Mon Fiancé ไอ้เฉิ่มนั่น..คู่หมั้นผม ❤ butterfly lovers... END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Mon Fiancé ไอ้เฉิ่มนั่น..คู่หมั้นผม ❤ butterfly lovers... END  (อ่าน 196637 ครั้ง)

ดอกรัก

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh:
ปูเสื่อรอค่ะ

  :z1:
ชื่อตอนแบบว่า พาจิ้นนะเนี่ย
 :pighaun:

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ห้ะ เค้าพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังงายยยยยยย

สนุกมากค่ะ  :กอด1: :กอด1:

กอดๆ

คุณเพชรน่ารักใช่ย่อย

ออฟไลน์ Killian

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
    • Killian
Embrasse-moi the Series
Mon Fian
 :L2:
Chapter 4.1
แพ้ท้อง?

เพลง Best Day of My Life โดย American Authors http://www.youtube.com/watch?v=Y66j_BUCBMY&list=PLMwbKombrNUZH1zz6gSBYq8cEaUseyF5t&index=6

อาย กับ อับอาย

สองคำนี้ฟังดูคล้ายกัน แต่ความหมายต่างกันคนละโลก

อาย ถือเป็นคำเล็กๆที่มีความน่ารักอิงแอบอยู่ในตัว ให้ความรู้สึกเป็นสีชมพู แก้มมีสีแดงเปล่งปลั่ง สามารถพูดได้เต็มปากว่า อาย เป็นความรู้สึกน่ารักๆของคนหน้าไม่หนาพอ เป็นความขวยเขินที่อยู่ในปริมาณพอดี และเป็นเหมือนประจุไฟฟ้าที่ทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ

ส่วน อับอาย ความหมายช่างอดสู คำนี้ให้ความรู้สึกซีดเซียวไร้กำลัง ไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร ที่สำคัญ อับอายจนไม่อยากพบไม่อยากเจอใคร ถือว่าอับอายเป็นความรู้สึกอัปยศที่ทำให้หัวใจห่อเหี่ยว

ตอนนี้นาวารู้สึกอับอาย
(และขายขี้หน้า)

“ฮ่าๆ กูว่ามึงจำได้ชัวร์” นิสาใช้ศอกกระทุ้งสีข้างนาวาเบาๆ “จำได้ก็บอกว่าจำได้ เพื่อนๆให้อภัย หึหึ”

“ก็บอกแล้วไงว่าจำไม่ได้ กูเมา โอเคไหม” นาวารีบเดินหนีนิสา เขารีบเดินเพื่อไปให้ถึงห้องสมุดโดยเร็วที่สุด นิสาจะได้เลิกถาม
เซ้าซี้สักที แต่หญิงสาวยังคงเร่งเท้าเดินตามมา

“โหยไรวะ จำไม่ได้เลยเหรอ เสียดายแย่” นิสายังคงพูดต่อ ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะหน้าแดงแค่ไหน

“เสียดายห่าอะไรของมึง ไม่เห็นน่าจำ”

“ก็เสียดายสิ นั่นมันพี่เพชรเชียวนะ” นิสาทำตายิ้มส่อความ “คนที่สาวๆหลายคนในมหาลัยหมายปองเลยนะไอ้วา”

“แล้วไง ไอ้เชี่ยนั่นมันจะโดนใครหมายหัวก็เรื่องของมัน กูไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรด้วยเลย” นาวาเถียง

“ย่ะ ไม่เกี่ยว แต่ก็เอาปากไปประกบเขามาแล้ว” ดวงตาของนาวาจ้องเขม็งมาทางนิสา เมื่อจบประโยคเธอได้แต่วิ่งหนีนาวาที่วิ่ง
ตามมา

“ไอ้สา มึงอย่าอยู่เลย วันนี้กูจะจับมึงขังลืมไว้ในห้องน้ำคณะนี่แหละ” นาว่าตะโกนบอกกนิสาที่พยายามวิ่งไปข้างหน้า

“ไหนบอกจำไม่ได้ไง พูดเรื่องจูบหน่อยทำเป็นอาย” นิสาตอบกลับมา

“กูไม่ได้อาย กูอับอาย”

“เอออับอาย แต่หน้างี้แดงใหญ่ ยอมรับมาเถอะว่าเมื่อคืนมึงตั้งใจ”

“กูจำไม่ได้โว้ยยยย” นาวาเถียงเมื่อรวบแขนของนิสาได้ “จับได้แล้วไอ้สา คราวนี้แกไม่รอดแน่”

“เชี่ยนี่ ปล่อยกูนะ” นิสาที่อยู่ภายใต้พันธนาการของนาวาพยายามดิ้น แต่เธอก็ไม่สามารถหลุดจากการจับกุมของเขาได้ “ตั้งใจ
จูบพี่เค้ายังไม่พอ ไอ้เชี่ยนี่มึงจงใจทำร้ายกูอีกนะ”

“หึหึ ปากดีนัก กูจะขังไว้ในส้วม ขังลืมเลยคอยดู” นาวาคาดโทษนิสา “ปากเหมือนชักโครกแบบนี้น่ะ ต้องไปอยู่กับชักโครกของ
จริงซะให้เข็ด”

นิสาตาทำตาเบิกกว้าง หันมองไปทางด้านหลังของนาวา เหมือนนิสาจะเห็นใครกำลังเดินมา “พี่เพชร… หวัดดีค่ะ”

นาวาได้ยินชื่อของชายหนุ่มก็แทบจะอยากแทรกแผ่นดินหนี เขารู้สึกตัวชา หัวใจเต้นโครมคราม วางตัวไม่ถูก

“พี่เพชรมาทำอะไรแถวนี้คะ” นิสาถามออกไป คำถามของเพื่อนทำให้นาวารู้สึกอยากอันตรธานหายไปเสียดื้อๆ ตอนนี้เด็กหนุ่มไม่พร้อมที่จะเจอหน้าชายคนนั้น

“ไอ้สา… กูไปตามไอ้เก้ามันก่อนนะ” นาวาพูดกับนิสาโดยไม่หันไปมองด้านหลังเลยแม้แต่นิด เขาปล่อยมือนิสาและทำท่าจะเดินหนีไป

“ฮ่าๆ ไอ้วาหน้าโง่ คิดว่าพี่เค้าจะมาสินะ” นิสาที่หลุดพ้นจากเงื้อมมือของนาวาหัวเราะสะใจ “เค้าจะมาทำอะไรคณะเรา แกคงไม่
คิดว่าเขามาทวงจูบคืนใช่ไหม”

“ไอ้สา วันนี้แกได้เฝ้าส้วมจริงๆแน่” นาวารีบไล่ตามนิสาไป

“แบร่ๆ จับให้ทันก่อนเถอะ” แล้วนิสาก็วิ่งเข้าห้องสมุดไป ปล่อยให้นาวายืนเจ็บใจที่จับทะโมขังห้องน้ำไม่สำเร็จ

ใครว่าฝรั่งเศสอบอวลไปด้วยความอันหวานซึ้ง

แท้จริงแล้วนาวาคิดว่าชื่อเสียงทางด้านความรักอันซึ้งหวาน ละมุนละไม และร้อนเร่าของชาวฝรั่งเศสนั้น ไม่ใช่ความจริงเสียทั้งหมดทีเดียว

ทันทีที่อ่าน La Princess de Clèves (เจ้าหญิงเดอแคล้ฟ) จบ เด็กหนุ่มก็นำหนังสือวางไว้บนชั้น โดยไม่คิดจะยืมอ่านต่อแต่อย่างใด เขาไม่ชอบความรักก็เพราะเหตุนี้นี่แหละ

ความรักของคนฝรั่งเศส − หรือจะว่าไปความรักของคนทุกชาติ − แท้จริงแล้วมีแต่เรื่อง ‘ซีเรียส’

จริงอยู่ที่นิยายแบบอัศวินยุคกลางของทางยุโรปจะเต็มไปด้วยความฝันเฟื่องและโรแมนติกฉ่ำหวาน แต่เมื่อช่วงเวลาผ่านไป ผู้คนมีมุมมองความรักที่เปลี่ยนแปลง ซับซ้อนขึ้น และเป็นการเมืองมากขึ้น การวาดภาพความรักของนิยายเรื่องเจ้าหญิงเดอแคล้ฟซึ่งถูกเขียนขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 จึงถูกสอดแทรกไปด้วยมุมมองความคิดของคนในยุคนั้น และมันยังคงส่งผลมาจวบจนปัจจุบัน

คนเรามักจะมองว่า…
ความรักคือเกม

เรื่องรักของเจ้าหญิงเดอแคล้ฟเป็นความรักแบบรักสามเส้า แต่เนื้อหาความรักจะไม่หวานเลี่ยนเหมือนิยายยุคก่อนๆ นาวามองว่าผู้แต่งจงใจอธิบายความรักเป็นเรื่องเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรม ความรักของเจ้าหญิงเดอแคล้ฟ กับดยุก เดอ เนอมูรส์ จึงกลายเป็นเกมที่อยู่ภายใต้กติกาความรักแบบฉาบฉวยตามแบบฉบับชาวราชสำนัก

แม้มุมมองความรักของคนเราจะเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนในพล็อตนิยายรักคือ หากรักเริ่มด้วยความผิดพลาด มันก็จะจบลงด้วยความขื่นขม

ความรักและความขื่นขมไม่ได้มีเพียงแค่ในนิยายเท่านั้น ในชีวิตจริงของนาวา คนใกล้ตัวของเขายังคงเจ็บปวดใจกับความรักไม่เสื่อมคลาย… เมื่อความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคน แต่กลับเป็นเรื่องของคนสามคน ถ้าสิ่งนี้นี้เกิดขึ้นกับเรา เราจะทำเหมือนแม่ หรือเดินจากไปดีนะ… นาวาคิด แล้วเราจะเล่นเกมความรักด้วยอะไร เด็กหนุ่มพยายามคิดหาคำตอบในใจ

จะเล่นเกมรักโดยใช้สมอง ศีลธรรม หรือใช้ทั้งหัวใจ…

“ยืนเหม่ออะไรอยู่วะ” เก้าใช้มือข้างหนึ่ง สะกิดนาวา พร้อมส่งหนังสือหลายเล่มที่อยู่เต็มมือให้นาวาเอาไปเก็บ

“ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” นาวาตอบพลางรับหนังสือจากเพื่อนสนิท

“เฮ้อเบื่อว่ะ เมื่อไหร่งานนี้มันจะเสร็จๆไปสักทีนะ” เก้าบ่นพลางใช้สายตาสอดส่องหาหนังสือเพื่อเอาไปอ่านเพิ่มเติม “กูเบื่อห้อง
สมุดเต็มทนละ”

“เขียนเรียงความมันต้องใช้หนังสืออ้างอิง ต้องขุดค้นหนังสือกันแบบนี้แหละ” นาวาปลอบใจเพื่อน

“อาจารย์ต้องการอะไรกันแน่วะ กูไม่เข้าใจเลยวิชานี้ เรียนวรรณกรรมอังกฤษ แต่ให้วิเคราะห์วรรณกรรมฝรั่งเศสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที แถมสั่งให้เขียนเรียงความตั้งหลายหน้า ถ้าไม่ใช่งานกลุ่มกูคงเจาะยางรถอาจารย์ไปนานแล้ว สั่งมาได้” เก้าพล่ามถึงความอึดอัดใจ เขาไม่ชอบขลุกตัวอยู่กับหอสมุดในคณะสักเท่าไหร่

“ก็ฝรั่งเศสเป็นต้นฉบับของการวิจารณ์วรรณกรรม” นาวาตอบเพื่อน “เอาน่า หาหนังสืออีกแปปเดียว เดี๋ยวไปกินข้าวเที่ยงกัน” นาวาตบบ่าเพื่อนให้กำลังใจ

เมื่อหาหนังสืออ้างอิงไปได้สักครู่ เสียงหวานของเพื่อนนิสัยห้าวก็ดังขึ้น “นาวา กูหิวแล้วนะ” นิสาที่เดินมาพร้อมกับหนังสืออีก
สามเล่มเอ่ยขึ้น “ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ได้หนังสือไปสิบกว่าเล่มละนิ”

“เอางั้นเหรอวะ ก็ดีเหมือนกัน งั้นกูกับไอ้เก้าจะไปยืมหนังสือ ส่วนแกช่วยขนกระเป๋าของพวกเราออกไปให้หน่อย”นาวาพูดกับนิ
สา

นาวา เก้า และนิสา เดินออกมาจาห้องของสมุดคณะ

แม้ห้องสมุดประจำคณะของเขาจะมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับหอสมุดกลางที่นาวาไปเจอคุณชายโจทย์คู่แค้นคนนั้นมา แต่หอ
สมุดเล็กๆแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยหนังสือเฉพาะทางมากมายทางด้านภาษาศาสตร์ วรรณกรรม และสังคมศาสตร์ เมื่อโดนสั่งเขียนเรียงความ ทั้งสามจึงตัดสินใจเข้ามาค้นหาข้อมูลกันที่นี่

“ได้หนังสือของใครมาบ้างวะ” เก้าถามขึ้น

“ก็ได้ วิกเตอร์ อูโก, ฌ้าก เพรแวรต์, สแต็งดาล, กี เดอ โมปาสซ็องต์, โบดแลร์ แร็ง…” นาวาตอบคำถามของเพื่อนอย่างใสซื่อ แต่รายชื่อนักเขียนที่นาวากำลังร่ายยาวให้เก้าฟังอยู่นั้นถูกแทรกด้วยเสียงแหลมเจือความหงุดหงิดของนิสา

“โอ๊ย ถามไปแล้วมึงรู้จักสักคนไหมไอ้เก้า” นิสาว่า

“ก็ไม่รู้หรอก ฮ่าๆ ถามไปงั้น” เก้าตอบ

“งั้นก็ไม่ต้องถาม” นิสาพูดกับเก้าแล้วหันไปคุยกับนาวา “ถามเรื่องเมื่อคืนดีกว่า คาใจกูนัก”

“ฮ่าๆ มึงยังไม่เลิกสนใจเรื่องพี่เพชรเหรอสา” เก้าพูดกลั้วหัวเราะ

“ไอ้สา ถ้ากูไม่หอบหนังสืออยู่ มึงเจอดีแน่” นาวาขู่นิสา เด็กหนุ่มเริ่มหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“งั้นไอ้เก้า เอาหนังสือมานี่” นิสาแย่งหนังสือจากมือเก้า ไปวางทับหนังสือที่นาวาอุ้มอยู่ จนตอนนี้นาวามีหนังสือซ้อนกันอยู่ในอ้อมกอด ทับซ้อนกันจนถึงคาง เด็กหนุ่มใช้คางกดไว้เพื่อกันไม่ให้หนังสือหล่น

“ไอ้สา” นาวาบ่นอย่างเจ็บใจ “เอาหนังสืออกไป กูหนัก”

“ยอมรับมาก่อนว่ามึงจำเรื่องเมื่อคืนได้แล้วจะให้ไอ้เก้าช่วยถือหนังสือพวกนี้” นิสากอดอก

“ไม่มีทาง ก็กูจำไม่ได้” นาวาปฏิเสธเสียงแข็ง

เก้าได้แต่ส่ายหัว เขารู้สึกขำขันกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมากกว่า แม้จะตกใจนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ว่าเพื่อนรักของเขาเมาจนสติหลุดหายไปกับเบียร์ขมๆ ใครๆก็รู้ว่านาวาเมาแล้วแทบจะกลายเป็นคนละคน ที่เห็นออดอ้อนตรีเพชรเมื่อคืนวานเป็นเพียงเพราะลืมตัวล้วนๆ เก้าได้แต่ยิ้มไม่ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นพลางกดรอลิฟท์เพื่อจะลงไปชั้นหนึ่ง

“งั้นก็ถือไป คนปากหนักอย่างแก แบกของหนักๆก็สมควรแล้ว” นิสาว่า เธอขยิบตาแสดงความเหนือชั้น “อ่ะลิฟท์มาแล้ว เดินตามมาดีๆนะจ๊ะน้องวาเดี๋ยวหนังสือหล่น”   

ลิฟท์ปิดลงเมื่อคนทั้งสามเข้ามาด้านใน

“วาหนักไหม มากูช่วย” เก้าพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนร่างบางทำท่าจะไม่ไหว

“เก้า มึงห้ามยุ่ง” นิสาโวย

“เลิกแกล้งมันเถอะไอ้สา มันเมามึงกูรู้” เก้าปกป้องนาวา

“กูรู้ว่ามันเมา แต่กูก็รู้ว่าที่มันทำไปมันรู้สึกตัว มันจำเรื่องเมื่อคืนได้เชื่อกูสิ” นิสายึดความเชื่อของตัวเองอย่างเหนียวแน่น

“กูจำไม่ได้โว้ย กูไม่อยากจำ แล้วกูก็ไม่อยากเจอมันด้วย” นาวาพูดขึ้นเมื่อคิดว่านิสาเพ้อไปไกล “เพราะงั้นเลิกพูดถึงไอ้ตี๋นั่นสักที
ฟังชื่อมันแล้วขนลุก”

“ค่ะ ไม่อยากจำไม่อยากเจอ สาธุ กูขอให้ได้เจอกันตลอดไป ดูสิว่ามึงจะขนลุกขนพองสักแค่ไหน วานะวา เป็นกูดีใจตาย นั่นพี่เพชรเชียวนะ” นิสายิ้มพราว “ถ้าเกิดเค้าหลงเสน่ห์ริมฝีปากแกขึ้นมาจะทำไงวะ”

คำพูดของนิสาทำให้นาวารู้สึกเหมือนมีประจุไฟฟ้าปะทุขึ้นบนในหน้าและลำคอ เลือดในกายสูบฉีดเร็วแรงอย่างไม่มีสาเหตุ นาวาไม่อยากอยู่ฟังคำพูดของนิสา ไม่อยากได้ยินคำพูดที่เกี่ยวกับคู่อริของเขาแม้แต่คำเดียว เพราะเขามีความรู้สึกประหลาดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อ หรือเห็นหน้าของตรีเพชรในความคิด เป็นความรู้สึกที่ทำให้หายใจติดขัด เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร

“หึหึ มึงอิจฉาไอ้วาใช่ไหม” เก้าพูดขึ้น “พี่เพชรจะดีใจปะวะ ทอมแอบชอบ”

“ไอ้เก้า มึงอยากโดนอีกคนใช่ไหม” นิสาเท้าสะเอว

“เปล่าคร๊าบ ไม่ๆ” เก้ายิ้มล้อๆ ชายหนุ่มยกมือของข้างขึ้น อย่างยอมจำนน

“งั้นก็เงียบไปซะ” นิสาถลึงตาคาดโทษชายหนุ่ม “ไม่รู้อะไรอย่าพูด”

ลิฟท์เปิดเมื่อทุกคนตกอยู่ในความเงียบ

นาวารีบเดินออกจากลิฟท์ พยายามประคองหนังสือทุกเล่มไว้ในอ้อมกอด เมื่อสายตาของนาวาให้ความสนใจกับหนังสือในอ้อมแขน ภาพของชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังกดโทรศัพท์อยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้เฉียดเข้ามาในคลองสายตาของเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย

นาวารู้สึกเหมือนเท้าของตัวเองสะดุดกับอะไรบางอย่าง

ปึก!

เสียงหนังสือชนกับอกหนาของใครบางคน

วิกเตอร์ อูโก, ฌ้าก เพรแวรต์, สแต็งดาล, กี เดอ โมปาสซ็องต์, โบดแลร์ แร็งโบด์ และกวีชื่อก้องโลกอีกหลายรายร่วงหล่นจากอ้อมแขนของนาวา ร่างบางของเขาหล่นตามปลายปากกาของเหล่ากวีเอกในวินาทีถัดมา

“เห้ย” นาวาร้องลั่นด้วยความตกใจ

ดวงตาสีน้ำตาลทองปิดสนิท เด็กหนุ่มคิดว่าตัวเองต้องมอบจุมพิตครั้งที่สามให้พื้นซีเมนต์เป็นแน่ แต่ทำไมริมฝีปากของเขาถึงวางอยู่บนวัตถุที่มีเสียงเต้นของหัวใจ

พื้นที่เด็กหนุ่มหล่นทับนิ่มกว่าพื้นปูน

ทันทีที่ลืมตา

นาวาพบว่าตัวเองนอนทับอยู่บนร่างของอีกคน

เรือนกายของชายเบื้องล่างให้ความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนได้รับสัมผัสมาก่อน ดวงหน้าแสนเคยคุ้นของเขาคนนั้นแสดงความโล่งใจที่โอบรัดนาวาเอาไว้ได้

ดวงตาสองคู่สบกันเนิ่นนานราวหลงอยู่ในความฝัน

              I had a dream so big and loud
              I jumped so high I touched the cloud, wooh
              ฉันมีฝันที่ใหญ่และดัง
              กระโดดจับหมู่เมฆสูงสุดกำลัง

              I stretched my hands out to the sky
              We danced with monsters through the night, wooh
              ฉันเหยียดมือเอื้อมถึงนภา
              ทั้งคืนเราระบำเริงร่ากับอสูรกาย

              I’m never gonna look back
              Whoa, I’m never gonna give it up
              No, please don’t wake me now
              ฉันจะไม่มองกลับไป
              ฉันจะไม่ยอมล้มเลิก
              อย่าเลย ได้โปรด อย่าเพิ่งปลุกฉันตื่นในตอนนี้

              This is gonna be the best day of my life
              This is gonna be the best day of my life
              วันนี้จะเป็นวันดีในชีวิตฉัน

เสียงเพลงเรียกเข้า Best Day of My Life จากมือถือของชายหนุ่มดังขึ้น American Authors ขับขานถึงความฝันที่ยิ่งใหญ่ ความฝันที่ตะโกนก้องรัวดังอยู่ในใจ

ใช่แล้วมันเป็นความฝัน
เป็นเพียงฝัน

ฝันร้ายชัดๆ

This is gonna be the worst day of my life. วันร้ายวันซวยล่ะสิไม่ว่า

ไอ้ตี๋ออกไปจากสายตากูเดี๋ยวนี้!

“ไอ้ตี๋ มึงอยากตายมากใช่ไหม?!” นาวากระซิบข้างหูของตรีเพชร กระซิบออกมาดังๆชนิดที่ว่าคนเดินผ่านไปผ่านมาได้ยินกันสามบ้านแปดบ้าน

“โอ๊ยไอ้เตี้ย” ตรีเพชรใช้มือสองข้างจับหน้าของนาวา ชายหนุ่มดึงให้คนด้านบนโน้มตัวลงมาแล้วตะโกนกรอกหูกลับไปว่า “ไอ้เตี้ยสมองฝ่อ อยู่กันแค่นี้จะตะโกนทำห่าอะไร นอนทับอยู่ได้ ออกไปไม่ต้องมาซบ”

“ไอ้หน้าจืด อยากซบตายแหละ” นาวาตะโกนเข้าหูของอีกฝ่ายก่อนจะผละออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม

ทั้งสองลุกขึ้น ตรีเพชรปัดฝุ่นที่ติดเสื้อก่อนจะเดินไปหยิบมือถือที่ทำร่วง นาวามองหนังสือที่กระจัดกระจายของตัวเอง ก่อนจะช่วยเก้ากับนิสาก้มเก็บหนังสือ เด็กหนุ่มหงุดหงิดเพราะคนที่ไม่อยากเจอ

“ไม่……” ตรีเพชรร้องลั่น ก่อนหันมาหานาวา “ดูผลงานของนายซะ ไอ้แว่นซุ่มซ่าม”

มือถือรุ่นใหม่ของคุณเพชรหน้าจอแตกเป็นรอยไม่เหลือสภาพ

“ซุ่มซ่าม? พูดใหม่ซิ แกว่าใครซุ่มซ่าม” นาวาเลิกสนใจหนังสือ หันมามองหน้าตรีเพชร สายตาเอาเรื่องของเขาจับจ้องชายหนุ่มอย่างไม่ลดละ

“เหอะ เซ่อซ่ายังไม่พอ ไอคิวต่ำอีกต่างหาก เดินมาชน นอนทับ แตกปากตะโกนใส่หู แล้วยังทำมือถือฉันพัง ทำลงไปตั้งเยอะแบบนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอว่าฉันหมายถึงนาย ไอ้เตี้ย”

“วะ ไอ้หน้าจืดคิ้วปลิง ว่างๆช่วยหัดใช้สมองให้มันเยอะกว่านี้หน่อยนะ ใครกันแน่ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ถ้าแกจะกรุณาแหกตาหยีๆของแก แล้วช่วยระวังคนที่เดินออกมาจากลิฟท์บ้าง มือถือก็คงไม่เจ๊งหรอกพ่อคุณ”

“มุกเดิมเหรอ ทำผิดแล้วผลักให้เป็นความผิดของคนอื่น” ตรีเพชรจับแขนของนาวาเอาไว้ ชายหนุ่มกลัวว่าคราวนี้เด็กจอมกวนจะหนีหายไปเหมือนตอนที่เด็กคนนี้ทำรถของเขาเป็นรอย “เท่าที่เห็นนายมาชนฉันก่อนนะไอ้แว่น ต้องตัดแว่นใหม่ละมั้ง มองยังไงไม่เห็นคนวะ”

“ก็เพราะว่ามึงมันไม่ใช่คนไงไอ้ตี๋ แล้วบอกให้รู้ไว้ว่าคนอย่างไอ้วาไม่ใช้มุกเดิมหรอกเว่ย” นาวารู้ตัวว่าโดนมัดอยู่ เลยยกขาหมายจะเตะแข้งซ้ายของตรีเพชรอีกรอบ แต่ชายหนุ่มกลับยกขาหลบ นาวาโดนตรีเพชรดักทางเข้าให้แล้ว

“อื้ม ไม่มุกเดิมเลย ไอ้เตี้ยไม่สร้างสรรค์” ตรีเพชรยิ้มยั่วยุอีกฝ่าย

“อ๋อ กูสร้างสรรค์แน่ เอานี่ไปกินไป” ไม่ได้แข้งซ้ายก็เอาแข้งขวามันนี่แหละ

“โอ๊ย” ตรีเพชรต้องเผลอปล่อยนาวาแล้วก้มจับขาตัวเอง “ไอ้ตัวแสบ แบบนี้โคตรไม่ครีเอตเลย”

“เก้า สา ไปโว้ย อยู่แถวนี้นานๆเดี๋ยวโดนหมาบ้ากัดเอา” นาวาหันไปพูดกับเพื่อน เตรียมตัวชิ่งหนีอย่างแนบเนียนที่สุด เรื่องอะไร
เขาจะต้องสนใจมือถือของไอ้คุณชายด้วย มันทำหล่นเองนะ… ใจจริงนาวาไม่อยากจะจ่ายค่ามือถือให้คุณชายต่างหาก ดูก็รู้ว่ามือถือรุ่นนี้โคตรแพง ใครจะมีปัญญาชดใช้กันเล่า

“เออวันนี้ฉันยอมเป็นหมาบ้าให้นายก็ได้ คอยดูจะกัดไม่ปล่อยเลยไอ้เตี้ย มานี่!” ตรีเพชรคว้าแขนของนาวาได้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะ
เดินออกไป

“ปล่อยกูไอ้ตี๋ จะลากไปไหนเล่า ไอ้หน้าซีด ไอ้ผีดิบ ปล่อยเว่ย” นาวาพยายามแกะมือของตรีเพชรออก เด็กหนุ่มทำท่าจะเตะ
ตรีเพชรอีกครั้ง

“ถ้าแตะฉันอีกทีฉันอุ้มนายแน่” ตรีเพชรชี้หน้าคาดโทษ “จะตามมาดีๆไหม”

“ไม่ไป มีเรียน” นาวาหาข้ออ้าง

“น้องสา พี่ฝากเช็คชื่อให้เพื่อนด้วยนะ ใครถามว่ามันไปไหนบอกว่าเป็นลมบ้าหมูกัดลิ้นตัวเองตายไปแล้วละกัน” ตรีเพชรหันไปคุยกับนิสาและลากนาวาให้เดินตามตัวเองมา

เมื่อนาวาโดนตรีเพชรลากไป นิสาก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนคนข้างๆต้องถามออกมา

“กูว่ามึงบ้าไปแล้วไอ้สา ปล่อยไอ้วาไปได้ไง ตีกันตายหรอก” เก้าพูดขึ้น

“เขาไม่ตีกันจนตายหรอกน่า” นิสาค้าน

“มึงรู้ได้ไง” เก้าคิ้วขมวด

“เชื่อเถอะน่า” นิสาดึงแขนเก้าเอาไว้ “ห้ามมึงไปช่วยไอ้วานะ ไม่ต้องห่วงไปหรอก”

“ก็กูห่วงเพื่อน”

“ถ้าห่วงเพื่อนก็มากับกู เนี่ยหิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว” นิสาลากชายหนุ่มที่ถือหนังสืออยู่ให้เดินตามมา “หรือมึงไม่หิว?”

“หิว” เก้าตอบ แล้วสองคนก็ไปหาข้าวกิน ทิ้งเพื่อนไว้กับคุณชายตรีเพชร

ชายหนุ่มเปิดประตูรถแล้วดันให้นาวาเข้าไปนั่งข้างใน


นาวาเห็นตรีเพชรปิดประตูรถและเดินอ้อมไปหมายจะเข้าประตูอีกฝั่ง เลยอาศัยช่วงเวลานั้นเปิดประตูรถออกและเตรียมตัววิ่งหนี แต่เด็กหนุ่มก็หนีไม่ทันเงื้อมมือของคนตัวโตอยู่ดี

“หึหึ กะแล้วว่านายต้องมาไม้นี้” ตรีเพชรรวบแขนของนาวาไว้ได้

“ไอ้ผีดิบ มึงเป็นญาติกับปลาหมึกหรือไง ปล่อยดิวะ จับแน่นเกินไปแล้ว จะพากูไปไหน กูไม่ไปกับมึง” นาวาโวยวายเมื่อถูกดัน
เข้าไปในรถ

คราวนี้ตรีเพชรไม่เดินอ้อมรถให้เสียเวลา เขาเข้าไปพร้อมกับนาวา พยายามแทรกตัวเข้าไปที่นั่งคนขับ ถึงจะทุลักทุเลไปหน่อย
แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ไอ้เตี้ยหลุดมือไป

“นี่ออกไปนะอย่าเบียดเข้ามาชิดนักสิ” นาวาพยายามผลักตรีเพชรออกไป เมื่อชายหนุ่มเบียดตัวเข้ามา

“อยากเบียดตายล่ะ โดนแล้วจะคันหรือเปล่าก็ไม่รู้” ตรีเพชรเถียงกลับอย่างไม่ยอมกัน

“คันหูสิไอ้หอก คนโว้ยไม่ใช่ตัวบุ้งจะโดนแล้วคัน ปล่อยมือได้แล้ว เจ็บ”

:katai4: :katai4:
 :katai1: :katai1: :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2014 22:53:47 โดย Killian »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ ronlbb

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
คือชื่อตอนเกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องอ่ะ

งงไปเลย

แต่ก็สนุกดีค่ะ  เมื่อไหร่จะหมั้นอ่ะ  ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ฉับ!!! หายไปเฉย.......................ค้างเลย

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทะเลาะกันบ่อยแบบนี้ ท่าทางจะลูกดก 55555 :laugh:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ทะเลาะกันกระหนุงกระหนิง

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เจอกันทีไร เถียงกันตลอดดด

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
แงๆๆๆ ตัดฉับเลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
จบตอนเท่านี้หรือว่ายังลงไม่ครบคะ?
ถ้าอย่างแรกนี่เราขอร้องไห้เลยนะ
เพิ่งได้ใกล้ชิดกันในเบาะรถก็โดนตัดฉับซะแล้ว 5555555

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
น่ารักจังเลย  :mew1:

ออฟไลน์ kageroi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากกกกก  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
สงสัยที่ว่ายิ่งเกลียดยิ่งได้เจอคงจะเป็นจริงอะนาวาไม่งั้นนายคงไม่เจอตาตี๋นี่หรอก o8
นิสานี่ยัดเยียดเพื่อนจัง เดี๋ยวก็ได้ตีกันตายหรอก 2 คนนั้น :laugh:

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สารภาพว่าอ่านเรื่องนี้เเล้ว เราชอบวง iron&wine เลยเง้ออ
เพลงปลากรอบเพราะมากเลยค่ะ
นิยายก็สนุกมากกก สั้นมากกก จะขาดใจ 55555

วันอาทิตย์จะมานอนรอเลย อิอิ
 :katai5:

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ต้องเพิ่มนิยายเรื่องนี้ในบุ๊คมาร์คไว้ซะแล้ว...
ประทับใจมากค่ะ

รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ Killian

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
    • Killian
 :heaven
ที่ลงไปเป็นเพียงครึ่งแรกของบทนี้นะคะ
ผู้อ่านโปรดอย่าเข้าใจผิดนะ
ครึ่งหลังกำลังจะคลอดค่ะ  :katai4:

ปกติจะเอาตอนใหม่มาลงทุกๆวันอาทิตย์ แต่คิดว่ามันคงจะนานเกินไป
กลัวทุกคนจะรอ กลัวทุกคนจะลืม

เลยกะว่าต่อไปจะพยายามลงให้ถี่ขึ้น
ยังไงก็ขอกำลังใจจากทุกๆคอมเม้นด้วยนะคะ

Happy Halloween นะคะผู้อ่านที่รัก :กอด1:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :laugh: แหมๆ ตีกันบ่อยๆแบบนี้ระวังลูกดก (???) นะเจ้าคะ
คนแต่งสู้ๆจ้า เป็นกำลังใจให้นะคร๊า :กอด1:
ปล. มาต่อให้แบบบ่อยๆถี่ๆจะดีใจเปงล้านเท่า  :katai2-1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แรกๆก้องี้ 5555

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ตัดฉับแบบนี้มันค้างนะค้าา  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
คู่นี้กัดกันบ่อยๆ ตอนรักกันล่ะท่าหวีดเนอะๆ
รอตอนต่อไปปป

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สนุกดีครับบบ ชอบๆ ทะเลาะกันบ่อยๆเด้ยวก็รักกันเองอ :katai1:

ออฟไลน์ dorabarin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :impress2: อนาคตลูกดกแน่นอน

ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
แรกๆก็งี้... ตีฝีปากกันไป
แล้วจะเอาน้องไปไหนคะพี่เพชร
เอาไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถหรอ

ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รออีกครึ่งหลังนะคะ
สู้ๆค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ waiman

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ทะเลาะบ่อยแบบนี้ ลูกดกชัวร์ อิอิ

ดอกรัก

  • บุคคลทั่วไป
อุ้ยเค้าทะเลาะกันอีกแล้ว :fire:

 :hao7:อะไรนั่น ขึ้นรถไปด้วยกัน ชอบตอนคู่กัดเอาตัวเบียดกัน :hao6:

นี่เข้ามารอนะบอกเลย รอ :z3:

รีบมาเด้อ

ออฟไลน์ MunashiiSora

  • ♥ ฮุนฮาน ft.520
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
ฉับบบ... โดนตัดจบซะค้างเลย 555555555  :laugh:

อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนได้อ่านนิยาย 2 เรื่องในเวลาเดียวกัน
มีวรรณกรรมมาสอดแทรก ทำให้เราได้ความรู้เพิ่มมาเล็กน้อย (จากที่ไม่มีเลย :katai3:)

ไม่รู้ว่าคนแต่งเคยอ่านเรื่อง สาวน้อยวรรณกรรม หรือเปล่า?
มาแนวคล้ายๆ กันเลย อ้างอิงวรรณกรรมเหมือนกัน
อย่างที่เราบอก เหมือนได้อ่านนิยาย 2 เรื่องพร้อมกัน

สรุปคือ ชอบค่ะ  :impress2:

ปล. รอตอนต่อไปย์

 :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด