At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185144 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน12(11-05-15)
«ตอบ #150 เมื่อ13-05-2015 01:13:19 »

พี่โป๊ะยังคิดว่าน้องเป็นเด็กเลี้ยงคุณสุปะคะ555

ออฟไลน์ Luksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน12(11-05-15)
«ตอบ #151 เมื่อ13-05-2015 10:36:39 »

พี่โป๊ะจะคิดยังไงน้า  :katai5:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #152 เมื่อ18-05-2015 23:34:08 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 13




ทั้ง 2 ฝั่งเซ็น MOU(*) กันไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน วันที่เซ็นคือวันเดียวกับที่ชื่อผม นามสกุลผม ฐานะทางสังคมของผม ถูกเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ต่อเขา ผู้ที่รู้จักผม ชื่อผม นาสกุลผม และฐานะทางสังคมของผม ผ่านการด่วนสรุปของตัวเขาเองมาตลอดหลายเดือน

และวันนี้ เรา...เอาเป็นว่าผม และ เขา จะพบกันครั้งแรกในแบบที่ความคิดและความจริงตรงกันมากสุด

เวลานัดคือ 9 โมงเช้าครับ ที่เฮดออฟฟิศของเขา ซึ่งอยู่เขตดุสิต ผมรู้สถานที่ที่ต้องตะเกียกตะกายมาก็เมื่อคืนนี้แหล่ะครับ เขาให้เลขาคอนเฟิร์มการนัดหมายผ่านทางเลขาของป้าสุ แล้วป้าสุก็มาบอกผมอีกทีว่า “วินจัดการด้วย งานนี้แม่ยกให้เลย เรื่องที่บ้านเดี๋ยวแม่จัดการเอง” หมายถึง ถ้าเรื่องที่ผมเริ่มกลับเข้ามาในวงวนธุรกิจของตระกูลเป็นตะกอนในใจใคร ป้าสุจะจัดการให้เองครับ

เมื่อคืนผมได้แต่อือเออ แล้วก็เสียนิสัยไม่ทำการบ้านอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน แต่มาวันนี้ถึงรู้ว่าคิดผิดมหันต์ที่ไม่เตรียมตัว

“จากแบงก์xxx ครับ” ผมลดกระจกเพื่อบอกที่มาที่ไปของรถคันใหญ่ คนขับรถ และตัวผม
“นัดไว้แล้ว” บอกเพิ่มแล้วก็เปิดกระจกเพราะพี่ยามแกเดินไปเลื่อนป้ายกั้นหน้าบริษัทออกให้

เฮดออฟฟิศเขาไม่เหมือนกับที่ผมจินตนาการเลยครับ ชื่อบริษัทมีคำว่าสตูดิโอต่อท้าย แต่สถานที่ที่ผมยืนอยู่นี้ ไม่มีส่วนไหนที่เกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ หรืออะไรใดใดที่เกี่ยวข้องกันทั้งสิ้น

“คุณวิน เดี๋ยวลุงไปก่อนนะครับ”

“เอ่อ แล้ววินจะกลับยังไงล่ะครับ?”
“อ๋อ งั้นวินกลับแท็กซี่ก็ได้”

“เดี๋ยวทางนี้คงจัดรถไปส่ง กว่าจะกลับก็ค่ำนี่ครับ ถ้าปล่อยให้คุณวินกลับเอง คุณท่านคงได้โทรมาเฉ่ง”

“ค่ำหรอครับ”
“เขาแค่พาวินดูออฟฟิศไม่ใช่หรอครับ ก็นี่ไง เห็นแล้ว คาตาเลย ลุงสมานก็เห็นด้วยกัน”

“โถคุณหนู”
“ลุงว่าเขาคงไม่ให้เราดูแค่นี้หรอกครับ”
“ลุงก็ไม่รู้เรื่องอะไร แต่เวลาส่งคุณท่านเวลามีนัดดูงาน แกก็ให้ลุงกลับก่อนประจำแหล่ะครับ”

“อ่อ หรอครับ” ก็บอกแค่ว่าดูนี่หว่า ไม่เห็นบอกรายละเอียดเลยว่าดูอะไร แล้วดูเสร็จต้องทำอะไรต่อ โว๊ะ! ผมเริ่มอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่คิดลงอารมณ์กับลุงสมานหรอกครับ ต้นเหตุมันเกิดจากความไม่ใส่ใจของผมเองนั่นแหล่ะ

“คุณวินจากแบงก์รึเปล่าคะ”

“ครับ” ผมหันไปตอบต้นเสียงที่ไม่ส่งเสียงฝีเท้าให้รู้ตัวก่อน เธอเป็นผู้หญิงที่แต้มรอยยิ้มบนใบหน้าให้คนแปลกหน้าอย่างผมอย่างไม่เคอะเขิน ท่าทางเธอจะเชื่อว่าผมเป็นคนจากแบงก์จริงๆ ทั้งที่ไม่ได้แสดงหลักฐานอะไรเลย อาทิ นามบัตร ซึ่งผมก็ไม่มีติดตัวหรอกไอ้ของพรรค์นั้น นี่ถ้าเจอพวกแอบอ้าง เธอต้องโดนหลอกแน่ๆ เชื่อเถอะ!
“ผมเอง วินจากแบงก์” อืม ชื่อนี้ก็ดูรวยดีเหมือนกันแฮะ วินจากแบงก์

“ค่ะ แนนจากพี่โป๊ะค่ะ”
“เย้ย!” มีติดเบรกมุกตัวเองด้วยอ่ะ ตลกดีว่ะ ผมขำนิดนึงแล้วก็รีบหุบปากแอบซ่อนฟันไว้

“มารึยังแนน”

“ค่า ค่า นายแบงก์มาแล้วค่ะพี่โป๊ะ”
“คุณวิน ทางนี้เลยค่ะ บอสรออยู่แล้ว ท่าทางตื่นเต้นจนนั่งไม่ติดเลยค่ะ”

บอส...ตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด...จริงหรอวะ?
ผมล่ะไม่คิดเชื่อ แต่ก็เดินตามคุณแนนเข้าตัวออฟฟิศไปแต่โดยดี

จริงครับ
บอสของคุณแนนนั่งไม่ติดจริงๆ
เพราะเขาวิ่งออกกำลังกายอยู่บนลู่วิ่งครับ ใส่ชุดออกกำลังกายด้วยเถอะ
เหอะ! พร้อมทำงานมากสินะ ทำไมไม่บอกกันบ้างวะ ผมจะได้ไม่ต้องลำบากลำบนใส่สูท คิดว่าผมชอบชุดสุดร้อนนี่นักรึไง

“อ่า มาแล้วสินะครับ”
“คุณวิน” ก่อนหน้านี้เสียงเป็นแค่คลื่น แต่ตอนนี้เสียงเป็นสสารแล้วครับ สามารถแข็งตัวได้เมื่ออกจากปากคนกวนส้นตีนที่ชื่อว่านายมือโปร

“ครับ คุณมือโปร” เอาสิ ผมมันเด็กเหี้ย ส่งมาแบบไหน ผมก็โต้กลับไปแบบนั้น ผมไม่มีเหตุผลต้องทำดีกับเขาถ้าเขาทำกิริยาแบบนี้กับผมก่อน

“มาดูงานตามนัดหมายใช่มั้ยครับ”
“ขอความกรุณา รอผมสักครู่นะครับ หวังว่าจะไม่อารมณ์เสียจนต้องฟ้องคุณป้าแท้ๆ ที่เลี้ยงกันมาแต่เล็กแต่น้อยหรอกนะครับ”
“ผมมันเบี้ยล่าง ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรไปสู่กับหลานชายคนเดียวกับแบงก์หรอกครับ อย่าคิดรังแกกันเลย”

ผมฉาบสีหน้าเรียบเฉยไว้บนหน้า ไม่รู้เหมือนกันว่าโต้ตอบแค่นี้แล้วเขาจะฉุกโมโหขึ้นมาอีกมั้ย แต่ผมจะโต้ตอบแค่นี้แหละ ผมไม่อยากโยนฟืนเข้ากองไฟ

นายมือโปรเดินออกจากห้องประชุมที่ 1 ไปครับ จริงๆ แล้วห้องนี้ไม่น่าจะมีไว้ประชุมตามชื่อมันหรอก น่าจะเป็นห้องเก็บโลกของนายมือโปรซะมากกว่า เพราะผมเห็นมีแต่ของที่ไม่ควรมีในห้องประชุมทั้งนั้น อาทิ ลู่วิ่งออกกำลังกายและเวทขนาดต่างๆ

20 นาทีเขาก็กลับเข้ามาครับ นายมือโปรผลักประตูกระจก โผล่หัวเข้ามาบอกผมเพียงว่า “ไปกันได้แล้ว” แม้จะโผล่เข้ามาแค่หัว แต่กลิ่นหอมที่ปลิวแอร์มาเตะปลายจมูกผม ก็ทำให้ได้รู้เขาหายไปอาบน้ำมา

อืม...มารยาทดีกับผมเหลือเกิน


#### @ D A W N  #####


เราจะไปไหนกัน?
ผมอยากถามใจจะขาด แต่นายมือโปรหน้านิ่ง ขับรถเงียบๆ แม้แต่วิทยุในรถก็ไม่เปิด เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงจอแจจากโลกภายนอกที่แข็งแกร่งพอจะดิ้นรนเข้ามาเหงาตายในรถแสนสงัดเท่านั้นแหละครับ

แล้วถ้าเปลี่ยนคำถามเป็น ขอแวะเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ย จะได้รึเปล่านะ?

“เอ่อ....”

“เดี๋ยวอีกราว 1 กิโล จะมีปั๊มนะ”
“ผมจะแวะเติมน้ำมัน ซื้อกาแฟหน่อย คุณก็...ดูแลตัวเองนะ”

“ครับ” ผมนี่ว่าง่ายชะมัด แล้วไอ้ความรู้สึกครุกรุ่นที่เกิดขึ้นทีละเล็กในหัวผมนี่คืออะไร สาเหตุน่าจะมาจากคำว่าคุณ และผม ที่เขาใช้เป็นสรรพนามเรียกตัวเองและผม

มันไม่ใช่คำที่ผมชินเมื่อออกมาจากปากเขาเลย
พี่ กับ วิน หรือเด็กดื้อ ไอ้ยุ่ง ไอ้ดื้อ เราน่ะ หรืออะไรก็ตามที่เคยใช้เรียกแทนชื่อผม ยังดีเสียว่า คุณ

ถ้านี่คืองานแรกของผม และผมต้องทำให้สำเร็จลุล่วงล่ะก็ ผมไม่ควรปล่อยให้ความครุกรุ่นนี้เติบโต ผมควรขจัดปัญหาให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปเสีย

“พี่โป๊ะครับ”

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด!
เบรกตัวโก่งเลยครับ ผมนี่หัวปักคอนโซลเลย เขาปาดซ้ายแล้วจอดที่ไหล่ทาง จากนั้นก็หันทั้งตัวมาหาผม

“กวนตีนกันรึไง อยากตายมากใช่มั้ย?!”

“วินไม่ได้กวนตีนอะไรเลย ก็แค่เรียก”

“ไม่ต้องเรียก เรียกก็ไม่ได้”
“ถ้าอยากจะเรียก ก็เรียกคุณวารินทร์ หรือคุณมือโปร”
“ผมกับคุณไม่เคยรู้จักกัน ไม่ได้สนิทกันจนมาเรียกชื่อที่มีแค่คนใกล้ชิดจะเรียกได้!”

“พี่โป๊ะ”

“ก็บอกว่า!”

“โกรธหรอครับ”
“วินขอโทษ”


“.............” เขาไม่พูดอะไรต่อ ใบหน้าตึงหันมองตรงตามเดิม ไม่นานรถสปอร์ตคันนี้ก็แล่นด้วยความเร็วมากกว่าปกติ เหมือนเดิม

“พี่โป๊ะ”
“วินขอโทษ”

“..............”

“วินขอโทษ”
“ต้องกี่ครั้งถึงพอ ร้อย พัน ล้าน”
“พี่ต้องการอะไร อยากให้วินขอโทษแบบไหน ก้มกราบหรอครับ”

“อย่าประชดผม”

“ก็พี่โป๊ะไม่ตอบนี่ครับ”
“อะไรที่วินคิดว่าวินผิด วินก็จะสำนึกผิดและขอโทษเพื่อให้จบกันไป”
“วินไม่ชอบแบกความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”

“.................”

“แล้วพี่โป๊ะแบกไว้ทำไม”

“หัวผมมีไว้แบกโลกทั้งโลกอยู่แล้ว ไม่ต้องมาสอน”

“ขอโทษครับ”

“แล้วก็เลิกพูดคำนี้ได้แล้ว”

“วินจะพูดจนกว่าพี่โป๊ะจะพอใจ”
“พี่โป๊ะเองก็ต้องขอโทษวินเหมือนกัน”

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดด!
คราวนี้หน้าทิ่มกลางถนนเลยครับ
แป๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!
ตามมาด้วยเสียงแตรจากรถคันหลัง นายมือโปรหันมองผมตาขวาง เขากระชากรถโดยไม่พูดอะไร แม้แต่การขอโทษที่ขับรถหมาไม่แดกแบบนี้ เขาก็ไม่เอ่ยออกมา

ไอ้ลุงดื้อด้าน!
ผมก็โกรธเป็นเหมือนกันนะเว้ย!
แล้วไอ้เรื่องที่เขาโกรธอยู่นี้ มันก็ไม่ใช่ความผิดผมทั้งหมดด้วย!

ผมไม่ได้เข้าห้องน้ำ ไม่ได้แวะซื้อน้ำเปล่า ของกินรองท้องก็ไม่มี
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนรถอีกเลย มีแต่นายวารินทร์ที่ขับรถจีบตูดรถบรรทุกในเส้นบางนา-ตราดจนตาขาวผมขยายตัวแทบปิดตาดำ

สุดท้ายก็ถึงที่หมายการ ‘ดูงาน’ เสียที
ผมเข้าใจผิดไปมาก ผมคิดแค่ว่ามานั่งดูเอกสาร ฟังการพรีเซนท์องค์กรเหมือนวันพบกันครั้งแรก หนักสุดก็รับบรีฟข้อมูลทั้งหมดซึ่งผมก็เตรียมตัวมาด้วยสมุดบันทึกและดินสอกด 1 ด้าม
ดูงานของนายมือโปร ของป้าสุ หรืออาจจะของคนทั้งโลกใบนี้ คือการศึกษารายละเอียดธุรกิจ ทุกซอกทุกมุม แม้ว่าทั้งซอกทั้งมุม จะมีแค่พื้นที่กว้างชิบหายและโกดังใหญ่ๆ ที่ตั้งอยู่ไกลลิบลิ่วกลางทุ่งหญ้าไร้ประโยชน์
นี่มันทำเลเหี้ยอะไรเนี่ย!
คนขายฝันนี่กล้าชิบหาย ผมมองไม่เห็นเส้นทางทำกินอะไรเลย นอกจากการนั่งขายน้ำส้มผสมยาแก้ปวดหัวข้างทาง!

“ไปสิครับ รอเหี้ยอะไรอยู่”

“รอเหี้ยนำทางไงครับ ไม่เคยมานี่เว้ย!” ผมเริ่มฉุนกับท่าทางยะโสกดหัวคนอื่นของหมอนี่แล้ว อุตส่าห์ชวนเคลียร์ ขอโทษและอภัยกันจะได้จบๆ และเริ่มต้นกันใหม่ ในบทบาทใหม่ แต่ช่างแม่งเหอะ ไอ้ลุงสตึคนนี้คงไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นั้น

“หึ สันดานดิบโผล่แล้วครับคุณวิน”
“เป็นหลานนายแบงก์ต้องมีมาดนะครับ พูดให้มันเข้าหูหน่อย จะได้เหมาะกับชาติตระกูล”

“ก็คน ก็ต้องแดก ต้องขี้ ต้องเยี่ยว แล้วตอนนี้ก็หิวน้ำชิบหาย”
“กวนตีนวินพอใจแล้วก็หาน้ำให้ดื่มหน่อยได้มั้ยล่ะ! ไม่งั้นฟ้องป้าสุ!”

“หึ ไอ้ลูกหมา!” เขากัดฟันด่าผมแล้ว ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกดีที่เขาเริ่มด่าผมด้วยถ้อยคำที่คุ้นหู สงสัยผมจะเป็นพวกมาโซ ชอบถูกทรมาน บ้ากันใหญ่

“เอ้า มาสิครับ”
“นี่ไม่ใช่เมืองคาน ไม่มีพรมแดงปูรอครับ”
“เชิญ”

“รอวินด้วยดิ” ผมรีบเรียกรั้ง เพราะไอ้คนขายาวกว่าผมเขาจ้ำเหมือนหมาแมวจะคลอดลูก แล้วทางก็ไกลมาก แดดร้อนมาก ป้าสุจะรู้บ้างมั้ยว่าผมทรมาน


เข้ามาข้างในโกดังก็ไม่ได้ต่างกันหรอกครับ
ดีหน่อยว่ามีแผนที่โปรเจคทั้งหมดว่าพื้นที่บริษัทนี้ครอบคลุมถึงไหน และตรงไหนจะมีอะไรในอนาคตแปะเต็มผืนผนังอันใหญ่โต ตอนนี้โปรเจคกำลังก่อสร้างครับ และเงินกู้จากแบงก์ รวมถึงเงินเพิ่มทุนที่แบงก์จะใส่ให้ในหุ้นส่วนใหม่ก็สำคัญมากๆ ด้วยครับ
เรียกได้ว่า เขาพลาดไม่ได้ ถ้าดีลกับแบงก์ไม่ได้ ไม่ว่าจะการกู้ หรือการให้แบงก์มาถือหุ้นบริษัทด้วย นายมือโปรก็จบเห่ ขนาดไม่ช่ำชองธุรกิจอย่างผมยังดูออกว่าใครถือไพ่เหนือกว่า แต่ผมคิดว่าเขากำลังตาบอด
และน่าจะตาบอดเพราะความโกรธ เขาถึงได้หยามหยันคนจากแบงก์อย่างผมแบบนี้
เขาให้ผมกินน้ำก๊อก
ซึ่งกูไม่กินไง ไม่กินเว้ย!

“มีเท่านี้ เมื่อกี้ไม่ได้แวะทีไหนเลย จะมีน้ำที่ไหนให้กินอีก”
“ที่นี่ไม่มีคนงานหรอก อยู่ที่ไซท์ก่อสร้างกันหมด และก็เป็นแรงงานรับเหมา เอาท์ซอร์สดูแล ไม่เกี่ยวกับบริษัทเรา ขอน้ำเขาดื่มไม่ดีหรอก เบียดเบียน จะกินไม่กิน”

“ไม่ครับ มันไม่สะอาด”

“จะไม่หลอกว่ามันสะอาดหรอกนะครับคุณวิน แต่จะบอกตรงๆ เลยว่านอกจากน้ำก๊อกนี่แล้วก็ไม่มีน้ำให้”
“นอกจากเยี่ยวผม”

“เหี้ยจริงๆ!”

“พูดกับเด็กเหี้ยๆ มันก็ต้องแบบนี้แหละ...ครับ”

“พี่โป๊ะ!”

“กรุณาเรียกชื่อผมให้ถูกกาลเทศะและสถานะความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วยครับ คุณวิน”

ความอดทนผมหมดลงตรงนี้ได้มั้ย ผมไม่อยากทนคนแบบนี้แล้ว ไอ้ดื้อด้าน!

“งั้น...กินข้าวกลางวันที่ไหนครับ วินหิวแล้ว นี่ก็เที่ยงกว่าแล้วด้วย”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้แวะข้างทางเลย ที่นี่ไม่มีอะไรนอกจากน้ำก๊อก”

“งั้น...พี่โป๊ะกินอะไร”

“ก็ต้องกินน้ำก๊อกนี่เหมือนกัน”
“รองท้องไปก่อน ไปดูข้างในแต่ละส่วนตามแผนที่เนี่ย คุณรู้เรื่องทั้งหมดเมื่อไหร่ ก็ได้กินเมื่อนั้น”

“งั้นก็ไปเลย หิวจะแดกควายได้อยู่แล้ว” ผมบ่นแล้วกอดอกฉับพร้อมกับก้าวนำหน้าเขาไป จากนั้นก็ปั้นหน้าหยิ่งยะโสแล้วเอียงหน้าไปบอกเขาว่า “นำไปสิ รอเหี้ยอะไรอยู่ล่ะครับคุณวารินทร์”

“รอลูกเหี้ยฟักตัวจากไข่ไงครับ คุณวิน”

จากนี้ไป ผมและเขา คงคุยกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะครับ ดูเหมือนเขาจะโกรธ และเกลียดผมชนิดที่ไม่อยากจะเผาผีหรือเฝ้าไข้
ขนาดผมเดินตามไม่ทัน เขาก็ยังเดินนำลิ่วๆ
แดดก็ร้อน หิวน้ำจนคอแห้งเป็นผงไปหมดแล้วด้วย
ทำไมไม่หันมองผมบ้างว่าผมเดินไม่ไหวแล้ว ผมไม่ใช่คนแข็งแกร่ง ไม่ได้ชอบการออกกำลังกาย ผมชอบอยู่ในโลกของผม อย่างสงบๆ เงียบๆ เย็นๆ
ทำไมผมต้องมาเดินฝืนใจตัวเองแบบนี้ด้วย

“ไอ้..เหี้ย เอ้ย” เสียงแห้งมากแล้วด้วย ผมเลียปากตัวอย่างกระหาย นี่ผมขาดน้ำมาแล้วกี่ชั่วโมง ผมคิดว่าผมหมดแรงแล้ว....ป้าสุ วินขอโทษ วินทำได้เท่านี้แหล่ะครับ


“เฮ้ย! วิน!” เขาเรียกผมอย่างตกใจ แต่ไม่ทันแล้ว โลกนี้ดับลงต่อหน้าผม ดับวูบแบบที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเลย


#### @ D A W N  #####


“ตายแล้ว”
“ไปทำอีท่าไหนตาวินถึงได้เป็นลมเป็นแล้งแบบนี้ล่ะคะ”
“นี่อาขอร้องมากเกินไปหรอคะ?”
“แค่พาน้องไปดูโครงการ ทำไมหลานอาถึงเป็นลมไปแบบนี้”
“ดูสิ อ่อนแรงจนหมอต้องให้น้ำเกลือ 2 ขวด”
“โอยยย ตาย ตาย ตาย”
“ไหนคุณโปรบอกอาสิว่าเอาหลานอาไปทำอะไร”

“ขอโทษครับ พอดีผมไม่ได้เตรียมน้ำกับของรองท้อง”
“ผมไม่เคยเป็นลมเพราะเรื่องพวกนี้ เลยไม่คิดว่า...”

“ไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นลมเพราะขาดน้ำขาดอาหาร”
“เฮ้อ!”
“เอาเถอะค่ะ”
“ไว้พรุ่งนี้อาจะมาดูโปรเจคเอง คงปล่อยตาวินลุยเดี่ยวไม่ได้”
“จริงๆ ก็คิดว่าเสี่ยงอยู่เหมือนกัน แต่เห็นว่าเป็นธุรกิจที่วินน่าจะเข้าใจได้เร็ว เลยอยากปล่อยให้ดูแล”
“นี่คงต้องฝีกกันใหม่ตั้งแต่ฟิตร่างกายให้แข็งแรงสินะ หลานอาผิดเองแหล่ะค่ะ”

“ไม่ครับ ผมไม่รอบคอบเอง”
“จริงๆ ผมควรดูแลน้องให้มากกว่านี้”
“ถึงจะไม่ใช่คนจากแบงก์ ถึงจะเป็นเด็กธรรมดาผมก็ควรดูแลให้ดีกว่านี้”
“ขอโทษครับอาสุ”

“มันสุดวิสัย คุณโปรก็ไม่เคยมีน้องชายด้วยนี่”
“งั้นก็ คิดเสียว่าวินเป็นน้องชายนะคะ อาฝากด้วย”

“ครับ ผมจะดูแลให้รอบคอบกว่านี้”

ที่ผมเพิ่งได้ยินไป คือบทสนทนาของคนที่คิดว่าผมน่าจะหลับยาวถึงหัวค่ำ แต่ผมตื่นแล้ว นานแล้วด้วยครับ
ผลจากการขาดน้ำ เจอแดดแรงและอากาศร้อนทำให้ผมเป็นลม
และนายมือโปรก็เป็นคนอุ้มผมกลับมาที่รถ พาที่ส่งที่โรงพยาบาลเอกชนแถวบางนา แล้วก็อยู่กับผมในห้องเดี่ยวนี้จนป้าผมมาพร้อมพายุแห่งความห่วงใย

“จริงๆน้าตาวิน”
“แล้วจะให้แม่วางใจ ไม่อุ้มวินอยู่ตลอดเวลาได้ยังไงล่ะลูก”

วินขอโทษครับ ผมได้แต่คิดอยู่ในหัวตัวเอง อีก 2 คนที่กำลังคุยกันเขาอยู่อีกห้องหนึ่งที่เป็นห้องพักคนเฝ้า เลยไม่มีใครได้รู้ว่าผมเองก็เจ็บใจไม่แพ้ใครที่ตัวเองทำได้แค่นี้

“อาต้องกลับไปที่แบงก์ ตอนเย็นจะมาเฝ้าเอง”
“คุณโปรมีงานด่วนอะไรรอมั้ยคะ”

“วินคืองานด่วนสุดของผมแล้วครับ”
“ผมจะอยู่เฝ้าจนกว่าวินจะดีขึ้น”
“มันคือความผิดผมเอง ขอโทษด้วยนะครับ อาสุ”

ทีแบบนี้ล่ะพูดง่าย กับผมไม่เห็นขอโทษง่ายๆ แบบนี้เลย
ดูเหมือนป้าสุจะไปแล้ว เพราะผมไม่ได้ยินเสียงของป้าอีก นี่คงคิดว่าผมหลับเป็นตายเลยสินะ ถึงไม่มีแม้แต่การเข้ามาดูผมก่อนไปแบบนี้
คนที่เดินเข้ามาในห้องที่ผมนอนอยู่คือนายมือโปร ดูเขาไม่ตกใจเลยที่เห็นผมตื่นอยู่
“ทำไมก๋องแก๋งแบบนี้”
“ป้าเราเขาก็เลี้ยงดีไม่ใช่หรอ?”
“มื้อเช้าทุกมื้อที่มันเด้งมาเหมือนเสกได้ นั่นก็ของดีๆ ทั้งนั้น”
“แบบนี้เรียกเปลืองข้าวสุก”

นี่เขามายืนดาผมปาวๆเพื่ออะไร?

“ยังจะมองอีก อยากเถียงอะไรก็พูดสิครับ คุณหนูวิน”

ถ้าผมมีแรงกว่านี้ สาบานได้เลยว่าผมจะเอานิ้วกลางสวนรูจมูกไอ้สูงตรงหน้านี่ แล้วนี่ด่าผม แล้วจะลากเก้าอี้มานั่งจ้องหน้าผมทำไม

“ถามจริงๆ เถอะ ทำแบบนี้ทำไม”

“ทำอะไรครับ?”

“ยังจะไขสือ!” ไขสืออะไร งงแล้วนะเว้ย!

“วินไม่รู้ว่าพี่โป๊ะพูดอะไร”

“ตอบมาตรงๆ เถอะน่า ไม่ต้องอ้อมค้อม”
“ทำแบบนี้ทำไม”

“ทำอะไรล่ะครับ? เป็นลมน่ะหรอ? วินไม่ได้เจตนานี่ แล้วก็ไม่เป็นอะไรมากด้วย บอกพี่โป๊ะตั้งแต่บนรถ แต่พี่ยืนยันจะมาวินมาโรงพยาบาลเอง พี่ยืนยันกับหมอเองด้วยซ้ำว่าวินต้องให้น้ำเกลือ ทั้งที่วินนอนส่ายหัวตลอด แต่พี่โป๊ะทำเป็นไม่เห็น”

“ตอบให้ตรงคำถามดิ!”

“ก็พี่ถามไม่เคลียร์นี่หว่า!”

“ได้ เอาให้เคลียร์เลย วินหลอกพี่ทำไม”

จะบอกว่าไม่หลอกผมก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่ให้หาเหตุผลมาบอกว่าหลอกไปเพื่ออะไร ผมก็ไม่ได้มีเป้าหมายเป็นการหลอกเขาตั้งแต่ต้น มันคือการตกกระไดลอยโจนที่ผมจงใจตกบันไดทั้งที่มีโอกาสก้าวเดินอย่างระมัดระวัง

ผลก็คือผมตกกระไดนั่นแหล่ะ ผมเจ็บตัวเหมือนกัน ต่างกันที่ผมตั้งใจตกลงมา กับผมตกลงมาไม่รู้ตัว
รู้สึกว่า ยังไงๆ คนที่ผิดมากกว่าก็คือผม

“วินขอโทษแล้วไง”

“ผมอยากรู้เหตุผล” เมื่อกี้ยังพี่อยู่เลย อะไรวะ? เอาใจยากชะมัด

“ไม่มีครับ วินไม่ได้มีเจตนาจะหลอกอะไรพี่โป๊ะเลย”
“พี่โป๊ะน่ะ”

“คิดเอาเองทั้งนั้น ใช่มั้ย?”
“ไอ้โอมก็พูดแบบนี้”
“แต่ถามหน่อย ตัวไหนมันจะไปกล้าคิดว่าใครสักคนจะยอมขายตัวแลกกับการดำรงชีพ ถ้าไม่ถูกบิวท์ซะขนาดนั้น”
“บ้านแตกบ้างล่ะ น่าสงสารบ้างล่ะ มีผู้หญิงคนหนึ่งดูแลอย่างดีแต่ก็ยังใจแข็ง ไม่ยอมรับเงินเขาเปล่าๆ มากศักดิ์ศรีทั้งที่ไม่มีงานทำอีก ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีก ทั้งชีวิตคงรักได้แค่คนเดียว คนที่ดีด้วยเสมือนแม่ แต่ไม่มีทางเป็นแม่ได้”
“ก็ถ้าไม่ใช่แม่ยก ใครจะไปคิดอย่างอื่น ใครจะไปคิดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่”
“แล้วนามสกุลที่เหมือนกัน เคยบอกกันบ้างมั้ยล่ะว่าเป็นญาติกัน”
“วินพูดเองว่าไม่ได้เป็นไร ทั้งที่โคตรจะสงสัยแต่เมื่อวินพูดเองกับปากว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พี่ก็เชื่อวิน”
“แล้วไง? กูโคตรโง่เลย! แม่งเอ้ย!”

“ขอโทษครับ” ผมคงพูดได้ดีที่สุดเท่านี้ ส่วนที่เขาผิดที่คิดเองเออเอง ความผิดนี้ตกประเด็นพิจารณาไป เพราะผมรู้สึกได้ว่าเขาซื่อตรง เชื่อใจผมคนนี้ จนปลดความน่าสงสัยและการพยายามสืบหาความจริงทั้งหมด

นายมือโปรไม่ได้โง่ เขาแค่ไม่เอะใจเลยว่ารู้ความจริงแบบครึ่งๆ กลางๆ
เขาไม่ผิดเลยว่าที่เข้าใจไปเองแบบนั้น

“ก็อยากจะเกลียดหน้าหรอกนะ แต่....”

“...............” เมื่อเขาเงียบ ผมก็เงียบ สุดท้ายเขาก็ไม่พูดอะไรต่อ  นายมือโปรลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก็หันหลังออกจากห้องไป บอกเพียงว่า “มีเรื่องด่วนก็เรียก แต่ดูสภาพแล้วขี้เยี่ยวเองได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่เคสด่วนใกล้ตายจริงๆ ก็ไม่ต้องเรียก”
เขาออกไปนั่งอีกห้อง ซึ่งผมเดาว่า พอป้าสุมา นายมือโปรก็คงจะไป


ข่าวการเข้าโรงพยาบาลของผมโด่งดังไปถึงญี่ปุ่น...ล้อเล่นน่ะครับ ก็แค่พี่รุตต์รู้เรื่องเข้าเท่านั้นเอง คงคุยกับป้าสุพอดีนั่นแหล่ะ
รายนี้โทรหาผมแล้วถามนั่นนี่ยกใหญ่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วเป็นอะไรมากมั้ย ทำไมไม่ดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่เอาแล้วนะครับหักโหมทำทุกอย่างแบบนี้ บลา บลา บลา ผมฟังไม่ละเอียดเพราะมัวแต่ใจลอยอยู่ จนพี่รุตต์ถามเรื่องเรียนนั่นแหล่ะ ผมถึงต้องดึงสติตัวเองกลับมาแล้วตอบให้เขาได้รู้ความคืบหน้า
เขาไม่ห่วงผมเรื่องเรียนเท่าไหร่ แต่ห่วงเรื่องทำงานมาก เขาให้เหตุผลว่า “วินไม่เคยทำงาน ถ้าไม่ทำการบ้านเยอะๆ หาข้อมูลให้มาก ก็คงตามคุณมือโปรเขาไม่ทันแน่ๆ” เพราะฉะนั้น เขาจะกลับมาเป็นผู้ช่วยผม
งานนี้เลยโดนผมด่าไปว่า “จะบ้าหรอ? พี่รุตต์นี่ประสาทสมองล้มเหลวแล้วแน่ๆ คิดอะไรโคตรบ้าแบบนี้ได้ด้วย”

พอได้คุยกับคนอื่นด้วยอารมณ์ไม่ตึงเครียดผมถึงได้รู้สึกว่ามุมปากผมยังยกขึ้นได้อยู่ ตอนแรกคิดว่าจะคว่ำถาวรเพราะนายมือโปรเสียแล้ว ไอ้โอมคือเหยื่อรายต่อไปที่ผมจะคุยแก้เบื่อ ตอนนี้ป้าสุกลับไปแล้วครับ เพราะผมยืนยันว่านอนคนเดียวได้ พรุ่งนี้ป้าสุต้องไปดูโปรเจคที่ผมเป็นลมทั้งที่เดินได้แค่ครึ่งทางนั่นต่อ ผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน ผมต้องทำได้สิ

ยังไม่ทันได้โทรหาไอ้โอม ประตูห้องก็เปิดอ้าออก ผมคิดว่าเป็นพยาบาลเข้ามาดูแล แต่ผมคิดผิดไปไกลมากเลย

“พี่โป๊ะ”

“ดีขึ้นรึยัง?”

“ครับ จริงๆ ไม่ต้องอยู่เฝ้าก็ได้ครับ วินไม่ได้”

“จำไม่ได้ว่าอยากทำอะไรต้องขออนุญาตจากคุณด้วย”

เฮ้ออออออออ
กูจะได้นอนมั้ยล่ะ เจอมนุษย์หน้าบูดมานั่งจิ้มคอมพิวเตอร์ก๊อกแก๊กในห้องแบบนี้เนี่ย!

“พี่โป๊ะ”
“โกรธวินไม่ใช่หรอครับ ไม่ชอบวินก็อยู่ไกลๆ กันดีกว่า คุยกันเฉพาะเรื่องงานก็ได้”
“ยังไงวินก็ไม่ทำให้แผนร่วมทุนนี่ล่มหรอก ไม่ต้องกังวล”

“คิดว่าผมมาเฝ้านี่เพราะเรื่องผลประโยชน์หรอ?”

“ก็ถ้าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์การร่วมทุน หรือกู้แบงก์ พี่โป๊ะก็ไม่มีธุระอะไรที่ต้องมองหน้าวินแล้วนี่ครับ ก็พี่โกรธวินนี่นา”

“นั่นดิ ก็ได้ งั้นต่อไปคุยกันเฉฑพาะเรื่องงาน”
“ผมจะทำงานที่นี่ ถ้ามันกวนคุณหุ้นส่วนมากนักก็คลุมโปงเอาก็แล้วกัน”

แล้วเขาก็ทำจริงตามที่พูดเลยครับ นายมือโปรเปิดหนังเสียงดัง เล่นเกมเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ที่เสียงหนวกหูมากๆ คุยโทรศัพท์กับใครหลายๆ คน เดินวนไปวนมาในห้องราวกับไม่มีผมที่พยายามข่มตาหลับเต็มที่อยู่ในห้อง

เห็นหัวกันหน่อยได้มั้ย? คนจะพักผ่อนโว้ย!!!!


Cut



(*) MOU คือ เอกสารหรือหนังสือที่เก็บบันทึกข้อตกลง ความเข้าใจที่ตรงกัน หรือ ข้อตกลงที่จะร่วมมือระหว่างสองฝ่าย


ฮ่าาาาาาาา มาแล้วค่ะ!


แล้วพบกันใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #153 เมื่อ19-05-2015 00:51:19 »

อ่านแล้วแทนที่จะเครียดเพราะเขาปั้นปึ่งใส่กัน

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขำทำไม...วินน่ารักอ่ะ เรียกพี่โป๊ะ พี่โป๊ะทู้กกกคำ

ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรปิดบังกันแล้วก็ขอต้อนรับเข้าสู่การแสดงความเอ็นดูแบบโป๊ะสไตล์นะวิน

ลูกเหี้ยออกจากไข่มาเจอพ่อเหี้ยแล้ว .... เรียก พ่องงง สิลูก คึคึคึ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #154 เมื่อ19-05-2015 01:05:10 »

นี่พี่โป๊ะเป็นผู้ใหญ่แล้วใช่มั้ย ทำไมทำอะไรเหมือนไม่คิดเลย
แบบดูไม่มีกึ๋น ดูเหมือนเกรียนทั่วๆไปอ่ะ
ผิดหวังกับนิสัยพี่โป๊ะในตอนนี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #155 เมื่อ19-05-2015 01:59:41 »

พี่โป๊ะใจร้ายยยยย.

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #156 เมื่อ19-05-2015 02:21:25 »

เอิบ เดียวนะ
จริงๆ วินต้องโกรธพี่โป๊ะ เถอะมั้ย คดีเก่ายังไม่เคลียร์มาว่าน้องเป็นเด็กขาย
มาตอนนี้อิพี่อีคิวต่ำเตี้ยเรี่ยดินและเกรียนมวากกก อิที่ว่า เชี่ยพี่โป๊ะ นี่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจีจี 555


น้องวินนี่หัวอ่อนกว่าที่คิดจริงๆ ด้วย น่ารักนะเรา ขอโทษ แล้ววินยังงั้น วินยังงี้ 55 เอ็นดูววว
รอดูเชี่ยพี่โป๊ะคนมึนต่อไป

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #157 เมื่อ19-05-2015 02:54:58 »

รอพี่รุตต์มา กรี๊ด

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #158 เมื่อ19-05-2015 03:53:23 »

แปปนะคะ นี่ใครแก่กว่าใครนะคะ? พี่โป๊ะทำตัวเด็กมาก!

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #159 เมื่อ19-05-2015 05:37:03 »

พี่ก็อายุมากแล้วนะพี่โป๊ะ ทำอะไรเป็นเด็กๆเชียว :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
« ตอบ #159 เมื่อ: 19-05-2015 05:37:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mini.tori

  • BOOM SHAKALAKA
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #160 เมื่อ19-05-2015 06:45:06 »

ตอนเดินเข้าโกดังก็คิดว่าพี่โป๊ะจะเลียนแบบพระเอกจำเลยรัก

แต่ที่ไหนได้ นี่มันเด็กขี้งอนนี่เอง :z13:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #161 เมื่อ19-05-2015 11:32:31 »

วินต้องโกรธป่ะ จริงๆ เฮียโป๊ะไม่ใช่เหรอที่เพ้อเจ้อคิดไปเองแถมกล่าวหาน้องด้วย คือสับสนแปลกๆ

ออฟไลน์ Luksa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #162 เมื่อ19-05-2015 16:00:33 »

อืม

ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #163 เมื่อ19-05-2015 19:02:52 »

 :angry2:

รอเคลียร์จ้า

  :katai2-1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #164 เมื่อ19-05-2015 19:28:46 »

พี่โป๊ะโครตกวนอ่ะ

ออฟไลน์ celegana

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #165 เมื่อ19-05-2015 21:32:17 »

โอ้ยยยย เค้าชอบคู่นี้้้ๆๆๆ
เป็นการกวนตีนกันแบบธรรมชาติมากกกกกกก เราชอบบทสนทนาที่คนเขียนแต่งมากกกกกก มันสมจริงมากกกก โอ้ย ไ่ม่รู้จะชมยังไงแว้ววว เอาเป็นว่าเราชอบมากก จะติดตามเรื่อยๆนะคะ คนเขียนมาอัพไวๆน้าา >3<

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #166 เมื่อ20-05-2015 21:07:48 »

อื้ออออ ไอ้เหี้ยพี่โป๊ะแบบนี้สิ่คือคนที่คุ้นเคยยย งี่เง่า แต่ก็รู้ว่ามันเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน แต่ยังไงก็สงสารน้องวิน

แหมม หลงรักเค้าแล้วอ่ะดิ๊ ดูแลดีๆ หน่อยค่ะพี่โป๊ะ เดวพี่รุตกลับมาเถอะ จะหนาวไม่รู้ตัวอ่ะ

แล้วพบกันใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #167 เมื่อ20-05-2015 21:21:41 »

เฮียโป๊ะโกรธที่วินโกหกอะ ด่ากันได้ฮาดีค่ะ

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #168 เมื่อ20-05-2015 22:17:13 »

สองคนนี้มันฮาจริงๆเลย

เหมือนเด็กงอนกันเลยน่ะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #169 เมื่อ20-05-2015 23:03:19 »

เมื่อลูกเหี้ยปะทะพ่อเหี้ย อะไรจะเกิดขึ้น  :hao6:
ทำท่าโกรธจริง ๆ นะห่วงจนอยากนอนกอดละไม่ว่า
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:
ปล.ถ้าน้องวินเจอกับเด็กไต้หวัน คงคุยกันมันพิลึก เพราะสองคนนี้ใช้ภาษาได้ดีจริง ๆ  :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
« ตอบ #169 เมื่อ: 20-05-2015 23:03:19 »





ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #170 เมื่อ21-05-2015 12:31:00 »

คือ มนุษย์ ที่ชื่อ มือโปร นี่แม่ง เอาแต่ใจ คิดเองเออเองตลอด

ตอนสมัยพี่ ที่หนึ่ง พีโปรแม่งก็บีบเพื่อนจนแทบเข้าหน้ากันไม่ติด

ตอนพี่ ผู้นำเอาน้องธามไปฝาก ก็คิดเองเออเองจนน้องปล่อยปะละเลยน้อง

จนน้องโดนจับตัวไปตั้ง 2 ครั้ง พูดเลย เพื่อนส้นตรีนแบบนี้พี่คงไม่คบ

แต่พี่ที่หนึ่ง พี่ผู้นำเขาก็ทนคบแกอยู่นะพี่โป๊ะ  แล้วนี่อะไร ทำมาโกรธน้อง

ความจริงน้องต้องโกรธแกด้วยซ้ำ ตลอดเวลา น้องเขาก็แสดงตัวตนอยู่แล้ว

ว่าไม่ชอบยุ่งเรื่องใคร และไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องเขา แล้วแกมากล่าวหา ว่าเขา

หลอกแก ปิดบังแก บ้าไปใหนจ๊ะ ตอนนี้น้องมันแค่ยังตั้งหลักไม่ได้ มันถึงยอมให้แกปั่นหัวโขกสับมัน

เดี๋ยวให้น้องมัน ตั้งหลักได้ก่อนเถอะมึง พี่โป๊ะ จะได้เจอของจริง เช๊อะ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #171 เมื่อ24-05-2015 19:21:44 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 14


“ตาวิน!แม่บอกให้พักผ่อน ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ล่ะลูก!” แต่เช้าเลยครับ ผมไม่ตอบคำถามป้าสุด้วยปาก แต่ตอบด้วยสายตาครับ ผมเบี่ยงตามองมนุษย์ขายาวตัวสูงที่ยืนขึ้นต้อนรับป้าสุอยู่ในห้องพักคนป่วยของผม

“คุณโปร”

“สวัสดีครับอาสุ” มีหน้ายกมือไหว้แล้วยิ้มหล่อใส่ป้าผมด้วย ไอ้บ้านี่!
“มาแต่เช้าเลยนะครับ”

“คุณโปรน่ะสิคะที่มาแต่เช้า อาต้องมาดูหลานวินอยู่แล้ว นี่เรานัดกันที่นี่ตอนเช้าเลยหรอคะ ไม่ได้นัดที่โกดังโปรเจคหรอ”

“จริงๆ แล้วนัดไว้ที่โปรเจคเลย แต่ผม...เอ่อ..แวะมาเยี่ยมน้องน่ะครับ”
“เป็นห่วง”

ตอแหลลลลลลลลลลลลลลลล
คุณมึงนั่นแหล่ะที่ส่งเสียงดังข้ามชาติข้ามภพจนกูนอนไม่ได้ ตาโหลขนาดนี้มันไม่ฟ้องโลกบ้างหรอ?

“ใจดีจริงๆ”
“ปรับตัวให้เข้ากับพี่โปรเขาให้ได้เร็วๆ นะลูก จะได้เก่งๆ เหมือนเขา”

นี่ป้าอยากให้ผมเติบโตเป็นตัวเหี้ยหรอ? ไม่เอาด้วยล่ะ
ผมหันหน้าหนี เชิดปากเชิดหน้า ซึ่งเป็นอาการที่ผมไม่ได้ทำบ่อยๆ ป้าสุหัวเราะคิกคักแล้วก็เดินมาลูบหน้าผม จากนั้นก็ดูแลอาหารเช้าที่ป้าสุแสนภาคภูมิใจ...ในการคิดเมนูนะครับ

“เราออกจากที่นี่สัก 9 โมงก็ได้นะครับอาสุ”

“เอ่อ! วินไปด้วยนะครับ”  ทั้ง 2 คนในห้องหันมองผมและสาดคำว่า อุตริ ใส่หน้าตัวเบ้อเริ่ม แต่ผมไม่สนหรอก เหตุผลแรกคือผมไม่ได้เจ็บป่วยใดๆ ทั้งสิ้น ผมแค่อ่อนเพลียจากแดดและการขาดน้ำเท่านั้นแหล่ะ ส่วนเหตุผลที่สอง นี่มันงานของผม จะเหยาะแหยะแล้วให้ป้าสุมาตามล้างตามเช็ดแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“ป้าสุบอกเองนี่ว่าให้วินมารับผิดชอบโปรเจคนี้ แล้ววินก็ไม่ได้เจ็บป่วยใกล้ตายเลย”
“นะครับ ให้วินไปด้วยนะครับ นี่กินอิ่มแล้วด้วย นอนก็....เพียงพอแล้วด้วย”
“จะไม่เป็นลมเป็นแล้งเหมือนไก่อ่อนแล้วครับ”

“อ้อนเข้าสิ อ้อนเข้าลูก”
“ป้าล่ะชอบดู นานๆ จะอ้อนเอาแต่ใจซะทีน่ะค่ะคุณโปร”

“อ้อ...หรอครับ” รู้สึกว่าถูกเยาะเย้ยกลายๆ ผมเหล่มองเขานิดเดียวแล้วก็หันไปคุยกับป้าสุต่อ นี่ไอ้ตัวกวนส้นตีนจะรู้มั้ยว่าผมโกรธเขาจนไม่คิดจะสนทนาด้วย

“นะครับป้าสุ”

“โอเค งั้นก็อาบน้ำ แต่งตัวซะใหม่นะ”
“คุณโปร งั้นเราคุยกันอีกห้องไปพลางๆ นะคะ หรือจะลงไปนั่งทานกาแฟด้านล่าง”

“งั้น ผมขออนุญาตเลี้ยงกาแฟอาสุนะครับ จะได้คุยเรื่องงานกันไปพลางๆ ระหว่างที่ น้องวิน แปลงโฉม”

กวน ส้น ตีน!

ทั้ง 2 คนหัวเราะกันอย่างถูกคอ ขณะที่ผมทำได้แค่เบี้ยวปากไปมา มือกำแน่นระงับความหมั่นไส้ไอ้เหี้ยหน้าหล่อเข้มตัวที่เพิ่งเดินพ้นประตูไป คอยดูเถอะ! ชาตินี้ ผมจะต้องได้เตะตูดมัน!


#### @ D A W N  #####


จริงๆแล้ว ไอ้โกดังพวกนี้มันไม่ได้ห่างไกลความเจริญ หรือทุระกันดารอะไรนักหนาหรอกครับ เมื่อวานนี้ ถ้าผมไม่ชิงเป็นลมไปเสียก่อน ผมก็จะได้เจอกับไอ้รถสนามกอล์ฟคันนี้แล้ว มันจอดรออยู่ที่หัวมุมโกดังอีกฝั่งหนึ่งเท่านั้นเอง

และวันนี้ น้ำท่าก็พร้อมสรรพ มีแซนวิชรับรองระหว่างนั่งรถกันมาด้วยซ้ำ แม่งอย่างกับหนังคนละม้วนกับเส้นทางสายโหดเมื่อวานนี้ของผม อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาแกล้ง แต่ลองจับสังเกตแล้ว ก็ไม่พบพิรุธนะ

“ทั้งหมดนี่กี่ไร่นะคุณโปร”

“เนื้อที่รวมทั้งหมดก็ 216 ไร่  1 งาน 56 ตารางวาครับ”
“ได้โกดังสินค้าที่เข้ามาก็เจอเลยนั่นด้วย อันนั้น 3,200 ตารางเมตร”
“ทั้งหมดนี่ซื้อจากแบม (*)”
“เงินจะมาจ่ายก็เงินจากอาร์โอ (**)”
“แล้วก็เงินกู้แบงก์นี่แหล่ะครับ”

“แล้วพีพี (***)ที่ได้ จะเอามาทำอะไรล่ะคะ”

“พีพีที่จะออกขาย จะใช้สร้างสตูอิโดครบวงจรครับ แล้วก็ลงทุนสร้างสเตจเคลื่อนที่ ฉากเคลื่อนที่”

“อืม”
“อาเคยไปดูงานที่สิงคโปร์ เขาก็มีไอ้ที่คุณโปรจะลงทุนสร้างนะคะ”

“ครับ ผมรู้  แต่เขาไม่มีโลเคชั่นเหมือนประเทศเรานี่ครับ”
“นอกจากนั้น ผมจะเพิ่มบริการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์สำหรับทีมงานของพวกกองถ่ายที่ยกกันมา”
“ส่วนมากพวกนี้ต้องทำงานตัดต่อ ถ้าจะถ่ายแล้วกลับไปตัดต่อประเทศตัวเองมันเสียเวลามากเลย จ้างตัดต่อโลคอลก้ไม่ได้มาตรฐาน เพราะฉะนั้นให้สร้างพวกโรงแรม อพาร์ทเม้นท์ ให้พวกทีมงานอยู่ เราก็เก็บค่าเช่า ค่าบริการอื่นๆ ได้อีก”

“อืม คอนเซปเมืองสร้างหนังอย่างที่เล่าให้อาฟังไว้ใช่มั้ย”

“ครับ”

“นี่ถ้าสร้างเสร็จ อาคงไม่ได้เห็นหน้าหลานอีกเลย รายนั้นคงมาขลุกอยู่ในนี้แหล่ะ”
“แต่ก็ดีนะ บ้านอีกหลังของวินใหญ่โตเชียว”

“อ่อ ครับ” น้ำเสียงฟังดูเหมือนกำลังตรึกตรองเพิ่ม ผมรู้ว่าเขาก็ต้องเริ่มคิดแล้วแหล่ะว่าผมอาจจะเป็นตัวหมากที่อันตราย
“แต่ว่าเฮดออฟฟิศอยู่ในกรุงเทพนะครับ”

“นั่นยิ่งดีใหญ่ค่ะ” ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจความคิดป้าสุของผมหรือยัง แต่ผมน่ะ เข้าใจแล้วครับ ผมรู้แล้วว่าป้าลงทุนในสินทรัพย์พวกนี้ทำไม เพื่อผมทั้งนั้นแหล่ะ
“ตาวิน”

“ครับ” ผมขานรับคนที่นั่งหันหลังชนกันบนรถกอล์ฟ
“ชอบมั้ยลูก”

นี่ธุรกิจพันล้านนะครับป้า ไม่ได้ของเล่นราคา 20 บาท ถามกันโต้งๆ จนผมกระดากเลย แต่ก็ต้องตอบล่ะครับ

“ชอบครับ”

“ดีจ้ะ”

“คุณโปรคะ เราไปดูพิมพ์เขียวกันดีกว่า อาอยากรู้ว่าอะไรมันจะอยู่ตรงไหน แล้วจะเสร็จเมื่อไหร่”
“เรื่องคืนทุน เดี๋ยวมาคำนวณกันอีกรอบนะคะ”
“อาว่าอามีวิธีที่จะทำให้เราคืนทุนเร็วกว่าแผนเดิมของคุณ”

เริ่มแล้วครับ โลกแห่งความเป็นจริง

เป็นอันว่าครึ่งวันแรก การดูโกดังและพิมพ์เขียวของโปรเจคเสร็จสิ้นลงแล้วครับ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในร้านอาหารย่านบางนา-ตราด เพื่อทานมื้อกลางวันและแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
ป้าสุไม่มีเวลาให้กับโปรเจคนี้ 100% หรอกครับ มีให้แค่ 10% เท่านั้น เพราะฉะนั้น อีก 90% ที่เหลือ ผมจะต้องเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของฝั่งเราทั้งหมด เฮ้อ งานหินชะมัด!

“คุณโปรกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทรึยังคะ?”

“อ๋อ เรียบร้อยแล้วครับ แต่ว่าบริษัทแม่ต้องจัดประชุมวิสามัญขึ้นมาเพื่อวาระนี้ด้วย เพราะว่าถ้าผมเพิ่มทุนพีพีให้กลุ่มคนนอก บริษัทแม่จะถูกลดสัดส่วนลง การรับรู้รายได้ก็ลดลงด้วย อาจจะ”

“จะมีปัญหาหรอคะ วินเข้าประชุมด้วยได้มั้ยคะ? ในฐานะคนในบริษัทคุณโปร”
“จะว่ามัดมือชกก็ได้ค่ะ แต่อาอยากให้หลานได้เรียนรู้งานเร็วๆ”
“และการเข้าทำงานกับบริษัทคุณโปรนี้เลย แกก็น่าจะได้ประสบการณ์ดีที่ดีกว่าการเป็นพาร์ทเนอร์แล้วมารับฟังแผนเฉพาะเวลาประชุม”
“รับน้องเข้าทำงานได้มั้ยคะ?”

“เอ่ออออ”

“ก็เหมือนทางเราเห็นแก่ได้”
“แต่เงินกู้ อาจะพิจารณาความเสี่ยงให้ต่ำหน่อย ดอกเบี้ยจะได้ไม่สูง ส่วนราคาเพิ่มทุน อาก็ไม่มีเงื่อนไขส่วนลดอะไรทั้งนั้น”
“แค่ให้วินทำงานในบริษัท”
“เป็นผู้ช่วยคุณโปรก็ได้นะคะ”

เฮ้ๆ ถามผมก่อนสิครับป้า ผมทำช้อนส้อมร่วงจากมือ ปากอ้าค้างทั้งที่ปูนิ่มยังไม่ถูกบดละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น
“ป้าสุครับ วิน”

“ไม่ต้องพูดเลยตาวิน”
“ถ้าไม่อยู่ใกล้ชิด เรียนรู้งานกับคุณโปร แล้วเราจะเป็นงานเมื่อไหร่กัน”
“จะรอให้สตูดิโอเสร็จหมดทุกอย่างแล้วเข้าไปรอรับเงินน่ะ ป้าไม่ยอมหรอกนะ แบบนั้นงอมืองอเท้านะลูก”
“ว่าไงคะคุณโปร”

“โอ้! ยินดีเลยครับ”
“งั้น วินเป็นผู้ช่วยพี่ก็แล้วกัน มือขวา อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลย”
“รับรอง 2 อาทิตย์ รู้เรื่อง!”

รู้เรื่องห่าเหวไร ต่อให้อยู่ใกล้กัน 2 ปีก็คุยกันไม่รู้เรื่องเว้ย!
ผมหันมองป้าสุอย่างเว้าวอน หวังว่าป้าจะเป็นคำพูดอ้อนวอนขอความอิสระคืนจากดวงตาของผม แต่ไม่ครับ มันกลับกันอย่างสิ้นเชิง

“ดีใจล่ะสิ จ้ะ จ้ะ แม่รู้”

ป้ารู้อะไรผิดๆ อีกแล้ว โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!


หลังจากเจออาการ –แม่รู้- ผมก็พูดอะไรไม่ออกอีกเลย
ผมนั่งรถมากับเขา กลับมาที่เฮดออฟฟิศที่เขาบอกว่าอยู่ในกรุงเทพ ซึ่งมันไม่ใช่ออฟฟิศที่ถนนดุสิตที่เขาเคยนัดไปเจอครับ แต่มันก็ไม่ใช่สถานที่ไม่คุ้นเคยเสียทีเดียว

เฮดออฟฟิศของบริษัทที่ป้าผมจะลงทุน คือผับครับ
ใช่ครับ ผับ...

เฮดออฟฟิศคือห้องใต้ดินที่ผมเคยถูกลากลงมานั่นแหล่ะ
ผมล่ะอยากรู้เหลือเกินว่ากระทวงพาณิชย์ปล่อยให้บริษัทนี้จดทะเบียนการค้าได้ยังไง?!

“อ่า ไม่แนะนำนะ เคยมาแล้วนี่”
“จากบ้านคุณ มาที่นี่ก็...”
“อื่ม ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ที่บ้านไม้ริมน้ำนั่นแล้วนี่”
“มาออฟฟิศที่นี่ทุกวันน่าจะได้ มีคนขับรถแล้วนี่นา”

“ผมคงนั่งรถเมล์มาเอง”

“ขับรถมาเองก็น่าจะได้”
“กับผม ไม่มีเวลาเข้างานหรอกนะ”
“แต่ก็ใช่ว่าอยากมาเมื่อไหร่ก็มา”
“เอาเป็นว่า เดาเอาเองก็แล้วกันว่าผมจะมาทำงานเวลาไหน แล้วก็มาก่อนผมให้ได้ ทุกวัน”

งี่เง่าชิบหาย ใครทำตามได้ก็บ้าแล้วเว้ย!

“งานที่ทำก็...ทำอย่างที่ผมให้ทำนั่นแหล่ะ”
“ดูท่าทางหัวไว น่าจะเรียนรู้ได้เร็วสุด”
“เรื่องบริหาร คุณก็เรียนมาแล้วนี่ เอามาประยุกต์ใช้ให้ได้ล่ะ”

“ครับ”

“วันนี้ก็...เท่านี้แหล่ะ”
“กลับคอนโดหรูเองได้ใช่มั้ยครับ?”

“ครับ” เกลียดเขาตอนนี้ทันมั้ยวะ? ผมเขม่นคิ้วใส่ ไม่เอ่ยลา ไม่ยกมือไหว้ และหันหลังกลับดื้อๆ

“เดี๋ยว”

“ครับ?”

“เปล่า กลับไปเถอะ”

อะไรของเขา แปรปรวนยังกับผู้หญิงมีประจำเดือน ผมเห็นพี่ที่เรียนโทเปรียบเปรยแบบนี้บ่อยๆ เมื่อไม่มีอะไรต่อกันแล้วผมก็เดินตึงตังออกจากออฟฟิศชั้นใต้ดิน ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินและที่นี่จะกลายสภาพเป็นผับหรูแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพ



ถึงห้องปุ๊บก็งานเข้าเลยล่ะครับ
ไอ้โอมโทรมา เพื่อบอกข่าวดีแก่ผมว่า
“เกรดออกหมดทุกแล้วมึงงงงงงงงงงงงง”
“เหี้ยยยยยยยยยยยย เฮียโป๊ะแม่งงงงงงงง”
แม่งอะไรวะ?
อย่าบอกนะไอ้เหี้ยนั่นแกล้งผมด้วยเกรด
ไม่นะ ไอ้ชั่ว! ไอ้ทุเรศแห่งสามโลก ไอ้เจ้าแห่งเหี้ย!

โอ๊ะ!
ผมตาแทบถลน เมื่อเปิดคอมเข้าเวบมหาวิทยาลัยแล้วตรวจสอบเกรดตัวเอง
สามเอครับ!
ไม่จริงน่า!
ก่อนหน้านี้ เกรดที่ผ่านมาก็ได้เอบ้างแต่ไม่เคยเอรวด 3 วิชาแบบนี้เลย ผีหลอกผมรึเปล่าวะเนี่ย!

“เหี้ยโอม” ผมเรียกปลายสายที่โทรหา
“เกรดมึงเป็นไง” มันบอกได้ สองเอ กับหนึ่งเอลบครับ เออ ก็ไม่ต่างกันมาก หรือว่าศักยภาพการทำเกรดของผมจะเพิ่มขึ้น
“อ๋อ กูหรอ” ผมประวิงเวลาไว้นิดเมื่อมันถามเกรดของผมกลับ สยบความตื่นเต้นที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตได้แล้ว ผมก็บอกเสียงประหม่า
“กูได้สามเอเว้ย”
“ไอ้เหี้ย!! เกิดมาไม่เคยได้เกรดดีขนาดนี้ สัดเอ้ย!”
“แดกเหล้ามั้ยมึง!” เอา เอา ไอ้ห่านี่ก็ไม่เคยชักชวนทำเรื่องดี หรือห้ามปรามไม่ให้ทำเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว ผมอารมณ์ดีมากถึงขั้นอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ ใส่น้ำหอมด้วยนะครับพูดแล้วเขิน นาฬิกาเรือนหรูที่เคยสวมใส่ติดข้อมือก่อนจะออกไปอยู่คนเดียวถูกนำมาประดับกายอีกครั้ง เสื้อผ้าแบรนด์หรูที่ป้าสุจัดหาไว้ให้ถูกหยิบมาทาบตัวครั้งแล้วครั้งเล่า จนได้ตัวที่พอดีรูปร่าง แล้วก็สีถูกใจนั่นแหล่ะครับ ผมถึงได้ออกจากคอนโด

อา...แต่ว่านี่มันเพิ่ง 6 โมงเย็นเอง นอนรอเวลาก็แล้วกัน
ผมถอดเสื้อตัวนอกออก เหลือแต่เสื้อกล้ามแล้วก็งีบเอาแรงครับ คืนนี้จะได้เมาอย่างขยันขันแข็ง

สามทุ่มก็ถูกปลุกโดยไอ้โอมครับ เหมือนมันรู้ว่าผมจะนอนให้ตะวันทับตาเล่น
และเมื่อเพื่อนสั่นกระดิงริงมายเบลล์ขนาดนี้ ผมก็ซิ่งรถสีเหลืองแป๋นออกจากคอนโด ทะยานไปที่ผับ...หรือก็คือเฮดออฟฟิศที่ทำงานใหม่ของผมนั่นอง

ไอ้หมาโอมมายืนรอต้อนรับเลยครับ ว่าไปนั่น ไม่ใช่เพราะว่าผมบุญหนักศักดิ์ใหญ่อะไรหรอกครับ มันมาโบกรถตามหน้าที่
เจอหน้ากันก็ยิ้มตาหยี แล้วก็กระโดดตีมือกันอย่างดีอกดีใจ ก็ผมเรียนกับไอ้โอมมาตั้งแต่ป.ตรี รู้ไส้กันดีครับว่าเกรดแต่ละตัวที่ได้มันน่าอวดเหี้ยมากกว่าอวดคน

“แหมๆ มึง วันนี้ตัวหอมฉุยเลย จะเอาสาวกลับบ้านกี่คนวะ”

“มึงอัพเดทหน่อย ป้ากูลากกูกลับไปอยู่คอนโดแล้วเว้ย”

“อ้าว งี้มึงก็เป็นคุณชายเต็มตัวแล้วดิ”

“เออ วันนี้ป๋าวินเลี้ยงเอง มึงเลิกทำงานเลย มานั่งแดกเหล้ากัน เอาให้หนำ กูเริ่มทำงานแล้วนะเว้ย”

“เฮ้ย! จริงดิ ป้ามึงเตะมึงไปทรมานสาขาไหนวะ” ผมเลือกจะเงียบแทนจะบอกความจริงมันทั้งหมด ด้วยหนึ่ง เราเดินกันมาถึงในผับแล้ว และสอง ยังไม่พร้อมครับ แฮะๆ

“นั่งโซนในนะมึง เดี๋ยวกูไปหา”

“อืม” ผมรับคำแล้วก็เดินเลยส่วนอึกทึกที่มีสาวๆ เต้นกันคึกคัก เข้าไปด้านใน เพื่อเข้าสู่โซนนั่งดื่มเงียบๆ

กำลังจะอ้าปากหาว ไอ้หมาโอมก็มารักษาคำพูดครับ มันมาพร้อมเหล้านอก ขวดมิกเซอร์เท่าที่ร่องนิ้วมันจะหนีบได้ ถังน้ำแข็งแล้วก็แก้ว 2 ใบ

“หมดขวดก็กลับได้” มันบอกแล้วยิ้มท้าทาย คิดว่ากูจะไม่รับคำท้ามึงรึไงเล่า ผมพยักหน้ารับพลางกระตุกมุมปาก จากนั้นเราก็แทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยครับ
แก้วแล้วแก้วเท่าที่ผมงัดขึ้นดื่มไม่ได้ทำให้คำพูดมากมายในหัวผมหลุดออกจากปาก ระหว่างดื่มไป ผมก็คิดไป ทั้งเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบแบบไม่ทันตั้งตัว เรื่องทำไอเอสที่ยังไม่ได้หารือกับตัวเองเลยว่าจะเอาเวลาทีไหนไปทำ ไหนจะเรื่องไอ้โอมไปเมืองนอกอีก ผมอยากรู้ว่ามันจะไปวันไหน เดือนไหน และผมควรไปส่งมันมั้ย หรือว่าควรบอกลามันเสียตั้งแต่วันนี้ไปเลยดี

ไหนจะเรื่องของนายมือโปรอีก ผมจะทำยังไงให้เขาหายโกรธผมดี
ผมอยากญาติดีกับเขา เพราะเขาเก่งกว่าผม ช่วยเหลือผมได้ และเขาก็เป็นคนดี
แต่เขากลับมีมุมมองที่ไม่ดีต่อผม ไม่รู้ว่ามันจะกระทบกับการร่วมทุนรึเปล่า และถ้ากระทบขึ้นมา ป้าสุคงผิดหวังในตัวผมมากแน่ๆ
ทั้งที่ไม่ค่อยมีใครรักผมแท้ๆ ทำไมผมถึงทำให้ผู้หญิงคนเดียวที่รักผมอย่างบริสุทธิ์ใจต้องผิดหวัง ผมไม่อยากป้าผมผิดหวังเลย ให้ตายสิ

“อ้าวเฮ้ย เมาแล้วหรอหมาวิน”

“มาวินเว้ย จะแปลงชื่อก็เอาหล่อๆ”

“ลูกหมาวิน มึงอ่ะ มาววววววว” มึงไม่เมาเลยเนอะ เสียงงี้ยานกว่ากระจู๋มึงแล้วไอ้โอม

“เออ กูเมาแล้ว”

“ไปพักมั้ยมึง ไปเยี่ยวห้องพี่โป๊ะได้นะ เขาให้กุญแจไว้”

“ไม่เอา กูจะเยี่ยวที่ธรรมดา ทำไมต้องให้กูเข้าห้องเขาทุกทีเลยวะ มึงนิ!” ผมด่ามันอยู่นะ แต่น้ำเสียงไม่ดุเท่าไหร่หรอกครับ มึนๆ แล้วควบคุมกระบังลมไม่ได้ เสียงเลยออกมายานๆ

“ก็มันใกล้กว่า”
“ไม่ไปใช่มั้ย? งั้นรอนี่ กูไปเยี่ยวแป๊บ” บอกแล้วก็เดินไปครับ ไอ้โอมเดินง่อนแง่นลงไปชั้นใต้ดิน ส่วนผมก็นั่งดื่มต่ออย่างไม่บันยะบันยัง

อืม...รู้สึกว่ามจะผ่านไปนานแล้ว ทำไมโอมเยี่ยวนานจัง จู๋มึงยานเท่าสายยางแล้วมั้ยเนี่ย ผมขมวดคิ้วเพราะรู้สึกสงสัย จากนั้นก็ตัดสินใจเข้าไปดู โอ๊ะ! บันไดทางลงนี่แม่ง....เดินยากเหี้ยๆ

ผมตามัวๆ เหมือนมีม่านน้ำบางๆ มากั้นการมองเห็น ผมก็เลยต้องเพ่งตามองมากขึ้น แล้วผมก็เจอเพื่อนรักเสียที
“โอม!” ก็คิดว่าเรียกเบาๆ ทำไมกลายเป็นผมตะโกนไปเสียได้ ไอ้หมาเจ้าของชื่อนอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้นพรมหน้าประตูห้องน้ำครับ เห็นแล้วขำชิบหาย ส่วนคนไม่เมามากอย่างผม ย่อมมีสิทธิเลือกที่นอนดีที่ดีกว่าอยู่แล้ว
หันซ้ายหันขวาแป๊บเดียว ผมก็เลือกจะเทตัวนอนโซฟาตัวยาว กลิ่นหอมของหมอนอิงลอยมาเตะปลายจมูกผมเบาๆ มันคือกลิ่นน้ำหอมที่ผมคุ้นดี เวลาอยู่ใกล้ๆไอ้พี่โป๊ะแล้วจะได้กลิ่นนี้เสมอ

งั้น...ที่ตรงนี้คงเป็นที่นอนประจำของเขาสินะ
ดีล่ะ! ผมจะนอนทับที่แม่งเลย ไอ้โหดเอ้ย!


#### @ D A W N  #####


เช้านี้....ถ้าหากว่ามันเป็นตอนเช้าแล้วจริงๆ ล่ะนะ
เช้านี้....ปวดหัวมากครับ หนาวด้วย ผมขดตัวหนีอากาศเย็นเจี๊ยบ ซุกหาที่อุ่นๆ เมื่อเจอก็ของีบต่ออีกนิด ผมยังไม่อยากตื่นเลย ก็ตรงที่นอนอยู่นี้มันอุ่นๆ นุ่มๆ ผ้าห่มเหี้ยไรก็ไม่รู้พอดีตัวผมชิบหายเลย หมอนก็ด้วย

“วิน”

ใครเรียกว้า แม่งกล้าขัดการนอน!

“วิน”

“อืมมมมมมมมม” ผมขานรับในลำคอ แล้วก็ยิ่งซุกหน้าขดตัวอยู่ในความอุ่นนุ่ม

ไม่มีใครเรียกผมแล้วครับ มีแต่ผ้าห่มและหมอนที่ขยับเองได้ มันกำลังเคลื่อนที่ห่อตัวผม รองหัวผมให้อยู่ท่าที่แสนอุ่นสบาย

“เออ เออ เอาที่สบายใจเลยไอ้ยุ่ง”



cut


(*) แบม / BAM = บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด เป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ NPL และ NPA.
(**) อาร์โอ / RO = การขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
(***) พีพี / PP = การขายหุ้นเพิ่มทุนใหกับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2015 11:38:55 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #172 เมื่อ24-05-2015 20:13:47 »

โอ้ยยยย ฉากสุดท้ายคืออะไร นอนกอดกันอ่าาา เขากอดกันแนบชิดด้วยยยยย

ปล.อยากให้น้องวินเข้าร่วมสมาคมไอ้เหี้ยพี่โป๊ะ กับน้องเจมกับน้องธามไวๆ จัง น้องวินจะได้มีพวกร่วมด่าพี่โป๊ะ 55555

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #173 เมื่อ24-05-2015 22:26:39 »

เรื่องนี้ น่าจิดตามมาก
รอตอนต่อไปค่าาา

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน13(18-05-15)
«ตอบ #174 เมื่อ24-05-2015 23:43:28 »

หง่อวววว เขิน
ไอ่ยุ่ง มายุ่งในใจเค้าทำไม อร่างงงงงง

ออฟไลน์ TrebleBass

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #175 เมื่อ25-05-2015 13:32:25 »

พี่โป๊ะ อย่าโกรธน้องนานเลย  เอ๊ะ โกรธนานๆ ก็ดี  เค้าด่ากันละฮาดี

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #176 เมื่อ25-05-2015 14:33:25 »

และแล้วน้องวินคนดีก็ต้องไปพัวพันอย่างจริงจังอย่างเป็นทางการกับเชี่ยพี่โป๊ะอยู่ดี 555
เอาที่พี่โป๊ะสบายใจเล๊ย จะจิกกัดแกล้งน้องได้ลงได้ยังไง ถามใจตัวเองดู ><

และก็....ยังชอบความสัมพันธ์ของโอมกับวินแบบนี้อยู่ดี ..ถ้าโอมไม่อยู่วินคงจะเหงา
วินเหมือนชอบแสดงออกว่าตัวเองจะไม่เป็นไร ไม่รู้สึกอะไร ถ้า ใครจะหายไป T_T เข้มแข็งแต่ไม่เข้มแข็งเบย *กอด*

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #177 เมื่อ25-05-2015 15:29:59 »

นี่ป้าอยากให้ผมเติบโตเป็นตัวเหี้ยหรอ? ไม่เอาด้วยล่ะ

ประโยคเดียวสื่อความหมายได้รวบยอดเลย  :m20:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #178 เมื่อ25-05-2015 16:03:01 »

รอวินตื่นเต็มตาดีกว่า ท่าจะมัน 5555

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #179 เมื่อ25-05-2015 16:09:47 »

อย่างพี่โป๊ะ  ต้องเอาน้องเจมมาร่วมแจมด้วย
ศัตรูเก่าพี่โป๊ะ ถือว่าเป็นมิตรได้หรือเปล่านะ 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด