ตอนที่ 31“ เหนื่อยชะมัด " ผมบ่นออกมากับตัวเองเบาๆ ตอนที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง ผมพบว่า มันไม่ได้ล็อค " เมื่อเช้ากูก็ว่ากูล็อคแล้วนะ " เดินย่องเข้าไปด้านในผมหยิบเอาร่มที่ตั้งอยู่หน้าประตูเดินเข้าไปด้านในช้าๆ ภายในห้องที่เงียบสนิทผมมองซ้ายดูขวา ก่อนเสียงประตูที่เปิดออกจะทำให้ใจหายวาบ จนแทบจะหยุดหายใจ
“ อ้าว กลับมาแล้วเหรอ "
“ ไอ้อิฐ " ผมว่าเสียงสั่นตอนที่มองมัน เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันช่วงล่าง พร้อมกับหยดน้ำที่พรมไปทั้งตัว ผมถอนหายใจ
“ เป็นอะไร แล้วนั่นจะเอาร่มไปไหน "
“ ก็เอามา " ผมมองไปรอบๆ กำลังหาข้ออ้างอะไรดีๆ " อื้ม หยิบติดมือมาเฉยๆ "
“ เหรอ " เสียงติดตลกของมันเอ่ยขึ้น ผมมองต่ำลงไปที่กล้ามท้องของมัน แอบกลืนน้ำลายนิดหน่อยก่อนจะมองไปทางอื่น " แล้วพรีเซ็นต์งานเป็นไง "
“ ก็ดีละมั้ง มันก็ต้องดีอยู่แล้วเหละ " ก็อย่างที่พูด มันต้องดีอยู่แล้วเหละ ปิงมันเป็นคนเก่งพูดตามตรงกลุ่มเรามีมันเหมือนเป็นหัวเรือใหญ่ เวลาทำงานกลุ่มก็ได้ดีทุกครั้ง เพราะมันเป็นคนเจ้าความคิด " เพื่อนกูทุ่มทำงานนี้จนป่วยเลย มันจะไม่ดีได้ไง "
“ เพื่อนมึงป่วย คนไหนล่ะ "
“ อื้ม คนชื่อปิง ที่กูเคยเล่าว่าหนุ่มๆจีบมันเยอะแยะไง มันทำงานหนักจนป่วยไปเลย " ผมเดินเอาร่มมาเก็บไว้ที่เดิม ตอนที่มองกลับไปหามันที่นิ่งอยู่ผมก็ถาม " แล้วทำไมมึงมาอยู่ที่นี่ได้ "
“ วันนี้กลับเร็วก็เลย เอากุญแจสำรองของมึงไขเข้ามา ตัวเองก็เป็นคนบอกกูเองไม่ใช่เหรอเมื่อเช้านะ ว่าถ้ากลับมาก่อน ก็ให้เข้ามาได้เลย " มันเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือมากอดคอผมไว้ก่อนจะก้มลงเอาแก้มของมันมาซบลงมาบนแก้มผม " ขี้ลืมจังนะ "
“ ปล่อยน่า เปียก " เอียงหน้าหันไปทางอื่น เสียงหัวเราะที่ดังข้างๆหู ผมถอนหายใจ " พรุ่งนี้กูหยุด ไปเที่ยวกันมั้ย "
“ เที่ยวไหน "
“ อยากไปไหนล่ะ "
“ ไม่มี " ผมบอกมันไปแบบนั้น ก่อนจะทำท่าคิด ที่ที่อยากไปเหรอว่ะ
“ เดทแรก ..มึงไม่เคยคิดเลยเหรอ ว่าอยากจะไปไหน "
“ เดทแรก " ผมทวนเสียง ก่อนหน้าของผมจนร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ กัดปากตัวเองเบาๆผมดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัน " เดทแรกเชี้ยอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง "
“ อย่ามาทำซึนน่า " มันแซว
“ ซึนเหี้ยอะไรของมึงเล่า " ผมหันหน้าไปทางอื่น อิฐก็หัวเราะ
“ อยากไปไหน "
“ ไม่อยากไป "
“ แน่ใจนะ " คนตัวสูงหันมาถาม ผมก็เงียบไป " ไม่อยากไปไหนแน่นะ "
“ ก็... จริงๆ ไปไหนก็ได้ " หันมองหน้ามันที่ทำท่าคิด ใจจริงๆของผม อยากจะบอกมันว่า ' ไปไหนก็ได้ ถ้ามีมึงอยู่ กูก็คงอยากจะไปทุกๆที่ '
“ สยามดีมั้ย ก็ถ้าเกิดมึงเกิดงอนกูแบบวันนั้นอีก มึงจะได้ขึ้นบีทีเอสกลับได้ ถ้าไปต่างจังหวัดเดี๋ยวมึงหลง "
“ ไอ้สัด "
“ คุยกันอยู่ดีๆ มึงก็เปิดประตูรถออกไป กูนี่ใจหายวาบเลย "
“ เลิกพูดเรื่องนั้นน่า เงียบปากไปเลย " เอามือปิดปากมันไว้อีกคนก็หัวเราะชอบใจ
“ ตกลงไปไหนกันดี "
“ อยากไปดูหนัง "
“ งั้นก็เซ็นเวิลล์แล้วกัน " พยักหน้าอีกคน อิฐก็ยื่นมือมาขยี้หัว " อยากจะกินอะไรก็คิดไว้เลยนะ "
“ ให้มึงนั่นเหละคิด " ผมหันไปบอกมัน ไอ้อิฐหายเข้าไปในห้องแล้วตอนที่เดินตามเข้าไป ผมต้องตะลึงงันอยู่หน้าประตูอยู่หลายนาที " นี่มัน เหี้ยอะไรกันวะ "
กองเสื้อหลายกระเป๋าที่ไม่ใช่ของผม กองอยู่บนพื้นในส่วนของห้องแต่งตัว ผมมองไอ้อิฐที่หันมายิ้มก่อนจะตอบเต็มเสียง " ของกูเอง "
“ แล้วมึงเอามาทำไม "
“ ก็กูย้ายมาอยู่กับมึงไง "
“ กับกู "
“ ทำไม กูย้ายมาอยู่กับแฟนกูไม่ได้เหรอ หรือมึงไม่โอเค " สายตาคมที่จ้องมา ผมเงียบไปทันทีเหมือนคนพูดอะไรไม่ออก ก็จะให้กูบอกออกไปได้ไงว่ะว่าเชิญอยู่ได้ตามสบายเลยนะครับ
“ ไม้แขวนเสื้อพอรึเปล่า ถ้าไม่พออยู่ตรงตู้สุดท้ายนะ เสื้อผ้าใส่ได้ตู้เดียวคือตู้สุดท้าย ที่เหลือของกู "
“ ครับผม "
“ แขวนให้เรียบร้อยเลยนะมึง เร็วๆด้วย "
“ ถ้าจะให้เร็วๆ ต้องมาช่วยแล้วเเหละ เพราะของกูมันเยอะ "
“ ขี้เกียจเว้ย ทำเองดิ "
“ แล้วของพวกนี้มึงจะให้กูไว้ไหน " ผมหันไปมองของที่มันถาม เป็นพวกกางเกงในหลายตัวที่อยู่ในถุง
“ ก็มันมีลิ้นชักอยู่ในตู้ "
“ ตรงไหนวะ " อิฐหันไปมองมันก็ตั้งอยู่ในตู้แต่คนเจ้าเล่ห์ก็ทำเป็นไม่เห็น
“ มึงไม่เห็นจริงๆ หรือจะแกล้งกวนตีนกู " เดินข้าไปใกล้มันตอนที่หยิบชั้นวางให้มัน อิฐก็ยิ้ม " งั้นก็ฝากจัดหน่อย "
“ ให้กูจัดกางเกงในให้มึงเนี้ยอะนะ ไอ้บ้า "
“ แล้วมันแปลกตรงไหน แค่จัดกางเกงในใส่ตู้ให้แฟน "
“ ชอบพูดคำนี้อยู่เรื่อยเลย " ผมบ่น มือหนาของคนที่ยืนข้างๆก็ยื่นเข้ามากอดเอว
“ ทำไม ไม่ชอบ "
“ เออ ไม่ชอบ " ก็เพราะว่ามันทำให้กูหน้าแดงแบบนี้ไงเลยไม่ชอบ คำพูดที่ทำให้ใจเต้นแรง เกลียดมึงจริงๆ ที่ทำให้กูเขินอยู่ได้ ไอ้คนนิสัยไม่ดี
“ แต่กูชอบพูดนะ " หน้าที่ก้มลงมาใกล้ มือข้างที่กอดเอวยื่นขึ้นมาจับที่ผมก่อนจะลูบเบาๆ " เพราะเวลาที่พูดทีไร หน้ามึงจะแดง .. ตรงนี้นะ " เอานิ้วมาเกลี่ยแก้มผมเบาๆ " แก้มแดงๆ น่ารักดี "
“ ยุ่งน่า จัดของไปเลยไป "
“ มึงก็จัดกางเกงในกูไปเลยไป " มันว่าผมก็ถอนหายใจก่อนจะหันมาจัดสิ่งที่มันบอก ก็แค่กางเกงในกูก็ใส่ แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยว่ะ
“ หน้าแดงนะ "
“ เงียบไปเลย " จัดการจัดกางเกงในให้มันเรียบร้อย แล้วเอาเสื้อผ้าของมันขึ้นมาแขวน " สรุปว่ากุต้องจัดการให้มึง หมดเลยสินะ "
“ ก็ถูกแล้ว นั่นหน้าที่แฟน "
“ คิดว่ากูจะทำให้มึงฟรีๆ รึไง "
“ อยากได้อะไรเป็นของตอบแทนดีละ " อิฐที่เดินเข้ามาใกล้ มันแขวนเสื้อผ้าที่เหลืออยู่
“ อาหารหรูที่สุดในกรุงเทพ หนึ่งมื้อ "
“ มากไปแล้วมั้ง "
“ งั้นเอาเป็นเหล้าแพงๆสักขวด แล้วกูจะกินคนเดียว "
“ สูตรเหล้ากูก็แพงนะ " มันหันมาหาผม " หรือว่ากูจะคิดสูตรเหล้าไว้เพื่อมึงดี "
“ เพื่อกู "
“ เป็นเหล้าที่ไม่ต้องอ่อนมาก กินได้เรื่อยๆ แต่กินเยอะๆก็เมา "
“ มึงนี่ก็พยายามจะทำให้กูเมาจริงๆเลยนะ " ผมว่า อีกคนก็หัวเราะ
“ ก็เวลามึงเมาแล้วน่ารัก เซ็กซี่ด้วยนะ มีอ้อน มียั่ว แฟนทำแบบนั้น ไม่ชอบก็บ้าแล้ว "
“ เลิกพูดน่า มึงนี่เป็นเหี้ยอะไร ถึงชอบพูดอะไรไม่รู้เรื่องตลอด "
“ เขินละสิท่า " คนตัวสูงเข้ามากอดผมไว้ ผมหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆหู
“ เออ! หน้ากูแดงหมดแล้ว เห็นมั้ย ไอ้เหี้ย หายใจไม่ออกเว้ย ตื่นเต้น หยุดเลย ไอ้บ้า นิสัยเสีย!! ชอบแกล้งกูเรื่อยเลย " ผมผลักออกไป เสียงหัวเราะที่ดังไล่หลัง อดยิ้มไม่ได้เลยก็จริง แต่แบบนี้มันก็เกินไปหน่อย
“ น่ารักจังเลยน้า "
“ พอได้แล้ว เชี้ย " ยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเอง ผมบีบมันแน่นอยู่แบบนั้น สมองผมบอกมัน ' ช่วยเต้นเบาลงกว่านี้หน่อย เดี๋ยวก็ไม่ไหวเอาหรอก ถ้าเกิดอกหักอีก มึงจะแย่เอานะ '
ประสบการณ์ของอดีตที่เจ็บปวด สอนให้ ระวังตัวในอนาคตเสมอ
แต่ผมคงลืมไปว่า นั่น..คงใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นความรัก
.............................................
ตอนสายของวันที่ไม่มีเรียนแทนที่จะได้นอนยืดตัวยึดที่นอนทั้งวัน กลับกลายเป็นว่าผมต้องฝืนตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียงเพียงเพราะนัดที่ติดค้างกับใครอีกคนเอาไว้ ทั้งๆที่เมื่อวานก็เข้านอนเร็ว แต่ทำไมมันถึงรู้สึกอยากจะนอนอีกวะ " อยากจะนอนต่อ "
“ ทั้งๆที่เมื่อวานมึงก็นอนเร็วนะ "
“ ก็มะรือกูไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อวานนอนเต็มอิ่มก็จริง แต่คิดว่าคงไม่ช่วยเท่าไหร่ " ปรับเบาะที่นั่งลงนอนยาว ผมถอนหายใจออกมาอีกคนก็ยื่นมือมาลูบหัว " เปลี่ยนแผนจากดูหนัง แล้วกลับบ้านไปนอนกันเถอะ "
“ กูกลัวว่ามึงจะไม่ได้นอนนะ "
“ สัด " สบถใส่หน้ามันอีกคนก็หันมายิ้ม " แล้วมึงจะดูหนังเรื่องอะไร "
“ เรื่องที่มึงอยากดูแล้วกัน "
“ ทำไมกูต้องคิด "
“ กูตามใจมึง "
“ มึงไม่มีเรื่องที่อยากดูมากกว่า เลยเอามาให้กูคิดแทน "
“ ฉลาดจัง " ผมถอนหายใจออกมา ตอนที่อิฐขับรถเข้าไปในห้าง ผมมองไปรอบๆวันนี้รถบนลานจอดไม่เยอะเหมือนทุกวัน อาจเพราะเป็นวันธรรมดา เราจอดรถใกล้กับประตูทางเข้าก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
“ จะกินก่อนหรือว่าจะดูหนังก่อนดีล่ะ "
“ กินก่อน " หันไปตอบแบบไม่ต้องคิดนาน ตอนนี้หิวมากครับเหมือนจะกินหมูเข้าไปได้ทั้งตัว
“ งั้นจะกินอะไร "
“ จริงๆกูก็อยากจะกินมันหมดนั่นเหละ เพราะกูกำลังหิว "
“ มึงอยากจะกินอะไร "
“ ของที่มึงอยากจะกิน " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ยินคำพูดนี้
“ ช่วยมีความคิดเป็นของตัวเองหน่อยเถอะครับ "
“ งั้นก็ อยากจะกิน ไก่ทอดเกาหลี แล้วกัน " บอกออกมาแบบนั้น ผมก็นึกออกอยู่ร้านเดียว พยักหน้าเข้าใจสิ่งที่มันพูด เราก็เดินไปที่ร้านโชคดีที่สุดคือ ไม่ต้องต่อคิว
“ โชคดีชะมัด ได้ที่นั่งตรงนี้ด้วย " เป็นที่นั่งหน้าเค้าเตอร์เครื่องดื่ม มันไม่อุดอู้ดีครับ อิฐมองไปมามองก่อนจะหันมองผม
“ กูไม่เคยมากินเลย "
“ เรื่องจริง ? " ผมถามมันเสียงสูงอีกคนก็พยักหน้า " เออ มึงเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกนี่นะ "
“ ดีจังเลยน้า ที่ได้มากินกับมึง "
“ เลิกพูดมากน่า " ผมว่าก่อนจะหันไปเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร ผมสั่งอาหารแบบเมนูเด็ดๆของทางร้านตอนที่คืนเมนูหลังสั่งเสร็จผมก็หันไปเห็นอะไรสักอย่างที่กำลังคืบคลานอยู่บนกำแพงของร้าน ด้านหลังไอ้อิฐ " อิฐ "
“ อะไร "
“ พ่อมึง อยู่ข้างหลัง " ผมชี้ไปข้างหลังมัน ร่างสูงที่เหลียวไปมองมันสบถพร้อมลุกเด้งทันทีจากที่นั่งก่อนจะมายืนข้างๆผม
“ เชี้ย!!! “
“ เวร นั่งลง เบาๆ คนเค้าหันมองหมดแล้ว " ดึงมันให้นั่งลงข้างๆ ตาไอ้อิฐยังคงมองไปที่ พ่อของมันที่ผมบอก ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่แมลงสาปตัวเดียวที่เกาะอยู่กับกำแพงหินสีดำ
“ มึงก็สายตาดีจังนะ เสือกเห็นแม่งอีก "
“ กลัวเหรอ " ผมถามมันก็ ถอนหายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร " กลัวสินะ ตัวออกจะโตกลัวแมงสาป "
“ ไม่ได้กลัว "
“ ไมไ่ด้กลัวก็กลับไปนั่งที่เดิมดิ มานั่งเบียดกูทำไม "
“ ก็อยากจะอยู่ใกล้ๆมึง " มันว่าอ้างๆ ผมหัวเราะ
“ เหรอ แต่มันประหลาดนะมึง มานั่งข้างกันแบบนี้ เค้าต้องนั่งตรงข้ามกันดิว่ะ "
“ มึงพูดมากน่า "
“ ไม่กลัวก็ไปนั่งดิ " คำท้าทายของผมหันไปบอกมัน ดูก็รู้ว่ามันกลัว ปากซีดๆบอกผมได้ดีว่า ผมแกล้งมันได้ถูกทางแล้ว อิฐลุกขึ้นยืนขาที่กำลังจะก้าวไปกล้าๆกลัวๆที่จะออกไปนั่งอีกครั้ง " แต่ถ้ามึงไปนั่งมันอาจจะปีนขึ้นหลังมึงแล้วก็เกาะอยู่อบบนั้น "
“ ไมไ่ด้กลัว แต่ไม่ไปล่ะ " มันนั่งลงที่เดิมข้างๆผม ถอนหายใจออกมา สายตาของมันมองไปที่ แมลงสาปที่ยังเกาะอยู่ไม่ไปไหน " เชี้ย นี่มันร้านอาหารประเภทไหนว่ะ มีไอ้ตัวเหี้ยนี่ได้ แสดงว่าด้านในครัวต้องสกปรกแน่ๆ "
“ จะรอดเหรอ " ผมว่าเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปตบไหล่มัน " แต่นี่เหละมึง หลักฐานของความอร่อย "
“ คำพูดนี้กูคุ้นๆว่ะ เหมือนใครสักคนกูเคยบอกนะ "
“ เพื่อนกูบอกกูเองเหละ ฮ่าๆ " ผมยิ้มออก อาหารก็เสริมลงตรงหน้าเรา
“ รู้สึกไม่ค่อยอยากจะแดกแล้ววะ "
“ ถ้ามึงไม่แดก กูแดกเองได้นะ กูโอเค ไม่เป็นอะไร " ตักไก่ขึ้นกิน คนข้างๆก็มีท่าทีอิดออด " อื้ม อร่อยนะ อร่อยมากๆเลย " ผมมองมันที่กลืนน้ำลาย รู้ครับว่าอยากจะกินมาก แต่ก็คงไม่ค่อยอยากจะกินเท่าไหร่ ตักเอ็นข้อไก่ส่งให้มัน " อันนี้อะ อร่อยมากเลยนะ กูชอบกินมาก มึงต้องชอบแน่ๆ "
“ เหรอ "
“ อื้ม ไม่เป็นน่า อย่าคุณหนูนักเลยแดกๆไปเถอะ ถ้ามึงเกิดท้องเสีย ก็ไม่ได้มีแค่มึงหรอก กูเองก็ด้วย "
“ ตลก " มันว่าแบบนั้นก่อนจะกินไก่ที่ผมตักให้เข้าปากไป " อื้ม แม่งเป็นหลักฐานของความอร่อยจริงๆ "
“ กูบอกแล้วว่า อร่อย "
“ ถ้าวันนี้ไม่มีมึง รับรองว่า มื้อนี้กูคงไม่ได้กินหรอก " คำพูดที่ไม่ได้ใส่ใจ มือของผมที่กำลังตัดชิ้นไก่ในจานหยุดลง อิฐหันมามองเหมือนเชิงถามว่ามีอะไร ผมส่ายหน้า
คำพูดที่เหมือนไม่ใส่ใจ แต่เหมือนบอกออกมาเลย เพราะมีผมอยู่ จะคิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ย ว่ามันเห็นว่า ผมสำคัญ
รอบหนังแนวแอคชั่นที่เราเลือกดู และผมขอปฎิเสธหนังเรื่อง 50 ท่าของคุณเกรย์นั่น ด้วยเหตุผลทางกายภาพของตัวเองแม้มันจะคะยั้นคะยอแค่ไหนก็ตาม
อิฐเลือกที่นั่งฮันนีมูน ด้วยเหตุผลนั่งสบาย พอเถียงออกไปว่า เป็นเหตุผลที่ฟังมันไม่ขึ้น มันก็หันมาเถียงต่อแบบยิ้มๆว่า ' เดทแรกก็เหมือนฮันนีมูนนั่นเหละ ' กลับกลายเป็นว่า ผมเองที่เถียงต่อออกไปไม่ได้เลย แต่ความน่ารำคาญของข้างๆก็ไม่จบลงแค่นั้น
“ นี่ ที่นั่งมีตั้งเยอะแยะ มึงก็ช่วยขยับออกไปหน่อย " เสียงหัวเราะในคอของมันตอบกลับมา ตอนที่ผมพยายามผลักมันให้ห่างออกไปแต่ร่างนั้นก็ยังเข้าชิดอยู่ใกล้ๆ
“ อยากอยู่ใกล้ๆมึง "
“ มึงจะอยากอยู่ใกล้อะไร นักหนาว่ะ สัด "
“ หนาว "
“ หนาวพ่อง อย่ามาตลก ขยับออกไป หนังจะฉายแล้วมึง นี่มันหนังแอคชั่นนะมึง ไม่ใช่หน้าเรทอาร์ ไม่ต้องใกล้กูขนาดนี้ก็ได้ ขยับออกไป " ผมขยับตัวออกห่างจากมัน แต่มันก็ก้มลงมากระซิบ
" ก็บอกว่าให้ดูเรื่อง 50 ท่านั่น เราจะได้เอาไปปรับใช้กัน " อิฐหัวเราะก่อนจะดึงตัวเองพิงหลังกับโซฟานิ่งๆ “ ดูหนังดีกว่าไม่แกล้งล่ะ เดี๋ยวมึงหนาวก็เข้ามาซุกกูเองล่ะ "
“ ฝัน "
“ บรรยากาศพาไปใครจะรู้ " มันทำท่าทางลอยหน้าลอยตา ผมส่ายหน้า หนังก็เริ่มฉาย แอคชั่นที่ไม่กุ๊กกิ๊กอะไรแต่มือนึงข้างๆก็ยื่นมาจับมือผมเอาไว้ ก่อนจะเอียงหน้าเข้ามากระซิบ " นั่งนิ่งๆนะกูกำลังสร้างบรรยากาศ "
“ กูจะดูหนัง " ผมว่า ยิ่งกูดูไม่รู้เรื่อง มึงก็ยิ่งกวนนะสัด
การกระทำรบกวนของมันหยุดลงผมที่นั่งดูหนังนิ่งๆก็หันไปมองที่กำลังตั้งใจดูหนังเต็มที่ ขยับตัวออกห่างเพราะนั่งเบียดกันมากไปผมมองมัน สลับกับดูหนัง อิฐก็หันมามอง
“ มีอะไร ปวดฉี่เหรอ "
“ เปล่า " ส่ายหน้าไปให้ ผมหันกลับมาดูหนังตามเดิม อาจเพราะเป็นหนังที่ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ หรือเพราะไม่ได้ดูภาคต้นมาก็ไม่ทราบได้ แต่อากาศเย็นกับมืออุ่นๆที่จับผมไว้ รู้สึกตาเริ่มบรือลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่นะ หนังสนุกอยากจะดูต่อแต่ว่า ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหนังตาหนักขนาดนี้
“ ง่วงเหรอ "
“ เปล่า " ปากบอกออกไปแบบนั้น แต่ตาก็เริ่มหลับลงไปเรื่อยๆหัวของผมเอียงเข้าไปหามันจนซบกับอกอุ่นๆนั่น ผมรู้สึกมือของผมถูกปล่อยลงและแทนที่ด้วยการโดนโอบกอดไว้ ในตอนที่สติจะล่องลอยไปกับฝัน ผมได้แต่บอกตัวเองในตอนนั้นว่า ' กูว่ามันได้ผลนะ.. ทฤษฎีบรรยากาศมันพาไปของมันนะ "
...........................................................
ก็น่าจะดูเรื่อง 50 ท่าของคุณเกรย์เค้านะ ฮ่าๆ
แต่เรื่องนี้แบบนี้ ไปให้ เสือปิงมาดูน่าจะโอเคกว่า
ส่ง อิฐไท แบบน่ารักๆ มาให้ก่อนวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้
วาเลนไทน์ปีนี้ หนมแต่ง ไว้สองตอนสั้นๆนะคร่า
มีของ #BTSสถานีรัก พาสเทมไฟ ( ลงในหน้านิยายบีทีเอสเด้อ ) ไปอ่านกันได้ลงวันเสาร์
ส่วนอีกตอนเป็นของ #เสือปิง ลงวันอาทิตย์
ยังไงก็ฝากด้วยนะคร่าาาาาาาาาาา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์

ในมีทวิต หรือเฟส ฝากแท็ก #เสือปิง ด้วยนะคร่าาาาาา