ตอนที่ ๔๒ ขอ
การตรวจผ่านไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น พอคณะกรรมการกลับพวกผมก็ต้องมานั่งเคลียร์ของที่เอาออกมาโชว์ จัดนู้นนี่จน ๖ โมงเย็นจึงได้ไปกินข้าวอาบน้ำ
“เกลียดหมู่อาร์ตจริง อะไรของมันก็ไม่รู้ เบื่อ”อีหนูมานอนบนเตียงผมแล้วบ่น
“คิดมากมึง เด็กมันมีปมด้วยมันก็ต้องแสดงให้คนอื่นมาสนใจมัน”ผมนอนตะแคงแล้วกอดอีหนูหลวมๆ ลูบหน้าท้องเรียบเนียนของมันเล่น หึหึ อีดอกแม่งถูกใจอ่ะดิ ทำหน้าเคลิ้ม
“แต่มันเกินไปอ่ะพี่บอมบ์ ไม่รู้แม่งจะแดกอะไรนักหนาก็ไม่รู้ อย่าให้หนูเจอข้างนอกนะ หนูจะถีบหน้าเข้าให้”อีหนูทำเสียงฟึดฟัดอย่างคนไม่สบอารมณ์
“มึงอย่าไปสนใจมันดิ ถ้าเรายิ่งไม่พอใจมัน มันยิ่งสะใจ เราต้องวางเฉย มึงเชื่อกฎของการกระทำไหม เราทำอะไรก็แล้วแต่นะมันจะต้องมีผลของการกระทำ หรือที่เขาเรียกกันว่ากฎแห่งกรรม มึงทำดี มึงก็ต้องได้ผลดี มึงทำชั่วมันก็ต้องได้ผลชั่ว เขาทำชั่วมันเขาก็ต้องได้รับผลของความชั่วที่เขาทำ”ไอ้มหาเสนอความเห็น
“ก็ไม่เห็นมันจะได้รับผลชั่วอะไรเลยนี่พี่มหา เห็นมันยังลันล้าหน้าด้านอยู่ได้นี่”
“ไม่ได้รับผลวันนี้ วันหน้ามันก็ต้องได้รับผล ตอนนี้ผลของสิ่งที่เขาเคยทำดีกำลังส่งผลให้เขาอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ผลของกรรมดีมันหมด เมื่อนั้นผลของกรรมชั่วมันก็จะปรากฏ มึงเข้าใจป่ะ”ไอ้มหาอธิบายต่อ ส่วนผมนอนตะแคงลูบพุงอีหนูเล่นเบาๆ เราสนิทกันครับเลยเล่นกันได้
“เฮ้อ พี่มหาชอบอธิบายอะไรเป็นธรรมะ วันๆเห็นฟังแต่ธรรมะ ไม่เบื่อบ้างเหรอพี่มหา”
“ไม่นะ คนเรานะเว้ย ชอบคิดอะไรแปลกๆ ตอนมีแรงไม่ค่อยอยากจะฟังธรรมะหรอก อยากจะเข้าผับบาร์หาสิ่งบันเทิงใจ แต่พอมีความทุกข์มันเลยแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เพราะมันไม่มีหลักคิด แล้วที่กูฟังนะ ถ้ากูไม่ฟังวันนี้นะให้กูไปฟังวันไหน มึงคิดดูนะหนู ถ้าวันที่มึงแก่แล้วมึงไปถือศีลเข้าวัดเข้าวา ถามว่าตอนนั้นสภาพมึงเป็นยังไง ถ้าไม่พิการมึงก็แก่หง่อมจนเดินไม่ได้ แล้วมึงเข้าวัดมึงจะรู้เรื่องไหม หูมึงตึง มือมึง แขนขามึงก็ไม่มีแรงซะแล้ว แม้แค่ยกมือไหว้พระมึงยังยกไม่ได้ จะมีความหมายอะไร แล้วไม่ฟังตอนนี้มึงจะฟังตอนมึงตายเหรอ มึงตายมึงนอนในโลงมึงไม่รู้หรอกว่าพระที่นิมนต์มาเทศน์ท่านเทศน์อะไร ตอนนี้กูยังหูตาดีกูยังมีลมหายใจ กูยังไม่ตาย กูต้องฟัง กูไม่รู้นะคนอื่นเขาจะคิดยังไง ตอนนี้กูมีแรง อะไรที่กูรีบตักตวงได้กูต้องรีบทำเว้ย กูไม่นอนรอวันที่กูตายแล้วค่อยนิมนต์พระมาเทศน์หรอก เพราะกูตายไปกูคงไม่ได้รับรู้ว่าชาวโลกเขาทำอะไร”
“สาธุเจ้าค่ะพี่มหา หนูก็อยากฟังนะแต่หนูฟังได้ไม่นาน มันยังไงไม่รู้”
“ธรรมะน่ะ มึงไม่ต้องนั่งฟังนานๆหรอก แค่ ๕ นาที ๑๐ นาทีก็เพียงพอแล้ว หรือมึงอาจจะไม่ต้องมานั่งฟังพระเทศน์เป็นกัณฑ์เป็นคัมภีร์อะไรหรอก แค่มึงหันหน้าเข้าหากระจกแล้วมึงมองหน้าของตัวมึงเอง มึงก็สามารถเข้าใจธรรมะได้”
“ยังไงอ่ะ หนูมองกระจกทีไรหนูเจอแต่ความหล่อน่ารักสดใสของหนู”ถุยเหอะครับอีหนู
“นั่นไงธรรมะ ตอนนี้มึงสวยมึงน่ารัก แล้วอีก ๑๐ ปีล่ะ อีก๑๕ ปีล่ะ มึงยังสวยเหมือนเดิมไหม ไม่มีอะไรเหมือนเดิม มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเว้ย ดังนั้นต้องทำใจแต่เนิ่นๆ ไม่มีอะไรที่จะมาสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตแม้แต่ร่างกายของเราเองก็ตามทีเหอะ มันต้องใช้การไม่ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง”
“หนูไปบวชชีดีไหมพี่มหา”อีหนูเพลินเลยครับ ผมฟังไอ้มหาแล้วคิดตามไปด้วย ล้วงนมอีหนูเล่นด้วย
“สงสารผัวมึงหน่อยเหอะหนู”ผมท้วงอีกหนู
“บ้าอ่ะพี่บอมบ์ ผัวเผอที่ไหน”
“อ้าว ที่ได้กันไม่เรียกว่าผัวเรียกว่าอะไรล่ะ”ไอ้มหามองหน้าอีหนู
“บ้า แค่ได้กันเฉยๆเอง เฮ้อ พี่บอมบ์ ถ้าจะล้วงจะจับขนาดนี้ถอดกางเกงแล้วเสียบหนูเถอะ คนบ้า เมียก็มีอยู่ทั้งคนไม่เกรงใจเมียบ้างเลย”
“หึหึ กูหยอกมึงเล่นหรอกน่า”ผมขำเบาๆแต่ไม่ได้เอามือออก
“หอมแก้มทีหนู กูคิดถึงเมียว่ะ ฟอดๆ”ไอ้มหายื่นหน้ามาหอมแก้มอีหนู
“ว้าย อีหนูรูบานแน่คราวนี้ พี่บอมบ์กับพี่มหาอ่ะชอบแกล้งหนู เออ ถามจริง ทำไมพี่บอมบ์กับพี่มหาไม่รังเกียจหนูอ่ะ เห็นคนอื่นเขาไม่ค่อยจะใยดีกับหนูเลยเพราะหนูเป็นตุ๊ด ทำไมพี่บอมบ์กับพี่มหาไม่รังเกียจตุ๊ดแบบหนูอ่ะ”
“ทำไมกูต้องรังเกียจมึงด้วยวะ มึงไม่ได้เป็นเอดส์นี่ แค่มึงเป็นตุ๊ด”ผมตอบคำถามอีหนู
“อ้าว แล้วพี่บอมบ์ไม่กลัวหนูทำมิดีมิร้ายกับพี่เหรอ”
“มึงดูตีนกูก่อนหนู ถ้ามึงกล้าเสี่ยงกับตีนกูมึงก็ลองดิ หึหึหึ มึงไม่ต้องหาคำตอบอะไรกับกูหรอกหนู กูสบายใจที่จะคบกับมึง มึงรู้ตัวป่ะว่ามึงเป็นตุ๊ดคนแรกที่กูสนิทด้วย”
“ว้าย คำพูดบาดใจเหมือนโดนเปิดซิงเลย ขอบคุณพี่บอมบ์ที่ไม่รังเกียจหนู”อีหนูมันกราบที่หน้าอกผม เอ่อ มึงเวอร์ไปไหมหนู “ทีแรกหนูเครียดนะ กลัวเขารังเกียจ กลัวเขารังแก กลัวไม่มีคนคบด้วย แต่พี่บอมบ์เป็นผู้ชายในฝันของหนูเลย เฮ้อ เลิกกับเมียแล้วมาคบหนูได้ไหมพี่บอมบ์ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
ทั้งสัปดาห์ผ่านไปด้วยความเงียบเหงา หมดงานเราก็มานั่งพักผ่อนหย่อนกายากันครับ ช่วงนี้ว่างเป็นไม่ได้นอนกันทั้งกองร้อย แต่ก็ยังมีงานจุกจิกให้ทำอยู่นะครับ ทำไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มานอนกัน ส่วนผมน่ะเหรอ ไม่ค่อยได้นอนกลางวันกับเขาหรอกครับ ถ้าผู้หมวดไม่ติดงานหรือติดอะไรอย่างอื่นผมต้องาทำหน้าที่เป็นติวเตอร์จำเป็น เรื่องติวผมไม่เกี่ยงหรอก แต่มาติวหน้ามุขนี่ดิ อดตอดเล็กตอดน้อยผู้หมวดอ่ะ บางทีนะนั่งติวไปแล้วผู้หมวดทำหน้าน่ารัก หูย อยากกระโดดจูบฉิบหายแต่ติดที่ว่ามันอยู่หน้ามุขไม่ได้อยู่ในห้อง
“อะไรบอมบ์ หยุดทำไมอ่ะ กลังเพลิน”หมวดบูมเงยหน้ามามองหน้าผม คือระหว่างที่ผมอธิบายไปเรื่อยๆเนี่ยผู้หมวดแกเสือกทำหน้าน่ารัก กูถึงกับเพ้อเลย
“ขอจูบหน่อยดิ”ผมตอบผู้หมวด
“ติวอยู่เนี่ย จูบเจิบอะไร เดี๋ยวเหอะมึง”
“ก็บูมทำตัวน่ารักนี่หว่า นะๆ ขอจูบก่อนสักนิดก็ยังดี”
“ขอให้จบบทนี้ก่อนดิ นะๆ”หมวดบูมยักคิ้วให้ ผมพยักหน้าจากนั้นจึงเริ่มบรรยายสิ่งที่ผู้หมวดสงสัย จนจบบทจากนั้นก็ กิ้วๆ ไปจูบกันครับ
“พอแล้วมั้ง”หลังจากจูบเสร็จหมวดบูมมองหน้าผมเชิงว่า ช่วยติวกูต่อเหอะ
“อือ ฟอดๆ”จากนั้นไปติวกันต่อ เข้ากลางเดือนกันยาแล้ว เดือนหน้าจะเริ่มเทศกาลสอบไล่ปลายภาคช่วงนี้ผู้หมวดของผมเลยต้องเร่งอ่านเร่งทำความความเข้าใจ ส่วนกิจกรรมในกองร้อยตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรครับ นอนได้นอน หลังจากที่เหนื่อยกันมาพอสมควร อีกไม่กี่วันก็จะได้ลาแล้วครับ
ผ่านมาอีกไม่กี่วัน รุ่นพี่ที่ลงใต้ก็กลับมากองพันกันแล้ว กองพันของผมมีลงใต้ด้วยนะครับแต่ก็หมดวาระแล้วละ ตอนนี้มีหน่วยอื่นเข้าไปแลกเปลี่ยนการปฏิบัติหน้าที่ รุ่นพี่เลยได้ขึ้นมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นรุ่นปลดกันครับ
และแล้ววันที่รุ่นพี่ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ที่ภาคใต้ก็เดินทางมาถึงในช่วงค่ำของเย็นวันหนึ่ง พวกผมไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องอะไรกับเขาหรอกครับ ถึงเวลาก็ไปตลาด แต่มหาไม่ได้ไปด้วยนะครับเพราะต้องช่วยจ่าเก็บปืน ผมเลยต้องซื้อข้าวกล่องมาฝากมัน กว่าทุกอย่างจะลงรอยก็เกือบ ๔ ทุ่ม รุ่นพี่ที่ลงใต้นอนใต้ถุน
ตอนเช้ามาผมก็มาช่วยมหาทำงานที่หน้าคลัง พวกรุ่นพี่ที่ตามมาสมทบทีหลังก็เอาปืนมาคืน ผมจึงช่วยมหาอยู่ทั้งวันครับ กว่าจะเลิกงานก็บ่าย ๓ แล้ว จึงลงไปเล่นฟุตบอลหน้ากองร้อย
“คนเยอะน่าวุ่นวายนะอา”ไอ้ซันบ่นเบาๆระหว่างที่นั่งพักอยู่ข้างสนาม
“อือ ไปเล่นเวทดีกว่าว่ะ เห็นหน้าไอ้เหี้ยนี่แล้วกูหมดอารมณ์เล่นบอล”ผมลุกขึ้นเดินไปที่ใต้ถุนกองร้อยเมื่อเห็นหมู่อาร์ตมันแต่งชุดกีฬาเพื่อจะมาเตะบอลกับทหาร มันไม่รู้ตัวรึไงวะว่าทหารเกลียดน่ะ งงกับมัน
ใต้ถุนกองร้อยมีเครื่องออกกำลังกายด้วยนะครับ นอกจากเครื่องออกกำลังกายแล้วยังมีบาร์เบล ดัมเบล บาร์โหนก็จะอยู่หน้ากองร้อย ผมถอดเสื้อวางไว้บนโต๊ะจากนั้นจึงเริ่มวอร์มท่าง่ายๆ จะว่าไปไม่ได้ออกกำลังกายนานแล้วนะครับ มัวแต่ทำงาน เริ่มต้นได้แปบนึงไอ้มหามันก็มาทำตามผมอยู่ข้างๆและมีอีกหลายคนครับให้ผมสอน
“มึงเล่นมากี่ปีแล้ววะ เหี้ยตัวใหญ่โคตรๆ”ไอ้นนท์ถามพลางจับที่ต้นแขนผม กำไม่มิด
“ตั้งแต่มัธยมแล้ว ทำไปเรื่อยๆ วันละชั่วโมงสองชั่วโมง เหนื่อยก็พัก”ผมพูดพลางยกดัมเบล จากนั้นก็มีคนมาถาม ผมก็แนะนำไป อันไหนรู้ก็แนะนำ อันไหนไม่รู้ก็ไม่แนะนำ ออกกำลังกายจนถึง ๕ โมงกว่าๆ จึงหยุดพัก เหงื่อแตกเต็มตัวเลยครับ
“พี่บอมบ์ ดูจวยคนนั้นดิ ทำไมมันบวมแบบนั้นอ่ะ น่ากลัวเนอะ”อีหนูสะกิดผมเบาๆระหว่างที่อาบน้ำในช่วงเย็น ผมหันไปมองตามที่อีหนูชี้ไป เออ มันน่ากลัวจริงๆครับ คือเพื่อนร่วมกองร้อยคนนี้มันฉีดน้ำมันมะกอกมาอ่ะครับ ผมเดาว่าตอนที่ฉีดใหม่ๆมันก็คงจะสม่ำเสมอกันดีอยู่หรอก แต่นานๆไปแล้วนำมันที่ฉีดมันมากองอยู่ที่ปลายจวย มันไม่กระจายไปทั่วลำเหมือนตอนฉีดใหม่ๆ มันคล้ายอะไรไม่รู้ ตรงปลายมันจะบวมๆ ขนาดเกือบเท่ากำปั้น น่ากลัวนะครับ ไอ้พวกที่อยากใหญ่แล้วไปฉีดเนี่ย มันคิดอะไรของมันนะ
“เออ ตอนมันแข็งกูว่าคงเจ็บน่าดูเลยว่ะ”ผมพูดไปด้วยสระผมไปด้วย
“แล้วของพี่บอมบ์นี่ฉีดมาป่ะ หรือว่าไปนวดที่ไหนมา”อีหนูมันคลำมาที่สะดือ
“ไม่อ่ะ ของกูธรรมชาติเว้ย ที่จริงนะกูว่าเรื่องของเล็กของใหญ่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ว่ะ มันอยู่ที่แรงเด้ามากกว่า กูเคยไปตีกะหรี่นะเว้ย มันเห็นของกูมันไม่ให้กูเอาเลยว่ะ”
“พี่เที่ยวกะหรี่ด้วยเหรอ พี่ไม่กลัวเหรอ”อีหนูมองหน้า
“เปล่าๆ กูหมายถึงเด็กไซด์ไลน์น่ะ เด็กในมหาลัยกูนี่แหละ ไม่ใช่เมียเก่ากูนะ อีกคน เออ จะว่าไปกูพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก เขาไม่ใช่กะกรี่ไซด์ไลน์หรอก กิ๊กกู กูพูดผิดว่ะ”
“อ้าว แล้วทำไงล่ะทีนี้”
“ก็ไม่ทำไง มันไม่ให้กูก็ไม่ได้ว่าอะไร หากิ๊กใหม่ กูว่านะขนาดเท่ามึงนี่พอดีเลยว่ะหนู”ของอีหนูขาวจั๊วะหัวชมพูเลยครับ ผิวมันขาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก้นมันเนี่ยเนียนเชียวครับ
“ถ้าไม่พอดีผัวเก่าหนูจะติดอกติดใจเหรอคะ ดูคนนั้นดิพี่บอมบ์ ฝังมุกด้วยอ่ะ มันตะปุ่มตะป่ำเหมือนคนเป็นโรคเท้าแสนปมเลยอ่ะ น่ากลัว”อีหนูทำหน้าสยอง
“จะกลัวทำไม ทำกับว่ามันเป็นผัวมึงงั้นแหละ รีบอาบเว้ย กูอาบเสร็จแล้ว”ราดน้ำล้างคราบสบู่จนสะอาดจึงแต่งตัวขึ้นไปด้านบน ไปเปลี่ยนเสื้อ เป็นทหารจะเดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาอาบน้ำไม่ได้นะครับ ต้องใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยเพราะกองพันเราเป็นกองพันเปิด มีบ้านพักนายทหารนายสิบอยู่ด้านใน ดีไม่ดีลูกหมู่ลูกจ่าเดินมาเห็นทหารเปลือยเดินมาอาบน้ำมันจะอุจาดตาเอาครับ
ตอนเย็นก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ ฟังสิบเวรอบรมเช่นเคย ส่วนผู้หมวดกลับบ้านตั้งแต่ผมอาบน้ำแล้วครับ สิบเวรอบรมเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ไปหาของกินที่ตลาด เหมือนเดิมครับ วนๆเวียนๆ จนมาถึงเช้าวันใหม่วันนี้มีงานครับ
“เฮ้ยยักษ์ ว่างๆก็ช่วยไอ้มหาล้างปืนหน่อยดิ เดี๋ยวจ่าเลี้ยงข้าว หรือว่าผู้หมวดจะใช้งานอะไรเอ็งอีกหรือเปล่าวะ”จ่าที่ดูแลคลังอาวุธถามผม
“วันนี้ว่างครับจ่า ผู้หมวดคงไม่มีอะไรครับ”
“เออ ดีๆ ต้นๆ ดูน้องด้วยนะ เดี๋ยวจ่าไปดูคลังฝั่งนู้นก่อน เออ อย่าลืมนับกระสุนด้วย เดี๋ยวจ่ามา เออ ต้น เออ มหาก็ได้ ไปตามเพื่อนมาช่วยสัก ๒ - ๓ คนก็ได้นะ เดี๋ยวจ่าไปจำหน่ายกับสิบเวรให้”จ่าบอกรุ่นพี่ที่ชื่อต้นก่อนจะเดินไปดูคลังอีกฝั่ง จากนั้นไอ้มหาก็ไปตามไอ้ซันกับอีหนูมา ครบแก๊งเลยครับ แล้วเราก็เอาปืนมาทำความสะอาด ถอดชิ้นส่วนออกมาจากนั้นก็มาล้างทำความสะอาดด้านล่าง
“พี่บอมบ์กับพี่มหาไม่เอาปืนมาล้างบ้างอ่ะ”อีหนูชี้มาที่เป้าพวกผม
“จะล้างให้กูป่ะละอีหนู เงี่ยนจริงนะมึง”ไอ้มหายักคิ้วให้
“ก็ดีนะพี่มหา คงเต็มปากเต็มคำดี”จินตนาการของมึงนี่ไปไกลมากเลยว่ะหนู
“ล้างไป ล้างดีกูมีรางวัลให้เว้ยหนู จริงไหมพี่ต้น”ไอ้มหาหันไปขอความเห็น
“พี่กลัวว่าหนูจะรับไม่ไหวนี่ดิ ดูสินั่งอยู่นี่ตั้ง ๔ ดุ้นไปแล้ว ถ้าครบทุกคนอีหนูคงได้เข้าโรงพยาบาล”พี่ต้นแกพูดขำๆ
“ว้าย พี่ต้นอ่ะ หนูไหวนะ ฮ่าๆๆๆๆ”
ล้างปืนอยู่ครึ่งวัน ทั้งหมดเกือบ ๖๐ กระบอกครับ ล้างกันอยู่ ๕ คนพอล้างเสร็จก็ผึ่งแดดให้แห้ง ทำเสร็จก็เที่ยงวันพอดีแต่เราไม่ได้ไปกินข้าวกันครับเพราะจ่าไปบอกสิบเวรแล้ว นั่งพักกันอยู่หน้าคลังพักหนึ่งจ่าก็ซื้อข้าวมาให้พวกผม ส้มตำ ไก่ทอด ปลาส้ม ต้มแซบ ข้าวเหนียว อาหารอีสาน
“มึงกินเผ็ดได้ด้วยเหรอหนู”ไอ้มหาถาม ปกติอีหนูไม่ค่อยกินเผ็ดนะครับ
“ทำไมจะกินไม่ได้ล่ะมหา ยิ่งตอนมันเอาอยู่กับผัวเนี่ย ซี๊ดอ่า ซี๊ดอ่า เสียงดังยิ่งกว่าของเผ็ดอีก”ไอ้ซันเป็นคนตอบแทนอีหนู
“มึงเวอร์เกินไปอ่ะซัน พูดเหมือนเคยเห็นกูโดนเอานะมึง ซี๊ด เผ็ดอ่ะ แต่อร่อย ทั้งเผ็ดทั้งอร่อย”อีหนูตักส้มตำใส่ปากต่อไป หน้าแดงก่ำน้ำหนูน้ำตาไหลเชียวครับ
“กินข้าวกันบนกองร้อยเลยนะพวกมึง อภิสิทธิ์จังเลยนะ”ระหว่างกินข้าวอยู่ดีๆหมู่อาร์ตก็เดินมาจากมุขกลางแล้วมาทักพวกผมด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“กินข้าวครับหมู่”พี่ต้นเอ่ยชวน
“เออ ระวังตัวไว้นะพวกมึง วันไหนที่กูเข้าเวรถ้าทำตัวเละเทะ กูไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”หมู่อาร์ตมองหน้าพวกผมอย่างท้าทาย แล้วมันก็เดินลงไป พวกผมไม่ได้สนใจอะไรครับยังกินต่อไป จะว่าอะไรก็ว่ามาเหอะ กูหมดความอดทนเมื่อไหร่กูก็เอาบ้าง
“อะไรของมันวะ”ไอ้ซันทำหน้างงๆ
“แบบนี้แหละเขาน่ะ ทหารไม่มีใครชอบหรอก”พี่ต้นพูด “แต่ก่อนนี่แดกพวกพี่เป็นผักเป็นปลา วันไหนที่มันเข้าเวรนะพวกพี่ต้องแย่งกันไปงานนอกหรือไม่ก็เข้าเวร ไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องเจอหน้าเขา พี่โคตรสะใจเลยนะที่ได้ยินว่ามาโดนกระทืบน่ะ อยู่กองร้อยแบบสบายใจได้หลายเดือน แต่นี่คงอยากโดนอีก”
“เอาอีกไหมบบอมบ์”ไอ้มหาเอ่ยถาม
“มึงก็นะไอ้มหา อยู่สงบๆไม่ได้เหรอ หมาเห่าอย่าไปเห่าแข่งกับหมา มันทำได้มันทำไป เมื่อไหร่ที่มีใครสักคนหนึ่งทนไม่ไหวเดี๋ยวมันก็เจอดีนั่นแหละ ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรมเหอะ คนแบบมันไม่สมควรเอาตัวเข้าแลก”
“แต่หนูอยากยิงมันทิ้งจริงๆนะพี่บอมบ์ คนอะไรวะกวนตีนกันแม่งฉิบหาย อย่าให้เจอหน้าเอาหีบหนีแม่งให้ขาดใจตาย”ไอ้หนูอาฆาต
“หีบหนีอะไรของมึงหนู”ไอ้ซันถาม ส่วนพวกผมเก็ทแล้วครับ
“มึงผวนเอาละกัน”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ทำอะไรกันวะมหา ไม่มีอะไรจะกินแล้วเหรอถึงได้ต้องมาคุ้ยขยะหาของกินน่ะ”หมวดเต้ยเอ่ยแซวไอ้มหาที่กำลังล้วงมือควานหาขวดพลาสติก ส่วนผมกำลังเหยียบขวดพลาสติกที่มหามันเก็บให้แบน
“สวัสดีครับผู้หมวด”ผมกับไอ้มหายืนตรงทำความเคารพ ถึงหมวดเต้ยจะเป็นแฟนไอ้มหา สนิทกับพวกผมก็ตามทีเถอะ แต่เราก็ต้องเคารพผู้บังคับบัญชาครับ
“สวัสดี ทำอะไรกันวะ”
“เก็บขยะขายอ่ะผู้หมวด”ผมตอบผู้หมวดพลางเก็บขวดพลาสติกที่เหยียบแบนแล้วยัดใส่ถุงกระสอบ
“ทำไมต้องเก็บด้วยวะ เงินเดือนไม่พอกินหรือไง”หมวดเต้ยทำหน้างง
“เก็บขายเอาเงินไปขอผู้หมวดอ่ะ หึหึหึ มันว่างอ่ะครับผู้หมวด เห็นขวดพลาสติกมันเยอะดีเลยเก็บขาย เผื่อจะได้เงินซื้อทองสักบาทสองบาทไปขอแฟนแต่งงานน่ะ”ไอ้มหาพูดหน้าบาน ส่วนหมวดเต้ยแก้มแดงๆ เขินชัวร์ ฮ่าๆๆ
“เหรอ กูคิดว่าเงินไม่พอใช้ซะอีก แล้วมึงก็เอากับเขาด้วยเหรอบอมบ์ ที่มึงมีนี่ไม่พอใช้อีกเหรอวะ”
“ก็ดีกว่าปล่อยเวลาให้มันเสียไปเปล่าๆอ่ะ ว่างเราก็ทำ ไม่ว่างเราก็ไม่ทำ เงินไม่สำคัญเท่ากับการมีความสุขจากการได้ทำงานหรอกครับ เงินแค่ผลพลอยได้ แต่ความสุขจากการทำงานนี่คือเป้าหมาย”
“เออ ปรัชญาชีวิต เฮ้ย ไม่ใช่พากันเก็บของเก่าขาย เก็บไปเก็บมาแล้วพวกมึง ๒ คนทุบกองร้อยเอาเหล็กเส้นขายนะมึง ฮ่าๆๆๆ”
“ใครจะกล้าอ่ะครับผู้หมวด แต่บ้านผู้หมวดนี่ไม่แน่ ถ้าได้ลา พวกเราไปทุบบ้านผู้หมวดเอาเหล็กเส้นมาขายดีไหมบอมบ์”ไอ้มหายิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“เออ คงได้หลายตังค์อยู่ บ้านหมวดเต้ยหลัง ๑ น่านะได้สัก ๒ หมื่น บ้านหมวดบูมอีก รวมๆคงจะได้ครึ่งแสน ขายเหล็กซื้อทองได้ตั้งเกือบ ๓ บาทแน่ะมหา”ผมทำท่าทางเออออห่อหมกไปกับไอ้มหา
“ไอ้สัส บ้านกูซื้อมาเป็นล้านจะทุบเอาเหล็กไปขาย พวกมึงนี่นะ เขาเรียกว่าอะไรวะ ขี่ช้างจับตักแตนหรือเปล่าวะ”
“ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบ เออ ผู้หมวดไปถามแม่ยังว่าแม่จะเอากี่บาทอ่ะ ผมจะได้เก็บเงินทัน เงินสดไม่ได้ขอเงินผ่อนได้ไหม ทยอยจ่ายอ่ะ”ไอ้มหายักคิ้วกวนตีนใส่
“ไอ้เหี้ย ไปถามแม่กูดิ แล้วพูดเนี่ยเหมือนกูเป็นวัตถุหรือเป็นพวกรถบ้านยังไงไม่รู้ว่ะ ผ่อนเป็นงวดๆ พวกมึงบ้าไปแล้วว่ะ”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“เมียเขาให้ซื้อเงินสด รถให้ซื้อเงินผ่อนเว้ยมหา”ผมมองหน้าไอ้มหาแล้วขำ
“กูให้ฟรีเลยอะ ไอ้สัส แล้วนี่เก็บได้เยอะไหมวะ”
“เพิ่งเริ่มเก็บได้ ๒ วันเองครับผู้หมวด เก็บไปเรื่อยๆครับ”
“พวกมึงจะขยันอะไรแบบนี้วะ คนอื่นเขาไม่เห็นจะทำ อยู่ดีไม่ว่าดีอยากจะเหนื่อย”
“ถ้าไม่เหนื่อยวันนี้จะรอเหนื่อยวันไหนอ่ะครับผู้หมวด ไอ้พวกที่บ่นว่าไม่มีเงินๆก็เพราะแบบนี้ไง กลัวเหนื่อย ถ้ากลัวเหนื่อยก็อย่ากลัวว่าจะไม่มีเงินใช้ เงินหาได้ง่ายๆ ถ้ามัวแต่นั่งรอนอนรอ มันไม่เดินมาหาเราหรอก”ไอ้มหาเป็นตอบตอบคำถาม
“แล้วทำไมต้องใช้วิธีนี้ด้วย ไอ้บอมบ์มึงก็มีวิธีของมึงไม่ใช้เหรอ ทำไมต้องมาเก็บด้วยวะ”
“ผมอยากลองเก็บขยะขายดูอ่ะผู้หมวด งานหลายอย่างผมก็ทำมาแทบหมดแล้ว เหลือเก็บขยะนี่แหละที่ผมยังไม่เคยทำ ผมทำเล่นๆอ่ะครับ ก็อย่างที่บอก เงินไม่ใช่เป้าหมายของผม ผมอยากเรียนรู้งานมากกว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งผมล้มละลายขึ้นมา ผมก็สามารถที่จะเดินไปข้างทางแล้วเก็บขยะเอามาชั่งกิโลขายโดยไม่ต้องอายใคร เพราะเราเคยทำมาแล้ว คนเรามันต้องทำมาหากินได้หลายรูปแบบ”
“อือ ชอบจริงคนมีแนวคิดแบบนี้ กูตัดสินใจไม่ผิดนะเนี่ยที่คบกับพวกมึง เก็บให้ได้เยอะๆนะมหา กูจะรอวันที่มึงมาขอกู”
“หึหึหึ ได้ครับผู้หมวด เตรียมตูดเอ๊ยเตรียมตัวไว้ได้เลย มีทองท่วมหัวอย่าทิ้งผัวละกัน”
“เออ กูไปละ”
“เดี๋ยวครับผู้หมวด”ไอ้มหารีบวางถุงลงบนพื้นแล้วเดินไปกระซิบอะไรกับหมวดเต้ย แล้วมันก็เดินหน้าบานกลับมาหาผม
“อะไรของมึง”ผมเลิกคิ้วทำหน้าใคร่รู้
“กูบอกรักหมวดเต้ย หึหึ รักว่ะ มีกำลังใจเก็บขยะขายขึ้นเยอะเลยว่ะ”