At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185188 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #180 เมื่อ25-05-2015 16:14:41 »

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #181 เมื่อ25-05-2015 18:11:23 »

รอ มาวิน ตื่นนอน

อิอิ

  :mew3:

ออฟไลน์ iimayuworld

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #182 เมื่อ25-05-2015 20:21:06 »

แอร๊ยยยย มารอน้องวินตื่นนอนค่า  :hao6: :hao6:

มาต่อเร็วๆนะคร๊าาาา อิอิ

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #183 เมื่อ25-05-2015 20:34:43 »

พี่โป๊ะจะหายโกธรน้องเมื้อไหร่เนี่ย

สรุปวินไม่เคยมองพี่โป๊ะเป็นคนเลยสิน่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #184 เมื่อ26-05-2015 23:38:34 »

นี่แค่คิดจะง้อนะ ยังไม่ได้ง้อจริงจัง แค่บังเอิญได้ง้อแบบไร้สติ

คำว่า "ไอ้ยุ่ง" ก็หลุดออกมาจากปากคนงอนแล้ว กิ๊วๆ

นึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าลงมือง้อจริงๆ จังๆ นี่จะขนาดไหน

ผ้าห่มหนังเหี้ย พร้อมชุดเครื่องนอนเหี้ยอุ่นดีไหมล่ะวินเอ้ย  55555

ออฟไลน์ MUSIX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #185 เมื่อ26-05-2015 23:43:17 »

ติดเรื่องนี้งอมแงมเลย มาต่อไวๆนะคะ  :mew2: :mew2: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #186 เมื่อ27-05-2015 14:15:55 »

เดาได้เลยว่าใครเป็นหมอนกับผ้าห่มให้ 555555555555555555

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #187 เมื่อ27-05-2015 16:51:31 »

ไอ้ผ้าหม่กับหมอนดิ้นได้เนี่ย ใช่..... หรือเปล่าหนอ  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #188 เมื่อ28-05-2015 01:26:03 »

โอ๊ยย เห็นภาพลูกแมวซุกอกแล้วจะละลายยยย

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #189 เมื่อ02-06-2015 20:31:58 »

อ้ายๆๆๆ ฉากสุดท้ายมันนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
« ตอบ #189 เมื่อ: 02-06-2015 20:31:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน14(24-05-15)
«ตอบ #190 เมื่อ06-06-2015 22:37:43 »

อย่าหายไปอย่างนี้~~~    เพราะฉันรู้สึกไม่ดี

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #191 เมื่อ07-06-2015 00:24:05 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 15



“คิดดีแล้วใช่มั้ยเนี่ยคุณ”
“คิดว่าห้องผมเป็นไรอะไร นี่ห้องทำงานนะ”
“คิดจะมาเยี่ยวก็มางั้นหรอ? ไอ้ห่าโอมนี่ก็ยังไง กุญแจนี่กูเอาไว้ให้ยามฉุกเฉิน ไม่ได้เอาไว้ให้มึงพาเพื่อนคุณหนูมาเยี่ยวฟรี ห่านี่!”

อะไรเนี่ย
ทำไมต้องมาฟังเสียงคนบ่นทั้งที่ยังง่วงอยู่ด้วย
จะให้ตื่นก็ไม่ไหวหรอกนะ นี่ยังปวดหัวอยู่เลย
ปวดหัวเพราะกินเหล้านี่แหล่ะ
เออว่ะ! ผมดวลเหล้าฉลองกับไอ้โอมนี่หว่า
โอยยย แล้วใครบ่นอยู่ล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่า

“พี่โป๊ะ!” ผมเรียกชื่อเจ้าของใบหน้าที่ยื่นมาเสียใกล้

“ก็เอออออออออออออออออออออออออสิ!” หน้าเขาหันมาหาผมอย่างรวดเร็ว พอปลายจมูกตรงกันเป๊ะแล้วเขาก็หยุดสายตาไว้ที่ลูกกะตาผม

“คุณก็เหมือนกัน”
“เป็นคุณหนูก็ไปกินเหล้าร้านหรูๆ สิ”

“พูดยังกับร้านพี่โป๊ะถูกๆ แหล่ะ แพงเหมือนกันแหล่ะน่า” ไอ้โอมเถียงแทนผมครับ เขาหันกลับไปบ่นมันต่อ แต่ตัวยังนั่งอยู่กับผมบนโซฟา ส่วนไอ้โอมนั่นนอนแหล่หลาบนพรมในห้องเหมือนเดิม

“ยังจะเถียง มึงผิดนะโอม”

“ผมขอโทษนะพี่โป๊ะ แต่ผมไม่ได้เหลิงเพราะพี่ใจดีด้วยจนกล้าชวนใครก็ไม่รู้มาในห้องส่วนตัวพี่หรอก”
“ก็เห็นว่าพี่กับไอ้คุณชายวินรู้จักกันดี วินมันก็น้องพี่เหมือนกันไม่ใช่หรอ”

“ไม่ใช่เว้ย!”

“ขอโทษ!”
“โอม กูกลับแล้วนะ”
“กลับกับกูมั้ย เดี๋ยวไปส่ง” ผมบอกแล้วเด้งพรวดขึ้นยืน ก็เจ้าของห้องเขารังเกียจกันขนาดนี้ อยู่ไปจะเป็นบุญคุณกันถึงชาติหน้าเปล่าๆ

“เดี๋ยว ผมยังไม่หมดธุระกับคุณ”
“โอม กลับไปทำงานที่ออฟฟิศโน้นไหวมั้ย”

“ไหวครับพี่”

“เออ งั้นไปทำงานของมึงให้ดี คนไม่รู้หน้าที่ไม่นับเป็นคนสำหรับกู”

“วิน ไปดิ”

“กูบอกว่ายังไม่หมดธุระกับเพื่อนมึงไง”
“มึงน่ะกลับไปได้แล้ว แต่เพื่อนมึงเนี่ย กูมีเรื่องต้องทำความเข้าใจ”

“โธ่เฮีย! อย่าทำไรมันเลย วินมันก็ตัวเท่านั้น อีกอย่าง ผมชวนมันเมาเอง ก็แค่ฉลองเกรดกัน แล้วก็ไม่ได้แตะต้องอะไรในห้องนี้เลยนะ ผมเยี่ยวทีเดียวเอง”

“กูถามหรอ? กูบอกว่าอะไร”

“ให้กลับ”

“แล้วจะไม่ทำ?”

“ก็....วินมัน”

“ไปได้แล้วมึงน่ะ กูไม่ฆ่าทิ้งหรอก”
“เดี๋ยวป้าเขาเอาเรื่อง” อืม....ผมจะโดนอะไรบ้างหลังจากไอ้โอมกลับไปแล้วก็เดาไม่ออกเหมือนกัน ไอ้โอมส่งสายตาเห็นใจให้ผมแล้วก็เดินกุมหัวออกจากห้องใต้ดินนี้ไป พอสิ้นเสียงกึกปุ๊บ เขาก็ลุกไปที่ประตูแล้วกดล็อคทันที

ไอ้หมีควายตัวนี้น่ากลัวชะมัด!

“ไง” แล้วผมต้องตอบว่ายังไงล่ะ? จะให้เฮ้! ดู้ดงี้หรอ ก็คงไม่สมควรเท่าไหร่ล่ะนะ ผมเม้มปากแน่น เบียดตัวพิงพนักโซฟา มือกำแน่นวางไว้ที่หน้าขา หน้าก็ก้มต่ำ

“ไง” เขาเน้นเสียงอีก คือผมต้องตอบอะไรบางอย่างใช่มั้ยเนี่ย หัวมันเบลอไปหมดแล้ว

“วิน”

“ข...ขอโทษ”
“แต่วินไม่ได้ฉี่เลยนะ”

“เรื่องของฉี่มันเถอะ เราเนี่ย ยังไง”
“เมาหลับอยู่ที่นี่ บอกที่บ้านรึเปล่า”

“เปล่าครับ”

“ให้มันได้อย่างนี้สิ! แบบนี้จะปล่อยได้ไงวะ! ยุ่งเอ้ย!”  ก็ไม่ได้ขอให้มายุ่งสักนิด ผมได้แต่เถียงในใจ พลางเงยหน้ามองเขาที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง กดเบอร์โทร แล้วก็รอสาย

โทรหาใครวะ? แล้วทำไมต้องมายืนขายาวอยู่ตรงนี้ด้วย ไปคุยที่อื่นไม่ได้หรอ?

“ครับอาสุ โปรเอง”

ชิบหาย! นี่ฟ้องป้าสุหรอ? ไอ้เหี้ยพี่โป๊ะแม่งเลวจริงๆ ความปราณีแม่งคงติดลบในสัดส่วนความรู้สึกแน่ๆ

“จะโทรมาขอโทษนะครับ พอดีให้วินเขาดูเอกสารโปรเจค แล้วก็ข้อมูลกว้างๆ ก็เลยลากยาว”
“นี่หลับอยู่ออฟฟิศผม อาสุไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“ครับ ครับ ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ” ยิ้มส่งท้ายด้วย ยิ้มกับอากาศนะครับ ไม่ได้ยิ้มกับผม วางสายจากป้าสุแล้วเขาก็ก้มหน้ามองผมใหม่ รอบนี้กอดอกพลางหย่อนขาแล้วก็งัดส้นตีนขึ้นลง กระดิกเท้านั่นแหล่ะครับ

“ไงล่ะไอ้ยุ่ง”
“ยังไงดี”

“พี่โป๊ะ ไม่ฟ้องป้าสุหรอว่าวินเมาหลับไม่รู้เรื่อง”

“ทำแบบนั้นก็ไม่เห็นได้อะไร”

“แล้วแก้ตัวให้วิน ได้อะไร”

“ได้ทาส 1 คน” ตอบให้งงแล้วก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเองครับ ไม่พูดอะไรต่อ ไม่อธิบายอะไรเพิ่ม ผมนั่งงงอยู่แป๊บนึงก็วิ่งหลุนๆ ไปยังหน้าโต๊ะทำงานเขาไว้

“ทาสอะไร วินไม่เข้าใจ”

“ก็คุณไง”
“ค่าตอบแทนที่แก้ตัวให้ เป็นทาสผมวันนึงก็แล้วกัน”
“เริ่มจาก ไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เสื้อผ้าหาเอาเอง ใส่ของผมได้ อนุญาต”
“เสร็จแล้วจะได้กินข้าวเช้ากัน แล้วก็ทำงาน ไม่รู้รึไงว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย”

“เอ่ออออออ” ผมกวาดตามองผนัง หมายจะหานาฬิกา แต่ก็นึกออกว่าที่ข้อมือตัวเองก็มีเพราะใส่ออกจากคอนโดเลยยกของตัวเองขึ้นเช็ค แต่ว่า...นาฬิกาข้อมือผมหายครับ

“เฮ้ย! นาฬิกาวิน!”
“เรือนรักเลยนะ”

“โน่นนนนนนนนนนน” คำว่าโน่นและสายตาบอกกับผมว่าอย่าโวยวายและจงเดินไปตรง -โน่นนนน- ซะดีๆ

ผมเดินไปยังประตูอีกบานตามสายตาเขา เปิดเข้าใจก็พบห้องเสื้อนายมือโปรครับ โอเค ตอนนี้ผมคงต้องทำตามที่เขาบอกเสียก่อน ไว้มีเรี่ยวมีแรง และกู้ภาพความน่าเชื่อถือกลับมาได้แล้วค่อยว่ากัน
ห้องเสื้อผ้าเขาหนาแน่นมากครับ แต่ก็อยู่ในกล่องในตู้อย่างดี คัดแยกด้วยว่าส่วนเสื้อ ส่วนกางเกง ส่วนกางเกงใน แล้วก็เครื่องประดับแยกไว้อีกตู้หนึ่ง ด้านในอีกทีเป็นห้องน้ำแล้วครับ ซึ่งมันก็เชื่อมกับประตูที่ไอ้โอมเข้ามาฉี่ ผมก็เลยต้องลำบากล็อคประตูมันทั้ง 2 ฝั่ง

จัดการกับตัวเองเสร็จแล้ว (กางเกงในนี่ผมแกะใหม่เพราะตาดีเห็นของใหม่นอนอยู่ในแพ็ค ส่วนบ๊อกเซอร์ก็เลือกลายสีพื้นๆ เอาแบบยี่ห้อที่หาซื้อมาคืนได้ง่าย) ผมก็เดินออกมา

นายมือโปรหันมาหาเพราะได้ยินเสียงเปิดประตู เขามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็หันไปทำงานต่อ

“เอ่อออ”

“หิวแล้วล่ะสิ แป๊บนะ พี่ทำนี่ก่อน” บอกเท่านี้แล้วก็เงียบไป ดูเหมือนเขาจะไม่โกรธผมแล้ว เพราะแทนตัวเองว่าพี่ แต่อย่าเพิ่งได้ใจไป ผมจำได้ว่าเขาให้ผมเป็นทาสเขา ความโหดร้ายน่าจะปรากฏตัวหลังจากนี้

ผมเดินมานั่งจ่อมอยู่ที่โซฟาที่มุดนอนเมื่อคืนอีกที ว่างๆ ก็เลยมองหาหมอนกับผ้าห่มที่ยึดไว้เป็นของตัวเอง จำได้ว่านิ่มกำลังดี ผ้าห่มก็อุ่น หอมด้วย อืมม..หาไม่เจออ่ะ

“เอ่อ พี่โป๊ะ”

“อะไร บอกว่าแป๊บนึงไง”
“เดี๋ยวทำให้”

“คือ....” ทำอะไรวะ? อย่าบอกนะว่าทำข้าวเช้า ตรงๆ เลยนะครับ แดกได้มั้ยเนี่ย?
“เปล่าๆ วินจะถามว่าพี่เก็บหมอนกับผ้าห่มไว้ที่ไหน เดี๋ยววินเอาไปซักมาคืนให้ ชุดนี้ด้วย”

“ไม่มีอ่ะ ละเมออะไร”
“มีก็เห็น”

แล้วเมื่อคืน...ผมหนุนอะไร ห่มอะไรวะ?
ผมหันขวับไปเกาะพนักโซฟา เบื้องหน้าผมคือแผ่นหลังเขาที่เกินพนักเก้าอี้ มันคงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ
ผมแตะไหล่เขาเบาๆ นายมือโปรเลยหันมาหาด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“อะไรอีก แป๊บนึง!”

“คือเมื่อคืน”
“วินนอน...ยังไง”

“ก็นอนที่โซฟานี่ไง”
“แผ่หลา”

“ผ้าห่มล่ะครับ”

“อ้อ นี่แหล่ะเหตุผลที่ต้องเป็นทาสวันนี้”
“ซบซุกซะจนพี่เป็นตะคริว จะขยับก็อื้ออื้อ ไอ้ยุ่งเอ้ย!”

“วินนอนกอดพี่หรอ”

“แหงล่ะ ดูรูปมั้ย”

“ถ่ายรูปไว้ด้วย!”

“ก็แน่ดิ หลักฐานต้องมัดตัว จะได้แถไม่ได้”

แม่งเอ้ย! รอบที่แล้วเขาก็ถ่ายรูปตอนผมนอนกอดเขาไว้ได้ มารอบนี้อีก นี่ถ้าเขาเอาเรื่องพวกนี้มาขูดรีดเงินจากผม ผมต้องหมดตัวแน่ๆ แม้จะไม่ค่อยมีเงิน(ส่วนตัว)ก็เถอะ

“ขอโทษ” ผมพูดคำนี้อีกแล้ว ปลงตกก็รูดตัวมากรอมอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม และที่นายมือโปรพูดไว้ก็ไม่ผิด ผมหิวข้าวแล้ว นี่มันเกินเวลากินข้าวเช้าของผมแล้วนี่นา

“พี่โป๊ะ”

“โอเคโอเค”
“เสร็จแล้ว รอแป๊บ” เขาบอกทั้งที่ผมยังไม่ได้พูดเลยว่าเรียกทำไม นายมือโปรก้าวยาวออกจากห้องไป ประตูไม่ได้ปิดสนิท หรือมันจะแปลว่าผมต้องตามเขาขึ้นไปด้วย

ผมเดินตามเขาไปไม่ห่างนัก โผล่หัวมาเจอพระอาทิตย์ยามเช้าก็อดรู้สึกสดชื่นไม่ได้ เช้านี้ของผมน่าตกใจสุดๆ
เรามาถึงครัวของผับกันครับ ใหญ่โตพอสมควร
นายมือโปรเปิดตู้เย็นยักษ์ หยิบของมากองไว้ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าเขาหยิบอะไรมาบ้าง เปิดแก้ส หั่นของ และเปิดอะไรอีกวุ่นวาย แต่ไม่นานก็มีเสียงฉ่า พร้อมกับกลิ่นยำยั่วน้ำลาย

“กินๆ ไปก่อนก็แล้วกัน”
“วันนี้จะพาไปดูโมเดลที่ออฟฟิศทาวน์อินทาวน์ จะได้รู้สเกลโปรเจคแล้วคุยกับป้าคุณรู้เรื่อง” สั่งเสร็จก็วางจานข้าวผัดปลาทูน่ามาให้ผม

“ทานสิครับคุณชาย”

“เอ่อ...ขอบคุณครับ” ผมรับคำแล้วก็ตักข้าวเข้าปาก กินมันบนเคาน์เตอร์ครัวนี่แหล่ะ
คำแรกที่เข้าปากทำเอาอดยิ้มไม่ได้ ข้าวผัดยำปลาทูน่ากระป๋องนี่แม่งอร่อยจริงๆ หรือไม่ ผมก็หิวมาก

นายมือโปรก็กินเหมือนที่ผมกินนั่นแหล่ะ เขาส่งน้ำเปล่าปริ่มแก้วให้แล้วกระดกน้ำเปล่าจากขวดเข้าปาก เราไม่พูดอะไรกันมากมายครับ เพราะต่างคนต่างกิน ผมเห็นเขาเหลือบมองผมบ่อยๆ ส่วนผมนี่กินไปก็มองเขาไป มองด้วยความทึ่งในอะไรหลายๆ อย่าง

เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลย ไอ้เหี้ยนี่น่ะ

“พี่โป๊ะ” ผมลองชวนคุยเมื่อกินข้าวหมดจานและดื่มน้ำตามจนหมดแก้ว นายมือโปรพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ เพราะเขายังไม่กินไม่อิ่มครับ นี่ก็เติมเป็นรอบที่ 2 แล้ว
“เกลียดวินมากมั้ยครับ”

“เรื่อง” ข้าวคาปากก็ยังจะพูด แต่เขาไม่ผิดหรอก ก็ผมชวนคุยเองนี่

“เรื่องที่วินไม่ได้บอกว่าเป็นหลานตระกูลนี้”

“ไม่หรอก”

“แล้ว...พี่ปั้นปิ่งกับวินเพราะอะไร”
“วินไม่ชอบอยู่ใกล้คนที่ไม่ชอบวิน ยิ่งพี่มีท่าทีแบบเมื่อวันก่อน วินยิ่งไม่ชอบ”
“เคลียร์ๆ กันไปแล้วก็จบไม่ได้หรอ”

“ไม่ได้”
“ทำงั้นก็คือการหนี”
“ถ้าชีวิตคุณมันดีถึงขั้นลบความรู้สึกไม่ดีได้ทุกอย่างเพียงแค่คุยกัน 2-3 คำ คุณจะรู้คุณค่าของความรู้สึกดีๆ ของคนอื่นได้ยังไง”
“วันนึงเราก็คุยกันเหมือนเดิมได้นั่นแหล่ะ แต่ไม่ใช่วันนี้”
“วันนี้คุณเป็นทาสผมก่อน ชดใช้เรื่องเมื่อคืนกับเมื่อเช้า”
“พรุ่งนี้ ค่อยคิดอีกทีว่าเราจะคุยกันด้วยฐานะอะไร”
“เติมข้าวมั้ย ขี้เกียจแบกเด็กเป็นลม”

สรุปแล้ว เขาก็เป็นคนดีเหี้ยๆ นี่เอง


กินอิ่มปุ๊บเขาก็ทำตามแผนงานเขานั่นแหล่ะครับ
ขับรถพาผมไปออฟฟิศอีกที่ที่ทาวน์อินทาวน์ ที่นี่ผมได้พบกับผู้หญิงที่ท่าทางอารมณ์ดีที่เจอเมื่อวันก่อน
คุณแนน เลขาพี่โป๊ะ
เจอหน้าผมปุ๊บก็ส่งยิ้มหวานให้ แต่กลับเร่ไปหานายมือโปร พอได้ระยะที่ผมมองไม่เห็นกิริยาเธอแล้วก็กระซิบพูดบางอย่างกับเจ้านายของเธอ นายมือโปรหันมองผมแล้วกระตุกยิ้ม

“บ้าแล้วแนน”
“นี่คุณวิน หุ้นส่วนของบริษัทย่อยเราไง แต่กำลังจะเป็นพนักงานใหม่ที่นี่”
“รู้แล้วก็ไปเตรียมน้ำต้อนรับด้วย เดี๋ยวคอแห้งแล้วจะเป็นลมอีก”
“เตรียมห้องประชุมเล็กไว้ด้วย พี่จะทำงานห้องนั้น”

“ค่า” ดูเหมือนเธอจะกระแทกเสียงเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับเข้าประตูบริษัทที่ออกแบบไว้เหมือนประตูบ้านแคบๆ เธอหันมองผมอีกรอบแล้วก็ส่งยิ้มให้อีกรอบ อืมมม ยิ้มเก่งดีจัง

“ไอ้บ้าแนน”

“พูดถึงคนอื่นดีๆ หน่อยก็ได้นี่ครับ”

“มารยาทมาเต็มเชียวนะครับคุณหนูวิน”
“ถ้ารู้ว่าไอ้แนนมันพูดอะไร จะปกป้องมันอยู่มั้ย”

“คุณแนนพูดอะไรล่ะครับ”

“แนนมันบอกว่าวินน่ากินไปทั้งตัว ขอแทะหน่อยได้มั้ย”

“เอ่อ...วินไม่ใช่ขนม แล้ววินก็ไม่ง่ายด้วย” ผมไว้ตัว วางสีหน้านิ่งๆ ทั้งที่รู้สึกอยากเขวี้ยงหน้าดุใส่คุณแนนเต็มแก่

“เชิญครับคุณวิน” เขากลับมากวนตีนผมอีกรอบ นายมือโปรผายมือนำทาง ผมเลยรับเกียรติที่ได้รับอย่างกะทันหันไว้อย่างไม่มีทางเลือก

ออฟฟิศนี้แปลกตาดีครับ มองภายนอกก็เหมือนโฮมออฟฟิศทั่วไป แต่ข้างในกลับดีไซน์ให้ดูเหมือนเขาวงกต นี่ถ้าไม่ตามตูดเขาติดๆ ผมก็คงหลงตรงแยกห้องน้ำชั้น 2 นั่นแหล่ะ
ภายในบริษัทที่น่าจะมีแค่ออฟฟิศ กลับมาห้องสตูดิโอซ่อนอยู่ ไม่ใช่สตูฯ เล็กๆ เลย
แล้วก็มาถึงห้องทำงานเขาเสียที แต่เขาไม่ได้เชิญผมเข้าห้องหรอกครับ เขาชี้นิ้วสั่งให้ผมนั่งรอที่โซฟาหน้าห้องเขาก่อน ผมก็เลยต้องนั่งสบตากับคุณแนนที่ยังไม่เลิกส่งยิ้มหวานให้กับผมอีกครั้ง

“เอ่ออ”

“คุณวินจำแนนได้มั้ยคะ”

“ครับ”

“โทษนะคะ ถามได้มั้ยว่าอายุเท่าไหร่”

“ก็เพิ่งถามมานี่ครับ”
“กำลังจะ 25 ครับ”

“ต๊ายยยย ขบเผาะ” ผมคิดว่าไม่ว่าผมจะบอกว่าอายุเท่าไหร่ เธอก็จะแจกคำนี้กลับมา ผมยิ้มให้ตามมารยาทแต่ก็ไม่นึกเหยียดหยันในอาการกล้าได้กล้าเสียของเธอนัก ผมรู้สึกได้ว่าเธอพูดเล่น

“วันนี้มาคุยโปรเจคกับบอสหรอคะ”

“ครับ”

“อยู่กับบอสพี่แนนนานๆ นะคะ” คำอวยพรแปลกเสียจริง
“อาจจะเพี้ยนหน่อย แต่จริงๆ แล้วบอสพี่น่ารักมากเลยนะ”
“พาผู้ชายเข้าบริษัทแต่ละคน โอ้ยยยยย หล่อๆ ทั้งนั้น”
“เปรียบไปก็เหมือนหลุมอากาศดูดผู้ชายเลยค่ะ”
“นี่ถ้าเป็นผู้หญิง พี่แนนคงต้องจ้างมอเตอร์ไซค์สาดน้ำกรดนาง โกยผู้ชายหล่อๆ ไปหมด พี่หนึ่งเอย พี่หมอนำเอย ไหนจะน้องธามอีก โอ้ยยย พูดแล้วก็คิดถึง”

“ครับ” ผมตอบรับสั้นๆ พลางยิ้มให้ คุณแนนหัวเราะอารมณ์ดีใส่ผมแล้วก็นั่งจ้องหน้าผม ท่าทางจะอาการหนักจริงๆ

“พี่โป๊ะขา น้องวินของแนนรอนานแล้วนะคะ ห้องประชุมก็เตรียมให้แล้ว รีบๆ ทำงานได้แล้วค่ะ อย่าพิรี้พิไร” บริษัทนี้เขาพูดจากันตลกดี ผมแอบขำที่คุณแนนกัดแซะนายมือโปร เจ้าของห้องเปิดประตูออกมาดังปึก แล้วก็เดินมายืนเท้าเอวจ้องหน้าเลขาตัวเอง

“เยอะนะวันนี้”

“กำลังใจดีนะค่ะบอส”
“ทำงานสิคะ ให้แนนจดรายงานประชุมมั้ย”

“ไม่ต้อง วินเขาจดเองได้”

“บอสจะให้พาร์ทเนอร์จดรายงานประชุมเนี่ยนะคะ ได้ไงกัน”

“ก็จะทำ”
“ทางนี้คุณ” เขาพูดกับผมเท่านี้แล้วก็เดินนำไปยังห้องที่ประตูตั้งตระหง่านอยู่ตรงกันข้ามกับประตูห้องทำงานส่วนตัวของเขา

ห้องนี้เต็มไปด้วยประติมากรรมชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ ส่วนมากเป็นรูปคนในอิริยาบถต่างๆ มีเก้าอี้เยอะแยะไปหมด แต่ไม่ยักกะมีโต๊ะประชุมเพื่อให้มันเป็นห้องประชุมตามชื่อ

“ทางนี้” เขาเรียกแล้วพาเดินมุดซุมผ้ารกๆ แล้วผมก็ได้เจอจนได้
“โมเดลโปรเจคน่ะ”

“ใหญ่จังนะครับ” ผมวิจารณ์สิ่งที่เตะประสารทสัมผัสเป็นอย่างแรก จากนั้นก็เดินวนรอบๆ โต๊ะวางโมเดลทีละมุม อันไหนสงสัยก็ชี้แล้วถาม เขาก็บอกรายละเอียดได้หมดทุกอย่างแบบไม่ใส่ความกวนตีนลงมาเหมือนการสนทนาก่อนหน้านี้
ผมใช้เวลานานพอสมควร เพราะผมมองไม่เห็นด้านใน ก็เลยต้องถามเพื่อให้เห็นภาพ ป้าผมจะลงทุนด้วยทั้งที ถ้ามันเป็นแต่ตึกธรรมดาก็น่าผิดหวัง

“ตรงนี้ โล่งๆ หรอครับ”

“อื้อ ตั้งใจเก็บไว้ ไม่สร้างอะไร แต่จะทำทางเดิน ปลูกต้นไม้ ขุดคลอง เอาไว้จำลองบรรยากาศในป่าอะไรเทือกนี้”

“อ้อ”

“ที่โล่งนี่อยู่ทิศตะวันออกนะ แสงเข้าจะสวยมาก”
“จริงๆ พี่อยากยกบรรยากาศตลาดเก่าๆ ขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดมาไว้ แต่มันจะฟิกส์เกินไป เสียโอกาส”
“แต่คลองนี่ยังไงก็ต้องมี”
“กะว่า ถ้าซื้อที่ดินเพิ่มได้ พี่จะทำเมืองโบราณอะไรทำนองนั้น”

“ขายฝรั่งไม่ใช่หรอครับ คงไม่มีหนังฮอลีวู้ดมีฉากเป็นประตูเมืองกรุงศรีหรอกมั้ง” ผมกระเซ้า และน่าแปลกใจที่เขายิ้มพร้อมกับหัวเราะกลับมา

“วินดูนี่”
“หอคอย”

“เอาไว้ทำไมครับ”

“เดี๋ยวจะโยงสลิง เหมือนกางมุ้งให้ทั้งพื้นที่นี้เลย”
“เอาไว้คุมแสงคุมเสียงก็ได้ แล้วก็เอาไว้ทำมุมกล้องก็ได้”

“อ้อ”

“ตึกตรงนี้เป็นสตูตัดต่อ เครื่องมือถ่ายทำเจ๋งๆ จะอยู่นี่หมด พวกสแตนเคลื่อนที่ก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน”
“อันนี้โรงแรม ไม่ดิ แค่เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ สำหรับทีมงานใช้อยู่”

“ถ้าไม่มีทีมงานลูกค้า พี่จะขายห้องนี้ให้ใคร หรือให้ใครเช่ามั้ยครับ”

“ไม่”
“สงวนไว้”
“เพราะมันเชื่อมกับตึกสตูฯ ตัดต่อ ต้องรักษาอุปกรณ์ดีๆ”

“ป้าสุบอกว่า ที่สิงคโปร์ก็มีบริษัทโพรไวเดอร์ทำนองนี้นี่ครับ”
“เราจะเอาอะไรมาสร้างความแตกต่าง”

“มือโปร”
“อ้อ! พี่หมายถึง เราเป็นบริษัทผู้เชี่วยชาญผู้สร้างหนังมาก่อน เราจะรู้ว่านักสร้างหนังอยากได้อะไร”
“แล้วก็ไม่ได้มองไว้แค่ฝรั่งหรอก เอเชียด้วยกันก็มีดีมานด์เหมือนกัน”
“อินเดียนี่มองข้ามไม่ได้นะวิน”

“แล้วถ้าเขาอยากออกโลเคชั่นล่ะครับ”
“อื้อ! แล้วพี่โป๊ะโพรไวด์คนให้ด้วยรึเปล่า”

“ถ้าอยากได้ก็หาให้ได้ ไม่กระทบงานหลักบริษัทแม่ด้วย” พูดแล้วก็ทำหน้าอวดๆ ผมกดหน้าลงเพื่อแอบยิ้มคนเดียว เขาดึงผมมาอีกทิศ แล้วก็ชี้ชวนให้ดูนั่นนี่เพิ่ม ท่าทางเชาสนุกมาก แล้วก็มีความสุขมากที่ได้อวดความฝันของเขากับใครสักคน

“วินรอห้องนี้แป๊บนะ พี่ไปเอาเอกสารมาให้ จะได้รู้อะไรเพิ่ม”

“เอกสารอยู่ไหนครับ”

“ห้องทำงาน”

“แล้วทำไมไม่ไปดูในห้องทำงานล่ะครับ ขยับเอกสารกับขยับคน ขยับคนง่ายกว่าอีก”

“ห้องรก ไม่อยากให้เห็น” เหตุผลทุเรศชิบหาย ทำอย่างกับผมคาดหวังว่าห้องทำงานส่วนตัวของเขาจะนีทแอนด์คลีนงั้นแหล่ะ

“วินก็ไม่คิดว่าห้องพี่โป๊ะจะเป็นระเบียบหรอกครับ”

“เหอะ!” เขาเบ้ปากใส่ และสรุปก็ไม่ให้ผมเข้าห้องทำงานอยู่ดี นายมือโปรย้ำแค่ว่า -รอที่นี่แหล่ะ- แล้วก็เปิดประตูออกไป ก่อนประตูจะปิดลง ผมได้ยินเขาสั่งให้คุณแนนหาโกโก้หรือน้ำหวานเย็นมารับรองผมหน่อย แล้วก็ให้โทรจองร้านอาหารสำหรับมื้อกลางวันด้วย

สำหรับ 2 คน

ผมจมอยู่กับเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจของเขา...ไม่สิ ของพ่อเขาต่างหาก
ตอนนี้ประธานกลุ่มบริษัทคือคุณตะวัน วณิคพันธุ์ พ่อของนายมือโปร
โครงธุรกิจเขาไม่ซับซ้อนมากครับ ถ้าเรียงเป็นแฟมิลี่ทรี ก็จะได้ลำดับเชิงลึกเพียง 3 ชั้นเท่านั้น คือบริษัทแม่ บริษัทลูกที่แม่ถือหุ้น 99.99% เป็นชั้นที่ 2 ส่วนชั้นที่ 3 คือบริษัทที่ร่วมทุนกับพันธมิตร หรือ joint venture ซึ่งบริษัทที่นายมือโปรกำลังเซ็ทอัพขึ้นมาใหม่ ก็กำลังจะมีพาร์ทเนอร์คือแบงก์ของคุณตาผมมาถือหุ้นร่วม
ลักษณะการประกอบธุรกิจ คือหัวข้อที่ผมกำลังนั่งอ่านนั่งศึกษา พลันประตูห้องประชุมก็เปิดอ้าออก นาฬิกาเดินได้เสนอหน้าเข้ามาบอกกับผมว่า “เที่ยงแล้ว กินข้าวกันเถอะคุณ”

“ครับ” ผมรับคำ เปิดแฟ้มเอกสารหนาเตอะแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือที่เอามาวางบนโต๊ะเล็กๆ สำหรับตั้งประติมากรรมใส่กระเป๋ากางเกง

“ผมให้แนนจองร้านอาหารไว้แล้ว เลี้ยงดูดีขนาดนี้ก็ช่วยเอาไปบอกคุณสุชาดาด้วยว่าปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ แล้วก็ซื้อหุ้นเพิ่มทุนราคาสูงหน่อยก็ดี” อ่อ สรุปแล้วทำตัวสุภาพชนนิยมกับผมก็เพราะหวังผลทางการค้านี่เอง

ผมเบ้หน้านิดเดียว แต่ก็เดินตามเขาออกมาจากห้อง ใจคิดเพียงว่าไม่ถือสาคนปากหมาน่าจะดีสุดสำหรับชีวิตผม

แต่เรื่องราวที่ควรจะง่ายขึ้น หรือลงล็อคลงรอยกว่าเดิมมักไม่ใช่เรื่องราวของผมเสมอ

“โปร” ผู้หญิงสวยเรียบ มองปราดเดียวก็รู้สึกได้ถึงพลังความดีที่เธอสั่งสมมาแต่ชาติปางก่อน ดร.โจ้ครับ

“อ้าวโจ้ มาทำไรเนี่ย แล้วไม่บอกก่อน เกิดมาแล้วคลาดกันจะทำยังไง”

“โจ้มาธุระ เห็นเกือบเที่ยงพอดีเลยแวะมาหา ถึงไม่เจอโปรก็ไม่เสียเที่ยวหรอก ร้านอาหารแถวนี้มีแต่ของอร่อยทั้งนั้น”

“อ้อ โจ้ชอบอาหารเวียดนามแถวนี้นี่นา พอดีเลย ผมจองไว้”

“หือ? เลี้ยงแขกหรอ?” ฝ่ายนั้นถาม  ผมเลยขยับออกมานอกห้องเพื่อยืนข้างนายมือโปรที่หันมองผมแล้วแนะนำ

“ไม่ใช่แขกหรอก”
“จำได้มั้ย?”

“อ้าว น้องวิน”
“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ พี่โจ้” ผมรับคำ ยิ้มให้ แต่ใจคิดอยากกลับไปนั่งจมกับเอกสารบริษัทแล้วจิบแค่โกโก้เย็นและบิสกิตที่พี่แนนเตรียมไว้ให้เสียเยอะ

“อื้อ งั้นก็ไปกันเถอะ” นายมือโปรเอ่ยชวนโดยไม่ระบุชื่อ เขาขยับเดินไปเคียงกับเพื่อนสาวคนสนิทของเขา ส่วนผมยังยืนอยู่ที่เดิม

ก็ผมจำได้ว่าเขาจองไว้สำหรับ 2 ที่
แม้จะไม่รู้ว่า 2 ที่นั้น มีที่ของผมหรือเปล่า
แต่ตอนนี้ดร.โจ้เขามา 2 ที่ที่ว่า ก็ควรเป็นของนายมือโปรและดร.โจ้ไม่ใช่รึไง

“น้องวิน ไม่หิวหรอคะ ตามไปเถอะค่ะ” พี่แนนเลขาเดินมากระซิบใกล้ๆ เธอมีทักษะพิเศษด้านการย่องเบารึเปล่าผมเริ่มสงสัย

“พี่โป๊ะเขาจองร้านไว้ 2 ที่ไม่ใช่หรอครับ”

“ที่จองน่ะ อีกร้านค่ะ ร้านเวียดนามพี่แนนไม่ได้จองไว้ให้หรอก พี่โป๊ะไม่ค่อยชอบเพราะกินไม่อิ่มท้อง รายนี้เป็นหลุมดำดูดอาหาร”
“ลงแบบนี้พี่แนนคงต้องโทรไปยกเลิกให้ เฮ้อ”

พี่โป๊ะนี่เป็นทั้งหลุมดำดูผู้ชายหล่อๆและดูดอาหารด้วย แม่งขี้ดูด

“วินไม่อยากไปเป็นกขค.”

“งั้นพี่แนนขอจ้างเลยค่ะ 20 บาท ช่วยไปเป็นกขค.ที”

“ทำไมล่ะครับ เขาชอบกันแล้วไม่ดีหรอครับ”

“ไม่ดีค่ะ บอสพี่ไม่เป็นตัวของตัวเอง ดร.แกน่ารักนะคะ แต่ไม่เหมาะกันหรอกค่ะ”
“คิดซะว่าพี่แนนจ้าง 20 ช่วยไปนั่งคั่นกลาง เพื่อป้องกันไม่ให้ดร.โจ้เสียใจในอนาคตก็แล้วกัน”
“บอสพี่ไม่เหมาะกับผู้หญิงดีมากกกกกกกกกกกกแบบนี้หรอกค่ะ”

ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณแนนคิดแบบนั้น ในสายตาผม พวกเขาเหมาะสมกันทั้งอย่าง
รูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางสังคม และน่าจะรวมไปถึงทัศคติ
สิ่งที่ไม่เท่าเทียมระหว่าง 2 คนที่เดินเคียงกันไปดูกระหนุงกระหนิง น่าจะมีเพียงแค่ความเหี้ยเท่านั้น
ฝ่ายชายดูเหมือนจะมีน้ำหนักเรื่องนี้มากเสียจนฝ่ายหญิงแทบไร้น้ำหนักในตาชั่งของความเหี้ย

เป็นกขค.หรอ
ไม่เอาด้วยหรอก มันไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย
แต่ก็อย่าคิดว่าผมจะทำตัวเป็นลูกเป็ดเดินตามเงาแม่เลย

ผมก็คือผม อยากทำอะไรผมก็จะทำ
 


cut



มาต่อแล้วค่าาาาา

เมื่อไหร่เขาจะสปาร์คกัน อันนี้เราก็อยากรูเ้หมือนกัน
เอ๊ะ หรือว่าเขาสปาร์คกันมานานแล้ว แต่ต่างฝ่ายต่างเก็บอาการ หรือสปาร์คกันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าาา
ไม่งงเอนะ ถ้างงก็อย่างงนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2015 12:28:27 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #192 เมื่อ07-06-2015 01:36:22 »

เราแบบ หมั่นไส้พี่โปรจริงๆ นะ หึ้ยยยยยยย์

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #193 เมื่อ07-06-2015 11:22:36 »

หมั่นไส้อิพี่โป๊ะอ่ะ
มันน่าเอาหมาเจมกับน้องธามมากวนตีนอิพี่โป๊ะจริงๆ
พาวินไปเข้าสมาคมแม่บ้านด้วยคงจะสนุกน่าดู :laugh:
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ :กอด1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #194 เมื่อ07-06-2015 13:17:04 »

นายมือโปร นิสัยเสีย ไม่เคยเปลี่ยน

น้องวินก็ยอมกันเกินไป รู้ว่าสู้แรงไม่ใหว

แต่ก็อยาให้ตอบโต้ให้เจ็บๆเมื่อมีโอกาศ

(ไปต่อน้องธามพี่นำให้ป้าด้วยป้ารออยู่)

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #195 เมื่อ07-06-2015 13:21:18 »

อย่างน้อยก็ดีกันแล้ว ไม่งอนกันแล้วเนอะ :katai2-1:

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #196 เมื่อ07-06-2015 13:38:00 »

วินออกจะน่ารัก เมื่อไหร่พี่โป๊ะจะทำตัวดีๆ กับวินบ้างงงงง

เห็นด้วยกะแนน ดร.โจ้ดีเกินไปสำหรับพี่โป๊ะ 555555 ปล. พี่จ้างน้องวิน 20 บาท 50 สตางค์เลยเอ้าาา ไปเป็น กขคงจ เถอะค่ะ

ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #197 เมื่อ07-06-2015 21:13:02 »

น้องวิน สู้ สู้

  o13

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #198 เมื่อ07-06-2015 22:30:11 »

อิพี่โป๊ะนี่จริงๆเลย

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #199 เมื่อ07-06-2015 22:46:21 »

หุยยยยยยยยยยยใจจิขาดดด
อยากเตะตัดขาความกวนของพี่โป๊ะ แต่ก็รู้ว่าคงทำอะไรนางไม่ได้
เลเวลความกวนประสาทของพี่โป๊ะ นี่มันเมพจริงๆ

ตบไหล่น้องวินเบาๆ .. #ความเวรกรรมนี้ 5555 ซวยไปนะลูกมาเจอคนแบบพี่โป๊ะ
ผู้มีตรรกะ และจิตวิญญานอันเสรี 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
« ตอบ #199 เมื่อ: 07-06-2015 22:46:21 »





ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #200 เมื่อ07-06-2015 22:52:04 »

อยากจะขอแทกมือพี่แนนแรงๆ สักที รู้สึกถูกชะตากับนางมาก

คุณมือโปรนี่ท่าทางสับสนนะคะ สรรพนามเรียกน้องแต่ละครั้งช่างไม่คงที่เอาเสียเลย

หรือแท้แล้วที่ไม่คงที่อาจเป็นจังหวะหัวใจ หาใช่สรรพนาม อิอิ

ก็เวลาวินง้อ วินอ้อน มันน่ารักน้อยซะเมื่อไร่กันเล่าาาาา เนอะเฮีย ^_^

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #201 เมื่อ07-06-2015 23:17:05 »

คือชอบคุณเเนนเวอร์ๆเลย หวังว่านางจะเป็นสาววาย 555

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #202 เมื่อ08-06-2015 16:05:43 »

อ่านทันแล้ว วินฮาดีอ่ะ ชอบที่ด่าว่าตัวเหี้ย 555+

พี่โป๊ะก็น่าหมั่นไส้มาก 555+

ออฟไลน์ iimayuworld

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #203 เมื่อ09-06-2015 10:35:08 »

ฮึ๊ยยยยยยย หมั่นไส้อิพี่โป๊ะ มันน่าโดนน้องวินเมินแรงๆซักที
ชวนหมาเจมมาด่าด้วยก็ได้ หมั่นไส่แม่งมากนะจุดนี้  :m16: :angry2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #204 เมื่อ09-06-2015 16:52:53 »

นึกว่าตัวเองคุมเกมส์ได้ โดยไม่นึกว่า เสือรอขย้ำอยู่
ทำตัวหน้าหมั่นไส้เข้าไว้ รู้ไว้ด้วยมีแต่คนไม่ชอบขี้หน้าเต็มบอร์ด ไปหมด
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน15(07-06-15)
«ตอบ #205 เมื่อ10-06-2015 22:03:54 »

ไปนอนซุกเค้าจริงๆด้วยสินะ
พี่โป๊ะนี้อาชีพเดิม ปาปารัชชี่รึเปล่า แอะอะ ถ่ายรูปตลอดๆ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน16(13-06-15)
«ตอบ #206 เมื่อ13-06-2015 00:38:42 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 16


น้องวินทานนี่สิคะ
โปร โจ้สั่งอันนี้ให้น้องวินดีมั้ย?
น้องวินไม่ชอบทานจานนี้หรอคะ
ไม่ทานผักหรอคะเนี่ย
อันนี้ทานแบบนี้นะคะ บลา บลา บลา
ผมก็ได้แต่ยิ้ม และอ้าปากกินทุกอย่างตามที่ดร.โจ้หยิบยื่นให้นั่นแหละ
ผมชินกับการถูกดูแลทุกการขยับ คนที่ทำให้ผมชินก็คือพี่รุตต์ และป้าสุ
ซึ่งนิสัยสปอยล์กำลังให้คุณแก่ผมในตอนนี้ ผมไม่รู้สึกรำคาญ ผมรับน้ำใจโดยไร้ท่าทางขัดเขิน ผิดกับอีกคนอย่างสิ้นเชิง
ผมไม่รู้ว่าพวกเขารู้กันมานานแค่ไหน แต่กิริยาของดร.โจ้ทำให้มือโปรนั่งแข็งเป็นท่อนไม้โดนปลวกไช

“โจ้ ให้วินกินเองเถอะ นี่แทบจะป้อนแล้วนะ”
“ไม่คิดว่าวินจะรำคาญรึไง”

“ไม่มีใครเขาหยาบกระด้างเหมือนโปรหรอกนะ น้องวินไม่รำคาญพี่โจ้ใช่มั้ยคะ” ถึงรำคาญก็ไม่ตอบความจริงหรอกครับ ผมยิ้มให้แล้วทำสีหน้าปลื้มกับเมี่ยงกุ้งคำโตที่ต้องใช้ความพยายามในการอ้าปากแทบฉีกกว่าจะได้แดกมันโดยสมบูรณ์

“กินดีๆ สิวิน”
“ปากไม่ฉีกหรอนั่นน่ะ”
“ไอ้ร้านนี้นี่ยังไง ทำให้พอดีคำไม่ได้รึไง” บ่นจบก็อ้าปากแข่งกับผมแหละครับ เพราะเมี่ยงมันคำใหญ่จริงๆ แล้วผู้ชายรักความเร็วอย่างเขาก็คงไม่เสียเวลานั่งหั่นเป็นคำพอดีปาก

“โจ้จะแบ่งเป็นคำให้ก็ไม่เอา”

“มันเรื่องมากนี่ กินรวดเดียวนี่แหละ”
“โจ้เอาพวกหมูไรนี่มาอีกสิ มีแต่ผักมันไม่อิ่ม”

“สุขภาพจะได้ดีไง”

“วัวควายก็เป็นโรคกันทั้งนั้น ใครบอกกินแต่ผักแล้วเป็นอมตะ หือ?” ถ้าผมเป็นดร.โจ้ ผมจะเอาหม้อเฝอทะเลเดือดราดหัวแม่งเลย ปากหมาชิบหาย แต่ฝ่ายหญิงเขาหัวเราะครับ ท่าทางถูกอกถูกใจที่ถูกยียวน จุดนี้ผมไม่เข้าใจดร.จริงๆ
ถ้า 2 คนนี้เชื่อมโยงกันด้วยความรู้สึกดีๆล่ะก็ ดร.โจ้คงเป็นคนที่รู้สึกมากกว่า และก็คงเป็นคนที่เจ็บกว่า
ผมนั่งตรงกันข้ามเขาทั้งคู่ ผมยังไม่รู้สึกถึงความรู้สึกพิเศษที่นายมือโปรจะมีต่อดร.คนสวยคนนี้เลย

“พูดจาไม่กลัวน้องไม่เคารพเลยนะโปร”

“คนเรามันไม่เลิกเคารพกันเพราะคำพูดหรอก”
“ต้องดูที่การกระทำสิ”
“อย่างพวก...” เอาแล้ว เหล่มาทางผมแล้ว คงไม่วายแว้งกัด
“ไม่มีความจริงใจ ขี้โกหก หลอกลวงคนอื่นแล้วไปหัวเราะลับหลังไรพวกนี้ ไม่ควรมีใครเคารพ”
“ทั้งเคารพด้วยตัวตน หรือเคารพด้วยวัย เกียรติยศ ความรู้ ทุกอย่างอ่ะ!”

ด่าผมชัดๆ
แม้จะรู้ตัวว่าถูกด่า แต่ผมจะไม่เจ็บปวดหรอกครับ เพราะผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาบอก
ข้อแรก ผมไม่ได้โกหก ไม่ได้หลอกหลวงเขาแล้วเอาไปหัวเราะลับหลัง
ข้อสอง ผมจริงใจกับเขาตลอดเวลา  ถึงแม่งจะไม่รับรู้ก็เถอะ
ผมแกล้งกระแทกช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม ท่าทางผมคงกวนประสาทมากๆ นายมือโปรถึงได้ปล่อยอุปกรณ์ช่วยกินแล้วนั่งกอดอก ทั้งที่เมื่อครู่เขาเพิ่งบอกให้ดร.สั่งอาหารเพิ่มให้ตัวเขาเอง

เราจ้องกันไปจ้องกันมา ถ้าเป็นปลากัดจะไม่มีฝ่ายท้องหรอกครับ กัดกันตายห่าก่อน
สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายแพ้เพราะกระพริบตาก่อน ดร.โจ้เรียกผมแล้วก็นำเสนอของหวานเป็นไอศกรีม ผมยื่นหน้าไปมองเมนูที่เธอเอียงมาให้ดู แล้วก็จิ้มบอก

“วินทานอันนี้ดีกว่าครับ หรือว่าพี่โจ้มีอันไหนที่อร่อยกว่า วินไม่ค่อยได้ทานร้านแบบนี้หรอกครับ”

“โถ โปร! เลี้ยงน้องไม่ดีเลย ดูสิ ไอศกรีมแค่นี้ก็ไม่ให้กินหรอ”
“น้องวินทานเยอะๆ เอา 2 รสเลยก็ได้นะคะ”
“เดี๋ยวพี่โจ้สั่งให้เอากลับไปทานระหว่างบ่ายดีมั้ย หรืออยากกินหนักๆ”
“ถัดไปอีกถนนมีพวกพิซซ่าแป้งบาง เลยไปตรงโรงแรมก็มีภัตตคาร อยากทานอาหารประมาณไหน เดี๋ยวพี่โจ้สั่งมาให้”

“หรูสุดของวินก็ส้มตำไก่ย่างแหละครับ”
“แต่ไม่รู้คุณมือโปรเขาจะให้ทานรึเปล่า เขาอาจจะรังเกียจกลิ่น”

“หรอออออออออออออออ” คางนี่ยื่นเชียวครับ นายมือโปรยกตัวมาเอื้อมผลักหัวผมเบาๆ เขาแย่งเอาเมนูจากเพื่อนผู้หญิงคนสนิทของเขาไป มองผ่านๆแล้วก็ส่งคืน
“ไม่ต้องสั่งกลับหรอกโจ้ กินวันละครั้งก็พอแล้ว กลัวเป็นอมตะ ไม่ตายสักที”
“เดี๋ยวบ่ายแก่ๆ ผมสั่งพิซซ่าให้ –น้องวิน- เอง”

“ดีมากโปร”
“ปกครองคนน่ะ ต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณนะ จะใช้อำนาจตวาดคนอื่นแบบเดิมๆ น่ะไม่ได้แล้ว”

“ครับ คุณครู คุณหมอ คุณผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ดูเอาเถอะ กับผู้หญิงแสนสุภาพ น่ารัก บอบบางขนาดนี้เขาก็ไม่เว้น แน่นอนว่าดร.คนสวยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เธออิ่มนานแล้วแต่ยังนั่งยิ้มมองผมและนายมือโปรทานกันอย่างเอร็ดอร่อย จนอิ่มหนำกันแล้วก็เช็คบิลครับ
กรรมของผมติดจรวดมาจ่อรอหน้าร้านอาหาร ขามา ผมมากับดร.โจ้ครับ นั่งเชิดหน้าอย่างมีความสุขดี แต่ขากลับต้องกลับกับนายมือโปร และหน้าผมก็ง่อยมาก และเขาก็คงรับรู้ความในใจที่แสดงออกผ่านรูขุมขนทุกรูบนหน้า

“ไม่อยากนั่งรถผมก็เรียกแท็กซี่เองนะ”

“เบิกค่าเดินทางกับบริษัทได้รึเปล่าล่ะครับ”

“....ลูกหมา” เขากัดฟันยัดเยียดสรรพนามให้ผม ผมก็ได้แต่ยืนทำหน้านิ่งๆ สุดท้ายเขาก็ต้องลากไหล่ผมตามเขาไปที่รถอยู่ดีนั่นแหละ

ขึ้นรถได้เขาก็มีอีกองค์ประทับร่างครับ นายมือโปรที่แปรปรวนสุดๆ
“ลืมรึไงว่าวันนี้คุณเป็นทาสผม”
“คุณนอนซุกอกผม ทับผม แถมผมยังโทรไปแก้ตัวกับป้าคุณให้อีก”
“สำนึกบุญคุณกันหน่อยดีมั้ย”

“วินทำอะไรให้พี่โป๊ะรู้สึกว่าไม่สำนึกหรอครับ”
“ถ้าต้องการการหมอบกราบแบบทาสกับคุณหลวง ทำไมไม่บอกตั้งแต่ก่อนนั่งกินข้าว วินจะได้นั่งกับพื้น”

“กวนประสาททุกเรื่องเพื่ออะไร”

“พี่โป๊ะกวนวินก่อนไม่ใช่รึไง”
“ลองสำรวจตัวเองบ้างเถอะครับ!” ผมก็โมโหเป็นนะ อะไรอะไรผมก็ผิดตลอด ทั้งที่คนเริ่มชวนตีมันเขาทั้งนั้นแหละ

“ผมทำอะไร”
“ผมก็กินข้าวปกติ คุณนั่นแหละมาแหย่ หาว่าผมไม่ให้คุณกินอะไร หาว่าผมทนกลิ่นส้มตำไม่ได้ จะกินส้มตำปูปลาร้าแข่งกันมั้ยล่ะ!” ออกทะเลมากๆ ทั้งที่พิกัดปัจจุบันก็ไม่ได้ใกล้ปากอ่าว

ผมถอนหายใจ หันมองนอกหน้าต่างเพราะจนปัญญาด้วยไม่รู้จะสื่อสารกับเขายังไงให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม
ผมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ของผมกับเขามันเรียกว่าอะไร แต่ผมรู้สึกดีกับเขามากกว่านี้ บรรยากาศรอบตัวมันน่าอยู่กว่านี้
ผมไม่เครียด ผมเป็นตัวของตัวเอง ผมไม่มีเรื่องอะไรให้กังวล และผมมีเขาที่พึ่งพาได้เสมอ
ทั้งรายงานเอย เรียนเอย งานร้านกาแฟที่เขาจ้างผมทั้งที่เขาไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าให้ไปเฝ้าร้านให้อีก
แม้เขาจะมีน้ำใจกับผมเพราะสงสารและคิดว่าผมเป็นเด็กสิ้นไร้ไม้ตอกถึงขั้นต้องขายตัวเลี้ยงชีพ แต่ความรู้สึกมันก็ดีกว่าตอนนี้มากๆ
มากจนผมอยากย้อนเวลากลับไปเป็นเหมือนเก่า
อยากเป็นแค่ไอ้ยุ่งวินคนธรรมดา ที่มีพี่โป๊ะดูแลบ้างกวนส้นตีนบ้างสลับกันไป
ผมไม่อยากเป็นผมในตอนนี้ ไม่อยากเป็นวินที่เป็นหลานนายแบงก์ ไม่อยากเป็นวินหลอกลวงคนที่มีน้ำใจให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

“วินขอโทษแล้วนะ”
“วินขอโทษพี่โป๊ะทุกอย่างแล้วนะครับ”
“แล้ววินก็รู้สึกว่า ความรู้สึกแย่ๆ ที่พี่โป๊ะสร้างขึ้นมาคลอบตัววินไว้มันทำหน้าที่ของมันแล้ว”
“วินรู้สึกแย่ และน่าจะรู้สึกพอแล้ว”
“ถ้าพี่จงใจสั่งสอนวินเพื่อให้วินไม่ริโกหกหรือปิดบังความจริงอีก พี่ประสบความสำเร็จแล้ว วินหลาบจำแล้ว”
“และถ้าพี่โป๊ะยังไม่หยุดเป็นแบบนี้ ไม่หยุดหาเรื่องวินทุกเรื่อง ทำตัวห่างเหินเหมือนเราไม่เคยมีน้ำใจต่อกัน ไม่เคยนั่งกินข้าวด้วยกันดีๆ ไม่เคยแลกเปลี่ยนเรื่องที่ได้แต่เก็บไว้ในใจคนเดียว วินก็ว่าวินไม่ควรเสียเวลาทนอีก”
“มันเกินบทเรียนที่วินควรได้รับมากเกินไปแล้ว”

“แล้วยังไง”
“พูดมาตั้งเยอะ คุณจะทำอะไรล่ะ”
“ถ้าผมทำให้คุณอึดอัดจนทนไม่ได้แบบนี้ คุณจะทำยังไง”

“วินไปเอง”
“คุณอยากกดดัน อยากทำโทษอะไร กับใคร ก็เรื่องของคุณ”
“แต่ผมจะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น”

ผมเปิดประตูลงจากรถและเขาไม่ได้เรียกรั้ง ไม่ได้ลงจากรถเพื่อมาตะโกนโหวกแหวกแล้วลากผมขึ้นรถ
ผมเดินมาเรียกแท็กซี่ข้างถนน บริการสาธารณะไม่เคยขาดแคลนในย่านนี้อยู่แล้ว เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยผมก็บอกที่หมาย ลุงแท็กซี่เคลื่อนรถออกไป ทิ้งให้รถสปอร์ตโคตรเตี้ยจอดทแยงอยู่ที่หน้าร้านอาหารเวียดนามที่ผมคิดว่ารสชาติอาหารก็ดีแต่จะไม่กลับมากินอีก ห่างตาออกไปเรื่อยๆ

ผมไม่ได้หนี
คนเรา...ถ้าอยู่ในที่ที่อึดอัดจนอยู่ไม่ได้ ทำไมต้องทน
แม้คนที่เลือกห่างเขาออกมา จะเป็นคนที่เคยสร้างความรู้สึกดีๆให้ แต่ถ้าเสียดายแล้วต้องอดทนรับความรู้สึกแย่แบบไม่มีจุดจบ ผมยอมไม่มีความรู้สึกดี เพื่อไม่ต้องเผชิญความรู้สึกแย่
อย่างน้อ่ย “เขา” ในช่วงหนึ่งของความทรงจำของผม ก็เคยเป็นคนที่ทำให้ผมสบายใจ จนสามารถนอนร่วมเตียงกับเขาได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ

#### @ D A W N  #####

เช้านี้หนาวชะมัด
จะไม่ให้ผมนอนขดตัวขนลุกซู่ได้ยังไงครับ ก็เครื่องปรับอากาศในห้องชุดนี้ถูกปรับอุณหภูมิไว้ที่ 21 องศา คนเซ็ทอุณหภูมิคงไม่เคยเลี้ยงสิ่งมีชีวิตมาก่อน น่าจะเคยดูแลแต่ผักสดและผลไม้ เนื้อหมูเนื้อไก่ยังไม่ปรุงสุก ถึงได้ใช้อุณหภูมิระดับนี้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์
ฮัดเช้ย!
เมื่อหนาว ก็จะสั่น น้ำมูกเริ่มมา จามแล้วก็จะเจ็บคอ ถ้ายังไม่หยุดนอนแน่นิ่งห้องหนาวๆ แบบนี้ ผมอาจตายได้
ผมปิดแอร์ เดินอืดอาดมาที่ระเบีองห้องระดับความสูงชั้นที่ 18
แสงอาทิตย์ปลอบผมว่าวันใหม่มาแล้วนะ เริ่มต้นใหม่อีกวันแล้วนะ
น่าแปลก แสงอาทิตย์เช้านี้เยียวยาความอึมครึมของอารมณ์ผมไม่ได้เลย
ผมเป็นแบบนี้มาร่วมอาทิตย์ คนที่รับรู้ถึงอาการเซ็งมาก อารมณ์เสียง่ายสุดๆ ก็คือป้าสุ
ป้าไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้จักผมดีว่าอาการแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อผมอยู่ในภาวะคับข้องใจและหาทางออกไม่ได้ และผมก็ไม่เคยยอมให้ใครช่วยกรุยทางออกให้ผม
ผมจะหาวิธีแก้ปัญหาด้านอารมณ์ด้วยตัวผมเอง
อีกคนที่รู้ว่าผมฉุนเฉียวผิดปกติก็คือไอ้โอม แต่มันแวะมาหาผมไม่ได้หรอกครับ ช่วงนี้โอมวุ่นกับการเตรียมตัวไปปักหลักสร้างเนื้อสร้างตัวที่ต่างประเทศ ชีวิตมันยุ่งขึ้น 20% แต่ถ้ามายุ่งกับผมเมื่อไหร่ ความสามารถในการยุ่งเรื่องคนอื่นของมันจะถูกใช้เกินขีดจำกัดทันที
“เฮ้อออ” ผมสูดหายใจเข้าแล้วเป่าออกทางปาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโล่งหัวอะไรนัก ตอนนี้สิ่งที่บำบัดผมได้ก็คือการวาดรูปอยู่เงียบๆ คนเดียว
ปัญหาก็คือ ที่ห้องหรูหรานี้ไม่มีมุมวาดรูปให้ผมซุกตัวรักษาบาดแผลทางอารมณ์

หรือจะใช้เวลาว่างนี้ทำไอเอสดี?
ผมเริ่มเกิดไอเดียใหม่
คนเราไม่ควรจมอยู่กับสิ่งที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้
เมื่อผมเลือกจะเดินจากเขามาเอง ผมก็ต้องกับทางเดินที่เลือกเอง
เพราะฉะนั้น จงเริ่มต้นทำไอเอสได้แล้ว ไอ้วินเอ๋ยยยย
เมื่อคิดได้แบบนี้ ผมก็ปฏิบัติการทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าด้วยการอาบน้ำ จากนั้นก็กินข้าวที่มีคนเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ เปิดคอมพิวเตอร์ และ...

“อ้าว!” วิทยานิพนธ์ที่ยืมมาอยู่บ้านไม้หมดเลยครับ ผมเก้ออีกรอบ สุดท้ายก็ต้องขยับตัวทำในสิ่งที่โคตรไม่ชอบ

 “ป้าสุครับ วินจะไปบ้านไม้ ต้องไปเอาพวกหนังสือ ให้ลุงสมานเตรียมรถให้หน่อยได้มั้ยครับ”
“ขอบคุณครับ”

ทำไมผมต้องกระแดะมีคนขับรถกะทันหันน่ะหรอครับ
ก็เพราะว่า รถผมไม่ได้อยู่ที่ผม
รอผมจอดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่งใจกลางสุขุมวิทมาร่วมอาทิตย์ ผมไม่รู้ว่าจะมีคนดูแลมันหรือไม่ แต่จะให้ผมเร่หน้าโผล่แข้งขาไปเฉียดแถวนั้น ผมยอมไม่สนใจรถอีกเลยดีกว่าอีก!
ผมไม่อยากเจอเขา
ไม่ใช่ว่าเกลียด หรือรังเกียจแขยงอะไรเขานัก
แต่ผมต้องการให้เขาเป็นคนเข้ามาทำความเข้าใจกับผมเอง
ไม่ว่าจะทำความเข้าใจในตัวผม หรือทำความเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของผม
ถ้าเขายอมรับบทบาทของผมในฐานะพาร์ทเนอร์บริษัทใหม่ของเขา หรือพนักงานใหม่ในบริษัทเขาได้ เราคงคุยกันรู้เรื่องกว่านี้
ส่วนฐานะ ไอ้ยุ่งวินกับไอ้เหี้ยพี่โป๊ะ ทางที อาจจะดีกว่าถ้ายุติไว้ที่วันสุดท้ายของการสอบของผม
วันที่เขายังยิ้มให้ผมอย่างสดใส ให้กำลังใจเรื่องการสอบ และหัวเราะคำแซวของไอ้โอม เรื่องที่ว่าเขาไม่ยอมจ้างคนดูแลร้านกาแฟตคนใหม่เสียทีเพราะอยากกันที่ว่างเอาไว้สำหรับคนที่ –อาจ- เปลี่ยนใจอย่างผม


โทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น กดรับและฟังครู่เดียวก็วาง
เลาขาป้าสุโทรมาบอกว่าลุงสมานเอารถตู้มารอแล้ว
ป้าสุคิดว่าผมจะไปขนสมบัติอะไรนักหนาครับ ก็แค่วิทยานิพนธ์ 40 เล่ม และหนังสืออ้างอิงอื่นๆ 10 กว่าเล่ม ท้ายรถเบนซ์ป้าก็บรรทุกหมด
ผมลงไปที่หน้าคอนโด พบเจอรถตู้ขนาดบรรทุกหมู แต่ด้านในมีให้นั่งอยู่ 4 ที่นั่งไม่รวมส่วนพลขับ
ลุงสมานยิ้มให้แล้วก็รายงานความรับผิดชอบของแกที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าแกต้องรับผิดชอบ
“ผมไปดูแลบ้านไม้ให้อย่างดีเลยครับ”
“มีไอ้หนุ่มมาป้วนเปี้ยนอยู่ 2 วันแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง คุณท่านให้ยามเราไปดูแลแล้ว ไอ้หนุ่มนั้นแค่ผ่านไปผ่านมาเท่านั้นครับ”

“ไอ้หนุ่มหรอครับ คนแถวนั้นเขาเดินเล่นมั้งครับ ลุงสมานไม่ต้องซีเรียสหรอกครับ วินอยู่มาตั้งหลายปีไม่เห็นมีอะไร”

“ก็นั่นก็คุณท่านคอยส่งคนไปดูแลให้นั่นแหล่ะครับ แหล่งชุมชน มากคน”

“ครับครับ”
“ไปกันเถอะครับ จะได้รีบกลับ”

“คุณวินจะขนอะไรกลับมาเพิ่มจดไว้ก็ได้นะครับ เดี๋ยวลุงกลับไปจนมาให้”
“กระดานวาดรูปด้วยมั้ยครับ”

คำถามแกทำให้ผมครุ่นคิดว่า ชีวิตผมควรอยู่ที่ไหน ควรจัดวางแบบไหนกันแน่
ผมยิ้มและไม่ให้คำตอบ เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
เราร่วมรถกันไปเงียบๆ และลุงแกก็เข้าใจนิสัยผมดี ถ้าผมไม่พูดด้วยก็แปลว่าผมไม่มีอะไรจะพูดด้วย ไม่ได้หมายความว่าผมนอยด์โลกแต่อย่างใด

ผมได้มาเหยียบบ้านไม้ริมน้ำอีกครั้ง ไม่รู้ว่าช่วงไปอยู่คอนโดผมได้ยิ้มบ้างรึเปล่า แต่ผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อแก้มผมผ่อนคลายขึ้นเมื่อผ่านรั้วเหล็กที่ด้านล่างมีรอยผุเข้าไปแล้ว
กลิ่นดอกไม้ไม่มีมาแตะปลายจมูก แต่กลิ่นน้ำกร่อยชัดเจนเสมอ
ผมอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี เดินแกมกระโดดเข้าบ้านแล้วติดสปีดขึ้นบันได
ห้องนอนของผมเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ในตู้เสื้อผ้าคงไม่มีเศษผ้าอะไรให้หยิบเปลี่ยนเพราะป้าสุให้ขนไปหมดแล้ว
ผมเดินที่ระเบียง หยุดปลายเท้าที่หน้ากระดานวาดรูปแล้วเปิดผ้าคลุมออก
รูปที่คาอยู่ยังไม่เสร็จและไม่รู้ว่าจะวาดได้เสร็จมั้ย แต่ผมก็ไม่รังเกียจความไม่สมบูรณ์ของมันแม้แต่นิด ผมเลือกที่จะไล้ปลายนิ้วไปตามสีแนวน้ำที่เริ่มเกิดฝุ่นติดปลายนิ้วด้วยซ้ำ

ใบหน้าด้านข้าง
แนวหัวไหล่
แผ่นหลัง
และท้องฟ้าสีหม่นจนปวดหัวใจ
ผู้ชายคนนี้อาจไม่ได้คิดอะไรตอนที่เอียงมาทางผมในวันนั้น

และเขาคงไม่เคยรู้เลยว่า การอยู่ตรงนั้น ของเขา ทำให้ผมกล้าที่จะปล่อยน้ำตาให้กับเรื่องของรินนา
ในความทรงจำบิดเบี้ยวของผม เขามีตัวตน มีคุณค่าแก่การจดจำ แต่ในโลกความจริงแล้วเขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่สนใจคุณค่าของตัวเองในมุมมืดๆ ของผม
แต่ก็นั่นแหละ เขาก็ยังมีค่าพอจะจดจำไปเรื่อยๆ อยู่ดี

ผมเก็บกระดานวาดรูป ขาตั้งและผ้าคลุมมาตั้งในห้องนอนแทน ปิดประตูระเบียงที่เปิดยั่วยุงบินสูงมาหลายปี เมื่อเห็นว่าของมีค่าอยู่ในทีที่ไว้ใจได้ ผมก็เริ่มต้นขนวิทยานิพันธ์และหนังสือกองพะเนิน เพื่อเริ่มต้นการค้นหาของผมเสียที

“ใส่กระเป๋ามาเลยครับคุณวิน” ที่ลุงสมานต้องพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าตำราผมเยอะ แต่ก็ไม่อยากให้แกขับรถเข้ามาในซอย ผมรู้สึกว่ามันเป็นการรบกวนต่อมเสือกของผู้อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง

“ขอบคุณครับลุง” ผมทยอยเอาหนังสือลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ซึ่งต้องใช้ถึง 3 ใบ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมให้ลุงสมานลากไปที่ละใบ จนครบสิ่งที่ผมต้องการแล้ว ลุงสมานก็มายืนรอลากผมกลับไปที่รถ

“ลุงครับ วินจะอยู่ต่อสักพัก ลุงกลับไปก่อนเลย”

“แต่คุณท่านไม่ได้บอกว่าคุณวินจะอยู่ต่อนี่ครับ”

“ก็ป้าสุไม่ใช่วินนี่ครับ จะรู้ได้ยังไงว่าวินอยากทำอะไรขึ้นมากะทันหันบ้าง”
“กลับไปก่อนเถอะครับลุง นี่ก็บ้านวินเหมือนกันนะ อยู่มาตั้งนาน”
“กลับมาแค่แป๊บเดียว บ้านคงยังไม่หายคิดถึงวินหรอก”

“โถคุณวิน”
“จะกลับก็โทรเรียกลุงนะครับ เดี๋ยวมารับ”

“วินกลับเองได้ครับ จริงๆ ก็เดินนิดเดียว”

“ไม่ได้หรอกครับ อย่าลืมสิครับว่ามีไอ้หนุ่มแปลกหน้ามาด้อมๆ มองๆ” ย้ำเรื่องไอ้หนุ่มอีกแล้ว อะไรกันนักวะ ก็ไหนว่าป้าสุให้ยามที่โรงแรมมาคอยดูแลความปลอดภัยจากไอ้หนุ่มนั่นแล้วไง

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าไอ้หนุ่มนั่นมันมาด้อมๆ มองๆอีก วินจะดึงแบงก์ 20 ที่เหน็บฝาบ้าน ห่อหินแล้วไปให้มันไปเก็บ”

“โถ คุณวิน” น้ำเสียงนี่แยกไม่ออกเลยครับว่าเอือมผมหรือเอ็นดู ผมยิ้มให้ตบท้ายแล้วก็ปิดประตูรั้ว

ผมได้อยู่คนเดียวในบ้านเงียบๆ ท้ายชุมชุมข้างวัดตามใจอยาก
เสียงเรือด่วนที่ผมคุ้นเคยแว่วมาจากที่ไกลๆ จนผ่านหน้าบ้านผมไป แล้วก็จางหายไปกับเกลียวฟองน้ำกร่อย
บรรยากาศแบบนี้....ต้องนอนเท่านั้น
แคร่ไม้เก่าๆ ที่โอมชอบมานอนให้ผมสระผมให้ได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง
ผมนอนราบ ลืมตามองกิ่งไม้ของต้นมะม่วงใหญ่ข้างรั้วที่แผ่ร่มเงาเข้ามาเต็มพื้นที่ สีเขียวของใบไม้สบายตาดีจัง ช่วยตัดความจ้าของลำแดดด้วย

ผมหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนหูแว่วได้ยินเสียงที่ไม่ได้ยินบ่อยนักตั้งแต่มาอยยู่ที่นี่
เสียงคนกรีดร้อง
คุณลักษณะของเสียงบอกกับผมว่าคนกรีดร้องคือผู้หญิงแก่แล้ว
นอกจากเสียงกรี๊ดแล้วยังมีเสียงโหวกเหวกโวยวายเกิดขึ้นอีกด้วย
ผมกระพริบถี่ๆ ไล่อาการพร่าแสง ความเสือกที่มีกระตุ้นให้ผมเดินไปดูว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในที่ที่เคยสงบแห่งนี้
ยังไม่ทันได้พ้นรั้วไปทั้งตัว ไอ้รั้วบ้านี่มันก็ถูกดันกลับมา
ผมเซถอยหลังและต้องตกใจกับคนที่ดึงรั้วบ้านผมอีกครั้ง
ไอ้ห่านี่ใคร? ผมไม่เคยรู้จักมัน!
แล้วเสร่อมาเข้าบ้านผมได้ยังไง!

“เฮ้ย! ออกไปเลย”

“พูดมากนะมึง!” มันตะคอกผมแล้วก็พุ่งตัวมาหา ถ้ามองไม่ผิดไป ในมือมันมีมีด!
“อยู่เงียบๆ!” ใครจะเงียบให้มึงล่ะ! กูแดกข้าวนะเว้ย! ผมรีบวิ่งหนีไปหาก้อนหินใหญ่ๆ มาถือขู่เป็นอาวุธ ไอ้นี่มองหน้าผมแล้วชี้หน้าคาดโทษ มันหันรีหันขวางเพราะเริ่มมีเสียงคนวิ่งมาทางบ้านผมแล้ว ซอยนี้เป็นซอยตัน บ้านผมเป็นหลังสุดท้าย มันหนีไปไหนไม่ได้แล้ว
“มึง! มานี่เลย”

ผมไม่ตอบอะไร แต่สีหน้าคงบอกออกไปหมดแล้วว่ากูไม่ได้โง่ขนาดทำตามที่มึงบอกหรอก!
มันดูเคียดแค้น แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ จนเสียงฝีเท้าคนกรูเข้ามาใกล้มาก จนใครก็ไม่รู้อีกมากมายผลักรั้วผมเข้ามาแล้วก็โวยวายอะไรกันใหญ่โต
จังหวะที่ทุกคนงงกับการขยับเคลื่อนไหวและเป้าหมายของตัวเอง ไอ้คนมีมีดที่หมดทางหนีก็กระโจนใส่ผมจนหงายท้อง ผมไม่ทันได้แหงนมองว่ามันไปทางไหน แต่ได้ยินเสียงตูม! ก็พอจะเดาได้ว่ามันเลือกจะกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาหนี

“เฮ้ย! บอกพวกเราตามจับมันให้ได้ ไอ้โจรนี่วอนตาย”
“ไอ้หนู ไม่เป็นไรนะ” ประโยคหลังนี่คงพูดกับผมแน่ๆ เพราะลุงไม่คุ้นหน้าย่อเข่ามองผม

“เอ่อออ ผม...”
“เจ็บนิดหน่อยครับ”

“ตรงไหนล่ะวะ”
“อ้าวเฮ้ย! เลือดนี่ แผลตรงไหนวะเนี่ย”

“เอ่ออออออออออออ” ผมก้มมองตัวเอง ลูบท้องลูบหน้าอกก็ไม่มีแผลอะไร แต่แขนนี่เริ่มแสบๆ
“อ่อ ตรงนี้ครับ” ผมถลกแขนเสื้อยืดให้ลุงแกดู ตัวเองก็เอี้ยวไปมองด้วยเหมือนกัน ผมแค่โดนมีดถากเท่านั้น แต่ก็มันเลือดเจิ่งประมาณนึง
“ไม่เป็นไรครับ นิดเดียว”

“ไม่ได้ ไม่ได้”
“เดี๋ยวลุงพาไปหาแถวนี้” เอ่อไม่ดีหรอกครับ ป้าผมดุ ยิ่งได้เลือดบแบบนี้ยิ่งดุ

“ไม่เป็นไรครับ”

“คุณวิน!”
“คุณวินครับ คุณวิน” เสียงลุงสมานแว่วมาแต่ไกล ไม่นานแกก็แหวกกลุ่มคนแปลกหน้าทั้งหลายมาถึงตัวผม แต่การมาของแกไม่ได้ทำให้แปลกใจมากไปกว่าการมาของเขา

“วิน เฮ้ย! ทำไมได้เลือดแบบนี้”
“พี่พาไปโรงพยาบาล”
“ลุงครับ เอารถมารอเลย เดี๋ยวผมแบกไปเอง”

ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็คว่ำอยู่คาไหล่เขาแล้วครับ
เขาบอกว่าแบก เขาก็แบกจริงๆ วินาทีนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นกระสอบทราย

“คุณวิน ทำใจดีๆ นะครับ”
“โถ คุณของลุง อายุเท่านี้” ลุงสมานครับ ผมแค่โดนมีดถากเองนะ!

“วินไม่เป็นไรหรอกครับลุง”
“แถวนี้โรงพยาบาลใกล้สุดที่ไหนครับ รีบไปเลยครับ” ทันทีที่นั่งโอบผมอยู่บนรถแล้วเขาก็สั่งการทันที
“วิน เสียเลือดเยอะเลยนะ”

หือ? หรอ?
ผมกระพริบตามองเขาปริบๆ แล้วก็ก้มมองแขนตัวเอง
โอเค มันไม่ใช่แค่ถากแล้วครับ มันจ้วงเข้าไปลึกเหมือนกัน และที่สำคัญเหมือนหัวไหล่ผมจะกระแทกไอ้หินก้อนที่ยกมาขู่โจรนั่นด้วย รู้สึกขยับยากยังไงไม่รู้

“ไม่ต้องกลัวนะ”
“พี่มาแล้ว”


“............” ผมพูดไม่ออกแล้วล่ะ

“เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาล”
“วินไม่เป็นไรหรอก เชื่อพี่”

“ค...ครับ”

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่มาแล้ว” เขาย้ำคำเดิมของเขาเองอีกครั้ง วงแขนเขากระชับโอบผมแน่นขึ้น มือกำต้นแขนผมแน่น ผมเดาว่าเขากำเพื่อปิดปากแผลให้ อีกมือที่ว่างอยู่ก็ลูบหน้าผมเบาๆ เขาพูดย้ำอยู่แค่ว่าพี่มาแล้ว พี่มาแล้ว พี่มาแล้ว

คำนี้มันฝังเข้าไปในหัวผม ทำให้หัวใจผมสงบ ทำให้ผมไม่กังวลกับบาดแผลที่ร่างกายผมได้รับ และทำให้ผมเลือกจะกำเสื้อเขาไว้แน่นอีกครั้ง


Cut



เครียดกันหน่อยเนอะ
อย่าเกลียดอิพี่โป๊ะกันเลยนะคะ เธอมีปมของเธอ ฝากลุ้นน้องวินด้วยนะคะว่าจะแก้ปมตัวเองยังไง และแก้ปมในใจของพี่โป๊ะยังไง

จริงๆ แล้ว พี่โป๊ะกับวิน เป็นคนที่คู่กัน แบบ....ขาวคู่กับดำ คนผิดคู่กับคนถูก คนถูกลงโทษคู่กับคนลงโทษ ทำนองนี้

เราเชื่อว่าคนที่ติดตามมาตตลอดต้องรู้แน่ๆ ว่าความเป็นคู่ของ 2 คนนี้คือแบบไหน แล้วท้ายที่สุดแล้ว เขาก็จะขจัดจุดเชื่อมโยงนั้นแล้วก้าวเดินต่อไปได้หรือไม่

ยาวๆแล้วงงเนอะ (ยืมประโยคน้องธามมา)

เจอกันตอนหน้าค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2015 00:46:19 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน16(13-06-15)
«ตอบ #207 เมื่อ13-06-2015 01:10:22 »

สองคนนี้ทะเลาะกันจนเราลืมไปแล้วว่าพี่โป๊ะมันเป็นรอยยิ้มของวินในวันที่วินแย่
พอพูดถึงรูปเลยแบบ เออเนอะ ถ้าเราเป็นวินคงรู้สึกแย่มากที่พี่โป๊ะเป็นแบบนั้น
วินเลยเหมือนเลือกที่จะเสียใจเดินออกมาเอง แต่ยังเก็บความทรงจำดีๆ ไว้
แบบนี้ต้องขอบคุณโจรรึป่าวที่จะทำให้พี่โป๊ะมันหันมาพูดดีๆ กับวินได้
พี่โป๊ะมันเคยเสียคนรักไปแล้ว คงไม่อยากจะพลาดอีกละมั้ง

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน16(13-06-15)
«ตอบ #208 เมื่อ13-06-2015 01:14:42 »

นึกว่าจะโกรธกันนาน 555+
พี่โป๊ะก็มาช่วยวินด้วย น้องวินไม่เป็นไรนะ

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน16(13-06-15)
«ตอบ #209 เมื่อ13-06-2015 02:40:53 »

สู้สู้ นะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด