(ต่อ)
ผมเดินหน้ายุ่งออกมาทันได้เห็นแฮมสะบัดหน้าพรืดจากไอ้เต็ปที่ยืนกระแซะกับผู้หญิงคนหนึ่งท่าทางคุยกันออกรสทีเดียว พอหันกลับไปที่โต๊ะซึ่งผมนั่งก่อนหน้านี้กลับว่างเปล่าทันเห็นหลังไวๆของแฮมที่เดินจูงมือว่านไปนอกร้าน ยิ่งไปกว่านั้นสองคนนั่นเดินเข้าไปในกลุ่มผู้หญิงกลุ่มใหญ่ สงสัยว่าเป็นนักท่องเที่ยวเพราะพอสองคนนั่นเข้าไปทั้งกลุ่มต่างรุมปะแป้งและสาดน้ำอย่างสนุกสนานจนเกิดเสียงหัวเราะเอิ้กอ้าก
ผมหันกลับไปมองไอ้เต็ปที่หันมาพอดี สายตามันสื่อออกมาบ่งบอกได้ถึงความยุ่งยากใจกับผู้หญิงที่ยืนเบียดอยู่ข้างๆ ทั้งที่สายตามันมองตามแฮมไปโน่น มันพยักหน้ารับตอนที่มันพยักเพยิบให้ไปดูสองคนนั่นในกลุ่มผู้หญิงพวกนั้น
“ เต้ย”
ว่านโบกมือเรียกยิกๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวเปียกม่อล่อกม่อแลกแต่ใบหน้าแจ่มใสจนเผยให้เห็นแก้มเนียน
“ เล่นน้ำกัน”
...โครม...
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรกลุ่มผู้หญิงประมาณเจ็ดคนและผู้ชายอีกสามคนซึ่งหน้าตาท่าทางดูเป็นนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรและน่าไว้ใจก็สาดน้ำใส่จนผมเปียกตั้งแต่จรดเท้า
ว่านกับแฮมต่างแท็คมือกันเสียงดังแปะก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะถูกใจ
“ เล่นน้ำกัน”
แฮมเอ่ยชวนอีกครั้งพร้อมกับฉุดผมออกเดินโดยมีว่านประกบอีกข้างที่สำคัญตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในวงล้อมของคนนับสิบ หลังจากที่สาดน้ำผมจนเปียกแล้วพวกเราก็ทำความรู้จักกันเลยรู้ว่ากลุ่มคนนี้เป็นหนุ่มสาวจากเชียงใหม่ที่สำคัญสามในสิบนั่นยังมีวิชาชีพเช่นเดียวกับผมคุยกันไปคุยกันมาเลยถูกคอเดินเกาะกลุ่มเล่นน้ำไปด้วยกัน
ผมแอบเอี้ยวตัวไปด้านหลังจากหางตาเห็นมัน ไอ้แท็ค ไอ้เต็ปกำลังสาวเท้ามาทางนี้ท่าทางพวกมันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แล้วใครจะสน หึ อารมณ์โมโหบวกกับอยากเอาชนะผมเลยเดินเล่นน้ำไปกับกลุ่มนี้ ไม่ต่างจากแฮมและว่านที่ดูจะไม่สนใจคนเบื้องหลัง อ่านะ คงจะอารมณ์เดียวกัน สุดท้ายพวกเราสามคนก็เนียนมาเล่นน้ำกับคนกลุ่มใหญ่ที่ตลอดเส้นทางคร่าคร่ำไปด้วยผู้คนยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ประชากรยิ่งมากมายจนเบียดกันไปหมด ถ้าไม่จับมือกันไว้คงมีหลงแน่
“ นี่แหน่ะ”
ผมยิ้มขำว่านที่ไปคว้าปืนฉีดน้ำของใครไม่รู้มายิงสู้กับเด็กชายตัวน้อยอายุไม่น่าเกินสิบขวบที่นั่งอยู่บนหลังของบิดา ท่าทางคงเป็นมวยถูกคู่เพราะเด็กนั่นหัวเราะชอบใจไม่ต่างจากว่านที่ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน แต่สายตาที่พ่อของเด็กนั่นมองว่านนี่สิชักแปลกๆ
“ เฮ้ย”
เสียงร้องตกใจของแฮมทำเอาผมสะดุ้งตาม อดีตรูมเมทผมทำหน้ามุ่ยนิดๆ มือข้างหนึ่งลูบแป้งบนใบหน้าออกทันทีไม่รู้ว่าใครมาเนียนปะแป้งเพราะคนเยอะเหลือเกิน กิริยานั่นทำเอาผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มใหญ่รีบเอาน้ำมาลูบใบหน้าออกอย่างแผ่วเบา แฮมพึมพำขอบคุณเรียกให้ใบหน้าของเจ้าของน้ำยิ้มกว้างพอใจ
เอ่อ
“ อ่ะ”
“ อะ อะไรเหรอ”
“ เห็นเต้ยยังไม่มีปืนฉีดน้ำ ผมให้ครับ พอดีผมเอามาสองอัน” ผู้ชายที่แสดงน้ำใจต่อผมคนนี้คือผู้ชายอีกคนในกลุ่ม เอ่อ อย่างที่บอกว่าในกลุ่มนี้มีผู้ชายสามคน คนหนึ่งคือเดินเคียงคู่ไปกับแฮม อีกคนกำลังแสดงน้ำใจต่อผม ส่วนคนสุดท้ายเดินอยู่ด้านหน้าคล้องแขนกับบ่าของผู้หญิงในกลุ่มสงสัยว่าจะเป็นแฟนกัน
“ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ”
“ เต้ยรังเกียจผมเหรอ”
“ เฮ้ยเปล่านะ” ผมรีบปฏิเสธเมื่อหนุ่มเหนือกำลังทำสีหน้าสลดลง
“ ถ้าไม่รังเกียจก็..” ยื่นปืนฉีดน้ำมาตรงหน้า “...รับไว้สิครับ”
“ ขอบคุณครับ”
ผมยิ้มรับก่อนจะขอบคุณอีกฝ่ายก่อนที่พวกเราซึ่งประกอบไปด้วยหนุ่มสาวจากเชียงใหม่ และพวกผมอีกสามคนบวกคุณพ่อลูกติดที่เนียนเดินตามว่านมาจะเดินปะปนไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
สนุกจนลืมอะไรไปบางอย่าง
“ อ่ะ”
“ ระวัง”
จำนวนคนที่เบียดเสียดกันทำให้มองไม่เห็นพื้นถนนจนผมสะดุดหน้าเกือบทิ่มดีว่าคนข้างๆคว้าเอวผมเอาไว้ทัน หนุ่มเชียงใหม่น้ำใจงามเจ้าของปืนฉีดน้ำที่ให้ผมยืมรวบเอวผมไว้ก่อนจะค่อยๆประคองให้ผมกลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง กิริยาแนบชิดแบบนี้ทำเอาผมแอบสะดุ้งรีบพึมพำขอบคุณก่อนจะค่อยๆแกะมือที่ประคองเอวผมออก
“ เต้ย”
“......”
ผมอ้าปากค้างตอนที่เอี้ยวตัวกลับไปเห็นมันยืนหน้าถมึงหน้าตาไม่สบอารมณ์ไม่ต่างจากไอ้แท็คและไอ้เต็ปเท่าไหร่ คนข้างๆตัวผมมองผมกับมันสลับกันไปมา
“ เหวอ”
ผมเซถลาไปตามแรงดึงของมันก่อนที่มือหนาจะรวบจับที่สะโพกแสดงความเป็นเจ้าของเจ้าของ เท่านั้นไม่พอสีหน้าของมันยังดุดันเหมือนกับจะประกาศสงครามกับหนุ่มเชียงใหม่น้ำใจงาม
“ เอ่อ”
“ จ๊อบ”
“ บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าใส่เสื้อตัวนี้” น้ำเสียงมันไม่ค่อยพอใจเมื่อเห็นว่าเสื้อยืดสีขาวที่ผมใส่มันเปียกชุ่มและแนบเนื้อมากแค่ไหน
“ ก็..”
“ ดื้อ”
“ ทำอะไร”
“.....”
มันไม่ตอบแต่ถอดเสื้อลายดอกของมันแล้วเอามาคลุมตัวผมไว้ เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ร่างกายส่วนบนมาเปล่าเปลือยโชว์กล้ามเนื้อได้รูปสวยงามจนผู้หญิงในกลุ่มนักท่องเที่ยวหันมามองแล้วยิ้มเขินๆ
“ อยากเล่นน้ำไม่ใช่เหรอ”
“ แต่”
“ ไปสิเดี๋ยวพาเล่น”
ว่าแล้วมันก็ดุนหลังผมให้ออกเดินโดยที่มือข้างหนึ่งยังโอบเอวผมแล้วพาเดิน ตอนที่หันไปพยักหน้าเป็นเชิงขอโทษหนุ่มเชียงใหม่ ผมจึงเพิ่งสังเกตว่ามืออีกข้างของมันถือกระแป๋งมาใบหนึ่ง ผมเอี้ยวตัวหันกลับไปมองว่านและแฮมซึ่งอยู่ในอาการเดียวกันก็เพราะไอ้แท็คที่ทำหน้านิ่วเดินไปแทรกตัวระหว่างว่านกับสองพ่อลูกนั่นท่าทางไอ้แท็คดูเขม่นพ่อลูกติดนั่นพอสมควร ว่านทำหน้าไม่พอใจแต่หลังจากที่ไอ้แท็คก้มลงไปกระซิบอะไรข้างหูไม่รู้จากใบหน้าบึ้งตึงของว่านกลับแดงก่ำน่ามองขนาดนั้นสุดท้ายไอ้แท็คก็ได้โอกาสรวบเอวแฟนมันเดินหายไปในฝูงชน
ไม่ต่างจากแฮมที่ทั้งแสดงสีหน้าไม่พอใจทั้งบ่นพึมพำแต่มือของไอ้เต็ปที่พาดไหล่อยู่ก็ยังไม่ยอมปล่อย แฮมฮึดฮัดอยู่พักใหญ่เตรียมจะเดินหนีแต่ไอ้เต็ปก็ไวพอกันเพราะมันรวบเอวอดีตรูมเมทผมไว้แล้วออกแรงดันให้เดินเล่นน้ำไปด้วยกัน พอได้เล่นน้ำสักพักนั่นแหละสีหน้าของแฮมถึงดีขึ้นหน่อย
พวกเราเล่นน้ำกันไปสักพักนึงจริงๆยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำตั้งแต่ออกมาจากร้านแต่ผมกลับไม่รู้สึกสนุกเลยทั้งๆที่คนก็เยอะแยะ บรรยากาศก็สนุกสนาน แต่เพราะไอ้คนข้างๆนี่แหละ มันนี่แหละ
คิดแล้วก็หงุดหงิด
อารมณ์อยากเล่นน้ำพลันสลายเพราะมัน มันซึ่งเปลือยอกเปล่าจนเป็นที่สนใจของทั้งสาวแท้สาวเทียมที่แวะเวียนมาขอสาดน้ำ มันไม่รู้บ้างรึไงว่ามีแต่คนมอง ทั้งมองทั้งจ้อง โดยที่มันนี่ก็แปลกยืนเฉยทำไม่รู้ให้เขาลวนลามทางสายตาอยู่ได้
คิดแล้วก็โมโห
ทั้งโมโห ทั้งหวง ทั้งหึง
แม่งเอ้ย
ผมพ่นลมหายใจทำตาขวางจนมันจับสังเกตได้
“ เป็นอะไร”
“ เปล่า”
“ เปล่าอะไรเห็นถอนใจเฮือกๆอยู่เนี่ย”
“ สนด้วยรึไง”
ผมทำหน้าเหวี่ยงใส่ มันเลิกคิ้วมองนิดนึงก่อนจะยิ้มมุมปาก พอมันยิ้มนี่แหละบรรดามือมืดทั้งหลายที่ลอบสังเกตอยู่ถึงกับทำหน้าเคลิ้ม ชิ
“ สนสิ..” ผมพูดยิ้มๆ “...ถ้าไม่สนจะตามมาอย่างนี้เหรอ”
มันเปลี่ยนจากโอบเอวมาพาดแขนที่บ่าผมก่อนจะรั้งให้ลำตัวเราแนบชิดกัน ผมทำหน้าเลิ่กลั่กมองไปรอบๆกลัวคนจะเห็นแต่เหมือนใครๆต่างก็ทำท่าสนใจกับการสาดน้ำกันซะมากกว่า
“ ทีนี้เข้าใจรึยัง”
“ อะไร”
“ กูหวงมึง” น้ำเสียงดังฟังชัดตอนที่มองไปยังเสื้อลายดอกที่คลุมทับเสื้อยืดผมอยู่
“...ก็เหมือนกับที่มึงหวงกูนั่นแหละ” “ ใครบอกกูหวง” ผมยังทำปากเก่งพยายามหลบเลี่ยงสายตาที่ปะทะกับแผ่นอกมันเต็มๆ
“ เหรอ”
“...”
มันยักคิ้วก่อนจะแกล้งเดินเฉียดเข้าไปใกล้กลุ่มผู้หญิงข้างหน้าและก็ได้รับความสนใจทันที เพียงไม่นานมันก็หลุดไปอยู่กลางวงโดยมีสาวๆรุมสาดน้ำรุมปะแป้งเท่านั้นไม่พอผมยังได้ยินเสียงหนึ่งในนั้นเอ่ยขอทั้งเบอร์โทร ทั้งไลน์และสื่อโซเชียลต่างๆ ซึ่งมันก็อมยิ้มก่อนจะปฏิเสธอย่างสุภาพแล้วขอตัวเดินออกมาแต่ไม่วายถูกถูกหยอดด้วยสายตาหวานฉ่ำ ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆทั้งที่ตอนนี้ในอกร้อนรนจนแทบทนไม่ไหว
ผมเตรียมผละหนีตอนที่มันเดินมาใกล้ๆแต่ติดที่มือหนาคว้าแขนผมเอาไว้
“ หึงกูยัง” มันถามหน้ายิ้มระรื่น
“ เออ”
ผมแทบจะตะโกนใส่หูมัน และนอกจากมันจะโกรธแล้วยังหัวเราะชอบใจ
“ ไอ้บ้า”
“ ไอ้ดื้อ”
“ ไอ้บ้า”
“ ไอ้ดื้อ”
สุดท้ายไอ้บ้านั่นก็รุนหลังให้ผมเดินกลับไปยังร้านที่เพิ่งออกมาไม่ถึงชั่วโมง
........
........
ตอนที่ผมกับมันในสภาพเปียกโชกเดินเข้ามาในร้านแววตาของทั้งเพื่อนมัน ทั้งรุ่นพี่มันที่มองพร้อมกับยิ้มล้อเลียนจนผมอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีเลยรีบผละไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พอไปถึงห้องน้ำก็เป็นจังหวะที่ว่านเดินสวนออกมาสงสัยว่ากลับมาก่อน
แต่พอว่านเห็นผมกลับรีบก้มหน้าหลบท่าทางอายๆและถ้าผมไม่สังเกตมากเกินไปรู้สึกว่าริมฝีปากของเพื่อนผมมันแดงก่ำทั้งยังบวมเป่งราวกับโดนผึ้งต่อย และสงสัยว่าจะเป็นผึ้งตัวใหญ่ที่ตามหลังว่านมาติดๆ เห็นแบบนี้ก็อดสงสารเพื่อนตัวน้อยไม่ได้ว่านทำหน้าเลิ่กลั่กทั้งอายทั้งเขินก้มหน้างุดๆเดินหนีไปทันทีที่ไอ้แท็คมันหัวเราะแผ่วๆอยู่ข้างหลัง
ไอ้แท็คมันโรคจิตชอบแกล้งแฟนตัวเองให้เขิน นี่คงไปซุ่มรังแกอยู่นานสองนานสินะว่านถึงเดินเซขนาดนั้น ผมมองคู่รักที่รักกันรุนแรงแล้วได้แต่ส่ายหน้า
ผมเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที ดีว่าพื้นที่หลังร้านมีห้องอาบน้ำด้วยเสียแต่ว่าห้องอาบน้ำดันไม่มีกลอนประตูนี่สิ
...ผลั๊วะ...
จังะหวะที่เปลื้องผ้าออกจนหมดเหลือแต่ชั้นในอยู่ๆประตูห้องน้ำก็ถูกผลักเข้ามาโดยที่มันยืนจังก้าอยู่หน้าประตู
“ เข้ามาทำไม” ผมรีบคว้าเอาเสื้อผ้ามาคลุมกายทันทีถึงมันจะไม่ได้ช่วยอะไรมาแต่ก็ดีกว่าเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้ามันก็แล้วกัน ผมรีบถอยหลังเมื่อมันขยับเข้ามาเรื่อยๆ
“ อาบน้ำด้วยสิ”
“ ไม่..” ผมดันไหล่มันออกห่าง “ ออกไปนะ”
“ น้าอาบด้วยนะเต้ย”
“ ไม่เอา ออกไปนะจ๊อบ”
“ หึ”
นอกจากมันจะไม่ฟังแล้วยังลงทุนเปลื้องผ้าตัวเองเหลือแต่ชั้นในตัวเดียวเหมือนกัน ผมเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจถึงแม้จะเห็นบ่อยๆแต่มันก็ยังไม่ชินสักทีแล้วนี่มันเป็นห้องน้ำร้านอาหารนอกสถานที่นะ
“ ออกไปนะจ๊อบ”
“อ่ะ”
มันดันแผ่นหลังผมไปชนกับผนังและไม่รอช้ามือข้างหนึ่งที่วุ่นวายอยู่ตรงสะโพกก็เกี่ยวเอาชั้นในผมหลุดร่วงพื้น และไม่รอช้ามันดันปลายนิ้วเข้าบั้นท้ายผมอย่างเร็ว
“ โอ้ย” ผมตาค้างเหลือบตามองนิ้วมันที่รุกรานช่องทางด้านหลังของผม “...ทำอะไรจ๊อบ ปล่อยนะ เอานิ้วมึงออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ ไม่”
“ อ่ะ”
ไอ้บ้านี้มันขยับนิ้ว
“ สัญญาก่อน..” มันทำหน้าทำตาเหมือนถือไพ่เหนือกว่า
“ อะไร โอ้ย”
มันยิ้มเย็นนิ้วยังขยับเข้าออกจนผมเสียวมวนท้องไปหมด “..สัญญามาก่อน”
“ อะไรเล่า”
“ ห้ามใส่เสื้อตัวนี้อีก ห้ามใส่เสื้อยืดบางๆเล่นน้ำอีก ห้ามทำอีก”
“ โอ้ย”
ผมทำหน้าบิดเบี้ยวมือก็ทุบอกมันแรงๆ
“ พอแล้วจ๊อบ พะ พอ”
“ สัญญามา”
“ อ่ะ..” ผมเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของมันจริงๆ “...สัญญา กูสัญญา”
“ สัญญาว่าอะไรครับ” มันถามยิ้มๆหน้าตากวนตีนรัวจังหวะด้านหลังจนผมแทบยืนไม่อยู่
“ สัญญา กูสัญญาว่าจะไม่ใส่เสื้อตัวนี้ อ่ะ อื้อ จะ อ่ะ จะไม่เสื้อยืดบางๆเล่น นะ น้ำ อีก”
“ ก็แค่เนี้ย”
“ มึงมันเจ้าเล่ห์”
มันหัวเราะแผ่วๆค่อยๆถอนนิ้วออก แต่มือยังวุ่นวายวนเวียนอยู่แถวสะโพก ส่วนผมแทบจะหมดแรงยืนดีว่ามีไหล่ของมันให้ซุกซบ
“ เด็กดื้อเอ้ย”
มันพึมพำก่อนจะบดจูบที่ขมับผมอย่างนุ่มนวล
********************************
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพวกเราก็มานั่งล้อมลงกับอีกครั้งที่หน้าร้านคราวนี้จากบรรดาพวกขวดสไปร์กับของกินกับแกล้มตอนนี้ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย และรู้สึกว่าผมกับมันจะออกมาช้าเพราะทั้งโต๊ะเขาเริ่มกินอาหารกันแล้ว
ผมเดินไปตามเสียงเรียกของแฮมที่โบกมือไปมาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ตอนที่นั่งใกล้ๆกันนี่แหละที่ผมสังเกตเห็นต้นคอของอดีตรูมเมทเต็มไปด้วยรอยดูดมากมายดีว่าอีกฝ่ายใส่เสื้อมีปกจึงดึงขึ้นมาปิดได้ เลยไม่มีใครสังเกตแต่ผมนี่สิดันตาดีและคงเผลอจ้องมองนานไปหน่อยฝ่ายนั้นเลยหน้าขึ้นสีรีบรวบคอเสื้อปิดทันที
ผมลอบสบตากับไอ้เต็ปเห็นมันยิ้มกริ่มก็พอจะรู้ว่าร่องรอยบนต้นคอแฮมมาจากฝีมือใคร
หึ
ร้ายพอกันทั้งสามตัว
ผมหรี่ตามองไอ้จ๊อบ ไอ้เต็ป ไอ้แท็คที่ยักคิ้วให้กันแล้วได้แต่นึกปลงในชะตาของทั้งตัวเอง ว่านและแฮม
“ พี่”
เพื่อนไอ้จ๊อบคนหนึ่งร้องทักใครบางคนเดินยิ้มกว้างมาแต่ไกล
“ ทางนี้พี่”
“ พี่เบียร์”
ผมยิ้มกว้างตอนที่เห็นใบหน้าของลุงรหัสมันในชุดเสื้อยืดสีสดใสกับกางเกงขาสั้นให้อารมณ์แบบชิวๆ แต่นัยน์ตาดูลึกโหลราวกับคนอดหลับอดนอน
“ ไงพี่” ไอ้จ๊อบทักพี่มัน
“ อืม”
พี่เบียร์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆผมก่อนจะขยี้หัวผมเป็นเชิงทักทาย
“ นี่หนีลูกเที่ยวเหรอพี่”
กลุ่มเด็กวิศวะแซวพี่เบียร์กันเสียงขรม “ นั่นดิพ่อลูกอ่อน นี่ปลีกตัวออกมาได้ไงอ่ะ เห็นไอ้จ๊อบมาบอกว่าเด็กติดพี่ถึงขนาดต้องหอบไปเลี้ยงที่ออฟฟิตทุกวันไม่ใช่เหรอ”
นั่นสิ
ผมพึมพำในใจเพราะได้ยินมันเล่าให้ฟังเหมือนว่าตั้งแต่พี่เบียร์ซึ่งมารับตำแหน่งที่ปรึกษาให้บริษัทมัน ก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องกระเตงทารกน้อยวัยเพียงแปดเดือนซึ่งเป็นลูกน้องชายของคนรักมาทำงานทุกวัน เห็นว่าเด็กติดมากงอแงทั้งวันไม่ยอมให้ใครอุ้มนอกจากพี่แก สุดท้ายพี่เบียร์เลยกลายเป็นพ่อลูกอ่อนหอบลูกมาทำงานพร้อมกับเลี้ยงเด็ก ป้อนข้าว ป้อนน้ำไปด้วย ไปๆมาๆเด็กน้อยนั่นเลยกลายเป็นขวัญใจทั้งออฟฟิต
“ อืม น้องธรไม่ยอมให้ใครอุ้มเลยหว่ะนอกจากกู” พี่เบียร์คลึงขมับหน้าตาเหนื่อยอ่อนแต่แววตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข “ นี่กล่อมให้กินนมแล้วรีบชิ่งมา”
“ หนีลูกเที่ยวนี่หว่า” ไอ้จ๊อบแซวพี่มัน
“ ว่าแต่..”
....Rrrrrrr.... ยังไม่ทันได้ถามพี่เบียร์ต่อโทรศัพท์พี่แกก็ดังขึ้น ผมสังเกตเห็นแกหน้าขึ้นสีเล็กน้อยตอนที่จ้องมาสายเรียกเข้าในมือก่อนจะกดรับแล้วพึมพำแค่อืมหลังจากนั้นก็วางสายไป แต่ทั้งโต๊ะหยุดนิ่งรอฟังอย่างสนใจจนพี่เบียร์ต้องกระแอมดังๆให้ทุกคนรู้ตัว
“ พ่อทูนหัวอีกคนของลูกโทรมาใช่ป่ะ”
“ นั่นแน่”
“ อะไรของพวกมึง” พี่เบียร์หน้าแดงแจ๋ท่าทางเขินอายเป็นกิริยาที่ใครมองก็ต้องรู้สึกเอ็นดู พี่เบียร์คงไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักน่ามองขนาดไหน และก็แปลกที่พี่แกกลับไม่ค่อยทำท่าทำทางแบบนี้ทั้งๆที่มันทำให้ใบหน้าหวานยิ่งหวานชวนมองราวกับไม่ใช่บุรุษเพศ
ไม่มีใครตอบคำถามพี่เบียร์ลุงรหัสไอ้จ๊อบเลยหันมาถามความเห็นจากผม “ อะไรเต้ย”
“ วันนี้เหมือนเภสัชกรจะลงเวรบ่ายรึเปล่าครับ” ผมถามยิ้มๆยิ่งทำให้พี่เบียร์อึกอักพูดไม่เป็นคำ สุดท้ายพอถูกจ้องมากๆเลยพยักหน้ารับอย่างอายๆ
“ อืม”
แล้วทั้งโต๊ะก็หัวเราะร่วน
พี่เบียร์แกล้งทำตาดุใส่ทุกคนแต่ก็แค่นั้นในเมื่อมันไม่ได้น่ากลัวสักนิด ตั้งแต่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนพี่เบียร์หมัดหนักก็ดูอ่อนโยนขึ้นยิ่งตอนนี้เป็นพ่อลูกอ่อนด้วยแล้วยิ่งทำให้อดีตโปรแกรมเมอร์มือดีคนนี้คล้ายจะเหมือนแม่บ้านเข้าไปทุกที
ผมอมยิ้มมองความสนุกสนานตรงหน้าด้วยความเบิกบานใจ
....โครม...
...ซ่าส์... ทั้งโต๊ะวิ่งกันแตกฮือเพราะเจ้าของร้านอย่างพี่ต๋องพี่รหัสไอ้จ๊อบและน้องตองสาดน้ำโครมใหญ่ใส่ทั้งกลุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสนุกสนาน และหลังจากนั้นทุกคนก็วิ่งหาอุปกรณ์ไล่สาดน้ำกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
สงครามสาดน้ำเริ่มขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
...ฟอดๆๆ... “ เฮ้ย”
ผมเบี่ยงหน้าหลบไม่ทันตอนที่สาดน้ำใส่มันแล้วมันตอบโต้ด้วยการกระโจนใส่แก้มผมเต็มๆ
“ โห่ๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงโห่แซวรอบทิศเรียกความร้อนลามไปทั่วทั้งใบหน้าของผมต่างจากมันที่ยืดอกรับหน้าชื่นตาบาน
หึ
แล้วหลังจากนั้นทุกคนที่เริ่มสงครามสาดน้ำก็เปียกม่อล่อกม่อแลกนั่งทรุดตัวกันอยู่ละมุมแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มบนใบหน้าทุกคนบ่งบอกถึงความสุข
มันเป็นสงกรานต์ที่น่าจดจำจริงๆ
ผมอมยิ้มแล้วพิงศีรษะกับอกมันอย่างสบายอารมณ์
**** มาแล้วๆๆๆๆ

มีตอนพิเศษแบบฟินๆในโลกอนาคตให้ได้หายใจหายคอได้สะดวกหน่อยเนอะ

ก่อนจะกลับไปพบความจริงในตอนปกติที่หน่วงเหลือเกิน 5555
อย่าเพิ่งเหนื่อยใจถอดใจกันนะ เอาใจช่วยทุกคู่ๆด้วยจ้า คาดว่าอีก(ไม่)นานมันคงคลี่คลาย (เหรอ)
ยังไงติดตามให้กำลังใจกันไปเรื่อยๆเนอะ
สุดท้ายสวัสดีวันปีใหม่ไทย สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ขอให้เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานนะจ๊ะ อ่ออย่าลืม
ว่าปีนี้เค้าจะให้งดเล่นแป้ง และไม่สนับสนุนการดื่มแอลกอฮอลด้วยนะ ( แอบมีในฉากอย่าลอกเลียน
แบบนะจ๊ะเด็กน้อยทั้งหลาย)
