At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185177 ครั้ง)

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน25(18-10-15)
«ตอบ #360 เมื่อ19-10-2015 21:11:47 »

โหยยย กำลังน่ารักเลยค่ะ พี่โป๊ะนี่พอมั่นใจแล้วลุยเลย ไม่สนอะไรเลยอ่ะ จะว่าฮาก็ฮา ฮามากด้วย แต่พี่โป๊ะต้องทุ่มเยอะหน่อยแล้วล่ะ น้องเขามีปม จะสงสารอีกหน่วยก็พี่รุตต์นี่แหละ ที่รู้ว่าไม่มีหวัง แต่ก็กระโจนลงสนามมาเจ็บเอง


ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน25(18-10-15)
«ตอบ #361 เมื่อ20-10-2015 07:51:29 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน25(18-10-15)
«ตอบ #362 เมื่อ20-10-2015 10:50:21 »

เอ่อ   พี่โป๊ะจะรู้ไหมเนี่ยะ  ว่าวินเป็นอะไร
พี่เองถ้าเจอแบบนี้ก็คงงงเหมือนกัน
ก็หยอกกันอยู่ดี ๆ ของขึ้นซะงั้น

ออฟไลน์ Piggie_Sea

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน25(18-10-15)
«ตอบ #363 เมื่อ21-10-2015 15:56:54 »

ถ้าพีโป๊ะไม่เคยทำร้ายเจมส์ บทดราม่าคงมีคนสงสารพี่โป๊ะเยอะกว่านี้แน่ 555
ใจแข็งไว้วิน อยากเห็นพี่โป๊ะเจ็บมั้ง.  :hao7:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน25(18-10-15)
«ตอบ #364 เมื่อ21-10-2015 21:20:14 »

จู่ๆก็มาบอกว่าจะจีบ เป็นใครกะงงล่ะวะ 555

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนพิเศษ


ผม....ขึ้นชื่อเรื่องมั่นคงในรัก
ผมมีความรักที่ฝังใจ แม้ว่าจะไม่มี “อีกฝ่าย” ให้เรียกว่าคนรักก็ตาม
เพื่อนบอกว่าผมโง่ ก็โอเค ไม่เถียง แต่ผมก็อยู่กับความภาคภูมิใจนี้มาตลอด จนกระทั่งวินาทีหนึ่ง ของวันหนึ่ง ของเดือนหนึ่ง ของปีหนึ่ง
สิ่งที่เกิดขึ้นในหลายวินาทีนั้น ทำให้ก้อนดำที่ถูกฝังให้หลับลึกอยู่ในหัวใจผม....ตื่นตัว


“ไอ้วินมันบ้านแตก พี่อย่าใจร้ายกับมันนะ”
“ใจร้ายห่าเหวอะไร ยุงกัด กูยังขอขมาก่อนตบไส้ไหล เมตตาสูงขนาดนี้หาได้ที่ไหน”
 “แล้วไงมึงเนี่ย”
“บ้านแตกเลยต้องมาแดกเหล้าหรอ? ห๊ะ?”
“ทักกูสิ จ้องหน้ากูไปสเก็ตภาพหรอ”
“เพื่อนมึงเป็นใบ้หรอโอม”

“สวัสดีครับพี่โป๊ะ ผมชื่อวิน”
“สะกดด้วยนอเนน แล้วก็นอเนนการันต์”
“ภาษาอังกฤษ ดับเบิ้ลยะ”

“สัส! กวนตีนนะมึง!”

สิ่งที่เกิดขึ้นในวินาทีเหล่านั้น...ความประทับใจค่อนข้างเป็นศูนย์ หลังจากนั้น ผมก็ยียวนไปตามนิสัย ไม่คิดเหมือนกันว่าไอ้เด็กนี่มันจะเอาแก้วเหล้าฟาดหัวผม หน้าตามันดูโมโห แสดงว่าสกิลการยั่วโมโหของผมยังไม่บกพร่องสินะ
ตอนนั้น ผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่เตะมันให้เข่าทรุดแล้วบังคับให้กราบตีนขอโทษเหมือนที่ผมทำกับรุ่นน้องคนอื่นๆ เวลาที่ความเดือดดาลมันพลุ้งพล่านในกระแสเลือด

วิน….ชื่อมันสะกดด้วยนอเนน แล้วก็นอเนนการันต์
วิณณ์…ผมจะจำเด็กนี่ไปจนวันตายเลย


ไอ้เด็กนี่ทำให้ก้อนดำๆ ในหัวใจผมขยับ แต่มันทำได้ยังไงผมก็ขี้เกียจจะหาคำตอบ ผมไม่มีเวลาวิเคราะห์ ไม่มีเวลาประเมิน เรื่องมันกลับกลายเป็นว่า ผมกำลังหาใครสักคนมาช่วยงานที่ร้านกาแฟ ชื่อมันก็มาอยู่ตรงหน้าให้ลองเลือก แล้วผมก็เลือก เลือกทั้งที่พอจะดูออกว่าไอ้ยุ่งนี่ก็ไม่ได้อยากทำงานนี้นัก
วิณณ์น่าสงสารระดับหนึ่ง ฟังเรื่องราวจากที่ไอ้โอมเล่าบ้าง บ่นออกมาบ้าง ด่าบ้าง จับใจความได้ว่า วิณณ์บ้านแตก พ่อแม่แยกทางกัน ตอนนี้อาศัยอยู่ในบ้านไม้ในสลัมาหลังวัด และมีผู้หญิงแก่เลี้ยงดู
มองๆ แล้วน่าจะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เพราะผิวพรรณเด็กนี่สะอาดสะอ้าน ใบหน้าก็หมดจด เสื้อผ้าที่ใส่มาเจอกันแต่ละครั้งก็มีแบรนด์ทั้งนั้น ไหนจะนาฬิกา โทรศัพท์ และท่าทางหยิ่งทระนงกับศักดิ์ศรีของการมีแม่ยกนั่นอีก
รวมๆแล้วก็น่ามองดี แต่ลึกๆ แล้ว ผมว่าผมไม่ชอบใจนักที่เด็กนี่หลงผิดไปกับเงินทองที่ผู้หญิงแก่ปรนเปรอ

ผมมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเด็กนี่ถี่ขึ้น ทั้งจากการเป็นจ้างมาทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟ และการเป็นอาจารย์-ลูกศิษย์กันที่มหาวิทยาลัย แม้ผมจะเป็นแค่อาจารย์พิเศษก็ตาม
หลังจากพินิจเด็กคนนี้มากขึ้น โดยรวมแล้ววิณณ์เป็นเด็กมีความคิดที่ดี เป็นเด็กดี แต่ระดับความกวนตีน ความไม่ยอมคนมีสูงมาก เรียกตามภาษาของไอ้โอมที่นิยามเพื่อนมันก็คือ เอาแต่ใจ แต่ผมไม่รู้สึกเดือดร้อนกับการเอาแต่ใจของเด็กนี่นัก เพราะสัมผัสได้ว่าพรรษายังต่ำ ผมเคยรับมือกับคนเอาแต่ใจสุดๆ มาแล้ว ระดับวินถือว่าอ่อนหัด

แต่....เด็กนี่ขายตัว...
ไม่สิ ก็แค่มีผู้หญิงแก่ส่งเสียนั่นแหล่ะ แต่สำหรับผม มันก็คือการขายตัวอยู่ดี
ทั้งที่เป็นเด็กมีความคิดความอ่านที่ดี รักดี หน้าตารูปร่างก็ดี พูดง่ายๆ ก็คือ วิณณ์มีต้นทุนทางสังคมติดตัวมาในระดับที่เรียกได้ว่าเยอะ  ก็ควรจะหยิบฉวยโอกาสจากสังคม สร้างความอยู่รอดให้ตัวเอง ด้วยมือตัวเอง ไม่ใช่มักง่ายใช้ทางลัดแบบนี้
บอกตรงๆ ว่าผมเสียดาย
ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเสียดายอนาคตของเด็กนี่
ยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งอยากดันให้เขาไปในทางที่ถูกต้องกว่านี้

ผมมีโอกาสได้ไปบ้านวิณณ์หลายต่อหลายครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงติดใจการอยู่ใกล้ๆ วินนัก ทั้งที่ก็ไม่ได้ชอบใจกับการยอมขายตัวให้ผู้หญิงแก่ แต่บรรยากาศระหว่างผมกับเด็กนี่มันดีขึ้นเรื่อยๆ
ผมไม่อึดอัดเวลากินข้าวกับวิณณ์
เราแลกเปลี่ยนเรื่องในใจระหว่างกัน แม้ว่าเด็กนี่จะคายความลับเพราะการบังคับของผม แต่ก็ถือว่าเจ๊ากันเพราะผมก็เล่าเรื่องรักฝังใจของผมให้เด็กนี่ฟัง แม้ว่าไอ้ยุ่งนี่จะดูไม่สนใจฟังนักก็เถอะ
เราซึ้กันแล้ว ผมคิดแบบนั้นนะ

จนมาวันหนึ่ง
ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง
มันเกิดขึ้นตอนที่ผมกำลังใจเต้นโครมครามระหว่างรอพบผู้ใหญ่ที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมาเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนที่กำลังจะจัดตั้ง
ผู้มีอำนาจที่เดินเข้ามานั้นผมรู้จัก แต่คนที่เธอแนะนำว่าเป็นหลานชายนั้น ทำให้ผมเปิดกะลาตัวเองและตระหนักถึงความจริงว่า ที่ผ่านมา กูไม่เคยรู้เรื่องเหี้ยอะไรเลย!
มันเป็นเหตุการณ์ที่ผมโกรธ อับอาย ขายขี้หน้า เจ็บใจ อยากตบหัวไอ้เด็กนี่ให้กะโหลกเคลื่อนผิดองศา แต่ผมก็ทำได้แค่ยิ้ม และรับสภาพการเป็นผู้ถูกหลอกอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้โปรเจคงานลุล่วงไปด้วยดี

วันถัดมาก็ต้องมาเจอกันตามตารางงาน ผมแกล้งนัดให้คุณชายวิณณ์มาที่ออฟฟิศบริษัทแม่แต่เช้า เพื่อลากกันไปที่ไซต์ก่อสร้างสตูดิโอแถวบางพลีที่ไกลโคตร
เห็นหน้าแล้วหมั่นเขี้ยวพิลึก อยากตีสักทีสองทีแล้วทวงถามคำขอโทษ แต่ก็อย่างว่า....ผมจะมีสิทธิ์อะไรล่ะ?
วิณณ์ไม่เคยบอกว่าขายตัว ผมไม่เคยเค้นคำตอบต่อคำถามที่ว่าขายตัวหรอ? และทำไปเพื่ออะไร
กลายเป็นว่าความหมางใจที่เกิดขึ้นกับผม สาเหตุมันมาจากการคิดเองเออเองของผม อีกเสี้ยวหนึ่งเป็นความผิดไอ้โอมน้องรัก(ประชด) ที่พูดแต่เรื่องที่ทำให้ผมเข้าคลาดเคลื่อน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนผิด และไม่ได้หมายความว่าผมต้องเป็นคนพูดคำว่าขอโทษเสียหน่อย

“อ่า มาแล้วหรอครับคุณวิน”
“ครับ คุณมือโปร” เด็กนี่คงอยากโดนฟาดสักโหลแน่ๆ ถึงได้ยียวนผมกลับ ทั้งที่ตัวเองทำผิดเอาไว้ สีหน้ารู้สึกผิดยังไม่มีให้เห็น จองหองพองขนเพราะคนหนุนหลังคือคนมีอำนาจสินะ ก็เออดิวะ! ผมมันหืออืออะไรไม่ได้อยู่แล้ว เพราะผมกำลังง้อให้แบงก์นี้มาร่วมทุน โถ่เว้ย!

หรือจะล้มโปรเจคแม่งเลย
ผมครุ่นคิดระหว่างทางขับรถพาเด็กนี่ไปดูสตูดิโอที่กำลังสร้าง ก่อนหน้านี้ผมเคยจำลองภาพไว้ในหัวว่า วันที่พาไอ้โอมกับเพื่อนรักของมัน(ซึ่งก็คือคุณชายวิณณ์นี่แหล่ะไ มาดูสตูดิโอในฝันของผม เด็ก 2 คนคงตื่นเต้นน่าดู คงจะมองเห็นภาพฝันเดียวกันกับผม คงจะช่วยเป็นแรงเล็กๆ น้อยๆ ให้ผม คงอยู่ข้างๆ ผมจนวันที่สำเร็จเป็นสตูอิโอที่สมบูรณ์
แต่ฝันของผมสลายแล้ว ข้อแรก เดี๋ยวไอ้โอมมันก็โบยบินไปเรียนต่อตามทางที่มันปูกระเบื้องเอาไว้
ข้อสอง คุณชายแห่งตระกูลแบงก์ใหญ่คงไม่สนใจความฝันเล็กๆ ของผมหรอก
ให้ตายเถอะ! ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด
และก็เพราะความพาลของผม ความไร้เหตุผลของผม ทำให้ผมไม่ฟังวิณณ์ที่ดูพูดคำขอโทษออกมา แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนประชด แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าเด็กนี่รู้สึกผิด และกำลังพยายามอธิบาย เพื่อให้บรรยากาศระหว่างเรา กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน....ก่อนที่เราจะรู้จักฐานะทางสังคมของเราอย่างถูกต้อง

ผมอารมณ์เสีย
ยิ่งฟังเด็กนี่พูดหรืออธิบายก็ยิ่งอารมณ์เสีย
ปากอยากจะถามนักว่า หลอกพี่ทำไม แต่ผมก็พอจะมียางอายพอจะรู้ว่า เด็กนี่ไม่ได้อยากหลอกลวงผม บางที เหตุผลของเด็กคนนี้อาจจะมีแค่ว่า ไม่รู้จะบอกให้ได้อะไรขึ้นมา ก็ได้
สุดท้ายผมก็ทำเรื่องให้มันใหญ่โต สมกับพี่ไอ้หมอนำมันเคยชื่นชมเอาไว้ว่า ผมถนัดเหลือเกินเรื่องทำให้เรื่องควายๆ กลายเป็นปัญหาโลกแตก
ผมทำหลานนายแบงก์เป็นลม ให้ตายเถอะ! ใครจะไปรู้ว่าบอบบางขนาดนี้
แต่เมื่อทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบ ผมพาวิณณ์มาส่งที่โรงพยาบาล เลือกเอาโรงพยาบาลเอกชน เพราะวิณณ์ไม่ได้เจ็บป่วยเร่งด่วน บวกกับคิดเอาเองว่า เขาเป็นถึงหลานนายแบงก์ พาเข้าคลินิกโรคผิวหนังแถวๆ ตลาดบางพลีคงไม่เหมาะเท่าไหร่
คุณสุชาดารักหลานชายคนนี้มาก ไม่ต้องใช้เวลาสังเกตนานผมก็ดูออก เธอรักของเธอเหมือนคลอดมาเองนั่นแหล่ะ
ผมขอโทษผู้ใหญ่ตามมารยาท แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า คนที่ผมต้องขอโทษเพราะทำเรื่องเสียมารยาทไว้มากมายคือวิณณ์ต่างหาก
เด็กนี่ตื่นแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่พอผมกลับเข้ามาส่วนของเตียงคนไข้ ก็เห็นนอนลืมตาทำหน้าใส
มันคงถึงเวลาที่ผมงี่เง่าไม่ได้ และต้องใช้เหตุผลคุยกัน
"วินหลอกพี่ทำไม"
และแล้วผมก็ได้พูดออกไปสักที คำที่ค้างใจผมมาตั้งแต่วินาทีแรกที่รู้ว่าวิณณ์คือหลานชายนายแบงก์
เด็กนี่เป็นคนอธิบายอะไรไม่เก่งเอาเสียเลย ไม่อ้อนวอน ไม่ร้องขอ แข็งทื่อ เถรตรงอยู่กับความรู้สึกตัวเอง ไอ้ดื้อนี่มัน....เฮ้อออ

“ก็อยากจะเกลียดหน้าหรอกนะ แต่....”
นั่นสิ แต่อะไรวะ? ผมก็งงตัวเองอยู่เหมือนกัน
สถานะของผมกับเด็กนี่เปลี่ยนไปหลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
เราเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกัน ครั้งนี้ผมไม่ได้คิดเองเออเองแล้ว พิสูจน์ทราบด้วยการพาวิณณ์กับคุณสุชาดามาดูสตูอิโออีกครั้ง

คุณสุชาดาฝากวิณณ์ไว้ให้ผมดูแลชนิดที่ป้อนกันถึงปากล่ะครับ
ผมก็รับปาก และไม่ได้รับปากตามมารยาทแล้วด้วย
แต่พอสอนงานให้วิณณ์เข้าจริงๆ ก็ดูเหมือนเราจไม่ใช่คนที่พูดกันครั้งเดียวก็รู้เรื่องนักหรอก ต้องเขวี้ยงอารมณ์ใส่กันก่อน และฝ่ายที่เริ่มฟาดอารมณ์ใส่ ก็ผมนี่แหล่ะ ช่วยไม่ได้ ผมมันผู้ชายงี่เง่านี่หว่า

ดูเหมือนจะงอนผม? ผมก็ไม่ได้มีเซ้นส์เรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ บอกตรงๆ ว่าดูไม่ออกหรอกครับ มาเจอกันอีกครั้งก็ที่ผับของผมนั่นแหล่ะ เห็นสภาพแล้วก็อยากจะขำ เพราะเด็กนี่เมาแอ๋อยู่กับเพื่อนซี้เขา ก็ไอ้โอมนั่นแหล่ะ
ผมสะกิดนิดหน่อย ตั้งใจจะปลุกให้ตื่นแล้วแซะไปวางบนเตียง แต่ไอ้ยุ่งมันก็ยุ่งขอแท้ไม่มีอะไรปนเลนจริงๆ ลงท้าย ผมก็นอนบนโซฟาตัวโปรดเพราะมันเป็นพี่โปรดของผม โดยที่นอนเบียดอยู่กับคุณชายวิณณ์ตัวยุ่งนี่แหล่ะ

“เออ เออ เอาที่สบายใจเลยไอ้ยุ่ง”
ผมบอกข้างหู ไม่รู้กระดูก 3 ชิ้นยังทำงานตามกลไกอยู่มั้ย? ไม่รู้วิณณ์จะได้ยินรึเปล่า ว่า เอาที่สบายใจ

มันคงเป็นเช้าที่วิบัติของวิณณ์ แต่เป็นเช้าที่สนุกสำหรับผม ผมได้แกล้งเด็กนี่อีกหลายเรื่อง ยิ่งเห็นทำหน้ายุ่ง ขมุบขมิบปากใส่ หรือกระทั่งอ้าปากด่าผมว่าเหี้ยครั้งแล้วครั้งเล่า ผมก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข...มันคงเป็นความสุขที่เกิดจากการแก้แค้น แม้ว่าผมจะยังนึกไม่ออกว่าผมแค้นอะไรน้องมันนักหนาก็เถอะ
ตกสาย วิณณ์ได้เจอกับโจ้ที่มาหาผมที่ออฟฟิศทาวน์อินทาวน์
วิณณ์กับโจ้รู้จักกันแล้ว ผมเลยไม่คิดว่ามีอะไรต้องแนะนำกันเป็นพิเศษ หรือต้องดูแลกันเป็นพิเศษ ก็ปล่อยตามเรื่องตามราว จนโจ้พูดอะไรเยอะแยะที่ผมรู้สึกรำคาญ เมื่อไหร่จะลดความเป็นผู้หญิงช่างจะห่วงลงบ้างก็ไม่รู้
เรื่องมันกลับกลายเป็นว่าผมปากไวไปพูดกระทบวิณณ์เข้า ประเด็นก็เรื่องที่ผมรู้สึกถูกหลอกนั่นแหล่ะ ผมรู้ว่าน้องไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ยังหลุดปากหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเหน็บแนมกัน ที่สำคัญคือเหน็บแนมต่อหน้าคนอื่นอย่างโจ้

“วินขอโทษแล้วนะ”
“วินขอโทษพี่โป๊ะทุกอย่างแล้วนะครับ”
“แล้ววินก็รู้สึกว่า ความรู้สึกแย่ๆ ที่พี่โป๊ะสร้างขึ้นมาคลอบตัววินไว้มันทำหน้าที่ของมันแล้ว”
“วินรู้สึกแย่ และน่าจะรู้สึกพอแล้ว”
“ถ้าพี่จงใจสั่งสอนวินเพื่อให้วินไม่ริโกหกหรือปิดบังความจริงอีก พี่ประสบความสำเร็จแล้ว วินหลาบจำแล้ว”
“และถ้าพี่โป๊ะยังไม่หยุดเป็นแบบนี้ ไม่หยุดหาเรื่องวินทุกเรื่อง ทำตัวห่างเหินเหมือนเราไม่เคยมีน้ำใจต่อกัน ไม่เคยนั่งกินข้าวด้วยกันดีๆ ไม่เคยแลกเปลี่ยนเรื่องที่ได้แต่เก็บไว้ในใจคนเดียว วินก็ว่าวินไม่ควรเสียเวลาทนอีก”
“มันเกินบทเรียนที่วินควรได้รับมากเกินไปแล้ว”

“แล้วยังไง”
“พูดมาตั้งเยอะ คุณจะทำอะไรล่ะ”
“ถ้าผมทำให้คุณอึดอัดจนทนไม่ได้แบบนี้ คุณจะทำยังไง”

“วินไปเอง”
“คุณอยากกดดัน อยากทำโทษอะไร กับใคร ก็เรื่องของคุณ”
“แต่ผมจะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น”

บอกว่าจะไป แล้วก็ไปจริงๆ
วิณณ์ไม่มาทำงานร่วมอาทิตย์
วันแรก ผมคิดเสียว่าให้เวลาเด็กนี่ปรับอารมณ์
วันที่สอง ผมคิดเสียว่าให้เวลาตัวเองดับอารมณ์
วันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้า ผมแทบบ้าเพราะทำงานไม่ได้เลย หงุดหงิดกับทุกอย่างแม้กระทั่งกาแฟที่แนนชงมาให้ ทั้งที่มันก็รสชาติเดิมแต่ผมก็พาลอารมณ์เสียใส่เลขาแสนอึดได้อย่างหน้าด้านๆ
และวันที่ผมทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ก็มาถึง ผมบากหน้าไปหาวินที่บ้านไม้ริมน้ำหลังนั้น หลังจากแอบเลียบๆ เคียงๆ ถามคุณสุชาดา ซึ่งเธอดูเหมือนจะตีประเด็นไปว่าหลานเธองงแงเอง

ไปถึงก็เจอไทยมุง เสียงเอะอะโวยวาย เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงกรีดร้องของป้าๆ ทั้งหลาย หลายคนชี้มือไปที่บ้านวินแล้วก็บอกช่วยด้วย ช่วยไอ้หนุ่มนั่นด้วย ผมก็จ้ำไม่คิดชีวิตเลย
วิณณ์ที่ผมเจออีกครั้งคือลูกหมาที่ได้รับบาดเจ็บ ตัวก็นิดเดียว น่าสงสารชิบหาย เด็กนี่นอนหน้าซีด คงกำลังตกใจกับเหตุการณ์ พอช่วยกันกับลุงสมานประคองวินขึ้นรถเพื่อพาไปทำแผลที่โรงพบายาลได้แล้ว ผมก็พูดคำที่ไม่ได้พูดกับใครมานาน

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่มาแล้ว”

มันเป็นคำพูดของฮีโร่
ผมเป็นฮีโร่ของลูกแพร์ ทั้งชีวิตนี้ผมไม่คิดจะปกป้องใครอีก เพราะมือผมไม่ได้แข็งแกร่งกว่าใคร หลังผมไม่ได้มีปีกงอกให้แปลกแยกจากคนอื่น ผมก็แค่คนธรรมดา ที่เมื่อคิดจะเป็นฮีโร่ให้ใครสักคนแล้ว ผมก็จะใช้ทั้งชีวิต
ผมเป็นฮีโร่ของลูกแพร์ ผมจะทุ่มเทให้เธอตลอดชีวิต
แต่ชีวิตเราไม่ได้เดินคู่กัน ไม่มีกระทั่งโอกาสเดินเคียงกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยสถานะใดก็ตาม
แพร์จากแล้ว ชีวิตผมไม่มีใครให้ใช้มือธรรมดาคู่นี้ปกป้องแล้ว แผ่นหลังไร้ปีกนี้ไม่มีใครมาคอยหลบคอยซุกขอแรงขอกำลังใจอีกต่อไป
จนกระทั่งเจอเด็กคนนี้
วิณณ์ปลุกให้ก้อนดำๆ ในหัวใจผมตื่นขึ้น
ไอ้ตะกอนที่เกาะกันเป็นก้อนดำนี้เริ่มลอกคราบตัวเอง เปลือกสีดำกำลังหลุดร่อนทีละนิด ทีละนิด

สิ่งแรกที่ผมทำเพื่อวิณณ์ และวิณณ์ก็เต็มใจรับความช่วยเหลือจากผม ก็คือการช่วยพูดให้คุณสุชาดา เชื่อใจหลานชายตัวเองและอนุญาตให้วิณณ์กลับมาอยู่บ้านไม้ได้อีกครั้ง ภายใต้ข้อแม้ว่า ห้ามอยู่คนเดียว และผมก็คือคนที่จะมาอยู่บ้านไม้กับวิน ในฐานะ ผู้เช่า
แต่เอาเถอะ จากเด็กที่เป็นเพื่อนกับน้องที่ผมรักมันเหมือนน้องจริงๆ มาเป็นลูกจ้างชั่วคราว แล้วก็กระโดดมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เป็นคนที่ผมต้องสอนงานด้วย ทำงานร่วมด้วย และมาเป็นเจ้าของบ้านที่ผมมาเช่าอยู่ ทั้งที่มีบ้านพ่อ บ้านตัวเอง คอนโดตัวเอง บ้านต่างจังหวัด รีสอร์ท บ้านในสวนองุ่นอยู่แล้ว

ตอนนี้ ผมคิดว่าผมกำลังมีความสุข กับการได้ปกป้องวิณณ์



-จบ-


สวัสดีค่ะ แฮ่ๆ ช่วงนี้มาถี่ เพราะว่าเราคิดถึงงงงงงงงการเขียนฟิค และเราปรับอารมณ์ให้ไม่หนืด ไม่อืด ไม่หม่นได้แล้วเลยมาเขียนต่อ
ตอนนี้เป็นส่วนของความรู้สึกพี่โป๊ะนะคะ
พี่โป๊ะอาจจะไม่ใช่คนเท่ที่สร้างความประทับใจให้คนที่ได้พบได้เจอแบบ 100 คะแนนเต็ม แต่พี่โป๊ะเป็นคนจริงค่ะ
ใช่ค่ะ พี่โป๊ะเป็นคน ไม่ได้เป็นตัวเหี้ยเหมือนที่น้องวินแอบด่าและด่าตรงๆ แต่อย่างใดๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ  :m20:

ล้อเล่นค่า แซวพระเอกขำๆ เพราะรู้สึกว่ากระแสความเกลียดชังถูกฝังอยู่ในตัวพี่โป๊ะเยอะเลย
โถๆๆ พี่แกล้งใครไม่แกล้ง ดันไปแกล้งน้องเจมเด็กดีนี่เนอะ
มาเรื่องของตัวเองบ้าง ก็เจอเด็กปราบเหี้ยหน่อยเถอะค่ะ

อัพเดทกันนิดนึงนะคะ
ตอนนี้มีงานมหกรรมหนังสือนานาชาติ ฮูเล่! อยากไปเดินชมงานเหมือนกันแต่เจียดเวลาไม่ได้เลยจริงๆ ค่ะ
แต่!! แม้ตัวเราไม่ได้ไป ก็ส่งหนังสือเล่ม เรื่อง Hear,Me (ที่หนึ่ง-เจม)  ไปอวดโแมอยู่ที่บูธสะพาน N03 โซนซี 1 และจะไปวางเพิ่มเสาร์หน้า โซน wonderland เบเกอรี่บุ๊ค บูธ Y01 ห้องบอลรูม ด้วยนะคะ
แฟนฟิค (มีหรอ? มีแหล่ะน่า) ที่อ่านที่หนึ่ง-เจม แต่ไม่ได้เก็บแบบเล่ม จัดหามาสะสมกันได้นะคะ ไว้สำหรับอ่านยามไฟฟ้าดับ ฮ่าๆๆ (มันใช่มั้ย มันใช่เวลามั้ย?)  ตอนพิเศษในเล่มน่ารักด้วยค่ะ สนนราคาพิเศษ 630 บาท

ฝากไว้เท่านี้ค่ะ
สำหรับตอนต่อไปของแอทดอน ความหน่วงจะเริ่มมา แต่ใครเป็นฝ่ายหน่วงนั้น ฝากติดตามด้วยค่ะ
ส่วนผู้ติดตามคู่รักแอดไทเป รออีกประเดี๋ยวนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2015 01:21:57 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
พี่โป๊ะก็เป็นคนดี :กอด1:
เพราะฉะนั้น ตอนหน้าพี่โป๊ะเป็นคนหน่วงนะ เพราะเค้าหมั่นไส้พี่โป๊ะ อ้าว! :laugh:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เอาอีกกกกก. ยังเล่าไม่จบเลย พี่โป๊ะ
ว่ารู้ตัวตอนไหนน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
พี่โป๊ะมาต่ออีกนะ :pig4:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
พี่โป๊ะต้องสู้นะ วิณณ์ท่าทางจะใจแข็ง 555  o18 o18 o18 o18 o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่โป๊ะงี่เง่าจริงๆอะ แต่ก็รักนะ

ออฟไลน์ athena_tiew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่รู้สิ ยังไงก็ไม่อยากให้วิณณ์ยอมอ่อนข้อง่ายๆ พี่โป๊ะเหมาะที่จะเป็นคนคอยตามใจวิณณ์มากกว่า

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านตอนพิเศษแล้วคิดว่า พี่โปร เป็นคนที่อบอุ่นมากกกกกกกกกกกก
รักเลยผู้ชายคนนี้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ก็โอเคนะพี่โป๊ะะะะะะ
ยกวินให้ก็ได้ คึคึ

ออฟไลน์ Piggie_Sea

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่โป๊ะก็ไม่ได้ 'เหี้ย' อย่างที่คิดนะ555
มาบ่อยๆก็ดีนะคะ เริ่มอยากเห็นคู่นี้สวีทกันแล้ว
รอค่าา :mew1:

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เพราะพี่โป๊ะแกล้งน้องเจมนี่แหละ เราเลยต้องส่งน้องวินสะกดด้วยนอเนน และนอเนนการันต์มาปราบ (น้องวินสู้ไหวไหมลูกกก)

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
อยากจับหมาเจม ธาม วิน มาอยู่ด้วยกัน
แล้วทำเรื่องแสบๆให้บรรดาฝาละมีดิ้นกะแด่วๆ :laugh:
มีสเปอิพี่โป๊ะแล้วจะมีจะสเปพี่รุตต์ไหมคะ
สงสารพี่รุตต์ หาคู่ให้พี่รุตต์หน่อย :monkeysad:

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เชี่ยพี่โป๊ะ ก็เป็นแบบที่เข้าใจจริงๆ ด้วย
ว่าแล้วเชียว.... จริงๆ แล้วน่ารักจะตายไปคุณมือโปรรรร

ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
นายทำดีแล้ว.... /ตบไหล่ตัวเหี้ยเบาๆ

น้องเค้ากำลังสับสนน่ะ ให้เวลาน้องเค้านิดนึงนะเหี้ยนะ T^T


ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26 (11-11-15)
«ตอบ #379 เมื่อ11-11-2015 20:13:25 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 26



ปึ้ด!
เสียงดีดนิ้วแห้งๆ ดังขึ้นข้างหู
ผมสะดุ้งและหลุดจากภวังค์พลางหันมองต้นเสียง
“พี่รุตต์”

“ก็พี่น่ะสิ คิดว่าใครล่ะครับ แล้วนี่ใจลอยไปไหน หืม?” ผมไม่ตอบคำถามและเลี่ยงด้วยการยกมุมปากขึ้น หวังว่ามันจะเป็นอากัปที่เหมือนการยิ้มมากที่สุด พี่รุตต์ไม่จี้ถามอะไรต่อ เขาดมเบียร์ตรงหน้าแล้วก็วางลงตามเดิม ผมล่ะอดสงสัยไม่ได้ว่าแค่ดมก็เพียงพอแล้วหรอ
“อิ่มแล้วหรอครับ เมื่อกี้บอกหิวมากไม่ใช่หรอ?”

“ก็อิ่มๆ”
“แต่ก็กินอีกได้ครับ”
“พี่รุตต์ลองเมนูนี้สิ อร่อยนะ” ผมชี้ชวนให้เขากินเมนูเด็ดของที่นี่ ตอนนี้เราอยู่ที่ร้านอาหารย่านพระราม 3 มุ่งหน้าสะพานกรุงเทพ ร้านที่นายมือโปรเคยพาผมมานั่นแหละ แต่ผมไม่ได้บอกพี่รุตต์ถึงต้นตอที่ทำให้ผมเลือกมาร้านนี้อีกครั้งหรอกครับ

“มาบ่อยหรอครับ”

“ครั้งเดียวครับ” ผมตอบตามความจริง นึกภาวนาไม่ให้เขาถามว่ามากับใคร และอย่าถามถึงเรื่องที่โยงไปถึงนายมือโปร

“กับ....” หยุดถามแล้วครับ เพราะผมจิ้มทอดมันกุ้งยัดเข้าปาก พี่รุตต์หัวเราะนิดหน่อยแล้วก็เคี้ยวตุ้ยๆ เป็นอันว่าบทสนทนานี้จบลงด้วยดีโดยที่ผมไม่ต้องรื้อความทรงจำที่เกี่ยวกับนายมือโปร

ผมดื่มเบียร์ไปหลายขวด เลือกสั่งแบรนด์ญี่ปุ่นเอาใจนักเรียนญี่ปุ่นหน่อย  จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวหรอกครับ แค่มันอร่อยดีเท่านั้นแหล่ะ พี่รุตต์ออกอาการประหลาดใจที่ผมสั่งเบียร์ดื่ม เพราะปกติผมจะเป็นคนแก่ดื่มน้ำชาร้อนเท่านั้น แต่ร้านนี้ไม่มีน้ำชาบริการ ผมก็เลยต้องสั่งน้ำหมักมาแทน

“เมามั้ยเนี่ย”

“กรึ่มๆ เอง แต่ไม่เป็นไร วินไม่ได้ขับรถ พี่รุตต์ไปส่ง”

“หิ้วขึ้นคอนโดเลยดีมั้ย ดูสิ เดินก็เป๋ๆ” พูดไปนั่น ผมไม่ได้เด่นเป๋ซะหน่อย แค่เดินจับแขนเขาไว้ตลอดเวลาแค่นั้นเอง พอฟังผมแถแล้วพี่รุตต์ก็หัวเราะหึในลำคอ เขาหลุบตามองผมที่เอียงแก้มซุกหัวไหล่เขาเอาไว้อีกทอด
“วินก็ไม่โตแบบนี้ไง พี่ถึงปล่อยมือไม่ได้สักที”

“ทำไมอยากปล่อยมือวินล่ะ”

“ก็วินมีอีกมือของอีกคนจับไว้เหมือนกันนี่ครับ แล้วดูเหมือนวินจะกุมมือเขาไว้เหมือนกัน”

“ไม่มีหรอก พี่รุตต์ตาฝาดแล้วครับ”

“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ”

ใช่ ผมไม่ได้กุมมือใครไว้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพี่รุตต์ หรือนายมือโปร
ถ้าผมเลือกได้ ผมก็จะเลือกกำมือตัวเองให้แน่นจนอากาศก็เบียดร่างที่จับต้องยากของมันเข้ามาไม่ได้ เพื่อที่จะได้เห็นใครคนนั้นในระยะใกล้สายตา
ผมไม่แตะไม่ต้องก็ได้ ไม่รักก็ได้ ไม่แสดงออก ไม่โหยหา ไม่อะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่ได้อยู่ในระยะใกล้กันแบบนี้ตลอดไป

“มันจะเป็นอย่างนั้นครับ”
“พี่รุตต์ ไปส่งวินให้ถึงบ้านเลยนะ”
“เดินไปส่งถึงบ้านเลยนะครับ”

“อ้อนหรือสั่งพี่เนี่ยวิน หืม?”

“สั่งครับ” ผมฉีกยิ้มให้เขามอง สายตาเขาอ่อนโยน แววตาเขาช่างคุ้นเคยเหลือเกิน เขามองผมด้วยสายตาเดียวกันกับที่นายมือโปรใช้มองผมในระยะหลัง
ผมสงสารที่พี่รุตต์ยังคงมองผมแบบนี้
แต่ผมทรมาน ที่นายมือโปรมองผมแบบนี้


ผมถูกจูบ แน่นอนว่าหลังจากขึ้นมาบนรถแล้ว พี่รุตต์ขบเม้มมุมปากผมอย่างหยอกเย้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะถอนตัวห่างออกไป เขาปรับแอร์ให้เป่าหน้าผม ถามว่ายังร้อนอยู่มั้ย สบายตัวขึ้นรึยัง อยากจะตอบมากเลยว่าเพราะไอ้จูบเมื่อกี้แหล่ะที่ทำให้ไม่สบายตัวขึ้นมา

“ขอโทษนะครับ”

“หือ เรื่องอะไรครับ” ผมถามทั้งที่หัวยังมึนๆ ไม่รู้ว่าเสียงยานคางรึเปล่า แต่ดูเหมือนอาการของผมตอนนี้จะไม่ใช่อาการปกตินัก อย่างน้อยพี่รุตต์ก็ไม่เคยเห็นผมในสภาพกึ่งเมาแบบนี้มาก่อน

“ที่จูบวิน”
“ถ้าไม่เมา คงบ่ายเบี่ยงพี่แน่ๆ”

“..................” ไม่ตอบดีกว่ามั้ง ผมหันมองพี่รุตต์ที่ก้มหน้า ถอนหายใจอยู่หลายรอบ ดูเหมือนเขามีอะไรจะพูดกับผมมากเลย
“พี่รุตต์ มีอะไรรึเปล่า”

“พูดไปตอนนี้ ตื่นเช้าวินจะลืมมั้ย”

“วินไม่ได้ปลาทองนะครับ ไม่ได้ความจำสั้น”

“แต่ตอนนี้กึ่มๆ อยู่ไง”

“กึ่มก็ยังรู้เรื่อง”
“พูดมาเถอะครับ เก็บไว้จุกอก ต่อให้เยี่ยวออกมา 100 รอบก็ไม่หายจุก”

หัวเราะแล้ว...อาจารย์นำเข้าจากญี่ปุ่นขยี้หัวผมแล้วก็จับหัวค้างไว้ เขายื่นหน้ามาเสียใกล้จนผมหลับตา ในหัวคิดเหมาไปแล้วว่าเขาต้องจูบผมอีกแน่เลย
เขาไม่จูบ แค่ลูบหน้าผมไปมา มองอย่างอาวรณ์เกินจะเปรียบเปรย แล้วก็ผละห่างออกไป

“พรุ่งนี้ พี่ก็กลับแล้วนะ”

“เอ้ย!” แทบหายเมาเลยครับ ผมคว้าแขนเขาไว้แล้วเขย่าถาม
“ทำไมล่ะครับ ไหนว่าอยู่ 2 อาทิตย์ไง นี่ยังไม่ถึงเลย”
“เพราะวินรึเปล่า พี่รุตต์อย่าทำแบบนี้”
“น้อยใจวินทำไม วินรักพี่เหมือนเดิมนะ”

“ก็เพราะรักเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ พี่ถึงต้องถอยออกไป”
“เพราะวินไม่มีวันรักพี่ได้หรอก ห่างออกไป ระหว่างเราจะได้ยังเหมือนเดิม”
“ถ้าพี่อยู่ใกล้วินนานกว่านี้ อาจจะทำให้เราเกลียดกันก็ได้”
“ความรักมันมีแต่เรื่องคาดไม่ถึง เนอะ”

“การอยู่ห่างกัน มันเป็นวิธีรักษาความสัมพันธ์ตอนนี้ที่ดีที่สุดหรอครับ”

“พี่คิดว่างั้น หรือวินว่าไง”

“นั่นสิ บางทีการอยู่ห่างอะไรที่เรารัก อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้เราได้อยู่กับสิ่งที่เรารักนานที่สุดก็ได้” ผมนี่มึนแล้วน้ำเน่าดีจัง พี่รุตต์ฝืนยิ้มให้ผม เขาแกะมือผมที่เกาะแขนเขาไว้ จับมันวางที่หัวเข่าผมเอง แล้วก็ตบมันเบาๆ

ถ้านี่คือการบอกลาเพื่อรักษาความเป็น “เรา” ในตอนนี้เอาไว้ พี่รุตต์ก็คือที่บอกลาได้อ่อนโยนที่สุด กอบโกยที่สุด และน่าสงสารที่สุด
พี่รุตต์ไม่ได้อะไรจากผมเลย นอกจากการแตะริมฝีปากผม 2 ครั้ง

เขาเคลื่อนรถออกจากร้าน หางตาผมเห็นรถคันคุ้นตาจอดอยู่ และไม่รู้ว่าหลอนไปเองรึเปล่าว่านั่นคือรถนายมือโปรที่ผมนั่งจนชินกลิ่น และก็ไม่รู้ว่าหลอนมากไปรึเปล่าที่เห็นว่าในรถมืดๆ นั้น มีคนนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ
ถ้าที่ผมเห็นเพียงแว๊บเดียว คือเรื่องจริง นายมือโปรก็เพิ่งเห็นเลิฟซีนเบาๆ ของผมกับพี่รุตต์ไปเต็มสองตา


#### @ D A W N  #####


ผมบอกให้เดินมาส่ง พี่รุตต์ก็เดินมาส่งจริงๆ
เขาไม่กล้าเอารถเข้าซอย เพราะรับรู้ได้ถึงความแคบของและอาจทำให้ชาวสลัมลำบากกับการลุ้นว่ารถยนต์คันใหญ่นี้จะเฉี่ยวจะเกี่ยวเอาราวกางเกงในติดมากับกระจกข้างรถรึเปล่า
อาจารย์นำเข้าเดินพาผมมาถึงหน้าบ้านแล้วก็สั่งเสียให้อาบน้ำ ดื่มน้ำอุ่นๆ แล้วก็เข้านอน ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็ปรึกษาเขาได้ตลอด หรือแค่อยากมีคนฟังก็โทรหาเขาได้ทุกเวลา เขารับประกันว่าจะเป็นผู้ฟังที่ดีเหมือนอากาศ ผมยืดตัวกอดเขาครั้งสุดท้าย ยิ้มให้อย่างเข้าใจทุกอย่างที่เขาต้องการสื่อสาร และก็เดินเข้าบ้าน
รถยนต์คันโก้จอดอยู่ในรั้วบ้าน ทักษะการขับรถของนายมือโปรดีมากจริงๆ หรือไม่เขาก็หน้าด้านมากจริงๆ
ผมยืนมองรถอย่างใช้ความคิด
ถ้ารถจอดอยู่ แล้วคนขับรถนี้อยู่ในบ้านแล้ว ที่หางตาผมเห็นเมื่อกี้ก็อาจจะแค่หลอนไปเอง เขาคงไม่เห็นเหตุการณ์บนรถที่ผมถูกปาดริมฝีปากหรอก

ผมเดินเข้าบ้าน และแม่งล็อก!
ให้ตายเถอะ! นี่บ้านผม ทำไมผมต้องมาเคาะเรียกต้องอ้อนวอนให้คนอาศัยมาเปิดประตูให้ด้วยวะ!
“พี่โป๊ะ! วินจะเข้าบ้าน” เงียบครับ หรือว่าจะหลับไปแล้ว อย่านะเว้ย! ให้ผมนอนข้างนอกไม่ได้นะ! ยุงกัดตายห่าเลย
“พี่โป๊ะ เปิดประตูหน่อย วินกลับมาแล้ว”
“พี่โป๊ะ”
“พี่โป๊ะ”
“ไอ้พี่โป๊ะ”
“ไอ้เหี้ยพี่โป๊ะ เปิดประตู!”

ปิ๊บปิ๊บ
ครับ ประตูเปิด
แต่เป็นประตูรถนะครับที่ตัวเสร่อมันเปิดให้
โอเค งั้นที่หางตาผมเห็นก็ไม่ใช่ภาพหลอนแล้วหล่ะ และตอนนี้เขาคงกำลังแก้แค้นผมอยู่ อยากถามเหลือเกินว่ามึงมีสิทธิ์อะไรครับ!
แต่ก็เอาวะ เปิดประตูรถให้ ผมก็จะนอนแม่งในรถนี่แหล่ะ
ผมพุ่งตัวขึ้นรถ เลือกนั่งเบาะข้างคนขับเพราะชินกว่า ปิดรถได้ก็ปรับเบาะ เตรียมเอนหลังนอนรอเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ชีวิตผมจะได้เริ่มต้นใหม่เสียที แต่ราตรีนี้ยังโหดร้ายกับผมเหมือนเดิม
ตัวขี้โมโหพุ่งตัวออกมาจากบ้าน ล็อกกุญแจแล้วก็พุ่งเข้ามาในรถโดยที่ผมยังทำให้ตัวเองหายงุนงงไม่แล้วเสร็จ

“อะ....อะไรอ่ะพี่โป๊ะ” ผมถามด้วยเสียงละมุนละม่อม การแสดงอากัปกรรโชกสู้กับตัวขี้โมโหตัวนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีหรอกครับ ผมเรียนรู้มาแล้ว

“อยากมากหรอ? ในรถก็ไม่เว้น!”
“จะจัดให้ จะได้รู้ว่ามันปวดหลัง”

“เฮ้ยยยยยยยยยยย” มันปล้ำผม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ผมสร่างเลย คิดว่าชาตินี้จะไม่กึ่มไม่เมาอีกแล้ว เพราะมันทำให้ผมคิดอะไรช้า แข้งขาอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมาดื้อๆ ยิ่งตอนที่เขาไซร้คอนี่สารภาพเลยว่าไปแล้วครับ อารมณ์แม่งเหี้ยเหลือเกิน ทำไมกระตุ้นง่ายจังวะ!

“พี่โป๊ะ!”
“พี่โป๊ะ! หยุด หยุด”
“พี่ทำบ้าอะไร”
“นี่เรียกข่มขืนวินเลยนะ ถอยออกไปเว้ย!”

“ไม่!”
“ทีกับไอ้คุณรุตต์นั่นทำไมยอม”
“ไหนว่าไม่รักไง”
“ปล่อยตัวให้ท่าเองชัดๆ ทีพี่ทำบ้างทำไมห้าม!”

“ด่าวินอีกแล้วนะ ลุก!”

“รุกอยู่นี่ไง!” แม่งกระดกลิ้นรัวให้รู้ว่ารุกแท้ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ด้วย! ไอ้บ้า กูไม่ได้หมายถึงรุกแบบนี้เว้ย!

“พี่โป๊ะ ปล่อยวินก่อน”
“พี่โป๊ะ”

“ไม่!” เสียงเขียวเข้มครึ้มเหมือนขี้เมฆอมฝน
“วินทำไมให้พี่หึงมากเกินไปแล้ว”
“วินทำเกินไปแล้ว พี่บอกหรอว่าอดทนเก่ง ห๊ะ ห๊ะ!” แม่งจะแดกหัวผมอยู่แล้ว ไอ้กลัวมันก็กลัวอยู่หรอก แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเขาจะไม่ทำร้ายผม ไม่ว่าจะเป็นทางตัว หรือทางใจ เอาวะ! ชวนเจรจาพาทีไปก่อนก็แล้วกัน หวังว่าเขาจะสงบอารมณ์ได้เร็วๆ นี้

“วินไม่ได้อยากทำให้พี่โป๊ะหึงซะหน่อย”

“แต่พี่หึงไง”
“พี่ชอบวินมากนะ อย่าทำเรื่องแบบนี้กับใครอีก”
“มันเป็นโมเม้นท์ของพี่!”


นี่เขาคิดว่าเขาซื้อผมมาหรอ? หรือเขาผลิตผมขึ้นมาบนโลกใบนี้?
โถ ขี้ขโมย! ผมถูกจดลิขสิทธิ์ไว้แล้วเว้ย! โดยป้าสุครับ

ผมยอมไม่ดิ้น ยอมอยู่ในอ้อมกอดที่ทุลักทุเลของเขา ยอมเอียงแก้มให้เขาเอาแก้มเอาคางมาซุกไซร้ แสดงความเป็นเจ้าของผมอยู่ทั่วตัวเสร็จแล้วก็ยอมปล่อยครับ

“ขอโทษ” เขาพูดคำที่ทำให้ผมประหลาดใจ นายมือโปรขอโทษผม นี่เขารู้สำนึกก่อนที่ผมจะอ้าปากด่าซะอีก
“พี่มันอารมณ์ร้อน ไอ้หมอก็ด่าบ่อยๆ แต่มันหยุดตัวเองไม่ค่อยได้”
“ก็พี่ลูกคนเดียว ไม่ค่อยมีใครขัดใจ” นี่คือเหตุผลประกอบคำขอโทษหรอ ทำไมดูตลกจัง แต่ก็ดูน่ารักดี

“วินก็ลูกคนเดียว แต่วินไม่เอาแต่ใจ” ผมยกตนข่มท่านซะเลย นายมือโปรเหล่มองแล้วก็ต้อนรอยยิ้มมาที่มุมปาก

“แต่พี่เอาแต่ใจ”
“งั้นขอเลยก็แล้วกัน”

“ขออะไรอีก”

“จูบกันนะ”

อึ้ง...ครับ
ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี
คือ...ผมก็ชอบอยู่กับเขานะ สนุกดี อบอุ่นดีด้วย แต่ก็...ผมไม่อยากเสียความสัมพันธ์ตรงนี้ไปเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของเราทั้งคู่ในอนาคต เพราะฉะนั้น ผมก็ควรตัดไฟเสียแต่ต้นลม
ผมควรทำเหมือนที่พี่รุตต์เลือกทำ พี่รุตต์ตัดความรู้สึกที่จวนเจียนจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องคลางแคลงใจกันออกไป เพื่อที่จะคงสถานะภาพทางความรู้สึกในปัจจุบันไว้เหมือนเดิม
ผมเองก็ควรหยุดทั้งตัวเอง และนายมือโปร เพื่อที่จะมีผมและเขาในอนาคตอันยาวนาน ไม่ใช่จูบกันวันนี้แล้วจบกันในวันถัดไป
แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ไหว ผมคงใจแตกแล้วจริงๆ

เขาดึงไหล่ให้ผมหันหาเขาทั้งตัว เอียงหน้ามาประกบปากผม เบียดคางมาช้อนจูบผม
“อาซาฮี” แม่งบอกยี่ห้อเบียร์ที่กินถูกด้วย
“กลิ่นคลุ้ง” วิจารณ์ทำไม อยากเล่นทายปัญหาก็เลิกเล็มปากได้แล้ว
“หวาน” ไม่ใช่แระ เบียร์ไม่หวานว่ะ ผมพยายามดันตัวเองออกห่าง แต่นายมือโปรก็รั้งให้ไปรับจูบเขาอยู่ดี จนนานแล้ว นานอีก นานแล้วก็นานอีก เขาก็ยังไม่เลิกกะลิ้มกะเหลี่ยโฉบชิมผม นี่ถ้าเส้นเลือดที่แก้มแตกก็ฟ้องร้องเขาได้เลยครับ

“พอรึยังพี่โป๊ะ”

“ยัง”
“วินโดนจูบมา พี่ต้องถอน อย่าคิดว่าไม่เห็นนะ พี่ตามดูอยู่” อื้อหืออออออออออออออ นอกจากจะได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้หลอนไปเอง ยังได้รู้ด้วยว่าโดนตาม โกรธเขาได้มั้ยเนี่ย! นี่มันสิทธิส่วนบุคคลเชียวนะ

“ทำอะไรทุเรศ”
“ตามวินทำไม โรคจิตหรอ” แล้วก็โดนบี้ปากอีกรอบ นี่จะไม่ใช้เสียงสื่อสารกันเลยใช่มั้ย
“ก็!”

“เงียบ!” สั่งเสียงดุแล้วก็จ้องหน้าผม สบตาแล้วหวั่นใจนิดๆ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ข้อแรก ผมกับนายมือโปรไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมจะทำอะไรก็เรื่องของผม เขาไม่มีสิทธิ์ทักท้วง สอง ผมกับพี่รุตต์ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย ผมแค่นั่งเฉยๆ และพี่รุตต์ก็แค่ล่ำลาครั้งสุดท้าย
“ก็บอกอยู่ว่าหึง”
“อย่าพูดชื่อนายคนนั้นอีกนะ”


“พี่โป๊ะมีสิทธิ์อะไร”

“ถือว่าพี่ขอ”
“และถ้าพี่เอ่ยขอแล้วเรายังไม่ให้ตามที่ขอ”
“คงต้องบังคับกันแล้วแหละ”

“ไม่เห็นกลัว พี่โป๊ะจะทำอะไรวินได้”

พูดจบเท่านั้นแหละครับ เสื้อหายไปไหน! คุณมึงเอามือที่ไหนปลดกระดุมเสื้อกู!
ผมมองเขาตื่นๆ ตาค้างอยู่ที่รอยยิ้มชั่วร้ายของนายมือโปร ปากผมปิดสนิทและไม่คิดค้านขัดอะไรเขาอีกเลย

“เป็นเด็กดีก็ได้นี่”
“พี่ติดกระดุมให้นะ”
“นี่เราตัวรุมๆ คออ่อนแล้วยังกินเบียร์จนกลิ่นคลุ้ง”
“ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว”

ผีห่าอะไรสิงอีกล่ะเนี่ย เปลี่ยนอารมณ์เร็วชิบหาย
“หรือจะรอให้พี่เปลี่ยนใจ”

“ปะ ไปแล้ว อาบน้ำก็ดี”
“แต่พี่โป๊ะไขกุญแขให้หน่อยสิ”

“ครับด้วย”

“ครับ” นี่กูว่าง่ายทำไมเนี่ย! ก็แค่เสียงโดนปล้ำบนรถ ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย!

ผมรีบอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าจากในห้องน้ำแล้วก็วิ่งเข้าห้องนอน ปิดประตู ล็อคกลอน เพื่อหันมาเจอกับนายมือโปรทื่นั่งอยู่ปลายเตียง

“ห้องวิน”

“ไม่ได้เถียงเลย”

“แล้วพี่โป๊ะเข้ามาทำไม”

“ขออยู่ด้วย”
“วินนอนไปสิ พี่มีงานต้องเคลียร์ ต้องอยู่ดึก”

“ก็....ก็ไปทำห้องพี่โป๊ะดิ”

“บอกแล้วไงว่านอนคนเดียวแล้วหลับ ขออยู่ด้วย” ผมล่ะอยากถ่ายรูปสีหน้าของเขายามพูดว่า ‘ขออยู่ด้วย’ มากๆ เลยครับ แม่งโคตรบังคับ

“ก็ได้”
“แต่อย่าทำอะไรวินนะ”

“ทำไม”

“หนึ่ง เราไม่ได้รักกัน ไม่ได้เป็นแฟนกัน เพราะงั้นพี่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรวินทั้งนั้น ถ้าทำอีกคือขืนใจ ขืนกาย เราอาจต้องเกลียดกัน”

“สองคือ?”

“สองคือวินยังอยากอยู่กับพี่โป๊ะแบบนี้ อย่าทำอะไรที่ทำให้วินต้องผลักพี่ออกไปชีวิตเลยครับ”

ผมไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจความคิดผมมั้ย?
ผมกำลังบอกความรู้สึกอยู่กลายๆ หากเขาเจียระไนอารมณ์ผมได้ หากเขาถอดรหัสความคิดผมผ่านคำพูดผมได้ เขาก็จะเข้าใจได้เอง ว่าผมก็ชอบเขามากเหมือนกัน

นายมือโปรอมยิ้ม เขาลุกขึ้นจากปลายเดตียงแล้วเดินมาหาผมที่ยืนหลังติดประตู เขาคนนี้จูบหน้าผากผม ทั้งผมบอกไปแล้วว่าอย่าทำอะไรแบบนี้อีก พอเห็นผมขมวดคิ้วมอง เขาก็สารภาพด้วยสีหน้าขวยเขิน

“นี่มันวิธีจีบของพี่ ห้ามกันไม่ได้หรอก”
“นอนได้แล้วไอ้ยุ่ง”

หัวใจผมพอง แก้มผมก้คงพองแต่ผมพยายามหุบมันเอาไว้เต็มกำลัง ผมเดินเกร็งๆ ไปเทตัวนอน ขดหัวมองเขาที่นั่งอยูปลายเตียง มีโน้ตบุ้คบนตัก

และผีห่าซาตานที่ไหนก็ไม่รู้ ที่ง้างปากผมให้พูดว่า

“วินจะนอนดึกเป็นเพื่อนพี่โป๊ะก็แล้วกัน”

เขาหันมาอมยิ้ม
ผมนอนแอบยิ้ม
เราทั้งคู่กำลังยิ้ม
นอกหน้าต่างไม่มีพระอาทิตย์ที่ผมชอบมอง
นอกหน้าต่างตอนนี้มีพระจันทร์ลอยเด่นโชว์เม็ดตะปุ่มตะปั่มแต็มแก้มแดงๆ ของมันเท่านั้น


Cut


เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกก
เค้าหวานกันค่ะคุณผู้โชมมมมมมมมมม
หวานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก(?)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26 (11-11-15)
« ตอบ #379 เมื่อ: 11-11-2015 20:13:25 »





ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #380 เมื่อ11-11-2015 21:01:21 »

กรี๊ดรัวๆ หวานกันเหลือเกิน

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #381 เมื่อ11-11-2015 21:07:21 »

จ่ะพี่โป๊ะะะะ ขี้หึงเกิ๊นนนน 5555

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #382 เมื่อ11-11-2015 21:24:39 »

โอยยย.... อยากให้น้องวินเจอกับหมาเจมจังเลย
555

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #383 เมื่อ11-11-2015 21:47:57 »

เขินกันมั่งไหมคู่เนี่ย

ออฟไลน์ Mokuchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #384 เมื่อ11-11-2015 22:34:07 »

หวานกันมันก็ดีนะ
แต่ทำไมเรารู้สึกหมั่นไส้  หมั่นไส้อิพี่โป๊ะ 555555555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #385 เมื่อ11-11-2015 22:43:34 »

โม้เม้นตอนสุดท้ายนี้คืออะไร หวานอ่ะ
ฟินเบาๆ อีมือโปรมีมุมนี้ด้วยเว้ย  555555
มาต่อบ่อยๆนะคะคนเขียน  :pig4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #386 เมื่อ12-11-2015 03:38:13 »

โอ๊ยหวานน

ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #387 เมื่อ12-11-2015 05:17:26 »

 :-[

น้องวิน เขิน น่ารกมากค่ะ

ชอบพี่โป๊ะ จีบ อิอิ

  :L2:

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #388 เมื่อ12-11-2015 10:00:43 »

น่ารักจังเลย #ทีมหมั่นไส้พี่โป๊ะ

ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 26(11-11-15)
«ตอบ #389 เมื่อ12-11-2015 21:27:20 »

เขาแอ๊วเอินกันค่ะขุ่นผู้โชมมมม อ๊ายยยยย  :hao7:

มันเป็นโมเม้นของพี่ ของพี่ ของพี่ อี้ อี้!!!

นังพี่โป๊ะหล่อนนี่มันขี้ตู่ระดับเวิร์ลคลาส ขี้ตู่ได้ประทับใจเดี๊ยนมากค่ะ

ขอมอบมงแห่งความหน้ามึนลงหัวนางไปเลย ปรบมือ!!

ดูท่าว่าต่อให้วินอยากหยุดแค่นี้ เหี้ยก็คงไม่ยอมแล้วแหละ ทำใจเหอะวิน...

ผลประโยชน์ด้านอื่นเราไม่รู้ รู้แต่ผลประโยชน์ที่มีร่วมกันตอนนี้คือ ฉ่ำมาก เขินมาก

ใจฟูหนักมากกกกก  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด