เนื่องจากยูกิโดนข้อความเตือน ฮ่าๆ (เพราะยูกิอ่านกฏไม่เข้าใจเล็กน้อย) เลยทำให้ตอนนี้เสียความรู้สึกม๊ากมาก
จะพยายามพูดคุยในเว็บแห่งนี้แทนนะคะ จะไม่แจ้งข่าวอะไรใดๆ ทั้งสิ้น (อยากติดตามข่าวสารเกี่ยวกับหนู? ไปแฟนเพจน้า)
ตอนที่ 14
หวงหรือหึง!! (ครึ่งหลัง)
เอี๊ยดดด!!
เท้าเหยียบเบรกกะทันหัน ก่อนจะขับไปจอดข้างๆ ทาง หันมามองปลายฝันด้วยความตกใจ ในใจร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูกขัดกับสีหน้าที่นิ่งสุดๆ ของตน
“เป็นอะไร” ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“เปล่า”
“แล้วร้องไห้ทำไม”
“เปล่า”
ปลายฝันตอบแต่คำเดิมๆ ปาดน้ำตาออกจากตาแรงๆ แบบไม่กลัวว่ามันจะช้ำ แต่ก่อนที่จะปาดมันไปมากกว่านี้ มือใหญ่กับคว้าจับเอาไว้ เลยเปลี่ยนเป็นก้มหน้าหลบสายตาคมดุแทน
“บอกมาดีๆ ว่าร้องทำไม”
“ผมจะร้อง อึก...มันก็เรื่องของผม คุณไม่เกี่ยว”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็เธอร้องไห้ตอนอยู่กับฉัน จะเป็นใครถ้าไม่ใช่ฉันที่ทำให้เธอร้อง” ปฐพีพูด
“ค่ะ...คุณรู้ แล้ว ฮึก...ถามทำไม”
“ก็ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงร้องไห้” บอกเสียงอ่อนโยน
“ช่างมันเถอะ คุณขับรถต่อเถอะครับ ผมอยากกลับแล้ว” ปลายฝันพูดพลางแกะมือที่จับที่ข้อมือตัวเองแน่นออก แต่มือแกร่งไม่ปล่อย
“บอกมาดรีม!!” คนตัวใหญ่ขึ้นเสียง
“คุณมันคนใจร้าย ฮึก” คนตัวเล็กร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“อย่าร้อง...ฉันไม่ชอบน้ำตาของเธอ” มือแกร่งปล่อยข้อมือเล็กแล้วเช็ดน้ำตาออกจากตาสวยอย่างอ่อนโยน
แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองใจร้ายยังไง
ก็ขอที่จะไม่เห็นน้ำตานี้ก่อนดีกว่า
“ฮึก...”
เสียงสะอื้นกับน้ำตามที่ไหลรินของปลายฝัน บีบคั้นหัวใจของปฐพีจนแทบหายใจไม่ออก
ปลายฝันกำลังเจ็บปวดอย่างสาหัสกับคำพูดของปฐพี อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับอัคนีที่แม้จะร้ายกาจแค่ไหน ก็ไม่เคยทำให้ร่างบางร้องไห้เลยสักครั้ง
ทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้วะ!!
แกเคยเข้มแข็งกว่านี้นะดรีม… ร้องทำไมกับเรื่องแค่นี้
หยุดร้องเถอะ มันไม่ได้อะไร...
“ฉันขอโทษ หยุดร้องเถอะ”
จะเป็นบ้าแล้ว ขอร้อง...หยุดเถอะนะ
“ฮือ...พมผมกลับ อึก เดี๋ยวนี้”
“ได้ๆ แต่ต้องหยุดร้องก่อนนะ”
ให้ทำอะไรตอนนี้ปฐพียอมทุกอย่าง ขอเพียงแค่คนตรงหน้า หยุดร้องไห้เสียที
ปลายฝันปาดน้ำตาออกลวกๆ พยายามกลั้นเสียงสะอื้นตัวเองเอาไว้ หันไปมองนอกประตูฝั่งตัวเองอย่างไม่สนใจปฐพีอีก คนตัวสูงเห็นแบบนั้นก็หันมาออกรถ ตรงดิ่งกลับคอนโดด้วยความเร็ว
เมื่อมาถึงคอนโดแล้ว ร่างบางก็เดินจ้ำอ้าวอย่างเร็วโดยไม่รอคนตัวสูงเลยสักนิด เดินเข้าห้องไปก็พบว่าอัคนีอยู่ในห้องเสียแล้ว แต่ร่างบางไม่มีอารมณ์จะคุยจะทักทายใครทั้งสิ้น
หมับ!
แต่ก่อนจะเดินผ่านอัคนีไป มือแกร่งของคนตัวสูงกว่าก็คว้าข้อมือเล็กเอาไว้ ขมวดคิ้วแน่น มองใบหน้าหวานดีๆ ก็พบว่าดวงตาสวยแดงก่ำเหมือนคนผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา
“ปล่อยผมนะคุณเพลิง”
“มึงทำอะไรไอ้ดิน” อัคนีถามฝาแฝดเสียงเข้ม
“กูไม่รู้”
“ไม่รู้ได้ไงวะ! มึงอยู่ด้วยกันตลอด แต่ทำไมดรีมถึงร้องไห้! จะแกล้งอะไรก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย” อัคนีเตือน
“กูไม่ได้แกล้ง”
“งั้นมึงตอบกูมาว่าทำไมดรีมถึงร้องไห้”
อัคนีเริ่มหงุดหงิด ใส่อารมณ์ถามปฐพีแบบไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าเขาจะชอบแกล้งปลายฝันเหมือนกัน แต่ไม่เคยถึงกับร้องไห้!!
ให้ปลายฝันโกรธยังดีกว่าร้องไห้ออกมา...
“อย่ามาชวนกูทะเลาะนะไอ้เพลิง กูบอกว่ากูไม่รู้” ปฐพีเถียงเสียงเครียด
“แล้วทำไมมึงถึงไม่รู้!!” อัคนีตะคอก
ปลายฝันมองทั้งคู่เถียงกันแล้วรู้สึกเสียใจ ไม่ชอบ ปะปนกันไป
ไม่อยากเห็น...ไม่อยากเห็นทั้งคู่ต้องมาทะเลาะกัน
ปลายฝันไม่อยากให้ปฐพีกับอัคนีต้องมาทะเลาะกันเพราะเรื่องแค่นี้
“กูถามดรีมแล้ว แต่ก็ไม่ยอมตอบว่าร้องทำไม แล้วมึงจะให้กูเอาอะไรมาตอบวะ!”
“ถ้างั้นมึงก็ลองคิดดีๆ ว่าพวกมึงคุยอะไรกัน ทำไมดรีมถึงร้องไห้!!”
“กูก็แค่คุยเรื่องเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อกับดรีมก็เท่านั้น!!”
“ว่าไงนะ!!” คราวนี้อัคนีหันมาจ้องดวงหน้าหวานเขม็ง
“ก็บอกแล้วไงว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน” ปลายฝันพูดเสียงเบาและสั่น
“ฉันก็เชื่อแล้วไง แล้วเธอร้องไห้เพราะอะไรวะ” ใบหน้าคมเครียด
“จำที่ผมถามได้ไหม”
ปฐพีฉุกคิดสักพักก็เบิกตากว้างเมื่อคิดได้ว่าตนพูดอะไรออกไปเพื่อตอบคำถามนั่น
‘คุณหงุดหงิดเพราะว่าก้องแตะตัวผมนี่นะ หึงหรือครับ’
‘ทำไมฉันต้องหึงเธอ แค่อยากให้เธอรู้ตัวเองเท่านั้นแหละว่าสถานภาพของเธอตอนนี้คือคู่หมั้นของฉันกับไอ้เพลิงถ้าไปคั่วกับผู้ชายอีกคนมันจะฉาวถึงพวกฉัน’
“รู้แล้วก็ปล่อยผมสักที!”
“ห่วงแต่หน้าตัวเองทั้งๆ ที่ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ทำไมต้องพูดจาร้ายกาจใส่กันด้วย!! ผมไม่ได้ทำอะไรผิด จำไว้ว่าผมไม่ให้อภัยคุณ!!” ปลายฝันตะคอกเสียงกร้าว
ปฐพีใจหายด้วยความรู้สึกกลัว
ร่างเล็กพยายามที่จะสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมนี้ เมื่อทำอะไรไม่ได้กับความแข็งแรงนี้ จึงจะได้ตัดสินใจก้มกัด
แขนใหญ่ของอัคนีแรงๆ จนปล่อยด้วยความเจ็บ แล้ววิ่งเข้าห้องนอนตัวเองไป
ปัง!!
“มึงพูดว่าอะไร” อัคนีถามอย่างเอาเรื่อง
“กู...พูดแรงไปจริงๆ ว่ะ” ปฐพีบอกด้วยน้ำเสียงหมดแรง
จากนั้นปฐพีก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้อัคนีฟัง ซึ่งคนฟังก็ฟังไป เลือดขึ้นหน้าไป จะโมโหเรื่องของก้องภพก็โมโห ที่สำคัญเรื่องที่ทำให้อัคนีโมโหที่สุดก็คือเรื่องของปฐพีที่ทำให้ปลายฝันถึงกับร้องไห้
ผลัวะ!!
ใบหน้าคมของปฐพีหันไปตามแรงของหมัดที่อัคนีประเคนให้ เช็ดเลือดที่มุมปากแบบลวกๆ ก่อนจะนั่งก้มหน้าแบบเดิมไว้
“เพรามึงชอบหนีความรู้สึกตัวเอง”
“อืม...กูรู้”
“หาทางขอโทษดรีมซะ!!!”
ปฐพีไม่พูดอะไรอีก ไม่ใช่เพราะเจ็บปากที่โอนอัคนีต่อย แต่กำลังคิดว่าจะขอโทษคนตัวเล็กที่ขังตัวเองอยู่ในห้องยังไงดี
“เออ ขอบใจ” ปฐพีเดินเข้าห้องตัวเองไปด้วยความรู้สึกผิด ตั้งใจจะไม่ออกไปทานข้าวเย็น เพราะกลัวว่าปลายฝันจะทานอะไรไม่ลง
ปลายฝันรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้อาบน้ำ เปลี่ยนชุด ก่อนจะเดินออกมาข้างนอกเพื่อไปทำอาหารให้กับปฐพีและอัคนีเช่นทุกวัน ก็ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเผชิญหน้ากับปฐพีอีก แต่ก็ผิดคาดที่เห็นอัคนีนั่งอยู่คนเดียว
“อารมณ์ดีขึ้นยัง” อัคนีถามยิ้มๆ
ยอมรับอย่างจริงใจเลยว่า อัคนีทำให้ปลายฝันรู้สึกดีกว่าเดิม จากที่เคยคิดว่าอัคนีเป็นผู้ชายที่พูดจาร้ายกาจกว่าปฐพี แต่ไม่เลย...
ร้ายกาจพอๆ กัน ส่งผลกระทบต่อตัวใจดวงเล็กเหมือนกัน
“อารมณ์ดีอะไรล่ะครับ ผมก็เหมือนเดิม ปกติดี”
“เป็นแบบนั้นก็ดี”
“วันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” คนตัวเล็กถาม
“อะไรก็ได้ ทำมาเถอะ”
“ครับ”
“ไอ้ดินมันมีเหตุผลของมัน ถึงมันจะนิ่งๆ เงียบๆ และชอบพูดอะไรตรงข้ามกับหัวใจเสมอ” อัคนีพูดขึ้น
“เขาจ้างคุณเท่าไหร่ล่ะ”
“อย่างฉันจำเป็นต้องเอาเงินด้วยเหรอ เฮอะ!! ให้ไอ้นี่มันไป” พูดพร้อมโชว์กำปั้น ปลายฝันแสดงสีหน้าเครียดออกมา
“ทำไมถึงใช้กำลัง”
“ไม่รู้สิ มือมันกระตุก” ยักไหล่ตอบแบบสบายๆ
“แล้วคุณดิน เป็นอะไรมากไหมครับ” ถามด้วยความเป็นห่วง
“ห่วงมันหรือไง” ถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ป่ะ เปล่าครับ” หลบตาคมที่มองอย่างจับผิด
“มันฝากบอกว่าไม่กินข้าวเย็น เจ็บปาก กินอะไรไม่ได้”
“ขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“อืม...ก็ฉันต่อยมันจนปากแตกเลยล่ะนะ”
“เหมือนคุณจะภูมิใจเลยนะครับ”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันต่อยมันเหมือนกัน ทะเลาะกันก็บ่อย แต่ลงไม้ลงมือนี่เป็นครั้งแรกเลยนะ” อัคนีบอก ริมฝีปากบางของปลายฝันเม้มแน่นอย่างคิดหนัก
ใจหนึ่งก็ยังเคือง อีกใจก็อยากจะรู้ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า...
“ผมขอตัวไปทำอาหารนะครับ”
อัคนีส่ายหัวให้กับความใจแข็งของปลายฝัน ก่อนจะแสดงความเสียใจให้กับปฐพีในใจ ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความรู้สึก เพราะตอนแรกที่ได้ยินเขาก็เลือดขึ้นหน้าเหมือนกัน
“เด็กก้องน่ะหรือ หึ!! คงต้องไปทำความรู้จักเพื่อน ‘สนิท’ คนนี้ของเด็กดรีมเสียแล้ว”
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า” อัคนีถามปลายฝันที่สาละวนอยู่กับการทำอาหาร
“คุณทำอาหารเป็นหรือไง”
“เธอก็สอนสิ”
“ถ้างั้นคุณล้างผักให้หน่อยสิครับ คงจะล้างเป็นนะ” ปลายฝันถาม
“อย่าดูถูก แค่นี้ทำไมจะไม่เป็น” อัคนีตอบพลางเดินไปที่ซิงค์น้ำ ก่อนจะทำการล้างผักให้ปลายฝันดู ซึ่งคนตัวเล็กก็มองแล้วอมยิ้มอย่างขำๆ
ลองมาได้เห็นคนตัวใหญ่ที่ใส่แต่สูท จับแต่ปากกา เซ็นแต่เอกสาร แล้วตอนนี้มาล้างผักดูล่ะก็
ทั้งน่าขำ และน่ารักมากเลยในสายตาของปลายฝัน
“ฮ่าๆ นั่นเขาเรียกว่าล้างหรือครับ”
“ก็ทำไมล่ะ ล้างแบบนี้แหละจะได้สะอาดๆ”
“ครับๆ แต่อย่าทำให้ผักช้ำล่ะ เดี๋ยวมันจะไม่ดูน่าทาน”
“เออน่า เชื่อใจฉันเถอะ”
“คิก แล้วผมจะรอดู”
ฝ่ายฝันแอบหลุดหัวเราะ เมื่ออัคนีล้างผักแบบแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ปล่อยให้ร่างสูงทำต่อไป...
ปฐพีแอบมองทั้งสองคนอยู่ด้านนอก ก็รู้สึกอิจฉาอัคนี ที่ปลายฝันยิ้มและหัวเราะด้วยความสบายใจเมื่ออยู่ด้วยกัน แต่กับเขาแล้วทำให้ปลายฝันต้องร้องไห้
ด้วยคำพูดร้ายกาจของตัวเอง
“ดูมีความสุขดีนะ”
ทำไมถึงได้หายใจไม่ออกแบบนี้นะ
“ทำไมกับฉันเธอถึงได้ไม่เคยยิ้มให้”
ปฐพีกำลังอ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ก็แค่เด็กจนๆ ที่ไม่มีอะไรเลย ทำไมถึงทำให้กูเป็นได้ขนาดนี้วะ!! ทำไมกูถึงได้รู้สึกเจ็บแบบนี้! ทำไม เพราะอะไร...ชิ!!” ปฐพีสบทกับตัวเองด้วยความโมโห และเจ็บใจ
จะหันหลังให้ดีหรือเปล่านะ…
เป็นแบบนี้ต่อไป รั้งแต่จะทำให้ปลายฝันไม่มีความสุขเปล่าๆ
100%

สวัสดีค่านักอ่านที่น่ารักยิ่งของน้องดรีม เอาครึ่งหลังมาลงให้แล้วนะคะ หวังว่าคงจะสนุกกัน หรือไม่สนุกก็ขออภัย เพราะยูกิเอง ก็มีความคิดไม่ค่อยจะสร้างสรรค์เท่าไหร่ ขอบคุณที่คอยติดตามอ่านกันมานะคะ และตามอ่านกันต่อไปด้วย นี่คือการบังคับ 555+
ก็มีอะไร อยากพูดคุยกับยูกิก็เจอกันที่แฟนเพจค่ะ ติดตามข่าวสารต่างๆ ก็ที่แฟนเพจค่ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki