่านมาแล้ว ลูกผู้ชายต้องสู้”

“คิดถึงว่ะบูม อยากเจอหน้าทุกวัน นี่กลับกองพันมาเพราะอยากเจอหน้านะเนี่ย ไม่งั้นไม่มีกำลังใจจะทำงาน”

“หึหึ เวอร์ไปแล้วบอมบ์ ไม่ฝึกปีนี้ ปีหน้าก็ต้องไปฝึก เอาน่า รักกันจริงก็ต้องเป็นกำลังใจให้กันสิ ไอ้มหาไม่เห็นมันจะเป็นแบบนี้เลย ยังเห็นมันหน้าชื่นตาบานอยู่เลย”

“รู้ได้ไงว่าไอ้มหาไม่เป็น รายนั้นน่ะเป็นหนักเลยนะนั่น”

“เอ่อ บอมบ์ กูว่าพวกมึง ๒ คนเป็นหนักทั้งคู่แหละ ไอ้อาการคลั่งแฟนแบบเนี่ยอ่ะ ตั้งนานแล้ว”

“ฮ่าๆๆ คนมันรักนี่หว่า เอาเหอะ ฝึกก็ฝึก เอาให้ผ่านแล้วกัน ผมเป็นกำลังใจให้เสมอ ที่พูดน่ะก็เพราะเป็นห่วงหรอกครับ เออ ถ้ากลับมาจากภาคกองพันแล้วออกฝึกค่อยว่ากันไปอย่างหนึ่ง นี่ฝึกนี่เสร็จไปฝึกตัวนั่นต่ออีกละ กลัวว่าร่างกายจะไม่ไหว”

“อืม ไหวๆน่า ฝึกหลักสูตรนี่ผ่านแล้วก็คงจะพักผ่อนร่างกายสักปีหรือ ๒ ปี แล้วค่อยฝึกหลักสูตรอื่น บูมก็ไม่ได้บ้าฝึกอะไรขนาดนั้น แต่ช่วงนี้มันเป็นโอกาสเว้ยบอมบ์”

“ครับ ขอจุ๊บหน่อยดิ”


“อา มานี่ก่อน มีเรื่องจะปรึกษา”ไอ้ซันลากผมมานั่งที่ใกล้ๆบริเวณห้องน้ำ คือมึงหาที่บรรยากาศดีๆกว่านี้ไม่ได้เลยเหรอวะซัน

“มีอะไร”

“คือ อาช่วยอธิบายหน่อยว่าเรียนมหาลัยเปิด ๒ ที่เนี่ยมันเป็นไงบ้าง ผมอยากลงเรียนวะอา”ไอ้ซันบอกข้อสงสัย

“มันก็มีดีในแต่ละด้านนะ เอางี้มึงอยากเรียนด้านไหน...”จากนั้นอาหลานก็นั่งสาธยาย หัวไอ้ซันมันเป็นคนหัวกลางๆครับ ซึ่งผมก็คิดว่ามันน่าจะเรียนปริญญาตรีไหว ก็เลยแนะนำวิชาที่มันน่าจะเรียนได้ คุยไปคุยมามันเลยจะลงเรียนบริหาร ผมก็เห็นดีเห็นงามกับมันด้วยครับ มันเอาไง ผมก็ตามใจมันไป เราเป็นคนแนะนำ ตามประสบการณ์ พอคุยกับผมเสร็จมันก็โทรหาฟางคุยกันงุ้งงิ้งกัน ๒ คน น่ารักดีครับคู่นี้ ผมว่าไอ้ซันก็เริ่มที่จะจับทางถูกแล้ว เหลือแค่มันลงมือทำให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันก็เท่านั้นเอง

“หึ กร่างไม่ออกเลยล่ะสิ เจอหน้าพี่บอมบ์ไป”อีหนูทำหน้าเชิดใส่หลังจากหมู่อาร์ตเดินผ่านไปไกลแล้ว

“เจ้าเคียดเจ้าแค้นทำไมหนู ทำใจดีๆเข้าไว้สิ คนเรามันมีหลงผิดกันไปบ้าง เหมือนอึ่งอ่างที่พองตัวแข่งกับควาย สุดท้ายคือตัวเองก็ท้องแตกตาย มองในแง่ดีเอาไว้ โลกจะได้สวยงามเว้ย”

“เฮ้อ พี่บอมบ์ก็แบบนี้ ดูดีไปหมดเลย”

“ดูดีตรงไหน มีมุมเลวบ้างเหอะ แค่มันไม่โผล่ให้เห็นเท่านั้นเอง แล้วเป็นไงบ้างวะอยู่กองร้อย”

“ก็เหมือนเดิมแหละพี่บอมบ์ แต่ดีที่ไม่ค่อยมีคนมายุ่งกับหนูสักเท่าไหร่ หนูกับพี่มหากับไอ้ซันอยู่แบบสงบดี งานน้อย ไอ้ซันน่ะงานน้อยมากเลย แทบไม่โดนเวร โดนแต่เวรโรง”

“อะไรหนู กูก็เข้ากองการณ์บ้างเหอะ”ไอ้ซันหันมาต่อปากกับอีหนู

“แล้วไอ้มหาวันๆทำอะไร”

“พี่มหาอ่ะชอบนอนอยู่หน้าคลังอาวุธ ขึ้นไปหาทีไรก็นอนเหยียดหลบๆอยู่ข้างโต๊ะ นี่เห็นแล้วน้ำลายแตก อยากขึ้นขย่มเวอร์ แต่ตุ๊ดรุ่นพี่สอนมาดีว่าเห็นผู้ชายอย่ากระโจนเข้าใส่ ให้เขามาหาเอง”

“ถุย นี่สอนมาดีแล้วเหรอเนี่ย”ไอ้ศักดิ์ผลักหัวอีหนู

“แหม ก็ไม่ได้แรดเหมือนอีดอกเผือกนะคะ”

“คือ จะด่าก็ด่ากูเหอะหนู เมียกูมันไม่ได้รับรู้อะไรด้วยหรอก มันก็วุ่นๆอยู่กับการงานการเรียนของมัน”

“แตะไม่ได้เลยนะ เออ นี่ มีเรื่องจะเล่าเว้ย คือวันก่อนอ่ะ หนูไปเข้าเวรกับพี่มหามา มีหนู พี่มหา รุ่นพี่เป็นนายยาม แล้วมีรุ่นน้องไปด้วย แล้วมีช่วงกลางคืนอ่ะพี่บอมบ์ หนูยืนอยู่กับนายยามใช่ป่ะ พี่มหายืนที่ตึกกระสุน ถึงเวลาออกเวร ผลัดต่อมาก็เดินแล้วมาเปลี่ยนเว้ย แล้วทีนี้ช่วงเปลี่ยนเวร ผลัดของร้อยสก.ก็มารับแล้วละ หนูกับนายยามเดินมาหาพี่มหาที่ตึกกระสุน กำลังจะแบกปืนเดินแถว พี่มหาได้ยินเสียงซี้ดซ้าด แล้วพวกหนูก็พากันเงี่ยหูฟังจนรู้ว่าต้นตอมาจากไหน จึงย่องไป คือตรงตึกกระสุนอ่ะพี่บอมบ์ มันจะมีเต็นท์อยู่อ่ะ แล้วมีตาข่ายพรางคลุมไว้ พวกหนูเดินไปแล้วไปแอบที่เต้น เจอจะๆเลยจ้า ผู้ช่วยครูกองร้อยไหนไม่รู้กำลังยืนแอ่นเลย กะเทยนางนั้นก็กำลังบ๊วบอย่างเมามัน หนูเห็นแล้วเสียวไส้แทน แล้วทีนี้อีพี่มหาอ่ะ เสือกทะลึ่งร้องทักเป็นลิเก ‘หยุดนะ เจ้าโจรใจทราม คิดจะมาหยามอมจวยในนี้ได้ไง เอิงเอย’ผู้ช่วยครูคนนั้นสะดุ้งตกใจรีบดึงกางเกง กระเทยนางนั้นรีบลุกขึ้นจะวิ่ง นายยามวิ่งไปดักข้างหน้า ผู้ช่วยครูวิ่งแผล็วไปไหนแล้วก็ไม่รู้ พี่มหาจะเดินเข้าไปดูแต่หนูร้องทัก ‘เสด็จพี่เพคะ อย่าเข้าไปดูเลย น้องก็มีความสามารถที่จะทำให้เสด็จพี่มีความสุขได้นะเพคะ’ ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆ พวกมึงนี่ก็บวมๆนะกูว่า เป็นตุ๊ดแล้วไม่ค่อยเต็มอีก”

“แหม ก็ติดมาจากพี่บอมบ์อ่ะแหละ ฮ่าๆๆ”

“แล้วไงต่อ จับกะเทยได้แล้วทำไง”

“อีตานายยามลากตัวไปเลยอ่ะพี่บอมบ์ ให้พี่มหาคุมแถวไปตัวเองก็ไม่รู้ไปไหน หนูออกเวรมาแล้ว อีพวกรุ่นน้องก็พากันตามหา นี่ มาอยู่ที่สนามยิงปืนเว้ย แก้ผ้าให้กระเทยบ๊วบ ไปห้ามเขาแต่ตัวเองเอามากิน ฮ่าๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆ แล้วมึงก็เอากับเขาด้วยเหรอ”

“บ้าอ่ะพี่บอมบ์ พี่เจิดเอาตายแน่เลยถ้าหนูไปลองอะไรแบบนี้ คือเผอิญว่าทางบ้านมีของดีๆมาให้รับประทานอ่ะ ของสั่งตรงจากแคนาดา เออนี่ พี่บอมบ์ ฝึกเสร็จเราไปทะเลกันอีกป่ะ หนูชอบมากเลยอ่ะ ดูพ่อกับแม่ท่านสดชื่นมากเลย”

“อื้ม ก็ว่างๆเดี๋ยวเราค่อยไปอีกก็ได้”


“เฮ้ย ตื่นได้แล้วมั้งมหา นอนจนบวมไปหมดแล้วมึง”ผมกับอีหนูเดินไปหาไอ้มหาที่หน้าคลังอาวุธ มันฟุบหน้าหลงแล้วเปิดธรรมะฟัง

“ห่า หลับบ้าอะไรวะ ฟังธรรมะอยู่ มาจากไหนกันอ่ะ”

“นั่งคุยแถวๆนี้แหละพี่มหา เนี่ยพี่บอมบ์ พี่มหาชอบอบหลับตลอดแหละ เด็กคลังก็งี้ ชิ”

“ไม่ต้องมาจิ๊ปากใส่กูเลยอีหนู เดี๋ยวกูปั๊ดเหนี่ยวซะนี่”

“ชิ กล้ารุนแรงกับหนูเหรอพี่มหา เดี๋ยวเหอะ”อีหนูนั่งลงตรงข้ามไอ้มหา ส่วนผมยืนอยู่ที่ปลายโต๊ะแล้วเอามือเท้าโต๊ะไว้ “ท่ายืนพี่บอมบ์เซ็กซี่อ่ะ”อีหนูเอานิ้วขึ้นมากัดทำท่าขวยเขิน “นี่ หนูชอบผ้ายยืนแบบนี้ ดูเป็นหลักการ ค้ำโต๊ะแล้วมองหน้า ชอบอ่ะ ฟิน เห็นแล้วอยากไปทำงานก่อสร้าง”

“เฮ้อ กูงงกับมึงอีหนู คิดว่างานก่อสร้างไม่เหนื่อยรึไง”

“ก็มันฟินนี่พี่บอมบ์ ชอบอ่ะ พาพี่เจิดไปก่อสร้างดีกว่า”ดูมันสิครับ คิดว่างานก่อสร้างมันเป็นงานง่ายหรือไงนะ เฮ้อ กูงงกับตุ๊ด

“แนะ แอบอู้กันเหรอพวกมึง”หมวดบูมโผล่หน้ามาเล่นเอาพวกผมสะดุ้ง

“เปล่าน้าผู้หมวด ก็กำลังวางแผนว่าจะทำงานไงดี”

“ดูมีหลักการมากเลยว่ะหนู เอาไปเลย ๓ วัน”ผู้หมวดชูนิ้ว

“๓ วันนี้ดองเวรกองการณ์หรือให้พักอ่ะผู้หมวด”อีหนูทำหน้าตายิ้มแย้ม

“ไปนอนเล่นในคุก ๓ วัน บอมบ์ไปซื้อข้าวให้หน่อยดิ เอาตามนี้นะ ผู้หมวดบอกสิบเวรไว้แล้ว”ผู้หมวดยื่นกระดาษให้พร้อมกับกุญแจรถมอไซด์

“เค้าหวานกันจังเลยอ่ะพี่มหา อิจฉาจัง”อีหนูมันยังเพ้อของมันต่อไปครับ คือกูหวานตรงไหน นี่แค่กูรับกุญแจรถมอไซด์ก็ว่ากูหวาน ถ้ากูจูบนี่จะเรียกว่าอะไรดีวะ

“แวะซื้อยามาให้อีหนูด้วยนะบอมบ์ กูว่ามันเริ่มเป็นหนัก ไหนดูสิ อืม ไข้ก็ไม่มี อาการยิ้มก็แปลกๆ เส้นกระตุกบ้างไหมหนู กูว่าเอนไซน์ในกระเพาะมันทำงานไม่สมบูรณ์แบบแน่เลย ทำให้กะเทยเพ้อได้ขนาดนี้”ไอ้มหาเอามือจับๆแตะๆตามลำตัวอีหนูแล้ววินิจฉัย ส่วนหมวดบูมพี่แกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว โคตรชอบเลยยิ้มแบบนี้

“คนบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว”อีหนูทำหน้าปั้นปึ่งใส่

“เอาผ้าอนามัยสักชิ้นไหมหนู ผู้หมวดออกตังค์ให้ได้นะ”ผู้หมวดก็เอากับเขาด้วยครับ

“ผู้หมวดอ่ะ คอยดูเหอะหนูจะจับพี่บอมบ์ทำผัวให้ได้”

“คำพูดแบนี้รู้สึกว่าจะพูดมาตั้งแต่ขึ้นกองร้อยแล้วนะหนู”ผมยิ้มให้อีหนู

“ฮ่าๆๆ ก็อยากได้นี่นา นี่ถ้าได้พี่บอมบ์ พี่มหา หมวดบูม หมวดเต้ย คนละครั้ง หนูจะตั้งใจเป็นทหารจนครบกำหนดเลยแหละจะบอกให้”

“ฮ่าๆๆๆ”



ออกไปซื้อข้าวให้ผู้หมวดที่ร้านข้างนอก มาถึงทหารในกองร้อยก็เดินแถวไปกินข้าวกันพอดี ผมเลยอดไปกินข้าวกับคนอื่น แต่ต้องมานั่งกินข้าวกับผู้หมวดผู้กองที่ใต้ถุน ผู้กองบ้านแกอยู่อีสานครับ ไม่ใช่คนบ้านเดียวกับผม แต่ภาคเดียวกัน แกก็ชวนคุยสัพเพเหระ ทหารเข้ามาที่ใต้ถุนก็ไม่มีใครกล้าโหวกเหวกโวยวายเสียงดังเพราะเกรงใจผู้หมวดผู้กอง พวกทหารรุ่นพี่ที่จะปลดตอนนี้ก็หน้าชื่นตาบานครับ บ่ายนี้ก็ไปซ้อมทำพิธีปลดที่หน้ากองพัน พรุ่งนี้คงไปทำพิธีที่กรมครับ เห็นแล้วก็ดีใจไปกับเขาด้วย

ช่วงบ่ายรุ่นปลดก็ไปรวมตัวที่หน้ากองพัน ไปฝึกปลดกันครับ ทุกอย่างต้องฝึกซ้อมอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๒ ครั้งนะครับ เพื่อความเป๊ะ ถ้าไม่เป๊ะนี่อายขี้หน้าเขาครับ พวกผมที่เป็นรุ่นน้องบางคนก็หน้าซึมกันไปตามระเบียบเพราะอยากปลดกับเขา บางคนทนไม่ไหวหนีไปก็มีนะครับ แต่ไม่ได้หนีช่วงนี้นะครับ หนีไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างว่าแหละครับ ใครผ่านการเป็นทหารไปได้ ทุกอย่างมันก็ผ่านไปได้ครับเพราะช่วงชีวิตที่หนักสุดๆก็น่าจะเป็นช่วงที่มาเป็นทหาร อยู่บ้านไม่มีหรอกครับที่จะมาเจออะไรแบบนี้ อยากกิน อยากนอน อยากทำงานหรืออยากพักก็สามารถทำได้ดังใจตนหมายปอง พอมาเป็นทหารก็ต้องอยู่ในระเบียบวินัย ทำอะไรเป็นเวลา จะกิน นอน อาบน้ำก็เป็นเวลา ต้องอยู่กับคนร้อยพ่อพันแม่ มากหน้าหลายตา หลากหลายถิ่นที่อยู่ เวลาไม่พอใจกันก็ได้แค่แอบลงโทษกัน ไม่เหมือนข้างนอก ไม่พอใจกันเดินไปต่อยกันโป้งๆไปเลย ถ้ามองในด้านดีมันก็มีประโยชน์เยอะครับ แต่ถ้ามองในแง่ร้ายก็บรรยายกระดาษ ๓ แผ่นไม่หมด ฮ่าๆๆ แล้วแต่จะเลือกสรรเอาครับ

“บอมบ์ ขึ้นไปเอากระบี่ให้ไอ้เต้ยหน่อยดิ”

“ครับผู้หมวด”ผมขึ้นไปด้านบนหยิบกระบี่ กระบี่ที่ว่าไม่ใช่กระบี่เย้ยยุทธจักรนะครับ กระบี่ประจำตัวของนายทหาร สีขาวอยู่ในฝักสวยงาม แต่เบากว่าดาบที่บ้านของผม ดาบของพ่อผมผมเคยเอามาชักเล่นครั้งหนึ่ง โดนพ่อด่าเปิงเลยครับ เกือบโดนพ่อเตะ คือจะไปชักดาบมั่วซั่วไม่ได้ครับ มันมีวิธีการของมันก่อนจะชัก ผมเอากระบี่หมวดเต้ยลงมา หมวดเต้ยก็ชักกระบี่ทำท่าทางสง่างาม ทำโชว์ผม พี่เบิ้ล ไอ้ภูมิ ไอ้ภีมก็มีคนละเล่มครับ เคยเห็นช่วงมีงานสำคัญๆ มันฝึกชักกระบี่อยู่หน้าบ้าน สง่างามดีครับ

“นี่ถ้ามีงานแต่งงานก็ต้องมีลอดซุ้มกระบี่ด้วยใช่ป่ะ”ผมเคยเห็นงานแต่งงานของลูกชายคนโตของพี่น้อย มีพิธีสำคัญคือลอดซุ้มกระบี่

“อื้ม ใช่”หมวดเต้ยพยักหน้า

“แล้วอยากแต่งงานไหม”ผมถามหมวดเต้ย คนอื่นๆคงไม่ได้ยินมั้งครับ มีผม หมวดบูม หมวดเต้ยกัน ๓ คน

“ก็อยากนะ แต่คงไม่มีโอกาสแบบนั้น”ผมพยักหน้า รู้สึกเห็นใจผู้หมวดทั้ง ๒ คน บางทีคนเราก็อยากจะมีจุดหนึ่งของชีวิตที่คนในวงการเขามีกัน “คิดไรวะบอมบ์ แค่นี้ก็โอเคที่สุดแล้ว ฮึ่บ เย็นนี้งดวิ่งนะ เดี๋ยวค่อยเริ่มวิ่งวันที่ ๑ แล้วกัน”

“แล้วจะไปฝึกไหวเหรอผู้หมวด ออกกำลังแบบผลุบๆโผล่ๆแบบนี้ จะไหวได้ไง”ผมมองหน้าหมวดทั้ง ๒ คน

“ก็คงจะต้องไหว ใจเราถึงซะอย่าง ทุกอย่างสำคัญที่ใจเว้ย”

“ใจไหวแต่ร่างกายไม่ไปนี่ก็ไม่ได้นะครับ กายกับใจต้องสัมพันธ์กัน แต่จะหยุดก็หยุดเถอะครับ ถ้าอยากวิ่งก็ชวนผมด้วย”

“ต้องชวนอยู่แล้ว นี่ถ้าเหน็บไปฝึกได้จะเอาไปด้วยเนอะบูม ผู้ฝึกคงจะดีใจอ่ะที่มีทหารล่ำตันๆแบบนี้”หมวดเต้ยชกหน้าอกผมเบาๆ

“หึหึ เอาไปกูว่าโดนจัดหนักแน่นอนว่ะเต้ย พวกหุ่นควายแบบนี้ครูฝึกเขาชอบว่ะ”

“แน่ะ ไปฝึกหรือไปมีกุ๊กกิ๊กกับพวกครูกันแน่”ผมหรี่ตามองแล้วยิ้มบางๆ

“ก็คิดไปนั่น เออ แต่ตอนที่เราไปฝึกครั้งนั้นนะบูม ครูแม่งอย่างเท่ สัส รู้สึกว่าจะมองมาที่พวกกูบ่อยๆด้วย กูล่ะเสียวสันหลังวาบๆ ฮ่าๆๆ”หมวดเต้ยพูดเบาๆ พูดดังไม่ได้ครับเดี๋ยวทหารแตกตื่น คือตอนนี้ก็ไม่มีคนรู้ว่าผมกับหมวดบูม หรือไอ้มหากับหมวดเต้ยเราเป็นอะไรกันนะครับ เขาอาจจะมองแค่ว่าเราสนิทกัน หรือบางคนก็คิดว่าผมนี่มีอะไรกับอีหนูไปแล้ว ผมเองก็ไม่ได้อยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์ครั้งนี้เท่าไหร่นัก เพราะเราไม่ได้อยู่สังคมภายนอก ถึงแม้จะอยู่ในสังคมข้างนอกก็ตามทีเถอะ ผมก็ไม่อยากจะเปิดเผยมันมากนัก เพราะมีคนไม่เข้าใจเรามากกว่าคนที่เข้าใจเรา ผมสบายใจที่จะเปิดเผยให้คนในบ้านได้รับรู้มากกว่าครับ คนอื่นที่ห่างไกลจากเครือญาติเรา เขาคงไม่ได้เข้าใจเราสักเท่าไหร่นัก เหมือนที่เราไม่เคยเข้าใจคนอื่นนั่นแหละครับ อารมณ์เดียวกัน ซับซ้อนดีเนอะ

ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จิ้น แล้วฟินกะเด็กน้อยน่ารัก ไต่ๆ ไปมา อิอิ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ไม่ได้เข้ามาสองวัน อ่ายแบบตาแฉะเลย สะใจที่สุด

ชอบความคิดดีๆ ที่สอดแทรกอยู่ในทุกๆ ตอน
คุณค่าของคนอยู่ที่คิดดี ทำดี ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครกล้าหือกะบอมส์แล้วสิ

ยังไม่สะใจเรื่องหมู่อาร์ตเลยอ่ะ

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1038
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
หนูน่ารักและฮาตลอดๆ
หมวดบูมก็น่ารัก
สองหมวดจะไปฝึกกันแล้ว
บอมบ์กับมหาคงคิดถึงแย่เลย
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ NooNaM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด