ตอนที่ 20
ภารกิจพิชิตเมีย
เช้ารุ่งขึ้น ปลายฝันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา พยายามขยับตัวเมื่อรับรู้ถึงความอึดอัด เพราะท่อนแขนใหญ่ที่โอบกอดเขาอยู่ แต่ก็ต้องส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งร่าง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเพราะกลัวเจ็บ ดวงตาเริ่มแสบร้อนด้วยพิษของไข้
นี่เรา...ยังไม่ตายอีกหรือ
“อ๊ะ จ่ะ เจ็บ”
เพียงแค่นี้ก็ตอกย้ำได้ดีแล้วว่าเรื่องที่ผ่านมามันคือความจริง ไม่ใช่ความฝัน เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับมันก็เป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี
พรึ่บ!!
เสียงของร่างเล็กถึงแม้จะเบาแต่ก็เป็นนาฬิกาปลุกให้ปฐพีกับอัคนีที่นอนกอดเขาอยู่ตื่นขึ้นมาทันที ร่างใหญ่ทั้งคู่ลุกขึ้นนั่งมองร่างเล็กที่นอนมองพวกเขาไปมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เป็นไงบ้าง” ปฐพีถามเสียงแหบเนื่องจากพึ่งตื่นนอน
“...” คนตัวเล็กไม่ตอบ
เจ็บน่ะสิถามได้... เจ็บจนแทบไม่อยากขยับ แล้วนี่เราจะไปเรียนได้ไหม
เมื่อวานนี้เราโดนพวกเขาทั้งสองเอาความบริสุทธิ์ไป ที่สำคัญเลยคือพวกเขาเข้ามาทีเดียวทั้งสองคนเลยนะนั่น แล้วแต่ละคนนี่มันเล็กๆ เสียเมื่อไหร่
แค่คิดยังผวาไม่หายเลย...
“ปวดหัวไหม อาการเป็นไงบ้าง” อัคนีถามต่อ แต่ร่างบางก็ไม่ตอบอยู่ดี
“ไข้ยังมีอยู่นะ ดีแล้วที่เช็ดตัวลดไข้ไปเมื่อคืนแล้วครั้งหนึ่ง เดี๋ยวยังไงมึงออกไปหาอะไรมาให้ดรีมกินซะ เดี๋ยวกูจะเช็ดตัวแล้วก็ทายาให้” ปฐพีหันไปสั่งอัคนี
“เออๆ”
กายใหญ่ของอัคนีลุกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไป เพื่อหาอาหารเช้ามาให้ปลายฝันทาน ส่วนปฐพีเองก็ลุกเดินเอากะละมังไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนน้ำ
รู้ดีว่ายังไงคนที่นอนซมอยู่บนเตียงไม่มีทางคุยด้วยง่ายๆ แน่ ดันทำไว้เยอะขนาดนั้น ที่สำคัญยังทำรุนแรงจนเป็นต้นเหตุของการนอนซมของปลายฝันเสียด้วย
“ม่ะ ไม่ต้อง” คนตัวเล็กพยายามดึงแขนที่ถูกคว้าไปโดยปฐพีเพื่อเช็ดตัวให้ แต่ก้ไม่มีแรงแม้แต่จะดึงมา
“อย่าดื้อ” ดุคนตัวเล็กนิดๆ
“ไม่ต้องสนผม”
“จะไม่ให้สนได้ไง มีแรงลุกจากที่นอนหรือไง”
“แล้วใครทำล่ะ” คนตัวเล็กพึมพำเบาๆ แต่ปฐพีก็ได้ยินอยู่ดี
“หึ! มีแรงเถียงแล้วหรือไง”
“ตอนนี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ ถ้าลุกได้เมื่อไหร่ผมจะตีพี่สองคนให้น่วมเลย” คนป่วยประกาศเสียงแหบๆ
“ก็ได้ ถ้าหายพี่สองคนยอมให้ตีเลย”
“เฮอะ! บอกตามตรงว่าตอนนี้ผมไม่อยากเห็นหน้าพวกพี่ชะมัด ช่วยปล่อยให้ผมนอนคนเดียวจะได้ไหม แล้วพวกพี่ก็ไปทำงานเถอะ” ปลายฝันไล่
“ไม่ได้ แล้วใครจะดูแล”
“ก็ไม่ต้องมี อยู่เองได้” คนป่วยอวดเก่ง
“อย่ามาอวดเก่งนักเลยดรีม ลุกได้หรือไง ไหนจะข้าวเที่ยงอีก หรือจะเข้าห้องน้ำอะไรอีก จะคลานหรือไง แต่พี่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าแรงพวกพี่ไม่ได้น้อยขนาดที่จะลุกขึ้นได้”
“หยุดพูดเลยนะพี่ดิน ยังไงก็ให้พี่ธีร์มาก็ได้”
“ไม่เอา พี่จะอยู่ วันนี้ไม่ทำงาน” ปากพูดไป มือก็ทำหน้าที่เช็ดตัวให้คนป่วยไปด้วย
“ไร้ความรับผิดชอบ”
“ก็กำลังรับผิดชอบอยู่นี่ไง”
“ชิ!!!”
ร่างสูงไม่พูดตอบโต้อะไรอีก มือที่เช็ดตัวปลายฝันอยู่ก็เช็ดเรื่อยๆ จากหน้า ลำคอ จนมาถึงแทนทั้งสองข้าง มืออีกข้างก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิร์ต แต่ปลายฝันก็ใช้แรงทั้งหมดยกมันขึ้นตะปบเอาไว้ได้ พลางบอกด้วยความอาย
“ม่ะ ไม่ต้องเช็ดข้างในก็ได้”
“ไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่สบายตัว เมื่อวานหลังจากที่ทำเสร็จพี่ก็แค่ล้างตรงนั้น แล้วก็เช็ดตัวนิดหน่อย ไม่ต้องมาอายอะไรแล้วตอนนี้ พี่เห็นมาหมดแล้ว”
ใบหน้าใสร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“บ้า”
“จะด่าก็ด่าไป”
คนตัวใหญ่ปลดกระดุมเสื้อจนหมด ก่อนจะหันไปชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ แล้วน้ำมาเช็ดร่างเล็กต่อ เช็ดไปด้วย ข่มใจไม่ด้วยความความเย้ายวนของปลายฝัน ร่างที่ขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยสัมผัสจากพวกเขาอยู่เต็มไปหมด ตั้งแต่คอจนถึงทั่วแผ่นอกและหน้าท้อง ทั้งนี้ยังไม่รวมหลังและตามต้นขาอีกด้วย
“ฮื้อ” ร่างเล็กครางออกมาอย่างขัดใจเมื่อปฐพีจงใจเช็ดวนไปมาอยู่ที่ยอดอกเล็ก
“หึหึ เป็นอะไร”
“พอแล้ว สะอาดแล้ว”
“รู้ได้ไงว่าสะอาดแล้ว ยังเหลือข้างล่างอีกนะ”
“ไม่ต้อง พอแล้ว ไม่งั้นผมจะโกรธจริงๆ ด้วย” ขู่ออกมา
“โอเคๆ ไม่เช็ดแล้ว แต่ต้องทายาที่แผลด้วยนะ” ปฐพีบอก พลางหันเอาผ้าไปวางเก็บไว้
“ว่ะ ว่าไงนะครับ ท่ะ ทายา...เอ่อ ตรงนั้น” ถามเสียงตะกุกตะกัก
“ใช่!! มา เดี๋ยวทาให้” คนตัวสูงแกล้งพูดพร้อมกับหยิบยาบนตัวเตียงมาด้วย
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวผมทาเอง” คนตัวเล็กรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
“ลุกขึ้นทาเองไหวหรือไง” ยักคิ้วถามกวนๆ
คนป่วยนอนกัดฟันดังกรอดอย่างเคียดแค้นที่ไม่สามารถทำอะไรเองตอนนี้ได้
“ไหว!!!”
“แต่พี่ว่าไม่ อย่าดื้อ ถ้าอายก็หลับตาไป สัญญาว่าจะไม่ล้อ โอเคไหม” ปลายฝันไม่ตอบ แต่เลือกที่จะหลับตาลงอย่างจำยอม ส่วนปฐพีก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ จับคนตัวเล็กนอนคว่ำอย่างเบามือที่สุด แต่ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดจากปลายฝันอยู่ดี
บวมมากเลยนะเนี่ย
ปฐพีบรรจงทายาลงไปที่ช่องทางด้านหลังของปลายฝันอย่างเบาและอ่อนโยนที่สุด เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กเจ็บมาก
“อ๊ะ อื้อ”
“เจ็บมากไหม พี่ขอโทษ”
“โกรธ!!” สั้นๆ คำเดียว
“ไม่เป็นไรพี่ยอมง้อ” คนตัวใหญ่ว่า
เมื่อทายาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปฐพีก็พลิกตัวปลายฝันกลับมานนอนหงายเหมือนเดิมอย่างเบามือ แล้วตามด้วยติดกระดุมเสื้อเชิร์ตให้ปลายฝันเหมือนเดิม พอดีกับอัคนีที่เดินเข้ามาพร้อมถาดข้าวและน้ำในมือ กลิ่นของมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่ามันคือโจ๊ก
“เสร็จแล้ว?” อัคนีถาม
“เออ งั้นมึงก็จัดการป้อนข้าวป้อนยาต่อเลยแล้วกัน กูจะไปอาบน้ำ”
“ได้! มึงไปเถอะ” อัคนีไล่ แล้ววางถาดไว้ตนโต๊ะที่อยู่หัวเตียงใหญ่
อัคนีค่อยๆ ประคองร่างเล็กให้นั่งขึ้นโดยให้เอนพิงหัวเตียง และเอาหมอนมาซ้อนๆ กันที่ด้านหลัง เพื่อให้ร่างบางไม่ต้องนั่งเกร็งมาก จะได้ไม่เมื่อย
“กินโจ๊กร้อนๆ ก่อนนะ จะได้กินยา เดี๋ยวป้อนเอง”
“ผมกินเองได้” ปลายฝันบอก
“อย่ามาดื้อนะดรีม พี่ไม่ได้ใจดี” ดูเสียงแข็ง จนปลายฝันสบตาคมอย่างโกรธๆ
“ดรีมเองก็ไม่ได้ใจดีเหมือนกันที่จะไม่โกรธ” พอเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อัคนีก็เงียบไปโดยปริยาย แต่ก็หันมาเปลี่ยนเรื่องแทนมากกว่า เดี๋ยวปลายฝันจะไม่ได้ทานข้าวเช้า
“พี่จะป้อน!!”
ปลายฝันรู้ว่าเถียงอัคนีไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะคนนี้เอาแต่ใจที่หนึ่ง จะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ เพราะฉะนั้น เถียงไปก็เหนื่อยเปล่าๆ
“เป็นไง” อัคนีถามอย่างตื่นเต้นเมื่อป้อนโจ๊กคำแรกให้ร่างเล็กไป
“ก็...เค็ม นี่พี่ซื้อที่ไหน” ปลายฝันจ้องถาม แต่อัคนีก็หลบสายตาอย่างผิดหวังทำให้คนตัวเล็กพอจะเดาทางได้หน่อยๆ
ทำเองสินะ...
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่เปลี่ยนจานใหม่ให้ รออีก 20 นาทีได้ไหม จะให้ไอ้ธีร์ไปซื้อ” อัคนีบอกเตรียมจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องนั่งลงเหมือนเดิมเพราะปลายฝันเอ่ยขัดไว้
“ไม่ต้อง...ผมหิวแล้ว กินอันนี้แหละ”
“ทำไม? ก็ดรีมบอกว่ามันเค็ม เดี๋ยวกระเพาะก็เสียหรอก” ถามอย่างสงสัย แต่ใจก็พองโตขึ้นา
“เสียดายของ...ที่สำคัญ เดี๋ยวคนทำจะเสียน้ำใจ” พูดออกมาเบาๆ แต่อัคนีก็ได้ยินมันอยู่ดี ปากหน้ายกยิ้มอย่างยินดี ก่อนจะป้อนโจ๊กปลายฝันต่อ
“ขอบคุณ”
คนตัวเล็กไม่ตอบอะไร เพียงแต่อ้าปากรับอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ถึงจะเค็มไปหน่อย ก็ได้รับความอบอุ่นเต็มเปี่ยม มันเป็นโจ๊กที่ไม่อร่อยเลย
แต่ทานแล้วสุขใจ
เพราะนอกนากแม่ที่เสียไป ก็ไม่เคยมีใครมาคอยดูแลเขายามป่วยเลย ยิ่งคิดก็ดีใจ อบอุ่นใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำไปเพื่อเป็นการรับผิดชอบ แต่ปลายฝันเองก็ดีใจที่ได้รับมัน
แม้จะโกรธที่โดนทำรุนแรง แต่ก็ไม่ได้โกรธถึงขั้นเกลียด อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้ถึงเราไปไหน
“เอาล่ะ นี่เป็นยาหลังอาหาร ส่วนก่อนอาหารพี่ลืมให้กิน ก็กินมันพร้อมกันนี่แหละ” อัคนีพูดแล้วยื่นยากับแก้วน้ำเปล่ามาให้ปลายฝัน ซึ่งก็รับมันมาทานอย่าไม่อิดออด
“ต้องการอะไรอีกไหม”
“ไม่แล้ว พี่เพลิงไปทำงานเถอะ”
“ไม่ไป!!” ปฏิเสธเสียงแข็ง
“พี่จะมาทิ้งงานแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้พี่ต้องขาดงาน”
“ถ้าคนที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่ขาดงานก็คือพี่เอง ไม่ใช่ดรีม เข้าใจไหม” บอกเสียงโหด
“ขาดทุนไม่รู้ด้วยนะ”
“ขาดพี่วันเดียวไม่ถึงกับขาดทุนหรอกน่า เมียพี่ไม่สบายขนาดนี้ คิดว่าพี่จะทำงานรู้เรื่องหรือไง”
ใบหน้าใสขึ้นสีแดงฝาดไปทั่วใบหน้าเมื่อได้ยินคำว่า ‘เมีย’ ออกมาจากปากของคนตัวใหญ่ ก่อนจะหันไปพูดใส่หน้าร่างสูงแก้เขิน
นี่เราควรโกรธนะดรีม ไม่ใช่มานั่งเขิน บ้าชะมัด!!
“กล้าพูดนะ”
“หรือไม่จริงล่ะ ดรีมจะเถียงว่าไม่ได้เป็นอะไรกับพี่หรือไง”
“ไม่พูดด้วยแล้ว ดรีมจะนอน” เปลี่ยนเรื่องไปเสียเลย
“โอเคๆ นอนก็นอน”
จากนั้นอัคนีก็ช่วยพยุงร่างบางให้นอนลงเหมือนเดิม เอาผ้าห่มขึ้นคลุมกายเล็กไว้ระดับหน้าอกบาง
“อยากได้อะไรก็บอกพี่”
“อือ แต่พี่เพลิงกับพี่ดินช่วยออกไปจากห้องได้ไหม”
“ทำไม”
“เบื่อขี้หน้า ไม่อยากเห็น”
พยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะรู้ว่าปลายฝันยังโกรธอยู่ แต่ที่สังเกตก็ไม่ได้โกรธอะไรมาก เพราะฉะนั้นแล้ว อะไรยอมได้ก็ยอมไปก่อน
เดี๋ยวงานจะเข้า
“ได้ๆ ถ้าดรีมไม่อยากเห็นก็ไม่มาให้เห็นเลย จะมาก็ต่อเมื่อดรีมเรียกนะ พี่อยู่ข้างนอกตลอด” อัคนีรับปาก เพราะไม่อยากจะกวนคนไข้มาก แม้ตัวเองจะอยากอยู่มากแค่ไหนก็ตาม
“อือๆ อย่าลืมซักผ้า กวาดบ้าน ล้างจาน ทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วยนะครับ พี่ต้องทำงานที่ผมเคยทำทุกอย่างในวันๆ หนึ่งให้เสร็จ”
“เรื่องสิ คิดว่าพี่จะทำหรือไง”
“ต้องทำ และพี่ต้องพาพี่ดินทำด้วย ถ้าอยากให้ผมหายโกรธก็ต้องทำ”
อัคนีเงียบแล้วครุ่นคิดอย่างหนักใจ จะให้นักธุรกิจอย่างพวกเขาทำงานบ้านเนี่ยนะ ใครรู้ ใครเห็นนี่อายตายเลย เสียชื่อเสียงหมด
จะเถียงปลายฝันตอนนี้ก็ใช่เรื่อง ถ้าไม่อยากโดนเกลียดก็ต้องทำลูกเดียว
เอาวะ!! ทำก็ทำ ดรีมทำได้ เราก็ต้องทำได้ดิวะ
“ไปไอ้ดิน!!” ชวนปฐพีที่เดินออกมาจากห้องน้ำเสียงดัง
“ไปไหนวะ” ถามกลับอย่างสงสัย
“ทำงานบ้านแทนเมีย เดี๋ยวเมียโกรธ”
ปฐพีหันไปถามร่างเล็กด้วยสายตาประมาณว่าจริงหรือเปล่า ซึ่งปลายฝันก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ ทำกับเขาถึงขนาดนี้ก็ต้องมีลำบากกันหน่อย
ที่ยอมๆ ไม่ใช่ไม่โกรธนะ
แต่คิดหาช่องทางแก้แค้นอยู่ต่างหาก
“ทำก็ทำ อย่าให้ถึงทีบ้างนะ” คาดโทษไว้ก่อนจะถูกอัคนีลากออกจากห้องไป
ปัง!!!
ประตูห้องใหญ่ถูกปิดลงอย่างแรงจนปลายฝันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เจ็บก็เจ็บ ปวดหัวก็ปวด ตั้งแต่เกิดมาป่วยหนักๆ แค่นานๆ ครั้ง แต่ทรมานมากที่สุดก็คือครั้งนี้แหละ
“ยังดีที่พี่เขาได้เราแล้วไม่ทิ้ง”
แต่เรื่องแบบนี้เราก็ไม่สามารถที่จะรู้อนาคตได้ ไม่ว่าภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ปลายฝันก็ขอกอบดกยความสุข ความอบอุ่นนี้ไว้ก่อนก็แล้วกัน...
...
...
...
50%

สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกๆ คนนะคะ วันนี้วันพ่อ ยูกิเองพ่อก็อยู่ต่างจังหวัดเลยไม่ได้อยู่กับพ่อในวันนี้ ได้แค่คุยผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น ยังไงก็แล้วแต่ ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ นะคะ รักคุณพ่อคุณแม่ ดูแลตอบแทนท่าน อย่าทำให้ท่านเสียน้ำตาอย่างที่ยูกิทำ เอาล่ะค่ะ เลิกดราม่า มาเข้าเรื่องกันต่อเลยก็แล้วกัน ที่จริงแล้วยูกิจะลงตั้งแต่บ่ายๆ แล้วน้า แต่พอดีว่ามัวแต่ไปจัดการเรื่องกระเป๋าผ้าที่จะแถมอ่ะค่ะ เลยมาซะค่ำเลย ^_^
ส่วนใครที่อยากจะรู้เกี่ยวกับการอัพนิยายใดๆ ยูกิจะตอบให้ที่แฟนเพจค่ะ เพราะประกาศไว้ที่นั่น ติดตามกันที่เพจค่ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki