[END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]☆ underground ☆ SPECIAL EPISODE : OUR FAMILY [13:08:2016] P.28  (อ่าน 494401 ครั้ง)

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
«ตอบ #30 เมื่อ08-11-2014 22:17:12 »

EPISODE 8




  จากเหตุการณ์คืนนั้นก็ล่วงเลยมาเกือบหนึ่งสัปดาห์ ผมกับไรเฟิลแทบไม่ได้คุยกันเลย เพราะต่างคนต่างยุ่ง ผมเข้าไปจัดการทำความสะอาดที่คอนโดของคนตัวสูงแค่วันที่พอมีว่างเท่านั้น(คุณชายเขาไม่มีปัญหา เพราะเข้าใจว่าผมต้องเร่งทำโปรเจกต์และอ่านหนังสือสอบ) วันนี้ก็เช่นกัน. . .
  
  
  ตี๊ด....
  
  เสียงเซ็นเซอร์ดังขึ้นเมื่อผมกดรหัสผ่าน 4 ตัวตามที่เจ้าของห้องให้ไว้(มันให้คีย์การ์ดสำรองผมด้วย) เมื่อเข้ามาถึงกลางห้องก็ผมผงะ คุณรู้ไหมผมเจออะไร? โจร? โน ไม่ใช่ครับ ผมเจอเจ้าของห้องนั่นเอง.. ผมตกใจทำไมเหรอ ก็ใครจะไปคิดว่าจะได้มาเผชิญหน้ากันตรง ๆ แล้วแบบนี้เล่า! เพียงแค่ได้ยินคนพูดถึงชื่อ ‘ไรเฟิล’ ภาพเหตุการณ์คืนนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวราวกับแผ่นหนังที่ถูกตั้งให้อยู่ในโหมดรีเพลย์ โคตรหลอนตัวเองเลย
  
  “ง ไง อยู่ด้วยเหรอ” ผมทักคุณชายที่นั่งจมอยู่กับกองเอกสารต่าง ๆ ที่โซฟา
  
  “อืม” เงยหน้ามามองกูหน่อยไม่ได้หรือไง! ไอ้กระดาษนั่นน่าสนใจกว่าผมตรงไหน ! แล้วทำไมผมต้องหงุดหงิดด้วยเนี่ย รีบทำหน้าที่มึงสิไอ้ควอทซ์ จะได้รีบไสหัวกลับ
  
  
  
  
  ครืด ครืด~
  
  ผมมองโทรศัพท์ที่นอนสั่นอืด ๆ อยู่บนโต๊ะกินข้าว ตัวผมกำลังเช็ดหม้อเช็ดตู้ก็จำต้องวางผ้าลง ชะโงกหน้าดูพอเห็นว่าใครโทรมาก็รีบกดรับทันที
  
  “ป่าป๊า~~” ใช้แล้ว ป๊าผมโทรมาครับ!!
  
  “ไงเจ้าตัวแสบ หายหัวไม่เห็นหน้าหลายเดือน”
  
  “โธ่ หลายเดือนที่ไหนกัน ป๊าอย่ามั่ว” ลองนับนิ้วดูก็แค่เดือนกว่า ๆ เอง
  
  “กูนึกว่าตัวเองไม่มีลูกแล้วนะรู้ไหมไอ้แสบ!”
  
  “ว่าไปนั่น เดี๋ยววันเสาร์นี้ได้เจอหน้าหล่อ ๆ ของควอทซ์แน่ ๆ” ผมว่ายิ้ม ๆ นึกจินตนาการถึงหน้าป๊า คงจะทำหน้าเหมือนมีคนบอกว่าเจอนกแก้วออกลูกเป็นตัว ฮ่า ๆ ผมขยับตัวหน่อย ๆ เมื่อเห็นคุณชายเข้ามา ไรเฟิลมองหน้าผมหน่อย ๆ แล้วก็เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบเบียร์ไปหนึ่งกระป๋องแล้วออกไป ไม่มีการกวนตีนใด ๆ ทั้งสิ้น... มองเห็นเงาสะท้อนของตัวจากตู้กรจก แล้วทำไมผมต้องขมวดคิ้วขนาดนี้กัน...
  
  “ให้มันแน่เถอะ ไปหาย่าเขาบ้าง”
  
  “พรุ่งนี้ควอทซ์มีสอบตัวสุดท้าย งั้นพรุ่งนี้ตอนเย็นเจอกันนะครับ อ๋อ! ป๊าอย่าเพิ่งบอกคุณย่านะ” คุยต่ออีก 2-3 นาทีก็วางสายไป เพราะคุณผู้ชายท่านมีประชุม
  
  
  
  “แก้เครียดหน่อยไหม?” ผมพยักพเยิดหน้าไปที่จานพุดดิ้งสีสวยที่วางอยู่บนโต๊ะ
  
  พรึ่บ! ผมดึงชีทในมือหนาออก และก็ได้รับสายตาดุ ๆ นั่นเป็นสิ่งตอบแทน อะไร! แค่กลัวว่าจะอ่านหนังสือจนเป็นบ้าหรอก คนเอาขนมมาให้ยังจะเมินอีก เดี๋ยวกูฟาดเลย
  
  “อย่ากวนน่า” ผมวางชีทแผ่นนั้นลงบนโต๊ะ ยกจานพุดดิ้งที่ดูท่าคงจะเป็นหมันกลับไปใส่ไว้ในตู้เย็น จากนั้นก็คว้ากระเป๋าขึ้นพาดไหล่ พอจะก้มลงใส่รองเท้าข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน ผมหันไม่มองตัวต้นเหตุ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ไรเฟิลนั่นแหละ
  
  “ปล่อยดิ” ผมบิดข้อมือออกแต่ไม่หลุด
  
  “จะไปไหน” ถามแปลก กลับบ้านสิวะ!
  
  “จะกลับแล้ว ปล่อยยยยยย” คนตัวสูงพ่นลมหายใจ แล้วลากผมกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง มือหนาผลักผมลงที่โซฟา
  
  “เป็นอะไร?”
  
  “มึงนั่นแหละเป็นอะไร!”
  
  “เปล่า” เปล่าส้นตีนอะไร!
  
  “เหอะ กูก็เปล่า ปล่อยดิ จะกลับบ้าน” ผมพยายามผลักมันออก แต่ไม่เป็นผล แขนแกร่งเท้าคล่อมกับโซฟา ท่านี้ก็เท่ากับว่าผมถูกขังด้วยแขนของมันนั่นแหละ แล้วหน้าน่ะจะก้มลงมาทำไมไม่ทราบ!!!
  
  “มองหน้ากู” ผมหลับตานิ่ง เอียงหน้าซบกับพนักพิง
  
  “ควอทซ์” ผมยังคงหลับตาอยู่เหมือนเดิม ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกลมหายใจร้อน ๆ กระทบกับผิวแก้ม และเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ต้องชะงักค้างเพราะใบหน้าคมที่อยู่ใกล้ ถ้าขยับแค่นิดเดียวจมูกโด่งนั่นคงได้ฝังลงบนแก้มผมอย่างแน่นอน. . .
  
  “เป็นอะไร ทำไมต้องทำเหมือนรำคาญด้วย...” ผมถามเสียงแผ่ว มองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าที่มีเงาของผมสะท้อนอยู่
  
  “ไม่ได้รำคาญ”
  
  “แต่มึงเมินกู!” ผมสวนขึ้นทันควัน ไรเฟิลพ่นหายใจก่อนจะยิ้มบาง ๆ (ฮื้อ ทีใครเคยบอกไหมว่าเวลาไรเฟิลยิ้มมัน... หล่อมาก ๆ แต่เจ้าตัวมันดันชอบทำหน้านิ่ง)
  
  “หืม? เมื่อไหร่?” เมื่อกี้ไง!!! อยากตะโกนใส่หน้า แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำเพียงแค่กลอกตา
  
  “ไม่รู้สิ” ผมไม่ไหวไหล่ “ไปอ่านหนังสือดิ จะกลับแล้ว” ดันไรเฟิลออก และครั้งนี้เจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะขยับตัวมานอนหนุนที่ตักของผม... กูจะได้กลับหอไหมเนี่ย
  
  “เฮ้! จะนอนก็ไปนอนที่ห้องสิ”
  
  “อื้อ” อื้อก็ลุกสิวะ มือที่กำลังจะเขย่าปลุกคนตัวสูงที่นอนอยู่จำต้องลดกลับ ใบหน้าคมยังคงดูเหนื่อยล้า ขอบตาคล้ำนิดหน่อย คงมีสาเหตุมาจากการอดนอน เห็นสภาพแบบนี้จะใจร้ายปลุกขึ้นมาก็คงจะเกินไปหน่อย เลยเปลี่ยนเป็นยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมสีบลอนด์เบา ๆ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าไรเฟิลหลับสนิท
  
  
  
  
  ผมค่อย ๆ ขยับตัวลุกไม่ให้กระทบคนที่กำลังหลับ คว้าหมอนมารองศีรษะแทบตักของผม แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาก็ทรุดลงกับพื้นพรม เพราะนั่งท่าเดิมนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แถมยังโดนทับอีก สรุปก็... เหน็บแดกไปตามระเบียบครับ - - ผมเหยียดขาออกเบา ๆ แต่ก็ต้องเบ้หน้าเพราะเจ็บจี๊ด ยกมือทุบเบา ๆ พอความรู้สึกเจ็บและชาหายไป ถึงได้เดินไปที่ครัว ทำอะไรไว้ให้สักหน่อย นี่ก็ค่ำกบ้ส ตื่นมาคงจะหิวไม่เบา
  
  ในตู้เย็นมีของสดอยู่แค่ไม่กี่อย่าง(นอกนั้นถูกยัดด้วยเบียร์ โคล่า และเจ้าพุดดิ้งที่เห็นแล้วอยากเอามาสับให้เละ) ไข่ไก่ 2 ฟอง พอดูช่องฟรีซก็เจอหมูบดและหมึกอยู่ อ่า ถือว่ายังดี ต่อไปมีผักกาดขาวกับแครอทอยู่หนึ่งหัว ขึ้นฉ่าย 2 ต้น (อยากจะสะบัดขาขึ้นมาก่ายหน้าผาก)
  
  ทำแกงจืดกับไข่เจียวก็แล้วกัน! ผมจัดการหุงข้าว ก่อนจะมาล้างผักและหมึก หมึกตัวน้อยถูกยัดไส้ด้วยหมูบดจนอวบอ้วนนอนเรียงกันในจานประมาณ 7-8 ตัว เมื่อน้ำซุปที่ปรุงไว้(ก่อนจะล้างผักและหมึก)เดือดได้ที่ก็ใส่แครอทที่หั่นเอาไว้ลงไป รอสักพักก็ใส่หมึกและผักกาดขาวปิดหม้อทิ้งไว้ ระหว่างรอแกงจืดสุก ผมก็ตั้งกระทะเตรียมทอดไข่ รอให้น้ำมันเดือดก็เทไข่ที่ตอกและปรุงไว้ลงไป อ่า... กลิ่นหอม ๆ ที่โชยออกมาทำเอาท้องร้องโคลกคลาก
  
  
  “ทำไมไม่ปลุก” ผมสะดุ้ง หันไปมองต้นเสียงก็เจอคุณชายในสภาพหัวฟูตาปรืดยืนพิงเคานต์เตอร์อยู่ใกล้ ๆ
  
  “ไม่อยากกวน ไปล้างหน้าล้างตาไป” พยักหน้ารับเนือย ๆ แล้วเดินออกไป ผมตักไข่เจียวใส่จานไปวางบนโต๊ะกินข้าวแล้วเดินกลับมายกชามแกงจืดหมึกยัดไส้ตามไป
  
  “กินกับกู” ไม่บอกก็จะกินอยู่แล้วแหละน่า ผมกลับมาที่โต๊ะพร้อมข้าวสองจาน แล้วไปกดน้ำเย็นมา 2 แก้ว ให้คุณชาย 1 ของผมอีก 1 แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี จะกินแล้วนะคร้าบบบบบบ
  
  “ของสดหมดแล้ว ได้แค่นี้แหละ”
  
  “อื้อ พรุ่งนี้ก็ไปซื้อ”
  
  “เอ่อ... พรุ่งนี้หลังจากสอบเสร็จ กูว่าจะกลับบ้าน” ผมลอบมองไรเฟิล คุณชายเหลือบตามองด้วยสายตานิ่ง ๆ
  
  “นะ ไม่ได้กลับบ้านนานแล้วอ่า~ เดี๋ยวป๊าจะตัดออกจากทะเบียบบ้านแล้วเนี่ย นะ นะ นะครับเจ้านาย” ผมรีบอ้อนพร้อมกับกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อคนตรงหน้าเริ่มหน้ายุ่ง ที่จะขออนุญาตเพราะผมต้องรับเงินเดือนจากมันนะครับ มีอย่างที่ไหนเพิ่งเริ่มทำงานแค่ไม่กี่สัปดาห์ก็ขอหยุดเสียแล้ว แบบนี้ต้องอ้อนอย่างเดียวครับ!
  
  “ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร” ผมยิ้มกว้างจนตาปิด ตักไข่เจียวให้คนตัวสูงอย่างประจบ เอ๊ะ! ประจบเหรอ ไม่สิ ต้องเป็น’เอาใจ’ต่างหาก! แต่ทำไมถึงรู้สึกทะแม่งกว่าเมื่อกี้ล่ะ เออ ช่างเถอะ
  
  เมื่อกินเสร็จผมก็เก็บถ้วยชามไปล้าง เช็ดโต๊ะ เช็ดเตา เก็บขยะที่จะเอาทิ้ง ออกมาจากครัวก็เจอไรเฟิลนั่งกินพุดดิ้ง(อันที่ผมเอาไปให้แล้วมันเมินนั่นแหละครับ)อยู่
  
  “จะกลับแล้วนะ”
  
  “แป๊บ” ไรเฟิลวางจานเปล่าลง ก่อนจะเดินหายขึ้นไปชั้นสองซึ่งเป็นส่วนของห้องนอน และกลับออกมาอีกครั้งผมเสื้อผ้าชุดใหม่(เมื่อกี้มันใส่แค่กางเกงวอร์มตัวเดียว)กับกระเป๋าเงินและกุญแจรถ
  
  “เฮ้ย! เดี๋ยวกลับเองก็ได้ ไปอ่านหนังสือต่อเถอะ” เมื่อคุณชายท่านคิดจะทำอะไรใครหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ... สุดท้ายก็ยอมให้มันมาส่งที่หออยู่ดี เฮ้อ
  
  
  
  
  
  
  
  
  ..................................
  
  
  
  
  
  
  
  ผ่านพ้นไปสำหรับการสอบกลางภาค ผมเป็นไทแล้ว แต่การสอบวิชาเดียวแต่ใช้เวลาไปสามชั่วโมงก็ทำเอาสติของผมหายไปเกือบครึ่งอยู่เหมือนกัน ตอนนี้มึนมากเลยครับ ขนาดผมยังมึน แล้วมิตรสหายสองหน่อจะเหลือเหรอครับ
  
  “ออกข้อสอบแบบนี้ไม่แนบลายเซ็นให้กูด้วยเลยวะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาดรอป!” บะหมี่บ่น หน้าตามันเคียดแค้นมาก หมดสภาพดาวปีสามของวิศวะ...

  “ไงมึง” ไนต์ส่ายหน้า สภาพไม่ต่างกันกับบะหมี่เท่าไหร่ ผมหัวเราะพวกมันที่ทรุดนั่งลงกับขั้นบันไดทางขึ้นตึก(บะหมี่นี่รวบกระโปรงนั่งไปก่อนไอ้ไนต์เลย)
  
  “ยังจะหัวเราะอีกไอ้น้องเห็ด” ผมนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าพวกมัน แล้วยิ้มหวานให้ทีนึง
  
  “เอ้า! กลัวไรวะ ที่ออกสอบก็ตามที่ติวทั้งนั้น”
  
  “ฟาย! สมองแบบกูจำได้เกินครึ่งก็แทบกราบขอบคุณตัวเองแล้ว” บะหมี่มันว่าแล้วส่ายหัวจนผมสะบัด หันไปมองไนต์ มันเองก็สั่นหัวเหนื่อย ๆ ดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ผมกัดปาก
  
  “ไม่เชื่อใจกูเหรอ”
  
  “เปล่า กูไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเนี่ย พอ ๆ ตกก็ดรอปแค่นั้นแหละ หาไรแดกแก้เซ็งเหอะ” ผมได้แต่เกาหัวงง ๆ พอพูดถึงของกินซอมบี้ก็กลายร่างเป็นคนทันที บะหมี่ตาวาวก่อนจะบอกเป้าหมาย
  
  “กินเนื้อย่างกันมึง!” ตามนั้นครับ
  
  
  
  
  
  
  ร้านที่มาเป็นร้านที่บะหมี่เสนออีกนั่นแหละครับ ผมกับไนต์ยังไงก็ได้อยู่แล้ว เข้ามาในร้านพนักงานก็ต้อนรับดีครับ พวกผมขอโต๊ะที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว พนักงานก็จัดให้เลยครับ ในสุดเลย เออ ก็ดี๊
  
  ผมมองบรรยากาศรอบ ๆ ร้านค่อนข้างกว้างเลยครับ เตาย่างไม่มีปล่องดูดควันด้านบนก็สะอาดตาดีครับ เพดานตกแต่งด้วยโคมไฟดีไซน์ต่าง ๆ โต๊ะที่นั่งก็ใหญ่ ตัวโต ๆ อย่างไนต์นั่งได้สบายเลย..
  
  “เอาไรมั่ง” เสียงบะหมี่กระชากผมออกมาจากบรรยากาศของร้าน ผมชะโงหน้าเข้าไปดูใบจดรายการอาหาร
  
  “ควอทซ์มึงเอาไร” ผมสั่นหัว
  
  “ให้เจ้าแม่สั่งดิ แต่เอาเบค่อนมาให้กูด้วย ห้ามเห็ดนะ” บะหมี่จิกตาใส่ผมที่เรียกมันว่าเจ้าแม่ แต่ผมไม่สะท้านหรอก ฮ่า ๆ แล้วมันก็ก้มลงจิ้ม ๆ ในรายการ
  
  “จะดื่มอะไร”
  
  “Milk Green Tea” ผม
  
  “Heineken” ไนต์ - -*
  
  บะหมี่ส่งรายการอาหารให้พนักงาน เธอบอกให้รอสักครู่แล้วขอตัวออกไป ระหว่างรอพวกผมก็คุยกันสัพเพเหระ ประเด็นหลักก็ไม่พ้นเรื่องผมอยู่ดี เพื่อ!
  
  “โทรบอกพ่อมึงยังออกมากับกูเนี่ย” ผมเลิกคิ้วใส่หมาไนต์
  
  “ทำหน้าหมางงอีก” เอ้า ก็งงจริงนี่หว่า
  
  “พ่อไหนวะ?” ผมถาม เลยได้คำตอบเป็นการถอนหายใจอย่างระอาจากหมาไนต์และบะหมี่
  
  “ไอ้ปืนไง” อ่อออออ มันเป็นพ่อกูเหรอ? - -
  
  “ฮึ” ผมสั่นหัว ไนต์มันเลยควักมือถือออกมากดอะไรยุกยิกไม่รู้
  
  “มึงกับไรเฟิลนี่ทำตัวยิ่งกว่าแฟนกัน” คำพูดของบะหมี่ทำเอาผมแทบสำลักน้ำลาย แฟนส้นตีนอะไรวะ!
  
  “เมาข้อสอบเหรอมาม่า เพี้ยนแล้วมึงเนี่ย”
  
  “หึ หมาโง่” ผมมองพวกมันสลับกันไปมา ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย - -
  
  ทุกอย่างถูกพับเก็บเมื่อพนักงานยกออเดอร์มาเสิร์ฟ ทั้งหมดที่สั่งมาผมแทบอ้าปากค้าง คือแม่งสั่งมาเยอะมาก! จนแทบจะล้นโต๊ะเลยด้วยซ้ำ
  
  “แน่ใจว่ากินสามคน” ผมถาม กวาดตามองสิ่งที่เรียกว่าอาหารอย่างหวาด ๆ คือกินหมดนี่มีจุกอ่ะครับ
  
  “กลัวไรวะ แดก ๆ เข้าไปเหอะ” เออ กูลืมว่ามากับตัวเขมือบ(แต่ผมก็กินเยอะนะ-.-)
  
  
  
  
  “เหี้ย จุก!”
  
  “มึงสั่งทั้งนั้นอ่ะ” สภาพพวกผมตอนนี้คืออืดมากครับ ถ้าเอาเข็มหรืออะไรมาเจาะอาจแตกได้ แน่นพุงฉิบหาย
  
  “น้ำหนักกูขึ้นแน่ ๆ ไม่น่าเลย TwT” ผมกับไนต์ทำหน้าเอือมระอาใส่บะหมี่ นั่งย่อยกันจนพอใจก็ถึงเวลาจ่ายเงินครับ สิริรวมทั้งก็สองพันกว่าบาท... (แชร์นะครับ ไม่มีการเลี้ยง)
  
  
  ถึงเวลาอันสมควรที่ต้องแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนแล้ว ส่งบะหมี่ขึ้นรถเสร็จ ผมก็ต้องมมาเถียงกับหมาไนต์ต่อ
  
  “กูกลับเองได้น่า”
  
  “เดี๋ยวกูไปส่ง”
  
  “ไม่เอา จะกลับเอง บ้านมึงอยู่คนละทางเลย ขับรถกลับไปกลับมาเหนื่อยตายพอดี ไหนจะรถติดอีก”
  
  “ช่างดิ! ปล่อยมึงไปคนเดียวไอ้ปืนฆ่ากูตาย”
  
  “โห้ะ! กูบอกไรเฟิลตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!” ไนต์มันหรี่ตามองผม บอกแล้วจริง ๆ นะ บอกว่าจะกลับบ้านแต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับเอง... แฮ่
  
  “ไม่ต้องมามองแบบนั้น บอกแล้วจริง ๆ ไรเฟิลเซย์เยสแล้วด้วย ไม่เชื่อโทรไปถามดิ โทร ๆ” ตอนนี้ไรเฟิลน่าจะยังสอบไม่เสร็จเพราะเพิ่งจะบ่ายสองกว่า ๆ แต่ถ้าหมาไนต์มันบ้าจี้โทรไปจริง ๆ ผมก็คงซวย...
  
  “เออ ๆ ขึ้นรถดิ กูจะไปส่งที่บีทีเอส” ผมยิ้งกว้างเมื่อมันยอมแพ้ แล้วรีบขึ้นรถอย่างว่าง่าย
  
  
  
  “บ๊ายบาย เจอกันวันจันทร์นะ จุ้บ” ผมยืนอยู่บนฟุตบาทโบกมือให้ไนต์ก่อนจะส่งจูบแกล้งมัน ไอ้ไนต์ทำหน้าจะอ้วกแต่ก็ยกมือตอบ หน้ามันยังกังวลอยู่ เลยยืนยันว่าผมดูแลตัวเองได้ สีหน้าถึงดีขึ้นมาหน่อย


----------------------------------

TBC.

ตอนที่แปดมาแล้วววววววววววววว
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2014 22:38:16 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ ์NRNAAM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
«ตอบ #31 เมื่อ08-11-2014 22:31:00 »

ตอนไหนจะเป็นแฟนนนนนนนนนนนนนนนน :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
«ตอบ #32 เมื่อ08-11-2014 22:33:53 »

น้องดื้ออีกแล้วง่ะ ไรฟ์รู้แล้วจะซวยนะจ๊ะหนู  o18

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 8 (08.11.2014)
«ตอบ #33 เมื่อ08-11-2014 22:58:38 »

พ่อเล่นงานแน่ๆ

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
«ตอบ #34 เมื่อ10-11-2014 21:08:50 »

EPISODE 9





  ผมนั่งลงที่นั่งใกล้ประตู(คนไม่เยอะครับเพราะเป็นช่วงกลางวัน ที่นั่งเลยเหลือเยอะ)ก่อนจะหยิบหูฟังมาต่อกับโทรศัพท์พลางกดเลือกเพลงไปด้วย จากนั้นก็ล้วงเอา PSP ในกระเป๋าออกมา(ผมพกมันไปด้วยแทบทุกที่)
  
  
  
  “ควอทซ์ พี่ควอทซ์ครับ” รู้สึกได้ยินคนเรียกแว่ว ๆ ผมมองหาตามสัญชาตญาณก่อนจะโป๊ะเชะ! กับแปะยิ้มที่มองผมอยู่ ใครวะ รู้สึกคุ้น ๆ แฮะ
  
  “ผมแพคไง คนที่ฝากขนมไปให้ จำได้ไหมครับ” หือ ผมนึกตามก่อนจะร้องอ๋อออกมา แพคยิ้มกว้างโชว์รอยบุ๋มข้างแก้ม
  
  “ทำไมมาคนเดียวได้ละครับ บอดี้การ์ดหายไปไหนเนี่ย” ผมกดลดวอลลุ่มเพลงลง เลิกคิ้วมองคนที่ทิ้งตัวนั่งที่ว่างข้าง ๆ
  
  “โตแล้วป่ะ?” ไอ้แพคหัวเราะ
  
  “โธ่ ผมแค่แปลกใจ ปกติไม่เห็นอยู่คนเดียวเลยนี่นา” ผมส่ายหน้าไม่สนใจ กดเกมในมือต่อ แล้วอยู่คนเดียวไม่ปกติยังไงวะ!
  
  “พี่ควอทซ์ คืนนี้ผมโทรหาได้ไหมครับ?”
  
  “หือ? เพื่อ?” ผมถามกลับโดยที่ไม่ได้มองหน้าคนพูด เพราะสายตายังจดจ่อกับพีเอสพีในมือ
  
  “เอ่อ.. ผม ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย นะครับ” ผมยัดเกมลงกระเป๋า ปลดหูฟังออกข้างหนึ่งง
  
  “เดี๋ยว! คุยตอนนี้เลยดิ แล้วนี่มึงไปเอาเบอร์กูมาจากไหน” แพคยิ้ม ถ้ผมเป็นผู้หญิงคนละลายเป็นไอเพราะรอยยิ้มมันแน่ แต่ผมเป็นผู้ชายไง เลยรู้สึกเฉย ๆ (เพื่อ?)
  
  “ความลับครับ ถ้าอยากรู้คืนนี้ก็รับโทรศัพท์ผมนะ” ผมหรี่ตามองหน้ายิ้ม ๆ ของมัน ก่อนจะสะบัดหัวเบา ๆ
  
  “ไปล่ะ” ผมบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากโบกี้เมื่อรถไฟหยุดสนิดที่สถานีที่ผมต้องลงและไม่ได้หันกลับไปมองด้านหลัง
  
  
  
  
  ...............................
  
  
  
  
  
  ออด~
  
  
  
  “มาหาใครครับ อ้าว! คุณหนู” ผมยิ้มให้น้ามิ่งที่กุรีกุจอเปิดประตูรั้วให้
  
  “สวัสดีครับน้ามิ่ง สบายดีไหมครับ?”
  
  “สบายดีครับสบายดี มาครับ เดี๋ยวผมไปส่งข้างใน” ทีแรกกะจะส่ายหน้าปฏิเสธ แต่พอมองระยะทางจากตรงนี้ไปถึงในตัวบ้านก็เกือบ ๆ 300 เมตรเลยนะครับ
  
  “รบกวนด้วยนะครับ” ผมกระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานน้ามิ่ง “ขอบคุณนะครับ” น้ามิ่งบอกไม่เป็นไรก่อนจะขอตัวไปทำงานที่ที่ทำค้างไว้ต่อ
  
  ผมย่องเข้าไปในบ้าน ทำตัวอย่างกับขโมยทั้ง ๆ ที่ก็บ้านตัวเองแท้ ๆ - -
  
  “ใครหนะ!!” ผมสะดุ้งกับเสียงแหลม ๆ ลื่นสลิปเปอร์ที่กำลังจะสวมก้นประแทกพื้น
  
  “อูยยยย”
  
  “คุณหนู พี่แก้วขอโทษค่ะ”
  
  “ไม่ ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกพี่แก้วแม่บ้านของคุณย่าที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มือเล็กช่วยพยุงผมขึ้น
  
  “พี่แก้วขอโทษนะคะคุณหนู เจ็บไหมคะ”
  
  “ไม่เจ็บหรอกครับ อย่าคิดมาก คุณย่าอยู่ไหนครับ”
  
  “คุณท่านอยู่ในครัวค่ะ” บอกขอบคุณพี่แก้ว ก่อนจะย่องเข้าไปในครัว คนสวยของผมกำลังง่วนทำอะไรสักอย่าง ข้าง ๆ กันนั้นมีป้าอิ่มอยู่ด้วย ผมจรดนิ้งที่ริมฝีปากเป็นเชิงให้เงียบเมื่อป้าอิ่มหันมาเจอ
  
  “คุณย่า!!!” ผมกอดคุณย่าจากด้านหลัง ท่านสะดุ้งแล้วฟาดมือลงบนแขนผมดัง เพี๊ยะ!
  
  “ต๊าย! หัวใจฉันจะวาย แกล้งคนแก่แบบนี้มันน่าตีให้ตัวลายนัก” ผมยิ้มเผล่ จูบไหล่คุณย่าเบา ๆ แล้วผละออกมา
  
  “คิดถึงคุณย่าจังเลยยยยยยย คิดถึงป้าอิ่มด้วยนะครับ”
  
  “เจ้าเด็กคนนี้ใครกันแม่อิ่ม ใครปล่อยให้เข้ามาเนี่ย เดี๋ยวฉันไล่ออกเสียเลย” ผมหน้าเหวอ เมื่อเจอมุกของคุณหญิงสรินกานต์กระแทกหน้าเข้าอย่างจัง
  
  “ง่ะ... คุณท่านใจร้ายจังเลยป้าอิ่ม”
  
  “คุณท่านแค่แกล้งเท่านั้นแหละค่ะ” ป้าอิ่มยิ้ม มือที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นเพราะอายุที่มากขึ้นลูบหัวผมเบา ๆ ผมร้องโอ๊ยอีกครั้งเพราะได้รับฝ่ามือพิฆาตขากคุณย่า
  
  “นึกว่าลืมทางกลับบ้านแล้วเสียอีก”
  
  “จะไปลืมได้ยังไงกัน ช่วงนี้ควอทซ์ยุ่งนี่ครับ วันนี้สอบเสร็จก็รีบมาเลยนะ คุณย่าไม่โกรธนะครับ” ผมมองคุณย่าตาแป๋ว จับมือคุณย่ามาแนบแก้ม
  
  “โอ๊ยยยย ทำตังอย่างนี้ใครจะไปโกรธลงกัน ดูสิแม่อิ่ม หน้าอย่างกับกระต่ายถูกทิ้ง” เดี๋ยวนะ....
  
  “คุณหนูไปเปลี่ยนชุดเถอะค่ะ วันนี้คุณท่านทำลูกชุบไว้ด้วย” ผมตาวาว ถึงจะเพิ่งกินมาอย่างหนักหน่วงแต่พอมาขนมสีสันสดใสแล้วรู้สึกท้องมันว่าง ๆ ขึ้นมา
  
  “คร้าบบบบ”
  
  
  
  
  
  เดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของบ้าน ห้องนอนของผมอยู่ปลีกซ้าย เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับห้องนอนที่สะอาดสะอ้าน แม้ผมจะไม่อยู่แต่คุณย่าคงสั่งให้ทำความสะอาดประจำ  ด้านขวามือเยื้องกับประตูทางเข้าคือประตูห้องน้ำ ตรงข้ามคือห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet รวมทั้งตู้รองเท้า ตู้ใส่เครื่องประดับทั้งหลายของผม เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะกับเตียงนอนแบบเตี้ยติดกับพื้น บนเตียงมีตุ๊กตาทั้งหลายจับจองอยู่ ปลายเตียงคือทีวี เครื่องเล่นดีวีดี และชุดโฮมเทียร์เตอร์ ถัดจากนั้นคือตู้กระจกที่เป็นที่อยู่ของโมเดลลูกรักของผม ผสมพวกโมเดลครับ มีทั้งรถรุ่นต่าง ๆ เครื่องบิน หรือแม้กระทั่งหุ่นยนต์ นอกจากนั้นยังมีใบประกาศต่าง ๆ ของผมด้วย ที่มุมห้องใกล้หน้าต่างมีโต๊ะทำงานของผมอยู่ มีคอมพิวเตอร์อยู่หนึ่งเครื่อง(อีกเครื่องผมยกไปไว้ที่หอ) และชั้นหนังสือที่ส่วนใหญ่จะมีหนังสือการ์ตูนและนิยายต่างประเทศ
  
  ผมเดินไปเปิดม่านหน้าต่างที่เป็นกระจกทั้งบานความสูงจากพื้นจรดเพดาน จะว่าหน้าต่างก็คงไม่ใช่เพราะมันเป็นประตูที่ออกไประเบียง ใกล้ ๆ บานกระจกมีโซฟาเดย์เบดตัวใหญ่ตั้งอยู่ และที่พื้นถูกปูด้วยพรมขนสัตว์หนานุ่ม บนนั้นมีหมอนและตุ๊กตา(อีกแล้ว)วางอยู่ โซนนี้จะเป็นที่ที่ผมจะมานั่ง ๆ นอน ๆ เล่น บางที่ก็หลับไปเลย ที่ผนังถูกตกแต่งด้วยรูปภาพโพราลอยด์(ใช้เชือกสวย ๆ ยืดกับผนังแล้วเอาไม้หนีบมาหนีบรูปแต่ละใบ)เป็นรูปของผม ไรเฟิล ไนต์ กาย และ ฟอร์ส มีทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ และรูปรวม บางรูปก็มีบะหมี่อยู่ด้วย แต่ที่เอามาแต่งคือมีนิดเดียวครับ ส่วนใหญ่ผมจะทำเป็นอัลบั้มไว้
  
  เอาล่ะ ทัวร์ห้องผมแล้วก็ปล่อยผมไปเปลี่ยนชุดเถอะนะ เดี๋ยวคุณย่าท่านจะบ่น ฮาาาา ผมเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ส่องกระจกดูตัวเองอย่างกับเด็กกะโปโลแน่ะ
  
  
  
  
  “โฮ่ง! โฮ่ง!” ผมชะงักเท้าก่อนจะวิ่งลงบันไดด้วยความไวแสง
  
  “หมูปิ้ง!!!” เจ้าหมูปิ้งพอได้ยินเสียงผม ก็วิ่งหูตั้งหางกระดิกเข้ามา ผมกับมันกดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นาน จนคุณย่าเข้ามาตาม หมูปิ้งเป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุดหล่อของผม ขนฟูหนานุ่ม ตัวอ้วนมากครับ แทบจะทับผมตาย ผมว่ามันควรลาออกจากการเป็นหมาแล้วไปยื่นใบสมัครเป็นหมูแทน
  
  “แกกินไม่ได้หรอกไอ้หมู!” ผมกินลูกชุบยั่วหมูปิ้งที่มองตามตาละห้อย นอน ๆ กลิ้ง ๆ บนพรมกับหมูปิ้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนคุณย่านั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา
  
  “ไม่ไปหามดแดงเหรอน้องควอทซ์”
  
  “ลืมไปเลย!!! หมูปิ้ง Go! Go!” ผมวางจานลูกชุบดังเคร้ง! คุณย่าส่ายหัว ผมวิ่งออกไปที่หลังบ้าน มีหมูปิ้งวิ่งตามมา
  
  “ลุงชื่นนนนนน!!!” ผมตะโกนเรียก ลุงชื่นยืนอยู่ใกล้ ๆ ตู้กระจกใส ในมือมีถังอะไรสักอย่างอยู่ ว้าว!! จะให้อาหารมดแดงเหรอ!!!
  
  “คุณหนู มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
  
  “มาเมื่อบ่ายนี่เองครับ ลุงชื่นจะให้อาหารมดแดงเหรอ”
  
  “ครับ คุณหนูอย่าเข้าไปใกล้นักสิครับ” ผมมุ่ยหน้า ก่อนจะหันไปหาลุงชื่นตาวาว ยิ้มถูกใจก่อนจะสอดส่องหาเจ้ามดแดงลูกรัก
  
  มดแดง คือ Burmese Python หรือ งูหลาม นั่นเองครับ ผมเลี้ยงมันมาเกือบ 2 ปีแล้ว ซื้อมาจากฟาร์มเพาะพันธุ์ เลี้ยงมาตั้งแต่มันยังตัวเล็ก ๆ จนตอนนี้ยาวเกือบ 3 เมตรเลย เมื่อก่อนเลี้ยงในตู้ปลาครับ พอมันตัวใหญ่ขึ้นก็เลยเลี้ยงในที่ที่ใหญ่กว่า บ้านของมดแดงถูกสั่งทำขึ้นพิเศษ ถูกกรุด้วยกระจกใสทั้งหมด(เหมือนกล่องกระจกขนาดใหญ่นั้นแหละครับ) พื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ไม่มาก ด้านในถูกตกแต่งให้ใกล้เคียงธรรมชาติ มีแอ่งน้ำไว้ให้มดแดงดื่ม ต้นไม้ กอหญ้า ขอนไม้ กิ่งไม้ ไว้สำหรับให้มดแดงเลื้อย หรือถูกตัวเมื่อลอกคราบ รวมทั้งที่ที่สามารถให้มันซ่อนตัวได้ ส่วนพื้นเป็นพื้นหญ้านี่แหละครับ อ๊ะ!! เจอแล้ว นอนแผ่สบายเลยนะ ผมมองตัวสีเหลืองนวลสวยของมดแดงตาวาวระยับ(มดแดงของผมคืองูหลามทองนั่นเองครับ) สงสัยจะลืมบอก ผมได้มดแดงเป็นของขวัญจากป๊าเมื่อวันเกิดตอน 17 ปี(ตอนนี้ผม 19 จะ 20)
  
  “คุณหนูอยู่ด้านนอกนะครับ”
  
  “ไม่เอา! เดี๋ยวผมให้อาหารมดแดงเองลุงชื่นไปพักเถอะ”
  
  “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับคุณหนู”
  
  “ลุงชื่นครับ...”
  
  สุดท้ายผมก็ได้เป็นคนให้อาหารเจ้ามดแดงจนได้ แต่มีลุงชื่นอยู่ข้าง ๆ ด้วยครับ ลุงแกไม่ปล่อยผมอยู่กับมดแดงตามลำพังเลย พ่อลูกเขาจะใช้เวลาร่วมกัน ลุงทำไมไม่เข้าใจครับ!! ไอ้เจ้าหมูปิ้งรออยู่ข้างนอกครับ มันก็นั่งสงบเสงี่ยมเลยนะ ดีจริง ๆ
  
  “ฮื่อ ถ้ามันกินอาหารแล้วก็ไม่ได้อุ้มน่ะสิ!” ผมบ่นหลังจากที่ให้อาหารเสร็จ อาหารที่มดแดงกินคือเนื้อไก่สดครับ ก่อนให้มันก็เอาแช่น้ำอุ่นให้พออุ่นก่อน เมื่อก่อนตอนเอามาใหม่ ๆ ก็ให้มันกินหนูขาวครับ จากนั้นจึงค่อย ๆ ฝึกให้มันกินเนื้อไก่ ทีแรกมดแดงไม่ยอมกินเลย กว่าจะกินได้ก็นานอยู่เหมือนกัน...
  
  “นั่นสินะครับ” ผมเบ้ปาก หลังจากที่งูกกินอาหารเสร็จเราไม่ควรเข้าไปจับเล่นเด็ดขาดเลยครับ ไม่งั้นมันจะสำรอกอาหารออกมา ต้องปล่อยไว้สัก 2 วัน ถึงจะจับเล่นได้ ไว้เจอกันนะเจ้ามดแดง...
  
  
  
  “หมูปิ้ง!!!” เมื่อเล่นกับมดแดงไม่ได้ก็มาลงที่หมูปิ้งแทน ไซบีเรียนตัวหนากระโจนใส่ผมจนแทบล้ม
  
  “โฮ่ง!” ผมกับหมูปิ้งนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นหญ้าใต้ร่มไม้(ที่บ้านผมปลูกต้นไม้เยอะแยะไปหมดเลย) ไอ้หมาอ้วนหอบแฮกเอาหัวมาค้างบนหน้าท้องผม หลับตาพริ้มพร้อมจะหลับ สบายเกินไปแล้วไอ้หมาขี้เกียจ!!!
  
  “แกเคยรู้สึกแปลก ๆ ไหมหมูปิ้ง..”
  
  “หงิง~” ผมถอนหายใจ ลูบขนหมูปิ้งไปด้วย ป่านนี้ไรเฟิลคงจะสอบเสร็จแล้ว ไม่รู้จะทำหน้ายังไงถ้ารู้ว่าผมไม่รอ เดี๋ยว... แล้วทำไมผมจะต้องนึกถึงมันด้วยเนี่ย โว้ะ!!! ประสาทแล้วมึงไอ้ควอทซ์
  
  
  
  
  .....................................
  
  
  
  
   ผมสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังแว่วเข้ามา ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว หมูปิ้งยังนอนอยู่ท่าเดิม หนักชะมัดเลย!
  
  “หมูปิ้งตื่น~” ผมเขย่าตัวหมูปิ้งพลางดันตัวเองลุกขึ้น หาวววว~ ไอ้หมูอ้วนสะบัดตัวครางหงิง ๆ
  
  “เข้าบ้านกันเถอะหมู” แต่ก่อนจะเข้าบ้านขอไปส่องมดแดงสักหน่อย มันยังคงนอนอยู่นิ่ง ๆ Goodnight นะมดแดง
  
  
  
  
  “ป๊าาาา!!!!!” ผมโถมตัวกอดผู้ชายวัยกลางคนอายุ 47 ปี แต่ถึงจะอายุมากแล้วแต่ป๊าผมยังดูหนุ่มอยู่เลยแถมยังหล่อมากอีกด้วย
  
  “ไงไอ้แสบ เนื้อตัวมอมแมมเชียว” ป๊ารับตัวผมเข้าไปกอด มือหนาลูบหัวผมเบา ๆ ฮื่อ ชอบจัง
  
  “คิดถึงป๊าจัง” ผมมุดหน้ากับอกของป๊า
  
  “อยากได้อะไรวะ?”
  
  “โธ่ เห็นควอทซ์เป็นคนยังไงเนี่ย คิดถึงไม่ได้เหรอครับ” ผมผละออก ก่อนจะไถตัวจากโซฟาไปนั่งขัดสมาธิบนพื้นกับหมูปิ้งแทน
  
  “เอ้า ๆ มากินข้าวกันได้แล้วสองพ่อลูก” ผมผลักหัวหมูปิ้งออกแล้วควงแขนป๊าไปที่ห้องกินข้าว
  
  
  
  หลังจากกินข้าวเสร็จก็ออกมาพูดคุยกันตามประสาครอบครัว คุณย่าขอตัวขึ้นไปพักผ่อน เลยเหลือแค่ผมกับป๊า
  
  “พรุ่งนี้เข้าบริษัทกับกูไหม?” ผมช้อนตาขึ้นมองป๊า(ตอนนี้ผมนอนหนุนตักป๊าอยู่ครับ)
  
  “ไม่ดีกว่า.. แต่ขอติดรถไปด้วยหน่อยนะครับ” คุยกันอยู่สักพัก ป๊าก็ขอตัวไปพักบ้าง และหลังจากไปส่งหมูปิ้งถึงที่นอนของมันผมก็ขึ้นห้องตัวเองบ้าง คลุกฝุ่นมาทั้งบ่ายก็ได้เวลาทำความสะอาดร่างกาย ผมใส่แค่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงบ็อกเซอร์ มันสบายดีนี่ครับ
  
  “หือ” ผมหยิบโทรศัพท์ที่ถูกชาร์จแบตฯทิ้งไว้ที่ข้างเตียง ถึงว่าทำไมมันเงียบ ๆ
  
  ฉิบหาย!!!!!
  
  103 missed ทั้งหมดล้วนมาจากไรเฟิลทั้งนั้นเลย มันโทรมาตั้งแต่ช่วงสี่โมงเย็นและสายล่าสุดคือ 21.18 ตอนนี้เวลา 21.36 ผมรีบกดต่อสายหาอีกฝ่ายทันที
  
  “เป็นห่าไรทำไมไม่รับโทรศัพท์!!!” สัญญาณดังไม่ถึงสองครั้งดีเลย พี่ท่านก็กดรับเสียแล้ว แทบยังตะคอกใส่ผมอีก แง ช่วยด้วย~
  
  “ฮื่อ อย่าเสียงดังสิ”
  
  “ตอบมา!!”
  
  “ก็ ก็ชาร์จแบตฯไว้บนห้องนี่นา ไม่ได้ถือลงไปด้วย” ผมพูดเสียงอ่อน
  
  “เหอะ!”
  
  “อย่าโกรธดิ” ผมกดฟังชั่นเฟซไทม์ก่อนจะยิ้มเผล่ให้คนที่กำลังทำหน้ายุ่งมองผมอยู่
  
  “ทำไมไม่ให้ไอ้ไนต์ไปส่ง” คุณชายไม่เสียงดังแล้วแต่เสียงยังแข็งอยู่เลย
  
  “แค่กลับบ้านเอง” ผมมุดหน้าลงกับหมอน
  
  “จะกลับวันไหน”
  
  “อืม.. เย็นวันอาทิตย์ ทำไมอะ ถ้าจะมารับห้ามเลยนะ!” คนถูกดักขึงตาใส่ผม โธ่ รู้ทันหรอกน่า
  
  “กินอะไรยัง” ผมถาม คุณชายพยักหน้า คุยกันต่ออีกพักหนึ่งก็วางสายไป ไรเฟิลมีสอบพรุ่งนี้อีกเลยต้องไปอ่านหนังสือ
  
  
  ครืด ครืด~
  
  “มีไรอีกอะ” ผมกดรับทันทีเพราะคิดว่าไรเฟิลโทรมา แต่เปล่าครับ...
  
  “ผมแพคนะครับ” อ๋อ
  
  “หือ โทรมาทำไมเหรอ”
  
  “พี่ควอทซ์ว่างไหมครับ?”
  
  “อื้อ ว่าง”
  
  “ถ้าว่างอยู่งั้นผมจีบพี่นะ”

  
  ด เดี๋ยวนะ!!!!!!!


--------------------------

TBC.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
นุ้งควอทซ์โดนจีบบบบบบบบบบบบบ  :sad4:
(ควอทซ์อายุน้อยกว่าสี่สหายหนึ่งปีนะครัช นางเรียนเร็ว 555555555555555555555)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2014 22:11:00 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
«ตอบ #35 เมื่อ10-11-2014 22:16:30 »

เด็กมาแบบมึนมาก 555

ไรเฟิลจัดการหน่อยเร็ววววว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
«ตอบ #36 เมื่อ10-11-2014 22:38:18 »

เล่นทีเผลอนี้

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 9 (10.11.2014)
«ตอบ #37 เมื่อ14-11-2014 17:21:20 »

แพครุกหนักๆเบย ชอบไรเฟิลหึง -.-

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
«ตอบ #38 เมื่อ14-11-2014 21:57:49 »

EPISODE 10







  “ถ้าว่างอยู่งั้นผมจีบพี่นะ”
  
  ด เดี๋ยวนะ!!!!!!!

  
  
  ผมช็อกอยู่กับประโยคนั้นของมันอยู่ราว 10 วินาที ก่อนสติจะถูกกระชากกลับเพราะเสียงเรียกของมัน

  “พี่ควอทซ์!”
  
  “ม มึง ว่าไงนะ!”
  
  “ผมบอกว่า ผมจะจีบพี่นะครับ”
  
  “ตีนเหอะ!!!” ผมกดวางสายแบบไม่ร่ำลา โยนโทรศัพท์ลงข้างตัว ยกมือทึงหัวตัวเอง เชี่ยเอ้ยยยยย! กูก็ผู้ชาย มึงก็ผู้ชาย จะมาจีบกูทำไม!! แล้วทำไมชีวิตผมไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เข้ามาบ้างวะ มีแต่อะไรเนี่ย ตัวผู้เหมือนกันอีก เหี้ย!
  
  
  
  กว่าจะนอนหลับก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง แทบยังต้องตื่นแต่เช้าอีก สภาพผมเลยไม่ต่างจากศพเท่าไหร่ วันนี้ผมแต่งตัวสบาย ๆ (มั้ง) อันประกอบไปด้วย เสื้อยืดคอวีสีเทาแขนสั้นยัดชายเสื้อด้านหน้าใส่ในกางเกงยีนส์สกินนี่สีดำโชว์หัวเข็มขัด ส่วนรองเท้าเป็นหนังสือขาว สไตล์ sandel ส่วนทรงผมก็จัดง่าย ๆ ขยี้ให้เข้าทรงเท้านั้น หน้าด้านหน้าจะทิ่มตาแล้วแฮะ ผมคว้ากรรไกรสับผมออกมาเล็มผมด้านหน้าออกให้เข้าที่ อืม คนอะไรหล่อฉิบหาย! คว้ากระเป๋า Duffle ขึ้นมาพาดไหล่แล้วลงไปด้านล่าง
  
  
  “แต่งตัวหล่อเชียว จะไปไหนคะ”
  
  “จะออกไปถ่ายรูปเล่นครับป้าอิ่ม”
  
  “เมื่อคืนนอนดึกหรือไง หือ” ผมตอบรับคุณย่าด้วยการอ้าปากหาว เพราะไอ้แพคนั่นแหละ! นึกถึงแล้วพาลจะอารมณ์เสีย
  
  
  หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลาฝ่าฟันกับรถติด ทันทีที่ขึ้นรถได้ผมก็เอนตัวซบไหล่ป๊าพร้อมกับหลับตาลง
  
  “เป็นอะไร ฮึ?” ป๊าถามพลางเอามือมาลูบผมผมด้วย ผมเลยคว้ามือป๊ามาแนบแก้ม
  
  “ง่วง” ตอบไปทั้งที่ยังหลับตา แล้วก็ต้องยู่ปากเพราะคุณเกรย์บอดี้การ์ดและคนขับรถของป๊าพูดว่า..
  
  “คุณหนูขี้อ้อนจังเลยนะครับ” ถ้าไม่สนิทไม่มีทางได้เห็นผมลุคนี้หรอก!
  
  “นั้นสิ ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต”
  
  “ไม่ให้อ้อนป๊าจะให้ไปอ้อนใครเล่า~”
  
  “เดี๋ยวมีแฟนก็เลิกอ้อนแล้ว”
  
  “งื่อ ไม่มีหรอก..”
  
  “หึหึ” การสนทนาจบลงแค่นั้น แล้วผมก็หลับมาตลอดทาง
  
  
  
  
   “ให้เกรย์ไปส่งแล้วกันนะ” ป๊าบอก ตอนนี้อยู่ที่หน้าบริษัท เอ.เค กรุ๊ป ที่ป๊าเป็นผู้บริหารอยู่ ธุรกิจของครอบครัวผมเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีครับ ทั้งส่งออก และนำเข้า บลา ๆๆ และก็มี เอ.เค จิวเวลรี ( A.K. Jewelry) ซึ่งเป็นร้านขายพวกเครื่องประดับต่าง ๆ นานา ที่ทำจากอัญมณีทั้งหลาย
  
  “ควอทซ์ไปเองก็ได้ครับ ไม่รบกวนคุณเกรย์หรอก”
  
  “ไม่รบกวนหรอกครับคุณหนู”
  
  “ฝากด้วยแล้วกัน ดูแลตัวเองด้วยล่ะควอทซ์” ป๊าบอกคุณเกรย์ แล้วหันมาบอกผม ก่อนที่ท่านจะเดินเข้าไปในบริษัท ผมเลยย้ายตัวเองไปนั่งด้านหน้าคู่กับคุณเกรย์
  
  “นั่งด้านหลังก็ได้นี่ครับ”
     
  “ไม่เอาหรอกครับ มันรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้” คุณเกรย์ยิ้มบาง คุณเกรย์นี่อายุสามสิบแล้วนะครับ แต่หน้าอย่างกับยี่สิบต้น ๆ แถมยังหล่ออีก คุณเกรย์ค่อนข้างตัวใหญ่ตามสไตล์ชาติตะวันออก
  
  “คุณเกรย์ทำงานกับป๊ามาตั้งนาน ไม่อยากลองไปทำที่อื่นบ้างเหรอครับ?” ผมถาม คุณเกรย์ยังคงตั้งใจกับการขับรถ เช้าวันศุกร์รถก็ติดสุด ๆ (จริง ๆ แม่งก็ติดทุกวัน)
  
  “ไม่หรอกครับ คุณท่านมีพระคุณกับผมมาก ขอผมทำงานตอบแทนไปจนกว่าจะหมดลมหายใจเลยดีกว่า”
  
  “โห้ น่าดีใจแทนป๊าจังเลย”
  
  “คุณหนูล่ะครับ ไม่อยากลองมาทำงานที่บริษัทบ้างหรือ?”
  
  “ไม่รู้สิครับ ถ้าให้ช่วยบ้างบางครั้งก็โอเค เอ้อ! กะจะถามตั้งนานแล้ว คุณเกรย์พอจะรู้จักร้านแทททูเจ๋ง ๆ ไหมครับ?”
  
  “ก็พอรู้จักอยู่ครับ คุณหนูจะสักหรือครับ?”
  
  “กะจะสักเพิ่มน่ะครับ” ตอนนี้ผมมีรอยสักอยู่ 3 ที่ครับ คือที่หลังใบหูด้านซ้ายซึ่งเป็นรูปนกตัวเล็ก ๆ 3 ตัว ที่ต้นคอด้านหลังจะเป็นรูปเพชรหนึ่งเม็ดอยู่ตรงกลางและมีเครือไม้รอบกรอบอยู่ด้านซ้ายและขวาของเพชร และที่ท้องแขนข้างขวา เป็นตัวอักษร คำว่า ‘Born again still your son’
  
  “อ๊ะ! จอดตรงนี้แหละครับคุณเกรย์ ถ้ายังไงโทรมาแล้วกันนะครับ” ผมพูดรัวแล้วเปิดประตูลงไป ได้ยินคุณเกรย์ตอบ ครับ ก่อนประตูจะปิด
  
  
  
  
  
  
  ......................................................................
  
  
  
  
  
  
  แม้จะยังเช้าอยู่แต่แดดแรงเอาเรื่องเลยครับ แดดประเทศไทยนี่มันแดดประเทศไทยจริง ๆ หมวกกับแว่นก็ไม่ได้เอามาด้วย แล้วยังเสร่อใส่แขนสั้นมาอีก โถ้ะ!
  
  ผมตบตีกับตัวเองสักพักก่อนจะมองหาม้านั่งสักตัว เมื่อล็อคเป้าหมายได้ก็สร้างแลนด์มาร์คเลยครับ! ผมวางกระเป๋าไว้ข้างตัว ก่อนจะหยิบกระเป๋ากล้องออกมาอีกที งานอดิเรกของผม นอกจากเขียนโปรแกรมกับอ่านหนังสือ(ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน)ก็ถ่ายภาพนี่แหละครับ เมื่อเช็คกล้อง เช็คเลนส์เสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาปฏิบัติการ!
  
  
  ผมถ่ายภาพเกือบทุกอย่างที่เดินผ่าน รถที่ติดยาวเหยีนดบนท้องถนน ร้านรวงริมทาง ผู้คนที่เดินสวนกันไปมา หมาแมวต่าง ๆ นกตัวน้อยที่เกาะอยู่บนกำแพงและเสาไฟ ต้นไม้ ดอกไม้ ตึกรามบ้านช่อง...
  
  ปาดเหงื่อจากหน้าผาก ยกข้อมือดูเวลา เข็มสั้นชี้เลข 1 เข็มยาวชี้ระหว่างเลข 9 กับเลข 10 อ้าว! จะบ่ายสองแล้วเหรอวะ! แล้วผมเดินมาไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย พอหยุดพักแบบนี้ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเสียอย่างนั้น มองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินข้ามถนนไปร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
  
  หยิบน้ำเปล่าขวดเล็กมา 1 ขวดก็เดินไปจ่ายเงินที่เคานต์เตอร์ ระหว่างที่ยืนรอคิวอยู่ ความรู้สึกของผมมันบอกว่ามีคนมองผมอยู่ เซนส์ผมค่อนข้างแรงเลยนะครับ ไอ้ความรู้สึกแรกเนี่ย นั่นไง! แม่งใช่จริง ๆ ด้วย ก็จังหวะที่ผมเงยหน้าขึ้นมามันดันไปสบตากับคนคนนั้นพอดีนี่สิครับ แล้วทำไมคนที่มองต้องเป็นผู้ชายด้วยวะ!
  
  “รับขนมจีบ ซาลาเปาเพิ่มไหมคะ”
  
  “ไม่ครับ”
  
  “9 บาทค่ะ” ผมค้นหาเหรียญสิบจากซอกหลืบของกระเป๋าแล้วส่งให้พนักงาน คว้าขวดน้ำแล้วเดินออกจากร้าน ผมยืนดื่มน้ำที่หน้าร้านนั่นแหละพลางเอาโทรศัพท์มาดูด้วย
  
  “ชื่ออะไรอะ?” ผมหันไปมองตามเสียง คนที่มองผมนั่นเองครับ
  
  “หือ?”
  
  “ถามว่าชื่ออะไร แล้วมาแถวนี้บ่อยเหรอ?”
  
  “อ๋อ เพิ่งเคยมาครับ” ผมตอบแล้วมองโทรศัพท์ในมือ กาย 5 ไนต์ 7 โทรมาทำไมกันวะ ผมตัดสินใจโทรกลับหากาย เพราะสายล่าสุดที่โทรมาเพิ่ง 10 นาทีก่อนนี่เอง
  
  “ขอ..”
  
  “กาย มีไรอะ” ผมตีเนียนเดินออกมาจากผู้ชายคนนั้น เนียนกว่าบีบีครีมก็รักษ์ธิสุดนี่แหละครับ
  
  “น้องควอทซ์อยู่ไหนวะ โทรไปทำไมไม่รับสาย”
  
  “อยู่แถว.... อ่ะ โทษทีพอดีไม่ได้เปิดเสียง”
  
  “สัดเห็ด มึงรีบมาที่.... ด่วน ๆ เลย” แล้วเสียงหมาไนต์ก็ดังแทรกมา เห็ดพ่องงงง!
  
  “อื้อ แค่นี้นะ” ผมวางสาย กระดกน้ำดื่มอึกสุดท้ายแล้วโยนลงถังขยะแถวนั้น
  
  “เฮ้ย ถามไม่ตอบ หยิ่งเหรอวะ!” ระหว่างที่เดินอยู่บนฟุตบาท แขนของผมก็ถูกกระชากโดยไอ้ซาลาเปา(ก็ตอนนั้นเขาอยู่ที่หน้าตู้ซาลาเปานี่) - -* ผมขมวดคิ้วแล้วสะบัดแขนออก ดูเหมือนการกระทำของผมยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ
  
  “เท่าที่จำได้เราไม่เคยรู้จักกันนี่ครับ” ผมบอกแค่นั้นแล้วเดินออกมา แต่เขายังคงเดินตามผมอยู่ดี เหี้ยไรอีกเนี่ย!
  
  “แค่บอกชื่อจะอะไรนักหนาวะ” ผมถอนหายใจเสียงดัง บอกให้รู้ว่ากูรำคาญ มองหน้ามันชัด ๆ เอาจริง ๆ หน้าตาแม่งก็ดี มายุ่งอะไรกับกูเนี่ย โว้ะ! ดูจากชุดก็คงเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยไหนสักแห่ง เพราะเข็มกับเนคไทมันไม่ใช่ของที่มหาวิทยาลัยผมแน่ ๆ
  
  “ผมไม่สะดวกใจที่จะบอก เข้าใจนะครับ แล้วก็ปล่อยมือจากไหล่ผมด้วย” บอกให้ปล่อยแต่ดันบีบแน่นกว่าเดิม มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ! ผมปัดมือของมันออกอย่างเสียมารยาท จุดนี้มารยงมารยาทเหี้ยไรไม่รู้จักแล้วโว้ย ขอโทษคุณย่าที่สั่งสอนผมมาด้วยนะครับ
  
  “ขอตัวนะครับ” ผมเดินเร็ว ๆ ตรงไปที่ศูนย์การค้าชื่อดังใจกลางเมืองหลวงที่อยู่ไม่ไกลไม่ใกล้ อันซึ่งเป็นสถานที่ที่กายมันบอกไว้ ผู้ชายคนนั้นยังตามผมมาอยู่ ไม่ได้หันไปมองหรอกครับ แต่ความรู้สึกมันบอก ช่างเขาแล้วกัน ถ้าว่างมากอยากทดลองเป็นสตอล์กเกอร์ ก็ได้ ก็แล้วแต่เลย...
  
  
  
  
  
  ......................................
  
  
  
  
  
  ปึก!
  
  “ขอโทษครับ” ผมรีบขอโทษขอโพยคนที่ผมเดินชน
  
  “ควอทซ์” รู้จักกูด้วย แต่เสียงคุ้น ๆ แฮะ
  
  “ไรฟ์!!” พอเงยหน้ามองก็กระจ่างเลยครับ ฟู่~
  
  “ทำไมอยู่คนเดียว แล้วนี่หนีอะไรมา” ผมสั่นหัว แล้วผลักไรเฟิลให้เดิน แต่เจ้าตัวมันยังไม่ขยับเขยือนเลยแม้แต่น้อย พอหันไปมองด้านหลังก็เห็นไอ้ซาลาเปามันเดินเข้ามา
  
  “อ้าว ไม่เจอกันนานนะครับ”
  
  “หึ นึกว่าตายไปแล้วเสียอีก” ผมมองไรเฟิลสลับกับซาลาเปา(ไม่รู้จักชื่อเรียกแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน)งง ๆ
  
  “พอดีกูรอมึงตายก่อนว่ะ ไง คนสวย หยิ่งจังนะครับ” มันพูดแล้วหันมายิ้มใส่ผม ขนลุกไอ้สัด แล้วคนสวยห่าไรมึง!
  
  “อย่ามายุ่งกับคนของกู” ไรเฟิลผลักไอ้ซาลาเปาออกแล้วดันผมไปอยู่ด้านหลัง ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนใด ๆ
  
  “ว้าว! หวงด้วยแฮะ”
  
  “อย่ามากวนตีน จะไปตายห่าที่ไหนก็ไป” ว่าแค่นั้นคุณชายก็ลากผมเดินออกมา ได้ยินเสียงไอ้ซาลาเปาดังตามหลังว่า
  
  “ไว้เจอกันนะครับคนสวย” ไอ้สัด!!!
  
  
  
  
  “ใครวะ รู้จักด้วยเหรอ” ผมถาม
  
  “ไม่” เอ้า! “แล้วมึงไปเจอมันได้ไง” ไม่ตอบแล้วเสือกถามกลับอีก
  
  “อ๋อ บังเอิญเจออ่ะ เขามาถามชื่อ แต่ไม่ได้บอกไปหรอก”
  
  “อื้อ อยู่ห่าง ๆ มันไว้ แต่คงไม่มีโอกาสได้เจอกันหรอก” คุณชายยิ้มเย็น ทำเอาผมอดขนลุกไม่ได้
  
  ผมว่านะ สองคนนี้มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังกันแน่ ๆ ไม่งั้นคุณชายไม่แสดงท่าทางอยากจะเข้าไปบีบคอมันขนาดนั้นหรอก อาจจะรู้จักกันก่อนที่ผมจะมารู้จักผมพวกมัน หรืออาจจะเป็นคู่อริกันก็ได้ ตามหลักการแล้ว ก็น่าจะเป็นอย่างนี้ ........มั้ง
  
  
  
  
  “ทำไมมาด้วยกันวะ” พอมาถึงร้านที่นัดไว้ หมาไนต์ก็รีบเสนอหน้าทันที กายกับฟอร์สแต่ยกมือทักเพราะปากไม่ว่าง ฟอร์สคงเพิ่งจะสอบเสร็จ เพราะมันยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย ไรเฟิลก็ไม่ต่างกัน
  
  “เจอกันที่หน้าร้าน...อ่ะ” ผมตอบ เพราะหน้าคุณชายตอนนี้โคตรไม่สบอารมณ์
  
  “แล้วมึงเป็นไรวะ หน้าอย่างกับคนขี้ไม่ออก” คุณชายแสยะยิ้มที่เห็นทีไรแล้วต้องรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ตลอด
  
  “แทนไท” ไนต์ตาโตกับคำตอบของไรเฟิล กายสำลัก ฟอร์สขมวดคิ้ว
  
  “เชี่ย!!! เมื่อไหร่วะ!” หน้าหมาไนต์มันดูโกรธมาก ฟอร์สเองก็เหมือนกัน กายวางตะเกียบลงแล้วทุบโต๊ะดัง ปัง!
  
  “เมื่อกี้”
  
  “มันเข้ามาทักมึงเหรอ” กายถาม คุณชายตอบอืมแล้วปรายตามองผม เดี๋ยวนะ ขอเวลาเรียบเรียงก่อน แทนไท..  เมื่อกี้..  เข้ามาทัก... ตามหลักการแล้ว คนที่เข้ามาทักไรเฟิลเมื่อกี้ก็คือไอ้ซาลาเปาสตอล์กเกอร์นั่น แล้วแทนไทก็คงจะเป็นชื่อของผู้ชายคนนั้น...
  
  “เวร!” ไนต์ กาย ฟอร์ส สบถออกมาพร้อมกัน
  
  “อะไรวะ พูดอะไรให้กูเข้าใจบ้างดิ!” ผมโวย เมินกุ้งตัวโมงที่คุณชายคีบมาให้อย่างไม่ใยดี
  
  “ไม่เกี่ยวกับเด็ก”
  
  “เด็กพ่องหมาไนต์” ผมเบะปากเพราะไนต์มองผมแบบ... มึงหุบปากไปซะ
  
  “ไม่มีอะไรหรอกน่า”
  
  “เชื่อมากเลยไรฟ์ เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเหรอ”
  
  “น้องควอทซ์มึงลองนี่ หมูร้านนี้นุ่มมาก อ่ะ อ้าปาก!” ผมปัดมือกายที่คีบหมูย่างยื่นมาตรงหน้าออก ผมไม่สนใจอาการหน้างอแบบเสแสร้งของกาย
  
  “อยากรู้อะไรก็ถามมันแล้วกัน” ฟอร์สใช้ตะเกียบชี้ไปที่ไรเฟิล ผมไหวไหล่ ถ้าไม่อยากบอกผมก็ไม่อยากรู้แล้วล่ะ
  
  ครืด~
  
  “ครับคุณเกรย์”
  
  “ผมส่งชื่อร้านและแผนที่เข้าอีเมล์คุณหนูแล้วนะครับ” ผมเงียบไปพักหนึ่งเพราะถูกสายตาทั้งสี่คู่จ้องมองอยู่
  
  “อ่า ขอบคุณมากเลยครับ”
  
  “ขอโทษนะครับที่โทรมาบอกช้า พอดีติดงานน่ะครับ”
  
  “ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ” ผมกดวางสายแล้วหย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋า
  
  “ใครโทรมา”
  
  “ไม่มีอะไรหรอกน่า” ผมเลียนประโยคที่ไรเฟิลเพิ่งพูดกับผมไปเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย คิ้วหนาขมวดแน่นแต่ผมไม่สนใจหรอก!



----------------------------------------

TBC.

มีตัวละครใหม่มาแทบทุกตอนเลย ฮืออออออออออออ  :katai1:

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
«ตอบ #39 เมื่อ14-11-2014 22:04:37 »

เขาเป็นใครรรรรรรรรรรรรร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
« ตอบ #39 เมื่อ: 14-11-2014 22:04:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
«ตอบ #40 เมื่อ14-11-2014 23:31:45 »

ความลับ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 10 (14.11.2014)
«ตอบ #41 เมื่อ15-11-2014 00:07:31 »

เรื่องสนุกมากค่าา น่าติดตาม พ่อปืนเนี่ยดูซึนๆแต่หวงมากนเนี่ย
จูบเพื่อนไม่ผิดหรอกกกกก  :hao7:
รอคนสวยรู้ตัว รู้ใจ

รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
«ตอบ #42 เมื่อ18-11-2014 21:56:16 »

EPISODE 11






  ผมตีหน้ามึนใส่พวกมันตลอดระหว่างการทานอาหาร ถามคำตอบคำจนพวกมันเหวอแดก
  
  “เฮ้~ โกรธพวกกูเหรอวะ” ผมปรายตามองหมาไนต์ ที่ยื่นหน้ามาอยู่ในระดับสายตาผม
  
  “เปล่าครับ”
  
  “พูดแบบนี้มันแปลก ๆ นะน้องควอทซ์”
  
  “แปลกยังไงเหรอกาย” ผมถามหน้าซื่อ กายกัดปากก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากสหาย
  
  “เลิกงอนไร้สาระได้แล้ว” ผมมองหน้าไรเฟิล
  
  “งอนไรเหรอ?” พวกมันสี่คนถอนหายใจพรืด ผมยิ้มแล้วหมุนตัวเดินหนีจากพวกมัน แต่โดนคว้าแขนเอาไว้ก่อน กายนั่นเอง
  
  “ปล่อย ๆๆ” ผมสะบัดแขนรัว
  
  “ไอ้ห่า จะไปไหนห้ะ?” หมาไนต์แม่งไม่พูดเฉย ๆ เอามือฟาดหัวผมด้วย
  
  “จะไปซื้อไอศกรีม ไอ้สาดดดดด” พวกแม่งหน้าเหวอ คงคิดว่าผมงอนจริง ๆ โธ่ ผมไม่ใช่คนไร้เหตุผลนะเว้ยยยย พวกมันไม่บอกก็แสดงว่ามีเหตุผลที่บอกไม่ได้ ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละน่า เนอะ
  
  “สัด!!” ไอ้พวกสี่สหายพากันรุมทำร้ายผม ไอ้เหี้ยยยย! ตบอยู่ได้หัวกูเนี่ย ถ้ากูโง่ใครจะรับผิดชอบ ห๊า!!!!!
  
  


  
  ได้ไอศกรีมช็อกโกแลตมา 1 สกูป โดยที่ไรเฟิลเป็นคนจ่าย ดีดิ! ไม่ต้องจ่ายเอง ประหยัดเงินในกระเป๋า ฮาาาาา
  
  “พวกมึงจะไปไหนกันต่ออะ?” ผมถามพลางงับไอศกรีมไปด้วย พวกมันทั้งสี่สั่นหัวกับพรึ่บแล้วถามผมกลับ
  
  “งั้นไป...”
  
  “พี่ไรเฟิลจริง ๆ ด้วย” ผมกำลังจะพ฿ดแต่กลับมีเสียงแหลม ๆ ของสาวน้อนคนหนึ่งแทรกเข้ามา เธอเดินเข้าไปควงแขนไรเฟิลที่กำลังคิ้วขมวด
  
  “ใครวะ?” ไนต์ถาม เธอหน้าเสียนิดหน่อย ๆ ก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมกับปรับสีหน้าให้เป็นปกติและเหมือนว่าน้องกับกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไรเฟิลพูดขึ้นมาก่อนแล้วแกะมือน้องออก
  
  “เมื่อกี้จะพูดอะไรนะ?” ห้ะ? ถามกูเหรอ? คงเห็นผมทำหน้าเอ๋อใส่มันเลยพยักหน้าประมาณว่า มึงนั่นแหละ
  
  “ไป ไป ไปร้านหนังสือ” คุณชายไม่พูดพร่ำทำเพลงลากแขนผมออกมาเฉยเลย ห่าเอ๊ย เกือบสะดุดขาตัวเองล้ม
  
  



  
  “ไรมึงเนี่ยยยยยย”
  
  “.....” ไม่ตอบ แต่ยักคิ้วกวนตีนใส่ ผมเบ้ปากแล้วเดินกระแทกไหล่มันเข้าไปในร้านหนังสือ มาหยุดที่โซนนวนิยาย ส่วนไรเฟิลมันก็เดินดูอะไรของมันไม่รู้ ส่วนสามแสบอย่าง ไนต์ กาย ฟอร์ส ก็แยกกันไปโซนที่ตัวเองชอบ พวกผมชอบอ่านหนังสือนะครับ อ่านได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่หนังสือเรียน(กำ - -) แต่นิยายที่ผมอ่านส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ ของไทยก็มีครับ แต่ไม่เยอะ
  
  ผมได้หนังสือนิยายมาหนึ่งเล่มแล้วเดินไปที่โซนอาหารและเครื่องดื่ม เลือกดูอยู่สักพักก็ได้หนังสือมาสองเล่ม เล่มนึงเป็นภาษาไทยอีกเล่มเป็นภาษาอังกฤษ
  
  “อันนี้มึงจ่าย” ผมยิ้มแป้นยัดหนังสือวิธีการทำอาหารทั้งสองแล้วใส่มือไรเฟิล มันเลิกคิ้ว
  
  “โห่ยยยยยยยยย อะไร คู่มือการทำอาหาร แม่บ้านแม่ศรีเรือนสัด ๆ ครับ!” ผมชูกำปั้นเหมือนจะต่อย ไอ้ไนต์แลบลิ้นส่งสายตาล้อเลียน บังอาจมากนะมึงมาล้อกู เดี๊ยะ ๆ
  
  “ทำไมกูต้องจ่าย?” เอ้า! ไอ้ห่านี่
  
  “เพราะน้องควอทซ์มันต้องทำให้มึงแดกไง ใช่มะ?”
  
  “ฉลาดมากเบบี๋” ผมยกนิ้วโป้งให้กาย
  
  “งี้มึงก็ว่าไอ้ปืนโง่อ่ะดิ ใช่เปล่าวะ?” ฟอร์สมันแสร้งถามหน้าซื่อแต่แววตานี่บ่งบอกว่ากูกำลังกวนตีนอยู่นะ แล้วมันก็โดนคุณชายท่านฟาดไปหนึ่งทีเน้น ๆ
  
  “สัด!!” พวกผมยกเว้นไรเฟิลหัวเราะลั่น หน้ามันโคตรตลกอ่ะ ฮ่า ๆๆๆๆๆ
  
  
  
  

  ............................................
  



  
  “กลับมาแล้วคร้าบบบบบ~!” ผมแหกปากลั่นบ้าน แต่ทำไมบ้านเงียบ ตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าเองนะ หลังจากแยกกับพวกสี่สหายที่ห้างผมที่บอกว่าจะกลับบ้านแต่จริง ๆ แล้วผมแวะไปถ่ายรูปมา ถ้าบอกว่าจะไปถ่ายรูปพวกแม่งคงตามไปด้วยแหงแซะ เพราะฉะนั้นผมไม่เสี่ยงดีกว่า
  
  “โฮ่ง! โฮ่ง!”
  
  “หมูปิ้ง~” ผมขยี้หัวมันแรง ๆ เล่นกับหมูปิ้งสักพักก็เข้าไปหาน้ำดื่มที่ครัว เจอพี่แก้วเข้าพอดี
  
  “คุณย่ากับป๊าล่ะครับ?”
  
  “คุณท่านทั้งสองไปออกงานค่ะ” ผมพยักหน้า บอกพี่แก้วว่าไม่ต้องทำกับข้าวให้ เพราะก่อนเข้าบ้านผมกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยมาแล้ว
  
  

  อาบน้ำเสร็จก็มานั่งคัดรูปแยกใส่โฟลเดอร์ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน เยอะฉิบหายเลย จริง ๆ มันก็ไม่ได้ยากหรอก เพราะสร้างโฟลเดอร์มันแล้วแยกวันที่เท่านั้น แต่มันเสียเวลาตรงที่ต้องแยกรูปที่เสียและรูปพวกไอ้ไนต์ออกด้วยนี่สิ มีทั้งรูปที่ตั้งใจ รูปตอนเผลอ ถ่ายเล่นไปทั่วเลย แต่แล้วกลับสะดุดกับภาพภาพหนึ่ง ผมมองรูปนั้นอยู่นานราวกับโดนสะกด  ภาพของผู้ชายคนนั้นที่หันมามองกล้องแบบเผลอ ๆ พอดี ริมฝีปากยกยิ้ม นัยต์ตาสีน้ำทะเลส่องประกาย. . . ตึกตึก ตึกตึก.. ฉิบหาย! ทำไมอยู่ ๆ ถึงใจเต้นแรงแบบนี้ แล้วไอ้หน้าร้อนวูบวาบนี่คืออะไร! เขินเหรอ? บ้าสิ! ให้ตายเถอะรักษ์ธิสุด ทำไมต้องมานั่งฟุ้งซ่านเพราะรูปภาพโง่ ๆ รูปเดียวด้วย!! ผมสะบัดหัวแรง ๆ กดปิดแท็บทั้งหมดแล้วปิดคอมฯ นอนโว้ย!!!!
  
  
  
  ครืดดดดดด
  
  กำลังจะเคลิ้มหลับโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา ผมควานมือหาแล้วหยิบมาดู ปรากฏว่าเป็นความข้อจากเบอร์ที่ผมไม่ได้เซฟไว้ - * -
  
  ‘พี่ควอทซ์นอนยัง? ฝันดีนะครับ’
  
  กูตื่นเพราะมึงเนี่ยไอ้สัด!! กดล็อคสกรีนแล้วโยนโทรศัพท์ไปอีกฟากของเตียง
  
  



  
  “หาววววว” อ้าปากหาววอดเดินเข้ามาใรครัวพร้อมกับท้องร้องโครกคราก วันนี้ผมตื่นมาก็เกือบเที่ยงแล้ว ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน แต่ก่อนจะหลับก็ตีสองกว่าเข้าไปแล้ว
  
  “ทำไมตื่นสายวะ?”
  
  “นอนดึก” ตอบป๊าไป ท่านเดินเข้ามาในครัวพอดี “ย่าอะ?” ผมถามพลางตักข้าวเข้าปาก เมื่อกี้แม่บ้านเพิ่งมาอุ่นให้
  
  “ออกไปสมาคมมั้ง”
  
  “อื้อ ไมวันนี้อยู่บ้าน?”
  
  “เรื่องของกู” กวนตีน...
  
  กินข้าวเสร็จก็ถูกป๊าลากให้ไปช่วยงาน เหนื่อยสัดอ่ะครับ จริง ๆ มันก็ไม่ได้ใช้แรงเยอะหรอก แต่มันต้องใช้สมองไง ถูกใช้แรงงานจนถึงเย็น ผมก็เป็นอิสระออกไปวิ่งเล่นกับไอ้หมูปิ้งแล้วไปส่องมดแดงด้วย
  
     
  



  
  เวลาผ่านไปไว้เหมือนโกหก เผลออีกทีก็วันจันทร์แล้ว หยุดสองวันเหมือนสองนาที ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะ อีกครึ่งชั่วโมงถึงจะถึงเวลาเข้าเรียน อีกอย่างคือรอหมาไนต์ด้วย
  
  “ไม่ไปเรียนไง?” ผมถามไรเฟิลที่นั่งอยู่ตรงข้าม เมื่อเช้าผมแวะเข้าไปหาอาหารเช้าให้มันก็เลยถูกมันลากให้มาพร้อมกันซะงั้น
  
  “ครึ่งชั่วโมง” มันตอบ ผมพยักหน้าก้มลงอ่านเนื้อหาที่ต้องเรียนวันนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนครับ ไม่งั้นงานมึนต้องมา
  
  “ช่วงนี้มีเบอร์แปลก ๆ โทรหามึงไหม?”
  
  “หื้อออ” ผมร้องในคอเสียงสูง นึกสักพักแล้วพยักหน้า
  
  “ใคร มันโทรมาทำไม”
  
  “ชื่ออะไรวะ แพท แพค อะไรสักอย่าง”
  
  “พูดถึงผมอยู่เหรอครับ? พี่ไรเฟิลสวัสดีครับ” เอ่อ.. ต้องบอกไหมครับว่าใคร
  
  “มึงมาทำไม?” ไม่ใช่ผมนะ คุณชายต่างหาก ถามโคตรหาเรื่อง
  
  “ผมเอาขนมมาฝากพี่ควอทซ์น่ะครับ นึกว่าจะไม่เจอแล้วนะเนี่ย” ไอ้แพคยิ้มแล้ววางถุงขนมลงพร้อมกับนั่งลงข้างผม ผมขยับให้ห่างออกจากมันอีกหน่อย แม่งเล่นเบียดซะแทบจะร่วมร่างอยู่แล้ว
  
  “กึ้ดมอร์นิ่งมายเฟรนด์~~!!” เสียงแปดหลอดกับน้ำเสียงกระแดะ ๆ ของไนต์ดังมากระทบโสตประสาทจากระยะสามเมตร
  
  “มึงมาทำไมวะ!?” เสียงสดใสของมันเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวทันที
  
  “ผมเอาขนมมาให้พี่ควอทซ์”
  
  “ขยันส่งขนมเพื่อนกูขนาดนี้ จีบเพื่อนกูอยู่เหรือไง?” มึงจะถามตรงไปไหมครับอัศวิน ไอ้ห่า!
  
  “ครับ” ไอ้นี่ก็ไม่ปฏิเสธอีก โว้ะะะ!! ไอ้ไนต์ไล่สายตามองไอ้แพคตั้งแต่เท้าจรดหัวแล้วแสยะยิ้มเย็น
  
  “หึ พวกมึงขึ้นตึกไปได้ล่ะ” ไรเฟิลสั่ง
  
  “เออ!  มึงมากับกูเลยน้องเห็ด!” ไอ้ไนต์พูดจบก็ลากคอผมเดินขึ้นตึก แต่มือแม่งยังจะคว้าเอาถุงขนมของไอ้แพคมาอีก งกมากเพื่อนกู!
  
  

  
  “เสน่ห์แรงจริ้งจริงงงงง กูล่ะหมั่นไส้” ไม่ว่าเปล่าผลักหัวผมอีก สัดไนต์!!
  
  “อะไรอะ ก็ไม่ได้บอกให้มันมาจีบกูสักหน่อยเหอะ”
  
  “แล้วนี่มึงคุยอะไรกับมันบ้าง?” ผมสั่นหัว ไม่ได้คุยอะไรจริง ๆ นี่
  
  “แฮ่!! คุยอะไรกันวะ ใครจีบใคร!? เล่าสิเล่า!” บะหมี่มาจากไหนไม่รู้ มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วมองผมกับไอ้ไนต์สลับกันไปมา หน้ามาบ่งบอกว่าอยากเสือกเต็มที - -
  
  “เด็กส่งขนมมาจีบเพื่อนมึงอ่ะ”
  
  “ใครวะ? พูดอย่างกับมีคนส่งขนมให้เพื่อนมึงคนเดียวงั้นแหละ” มันหรี่ตามอง มือคว้าหมับเข้าถุงขนมก่อนจะค้นหาอันที่ชอบแล้วแกะเข้าปากทันที นี่ดาวคณะหรือปอบครับ พูด!
  
  “ชื่อแพค” ผมบอก ไอ้บะหมี่สำลักค่อกแค่ก
  
  “อ๋ออออออ น้องรหัสไรเฟิลน่ะนะ หรือเปล่าวะ?”
  
  “เออ!!”
  
  “มึงจะกระแทกเสียงทำไมเนี่ยไอ้ไนต์ หึงหรอวะ?”
  
  “หือออ หึงพี่ควอทซ์หรือจ้ะน้องไนต์” ผมแกล้งวาดแขนไปโอบไหล่ไอ้ไนต์แล้วดึงมันมาซบไหล่แต่แล้วก็ถูดมันสะบัดออก
  
  “พวกมึงก็คิดได้เนอะ” มันสั่นหัวเอือม ๆ
  
  “แต่ไอ้น้องแพคนี่ไม่ธรรมดานะเว้ย สายกูรายงานว่ามันเป็นลูกชายคนเล็กของจิระวากุลเลยนะ หล่อ รวย เรียนเก่ง กีฬาเลิศ โปรไฟล์แจ่มมาก!”
  
  “มึงนี่ก็ขี้เสือกใช่ย่อยนี่หว่า เยี่ยม ๆ” ไอ้ไนต์ยื่นมือไปเกาคางบะหมี่เลยถูกเจ้าแม่ฟาดผั้วลงกลางหลังเน้น ๆ
  
  “สัด!”
  
  “อัศวิน จริญญา รักษ์ธิสุด ถ้าไม่เรียนก็ออกไป! ส่งเสียงดังรบกวรคนอื่น ไร้มารยาท!” ผมนี่ถึงกับเงียบเลยครับ....
  
  
  
  
  
  
  .......................................................
  
  


  
  
  เลิกเรียนก็สี่โมงเย็นแล้ว และตอนนี้ผมก็นั่งเซ็งอยู่ที่ชมรมว่ายน้ำ ไอ้วอร์ม(ยังจำมันได้ใช่ไหมครับ?)ที่เพิ่งเข้ามา พอเห็นผมแม่งก็วิ่งหูตั้งหางกระดิกแหกปากตะโกน ‘เจ้าหญิง!!!!’ ดังลั่น สัดวอร์ม!!!
  
  “แหกปากหาพ่อง!”
  
  “โห่ เฮียแม่ง” ไอ้วอร์มทำหน้างอใส่ไรเฟิลแล้วหันมายิ้มใส่ผม ผมรู้สึกหลอน ๆ มันยังไงไม่รู้ ฮือ..
  
  “ไรมึง?”
  
  “ช่วงนี้เจ้าหญิงน่ารักขึ้นเปล่าวะ?” ไม่พูดเฉย ๆ แม่งมีการยื่นมือมาล็อคคางผมพลิกซ้ายทีขวาที เดี๋ยวนี้ชักลามปามใหญ่แล้วไอ้สัด!
  
  “น่ารักเหี้ยไร เดี๋ยวกูยันไปนู้น! อย่างกูต้องหล่อมากเท่านั้น” ผมพูดแล้วปัดมือมันออก
  
  “บ๊ะ! อย่างเจ้าหญิงหล่อผมก็โคตรพ่อโคตรแม่หล่อเลยอ่ะดิ เนี่ยยยยยย หนังหน้าอย่างเนี่ย! น่ารักสัด ๆ อ่ะ! เนอะเจ้าชายเนอะ” ผมกลอกตา มองไอ้วอร์มที่ยังพล่ามไม่หยุด ไรเฟิลก็ไม่ช่วยห่าอะไรผมเลย ผมยกขายันโครมจนไอ้วอร์มที่ยังโม้ไม่หยุดเซล้มเพราะมันไม่ได้ตั้งตัว
  
  “พูดมากไอ้สัด ที่บ้านพ่อแม่มึงห้ามพูดหรือไงห้ะ!!”
  
  “โด่วววว ไรอ่าาาา เจ้าหญิงถีบน้องวอร์มทำไมอ่าาาา”
  
  “เดี๋ยวกูจะยันให้ตกสระ ไอ้ห่าาาา”
  
  “ไปเปลี่ยนชุดไปซ้อมได้แล้วมึง ไป!”
  
  “ไปก็ด๊ะะะ เชอะ! เหตุใดเติมใจเธอไม่เคยเต็ม..” ก่อนไปก็ยังไม่วายกวนตีนอีกจนได้ ไอ้วอร์มสะบัดหน้างอนใส่ผมกับไรเฟิลแล้วเดินก้นสะบัดออกไป แรดสัดหมา
  

  
  
  “น้องมึงกวนตีน”
  
  “หึ มันก็บ้าของมันอยู่แล้ว” ผมยู่ปาก สภาพคุณชายไรเฟิลตอนนี้คือ... มีผ้าขนหนูพันอยู่ที่เอว ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกราะพราวไปทั่ว ผมสีบลอนด์เปียกน้ำถูกเสยไปด้านหลังทำให้เห็นโครงหน้าหล่อเต็ม ๆ แม่งงงง! รู้ว่าหุ่นดีแต่ไม่ต้องโชว์ได้ป่ะ! สาว ๆ ที่นั่งอยู่บนอัฒจรรย์งี้ ตาวาววับเลย บางคนนี่ถึงกับเขินหน้าแดง ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยต่อยเข้าไปที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของมัน กล้ามหน้าท้องไรเฟิลสวยมากนะครับ มันไม่ได้เยอะจนน่ากลัว แต่มันพอดี ๆ แบบกำลังดี ผมเองก็อยากมีบ้างนะ เคยลองอยู่ช่วงนึง ไม่ได้ผลครับ เลยเลิกไป ไม่มีซิกแพคไม่เป็นไร แต่ขอแค่อย่ามีพุงเป็นพอ ฮาาาาา
  
  
  “ไรวะ?”
  
  “หมั่นไส้โว้ยยยยยยย”
  
  “อิจฉา?” เลิกคิ้วถามคิดว่าเท่เหรออออ เออ โคตรเท่เลยไอ้สัด!! ผมเบ้ปากค้นเอาอมยิ้มมากิน ไรเฟิลลุกขึ้นปลดผ้าขนหนูออกแล้วโยนมันมาคลุมหัวผม พอเอาผ้าออกก็ได้ยินเสียง ตู้ม!!! พร้อมกับร่างสูงที่กระโดดลงสระว่ายน้ำอย่างสวยงาม... ท่ามกลางเสียงกรีดร้องดังระงมจากทั้งสาวแท้และสาวเทียม
  
  “อร้ายยยยย แก!!! พี่ไรเฟิลเท่สุด ๆ เลยอ่ะ กรี๊ดดดด”
  
  “ว้ายยยย หุ่นดีมากอ่ะแก!”
  
  “ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน!!”
  
  “อีบ้าาา พี่ไรเฟิลของฉันย่ะ!”

  น้อง ๆ กลุ่มนั้นก็ตบตีกันไป ผมว่าพวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนกันนะ คงจะเป็นเด็กปีหนึ่งเพราะยังใส ๆ กันอยู่เลย ผมอมยิ้มขำ ๆ กับอาการคลั่งของพวกเธอ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะเสียงของคนที่นั่งอยู่ที่อัฒจรรย์ด้านหลังไม่ไกลจากผมพูดว่า. . .
  
  “พวกนั้นตลกเป็นบ้า” สาวนิรนามคนที่ 1
  
  “หึ ก็แค่พวกฝันลม ๆ แล้ง ๆ พี่ไรเฟิลของฉันต่างหาก” คนที่ 2
  
  “ได้กันแล้ว ใช่ว่าพี่เขาจะเลือกเธอสักหน่อยนี่” คนที่ 3
  
  
  อ่า.... ผมอยู่ ๆ ผมก็รู้สึกหงุดหงิดนะ อยากจะหันไปดูหน้าคนพูดให้รู้แล้วรู้รอด ให้ตายสิวะ!! บ้าเอ๊ย!! ผมตบตีกับตัวเองอยู่ไอ้วอร์มก็เข้ามากวนตีนเลยจัดการถีบแม่งไปเต็มแรงจนมันตกลงไปในสระ เหอะ! ค่อยหายหงุดหงิดมาหน่อย แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ!!



----------------------------

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2014 23:15:24 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
«ตอบ #43 เมื่อ18-11-2014 22:24:24 »

น่าสงสารน้องที่ชมรมว่ายน้ำโดนตลอด

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
«ตอบ #44 เมื่อ21-11-2014 21:42:13 »

สงสารวอร์ม 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ ρℓuto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
«ตอบ #45 เมื่อ21-11-2014 22:10:17 »

หึงแล้วพาลจริงๆ หนูเห็ด อิอิ

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 11 (18.11.2014)
«ตอบ #46 เมื่อ22-11-2014 01:44:30 »

ชอบอ่ะ ภาษาดีมากแต่อยากแนะให้กำหนดทิศเรื่องนะ ไม่งั้นจะบานปลาย กลายเป็นงงไป  แต่โดยร่วมคือชอบมากกกก  ไม่คิดว่าคาแรคเตอร์น้องเห็ดจะแอบเถื่อนนิดๆ มีสักด้วยอ่ะ  พี่ปืนก็เท่ห์โคตรรรรร

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
«ตอบ #47 เมื่อ22-11-2014 21:58:35 »

EPISODE 12



  “หน้างอ เป็นไร?” ผมสั่นหัว ไม่ตอบไรเฟิล เดินนำหน้าเข้ามาในห้องของมัน จะให้ตอบอะไรล่ะ ขนาดผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไร โว้ย!!  กำลังจะกลับมาที่ห้องของไรเฟิล ก็มีสาวสวยเดินมาหาถึงรถไปคุยกันยังไงไม่รู้กลับมาถึงได้มีรอยลิปสติกเลอะปาก เหอะ! ไรเฟิลคงไม่ได้ขอลิปของน้องคนนั้นมาทาหรอก จะมีอะไรนอกจากจูบล่ะ! จูบน่ะ จูบบบบบ! อะไร! อย่ามาบอกว่าผมหึงนะ บ้าสิ! ผมจะไปหึงมันทำไมล่ะ โด่ววว พวกคุณนี่มั่วมาก แล้วหงุดหงิดผมไมหรอ เพราะมันไปจูบกับสาวแล้วทิ้งให้ผมรอไง! ใช่แล้ว ใช่นั่นแหละ เพราะผมต้องรอไงเลยหงุดหงิด ไม่ได้หึงสักหน่อย ไม่ได้เป็นอะไรกันจะหึงทำไมเล่า! โธ่เอ๊ยยย!
  
  “เป็นไร? เปล่าสักหน่อย”
  
  “เปล่ามากกกก หน้างอขนาดนี้ โกรธที่กูปล่อยให้รอ?” ก็รู้นี่หว่า จิ๊!
  
  “สำคัญจังเลยยยยยยย”
  
  “หึ” ไรเฟิลผลักหัวผมก่อนที่มันจะเดินขึ้นไปชั้นสอง ผมแลบลิ้นใส่แผ่นหลังกว้างนั้น โยนกระเป๋าไปไว้ที่โซฟา แล้วเริ่มต้นทำความสะอาดห้องให้มัน รกสัด ๆ มากครับ ทั้งชีท ทั้งหนังสือ แฟ้มต่าง ๆ เกลื่อนห้องเลย ปัดกวาดเช็ดถูไปเรื่อย ไอ้คุณชายที่ขึ้นไปเปลี่ยนชุดกลับลงมาก็ไปนั่งดูสารคดีสัตว์โลกของมัน มีบ้างที่แวะเวียนมาค่อยกวนประสาท ถามนู่นถามนี่ โยนเศษซากขนมลงพื้นให้ผมตามเก็บบ้าง แกล้งทำน้ำหกบ้าง ใครว่าแม่งเย็นชาไม่จริงเลยสักนิด!! กวนตีนฉิบหาย ไอ้ตับหมา!
  
  “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยย!!” ไรเฟิลหัวเราะลั่น เอานิ้วมาเขี่ยแก้มผมแล้วเดินหนีไป พอผมจะเอาคืนแม่งก็ใช้คำว่าเจ้านายกับลูกจ้างมาขู่ แถมยังบอกว่าจะหักเงินเดือนอีก สาดดดดดดดดดดดดด!!
  
  
  
  “เหนื่อยยยยยยยย” ผมบ่นเมื่อทำความสะอาดเสร็จ ห้องแม่งก็กว้างจะเลยไอ้เหี้ย!
  
  “มานั่งทำอะไรตรงนี้วะ!?” ไรเฟิลมันเดินมาใกล้แถมยังเอาเท้าเขี่ยผมที่นั่งแหมะอยู่ที่พื้นอีก ช่วยทำให้กูรู้สึกว่ากูเป็นคนหน่อยได้ไหมครับไอ้สัด!
  
  “ทำหน้าไม่พอใจ หักเงินเดือนดีไหมเนี่ย หือออ?” ไรเฟิลนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้า มันเอามือมาวางแปะบนหัวผมแล้วโยกไปซ้ายทีขวาที
  
  “ขู่ตลอดดดดด จิ๊! ปล่อยเลย!” ไม่ปล่อยแถมยังขยุ้มหนักกว่าเก่า
  
  “เป็นอะไรครับ?” ผมกระพริบตาปริบ ๆ เดี๋ยวนะ. . . ไรเฟิลโหมดสุภาพผมปรับตัวไม่ทัน
  
  “เอ่อ...ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ผมพูดเสียงค่อย
  
  “เอาความจริง”
  
  “ไม่ได้เป็นไรจริง ๆ นะเว้ยยย ตอนนี้หิวแล้ว เลี้ยงข้าวหน่อยสิ” ผมรีบยิ้มประจบสบตากับมันแล้วทำตาวิงค์ ๆ ก่อนจะโดนมันผลักหัวจนหงายเงิบด้วยความรักใคร่. . . ถุยยยยย!!!
  
  
  “จะกินไร?” มันถาม ตอนนี้เราย้ายมานั่งที่โซฟาแล้วครับ
  
  “อะไรก็ได้”
  
  “อะไรก็ได้นี่ร้านไหนมีขาย?” สัด..
  
  “กวนตีน! กินพิซซ่า!!!” ไรเฟิลยกยิ้มแล้วโยนโทรศัพท์มาบนตักผม
  
  “รหัสไร?” เมื่อรู้รหัสก็จัดเลยสิครับรอเหี้ยอะไรอยู่!
  
  
  ครืดดดด ครืดดดดด
  
  โทรศัพท์ผมสั่นครืดอยู่บนโต๊ะ แต่ตอนนี้ผมกำลังคุยกับพนักงานร้านพิซซ่าอยู่นี่สิ ผมขยับปากแบบไม่มีเสียงบอกให้มันรับให้หน่อย มันทำหน้ารำคาญแต่ก็ยอมรับให้อยู่ดี
  
  “ใคร?” รับโทรศัพท์ได้นักเลงมากครับมึง คิ้วหนาขมวดมุ่นแล้วมันก็ลุกเดินออกไปที่ระเบียงด้านนอก อะไรวะ ใครโทรมา! แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ผมหันมาสนใจสั่งอาหารต่อ เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ
  
  
  
  “ใครโทรมาอะ?”
  
  “ไอ้แพค”
  
  “มันโทรมาทำไม?”
  
  “จีบมึงไง”
  
  “....” พูดไม่ออกเลยกู
  
  “มันมีเบอร์มึงได้ไง?”
  
  “ไม่รู้ดิ ...มึงเอาให้มันเปล่า! น้องรหัสมึงนี่ ใช่ไหม!!?”
  
  “ก่อนพูดออกมานี่ปรึกษาสมองก่อนหรือเปล่า?” โอ้โห. .  มึงจะบอกว่ากูพูดไม่คิดก็บอกมา! ผมปาหมอนใส่มันเต็มแรงแต่ต้องเจ็บใจเพราะแม่งดันรับทัน แถมยังปากลับมาแรงกว่าที่ผมปาใส่มันอีก โห่! เข้าเต็มหน้ากูเลย!
  
  “มึงแม่ง!!”
  
  “อะไร ๆ สู้ไม่ได้ก็งอแงใส่”
  
  “ไม่ได้งอแงโว้ย!! เจ็บอ่ะ” ผมพูดพลางลูบจมูกตัวเองไปด้วย
  
  “อ่อน” แล้วสงครามระหว่างผมกับไรเฟิลก็เกิดขึ้น สุดท้ายก็หอบแฮกลิ้นห้อยไป เหนื่อย! ไม่น่าไปสู้กับมันเลย สภาพผมอย่างกับเพิ่งผ่านสงครามโลกมา ส่วนไรเฟิลไม่มีอะไรบุบสลายเลย ยังมีหน้ามายิ้มเยาะผมอีก
  
  
  
  กริ้งงงง กริ้งงงง
  
  
  “ไปรับดิ้” ผมไปรับโทรศัพท์ตามคำบัญชาของคุณชาย แหม่ ก็เป็นแค่ลูกจ้างนี่ครับ จะขัดอะไรได้! หลังจากรับสายก็ได้ใจความสำคัญว่า พิซซ่าที่สั่งไว้มาส่งแล้วกรุณาไปเอาและจ่ายเงินด้วย พอบอกคุณชายมันก็ทำเพียงแค่ยื่นกระเป๋าเงินให้แล้วไปสนใจทีวีต่อ
  
  
  
  ผมจัดอาหารทุกอย่างลงบนโต๊ะ ตอนที่สั่งก็ไม่ได้คิดหรอกครับว่ามันจะเยอะ พอมองดูบนโต๊ะเท่านั้นแหละ....
  
  “เยอะสัด”
  
  “หมดแน่!”
  
  “ไม่หมดกูหักเงินขีดละสองพัน”
  
  “พูดเป็นเล่น!” ห่าไรรรรร หักเงินขีดละสองพัน แพงกว่าค่าพิซซ่าอีก ไอ้งก!!
  
  “หึหึ หยิบเบียร์ให้กูด้วย” ผมหน้างอ เดินไปหยิบเบียร์ให้มัน
  
  “กูเอาด้วยนะ!”
  
  “อือ” ผมยกยิ้มกับตัวเอง หยิบเบียร์ขวดเล็กออกมาสองขวดพร้อมกับแก้วสองใบ
  
  “ไม่มีขนมปังกระเทียม?”
  
  “เฮ้ย! ลืมมมมม!” ก็ผมไม่ชอบนี่เลยไม่ได้สั่งมาด้วย คือผมเกลียดกลิ่นกระเทียมไง เลยพาลไม่กินกระเทียไปเลย
  
  “มึงนี่มัน..”
  
  “หล่อ!”
  
  “ถุยยยย” ผมยิ้มกว้างจนตาปิดแล้วหัวเราะลั่นโยกตัวหลบเบรดสติกส์ที่ไรเฟิลโยนมา
  
  
  
  
  
  
     “นี่... ถามไรหน่อยดิ..” ผมเอานิ้วจิ้มแขนไรเฟิล หลังจากจัดการยัดอาหารลงท้องกันจนหมดก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่น สรุปแล้วไม่เสียค่าปรับครับ ไรเฟิลแม่งกินเยอะกว่าผมอีก! แล้วมาบอกว่าจะหักเงิน อะเด่ออออ!

     “อะไร?” มันถามกลับไม่ได้เงยหน้ามาสบตา เพราะเจ้าตัวกำลังง่วนกับการอ่านอะไรสักอย่างอยู่ ผมกัดปากชั่งใจ จะถามดีปะวะ

   “เอ่อ... น้องคนที่มาหามึงอ่ะ ใครเหรอ?” คราวนี้แม่งหันมามองผมควับเลยเว้ย!

     “เด็ก” ผมพยักหน้า

     “ทำไมอยู่ ๆ มาถามอะไรแบบนี้?” นั่นสิ ทำไมอยู่ ๆ ถึงถามอะไรแบบนี้ งงตัวเองไปสิ

     “เปล้าาาา” เสียงสูงไปไหนไอ้สัด! ไรเฟิลหรี่ตามอง สายตาโคตรกดดันอ่ะ ผมกะแอมไอแล้วเสมองไปทางอื่น

     “หัดเป็นคนโกหกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

     “ไม่ได้โกหก! ก็.. ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ”

     “หึ ไม่จำเป็นต้องถามเลยควอทซ์ มึงน่าจะรู้อยู่แล้ว หรือไม่จริง?”

     “.....” ผมเงียบ ก็จริงอย่างที่มันพูด ผมนี่ขุดหลุมฝังตัวเองชัด ๆ คิดว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร แฟนมันเหรอ เหอะ! คนอย่างไรเฟิลจะคบใครจริงจังวะ? นอกจากคู่ควง คู่นอน พูดให้ดูดีหน่อยก็เด็ก(นี่ดูดีแล้ว?) ผมนี่บ้าเนอะ

     “ที่งอแงใส่กูตอนเย็นเพราะเรื่องนี้เหรอ?”

     “เปล่า..” หนักแน่นหน่อยสิไอ้ควอทซ์! ตอบให้มันเต็มเสียงหน่อยสิวะ!

     “หึ จะพยายามเชื่อแล้วกัน” ผมเม้มปาก ที่พูดแบบนั้นแปลเป็นไทยก็คือ ’กูไม่เชื่อที่มึงพูด’

     “กู เอ่อ.. กูกลับล่ะ”





  ........................................................................................






     หลังจากอาบน้ำกะว่าจะให้มันช่วยไล่อาการแปลก ๆ ออกไป ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยเลยสักนิด ผมก็มานั่งฟุ้งซ่านอยู่บนเตียง ให้ตายสิ! ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย! ต้องหาที่ปรึกษาแล้ว เหลือบสายตามองนาฬิกา ตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว ที่นิวยอร์คคงประมาณสิบเอ็ดโมง หวังว่าจะว่างนะวิคตี้...



     ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด

     โทรไปครั้งแรกไม่มีคนรับ กดโทรไปครั้งที่สองก็ยังเหมือนเดิม จนกระทั่งสายที่สาม

   “Hi!!, Victoria!”

     ”Hi, Victoria i’m Quartz” ผมแทบจะกระโดดลงจากเตียงเมื่อได้ยินเสียงของวิคตอเรีย ดีใจไง โด่ววว แต่น้ำเสียงงัวเงียมาก สงสัยยังไม่ตื่น

     “โอ้มายก็อด!! เบบี๋!! โทรมาหาฉันแบบนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า หืมมม?” เกลียดนักคนรู้ทัน!

     “เธอว่างหรือเปล่า ฉันมีเรื่องอยากปรึกษาหน่อย”

     “ว่างก็ได้เพื่อนาย ถ้าเป็นคนอื่นโทรมารบกวนเวลานอนของฉัน ฉันจะด่าให้ลืมทางกลับบ้านเลย เอ๊ะ! ตอนนี้ที่ประเทศไทยดึกแล้วนี่”

  “ขอบคุณครับมาดาม ฮ่า ๆ ไม่ดึกหรอก ฉันคงนอนไม่หลับถ้ามันยังคาใจแบบนี้”
  
  “ไหนเล่าปัญหาของนายมาสิ้เบบี๋” ผมเริ่มเล่าอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้วิคตอเรียฟังแบบไม่มีกั๊ก พอเล่าจบยัยนั่นก็เงียบไปก่อนที่จะหัวเราะออกมา นั่นมันทำให้ผมรู้สึกสยองเป็นบ้า!
  
  “ฮะฮะ ถ้านายรู้ว่านายเป็นอะไร นายอาจจะนอนไม่หลับไปเลยก็ได้นะเบบี๋”
  
  “ง่ะ...”
  
  “เอาล่ะ ฉันคิดว่าตอนนี้นายกำลังตกหลุมรักซัมวันอยู่นะจ้ะ”
  
  !!!!!!!!!!!
  
  ต ตกหลุมรัก!!! ตกหลุมรักเหรอ!!! บ้า! บ้าไปแล้ว ยัยนั่นต้องบ้าแน่ ๆ !!
  
  “ม มั่วหรือเปล่าวิคตี้...” ผมถามเสียงติดจะสั่น
  
  “ไม่มั่วแน่นอน ตั้งสติแล้วฟังดี ๆ ตอนนี้นายกำลังหลงรักซัมวันอยู่นะ ว้าว!!! แฟนทาสติกมาก ๆ เลยเบบี๋!” ผมทำหน้าแหยงกับน้ำเสียงมั่นใจของวิคตอเรีย
  
  “ร รักเลยเหรอ?”
  
  “อืมมมมม อาจจะยังไม่รัก แค่เริ่มต้นมั้ง บางทีนายอาจจะชอบซัมวันมานานแล้วก็ได้ เพียงแค่นายไม่รู้ใจตัวเอง โอ้ยยยยย! ความรู้สึกนายฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ!!” ช ชอบ... ผมชอบเหรอ? ชอบมันเหรอ ไรเฟิลน่ะนะ! ผมเนี่ยนะ!!
  
  “แต่... ฉันเป็นผู้ชายแล้วซัมวันนั่นก็เป็นเป็นผู้ชาย ฉัน ฉัน... ฉันไม่ใช่เกย์นะวิคตี้”
  
  “ฉันรู้ แต่ครั้งหนึ่งนายก็เกือบจะมีแฟนเป็นผู้ชายนะ” อึก... นั่นมันก็จริง แต่ แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์
  
  “แต่ว่า...”
  
  “นายไม่ใช่เกย์ เพียงแค่คนที่นายชอบเป็นผู้ชายก็แค่นั้น”
  
  “......” ผมเงียบ
  
  “เอางี้นะ นายแค่ตอบฉันมา แค่ Yes or No เท่านั้น โอเคไหม?” ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติและตั้งใจฟังวิคตอเรีย
  
  “นายชอบเวลาเขาเอาใจนาย” อื้อ ใคร ๆ ก็ชอบให้คนเอาใจนั้นแหละ
  
  “Yes”
  
  “นายชอบที่เขายิ้มให้”
  
  “Yes”
  
  “หัวใจของนายเต้นแรงเวลาอยู่ใกล้เขา”
  
  “.......Yes”
  
  “นายไม่ชอบเวลามีผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้เขา”
  
  “Yes”
  
  “นายรู้สึกหงุดหงิดเวลามีผู้หญิงหรือคู่ควงของเขาเข้ามาหาเขา”
  
  “Yes”
  
  “นายหึง”
  
  “Yes เฮ้ย!!!! No!!!”
  
  “ฮ่า ๆๆ ไม่ทันแล้วเบบี๋ ความรู้สึกแรกของนายมันคือ Yes!”
  
  “เดี๋ยวสิ! ฉ ฉันไม่ได้หึงนะ”
  
  “Shut up Baby! นายรู้สึกเขินเวลาเขายิ้มหรือทำตัวน่ารักกับนาย”
  
  “Maybe....”
  
  “Yes or No”
  
  “Y Yes”
  
  “แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วล่ะ นายชอบเขา!!! ชอบเขามาก!!! อาจจะรักไปแล้วแต่นายไม่รู้ใจตัวเอง” ผมเงียบ พูดอะไรไม่ออก
  
  “ฉันเดาว่าตอนนี้นายกำลังทำหน้ายุ่งแล้วทึ้งผมตัวเองอยู่”
  
  “รู้ดี!!” วิคตี้หัวเราะ เหอะ! ได้ใจไปเถอะ
  
  “ถามจริงนะ นายกับเขาจูบกันหรือยัง?” เฮือก!!!
  
  “เอ่อ.. จ จูบแล้ว..” ผมตอบเสียงเบา แม่งต้องล้อผมแน่ ๆ
  
  “กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! เรียลลี่!!! นายรู้สึกยังไงตอนนั้น หัวใจเต้นแรง? เขิน? หน้าร้อนวูบ? อยากทำมากกว่าจูบ?”
  
  “เฮ้!! อย่าเพ้อให้มากนัก!! ก็แค่รู้สึกแปลก ๆ เท่านั้นแหละน่าาา!” พอพูดเรื่องจูบ ภาพเหตุการณ์วันนั้นก็ดันไหลเข้ามาในหัวซะงั้น ผมยกมือพัดหน้าเมื่ออยู่ ๆ ก็ร้อนวูบขึ้นมา ทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
  
  “จ้าาาาา เป็นไง เขาจูบเก่งไหม?”
  
  “.....มาก.....”
  
  “กรี๊ดดดดดดดดด!! โอ้มายก็อด!!! นายกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้าเบบี๋!! วิคเตอร์ต้องรู้!! Victor!! Where are you!!!?” ให้ตายเถอะ โคตรคิดผิดเลยที่โทรหายัยนี่
  
  “เธอกำลังทำให้ฉันคิดว่าไม่น่าโทรหาเธอเลยวิคตอเรีย...”
  
  “โนโนเบบี๋ นายคิดถูกสุด ๆ แล้วที่โทรหาฉัน คิก นายต้องจีบเขานะ ขอเขาเป็นแฟนเลย!” ผมกลอกตา
  
  “ยัยบ้า! เลิกเพ้อได้แล้ว แค่นี้แหละ ฉันจะนอนแล้ว ขอบคุณที่ฟังฉันและขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ไม่น่าทำตามเลยสักนิด!”
  
  “ฮ่าๆๆๆๆ กู๊ดไนต์จ้าาา คิดถึงนายนะ บาย”
  
  “Me too, bye”
  
  
  หลังจากวางสายจากวิคตอเรีย ก็เป็นไปตามที่ยัยนั่นพูดไว้เป๊ะว่าผมอาจนอนไม่หลับ ผมนอนมองเพดานท่ามกลางความมืดมือก็หมุนโทรศัพท์ไปมา ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ยังช็อกไม่หายเลยครับ เฮ้อออ สรุปคือผมชอบไรเฟิลจริง ๆ ใช่ไหม? ชอบ แบบ ชอบเลยนะ มากกว่าเพื่อนน่ะนะ? ผมมันจริง ๆ เหรอ? แล้วความรู้สึกนี่มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน โอเค! ผมอาจจะรู้ชอบมันนานแล้วอย่างที่วิคตอเรียว่า เพียงผมยังสับสนและไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง เพียงเพราะเราเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน และผมคงคิดว่ามันไม่น่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่มัน มันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งก็คือผม คือผมเองที่คิดกับอีกฝ่ายเกินเลยมากกว่าคำว่าเพื่อน แล้วไอ้ความรู้สึกหงุดหงิดของผมที่เกิดขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ จริง ๆ คือผมหึง.. เหรอวะ? บ้าชะมัดเลย!
  
  ตอนนี้จะตีสี่อยู่แล้ว ผมยังตาสว่างโล่ หลับไม่ลงจริง ๆ ครับ แค่หลับตา หน้าหล่อ ๆ ของไรเฟิลก็ลอยไปมา โอ้ยยยยยยยยยยยยย!!! ผมเกลียดตัวเองตอนนี้ชะมัด ไม่นอนก็ได้วะ!


-----------------------------------

TBC.

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เขารู้ใจตัวเองแล้วอ่ะแกรรรรรรรรรรรร
งานนี้ต้องขอบคุณวิคตอเรียนะ 55555555555555555555555555
นิยายยืด ๆ เนอะ น่ารำคาญอ่ะ ฮืออออออออออออ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ทุกคนเลยนะคะ ~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2014 23:16:31 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
«ตอบ #48 เมื่อ22-11-2014 22:26:27 »

รู้แล้วใช่ไหม

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
«ตอบ #49 เมื่อ23-11-2014 20:36:32 »

น่ารักมากเลย ชอบๆๆๆ ดีใจที่เจอเรื่องนี้ เย้ๆๆๆๆ
เพราะวิคตอน่ะเนี่ยทำให้เจ้าหญิงเริ่มรู้ใจตัวเอง อิอิ
มาไวไวๆๆๆน่ะ รอจร้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
« ตอบ #49 เมื่อ: 23-11-2014 20:36:32 »





ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 12 (22.11.2014)
«ตอบ #50 เมื่อ24-11-2014 17:32:24 »

รอพี่ปืนกดน้อง 555  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
«ตอบ #51 เมื่อ25-11-2014 20:40:55 »

EPISODE 13




         “เป็นอะไรวะ? หน้าโคตรง่วง”

  “อื้อ เมื่อคืนไม่ได้นอน”
  
  “หื้อ?”
  
  “ทำรายงาน มองนาฬิกาอีกทีฟ้าก็สว่างแล้ว” อ่า... ผมไม่ได้โกหกแต่อย่างใด้นะครับ หลังจากคุยกับวิคตอเรียอาการฟุ้งซ่านของผมไม่หายไปเลยสักนิด ซ้ำยังจะหนักกว่าเก่า ผมเลยลุกมาทำรายงานที่ต้องส่งอาทิตย์หน้าจนเสร็จ แถมยังมีเรียนเช้าอีกด้วย ก็เลยไม่ได้นอนเลย แต่ตอนนี้โคตรง่วงเลย เช้านี้ผมก็มาพร้อมไรเฟิลอยู่ดี เจอหน้ามันแล้วคำพูดของวิคตอเรียก็ลอยวนอยู่ในหู สะบัดยังไงก็ไม่หลุด ชิ่งหลับแม่งเลยแล้วกัน
  
  

  
  “ควอทซ์ ตื่น”
  
  “อื้อ” ผมส่งเสียงรำคาญกับสิ่งที่กำลังรบกวนการนอน
  
  “ถึงแล้ว ตื่น” ลืมตาขึ้นแล้วหลับลงอีกครั้งเมื่อโดนแสงกระทบจัง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่และปรับโฟกัสให้ชัด
  
  “เฮือก!” ผมผงะเมื่อรู้ว่าหน้าไรเฟิลอยู่ไปไม่ไกล ไอ้หัวใจนี่ก็เต้นแรงจังเลยเว้ย!!
  
  “ป ไปล่ะนะ ขอบคุณมาก บาย” ผมพูดรัว ๆ แล้วเปิดประตูออกไป พอมาถึงห้องเรียนก็ถอนหายใจเฮือก ไม่ไหว แบบนี้ไม่ไหวแน่ ทำไมพอรู้ความรู้สึกตัวเองแล้วมันเหนื่อยแบบนี้เนี่ย เฮ้ออออออ อีกเกือบสิบห้านาทีจะเริ่มคลาส ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วฟุบหน้าลง ของีบก่อนแล้วกันนะครับ...
  
  
  

  
  
  “ไอ้ควอทซ์!!!”
  
  “สัด!” ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงแหลม ๆ ของบะหมี่กับแรงเขย่าจากไอ้ไนต์
  
  “เป็นไรวะ เมื่อคืนไม่ได้นอนไง?”
  
  “เออ!” พวกมันอ้าปากกำลังจะพูดแต่อาจารย์เข้ามาซะก่อน บะหมี่แยกไปนั่งกับเพื่อนสาวของมัน ส่วนไอ้ไนต์ก็นั่งลงข้างผม
  
  “เลคเชอร์เผื่อกูด้วยนะ” เรียนไปได้ประมาณสามสิบนาทีผมก็กระซิบบอกไอ้ไนต์ไม่รอให้มันได้ปฏิเสธผมก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที
  
  “ห่าแม่ง!” ได้ยินมันบ่นแต่ผมไม่สนใจ กูง่วง จะนอนโว้ยยยยย!
  
  
  
  รู้สึกตัวตื่นก็ใกล้จะหมดคาบแล้ว ลูบหน้าลูบตาปิดปากหาว ผมนี่นะ หลับในคาบ ท้าทายอาจารย์และสั่นคลอนตำแหน่งเด็กทุนของตัวเองมาก
  
  “ง่วงก็กลับบ้านไปนอนไปไอ้สัด” ผมยักคิ้วใส่หมาไนต์ ค้นเอาทิชชู่เปียกในกระเป๋ามาเช็ดหน้า อาการมึน ๆ ยังเหลืออยู่ ทำไมรู้สึกยิ่งนอนยิ่งง่วงวะเนี่ยยยย
  
  


  
  “พี่ควอทซ์โว้ยยยยย!!! พี่ไนต์สวัสดีค่ะ” ผมสะดุ้งตกใจ อยู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนนึงวิ่งมาดักหน้า ในขณะที่ผมกับไอ้ไนต์กำลังเดินอยู่ที่หน้าตึก พอมองดี ๆ แม่งน้องรหัสผมนี่หว่า แล้วดูมันทักผมกับไอ้ไนต์โคตรแตกต่าง
  
  “เหี้ย!! ตกใจหมด มีไรวะ?” ผมถาม
  
  “โหยยย! พูดกับน้องดี ๆ หน่อยก็ไม่ได้ คืองี้นะเจ๊ พี่สองบอกให้เจ๊โทรหาค่ะ ได้ยินว่าจะคุยเรื่องเลี้ยงสาย”
  
  “เรียกเจ๊เดี๋ยวกูยันไปนู้น แล้วทำไมไอ้พี่สองไม่โทรมาหากูเองอะ?” ไอ้พี่สองนี่เป็นพี่รหัสผมเองครับ มันอยู่ปีสี่ ส่วนไอ้เด็กนี่เป็นน้องรหัสปีหนึ่ง
  
  “มิกิเพิ่งเดินสวนกับพี่สองมาเมื่อกี้ พี่มันพูดเร็ว ๆ แล้วก็วิ่งไปไหนไม่รู้ ยุ่ง ๆ มั้ง”
  
  “อื้อ ๆ เดี๋ยวโทรหาเอง ขอบใจมาก” แล้วมิกิมันก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาเพื่อน มิกิเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก สูงถึง 160 หรือเปล่าไม่รู้ ลูกครึ่งญี่ปุ่น ผิวขาว ตาโต ตัดผมม้า แบ๊ว ๆ น่ารัก คาวาอี้ แต่นิสัยก็แสบเซี้ยวพอควรเลย มีมันเป็นผู้หญิงคนเดียวในสาย พี่ ๆ เลยค่อนข้างโอ๋ แต่ก็แกล้งหนักพอกัน ฮ่า ๆๆ ส่วนน้องรหัสปีสองของผมมันชื่อพี จะว่าไปแล้วไม่ได้เลี้ยงสายนานแล้วนี่หว่า ไม่ได้แบบนี้ต้องจัดให้เต็ม!
  
  “มิกิแม่งคนหรือตุ๊กตายางวะ” ไอ้ไนต์มันพูด
  
  “สัด! พูดอะไรให้ัมันดี ๆ หน่อย แต่ตอนเด็กแม่มันเอาคิตตี้เลี้ยงหรือเปล่าวะ” พูดจบก็หัวเราะกัน ถ้ามิกิมันมาได้ยินคงจะงอนพวกผมไปหลายวัน
  
  



  
  
  “แดกไม่รอไอ้สัด!” ไอ้ไนต์ตบหัวกายไปเต็ม ๆ จนอีกฝ่ายสำลักขนมจีบค่อกแค่ก ผมหัวเราะขำก่อนจะหยุดเสียงหัวเราะลงเพราะมีคนที่ผมไม่รู้จักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เป็นผู้หญิงครับ หน้าก็.. สวย เธอนั่งอยู่ข้างไรเฟิล แขนทั้งสองของโอบกอดแขนของไรเฟิลเอาไว้ จะแย่ป่ะวะถ้าผมรู้สึกอยากเบ้ปากใส่ภาพนั้น
  
  
  “หิวแย้ววววว ไปซื้อข้าวกันนนน” ผมพูดจบก็ลากไอ้ไนต์ออกไปทันที
  
  “ห่าเอ๊ย! ถ้าากูล้มจะทำไงห้ะ!?”
  
  “หัวเราะไง” ยักคิ้วไปหนึ่งทึ ไอ้ไนต์ตบเพี้ยะเข้ากลางหน้าผากผมเต็ม ๆ จนผมด้านหน้าสะบัด เจ็บ!!!
  
  “สัด! จะกินไรวะ?”
  
  “อืมมมมมม.... ก๋วยเตี๋ยว!!!”
  
  “จัดไป!!!”
  
  
  



  “หมี่เหลืองหมูต้มยำพิเศษไม่ใส่หอมไม่ใส่กระเทียมครับ” ยืนรอสักพัก พอได้ตามที่สั่งผมก็ขยับออกมาปรุง แล้วรอไอ้ไนต์ กว่าจะถึงคิวพวกผมนี่ก็นานพอสมควรเลย เพราะร้านนี้ลูกค้าเยอะม้ากกกกกกกกกมาก! เพราะมันอร่อยมาก!
  
  “ป่ะ” ผมกับไนต์เดินกลับมาที่โต๊ะ หมาไนต์มันดันไปนั่งข้างฝั่งเดียวกับฟอร์สและกาย ถ้าผมไปนั่งด้วยคงเบียดกันตาย แต่มันสามคนก็ตัวใหญ่มากแล้ว ผมเลยต้องนั่งลงข้างไรเฟิลอย่างปฏิเสธไม่ได้
  




  
  “ละเมอป่ะเนี่ยน้องควอทซ์”
  
  “งั้นมั้ง เหี้ยฟอร์ส!! ลูกชิ้นลูกกู!!” ไอ้ฟอร์สนิสัยไม่ดีแม่ง แยกลูกชิ้นผมไปกินหน้าตาเฉย
  
  “ไม่รู้แม่งไปอดนอนมาจากไหน ในคลาสก็หลับทั้งคลาสทิ้งให้กูเรียนคนเดียว” ไอ้หมาไนต์บ่น
  
  “หน้าอย่างมึงเรียนด้วยเหรอวะ?” ฟอร์สถามหน้าซื่อ
  
  “สัด!”
  
  

  “แค่ก ๆๆ” กิน ๆ อยู่ดันสำลักน้ำซุปซะงั้น ไอ้พวกเหี้ยนี่ก็รักกูมากเลย ยกแก้วน้ำหนีกูหมด! ผมเลยคว้าแก้วน้ำที่อยู่ตรงหน้าไรเฟิลมาดื่ม คงเป็นของมันแหละมั้ง ไอค่อกแค่กน้ำหูน้ำตาไหลแสบคอไปหมด
  
  “ระวังหน่อย” เสียงทุ้ม ๆ นั้นพูด ผมเอียงหน้าไปมองก็เห็นมันมองอยู่ พอสายตาสบกันพอดีหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมาซะงั้น เลยต้องรีบหันไปทางอื่น
  
  “พวกมึงแม่ง!!” ไอ้หมาสามตัวหัวเราะเสียงดัง แกล้งกูได้นี่สนุกกันใหญ่ อย่าให้ต้องเอาคืนนะ!
  
  “พวกพี่ดูสนิทกันจังเลยนะคะ” น้องนิ้ง(เพิ่งรู้จักชื่อเมื่อห้านาทีก่อนเพราะได้ยินเธอแทนชื่อตัวเองตอนพูดกับไรเฟิล)
  
  “หือ?”
  
  “ไม่น่าเชื่อว่าพวกพี่กับพี่ควอทซ์จะมาเป็นเพื่อนกันได้เลยค่ะ” เธอยังคงพูดต่อ ‘พวกพี่’ ที่เจ้าตัวหมายถึงก็คงพวกสี่สหาย แต่ตรงชื่อผมถ้าผมไม่ได้คิดไปเองมันติดเหยียดหน่อย ๆ นะ
  
  “เหรอครับ? แล้วทำไมพวกพี่ ถึงจะเป็นเพื่อนกับควอทซ์ไม่ได้ล่ะครับ?” ไนต์พูด มันเองก็ย้ำตรงคำว่า พวกพี่ เหมือนกัน
  
  “ก็พี่ควอทซ์เป็น...”
  
  “เด็กทุน?” ผมต่อให้ก่อนที่เธอจะพูดจบ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกถ้าจะมีคนมาดูถูกเรื่องที่ผมเป็นเด็กทุน ผมไม่โกรธเพราะมันคือเรื่องจริง  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมโดนแบบนี้ ผมอยู่ที่นี่มาเกือบ 3 ปี มหาวิทยาลัยเอกชนแบบนี้คงมีแต่ลูกคุณหนู ครอบครัวร่ำรวย เด็กทุนก็มีไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ คุณคิดว่าผมโดนดูถูกบ่อยขนาดไหนล่ะ บอกตรง ๆ นะ ชิน..
  
  “หึ ถ้าให้คบกับพวกลูกคุณหนูแต่ไม่จริงใจ พี่ขอคบกับเด็กทุนแบบควอทซ์ดีกว่าครับ พี่แนะนำให้ลองดูตัวอย่างจากเพื่อนน้องก็ได้นะครับ” กายพูดแล้วแสยะยิ้ม น้องนิ้งหน้าเสียไปเลย
  
  “ถ้าจะมาพูดอะไรแบบนี้ก็กลับไปซะ”
  
  “พี่ไรเฟิล.. นิ้ง นิ้ง.. ไม่ได้ตั้งใจ”
  
  “โดนไล่ขนาดแบบนี้ เป็นพี่พี่ไม่กล้าอยู่หรอกนะครับ” ฟอร์สพูดแล้วยิ้ม ยิ้มหวานแต่มองดูแล้วกลับขนลุก
  
  “หึ! นิ้งก็ไม่อยากร่วมโต๊ะกับเด็กทุนหรอกค่ะ ยี้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจแล้วเดินกระแทกเท้าออกไป บางคนน่าตาดีใช้ว่า ความคิดจะดี...
  
  “เหอะ! เด็กมึงนี่ปากดีจริง ๆ” ไนต์พูด ไรเฟิลไหวไหล่
  
  “โอเคเปล่า?”
  
  “สบายยย ไม่สะเทือนความรู้สึกกูหรอก” พูดจบก็ยักคิ้วไปให้พวกมัน เลยโดนรุมยีหัวไปซะงั้น
  
  
  



  .....................................................
  
  


  
  
  “โว้ยยยยยยยยยยย!!! พวกมึงแม่งโกงกูแน่ ๆ” เสียงของกายโวยวายลั่น ตอนนี้มันมารวมตัวกันอยู่ที่คอนโดของไรเฟิลตั้งแต่เลิกเรียนจนตอนนี้ก็จะสองทุ่มแล้ว ผมเองก็ทำงานของผมเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้กำลังทำกับข้าวให้พวกมันกินอยู่
  
  “มึงกากไอ้สัด อย่ามาโทษพวกกู” เสียงฟอร์สสวนกลับ ตอนนี้พวกมันเล่นไพ่กันอยู่ กายนี่อ่อนสุดในกลุ่มเลยเรื่องการพนัน แต่มันดันชอบเล่น ว่าที่นักกฏหมายเล่นไพ่ เออ เอากับมันดิ
  
  
  “จะเอาอะไรอะ?” ผมถามไรเฟิลที่เดินเข้ามาในครัว ร่างสูงยืนกอดอกหันหลังพิงกับเคาน์เตอร์
  
  “ไม่เอา”
  
  “เอ้า แล้วเข้ามาทำไม ออกไปข้างนอกนู่นนน”
  
  “กล้าไล่กู?”
  
  “อือ ไล่ เกะกะ” ผมแลบลิ้นใส่มัน เลยโดนเตะป้าบเข้าเต็ม ๆ โห แทบทรุด เดี๋ยวกูเอาตะหลิวฟาดหน้า
  
  “เดี๋ยวจะโดน”
  
  “ไรหยออออออ อ้ากกกกก!!” ผมร้องลั่น ก็ไรเฟิลมันเข้ามาล็อคคอผมอ่ะดิ แม่งแรงควายชะมัด ล็อคเฉย ๆ ไม่พอ แม่งยังเอามืออีกข้างกดหัวผมจนชิดกับอกตัวเองอีก
  
  “หึหึ”
  
  “ปล่อยยยย” ผมฟาดมือตีมันรัว แต่แม่งไม่สะท้านเลย
  
  “เจ็บ ๆๆ ไรเฟิลลลล ปล่อยยยยยยย”
  
  “เล่นไรกันวะ?”
  
  “กายยยยยยย ช่วยด้วยยยย แค่กๆ”
  
  “ฮ่าๆๆ หน้ามึงโคตรตลกอ่ะน้องควอทซ์ ไอ้ไนต์!! เอาโทรศัพท์กูมาดิ้!!” สัด!!! ไม่ช่วยแล้วยังจะทำร้ายซ้ำ
  
  “ไรเฟิล. . . เราเจ็บ” เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ลองไม้อ่อนแล้วกัน ผมพูดเสียงเบาน้ำเสียงติดจะอ้อน ให้ได้ยินกันแค่สองคน ไอ้กายกับไอ้ไนต์มันกำลังถ่ายรูปแบล็คเมล์ผมอยู่ สักพักฟอร์สก็มาสมทบ ผมเลยมุดหน้ากับอกของไรเฟิลซะเลย(เอ่อ... ไม่ได้อ่อยนะเว้ย)
  
  “มุมนี้แม่งสวยสัด อัพแม่งเลย” เสียงไอ้หมาสามตัวมันคุยกัน ผมกัดปาก ขยุ้มเสื้อไรเฟิลแน่น อยู่ใกล้กันแบบนี้ไม่ดีเลย ถ้าไรเฟิลได้ยินเสียงหัวใจผมล่ะ!!!
  
  “ไรเฟิล..”
  
  “อื้อ” ไรเฟิลปล่อยผมแล้ว และมันก็เดินไปหาเพื่อนมัน ผมพ่นลมหายใจออกมา ทั้ง ๆ ที่ยืนเฉย ๆ ทำไมรู้สึกเหนื่อยแบบนี้ หัวใจทำงานหนักเป็นบ้าเลย
  
  

  
  
  
  “เดี๋ยวพวกกูไปส่งไอ้น้องควอทซ์เอง” หลังจากเล่นกันอยู่นาน ก็ควรกลับบ้านไปพักผ่อนเสียที
  
  “หาวววว” ผมอ้าปากหาวบวกกับตาที่ใกล้จะปิด ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะสี่ทุ่ม แต่กลับง่วงมาก ๆ คงเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน
  
  “งั้นก็นอนนี่แหละ!” ผมหันควับไปมองหมาไนต์พร้อมกับสั่นหัวรัว
  
  “เอาไง เร็ว ๆ ดึกแล้วเนี่ย”
  
  “ไอ้ควอทซ์จะนอนนี่” ไรเฟิลแม่งพูดอะไรไม่ปรึกษาเลย
  
  “ไม่อาววววว”
  
  “ตามนี้ พวกมึงกลับไปได้ล่ะ”
  
  “แสดงว่าคืนนี้ไม่ออก หึ ไปล่ะ” แล้วไอ้หมาสามตัวก็เดินออกไปจากห้อง ผมกำลังจะตามไปแต่ถูกคว้าแขนเอาไว้ พร้อมกับประตูที่ปิดลงดัง ปัง!
  
  
  

  “เล่นอะไรเนี่ย!!”
  
  “ไม่ได้เล่น”  ไรเฟิลยกยิ้มมุมปาก ผมล่ะอยากข่วนหน้าแม่งสักที!! ทำไงได้ล่ะ จะกลับก็กลับไม่ได้ อะไรก็ไม่รู้!!!
  
  “หาชุดให้ด้วย!” ไรเฟิลเลิกคิ้ว
  
  “ในตู้เลย หาเองครับ” มันเคาะหัวผมทีนึงแล้วเดินผ่านหน้าผมไป จิ๊! หาเองก็ได้วะ ผมเลือกหยิบกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดของไรเฟิลมา จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำ เจ้าของห้องไม่ไหนไม่รู้ ณ จุดนนี้ผมยึด หลังจากอาบน้ำเสร็จ พอออกมาก็เจอไรเฟิลนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ ชุดพร้อมนอนมาก กางเกงวอร์มตัวเดียว เสื้อไม่ใส่อีก
  
  “อ้าว...” ผมส่งเสียงงง ๆ
  
  “อาบไหนอะ?” ผมถาม
  
  “ข้างล่าง” อ่า... ผมปืนขึ้นไปนั่นบนเตียง คลุมผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนหัว ผมที่เพิ่งสระยังไม่เช็ด
  
  “เช็ดผมให้โหน่ยยยยย” ผมเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจเช็ดผม ส่วนใหญ่จะปล่อยให้มันแห้งเอง แต่ว่าวันนี้ถ้าปล่อยให้แห้งเองตงไม่ได้นอน ไรเฟิลปรายตามอง มันเลยยิ้มอ้อนไปที มันสั่นหัวแล้วทำหน้าหน่าย แต่ก็ยอมอยู่ดี ^O^
  
  “ขยับมา” ผมยิ้มกว้าง รีบขยับตัวนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาไรเฟิล เดี๋ยวมันเปลี่ยนใจก่อนก็แย่ดิ ไม่ดี ๆ ระหว่างที่ให้ไรเฟิลเช็ดผมให้ผมก็เล่นโทรศัพท์ไปพลาง
  




  “เฮ้ย!!!”
  
  “อะไร?” ผมยื่นจอให้ไรเฟิลดู มันเป็นรูปภาพที่กายเป็นคนอัพโหลดลงในแอพพิเคชั่นที่ชื่อว่าอินสตาแกรมเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้ว พร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพที่มีเพียงอิโมจิขยิบตาข้างหนึ่งแล้วแลบลิ้นกับอีกตัวคือลิงเอามือปิดตา ในรูปไม่เห็นหน้าหรอกและมันก็ไม่ได้แท็กใครด้วย แต่ผมก็พอรู้ว่าคนในภาพคือผมกับไรเฟิล เป็นภาพที่ไรเฟิลมันล็อคคอผมแล้วมืออีกข้างก็กดหัวผมอยู่ ส่วนผมก็มุดอยู่ที่อกของมัน เห็นมือข้างที่ผมกำชายเสื้อของอีกฝ่ายด้วย มองแบบนี้ไม่ต่างจากกอดกันเลยสัดนิด... ตึกตึก ตึกตึก...
  
  “สวยดี”
  
  “โว้ะ!” ผมดึงโทรศัพท์คืนมา เลื่อนดูคอมเม้นท์ ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่ถามว่าคนในรูปคือใคร เพราะมันไม่เห็นหน้าแล้วยังใส่ฟิลเตอร์เป็นขาวดำอีก
  
  “หึหึ” ผมดูรูปจากหน้าฟีดไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเบิกตาโต ไม่ใช่เจออะไรเข้าหรอกครับ แต่เพิ่งจะนึกออกว่าลืมโทรหาไอ้พี่สองก็ตอนที่เห็นรูปที่มันอัพโหลดเมื่อเก้าชั่วโมงที่แล้ว โทรไปตอนนี้คงไม่เป็นไรมั้ง ผมคิดพร้อมกับกดโทรออก รอสายอยู่นานมันก็กดรับพร้อมกับน้ำเสียงโคตรเหวี่ยง
  
  “โทรมาเหี้ยอะไรตอนนี้วะ!! ...แป๊บนึงนะครับเกล”
  
  “อ้าว ก็มิกิมันบอกให้โทรหาพี่นี่หว่า”
  
  “โทรมาถูกจังหวะมากได้สัด!”
  
  “เอากับเมียอยู่หรอวะ?”
  
  “เออ!!” คราวนี้ผมหัวเราะลั่น เสียงมันโคตรหงุดหงิด ฮ่าๆๆๆ
  
  “แล้วตกลงจะไปวันไหน”
  
  “อืม...... อ โอ๊ย!! เจ็บ ไรเฟิล! เบา ๆ ดิ!” ผมร้องโวยวายก็ไรเฟิลมันขยี้หัวผมซะแรงเลย
  
  “ทำไรอยู่วะ! ถ้าไม่ว่างวันหลังค่อยโทรมาก็ได้นะ กูไม่รีบ หึหึ” ไอ้เหี้ยพี่สองมันพูดกลั้วหัวเราะ คิดอะไรของมึงเนี่ย!!
  
  “ไม่มีอะไรทั้งนั้นอ่ะ!! วันศุกร์แล้วกันจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องตื่นไปเรียน”
  
  “ตามบัญชาครับ แค่นี้แหละกูจะไปต่อกับเมีย พวกมึงก็อย่ารุนแรงนะ เดี๋ยวตื่นไปเรียนไม่ไหว กร้ากกกกก!” สัดหมาไอ้เหี้ยพี่สอง!!!! 
  
  “ไป เสร็จแล้ว” ไรเฟิลพูดพลางผลักหัวผมจนแทบหงาย กว่าจะแห้งก็นานอยู่นะ ผมหนาก็งี้ - -
  
  “ขอบคุณครับ โอ๊ย!” คราวนี้หงายจริง ๆ เลยครับ ไอ้เหี้ยยยยยยยยย ผมปาหมอนใส่มันแล้วยืดตัวไปคว้าที่ชาร์จแบตฯมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์แล้ววางไว้บนโต๊ะหัวเตียงตั้งนาฬิกาปลุกไว้เรียบร้อย
  
  “หาววววว”
  
  “พรุ่งนี้มึงเรียนกี่โมง?” ผมพลิกตัวหันมาทางไรเฟิล ดึงผ้าห่มที่ปิดหน้าออก
  
  “บ่ายโมง”
  
  “อืม นอนไปซะ รำคาญ”
  
  “จิ๊ ฝันดีนะครับน้องไรฟ์” ผมยื่นมือไปลูบหัวมันเหมือนกล่อมเด็ก แต่เจ้าตัวมันปัดออกแล้วมองผมตาขวาง ผมพลิกตัวนอนหงายอีกครั้ง ตามองเพดานท่ามกลางความืดสลัว คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะความเพลียพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างและจังหวะหัวใจที่เต้นระรัว. . .
  



  “ฝันดี..”




-----------------------------------------

TBC.

แฮ่ สวัสดีค่าาา เอาตอนสิบสามมาส่งแล้วววววววววววววววววววววว
ถ้ามีคำผิดก็ขอโทษด้วยเนอะ พอดีแป้นพิมพ์ของเราไม่มีภาษาไทย .พับเพียบร้องไห้  :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2014 22:37:24 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
«ตอบ #52 เมื่อ25-11-2014 20:58:14 »

ฮ่าๆๆๆ โทรไปได้จังหวะมากกกกก
ละมุนๆๆๆๆ มีหวงด้วย ฮิ้วๆๆๆๆๆ
แบบว่าไม่ได้ช่วยดูคำผิดให้เลย อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
«ตอบ #53 เมื่อ25-11-2014 21:14:08 »

เดี๋ยวได้หงายเงิบตอนฐานะเผย

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
«ตอบ #54 เมื่อ26-11-2014 21:02:31 »

รู้สึกขัดใจ   :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
«ตอบ #55 เมื่อ26-11-2014 22:50:50 »

 :L2:

ออฟไลน์ minibusez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 13 (25.11.2014)
«ตอบ #56 เมื่อ27-11-2014 19:53:56 »

รออยู่น้า น้องควอทซ์  :ruready ชื่อเขียนยากมากฮะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2014 20:52:26 โดย minibusez »

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
«ตอบ #57 เมื่อ28-11-2014 20:45:02 »

EPISODE 14






  


  “อื้ออออ” ผมาส่งเสียงรำคาญ เอามือลูบน้ำเย็น ๆ ออกจากใบหน้า(ไม่ใช่น้ำลายนะครับ)แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้มิดหัว
  
  “เที่ยงแล้วไอ้สัด!!”
  
  “อีก 5 นา... ห เหี้ย!!!” ผมเด้งตัวลุกขึ้น พอปรับโฟกัสได้สายตาก็ป๊ะ! เข้ากับนาฬิกาที่ตั้งอยู่ไม่ไกล 8 โมง 49 นาที ......
  
  “ไอ้หมาไรฟ์!!!” ไรเฟิลหัวเราะ เอามือจุ่มน้ำในแก้วแล้วดีดใส่หน้าผม
  
  “หึหึ กูหิว” มันบอกแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไป สัดเอ๊ย!! ไม่มีใครสอนหรอว่าไม่ให้รบกวนคนนอน !!!! ผมทุบตีหมอนแทนไอ้ตัวการ จะนอนอีกรอบก็คงไม่หลับเลยลุกไปล้างหน้าแปลกฟัน ลงมาข้างล่างก็เจอคุณชายมันกำลังดูทีวีอยู่ ผมค่อย ๆ ย่องเข้าไปด้านหลังไรเฟิลก่อนจะคว้าหมอนฟาดใส่มันไปเต็ม ๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีเข้าไปในครัว ไม่งั้นเดี๋ยวคุณชายแม่งเอาคืนหนักกว่านี่ผมตายแน่ ๆ ผมค้นตู้เย็นหาวัตถุดิบมาทำอาหารเช้าให้มัน


  เจอขนมปังที่กำลังจะหมดอายุอีกสองวันข้างหน้า  งืมมมม.... ทำแซนวิซแล้วกัน ผมหยิบขนมปัง แฮม ผักกาดหอม มะเขือเทศ เบค่อน ไข่ไก่ มายองเนส เนย แล้วก็ ชีสแผ่น ออกมา  ขั้นตอนแรกก็ล้างผักก่อนครับ แล้วจากนั้นก็เอาผักกาดหอมมาฉีก หั่นมะเขือเทศให้เป็นแว่น เมื่อเตรียมผักเสร็จก็ทอดไข่ดาวอีกสองฟอง ให้สุกทั้งไข่แดงและไข่ขาว เมื่อไข่ดาวสุกก็ต่อด้วยแฮมและเบค่อน ระหว่างนั้นก็ปิ้งขนมปังไปด้วย เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ลุยเลยครับ! เอาเนยทาขนมปังแผ่นแรกจากนั้นก็วางไข่ดาวลงไปตามด้วยแฮมวางขนมปังแผ่นที่สองแล้วทาเนยอีกครั้ง ใส่ชีสไปหนึ่งแผ่น ต่อไปก็มะเขือเทศที่หั่นเอาไว้ตามด้วยเบค่อนและผักกาดหอมแล้วก็โปะขนมปังแผ่นที่สามลงไป ใช้มีดตัดให้เป็นสามเหลี่ยมวางใส่จานแล้วราดมายองเนสด้วยบน เสร็จเรียบร้อยไปแล้วหนึ่งชุด แล้วก็เริ่มทำอีกชุดสำหรับของผมเอง
  



  “เสร็จแล้ว!!!” ผมตะโกนลั่น ไปล้างมือ ไอ้คุณชายเดินหน้ายุ่งเข้ามา มันปรายตามองแซนวิซบนโต๊ะแล้วมองหน้าผม
  
  “มองแบบนี้หมายความว่าไง ห้ะ!” ผมพูดพลางเอาส้อมชี้หน้าไรเฟิลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม คุณชายมันเปลี่ยนไปใส่ชุดนักศึกษาแล้วครับ แต่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย - -
  
  “เปล่า” มันยักไหล่แล้วเริ่มกิน ผมนี่ลุ้นตัวโก่งเลย อยู่ ๆ ก็ไม่มั่นใจซะงั้น
  
  “เป็นไง?” ไรเฟิลเงียบไปนานบวกกับหน้านิ่ง ๆ ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ยิ่งทำให้ผมใจเสีย
  
  “...ก็ดี”
  
  “ฟู่วววว~” ผมถอนหายใจโล่งอกก่อนจะยิ้มออกแล้วเริ่มกินของตัวเองบ้าง
  
  “ลุ้นอะไรขนาดนั้น”
  
  “มึงไม่เคยทำอาหารนี่ ไม่เข้าใจหรอกว่ามันต้องคิดเยอะขนาดไหน”
  
  “แล้วต้องคิดเยอะขนาดไหน?”
  
  “อืม... ก็ทำแบบนี้คนกินจะชอบไหม ถ้าใส่อันนี้เขาจะกินหรือเปล่า ถ้าทำอันนี้มันจะออกมารสชาติดีไหม มันจะถูกปากคนกินหรือเปล่า แล้วถ้าคนที่กินไม่ชอบอาหารที่เราทำไมล่ะ บลา ๆๆ.....”
  
  “ชอบ”
  
  “หื้อออ?”
  
  “ก็บอกว่าชอบ ชอบอาหารที่มึงทำ .....ทุกอย่าง....” ผมนิ่งค้างกับสิ่งที่ได้ยิน หน้าร้อนฉ่าราวกับมีไฟมาจุดอยู่ ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ
  
  “เอ่อ...” ผมเกาแก้ม เกาท้ายทอยแก้เก้อ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน บอกตรง ๆ เลยนะเว้ย! เขิน! เขินเหี้ย ๆ อ่ะ ไอ้สัดเอ๊ย! ตาย ๆๆ หุบยิ้มยังไงบอกผมที!
  
  “อะไร? แค่นี้เขิน? อ่อนว่ะ” ผมเบ้ปาก ตอนนี้อารมณ์ดี กูไม่โกรธก็ได้ ผมโคตรรู้สึกดีเลยอ่ะบอกเลย มันบอกว่าชอบอาหารที่ผมทำนั่นก็ว่าดีใจแล้ว แล้วแม่งยังบอกต่ออีกว่า ทุกอย่าง ด้วย ให้ตายเถอะ!!! ผมอยากกดปุ่มระเบิดตัวเองชะมัดเลย!!
  
  “หน้าแดงด้วยเว้ย!”
  
  “Shut up!!!”
  
  
  
  
  
  
  ................................................................
  
  
  
  
  
  


  “ไปกัน” ผมกับไรเฟิลเดินออกจากหอพักของผม ผมกลับมาเปลี่ยนชุดอาบน้ำที่หอแล้วตอนนี้ก็กำลังจะไปมหาวิทยาลัยครับ
  
  “รถติดฉิบหาย” ไรเฟิลมันบ่น
  
  “เรื่องปกติ”
  
  “หึ” ผมไม่สนใจไรเฟิล เคาะนิ้วไปตามจังหวะเพลงที่เปิดคลอเอาไว้
  
  
  ครืดดดด ครืดดดด
  
  “ว่า?” ผมรับโทรศัพท์บะหมี่ที่โทรเข้ามา
  
  “มึงอยู่ไหนเนี่ย”
  
  “บนรถ”
  
  “กวนตีน จริงจังดิ กูซีเรียส”
  
  “หื้อ มีไรวะม่า ก็กำลังไปม.เนี่ย”
  
  “ใกล้ถึงยัง?”
  
  “อีกสักพัก มีไรวะ?”
  
  “มาถึงก็รู้เองแหละ รับรองมึงต้องร้อง หึหึ เร็ว ๆ นะมึง กูให้เวลายี่สิบนาที” มันพูดเองเออเองเสร็จสรรพก็วางสายไปทันที
  
  “ไรวะ” ผมมองโทรศัพท์ในมืองง ๆ มันต้องมีเรื่องออะไรเกิดขึ้นกับผมแน่ ๆ
  
  “อะไร?”
  
  “ไม่รู้ว่ะ มาม่าโทรมาบอกให้รีบไปม. มีเรื่องอะไรก็ไม่บอก”
  
  “กูต้องรีบไหม?” - -’
  
  “ไม่ต้อง... แม่งต้องมีอะไรแน่ ๆ เสียงเจ้าเลห์สัด ๆ มึงอย่าขับเร็วนะ”
  
  “กูทำตามแล้วจะได้อะไร?”
  
  “ได้ทำไง อะนี่ ให้ลูกอมอันนึงเลย” ผมพูดพลางยัดลูกอมรสมิ้นต์ใส่ในกระเป๋าเสื้อนักศึกษาของไรเฟิล
  
  “แกะให้ดิ”
  
  “มีมือไหม แกะเองดิ”
  
  “ขับรถอยู่ แหกตาดูด้วย”
  
  “งั้นก็ไม่ต้องกิน... โอ๊ย!!” ไรเฟิลแม่ง! อยู่ดี ๆ ก็เหยียบเบรกกระทันหัน ตัวผมเด้งไปด้านหน้า โดนเข็มขัดนิรภัยรั้งจนกระแทกกลับไปกับเบาะ
  
  “โทษที ตีนลั่น หึหึ” เหี้ยเอ๊ย! ผมกอดอก หันหน้าออกไปมองหน้าต่าง ไม่คุยด้วยแม่ง กูไม่พอใจนะรู้ไว้ด้วย! มันไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก แต่มันก็จุกอ่ะ หลังผมกระแทกเต็มแรงเลยนะเว้ย...
  
  “ไม่ง้อนะ” มันพูดแล้วยื่นมือมาโยกหัวผมไปมา จิ๊! ช่างดิ ใครสน ผมไม่ได้ปัดป้องหรือขัดขืนใด ๆ นั่งนิ่ง ๆ เท่านั้น ก็ไม่สนไง ฮึ่ยยย ไม่รู้พอผมนิ่งมันเลยได้ใจหรือเปล่า จากโยกไปมาก็วางบนหัวผมนิ่ง ๆ เฉ้ยยยยยย แล้วมึงจะม้วนผมกูเล่นทำไมเนี่ยยยยยย หัวคนนะไม่ใช่ที่พักมือ ผมปรายตามองมันนิ่ง ๆ ไอ้คุณชายยักคิ้วมาให้ ผมเลยเมินมันหันกลับมามองนอกหน้างต่างตามเดิม แต่ไอ้ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายไม่นิ่งตามเล่า!!
  
  
  
  
  
  
  
  พอรถจอดสนิทผมก็ลงจากรถไปทันที พร้อมกับปิิดประตูดัง ปัง! ไม่ขอบคุณ ขอบใจ แธ้งกิ้วมายเฟรนด์เหี้ยไรทั้งนั้นอ่ะ
  
  
  
  
  “อิสวยยยยย!!!!”
  
  “เชี่ยม่า! กูตกใจหมด” ผมผลักหัวบะหมี่ ที่วิ่งเข้ามาหาผมจากทิศไหนไม่รู้ ตะโกนเสียงดังอีก
  
  “มึงช้า!!!!”
  
  “ตะโกนหาพ่อง บ้านมึงอยู่ใกล้โรงสีหรือไง!”
  
  “อ้าว ๆ อะไรวะ หน้าบูดเป็นแกงเน่าเลยมึง อารมณ์เสียไรอ่ะ?” ตามันวาววับเต็มไปด้วยความอยากรู้
  
  “ไม่เสือกดิ” ผมยักคิ้วให้มันอีกหนึ่งที มันสะบัดนิ้วกลางมาให้
  
  “ให้รีบมามีไรวะ” ผมถามระหว่างนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปด้วย ลิฟต์คนเยอะ ไม่ไหวจะเบียด
  
  “ไม่ทันแล้วโว้ย!! กูบอกให้รีบมาภายในยี่สิบนาที นี่อะไรให้ปล่อยให้กูรอเกือบชั่วโมง สัด!”
  
  “หึ” ผมไม่ถามต่อว่าผมไม่ทันอะไร จุดนี้คือกูไม่อยากรับรู้เหี้ยไรทั้ง เซ็งมากบอกเลย
  
  “ไม่อยากรู้หน่อยเหรอวะ กูคันปากยิบ ๆ เลยเนี่ย”
  
  “ไม่อ่ะ รู้แล้วทำไมวะ”
  
  “โว้ะ! มึงนี่แม่ง ไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องรู้ รอไอ้ไนต์มาก็ได้วะ ว่าแต่มันไปไหนเนี่ย”
  
  “ไม่รู้ดิ เมื่อคืนหนักมั้ง”
  
  “เออ ๆ ช่างมัน แล้วมึงมายังไง มากับไรเฟิลเหรอวะ?”
  
  “อื้อ” ได้ยินชื่อมันแล้วก็พาลหงุดหงิด รู้ว่าผมไม่พอใจแม่งยังไม่พูดอะไรเลย นิสัย!
  
  “ตีกันมาเหรอวะ?”
  
  “เสือกจังเลยมึงเนี่ย” ผมเดินหนีบะหมี่เข้าไปในห้องเรียน มันก็ยังเสนอหน้ามาป่วนผมอยู่
  
  “บอกเถอะน้าาาา นะสุดสวยยย กูอยากรู้มาก ๆ เลยยยย” บะหมี่กระพริบตาปิ๊ง ๆ เอามือประสานกันไว้ที่อก อ้อนมาก. . . อ้อนตีนกูมาก... ผมปรายตามองแล้วพ่นลมหายใจดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม
  
  “ชิ เมนส์ไม่มาหรือไงวะ” บะหมี่มันพูดเบา ๆ เหมือนบ่นกันตัวเอง แต่ขอโทษครับ กูได้ยิน และผมก็เลือกที่จะไม่สนใจมันตั้งใจเรียน ตลอดคาบบะหมี่มันก็ชวนคุยบ้างบางครั้ง ผมก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง
  
  
  
  
  ..............................................................
  
  
  
  
  
  “จ่ายให้ด้วย” ผมส่งไอศกรีมแท่งให้บะหมี่แล้วเดินไปหยิบขนมปังหมูหยองมาหนึ่งชิ้นกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด ตอนนี้มีเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้เวลาเข้าเรียนคลาสต่อไป และวันนี้ไอ้ไนต์ไม่มาเรียน จากที่เจ้าแม่มันบอกมาคือไอ้ไนต์เมาค้างจากเมื่อคืนแล้วเกิดอาการขี้เกียจ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าแม่งรู้ได้ยังไง สามารถมากจริง ๆ
  
  
  
  “กูถามจริงนะเว้ย มึงเป็นอะไรเนี่ย?”
  
  “เปล่านี่” ผมสั่นหัวประกอบ งับไอศกรีมในมือไปพลาง
  
  “ไม่เชื่อโว้ยยย ปกติมึงต้องพูดมากกว่านี่ดิ ตัวปลอมเปล่าวะ?”
  
  “ไม่มีอะไรจริง ๆ ใครสั่งใครสอนให้มึงทำตัวขี้เสือกวะ”
  
  “ดอก! กูเป็นห่วงได้ไหมล่ะ ห้ะ! มึงเป็นแบบนี้แล้วแปลก ๆ ว่ะ”
  
  ครืดดดดด
  
  “แปลกไงวะ กูก็เป็นของกูแบบนี้” ผมพูดพลางเอาโทรศัพท์มาดู เป็นแจ้งเตือนจากแชทของแอพพิเคชั่นเมสเสจเจอร์ ผมกดเข้าไปดูก่อนจะขมวดคิ้วกับสิ่งที่เห็น หัวใจของผมเต้นระรัวจนปวดหนึบและมือผมกำลังสั่น รูปภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจูบกัน ไม่เห็นหน้าฝ่ายหญิงและเห็นเพียงด้านข้างของฝ่ายชาย แต่ที่ชัดเจนก็คือผมสีบลอดน์เป็นประกายนั่น. . .
  
  “อะไรวะ? เฮ้ยย!!” บะหมี่มันยื่นหน้าเข้ามาดูแล้วฉกโทรศัพท์ไปจากมือผม
  
  “ไรเฟิลเหรอวะ?”
  
  “งั้นมั้ง” ผมไหวไหล่
  
  “แม่งใช่จริง ๆ ด้วยว่ะ แล้วชะนีนี่ใครวะ” บะหมี่หันจอมาให้ผมดู คราวนี้เป็นรูปที่เห็นหน้าชัดเจนเลยล่ะ
  
  “จะไปรู้เหรอ”
  
  “กูส่องแป๊บ” มันกดอะไรยุกยิกกับโทรศัพท์ของผม หน้าจริงจังสุด ๆ กับการเรียนมึงทุ่มเทขนาดนี้ไหม. . .
  
  “อื้อหือออออออ! นี่มันอิน้องเนสคณะแพทย์นี่หว่า”
  
  “มึงนี่มัน...”
  
  “แม่งส่งมาให้มึงทำไมวะ ดูจากมุมไม่ได้ถ่ายเองแน่ ๆ โอ้โห! ทำงานเป็นขบวนการ” นั่นสิ เขาจะส่งมาให้ผมทำไมวะ ต้องการอะไรจากผม
  
  “ไม่รู้โว้ยยย! มึงนี่ เลิกเสือกได้แล้ว เอาโทรศัพท์กูคือมา” จากที่อารมณ์ไม่ปกติอยู่แล้ว คราวนี้แม่งหนักกว่าเดิมอีก
  
  “แป๊บ!”
  
  “Fck!!!” บะหมี่หัวเราะ มันไม่ได้คืนโทรศัพท์ผมมา แต่กลับส่งของมันมาแทนและเข้าแอพพิเคชั่นเฟซบุ๊กให้เรียบร้อย
  
  “ลบเดี๋ยวนี้”
  
  “อีกสักสิบนาทีค่อยลบนะนะ” ผมเกาหัวเซ็ง ๆ มองดูโพสต์ที่โพสต์จากแอคเคานต์ของตัวเองอย่างเหนื่อยหน่าย
  
  
  ‘ทำอะไรเกรงใจสถานที่บ้างก็ดีนะ ถ้าว้อนท์มากขนาดนั้นก็เปิดโรงแรมเลยดีกว่า (:’
  
  
  
  ‘ไม่ลบกูโกรธ’
  
  บะหมี่เงยหน้ามามองผมทันทีหลังจากที่ผมโพสต์ข้อความนั้น ไม่ได้คอมเม้นท์ ไม่ได้แท็กใคร แค่โพสต์ลอย ๆ โดยใช้บัญชีของมันนั่นแหละ
  
  “อีกนิดนะ กูอยากเห็นคนดิ้น” มันทำหน้าอ้อนวอน ผมไม่สนุกด้วยหรอก จะไปดิ้นตามทำไมวะ คนที่ส่งภาพพวกนั้นมาเป็นใครก็ไม่รู้ ส่งมาเพื่ออะไรก็ไม่รู้อีก
  
  “แล้วแต่เลย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ จ้องหน้าบะหมี่ตรง ๆ มันเม้มปากเหมือนชั่งใจ
  
  “โอเค ๆ ลบแล้วค่าาา ไม่เห็นต้องดาร์กใส่เลย”


-------------------------------------
TBC.


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ทำไมไรเฟิลทำแบบนี้!!   :katai1:
เชิญตบตีนางได้ตามสบายเลยค่าาาาา 55555555555555555555555555

ไว้เจอกันตอนหน้า ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยยยยยย จุ้บบบบบบ  :mew1:

ออฟไลน์ minibusez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
«ตอบ #58 เมื่อ28-11-2014 20:59:50 »

อยากเห็นคนดิ้นอ่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ☆ underground ☆‏ EPISODE 14 (28.11.2014)
«ตอบ #59 เมื่อ29-11-2014 09:42:36 »

อยากเห็นด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด