(ต่อ)
รถหรูแล่นเข้ามาในตัวตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของรีสอร์ทที่ได้จองไว้ เวลาที่ใช้เดินทางมาถึงที่นี่โดยประมาณแล้ว 5-6 ชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ก็ 11 โมงกว่า เพราะทั้งสามคนใช้เวลาเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ก็คือ ตี 5 กว่าๆ ก็ออกจากบ้านแล้ว เพื่อที่จะให้การมาเที่ยวครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด
รถเลี้ยวเข้าไปจอดสำหรับที่จอดรถของรีสอร์ทและต้องเดินไปต่ออีก พออัคนีจอดรถเสร็จแล้ว ปฐพีก็ลงจากรถแล้วเปิดประตูด้านหลังเพื่อปลุกร่างเล็กที่นอนขี้เซาอยู่กับเบาะรถทันที ส่วนอัคนีก็เปิดท้ายรถเอาสัมภาระออกมา เป็นกระเป๋าใบใหญ่ใบเดียว ซึ่งข้าวของของทุกคนอยู่ในกระเป๋าใบนี้ด้วยกัน
“ดรีม ตื่นเร็ว ถึงแล้ว” ปฐพีปลุกพร้อมกับเขย่าตัวปลายฝันไปด้วย
“อื้อ”
เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นมา รู้สึกได้กับบรรยากาศที่เปลี่ยนไป
“หนาว” บ่นเบาๆ
“ถึงแล้วนะ”
“จริงไหม” เด้งตัวขึ้นมาทันที อาการสะลึมสะลือง่วงนอนเมื่อกี้หายไปหมด เหลือแต่ความตื่นเต้นเต็มดวงตาใส
“ไปกันเถอะ จะได้เอาของไปเก็บในห้องแล้วมาหาอะไรกิน” ปฐพีบอกพลางออกไปจากตัวรถตามด้วยปลายฝันที่ขยับๆ ตามลงมา
ติ๊ด!
เสียงล็อกรถอัตโนมัติดังขึ้น พร้อมกับร่างทั้งสามเดินไปตามทางที่พนักงานเดินมาต้อนรับและถือกระเป๋าให้
“ฉันจองห้อง Suite ไว้ ชื่ออัคนี”
“คุณอัคนีนะครับ ห้องที่ท่านจองไว้เชิญทางด้านนี้นะครับ”
ปลายฝันเดินตามไป สายตาก็มองข้างๆ อย่างตื่นเต้น และชอบใจ ทุกๆ อย่างที่ปรากฏในสายตาตอนนี้งดงาม เต็มไปด้วยธรรมชาติทั้งสิ้น ความคิดในตอนแรกที่จะได้นอนตึกหรูๆ มลายหายไป เพราะสิ่งตรงหน้า แน่นอนว่ามันก็หรู แต่เป็นความหรูที่ติดธรรมชาติ
เพราะฉะนั้นแล้ว ปลายฝันชอบมันมาก
“ห้องนี้ครับ มีปัญหาอะไร โทรเรียกได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ” พูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที
ส่วนปลายฝันที่พอให้เข้ามาในห้องก็เดินไปดูตรงระเบียงทันที
“พี่ดิน พี่เพลิง มันสามารถมองวิวด้านนอกอย่างเห็นได้ชัดเลยอ้า...สวยมากเลยฮะ” น้ำเสียงตื่นเต้นปนดีใจ เท้าเล็กเดินไปทางนั้นทางนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนปฐพีกับอัคนีก็มองร่างเล็กเดินไปเดินมาด้วยความรู้สึกอิ่มใจ ดีใจ ที่เห็นปลายฝันมีความสุขขนาดนี้เพราะพวกเขา
“ชอบล่ะสิ”
“ชอบมากฮะพี่ดิน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูวิวตรงนี้เลยล่ะ”
“แล้วไม่ออกไปเที่ยวด้วยหรือไง บนเขาก็มีที่เที่ยวเยอะนะ” อัคนีถาม
“เที่ยวสิ งื้อ...แต่จะเที่ยวหมดไหมอ่า 3 วันนี้” ปลายฝันโอดครวญ
“แต่ตรงนี้ก็เป็นเขานะ มองเห็นทะเลหมอกได้เหมือนกัน ห่างกันไม่เท่าไหร่”
(*ไม่ต้องคิดจริงจังนะคะว่าสถานที่ที่ว่านี่มันอยู่ตรงไหน พี่ดินพี่เพลิงพาน้องดรีมมาพักที่ไหนกัน ที่พักนี้ไม่มีจริงนะคะ แต่ก็มีส่วนคล้ายกับของจริงที่หาตามอินเตอร์เน็ตอยู่ ฉะนั้นแล้ว ยูกิเองก็ยังไม่เคยไป แต่อยากไป เลยเขียนออกมาแบบนี้ค่ะ)
“จะไปด้วย”
“โอเคๆ พาไป แต่สายๆ นะ ขี้เกียจตื่น ถ้าจะดูพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอก ดูที่นี่ก็ได้” อัคนีต่อรอง เพราะตนไม่ชอบอากาศหนาวจริงๆ
“ก็ได้ฮะ พี่เพลิงไม่ชอบอากาศหนาวนี่นา ไม่เป็นไรๆ แค่พวกพี่พามาขนาดนี้ก็ดีใจมากๆ แล้ว ขอบคุณครับ” ปลายฝันพูด พลางเดินมาหาทั้งคู่แล้วยกมือไหว้
“พี่เต็มใจและยินดีมากๆ” ปฐพีบอก
“หึ! แต่จะให้ดีเปลี่ยนจากไหว้มาจูบขอบคุณแทนได้ไหม” อัคนีบอก
“ความคิดดีนี่หว่า” ปฐพีหันไปชม
“แน่นอน” ยักไหล่นิดๆ
ส่วนปลายฝันก็เบ้ปากอย่างหมั่นไส้ แล้วก็คิดอย่างสับสนเช่นกันว่าจะทำดีหรือไม่ทำดี หลบสายตาแพรวพราวของทั้งคู่ด้วยการก้มหน้าคางแทบชิดอก
เป็นท่าทางที่ปฐพีกับอัคนีรู้ได้ทันทีว่าปลายฝันกำลังเขิน
“ว่าไง ได้ไหม” ปฐพีถาม
“เร็วสิๆ จะได้ไปหาข้าวเช้า ข้าวเที่ยงกินกัน” อัคนีเร่ง
เอาไงล่ะดรีม นิดๆ หน่อยๆ คงจะไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง ตอบแทนที่พี่เขาพาเรามาเที่ยวไกลถึงขนาดนี้ด้วย แต่จะทำไงได้ล่ะ ใครจะไปกล้าทำเรื่องหน้าอายแบบนี้
“แค่จูบใช่ไหม” ถามเบาๆ
“ถ้าให้อย่างอื่นด้วยจะดีมากเลยล่ะ”
“พี่เพลิงอ่ะ”
“โอเคๆ แค่จูบ” อัคนียอม เพราะตอนนี้ความหิวมันเริ่มประท้วงออกมาเป็นเสียงแล้ว
“ติดไว้ก่อนได้ไหม” ร่างบางต่อรอง
“ไม่ได้ เอาไงจะได้กินไหมข้าวน่ะ” ปฐพีพูดติดน้ำเสียงหงุดหงิด
“ก็...ก็ เอ่อ”
“บอกไว้ก่อนนะ ถ้าไม่ได้ตอนนี้ ก็คือไม่ต้องกินข้าวอ่ะ จูบตอนไหน ไปกินตอนนั้น”
“ทำไมต้องบังคับด้วย”
“ไม่ได้บังคับนะ แต่ต้องทำ” ปฐพีว่า
ก็แล้วมันต่างกันตรงไหนเล่า
“ก่ะ...ก็ได้”
“จูบกันออกจะบ่อย ควรจะชินได้แล้วนะบางที” อัคนีว่า
“นั่นน่ะสิ สงสัยต้องจูบหลังอาหารเช้า เที่ยงเย็น และก่อนนอนเสียแล้วมั้ง จะได้หายเขินเสียที” ปฐพีเสนอ จนร่างเล็กต้องหน้าแรงๆ จนคอแทบจะหลุด
“ไม่เอานะ”
“มาสิ”
ปลายฝันค่อยๆ เดินเข้าไปหาอัคนีเป็นคนแรกด้วยเหตุผลที่ว่า อัคนีเป็นคนขับรถมา และครั้งก่อนหน้านั้น ปฐพีก็เป็นคนแรกมามากพอแล้ว
“พี่เพลิงหลับตาก่อน พี่ดินด้วย” สั่งคนตรงหน้าเสร็จก็หันไปสั่งคนด้านข้างต่อ
ทั้งสองคนพยักหน้ารับยิ้มๆ
เมื่อปลายฝันเช็คว่าทั้งคู่หลับตาแล้ว ก็เขย่งเท้าขึ้นไปประกบปากอัคนีเบาๆ ก่อนจะผละออก แต่ยังไม่ทันที่จะผละออก คนตรงหน้าก็คว้ากายเล็กเข้าไปแนบกับกายแล้วบดจูบที่แท้จริงลงมา ไม่ใช่แค่เอาริมฝีปากประกบกัน
อัคนีกับปลายฝันยืนแลกสัมผัสหวานกันได้สักพัก ร่างเล็กก็ทุบอกแกร่งแรงๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าตนกำลังหายใจไม่ออก ซึ่งอัคนีก็ผละออกมาอย่างเสียดาย
“อึก...” ร่างบางหอบหายใจหนัก ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับปฐพี
“เอาไป”
“เออ”
“อื้อ”
ไม่รอช้าแต่อย่างไร ปฐพีก็ประกบริมฝีปากลงไปที่ปากบางทันที แลกสัมผัสวาบหวามจนปลายฝันขาอ่อนระทวยเพราะหมดแรงมาตั้งแต่อัคนีแล้ว พอมาเจอปฐพีโดยที่ตนยังหายใจไม่เต็มปอดอีก ก็แทบจะไม่ไหว แต่ก็รู้สึกดีมากกับสัมผัสที่ได้รับจากทั้งคู่
สุขไปทั่วทั้งใจ
เพราะแค่ปฐพีกับอัคนีพามาถึงที่นี่แล้ว นับได้ว่า ทั้งสองคนทำเพื่อปลายฝันทุกอย่างจริงๆ กับแค่จูบขอบคุณเล็กๆ น้อยๆ ทำไมเขาจะให้ไม่ได้
จูบร้อนแรงและดุเดือดของปฐพีกับปลายฝันผ่านไปได้สักพัก ปลายฝันก็หายใจติดขัด เพราะตามจังหวะการจูบไม่ทัน ทำให้ปฐพีต้องผละออกมาอย่างเสียดาย
“อึก...พอใจยังฮะ”
“มาก”
“หิวแล้ว” บอกเสียงเบา
ปฐพีกับอัคนีส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู
“โอเค ไปหาอะไรกินกัน” อัคนีบอก
และดูเหมือนว่า การที่จะพาปลายฝันไปหาอะไรทานนั้น ทำให้คนตัวเล็กลืมความเขินอายและเหตุการณ์เมื่อกี้นี้เสียสนิท เดินตามปฐพีกับอัคนีต้อยๆ อย่างตื่นเต้นที่จะได้ทานอาหารของที่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต
เมื่อมาถึงร้านอาหารของรีสอร์ทนี้แล้ว ก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานที่นี่เป็นอย่างดี และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครไม่รู้จักปฐพีกับอัคนีด้วย เพราะบางคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพเอาไว้ด้วย
“รับอะไรดีคะ” พนักงานสาวถามขึ้นจ้องใบหน้าของปลายฝันไม่วางตา
“จะกินอะไรก็สั่งเอา” ปฐพีบอก
“ทำเป็นพูดดี” บ่นพึมพำ
“อะไรนะ” แกล้งถามราวกับตนไม่ได้ยิน ทั้งๆ ที่ตนได้ยินชัดเจน
“เปล่านี่ฮะ ไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย” บอกพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พนักงานสาวก็มองปลายฝันยิ้มๆ อย่างขัดเขิน
“เอา...” ปลายฝันหันไปสั่งกับพนักงานสาวที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ ส่วนพนักงานสาวก็จดตามด้วยรอยยิ้ม ยิ้มที่ปฐพีกับอัคนีรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเสียเท่าไหร่
“แล้วเครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีคะ”
“เอาอะไรอ่ะ” หันมาถาม
“สั่งมาเถอะ พี่กินได้หมด”
“ถ้างั้น น้ำส้มคั้น 3 แก้วครับ”
“น้ำส้มคั้นนะคะ ทวนรายการที่สั่งนะคะ ต้มยำไก่ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ไก่ผักพริกขิง ยำปลาหมึก ข้าวเปล่า 1 โถ และน้ำส้ม 3 แก้วนะคะ กรุณารออาหารประมาณ 30 นาทีค่ะ” พูดจบพนักงานสาวก็เดินออกไปทันที
ปลายฝันมองวิวด้านนอกด้วยความรู้สึกสดชื่นยิ่งนัก มองไปทางไหนก็มีแต่ธรรมชาติ เรื่องที่เครียดๆ ที่ผ่านมาดูเหมือนจะผ่อนคลายลงไปเลย
“อยากให้ธารากับวาโยมาด้วยจังเลย” ปลายฝันพึมพำเมื่อนึกถึงเด็กน้อยที่ตามติดเขาแจตั้งแต่วันไปเยี่ยมบ้านอุ่นใจ และยังเรียกปลายฝันว่าแม่อีกด้วย
กว่าจะกลับบ้านได้ ก็งอแงเสียงดังไม่หยุด ต้องเอาขนมไปล่อและสัญญาว่าจะไปหาทุกวันอาทิตย์
“อากาศหนาวแบบนี้ลำบากเปล่าๆ” ปฐพีบอก
“นั่นสินะครับ”
“คิดถึงลูกขึ้นมาล่ะสิ” อัคนีแซว
“ได้สองคนมาเป็นลูกผมก็ดีน่ะสิครับ ก็คิดไว้อยู่นะ” บอกเสียงจริงจัง
ปฐพีกับอัคนียิ้มออกมา ส่วนตัวพวกเขาก็รู้สึกชอบเด็กสองคนนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ได้แสดงออกมาก็เท่านั้น...เป็นเด็กที่ทำให้พวกเขารู้สึกอยากจะปกป้องร่วมกับปลายฝัน
“ถึงเวลาก่อน เลี้ยงตัวเองให้รอดก่อน ค่อยคิดเรื่องนี้นะ” อัคนีบอก
“รู้แล้วครับ ให้ผมมีงานที่มั่นคงก่อน ไม่ต้องพึ่งพาเงินของคุณพ่อแล้วก็พวกพี่ๆ เมื่อไหร่ ก็จะไปรับแกมาเลี้ยงอยู่” ปลายฝันบอก
“หมายความว่า ถ้ามีงานทำมั่นคงแล้ว จะออกไปอยู่คนเดียวตามลำพัง?”
“ถูกอย่างที่พี่ดินพูดนั่นแหละ”
“หึ!! ดรีมคิดง่ายไปหรือเปล่า คิดว่าพวกพี่จะยอมหรือครับ ไม่มีทาง!!” อัคนีพูดบอก
“อ้าว? ก็แบบนี้แหละถูกต้องแล้ว”
“ไม่ถูก!!!” ทั้งสองพูดพร้อมกัน
ปลายฝันถอนหายใจออกมาเสียงดัง
“เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า ยังไงมันก็เป็นเรื่องของอนาคตนะ…แล้วหลังจากกินข้าวเสร็จ พี่สองคนจะพาดรีมไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า” ร่างบางเปลี่ยนเรื่อง
“นอน” ทั้งคู่ตอบเสียงเดียวกันด้วยสีหน้านิ่งๆ
“อ้าว? แล้วดรีมล่ะ”
“นอน”
“ฮึ่ม!”
“ทำไม เอาไว้กินเสร็จก่อนค่อยพูดเรื่องนี้”
“ก็อยากรู้ตอนนี้นี่พี่ดินล่ะก็” บ่นอุบอิบ
“บอกว่ากินข้าวเสร็จก็คือกินข้าวเสร็จ เมียห้ามดื้อนะครับ” สิ้นประโยคนี้ของอัคนี ปลายฝันถึงกับเม้มริมฝีปากแน่น เพราะกลัวตัวเองจะหลุดอะไรออกมาอีก
ไม่อยากได้ยินประโยคน่าอายแล้วอ่ะ
…
…
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบทุกอย่างแล้ว ทั้ง 3 คนก็ลงมือรับประทานอาหารกันด้วยความหิวสุดๆ เพราะตั้งแต่เช้าก็ไม่ได้ทานอะไรมาเลย มีเพียงขนมปังที่แม่บ้านเตรีมไว้ให้ก็เท่านั้น ทานไปคุยไปบ้าง บ้างก็ตักให้อาหารให้กันและกัน แต่ดูเหมือนว่าปฐพีกับอัคนีจะแข่งกันเอาใจปลายฝันกันน่าดู
“พี่ดิน พี่เพลิงเลิกตักมาใส่จานดรีมได้แล้ว มันเต็มไปหมดแล้วเนี่ย” เอ่ยขัดทั้งสองคนออกไป เมื่อเห็นอาหารที่พูดจานของตน
“กินเยอะๆ จะได้อวบๆ มีเนื้อเยอะๆ เวลากอดจะได้อุ่นๆ” อัคนีให้เหตุผล
“พี่ก็มีแต่เรื่องแบบนี้อ่ะ”
“เอาเข้าไปในตัวเยอะๆ ผอมมากเลยรู้หรือเปล่า เวลารับน้ำหนักพวกพี่จะได้ไม่เป็นอะไรง่ายๆ”
“พี่ดินก็อีกคน วกเข้าแต่เรื่องน่าเกลียด” บ่นนะ แต่ก็เอาอาหารทีถูกตักให้เข้าปากเรื่อยๆ เพราะปลายฝันทานอะไรแล้วต้องทานให้หมด
“ฮ่าๆ” ทั้งคู่หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของร่างบางที่พูดว่าเรื่องน่าเกลียดได้อย่างน่ารัก
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปลายฝันเป็น มันน่ารักทุกอย่างสำหรับพวกเขา
ไม่ว่าจะตอนโกรธ โมโห หรือดีใจ
ปลายฝันแสดงมันออกมาอย่างธรรมชาติ ไม่เสแสร้ง และจริงใจในทุกการกระทำ ใสซื่อและไร้เดียงสาเหมือนเด็กตัวน้อยๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รำคาญ
ต่อให้ขี้บ่นแค่ไหน...
มันก็ไพเราะเสมอสำหรับปฐพีกับอัคนี
ทำให้ทุกอย่างขนาดนี้ เชื่อฟังทุกคำพูดขนาดนี้
รู้ใช่ไหม...ว่ามันคืออะไร

มาแล้วจ้าน้องดรีมตอนที่ 26 //ฟิ้ว//หลบรองเท้าได้อย่างฉิวเฉียด ต้องกราบขอประทานโทษจริงๆ นะคะ ที่เมื่อวานไม่ได้มาลงให้ตามที่สัญญา วันนี้เป็นวันแต่งพี่ค่ะ...เลยต้องไปช่วยงาน เมื่อวานก็กะจะลง แต่มัวแต่ไปซื้อเครื่องปริ๊นท์ พอกลับมาก็ไปเตรียมงานแต่ง แหะๆ ยูกิเองก็ลืมที่จะบอกด้วย ปล่อยให้รอเก้อกันเลย ขอโทษจริงๆ นะคะ ยังไงก็เอามาลงให้แล้วนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีใครอ่านแล้วก็เถอะ...
ช่วยเม้นท์ + ให้กำลังใจยูกิด้วยนะคะ
รายละเอียดจองหนังสือตามลิ้งค์นี้ค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44979.msg2919334#msg2919334ติดตาม ติดต่อ สอบถามที่แฟนเพจเช่นเดิมจ้า
https://www.facebook.com/sawachiyuki