At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185148 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 37(09-05-16)
«ตอบ #540 เมื่อ11-05-2016 13:57:39 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 37(09-05-16)
«ตอบ #541 เมื่อ12-05-2016 09:53:24 »

คุณป้าสุคะ ให้คะแนนคุณป้าเต็มร้อยเลยค่ะ ดูแล ห่วงใยและรักวินมากกว่าแม่ที่แท้จริงเสียอีกนะ  :mew1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 37(09-05-16)
«ตอบ #542 เมื่อ12-05-2016 17:15:37 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Taohoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 37(09-05-16)
«ตอบ #543 เมื่อ15-05-2016 08:33:45 »

 o13 คุณหลานเขยสู้สู้น้า  :z2:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #544 เมื่อ18-05-2016 23:35:02 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 38


พระอาทิตย์คงกำลังหลับลึกอยู่ใต้ผินน้ำที่ใดสักแห่ง ส่วนผมกำลังนั่งทำหน้านิ่ง สวนทางกับความรู้สึกภายในที่ระส่ำไปหมด ด้านขวาผมคือป้าสุที่นั่งจับมือผมไว้ไม่ปล่อย  ส่วนด้านซ้ายผมคือนายมือโปรที่หันมาสบตาผมทุกครั้งที่ผมหันมองเขา ฝั่งตรงข้ามผมมีเพียงคุณสาวิตริที่นั่งไขว่ห้าง หลังตรง กระเป๋าราคาแพงวางอยู่ใกล้ตัว ส่วนตรงโซฟาประมุขถูกครอบครองโดยคุณตา

“มันใหญ่โตอะไรนักหนา ทำไมต้องคุยกันวันนี้ ไม่เหนื่อยกันรึไง” คุณตาเปิดฉาก ท่านดูเหนื่อยล้าแล้ว และพวกเราก็ควรให้คุณตาเข้านอนพักผ่อนได้แล้ว แต่คุณสาวิตรีกลับบอกว่ามันเป็นเรื่องด่วน และเรื่องใหญ่จนละเลยไม่ได้

“เรื่องใหญ่ค่ะคุณพ่อ”
“เรื่องเล็กนิดเดียวค่ะคุณพ่อ”
ฟังความจากลูกสาว 2 คนแล้ว ผมเดาว่าคุณตาของผมต้องข้องใจหนักกว่าเดิมแน่ๆ

“เพิ่งจะจบงานเลี้ยงไป แขกเหรื่อบางคนก็ยังคุยกันอยู่ที่สนาม เอาเวลาทะเลาะกันไปดูแลแขกเหรื่อ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พวกเธอเชิญมาไม่ดีกว่าหรอ จะเอาอะไรนักหนากับคนแก่”

“เรื่องนี้เป็นเครื่องของครอบครัว สาละเลยไม่ได้หรอกค่ะ ทิ้งไว้นาน ปัญหาจะเรื้อรังเปล่าๆ”
“ตัดไฟก็ต้องตัดแต่ต้นลม” พูดจบก็หันมาจ้องหน้าผมกับนายมือโปรสลับกัน ผมไม่กลัวหรอก แต่ไม่รู้เขาจะกลัวรึเปล่า

“ผมเป็นตัวปัญหาหรอครับ ขอโทษที่สอดปากถาม แต่คุณสาวิตรีมองมาทางนี้ เดาว่าคงไม่ได้ต่อว่าวินหรอก”

“ใช่ คุณนั่นหละตัวปัญหา”
“คุณพ่อค่ะ พาร์ทเนอร์ใหม่ของพี่สุ คือ...ไม่ปกติน่ะค่ะ”

“ทำไม? เขาพิกลพิการตรงไหน?” คุณตาถามกลับแล้วมองสำรวจนายมือโปรบ้าง รายนี้หันไปยิ้มสุภาพให้ประมุขของบ้านดูเล่น
“พ่อก็คุยกับเขาอยู่นานสองนาน คล่องแคล่วดี กิริยาก็ดี คนไม่ดีจะอยู่ใกล้เจ้าวินของเราได้ยังไง พ่อสอนให้คบแต่มิตรที่ดีเท่านั้น ใครไม่ดีก็ไม่ต้องคบหา”
“แล้วมันไม่ปกติตรงไหน แม่สา”

“ฮื้มมมม” คุณสาวิตรีถอนหายใจยาว กรอกตามองทางพวกผม และมองคุณตา ราวกับว่าทุกคนในที่นี้เว้นเธอ กำลังทำตัวเหมือนคนตาบอดมองไม่เห็นสิ่งที่เธออยากให้เห็น
“เขาชอบตาวิน”
“เขาชอบผู้ชาย คุณพ่อรับได้หรอคะ ด่างพร้อยกันไปอีก เรื่องเดิมกว่าจะเคลียร์ได้ก็หลายปี”

“ขอโทษนะสาวิตรี เรื่องเดิมของเธอคืออะไร?” ป้าสุถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ป้าผมยืดตัวตรงกว่าเดิม หันมายิ้มให้ผม ลูบหลังเบาๆ แล้วก็ปกป้องผมต่อ
“ถ้าเธอหมายเรื่องรินนา มันก็ประเด็นเดิม อย่าหยิบยกเรื่องเดิมๆ มาปนสิ เธอดึงรั้งเวลาคนอื่นเพื่ออะไรกันแน่ สาวิตรี”

“ก็ได้ค่ะ ในเมื่อพี่สุไม่ปกป้องตาวิน ทั้งที่ขอลูกสาไปเลี้ยงเป็นลูกตัวเองตลอดชีวิต สาก็จะขอทำหน้าที่แม่ที่เคยถูกขวางทางมาตลอดก็แล้วกัน”
“สาไม่ยอมให้ลูกชายสาเป็นเกย์ หรือมีความรักผิดเพศเด็ดขาด!”

“เธอก็เพิ่งพูดเองว่าเจ้าวินเป็นลูกชายสุชาดาตลอดชีวิต เธอจะมาเต้นกับเรื่องของลูกพี่สาวเธอทำไมสาวิตรี”

“คุณพ่อ!” อย่าว่าแต่คุณสาวิตรีอึ้งเลยครับ ผมเองก็อึ้งเหมือนกัน ทำไมคุณตาไม่มีทีท่าว่าจะด่าทอผมที่ทำลายหน้าที่การเป็นหลานชายผู้สืบทอดวงศ์ตระกูลเลย

“แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ”
“เจ้าวิน ค้างที่บ้านนะ พรุ่งนี้ใส่บาตรกับตา พี่ๆ น้องๆ เขาก็จะมากันทั้งนั้น”
“เจ้าโปร”

“ครับ เจ้าสัว”

“มาแต่เช้าล่ะ พรุ่งนี้”

“ครับ”
“เอ่อ...ผม”

“ว่ายังไง”

“ขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่ได้บอกเรื่องผมกับวินให้เจ้าสัวทราบด้วยตัวผมเอง ผมตั้งใจจะบอกเอง แล้วก็จะพิสูจน์ความรู้สึกดีที่มีให้วินให้ครอบครัววินได้รู้ด้วยตัวผมเอง แต่...ต้องมารู้จาก...คนอื่นแบบนี้ ขอโทษครับ แต่ผมจริงจังนะครับ”

“ตาจะคอยดู”
“เจ้าวิน”

“ครับ”

“ส่งเขาแล้วก็พักผ่อนซะนะ”

“คุณพ่อ!”
“คุณพ่อจะยอมง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้นะคะ”
“ทีคราวของสุ คุณพ่อค้านหัวชนฝา แล้วจะมาเข้าใจความรักเพี้ยนๆ แบบนี้ง่ายๆ หรอคะ คุณพ่อ”
“คุณพ่อไม่ยุติธรรมเลย!”

“สาวิตรี!”

“ก็สาพูดความจริง”

ทั้งคู่กำลังจะขึ้นเสียงใส่กันต่อ ป้าสุก็สะกิดผมแล้วพยักเพยิดสั่งให้ผมทำตามที่คุณตาบอก ผมเลยจูงมือนายมือโปรออกมานอกบ้าน

สนามที่ใช้จัดงานแทบหมดแขกเหรื่อแล้ว แต่ไฟประดับประดาทั่วสนามหญ้าก็ยังทำหน้าที่ของมันต่อไป รถของนายมือโปรจอดอยู่บริเวณแนวรั้วด้านนอก ซึ่งผมก็ตั้งใจจะไปส่งเขาให้ถึงรถตามที่คุณตาบอก แต่เขากลับปักหลักยืนอยู่หน้าบ้าน พักขาอยู่ตรงหัวบันไดหน้าบ้าน

“ไม่กลับหรอครับ”

“ไม่อยากกลับนักหรอก” เขาบอกพลางขยับเนคไนท์และชายแขนเสื้อ
“วินจะโอเคมั้ย จะไม่ถูกต่อว่าอะไรอีกใช่รึเปล่า”
“โยนมาให้พี่นะ บอกไปว่าพี่เป็นคนเริ่ม เป็นคนตื้อ ขอร้องวิน พยายามผูกมัดวิน บอกไปว่าพี่ไม่ยอมจบเอง”

“ก็พี่โป๊ะทำแบบนั้นจริงๆ นี่ครับ ไม่เห็นต้องสั่งเสียหรือหาข้ออ้างให้วินใช้ตอบคนอื่นเลย”
“พี่โป๊ะเป็นยังไง ทำยังไง วินก็จะบอกไปตามนั้น เพราะวินก็เชื่อพี่โป๊ะจากการกระทำพวกนั้น”
“แล้วถ้าใครเขาไม่โอเคกับเรา ก็แค่ทิ้งเขาไว้ข้างหลัง”

“แต่เขาที่ว่า คือแม่วินนะ”

“แม่วินคือป้าสุ”

“เด็กโง่”
“อย่าดื้อดึงจนทำร้ายแม่เขาล่ะ”
“พี่จะหาวิธีให้เขายอมรับเราเอง  นะ”

“วินไม่ได้แคร์ซักหน่อย”

“แต่พี่แคร์”
“พรุ่งนี้พี่จะมาตักบาตรด้วยนะ”
“ถึงแล้วจะโทรหา”

“คืนนี้พี่โป๊ะนอนที่ไหน”

“บ้านเราไง”
“บ้านไม้”


“อื้อ”
“ขับรถดีๆ นะครับ”

“ครับ” เขารับคำ ยิ้มให้บางๆ ลูบหัวอย่างเบามือ แล้วก็ลากมือจากหัวมายังแก้ม หัวไหล่ ไต่ลงตามแนวแขนและจับปลายนิ้วมือผมเอาไว้ ลูบเล็บอย่างอาลัยอาวรณ์ เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ผมกลับได้ยินคำว่าเป็นห่วงเต็ม 2 รูหู

#### @ D A W N  #####

เช้าวันนี้ ผมไม่ได้เจอพระอาทิตย์ทางหน้าต่าง เราได้สบมองกันก็ตอนที่พระอาทิตย์ไต่ตัวขึ้นมาทำมุมแคบกับแนวขอบฟ้าแล้ว แสงทองโปร่งใสทอประกายไปทั่วปลายยอดหญ้าบริเวณสนาม น้ำพุที่มีพุ่มสารพัดดอกไม้โอบล้อมพุ่งขึ้นสู่ที่สูงก่อนจะฟุ้งกระจายตัวเป็นละอองน้ำ ชโลมยอดใบหน้าดอกไม้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
ดูสดชื่นดีเหมือนกัน

“ตื่นแล้วหรอลูก”

“ครับ...ป้าสุ”

“ล้างหน้าล้างตาคึยัง หือ?”
“ต้องใส่บาตรนะ”

“ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”

“แล้วพี่เขามารึยัง”

“คุยกันเมื่อคืนก็เห็นว่าจะมาแต่เช้า วินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามารึยัง ยังไม่ได้โทรหา”

“จ้ะ งั้นเดี๋ยวแม่โทรตามเอง”

“เอ่อ ป้าสุครับ”

“หือ? ว่าไงจ๊ะ”

“ถ้าฝืน หรือรับไม่ได้ที่วินเป็นแบบนี้ วินไม่มีก็ได้นะครับ ความรักน่ะ”

“เด็กโง่” เฮ้อ ผมไม่ได้โง่เสียหน่อย ผมแค่เลือกจะทำให้ป้าสุสบายใจที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม จริงอยู่ที่ความรู้สึกที่มีให้นายมือโปรไม่ได้ไร้อิทธิพลใดๆ กับความรู้สึกผม ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลกับผมที่สุด ผมรักผู้หญิงคนนี้ที่สุด
“แม่รักวินอย่างที่วินเป็น จะเป็นอะไร เป็นยังไง แม่ก็รัก ก็เลี้ยงมากับมือ”
“เรื่องรสนิยมทางเพศ มันไม่ได้ผิดอะไรนี่ลูก”
“คิดซะว่าลูกแม่เป็นแรร์ไอเทม”
“แล้วดูสิ ไปคว้าหนุ่มฮอทอย่างตาโปรมาครองได้ น่าอวดให้คนอิจฉาจะตาย”

“ป้าสุดคิดงั้นจริงหรอครับ”

“อื้อ ก็ใช่สิ”
“วินนี่รู้อะไรเกี่ยวกับตาโปรเขาบ้าง หือ?”

“ก็กวนตีน ปากหมา”
“แต่พี่โป๊ะเป็นคนอบอุ่นนะครับ ช่วยวินตลอด วินรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ๆ”

“งั้นก็รู้เพิ่มไว้ 80% ของผู้หญิงที่ได้รู้จักตาโปร ก็หลงทั้งนั้น”
“เขาติดอันดับหนุ่มฮอทของนิตยาสารดังๆ ตั้งหลายปี”
“ทำเนียบผู้บริหารไฟแรงก็เคยอยู่ในลิสต์ตั้งแต่เขามาช่วยพ่อเขาบริหาร”
“ถ้าจะมีสิ่งที่แม่ต้องสกรีนเป็นพิเศษ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ว่าเขาคิดอะไรกับลูกแม่เมื่อไหร่หรอก ต้องสกรีนเรื่องเขาจะรักจะชอบเรานานแค่ไหน”
“คำตอบที่แม่อยากหาเจอ ก็คือตลอดไป”

“ขนาดนั้นเลยหรอครับ”

“ใช่สิจ๊ะ เจอช้างเผือกไม่รีบคล้องได้ไง”
“นี่ก็ต่อยอดอะไรได้ตั้งเยอะ กำลังห่วงอยู่เชียวว่าบริษัทที่ร่วมทุนกันเขาจะลงแรงได้แค่ไหน ถ้าคบกันจริงจัง รับรองว่าตาโปรลงทั้งตัวทั้งหัวใจเลย วินก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก”

“เอาเปรียบเขาน่า”

“ริจะรักลูกแม่ก็ต้องให้ทั้งหมดนั่นแหละ”
“นี่ตาวิน แม่ถามอีกอย่างสิ”

“ครับ”

“ได้กันรึยัง?”
“วินทำเป็นมั้ย? แม่หาคนมาสอนดีมั้ย เขาจะได้อยู่ในกำมือเราชัวร์ๆ”

นี่หละครับ คุณสุชาดา
ผมขมวดคิ้วใส่ ทำสีหน้าให้รู้ว่าถามอะไรเนี่ย? แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้า แปรงฟัน ผมยังไม่อาบน้ำ เพราะคิดว่าเดี๋ยวใส่บาตรกับคุณตาเสร็จแล้วจะกินข้าวเช้า 2 คำแล้วนอนต่อ แม้วันนี้จะไม่ใช่วันหยุด แต่ผมจะขอใช้สิทธิ์ลางานเสียหน่อย เผื่อจะมีเวลาอยู่อ้อนป้าสุที่บ้าน หรือออกไปชอปปิงกับป้าสุที่ไหนสักที่

ขบวนใส่บาตรของตระกูลผมไม่ยาวเท่าขบวนรถไฟหรอกครับ แต่ก็ยาวกว่ารถกระบ 2 คนจอดต่อกัน
หัวขบวนคือคุณตา แม่บ้านใหญ่ที่ดูแลเรื่องในบ้านมาแต่เนิ่นนานยืนคล้อยหลังคุณตาเล็กน้อย เธอต้องคอยส่งของใส่บาตรให้น่ะครับ ถัดมาคือลุงสันต์ พี่ชายคนโตของตระกูล ภรรยาลุงสันต์ พี่ๆ ของผม อีก 3 คน ชาย 2 หญิง 1 คล้อยมาทางด้านหลังก็เด็กรับใช้ของบ้านพวกเขา ดูเหมือนจะของใส่บาตรที่เตรียมมาเองด้วย ได้ยินพี่ๆ เขาคุยให้ป้าสุฟังว่าคุณแม่ของพวกเขาตื่นมาทำอาหารเองแต่เช้า ซึ่งนานๆ ทีจะได้เห็น
ถัดมาก็คือป้าสุ และผม เรายืนขนาบข้างกัน คล้อยหลังผมไปก็เด็กรับใช้ของบ้านใหญ่คอยส่งของให้ผม เพื่อใส่บาตรประสานมือกับป้าสุอีกที ผมไม่ได้ขออะไรมากเลย ขอแค่ชาติหน้าได้มีโอกาสเกิดมาเป็นลูกป้าสุจริงๆ แล้วก็อธิษฐานให้ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดคนนี้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาแผ้วพาน ขอให้ป้าสุมีแต่ความสุขความสมหวัง และก่อนจะหมดลมหายใจระหว่างที่กลั้นสมาธิอธิษฐาน ผมยกเฮือกสุดท้าย ขอให้คุณตามีสุขภาพที่แข็งแรง
ถัดจากผมก็คือคุณสาวิตรี วันนี้เธอเงียบเสียจนแม้แต่สายตาก็ไม่ทักทายใคร ข้างตัวไม่มีใคร คล้อยหลังไปมีเด็กรับใช้ในบ้านยืนรอคอยอำนวยความสะดวก
ส่วนอีกคนที่อยากจะมาเป็นสมาชิกในครอบครัวผม ยังไม่โผล่ครับ
เมื่อคืนนี้ นายมือโปรโทรหาผมหลังจากกลับถึงบ้านแล้ว เราคุยกันไม่นานเขาก็ไล่ให้ผมไปนอนครับ ซึ่งผมก็ไม่ยื้อเพราะรู้สึกเพลียเหมือนกัน ที่สำคัญ ผมลืมกำชับเขาด้วยว่าควรตรงเวลา

“เจ้าวิน”
“โปรยังไม่มารึ?”

“ครับ คุณตา”

“ถึงไหนแล้ว โทรถามให้ตาหน่อยสิ”

“ครับ” ผมรับคำ หยิบโทรศัพท์มาโทรจี้คนที่กำลังจะได้รับคุณสมบัติไม่ตรงต่อเวลาไว้บนหัว แต่ป้าสุกลับยั้งมือผมไว้แล้วพยักพเยิดให้ผมมองไปทางประตูรั้วบ้าน ตอนแรกผมคิดว่าไม่ทันแล้วเพราะพระมาแล้ว แต่ไม่ใช่ครับ นายมือโปรมาแล้วต่างหาก ไม่ได้มาคนเดียวด้วยครับ พ่อเขาก็มา ตามหลังพ่อเขาคือผู้ใหญ่อีกคน และแกงค์นายมือโปรครับ ทั้งพี่หนึ่ง พี่หมอนำ และพี่พีชกับผู้หญิงอีกคน
ทำไมมากันเยอะจังวะ?

“เอ้า ใครยกขบวนอะไรมากันน่ะ?”

“ตาโปรค่ะคุณพ่อ ข้างหลังก็คุณตะวัน พ่อเขา”

“และบริวารทั้งหลายเหล่านี้ล่ะมั้งครับ คุณตา”

ครอบครัวลุงสันต์หันมองและส่งสีหน้างุนงง แต่เมื่อคุณตาไม่ได้ละตะเพิดใคร ผู้มาเยือนก็เดินมาถึงขบวนใส่บาตรโดยปลอดภัยครบถ้วนทุกตัวตนครับ

“อะไรเนี่ย มาทำอะไรกันเยอะแยะครับ”

“พี่บอกพ่อคนเดียว ที่เหลือขอแจมน่ะ” เมื่อผมกระซิบถามตอนเดินออกไปต้อนรับเขาและพาเดินมาหาคุณตา เขาก็ก้มตัวมากระซิบตอบ ผมชะลอฝีเท้าเพื่อรอให้คุณตะวันเดินมาถึงตัวผม แล้วก็ยกมือไหว้ รายนี้ส่งยิ้มให้ รับไหว้ผมไว้และหันมองไปยังผู้ใหญ่อีกคน

“สวัสดีครับ” ผมไหว้ผู้ใหญ่ที่ผมไม่รู้จัก และผู้ใหญ่คนนี้ก็หัวเราะพออกพอใจ รับไหว้ผมและเดินเลยไป คุณตะวันเลยใจดีบอกให้ว่าเขาคือใคร

“คุณคณิน พ่อพี่หนึ่งน่ะ เราสนิทกัน”

“อ่อ” ผมก็ไม่กระจ่างอยู่ดีว่าพ่อของเพื่อนและเพื่อนของพ่อพี่โป๊ะ จะมาใส่บาตรที่บ้านผมเพื่ออะไร?

หมดขบวนผู้ใหญ่ ผมก็ต้อนรับพี่หนึ่ง พี่หมอนำ พี่พีช และ....
“พี่บัวค่ะ แฟนพีช อยากเจอแฟนโป๊ะจนต้องขอมาด้วยเลยค่ะ”

“อ่อ...ครับ”

“น้องวินยังมีเวลาคิดนะคะ”
“โป๊ะเป็นคนดี แต่คนดีในโลกนี้มีอีกเยอะค่ะ”
“บัว ไม่เอาน่า โป๊ะกำลังตื่นเต้นนะ”

“บัวล้อเล่น พีชอย่าซีเรียสสิ”

เอาเถอะ จะล้อเล่นก็ดูบรรยากาศด้วยครับ ผมไมได้ตอบอะไร ทำได้แค่เดินจ้ำไปยังหน้าบ้าน แทรกตัวยืนข้างป้าสุ ที่ตอนนี้จับกลุ่มทักทายคุณตะวันและเพื่อนคุณตะวัน ดูเหมือนลุงสันต์ก็เคลิ้มไหลไปกับบรรยากาศแห่งการทักทายและแนะนำตัวด้วย

“ไม่เจอกันนานเลยนะ คุณตะวัน คุณคณิน” ผมได้ยินแว่วๆ เท่านี้ ต่อจากนั้นคุยอะไรกันก็สุดจะแอบฟังได้ เพราะคุณสาวิตรีเล่นตวัดตามองผมอย่างไม่พอใจ พ่นลมหายใจแรงจนผมกลัวว่าเธอจะเป็นลมล้มพับไปตรงหน้า กำลังจะอ้าปากถามว่าจะเอายาดมมั้ย นายคนขับรถก็วิ่งมาเพื่อรายงานคุณพระคุณเจ้ามาแล้ว

กระบวนการใส่บาตรในวันเกิดคุณตาผ่านไปอย่างเรียบร้อยครับ ทางบ้านลุงสันต์พากันกลับไปยังบ้านตนซึ่งอยู่ในบริเวณที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เดินกลับก็พอได้เหงื่ออยู่หรอกครับ ส่วนที่แห่แหนกันมายังห้องรับแขกบ้านใหญ่ซึ่งผมอาศัยอยู่มา 20 กว่าปี ก่อนจะแยกไปอยู่บ้านไม้ท้ายสลัม ก็คือกลุ่มคนที่เชิญคนเดียวมากันเป็นขโยงครับ

“วิน เดี๋ยวเข้าบริษัทพร้อมกันนะ” พอส่งผู้ใหญ่ไปคุยกันแล้ว นายมือโปรก็แยกตัวมาคุยกับผม ส่วนเพื่อนเขาถูกรับรองตรงศาลาข้างบ้าน ซึ่งอยู่ริมบึงที่ขุดขึ้นมาเอง

“วันนี้วินว่าจะขอลางานครับ จะอยู่กับป้าสุ”

“อาสุก็จะไปกับเรานี่ไง”
“ไปเร็วสิ แต่งตัวใหม่”

“ไปไหน?”

“ไปทำงานไง วันนี้พี่จะเข้าไปดูสตูฯ อาสุอยากตามไปดูด้วยว่าถึงไหนแล้ว คุณสาวิตรีก็ด้วย”

“คุณสาจะไปกับเรา? พี่โป๊ะละเมอรึเปล่า คุณสาเขาไม่ชอบพี่โป๊ะ ไม่ชอบที่เราคบกัน เขาจะไปกับเราทำไม แล้วเราจะพาเขาไปทำไม”

“เขาเป็นแม่วิน”
“สำหรับพี่ คุณสาวิตรีสำคัญก็เพราะเป็นแม่วิน”
“พี่ไม่อยากวินว่าแม่ตัวเองอีก มันไม่ดี”
“ไปได้แล้วไอ้ยุ่ง อย่าให้ผู้ใหญ่รอ”

“รู้แล้วรู้แล้ว”
“แต่พี่โป๊ะบอกวินมาก่อน ว่าพาคุณตะวันมาทำไม”

“พี่คบกับหลานเขาลูกเขา พี่ต้องให้เขารู้สึว่าผู้ใหญ่ของพี่คิดเห็นยังไง”
“อีกอย่าง ก็มาการันตียี่ห้อวณิคพันธุ์ไง ทำอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด” 

“เอาพ่อมาคุ้มกะลาหัวว่างั้น”

“ตรงเหลือเกิน แฟนใครเนี่ย?”

“ไม่รู้จริงหรือว่าพี่โป๊ะแกล้งโง่กันแน่ ไม่รู้หรอว่าวินแฟนใคร” ผมย้อนเข้าให้ สีหน้าผมคงน่าหมั่นไส้มาก ถึงได้ถูกนิ้วชี้นายมือโปรยีหน้าผาก

“เดี๋ยวก่อนเถอะ ผู้ใหญ่รับรู้แล้วก็เตรียมเป็นเมียได้เลย ไม่ฟงไม่แฟนแม่งแล้ว”
“เร็วดิ”

“แม่ง!” ผมแง่งใส่แล้วก็วิ่งขึ้นห้อง ดีที่เขาไม่ตามมาด้วยเพราะต้องเดินรี้ไปดูแลเพื่อนเขา เดี๋ยวนะ นี่บ้านผมไม่ใช่หรอ? ทำไมเขาดูเข้านอกออกในได้อย่างคุ้นเคยแบบนี้วะ?

ทุกอย่างในห้องส่วนตัวของผมยังอยู่เหมือนเดิม ความสะอาดก็ตามมาตรฐานที่ป้าสุกำหนดไว้ ราวกับว่าห้องนี้ไม่เคยร้างคนอยู่ร่วม 5 ปี ของใช้ส่วนตัวผมยังอยู่ที่เดิมของมัน ต่างออกไปก็จะแค่ของใช้เหล่านี้ไม่เคยเจอหน้าผมมาร่วม 5 ปี พวกมันเท่ดีเหมือนกันนะครับ ได้เป็นของใช้ที่ถูกหยุดอายุไว้ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ผมสะดุดจังหวะที่กำลังดึงเสื้อออกจากหัวตัวเอง ผมจำต้องดึงเสื้อกลับมาประกบตัวอีกครั้งแล้วเดินไปเปิดประตู
“อะไร?” ผมถามเด็กรับใช้ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เดาว่าคงเพิ่งเข้ามาทำงานในช่วงที่ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านนี้

“คุณสุชาดาบอกว่าอาบน้ำแล้วให้ไปที่ห้องรับแขกด้วยค่ะ”
“แต่คุณสุบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้นะคะ”

“อืม ขอบใจนะ” ผมบอกเธอแล้วปิดประตูตามเดิมและยืนครุ่นคิดอยู่ว่ามีเหตุผลอะไรที่ห้องรับแขกที่มีแต่ผู้ใหญ่นั้นจำเป็นต้องมีเป็นส่วนร่วม
เอาเถอะ จะเกิดอะไรก็ช่าง ผมแค่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง และต้องการอะไรก็คงพอแล้ว

เพราะนายมือโปรบอกว่าจะไปที่สตูดิโอชานเมืองโน่น ผมก็เลยเลือกเสื้อโปโลมาใส่ กางเกงก็ให้เกียรติสถานี่ด้วยความยาวปิดตาตุ่ม รองเท้าสวมสบายๆ กระเป๋าปาดข้างที่ชอบใช้ก็พาดมันติดตัวไปด้วย มือถือ นาฬิกาที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อวาน กระเป๋าสตางค์แบนๆ ส่วนหมวกนี่เป็นของแถมที่บังเอิญตาดีเห็นมันอยู่ในตู้เสื้อผ้า จริงๆ ก็อยากได้แว่นกันแดดด้วย แต่ไม่มีอันที่ผมชอบอยู่ที่นี่ งั้นช่างมันก็แล้วกัน

“เอาล่ะ”
“กลับบ้านเถอะวิน”
ผมบอกตัวเอง ยิ้มให้ตัวเองแล้วก็เดินออกจากห้องที่ไม่ได้ใช้งานมาร่วม 5 ปี
ผมไม่ใช่คนของที่นี่อีกต่อไปแล้ว
ผมมีชีวิตของผม มีทางเดินของผม
แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ว่า เพราะผมเป็นคนของที่นี่ ผมถึงมีหน้าเดินเชิดคอบอกใครต่อใครได้ว่าจะไม่สนใจทางที่ผู้ใหญ่ผลักให้เดิน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2016 23:49:09 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #545 เมื่อ18-05-2016 23:39:55 »

บ้านออกจะใหญ่โต แต่ความเงียบกลับครองพื้นที่ไว้ทั้งหลัง ผมชินกับความเงียบนี้ดี และชอบความเงียบที่บ้านไม้มากกว่า เดินปนกระโดดปนวิ่งลงบันไดไม่ทันได้เมื่อยก็ถึงห้องรับแขกที่ป้าสุบอกให้ผมตามมาสมทบ ผมไม่รู้ว่าอีกฝั่งของขอบประตูโค้งสูงใหญ่นี้มีใครอยู่บ้าง แต่พวกเขาทั้งหมดก็คือคนที่ผมต้องเผชิญหน้า

“อ่ะ ตาวิน มาได้สักที”

“ครับ” ผมรับคำคนที่ทักผมคนแรก คุณสาวิตรีมองผมต่ออีกนิดก่อนจะบอกเพิ่ม

“มานั่งนี่”

อะไรกัน แม้แต่จะนั่งที่ไหนก็ต้องกะเกณฑ์กันงั้นหรอ? ประหลาด ปกติคุณสาวิตรีไม่เคยแยแสว่าผมจะพาสสารร่างกายผมไปตั้งตรงไหน
ผมไม่ไปตามที่ถูกเรียก และเลือกเดินมานั่งข้างๆ ป้าสุ ซึ่งเป็นที่ประจำของผมตั้งแต่จำความได้

“เจ้าวิน เดี๋ยวจะออกไปทำงานกับเจ้าโปรหรอ”

“ครับคุณตา”
“พี่โป๊ะบอกว่าจะไปดูสตูดิโอที่บางพลี ป้าสุก็จะไปด้วย”

“ตาก็อยากไปดูนะ แต่คงเดินทางไม่ไหวล่ะ อากาศก็ไม่เอื้อคนแก่ด้วย”

“เอาไว้เสร็จเรียบร้อย เจ้าสัวค่อยไปดีกว่าครับ”
“ผมเองเคยเดินดูรอบๆ จนเกือบเป็นลม”

“อย่าเพิ่งไปเลยค่ะคุณพ่อ เด็กๆ อย่างตาวินยังไปเป็นลมเป็นแล้งที่นั่นเลย เดือดร้อนตาโปรต้องแบกมาส่งโรงพยาบาล” อะไรกันเล่า? ก็ถ้าไม่มีไอ้ลุงตัวไหนมันพาลไม่ให้กินน้ำ ผมก็ไม่เป็นลมหรอก พวกผู้ใหญ่นี่ขี้เมาท์เหมือนกันแฮะ ผมหันหน้าหนีคนที่ยิงฟันส่งมาให้ดูเขื่อนขาวจั๊ว

“อะไรกันเจ้าวิน ทำไมหมดแรงข้าวต้มแบบนั้น”
“ยังหนุ่มยังแน่น”

“ผมว่า ตาวินน่าจะเหมาะกับนั่งตรวจงานอยู่ในออฟฟิศมากกว่านะครับ”
“ไอ้เรื่องคลุกดินน่ะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เจ้าโปรมันเถอะ” เพื่อนพ่อเขาพูดเสริมแล้วก็พากันหัวเราะ สามหนุ่มที่อายุรวมกันเกิน 100 ปีทำเหมือนไม่มีลูกหลานนั่งมองหน้ากันงงๆ อยู่ในห้องรับแขก

“ระรื่นกันพอรึยังคะคุณพ่อ”
“สาบอกแล้วไงว่าเราต้องการจัดการเรื่องนี้โดยด่วน ตัดไฟแต่ต้นลม”
“วินมาก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่าต่อไปนี้ต้องทำตัวยังไง”

“ทำไมวินต้องรู้ด้วยว่าต้องทำตัวยังไง”
“วินอยากทำตัวยังไงวินก็ทำ”


“เถียงเก่งเหลือเกินนะ”
“ทำเรื่องงามหน้ายังไม่สำนึก”

“วินทำอะไรงามหน้าหรอครับ?”

คุณสาจ้องผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ผมไม่กลัวหรอก ไม่ใช่เพราะมั่นใจว่ามีคนถือหาง แต่เป็นเพราะผมไม่เคยให้น้ำหนักความคิดคุณสาในส่วนสำนึกตรึกตรองการกระทำเลย ภาษาง่ายๆ คือผมไม่แคร์

“เอาน่าตาวิน”
“เมื่อกี้ ตอนที่เราอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน คุณตะวันกับตาโปรเขามาเล่าเรื่องบริษัทร่วมทุนว่าคืบหน้าไปมากแล้ว เปิดประมูลบริษัทรับเหมาก่อสร้างเรียบร้อย ก็เจ้านี้แหละจ้ะ คุณคณิน เขาเป็นเพื่อนเก่าแก่กันทั้งรุ่นพ่อรุ่นลูกกับคุณตะวัน”
“เครือเราก็เคยดีลด้วยนะ โรงแรมที่สุขุวิท ก็บริษัทคุณคณินสร้าง”

“อ่อ ครับ”
“แล้วมีอะไรที่วินต้องรู้ล่ะครับ ทำไมคุณสาต้องพูดแบบนั้น วินไม่ชอบเดาเอาเอง ป้าสุหรือใครพอจะบอกวินได้ ก็บอกวินมาตรงๆ เถอะครับ”

“วิน พี่ว่าเราอออกไปข้างนอกกัน”

“ไม่”

“วิน” นายมือโปรเรียกผมเป็นการย้ำ เขาส่งสายตาขอร้องมาเป็นทูต แต่ผมไม่อยากเงียบปากแล้วอยู่กับความรู้สึกอึดอัดขัดใจแบบนี้

“นี่มันชีวิตวินรึเปล่าล่ะ”

“พูดขึ้นมาก็ดี ไม่มีใครตอบ ก็จะตอบให้”
“หมดเวลาเอาแต่ใจแล้วนายวิณณ์”
“แม่ไม่ได้ยกแกให้ใคร เพื่อให้แกโตมาวิปริตแบบนี้”
“ชั้นไม่ได้ยอมให้คนอื่นชุบเลี้ยงแกเพื่อโตมาเหลวแหลกแบบนี้”
“สาบอกแล้วไงคะว่าสาไม่ยอมให้ตาวินต้องเดินทางผิดไปมากกว่านี้”
“ถ้าคุณพ่อยืนยันว่าวินก็ส่วนวิน ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ เอามาต่อรองกันไม่ได้ สาก็จะไม่ค้านเรื่องจอยท์เวนเจอร์นั่น แต่ส่วนของวิน สาจะจัดการเอง”

“เธอจะจัดการอะไรล่ะสาวิตรี” ป้าสุขัดขึ้นทันที

“ผมว่า เรามองเรื่องนี้ในมุมของเด็กๆ เถอะครับ”

“คุณคณินคะ ขอให้เป็นเรื่องของพวกเราเถอะค่ะ” ผมอยากกราบขอโทษคุณคณินเหลือเกิน ตอนนี้คุณตาหน้าเครียดจนผมหวั่นว่าอาการแน่นหน้าอกจะกำเริบ ส่วนป้าสุเริ่มนั่งกำมือตัวเอง แสดงว่าโลกกำลังจะระเบิด
 
“สาวิตรี! เธออย่าหยาบคายกับแขกของเรา คุณคณิน สุขอโทษแทนน้องด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ลูกชายผมเฮี้ยวกว่านี้เยอะ”
“ถ้างั้น ผมไปดูพวกเด็กๆ ก่อนนะครับ ไม่รู้แอบกระโดดลงบึงบัวคุณสุรึเปล่า”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้าใจ” แขกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยเดินออกไปหลังจากส่งสายตาปลอบประโลมนายมือโปรเรียบร้อย ผมจ้องคุณสาวิตรีอีกครั้ง จากนั้นก็เปิดประเด็นตรงๆ เอาให้มันรู้เรื่องกันไป

“คุณสาจะจัดการอะไรวินครับ”

“ชั้นทำแน่ ไม่ต้องท้า”

“ไมได้ท้าครับ”

“เลิกเถียงชั้นทุกคำสักทีได้มั้ย คิดว่าชั้นว่างอบรมเธองั้นหรอวิณณ์”

“ไม่ได้คิดว่าคุณสามีเวลาอบรมวินหรอกครับ แล้ววินก็ไม่ได้ว่างฟังคุณสาด้วย ถ้าเกิดอยากจะอบรมวินขึ้นมา”

“เจ้าวิน... อย่าเถียงเขาลูก” คุณตาห้ามปากผมจนได้ มันเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ผมกับคุณสาวิตรีมีเรื่องไม่ลงรอยกัน

ทำไมผมถึงเถียงผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ล่ะ? เพราะเขาให้ผมใช้ช่องคลอดเขาเป็นประตูมาสู่โลกนี้หรอ
ถ้าไม่ต้องการผม ไม่อยากให้ผมเกิดมา ทำไมไม่ฆ่าให้ตายตั้งแต่นิวเคลียสยังแบ่งเซลล์ไม่เสร็จล่ะ
ผมยอมเงียบถ้ามันทำให้คุณตาสบายใจ ถอนหายใจไม่กี่ครั้ง ผมก็เคลียร์ใหม่

“ป้าสุครับ ป้าสุยอมรับวินกับพี่โป๊ะมั้ยครับ”

“แม่บอกแล้วไง วินรักใครแม่ก็รัก ใครรักวินแม่ก็รัก”

“ไม่อายใช่มั้ยครับ”

“ลูกแม่น่าอิจฉาจะตาย”

“คุณตาครับ วินเป็นเกย์ มันทำให้หุ้นเครือเราร่วงมั้ยครับ ทำให้กงสีไม่มีเงินเข้ารึเปล่า ทำให้คุณตาหนักใจมากขึ้นมั้ยครับ”

“ตาแก่แล้ว อะไรที่ทำให้หลานตามีความสุข ตาก็ยินดีทั้งนั้น”
“ตาเชื่อว่าวินเป็นเด็กที่รู้จักไตร่ตรอง รู้จักเลือกคบมิตรดีๆ ฝากหลานด้วยนะคุณตะวัน”

“ผมสิครับ ต้องขอบคุณเจ้าสัว ลูกผมมันมาทำให้เสื่อมเสียแท้ๆ”

“ความรักไม่ผิดหรอก ถ้าเรารักอย่างมีสติ นะคุณตะวันนะ”

“พอเถอะค่ะ”
“สาเอียนเต็มที”
“ทำไมทุกคนถึงคิดว่ามันโอเค ทำไมถึงคิดว่าไม่เป็นไร”
“คุณพ่อคะ ตาวินต้องรับช่วงธุรกิจเราไม่อันใดก็อันหนึ่ง”
“จะปล่อยให้แกเป็น...ความรักแบบนี้มันไปไม่รอด”
“ทางนั้นเองไว้ใจได้รึเปล่า?”
“แน่ใจหรอว่าเขารักเขาชอบจริงๆ”
“ไม่สงสัยกันหรอคะ ได้จอยท์เวนเจอร์กับเรา มารักมาชอบลูกหลานเรา ต่อไปไม่ขออะไรกับเราหรอคะ”
“ทำไมถึงเชื่อว่าเขารักตาวินจริงๆ”

“คุณสาวิตรีครับ”

“ขั้นไม่ได้ขอความคิดเห็นคุณ!” คุณสาหันมาตวาดนายมือโปรเหมือนคนเสียสติ ทุกคนในห้องรับแขกต่างถอนหายใจ ผมเองก็ถอนหายใจ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกมา มันไม่ได้กระทบความทรงจำที่นายมือโปรเคยสร้างไว้เลย ตรงกันข้าม ยิ่งคุณสาเกรี้ยวกราด เรื่องราวดีๆ ที่เขาทำให้ผมก็ยิ่งเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ผมมองได้ชัดขึ้นว่าความรู้สึกไหนคือรัก

“ไม่พูดกับผมก็ได้ แต่ต้องฟังกันบ้างสิครับ” นายมือโปรลุกขึ้นยืนสู้
“ผมรู้ว่าวินเป็นลูกชายคุณ แต่วินไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์หรือโล่หรือเกียรติบัตรที่คุณจะเอาไว้อวดใครๆ ไม่จำเป็นต้องดีเลิศเพื่อเชิดหน้าชูตาคุณหรอกครับ แค่วินมีความสุขก็น่าจะเพียงพอ”
“แม้ไม่ใช่ผมที่มายืนพูดหน้าด้านๆ ว่ารักหลานชายบ้านนี้ เป็นผู้ชายคนอื่นหรือผู้หญิงคนอื่น ความคิดคุณสาวิตรีก็คงไม่เปลี่ยน”
“ผมไม่คิดว่าผมไม่เหมาะสมกับวิน ไม่ว่าจะด้านไหน”
“ผมไม่ได้ด้อยกว่า ผมโตกว่า หาเงินได้เยอะกว่า มีความรับผิดชอบต่องาน เพื่อนฝูงพึ่งพาผมได้ ผมดูแลพ่อแม่ผมเป็นอย่างดี วินฝากชีวิตไว้ที่ผมได้”
“เพราะฉะนั้นผมเลยไม่เข้าใจว่าคุณสาวิตรีขวางผมกับวิน ด้วยเหตุผลอะไร”

“ก็คุณไม่เหมาะ”

“ระบุมาเลยครับ” นายมือโปรสวนขึ้นทันควัน คุณสาวิตรีอ้ำอึ้งเหมือนคนโดนจับกรอกน้ำจนท่วมปากไม่มีผิด

“ก็...ก็...”

“ว่ามาเลยครับ” นายมือโปรถามย้ำ เขายังคงยืนเต็มความสูง กดหน้ามองคุณสาวิตรีที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่ แต่ดูตัวล็กกว่ามาก

“คุณเป็นผู้ชาย ตาวินก็ผู้ชาย ไม่ใช่ของคู่กันมาแต่ต้น นี่มันไม่ถูกต้อง”

“ไม่ถูกต้องตรงไหนครับ”

“อย่างน้อยสังคมก็ไม่ยอมรับ”

“ไม่นี่ครับ เจ้าสัวเอง คุณอาสุเอง ก็มองว่ามันไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าผมกับวินจะมีไมตรีจิตที่ดีต่อกัน”

“กฏหมายไม่รองรับ!”

“เผ่าพันธุ์มนุษย์เกิดขึ้นก่อนกฎหมายครับ และกฎหมายก็ควบคุมการกระทำ ป้องกันไม่ให้เกิดผลลัพท์ไม่ดี กฎหมายไม่ได้ห้ามมีความรัก”

“เอ๊ะคุณนี่!”

“ดูเหมือนเหตุผลคุณสาวิตรี ก็แค่ไม่ชอบขี้หน้าผม เท่านั้นรึเปล่าครับ”
“ผมอาจไม่ใช่คนที่คุณอยากให้ใช้ชีวิตร่วมกับวินไปจนแก่ อาจไม่ไว้ใจผม คิดว่าผมมาหลอกเอาสมบัติบ้านคุณทั้งที่ทุกวันนี้ผมยังอยู่บ้านที่มีอยู่ให้ครบภายใน 1 สัปดาห์ไม่ได้เลย ก็เอาเถอะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็กำหนดมา ว่าผมต้องทำยังไง คุณถึงจะยอมรับได้และอนุญาตให้วินมีความสุข” หมอนี่ฉลาดเป็นกรดเลย

เขาไม่ได้ขออะไรใหญ่โตจากคุณสาเลย
เขาขอแค่ความสุขของผมเท่านั้น
ผมเห็นคุณตาอมยิ้ม คุณตะวันส่ายหัวพลางถอนหายใจ ส่วนป้าสุทำท่าเยส! ด้วยการถองข้อศอกเข้าหาตัว
ดูเหมือนหมากกระดานนี้มีชื่อผู้ชนะขึ้นมาลางๆ แล้ว

“ก็ดีค่ะ ดีที่ยังจำได้ว่าชั้นคือแม่คนที่คุณพูดว่ารัก”
“ชั้นไม่เอาอะไรมาก เงินทองไม่ต้อง”
“แต่ตาวินต้องอยู่บ้านนี้”
“ทำงานกันตามปกติ แต่ต้องกลับมาบ้านนี้ นอนที่นี่ อยู่ในความดูแลของชั้น”
“จะไปไหนก็บอกคนขับรถ เขาจะพาตาวินไปเอง”
“ออฟฟิศหลักอยู่ที่ไหนคะ แจ้งชั้นด้วยว่าตารางงานของตาวินมีอะไรบ้างในแต่ละวัน”
“และชั้น ก็ขอสิทธิเข้านอกออกในทุกออฟฟิศของคุณด้วย ชั้นอยากไปหาลูกชาย”
“เห็นมั้ยคะ ไม่ยากเลย”

ตลกเถอะ ใครจะยอม
นี่ชีวิตผมนะ ทำไมต้องติดคุกอยู่กับคุณสาด้วย ผมไม่ยอมหรอก ไม่เอา ไม่รับปากเว้ย!

“ได้ครับ”

ไอ้บ้าพี่โป๊ะ ถามกันก่อนสิวะ!
นี่มันหายนะชัดๆ!


Cut

หึหึ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าใครคุมหมากทั้งกระดาน

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #546 เมื่อ19-05-2016 00:31:28 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #547 เมื่อ19-05-2016 01:14:10 »

กำลังพยายามเข้าใจความเป็นแม่ของสาวิตรีค่ะ    เราไม่เข้าใจเพราะว่าเราคิดเหมือนสุชาดา  (ไปจนถึงการหาคนมาสอน 555 เราเปิดอากู๋หาข้อมูลให้ลูกชายเฉยๆ)

เอาเข้าจริงๆไม่ไหวมากๆวินก็คงต้องจัดการเอง  แต่สาวิตรีเจอพี่โป๊ะนี่...น่าสนใจค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #548 เมื่อ19-05-2016 01:31:04 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #549 เมื่อ19-05-2016 09:38:48 »

นาทีนี้ต้องบอกว่าพี่โป๊ะ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดด  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
« ตอบ #549 เมื่อ: 19-05-2016 09:38:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #550 เมื่อ19-05-2016 14:40:58 »

เดี๋ยวโดนโป๊ะตลบหลังแน่

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #551 เมื่อ19-05-2016 15:16:08 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #552 เมื่อ19-05-2016 16:04:09 »

คุณสานี่เป็นแม่แบบไหน เริ่มไม่เข้าใจ !!!!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #553 เมื่อ19-05-2016 21:15:10 »

เอาคุณสาไปเก็บเถอะค่ะเพลียจริงๆ
เอานางลงหลุมไหนไปก็ได้ค่ะ :katai5:
เชิญคุณสา :bye2:

ออฟไลน์ iimayuworld

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #554 เมื่อ20-05-2016 17:42:07 »

โอ้ยยยย รำยัยคุณสา นี่จะมาไม้ไหนอีกละเนี่ย  :angry2: :angry2:
แต่เชื่อว่าพี่โป๊ะรับมือไหว ฮีฉลาด ฮีต้องเป็นผู้คุมเกมส์ดิ โถ่ววว
สู้ๆน๊าพี่โป๊ะ น้องวิน

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #555 เมื่อ20-05-2016 18:16:07 »

พี่โป๊ะสุยอดดดด  o13

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #556 เมื่อ20-05-2016 22:53:16 »

ทำไมพี่โป๊ะเท่ห์ขนาดนี้


ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #557 เมื่อ21-05-2016 20:46:54 »

ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเรื่องคุณแม่สาหรอกนะ
เพราะคิดว่าก็คงไม่มีบทอะไรเยอะมาก
มาตอนนี้อยากรู้ว่าปมคุณแม่คืออะไร ทำไมอะไรยังไง ถึงยกลูกให้ป้าสุ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 38(18-05-16)
«ตอบ #558 เมื่อ11-06-2016 15:33:32 »

หลังจากห่างหายไปนานกับบอร์ด กลับมาทบทวนเรื่องเก่า ๆ ก็ตามเก็บไปหลายเรื่อง
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ตามเก็บ  พร้อมมาทวงตอนต่อไปนะครับ
ว่าไอ้พี่โป๊ะ  จะจัดการกับคุณสาอย่างไร  ให้ยอมรับในตัวเขา ไม่น่ายากสำหรับนายมือโปร
แต่อย่างรู้เร็ว ๆ   :จุ๊บๆ:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #559 เมื่อ11-07-2016 23:38:10 »

Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 39


เช้าอันเงียบสงบ แสงทองระยิบระยับประพรมบนผิวน้ำ เหล่านั้นไม่ใช่ของขวัญที่โลกนี้สรรค์สร้างให้ผมอีกต่อไป อย่างน้อย ๆ ผมก็จะไม่ได้รับของขวัญดีๆ แบบนั้นอีกหากว่ายังต้องอยู่ที่บ้านหลังใหญ่โต ในเนื้อที่กว้างขวางเป็นลานเลี้ยงเป็ดแบบนี้
เสียงเคาะประตูต่างหากที่ปลุกผมให้ตื่นขึ้นในตอนเช้า มันเป็นแบบนี้มาเกือบเดือน ไม่มีทีท่าว่ามันจะเปลี่ยนวิถีไป บางทีอาจจะเป็นใจผมเองนี่แหละ ที่เริ่มยอมรับวิถีที่ไม่ได้ชอบแบบนี้ และแปรเปลี่ยนไปเสียเอง
“คุณวินคะ”
“รู้แล้ว” ผมตอบพอให้ฝ่ายนอกประตูห้องนอนได้ยิน ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบนเตียง โยกตัวไปมาเพื่อขยับขดลำไส้เสียหน่อย จากนั้นค่อยทำกิจวัตรตอนเช้า แต่งตัวในชุดทำงาน แม้ผมจะพร่ำบอกป้าสุว่า ‘บริษัทของเรา’ ไม่ซีเรียสเรื่องชุดทางการหรือไม่ทางการ แต่ป้าสุก็เลือกจะสั่งให้ผมแต่งตัวตามประสบการณ์ที่ป้าเคยพบเจอ ‘ผู้บริหารร่วม’ของผม
ตาโปรเขายังแต่งตัวเป็นผู้ใหญ่ เราก็ต้องให้เหมือนเขา นี่คือเหตุผลของป้าสุที่ผมไม่อยากฟังอีก เลยทำตามที่ป้าบอกไปอย่างหลับหูหลับตา
อาหารมื้อเช้าบนโต๊ะอาหารใหญ่ยาวก็เรียบๆ ครับ ไม่มีเมนูไหนขึ้นแท่นอาหารเช้าที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผม คุณตาและป้าสุนั่งที่ที่ประจำของพวกท่าน ส่วนคุณสา....เช้านี้ยังไม่ลงมา

“สาวิตรีล่ะ” คุณตาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าสมาชิกร่วมโต๊ะอาหารตอนเช้ายังไม่ครบดี ผมไม่ได้สนใจใยดีคำตอบ เพราะไม่ได้อยากรู้แต่แรกแล้ว

“เจ้าวิน สาวิตรีล่ะ?”
“เมื่อวานเข้าบ้านมาพร้อมกัน เขาไม่ได้บอกตารางงานวันนี้ของเขาหรอ”

“ไม่นี่ครับ ไม่ได้บอก” ผมตอบตามจริง คุณสาวิตรีไม่เคยบอกอะไรผมอยู่แล้ว เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันระหว่างนั่งรถร่วมคันในหลายวันที่ผ่านมา ผมเงียบ เธอก็เงียบ แม้ว่าเธอจะสละเวลามาตรวจสอบคุณสมบัติ ‘หุ้นส่วน’ คนใหม่ที่ชื่อว่านายวารินทร์ ทุกวันก็ตาม

“อื้อ ไปตามสิ”
“ปล่อยให้ทานมื้อเช้าคนเดียวเหงาแย่” ป้าสุบอกสาวใช้ที่ยืนอยู่ไม่ห่างประตู

“มาแล้วค่ะ มาแล้ว” เสียงมาก่อนตัวอีกครับ ผมไม่ได้หันไปมอง เพราะเสียงของคุณสาวิตรีไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่เคยได้ยิน ฟังเสียงสลิปเปอร์เสียดสีพื้นหินอ่อนอยู่ไม่ถึง 10 ก้าว คุณสาวิตรีก็ลากเก้าอี้และนั่งข้างๆ ผม

“อรุณสวัสดิ์จ้ะตาวิน” เหวอแดกสิครับ แครอทนึ่งหั่นท่อนเล็กๆ คาอยู่ที่ปลายส้อมที่จ่ออยู่ตรงปากผม การทักทายกะทันหันของคุณสาวิตรีทำให้ผมลืมวิธีกินข้าวไปชั่วขณะหนึ่ง

“ทานสิจ๊ะ มัวตะลึงอะไร?”

“ทำไม?” ผมพึมพำถาม

“หือ? อะไรจ๊ะ”

“พูดกับวิน ทำไมครับ”

“ตาวินนี่ถามแปลก”
“พูดด้วย ก็แปลว่าอยากคุยน่ะสิ”

“แต่ปกติคุณสาไม่พูดกับวินนี่ครับ”
“ออกจากปากแต่ละอย่างก็คือสั่ง”

“แหม ตาวินก็” ไม่หมงไม่แหมด้วยหรอก ผมขมวดคิ้วใส่อย่างสงสัย แต่ไม่ไล่ต้อนถามเพิ่ม เอาเป็นว่าผมรู้แล้วว่าเธอแปลก แต่เตรียมรับมือก็พอ
“อื้อนี่”
“วันนี้จะได้ไปดูสตูดิโอกันนี่ เตรียมตัวรึยัง?”
“หมวกก็ควรเอาไปด้วยนะตาวิน ท่าทางแดดจะร้อน”
“จริงๆ ก็ไม่ได้อยากไปดงไปดูอะไรนักหรอกค่ะ ก็ไม่ได้น่าตื่นตาอะไร แต่ทางนั้นเขาก็ขายไว้เยอะนี่คะ”
“สาอยากไปดูให้เห็นกับตาว่ากระจอกจริงๆ น่ะค่ะ คุณพ่อ พี่สุ”

“...............” ไม่มีใครพูดอะไร ผมก็เลยอาศัยความเงียบ อิ่มมื้อเช้าแบบไม่เต็มใจอย่างสงบเสียงที่สุดเท่าที่จะทำได้

คุณสาวิตรีพูดถูกแล้วครับ วันนี้เราจะไปดูความคืบหน้าสตูดิโอกัน แต่เท่าที่พี่โป๊ะให้ผมดูความคืบหน้าอยู่ตลอดนั้น สตูดิโอของบริษัทเราไม่เฉียดคำว่ากระจอกเลยนะครับ แต่ทัศนคติคุณสาที่มีต่อพี่โป๊ะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต่อให้สร้างสตูดิโออลังการแค่ไหน ก็กระจอกอยู่ดี

ป้าสุหันเงยหน้ามองผม รายนี้ก็อิ่มกะทันหันเหมือนกัน เรา 2 คนป้าหลานยิ้มให้กันเพื่อสื่อความคิด และปล่อยให้ความเงียบเป็นเพื่อมร่วมทางกาลเวลาที่เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

ผมกับคุณสา มาถึงออฟฟิศที่เทเวศน์ตามเวลาที่นัดกันไว้  ตอนนี้การเข้า-ออกของผมไม่จำเป็นต้องแลกบัตร หรือแจกรอยยิ้ม หรืออวดสายตาของความเป็นเจ้าของแล้วครับ พี่ยามทุกคนจำรถทุกคันที่พาผมมาส่งได้แล้ว แน่นอนว่าใบหน้าและความหน้านิ่งของคุณสาวิตรีก็เป็นที่รู้จักเหมือนกัน

“คุณโปรมาแล้วครับ” มาแล้วก็ต้องบอก ก็เห็นมาก่อนผมทุกวันนั่นแหละ ไม่ว่าจะออฟฟิศนี้หรือออฟฟิศไหนๆ ผมพยักหน้ารับรู้แล้วก็เดินดุ่ยๆ ไปยังห้องทำงานของเขา แน่นอนว่าคุณสาก็เดินตามมาอย่างไร้อาการเขินขา เพราะเธอก็มาที่ออฟฟิศนี้หรือออฟฟิศไหนๆ จนชินสถานที่ไปหมดแล้วครับ

“ไม่เตรียมรถรอรึไง เราจะไปยังไงกัน”
“ให้นั่งอัดกันไปคงไม่ไหวนะ ไม่พร้อมเอาซะเลย” บ่นครับ คนแก่บ่น ผมไม่ได้พูดเสริมและไม่ได้ดักทางอย่างที่ใจคิดอยู่ แค่หันมอง ถามว่าเอาน้ำมั้ย เมื่อได้คำตอบก็หันกลับ ส่วนคนจัดการกับคำตอบของคุณสา ก็คือคุณแม่บ้านเก่าแก่ที่ทำงานมาตั้งแต่คุณตะวันเป็นผู้บริหารหลัก
“แล้วพ่อคนเก่งเหลือเกินของป้าสุของวินไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาต้อนรับเรา”

“เขาก็ติดงานมั่งสิครับ”

“แก้ตัวแทนกันตลอด”

“ไม่ได้แก้ตัวแทนครับ วินแค่ช่วยหาคำตอบให้ เห็นคุณสาสังสัยนั่นนี่เต็มไปหมด”

“เรานี่นะ! นี่แม่นะ หัดเข้าข้างกันซะบ้าง หรือว่าวินรักได้ทุกคนยกเว้นแม่”

“...................” ผมไม่มีอะไรจะพูด ผมไม่มีปมหรือประเด็นใดผุดขึ้นมากลางใจเลย มันว่างเปล่าจนต้องหันหนีจากหน้าคุณสาวิตรี
ผมคงใจดำเกินเยียวยา เฉยชาจนเกินแก้ไข คนที่อ้าปากพูดกับผมปาวๆ คือแม่แท้ๆ แม่ที่ให้กำเนิด แต่ผมกลับเอิอมระอาเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นจากตรงไหน และเกิดขึ้นถี่แค่ไหนถึงได้กลายเป็นความเคยชินและนิสัยในทุกวันนี้ รู้ตัวอีกทีผมก็กลายเป็นคนไม่ยี่หระกับ ‘แม่’ ไปซะแล้ว
ตรงกันข้าม หากเป็นป้าสุนั่งอยู่ตรงนี้ ตำหนิพี่โป๊ะอยู่กลายๆ และคอยคุมประพฤติของผมตลอดเวลาแบบนี้ ผมจะนั่งหลังตรงและทำทุกอย่างให้ป้าสุพึงพอใจ

กึก
ประตูห้องรับรองถูกเปิดออก ผมคิดว่าแม่บ้านคงนำกาแฟมารับรองคุณสา แต่ผมเดาผิดครับ รอบนี้พี่โป๊ะเปิดประตูเข้ามาในชุดไปสตูดิโอ เห็นล้วอยากบีบน้ำตาซุกหน้ากับตักป้าสุมากครับ เขาใส่เสื้อโปโล กางเกงยืนส์ด้วย ผมอยากเคาะตักป้าสุแล้วถามว่า ให้ผมใส่สูทมาทำไม?

“สวัสดีครับ คุณสาวิตรี” นายมือโปรเริ่มต้นวันพบแม่แฟนวันใหม่ด้วยท่าไหว้ถูกต้องตามประเพณี เขาลดระดับมือ เงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้คุณสาก่อน แล้วค่อยเผื่อแผ่สายตามองผม เลิกคิ้วใส่แล้วก็ยิ้มปนขำ คงสะใจล่ะสิที่วันนี้ผมต้องเป็นฝ่ายร้อนจนอาจจะทนแดดไม่ไหวเพราะไอ้สูทโคตรหล่อตัวนี้

“ค่ะ แต่ก็ไม่ควรให้รอนานขนาดนี้นะคะ น้ำท่าก็ไม่มีมารับรอง”

“เตรียมไว้ให้บนรถแล้วครับ”

“คงไม่ใช่รถยนต์ธรรมดาหรอกนะคะ ดิชั้นก็แก่แล้ว เมื่อยง่าย”

ถ้าในรถมีลูกประคบเตรียมเอาไว้นี่ผมจะฮามากเลยนะครับ ผมเห็นนายมือโปรแอบก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม เอ..บางทีอาจจะแอบแยกเขี้ยวก็ได้ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วอีกรอบ แล้วก็ผายมือเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ที่วางตัวเป็นชนชั้นสูงเหลือเกิน เดินออกจากห้อง เพื่อไปยังรถที่เตรียมเอาไว้ให้ ตามกำหนดการที่เขียนกันส่งๆ เมื่อคืน (ทางโทรศัพท์) แล้ว เราจะออกจากทีนี่ตอน 9 โมงเช้าครับ นี่ก็ได้ฤกษ์พอดี

รถตู้เอนกประสงค์ทำให้คุณสายิ้มนิดๆ แต่ตาเป็นประกายระยิบมากครับ ผมเดาเอาว่าเธอคงกลัวว่าต้องไปลำบากลำบนแน่ๆ ดูจากการแต่งตัววันนี้ (ชุดเหมือนจะไปตีกอล์ฟเลยครับ) และการพกครีมกันแดดหลายขวด และการบังคับให้ผมทาด้วยทั้งที่ผมใส่สูท
บนรถมีกาแฟร้านโปรดของคุณสาเตรียมไว้ให้ นายมือโปรบรรยายว่าไปซื้อมาให้เองก็เลยต้องกวรให้คุณสาและผมรอที่ห้องรับรองอยู่เกือบ 5 นาที ขออภัยจริงๆ ซึ่งผมคิดว่าเขาก็เวอร์ไป แต่เหตุผลที่เขาเอาอกเอาใจคุณสาเหลือเกิน มันก็เพื่อ ‘เรา’ ทั้งนั้น ผมก็เลยปล่อยให้เขาทำตามที่คิดว่าดี แต่ถ้าจะให้ผมวิจารณ์ตรงๆ ล่ะก็ มันไม่ได้ผลหรอกครับ

“นี่ของวิน” ชาร้อนครับ กลิ่นหอมเย็นจมูกดี ความร้อนก็ทอนลงไปจนถึงระดับที่สามารถจิบได้ทันทีที่รับมา ผมยิ้มขอบคุณเขาแล้วก็ก้าวขึ้นรถ ขยับเข้าไปนั่งติดกระจก เพื่อให้เขาก้าวขึ้นมานั่งข้างๆ ส่วนคุณสานั่งตอนหลังครับ

พลขับขับรถนิ่มมาก ไม่เหมือนกับที่ผมไปที่สตูฯรอบก่อนหน้านี้ที่พลขับกวนตีนมาก และไม่ให้ผมกินกระทั่งน้ำเปล่า การไปสตูดิโอครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วราวหน้ามือกับหลังเท้าเชียวครับ ดูเหมือนผมและนายมือโปรจะมองวิวทิวทัศน์และคิดเรื่องเดียวกัน ถึงได้หันมองกันแล้วก็ยิ้มขึ้นมาทั้งคู่ ผมไม่รู้ว่าคุณสาวิตรีที่นั่งอยู่ด้านหลังจะจับจ้องนายมือโปรจนเขาไม่เป็นอันทำอะไรมั้ย แต่ก็ไม่แคร์แล้วครับ

“พี่โป๊ะจำวัน”

“จำได้สิ พี่ขอโทษนะ”
“แต่พี่ตั้งใจ”

“โหย คนเรา”

“ก็วินผิดก่อน”

“ก็พี่โป๊ะคิดเอาเองก่อน”
“อีกอย่าง พี่โป๊ะโตกว่า ต้องไม่ใช่อารมณ์สิ”

“อะไรกันหรอ 2 คนนี้ วันอะไร หือ? ตาวิน”

“เปล่าครับ/เปล่าครับ” เราพร้อมใจกันหันไปโกหก หันกลับมามองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม ผมดีใจนะครับ ที่พี่โป๊ะไม่ให้คุณสาเข้ามามีส่วนร่วมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะกับเรา 2 คน เพราะผมอยากเก็บเรื่องราวของเราเอาไว้ ให้ระลึกถึงกันแค่ 2 คน

วิวข้างทางที่เคยทำให้ผมคิดว่า คนที่อุตริมาสร้างสตูดิโอที่นี่แล้วขายฝันว่าจะดูดเงินฝรั่งเข้ากระเป๋า ตอนนี้กลายเป็นวิวที่ดูรื่นรมย์เหลือเกินครับ ผมคิดว่าผมเริ่มเข้าใจคำกล่าวที่ว่า เวลามีความรักโลกจะสดใส แล้วล่ะครับ

แล้วก็มาถึงที่หมายจนได้
สตูดิโอคืบหน้าไปมากครับ ทั้งสตูโอหลักขนาดใหญ่ และอาคารข้างเคียงที่สร้างขึ้นมาสำหรับเก็บอุปกรณ์อื่นๆ มองลึกไปด้านข้างคือบึงขนาดใหญ่ และอีกฝ่ายของบึงก็เหมือนจะมีการเตรียมการก่อสร้างเช่นกัน

“นั่นส่วนโรงแรมหรอคะ”

“ครับ”
“ไม่เชิงโรงแรมครับ ไม่ได้เซอร์วิสดีมากมาย แต่อยู่ได้จริงแล้วก็เก็บค่าเช่า”
“สัญญาส่วนมากเป็นรายเดือน เพราะเวลาถ่ายทำกันก็หลักเดือนทั้งนั้น”

“อ่อ ค่ะ คอนเซปท์ดีนะคะ”  หืม? นี่คุณสาวิตรีชมพี่โป๊ะหรอ ไม่ใช่แค่ผมหรอกครับที่ไม่เชื่อหูตัวเอง นายมือโปรก็เหมือนกัน เขาค่อยๆ เหล่มองผมแล้วก็ทำสีหน้าตื่นตะลึง มองกันไม่นานก็แอบยิ้มแล้วเขาก็พาคุณสาชมสตูอิโอที่แล้วเสร็จไปกว่า 70%

หากว่าผู้ใหญ่ฝ่ายผมมีโจทย์ใหญ่ที่สินทรัพย์และความงอกเงยของมันแล้วล่ะก์....นายมือโปรคงถือว่าสอบผ่าน
เรากำลังนั่งรออาหารมื้อเที่ยงอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมถนนบางนา-ตราดเช่นเคยครับ ร้านนี้ฝีมือถูกปากนายมือโปร แล้วก็รสชาติเที่ยงเทียมกันทุกสาขาด้วย ผมรอซุปที่สั่งเป็นออเดิร์ฟ ระหว่างรอก็ลอบมองคุณสาที่พูดคุยกับนายมือโปรอย่างเต็มอกเต็มใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ผมไม่สงสัยหรอกครับว่าสาเหตุคืออะไร ผมคิดว่าผมเดาออก และก็ไม่ใช่สายสัมพันธุ์แม่ลูกหรอกที่ทำให้ผมเดาได้ แต่เพราะคีย์เวิร์ดหลักๆ ในประโยคคำถามของคุณสาต่างหาก
ก็คุณสาเธอถามเสียตรง ทั้งไออาร์อาร์โครงการ อาร์โออี อาร์โอเอ ดีอีจากนี้ไป ประวัติพาร์ทเนอร์ บุ้คล่วงหน้า แต่ละอย่างมันเรื่องการเงินทั้งนั้น ต่อให้ผมไม่ได้แตะสายการเงินมาเลยผมยังรู้ว่าเธอต้องการอะไร
และนายมือโปรเองก็ดูไม่หน่ายที่จะตอบ จะว่าไป เขาเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดีกว่าผมเสียอีก แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เขาเองก็ ‘วัยผู้ใหญ่’ แล้วเหมือนกัน
“ทานกันก่อนดีกว่าครับ เรื่องตัวเลขที่คุณสาอยากรู้ เดี๋ยวผมจะให้แนนส่งให้แบบละเอียด”

“อ้อ นี่ก็อีกเรื่องค่ะ”

“ครับ?”

“เลขาคุณเนี่ย ผู้หญิงนี่คะ ถ้าอยากจะให้สบายใจจนกล้าปล่อยลูกชายคนเดียวให้ดูแล เปลี่ยนดีมั้ยคะ?”

“คุณสา” ผมโวยขึ้นทันทีเลยครับ ลำพังแค่เดือดร้อนกันเอง 2 คน ผมทนไม่ได้ ฝืนตัวเองได้ แต่ถ้าการทำให้คุณสายอมรับความรักของผม มันไปกระทบคนอื่นด้วยเนี่ย ผมรับไม่ได้

“ก็ไม่น่าไว้ใจ”
“ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ใจเร็วกันทั้งนั้น”
“ทางเลขานั่น”

“พี่แนนเขามีครอบครัวแล้วครับ”

“นั่นแหละ มันก็พลั้งเผลอกันได้”

“วินไม่เห็นด้วยที่คุณสาไปจะชี้นิ้วบงการอะไรที่มันกระทบคนอื่น”

“ที่ทำตัวไม่เป็นที่พอใจของวินก็เพื่อวินทั้งนั้น”

“ไม่ต้องทำครับ วินรับอะไรแบบนี้ไม่ได้”
“ป้าสุเองยังไม่ยุ่งย่ามอะไรแบบนี้เลย!”

“วิน” นายมือโปรปรามขึ้น เขาปั้นยิ้มเพื่อเกลี่ยอารมณ์บนโต๊ะอาหาร และเลือกจะทำตามเงื่อนไขคุณสา ซึ่งขัดใจผม เขาบอกว่า
“เดี๋ยวผมดูนะครับว่าจะจัดการอะไรได้บ้าง โยกย้ายนิดหน่อยน่าจะได้”

“พี่โป๊ะ”

“เอาน่า ทานข้าวเถอะวิน”
“ทานข้าวกันเถอะครับคุณสา”

ถ้านี่คือศึกลูกเขยแม่...เอ่อ..แม่เมียก็ได้เอ้า! ผมบอกได้เลยว่าคนที่แพ้ ก็คือคนกลางที่ไม่มีใครเห็นหัวอย่างผม

#### @ D A W N  ##### 

“ทำหน้าดีๆ หน่อยไอ้ยุ่ง ไม่อยากยิ้มให้พี่รึไง”

“ไม่” ผมตอบด้วยเสียงมะนาวไม่มีน้ำ หลังจากส่งคุณสาคืนสู่สังคมเมืองที่เธอคุ้นเคย เราก็ได้เวลาอยู่กัน 2 คนคืนมาก่อนที่ผมจะต้องกลับบ้านที่กว้างเท่าฟาร์มเลี้ยงเป็ด นายมือโปรเลือกทำงานต่อในช่วงบ่ายแก่ๆ ที่ออฟฟิศใต้ดินย่านสุขุมวิทครับ ผมไม่ได้ทำงานหรอก แค่นั่งดูทีวีที่ขึงสายตาของผมไว้ด้วยอารมณ์หนืดสุดๆ ผมไม่พอใจการตัดสินใจอของเขา ไม่ชอบใจการตามใจคุณสาทุกอย่างที่เขาทำอยู่ตอนนี้

“โกรธอะไรไอ้ยุ่ง พูดดีๆ”

“ไม่”

“อย่ากวนดิ”
“ไม่ได้อยู่กัน 2 คนบ่อยๆ ทำตัวดีๆ หน่อย”

“ทำตัวดีๆ ของพี่โป๊ะคืออะไร?”
“ทำตัวไม่มีหัวคิด ใครอยากให้ทำอะไรก็ทำงั้นดิ”

“วิน” เหอะ! ทำขึ้นเสียง ผมยังคงหันหลังให้ ตาแข็งมองจอทีวีที่ผมไม่ได้สนใจเนื้อหามันแม้แต่นิด

“เฮ้ย!” ร้องครับ ต้องร้องเสียงหลงเลยด้วย เพราะตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกเกี่ยวคอจนหลังเอนติดพนักโซฟา หน้านายมือโปรค่อยๆ เคลื่อนมาแนบหน้าผม รู้สึกได้ว่าเขาเอียงมาหอม เชื่อสัญชาติญาณตัวเองได้เต็มที่ก็ตอนที่ได้ยินเสียงฟอดเต็มหู
“อะไรเล่า”
“คนละเรื่องเลยพี่โป๊ะ”

“เรื่องเดียวกัน ง้อแฟน ใครๆ เขาก็ทำงี้”

“ไม่เห็นเกี่ยว”
“จะหอมจะกอดยังไง วินก็ไม่ชอบที่พี่โป๊ะตามใจคุณสาทุกอย่างอยู่ดี”

“มันก็มีวิธีปลิ้นน่า”

“จะปลิ้นเพื่อให้เป็นคนโกหกหรือเป็นศรีธนญชัยไปทำไม อะไรที่ไม่อยากทำ ไม่คิดจะทำก็บอกไปตรงๆ ตัดเรื่องตัดราวกันไปเหอะว่ะ”

“ไม่ได้ แม่เมีย ต้องเอาใจไว้ก่อน”
“อีกอย่าง คุณสาวิตรีเขาก็ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด เขาก็แค่บอกว่าเขาอยากได้อะไร อยากรู้อะไร”
“ส่วนได้ไปเพื่ออะไร รู้ไปเพื่ออะไร พี่ว่าวินก็น่าจะรู้”

“เพื่อวิน วินรู้ แต่วินไม่ได้ขอนี่”

“ก็เขาเป็นแม่”

“แม่แล้วไงเล่า”
“งั้นคุณสามาคบกับพี่โป๊ะเองเลย ดีมั้ย”

“ม่ายยย ม่ายยยย” ปฏิเสธดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องถูคางไปทั่วแก้มผม รู้บ้างเถอะว่าตอหนวดมันแข็ง ผมเจ็บ พอผมเบี่ยงหน้าหนีแล้วยกหัวไหล่มาปาดทับสัมผัสหยาบทิ้งไป เขาก็คงรู้ตัว ถึงได้กระโดดข้ามผนักโซฟามาจ่อมนั่งล็อคตัวผมไว้แล้วลูบคางตัวเอง
“ไม่ชอบหรอ? เจ็บหรอ”

“อื้อ เจ็บ”

“โทษๆ ไม่ได้โกน”

“ทำไมไม่โกนอ่ะ ยุ่งขนาดนั้นเลยหรอ”

“อือ ครับยุ่ง”

“แล้วเมื่อคืนนอนที่ไหน” ผมถาม เอาใจใส่เขานิดนึงด้วยการลูบหัว รายนี้ทำตัวไร้กระดูก เอนมาซุกกอดผมไว้ทันที ตัวก็ใหญ่กว่ายังเสือกจะขดเป็นลูกหมามุดท่อ

“นอนบ้านไม้ ดมกลิ่นวินจากหมอน แต่มันเริ่มจางๆ แล้ว ไปนอนเติมกลิ่นหน่อยสิ”

“ตลก ... จริงหรอ?”

“จริงสิ”

อืม ปลื้มๆ แฮะ ผมอมยิ้ม หลุดหัวเราะแล้วเบี่ยงตัวหนีเพราะเขิน แต่ก็ไม่หลุดจากล็อคแขนเขาหรอกครับ เขาหอมผมจนรู้สึกได้ว่ากระพุ้งแก้มแม่งต้องโคตรช้ำจึงถูกปล่อย พอหันมองหน้าเขาเต็มๆ แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าเขาเหนื่อยมาก ล้ามากจริงๆ ริ้วรอบตาเป็นหลักฐานการอดนอนชั้นดี

“วินขอโทษที่ทำให้พี่โป๊ะต้องทนกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้”
“ถ้าพี่คบคนอื่น ชีวิตอาจจะง่ายขึ้นนะ”

“ไม่ล่ะ พี่ชอบความท้ายทาย” ครับ ครับ พ่อคนใจใหญ่ ผมขำคำตอบเขาพลางซบไหล่เขาบ้าง ถ้าสอดมือไม้กอดเขาอีกนิด เราก็เหมือนเถาวัลย์พันต้นไม้ใหญ่แล้วครับ
“แต่วินไม่ต้องดื้อกับคุณสาเพื่อพี่หรอกนะ พี่จะดื้อเอง เขาเกลียดพี่ได้ไม่เป็นไร แต่เขาไม่ควรตะขิดตะขวงใจกับวิน วินก็ไม่ควระแวงระวังในความห่วงใยของเขา”
“นะครับ”

“มันทำยาก ถึงเขาจะเป็นแม่ แต่ใจวินมันก็พล่ามตลอดเวลาจะดื้อกับเขา ว่าเขาไม่ใช่แม่เสียหน่อย”

“ไอ้ดื้อ”
“ฟังดิ”

“ไม่ฟังแล้ว”
“ไหนๆ ก็เรียกวินว่าไอ้ดื้อ คืนนี้วินดื้อนอนนี่นะ”

“เห้ย! ดีใจเลยนะ ไม่ได้นอนดมวินมาตั้งนาน”

“พี่โป๊ะ วินไม่ใช่ธูปหอม จะมานอนดมวินทำไมเล่า! ทุเรศว่ะ”

“ก็มันรักมันชอบมันชื่นใจ ให้ดมเถอะ”
“แล้ว...เราจะบอกบ้านวินว่ายังไงล่ะ วินต้องกลับบ้านใหญ่นี่ คุณสาเขาประกาศไว้ชัด”

“ก็บอกไปว่าวินอยากหนีตามที่โป๊ะ”
“ถ้าอนุญาตก็เท่ากับเราขยับวงกลมของเขาได้กว้างขึ้น”

“แล้วถ้าไม่ล่ะ”

“ก็เท่ากับคุณสาดึงฟางเส้นสุดท้าย”

“โหย! ไม่เอา ไม่เป็นไร พี่ดมอย่างอื่นก็ได้ วินกลับบ้านเถอะถ้าค้างกับพี่แล้วเขาไม่สบายใจ”

“พี่โป๊ะ!”
“ทำไมต้องยึดใจคุณสาก่อนวินล่ะ”
“นี่รักใครวะเนี่ย!”

“อยากได้วินสิครับ จะอยากได้ใคร”
“แต่เขาหวงของเขาเหมือนกัน จะให้พี่ทำตัวเป็นแมวขโมยหรอ? ชอบหรอ? มีแฟนที่ที่บ้านไม่ชอบไม่ไว้ใจ”
“วิน เราโตกันแล้วนะ อย่าทำอะไรๆ ก็ตาม เพียงเพื่อสะใจ หรือเพื่อสั่งสอนใคร”
“เพราะคนที่เสียใจหลังจากสะใจได้ไม่นานก็คือวิน คนที่ได้บทเรียนที่ไม่คาดคิดมาก่อน คือคนที่ทำอะไรตามอารมณ์”

“............”

“เอางี้ บอกเขาก่อน พี่บอกเอง ถ้าเขาไม่ยอม วินกลับบ้าน”

“............”

“วิน ว่าไง ดีลมั้ย?”

“..............”

“วินครับ ว่ายังไง พี่ถาม ไม่ได้ยินหรอ”
“หือ ไอ้ยุ่ง”

“อืมมมมมมมมมมมมมมมมม” บอกได้เลยว่าผมฝืนใจสุดๆ ทำไมผมต้องยอมทำตามวีถีเขาเพื่อให้ได้อยู่กับเขา ผมคือคนที่มีสิทธิตัดสินใจไม่ใช่หรอว่าจะค้างที่นี่หรือไม่ค้าง ผมไม่อยู่กับเขาก็ได้ ไม่คบกับเขาก็ได้ ผมมีสิทธิเลือกทั้งนั้น แต่เขากลับทำให้ผมกลายเป็นคนที่ขออยู่กับเขา ขอคบกับเขา ขอรักเขา ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้กลายเป็นคนกำหนดเงื่อนไขไปได้นะ

นายมือโปรโทรหาป้าสุก่อน พวกเขาคุยกันอย่างออกรสชาติ เรื่องส่วนมากเป็นเรื่องทั่วไป นายมือโปรลงท้ายว่าคืนนี้วินเขาอยากเปลี่ยนที่นอนบ้าง บอกว่านอนห้องใหญ่จนเบื่อแล้ว ขออนุญาตพานอนที่ห้องแคบๆ นะครับ ทางนั้นคงโอเค เขาถึงได้ยิ้มแก้มกลม
วางสายจากป้าสุ เขาก็โทรหาคุณสา เขาบอกคุณสาด้วยเนื้อความเดียวกัน แต่รูปประโยคต่างกันไปนิด ดูนอบน้อมกว่า ดูจริงจังกว่า และดูเจียมตัวกว่าเมื่อเทียบกับครั้งที่คุยกับป้าสุ
คำตอบอีกฝ่ายคงเป็นข่าวดี นายมือโปรพูดขอบคุณแล้วก็วางสาย พอหันมองหน้าผมก็บอกข่าวดีที่ทำให้ผมหน้าเหลือ 2 มิล

“คุณสาอนุญาตนะ”
“บอกว่าเดี๋ยวจะมานอนด้วย”

“ห๊ะ!!!!!!!” ผมคงตาพองโตมากแน่ๆ นายมือโปรถึงได้เลิกคิ้วสูง ทำหน้าเหวอๆ กลับมา

“ฮ่าๆ พี่ล้อเล่นน่า”

“โธ่เอ้ย! ไอ้พี่โป๊ะ! มันใช่เวลามั้ยเนี่ย!!” ผมคว้าหมอนขนเป็ดใบใหญ่บนโซฟามาไล่ฟาดเขาที่วิ่งเหยาะแหยะหนีไปทั่วห้อง แต่ก็ทิ้งจังหวะให้ผมฟาดโดนทุกครั้ง เพื่อทำท่าเจ็บแบบสะดีดสะดิ้ง

เขาหัวเราะ ผมก็หัวเราะ
พวกเรามีความสุขดี และผมก็หวังว่าความสุขรูปร่างแบบนี้จะอยู่กับผมไปนานๆ

#### @ D A W N  #####


เช้านี้ ผมไม่เห็นแสงอาทิย์ยามเช้าหรอกครับ เพราะที่สิงสถิตย์นอนของผมคือชั้นใต้ดินของผับแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ผมบอกตามตรงว่าตื่นเพราะร่างกายมันจำเวลาตื่น เหมือนที่จำเวลากินข้าว เวลาขับถ่ายได้นั่นแหละ จริงๆ ผมยังไม่อยากตื่นนักเพราะเมื่อคืนนี้กว่าจะได้นอนกันก็จัดไปหลายตี๊ด ขอความเข้าใจด้วยนะครับว่าผมนอนชั้นใต้ดินของผับ ผมคงไม่จิบน้ำมนต์แล้วเข้านอนหรอก เหล้าเอย ไวน์เอย เบียร์เอย อะไรใกล้มือกว่าผมก็คว้าอันนั้น
พอเมาแล้วก็จะปากเปราะ ใจเปิด ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อคืนพูดอะไรกับนายมือโปรไปบ้าง ผมงงๆ ไม่รู้ว่าอะไรพูดออกไปจริงๆ อะไรที่คือที่คิดอยากจะพูดแต่ก็ไม่เคยพูด แต่ที่จำได้แม่นยำก็คือการถูกลวนลามครับ นายมือโปรเมาแล้วนัวเนีย วุ่นวาย ซุกตรงนั้นดูดตรงนี้ ผมจำได้ว่าทั้งเตะทั้งถีบเขาให้ห่างออกไปหลายทีตอนที่เขาจะเอนมาฟัดพุงน้อยๆ ของผม ก็ตรงนั้นมันจุดอันตราย ผมบ้าจี้ และมันก็ใกล้ตะขอกางเกงไปด้วย
สุดท้ายก็นอนดมกลิ่นเครื่องดื่มมึนเมาของกันและกันจนหลับไป ผมตื่นมากลางดึกรอบนึงเพื่อลุกไปอาบน้ำ เปลี่ยนใส่ชุดนอนของเขาที่ผมคุ้ยๆ เอาอย่างไม่คิดเขินอาย เสร็จแล้วก็มาเขี่ยปลุกให้เขาไปอาบน้ำบ้าง ผมไม่ได้หวังดีนักหรอก แต่ผมอยากนอนบนเบาะโซฟา นายมือโปรอยากไปนอนที่ไหนก็ตามสะดวก เพิ่งหายโง่ว่าไม่จำเป็นต้องจับจองโซฟานิ่มนี่หรอก เพราะมันกางออกมาเป็นเตียงได้ เราก็นอนเลยเกยแอร์กัน 2 คน แต่ผมมันก็ขี้หนาว และนายมือโปรก็เป็นผ้าห่มชั้นเยี่ยม ผมก็เลยนอนซุกเขาอย่างสบายตัว

“พี่โป๊ะ ตื่น”
“ทำงานนี่”

“อือออออออออออ” ได้ยินไปถึงการแคลื่อนตัวของเม็ดเสียงเลยครับ เขารัดตัวผมแน่นขึ้น ซึ่งผมก็ซุกเขาหนักขึ้นเหมือนกัน แต่ถ้าถึงเวลาตื่นก็ต้องตื่นจริงมั้ยครับ เขาฉุดรั้งพระอาทิตย์ไม่ได้ เราหยุดเวลาไม่ได้

“ตื่นดิ ไปอาบน่ำก่อนเลย หาชุดให้วินด้วย มีมั้ย หรือต้องใส่ซ้ำ ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบ”

“โอเคๆๆ ไอ้ยุ่งเอ้ย”
“นอนนี่แหละ เดี๋ยวจัดการเอง”
“ยุ่งชิบหายเลยวุ้ย แฟนใครวะ”

“แฟนพี่โป๊ะ” ผมตอบแล้วยิ้มหวาน...ล่ะมั้ง เพราะเขาดูไม่เคลิ้มคำผม ท่าทางเขาหมั่นไส้มากกว่า แต่ก็ช่างเถอะ ได้นอนต่อก็พอแล้ว
ผมได้ยินเสียงเขาทำอะไรก่อกแก่ก พักนึงก็ได้กลื่นกาแฟ ขนมปังปิ้ง อืม คงทำมื้อเช้าเบาๆ ให้ก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำล่ะมั้ง ทำไมแฟนผมสำเร็จรูปแบบนี้อ่ะ นี่เอาน้ำร้อนลวกแล้วกินเลยได้มั้ย?

“ลุกแล้วก็มากินอะไรก่อนนะ อาบน้ำเลยก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปซื้อข้าวเช้าให้ เท่านี้ไม่อิ่มหรอก”

“เฮ้ยๆ พี่โป๊ะ ไม่ต้อง”  ไม่ทันแล้วครับ เขาเปิดประตู วิ่งขึ้นสู่สูงแล้วก็พุ่งขึ้นฟ้าไปแล้ว...เอ่อ ถ้ามุกไม่ผ่านก็ขอโทษแล้วมองผ่านๆ ไปก็แล้วกันครับ

ผมนอนมองผนังสไตล์ลอฟท์อยู่กับน้ำเจิ่งเบ้าตา ไม่ได้ดราม่าอะไรหรอกครับ แต่หาวยาวจนแทบสิ้นใจเท่านั้นเอง สะบัดความง่วงความมึนหัวแล้วก็มานั่งเล็มขนมปังปิ้งปาดเนยลวกๆ จิบกาแฟที่ไม่ได้ชอบนัก แต่ระยะหลังรับมันเข้าสู่ร่างกายบ่อยๆ เพราะอยากดื่มเป็นเพื่อนนายมือโปร ไม่อยากให้เขาเขิน อ้างไปงั้นแหละครับ ก็ร้านกาแฟส่วนมากไม่มีชาที่ถูกปาก ผมก็เลยสั่งกาแฟแทน

กำลังจะตัดสินใจลุกไปอาบน้ำ ผมก็ได้ยินเสียงคนเดินลงมายังชั้นใต้ดิน เซนส์ที่แสนแม่นยำของผมบอกผมว่า ผมน่าจะได้กินพวกขนมครก หมูปิ้ง โจ๊ก อะไรเทือกนี้แน่ๆ ก็เลยวิ่งไปเปิดประตูต้อนรับเขา สาบานได้ว่าผมไม่ใช่คนเห็นแก่กินนะครับ ป้าสุเลี้ยงผมมาไม่เคยปล่อยให้อดอยาก

“พี่โป๊ะ มีขนมครกใช่.....มั้ย”

“น้องวิน” คนที่มาไม่ใช่นายมือโปรหรอกครับ แต่เป็นพี่โจ้ต่างหาก เธอลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาอย่างทุลักทุเล แต่งตัวผิดแผกไปจากครั้งก่อนๆ ที่ผมได้พบเธอ มาดผู้บริหารสาวสวยถูกหั่นครึ่งออกไปโดยกางเกงยีนส์พอดีตัว เสื้อเอวลอยสีพื้น รองเท้าแตะเปิดหน้าเท้าแต่ยังมีความหรูหราของเพชรเคลือบอยู่

“พี่โจ้”
“สวัสดีครับ”

“พี่...มากวนใช่มั้ยคะ”
“ขอโทษนะคะ ไม่รู้ว่าวินจะมา”
“ก็เห็นโปรบอกว่ามาที่นี่ได้ตลอด”

“ครับ”


“ค่ะ”


ผมรู้ว่าเรารั้งพระอาทิตย์ไม่ได้ เราหยุดเวลาไม่ได้
แต่ถ้าจะมีพรอะไรบันดาลให้ผมมีความสามารถนั้น ผมจะขอรั้งพระอาทิตย์เอาไว้ว่าอย่าเพิ่งเดินหน้าไปเลยได้มั้ย ช่วยแขวนตัวเองไว้ในช่วงเวลาที่ผมลืมตาตื่นมาและเจอนายมือโปรนนอหลับอยู่ด้วยกันโดยไม่มีอะไรขวางกั้น ได้รึเปล่า



cut



ยอมรับผิดทุกประการค่ะ
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวเราได้ที่เฟสบุ้ค /Saturnday-Series
มันเป็นสถานที่เพ้อๆ ของเราเองค่ะ

ส่วนเรื่องพี่นำ-น้องธาม จะตามมาเร็วๆ นี้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
« ตอบ #559 เมื่อ: 11-07-2016 23:38:10 »





ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #560 เมื่อ12-07-2016 01:01:19 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #561 เมื่อ12-07-2016 01:13:49 »

ตัดฉับแบบนี้ใจคอไม่ดีเบยยยย

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #562 เมื่อ12-07-2016 11:25:30 »

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:  มาทำไมยะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #563 เมื่อ12-07-2016 15:20:39 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #564 เมื่อ12-07-2016 15:51:42 »

งานงอก :katai1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #565 เมื่อ12-07-2016 19:46:32 »

 :z3: :z3:

ออฟไลน์ iimayuworld

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #566 เมื่อ12-07-2016 22:39:03 »

โอ้ยยยยยยยย อะไรกันเนี่ย ความเก่ายังไม่ทันหาย ยังมีความยัยคุณโจ้ไรนี่เข้ามาแทรกอีก อุปสรรคเยอะแถะ ฮืออออออออออ  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #567 เมื่อ12-07-2016 23:01:12 »

น้องวินอุปสรรคเยอะจังเลยลูก
พี่แนะนำไหมลูก หาสามีใหม่เลยค่ะ
555555555
เกลียดอีพี่โป๊ะผญ.ไม่เคยขาดมาหาถึงที่อีกด้วย
เพลียแทนวิน  :katai1:

ออฟไลน์ felixia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #568 เมื่อ12-07-2016 23:22:31 »

โอย อะไร จะม่าหรอคะ ม่ายน้าาาาาา
พี่โป๊ะ มาเคลียร์เลย ด่วนนนนนนนนนนน 

ออฟไลน์ p9hmiew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่.... ตอน 39(11-07-16)
«ตอบ #569 เมื่อ13-07-2016 02:02:25 »

อะไรยังไงเสือไก่กุ้ง  :katai4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด