At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185139 ครั้ง)

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #630 เมื่อ20-11-2016 15:14:13 »

ร้องเพลงจีบกันด้วย วินเขินน่าดูเลย

ธามเป็นเด็กตลกสิน่ะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #631 เมื่อ20-11-2016 15:45:54 »

โถ่วววววว เขินจนโดสระ วินเอ้ยยยย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #632 เมื่อ20-11-2016 19:49:53 »

วิน รักมือโปร มากๆ ก็พอแล้ว
ไม่ต้องคิดเอง เออเอง
ให้มือโปร เขาคิดเอง
ก็มือโปร รักวิน จะให้มือโปร ไปรักคนอื่นทำไม :mew1: :mew1: :mew1:
เหมือนที่ ที่หนึ่งบอกเจม จู๋ที่หนึ่งบอกที่หนึ่งเอง  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ว่าที่หนึ่งรักใคร ต้องการใคร
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #633 เมื่อ21-11-2016 00:24:10 »

จำเป็นต้องมีเรื่องAt Dawn ให้เป็นของพี่โป๊ะเองจริงๆ นั่นแหละ เพราะว่า
พอโผล่แจมในเรื่องคนอื่น พี่โป๊ะจะเป็นพี่โป๊ะคนกากทันที 555 ..

น้องธามตลกกกก .. ขอบคุณความเป็นน้องธามที่มีส่วนช่วยคลายปมในใจวินแบบอ้อมๆ
แบบไม่ตั้งใจ แบบไม่รู้ตัววววว

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #634 เมื่อ21-11-2016 13:20:54 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #635 เมื่อ22-11-2016 16:53:02 »

เห็นตะแรกนึกว่าตาฝาด...ดใจในที่สุดก็ดีกัน งือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #636 เมื่อ24-11-2016 11:56:18 »

โอ๊ะ โอวววว นี่เฮียถึงขั้นได้รับอนุญาติไว้แล้ว   :hao6:  :hao6:


ว่าแต่จะเป็นการรบกวนคนเขียนเกินไปหรือเปล่าคะถ้าหากว่าจะขอให้ใส่เลขหน้าในตอนที่อัพด้วยน่ะค่ะ ถ้าหากว่าทำให้ยุ่งกว่าเดิมก็ไม่เป็นไรนะคะ

ออฟไลน์ Taohoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-3
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #637 เมื่อ12-12-2016 15:19:24 »

คิดถึงพี่โป๊ะแล้วน้าาา.  :katai5:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 40


เช้านี้...กำลังจะวุ่นวายเหมือนเดิมแหละครับ
ผมเริ่มต้นวันด้วยอาการตาปรือ มองคนที่ควรจะนอนอยู่ข้างๆ แต่กลับไม่พบเจ้าตัวเสียได้ ลองเงี่ยหูฟังเสียง เผื่อจะได้คำตอบว่าเขาหลบอยู่ส่วนไหนของบ้านไม้นี้ แต่ก็มีเพียงความเงียบ

นายมือโปรหายไป....
แต่มันไม่ใช่เรื่องราวที่น่าตกใจจนผมต้องร้อนรนตื่นและวิ่งตามหาหรอกครับ โตๆ กันแล้ว ถ้าการไม่อยู่ของเขาทำให้ผมมีปัญหา เขาคงบอกล่วงหน้าไว้แล้วแหละ

ผมบิดขี้เกียจ เพ่งมองนาฬิกาที่หน้าจอมือถือแล้วจึงพบว่า ผมตื่นสายมาก แต่การตื่นสายวันนี้ไม่น่ากังวลครับ เพราะวันนี้ผมลางาน

วันนี้เป็นวันซ้อมรับปริญญาครับ ซ้อมย่อยเท่านั้น ไม่มีอะไรต้องสนใจเยอะ จริงๆ ไม่ต้องไปก็ได้  ฝากไอ้โอมบรีฟเอา แต่ทางบ้านผมให้ความสำคัญมากครับ ทั้งบ้านลุงสัน บ้านคุณตา ป้าผมนี่คงไม่ต้องบอกครับว่าเตรียมเคลียร์งานเพื่อหาเวลาว่างไว้กี่วัน และเตรียมชุดกี่ชุด ส่วนคุณสาวิตรี คนนี้ผมภาวนาให้ไม่ใส่ใจครับ

ผมโทรหาไอ้โอมเพื่อสอบถามเวลาที่จะต้องไปมหาวิทยาลัย รอสายไม่นานมันก็ตอบรับด้วยเสียงงัวเงียพอกัน
“กี่โมงนะมึง ทันป่าววะ กูเพิ่งตื่น ไม่ทันกูจะนอนต่อ”  และคำตอบคือทันครับ ผมรู้สึกเซ็งๆ แต่ก็ตั้งจิตตั้งใจใหม่โดยเร็ว เพราะถ้าไปเลทหรือเบี้ยว ผมกับนายมือโปร จะกลายเป็นคนไม่รักษาคำพูดทันที

ผมบิดขี้เกียจอีก 10 กระบวนท่า แล้วก็อาบน้ำ แปลงโฉมตัวเองเสียใหม่ ก็ตอนนี้ผมไม่ใช่นักศึกษาปริญญาโทแล้วนี่ครับ ผมเป็นเจ้าของธุรกิจ (ผ่านการถือหุ้นทางอ้อม) และเป็นผู้บริหารด้วย เท่อะไรระดับนี้ แต่ภาวนาอยู่ทุกวินาทีว่า เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่ามานึกอยากอัพเดทประวัติกันเลย ไม่อยากโกหกปิดบัง และไม่อยากเปิดเผย

พอลงบันไดมาถึงชั้นล่างก็ถึงรู้ว่านายมือโปรไม่ได้ทิ้งผมไปแต่งหล่อแถวไหนหรอกครับ เขาเตรียมมื้อเช้าไว้ให้ แปะโพสอิทไว้ที่หน้าตู้เย็นว่าไปเคลียร์งานที่ออฟฟิศ เดี๋ยวจะไปเจอที่มหาวิทยาลัยเลย คนนี้คือคนสำคัญที่ทำให้ผมไม่อยากไปพบเจอเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันครับ

น่าจะไม่ลืมกันนะครับว่าเขาเป็นอาจารย์พิเศษด้วย การที่อาจารย์พิเศษมาสนิทชิดกายผมเนี่ย มันน่าจะประหลาดมากในสายตาเพื่อนร่วมเรียนของผม เพราะที่เรียนกันมา 2  ปี ผมคุยกับคนอื่นแบบนับคนและนับคำได้เลย
แต่ยังไงก็ต้องไปล่ะนะ โลกเว้ย! วินมาแล้ว!!!!

ผมฮึดสู้อยู่ในห้วงคิดตัวเอง นั่งจ้วงข้าวเช้าที่ค่อนไปทางสายเข้าปาก แล้วก็คว้ากระเป๋าคู่ใจ ที่เข้าคู่กับเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ไม่ขาด รองเท้าเผ้าใบ แล้วก็เดินดุ่ยๆ ออกจาบ้านไม้ท้ายสลัม ไปหน้าปากซอย เพื่อโบกมอเตอร์ไซค์ให้ไปที่ท่าเรือ  เรือด่วนธงส้ม ทำหน้าที่ส่งผมสู่โลกที่เปิดพื้นที่เพิ่มขึ้นรอต้อนรับผมอยู่

ถึงที่หมายในเวลาที่ไม่เลทหากเทียบกับเวลานัดหมายที่โครงการกำหนด ผมไม่ต้องมองหาไอ้โอมเลย เพราะมันนั่งเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว ห้อมล้อมโดยเพื่อนคนอื่นๆ ที่ต่างก็พากันแต่งตัวดีขึ้นผิดหูผิดตา ผมยิ้มบางๆ ให้กับเพื่อนบางคนที่บังเอิญหันมาและบังเอิญสบตากัน ไอ้โอมกวักมือหยอยๆ เป็นการต้อนรับ ตบเก้าอี้เรียกตูดผมด้วย

“มาไงวะ เฮียกูล่ะ”​

“แยกกันมา กูมาเรือ พี่โป๊ะไปทำงานก่อน”

“ขยันไปไหนว่าคนนั้น”

“กูว่าเค้าไม่ได้ขยันหรอกว่ะ เค้ารู้หน้าที่”

“แหม...อวย”

“ฟังตัวเองอวยเค้าก่อนเถอะไอ้หมาโอม”
“มึงแดกไรมายัง? กาแฟมั้ย”

“เดี๋ยวนี้ติดกาแฟแล้วหรอหมาวิน” มันถามพลางถลึงตามองผมอย่างประหลาดใจ ติดบ้าติดบออะไรก็กูรู้ว่ามึงติดกาแฟไงเลยถาม ไอ้ห่านี่ ผมไม่ได้ด่ามันหรอกครับนะครับ แค่ทำหน้านิ่งๆ ถอนหายใจแล้วก็ลุกยืนทั้งที่เพิ่งหย่อนก้นได้ไม่ถึง 2 นาที

“เอ้าๆ ไปไหนวะ แซวแค่นี้ทำงอน เดี๋ยวนี้เล่นตัวเบอร์ใหญ่นะมึงเนี่ย รู้ว่าไงๆ เค้าก็ง้อล่ะสิ” จิกกูอีกแล้วนะ ผมไม่ตอบ เดินออกจากห้องนัดหมายแม่งเลย ไอตัวดีก็วิ่งตามออกมาแหละครับ ตามทันก็คว้าคอผมไปวางแขนเหมือนเดิม มันแสลนหน้ามาง้อ

“เค้าขอโทษ”
“ตัวจะไปไหน เค้าไปด้วยน้า” ไอ้เหี้ยนี่ กวนตีนใหญ่แล้ว ผมหลุดขำ แล้วก็ยอมบอกมันไปว่าจะไปซื้อชากิน กว่าจะถึงเวลานัดอีกตั้งหลายสิบนาที นั่งในห้องนั้นแล้วอึดอัด เสียงคนก็จอแจ มันก็ตกลงปลงใจมากับผม ก็แน่ล่ะครับ เรามันเพื่อนรักกัน

ร้านพักหูของผมก็คือร้านกาแฟดังที่ท่ามหาราช จริงๆ แล้วซื้อชานมร้านริมรั้วที่เคยกินก็ได้ แต่มันไม่มีเมนูให้เลือกมากนัก ผมก็เลยพาไอ้โอมเดินมาที่ท่ามหาราชเสียเลย การเดินทางของเราทุลักทุเลเล็กน้อย เพราะไอ้หมาผมยาวประบ่านี่เสร่อจะเดินเข้าร้านกาแฟของเฮียสุดที่รัก ซึ่งแน่นอนว่าผมค้านสุดตีน
เหตุผลไม่งี่เง่าเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ที่ไม่อยากเข้าไปวุ่นวายก็เพราะว่ามันคือร้านกาแฟร้านหนึ่งและโฮสเทลแห่งหนึ่งที่มีชีวิตของมัน มีเรื่องราวของมัน และมีผู้คนที่เกี่ยวข้องกับมัน ซึ่งไม่ใช่ผม

ได้ชาได้กาแฟอุดหูอุดปากกันแล้ว ผมกับไอ้โอมก็นั่งกันเงียบๆ มองแม่น้ำเจ้าพระยาสะท้อนแสงแดดจนแสบตาอยู่หลายครั้ง เช็คเวลากันอีกทีก็ถึงเวลานัดแล้วครับ
การซ้อมรับปริญญาครั้งนี้ แบ่งเป็นซ้อมคณะ 1 รอบ ช่วงบ่ายครับ จากนั้นก็ซ้อมรวมกับทุกคณะในตอนค่ำ แล้วก็เสร็จ เจอกันอีกทีวันซ้อมใหญ่และวัดเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร

พอกลับมาสมทบกับเพื่อนๆ ที่ห้องนัดหมาย จึงได้รู้ว่าความวุ่นวายในโลกนี้มีการเติบโตแบบเร่งด่วนครับ ทุกอย่างดูกระจัดกระจายแม้กระทั่งคำทักทายที่หัวพุ่งไปทางหางเฉไปอีกทาง สายตาที่เหมือนจะจ้องมาแต่ก็หักเหไปตามแสงในวินาทีสุดท้าย ผมรับมือกับบรรยากาศแบบนี้ไม่ค่อยได้ หน้าก็เคยนิ่งขึ้น เฉยขึ้นและบึ้งตึงขึ้นอย่างไม่ต้องใช้ตัวแปรใดๆ มากระตุ้น

“เป็นไรวะ หงุดหงิดอะไร”

“เปล่านี่” ผมไม่ได้หงุดหงิดอะไรจริงๆ นะครับ ผมแค่ไม่ชอบบรรยากาศจอแจแบบนี้

“แล้วไมทำหน้าแบบนั้น”

“มันวุ่นวายประหลาดๆ จบๆ ไปเร็วๆ ก็ดี กูเวียนหัว”

“ท้องหรอ”

“พ่อมึงสิไอ้ห่าโอม” ผมด่าไปโดยไว ทิ้งหางตามองมันอย่างดูแคลน ไอ้บ้าไอ้บอตัวนี้ต้องหิวเบอร์ไหนถึงได้คิดอะไรพิสดารได้แบบนี้

“เค้าล้อเล่นไง”
“ตัวอย่าทำอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวเฮียก็มาแล้ว ใจเย็นๆ นะ”

“กูไม่ได้เป็นอะไร แล้วก็ไม่ได้รอเฮียมึงด้วย”

“อ้าวหรอ? แต่เฮียกูบอกว่ากำลังรีบมา ให้ดูมึงให้แป๊บนึง อย่าให้หิว เดี๋ยวอารมณ์เสีย”

นายมือโปรเห็นผมเป็นอะไรวะ? วัตถุระเบิดรึไง ผมไม่เคยโมโหร้ายหรือเหวี่ยงใครด้วยความรุนแรงเลยนะครับ การตอบโต้ การดื้อด้าน เถียง และต่อต้านของผม แสดงออกผ่านความเงียบมาโดยตลอด เพิ่งมามีนิสัยพ่นคำหยาบก็ตอนเจอเขาและไอ้โอมนี่แหละ

ผมส่ายหน้าด้วยไม่อยากสนใจมันอีกต่อไป ไม่นานนัก อาจารย์และเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาเพื่อบอกการจัดลำดับ นำให้ซักซ้อมท่าทาง และให้เวลาพวกเราจัดกระบวนท่าของตัวเอง เจอกันอีกทีช่วงเย็นที่หอประชุมใหญ่

ราวๆ บ่ายกว่า พวกเราก็ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง ผมหิวจนหน้ามุ่ยแต่ก็ไม่ได้บ่นออกมาดังๆ หรอกครับ คิดอยู่แค่ว่า ทำไมนายมือโปรถึงได้รู้จักผมดีนัก รู้ด้วยว่าถ้าดูแลไม่ให้หิวได้ ก็เท่ากับสกัดอารมณ์ไม่สนโลกผลักจักรวาลของผมได้ เขาอาจเทพจริงๆ หรือผมอาจจะเดาอารมณ์ง่ายเกินไป

ไอ้โอมลากผมไปกินข้าวแถวท่าพระจันทร์ซึ่งก็มีอยู่ไม่กี่ร้านหรอกครับ แต่แผนของมันถูกปฏิเสธ เพราะว่าคนมีความสำคัญมากกว่าเขาโผล่มาแล้วครับ

นายมือโปรนั่นแหละ เขาโทรหาผม และส่งข้อความสั่งไอ้โอมให้มากับผม เรานัดกันที่ร้านพิซซ่าใต้สะพานครับ ร้านนี้เสี่ยงพอควรเพราะดัง และผมก็แว่วๆ ได้ยินใครหลายคนนัดแนะกันว่าจะไปทานอาหารกันที่ร้านนี้ นั่นก็เท่ากับว่า ใครหลายคนอาจะได้เห็นผมอยู่กับอาจารย์วารินทร์ แต่ก็คงไม่น่าสงสัยอะไร เพราะว่าไอ้โอมก็อยู่ด้วย แต่นั่นก็เสี่ยงอยู่ดี เสี่ยงว่าจะถูกแจม ซึ่งผมไม่ชอบทานข้าวกับคนไม่คุ้นเคย

“ทำไมหมากูหน้ามุ่ยมาแบบนี้วะโอม”
“มึงไม่ดูแลวินเลยใช่มั้ย สั่งไว้ว่าไง ไอ้นี่นี่!” คำด่าไอ้โอมทำให้ผมหลุดจากภวังค์ เงยหน้ามองก็พบกับนายมือโปรที่ยืนเท้าเอวมองพวกผม 2 คน วันนี้เขาใส่ชุดลำลองดูสบายๆ ไหนว่าเข้าออฟฟิศ ทำไมชิลล์แบบนี้ล่ะ?

“หิวมากหรอวิน”

“ไม่นี่ครับ”

“ทำไมหน้างอแบบนี้ ไอ้โอมมันแหย่อะไร?”

“เปล่าครับ”

“โหหห เฮีย”
“โอ๋กันระดับนี้ กลัวโลกไม่รู้รึไงว่าได้กันแล้ว” และมันก็โดนตบหัวไปตามระเบียบครับ เสียงแป๊ะนี่ประทับใจผมมาก ไอ้โอมเป็นฝ่ายหน้าบูดแทน มันเดินกระแทกส้นเท้าเข้าร้านไป แต่ก็ต้องด้นถอยหลังกลับออกมา

“โต๊ะไหนอ่ะเฮีย”

“แล้วเสร่อเดินเข้าไปก่อนให้ได้อะไร หา?” 

“ก็เฮียอ่ะ” เถียงได้เท่านี้แหละครับไอ้หมาโอม ผมเห็นมันเบะหน้าแล้วก็สงสาร คงน้อยใจเฮียมันน่าดูที่เอาแต่โอ๋ผม ขอโทษว่ะโอม กูนอนคุยกัน...อูยยย ดูเป็นคำข่มที่แพศยาสิ้นดี

ผมถูกลูบหัว ก็เลยเลิกหัวเราะเยาะเพื่อนในใจแล้วเงยหน้ามองเจ้าของมือ เขายิ้มให้ ตั้งท่าจะโน้มตัวสูงๆ ลงมาหาหน้าผม แต่ผมเลือกจะเดินหนีเขาเข้าร้านไปเสีย แต่ก็มีจุดจบแบบไอ้โอมแหละครับ ผมด้นถอยหลังกลับมาหาเขาแล้วถาม

“โต๊ะไหนล่ะครับ”

นายมือโปรหัวเราะใส่อย่างอารมณ์ดี เขาโอบบ่าผมไว้แล้วก็พาเดินไปยังโต๊ะอาหารที่จองไว้ ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของร้าน

นั่งเล่าบรรยากาศการซ้อมรับปริญญากันไม่นาน อาหารก็มาเสิร์ฟ นายมือโปรเชื้อเชิญให้ผมทานเสียก่อน จะได้ไม่โหวงท้อง ผมก็เลยเริ่มทานครับ ส่วนไอ้โอมนั้น ได้รับการเถือกจานพิซซ่าไปตรงหน้าก็เชื้อเชิญเหมือนกันครับ แต่หยาบกว่า นายมือโปรสั่งไอ้โอมว่า “แดกไม่หมดโดนยีหัวนะ” แม่งโหดชิบหายเลยว่ะ ผมพอจะรู้แล้วว่าทำไมไอ้โอมถึงทั้งรักทั้งเกรงเขา ก็มีทั้งพระเดชพระคุณกับไอ้โอมนี่เอง

กำหนดวันรับปริญญาไม่น่าใจหายเท่าวันกลับไปเป็นแรงงานส่งออกต่างประเทศของไอ้โอมหรอกครับ พี่โป๊ะดูเสียดาย คงเพราะเขามีวิถีอยู่ในหัวมากมายให้ไอ้โอมเดินตามเส้นปรุที่เขาเอาเท้าทำรอยไว้ ส่วนผมก็เสียใจนิดๆ ที่จะไม่มีใครให้บอกรักบอกห่วงด้วยคำว่าไอ้เหี้ยไอ้สัดหมาโอม

แต่มีพบก็มีจาก มันเป็นสัจธรรม ผมเชื่อว่าผมทำใจได้ อีกอย่าง มันก็ไม่ได้ตายจากไปเสียหน่อย สมัยนี้โลกแคบนิดเดียว ผมคิดว่าผมด่ามันผ่านตัวหนังสือแล้วส่งไปทางอินบ๊อกซ์ได้

ผมอาจจะคิดถึงกลิ่นหัวมัน คิดถึงมือมันที่ชอบจับมือผมไว้ตอนที่ผมรู้สึกอ้างว้างแต่ไม่เคยยอมรับแม้แต่กับตัวเอง แต่คงไม่ถึงขนาดคิดถึงจนตายหรอกครับ

“แล้วกลับมาบ่อยๆล่ะโอม วินคิดถึงแย่”

“แล้วเฮียล่ะ ไม่คิดถึงผมหรอ? โด่”

“คิดถึงสิ ติดเงินกูไว้นี่ รวมดอกก็ล้านนึงพอดี”

“ไอ้เฮียยยยยย ใจเย็นดิ เดี๋ยวใช้เว้ย แม่ง อย่าเพิ่งดอกสิเฮีย ไม่เอา ไม่เอา ไม่วู่วาม”
“มองโอมสิครับ นี่โอมไง เด็กดีของพี่โป๊ะไง”
“ไม่คิดดอกเบี้ยน้า” ไอ้ปลิ้นเอ้ย ผขำการอ้อนการแถของมันมากครับ ส่วนพี่โป๊ะทำเป็นกอดอกเล่นตัว แต่แววตาเขาบอกโลกหมดแล้วว่าเขารักน้องชายเขาขนาดไหน

เราทานกันจนอิ่ม คุยกันจนอิ่มกว่า ผมกับไอ้โอมก็ถูกเรียกตัวไปซ้อมที่หอประชุมอีกครั้ง แต่การกลับเข้าเขตมหาวิทยาลัยรอบนี้ เป็นที่จับจ้องอย่างที่คิดไว้เลยครับ

เดินกันมาถึงตึกคณะ(ที่ผมไม่เคยได้มีโอกาสใช้เพราะตอนที่เรียนนั้นตึกกำลังปรับปรุง) ซึ่งเป็นที่นัดหมาย สายตาเพื่อนคนอื่นๆ ก็พุ่งมาทางพวกผมทันที ไม่ใช่เพราะผมหล่อขึ้นหรือไอ้โอมผ่องแผ้วขึ้นหรอกครับ แต่เพราะนายมือโปรต่างหาก

“อาจารย์วารินทร์ สวัสดีค่ะ”
“มาทำอะไรคะ? มีสอนหรอ? วันนี้วันศุกร์นี่คะ”

“เปล่าครับ ธุระนิดหน่อย”

“อ๋อ อาจารย์คะ ถ่ายรูปกันค่ะ”
“น้องโอม น้องวิน มาค่ะ ถ่ายรูปกับพี่แจงหน่อย”
“เรียนจบแล้ว พูดกับน้องวินนับคำได้เลย”

เธอเรียกทุกคนที่อยู่บริเวณรอบๆ ครับ ผมกับไอ้โอมก็ไม่ขัดน้ำใจ เพราะเห็นว่าใครๆ ก็ไม่ปฏิเสธคำชวนของพี่แจงคนนี้

นายมือโปรเป็นไข่แดงกลุ่มอยู่หลายนาทีเชียวครับ เขาถ่ายรูปหมู่ ถ่ายรูปคู่ รวมถึงถูกขอให้เป็นแบบเดี่ยวๆ ก็มี ท่าทางเวลาสาวๆ ขอถ่ายรูปด้วยจะอ่อนโยนหน่อย โน้มตัว ยิ้ม เอียงหัวนิดๆ ส่วนที่ถ่ายรูปกับพวกผู้ชายก็ยืนสมาร์ทขึ้น ทำมือทำไม้ตามที่มีคนกำกับ

ผมยอมรับว่าประหลาดใจนิดๆ ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นเขากลมกลืนกับสังคมได้ระดับเทพแบบนี้ เพราะเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าเขาเองก็เป็นคนที่มีพื้นที่ส่วนตัว และขอบเขตของพื้นที่ก็ค่อนข้างชัดเจน

อาจารย์เนื้อหอมเดินมาหาผมที่ยืนอยู่คนเดียว ส่วนไอ้โอมก็ไปวิ่งร่าถ่ายรูปกับคนนั้นคนนี้ตามประสา

“มือถือล่ะ”

“ไม่หายนี่ครับ อยู่นี่” ผมตบกระเป๋ากางเกงประกอบคำตอบ แต่นายมือโปรกลับแบมือมาตรงหน้า

“รู้ว่าไม่หาย ยังเห็นเล่นอยู่เมื่อกี้เลย”
“พี่หมายถึง เอามือถือมาสิ ถ่ายรูป”

“ไม่เอา วินไม่ชอบ”

“ก็พี่อยากมีรูปคู่”

“ทำไมต้องที่นี่”

“เพราะมันก็ปกติที่คนเขาทำกัน”
“เร็วสิ”

“ไม่เอา”

“โอเค ใช้มือถือพี่ก็ได้ ให้คนเขารู้กันไปเลยว่าพี่เป็นคนขอถ่ายรูปคู่กับวินเอง”

“ไม่ต้องเลย หยุดเลยพี่โป๊ะ”
“เอ้า! นี่”

“ก็เท่านี้” เขาบอกแล้วยกยิ้มมุมปาก ชนะผมได้นี่มันฟินสินะ เขายืนซ้อนหลังผมนิดๆ โยกหน้ามาจนคางเขาประกบขมับผม ผมเป็นคนถือกล้อง พอมองตัวเองและเขาในมือถือแล้วรู้สึกเขินพิลึก

“นับด้วยนะ เดี๋ยวไม่หล่อ”

“โอเค รู้น่า”
“นึงงงง” แชะ เสร็จ

ผมเก็บมือถือลงกระเป๋าตัวเองแล้วก็เบี่ยงตัวหนีแผงอกเขาที่มันจี้ติดแผ่นหลังผม เขาหัวเราะอย่างรู้ทัน แต่ก็ไม่ได้แกล้งอะไรผมต่อ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ไปไหนอยู่ดี

เพราะเรามีเรื่องต้องคุยกันครับ
ไม่ต้องขมวดคิ้วหรอกครับ เราคุยกันเรื่องงาน และเรื่องการบอกเวลานัดหมายผู้ใหญ่ที่ต้องการแสดงความยินดีกับการเรียนจบของผม

“บ้านวินมากันทั้งบ้าน โคตรเบื่อ”

“บ่นทำไมกันเล่า ดีกว่าใส่ชุดครุยยืนเดียวดายนะ”

“วินยืนของวินได้”

“เขารักหรอกน่า”
“เดี๋ยวพี่จัดคิวเอง วินแค่ทำตัวให้พร้อมตามกำหนดการก็พอ”
“นี่เข้าไปซ้อมในหอประชุมกี่โมง แล้วเสร็จกี่โมงครับ”

“นัด 6 โมงนะ แต่ก็คงเลท ตามเคย”
“เห็นว่าเสร็จประมาณ 2 ทุ่ม”

“เสร็จแล้วโทรเรียกพี่แล้วกันนะ เดี๋ยวรออยู่แถวๆ นี้แหละ”

“ไม่ไปรอที่ร้านพี่โป๊ะล่ะครับ ร้านกาแฟ”

“ไม่อยากเข้าไปช่วงนี้ มันกำลังเป็นไปตามทางของมัน”
“ไปร้านกาแฟอื่นดีกว่า”

“เอาเถอะ เวลาของพี่โป๊ะนี่ จะให้มันเสียไปกับอะไรก็เรื่องของพี่อยู่ดี”
“อ้อ เรียกแล้วมั้ง วินไปก่อนนะ”

“ครับ”

“รอแน่นะครับ”

“เคยไม่รอวินด้วยหรอ”

ไม่เคย เขาไม่เคยไม่รอ
ผมยิ้มให้คำตอบที่ทำให้ใจในอกมันเต้นตูม เขายื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆ แล้วก็ผลักหลังเป็นการส่งท้าย แล้วก็เดินไปทางท่าพระจันทร์ตามที่บอกไว้

“เฮ้ยวิน ไม่เจอกันเลย”
“นี่ไปสนิทกับอาจารย์วารินทร์แกตอนไหนวะ?” เฮียที่เป็นไข่แดงบนโลกของกระเพราไก่ไข่ดาวจนเคยตัวถามขึ้น คงลืมไปแล้วมั้งครับว่าผมไม่ใช่คนอัธยาศัยดีจนยอมให้คนอื่นมาเสือกเรื่องชีวิตของผม

“เฮียๆ เดินได้แล้ว นี่ไม่เจอกันไม่กี่เดือนเดินเองไม่เป็นเลยหรอ?”
“ไปดิเฮีย เฮ้ยเอ็ม น็อต ต้น จิม มาแถวนี้ เหอะว่ะ ดูดหรี่มั้ย” ไอ้โอมครับ ที่เป็นคนแทรกช่วงเวลาที่เฮียมองหน้าผมเพื่อขอคำตอบ การดึงความสนใจไปสู่ตัวของไอ้โอมได้ผลเสมอ ผมไม่ต้องแสดงอาการดิบๆ ใส่เฮีย ไม่ต้องโกหก และไม่ต้องพูดในสิ่งที่ไม่อยากพูด ผมรักไอ้โอมก็เพราะแบบนี้แหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2016 23:56:27 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
«ตอบ #639 เมื่อ27-12-2016 23:55:28 »

พิธีการไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายหรอกครับ หมายเลขของที่นั่งและแถวนั่งฝังติดแน่นในสมองผมเพียงแค่มองมันครั้งเดียว แต่ไอ้โอมรอบคอบโดยการถ่ายการรันตัวเลขนั่งเอาไว้ ก็ดีเหมือนกันครับ เพราะผมก็หวั่นๆ เหมือนกันว่าตื่นมาพรุ่งนี้ก็ลืมทุกอย่างแล้ว
 
ระหว่างนั่งรอการรันคิวเดินขึ้นไปรับใบปริญญา เรามีเพลงประจำมหาวิทยาลัยให้ซ้อมร้อง ให้ท่องจำเนื้อเพลงนั้นเอาไว้ แต่ผมไม่ได้เป็นเด็กดีขนาดนั้นหรอกครับ ผมหลับ มีไอ้โอมเป็นพนักพิง เป็นหมอน เป็นซอกหนีบหัว เป็นทุกอย่าง

สติเต็มอีกครั้งก็ตอนที่ซ้อมเสร็จและเดินออกจากหอประชุมมาพร้อมๆ กับฝูงชนคลาคล่ำ หลายคนนัดแนะกันไปกินอาหารมื้อดึกต่อ หลายกลุ่มก็นัดกันด้วยร้านเหล้า และไอ้ตัวดีก็ไม่เคยพลาดโอกาสแบบนี้หรอกครับ

“ไปร้านอาจารย์วารินทร์ไง”
“สุขุมวิท ลงด่วนก็ถึงแล้วเนี่ย”
“เฮียไปป่าว”

“เออ ก็ดีว่ะ แต่จารย์แกไม่ว่าหรอ?”

“นี่ก็จบแล้ว พี่ๆ น้องๆ กันนี่แหละ ไม่ใช่ศิษย์อาจารย์กันแล้วเฮีย”
“เขาจะด่าก็ข้อหากินเหล้าแล้วชักดาบมากกว่า”
“เอาไง ถ้าไปจะโทรจองโต๊ะไว้ก่อน”

“ใครไปมั่งอ่ะ พวกมึงว่าไง”
“เฮียโอเค เคยไปกันมาแล้วไง จำได้ป่าว ที่สอบไอเอสกันเสร็จอ่ะ”
“เค เค กี่หัวพวกมึงแจ้งไอ้โอมไว้ด้วย” ภาษาเหล้ามันง่ายแบบนี้นี่เอง ผมยืนฟังด้วยสีหน้านิ่งเฉยๆ มีสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไอ้เฮียมันส่งสายตามาหาแล้วก็ตั้งท่าจะปรี่มาหา ผมรีบหันมองทางอื่นไปเรื่อยเปื่อย และก็พบว่า ควรสบตาไอ้เฮียไว้นั่นแหละดีที่สุด

นายมือโปรครับ ตัวเป็น กำลังก้าวขายาวๆ ผ่านสนามหญ้ามาทางพวกผม ในมือมีน้ำเปล่าด้วย
เอาไงดีอ่ะ ผมไม่อยากเมินแฟนผมด้วยเหตุผลว่าไม่อยากให้ใครรู้ความสัมพันธ์เพราะแม่งยุ่งยากับชีวิต แต่ผมก็ไม่อยากแนะนำกับไอ้เฮียว่าผมกับอาจารย์วารินทร์ที่ไอ้เฮียมันโคตรชูไว้เหนือกระหม่อมล้านๆ ของมันนั้น ..รักกัน

ผมต้องเลือกว่าจะฝืนใจตัวเอง หรือจะทำร้ายความรู้สึกคนที่ดูแลผมเป็นอย่างดี

“ไอ้วิน”

“วิน”

โอเค เลือกแล้วก็ได้
ผมหันไปหาไอ้เฮีย เลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไรหรอครับ มือที่ไขว้ไว้ข้างหลังกำลังทำกิจการเกี่ยวนิ้วตัวเองอยู่ครับ

“มึงไปป่ะเนี่ย”
“ผับอาจารย์”

“ไอ้โอมมันไปนี่ ผมก็ไปแหละ”

“อ้าว นั่นเขานิ อายุยืนชิบหาย”
“เออๆ ดี อยากเจอ มีเรื่องถาม”

“เรื่องไรหรอเฮีย”

“งาน กูอ่านข่าวเจอว่าเขาเปิดบริษัทใหม่ เป็นบริษัทร่วมทุนกับแบงก์ กำลังฟอร์ม”
“ว่าจะไปซับงาน”

“อ่อ”

“จะถามด้วยว่าสนิทกับมึงตอนไหน”

“แล้วไมต้องถามเขาล่ะ ถามผมดิ”

“ไม่อ่ะ มึงมันเป็นพวกไม่อยากตอบก็ไม่ตอบห่าอะไรทั้งนั้น กูไม่บี้ให้มึงด่าแช่งหรอก”
“ถามเขาดีกว่า หุหุ” แล้วมันก็เดินเลยผมไปหาอาจารย์วารินทร์ของมันครับ ว่ากันตามจริง เฮียมันน่าจะอายุพอๆ กับนายมือโปรนั่นแหละ หรือไม่ก็แก่กว่า
ผมเดินตามไปด้วย หลังจากหันมองหาไอ้โอมแล้วเห็นพิกัดของมันแล้ว ไอ้เฮียมันคุยเรื่องงานกับนายมือโปรก่อนครับ ผมยืนห่างออกมาไม่มาก แต่ก็ยืนแสดงตัวหัวโด่ให้รู้ว่า ถ้าพูดเรื่องกูก็ต้องให้กูพูดด้วย

และไม่นานนัก เฮียก็เข้าประเด็น
“อาจารย์ ไปสนิทกับวินมันได้ยังไงครับ”
“เมื่อเย็นเห็นคุยกันนานเลย เมื่อกลางวันก็กินข้าวด้วยกัน กับไอ้โอมอีกคน ไอ้โอมนี่พอรู้มาแล้วว่ามันเคยทำงานกับของอาจารย์ แต่วินเนี่ย”

“วินทำไมหรอครับ?” นายมือโปรถาม หันมองผมที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักแล้วพยักหน้าเรียก ผมก็เลยเดินรี่เข้าไป แม้ว่าการยืนอยู่ตรงนี้จะได้ยินพวกเขาคุยกันแล้วก็ตาม

“ก็....” เฮียหันมองผมที่เดินมาร่วมวงสนทนา มองน้ำในมือนายมือโปรที่ยื่นมาให้ผมแบบพร้อมดื่มได้เลย ส่วนฝาขวดน้ำนั้นติดอยู่ที่มือนายมือโปรครับ
“ก็ปกติวินเขาเข้าถึงยาก เลยแปลกใจว่าอาจารย์ทำยังไงถึงได้เข้าถึงมันได้”
“เด็กนี่มันกวนตีนจะตาย แต่มันน่ารัก”

“อ๋อ” เขาหัวไวจัง น่าจะคิดคำตอบที่เข้าท่ามากกว่าคำตอบของผมล่ะนะ
“ผมจีบวินเองแหละ”
“ชอบ”
“เนอะ” หันมาเนอะกับผมครับ แล้วผมต้องทำไงล่ะ

“จีบ? วินเนี่ยนะครับ”
“แล้ว...ตอนนี้ เอ่อออ”

“คบกัน ทำไมหรอครับ?”

“เหยดดดดดดดด” นี่คือคำอุทานใช่มั้ย ผมกับนายมือโปรมองไอ้เฮียแล้วก็มองหน้ากันเอง แสงไฟสปอตไลท์บริเวณสนามหญ้าทำให้เห็นสีหน้าประหลาดใจของไอ้เฮียได้ดีครับ แต่ทั้งหน้ามันก็มีแค่ความประหลาดใจเท่านั้น ไม่ได้มีอาการรังเกียจความรักที่ไม่ปกติ

“จารย์”
“เด็ดดอกฟ้าเลยนะเนี่ย เจ๋งอ่ะ”
“นี่จะไปผับอาจารย์กัน เดี๋ยวเล่าหน่อยดิว่าทำไงให้มันยอมเป็นแฟน”
“วินเนี่ย ถ้าผมไม่ได้คุยกับไอ้โอมรู้เรื่อง ก็คงไม่ได้รู้จักมัน”
“ที่เรียนด้วยกัน 2 ปี พูดกับมันแบบเรื่องทั่วไปที่ไม่ใช่เรื่องเรียนหรือรายงานนี่นับคำได้เลยนะ”
“ผมเนี่ย จะถามว่ามันเป็นอะไรกับนายแบงก์ยังไม่กล้าเลย กลัวมันด่าไปถึงปู่ถึงย่า เดี๋ยวนั่นลุกมาด่ากลับจะซวย”

“เฮีย ผมไม่ได้ดุขนาดนั้นสักหน่อย ก็แค่ไม่อยากพูดก็ไม่พูด”

“นั่นแหละที่กูกลัวมึงที่สุด”
“สายตามึงน่ากลัว มันแบบ..บอกทุกคนว่า ถ้ายังเสือกถามเรื่องที่กูไม่อยากพูดอีก มึงเจอดีแน่ อะไรแบบนี้อ่ะ แม่ง นามสกุลก็ใหญ่คับคุ้มเจ้าพระยา”

“ไอ้เฮียแม่งเวอร์” ผมด่าปิดท้าย ส่วนนายมือโปรยืนขำครับ

“จารย์ แล้วตกลงไอ้วินมันเป็นอะไรกับตระกูลนายแบงก์หรอ?”

“ถามเจ้าตัวเขาสิ ผมไม่พูดถ้าวินไม่อยากให้พูด เข้าใจนะ”

“โห่ งี้แสดงว่าเป็นลูกเป็นหลาน”
“เอาเถอะ ก็แค่อยากรู้หัวนอนปลายตีนมันบ้าง ก็พี่ก็น้องกันทั้งนั้น”

พวกคนสันดานดียังมีอีกเยอะนะครับ หลังๆ มานี้ผมสัมผัสได้ คนที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครเขาก็ยังปฏิบัติกับคุณตามสันดานดีๆ ของเขา

ไอ้โอมเดินมาสมทบพวกผมในที่สุด มันรายงานราวกับเป็นเลขาของที่ประชุม
“สรุปนะเฮีย ไปเจอกันที่ผับประมาณ 20 กว่าหัว”
“จองโต๊ะไว้ให้ 2 โต๊ะติด เป็นแบบยาวหน้าร้านเลย อยากดิ้นก็เดินไปเอง นี่เน้นของกินรองท้องกับนั่งคุยกัน”
“วิน มึงไปกับเฮียใช่มั้ย งั้นกูไปกับเฮียนะ”
ผมเชื่อว่า ผมไม่ใช่คนเดียวที่งงกับสันดานดีๆ ของไอ้โอม


อากาศปลายปีไม่เป็นไปตามฤดูกาลครับ ความร้อนอบอ้าวจากผิวดินยังระเหยขึ้นมาห่อล้อมตัวเราแม้ว่านี่มันจะล่วงมาถึง 3 ทุ่มแล้ว ดูท่าแล้วแสงแดดจะโหดร้ายกับผู้ได้รับการตกกระทบมากเลย ช่างเป็นธรรมชาติที่ไร้ความปราณีต่อสิ่งอื่นที่ผมชื่นชอบเหลือเกิน

ขึ้นรถมาได้ก็เรียกร้องหาแอร์ก่อนเลยครับ จากนั้นก็ถอดรองเท้าหนัง ขอเปลี่ยนเป็นรองเท้าลำลองที่ทิ้งติดรถหรูของพี่โป๊ะเอาไว้ เขาช่วยปรับแอร์ ส่งทิชชู่เปียกให้เช็ดมือเช็ดเท้า ส่งน้ำดื่มมาให้อีกระลอก ส่งคุกกี้มาให้รองท้องก่อน แล้วก็ส่งนมมาให้

“พี่โป๊ะ เหมาเซเว่นมาหรอ?”

“อื้อ ก็พอดีจอดแถวนี้” เขาจอดรถริมถนนท่าพระอาทิตย์ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีเซเว่นเปิดให้บริการอยู่ จุดจอดตรงนี้ก็ไกลจากมหาวิทยาลัยพอสมควร แต่ผมเดินได้ ผมชอบ
“เอาไรอีกป่าว เข้าไปซื้อตุน”
“เดี๋ยวถึงร้านพี่ทำข้าวผัดหมูหมักซอสกับขิงให้ เอามั้ย”

“ไม่เคยได้ยินชื่ออ่ะ แต่วินขอซุปขอแกงอะไรสักอย่างได้มั้ย อุ่นๆ”
“จริงไม่อยากไปกินเหล้ากับพวกนั้น เหนื่อยแล้ว ไม่อยากให้พี่โป๊ะไปด้วย”

“โอเค กลับบ้านเรากันดีกว่า”

“อ่าวแล้วพี่โป๊ะไม่ต้องไปดูแลพวกเฮียหรอ”

“ไม่ต้องหรอก มันเป็นร้าน เป็นกิจการ เป็นการค้าขาย”
“เขาอยากได้ที่นัดสังสรรค์ คุยกัน มีเหล้ามีอาหาร ไม่มีพี่เขาก็ทำกิจกรรมนั้นกันได้”
“วินต้องการพี่มากกว่าพวกเขานี่ แล้วพี่ก็อยากอยู่กับวินมากกว่าพวกเขาด้วย”

RRRRR
มือถือเขาดังขึ้นขัดจังหวะครับ ผมผายมือเป็นการบอกให้รับได้เลย ตามสะดวก ส่วนตัวเองก็ปรับเบาะนอน ยืดตัวบิดขี้เกียจแล้วเตรียมหลับ ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะตื่นอีกทีตอนถึงบ้าน แต่ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้กลับบ้านทันทีตามแผน

“วินเหนื่อย วันนี้มาซ้อมรับปริญญา กำลังจะกลับบ้านกัน มันด่วนมากหรอวะคุณ”
“เออๆ ไม่ได้เกี่ยงเลย”
“ก็ห่วงสิวะ เอ๊ะมึงนี่”
“เออๆ ลากมันมาก็แล้วกัน เดี๋ยวเจอกันที่ร้าน”
“เดี๋ยวหนึ่ง เจมมามั้ย”
“โอเค ดี เจอกัน”

“ธุระกับเพื่อนหรอพี่โป๊ะ” ผมถามทันทีที่เขาคุยกับเพื่อนเสร็จ นายมือโปรพยักหน้าพร้อมกับบอกชื่อคู่สนทนาที่ผมรู้อยู่แล้ว

“ไอ้หนึ่ง มันบอกว่าไอ้หมอนำเฮิร์ท”

“พี่นำเนี่ยนะครับ”
“ทำไมเฮิร์ท อย่าบอกนะว่าน้องธาม”

“อืม ธามขอเลิก”
“แต่ก็...ธามอ่ะวิน”
“หมาธามมันพูดรู้เรื่องตั้งแต่ประโยคแรกซะที่ไหน”
“พี่ว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิด”
“นี่นัดกันที่ร้านพี่ วินเอ่อ....ไปด้วยกันนะ หรือจะกลับบ้านก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เอา วินจะไปกับพี่โป๊ะ”
“วินก็ห่วงน้องธามเหมือนกัน”

เขามองหน้าผมนิ่ง ขมวดคิ้วออยู่แป๊บนึงก็ก้มหน้าไปแอบยิ้ม

“อะไร?”

“ห่วงน้องธาม วินนี่ใจดีขึ้นเยอะเลยนะ”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงลงจากรถแล้วก็บอกให้พี่ไปธุระของพี่ วินจะกลับบ้าน”​

“บ้า...วินไม่ใช่คนแล้ง น้ำใจ ขนาดนั้น” อืม ผมแล้งน้ำใจกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ จริงๆ นั่นแหละ คงเพราะความรัก ความเป็นเพื่อนกัน พี่น้องกัน ทำให้หัวใจผมไม่แล้งเหมือนเมื่อก่อน

นายมือโปรไม่พูดอะไรอีก เขาเปิดเพลงในรถ แล้วก็ออกรถไปอย่างเชื่องช้าตามสภาพการจรจร

แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว เราก็มาที่ผับของเขา แต่เขาก็ไม่ได้มาแช่ก้นอยู่กับกลุ่มเพื่อนป.โท ของผมหรอกครับ เขาหย่อนผมไว้ตรงนี้ ทิ้งผมไว้กับความอยากเสือกเรื่องของพี่นำกับน้องธามเต็มที่ แล้วก็ตีจากไป
ผมก็เลยนั่งหงุดหงิดอยู่กับแขนไอ้โอม

“ไอ้นี่นิ ห่างๆ ไปหน่อยดิวะ”

“กูอยากกลับแล้ว”

“งั้นกลับ เดี๋ยวกูไปส่งขึ้นแท็กซี่”

“แต่พี่โป๊ะยังไม่กลับ”

“ไหนว่าไม่ติดเขาไง นี่อะไร เขาไม่กลับมึงก็ไม่กลับซะงั้น”
“หลงนะมึงเนี่ย”

“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“คือกูมีเรื่องอยากรู้ แต่ไม่ใช่เรื่องกูไง แล้วเขาก็ไม่ชวนกูไปเสือกด้วย มาทิ้งกูไว้กับมึงนี่ไง”  เอ้าวิน ชนๆๆๆ เสียงเพื่อนที่นั่งตรงกันข้ามและเยื้องไปมากตะโกนเรียกหาแก้วเหล้าผม ผมก็เลยยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่มตามมารยาท ส่งยิ้ม ส่งเสียงหัวเราะไปตามเรื่องตามราว แล้วก็กลับมาหมกมุ่นอยู่ข้างแขนไอ้โอมเหมือนเดิม

“โอม”
“มึงไปเสือกหน่อย”
“ไม่ก็ ไปบอกเขาว่ากูงี่เง่าแล้ว เขาจะได้ลากกูไปกำราบไง”

“อะไรของมึงวะวิน”
“อยากไปคุยกับกลุ่มเพื่อนเขามึงก็แค่เดินไป หรืออนาคตมึงมืดบอดระยะสั้นขนาดนี้เลยหรอ? หา? ถึงได้เดินไปหาเขาเองไม่ได้”

“ก็กู....”

“อะไร?”

“เขิน”
“กูไม่ง้อใครมึงก็รู้”

“แต่นี่แฟนมึงไง ไปง้อ”
“อีกอย่างนะเว้ย มึงไม่ได้ง้อ มึงแค่ขอเสือก”
“นี่แหละปกติของคนเป็นแฟนกัน เรื่องของเธอก็คือเรื่องชั้น มันคือเรื่องของเรา ไปน่าเกลียดหรอก เชื่อกู”

“หรอ?”

“เออออออ” เสียงยืนยันของมันทำให้ผมเลิกงี่เง่ากับแขนมัน ผมกระดกเหล้าจนหมดแก้วแล้วก็เตรียมลุกไปหาเขาในห้องวีไอพีทันที

“เฮ้ยวินไปไหนอ่ะ”
“ไม่เจอนานเลย เป็นไงมั่งวะ”
“คุยกัน คุยกัน” เมื่อคนที่หนึ่งเข้ามาคุย ก็ต้องมีคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่และห้า ไปเรื่อยๆ  จากเป็นไข่แดงของกลุ่มเล็กๆ ก็เป็นไข่แดงในไข่ใหญ่และเป็นขอบไข่ไหม้ๆ อยู่บางเวลา แต่ลงท้าย ผมก็ไม่สามารถแยกตัวไปหานายมือโปรได้ ไม่สามารถหลีกลี้จากสังคมนี้ได้ และไม่สามารถหาน้ำเปล่าดื่มได้เลยด้วยซ้ำ บอกตรงๆ เลยว่าเริ่มเมาแล้วครับ

“วิน มีแฟนยัง?” ใครสักคนถามขึ้น ผมหันมองหน้าเขาแล้วก็กระตุกยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบหรอกครับ ปากหนักแล้ว หนังตาก็เช่นกัน

“น้องมิวอ่ะ จำได้มั้ย”
“เขาชอบมึง”

“ใครวะ”
“แล้วไมไม่บอกกูเอง ทำไมต้องฝากมืงมาบอก เป็นเอสเอ็มเอสหรอ”

“อ่าๆๆๆ ไม่ตีกันสิพวกมึง มานิ มานิ”
“มาชงเหล้าให้กูนี่ไอ้เต้”
“วิน มึงไปเยี่ยวเอาเหล้าออกไป”

“ใครเขาจะตีกันเฮีย ผมแค่ถามวินมันเฉยๆ ว่ามีแฟนรึยัง น้องเขาเคยบอกผมว่าชอบมัน แต่ไม่กล้าเข้ามายุ่ง เพราะมันไม่สุงสิงกับใคร”

“เออน่ะ” ไอ้เฮียเกลี่ยทางแล้วก็ปัดมือไล่ๆ ผมให้ออกจากวงเหล้านี้ไปเสียที อะไรวะ? ผมก็ไม่ได้ตั้งป้อมจะหาเรื่องหรือมีเรื่องกับใครเสียหน่อย ก็แค่จะบอกตรงๆ ว่ากูไม่ตอบ จะทำไม มีไรก็ว่ามา

ผมเดินแบกตาหนักๆ ไปเข้าห้องน้ำ เสร็จธุระแล้วก็รี่ไปห้องวีไอพีทันที ไปมันทั้งที่ตาหนักๆ นี่แหละ
แล้วก็เจอครับ ห้องที่พี่โป๊ะและผองเพื่อนปรึกษาปัญหารักของพี่นำกันอยู่ ให้เมายังไง ผมก็จำได้ว่าผมไม่เชื่อเรื่องที่บอกว่าน้องธามขอเลิกกับพี่นำ ไม่เชื่อเด็ดขาด

“เอ้าวิน”
“เพื่อนกลับกันแล้วหรอ เจมกำลังจะไปหาเลยอ่ะ”

“หือ?”
“อ่อ เจม”
“มีอะไรหรอ? หาวินทำไม?”
“อื้อ แล้วพี่โป๊ะ อยู่ในห้องนี้รึเปล่า”

“อื้อ แต่อย่าเพิ่งเข้าไปเลย เจมเพิ่งออกมาเมื่อกี้เอง ให้พวกเขาโอ๋กันก่อน พี่นำอาจจะอาย”

“ทำไมต้องโอ๋พี่นำ”

“ก็....ก็พี่นำเฮิร์ทอยู่”

“เรื่อง?”

“.....อืม... ก็พูดลำบาก จริงๆ ก็ไม่มีใครรู้เรื่องจริงสักคน รู้เท่าที่พี่นำบอก แล้วพี่นำก็ขอร้องว่าไม่ต้องช่วยแก้ปัญหา”

“อะไรอ่ะเจม ยิ่งพูดก็ยิ่งงง”

“น้องธามขอเลิก รู้เท่านี้แหละ”

“สรุปแล้ว...เรื่องจริงหรอ?” ผมใจหายพิลึก เด็กที่รักพี่นำมากขนาดนั้น ทำไมถึงได้ตัดสินใจขอเลิกกับพี่นำ เจมพยักหน้าย้ำใส่สายตาผม สีหน้าเจมกำลังบอกผมว่าไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน
“พี่นำแย่มากมั้ย”

“ก็...เจมไม่เคยเห็นสภาพนี้มาก่อนเลย ก็เลยออกมา ให้เพื่อนเขาอยู่กัน”

“งั้น เราทำอะไรกันดีล่ะ วินไม่อยากกลับไปที่โต๊ะเพื่อนๆ แล้ว ไม่มีอะไรจะคุย เหล้าก็ไม่อยากกิน”

“นั่งเคาน์เตอร์มั้ย เจมจะมาชวนนี่แหละ”

“อื้อ เอาสิ” แล้วเราก็ควงคู่กันเดินไปนั่งดื่มเหล้าบางๆ ที่เคาน์เตอร์กันต่อ เจมเป็นคนที่ใช้ทักษะการสื่อสารได้ดี แม้ว่าถ้อยคำจะกวนตีนไปบ้าง แต่มันก็มีอะไรที่แฝงอยู่เสมอ

เท่าที่เราวิเคราะห์กัน เรื่องราวระหว่างพี่นำกับน้องธามน่าจะมีอะไรที่เข้าใจคลาดเคลื่อนไป ผมเชื่อว่าพี่โป๊ะเองก็ต้องคิดแบบนี้ ส่วนเขาจะมีวิธีช่วยให้คน 2  คนเข้าใจเรื่องสิ่งเดียวกันในมุมด้วยเดียวกันยังไงนั้น ตัวผมสุดจะคาดเดาครับ

ดื่มกันจนหัวทิ่มเพราะความมึน แต่ก็ตั้งหัวได้หลังจากสร่างตาขึ้นมาเองอยู่หลายรอบ นายมือโปรก็เดินมาโอบไหล่ เขาค้อมตัวดมข้างแก้มเพื่อทดสอบกลิ่นแอลกอฮอลและจมูกเขาก็น่าจะได้คำตอบ

“ทั้งคู่เลยรึเปล่าเนี่ย ไม่มีใครดูแลใครได้เลยสินะ”
“เฮ้อ...”
“หมาเจม”

“อื้อ” เจ้าของชื่อตอบรับทั้งที่หัวยังทิ่มอยู่บนท้องแขนตัวเองที่ใช้เทียมหมอน

“กลับบ้าน ลุกเร็ว ที่หนึ่งอยู่ที่รถแล้ว”
“เดี๋ยวพี่หิ้วไปส่ง”

“อื้อ”

“อื้อไหวก็งัดหน้าขึ้นมาสิ”
“เร็วๆ ให้ไว”
“วินรอตรงนี้นะ ไม่ต้องเดินไปไหนเลย”
“แล้วทำไมหน้าแดงยันหูยันหัวขนาดนั้น” มาแล้วครับ ดมกระทั่งติ่งหู
“ไหวมั้ยเนี่ย หืม?”
“รอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวพาไปนอน” ผมก็ไม่ได้ลุกหนีไปไหนเลย นั่งเบลอและมึนเพราะเหล้าอยู่ตรงนี้นานแล้วเนี่ย

ดูเหมือนเขาจะอ่านสีหน้ามึนๆ ของผมได้เสียที ถึงได้ดึงตัวเจมขึ้น ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าตัวเองซึ่งมันก็ทำให้เจมตัวเอียงกระเท่ เขาพาเจมเดินออกไปนอกร้าน ขณะที่ผมเลือกจะฟุบหัวลงกับแขนตัวเองบ้าง

กึ่งหลัลกึ่งตื่นไม่นาน นายมือโปรก็กลับมาแตะหลังผมเบาๆ เงยหน้ามากเจอกันก็ยิ้มให้อย่างสงสารปนขำ

“ง่วงมากหรอครับ”

“มากครับ”

“งั้นนอนที่นี่มั้ย”

“ดีครับ” ผมตอบรับทันที แล้วก็ขยับตัวลงจากเก้าอี้สูง มีเขาคอยโอบประคองแทบทุกก้าวที่เดินเซๆ ผมหาวตลอดทาง ตาก็ฉ่ำเยิ้มไปหมด รู้สึกคัดจมูกขึ้นมาดื้อๆ อีกต่างหาก
พอเข้าห้องใต้ดินมาได้ก็รี่ไปเข้าห้องน้ำเลยครับ เห็นสภาพตัวเองตอนมึนๆ เมาๆ แล้วผมเข้าใจนายมือโปรขึ้นมาทันทีว่าทำไมถึงได้ถามกันว่าไหวมั้ย เพราะสภาพผมดูไม่ไหวจริงๆ

“กินไปเยอะหรอวิน ขนานไหนบ้างเนี่ย”

“ไม่รู้ ชงมายังไงก็กิน แต่เพื่อนกินกันมั่วไปหมด”
“พี่โป๊ะล่ะ กินเหล้าเยอะมั้ย”

“วันของไอ้หมอมัน พี่ไม่ได้กินหรอก ฟังมันอย่างเดียว”

“อื้อแล้ว...” ผมโผล่หน้ามาจากห้องน้ำที่ใช้ประโยชน์เพียงแค่รองน้ำเปล่าลูบหน้าเท่านั้น
“น้องธาม”

“ก็ไอ้หมอมันว่างั้น”
“เห็นว่าธามขอเลิก แบบจริงจังเลย ถามแล้วถามอีก ทวนแล้วทวนอีก ความหมายก็คือขอเลิก”

“พี่นำกับธาม เป็นสองคนที่วินไม่คิดว่าพวกเขาจะเลิกกัน”
“ก็พี่นำเขาเข้าใจธามไปซะหมด น้องธามก็เอะอะก็พี่นำตลอด”

“พวกพี่ก็คิดแบบนั้น”
“หมอนำไม่ใช่คนเจ้าชู้ หรือมากรักหลักลอย มันรักใครมันก็รักอยู่อย่างนั้น”
“ก็จริงที่ธามไม่ใช่แฟนคนแรก แต่ธามก็เป็นคนแรกที่ทำให้มันนึกภาพตัวเองตอนใกล้ตายออก เป็นคนที่ทำให้มันต้องนั่งจำลองภาพตัวเองตายกระทันหัน เพื่อดูว่าธามจะลำบากเรื่องอะไรบ้างถ้าไม่มีมันอยู่ จะได้เตรียมการไว้ให้ตั้งแต่ตอนนี้ ตลกมั้ยล่ะ”
“พี่ก็ไม่คิด ว่ารักของไอ้นำ เด็กนั่นจะไม่ต้องการ”

“บางที ที่เลิก ก็ไม่ใช่เพราะว่าไม่รักหรอกครับ”
“วินเอง เพราะรู้สึกว่ากำลังจะรักพี่โป๊ะ ถึงได้ตัดสินใจไม่รักน่าจะดีกว่า”

“มีอารมณ์นั้นด้วยหรอ​? ตอนไหน?”

“ก็....ตอนที่พี่โป๊ะเริ่มเยอะกับวินตอนพี่รุตต์มา”
“พอได้รับความรู้สึกที่มันชัดเจนขึ้นจากพี่โป๊ะ วินก็อยากหยุดเหมือนกันนะ”
“มันไม่ใช่อยากเล่นตัวหรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะครับ”
“มันคงเป็นความรู้สึกไม่มั่นใจของวินเอง ไม่มั่นใจว่าต้องการอะไรกันแน่ แล้วก็กลัวด้วยว่าถ้าขยับเข้าใกล้ไป หรือห่างออกมามากไป ไอ้ห้วงๆ ที่วินกำลังพอใจที่จะอาศัยอยู่มันจะถูกทำลาย”
“วินกำลังโอเคกับความใกล้ของเราที่ก็ยังมีระยะห่างให้แอบมอง แอบชื่นชม แต่ก็ดูออกว่าพี่กำลังพยายามทำให้ระยะที่วินพอใจหายไป”
“แต่ความคิดธาม วินไม่รู้หรอก”

“อื้อ” เขากดยิ้มแล้วเดินมากอดผมเอาไว้
“พี่เข้าใจแล้ว ว่าวินขี้กลัวมาก”
“กลัวว่าจะต้องมีเรื่องเสียใจ”
“แต่เชื่อพี่สิ เชื่อปากพี่ คำพูดพี่ การกระทำพี่ ใจพี่”
“พี่รักวิน”

“ครับ” ผมยิ้มให้แม้ว่าเราจะไม่ได้สบตากันก็ตาม กอดของนายมือโปรอุ่นดี แล้วก็แข็งแรงมากด้วยครับ เขาอุ้มผมพาดบ่าแล้วพาไปทุ่มลงโซฟา กดไหล่ให้นอนนิ่งๆ แล้วก็ชี้หน้าออกคำสั่ง

“นอนรอตรงนี้ ต้องเช็ดตัวเช็ดหน้าให้หายเหนียว อีกพักนึงได้กินผักต้มหมูนุ่ม ดีมั้ย”

“ก็คงดี” ผมตอบ สูดน้ำมูกที่มากันกะทันหันแล้วก็ขดตัวเพราะรู้สึกหนาวแอร์พิลึก

สรุปแล้ว ผมไข้ขึ้นครับ
สาเหตุน่าจะมาจากความอ่อนเพลียมาทั้งวันแล้วก็ซัดเหล้าเข้าไปก่อนกินข้าวให้เต็มท้อง  ไหนจะสูตรเหล้าผสมเบียร์ วอดก้า ไวน์ บ้าบออะไรก็ไม่รู้นั่นอีก

การได้กินผักต้มใส่หมูนุ่มนิ่ม จิ้มน้ำจิ้มสุกี้แบบเผ็ดน้อยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ผมยอมกินยา นั่งให้เขาเช็ดตัวไปมาอย่างว่าง่าย แปรงฟัน แล้วก็ทิ้งตัวนอนโดยหมดอาการเถียงคำสั่งของเขา ท่าทางของผมคงทำให้เขารู้ว่าผมเพลียมากแล้ว นายมือโปรจึงปิดไฟหลอดใหญ่และเลี่ยงไปเปิดโคมไฟที่คอมพิวเตอร์ทำงานของเขาแทน

เขายังคงทำงานต่อ ทำไมถึงอึดขนาดนี้วะ?

“พี่โป๊ะ”

“หือ? นอนสิไอ้ยุ่ง อะไรอีก”

“วินก็รักพี่โป๊ะนะ”

อย่าถามเชียวครับว่าอารมณ์ไหน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
รู้สึกแค่ว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนเลย เพราะฉะนั้นอะไรที่เชื่อมั่นได้แน่นอนแล้วก็ควรจะบอกออกไป ยกตัวอย่างเช่น ความรู้สึกรักที่มีให้กับนายมือโปร



cut


โอยยยย หายไปนานเลยค่ะ ขออภัยจริงๆ
เราเพิ่งเห็นว่าลงตอนแรกของเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปี 14 โหยยย ไม่คิดว่าจะยาวนานขนาดนี้ ขอโทษจริงๆนะคะ เอ๊ะ หรือเราดูผิด *-*
จริงๆ ก็อยากจะเก็บความรู้สึกความคิดเอาไว้บอกกับคนอ่านเรื่องนี้ในตอนจบ ซึ่งก็จะมาถึงในเร็วๆ นี้ แต่อีกใจก็อยากหาเรื่องมาคุยกัน เพื่อให้รู้ว่าเราไม่ได้หายไปไหนนะ เปิดไฟล์เรื่องนี้ทุกวันเลย แต่ก็ไม่ค่อยได้กระเตื้องเท่าไหร่

งั้น ตอนจบก็ค่อยคุยกันดีกว่า 5555 (แล้วจะเกริ่นทำไม นั่นสิ น่าคิด)
 
สำหรับตอนหน้าแน่นอนว่าเจอกันในปีหน้านะคะ ส่วนคิวเรื่องน้องธาม เร็วๆ นี้ค่ะ (นี่ก็อ้างเร็วๆ นี้ตลอด)

*คุณ dekying kukkig จะพยายามย้อนไปใส่เลขหน้าในหัวชื่อตอนให้นะคะ ไม่ได้ลืมเลยค่ะ แต่ยังไม่ได้ไล่แก้

สุดท้าย ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2016 17:55:45 โดย kajidrid »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : The Extension Dawn (ตอนพิเศษ 5) 20-11-16
« ตอบ #639 เมื่อ: 27-12-2016 23:55:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :katai5: ตามอ่านมาอย่างยาวนานมาก 555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
วินดูน่ารักขึ้นเยอะ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
รอคอยอย่างยาวนานค่ะ
คู่หลักพี่โปรกับวินลงตัวแล้ว
รักกันหวานกันเข้าใจกัน คืออยู่ตัวแล้วอะดีจัง
เค้าหาจุด comfort zoneของกันและกันเจอแล้วอะ
เหลือแต่ประเด็นน้องธามนี่แหละ
ถ้าบอกเลิกจริงจังขนาดย้ำแล้วย้ำอีกแบบนี้ก้สงสารพี่นำนะ
แต่ว่ามันต้องมีเหตุผลสิ ธามอาจจะคิดอะไรแปลกๆขึ้นมาอีกก้ได้อะ
แบบคิดเอง กังวลเอง เลยเลิกเลยงี้ ยิ่งเดายิ่งไปไกลล
รอตอนหน้าดีกว่าค่ะ รอนะคะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
น้องธามทำไมทำแบบนี้ลูก :hao5:

วินน่ารักขึ้นนะ  :hao7:

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ superpk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
วินน่ารักมากอ่ะะะะ ชอบความงอแงของวินเวลามาชนกับความขี้เอาใจของพี่โป๊ะ
ตอนเปิดตัวกับเฮียว่าเป็นแฟนกันนี่ร้องเหยดดดดดไปพรัอมกับเฮียเลย พี่โป๊ะโคตรเท่เลย
เฮียก็คนดีนี่นาาา  อย่างน้อยตอนจบนี่ก็คุยกับเพื่อนเยอะกว่าเดิมเนอะ เพื่อนฝูงล้อมเป็นไข่แดง
รักในความอยากเสือกของวินตอนนี้มาก เราก็อยากรู้ แต่หมาเจมก็รู้เท่าที่พี่โป๊ะบอกเลย โถ่ะะ 555
อยู่ๆมาบอกรักดึกๆแบบนี้ เดี๋ยวพี่โป๊ะเลิกทำงานตอนนั้นเลย ไม่ต้องนอนมันแล้ววิน
ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ ㅠㅠ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
วินผ่อนคลาย มากขึ้น ปิดกั้นตัวเองน้อยลง
โอนอ่อนกับพี่โป๊ะ ติดพี่โป๊ะ ไปไหนไปด้วย
โอ๊ย.......ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ชอบ ที่เฮียพูด “นั่นแหละที่กูกลัวมึงที่สุด” กร๊ากกกกก
“สายตามึงน่ากลัว มันแบบ..บอกทุกคนว่า
ถ้ายังเสือกถามเรื่องที่กูไม่อยากพูดอีก มึงเจอดีแน่
อะไรแบบนี้อ่ะ แม่ง นามสกุลก็ใหญ่คับคุ้มเจ้าพระยา”

วินยอมรับกับพี่โป๊ะแล้วว่า
“วินก็รักพี่โป๊ะนะ” :กอด1: :กอด1: :กอด1:
บอกไปเล้ยวิน อะไรๆในโลก มันไม่แน่นอน เห็นด้วย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2016 15:07:33 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หูยยยย นานๆ วินจะน่ารักแบบนี้ซักที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน40 (27-12-16) ​p.22
« ตอบ #649 เมื่อ: 30-12-2016 13:32:00 »





ออฟไลน์ Taohoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-3
ถ้าเป็นวินก็ต้องพี่โป๊ะเท่านั้น  :z2: เอาอีก  :hao7: เอาอีก  :really2: ขอบคุณค่า  :mew1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เกิดอะไรขึ้นกับหมาธาม  :m28: :m28:

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หลังจากใช้เวลาสามสี่วันกว่าจะอ่านจบ อ่านทีละนิดละหน่อย ฮ่า
ตอนแรกไม่คิดว่าจะสนุก อ่านไปอ่านมา อ่าว หยุดอ่านไม่ได้ 55555
ไม่รู้จะทีมใครอ่ะ ทีมคนอ่านละกันค่ะ 5555

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ว้ายยย เรามาช้า  :hao5: พึ่งได้เข้ามาอ่าน แถมตอนนี้วินบอกรักแล้วนะเฮียยย  :heaven รอขั้นต่อของการบอกรัก  :hao7:

ขอบคุณ คุณkajidrid มากๆ ค่ะ มีสารบัญพร้อมแล้วด้วย และก็ขอสวัสดีปีใหม่นะคะ  :กอด1:  :L2:

ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
คุณหายไปตั้งแต่ปี2016 จนปีนี้2017ละน้า เราคิดถึงคุณนะคะ ว่างๆก็พาอิพี่โปรกะน้องวินมาหาเราโหน่ย
คิดถึงเด้อค่า

ออฟไลน์ MENTA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หายไปนานแล้วน้าาาาา รอพี่โป๊ะกะน้องวินปยู่จ้าาา  :ling1:

ออฟไลน์ Taohoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-3
คิดถึงพี่โป๊ะอีกแล้วอ่ะ เมื่อไหร่จะมาน้ออออ

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
รอ ร๊อ รอ พี่โป๊ะ น้องวินนนน >< มาม้ะ ออกมาซะดีดี

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เข้ามาบอกว่า รอ รอ รอ
แล้วก้จะ รอ รอ รอ
ทำได้เพียงแค่ รอ รอ รอ
....

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 41



เช้านี้ ไม่ได้กินผมหรอกครับ
ที่ต้องบอกแบบนี้ก็เพราะว่านี่เพิ่งจะหกโมงเช้าเท่านั้น แต่ผมมายืนบนสนามกลางของมหาวิทยาลัยแล้วครับ ด้วยชุดครบเครื่องที่สุดเท่าที่ผมจะรับไหว

ผมได้เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร (*) เสียทีครับ
เช้าตรู่วันนี้มีครอบครัวผมมาร่วมแสดงความยินดี ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน้าชื่น และที่ว่าหน้าชื่นก็ไม่ใช่หน้าผมหรอกครับ สีหน้าคนรอบตัวทั้งนั้น ทั้งป้าสุ คุณสา คุณตา ลุงสันกับพี่ๆ และภรรยาลุงสัน ผมมีช่างภาพส่วนตัวด้วย ธุระนี้ไม่ต้องถึงมือนายมือโปรจัดหาให้หรอกครับ ป้าสุของผมจัดการเรียบร้อย นี่ถ้าแบกฉากหลังเป็นน้ำตกไนแองการ่า หรือท้องฟ้าของแอฟริกามาได้ ป้าผมคงสั่งให้ทีมช่างภาพแบกมาด้วยแล้วครับ ผมล่ะสาธุหลายๆ ครั้งในใจที่ป้าคิดได้ว่ามันเวอร์

ช่วงเช้านายมือโปรยังไม่โผล่มาครับ เขาบอกว่าเป็นช่วงเวลาของครอบครัว ให้อยู่ด้วยกัน ถ่ายรูปเก็บโมเม้นท์ให้ประทับใจไปเลย เขามาส่งผมไว้แล้วก็หายหัวไปตอนที่ป้าสุนำขบวนครอบครัวมา

การปรากฏตัวของเจ้าสัวได้รับความสนใจบ้างนิดหน่อย แต่สปอตไลท์ถูกขโมยไปทันทีที่ป้าสุและคุณสาเดินมาประกบผมและเรียก “ตาวินลูกกกกก” ทุกครั้งที่ต้องการถ่ายรูปร่วมกันตามจุดต่างๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของมหาวิทยาลัย

และเนื่องจากวันนี้คนเยอะมาก ทำให้เดินเหินกันลำบาก และผมก็เป็นห่วงคุณตาของผมมากกว่าใครๆ ก็เลยจัดชุดใหญ่ให้ไปก่อน เรียกได้ว่าถ่ายรูปร่วมกันไว้แทบทุกอิริยาบถที่คุณตากับผมอยู่ใกล้กัน จนท่านเอือมใจแล้วก็ปล่อยให้ผมถูกประกบด้วย2แม่ แล้วขอตัวกลับไปพร้อมกับครอบครัวลุงสัน ซึ่งผมรู้สึกเบาใจขึ้นนะครับที่คุณตากลับไปก่อนแล้ว ผมไม่อยากให้ท่านต้องมาทนร้อนแดดร้อนลมแบบนี้

“นี่วิน”

“ครับคุณสา”

“พ่อเรา มารึยัง?” แล้วมาถามหาพ่อผม กับผมเนี่ยนะ? ผมจะไปรู้ได้ไง ก็ผมโตมากับฝั่งแม่อย่างคุณสาวิตรีนี่นา ผมขมวดคิ้วใส่ตามความเคยชิน ก็เลยถูกหยิกแขน แล้วก็ถูกถามซ้ำอีกรอบว่า พ่อเราล่ะ มาหรือยัง?

ผมส่ายหน้าปฏิเสธการตอบแล้วก็ขยับตัวไปประกบป้าสุเอาไว้ระหว่างที่เรา 3 คนแม่ลูกำลังรอพื้นที่ว่างตรงลานปรีดี

“ดูเอาเถอะค่ะพี่สุ สาถามล่ะไม่หือไม่อือด้วยสักคำ นี่ก็แม่เหมือนกันนะ”

“อะไรของเธออีกสาวิตรี ทนอากาศไม่ไหวก็กลับไปก่อนสิ รถเธอก็เอามาเองไม่ใช่รึไง”

“สาไม่ได้หงุดหงิดอะไรนี่คะ วันนี้วันดีสารู้ แค่บ่นตาวินนิดหน่อยเรื่องที่ถามอะไรก็ไม่ตอบ”

“ก็วินไม่รู้นี่ครับ ร้อยวันพันปี วินไม่เคยคุยกับพ่อ แล้วคุณสาจะมาถามเรื่องพ่อกับวินทำไม วินลูกป้า คุณสาก็บอกเอง”

“เอ๊ะ เรานี่!!”
“วันนี้ไม่มีองครักษ์นะยะ อย่าคิดว่าจะเถียงกันได้ตลอด”

“วินก็ตอบแล้วไง ก็หาว่าเถียง ป้าสุดูสิครับ” ผมฟ้องบ้าง ก็เรื่องนี้ผมไม่ผิดนี่ครับ ผมไม่รู้เรื่องพ่อจริงๆ เอาจริงใจที่สุดก็คือไม่ได้สนใจเลย โลกของผมมันแคบ เปิดรับใครได้ไม่กี่คนหรอกครับ

“นั่นสิ ร้อยวันพันปี พ่อตาวินเค้ามายุ่งอะไรที่ไหน เธอเองไม่ใช่หรอที่ยื่นคำขาดเค้าไปว่าอย่ามายุ่งกับลูก นี่มาอะไร” ใช่มั้ยล่ะ? ป้าสุก็อารมณ์เดียวกับผมนั่นแหละ

“ก็ถือหางกันแบบนี้น่ะสิคะ ตาวินถึงเอาแต่ใจ” ผมเนี่ยนะเอาแต่ใจ ผมกรอกตาเถียงแล้วก็หันไปทางอื่นเอาดื้อๆ

“สาก็ไม่อยากได้ชื่อว่ากีดกันพ่อลูก” ช้าไปแล้วมั้งครับ ผมไม่เจอพ่อเลยตั้งแต่ขึ้นชั้นประถมที่รร.สาธิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
“สาก็เลยแมสเสจบอกทางทิม ว่าลูกเป็นมหาบัณฑิตแล้ว”
“เขาาบอกว่าจะมาร่วมยินดีนะคะ”
“ดีไม่ดี เราอาจจะได้รถได้คอนโดนะวิน”

รถ? คอนโด? ทุกวันนี้ยังขับไม่คุ้ม อยู่ไม่ครบเลยครับ

ผมไม่พูดอะไรต่อ ทำหูทวนลมไปเสีย แต่ประโยคถัดมาของคุณสา ทำให้ผมต้องหันขวับไปมองหน้าเธอเขม็ง

“ก็บอกคุณวารินทร์ไปอีกทาง น่าจะบอกต่อกันได้ ก็แวดวงเดียวกัน”

“บอกพี่โป๊ะ? ให้พี่โป๊ะไปบอกพ่อต่อเนี่ยนะครับ?”
“เขาจะรู้จักกันได้ยังไง?”


“น้อยไปสิ” บอกไว้เท่านี้แล้วก็ก้าวฉับๆ มาหาโลเคชั่นที่เธอคิดว่าดี แล้วก็กวักมือเรียกผมและป้าสุให้ไปยืนถ่ายรูป คุณสาวิตรีบ้ากล้องมากระดับหนึ่งเลยครับ

แล้วคำตอบก็มายืนตรงหน้า
นายมือโปรรู้จักพ่อผมครับ แต่เขาไม่เรียกพ่อผมว่าคุณอาหรือคุณลุงนะครับ  ความสัมพันธ์ของพวกเรารสเปรี้ยวปร่าขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเรียกพ่อผมว่า “พี่ทิม”

โอ้ยยยยยยยย พี่เจ็บนะไอ้ยุ่ง ขยี้จนกระดูกนิ้วจะหักอยู่แล้ว - เขาโอดโอยเมื่อผมบรรจงเหยียบเท้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่าทางจะเป็นรองเท้าหนังคู่ใหม่เสียด้วย

“ก็พี่โป๊ะไม่บอกวินบ้างล่ะ นี่ปล่อยให้มารู้เรื่องวันนี้ได้ไง รักกันจริงป่ะเนี่ย”

“ก็เซอร์ไพรส์ไง”

“เซอร์ไพรส์พ่อง!!”

“อืม เซอร์ไพรส์พ่อ” ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ผมทำหน้ายู่ใส่เขา แล้วก็หันมองพ่อผม ซึ่งผมลืมเขาไปนานมากแล้ว เรียกว่าเขาไม่ได้อยู่ในเสี้ยวส่วนหนึ่งของชีวิตผมเลย

“ไม่ดีใจหรอ เจอพ่อ”

“ไม่เชิง”
“ไม่รู้ต้องรู้สึกยังไงมากกว่า”
“วินไม่คิดว่าวินต้องมีพ่อมาแต่ไหนแต่ไร มีแค่ป้าสุกับคุณตาก็พอแล้ว”

“พี่ทิมเขาใจดีนะ ห้าวโคตรด้วย เท่สุดไรสุด”

“นี่รักพ่อวินหรอ? เปลี่ยนแฟนมั้ย?”

“ไอ้ยุ่งบ้า พูดจาอะไร นั่นพ่อแฟนพี่นะ”

“นี่ก็แฟนวินนะ ชมคนอื่นทำไม”

“คนอื่นที่ไหน พ่อวิน”

“พอเหอะพี่โป๊ะ”
“ถือว่าวินขอร้อง อย่าขยายโลกของวินอีกเลย”

“.........” ดูเขาอึ้งๆ ไปเมื่อผมพูดตรงๆ ผมรู้ตัวดีว่าการพูดแบบนี้ คิดแบบนี้ คนอื่นคงมองว่าผมปิดกั้น หัวรั้น แต่ผมโอเคจริงๆนะครับ กับการโตมาด้วยความรักความสปอยล์ของป้าสุและคุณตา ผมไม่ต้องมีพ่อมีแม่จริงๆ มาคอยกอดให้ความอบอุ่นก็ได้ ผมรู้เสมอว่าผมโตมาได้เพราะใครรักผมถนอมผมที่สุด

“นี่พี่คิดว่าพาของขวัญที่ดีที่สุดมาให้วินเลยนะ ถ้าทำให้อึดอัดก็ขอโทษ”

“ช่างเถอะ ใครๆ ก็ทำไปด้วยความหวังดีทั้งนั้น”
“ว่าแต่ เขารู้มั้ยว่าพี่โป๊ะเป็นแฟนวิน”

“รู้ บอกแล้ว”

“แล้ว....เขาว่าไง”

“ฮึ”

“ฮึคืออะไรเล่า?”

โดนเตะมาหลายทีเลย พี่ทิมบอกลูกชายเขาอยู่ที่สูงดีๆ พี่ไม่ควรพาลงมาต่ำตม” ฮ่าๆๆๆ ผมขำก็ขำ สงสารก็สงสาร ทำไมพี่โป๊ะถึงถูกมองว่าสถานะต่ำกว่าผมตลอดเลยแบบนี้นะ ทั้งที่จริงๆ แล้ว เขาอยู่สูงกว่าผมมาก ลองผมไม่มีสมบัติคุณตากับป้าสุ ไม่ได้นามสกุลนี้ ผมก็เหมือนก้อนกรอดตกสำรวจ ไม่มีทางได้ขึ้นแท่นรอการเจียระไนด้วยซ้ำ

“แต่ก็คุ้มแหละ” นายมือโปรพูดต่อ โค้งตัวยื่นหน้า
“พี่ทิมเขาฝากวินไว้กับพี่”

“หรอ?” ผมเลิกคิ้วถาม สีหน้าของบอกเขาหมดแล้วว่าประหลาดใจไม่น้อย

“เขารักลูกเขามากนะ พี่รู้จักเขามานาน รู้ว่ามีลูกมีเมียแต่เขาไม่เคยพูดถึงเลย  บอกแค่ว่าหย่าเมีย แต่ก็ไม่ได้ครอบครัวใหม่ ชอบชมลูกให้เด็กๆ ในเครือฟัง คิดว่าพี่ทำหน้ายังไงล่ะ ตอนที่รู้ว่าพี่ทิมคือพ่อวิน”
“หน้าก็คนละทาง นิสัยยิ่งไม่เหมือนกันเข้าไปใหญ่”
“คนนั้นเขาเงียบๆ ขรึมๆ ไม่เคยเถียงใคร แต่ไม่ทำตามหน้าไหนทั้งนั้น” ก็ดื้อไม่ใช่หรอวะ แบบนั้นน่ะ?

“แล้ว พี่โป๊ะรู้จักพ่อวินได้ไง”

“เขาเป็นผู้กำกับฝีมือดีเลย ...ก็อดีตหน่อยแหละ วินบ้าหนังนี่ ไม่เคยได้ยืนชื่อหรือได้เห็นงานเขาหรอ?”

“ไม่อ่ะ เอาจริงๆ คือวินไม่ได้สนใจว่าพ่อชื่ออะไร ไม่เคยคิดว่าต้องหาตัวเพื่อให้ได้เจอกันด้วยซ้ำ ใจแล้งไปหน่อย แต่ก็...วินก็เป็นแบบนี้แหละ”

“วินไม่ได้แล้งน้ำใจอะไรนักหรอก วินแค่ไม่โหยหาอะไรที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้า พี่ว่าวินมักน้อย ต้องการน้อย เรียกร้องน้อยกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ทั้งที่ใครๆ รอบตัวเขาพร้อมให้วินกันทั้งนั้น แต่วินก็จะรับของวินอยู่เท่าที่วงแขนจะยอมกางออกเพื่อเปิดรับความรู้สึกคนอื่น”

รู้จักผมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?
ผมยิ้มแกนๆ ไม่เถียงเขา แล้วก็หันมองทางพ่อ ซึ่งยืนทำท่าพินอบพิเทาใส่ป้าสุ และปล่อยให้คุณสายืนคล้อยไปทางด้านหลัง ผู้ชายชื่อทิมเฉยๆ คงหันมองผมอยู่เป็นระยะอยู่ก่อนแล้ว เราถึงได้สบตากันตอนที่ผมหันไปมองเขา

เขายิ้มให้ ส่วนผมยกมือไหว้จากที่ไกลๆ ที่ลากพี่โป๊ะมาเหยียบขยี้ตีน

“ไหว้เขาสิ พ่อวินไง”

ผมไม่ได้คิดอะไรให้นานนัก ทำเพียงแค่ผ่อนลมหายใจ ยิ้มให้เขาในระยะไกลแบบนี้ แล้วก็เดินตรงรี่ไปหาอย่างแน่วแน่

“พ่อ สวัสดีครับ”

“เจ้าวิน โตขึ้นกว่าที่พ่อคิดนะ”

ผมยิ้มให้ ไม่ได้ตอบอะไรเพราะไม่รู้ว่าต้องพูดแบบไหน พูดอะไร พูดด้วยความรู้สึกแบบไหน ส่วนเขาก็แค่ยิ้มให้ผมราวกับคนไม่เคยหุบปากมาก่อนในชีวิต


วันนี้ ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าสาระสำคัญคือการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร หรือวันพบคนไกลของผมกันแน่

พ่อกลับไปแล้ว ป้าสุกับคุณสาก็กลับไปหลังจากที่กินข้าวกลางวันกันในร้านอาหารที่คนโคตรแน่นแล้วเสร็จ

พี่โป๊ะรับช่วงอยู่กับผมต่อจนกว่าผมจะออกจากหอประชุมราวสามทุ่ม และระหว่างที่นั่งแกว่งขากินชาอยู่ในร้านกาแฟนี่เอง คนไกลก็ก้าวเข้ามาในวงโคจรอันแสนแคบของผม

“วิน เดินหาแทบแย่”

“เอ้า! พี่รุตต์”


#### @ D A W N  #####

 
นายมือโปรคนแมนปล่อยผมอยู่กับพี่รุตต์จนถึงช่วงเย็น เขาถึงได้โทรหาผม เพื่อถามพิกัดแล้วก็ลากไปกินข้าวเย็นรองท้องก่อน เพราะว่าจะได้เข้าพอประชุมเพื่อร่วมพิธีก็มืด รอบนี้เขามาพร้อมกับหมาโอมผู้โอ่อ่าไปทั่วว่าทำไอเอสทันงั้นงี้ เก่งโคตรพ่องี้งั้น ผมยืนฟังมันเล่าความลุ้นระทีกตอนสอบปิดเล่มเป็นรอบที่100ได้ โอเคครับ ผมเวอร์ไปเอง จริงๆ ก็รอบที่สิบกว่าๆ เท่านั้น

ที่ร้านอาหารนอกมหาวิทยาลัย ผม นายมือโปร พี่รุตต์ ไอ้โอม และเพื่อนร่วมรุ่นของผมเกือบ 10 คน นั่งกินข้าวกันอย่างหิวโหย

เพราะวันนี้เพลียทั้งแดด เพลียทั้งคน ไหนจะนอยด์กับการนัดแนะเพื่อนผู้มาแสดงความยินดีและคลาดกัน เพื่อนเบี้ยว เบี้ยวเพื่อน หน้าไม่สวย หัวไม่หล่อ สารพัดความไม่พึงพอใจจึงมาตกอยู่กับอาหารตรงหน้าในมือเย็น

“อิ่มแล้วหรอครับวิน”
“ไอศกรีมเย็นๆ มั้ย” พี่รุตต์ถามผม แต่คนแมนๆ ก็เริ่มอาการออกแล้วครับ จริงๆ แล้วน่าจะออกอาการมาตั้งแต่เจอพี่รุตต์แล้ว แต่ผมแกล้งไม่เห็นเอง

“กินของเย็นตอนนี้ไม่ดีหรอก กระเพาะแฮงค์”  ตำราไหนวะเนี่ย ผมก้มหน้าไปแอบแค่นขำ พี่รุตต์ก็หันหน้าไปขำทางอื่นเหมือนกัน ก็นายมือโปรหึงตลกนี่ครับ

“งั้นขนมหวานมั้ย เดี๋ยวพี่ขอเมนูให้”
“อื้อ ข้างหน้าก็มีร้านเค้กอะไรแบบนี้นะ ไปมั้ย”

“ก็น่าจะดี”

“ไม่ดี ไม่ต้องกินหรอกวิน”
“กินมื้อใหญ่ให้อิ่มแล้วก็นั่งพักพุงที่นี่แหละ เดี๋ยวก็ต้องไปเข้าหอประชุมแล้ว เผื่ออยากจะเข้าห้องน้ำด้วย ชุดก็ร้อนไม่ใช่หรอ?”
“ดูสิ เสื้อตัวในยับหมดแล้ว ชุดครุยยังอยู่ปกติดีใช่มั้ย”
“ผึ่งเท้าก็ได้นะ ตกเย็นเท้าบวม น่าจะอึดอัด”

“เอ่ออ น่าจะไม่ลุกไปไหนแล้วครับพี่รุตต์ วินเมื่อยหู”

“นั่นสิ” พี่รุตต์เออออกับผมแล้วก็แอบหัวเราะอีกรอบ ไอ้โอมที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันถึงกับหันมาขมวดคิ้วใส่เฮียสุดที่รักของมันแล้วก็ด่าว่า “เฮียเวอร์”

“ด่ากูหรอ ไอ้ลูกหมา” แล้วไอ้โอมผู้ปากดีได้ไม่กี่วินาทีก็โดนน้ำก้นแก้วสาดใส่ครับ ไอ้หมาโอมผวาลุกหนีแล้วก็เต้นเหยงๆ ฟ้องโลกว่าอาจารย์วารินทร์แกล้งกู เพื่อนร่วมรุ่นในร้านนี้ก็เลยรุมแกล้งไอ้หมาโอมอีกระลอก

เอาเป็นว่าภาพนี้ทำให้ผมเข้าใจความหมายของคำว่า รักหรอกจึงหยอกเล่นเลยครับ

ของขวัญที่พี่รุตต์ซื้อให้ก็คือนาฬิกาครับ เรือนนี้หลายหมื่นอยู่เหมือนกัน ที่รู้ราคาก็เพราะว่าเล็งไว้ว่าจะซื้อเป็นของขวัญให้ใครบางคนเหมือนกัน

ผมเอามาทาบข้อมือให้พี่รุตต์ดู แล้วก็พูดขอบคุณอย่างจริงจัง แต่ดูเหมือนหน้าผมจะแป้นแล้นเกินไป ก็เลยโดนนายมือโปรโฉบปากมากัดหู....อืมมมม ช่วยคิดว่าบ้างว่าผมก็อายคนอื่นเหมือนกันนะ จะกัดตอบตอนนี้ก็ไม่ได้ โคตรเสียเปรียบ

แล้วพี่รุตต์ก็ร่ำลาผมไปโดยไม่มีเหตุการณ์ใดเข้าใกล้คำว่าหึงจนหน้ามืดเลยครับ เว้นตอนโดนกัดหูตอนนั้น

แต่เขาก็ยังไม่หายหึงหายงอนหรอกครับ ที่ผมรู้ก็เพระว่าเขาเงียบผิดปกติ ไม่วอแว ไม่แสดงอาการดูแลเวอร์เพื่อให้คนอื่นรู้สถานะของเรา แต่เขาก็ยังไม่ห่างตัวผมไปไหน ซ้ำยังเดินตามแถวมหาบัณทิตคณะผมมาจนถึงหอประชุมด้วยซ้ำ

“วิน” จู่ๆ เขาก็เรียก ผมหันไปเจอกับมือถือที่ถูกยกขึ้นบังระดับสายตาพอดี ดูก็รู้ว่าเขาจะถ่ายรูป ผมก็เลยยิ้มให้อย่างเต็มใจสุด ปั้นให้ดูดีที่สุด อ่อนโยนที่สุด ขอบคุณที่สุด เท่าที่คนอย่างผมจะทำได้

ไม่นานนักที่แยกจากกัน ผมเข้ามาอยู่ในบรรยากาศกึ่งเงียบกึ่งจอแจในหอประชุม ไอ้โอมนั่งห่างออกไปอีกหลายแถว นายมือโปรก็ส่งรูปที่เขาถ่ายมาให้ ผมกดดูรูปตัวเอง รู้สึกตลกปนจั๊กจี้ ถึงขั้นลงทุนใช้นิ้วแหกรูปเพื่อดูรายละเอียดให้ชัดขึ้น

และสิ่งที่ผมเห็นตัวเองชัดที่สุด ก็คือดวงตาที่ส่งไปให้คนที่อยู่หลังเลนส์ ผมไม่เคยรู้เลยว่าตัวผมมองเขาด้วยสายตาเปี่ยมรักขนาดนี้

ผมรักเขามากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ผมคงหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้หรอกครับ
แต่ถ้าผมถามตัวเองใหม่ ว่าจะรักเขามากแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
ผมมีคำตอบนะครับ

ผมจะรักเขา ตราบเท่าที่พระอาทิตย์ยังเวียนวนขึ้นบนขอบฟ้า

และเผื่ออยากรู้กันนะครับ
ของขวัญวันรับปริญญาที่นายมือโปรเตรียมให้ คือพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าที่สวยที่สุด ทั้งที่เราไม่ได้หลับกันเลยทั้งคืน


#### @ D A W N  #####


(*) เรื่องนี้กำหนดกรอบเวลาของเรื่องไว้ก่อนจะเกิดเรื่องเศร้าเสียใจของปวงชนชาวไทยค่ะ พิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรอ้างอิงกับกำหนดการเมื่อครั้งที่ในหลวงร.9  ยังมีพระชนม์ชีพอยู่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด