ตอนที่ 46“ ลงมา " ผมพูดเรียบๆ ตอนที่มันเอาแต่นิ่งอยู่แบบนั้น หลังจากคำพูดนั้นของผม " คำที่อยากฟังก็พูดไปแล้ว คราวนี้จะมาได้ยัง "
“ มึงคิดเหรอว่าแค่พูดคำว่ารัก มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ สำหรับกู มึงมันไม่ได้มีความหมายอะไร " แววตาที่หันมาจ้องผม ปิงลุกขึ้นจากที่นั่ง ขาที่กำลังจะเดินไปผมคว้ามือมันไว้ก่อนจะกำแน่น
“ หมายความว่าไง "
“ โง่จังนะมึง พูดถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะต้องให้พูดอะไรอีกเหรอ ไม่เข้าใจรึไงว่า กูไม่ต้องการมึงแล้ว "
“ แล้วมึงต้องการอะไร ไอ้เหี้ยนั่นนะเหรอ " ผมถามออกไปมือที่บีบข้อมือของมันแรงพอจะทำให้อีกคนนิ่วหน้า
“ ปล่อย ถึงกูจะต้องการใครมันก็ไม่ได้เกี่ยวเหี้ยอะไรกับมึง " มือที่พยายามจะดึงออก แต่มันก็ไมไ่ด้ง่ายขนาดนั้น " ปล่อยกูสิว่ะ ไอ้สัด กูบอกว่าให้ปล่อย "
“ กูบอกมึงเมื่อไหร่ ว่าเราเลิกกัน ถ้ากูไม่ให้มึงไป มึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหน "
“ แต่กูจะไป มึงไม่ให้ไป กูก็จะไป กูไม่ทนแล้ว ไม่ทนอีกแล้วเว้ย กับคำพูดเหี้ยๆของมึง ความรู้สึกที่ สามวันดีสี่วันทะเลาะ กูจะไม่ทนมันอีกแล้ว " ยิ่งพูดข้อมือนั่นก็เหมือนยิ่งดึงดันที่จะให้หลุดออก " กูเจ็บนะ ไอ้เชี้ย ปล่อยสิวะ "
ก้มลงมองข้อมือขาวที่เริ่มแดง ผมกำมันไว้แน่นและยิ่งแน่นขึ้นตอนที่สมองคิดอยู่เพียงแคต่ว่า ถ้าหลุดมือไป มันต้องหายไปแน่ๆ หายไปจากผม หายไปและกลายเป็นของของคนอื่น
“ ปล่อยสิว่ะ " เสียงที่ยังเรียกร้อง ผมกำมือมันแน่นตอนที่ปิงเริ่มตีที่อกผมยกข้อมือมันขึ้น ก่อนจะดันร่างบางให้ชนด้านข้างของตัวรถ
“ กูไม่ปล่อย กูไม่มีทางปล่อยให้มึงไปเสวยสุขกับไอ้เหี้ยนั่นหรอก กูจะปล่อยมึงไปก็ต่อเมื่อกูพอใจกับสิ่งที่กูต้องเสียไปแล้วเท่านั้น "
“ มึงเสียอะไรไป "
“ ชื่อเสียง " ผมตอบออกไปแบบนั้นอีกคนก็ขมวดคิ้ว " กูเสียชื่อเพราะต้องมาคบกับคนอย่างมึง เพราะงั้นถ้ากูยังไม่พอใจก็อย่าคิดว่า จะหนีจากกูไปง่ายๆเลย "
“ โง่เอง แบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ ไม่ใช่ไม่รู้นี่ว่ากูเป็นยังไง " ปิงยกยิ้มมองผม สายตาที่มีแต่ความเจ็บปวด สายตาที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ผมยิ้มเยาะ
“ เพราะมึงง่ายไง กูก็เลยเอา ก็ได้มาแบบง่ายๆจริงๆด้วย "
เพี๊ยะ! มือที่ถูกดึงลงอย่างแรง มันยกขึ้นตบผมจนหน้าชาไปทั้งข้าง ตวัดสายตามองมันกลับผมปล่อยมือมันทั้งสองข้างก่อนจะคว้าใบหน้าของมันเข้ามาจูบ จูบรุนแรงที่บดเบียดรุนฝีปากลงไปลิ้นที่พยายามจะเข้าไปด้านในแม้จะไม่ต้องการก็อยากจะยัดเยียดให้ ปิงสะบัดหน้ามันใช้มือผลักผมแรงๆ เราที่ผละออกจากกัน ปิงก็ง้ามือขึ้นอีก ผมชี้หน้ามัน
“ ถ้ามึงตบกูอีก คราวนี้กูไม่หยุดแค่จูบแน่ "
“ แล้วมึงคิดเหรอ ว่ากูจะกลัว " คำพูดที่มาพร้อมกับมือที่ฟาดลงบนหน้าผมอีกครั้ง แรงตบอืออึงอยู่ในหู ผมหลับตาแน่นก่อนจะตวัดสายตามองมัน
" นี่ มึง " ลากเสียงกัดฟันแน่น ผมง้ามือขึ้นกำหมัดแน่น
“ ต่อยสิ แน่จริงมึงก็ต่อยเลย " ใบหน้าที่กำลังเอียงท้าทาย ผมยกยิ้มก่อนจะดึงมือนั่นให้เดินตามเข้ามาด้านใน
ประตูห้องถูกผมผลักปิดอย่างแรง ร่างบางของปิงก็เช่นกันผมเหวี่ยงมันลงบนโซฟา ตายที่เดินเข้าไปใกล้ในสมองก็คิดถึงภาพต่างๆที่ผมเห็น สายโทรศัพท์ที่เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนโทรเข้ามา " ไอ้เสือ เมียมึงอยู่ไหน " ไม่รู้ไปตายที่ไหนสักที่ละมั้ง ตอนที่ตอบออกไปแบบนั้น ไอ้เท่ก็ยกยิ้มให้ได้ยิน " มันอยู่ที่ผับเดิม กำลังนัวผู้ชายอยู่มาเก็บมันไปเลยมึงก่อนที่มันจะถูกไอ้เหี้ยนั่นเอาไป " ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นั่นตอนที่ได้ยินคำนั้น ตอนที่ขับมาถึงที่ร้านภาพที่เห็นก็เหมือนวันแรกๆที่เจอกัน มันที่กำลัวนัวเนียกับผู้ชายแบบไม่อายใครหน้าไหน แม้จะคิดว่าว่า นั่นคือสันดานของคนที่แก้ไม่หายแต่หัวใจมันก็เจ็บ
“ คนอย่างมึง คนอย่างมึงคือคนที่น่ารังเกียจจริงๆ " ผมเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะค่อมทับอีกฝ่ายเอาไว้ สองมือจับแขนที่กำลังจะใช้มันทุบตีผมอีกครั้ง " ความร่านคงเป็นสันดานของมึงสินะ ที่ไม่ว่านานแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยน "
“ ใช่ แล้วมึงทำไม นี่มันเรื่องของกู " มันยังยืนยันแบบนั้นด้วยท่าทางอวดเก่งแบบที่มันชอบทำ ผมกัดฟันแน่นทั้งๆที่ในใจโกรธจนแทบบ้า " กูร่านก็เรื่องของกู ก็อย่างที่มึงบอก มันเป็นสันดานของคนแบบกู แต่มึงเสือกอะไรด้วยล่ะ ต่างคนต่างอยู่ไปสิ"
“ นี่มึง " แรงบีบแขนเพิ่มแรงขึ้นจนมันร้อง
“ ก็เจ็บนะ ปล่อยสิ "
“ อยู่นิ่งๆ " ผมตะหวาด " มึงเป็นเหี้ยอะไร ถึงต้องประชดกูแบบนั้น กูด่ามึงแค่นั้นมึงถึงกับต้องไปถ่างขาให้คนอื่นรึไง กูด่าว่ามึงง่ายมึงก็ไปง่ายกับคนอื่น มึงเห็นคุณค่าของตัวเองบ้างมั้ยปิง ที่มึงง่ายเพราะว่าคนอื่นด่าว่ามึงง่าย หรือจริงๆมึงง่ายเพราะสันดานกันแน่วะ ถ้ากูด่าว่ามึงควายมึงต้องไปเป็นควายเหรอ มึงคิดสิ กูด่าว่ามึงร่านมึงจะโกรธกูก็ได้แต่จำเป้นต้องถ่างขาให้คนอื่นเอาเหรอ โกรธกูก็มาลงกับกู มาตบกู มาด่ากู มาเคลียร์กับกู ไม่ใช่ประชดแล้วไปทำตัวง่ายๆแบบนั้น กูด่ามึงแล้วยังไง มึงไม่รักตัวเองรึไง ถึงสำส่อนแบบนี้ "
“ เออ กูไม่รัก " มันดึงตัวเองขึ้นมาเถียง แต่ผมก็ตะคอกมันกลับไป
“ แต่กูรัก! “
ปิงเงียบลงมันผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ผมปล่อยมือมันทั้งสองก่อนจะดึงให้มันลุกขึ้นจากโซฟา ดันตัวมันเข้าไปในห้องนอน ผมล็อคประตู " อยู่เงียบๆ แล้วนั่งคิดว่าสิ่งที่มึงทำ กับสิ่งที่พูด ใครที่ผิดมากกว่ากัน อารมณ์เย็นเมื่อไหร่แล้วค่อยคุยกัน "
“ งั้นมึงก็ช่วยคิดด้วยละกัน "
“ ไม่ต้องห่วง กูคิดแน่ "
..............................................
ผมเดินไปเปิดประตูห้องนอนตอนที่ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง มองไปทั่วห้องที่เย็นจัดเพราะเครื่องปรับอากาศ ปิงนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างกอดเข่าของตัวเอง ท่าทางนิ่งไม่ไหวติง ผมเดินเข้าไปใกล้ตอนที่ย่อตัวลงนั่งตรงหน้ามัน ก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังหลับ ใบหน้าที่มีแต่คราบน้ำตา กี่ครั้งกันที่เราทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระ มันที่ชอบประชดเหมือนเด็กๆไม่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ฉลาดแต่จริงๆก็โง่ เพราะคิดว่าตัวเองฉลาด ส่วนผมก็แค่คนที่รักมันมากแต่กลับรักษาของรักไม่เป็น
สองมือสอดเข้าไปใต้ร่าง ผมอุ้มมันที่กำลังหลับอยู่ตรงนั้นให้ขึ้นไปนอนบนเตียง ปิงที่สะดุ้งตื่นขึ้นมันมองหน้าผมนิ่งๆ ตอนที่วางมันลงบนเตียงอีกคนก็ ก็ขยับตัวออกห่างจากผม
“ เป็นเหี้ยอะไร "
“ พูดดีๆแล้วจะตายรึไงวะ " สถบออกมาก่อนจะตอบคำถามผม " กูจะนอน " ปิงหันหลังให้มันดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม แต่ผมรั้งไว้ " ทำไม จะบอกว่าของของมึงห้ามกูห่มอีกรึไง "
“ ใช่ " เสียงเรียบๆของผมตอบออกไป ก่อนจะดึงผ้าห่มที่มันกำลังจะห่มให้ลงต่ำ ปิงพลิกกลับตัวมาหาคิ้วที่ขมวดเข้าหากันบอกถึงความไม่เข้าใจในการกระทำของผม " นี่มันผ้าห่มของกู แต่นี่ เป็นผ้าห่มของมึง "
ก้มตัวลงไปกอดมันตอนที่เอ่ยคำนั้นจบลง ปิงนิ่งอยู่แบบนั้น ผมก็กอดมันแน่นขึ้นในใจก็คิด ขอกอดหน่อยนะ ขอกูกอดมึงหน่อย
“ หายโกรธกูได้ยัง "
“ คนอย่างมึง จะพูดดีๆกับกูไม่ได้เลยเหรอ " ปิงพูดออกมาเสียงเรียบๆ มันถอนหายใจก่อนจะดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของผมเปลี่ยนเป็นท่านั่งข้างกายที่ต่างฝ่ายก็ต่างเงียบ " กูเคยคิดนะเสือ ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มึงพูดในแบบที่กูคิด ในแบบที่กูชอบ ให้มึงพูดครับ ให้มึงพูดกับกูแบบที่แฟนทั่วไปเค้าพูดกัน ไม่ต้องครับก็ได้ ต้องต้องอ่อนโยนอ่อนหวานเหมือนใครๆหรอก แค่ไม่ด่ากูด้วยคำพูดแบบนั้น คำพูดแบบนั้น มันใช้สำหรับคนที่เกลียดกูเค้าด่ากูไม่ใช่เหรอวะ ถ้าคนที่กูรักเอาคำพูดของคนพวกนั้นมาด่ากูซะเองแล้วแบบนั้น กูจะมีคนที่กูรักไว้ปกป้องแล้วอยู่ข้างๆกูทำไมวะ กูขอมึงมากเกินไปเหรอ กูเป็นแฟนมึงนะเว้ย กูรักมึงคนเดียวแบบนั้นกูยังเป็นคนที่มึงต้องเรียกว่า ร่าน เหรอ " มันผ่อนลมหายใจออกมาปิงไม่มีน้ำตาอีกแล้ว มีแต่แววตาของความเจ็บปวดที่ตัดพ้อตอนที่มองหน้าผม " คนอื่นจะมองกูยังไงกูไม่สนหรอก จะด่ากูว่าแรดจะบอกว่ากูง่ายยังไงก็ได้ ถ้ามันทำเกินไปกูแค่เข้าไปตบ มีเรื่องกันสักพักมันก็จบ แต่กับมึง กับคนที่กูรัก ต่อให้ตบมึงแรงแค่ไหน กูไม่หายเจ็บหรอก สำหรับกูต่อให้คนอื่นมองยังไงกูไม่สนหรอก ขอแค่คนที่กูรัก มองเห็นตัวตนของกูข้างในกูก็โอเคแล้ว เพราะคนอื่นมันก็แค่คนอื่น คนที่กูรักสิ ที่สำคัญ "
“ ปิง ขอโทษ " มือบางยกขึ้นลูบหน้าผมตอนที่พูดคำนั้น มีคำพูดมากมายที่อยากจะอธิบาย ผมผิดที่พูดไม่คิด หลายครั้งก็เป็นแบบนั้นเป็นคนปากไวกว่าสมองเสมอ แต่ถึงจะรู้สึกผิดและอยากขอโทษมันยังไงสุดท้ายก็เหมือนจะมีแค่สองมือเท่านั้นที่แสดงความรู้สึกออกไปจริงๆ สองมือที่กอดมันไม่ยอมปล่อย " ขอโทษ แต่ถึงมึงจะเจ็บแค่ไหน จะไม่ชอบมากแค่ไหน แต่กูก็ปล่อยมึงไปไหนไม่ได้ ปล่อยไปไหนไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะ "
“ กูขอโทษที่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้น ขอโทษที่เอาอารมณ์มากกว่าเหตุผล "
“ มึงไม่ได้ร่านอย่างที่กูบอกหรอก อย่าเอาตัวเองประชดกูแบบนั้นอีกนะ " มือของผมยกขึ้นลูบหัวมัน ในใจจริงๆก็อยากจะทำมากกว่านั้น อยากจะตบ อยากจะด่า แต่พอคิดว่า เพราะคำพูดของผมมันเลยโมโหแล้วประชดออกมาแบบนั้น มันทำให้ผมเงียบแล้วเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ผมดึงมันเข้ามากอดอีกครั้ง " ครั้งหน้าถ้ามึงโกรธกู อย่าทำร้ายตัวเองแบบนั้น มึงไม่ใช่คนร่านถ้าไม่ทำตัวเองให้ดูร่าน "
“ นี่ไม่ใช่คำพูดง้อ ที่กูอยากฟัง เหมือนมึงกำลังด่ากูมากกว่า "
“ กูกำลังสอน ว่าถึงแม้จะโกรธก็ควรมีสติ ไม่ใช่กูบอกว่ามึงร่านแล้วมึงก็ออกไปร่าน มึงจะไปเมาอย่างเดียวกูจะไม่ว่าเลย นี่ไปร่าน ถามจริงๆ ถ้ากูบอกว่า มึงควาย มึงไปจะกินหญ้ามั้ย "
“ หยุด ไม่ต้องพูด "
“ กูผิดที่ด่ามึง กับ มึงที่ผิดเพราะไปร่าน ใครผิดมากกว่ากัน ปิงถามจริงๆ มึงเคยมองว่าตัวเองสำคัญเหมือนที่กูมองว่ามึงสำคัญมั้ย อย่างที่มึงบอก คนที่ไม่มึงไม่รักจะมองยังไงมึงไม่สน มึงแคร์คนที่มึงรัก งั้นมึงก็ไม่รักตัวเองนะสิ มึงถึงไม่แคร์มันเลย "
“ รัก กูก็รักตัวเอง "
“ ทำตัวให้สมกับที่ปากบอกว่ารักด้วยแล้วกัน "
“ แล้วทำไมตอนนี้กลับเป็นว่า เหมือนมึงมาโกรธกูแทน " สายตาที่มองมาผมถอนหายใจออกมา ภาพที่มันกอดผู้ชายคนนั้นยังอยู่ในสมองของผม เป้นการกระทำที่โคตรดง่ โง่ที่สุดตั้งแต่เคยคบใครมา ปิงไม่ต่างอะไรจากเด็ก เด็กเอาแต่ใจตัวเอง
“ กูไม่ได้โกรธ เพราะกูรู้ว่ากูมีส่วนที่ทำให้มึงเป็นแบบนั้น แต่กูกำลังสอน สอนให้มึงรักตัวเอง เหมือนที่กูรัก "
“ พูดคำว่า รักบ่อยจังเลยนะ " มันยิ้มนิดๆ สองมือก็เข้ามากอด " ขอโทษ กูขอโทษที่ทำอะไรไม่คิด ต่อไปจะมีสติให้มากกว่านี้ กูก็รักมึงมากนี่ กูเสียใจนะ ที่ขนาดมึงที่กูคิดว่ารักกู ยังมองเป็นแบบนั้น ทั้งไที่รักมึงคนเดียวยังถูกมองว่าเป็นแบบนั้น "
“ คนแบบกู รักษาของรักไม่เป็นหรอก "
“ พูดคำว่ารักอีกแล้ว "
“ ชอบฟังไม่ใช่รึไง " ผมถาม อีกคนก็ยิ้มก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนตักผม กลับมาเป็นเด็กขี้อ้อนคนเดิมแล้ว
“ มีใครไม่อยากฟังคำว่า รักจากแฟนตัวเองบ้างวะ กูรักมึงนะเสือ "
“ นั่นสิน่ะ " จะมีใครไม่ชอบฟังคำว่ารักจาก แฟนของตัวเองบ้าง
..................................................
“ จอดตรงนี้แหละ ขอบคุณมากน้า " ปิงหันมาบอกผมก่อนจะดึงตัวเองมาหอมแก้ม " พี่เสือตั้งใจเรียนนะ " ยิ้มหวานส่งมาให้ผมที่กำลังจะตอบมันไป ปิงก็ขัดขึ้นก่อนแบบรู้ทัน " บอกตัวเองเถอะ "
“ ตามนั้น "
“ ไหนหอมแก้มน้องก่อน "
“ ทำไมต้องทำอย่างงั้น " เอื้อมมือไปกอดคอมัน ปิงยิ้มกว้างออกมาก่อนจะซบอกผม
“ พี่เสืออ่า "
“ เป็นเหี้ยอะไรของมึง "
“ โมนเม้นต์นี้ น้องชอบ " จูบลงตรงคอเบาๆ ก่อนจะหอมแก้มผมอีกครั้ง " แม้ปากจะหมาไปหน่อยแต่เวลาแบบนี้ก็ดีนะ ก็พี่เสือซึนนี่น่า "
“ ซึนเหี้ยอะไร " เล่นผมมันตอนที่ถาม
“ ก็ซึนเดเระไง พสกปากไม่ตรงกับใจนะ รักมากนะแต่ไม่แสดงออกไปแบบนี้ไง "
“ เหรอ คิดงั้นเหรอ "
“ คิดอย่างงั้นแหละ น้องไปก่อนนะ ตอนเที่ยงๆมารับน้องด้วยนะ น้องมีเรียนแค่คาบเช้า "
“ อื้ม " ตอบกลับมัน ปิงก็ดึงตัวเองออกห่างก่อนจะประคองหน้าผมให้หันมาจ้องมัน บี้หน้าเข้าหากันจนปากจู๋ " เหี้ยไรเนี้ย " พอถามออกไปก็หัวเราะก่อนจะก้มลงมาจูบแรงๆหลายทีติด " นี่ " สะบัดหน้าออกอีกคนก็หัวเราะ
“ เขินเหรอ แหมม ไม่เข้ากับหน้านะ "
“ มึงมากกว่ามั้งที่เวลาเขินแล้วไม่ค่อยเข้ากับหน้า กูไม่ได้เขิน " ผมหันไปบอกก่อนจะหันมองมัน ถอนหายใจออกมาตอนที่มองหน้ามันที่ยังยิ้ม ผมใช้มือตัวเองยันกับกระจกฝั่งที่มันนั่งตอนที่ก้มตัวลงไปใกล้
“ อะไร จะทำอะไร " ใบหน้าแดงแสดงความรู้สึกเขินออกมาจนผมได้แต่กั้นยิ้มเอาไว้
“ เปล่า ไม่ได้ทำอะไรนิ " ปากที่บอกไปสวนทางกับมือที่ปลดกระดุมเสื้อของมันลงหนึ่งเม็ด
“ พี่เสือ มึงอย่ามาตอแหลกูนะ "
“ ก็ชอบไม่เหรอ อะไรแบบนี้นะ หื้ม " คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ ผมก้มลงจูบมัน จูบดูดดื่มที่แทรกลิ้นเข้าไปด้านในโพรงปากของมัน ความอุ่นและการตอบรับ เสียงปากดูดกันและกัน ปิงผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆตอนที่ผละออกผมก้มลงจูบตรงคอมัน
“ ไม่ทำรอยนะ " ผมไม่ตอบและนั่นเลยทำให้ตัดสินใจทำรอยเล็กๆไป ปิงก้มลงดูตอนที่ผมดึงตัวออกห่างมัน " ไอ้เชี้ย "
“ กูเป็นคนยิ่งห้ามยิ่งยุนะ "
“ แล้วเพื่อนแซวกูมึงรับผิดชอบมั้ย "
“ ทำยังกับคนไม่เคยไปได้ มึงน่าจะชินกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้วนะ "
“ เชอะ ไปละ มารับด้วย " มันสะบัดหน้าใส่ ผมคว้ามือมันไว้ปิงก็หันมอง " มีอะไร "
“ ถ้าใครถามว่า รอยนั่นของใคร บอกของกูนะ กูรับผิดชอบเอง "
“ รู้แล้วแหละน่า พูดเหมือนตัวเองเท่อย่างงั้นแหละ "
“ ก็มึงบอกให้รับผิดชอบ "
“ ตั้งใจเรียนนะพี่เสือ " จูบแก้มผมอีกครั้ง มันลงจากรถก่อนจะเดินเข้ามหาลัยไป ผมมองมันจนสุดสายตาตอนที่มั่นใจแล้วว่ามันเข้าไปแล้ว ก็ค่อยออกรถจากมหาลัยมันไปยังมหาลัยของผม
เดินเข้าไปใต้คณะ โต๊ะตัวเดิมถูกจับจองด้วยคนกลุ่มเดิม เสียงพูดคุยดังน่ารำคาญผมเดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะ " อ้าว ไอ้เสือมึง "
“ อื้ม "
“ เป็นไง กูคิดว่าวันนี้มึงจะไม่มาเรียนแล้ว "
“ ทำไมต้องไม่มา " ผมถามไอ้เท่ที่มองหน้าผมมันก็ยิ้ม
“ ก็คิดว่า มึงจะทำโทษเมียจนไม่มีแรงลุก ฮ่าๆ " มันหัวเราะออกมาหลังจากคำพูดนั้น ไอ้เทมมองหน้าผม
“ ทำไมต้องทำโทษด้วยวะ "
“ ก็เมื่อวานกูเจอไอ้ปิงที่ผับกำลังนัวเนียอยู่กับผู้ชาย ตอนกูเข้าไปทีแรกคิดว่าผิดคน ที่ไหนได้ คนเดิม กูเลยโทรให้มันมาจัดการเมียมันไง " เสียงพูดที่แฝงไปด้วยความรู้สึกเยาะเย้ย มันหันหน้ามาถามผมก่อนจะยิ้ม " เป็นไง สันดานเดิมเมียมึงกลับมาแล้วเหรอ "
ผมยกยิ้มตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น ตัวมันลุกขึ้นจากที่นั่งอัตโนมัติ ก่อนมือจะคว้าเข้าที่คอเสื้อของคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนสนิท
ผลั๊ก! หมัดหนักๆซัดลงบนหน้าของมันแบบไม่ยั้ง ไม่มีคำพูดที่จะอธิบายในการกระทำอะไรทั้งสิ้น แรงห้ามปรามของเพื่อนๆทุกคนช่วยกันดึงตัวผม แต่ขาก็ยังออกแรงถีบท้องมันออกไป ช่วงจังหวะที่ถูกรั้งตัวไว้ อีกฝ่ายตั้งตัวได้ ไอ้เท่ลุยเข้ามาต่อยผม ความรู้สึกตอนนั้นคือเจ็บที่หน้า แต่ไม่เท่ากับความแค้นในใจ
“ เชี้ย พอ พอๆ เลิกๆ " เสียงของไอ้เทม มันดันไอ้เท่ออกห่างจากผม ไอ้โจ๊กไอ้นิวเข้ามาช่วยรั้งตัวมันไว้ ผมยกยิ้มตอนที่มองไปที่มันแล้วเห็นเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
“ หึ สมน้ำหน้า "
“ มึงมันโง่!! โง่ที่คบกับไอ้ปิง มึงรู้มั้ยใครๆ เค้าก็เข้าหามันเพราะอยากจะแค่เอามันทั้งนั้น มึงมันโง่ที่จริงจังกับคนอย่างมัน แล้วที่กูพูดมันผิดรึไงวะ ใครๆเค้าก็พูดกัน เค้ารู้ทั้งนั้นว่า สันดานมันเป็นคนยังไง ”
“ เรื่องของกู มึงเสือกเหี้ยอะไร " ผมถามไอ้เท่ก็เงียบ " เรื่องของกู จะเป็นยังไงก็เรื่องของกู โง่ก็เรื่องของกู หนักหัวมึงมากรึไง เรื่องของกูทั้งนั้น ไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรกับมึงเลย หรือว่าความเป็นจริง มึงยังชอบไอ้ปิงอยู่ แล้วก็คิดอยู่ตลอดว่า เสียดายจังเลยนะยังไม่ทันได้เอาเลย หึ " ผมยกยิ้มเหมือนคนเหนือกว่า ไอ้เท่ที่อยากจะกระโจนเข้ามาหาไอ้โจ๊กรั้งมันไว้
“ มึงก็เงียบเถอะ ไอ้เหี้ย รู้ทั้งรู้ยังไปถามมันอีก ไอ้สัด "
“ ปล่อยกู " สะบัดตัวเองออกจากการจับกุมของไอ้เทม ผมจ้องหน้ามันที่พูดคำนั้น ก่อนจะหันไปมองไอ้เท่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า " จำเอาไว้ มึงไม่มีสิทะธิมาว่าเมียกู เมียกู กูคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิด่ามัน แล้วอย่ามาเสือกเรื่องกูอีก "
“ ครั้งต่อไปถ้าเมียมึงส่อสันดานร่านๆอีก นอกจากกูจะไม่โทรไปบอกมึงแล้ว กูก็จะปิดมือถือซะ หรือไม่กูก็จะบอกให้คนแถวๆนั้นจัดการเมียมึง "
“ ไอ้เชี้ยนี่ " ปากสบถออกไปพร้อมขาที่ออกตัวเดินไปข้างหน้า ก็ว่าจะจบแล้วแต่ดูเหมือนคนตรงหน้ายังไม่อยากจบ
“ พอ ไอ้เสือ ไอ้เท่มึงผิดนะงานนี้ หยุดพูดเหี้ยๆแบบนั้นก่อนที่กูจะไม่รั้งไอ้เสือไว้ให้อีก "
“ แล้วมึงคิดว่ากูกลัว "
“ ได้เลยไอ้สัด " ผมผลักไอ้เทมออก ก้าวขาออกไปคว้าไอ้เท่เข้ามาใกล้ ผมต่อยมันลงไปอีกหลายหมัด ตอนนั้นเทมไม่ห้ามแล้ว ไอ้โจ๊กไอ้นิวก็เหมือนกัน
ผู้คนเริ่มมุงดูเรามากขึ้น การชกต่อยที่เหมือนจะมีแต่ผมที่ต่อยมัน " พอๆ พวกมึงจะต่อยกันไปอีกแค่ไหนวะ " เสียงรุ่นพี่เข้ามาห้าม เค้าหันไปหาพวกไอ้เทมที่เอาแต่ยืนดูแต่ไม่ช่วยห้ามเพื่อน " พวกมึงก็เหลือเกินทำไมไม่ห้ามเพื่อน "
“ ก็ห้ามแล้วพี่ แต่ไอ้เหี้ยเท่ยังไม่หยุดปากหมา ก็เลยไม่ห้ามละ มันวอนตีนไอ้เสือเอง "
“ พวกมึงนี่ก็ หยุดเว้ย หยุด " เราสองคนถูกแยกออกจากกัน ผมที่มีแผลตรงมุมปาก กับไอ้เท่ที่มีเลือดไหลบนหน้าอยู่มาก
“ หยุดปากหมาเรื่องเมียกูได้ยัง มึงคิดหน่อยดิวะ ใครมันชอบให้คนอื่นมาด่าเมียมึงบ้าง ไอ้ปิงถึงมันจะเป็นยังไง แต่ยังไงก็แฟนกู ไม่ดีในสายตาของคนอื่นแล้วยังไง แต่มันดีในสายตากู " ว่าแบบนั้นก่อนใช้นิ้วชี้ เคาะลงตรงขมับของตัวเองเบาๆ " มีสมองมึงก็คิดซะบ้าง ว่าอะไรที่มึงควรพูด อะไรที่ไม่ควรพูด อย่าดีแต่ปาก ไม่งั้นรอบหน้าอย่าหาว่ากูไม่เตือน "
“ พอๆ แยกๆ มึงไปเลย ไอ้เสือ "
“ ไม่ต้องไล่ไปอยู่แล้ว " หันไปบอกรุ่นพี่แบบนั้น ผมที่เดินออกจากวงสนทนา ไอ้เทมก็หันมาตบไหล่
“ ไม่เป็นไรนะมึงน่ะ " ขมวดคิ้วมองมันตอนที่ได้ยินคำถามนั้น ผมยิ้ม
“ ทำไมต้องเป็นอะไรด้วยวะ แค่เสียเพื่อนเหี้ยๆ กูไม่ตายหรอก " มันคงเป็นห่วง อาจเพราะเราสนิทกันมาก ทะเลาะกันแรงแค่ไหนก็ไม่เคยเลยที่จะต่อยกันถึงขนาดนี้
“ ไม่เสียหรอกน่าเดี๋ยวมึงกับมันก็คุยกัน ลูกผู้ชายมันต้องต่อยกัน ถึงจะเข้าใจกัน " เทมยกมือขึ้นตบไหล่ผมก่อนจะยิ้ม " แต่ปิงมันคงมีค่ากับมึงนะ ถึงทำมึงเป็นได้ถึงขนาดนี้ "
“ ถามจริงๆเถอะ ถ้ามีใครมาด่าไอ้ไฟ มึงจะทำยังไง สำหรับกู ถึงใครจะบอกว่า ใครๆเค้าก็คิด ใครๆก็พูด กูไปต่อยคนพวกนั้นไม่ได้ทุกคน แล้วยังไงวะ ถ้ากูได้ยินกูต้องทำเป็นเฉยด้วยเหรอวะ ไม่เป็นไร คนด่ามันแบบนี้ จะให้กูคิดอย่างนี้เหรอ กูคิดไม่ได้วะ กูรักของกู แล้วกูจะปกป้องมัน "
“ กูเข้าใจ กูก็เคยเป็นแบบนั้น ตอนที่ใครๆก็ไม่อยากให้กูคบไอ้ไฟ แต่เรื่องแบบนี้ มันก็มีแค่ตัวมึงเท่านั้น ที่เข้าใจ " เทมยื่นมือมาตบไหล่ ในจังหวะเดียวกันที่ใครบางคนเดินเข้ามาทัก
“ เสือ เป็นยังไงบ้าง "
“ พี่ปิ่น " ผมถอนหายใจมองเธอ ตอนที่มือนั้นยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้
“ เช็ดหน่อยนะอะ แล้วทำไมไปต่อยกับเท่แบบนั้น "
“ เรื่องมันยาว " บอกแบบตัดความรำคาญอีกคนก็ยิ้ม
“ เรื่องแฟนเสือที่ ชื่อปิงละสิ "
“ รู้แบบนั้นแล้วจะถามทำไมวะ " หยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือนั้นขึ้นมาเช็ดตรงมุมปาก ไอ้เทมเดินออกไปแล้ว ผมนั่งลงตรงเก้าอี้ใต้คณะตัวที่ว่าง พี่ปิ่นนั่งลงข้างๆ " มีอะไร จะถามเรื่องอะไรก็ถามมา "
“ จะถามเรื่องวันนั้นนะ " ผมหันไปหาเธอ พี่ปิ่นก็ขยายความ " เรื่องที่สระว่ายน้ำวันนั้น เรื่องของคิวแฟนพี่กับแฟนเสือนะ "
“ อื้ม "
“ ถามได้มั้ยว่าเป็นยังไง "
“ มันบอกว่าไงละ "
“ ก็บอกว่า แฟนเสือคุยกับเค้าก่อน เค้าก็เลยคุยตามมารยาท เค้าบอกพี่แบบนั้น " เธอว่ายิ้มๆแบบไม่สบายใจ " อีกอย่างเค้าก็บอกด้วยว่า แฟนเสือน่ะ เป็นผู้ชายอย่างว่าอยู่แล้ว เค้าเลยเล่นด้วยแบบ เล่นๆ "
“ แล้วพี่ก็เชื่อเค้า "
“ ก็นะ.. จะว่าไงดีละ ในคณะเราก็รู้ว่าแฟนเสือคนนี้เป็นอะไรมากก่อน "
“ อย่างงั้นสินะ แต่ว่าจะบอกอะไรให้อย่างแล้วกัน ผมมองแฟนพี่กับแฟนผมตลอดเวลา เห็นตั้งแต่มันเข้ามาจีบ แล้วผมก็เตือนว่าอย่ามายุ่งกับของของผม แต่มันก็ไม่ฟัง "
“ แต่เสือ เสือมั่นใจในตัวแฟนเสือมากแค่ไหน พี่ว่าบางทีเค้าอาจจะ..”
“ แล้วพี่มั่นใจแฟนพี่มากแค่ไหน ถึงขนาดมันตอแหลขนาดนี้พี่ยังเชื่อ " ผมถามกลับ อีกคนก็เงียบ " พี่มั่นใจว่า มันไม่พูดโกหก มันรักพี่คนเดียวอย่างงั้นเหรอ อะไรที่มันทำให้พี่เชื่อแบบนั้น "
“ สิ่งที่เค้าปฎิบัติต่อพี่ไง เสือเองก็เชื่อปิงเพราะสิ่งที่เค้าปฎิบัติกับเสือไม่ใช่เหรอ "
“ เปล่า " ผมปฎิเสธ " แต่ผมเชื่อมันเพราะสิ่งที่ผมเห็น สิ่งที่ผมเห็นในตัวของมันตังหาก พี่น่ะ มองเห็นแฟนพี่รึไง เชื่อใจก็ได้นะ แต่ต้องคิดด้วยว่า คนแบบนั้นควรให้ความเชื่อใจกับเค้ารึเปล่า "
“ แต่พี่รักเค้านะ พี่เลยคิดมาตลอดว่า พี่ต้องเชื่อใจเค้า เสือเอง ก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ เพราะรักเลยเชื่อใจ เลยปกป้อง พี่เองก็เป็นแบบนั้น "
“ ไม่เหมือน เพราะผมไม่ได้โง่เหมือนพี่ ผมเชื่อในสิ่งที่ผมเห็น แต่พี่เชื่อในสิ่งที่พี่อยากจะเชื่อ พี่เชื่อจากการได้ยิน คนเหี้ยๆมีหลายแบบนะ สำหรับแฟนพี่ ผมว่ามันคงเหี้ยจากสันดานจริงๆ ผู้ชายหน้าตัวเมียน่ะ เสียใจด้วยนะครับ ที่ต้องเจอกับคนแบบนี้ " ผมก้มลง เพื่อบอกลาเธอ แต่ตอนที่กำลังจะลุกขึ้นเดินหนี พี่ปิ่นก็ห้ามไว้ก่อน
“ แล้วเสือคิดเหรอ ว่าสิ่งที่ตาเห็นมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่การแสดง "
“ สำหรับคนฉลาดอย่างผม ไม่ตกหลุมอะไรแบบนี้ง่ายๆหรอก .. แต่ก็อย่างที่ไอ้เทมบอก คนมันรัก พูดยาก แต่ก็ขอให้ฉลาดไวๆแล้วกัน ผมคงดีใจถ้าพี่เลิกยุ่งกับคนแบบนั้นได้ อย่างน้อยก็ในฐานะ รุ่นน้องคนนึง " ที่เคย... แอบชอบรุ่นพี่
ว่ากันว่า โรคที่รักษายากที่สุด คงเป็น โรครัก โรคร้ายที่ไม่มีทางรักษา เว้นแต่เสียว่า ตัวเราเองนั้นจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเราเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง และ ก้าวไปข้างหน้า ด้วยตัวเอง โรคร้ายที่ผมเองไม่อยากจะเป็นเลย .. แต่คิดว่าคงไม่รอด
....................................................................
บอกแล้วว่ายังไม่จบ
ใจเย็นๆ ของแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป
เอาจริงๆ ปิงก็แรง เสือก็แรง เหมือนคนแรงสองคนมาเจอกัน
มารักกัน แล้วก็ต้องปรับกัน เป็นคู่มวยที่กินกันไม่ลงจริงๆ
มันต้อง " ยอมแหละ "
เคยฟังเรื่องนี้เปล่า เค้าบอกว่า คนเราเวลามีความรัก ก็เหมือนมีวงกลมสามวงเป็นความอดทนทีละชั้น
ครั้งแรกเราให้อภัย วงกลมก็หายไปวงนึง ครั้งที่สองก็เหมือนกัน จนกว่าวงกลมจะไม่มีเหลือก็ควรปรับตัวเข้ากันให้ได้
แต่สำหรับหนมแล้ว หนมมองว่า คนมันรัก มันไม่มีแค่สามวงหรอก คนมันรัก มันคงมีเป็นร้อยๆวงแหละ
จนกว่าจะหมดความอดทนกันไป
พูดอะไรอยู่ ดูไร้สาระจัง ฮ่าๆๆๆๆ

เนื้อเรื่องกำลังดำเนินต่อไป เป็นกำลังให้ เสือปิงด้วยนะคะ
ว่าจะผ่านพ้น อดีต และ นิสัย ที่เลวร้ายของกันและกันไปได้รึเปล่า
จะปรับตัวเข้าหากันได้มั้ย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ฝากแท็ก #เสือปิง ในทวิตด้วยนะคะ
