At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185137 ครั้ง)

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 28(1-01-16)
«ตอบ #420 เมื่อ06-01-2016 11:36:48 »

สงสัยจะอีกไม่นานจริงๆ รอตอนต่อไปที่อีกไม่นานนี่แหล่ะ อิอิ :hao7:

ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 28(1-01-16)
«ตอบ #421 เมื่อ06-01-2016 16:35:59 »

ก็ว่า พักนี้ชมเหี้ยหล่อบ๊อยยย บ่อย

ที่แท้น้องก็อ่อยอยู่นี่เองเนาะ 555

ไอ้ยุ่งมันร้าย  :hao7:

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 28(1-01-16)
«ตอบ #422 เมื่อ14-01-2016 16:22:15 »

คู่นี้เค้าเหมาะกันจริงๆ

ชอบตอนพี่โป๊ะเดือดเพราะหึง

 :katai2-1:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 28(1-01-16)
«ตอบ #423 เมื่อ14-01-2016 21:26:05 »

รอ ร๊อ รอ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 28(1-01-16)
«ตอบ #424 เมื่อ15-01-2016 13:10:47 »

เป็นเรื่องทีอ่านแล้วอบอุ่นดีค่ะ สนุกมากเลย

 :pig4: :pig4: :pig4:

+1 เป็ดจ้ะ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #425 เมื่อ18-01-2016 01:14:49 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 29


เช้านี้ ผมตื่นมาพร้อมกับสถานะว่างงานครับ
เปล่าครับ ผมยังไม่ได้ถูกเลิกจ้าง แล้วนายมือโปรก็ยังไม่ได้ประเมินงานผมแล้วลงดาบว่าไม่ผ่านโปรใดๆ ทั้งนั้น
แต่ผมได้อภิสิทธิ์ อ่ะ! ไม่ใช่ครับ อดีตนายกไม่ได้มาเป็นสมบัติส่วนตัวของผม อย่ามาเก็ทมุกโลกไม่เข้าใจแบบไอ้โอม
ที่บอกว่าว่างงาน ก็เพราะว่านายมือโปรให้ผมจัดการเล่มไอเอสของผมให้เสร็จ เพราะว่าปลายสัปดาห์นี้ ผมต้องนำเสนอข้อค้นพบของการค้นคว้าอิสระของผม แล้วก็สอบปิดเล่มให้แล้วเสร็จ ซึ่งก่อนจะไปถึงลำดับนั้นได้ เล่มต้องเสร็จก่อนไงครับ และตอนนี้ ตรงหน้าผมนี้ มีกองพะเนินของข้อค้นพบมากมาย ซึ่งยังไม่ได้ตกผลึกออกมาเป็นคำตอบของการค้นคว้าอิสระของผมหรอกครับ
นายมือโปรไปทำงานแต่เช้าแล้ว เขาเป็นแบบนี้ทุกวันจนผมรู้สึกสงสัย อยากรู้เหลือเกินว่าเครื่องจักรทำงานอย่างเขาจะสิ้นแบทเตอรี่เมื่อไหร่ ทำงานหนักทุกวันแบบนี้ไม่เหนื่อยจนอยากเกาะเอวแม่แล้วร้องไห้บ้างหรอ? แต่ก็ไม่ได้ถามหรอกครับ กลัวคำตอบห่ามๆ
แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยผมไว้กับความก้าวหน้าทางการศึกษาของผมไว้ลำพังหรอกครับ นายมือโปรบอกไว้เมื่อ 3 วันก่อนว่าวันนี้จะส่งคนมาช่วย ส่วนจะช่วยได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผม
หมอนี่ก็แปลกประหลาดสิ้นดี คิดได้ยังไง ส่งใครก็ไม่รู้มาช่วยผมเนี่ยนะ!
ผมดูแลตัวเองด้วยการล้างหน้า แปรงฟัน กินข้าวเช้าแสนอร่อยแม้ว่าจะทอนความร้อนลงไปมากแล้ว จากนั้นก็นั่งจมตัวเองอยู่กับกองข้อมูลจนเกือบเที่ยง บ้านชั้นล่างของผมจึงเกิดความเคลื่อนไหว
ผมได้แต่รู้ตัวช้าๆ และนั่งเอะใจปนกังวลอยู่ว่า โจรขึ้นบ้านรึเปล่าวะ?
แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วย นี่ยุ่งมากนะเว้ย! ทั้งกิจกรรมและความคิด
หรือว่าจะเป็นคนช่วยที่นายมือโปรบอกไว้ แล้วทำไมไม่เคาะประตู กดออด หรือโทรเข้ามาบอกถึงการมาของตัวเองวะ? พิลึกคน
ผมวางมือจากทุกสิ่งแล้วก็ย่องออกจากห้อง เดินด้วยฝีเท้าแผ่วเบาที่สุดลงมาตามขั้นบันได ในบ้านไม่มีใครเช่นเดิม แล้วไอ้เสียงกึกกักเมื่อกี้คืออะไร? ใครบันดาล?
โครกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เสียงชักโครกจากห้องน้ำชั้นล่างครับ อย่าบอกนะว่าโจรแวะขี้ เหี้ยเอ้ย!
ผมหาอาวุธที่ถนัดมือ หยิบมาได้ก็แค่ไม้กวาดเท่านั้นแหล่ะครับ เรียกความเชื่อมั่นและพละกำลังอยู่แป๊บนึงก็มายืนจ่ออยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ คิดไว้ว่าโจรออกมาเมื่อไหร่ก็ฟาดหัวแม่งเลย
กริ๊ก!
ครืดดดดด
ประตูห้องน้ำเปิดออกช้า ไอ้โจรผมยาวก้าวออกมาในขณะที่หัวยังก้มมองนิ้วหัวแม่โป้งตีนตัวเองอยู่ ผมง้างมือสุดวงกว้าง ตั้งใจจะฟาดแม่งตรงท้ายทอยกะเอาให้ถึงตาย แต่ไอ้โจรนี่มันเงยหน้าขึ้นมาก่อน
“เอ้ย! ไอ้วิน!”
“นี่กูไง!


“เหี้ยโอม!!!”
“กูเกือบตีมึงตายแล้วนะเว้ย!”

“ไอ้ตูดคุณหนู มึงน่ะหรอจะตีกูตาย”
“ห่า ไม้เหี้ยอะไรเนี่ย? เก็บไว้เกาไข่มึงเหอะ!”

ความจริงแล้ว ผมดีใจมากที่ไอ้โอมกลับมา แต่หลังจากที่ฟังมันเล่าอย่างเว้อวังอลังการว่าทำไมถึง “ต้อง” กลับมาแล้ว ผมคิดว่าผมไม่แสดงออกว่าดีใจคงจะดีกว่า
เหตุที่มันกลับมาก็เพราะพี่ชายสุดประเสริฐของมันนั่นแหล่ะครับ ฟังจากที่มันเล่าน้ำเก้าส่วน เนื้อหนึ่งส่วน จับใจความได้ว่านายมือโปรโทรไปจิกไปลากไปกระชากวิญญาณมันกลับมาเมืองไทยครับ ด้วยเหตุผลที่ผมฟังแล้วยังถอดรหัสลับออกเลย คือเพื่อให้ผมสบายใจ
ไอ้โอมใช้หางตามองผมตลอดเวลาที่มันเล่าเหตุผลที่ทำให้ต้องกลับมาให้ฟัง ท่าทางมันหงุดหงิดใจพอสมควร ผมก็เลยเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่กระโดดกอดมันแล้วหัวเราะร่าเริงอย่างที่อยากทำ
“แล้วเล่มมึงถึงไหนแล้ววิน”
“มีเฮียกูช่วยนี่” เฮียกูที่มันเรียกจนติดปากก็คือนายมือโปรครับ

“ก็ ใกล้แล้ว เป็นรูปเป็นร่างเยอะเลย ปลายสัปดาห์นี้กูสอบปิดเล่ม ก็คงโดนแก้นั่นแหละ แต่คงไม่มาก จากนั้นกูก็ช่วยเล่มมึงได้ ดีป่ะ?”

“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ต้องจบปีนี้ก็ได้ กูชิลๆ”

“แล้วมึงจะเสียเวลาไปทำไมวะ ใช่ว่ามึงไม่มีอะไรในมือเลยสักหน่อย มึงแค่ต้องปะติดปะต่อ ให้เวลากับเล่มมึงมากกว่าเดิม แค่นั้นแหละ”

“ก็กูจะให้เวลากับชีวิตกูก่อนไง มึงกับเฮียนี่นอนคุยกันป่าววะ เหตุผลเอาแต่ใจกับกูพอๆ กันเลย”

หัวใจผมเต้นเป็นกุ้งสะดุ้งไฟ หรือว่ามันจะระแคะระคายแล้วว่า..เอ่อ....ผมกับเฮียมัน เอ่อ.....งิงะกันอยู่ อย่าถามนะครับว่างิงะคืออะไร ผมก็นิยามไอ้อาการงิงะไม่ค่อยถูกเหมือนกัน
ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่เฮียมันชอบผมและจีบผมอยู่ ควรให้มันรู้จากปากผมหรือปากเฮียของมันกันเอง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผมอาย
แหมคุณครับ! มันไม่ใช่เรื่องปกติเสียหน่อย ผมเป็นผู้ชายนะ นมแตกพานไม่ใช่ตั้งเต้า ผมไม่ภูมิใจหรอกที่มีผู้ชายอกใหญ่กว่าสามศอกมาบอกชอบแล้วบอกขอจีบ ซ้ำยังทำตัวก้อร่อก้อติกตลอดเวลาที่เขานึกได้ มันไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเสียหน่อย มันกำลังเป็นเครื่องยืนยันว่าความมีออร่าความน่าเอ็นดูสูงกว่าออร่าด้านความเท่จับใจสาวๆ พูดง่ายๆ เลยคือเสียเชิงกระจู๋อ่ะครับ

“มึง มากี่วันวะโอม” ผมเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ ไอ้โอมหันมองแล้วก็เปิดตู้เย็นพลางมุดหน้าเข้าไป สงสัยจะร้อนเพราะผมเห็นมันกระพือเสื้อเชิ้ตตัวเองใหญ่ ขอโทษนะมึง แต่เปิดแอร์ตอนนี้ก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่หรอกว่ะ

“กูบอกป้าว่ามี 2 อาทิตย์”

“งี้ก็พอทันนะเว้ยโอม มึงนัดสอบปืดเล่มให้ได้ ที่เหลือเราก็ช่วยกัน”
“เหอะนะ มึงรีบทำเล่มให้จบไปเถอะ”

“ทำไมวะ?”

“ก็กูอยากรับปริญญาพร้อมมึงไง”
“ทั้งห้องกูคุยกับใครบ้างล่ะ? ไม่มีมึงก็กร่อยเลย นะโอม”

“หมาวินเอ้ย! นี่ถ้ากูมีเมียมีลูกไป มึงจะหาสีสันชีวิตจากไหนห๊ะ?”

“ก็จากลูกจากเมียมึงไงโอม” เหอะๆ โดนตบหัวมา 1 ทีครับ แต่ผมไม่โกรธหรอก เพราะมันยิ้มระหว่างตบ และก็เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนมากด้วย
“อื้อ ไปตัดผมมั้ยมึง ยาวไปมั้ยวะ?”

“ไม่เอา กูจะไว้ยาวๆ เซอร์ๆ ฝรั่งชอบ”
“เมียแหม่มกูบอกว่าจิกสะดวกดี ตอนอย่างว่ากัน”

“เออ นั่นก็สีสันเกินไป ไม่ต้องเล่าหรอก กูไม่อยากรู้”

“แหม แหม” เกลียดเสียงมันจริงๆ ครับ ไอ้โอมเดินกอดขวดน้ำเย็นมานั่งที่โซฟากลางบ้าน มันดึงผมให้นั่งลงข้างๆ แล้วก็พูดกระแดะๆ ต่อจากที่ส่งไอ้แหมมาสะกิดตีนผมเมื่อกี้
“โตๆ กันแล้วว่ะวิน กูยังหาเมียได้ ดูสิ เถื่อน เซอร์ ดูไร้สมอง ไม่มีแก่นสาร ดูทำมาหาเลี้ยงใครไม่ได้ขนาดนี้ ยังมีเมีย”
“มึงก็ต้องมีเหมือนกัน ใช่ป่ะ?”
“ระดับมึง แค่เอ่อ ผู้หญิงก็ตามเป็นพรวน” จริงหรอวะโอม? กูไม่ได้ทำเป็นแค่เอ่อหรอกนะ แต่ที่ตามๆ กูอยู่มีแต่ผู้ชายว่ะ

“ไม่หรอก หน้ากูเป็นตูด”
“แล้วกูก็ไม่ได้จีบใครด้วย ความรักกันไม่ได้สวยงามนักหนา มึงก็รู้ว่ากูเป็นไง”

“เฮ้ย! เปิดใจมึงบ้าง”
“ให้กูสอนมั้ย? เนี่ย เมียกูไม่ได้กลับมาไทยด้วยหรอก แต่ว่าเขามีเพื่อนคนไทย กูก็กะว่าจะนัดเพื่อนเมียพาร์ที้กันสักหน่อย คืนพรุ่งนี้เป็นไง”

“ไอเอสมึงล่ะ? ถ้าเฮียมึงเขาลากมึงกลับมาเพราะห่วงเรื่องไอเอส มึงก็ทำไอเอสให้หมดห่วงก่อนดีมั้ย จากนั้นมึงจะพาร์ที้ระเริงเมืองยังไงก็เรื่องของมึงแล้ว” ผมเลียนแบบสำเนียงคำว่าพาร์ที้ให้มันหมั่นไส้เล่น ไอ้โอมยักไหล่แล้วเชิดปากระหว่างเบือนหน้าหนีผม ผมเดาว่ามันคงงอนเฮียของมันหนักมาก

“กูบอกแล้วไงว่ากูชิล อยากให้กลับไทยกูก็กลับแล้ว จะเอาแต่ใจกับกูหลายอย่างเกินไปแล้ว เฮียอ่ะ อีกอย่างนะ” มันพูดไว้เท่านี้ แต่เรื่องที่มันจงใจพูดค้างไว้คงไม่ใช่เรื่องเล็กหรอกครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่หันมาจ้องหน้าผมเขม็งแบบนี้

“อีกอย่างอะไรวะ”

“อีกอย่าง เฮียแม่งก็ขี้โกง มีเมียไม่บอกกู!”

“เฮ้ย!”

“เออเด่ะ! หน้าเตะใช่มั้ยมึง อย่าให้กูรู้นะว่าเป็นใคร”

“มึงจะทำไมเอ่อ...เมียเขาวะ”

“จะเป่าหูให้แม่งเลิกกัน”
“โทษฐานไม่ให้กูช่วยสแกนเลย”
“ห่าวิน มึงก็รู้ จำได้ป่ะที่กูบอกว่าชาตินี้เฮียโป๊ะแม่งรักใครไม่ได้แล้วอ่ะ เออ แล้วนี่คือไรวะ?”
“กูนะ ยกให้เป็นฮีโร่ด้านรักคงมั่น แล้วนี่คือไรวะ? กูไปไม่กี่เดือน ได้เมีย!”

“ยังไม่ได้มั้งมึง”
“เขาบอกหรอว่าได้กันแล้ว”

“เออ!”

“เฮ้ย! ไม่ไม่ ยังไม่ได้กัน” ผมเถียงคอเป็นเอ็น และไอ้โอมก็ต้องเชื่อผมมากกว่าเฮียขี้โม้ของมัน แม่งพูดแบบนี้ผมเสียหายนะ!

“มึงรู้หรอ? มึงรู้อะไร วิน บอกกูมาเลย มึงรู้ใช่มั้ยว่าเมียเฮียกูคือใคร”
“เร็วดิ”

“กูไม่รู้ ตอนได้กันเขาไม่ได้สะกิดกูนี่” นั่นสิ แล้วไอ้พี่โป๊ะไปได้เมียตอนไหน? แล้วเมียเขานี่คือใคร? หรือว่าเขาจีบอยู่หลายคน โธ่เอ้ย!

“พี่โจ้รึเปล่าวะ?”
“ไม่น่าใช่ ถ้าจะชอบพี่โจ้ก็คงได้กันนานแล้วแหล่ะ”
“พี่แนนก็มีสามีแล้ว ในออฟฟิศก็ไม่มีใคร”
“นางแบบที่คั่วๆ อยู่ก็บอกว่าไม่มีอะไร ควงเล่นๆ เอาสังคม”
“หรือลูกสาวบ้านที่โดนจับคลุมถุงชนวะ เอ้ย! สมัยนี้แล้ว อีกอย่างเฮียก็ไม่ใช่มึงด้วยที่จะทำตามผู้ใหญ่แบบไม่หือไม่อือ”
“เอ้อวิน”

“หืม?”

“มึงอยู่ใกล้เขาที่สุด ใครที่น่าสงสัยว่าจะเป็นเมียเฮียกูมั่ง”

“กูน่ะหรอ อยู่ใกล้ชิดเขา บ้า!”

“ใกล้สิมึง ก็เขาเช่าบ้านมึงอยู่นี่ เขาบอกกูเอง”
“อะไรวะ? อยู่บ้านเดียวกันนี่ไม่คุยกันหรอ?”
“เออ เออ เฮียคงพูดไม่เข้าหูมึงเหมือนเดิมล่ะสิไอ้คุณชาย แต่ให้เขาเช่าบ้านนี้ก็ถือว่ามึงเปิดโลกมากขึ้นแล้วนะ ดีแล้ว ดีแล้ว จะได้ไม่เหงา”
“แล้วมึงพอจะคิดออกมั้ยว่าใครน่าจะเป็นเมียเขา”

“คิดไม่ออกหรอก กูไม่ได้อยากเสือกเรื่องของเฮียมึงด้วย” ผมบอกแล้วก็หันมองต้นไม้นอกบ้านแทนหน้าไอ้โอมที่ดูจะเสพติดอาการเสือกเรื่องพี่โป๊ะมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่เป็นไร ค่อยๆ คิด กูมีเวลา”
“เขากลับดึกมั้ยวะ อาจจะแวะไปส่งสาวก่อน”

“กลับพร้อมกูนี่แหล่ะ”


“ออกจากบ้านแต่เช้ามั้ยวะ แบบ อาจจะไปรับสาวไปส่งออฟฟิศ หรืออะไรเทือกๆ นี้”

“ก็ออกจากบ้านพร้อมกูนี่แหล่ะ”


“มีเลขาใหม่รึเปล่าวะ? มึงรู้มั้ย”

“ก็...งานเลขากูก็ทำอยู่กลายๆ แต่พี่แนนก็ทำงานเก่งมาก เขาไม่รับเลขาใหม่หรอก”

“เฮียกูบ้าทำอาหารมั้ย สูตรจีบของเอียเลยมึง รักใครให้ขุนจนอ้วยไรงี้อ่ะ”

“ก็เห็นทำนะ เช้า-เย็น ให้กูกินนี่แหล่ะ”
“แต่บางทีก็ลืมๆ ก็แก้ปัญหาโดยการซื้อสำเร็จที่เซเว่นมาอุ่นให้กิน”

“กลางวันแว่บไปไหนมั่งมั้ยวะ”

“ก็....แว่บมากินส้มตำกับกูครั้งนึง นอกนั้นก็...อยู่กับกูนี่แหล่ะ” ผมเกาหัวตัวเองแก้เก้อ ผมคิดว่าไอ้โอมน่าจะได้คำตอบแล้วว่าใครที่น่าจะเป็นเมียของเฮียมัน

“สรุป เฮียกูมีแต่มึง มึง มึง แล้วก็มึง”

“ทำนองนั้น”

“งั้น.....เมียเฮียกู ก็มึงสินะ”


“ก็....ยังไมใช่ซะทีเดียว”

“นี่โดนหลายทีแล้วหรอ!”

“เฮ้ย ไอ้โอมมม!” ผมรีบเบรกมันด้วยการอุดปาก ห่านี่จะเสียงดังทำห่าอะไร กลับไม่รู้หรอกว่ามีเรือมาเทียบหน้าบ้านรอเพื่อนมึงออกเรือน!

ไอ้โอมยกมือยอมแพ้ ส่งสัญญาณว่าจะหุบปาก ไม่ดิ้นไม่ดื้อไม่วายวาย พอผมบังคับมันสัญญาด้วยสายตา ไอ้เพื่อนตัวนี้ก็พยักหน้าหงึก ผมเปิดปากมัน มองมันที่มองผมอย่างพิจารณา มันหลบตาไปแอบคิด คิดอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็มองใหม่ หยิบมือไปมอง ลูบหัว ดีดจมูก ดึงไปกอดๆ  ลูบหลัง แล้วก็จับมือไว้ เล่นไปเล่นมา

“วิน”

“อือ”

“แล้วมึงรักเฮียกูหรอ”

“กู...ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“มึงคิดว่ากูรักเฮียของมึงได้มั้ยวะ?”

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 28(1-01-16)
«ตอบ #426 เมื่อ18-01-2016 01:21:13 »

เหมือนผมส่งคำถามโลกแตกให้มัน ไอ้โอมมองหน้าผมแล้วก็ถอนหายใจ อีกเดี๋ยวก็ยิ้ม อีกเดี๋ยวก็ทำหน้าเศร้าๆ ใส่ ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันแล้วเคยเห็นมันโหมดใจแตกสลายเพราะความรักมาก่อนแล้ว ผมจะคิดว่ามันบ้า

“ตรงๆ เลยนะวิน”
“กูรักทั้งคู่ แต่กูไม่กล้าเชื่อว่ารักของมึงจะรอด”

“ทำไมเป็นกูที่ไม่รอดล่ะ? มึงเอียงป่ะเนี่ย ถือหางพี่โป๊ะนะมึงอ่ะ!”

“ไม่ใช่เว้ย ฟังก่อนดิ”
“ที่ว่ารักของมึงจะไม่รอด ก็เพราะมึงไม่เชื่อในความรัก”
“กูไม่รู้ว่าเฮียรักมึงเพราะอะไร เมื่อไหร่ และจะรักนานแค่ไหน กูไม่รู้หรอกว่ะ”
“แต่ตัวมึง กูรู้ว่ารักมึงสั้นมาก เปราะบางมาก แตกง่าย แล้วก็กลัวมาก”
“ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เขาคนนั้นต้องรักมึงมากชิบหาย เพื่อทบให้ถึงปลายทางที่มึงยืนอยู่ เพราะมึงไม่เคยก้าวพ้นเงาตัวเอง”
“ไอ้รักแบบ เรา 50 เธอ 50 เจอกันตรงกลาง หวานแหววโลกสวยน่ะ ไม่รอดมาถึงมึงหรอก”
“มึงต้องได้คนคลั่งรัก บ้ารัก ทุ่มรัก รักแบบผูกติด มึงตายเขาตาย มึงอยู่เขาอยู่ อะไรทำนองนี้”

“แล้วเฮียมึง เป็นงั้นมั้ยวะ?”

“ก็ต้องวัดดวงว่ะวิน”
“ถ้าเป็นเฮีย กูดีใจนะ”


“มึงอยากให้กูเป็นตุ๊ดรึไง”

“เป็นเมียเฮียไม่ต้องเป็นตุ๊ดหรอก แค่เป็นตัวของตัวเองแค่นั้นแหล่ะ”
“กูบอกมึงบ่อยๆ ไม่ใช่หรอ ไม่มีใครประเสริฐดีเลิศเท่าเฮียกูอีกแล้ว”

“เหรอะ! กูว่าเพื่อนเขาดูดีกว่าตั้งเยอะ อย่างน้อยก็สติเต็มกว่า อารมณ์ไม่หวือหวาด้วย”

“ไม่รักเขาก็คงไม่พึคด้วย” ไอ้ห่านี้ก็สรุปให้เฮียมันดูหล่อเลอค่าเหมือนเดิม ไอ้คลั่ง!

เอาเป็นว่า เพื่อนสนิทผมรู้แล้วว่าผมมีแนวโน้มจะเป็นเมียของเฮียมัน ไอ้โอมไม่คัดค้านและก็ไม่แปลกใจเลยหากว่าท้ายที่สุดแล้วความรักของผมจะเป็นโรมิโอและโรมิโอ หรือว่าผมไม่เคยแมนเลยในสายตามัน

“โอม”

“อือ” พอได้คำตอบเรื่องอนาคตเมียเฮียสุดที่รักของมันแล้ว ไอ้เซอร์ผมยาวสลวยนี่ก็นั่งเกลากีตาร์อยู่หน้าทีวีครับ อย่าถามผมว่าเสียงอะไรหนวกหูกว่ากัน ผมตัดสินไม่ได้

“มึงไม่ประหลาดใจหรอ แบบ คนที่มาชอบกูเป็นผู้ชาย”

“ไม่นี่”
“มึงไม่เข้าหาผู้หญิงก่อนอยู่แล้ว แล้วโลกนี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าถึงมึงได้ เพราะงั้น ต้องเคมีแรงๆ เถื่อนๆ ดุๆ อย่างเฮียกูนี่แหล่ะที่พอจะสั่งสอนมึงได้บ้าง”

“ฟังดูกูแย่ๆ ว่ะ”

“ก็มึงแย่”
“ดีแค่รูปร่าง หน้าตา ฐานะ สันดาน”
“แต่ทัศนคติเรื่องความรักไม่ได้เรื่อง มองโลกสีเทาไปหมด ลั้ลลาบ้างก็ได้ อย่างกูนี่ไง”

“ลั้ลลากับคนเป็นล้าน กับจับมือนอนนิ่งๆกับคนคนเดียว อย่างหลังมันสุขใจกว่าเป็นล้านเท่า มึงไม่เข้าใจหรอก มึงมันหลงโลกีย์”

“แหมๆ แสดงว่าคุณชายวินเข้าใจความสุขที่ได้นอนจับมือกับแควนแล้วอ่ะดิ วู้ววว แร่ดนะมึงเนี่ย”
“เขาขอมึงเป็นแฟนยัง”

“หลายรอบเหอะ กูเล่นตัวไง”

“เขาจูบมึงยัง”

“ก็...หลายครั้ง กูก็ไม่ได้ปล่อยตัวนะ แต่แม่งแรงเยอะ”

“เขาบอกรักมึงกี่ครั้งแล้ว”

“ก็หลายครั้ง แต่กูไม่กล้าเชื่อสักครั้งเลยว่ะ” ผมบอกมันตรงๆ แล้วก็ยิ้มเศร้า
ยิ่งคุยกับเพื่อนแบบไม่ปิดบังความรู้สึกตัวเอง ผมก็ยิ่งรู้สึกเป็นมนุษย์ตัวสีเทาที่ยืนอยู่ในสวนดอกไม้หลายสีสัน ทำไมผมถึงได้แปลกแยกแบบนี้
กูรู้นะโอมว่ากูเป็นคนที่มีปัญหา แล้วก็ไม่แฟร์กับพี่โป๊ะนักที่ต้องเป็นนักแก้ปัญหาจนกว่ากูจะหมดปม ซึ่งจะหมดรึเปล่าก็ไม่รู้”
“ที่เขาทำ กับที่พี่รุตต์ทำก็ไม่ต่างกัน แต่เขาเข้าถึงความคิดกูได้มากกว่า เปลือกกูคงหนา เคาะสุภาพแบบพี่รุตต์เลยไม่สะเทือนละมั้ง”
“กูเองก็อยากทำกับเขาแบบที่ทำกับพี่รุตต์ คือไม่รับอะไรที่มันล้ำเส้นหรือทำให้เขาถลำลึก มีโอกาสก็จะผลักออกไปเบาๆ ขีดเส้นใหม่ เพื่อให้โลกกูใหญ่เท่าเดิม กูก็ผลักเขาไปหลายรอบ แต่พี่โป๊ะยิ่งกว่าบูมเมอร์แรงอีก ดีดกลับมาหากูแบบน็อคเอาท์เลย”
“ยิ่งเขากระเทาะความรู้สึกกูได้แรงเท่าไหร่ กูก็ยิ่งกลัว”
“ถ้าวันนั้นมาถึง วันที่กูอยู่ในที่โล่ง ในมือไม่มีอาวุธอะไรเลย เขาจะทำร้ายกูมั้ย?”
“ถ้ากูเป็นแค่ ความท้าทายใหม่ๆ ล่ะวะโอม”
“ตลอดไปของเขา นิยามคืออะไรวะ”

“วิน”
“มึงรักเขาใช่มั้ย ถึงได้กลัวขนาดนี้”
“แต่ถ้ายังกลัวอยู่ มันอาจไม่ใช่ความรักก็ได้”
“เพราะถ้ามึงรักเขาจริงๆ ต่อให้เขาถือมีดมาแทงอกมึง มึงก็พร้อมจะตายไปพร้อมกับรอยยิ้ม”

“กูต้องยอมเสี่ยงตายหรอวะ”
“มันคุ้มค่าหรอวะ ไม่เสียงเรื่องนี้กูก็อยู่ของกูได้นะ”
“ไม่มีความรักไม่ตายหรอกมึง”

“มึงอยากตัวสีเทาไปตลอดชีวิตหรอ”
“ถามกูไม่ได้หรอกว่าพี่โป๊ะดีมั้ย ใช่คนที่ใช่สำหรับมึงรึยัง? เขาจะดูแลมึงไปตลอดชีวิตรึเปล่า”
“มือที่เขาจับคือมึง มึงต้องเป็นคนรู้สึกว่าอุ่นรึเปล่า อุ่นแล้วพอมั้ย”
“แล้วก็มึงอีกนั่นแหล่ะที่ต้องตัดสินใจจะตอบแทนความอุ่นที่เขาให้กับมึงยังไง อ่อนโยนเท่ากันมั้ย หรือจะยืนบื้อใบ้เป็นฝ่ายรับอย่างเดียว จนวันนึงเขาหมดแรงตายไป มีงก็แค่พูดง่ายๆ ว่า ไม่ใช่เรื่องของมึง เขาเป็นฝ่ายมาทำให้มึงอบอุ่นเอง มึงไม่ได้ขอ”

“กูก็ต้องการเวลาเหมือนกันนะ”

“ถามเฮียกูก่อนสิว่ารอได้อีกนานแค่ไหน”


การคุยกับไอ้โอมไม่ได้ช่วยทุเลาปัญหาจังหวะรักกะยึกกะยักของผม ซ้ำยังฝังคำถามไว้ในหัวผมมากมายอีกต่างหาก
ไอ้โอมขอกลับบ้านตอนเย็นหลังจากเจอเฮียของมันก่อน มันบอกว่ามันต้องด่าเฮียเสียหน่อย 1 เรื่องมีเมียไม่บอก 2 เรื่องเต้นตามผมเรื่องไอเอสจนไปลากมันกลับมา ผมไม่ได้ขัดแผนมัน เพราะงานขัดขาไม่ใช่งานถนัดของผมอยู่แล้ว
เราใช้เวลาช่วงบ่ายงมไอเอสของผม ไอ้โอมเป็นผู้ช่วยที่ช่วยอะไรได้ไม่มากหรอกครับ

#### @ D A W N  #####


และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านของนายมือโปรเสียที ไอ้โอมที่เคยประกาศว่าจะด่าเฮียให้เสียชาติเกิด วิ่งกระดิกหางริกๆ ไปหาเขาถึงประตูรถ กระโดดเกาะแขนเดินพันคาจนผมแปลกใจมากที่นายมือโปรสามารถทรงตัวเดินได้อย่างสมดุล
เขาส่งยิ้มให้ผมแล้วก็เดินไปล้างมือ ล้างเท้า เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้า ใน ห้อง ของ ผม แน่นอนว่าทุกอิริยาบถมีเนื้องอกฉับพลันเกาะเป็นปรสิต
นายมือโปรลงมือทำอาหารเย็นให้เรา 3 คนครับ ลูกมืออย่างไอ้โอมมีประโยชน์มากเรื่องงานในครัว ส่วนผมก็ไร้ประโยชน์เช่นเคย ทำได้แค่จัดโต๊ะอาหารสำหรับ 3 คนเท่านั้นแหล่ะครับ ซึ่งก็แค่หยิบจานข้าว 3 ใบและช้อนส้อม 3 คู่เท่านั้น
ไอ้โอมชวนเฮียมันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมฟังพวกเขาคุยกันจนเพลิน รู้สึกตัวอีกทีก็ตกเป็นประเด็นขี้ปากเพื่อนไปแล้วครับ เพราะไอ้โอมเล่นถามนายมือโปรดื้อๆ เลยว่า

“เฮีย ได้เมียรึยีง?”

“ยัง” นี่ก็ตอบดื้อๆ เหมือนกัน ผมหันมองนายมือโปรแล้วขมวดคิ้วใส่ แม้ไอ้โอมจะรู้เรื่องผมกับนายมือโปรแล้ว เขาก็ควรจะถามผมก่อนว่าอยากให้เขาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการรึเปล่า

“เมื่อไหร่จะได้” ถามเหี้ยๆ แล้วโอม

“เมื่อมึงกลับบ้านไงโอม”

“อ่ะ คืนนี้หรอ?”
“เฮีย ไอ้วินมันบอบบาง เบาๆ นะ”

“เฮ้ย! มึง! โอม”

“อะไรครับเฮียโป๊ะ”

“รู้แล้วหรอว่ากูรักเพื่อนมึงเนี่ย”

“โหยยยยยยยยยย เต็มปากเต็มคำ” แซวทำเหี้ยอะไร กูอายนะเว้ย! แล้วอะไรรักๆ ไม่รู้ กูไม่ได้ยินครับ!

“เออ ปากกู กูพูดก็คือกูพูด กูไม่เคยพูดแล้วอ้างว่ามดตด”
“แล้วกูรักเพื่อนมึงมันผิดตรงไหน ใครบอกผิดมึงไปลากตัวมันผู้นั้นมา กูจัดการเอง”

“โหดทำไมเนี่ย เท่านี้โลกก็ไม่มีใครกล้าหือกับพี่โป๊ะแล้วนะ” ไอ้โอมบีบๆ นวดๆ ไหล่เฮียมันแล้วก็แซวต่อ
“รักวินน่ะไม่ผิดหรอก”
“แต่ถ้าหมดรักเมื่อไหร่ เฮียจำคำผมไว้นะ โลกทั้งโลกเฮียจะล่มสลายทันที”
“เฮียอาจไม่มีแผลตามตัวเลยสักแผล แต่ใจเฮียจะไม่สามารถสะบัดคำว่าคนใจบาปหลุดจนวันตาย”
“เพื่อนผมผมก็รัก เฮียผมผมก็รัก เพื่อนกับเฮียรักกันผมก็ยินดี แต่ถ้าวันนึงมันป่นปี้ ผมเลือกเตะเฮียนะ”

“ไอ้ลูกหมา มึงไม่มีวันได้เตะกูหรอก”

“โอ้โห รักมั่นคงว่างั้น”

“เปล่า กูสูง”

ไอ้เหี้ย กูก็อุตส่าห์ฟัง ใจเต้นด้วยเมื่อกี้!

กว่าไอ้โอมจะกลับบ้านไปหอมแก้มแม่มัน ก็เกือบเที่ยงคืนนั่นแหล่ะครับ ผมกับนายมือโปรช่วยกันเก็บกวาด ล้างจานชาม ผมอาบน้ำก่อน นอนบนเตียงก่อนแต่ก็ยังไม่หลับ จนนายมือโปรอาบน้ำเสร็จ ก้าวยาวๆ ขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกัน ผมถึงหันไปมองหน้า

วันนี้ผมแทบไม่ได้พูดกับเขา ไม่รู้เลยว่าเขาทำงานอะไรบ้าง เหนื่อยมั้ย ทำงานหนักมั้ย มื้อกลางวันกินอะไร ขับรถมาเส้นทางไหน รถติดมั้ย? ด่าใครไปบ้าง ในหัวผมมีแต่ภาพกิจวัตรของเขาที่ผมอยากได้รับการแบ่งปัน แต่นายมือโปรก็แค่มองหน้าผมแล้วก็อมยิ้ม

“บอกโอมหรอ”
“หรือมันเค้นถามเอา”

“หือ?”

“เรื่องพี่”

“อ๋อ ทั้งสองอย่างแหล่ะครับ”

“มันว่าไง แล้ววินโอเคมั้ย? ถ้าอายเพื่อนก็บอกพี่นะ”

“ถ้าอายเพื่อน หรือเพื่อนรับไม่ได้ พี่โป๊ะจะทำยังไง”

“จัดการเพื่อนวินสิ เสือกไม่เข้าเรื่อง”
“แต่ถ้าวินอายเองโดยที่เพื่อนไม่ได้ว่าหรือวิจารณ์อะไรสักคำ พี่จะหยุดนะ”
“ต้องรีบบอก ก่อนพี่หยุดไม่ได้ จะทำอะไรก็เผื่อพี่เสียใจไว้ด้วย”
“ความรักมันเจ็บนะ วินก็น่าจะพอรู้”

“ครับ”
“ถ้าวินอยากพี่หยุด วินจะบอก”

“แล้วคืนนี้ให้หยุดมั้ย?”

“เอ่อออ.....”
“หมายถึง หยุดรักแบบ ไม่ต้องจีบแล้วอะไรแบบนี้หรอ”
“ก็.......”

“คิดนาน ช่างแม่ง”
“พี่ยังไม่หยุดง่ายๆ หรอกน่า”
“จะห้ามพี่รักต้องเสียงแข็งกว่านี้ เย็นชากว่านี้ ฆ่าพี่ไปเลยง่ายกว่า”

“ครับ” เขาจีบผมอีกแล้ว ถ้อยคำดูเชื่อถือไม่ได้ แต่ผมเชื่อน้ำหนักมือที่กอดผมหลวมๆ สายตาที่ยิ้มให้ผมในยามที่ปากเอาแต่พูดเพ้อเจ้อ

เราจูบกัน รสจูบคือรสยาสีฟันเย็นๆ
เรากอดกัน สัมผัสเหมือนถูกห่มผ้าด้วยผ้านุ่นแน่นๆ

เรา...น่าจะรักกันแล้วครับ
อย่างน้อย ผมก็เริ่มคิดแบบนั้น




cut

งึมๆ น้องวินมีความสามารถในการสับสน คิดซับซ้อนสูงมากค่ะ เป็นกำลังใจให้น้องเค้าด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2016 09:38:24 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #427 เมื่อ18-01-2016 03:22:41 »

อร๊ายย อีพี่โป๊ะร้ายมากกก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #428 เมื่อ18-01-2016 05:47:11 »

อีพี่โปรแกมันร้ายยยยยยยยย  :man1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #429 เมื่อ18-01-2016 07:52:10 »

 :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
« ตอบ #429 เมื่อ: 18-01-2016 07:52:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #430 เมื่อ18-01-2016 09:08:07 »

 :katai2-1: ยอมรับแล้ววววว

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #431 เมื่อ18-01-2016 14:14:46 »

 :pig4:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #432 เมื่อ18-01-2016 15:44:32 »

เมื่อไหร่วินจะเสร็จเฮีย รอๆๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #433 เมื่อ18-01-2016 23:26:05 »

ขำโอมอ่ะ
เข้าใจแล้วว่าทำไมคบกะโปรกะวินได้ 5555

ออฟไลน์ MUSIX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #434 เมื่อ19-01-2016 14:38:08 »

เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
ยิ่งกว่าทุ่งดอกไม้บานอีกกกกกกก
ไอ้พี่โป๊ะดูหล่อขึ้นมา 50 ระดับเลย
วินต้องลองนะลูก ลองจมไปกับเหี้ยดู
เอ้ย555555

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #435 เมื่อ19-01-2016 15:13:42 »

ตกลงรักไม่รักค่ะเนี่ยน้องวิน

ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #436 เมื่อ19-01-2016 22:13:53 »

ไอ้เราก็ตามเผือกตามส่องตั้งหลายสิบตอน

รอน้องวินค่อยๆ แง้ม ค่อยๆ เผย กว่าจะรู้แต่ละเรื่อง

นังโอมกลับมาตอนเดียวรู้เท่าทันกันหมดทุกเรื่อง

ไอ้โอม......แกทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้ย์ย์ย์ 

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 29(18-01-16)
«ตอบ #437 เมื่อ20-01-2016 10:12:25 »

ความรู้สึกของวิน น่าจะคล้ายๆ กับผู้หญิงหลายๆ คนเนาะ

น่าสงสารวิน แต่พี่โป๊ะต้องสู้นะ

 :mew3:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #438 เมื่อ01-02-2016 00:55:55 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 30


เช้านี้ ผมตื่นขึ้นเพื่อพบกับความจริงที่ว่า ผมถูกยืดเตียงครับ
ถูกแล้วครับ คนที่ยึดเตียงผมก็คือนายมือโปรนั่นแหละ เขาไม่ยึดแค่เตียงนะครับ ผ้าห่มก็ลากไปกอดไปซุกอยู่คนเดียว ปัดโธ่เอ้ย!
ผมยืดขาไปเตะเขาเป็นการปลุก ทำอยู่ 2-3 ครั้งนายคนนี้ก็ลืมตาเสียที
“แย่งเตียงวิน หมอนวิน ผ้าห่มวิน”

“อยากดูหลักฐานมั้ยว่าใครกันแน่ที่ร้ายกาจ ไอ้ยุ่ง”

“อะไร? พูดงี้คือว่าวิน?”

“แน่นอนสิ พี่ไม่ใช่คนหลับแล้วพาล วินทั้งนั้นแหละ”

“วินทำอะไร?”

“ดิ้น ร้อนๆ หนาวๆ เดี๋ยวก็สะบัดผ้าห่ม เดี๋ยวก็ซุกผ้าห่ม เดี๋ยวก็มาซุก แป๊บนึงก็สลัดตัวหนี หน้าที่โดนศอกวินไม่รู้กี่รอบ อะไรกันนัก แทบไม่ได้นอนเลย”

“............” ไม่จริงอ่ะ แม่งโม้ หน้าเขาก็ไม่เห็นขึ้นรอยเขี้ยวเป็นปื้นเหมือนคนโดนศอกตีหน้าสักนิด แม่งโม้แน่ๆ

“มีคลิปนะ”

“เฮ้ย! พี่โป๊ะนี่ปกติป่ะเนี่ย คนบ้าอะไรเดี๋ยวก็ถ่ายรูป เดี๋ยวก็ถ่ายคลิป”

“ก็พี่ชอบนี่”
“แล้วมันก็น่ารักดีด้วย ถึงจะเจ็บก็เถอะ”
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรวินเลยที่วินนอนวุ่นวายขนาดนี้ แค่บอกให้ฟังว่าวินไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาว่าพี่แย่งเตียงแย่งหมอน วินนอนวุ่นวายเองทั้งนั้น” 

“จริงหรอครับ อย่ามาหลอกวินนะ”

“จะโม้ทำไม ดูคลิปมั้ยล่ะ?” คือสรุปแล้วเขาถ่ายคลิปไว้จริงๆ หรอ? เขานี่ท่าจะบ้า แต่ก็อยากดูเหมือนกันแฮะ ผมก็อยากรู้ความวุ่นวายของตัวเองเหมือนกัน ผมพยักหน้ารับคำท้า นายมือโปรก็เลยควานหาโทรศัพท์มือถือ กดเรียกคลิปให้ดู และก็ชัดตาเลยครับ  3 คลิปสั้นๆ แต่โคตรจะนอนยุ่งเหยิงเลย หรือว่าผมฝันวะ? แต่ผมจำไม่เห็นได้เลยว่าฝันอะไร ทำไมถึงได้ออกท่าออกทางเยอะขนาดนี้

“ปกติก็ไม่ได้นอนดิ้นนี่ พี่ก็นอนด้วยหลายคืนแล้ว เมื่อคืนมีอะไรรึเปล่า”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ” เรามองหน้ากัน แล้วก็พากันเก็บความสงสัยเรื่องนี้ไว้ พร้อมกับแยกย้ายกันไปทำธุระ แน่นอนว่าผมดูแลสภาพตัวเอง ส่วนนายมือโปรน่ะหรอครับ พ่อครัวสิครับ หน้าที่แรกของเขาในทุกๆ เช้า

มื้อเช้าของเราวันนี้ ข้าวผัดกุนเชียง เคียงกับแกงจืดกระหล่ำปลีกระดูกหมูครับ น้ำซุปไม่เข้มข้นหรอกเพราะเขาไม่ได้ต้มจนได้ความหวานจากกระดูกอ่อน แต่ก็ถือว่าคล่องคอดีเหมือนกัน
นายมือโปรใส่ผ้ากันเปื้อนด้วย คงเพราะเขาใส่เสื้อเชิ้ตพร้อมออกไปทำงานแล้ว เลยไม่อยากให้มีคราบอะไรเปื้อนเสื้อล่ะมั้ง

“อยู่ได้นะ”

“นี่ใคร นี่เจ้าของบ้าน” ผมยียวนแล้วก็หัวเราะตัวเองที่ต่อปากต่อคำกับเขา นายมือโปรหัวเราะตาหยีแล้วก็โน้มตัวมาจูบปลายจมูกผมเบาๆ ผมว่าเขาเล็งที่ปากแต่ผมก้มหน้าหลบเองแหละครับ

“งั้นพี่ไปทำงานนะ บอกไอ้โอมแล้วใช่มั้ยว่าให้มาทำไอเอสกันที่นี่”

“บอกแล้ว แต่ไม่รู้มันจะมากี่โมง อีกอย่าง มันมาก็ไม่ช่วยหรอกครับ”
“อ้อ แต่ว่า วินขอบคุณพี่โป๊ะมากนะครับที่ลากมันกลับมาไทย มันจะได้จบๆ ไปพร้อมกัน”

“ตอนแรกก็ดื้อแหละ แต่ขอ้เสนอพี่ดี”

“หือ? พี่โป๊ะเสนออะไรให้มัน”

“พี่ก็แค่บอกมันว่าถ้ากลับมา จะบอกว่าอยากได้ใครเป็นเมีย”

แม่งเอ้ย สรุปแล้วผมไม่ใช่คนที่ได้ประโยชน์ห่าเหวอะไรเลยใช่มั้ยเนี่ย
เขายิ้มชั่วร้ายส่งท้ายแล้วก็เดินอารมณ์ดีไปเปิดประตูรั้วสุดบาน จากนั้นก็ขับรถออกจากซอยแคบๆ นี้ไป จะว่าไป ผมไม่เคยได้รับคำกร่นด่าใดๆ ฝากมาถึงชายที่ดัดจริตขับรถในซอยแสนแคบเลย แม่งเก่งว่ะ


ไม่นานนักไอ้โอมก็มาตามที่นัดกันเอาไว้
ผมรู้สึกดีที่เห็นมันหอบหิ้วโน้ตบุ้คและหนังสืออ้างอิงของมันมาอย่างมากมาย เพราะถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ามันก็กำลังตั้งใจทำไอเอสอย่างหนักหน่วงเหมือนกัน
อ้อ! อัพเดทนะครับ ไอ้โอมตัดผมแล้ว แคร่ไม้เก่าๆ แก่ๆ ตรงใกล้ท่าน้ำคงไม่ได้ให้บริการมันอีกนาน
ในการทำไอเอส สิ่งที่ยุ่งยากที่สุดก็คือการจัดเรียงชุดข้อมูลให้อยู่ในหมวดเดียวกัน การจำคำตอบให้อยู่ในหมวดคำถามที่ถูกต้องจริงๆ เป็นเรื่องที่จำเป็นมากครับ นึกถึงการจัดวางหนังสือในห้องสมุดนะครับ ถ้าเอาหนังสือก.ไก่ ไปใส่ไว้ในประวัติศาสตร์ หนังสือเล่มนั้นก็คงไม่ก่อประโยชน์ให้ผู้พบเห็น และผู้ที่อยากพบเห็นก็คงไม่สามารถหามันเพื่อแสวงหาประโยชน์ได้ ฉันใดก็ฉันนั้นแหละครับ
เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องเน้นการจัดเรียงข้อมูลที่ผมได้รับมา ให้ตรงกับคำถามที่ผมกำหนดเค้าโครงเอาไว้ก่อนแล้ว
วิธีการง่ายมากครับ แต่ผมก็ไม่ได้ค้นพบวิธีการนี้ด้วยตัวของผมเองหรอก ที่ปรึกษาของผมเขาสอนมา มันอาจดูโบราณคร่ำครึ และดูเปลืองแรง เปลืองเวลา และเปลืองกระดาษไปเสียหน่อย แต่มันได้ผลจริๆ ครับ

“มึงก็เริ่มจากเอาคำตอบของทุกคนที่มึงสัมภาษณ์มาวางตรงหน้าก่อน”
“ก็ปรินท์ออกมาไง” ผมย้ำวิธีการใส่หน้าไอ้โอมที่เบิ่งตาโตมองผม แววตาสะท้อนได้ถึงความเบาปัญญาของมันมากครับ
“เออ เดี๋ยวค่อยไปปรินท์”
“เอาให้จบๆ ไปนะ เดี๋ยวกูจะทำของกูเงียบๆ แล้ว มึงอย่าวุ่นวาย อยากตายก็กระโดดน้ำหน้าบ้าน” พอโดนผมดุเข้าหน่อยมันก็เอาคืนครับ ได้มา 1 มะเหงก
“พอปรินท์แล้ว มึงก็ดูโครงสร้างคำถามมึง เอาแค่ข้อแรกก่อน จำให้แม่นว่าคำตอบที่มึงต้องการจากคำถามข้อแรกคืออะไร คีย์เวิร์ดที่บอกว่าเขาตอบมึงเรื่องนี้อยู่คือคำไหน เจอคำตอบเน้นๆ หรือเจอคีย์เวิร์ด มึงไฮไลท์ไว้เลย นะ”
“อ่านไปให้จบ เจอคำตอบของคำถามข้อแรกมึงก็ขีด ขีด ขีด คำตอบไหนไม่เกี่ยวกับคำถามข้อแรกช่างแม่งมันก่อน”
“ทำแบบนี้ไปทุกคำตอบของคนที่มึงสัมภาษณ์ เพราะฉะนั้น กูเดาว่าวันนี้มึงน่าจะได้คำตอบของคำถามข้อแรกของมึง เท่านี้ก็คืบหน้าเยอะแล้ว”

“โหย กูมี 9 คำถาม กูสัมภาษณ์ 8 คน กูต้องอ่านไอ้กระดาษนี่กี่รอบ ต้องมีไฮไลท์กี่สี”

“ไม่รู้ กูไม่ชอบคิดเลข”
“เอาเป็นว่า มันเป็นวิธีที่ทำให้มึงได้แผ่ข้อมูล ได้เห็นทุกข้อมูล แล้วก็แยกหมวดหมู่ข้อมูลได้ พอบทที่ 5 มึงจะรู้ว่าได้ประโยชน์มาก”

“กูก็ไม่ได้เถียง แต่มันดูช้าอ่ะมึง มีวิธีลัดมั้ย”

“จ้าง แต่ไปหาเอาเองนะมึง กูไม่รู้จักคนที่ทำเนียนพอภายในเวลา 2 อาทิตย์”

“................” สีหน้าไอ้โอมสื่อความหมายคำว่า จนปัญญา ได้ดีมากครับ ผมยิ้มปลอบมัน ตบหลังมันปุๆ แล้วหยิบยื่นความช่วยเหลือ

“ใช้ปากกาไฮไลท์กูได้นะ”

ผมจัดเรียงข้อมูลของผมให้มันดูกับตา ให้มันรู้กูก็ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกันนั่นแหละ และถ้ามันมองอยู่ ก็จะเรียนรู้ว่ามันเสียเวลาอยู่ไม่นานหรอก เพราะเราสัมภาษณ์มาเอง ถามเอง ซักไซ้เอง เราย่อมเป็นคนที่รู้ดีสุดว่าคำตอบซ่อนอยู่ตรงไหน จึงไม่ต้องไล่อ่านทุกตัวหนังสือ

บ่ายแก่มากแล้วตอนไอ้โอมชวนผมกินข้าว เราไม่มีมื้อเที่ยงสวรรค์ประทานเหมือนเมื่อก่อนหรอกครับ เพราะนายมือโปรยกเลิกบริการแม่ครัวทุกมื้อ ตัวผมเองก็ลืมโทรบอกคนที่โรงแรมให้เตรียมอาหารให้ผมด้วย ลำบากผมกับไอ้โอมต้องเดินตามึนกันไปเซเว่นหน้าปากซอยใกล้ๆ ประตูวัด เพื่อซื้อข้าวกล่องกิน
แต่เพราะมากับไอ้โอม ชีวิตง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งกับใครจึงเป็นชีวิตที่หายากมาก มันพาผมไปกินก๋วยจั๊บใกล้ๆ เซเว่น โดยอ้างว่ากลิ่นหอมๆ และควันขาวๆ เหนือปากหม้อส่งสารมันยั่วมัน ผมคิดว่าจริงๆ แล้วไอ้โอมก็แค่หิวจนตาลายนั่นแหละครับ
รสชาติอาหารใช้ได้ครับ แต่สีชามก๋วยจั๊บถูกคุมโทนด้วยสีน้ำตาลมากไปหน่อย แต่ผมจะคิดเสียว่ามันคือเคล็ดลับความอร่อยก็แล้วกัน
โอมสปอยล์กระเพาะด้วยขนมถ้วยที่ยายแก่ๆ นั่งแคะขายอยู่หน้าร้านก๋วยจั๊บ มันว่าอร่อยดีแล้วก็ป้อนผม ผมก็เลยต้องกิน ก็...อร่อยดีครับ

“มึงกินน้อยนะวิน เราต้องตุนอาหารสมองนะ” พูดจบก็เรอเอิ่ก กูว่าสมองมึงคงอดอีกตามเคย เพราะที่แดกไปน่าจะลงปลายลำไส้ใหญ่หมดแล้ว  ผมไม่เถียงมัน เพราะรู้ว่าเถียงไป มันก็มองว่าผมกินน้อยอยู่ดี
เราเคลื่อนขบวนเดินเท้าไม่ถึงบ้านเสียทีมาที่เซเว่นอีกครั้งเพราะท่านโอมอยากน้ำอัดลม อยากบุหรี่ อยากคืทแคทอ อยากไอศกรีม สารพัดจะอยากแหละครับ ผมเลยเดาอาการพิรี้พิไรของมันว่ามันขี้เกียจกลับไปจมกับกองข้อมูล แต่ปล่อยมันพักบ้างก็ดีครับ ผมก็ล้าสายตาและสมองแล้วเหมือนกัน

มาถึงบ้านก็เซอร์ไพรส์ครับ นายมือโปรตัวเป็นๆ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นมะม่วง ผมไม่เดินไปหาเพราะเห็นว่าเขาคุยธุระอยู่ แต่ไอ้โอมตาบอดครับ เจอพี่สุดที่รักมันก็ทิ่มหน้าไปซุกรักแร้เขาทันที

“เออ เออ วางแล้ว ห่า จั๊กจี้ เอาไรมึง”

“พี่โป๊ะ ข้อมูลแม่งเยอะมากเลย ทำไม่ไหวอ่ะ”

“ลองยัง? อย่าสำออย วินยังทำได้ มึงอ่อนหัดกว่าเมียกูสินะไอ้โอม” อย่าเรียกกูว่าเมียมึงสิวะครับไอ้นายมือโปร ผมเหล่เพราะถูกพาดพิง คนที่จงใจพาดพึงก็เหล่มองผมเหมือนกัน แถมยิ้มให้อีกต่างหาก เหอะ!
“งอนว่ะ แต่งอนแล้วน่ารัก ปล่อยงอนไปก่อน”
“ไง มึงเนี่ยยังไงโอม มาอ้อนตีนทำไม ทำถึงไหนแล้ว”

“เฮีย วิธีไอ้วินแม่งโคตรเสียเวลา เหนื่อยด้วย”

“วิธีอะไรวะ” พอเฮียมันถาม ไอ้โอมก็สาธยายวิธีจัดเรียงข้อมูลที่ผมสอนมัน นายมือโปรฟังไปพยักหน้าไป พอไอ้โอมพูดจบเขาก็ดีดนิ้วเปาะแล้วตอกย้ำใจมันว่า “ที่วินทำน่ะดีสุดแล้ว มึงต้องให้เวลากับข้อมูลที่มึงได้มากกว่านี้นะโอม”
แม้จะไม่รู้ว่า เจตนาแท้จริงของเขาคือสอนไอ้โอม หรือชมผม ผมก็อมยิ้มแก้มตุ่ยไปแล้วครับ

“เอ้อวิน” นายมือโปรโผล่หัวออกมาหาผมที่ยังไม่เดินเข้าบ้าน ทั้งที่เป็นเจ้าของบ้าน ผมเลิกคิ้วรอฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อ แต่สายตาทำหน้าที่ค้นหาคำตอบให้ผมได้ก่อนปากเขาแล้วครับ

“พี่โจ้” ผมเรียกชื่อเจ้าของดวงหน้าขาวเนียนเสียงแผ่ว แต่เจ้าของชื่อเขาก็ได้ยินครับ ผู้หญิงสวยราวกับราชินีนกยูงเดินออกจากบ้านของผม มาหาผมที่ยืนยิ่งอยู่หน้าบ้าน

“รบกวนหน่อยน้าวิน”
“พอดีพี่โจ้ไปหาโปรที่บริษัท แล้วเขาลากมาที่นี่แหละ”
“ไม่ใช่พี่โจ้คนเดียวนะคะ”

“หือ?”

“โปรเขาบอกว่าวินต้องการความคึกคักเพื่อกระตุ้นสมอง”
“ก็เลยยย”

“ครับ?”

“เต็มบ้านเลยค่ะ” อะไรเต็มบ้านกันล่ะ? ฝูงเหี้ยหรอ? ไม่นะ ไม่น่าจะใช่ อย่างน้อยพี่โจ้ก็เป็นหงส์ ไม่ใช่เหี้ย

“เอ้อ ที่จะบอกคือ พี่ขอจัดปาร์ตี้ที่บ้านคืนนี้นะ”

“ห๊ะ?!” ในช่วงเวลาที่กูโคตรต้องการความสงบ เพื่อปั้นไอเอส คุณมึงมาบอกกันหน้าตาเฉยว่าขอจัดปาร์ตี้ ไม่อนุมัติแผนนี้ได้มั้ยวะ

“วินล่ะ วินล่ะ”
“เฮ้ยวิน! กวนหน่อยดิ มีเรื่องอยากรู้ คิดว่าวินต้องรู้แน่เลย”

“เจม เบาๆ มั่งเถอะครับ วินเพิ่งกลับมา”
“มาช่วยพี่แช่วุ้นเส้นตรงนี้นี่”

“ก็เจมอยากรู้ก่อน”
“เห้ยพี่หนึ่ง เห้ย ไม่เล่น เห้ย เห้ย” ผมไม่รู้หรอกครับว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผมได้ยินแต่เสียงของพวกเขาเท่านั้น พี่โจ้ทนความวุ่นวายไม่ไหวเลยผลุบหายเข้าบ้านไป ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าพี่โจ้จะช่วยเจมให้หายสงสัยได้มั้ย บางทีพี่โจ้อาจจะหายไปแช่วุ้นเส้นก็ได้

ไอ้โอมวิ่งออกจากบ้านมา แล้วก็วิ่งผ่านผมไป มันไปเปิดปั๊มน้ำครับ ไม่รู้ว่าในบ้านมีกันกี่คน แต่ผมรู้สึกได้ถึงความวุ่นวายสุดๆ
หากถามว่า อึดอัดใจมั้ย อยากฆ่าใครรึเปล่า ผมคิดว่าผมโอเคนะ อย่างน้อยๆ ตอนนี้ผมก็กำลังยืนยิ้มให้กับความวุ่นวายที่ไม่ได้เจอมานานแล้ว

สรุปแล้ว ไม่ได้ทำห่าอะไรทั้งนั้นครับ
ไอเอสผมไม่คืบหน้า แต่ผมไม่กังวลใจเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ผมอยากเปิดรับความรู้สึกอิ่มๆ เอมๆ จากคนพวกนี้ก่อน
พี่ที่หนึ่งเป็นคนขำกว่าที่คิดเสียอีก ผมไม่คิดว่าโลกนี้จะมีคนอยากสวีทกับแฟนด้วยวิธีแกะเปลือกทุเรียนหรอกครับ ไม่รู้เขาเอาเซลล์สมองส่วนไหนคิด สงสารแฟนเขาเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเจมเป็นแบบนี้ พี่ที่หนึ่งถึงได้สวีทด้วยวิธีตลกแบบนั้น
ผมมีแขกใหม่เพิ่มด้วยครับ ชื่อต้อม ตอนแรกผมก็เรียกพี่ต้อมแหละครับ แต่เจมบอกว่าไม่ต้องนับถือหรอก เรียกแค่ชื่อก็พอ และพอดีผมเป็นคนหัวอ่อน เลยเชื่อเจมและไม่คิดให้ความเคารพต่อต้อมแม้แต่นิด ซึ่งผมคิดว่าผมทำถูกแล้วครับ ต้อมเนี่ย....ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับลอยเท่าไหร่ อีกคนที่ทำให้ผมเสียมารยาทจ้องหน้าเขานานมาก ก็คือพี่จิวครับ คนนี้ผมเรียกพี่ เพราะเจมบอกว่าเจมก็เรียกว่าพี่ ผมก็เลยเรียกตาม
พี่จิวกับเจมเป็นฝาแฝดกันครับ พี่ที่หนึ่งบอกว่าหน้าไม่เหมือน เขาแยกออก เพราะฉะนั้นเรื่องกอดผิดฝาผิดตัวนี่หายห่วง ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ที่หนึ่งจะมาบอกผมทำไม
พี่พีช พี่สาวแพร์ก็มาครับ รายนี้ถูกพี่โป๊ะทำป้ายแขวนคอไว้ว่า ผัวแม่บัว ซ้ำยังโดนยึดโทรศัพท์ไปอีกต่างหาก พี่โป๊ะบอกว่าป้องกันการโดนสายบัวตามมารัดคอ ดูเหมือนคุณบัวจะเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวมากๆ คนหนึ่ง
ปาร์ตี้ค่ำนี้มีอาหารจากโรงแรมมาบริการครับ คนจัดการให้ก็คือผม เพราะมันคงไม่เหมาะหากจะให้คนต้นคิดเรื่องจัดปาร์ตี้ต้องขลุกอยู่แต่ในครัวเพื่อทำอาหารรับรองทุกคน ตอนแรกพี่โป๊ะก็บอกเกรงใจ แต่พอผมบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวคิดค่าเช่าบ้านเพิ่ม เขาก็เขียนรายการอาหารออกมาอย่างคล่องมือ
ฤทธิ์เดชพี่โป๊ะก็พอสมควร เขาเรียกเจมด้วยสรรพนามประหลาดหลายคำ ไม่ค่อยซ้ำกันด้วย ตอนแรกผมคิดว่าเพราะสนิทกันถึงได้ตั้งชื่อเล่นใหม่ให้ทุกวัน แต่ความจริงแล้ว เขาคือคนที่เคยเกลียดกันมาก่อนครับ ไม่สิ ไม่ได้เกลียดหรอกครับ พวกเขาก็แค่คนที่เคย ไม่คิดจะเข้าใจเหี้ยอะไรของอีกฝ่าย ก็เท่านั้นแหละครับ แต่ตอนนี้เข้าใจกันดีแล้ว แม้ว่าพี่โป๊ะจะยังตั้งชื่อเล่นให้เจมทุกครั้งที่เจออยู่เหมือนเดิมก็ตาม
พี่โจ้คุยกับพี่ที่หนึ่งอย่างถูกคอ ยืนคู่กันแล้วดูดีชิบหาย ในมือทั้งคู่มีแก้วไวน์ วิวด้านหลังพวกเขาคือแม่น้ำเจ้าพระยาที่ระริกระรี้เล่นไฟแข่งกับหิ่งห้อย
เจมถูกไอ้โอมเกาะไว้ไม่ปล่อย เพราะเจมเป็นนักข่าวครับ มีทักษะในการย่อยข้อมูลสูงขนาดนี้ไอ้โอมไม่ปล่อยง่ายๆ หรอก ต้อมก็วอแวอยู่ไม่ห่างเจมกับไอ้โอมเท่าไหร่นัก เขาดูไม่ค่อยอยากคุยกับผมนัก คงเพราะเมื่อแรกที่เราเจอกัน ต้อมพูดกับผมเยอะมาก ทั้งบรรยายเยอะ ทั้งรายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องแยะ ซ้ำยังมีหลายหัวข้อซึ่งถูกสลับไปมาจนผมงงว่าเขากำลังพูดถึงอะไรกันแน่ แต่ผมกลับต่อความยาวไปตามสันดานขี้เกียจว่า “พอดีไม่ได้สนใจ” แล้วก็งับปากกินของอร่อยจากโรงแรม ต้อมน่าจะฟังผมไม่ทันล่ะมั้ง

“อารมณ์ดีขึ้นมั้ย?” จู่ๆ คนที่ยืนจิบเหล้าอยู่ข้างๆ ผมบนโต๊ะม้าหินก็ถามขึ้น ผมหันมองหน้าเขาแล้วยิ้ม
“โกรธพี่หรอพี่ชวนเพื่อนมา”

“เปล่าครับ พวกพี่เขาไม่ได้ทำให้วินเดือดร้อนนี่ อีกอย่าง มันก็เพลินดี ได้มองคนอื่นแบบไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเกลียดวินรึเปล่า”

“ทำไมวินถึงได้คิดว่าคนอื่นพร้อมจะเกลียดวินล่ะ”
“วินเป็นเด็กน่ารักมากนะ หน้าตา ท่าทางสุภาพ ถึงจริงๆ แล้วจะปากหมาก็เถอะ”

“ก็....วินเจอมาแต่คนที่ พอรู้ว่าเราไม่ได้เป็นตามแบบแผน หรือพบว่าเรามีจุดด่าง ก็พร้อมจะกดให้ต่ำจมดินมาตลอดเลย”
“สังคมแบบนั้นน่าเบื่อ”
“ไม่รู้ว่าวินเองที่แยกดีชั่วไม่ออก หรือว่าเป็นพวกเขาที่เกิดมาก็สีเทาเลย แยกขาวดำออกจากกันไม่เคยได้”
“พวกพี่เขาเป็นคนดีนะครับ”
“น่าอิจฉาที่พี่โป๊ะมีแต่เพื่อนดีๆ”

“วินมีไอ้โอมไง”
“มีพี่คนนี้ด้วย”

“วันนึงพี่โป๊ะก็ต้องเดินจากไป ไม่ใช่หรอครับ”
“ตอนนี้ พี่โป๊ะยังอยู่ ก็เพราะว่าวันที่ต้องเดินจากกันไปยังมาไม่ถึง เท่านั้นแหละ”

“เมามั้ยเนี่ย ทำไมพูดเศร้า เราอยู่ด้วยกันไปตลอดได้นี่ ทำไมไม่ได้ล่ะ”

“พอเย็น พอค่ำ พระอาทิตย์ก็ต้องหายไป”
“พี่โป๊ะก็เหมือนกัน ที่ยังพูดกับวินอยู่ตอนนี้ว่าตลอดไป ก็เพราะว่าพี่ยังไม่เจอขอบฟ้าที่จะมาแยกเราจากกัน เท่านั้นแหละ”
“ยังไม่เจอ ก็ใช่ว่ามันจะไม่มี”
“แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ วินไม่ได้หวังว่าชีวิตจะสุขมากมายอยู่แล้ว”
“มีพี่โป๊ะแค่ช่วงเวลาหนึ่งอย่างตอนนี้ วินถือว่าวินโชคดีแล้วครับ”

“คิดบ้าๆ”
“พี่จะพิสูจน์ความตลอดไปเอง”
“โอเค พระอาทิตย์ต้องตก แต่ก็จะขึ้นมาใหม่ ทุกวัน ทุกวัน”
“และที่ตกหายไปจากสายตา ก็เพื่อไปเก็บแรง สะสมพลังงาน แล้วก็เฉิดฉายใส่หน้าวินใหม่ ทุกวัน ทุกวัน”
“พี่ก็จะดูแลวิน ทุกวัน ทุกวัน”

“วินถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

“อื้อ” เขารีบรับคำ นายมือโปรวางแก้วเหล้า เขาโค้งตัววางข้อศอกตัวเองขนานกับหน้าขา ส่วนใบหน้าก็หันมองผม

“รักวินหรอครับ”

“ครับ” ตอบเร็วไปมั้ยเนี่ย

“ทำไมถึงรักล่ะครับ”

“เพราะวินต้องการความรักไงครับ”
“และพี่ก็มีความรักล้นไปหมด”
“มันฟิตกัน มันพอดีกัน เจอคนที่พอดี ทำไมพี่ถึงควรละเลยล่ะ”

“งั้น พี่โป๊ะคิดว่าทำไมวินถึงต้องรักพี่โป๊ะล่ะ”

“ก็เพราะวินต้องการความรัก และพี่มีความรักสำหรับวินล้นมาก เราพอดีกัน”
“อย่าคิดหาเหตุผลอธิบายอะไรนักเลย อย่าคิดแทนพี่ แล้วก็ไม่ต้องสนใจความคิดคนอื่นเขานัก”
“ตราบใดที่วินมีความสุข พระอาทิตย์ก็จะปลุกวินทุกเช้าเสมอ”
“ถ้าพระอาทิตย์อู้ เดี๋ยวพี่ปลุกเอง”

อบอุ่นดีจัง
นายมือโปรนี่อบอุ่นกว่าหน้าตามาก

“พี่ ขอเป็นพระอาทิตย์ของวินได้มั้ย”
“พี่จะเป็นพระอาทิตย์ขึ้นของวิน วินเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังจะจากไปของพี่”
“วินเฝ้ารอพี่ พี่มองตามวิน”
“นะ” นะเนี่ย เป็นคำที่โฆษณาชวนเชื่อสุดๆ เลยครับ

ผมพยักหน้ารับคำ นายมือโปรยิ้มจตาปิด เขาดึงมือผมไปกุมไว้ นวดคลึงเล่นแล้วก็จับมือผมไปวางบนหัวเขาที่โน้มเอียงมาจนเกือบซบไหล่
“พี่เป็นของวินนะ”

“วินต้องรับพี่โป๊ะไว้ด้วยหรอ”

“เอ้าเฮ้ย!” ผมหัวเราะให้รู้ว่าแค่ล้อเล่น นายมือโปรก็เลยหัวเราะตาม
ค่ำคืนนี้มีผมมีความสุข และแทบไม่ได้คิดเลยว่า ความสุขจะผ่านไปเมื่อไหร่

#### @ D A W N  #####

เช้านี้ผมตื่นสาย
นี่ไม่ใช่ความผิดผมเลยนะครับ ความผิดพี่โป๊ะทั้งหมด
เขาทำให้ผมนอนดึก ผมก็เลยตื่นสายกว่าเวลาปกติในเช้าวันนี้
เมื่อคืนนี้เขาเอาแต่....กวนตีน....ทั้งคืน

หลังจากปรนเปรอคำหวาน แผ่รังสีอบอุ่นใส่ผม จนผมเคลิ้มใจเชื่อคำเขา รับรอยยิ้มเขา เหี้ยก็ขึ้นครองราชย์อย่างสมบูรณ์ครับ ปาร์ตี้เมื่อคืนสถุนเป็ดมากจนผมสงสารพี่โจ้ที่ต้องยืนดูความอัปปรีย์ของฝูงเหี้ยที่สวมหน้ากากอัศวินรูปหล่อ
พอเขาเมากัน ธาตุแท้ก็โผล่ครับ พี่โป๊ะ พี่ที่หนึ่ง พี่พีช ทำให้ผมเชื่อคำโบราณที่ว่าคบคนพาล พาลพาไปหาผิด
พี่ที่หนึ่งตอนเมา อ๋อแอ๋มากครับ พุ่งหาเจมเหมือนแม่เหล็กติดประตูตู้เย็นทั้งคืน เขาไม่ได้คออ่อน แต่ดื่มเหมือนอาบขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็เละทุกราย ดีว่าเจมไม่เมาก็เลยสามารถพาพี่ที่หนึ่งกลับบ้านได้ ผมคิดว่าน่าจะปลอดภัย
ความอัปปรีย์สิงสู่ร่างไอ้โอมที่เข้าขากับต้อมราวกับรู้จักกันมาตั้งแต่รู้ความว่าถ้าจะเยี่ยวก็ต้องจับกระจู๋นั่นแหละครับ คู่นี้คุยกันเสียงดังมาก พูดกันคนละเรื่องแต่คุยรู้เรื่อง คนนึงหัวเราะลั่น อีกคนนั่งสะอึกสะอื้นเหมือนร้องไห้ ผมหันไปเห็นทีไรก็ขำทุกทีนั่นแหละ พี่จิวก็สภาพไม่ต่างกันนัก แต่รายนี้เมาแล้วเงียบครับ ดุด้วย ผมยังจำตอนพี่จิวดุเจมที่กำลังชงเหล้าให้ตัวเองได้อยู่เลย คำก็ไอ้หมาน้องเจม สองคำก็คือไอ้เหี้ยน้องเจม เขาเป็นพี่ชายสายโหดนี่เอง
พี่โจ้ไม่ช่วยผมดูแลใครหน้าไหนทั้งนั้นครับ เธอดื่มของเธออยู่เงียบๆ ไวน์แก้วเดียวจิบได้ทั้งคืนเลย อ่อๆ ไม่นับรอบที่รินเพิ่มในแก้วใบเดียวที่เธออยู่นะครับ ส่วนใหญ่พี่โจ้คุยกับพี่โป๊ะ ซึ่งก็มีผมนั่งหัวโด่อยู่ด้วยนี่แหล่ะ เรา 3 คนยึดโต๊ะม้าหินใต้ต้นมะม่วงเป็นที่นั่งคุย ปล่อยพวกเมาแล้วเปิดจักกระเรี่ยราดอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยเสียงอึกทึก
เรื่องที่พวกเขาคุยกัน ทำให้ผมอยากทำเป็นเมาหลับ หรือไม่เป็นสลายกลายเป็นอากาศไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดครับ
พี่โป๊ะกับพี่โจ้คุยกันเรื่องแต่งงาน
ครับ พวกเขาคุยกันเรื่องงานแต่งงาน ของพี่สาวพี่โจ้ ซึ่งจะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้
พี่โจ้ปรึกษาพี่โป๊ะอย่างเคร่งเครียด เพราะหลังจากงานของพี่สาวเรียบร้อยแล้ว พ่อกับแม่ของพี่โจ้จะหันมาเพ่งเล็งพี่โจ้อย่างเป็นทางการแล้วครับ
พี่โจ้ไม่อยากแต่งงาน เพราะยังไม่เจอคนที่ใช่ พี่โป๊ะเองก็ไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร แค่บอกว่าใจเย็นๆ แล้วก็บอกให้พี่โจ้ค่อยๆ ยืนยันความคิดตัวเอง ดูแลตัวเองให้เลอเลิศให้พ่อแม่เห็น ท่านจะได้ไม่ห่วงแล้วหาสามีให้อีก
ฝ่ายพี่โจ้ก็บอกว่า ที่พ่อแม่อยากให้แต่งงาน ไม่ใช่เพราะอยากหมดห่วง แต่อยากสร้างบ่วงเพิ่มมากกว่า ทุกอย่างก็เพื่อธุรกิจทั้งนั้น
เขาก็เถียงกันอยู่เท่านี้แหละครับ พี่โจ้ขอความเห็นผม แต่ผมไม่มีความคิดเห็นใดๆ ให้ทั้งนั้น ที่ผมอยากทำมากที่สุดก็คือการเดินไปนั่งมุมอื่นเงียบๆ แต่มือของผมถูกมือพี่โป๊ะจับกุมไว้ใต้โต๊ะ เขากำข้อมือผมแน่น กุมนิ้วมือผมขนัดจนผมไปไหนไม่ได้ และต้องฟังทุกข์ของพี่โจ้ และคำตอบที่พี่โป๊ะหยิบยื่นให้
ฝ่ายผู้หญิงกำลังสื่อสารว่า เธอมีคนที่เธอชอบอยู่แล้ว ไม่อยากแต่งกับคนที่ไม่ได้รักไม่ได้ชอบ
ฝ่ายชายก็สื่อสารกลับไปว่า คงช่วยอะไรไม่ได้ ที่เธอต้องทำก็คือยืนหยัดเพื่อตัวเธอเอง
ผมคิดว่าพี่โจ้กำลังมองหาทางพาตัวเองออกจากสภาวะถูกบังคับ และเธอก็เจอแสงริบหรี่ที่ปลายอุโมงค์แล้ว
ที่พี่โจ้ไม่รู้ และคงไม่ทันได้คิด ก็คือความจริงที่ว่า แสงที่เธอมองอย่างเฝ้าหวังนั้น คือแสงของหิ่งห้อยน้อยในกำมือผม
บีบมือนิดหน่อยก็ตาย ครั้นพอผ่อนพอคลาย กลับสายเกินไป


“เมาค้างหรอครับ” นายมือโปรถามผมหลังจากที่มองผมลืมตาตื่นแล้วมองหน้าเขาอยู่เงียบๆ ผมส่ายหน้าแล้วพลิกตัวหันไปอีกทาง หนีจากหน้าเขาบ้างก็ดี ถึงจะหล่อน่ามอง แต่ตอนนี้ไม่อยากมองหน้าเขาเท่าไหร่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ พี่ที่โป๊ะมารักผม
“แล้วเป็นอะไร”

“เปล่าครับ” ตอบให้เขาสบายใจ แต่ตัวผมเองกลับถอนหายใจอยู่เงียบๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าพี่โป๊ะต้องรู้ว่าที่ผมตอบเมื่อกี้แค่คำโกหก

“เป็นอะไรวิน บอกพี่สิ เก็บไว้ก็ไม่ได้ดอกเบี้ย”
“เร็วสิครับ”

“ก็....”
“วินคิดเรื่องพี่โจ้กับพี่โป๊ะ”

“เรื่องพี่กับโจ้ คิดทำไม” เขาด่าผมเสือกรึเปล่าวะ? ผมพลิกตัวกลับมาหาเขาพร้อมกับขมวดคิ้วใส่

“ก็ต้องคิดสิครับ”
“พี่โจ้ชอบพี่โป๊ะ ชอบมากด้วย”
“พี่เขาพูดเมื่อคืนมันก็สื่อความชัดเจนว่าเขาไม่อยากแต่งงานกับคนอื่น เพราะเขารักพี่”

“แล้วพี่รักใคร?”

“ก็ถ้าตามที่พี่โป๊ะบอก พี่โป๊ะรักวิน”

“วินรักพี่ ใช่มั้ยครับ”

“อื้อ...ก็ใช่”

“งั้น โจ้เกี่ยวอะไร”
“ขอเถอะวิน อย่าผลักพี่ไปไหน พี่ไม่ใช่คนที่หาที่ให้ตัวเองได้พักเจอง่ายๆ พี่ไม่ได้พักที่ใครหรือหยุดที่ใครเรี่ยราด”
“พี่พักที่วิน หยุดที่วิน”
“ช่วยภูมิใจที่เป็นความรักของพี่หน่อยเถอะ”

“ก็พี่โจ้”

“เรื่องของโจ้ก็เรื่องของโจ้”
“วินไม่ต้องทุกข์เพราะเขาทุกข์”
“พี่ขอเท่านี้”
“นะ”

“ครับ” ครับแต่ปากเท่านั้นแหละครับ ใครจะดูดายได้

ถ้าพวกเขาลงเอยกันได้ ผมคิดว่าผมน่าจะมีความสุขกว่าการโกยกอดความสุขไว้ เพราะผมรู้ดีว่ามันเป็นแค่หมอกเท่านั้น
พอแดดส่องเต็มฟ้า หมอกก็สลายหายไป

นายมือโปรลูบหัวผมเบาๆ แล้วก็ลุกจากเตียง เขาคงลงไปทำมื้อเช้าเหมือนทุกวันที่ผ่านมา แต่วันนี้ก็มีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นจนได้
โทรศัพท์มือถือผมดังขึ้น เบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอไม่ใช่เบอร์คุ้นเคย ผมกดรับอย่างเสียไม่ได้ ยกโทรศัพท์แนบหู ตั้งใจไว้ว่าถ้าเป็นการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินพ่วงประกัน ผมจะกดตัดสายโดยไม่โต้ตอบสักคำ
“น้องวินใช่มั้ยคะ”
“นี่พี่โจ้เองนะคะ ขอโทษที รบกวนแต่เช้าเลย”

“เอ่อ ครับพี่โจ้”

“โปรอยู่กับวินใช่มั้ยคะ”
“คือ พี่โทรหาแล้วแต่โปรไม่รับ”
“เลยต้องรบกวนวิน ขอโทษด้วยนะคะ”
“แต่ช่วยบอกโปรให้โทรกลับพี่โจ้ทีนะคะ”
“ส่วนเรื่องเมื่อคืนที่พี่โจ้พูด น้องวินไม่ต้องใส่ใจนะคะ คนเมาพูดไม่ค่อยคิดหรอกค่ะ”
“ขอโทษน้า”

แล้วพี่โจ้มาขอโทษผมเรื่องอะไรกัน?
เธอวางสายไปแล้ว แต่น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของพี่โจ้ที่แสดงออกเมื่อคืนกลับมาวนเวียนในใจผมอีกครั้ง มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ผมจิตตกกับความรักที่เพิ่งเปิดเผยตัวตรงหน้า
ผมรู้สึกดีที่พี่โป๊ะเขารักผม แต่ผมก็รู้สึกไม่ดีด้วยเหมือนกันที่พี่โป๊ะรักผม
ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจผมรึเปล่า

Cut


อรุณสวัสดิ์ค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #439 เมื่อ01-02-2016 01:57:18 »

อีชะนีโจ้ มาทำให้วินคิดมาก อีดอก..... ไม้เอ๊ยยยยย :fire: :fire: :fire:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
« ตอบ #439 เมื่อ: 01-02-2016 01:57:18 »





ออฟไลน์ sunakai

  • *~CrAzY_KiLL~*
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #440 เมื่อ01-02-2016 07:17:19 »

บางทีก็นึกหงุดหงิดวินนะ ถ้าพี่โป๊ะจะชัดเจนขนาดนี้ ...สงสารความรักของพี่โป๊ะจัง
มารไม่มีบารมีไม่เกิดสินะ ถ้าวินคิดว่าการโยนความรักของตัวเองทิ้งไป
ผลักไสไปให้ "คนอื่น" แล้วมันจะดีอย่างที่คิดก็ลองดู!!

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #441 เมื่อ01-02-2016 07:44:28 »

อย่าทำตัวเป็นพ่อพระ ความรักที่วินผลักไสไป มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอกนะ มีแต่คนเจ็บ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #442 เมื่อ01-02-2016 08:10:25 »

วินทำไมเป็นคนคิดมากขนาดเน้  :o11:
วินไม่สงสารพี่โปรบ้างหรอออออ
อีพี่โปรทุ่มสุดตัวขนาดนี้เลยนะวิน
วินอย่าได้คิดผลักพี่โปรไปไหนเชียวนะ

มาต่อบ่อยๆนะคะ จุ้บบบบ  :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #443 เมื่อ01-02-2016 08:54:11 »

ยังสับสนอยู่ได้เรื่อยๆเลยนะวิน กล้าๆ กลัวๆ เหมือนจะเดินหน้าไปแล้วจู่ๆก็กลับจะเดินถอยหลังไปอีก เชื่อในตัวเองบ้างเดินไปข้างหน้าให้สนุกสักที  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #444 เมื่อ01-02-2016 09:29:44 »

เป็นครั้งแรกที่สงสารพี่โป๊ะ เป็นครั้งแรกและเป็นความสงสารจากใจจริงๆๆ

วินคือมนุษย์ที่จมอยู่กับซากในใจนานเกินไป

นายมือโปรคงต้องรับมือหนักมากๆ พี่โป๊ะคือมนุษย์ที่ต้องรับมือกับเรื่องหินๆ ของความรักตลอดๆ
สู้ๆ นะพี่โป๊ะ

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #445 เมื่อ01-02-2016 10:56:35 »


“พี่ ขอเป็นพระอาทิตย์ของวินได้มั้ย”

พี่โป๊ะวิน  :o8:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #446 เมื่อ01-02-2016 12:10:54 »

 :pig4: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #447 เมื่อ01-02-2016 13:06:50 »

คิดมากไปแล้ว  วิน เฮ้อ  เหนื่อยใจแทนพี่โป๊ะ
ตอนนี้มีหมาเจม  พี่หนึ่ง  และพี่จิมออกมาให้ชุ่มฉ่ำหัวใจด้วยแฮะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #448 เมื่อ05-02-2016 17:33:26 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ iimayuworld

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 30(1-02-16)
«ตอบ #449 เมื่อ06-02-2016 18:38:33 »

โอ้ยยยย น้องวินลู๊กกกก หนูจะจิตตกไปถึงหน๊ายยยยย
ความรักมันเป็นของหนูแล้วนะลูก รักษามันไว้เด้ โถ่ววววว
ขัดใจกับความซับซ้อนในอารมณ์ของหนู นี่ตั้งแต่อ่านมายังไม่หยุดคิดเรื่องหนูเลยลูกเอ้ย
ติดอยู่ในหัวอย่างแรง หน่วง เหนื่อย ขัดใจ  :katai1: สงสารอิพี่โป๊ะอย่างแรง   :o12: :o12:

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ จะติดตามต่อไปค่า สู้ๆน๊าาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2016 23:54:12 โดย iimayuworld »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด