ตอนที่ 30
อธิษฐานรักผ่านดวงดาว
แก้ไขเอ็นซี
“ย่ะ... อย่าทำแรงนะฮะ”
สิ้นคำอนุญาตร่างใหญ่ก็ยกยิ้มออกมาอย่างดีใจ แลบเลียริมฝีปากของตนราวกับกระหายเหยื่อมานาน จนปลายฝันมองไปยังฟ้าด้วยความเขินอาย ทำอะไรไม่ถูก ผู้ชายสองคนนี้เป็นผู้ชายที่ทำให้ปลายฝันรู้สึกว่าพวกเขาเป็นสัตว์ล่าเนื้อ ที่หื่นกระหายในเหยื่อยิ่งนัก
เพราะสิ่งเหล่านี่มันทำให้ปฐพีกับอัคนีเร่าร้อน จนร่างบางแทบจะสำลักความเร่าร้อนนี้ตายเข้าสักวันในอ้อมกอดของพวกเขาสองคน
ก็แค่อยากตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ที่พี่เขายอมพาเรามาเที่ยว ไม่ได้ใจอ่อนกับน้ำเสียงหวานๆ นั่นเลยนะ ไม่ได้เคลิบเคลิ้มกับคำอ้อนวอนแสนหวานเลยจริงๆ เชื่อเถอะนะขอร้อง...
“จะเบาให้ถึงที่สุดเลยล่ะ”
“จะพยายามนะ”
ปฐพีกับอัคนีพูดออกไปแล้วก็จัดการแทรกเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับปลายฝัน ปฐพีจัดการกางเกงส่วนอัคนีจัดการเสื้อ การปลดเสื้อจะง่ายหน่อยเพราะเป็นเสื้อกระดุม แต่งกางเกงนี่ยาวและยาวอีก ทำให้ถอดได้ถึงหัวเข่าเท่านั้น
“น่ะ หนาว”
“ไม่ต้องห่วง” ปฐพีปลอบแต่ก็ต้องหน้าแดงซ่านเพราะคำพูดของอัคนีนี่แหละ
“เนื้อห่มเนื้อยังไงก็อุ่น”
“บ้า อื้ม” ยังไม่ทันได้ด่าให้สะใจ คนที่ถูกด่าก็ก้มลงประกบริมฝีปากหนาเข้ากับริมฝีปากอย่างร้อนแรง ดุจจะเผาไหม้ริมฝีปากบางให้เป็นจุล
ปฐพีเองก็หายไปในผ้าห่มซึ่งเข้าไปเพื่อจัดการกับส่วนอ่อนไหวของปลายฝันที่รอการสัมผัสอยู่ และเมื่อปลายลิ้นหนาสัมผัสเข้าที่ปลายยอดของมันก็ทำให้ร่างบางสั่นระริกด้วยอารมณ์ไปแล้ว จากที่หนาวๆ เริ่มรู้สึกอุ่นจนกลายเป็นร้อยไปเลย เสียงหวานดังออกมาเมื่อโดนกระตุ้นทั้งด้านล่างและอัคนีที่เลื่อนจูบจากริมฝีปากลงมาที่ซอกคอและหยุดเล่นที่เม็ดทับทิมหวานที่เขาได้ชิมมันแต่ก็ไม่เบื่อเสียที
“อ้า...ไม่ อื้อ ซี้ด” ปลายฝันร้องซี้ดโดนกระตุ้นรุนแรงขึ้น มือข้างหนึ่งสัมผัสกับกลุ่มผมหนาที่ลงลิ้น ขบเม้มอยู่ที่ยอดอกของตน อีกข้างก็ลูบไล้กลุ่มผมหนาของปฐพีที่เล่นอยู่กับปลายฝันน้อยด้านล่าง ความเสียวซ่านที่เริ่มประทุขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะปลดปล่อยออกมา
“หึ!! อย่าเพิ่งปล่อย”
“พ่ะ พี่ดิน ไอ้คน บ่ะ บ้า” ร่างบางด่าปฐพีทันทีที่หยุดใช้ริมฝีปากกับส่วนอ่อนไหวของตน จนทำให้ต้องอารมณ์ค้างแบบนี้
“หืม...พี่แค่จะให้ไอ้เพลิงมันทำให้น่ะ อยากเล่นด้านบนบ้าง”
เจ้าเล่ห์มาก แบบนี้มันต้องการจะแกล้งกันชัดๆ เลยนี่นา ฮือ...ทำให้เสร็จไปก่อนก็ได้แล้วค่อให้อีกคนมาทำต่อ...อ๊า บ้าหรือไงดรีม คิดบ้าอะไรของแก
“บ่ะ บ้า” ปลายฝันยกมือปิดหน้าตัวเอง ก่อนที่รับรู้ได้ว่าทั้งคู่เปลี่ยนตำแหน่งกันแล้ว อัคนีก้มลงครอบครองแก่นกายเล็กที่กำลังรอการปลดปล่อย ส่วนปฐพีก็ใช้ลิ้นกับเม็ดทับทิมหวานอีกข้างที่ยังไม่ได้รับการสัมผัส หอบหายใจแรงขึ้นตามแรงกระตุ้นที่ได้รับ ก่อนที่คิดอยากจะแกล้งปฐพีคืนบางโดยการเอื้อมมือไปสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ที่พองคับนูนชี้ผ่านเนื้อผ้าของกางเกงทำให้ร่างเล็กรู้ว่า
ปฐพีไม่ได้ใส่ชั้นใน
“อ่าห์...ซนจริงๆ อยากจับนักใช่ไหม ได้ครับ” ปฐพีครางเสียงต่ำเมื่อมือนุ่มนิ่มของปลายฝันมาจับเข้าที่แก่นกายที่ตื่นตัวเต็มที่ของตนโดยที่เขามองไม่เห็นอะไรเลย
“เปลี่ยนที่กันหน่อยมึง ดรีมลุกขึ้นก่อนสิ” ปลายฝันค่อยยันตัวขึ้นตามคำสั่งของปฐพี
“แล้วไงวะ มึงจะเล่นท่าไหนเนี่ย” อัคนีถามหงุดหงิด เพราะโดนขัดจังหวะ
“มึงลงไปนอน แล้วดรีมก็คร่อมไปตรงหน้าไอ้เพลิงซะ”
“ม่ะ ไม่เอานะ”
“เร็ว!”
“ไม่นะฮะ” คนตัวเล็กอ้อน
“ดรีม” เรียกชื่อเสียงเข้ม จนปลายฝันต้องพาดขาข้ามตัวอัคนีไป หยัดแขนและเกรงสะโพกเต็มที่เพื่อที่ไม่ให้แก่นกายของตนโดนหน้าของอัคนี ส่วนปฐพีก็ไปนั่งตรงหน้าร่างเล็ก ก่อนจะกดศีรษะเล็กให้ก้มลงเพื่อให้ริมฝีปากเล็กครอบครองแก่นกายใหญ่โตของปฐพี
“เข้าใจคิดนี่หว่า”
“แน่นอนไอ้เพลิง”
ส่วนคนที่ได้แต่เขินอาย หลุบสายสายลงไม่สบกับปฐพี ก่อนจะถูกสั่ง
“ปลอบมันสิดรีม เมื่อกี้เห็นอยากจับ นี่พี่ให้กินเลยล่ะ”
“บ้า บ้าที่สุด อืม” ด่าเสร็จก็ก้มลงครอบครองแก่นกายของปฐพีเข้าไปในโพรงปาก เพราะมันทำอะไรไม่ได้แล้วนอกเสียแต่ว่าตามน้ำคนกุมเกมไป
“ดีมากเด็กดี อ่า แบบนั้น เก่งมาก อืม” ปฐพีครางออกมาอย่างพอใจเมื่อปลายฝันเรียนรู้การใช้ริมฝีปากได้ไวมาก รู้จักกระตุ้นความต้องการของเขาจนแทบจะปลดปล่อย แต่แค่นี้ไม่ปล่อยหรอกนะ ขอทนให้ถึงที่สุด ส่วนทางด้านอัคนีที่เห็นแก่นกายเล็กลอยเด่นอยู่ด้านหน้าก็ไม่รอช้าใช้ริมฝีปากครอบครองมันอีกครั้ง ใช้ปลายลิ้นสะกิดปลายยอดของแก่นกายเล็กจนสะโพกเล็กส่ายไปมาอย่างยั่วยวน บ้างก็กดมันลงมาตอบรับจังหวะการเข้าออกกับอัคนี มือแกร่งเอื้อมขึ้นลูบไล้สะโพกกลมตึงก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปโดยที่ไม่มีอะไรหล่อลื่น ร่างเล็กรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปด้านในก็เงยหน้ามองปฐพีที่มองเขาด้วยสาตาร้อนแรง นิ้วแกร่งเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสามตามลำดับ จนแน่ใจว่าปลาฝันสามารถรับความใหญ่โตของพวกเขาได้แล้วก็ค่อยๆ ถอนออกมา ก่อนที่อัคนีจะดูดแก่นกายแรงๆ เพื่อให้ปลายฝันปลดปล่อย ปากบางผละออกจากแก่นกายใหญ่ของปฐพีเพื่อส่งเสียงครางอย่างเสียวซ่านดังลั่นห้อง ใบหน้าที่แสดงถึงความเสียว่านในอารมณ์ทำให้ปฐพีต้องมอบจูบร้อยแรงไปให้
“อ๊ะ อ๊า...พ่ะ พี่เพลิง อ๊าจะออก อื้อ แล้ว อ๊า” เสียงหวานครางลั่นก่อนจะปลดปล่อยเต็มปากใหญ่ของอัคนีซึ่งอัคนีคายมันใส่มือบางส่วนแล้วเอาไปป้ายที่ช่องทางด้านหลังแล้วสอดนิ้วเข้าไปใหม่อีกทีและดึงมันออกมา อีกส่วนหนึ่งกลืนลงคอไปอย่างไม่รังเกียจ อัคนีลอดออกจากหว่างขาเรียวสวยแล้วลุกขึ้นนั่ง ส่วนปลายฝันยังหอบอยู่ในท่าเดิม
“ยังไม่จบนะครับ”
“พี่กับไอ้ดินยังไม่ปล่อยเลย”
มือใหญ่กระตุ้นแก่นกายเล็กอีกครั้ง ลูบๆ เล็กน้อยให้พอแข็งตัว ก่อนจะชักมันเล็กน้อยให้ปลายฝันใกล้ปลดปล่อยอีกครั้งก่อนจะปล่อยให้ค้างเหมือนเดิม
“บ่ะ บ้า อ่ะ อีกแล้ว อึก”
“จากนี้ของจริงครับที่รัก” อัคนีบอก
“ให้เลือก ทีละคน สองรอบ หรือรอบเดียวแต่เข้าพร้อมกัน” สิ้นคำถามของปฐพีปลายฝันก็เงียบไปเพราะไม่อยากจะตอบ
“ว่าไงครับ ถ้าไม่ตอบพี่จะเอาจนเช้านะ”
“ต่ะ ตอบแล้ว” ละล่ำละลักบอก จนร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจ
“คำตอบล่ะ”
“ร่ะ...รอบเดียว” คนตัวเล็กตอบเสียงเบา แต่ร่างสูงก็ได้ยินเพราะไม่เช่นนั้นปฐพีไม่เดินอ้อมไปทางด้านหลังหรอก และไม่ทันได้ตั้งตัว แก่นกายทั้งสองก็พยายามที่จะสอดเข้ามาในช่องทางของปลายฝัน
“อ๊า...จ่ะ เจ็บ” ร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“ชิ คราวที่แล้วยังเข้าได้เลยนี่หว่า นี่มึงเบิกทางยังวะ”
“อึก...กูเบิกแล้วห่า แต่ของเมียมันฟิตเอง อ่า ตอดพี่เบาๆ หน่อยครับ”
บทสนทนาของทั้งคู่ทำให้ปลายฝันเริ่มมีอารมณ์มาขึ้น จนเริ่มผ่อนคลายโดยที่ของปฐพีเข้าไปก่อนเพื่อให้ช่องทางคุ้นชิน ก่อนที่อัคนีจะสอดเข้าไปตาม จนสุดลำของทั้งคู่ ซึ่งร่างเล็กก็หอบหายใจแรงมาก หัวใจเต้นแรงอย่างตื่นเต้น
ปลายฝันรู้สึกดีที่ได้รับความเป็นชายของทั้งคู่เข้ามาพร้อมกันแบบนี้
“แน่น ฮึก”
“ใจเย็นๆ อึก ผ่อนคลาย” ปฐพีปลอบ
“ชิ!!” อัคนีกัดฟันแน่นเมื่อช่องทางของปลายฝันตอดรัดของทั้งคู่แน่น
จนกระทั่งปลายฝันเริ่มหายใจเป็นจังหวะ และรู้สึกชินกับความคับแน่นแล้ว ก็เป็นฝ่ายขยับนิดๆ
จากที่มีแต่ความอึดอัดเริ่มแปลเปลี่ยนมาเป็นความลื่นไหล ร่างทั้งสามประสานกันเป็นหนึ่งเดียว แม้ว่าแรกๆ จะทรมานแต่มันก็รู้สึกดี
แม้จะเจ็บ...แต่ก็เป็นสุข
ขอแค่ได้เป็นของเขา ไม่ว่าอะไร ปลายฝันก็ยอม
“อ๊า...อ๊ะ พี่ดิน พ่ะ พี่เพลิง ร่ะ แรงอีก อ๊ะ” ทั้งสองกระแทกแก่นกายเข้าออกรัวเร็วตามแรงอารมณ์ของตัวเองที่เริ่มจะไม่ไหวกับความน่ารักและเซ็กซี่ของปลายฝันแล้ว
“อึก อ่า สุดยอด”
“โอ้ว...ตอดดีฉิบหาย”
ปลายฝันครางลั่นเมื่อแก่นกายกระแทกโดนจุดกระสัน จนแทบจะไม่มีแรงหยัดกายอีกแล้ว ทิ้งตัวลงกับหมอนนุ่มที่ตนดึงที่ใกล้มือที่สุดเอามาเพื่อวางไม่ให้อกสัมผัสพื้น ส่วนผู้ชายสองคนด้านหลังก็ไม่สนใจความเป็นไปอะไรทั้งนั้น เข้าออกช่องทางหวานรัวเร็วและรุนแรง ตามความรู้สึกที่มีทั้งหมดลงไปกับการร่วมรักครั้งนี้ แม้ใกล้จะปลดปล่อยเต็มทีแต่ก็พยายามหักห้ามเอาไว้ ยื้อการร่วมรักครั้งนี้ให้นานที่สุด เพราะตามสัญญาที่ให้ไว้ ว่าถ้าเข้าพร้อมกัน จะทำแค่รอบเดียว ไม่เช่นนั้นโดนด่าและโกรธยาวแน่ๆ
“ดรีม อ่า ที่รัก”
“อื้ม อึก ดีชะมัด ดรีมครับ”
“พี่ดิน อ๊า พี่เพลิง อื้อ จะไป ฮ้า แล้ว” เสียงหวานพูดบอกเสียงติดๆ ขัด เพราะอยู่ในจังหวะการกระแทกกระทั้นจากปฐพีและอัคนีอยู่
มันนานเกินไปจนปลายฝันรู้สึกได้...
“อีกนิด อืม...อีกนิด”
“ไป...ฮืม...พร้อมกันนะ”
“อ๊าาาา...” ทั้งสามครางเสียงยาวเมื่อได้ปลดปล่อย ปฐพีกับอัคนีถอดแก่นกายของตนออกมาจนน้ำรักไหลออกมาจากช่องทางคับแน่นจนอยากจะต่ออีกรอบ แต่กลัวว่าปลายฝันจะโกรธเลยพอแค่นี้ก็ได้ ส่วนปลายฝันที่ปลดปล่อยอีกรอบก็ทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรง
“ลุกก่อนดรีม” ปฐพีสั่ง
“ไม่ไหวแล้ว”
“เปลี่ยนผ้าปูก่อนถ้าจะนอนตรงนี้”
“…” ปลายฝันพลิกตัวไปอีกข้างเพื่อให้ปฐพีเปลี่ยนผ้าปูพื้น ส่วนอัคนีก็หยิบชุดนอนให้ปลายฝันคืน เพราะเจ้าตัวเหมือนจะรู้สึกหนาวขึ้นมาเสียแล้ว
ร่างเล็กสวมเสื้อผ้าอย่างช้าๆ เพราะเรี่ยวแรงไม่มี แต่เมื่อกำลังจะสวมกางเกง อัคนีที่สวมชุดกลับคืนเรียบร้อยแล้วก็มาอุ้มปลายฝันลงไปเพื่อล้างสิ่งที่คาอยู่ที่ช่องทางที่ผ่านการร่วมรักที่หนักหน่วง แม้จะไม่ฉีกขาดเหมือนครั้งแรก แต่มันก็บวมช้ำขึ้นมา เพราะช่องทางที่ฟิตกว่าครั้งก่อน
อัคนีอุ้มปลายฝันที่หน้าแดงอยู่ในอ้อมแขนขึ้นมาด้านบนคืนก่อนจะวางร่างบางเบาๆ ตรงที่นอนที่ปฐพีปูใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับห่มผ้าให้ปลายฝันอย่างอ่อนโยน ส่วนพวกเขาส่วนตัวก็แทรกตัวลงไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน แต่หมอนคนละใบไป
ถึงครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สาม แต่ใช่ว่ามันจะชินนะเออ ปั้นหน้าทำเป็นไม่รู้สึกไปแบบนั้นแหละ
“ดาวสวยนะ” ปฐพีชวนคุย สายตาก็มองดวงดาวตรงหน้า
“อืม...ไม่เคยมานอนดูดาวแบบนี้มาก่อนเลยว่ะ”
“ก็มัวแต่บ้าทำงานไง” อดไม่ได้ที่จะแขวะออกไป
“หึหึ ก็จริงนะ”
“ยอมรับก็ดีแล้วพี่ดิน พระเจ้าจะได้ให้อภัย”
“เกี่ยวอะไรวะ” อัคนีถาม
“พูดกับพี่ดิน”
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า”
เพราะร่างสูงไม่พูดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมา เลยทำให้ปลายฝันเลิกอายไปในทันที ทั้งสามคนเลยได้คุยกันแบบปกติโดยไม่มีความอายของปลายฝันมาทำให้บรรยากาศมันอึดอัด
“อย่าให้ถึงคิวกูบ้าง”
“ทำไม พี่เพลิงจะทำอะไรพี่ดิน” หันไปหาเรื่อง
“นี่ปกป้องมันหรือดรีม”
“ก็ใช่ไง”
“อ้าว? แล้วพี่ล่ะ”
“พี่ทำไม?” ถามกลับอย่างกวนๆ
ปลายฝันกำลังสนุกที่ได้แกล้งอัคนีเล่น เพราะนานครั้งมากว่าอัคนีจะเผยไต๋อะไรบางเรื่องออกมา
“ก็เป็นผัวของดรีมนะ ปกป้องไอ้ดินคนเดียวแบบนี้พี่น้อยใจนะครับ” ปลายฝันหันหน้าหนีมามองท้องฟ้าเช่นเคยหลังสิ้นคำพูดของอัคนี
ไม่ต้องตอกย้ำบ่อยได้ไหมไอ้คำว่าผัวๆ เมียๆ เนี่ย รู้ตัวเองอยู่น่า
“ก็พี่ทำตัวไม่ดีไง ทำไมดรีมต้องเข้าข้างคนที่ทำผิดด้วยไม่ทราบ”
“ปากนี่มัน!! เอากันอีกสักรอบไหมครับน้อง” ถามด้วยสีหน้าหื่นๆ จนปลายฝันต้องยกมือตีแก้มคนพูดแรงๆ จนร่างสูงถลึงตาอย่างดุๆ
เพี๊ยะ!!
“เจ็บนะโว้ย!! ตบมาได้แม่งเอ้ย”
“โอ๋ๆ ขอโทษนะฮะ นี่แหนะ!” จากที่ลูบแก้มที่ตบไปเมื่อกี้อย่างปลอบๆ ก็เปลี่ยนเป็นตีซ้ำที่เดิมทำให้อัคนีต้องครางอย่างเจ็บๆ
อากาศเย็นแบบนี้ แต่โดนตีนี่มันเจ็บสุดๆ ไปเลย
“ฮ่าๆ ไม่คุยกับพี่เพลิงน่าแล้วเบื่อ” คนตัวเล็กบอกพลางพลิกตัวหันไปหาปฐพี ส่วนอัคนีที่ถูกนอนหลังให้ก็มองปฐพีอย่างแค้นๆ
“ทำแบบนี้กับพี่ได้ไงวะ ไอ้เด็กนี่”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่เมียกู” ปฐพีเล่นไปตามน้ำ
“เฮ้ยได้ไง ดรีมก็เมียกูนะเว้ย นอนหงายเดี๋ยวนี้เลยดรีม ไม่ยุติธรรมนี่” อัคนีโวยวายอย่างไม่ยอม ทั้งพยายามดึงตัวปลายฝันให้นอนหงาย แต่คนตัวเล็กขืนตัวไว้เพราะต้องการที่จะแกล้งอัคนีส่วนปฐพีก็ช่วยเต็มที่เช่นกัน นานๆ ที่จะได้เห็นมุมนี้ของอัคนี
“โอเคๆ ยอมแล้ว แกล้งหน่อยทำเป็นตาแก่ขี้น้อยใจไปได้” ปลายฝันยอมก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย ส่วนอัคนีมองไปบนฟ้าเฉกเช่นเดียวกับปลายฝันและปฐพี
“เดี๋ยวโดนดีเลย ถ้าพี่แก่ ไอ้ดินก็แก่”
“อ้าว? เกี่ยวไรกับกูวะ”
“ก็มึงเป็นพี่กูไง”
“ไอ้ห่าเอ้ย เรื่องที่ไม่เกี่ยวก็เอากูเข้าไปเกี่ยวเนอะ” ด่าอัคนีอย่างไม่จริงจังนัก แต่การถกเถียงของทั้งคู่ก็ทำให้เสียงใสหลุดหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“ฮะๆ พวกพี่นี่เหมือนรักกันดีจังเลยนะ”
“อย่าพูดเรื่องขนลุกน่าดรีม”
“มึงคิดว่ามึงขนลุกเป็นคนเดียวหรือไงวะไอ้ดิน”
“ก็เป็นพี่น้องกันไม่ใช่หรือ? ไม่รักกันจริงน่ะ” สองพี่น้องอึกอักออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก็แน่ล่ะ ผู้ชายตัวใหญ่ๆ กันทั้งคู่จะให้มาบอกรักกันมันก็ใช่เรื่อง
เรื่องรักกันน่ะมันรักกันอยู่ แต่ให้แสดงความรักออกมาแบบว่า พี่รักน้องนะ...มันคงจะดูตลกน่าดู ซึ่งร่างบางก็หลุดหัวเราะออกมาคนเดียวเมื่อคิดถึงภาพสองฝาแฝดบอกรักกัน
“คิดอะไรพิลึกๆ อยู่ล่ะสิ” ปฐพีถามอย่างรู้ทัน
“รู้ได้ไง”
“ดูจากหน้าก็รู้แล้วล่ะ เฮอะ!! บอกไว้เลยอย่าคิดเรื่องที่มันน่าจั้กจี้เกี่ยวกับพวกฉันเลยนะ” อัคนีเตือนเสียงจริงจัง เพราะรู้ว่าปลายฝันคิดน่ะมันเรื่องของพวกเขาทั้งนั้น
ก็ลองคิดเรื่องคนอื่นสิ ไอ้คนที่ถูกคิดถึงมันได้ตายดีแน่ๆ
“ฮ่าๆ” เสียงใสยิ่งหัวเราะดังขึ้น จนปฐพีกับอัคนีมองรอยยิ้มนั้นอย่างหลงใหล ไม่ว่าอะไรที่ทำเพื่อปกป้องรอยยิ้มนี้เอาไว้ พวกเขายอมทั้งหมด...
ทั้งสองยิ้มออกมาโดยเป็นรอยยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มออกมา...
“เฮ้ออออ” คนตัวเล็กหยุดหัวเราะแล้วถอนหายใจยาว
จะให้พูดอีกกี่ร้อยครั้ง มันก็บรรยายความรู้สึกตอนนี้ได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือ ความสุข ที่พวกเขาทั้งสามคนที่ไดรับและซึมซับมันอย่างแท้จริง ไม่ใช่ความสุขที่เฝ้าหลอกตัวเองมาตลอดว่าสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอดว่ามันคือความสุข ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว ความสุขที่แท้จริงของพวกเขา ก็คือการที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้
ปฐพีกับอัคนีหลงคิดว่า การทำงาน เที่ยวกลางคืน แข่งรถ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เป็นความสุขของตนแล้ว แต่เปล่าเลย เขาสองคนแค่คิดว่ามันสุข ทั้งๆ ที่มันยังไม่ใช่ความสุขเลยแม้แต่นิดเดียว...
การที่มีปลายฝันอยู่ข้างๆ นี่ต่างหากที่เป็นความสุข รอยยิ้มของปลายฝันเหมือนเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด เขาถึงได้เลือกที่จะเก็บแสงนี้เอาไว้ เพื่อส่องทางให้เขาสองคนเดินไปในทางที่ถูกต้อง...
“ตอนนี้เรากำลังมองดูท้องผ้าผืนเดียวกันอยู่ล่ะ” ปลายฝันพูดขึ้นมายิ้มๆ
“อืม...ท้องฟ้ายามค่ำคืนก็เคยมองอยู่นะ แต่ที่กรุงเทพฯ ดาวไม่เยอะแบบนี้” ปฐพีว่า
“ใช่ว่ะ ที่นี่ทั้งเยอะ ทั้งสวย ทั้งสงบ ไม่วุ่นวายเหมือนที่เมืองหลวงโน่นเลย”
“เห็นไหมล่ะ ดรีมบอกแล้วว่าพวกพี่ต้องชอบ”
“บอกตอนไหน เห็นอยากจะมาอย่างเดียว”
“ช่วยเออออตามหน่อยได้ไหมล่ะพี่เพลิง ใช่ไหมพี่ดิน”
“ใช่!!”
“นี่ก็อีกคน เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ”
“ฮ่าๆ ก็พี่ชอบพูดมาก สู้พี่ดินไม่ได้”
“ก็มันเป็นคนเงียบนี่”
ปลายฝันไม่ตอบได้แต่ยิ้มๆ มองไปยังฝากฟ้าอย่างไม่สนใจคนตัวสูงที่เถียงตนกลับมาเลยสักนิด
“ที่จริงก็ต้องขอบคุณดรีมนะที่ทำให้พวกพี่มาเที่ยวกันแบบนี้ ได้พักผ่อน ได้ผ่อนคลาย และได้ใช้เวลาอยู่กับดรีมมากขึ้น” ปฐพีพูดขึ้น เอื้อมมือจับมือเล็กใต้ผ้าห่มแล้วบีบเบาๆ
“พี่เองก็ต้องขอบคุณ ที่พาพี่มาเที่ยวเปิดหูเปิดตาแบบนี้ และที่สำคัญมันทำให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และเข้าใจกันมากขึ้น” อัคนีเองก็จับมืออีกข้างของปลายฝันเช่นกัน
“ที่จริงแล้วดรีมไม่ได้ทำอะไรให้ถึงต้องให้พี่สองคนมาขอบคุณเสียหน่อย คนที่ขอบคุณควรจะเป็นดรีมมากกว่าที่พี่สองคนยอมพาดรีมมาเที่ยวด้วยทั้งๆ ที่พูดเล่นๆ”
“อะไรที่ขอมา พี่ทำให้ทั้งนั้นแหละ”
“ใจป๋าจริงนะมึงไอ้ดิน”
“หรือว่ามึงไม่?”
“เรื่องดิ...สำหรับดรีมกูป๋ามาตั้งนานแล้วเถอะ”
ปลายฝันส่ายศีรษะไปมา จังหวะการเต้นของหัวใจรัวเร็วราวกับมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น แน่นอนว่าเรื่องน่ายินดีของปลายฝันตอนนี้ก็คือการได้ฟังคำพูดที่ไม่เคยได้ยินจากปากทั้งคู่
แม้จะไม่ใช่คำว่า ‘รัก’ อย่างที่โหยหา แต่แค่ตอนนี้พวกเขารู้ว่า...เรามอบความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันก็พอ แต่ใจลึกๆ ก็อยากจะได้ยินคำว่ารักจากทั้งคู่เช่นกัน
คนอื่นอาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ไม่น่าจะมีจริงที่คนๆ เดียวจะสามารถรักคนได้ถึงสองคนพร้อมกัน แต่กับปลายฝัน เขากล้าที่จะยอมรับต่อหน้าดวงดาวนับล้านดวงตรงนี้เลยว่า...
เขากำลังตกหลุมรักปฐพีและอัคนี...
ที่ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง แต่คือรักทั้งสองคน ที่มันเป็นความรักที่เรารักใครสักคน ที่ไม่ใช่พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน แต่มันคือการที่อยากจะอยู่ข้างๆ เขา ไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์...
(มีต่อ)