
โอ้โห ตอนนี้ดรีมดูไม่ค่อยมีเหตุผลเลยใช่ม้า แน่นอนล่ะ คนเรามันก็พลาดบ้าง ผิดบ้าง ไม่มีใครดีตลอดรอดฝั่งหรอก อิอิ
ตอนที่ 15
ฉันไม่เคยโกหกใคร (ครึ่งหลัง)
"ฉันไม่เคยโกหกใคร"
อัคนีหันหนีก่อนจะพูดอีกประโยคออกมาทำให้ปลายฝันใจหายวาบ
“และไม่แปลกใจเลยที่ไอ้ดินมันไม่ยอมมาง้อ เพราะต่อให้มันขอโทษยังไง เธอคงจะไม่รับฟัง แบบที่ฉันกำลังเจอ ฉันไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธอจะคิดยังไง จะดีใจแค่ไหนที่เห็นฉันเป็นแบบนี้...”
ร่างบางยังคงเงียบ มองดูสายตาตัดพ้อของคนตัวสูงอย่างเสียใจ แต่ทิฐิของตนทำให้ได้แค่ยืนมองเฉยๆ
“จะรักกันแบบไหนก็รักไป แต่ยังไงก็ขอให้ไว้หน้าพวกเราด้วย ฉันจะไม่กลับมาอยู่ที่นี่ เชิญอยู่ให้สบายเลยนะ ขอตัว!!” พูดจบอัคนีก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ปลายฝันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลง
ทั้งเรื่องที่ปฐพีพยายามหลบหน้า จนไปต่างประเทศก็ไม่บอกไม่กล่าว
มาวันนี้ก็ทะเลาะกับอัคนีอีก โดยไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ผิด...
ปลายฝันกำลังสับสน เสียใจ ปนเปกันไปหมด ในใจมันอึดอัดจนแทบจะร้องไห้ แต่ทำตามันก็ไม่ไหลออกมา
“ดรีม...เป็นอะไรหรือเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดีเลย ใจเย็นๆ นะ” ญาณินเดินมาถามเพื่อนด้วยความรู้สึกเป็นห่วง มองดูก้องภพที่ฉายแววตาอย่างยินดีด้วยความโมโห
“นายน่ะ จะดีใจเกินไปแล้วนะ” ญาณินหันไปต่อว่าอย่างอดไม่ได้
ทำไมเพื่อนที่คบกันมา ไว้ใจได้ ช่วยเหลือกันมาตลอด ถึงได้มีนิสัยแบบนี้
หรือเพราะว่าความรัก มันจึงทำให้ดวงตาและหัวใจถูกปิดบังไว้ ถึงไม่รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก
“ฉันดีใจอะไร” ก้องภพถาม พยายามตีหน้าให้นิ่งที่สุด
“ก็ที่...”
“จริงสิ! ก้องเป็นอะไรมากหรือเปล่า” ปลายฝันหันมาถามเมื่อนึกขึ้นได้ โดยไม่รู้เลยว่าญาณินกำลังจะพูดอะไรออกมา
ก้องภพยิ้มอ่อนแล้วส่ายหน้าน้อยๆ
“เราไม่เป็นอะไรมากหรอก”
“ดีแล้ว เราขอโทษแทนคุณเพลิงด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เรารู้ว่าเขาเป็นห่วงดรีมน่ะ”
“อืม...เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะ” ร่างบางพยายามทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“แล้วพี่เพลิงล่ะดรีม เขาไปแล้วนะ” ญาณินถาม
“ที่นี่เป็นของเขา เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ”
“แต่ว่าเขาบอกว่าจะไม่มาแล้วนะ”
“หญิง...ถ้ายังเห็นเราเป็นเพื่อนอยู่ ขอร้องได้ไหม หยุดพูดเรื่องนี้เถอะนะ” ปลายฝันหันไปอ้อนวอนเพื่อนสาว
“ได้ๆ เราไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ดรีมใจเย็นๆ นะ อย่าร้อง” เธอรีบปลอบทันทีที่เห็นดวงตาเศร้า
“ดรีม เราขอโทษนะที่เรื่องมันเป็นแบบนี้” ก้องภพเอ่ย
“ม่ะ ไม่เป็นไร”
“นายเงียบไปเลยนะก้อง” หันไปดุเพื่อนเครียดๆ
ญาณินนึกในใจ เห็นทีว่าจะบอกความจริงวันนี้ไม่ได้เสียแล้ว ในเมื่อปลายฝันก็ไม่พร้อมจะฟัง ก้องภพเองก็พยายามจะขัดทุกเมื่อที่เธอพูด
ต้องหาทางบอกวันหลัง...
ว่าคนที่จากไป...ไม่ได้ผิดอะไรเลย...
“บอกเราได้ไหม ว่ามันเรื่องอะไรกันก้อง ทำไมคุณเพลิงถึงจะต่อยก้องแบบนั้น” ปลายฝันเงยหน้าถามเสียงเศร้า แม้ไม่มีแรงจะพูดอะไร
แต่ก็อยากรู้ปัญหา
“เราไม่รู้ อยู่ๆ เขาก็ต่อยเรา”
“ก้องภพ!!! หยุดเดี๋ยวนี้!!!” ญาณินตะคอกเสียงดังออกมาสุดเสียงโดยไม่กลัวจะเจ็บคอ
“เป็นอะไรไปหญิง”
ก้องภพหันไปมองหน้าญาณินทันทีที่ปลายฝันถามขึ้น ตีสีหน้าโหดข่มขู่ร่างเพรียว แต่ญาณินก็หาได้สะทกสะท้านไม่ ตัวแม่ของรุ่นๆ ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว
“เราจะคุยกันทีหลังตามที่ดรีมต้องการนะ” เธอบอก
“อืม...เราไม่ไหวจริงๆ แล้วงานน่ะ รบกวนก้องเอาไปทำให้เสร็จได้ไหม” ปลายฝันหันไปขอร้อง
ก้องภพพยักหน้ารับ ยิ้มอ่อนๆ ให้ปลายฝัน แต่คนตัวเล็กไม่มีแม้แต่แรงที่จะฉีกยิ้มฝืนๆ ให้ ก้องภพเลยได้แต่สีหน้านิ่งๆ ตอบกลับเท่านั้น
แม้จะทำให้เขาทะเลาะกัน แต่ก็ใช่ว่าความรู้สึกของปลายฝันจะเปลี่ยน...
“ให้เราอยู่เป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไรหญิง ขอบคุณนะที่เป็นห่วง แต่เราอยากอยู่คนเดียว ขอเราอยู่คนเดียวนะ” ปลายฝันบอก
“ก็ได้ๆ งั้นเรากลับก่อนนะ เดี๋ยวเราจะโทรหานะดรีม อย่าคิดมากนะรู้ไหม” ญาณินพูดให้กำลังใจ ก่อนจะเก็บของตัวเองเพื่อจะกลับบ้าน
“งั้นเราจะกลับบ้านเลยแล้วกัน เดี๋ยวงานเราทำให้เสร็จเอง”
“ขอบคุณทุกคนเลยนะ ก้องก็อย่าลืมหายาอะไรกินด้วย เดี๋ยวไข้ขึ้น” ปลายฝันพูดอย่างเป็นห่วง มองหน้าก้องภพไปด้วย
ทำไมก้องไม่มีแผล?
“ขอบคุณนะดรีม เราจะรีบหายากินให้เร็วที่สุดเลยล่ะ”
“ไปได้แล้ว! ไปแล้วนะดรีม” ญาณินเรียกก้องภพในประโยคแรก แต่ประโยคหลังก็ลาเพื่อนที่ยืนเหนื่อยอยู่ ซึ่งปลายฝันก็ยิ้มอ่อนๆ พร้อมพยักหน้าเบาๆ
ร่างบางทรุดกายลงที่โซฟาอย่างหมดแรงหยัดยืน มันทั้งเหนื่อยใจ มันทั้งเสียใจ มันอยากจะร้องไห้ แต่มันก็ไม่ร้อง มันไปจุกรวมกันอยู่ที่อก มันอึดอัดจนร่างบางหงุดหงิด
ปฐพีไม่เคยหายไปเงียบๆ แบบนี้ อย่างน้อยก็มีบอกกันทุกครั้ง
และอัคนีเองก็ไม่เคยใช้สายตาผิดหวังกับเขาเลยสักครั้ง...
“ทำไมถึงหน่วงๆ แบบนี้นะ”
คนตัวเล็กพึมพำเบาๆ ตามองเพดานอย่างไร้จุดมุ่งหมาย มองมันราวกับจะทะลุออกไป
ไม่รู้ว่าอัคนีกับก้องภพใครถูก ใครผิดกันแน่
ไม่รู้ด้วยว่าทำไมปฐพีถึงพยายามหลบหน้าตน
“ทำไมมันไม่เหมือนเดิม”
เพราะต่อให้ทะเลาะกัน เถียงกัน แกล้งกัน พวกเขาทั้ง 3 คนก็กลับมาคุยกันเสมอ แต่ครั้งนี้มันต่างกันออกไปจากทุกที
“ไม่รู้อะไรแล้ว สับสนไปหมดเลยฮะแม่ แม่อยู่ไหน ช่วยดรีมด้วย ทำไมแม่ไม่พาดรีมไปด้วย ทำไมต้องทิ้งให้ดรีมอยู่คนเดียวด้วย ฮือ”
“ดรีมเหนื่อยแล้วจริงๆ นะฮะ ฮึก เหนื่อยจริงๆ”
ปลายฝันกำลังเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่บนโลกที่แสนกว้างใหญ่แห่งนี้ แน่นอนว่าจิตใจมนุษย์มักไม่แน่นอน ยามเสียใจ ยามท้อแท้ ยามหมดหวัง ก็มักจะหมดแรงยืนหยัด...
แต่แม่ก็สอนเขาไว้เสมอว่า...
‘จำไว้นะดรีม หากเราเสียใจท้อแท้ ก็อย่าถอยกลับนะลูก ให้เราหยุดเพื่อตั้งหลัก เพราะถ้าหากวันนี้เราเสียใจร้องไห้ วันต่อไปมันจะต้องดีกว่านี้ ไม่มีใครที่จะหัวเราะได้ทุกวัน กลับกันแล้วก็ไม่มีใครร้องไห้ได้ทุกวันเหมือนกัน แม่ไม่อยู่แล้ว ก็จำคำที่แม่บอก ที่แม่สอนสั่งไว้ให้ดีๆ นะลูก แม่รักดรีมนะครับ’
‘ดรีมก็รักแม่ฮะ’ คนที่มากด้วยทิฐิทั้ง 3 คนมาอยู่ด้วยกัน ต้องรู้จักลดทิฐิของตัวเอง พูดคุยด้วยเหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์เป็นหลัก
แต่ระหว่างปฐพี อัคนี และปลายฝัน ใครกันนะที่จะเป็นคนปล่อยวางมันก่อนกัน...
ทางด้านก้องภพและญาณินที่เดินออกมาจากห้องพักหรูของปฐพีและอัคนีเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน ทั้งสองคนก็เงียบจนอึดอัด
“ทำไมนายถึงเป็นคนแบบนี้”
“แล้วทำไม ฉันจะเป็นยังไงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ” คนตัวสูงตอบแบบไม่ใส่ใจ
“นายมันเลวร้ายมากเลยนะก้องรู้ตัวหรือเปล่า ทั้งๆ ที่พี่เพลิงยังไม่ทันได้ทำอะไรนายเลยนะ นายเป็นคนต่อยเขา แล้วก็จัดฉากให้เหมือนว่าเขาต่อยนายแบบนี้ ฉันว่ามันไม่โอเคว่ะ” หญิงสาวพูดออกมาตรงๆ
“เขาหาเรื่องฉันก่อนนะ”
“ตรงไหนล่ะที่พี่เขาหาเรื่องนาย เท่าที่ฟังมาแรกๆ พี่เขาขอบคุณนายด้วยซ้ำที่ดูแลดรีม มีแต่นายนั่นแหละที่พูดหาเรื่องเขา” ญาณินเถียง เพราะตัวเองนั่งฟัง นั่งมองทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เขาว่าฉันเด็ก ซึ่งฉันไม่ชอบ!” ก้องภพเริ่มใส่อารมณ์
“เป็นฉันก็มองว่านายเด็กนะก้อง นี่หรือเพื่อนที่แสนอบอุ่นของดรีม เฮอะ!! ฉันว่าดรีมหลงผิดแล้วล่ะ ที่เชื่อว่านายเป็นคนดี”
“ห้ามเธอเอาความจริงบอกดรีมเด็ดขาด”
“ทำไมห๊ะ! ทำไมฉันจะบอกไม่ได้ ถึงไม่บอกแล้วนายได้อะไรขึ้นมา พวกเขา 3 คนเป็นคู่หมั้นกันนะ สุดท้ายก็เลื่อนขั้นจนแต่งงานอยู่ดี”
ก้องภพสะอึกไป รับไม่ได้กับความจริง
“รู้ว่ารักดรีม แต่นายช่วยนึกถึงความเป็นจริงหน่อยได้ไหม ว่าถึงพวกเขาจะทะเลาะกันแล้วดรีมจะมองนายมากกว่าเพื่อนหรือ ก็ไม่!! นายได้ยินยังไม่ชัดพอหรือไงที่ดรีมบอกว่า นายเป็นเพื่อนกัน!!” ญาณินขึ้นเสียงใส่อย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
คนที่กำลังโมโห ต่อให้เอาช้างมาฉุด ก็รั้งไว้ไม่อยู่หรอก
ความจริงที่ก้องภพพยายามที่จะไม่จำดังเข้ามาในหัวอีกครั้ง ตอกย้ำว่าปลายไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อนที่ให้กัน
“ฉันไม่ยอมหรอก ฉันจะทำทุกอย่างให้ดรีมรักฉันให้ได้” พูดออกมาอย่างหมายมาด
“โอ้ยยย!! ฉันรำคาญนายจะแย่แล้วนะ โมโหโว้ย คอยดูสักวันนายจะเจ็บปวดที่สุด ไม่สังเกตหรือไงว่าพวกเขา 3 วันรักกันน่ะหา!!!”
“ไม่มีทางหรอกที่คนสามคนจะรักกันได้ ฉันไม่มีทางเชื่อ!!”
“เออแล้วแต่เลย เอาที่สบายใจ ทำอะไรก็ทำไป แต่ฉันไม่มีทางช่วยนาย ฉันต้องให้ดรีมรู้ความจริงให้ได้จำเอาไว้!!”
“ห้ามเธอบอกเด็ดขาด” ก้องสั่งเสียงกร้าว ใบหน้าจริงจังจนญาณินแอบกลัว แต่ไม่มีทางที่จะห้ามญาณินได้
ยังไงคนถูกก็ไม่ควรที่จะกลายเป็นคนผิด
และคนผิดก็ไม่ควรที่จะลอยนวล...
“เพื่อนก็เพื่อนเถอะ ถ้านายทำอะไรฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่เอานายไว้แน่! อย่าคิดว่าบ้านเมืองไม่มีกฎหมายนะ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ แต่ต้องไม่ร้ายแรง เพราะพลาดพลั้งเมื่อไหร่ แม้แต่คำว่าเพื่อน ดรีมก็ไม่มีทางให้ได้ และฉันเองก็เหมือนกัน!!” นอกจากญาณินจะเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างมีฐานะแล้ว ยังเป็นถึงลูกสาวนายพลตำรวจยศสูงอีกด้วย
แน่นอนว่าก้องภพทำอะไรเธอไม่ได้หรอก...
“ฉันขอร้อง” ก้องภพอ้อนวอนเสียงอ่อนลง เมื่อรู้ว่าใส่อารมณ์กับร่างเพรียวตรงหน้านี่ไม่ได้ผลแน่ๆ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอากล
ถ้าทำให้เหยื่อหลงกลไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกว่าก้องภพ
“เห็นทีว่าไม่ได้ ถ้านายอยากจะทำให้ดรีมรักจริงๆ ก็ควรจะใช้วิธีที่ถูกต้อง ไม่ใช่สร้างความร้าวฉาน” หญิงสาวแนะนำ “นายไม่ได้เป็นคนมาก่อน เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธิ์ ถึงจะมาก่อนแต่ถ้าดรีมไม่รักมันก็ทำอะไรไม่ได้”
“เข้าใจหรือเปล่าก้อง ว่าถ้าไม่รักก็คือไม่รัก”
เขาเข้าใจนะ แต่ไม่ตัดใจ...
จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ปลายฝันมาครอบครอง...
100%

ยูกิเพิ่งมานั่งอ่านคอมเม้นท์ของตอนนี้เลยทำให้รู้ช้าไปมากว่า ทำไมเขาพากันว่าน้องดรีมเยอะจังเลย ฮ่าๆ ขอโทษทีน้า ในความคิดของยูกิก็คือ จะไม่มีวันที่จะสร้างตัวละครที่ไม่เคยทำอะไรผิดเด็ดขาด แม้แรกๆ จะดี ยังไงก็ต้องมีบ้างที่ผิด เพราะทุกคนล้วนมีดีชั่วในตัวเนอะ จะดีประเสริฐเกินไป ก็ไม่สนุกกัน
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เข้าไปพูดคุย ให้กำลังใจยูกิได้ที่แฟนเพจเลยน้า
https://www.facebook.com/sawachiyuki