ตอนที่ 5 ครืน ครืน ครืน
สายโทรเข้าที่ร้อยเข้าไปแล้วสำหรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจนต้องชาร์ตมันไว้อยู่กับที่ ทั้งไลน์ เฟส ทวิต เท่ติดต่อผมทุกช่องทาง ผมรู้ว่ามันจะโทรมาเพื่อขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น เมื่อคืนเมาเลยไม่รู้เรื่อง สารพัดข้ออ้างของมันที่อยากจะพูดออกมา แต่ผมไม่ได้อยากฟังหรอกครับ อีกอย่างเมื่อวานกว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ เสือมันต้องไปส่งไอ้เท่ก่อน แล้วก็กลับมาส่งผม ระยะทางยาวเหมือนไปต่างจังหวัด แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นั่งเบนซ์ แต่ก็หงุดหงิดเพราะแม่งพูดแกล้งอะไรมันไม่ได้สักอย่าง ขู่ปล่อยลงกลางทางตลอดเลย
“ กูต้องเปลี่ยนเบอร์รึเปล่าวะเนี้ย " ผมสถบกับตัวเองดูหน้าจอมือถือที่ยังมีการโทรเข้า ผมจ้องโทรศัพท์อยู่ประมาณห้านาที " ถ้าบล๊อคเบอร์มันแล้วกูจะติดต่อกับไอ้เสือยังไงว่ะ " แต่ก็ไม่อยากจะคุยกับมันจริงๆว่ะ
“ ฮัลโหล "
“ ปิง " ผมตัดสินใจกดรับ แต่ก็ถอนหายใจออกมาดังตอนที่ได้ยินเสียงของมัน " เท่อยากจะพูดกับปิงเรื่องเมื่อคืน เท่ขอโทษ "
“ ช่างเถอะ แต่มึงไม่ต้องโทรมาหากูตอนนี้ได้มั้ยวะ กูยังไม่อยากจะคุยกับใคร "
“ แต่เมื่อวานไอ้เสือ มันบอกกูว่า "
“ ว่า " ผมทวนเสียงถามมัน ตอนที่ได้ยินมันเอ่ยถึงอีกคนแต่ก็เงียบลงไป
“ มึงฝากบอกกูว่า อย่ามายุ่งกับมึงอีก มึงไม่มีวันยกโทษให้คำพูดเหี้ยๆของกู คือปิงไม่ใช่ว่ากูไม่เชื่อมัน แต่กูอยากให้แน่ใจว่า มึงต้องการแบบนั้น " ผมเผลอยิ้มออกมาแม้จะดูน่าเกลียดกับอีกคนที่กำลังเครียด รู้สึกเป็นผู้ชนะยังไงก็ไม่รู้ ก็คำพูดพวกนั้นผมพูดที่ไหนละ ไอ้เสือปั้นน้ำเป็นตัวทั้งนั้น
“ มันบอกมึงแบบนั้นจริงๆเหรอ "
“ อื้ม มันโทรมาบอกกูเมื่อเช้า ปิงกูขอโทษ "
“ กูไม่ได้โกรธมึงหรอก กูเข้าใจว่ามึงเมา " ตอนนี้นอกจะไม่โกรธแล้วยังรู้สึกยินดีด้วยซ้ำไป แล้วก็บอกว่าเกลียดกูนะ ไอ้เสือ
“ แล้วปิง มึงพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ อย่างที่ไอ้เสือมันพูด "
“ เปล่านี่ กูไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย "
“ อ้าว แล้วทำไมไอ้เสือมันพูดแบบนั้นละ " เสียงของมันเหมือนกำลังคิด
“ กูไม่รู้สินะ แบบนี้ก็ต้องถามเพื่อนมึงเอาเอง " บอกปลายสายไปแบบนั้น ผมกดวางสายตอนที่มันกำลังใช้ความคิด ผมยกยิ้มขึ้นตอนที่เผลอคิดถึงคนที่มาส่งผมที่คอนโดเมื่อคืน " เสือตัวนี้ ไม่เห็นจะจับยากเลยนี่หว่า "
....................................................
“ คืนนี้มึงไม่ไปไหนเหรอว่ะ " ไอ้ไทโทรเข้ามาถามตอนช่วงเย็นๆของวัน วันนี้ผมเงียบไปทั้งวัน ทั้งๆที่ปกติจะเป็นคนออกปากชวนมันกินเหล้า
“ ไม่ไปอะ กูไม่อยากไป กูว่าจะดูหนัง"
“ ที่ไหน "
“ คอนโด "
“ กูไปดูด้วยได้มั้ย " ขมวดคิ้วกับปลายสายที่เหมือนจะแปลกไป " มึงเป็นอะไรวะ ไอ้ไท มึงแปลกนะ "
“ ได้ข่าวเมื่อวานโดนไอ้เท่ด่าต่อหน้าไอ้เสือ "
“ ก็อื้ม " ผมพยักหน้ารับแม้มันจะไม่เห็น " แล้วมึงรู้ได้ไงวะ "
“ กูพูดไปมึงอย่ากรี๊ดแล้วกัน "
“ ทำไมวะ "
“ ไอ้เสือโทรมาบอกกูเมื่อวาน "
“ เหรอวะ " ผมเผลอยิ้ม เลยโดนปลายสายแม่งหัวเราะใส่
“ เก็บอาหารหน่อย "
“ แบบนี้จะเรียกว่ามัน ห่วงกูได้รึเปล่าว่ะ โอ๊ยไอ้เหี้ย ปากก็บอกว่าเกลียดกู แต่จริงๆ แม่ง ทั้งหวงทั้งห่วง "
“ หวง หวงยังไงวะ " ไอ้ไทถาม มันคงกำลังทำหน้างง กับคำพูดเพ้อๆของมึงเมื่อกี้
“ มันเมคเรื่องบอกไอ้เท่ว่า กูเกลียดมันไม่อยากเจออีก ทั้งๆที่กูไม่ได้พูด แถมยังโทรมาบอกมึงให้โทรมาหากูอีก "
“ มันไม่ได้บอกให้กูโทรหา มันโทรมาเล่ากูว่าเมื่อคืนไอ้เท่ด่ามึง กูโทรมาเอง "
“ แค่นั้น มันเล่ามึงว่าไง "
“ แม่งโทรมาก็บอกเลยว่า เมื่อวานเพื่อนมึงโดนด่า ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกูสักคำ สบายดีมั้ย ทำอะไรอยู่ ไม่มีถาม บอกเสร็จแม่งวางสายไปเลย "
“ เหรอว่ะ กูแม่งชักไม่อยากดูหนังแล้วว่ะ อยากไปผับแทนแล้วตอนนี้ ไปหาพี่เสือ "
“ แรดเหี้ย "
“ มารับกูหน่อยดิ ไอ้ไท เผื่อขากลับกูกลับกับไอ้เสือ กูจะได้ไม่ต้องห่วงรถ " ผมว่าเสียงยิ้มๆไอ้ไทแม่งก็พูดแบบหัวเราะเยาะกลับมา
“ วันนั้นโดนทิ้งยังไม่เข็ดเหรอว่ะ "
“ วันนี้มันไม่เหมือนกับวันนั้นแล้วเว้ย วันนี้มันเปลี่ยนไปแล้วเพราะสิ่งที่มึงยังคงไม่รู้คือ เมื่อวานพี่เสือมาส่งกูที่คอนโดนะครับ "
“ เอาจริง เห้ย นี่มันเล่นด้วยกับมึงขนาดนี้เลยเหรอว่ะ "
“ เปล่า " ผมเงียบเสียงลงไป " ตอนนี้ยังแต่อีกไม่นานก็ไม่แน่ "
“ ตกลง แผนของมึงมันคืออะไรกันแน่วะ ไอ้ปิง " ผมถอนหายใจตอนที่ฟังคำถามของมันอีกครั้ง
“ ไอ้ไท กูบอกมึงแล้วไง ว่ากู ไม่มีแผน " กูมีแค่สิ่งที่กูอยากจะทำเท่านั้นละ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่กูจะทำมันต้องสร้างผลลัพธ์ดีๆออกมาแน่ๆ แต่แค่กูไม่รู้ว่ามันจะในระยะสั้น หรือระยะยาว มันก็เท่านั้น
ผับเดิมที่มาบ่อยตั้งแต่รู้ว่าใครบางคนชอบมา คืนนี้มาสายผมเลยแอบมองไปที่จอดรถ เบนซ์ SL-Class ยังจอดอยู่ที่เดิมของมัน ผมยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
“ วันนี้คนเยอะดีเว้ย "
“ เออ จริงของมึง " ผมมองไปรอบๆวันนี้เหมือนที่นี่จะเต็มทุกโต๊ะ เวทีด้านนึงมีดีเจเปิดแผ่นคนนึงที่กำลังเช็คเครื่องเล่น" สงสัยคืนนี้แม่งต้องเปิดเพลงให้แดนซ์กันแน่ๆเลยวะ "
“ ไม่พลาดอีกละสิมึง " ไอ้ไทว่ามันเดินเข้ามากอดผม " ชวนไอ้เสือสิ "
“ มึงพูดเหมือนจะได้ "
“ แล้วคนอย่าง ปิง เคยไม่ได้ด้วยเหรอว่ะ " กระซิบข้างหูผมแค่นั้น มันลากผมเดินมาที่โต๊ะไอ้เสือ วันนี้มันมาคนเดียวครับ " เฮ้ย นั่งด้วยคนดิ โต๊ะอื่นเต็มหมด "
“ อื้ม " ว่าแค่นั้นผมสองคนก็นั่งลง
“ วันนี้ทำไมมึงมาคนเดียวว่ะ "
“ ไม่มีใครอยากจะมา " พูดแค่นั้นสั้นๆตามฉบับมันยกแก้วเหล้าขึ้นกิน ไม่ได้สนใจอะไรมากมายหรอกครับ มันชอบกินเหล้าแบบนิ่งๆชิวๆเหมือนมาคนเดียวแล้วรอบข้างเงียบสงบมากกว่า
“ ทำไมวันนี้คนมันเยอะจังว่ะ " คำถามที่คนตอบปลายตามอง เหมือนบอกว่า เลิกพูดสักทีเถอะกูรำคาญ ไทหันมามองหน้าผม แก้วเหล้าที่ยื่นให้มันเงียบปากลงทันที ผมมองพวกมันที่ดูเหมือนไม่สนิทก่อนจะมองไปรอบๆก่อนจะเจอใครบางคนที่กำลังมองผมอยู่ คนที่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาทางผมแอบยิ้มตอบกลับไปให้ “ มึงยิ้มให้ใครวะปิง "
“ เปล่า ยิ้มไปเรื่อยๆ ใครยิ้มมากูก็แค่ยิ้มตอบ " ตอบคำถามไอ้ไทแต่ตาก็มองไอ้เสือที่ทำเป็นไม่ใส่ใจ " เมื่อไหร่เค้าจะเปิดเพลงวะ "
“ อีกเดี๋ยวคงเปิดมั้ง "
“ ขอโทษที่ให้รอครับ long island ครับ " เด็กเสริ์ฟคนนึงที่ผมไม่รู้จักวางแก้วทรงสูงลงตรงหน้าผม เงยมองหน้าคนที่เอามาให้งงๆ
“ คือ ผิดโต๊ะแล้วครับ ผมไม่ได้สั่งครับ "
“ มีคนสั่งให้พี่ครับ พี่ผู้ชายโต๊ะนั้น สั่งมาให้พี่ครับ แล้วก็นี่ครับ " กระดาษแผ่นเล็กๆถูกส่งมาให้ ผมอ่านมันก่อนจะหันไปหาผู้ชายคนที่ฝากมันมาให้ผม เค้ายกแก้วเหล้าขึ้นทักผมยิ้มตอบขอบคุณ
“ มันเขียนมาว่าไงว่ะ " ไอ้ไทถาม ผมยื่นกระดาษให้มัน
“ ชื่อ ทิม ยินดีที่ได้รู้จัก แค่นี้ "
“ อื้ม " ผมว่าแบบนั้นก่อนจะยกเหล้าขึ้นจิบ " แม่งคิดว่าเป็นผู้หญิงรึไงวะ ถึงส่งเหล้าเบบี้แบบนี้มาให้กูกิน " ยกแก้วเหล้าขึ้นทักคนที่ส่งมาให้ มันก็ลุกจากเก้าอี้เข้ามาหา ท่าทางที่ดูดียืนอยู่เบื้องหลังตอนที่มือก็เอื้อมมาจับเบาะที่ผมนั่ง
“ สวัสดีครับ "
“ หวัดดี ขอบคุณนะ สำหรับเจ้านี้นะ "
“ ถูกใจมั้ยครับ " เค้าถาม เป็นคนดูดีคนนึงเลยก็ว่าได้ ถึงจะไม่ได้ได้หน้าตาดีมาก ให้อารมณ์แบบคุณชายเหมือนไอ้เสือแต่หน้าออกแนวตี๋ๆ จัดว่าก็ดูดีไปอีกแบบ
“ ก็ดี แต่เบบี้ไปหน่อย "
“ ถ้าให้ถูกใจต้องแรงกว่านี้สินะ "
“ ก็ประมาณนั้น " ผมว่าก่อนจะหันมาจิบเหล้าอีกที " มาที่นี่บ่อยเหรอ ขอนั่งด้วยคนสิ "
“ ได้ นั่งสิ "
“ ไม่ได้ " เสียงของผมแทรกมาเป็นเสียงเดียวกับเสียงของไอ้เสือ แต่ก็เป็นคนละประโยคกัน ผม ทิมหรือแม้แต่ไอ้ไทก็หันมองไอ้เสือที่ตอนนี้มันแค่ทำหน้านิ่งๆแล้วปฎิเสธคนอื่นแบบไม่มีมารยาท ทั้งๆที่เก้าอี้ของเราเป็นโซฟาที่นั่งได้เกือบสิบคนแท้ๆ
“ ที่ว่างตั้งเยอะ นั่งได้เป็นสิบ "
“ กูมาก่อน แล้วนี่ก็โต๊ะกู " ว่าแบบนั้นพร้อมสายตาเอาแต่ใจที่ส่งมาให้ผม " กูไม่ให้นั่ง ไปนั่งโต๊ะอื่น " มันปรายตามามองผมก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่น
“ ไปนั่งโต๊ะทิมมั้ยละ " อีกคนก้มลงมากระซิบ ผมมองหน้าไอ้ไทที่มันก็พยักหน้าให้ ขาของผมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่ตอนนั้นเองเสียงเพลงก็ดังขึ้น
“ เปลี่ยนใจแล้ว ไปเต้นกันดีกว่า "
“ ได้สิ ไปครับ " มือไวๆของทิมกอดเข้าที่เอวของผม หันไปมองหน้ามัน ผมปลดออก
“ อย่ามือไวเป็นปลาไหลสิมึง มันไม่น่ารักเลยนะ "
“ หึ "
เพลงจังหวัดมันส์ดังอยู่ในหู ผู้คนรอบข้างโยกย้ายไปมา ความอึดอัดที่ตัวของผมเบียดอยู่กับคนอื่น ทิมมันเดินเข้ามาประคองเอวเอาไว้ " ตกลงยังไม่รู้เลยว่าชื่ออะไร "
“ ไม่รู้ชื่อแต่กอดคนอื่น ดูไม่ดีเท่าไหร่มั้ง "
“ ก็คนมันน่ากอด " ผมส่ายหน้าก่อนจะยกยิ้มกับคำพูดของมัน
“ กูชื่อปิง "
“ ชื่อน่ารัก " ว่าแบบนั้นแต่มือที่รัดเอวก็ไม่ห่างไปไหน เราโยกกันไปมาตามเพลง " นี่ถามจริงเถอะ ออกมาเต้นกับทิมแบบนี้ แฟนไม่หึงเหรอ หรือว่าโกรธกันอยู่ "
“ ใครแฟนกู "
“ ก็ไอ้คุณชายหน้าหล่อ คนนั้นไง ที่มันห้ามทิมไม่ให้นั่งด้วย "
“ ทำไมถึงคิดว่าเป็นคนนั้น " ผมยิ้มตอนที่ถามมัน มือที่เอื้อมไปกอดคอมัน ผมรู้ครับว่ากำลังมีใครบางคนมองผมอยู่
“ ก็มันมองกูกับมึงตลอด มองตั้งแต่กูเดินเข้าไปหามึงแล้วมั้ง " ผมยิ้ม ตอนที่ทิมก้มลงมาจมูกเกือบจะถึงแก้ม มันกระซิบ " ไม่ใช่ว่าตอนนี้กูกำลังคั่วเมียชาวบ้านอยู่หรอกนะ "
“ ตอนนี้ยังหรอก แต่อีกไม่นาน คั่วไม่ได้แล้วนะ "
“ หมายความว่าไงวะเนี้ย " สถบแค่นั้น ผมดึงตัวเองออกจากความใกล้ชิดนั้น เลื้อยมือขึ้นไปจับที่หน้าอกโยกตัวไปมาตามเพลง สายตาของผมมองกลับไปที่โต๊ะ ก็ยังคงมีสายตานั้นกำลังมองผมอยู่ แอบยิ้มให้กับมัน ไอ้เสือที่ก็หันไปทางอื่นทันที
“ ขอบคุณสำหรับเหล้านะ แต่ทีหลังไม่ต้องหรอก "
“ หื้ม " สีหน้างงๆของมัน มือของผมเลื่อนขึ้นไปจับแก้ม รอยยิ้มที่มอบให้ ผมคิดว่ามันคือรอยยิ้มที่หวานที่สุด ที่มักจะมอบให้คนที่ชอบดูถูกผมแต่เพียงภายนอก
“ เพราะกูไม่ใช่คนที่ง่าย ขนาดที่ว่า ให้เหล้าแก้วเดียวแล้วจะไปนอนบนเตียงด้วยหรอกนะ อย่าดูถูกคนอื่นให้มันมากนัก " ว่าแค่นั้นผมเดินออกมาจากกลุ่มคนเหล่านั้น กลับมาที่โต๊ะแต่ตัวเองกลับไม่นั่ง ผมเดินไปยืนหน้าไอ้เสือ มือของผมเอื้อมลงไปจับมือมัน " ไปเต้นด้วยกันหน่อย "
“ ไม่ " ตอบแค่นั้นสั้นๆ แต่มือผมก็ยังดึงมาให้ลุกขึ้นมา ผมไม่ได้มีแรงเยอะขนาดดึงคนตัวโตๆอย่างมันขึ้นมาจากโซฟาได้ง่ายๆ แต่ไม่รู้ทำไมถึงหลุดติดมือขึ้นมาได้ง่ายนัก แต่คิดว่าคงเป็นเหตุผลเดียวกันที่ว่ามันเองก็เอาแต่มองผมตลอด
“ ตรงนี้แล้วกัน คนน้อยดี " ว่าแบบนั้นมือก็เลื่อนไปกอดคอของมัน ผมโยกย้ายไปตามเพลงที่เปิด ทั้งๆที่อีกคนก็ยืนนิ่งให้กอดอยู่แบบนั้น " ถามจริงๆเถอะ ทำไมถึงเอาแต่มองกู "
“ ถามจริงๆเถอะ ทำไมมึงถึงร่านนัก " สายตาของมันที่มองผม เปลี่ยนไปเหมือนครั้งแรกที่ผมเจอ สายตาที่มีแต่ความรังเกียจไอ้เสือขมวดคิ้ว " กูแค่อยากรู้ ว่าทำไมถึงถึงร่านนัก มึงให้ผู้ชายคนอื่นกอด แล้วมึงก็กอดกู ในชั่วโมงนึงที่กูเจอมึง มึงให้ผู้ชายสองคนกอดและกอดผู้ชายแบบไม่ซ้ำหน้าเลยนะ หรือเป็นอย่างที่มึงบอก มึงจริงจังกับใครมึงจะง่ายกับคนนั้น งั้นมึงก็จริงจังกับทุกคนเลยงั้นสิก็มึงง่ายกับทุกคน "
“ ไม่ใช่ " ผมปฎิเสธ แต่เสียงหัวเราะเยาะของไอ้เสือก็ดังเข้ามากรีดความรู้สึกของผมจะต้องเผงะ ผมไม่ได้ง่ายกับทุกคน คนที่มีอะไรด้วยก็คือคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะคบกัน แต่เพราะพวกมันพอได้กันแล้วไม่นานก็เลิกตลอด บางคนพอได้กันแล้วก็ชอบทำตัวงี่เง่า พอแบบนั้นไม่นานก็เลิกกัน ก็มีที่เลิกกันแบบดีๆ แต่ก็มีที่เลิกกันแบบร้ายๆ คนที่ปล่อยข่าวว่าผมเป็นคนง่ายๆ ก็มาจากไอ้พวกเหี้ยๆพวกนั้นทั้งนั้น
“ เอาไม่ลงจริงๆ ขนาดจะจับตัวมึง กูยังจับไม่ลงเลย " มองดูมือของมันที่วางอยู่ข้างๆลำตัว สายตาของเสือ มีทั้งความเกลียดและความผิดหวังอยู่ในนั้น ผมปล่อยมือออกจาคอของมัน " ทั้งที่กู .. “ ถอนหายใจออกมาไม่ได้พูดอะไรต่อ มันเดินออกไปจากที่ที่ผมยืน
แปลกชะมัด โดนด่าว่าร่าน ว่าแรดมาตั้งเท่าไหร่ ไม่เคยสน แต่พอเป็นมัน แค่คำเดียว ผมรู้สึกตัวเองไม่ต่างอะไรกับคนที่โดนตบหน้าอย่างแรง
ในใจความของประโยคที่ผมสัมผัสได้จากสายตาและท่าทางของมันตลอดระยะเวลาไม่กี่วันที่ผมได้ใกล้ ทุกอย่างมันบอกผมแค่ว่า ' กูชอบมึงนะ แต่กูเอามึงไม่ลงว่ะ '
“ เสือ " เอื้อมมือไปจับมือมันที่กำลังเดินออกไปเอาไว้ ผมไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเพราะขาที่เดินตรงไปข้างหน้าแม้มือผมจะจับยึดไว้ มันก็ไม่หยุดฝีเท้าลง " กูไม่ได้เป็นอย่างที่มึงคิดนะ "
“ เหรอ " พูดออกมาแค่นั้น ตอนที่หันหลับมามอง เสือไม่ได้เชื่อคำพูดของผม ผมรู้
ปล่อยมือออกจากมือของมันผมถอนหายใจก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าไปด้านใน บางทีผมก็คิดว่า คนที่ไม่เชื่อในตัวเรา อธิบายอะไรไปมันก็ไร้ประโยชน์ น่าหงุดหงิดจริงๆ ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแต่กลับเถียงอะไรออกไปไม่ได้เลย
' ลองจูบกูสิ แล้วมึงจะรู้ ลองเอากับกูสักคืนมั้ยละ แล้วมึงจะรู้ มึงจะรู้ว่าสิ่งที่มึงคิดจริงๆแล้วมันไม่ใช่ กูไม่ได้เจนจัดขนาดนั้น ' แต่ขืนพูดออกไปแบบนี้ ผมก็ไม่ต่างอะไรกับคนในแบบที่มันคิดหรอก น่าหงุดหงิดจริงๆ
“ ปิง อยู่นี่เอง หาตั้งนาน " ทิมเดินมาเจอผมที่ทางเข้าประตูหน้าร้าน มันเดินเข้ามาจับมือผม " ไปไหนมาละ "
“ แถวนี้เหละ มีอะไร " ผมถามมันที่เอาแต่ยิ้ม
“ เรื่องเมื่อกี้เรายังพูดกันไม่จบเลยนะ "
“ จบแล้วเว้ย " ผมสะบัดมือมันออก คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่อย่ามายุ่งให้มันมากจะได้มั้ยวะ ยิ่งมึงยุ่งกูมากๆ ไอ้เสือแม่งก็ยิ่งคิดว่ากูเล่นด้วยกับมึง แม่งเอ้ย ทำเชี้ยอะไรกูก็ผิดไปหมด
“ ยัง กูยังไม่ได้คิดค่าเหล้าจากมึงเลย " ดึงผมเข้ามาหาด้วยแรงของมันทั้งหมดที่มี ตัวผมปลิวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน ปากที่จรดลงมาจูบผมตาโตขึ้นตอนที่มันกำลังจะพยายามสอดลิ้น
“ อื้ออ " พยายามผลักมันออก แค่ก้าวเดียวที่ผมผลักมันได้มือที่ง้าจะต่อยโดยอีกคนจับเอาไว้ " ไอ้เหี้ยเอ้ย "
“ หึ หมัดแค่นี้มึงคิดว่าจะล้มกูได้เหรอไง เล่นตัวจริงๆเลยนะมึง ทำตัวให้จับยากทั้งๆที่ก็ไม่มีอะไรดี ใครๆเค้าก็รู้ทั้งนั้นว่ามึงนะเป็นยังไง " มองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า " มึงไม่มีค่าที่จะมาเล่นตัวให้คนอื่นง้อหรอก กูจะบอกไว้ มานี่ " ดึงแขนผมให้เดินไปที่รถ
“ ปล่อยกูเว้ย ไอ้เหี้ย กูไม่ไป " ผมหันไปรอบๆ ไม่มีใครยืนอยู่แถวนั้น จะมีก็แค่คนเดียวที่ยืนอยู่ ปากผมอยากจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากมัน แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากเรียกเลยด้วยซ้ำ คนที่ในใจลึกๆคิดว่าคงไม่มีวันเข้ามาช่วย เสือมันเดินมาจับมือของไอ้ทิมเอาไว้
“ เค้าไม่ไปด้วย มึงก็ปล่อยเค้าไปสิ "
“ แล้วเสือกเหี้ยอะไรกับมึงว่ะ นี่ของของกู" ยังไม่ทันจะอ้าปากเถียงแค่วินาทีเดียวที่ผมคิด ทิมก็ล้มลงกองกับพื้นตรงหน้า มันโดนถีบเข้าที่ขาพร้อมกับการโดนเตะอีกสองสามครั้ง มือที่เริ่มคลายออกจากมือผม รีบสะบัดให้หลุดออกมา ผมวิ่งไปหลบด้านหลังไอ้เสือ
“ พอดี กูเป็นคนที่พูดไม่เก่งนะ " ฟาดเท้ากับหน้ามันอีกที ไอ้ทิมเหมือนกึ่งสลบอยู่ตรงพื้นนั่น เลือดที่ออกมาจากปากมันชี้หน้า
“ มึง ฝากไว้ก่อนเถอะ " นิ่งฟังอยู่ตรงนั้นไม่นาน แขนเสื้อก็ถูกดึงให้ออกมาจากที่ตรงนั้น
“ ขึ้นไป " มันว่าคำสั้นๆตอนที่ผมเอาแต่มอง ไม่อยากขึ้นเลยว่ะ กูไมรู้จะเอาอะไรไปอ่อยมึงแล้ว กูอ่อยก็หาว่ากูแรด กูอยู่เฉยๆก็หาว่ากูแสดง กูทำอะไรก็ผิดหมดแบบนี้ บอกตรงๆ มันไร้ทางสู้จริงๆว่ะ
“ กูเข้าไปหาไอ้ไทดีกว่า "
“ มึงจะอยู่กับไอ้ไท แล้วรอให้มันปล้ำใช่มั๊ย โอเคตามสบาย " ว่าแบบนั้นมันก็ขึ้นรถตัวเองก่อนจะขับออกไป ผมที่ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งอยู่สักพัก ตอนที่มองไปที่ไอ้ทิม มันกำลังเคลื่อนตัวลุกขึ้นมา รถที่บอกว่าจะออกไปก็จอด เสือเลี้ยวรถกลับมามันตะคอกใส่ผม " ขึ้นมาเถอะน่า!! “ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจขึ้นรถไปกับมัน
..................................................
ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่มีเสียงเพลงที่เปิดให้ฟัง ไม่มีแม้แต่เสียงของคนข้างๆ คนที่ปกติจะพูดยั่วยวนให้ตัวเองดูไม่มีคุณค่า วันนี้มันเอาแต่เงียบแล้วก็จับปากตัวเองอยู่แบบนั้น ปากที่เมื่อกี้มันโดนจูบทั้งๆที่ไม่ใช่ครั้งแรกของมัน จอดลงหน้าเซเว่นคนที่นั่งเงียบๆก็หันมามอง
“ ลงไป "
“ ไม่ " มันพูดแบบนั้นก่อนจะส่ายหน้า " เดี๋ยวมึงทิ้งกู "
“ ตามใจ " ผมเดินลงจากรถ ในร้านเซเว่นสาขาเล็กๆ ผมหยิบน้ำเย็นมาขวดนึง กับลูกอมถุงนึงที่กลายมาเป็นลูกอมรสที่ชอบตั้งแต่ได้กินไปคราวนั้น ปิงมองตามผมตอนที่เข้ามานั่งในรถ โยนถุงทั้งหมดให้มันอีกคนก็ทำหน้างงอยู่สักพัก
“ อะไร "
“ ล้างปากซะสิ ถูอยู่ได้ น่ารำคาญ "
“ ฮาร์ทบีสนี้ ยังไง " มันชูถุงลูกอมขึ้นมา
“ อยากจะแดกก็แดก ไม่อยากแดกก็ตั้งเอาไว้ " ว่าแบบนั้นก่อนจะขับรถออกไปอีกครั้ง ไอ้ปิงกินน้ำ มันเกาะลูกอมเม็ดนึงแล้วก็กิน ผมเหล่มองมันที่กำลังยิ้ม
“ ขอบใจมึง "
“ เรื่อง "
“ ของพวกนี้ไง " ชูถุงเซเว่นขึ้นมา มันยิ้มเอียงหน้ามาให้ " มึงแคร์กูเหมือนกันนี่ "
“ พูดมากได้แบบนี้ แสดงว่าแรดได้เหมือนเดิมแล้วนี่ " รอยยิ้มกว้างของมันค่อยๆจางลง ปิงหันกลับไปมองทางข้างหน้า มันพิงตัวเองกับเบาะรถ
“ มึงคงคิดว่า กูโดนจูบมาตั้งเยอะกูจะแคร์ทำไม กับแค่โดนไอ้เหี้ยนั่นจูบแค่นั้น " ก็ใช่อยู่นะผมคิดแบบนั้น ว่ามันจะแคร์ทำไมกับเรื่องแค่นี้ " เอาจริงๆ ปกติกูก็ไม่ได้แคร์หรอกแค่นี้เอง แต่ตอนนี้กูแคร์ว่ะ กูแคร์เพราะมึงเห็น ก็กูไม่อยากให้มึงเห็นนี่ กูไม่อยากให้มึงตัดสินใจว่ากูเป็นแบบนั้น แบบที่มึงคิดจริงๆ ทั้งๆที่มันไม่ใช่สักหน่อย " มันเช็ดปากตัวเองหลังมือแดงๆนั่นถูกับปากของตัวเอง " ทั้งๆที่มันไม่ใช่อย่างที่ไอ้เชี้ยนั่นพูดเลย กูไม่ได้เป็นแบบนั้น กูไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่พอมันพูดแบบนั้น มึงที่ได้ยินแบบนั้น กูจะเถียงเหี้ยอะไรได้ว่ะ คนอย่างมึงแม่งก็ตัดสินกูจากคำพูดของคนอื่นมากกว่ากูอยู่แล้ว มึงจะฟังคนที่เกลียดทำไม แต่ว่า .. กูอยากชนะมึงนี่ "
“ ชนะอะไรกู " ผมทวนเสียงมันที่หันมาจ้อง ตาแดงๆของมันที่มองผมเหมือนกับมีบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอจนพูดไม่ออก
“ ที่มึงบอกว่าเกลียด กูอยากให้มึงเปลี่ยนคำพูดนั่น สักวันกูจะชนะมึง เสือ คอยดู " ผมยกยิ้มให้กับความคิดเด็กๆของมัน มือที่ขยี้ปากของตัวเองอยู่นั้น มันยังคงหงุดหงิดที่ไอ้เหี้ยนั่นจูบปากมันอยู่ทั้งๆที่ก็บอกว่าไม่สน " ไอ้เชี้ยเอ้ย "
“ หึ " ดึงมือของมันออก สายตาที่มองผม ทำเป็นไม่เห็นมัน ผมก้มหน้าลงไปชิดหน้าของมันไอ้ปิงถอยหลังหนี ตาแดงๆของมันโตขึ้นผมยกยิ้ม
“ ถ้าจะแกล้งกูอีก ก็ถอยออกไป "
“ แล้วทำไมต้องทำแบบนั้น " ผมว่าแบบนั้นตอนที่จรดริมฝีปากลงจูบมัน ผมเกลียดมันที่สุด ใจของผมบอกแบบนั้น เกลียดหน้าตา ท่าทาง ความมั่นใจที่มีมากจนเกินไป หรือแม้ตอนนี้ ปากที่สัมผัสอยู่นี้ ผมเองก็เกลียด .. เกลียดที่มันทั้งนุ่มและน่าหลงใหล ลิ้นของผมอยากจะกลืนกินทุกอย่างเข้าไป มือที่เลื่อนไปกอดเอวมันไว้ เอียงหน้าลิ้มรสความอุ่นภายในปากนั้น ทั้งฟันที่เรียงสวย หรือแม้แต่น้ำลายรสหวานที่รสชาติของลูกอมยังค้างอยู่ในปาก มันหวานจนผมไม่อยากถอดถอนไปไหน
“ เสือ..” มือที่ดันมือผม ปิงถอนริมฝีปากออกจากผมออก มันหายใจแรง เราจ้องมองกัน ปิงเม้มปากตัวเอง ผมเองที่เหมือนนึกขึ้นได้ก็พยายามหาคำพูดอะไรสักอย่าง
“ ทำเป็นไม่เคยไปได้ ก็ออกจะบ่อยนี่ " คำพูดแรงๆหลุดออกจากปากผม รีบหันกลับมาจับพวงมาลัยรถอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ขับออกไปไหน
“ แต่กูไม่เคยนะ .. ไม่เคยกับคนที่ปากบอกว่าเกลียด “ ผมหันไปจ้องมัน ปากดีๆที่เอาแต่พูดแบบมั่นใจ ในแววตานั้นมีความไม่พอใจซ่อนอยู่
“ ใช่ กูเกลียด " ผมหันไปหามันอีกครั้ง มือที่จับคางของมันไว้ผมก้มลงไปจนปากของตัวเองชิดกับริมฝีปากของมัน ตอนนั้นผมแค่อยากจะให้มันได้ยินผมชัดๆ มือที่จับคางปากของเราที่ใกล้กันผมเอียงหน้าก่อนจะยกยิ้ม " กูเกลียดมึงที่สุด " แต่ก็จูบมันอีกครั้งหลังจบประโยคนี้ ไม่รู้ทำไม
.........................................
คนเกลียดกันเค้าทำกันแบบนี้เหรอพี่เสือ 
งั้นเราลองมาเกลียดมั้ย

รู้สึกฟิน
หนมฝากแท็ก #เสือปิง ด้วยนะนะ แท็กในทวิตหรือเฟสก็ได้ ถ้าไม่มียูสในเล้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
