(ต่อ)
“กรี๊ดดดด พวกแกปล่อยฉันเลยนะ มาจับฉันไว้ทำไมห๊ะ!!” มัณฑิตากรีดร้องแล้วโวยวายออกมาดังก้องไปทั่วโกดังร้างแห่งนี้
“เปิดตาพวกฉันนะ มาปิดฉันไว้ทำไมเนี่ยน่ะหา! ต้องการอะไร เงินหรือ?” มาธวีโวยวายต่อ
“ฉันไม่ต้องการเงินจากพวกเธอหรอก เปิดตาออก” ปฐพีพูดขึ้นเมื่อเขา 4 คนเดินเข้ามาในตัวโกดังเก็บของแล้ว
เสียงที่ดังออกมาทำให้สองพี่น้องต้องเงียบลงเพื่อตั้งใจฟังดีๆ ว่าตัวเองได้ยินไม่ผิดไป
และเมื่อพวกเธอถูกแก้ผ้าปิดตาออก ภาพที่พวกเธอเห็นก็ทำให้ทั้งคู่มองหน้ากันเลิกลัก สงสัยเป็นอย่างมากว่าตัวเองทำอะไรผิด
ปฐพีกับอัคนีถึงได้จับตัวเธอสองคนมา สายตามองไปรอบๆ เห็นมือปืนที่เธอสองคนว่าจ้างก็เบิกตาอย่างตกใจ
“ม่ะ ไม่จริง เราไม่ได้ทำนะ” มัณฑิตาร้อนตัวรีบปฏิเสธออกมา
“หึหึ ฉันยังไม่ได้พูดว่าอะไรเลยนะ อย่าร้อนตัวนักสิ ถ้าไม่ได้ทำน่ะ” อัคนีพูดออกมาอย่างสมเพช มาธวีหันมองหน้าพี่สาวอย่าง
โมโหทันที
“มันสองคนซัดทอดถึงเธอสองคน หนียังไงก็ไม่พ้นหรอก” เสียงเย็นเฉียบกับใบหน้าที่แสนจะน่ากลัวของปฐพีทำให้สองสาวเย็น
ยะเยือกไปทั้งตัว
“ม่ะ ไม่นะ อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะ ฉันไม่ได้ทำ”
“เฮอะ! แล้วคิดว่าโจรที่ไหนมันจะยอมรับว่ามันขโมยล่ะ” อัคนีไม่พอใจที่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเธอสองคนยังไม่ยอมรับ
อยู่อีก
“พรุ่งนี้ กิจการ ธุรกิจของครอบครัวเธอจะถูกธนาคารอายัด บ้านจะถูกยึด ทรัพย์สินทุกอย่างจะไม่มี จะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย
ทันที และวันนี้พวกเธอทั้งหมดที่ทำร้ายคนรักของฉันจะต้องไปชดใช้ในคุก!!!” ปฐพีตะโกนใส่เสียงกร้าว
“ม่ะ...ไม่นะ ไม่จริง ไม่มีทาง” มาธวีพึมพำอย่างเสียสติ
“ส่วนพวกแกสองคนที่หญิงคนรักของฉัน!!” อัคนีหันไปเล่นงานมือปืนแทน
“ผมทำตามคำว่าจ้าง ผมไม่ได้ตั้งใจ” คนหนึ่งพูดขึ้น
“ไม่ได้ตั้งใจ! นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจมึงยังเล่นบาดเจ็บขนาดนี้ นี่ถ้ามึงตั้งใจ มึงไม่ฆ่าเลยหรือฮะ อย่างไรก็ตาม อาชีพอย่างพวกแกควร
จะหายไปได้แล้ว!! ไปรับกรรมในคุกเถอะมึง!!!”
“ใจเย็นไอ้เพลิง”
“กูไม่เย็นแล้วไอ้ดิน แม่ง! อยากจะกระทืบมันให้ตาย”
“หึ! อย่างพวกมันไม่ต้องให้เราลงไปจัดการหรอก ปล่อยให้ไอ้เทียนจัดการเถอะ” บอกเสียงเรียบ
“ใช่แล้ว! ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในคาบตำรวจนอกเครื่องแบบก็เดือนเข้ามาในตัวโกดังร้าง
แห่งนี้ ส่งยิ้มให้ปฐพีกับอัคนีน้อยๆ อย่างทักทาย ก่อนจะใช้คำสั่งมือให้ลูกน้องตำรวจที่ตามมาเข้าไปควบคุมคนร้ายทั้ง 4 คนนั้น
“มาช้านะมึง กูเกือบจะกระทืบมันแล้ว”
“มึงก็ใจร้อนไม่เปลี่ยนนะไอ้เพลิง” เทียนทักทาย
“เออ! มึงก็กวนตีนกูเหมือนเดิมนะ”
“หึ ว่าแต่มึงเป็นไงบ้างวะไอ้ดิน” หันไปถามเพื่อนตนอีกคน”
“ก็อย่างที่เห็น”
“ไอ้เหี้ย กวนกู”
“กรี๊ดดด ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ผิด” เสียงของมัณฑิตาร้องโวยวายเมื่อตำรวจเข้าไปควบคุมตัว
“ปล่อยนะยะ อย่ามือแกมาจับฉัน กรี๊ดดด” มาธวีโวยวายพร้อมกับพยายามดีดดิ้นตัวเองให้หลุดจากการควบคุม
“ถ้ายังไงเดี๋ยวผมกับไอ้ธีร์จะพาไปโรงพักกับตำรวจนะครับ แล้วจะเคลียร์นักข่าวด้านนอกด้วย” พีรพัฒน์หันไปขออนุญาตเจ้านาย
ของตน ซึ่งปฐพีก็พยักหน้าอย่างอนุญาต ก่อนที่ปฐพีกับอัคนีหันไปมองหน้าเพื่อทันทีอย่างสงสัย
“นี่มึงพานักข่าวมาด้วยหรือวะ”
“แหมไอ้เพลิง กูกลัวมึงไม่ดังนี่นา”
“กูขอบคุณในความหวังดีนะเพื่อน” อัคนีว่าแกมประชดประชัน
“ไม่เป็นไรๆ กูเต็มใจ” เทียนส่งยิ้มอย่างสนุกเมื่อได้กลั่นแกล้งเพื่อน
“แต่ก็ดีเหมือนกัน เอาให้พวกมันทั้งครอบครัวไม่มีหน้าไปมองใครได้อีก” ปฐพีพูดขึ้นมาเสียงเหี้ยม จนอัคนีกับเทียนมอง
“เออ เอาให้ไม่มีหน้าอยู่ในสังคม ให้มันชดใช้กับสิ่งเลวร้ายที่ลูกของมันก่อ และมันเป็นคนเริ่ม” อัคนีพูดเสียงแค้น
หากแต่เขาสองคนก็ไม่อยากจะทำมากไปกว่านี้ เพราะอาจจะเสียสัจจะที่กับพ่อแม่ได้ เพราะฉะนั้น ผิดก็ว่าไปตามผิด ให้กฎหมาย
จัดการไป
ส่วนหญิงสาวสองคนนั้น นี่คือการเอาคืนที่น้อยที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเธอคิดจะทำลายชีวิตของคนอื่น เธอโชคดีแค่ไหน
ที่ปฐพีกับอัคนีไม่จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองโดยการไม่พึ่งตำรวจแล้วล่ะก็ ชีวิตของเธอจะป่นปี้แบบไม่มีชิ้นดีไปมากกว่านี้อีก
เพราะถ้าให้พวกเขาเอาคืนจริงๆ
พวกเธอจะรู้ว่านรกบนดินเป็นยังไง...
...
...
...
ปฐพีกับอัคนีกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งก็เช้าวันใหม่แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้นอนหรอก พอทำธุระเรื่องคนร้ายกับคนที่ว่าจ้างเสร็จ
แล้วเขาก็กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด และเก็บของเพื่อมาเฝ้าปลายฝันโดยเฉพาะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาสองคนไม่
กล้าปล่อยให้ร่างบางต้องไปไหนคนเดียวอีกแล้ว
เขากลัวที่สุดคือการสูญเสียปลายฝันไป...
“เฮ้อ...เมื่อไหร่จะฟื้นวะ” อัคนีถอนหายใจยาว เพราะตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลเขาก็ไม่กล้าหลับเลย เพราะกลัวจะพลาดตอนปลาย
ฝันตื่นขึ้นมา
ส่วนอิสระกับคุณหญิงกลับไปตั้งแต่เช้าเมื่อลูกของทั้งสองมาถึงนั่นแหละ แล้วจะมาอีกตอนสายๆ ปฐพีกับอัคนีมองใบหน้าสวยที่
เขาชอบอย่างรู้สึกรักสุดหัวใจ ใบหน้าที่เมื่อวานขาวซีดจนเขาสองคนใจเสีย
“นี่มันยังเช้าอยู่เลย ให้ดรีมพักผ่อนไปเถอะ” ปฐพีพึมพำ
“มึงไม่ง่วงหรือวะไอ้ดิน”
“ง่วง แต่ไม่อยากนอน กูกลัวดรีมตื่นมาแล้วไม่เจอหน้าว่ะ”
“เหมือนกัน”
“เมื่อวานนี้…” อัคนีพึมพำขึ้นมา จนปฐพีหันมามองหน้า
“กูรู้สึกว่ากูกลัวมาก มากจนคิดเองเออเองไปหมด คิดไปไกลมากเลยว่ะ คิดว่าถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาไม่เจอดรีม กูจะรู้สึกแบบไหนวะ แต่ที่
แน่ๆ คือกูเสียจายจนตายตามได้เลยว่ะ” สารภาพอย่างไม่อาย
“กูก็เหมือนกัน กูกลัวจนแทบอยากจะฆ่าไอ้คนที่ทำให้มันตายๆ ไปซะ แต่ถ้าดรีมรู้ ควรจะโกรธและไม่พอใจเป็นแน่ แล้วไหนจะ
กฎหมายที่จะเอาผิดพวกเราอีกล่ะ กูบอกตรงๆ นะ ว่ากูไม่อยากจะทำผิดอีกแล้ว ต่อให้ใช้เงินทำลายคดีนี้ แต่ความผิดมันก็จะฝัง
อยู่ในตัวของเรา รอวันที่เราต้องชดใช้อยู่ดี เหมือนกับที่ดรีมพร่ำบอกจริงๆ ว่ะ” ปฐพีพูดยาว แต่ก็อ่อนลงประโยคท้ายๆ
“มึงก็คิดแบบนี้เหมือนกันกับกูเลย กูไม่เคยเชื่อเวรกรรมนะเว้ย! แต่พอได้อยู่กับดรีม ได้เข้าวัด ได้ทำบุญ กูเริ่มรู้แล้วว่าความสุขมัน
ไม่ได้อยู่ที่เงินทอง แต่มันอยู่ที่ใจ ใครทำอะไรมันก็ได้อย่างนั้นจริงๆ กูก็เลยว่าจะหยุดทำเรื่องไม่ดี เลิกเอาแต่ใจตัวเองในทางที่
ผิดๆ แล้วล่ะว่ะ พอเลิกงานกูจะมาอยู่กับครอบครัวอย่างที่ควรจะเป็นดีกว่า” อัคนีบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ มองหน้าหวานด้วยความรัก
สุดหัวใจ
เขาสองคนไม่เคยรู้ว่าอะไรถูกหรือผิดหรอกในหลักของกฎแห่งกรรมและความเป็นจริง เพราะแต่ก่อน ถ้าเขาบอกว่าถูกมันก็ต้องถูก
ถ้าเขาบอกว่าผิดมันก็ต้องผิด
ปลายฝันจะรู้ไหมว่า ทำให้ผู้ชายสองคนเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากขนาดไหน
“ขอบคุณที่ทำให้พวกพี่ตาสว่าง ทำให้พวกพี่เปลี่ยนไป” ปฐพีพูด
“ขอบคุณที่ทำให้พี่พบเจอความสุขที่แท้จริง ขอบคุณที่มาเสี่ยงตายเพราะเคียงข้างพวกพี่” อัคนีพูด
“พี่รักดรีม”
ทั้งคู่เปล่งออกมาพร้อมกันอย่างหนักแน่น สัญญาอย่างหนักแน่นในใจอีกครั้ง ว่าจะปกป้อง ดูแลปลายฝัน ไม่ให้ได้รับอันตรายอีก
แล้ว ไม่ให้เสียใจอีก
ไม่ให้มีน้ำตาอีก
สัญญาไหนก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าการกระทำ
ในเวลาเกือบเที่ยงวันร่างเล็กรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากที่หลับไปนานหลายสิบชั่วโมง มือทั้งสองข้างรู้สึกชื้นเหงื่อเหมือนมีคนกุมมันอยู่
ตลอดเวลา เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นมาปรับสายตาให้เข้ากับแสงได้ ก็มองไปยังข้างเตียงที่มีผู้ชายสองคนที่ปลายฝันนึกนึกเป็น
อันดับสุดท้ายก่อนที่สติจะดับไป
เรายังไม่ตาย
ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นที่เมื่อตื่นมาก็ได้พบร่างสูงทั้งสองยังอยู่ข้างๆ ไม่ได้หายไปไหนเหมือนในฝันที่เคยเจอ ลำคอแห้งผาดที่แม้จะ
กลืนน้ำลายยังลำบาก ก่อนจะกระดิกนิ้วให้ร่างสูงรู้สึกตัว และเป็นไปตามคาด ทั้งคู่รีบสะดุ้งตื่นมองหน้าปลายฝันทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บแผลไหม” อัคนีถามอย่างรีบร้อน
“ตามหมอหรือ เดี๋ยวพี่ตามหมอให้” ปฐพีก็เอี้ยวตัวไปกดสัญญาณเรียกหมอทันที ร่างเล็กนึกขันในใจแต่ยิ้มและพูดอะไรลำบาก
เพราะเจ็บคอมาก
“น่ะ น้ำ” บอกความต้องการของตัวเองด้วยน้ำเสียงบางเบา ปฐพีที่อยู่ใกล้ขวดน้ำที่สุดก็รีบรินน้ำใส่แก้วให้ปลายฝันทันที ส่วนอัคนี
ก็ค่อยปรับเตียงอย่างระมัดระวังไม่ให้สะเทือนแผล เพราะรู้ดีว่าแผลโดนยิงเจ็บแค่ไหน
เพราะแน่นอนว่าปบพีกับอัคนีเองก็เคยโดน แต่แค่เพียงถากๆ เท่านั้น
ร่างเล็กค่อยๆ ดูดน้ำจากหลอดจนน้ำหมดแก้วอย่างกระหาย
“ขอบคุณฮะ” ร่างบางพูดได้แล้ว แต่เสียงก็ยังแหบอยู่
ทั้งคู่ยิ้มออกมาอย่างยินดีที่เห็นว่าปลายฝันไม่เป็นอะไรมาก และยังไม่ทันได้พูดอะไร หมอก็เดินเข้ามาในห้องเพื่อเช็คสภาพ
ร่างกายทันที
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ รอให้แผลหายเท่านั้นเอง และช่วงนี้อย่าเพิ่งในแผลโดนน้ำนะครับ อย่าขยับตัวมาเดี๋ยวจะอักเสบ
เอา แล้วต้องทานยาให้ครบทุกมื้อนะครับ ยังไงคงต้องให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลประมาณ 3 วันแล้วค่อยกลับไปพักผ่อนที่
บ้านได้” หมออธิบาย
“แล้วเรื่องเรียน” ปลายฝันถามอย่างเครียดๆ
“ทางที่ดี หมอแนะนำว่าให้พักผ่อนก่อนดีกว่า เพราะแผลที่โดนยิงค่อนข้างลึก”
“โอเคครับ ขอบคุณนะครับ” ปลายฝันยกมือไหว้หมอ
“ยังไงก็พักผ่อนนะครับ มีอะไรเรียกพยาบาลได้ตลอด”
“ครับหมอ” ปฐพีตอบรับ ก่อนที่หมอจะออกจากห้องไป
“ดรีมเรียนไม่ทันเพื่อนๆ แน่เลย” ร่างเล็กคร่ำครวญ เรียกรอยยิ้มจากทั้งสองคนเป็นอย่างดี
“เจ็บขนาดนี้แล้วยังจะมีอารมณ์ไปเรียนนะ”
“พี่เพลิงไม่รู้หรอกว่าที่ดรีมเรียนมันยากแค่ไหน วันเดียวก็แทบตายแล้ว นี่เป็นอาทิตย์เลยนะ ฮือ”
“เอาเถอะ อาจารย์ท่านคงจะเข้าใจ โดนยิงนะดรีม ไม่ได้หกล้ม” ปฐพีดุ
“ว่าแต่ทำไมดรีมถึงโดนเนี่ย คิดว่าจะตายไปแล้วเสียอีก” พูดอย่างไม่จริงจังนัก
สำหรับปลายฝันแล้ว รอดมาได้ ที่ผ่านมาก็ไม่น่ากลัว เพราะต่อให้ผ่านเรื่องร้ายแรงมา แต่ถ้าตอนนี้เขายังอยู่ มันก็แค่เป็นอดีต
“พี่จัดการให้แล้วนะ”
“จัดการอะไรพี่ดิน” ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ก็คนที่ยิงดรีมไง แล้วไอ้คนที่จ้างฆ่าดรีมด้วย”
“นี่ดรีมเป็นเป้าอยู่แล้วหรือฮะพี่เพลิง ดรีมคิดว่ายิงผิดตัวเสียอีก นี่ถ้าเดาไม่ผิดคุณหมิวกับคุณไหมใช่ไหมครับ” ปลายฝันถาม
ก็มีเรื่องอยู่แค่กับสองคนนี้ จะให้คิดเป็นใครอื่นก็ไม่ได้
“ก็ตามนั้นแหละ”
“แล้วพวกพี่ทำอะไรเธอ หวังว่าคงไม่ได้ทำอะไรที่มันเลวร้ายเกินไปนะ” ถามทั้งคู่เสียงเครียด
“มันก็สมควรแล้วนะที่ทำกับดรีมแบบนี้” ปฐพีเถียง ให้ร่างบางเข้าใจผิดไปว่าพวกตนได้ทำเรื่องเลวร้ายลงไป
“แต่พวกเธอแค่ไม่รู้ว่าอันชั่วอันไหนดี พี่ทำแบบนี้เหมือนไม่ให้โอกาสพวกเธอนะ พี่ดิน พี่เพลิงบอกมาดีกว่าว่าทำอะไร”
“ไอ้ดินมึงก็แกล้งน้อง พวกพี่ปล่อยให้กฎหมายจัดการ เพราะรู้ว่าดรีมคงจะดีใจมากกว่า” อัคนีหันมาพูดความจริง เพราะกลัวว่าร่าง
เล็กจะสติแตก
แต่พอได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงซ่านด้วยความเขิน
ก็ดีใจจริงๆ นั่นแหละที่พวกเขาเลิกทำสิ่งที่ถูกต้อง...
“หึ! ทำเป็นดีใจ” ปฐพีแซว
“ก็ใครให้พี่แกล้งล่ะ นิสัยไม่ดี”
“โอเคๆ พี่ผิด ว่าแต่อยากนอนไหม”
“จะบ้าหรือไง เพิ่งจะตื่นเนี่ยนะ” ร่างเล็กโวยวาย
“แต่พวกพี่ง่วง” อัคนีบอก
“ก็นอนไปสิ โซฟาก็ออกจะใหญ่และยาว นอนหันขาให้กันไป หรือกลับไปนอนที่บ้านก็ได้นะฮะ ดรีมอยู่คนเดียวได้”
“ไม่ได้!!” ปฏิเสธพร้อมกัน จนร่างบางยู่หน้าอย่างเซ็งๆ
ดูแค่ใบหน้าที่อิดโรยนั่นแล้ว ปลายฝันก็รับรู้ได้ทันทีว่าปฐพีกับอัคนียังไม่ได้นอน
“ถ้างั้นก็ไปนอนไป เดี๋ยวถ้าดรีมอยากได้อะไรจะเรียกนะฮะ”
“โอเคๆ” ทั้งคู่เลยจำยอมต้องเดินไปนอนที่โซฟาโดยที่หันขาให้กัน สักพักก็หลับไปทันทีอย่างสบายใจ และหายห่วงปลายฝัน
เสียที
“ขอบคุณนะฮะ ที่อยู่ข้างดรีมแบบนี้”
“ดรีมรักพวกพี่ทั้งสองคนมากๆ เลยนะฮะ รักทั้งสองคน” ปลายฝันพึมพำเบาๆ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แม้มันจะเจ็บแผลมากแค่
ไหน
แต่แค่ยังอยู่ตรงนี้ ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
ผมขออโหสิกรรมให้คุณหมิวแล้วก็คุณไหมนะครับ อย่าจองเวรจองกรรมกับพวกเราอีกเลย และสิ่งใดที่ผมเคยทำไม่ดีกับคุณสอง
คน ก็ขอให้อโหสิกรรมให้ด้วย...

ตอนนี้อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆ คนที่พากับสาบส่งนางมารร้ายทั้งสองเท่าไหร่นะคะ เพราะยูกิต้องการเขียนในมุมของความไม่รุนแรง จากผู้ชายที่ชอบทำอะไรตามอำเภอใจอย่างพี่ดินพี่เพลิงเองก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เพื่อคนที่ตัวเองรักนะคะ ที่จริงยูกิกะว่าจะเขียนให้มันโหดๆ ชนิดที่ว่าเลวสุดๆ แต่ไม่เอาอ่ะ มันเสียความเป็นตัวละครของพี่ดิน พี่เพลิงหมด แต่ก่อนอาจจะเป็น แต่ในเมื่อคิดจะรักน้องดรีมก็ต้องปลี่ยน เข้าใจที่ยูกิบอกมั้ยคะ T^T (ไม่ต้องดูชื่อตอนมาก)
ใครที่สั่งจองนิยาย ตอนนี้เล่มตัวอย่างมาถึงแล้วนะคะ จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุดค่ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki