EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ  (อ่าน 275335 ครั้ง)

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อ่านมาแล้วค่าาาา หวานจริงๆ ⌒.⌒

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มาเที่ยว "เลย" ด้วยแหละ ไปขึ้น"คาน" บ่ 555  :impress2:

ออฟไลน์ minnin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อยากอ่านคู่หลักเเล้วอ่ะ

ออฟไลน์ Merrychrista

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เห็นนิยายเรื่องนี้หลายรอบล่ะแต่ไม่กดเข้ามาอ่านสักทีจนอยู่ดีๆก็ เอาว่ะ! เห็นหลายรอบล่ะ ถ้าไม่สนุกก็กดปิดไป จบ!
ได้อ่านเท่านั้นแหละ ติดเลย! ไม่ใช่อะไรติดใจการรับน้องค่ะ แบบ เฮ้ยย มันใช่เลย ที่กูโดนก็แบบนี้นี่แหละ (พูดในใจนะค่ะ555)
อ่านไป อื้อฮือ นึกถึงตอนรับน้องเลย ช่วงแรกๆ พี่ปีสองแล้วก็ปีสูงจะให้น้องทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไอเท็ม รุ่น ลายเซ็น แล้วพอเปิดเรียนเจอพี่ระเบียบเท่านั้นแหละ เฮื้อกกก โหดร้ายยยย สารภาพไม่ชอบตอนพี่เค้าว๊ากพร้อมๆกันหนูฟังไม่รู้เรื่อง555 เจอระเบียบว่าโหดแล้วมาเจอพี่วินัยสำนักตัวเอง อ๊ากกก โหดกว่าอี๊กกก พี่วินัยเค้าจะเริ่มเอาของที่น้องปีหนึ่งได้มาคืนไปทีละอย่างๆ จนหมด (ยกเว้นรุ่น555) คือแบบ เศร้ามากกก น้องปีหนึ่งทุกคนต้องเห็นพี่ตัวเองเอาไอเท็มไปใส่ โดนยึดสมุดล่าลายเซนต์ คือพี่วินัยมากี่รอบ นี่ร้องไห้ทุกรอบ แล้วยิ่งไปกดดันช่วงชิงธง ช่วงนั้นพี่วินัยลงบ่อยมากกกก ร้องไห้กลับหอทุกวัน สงสารเพื่อน สงสารรุ่นพี่ที่โดนทำโทษแทน สงสารตัวเองด้วย555 แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ล่ะนะ! กร๊ากกก ทุกวันนี้รักพี่วินัยกับระเบียบมากกว่าพี่สัน55555 อ่า แต่ที่มอไม่มีจับน้องเทคอะไรแบบนี้ค่ะ ไอดีใครไอดีมันไปเลย ไอดี100 ก็จะมีสายรหัสของ100ไปเลย หาพี่ง่ายดี555แต่ให้พี่รับเป็นน้องย๊ากยาก~ แล้วนี่ฉันเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย5555
ลงจากดอยกลับมาที่นิยาย55 นิยายสนุกมากค่ะ อ่านไปอินไปคือมันอินจริงๆนะ ถ้าอ่านช่วงอยู่มัธยมจะไม่อินขนาดนี้555 อ่านแล้วบอกตรงๆเลยนะเค้าอยากให้พายุเป็นเคะมาก หมั่นไส้! อันนี้เหตุผลส่วนตัว ฮา แล้วก็น้องคีตาหนูน่ารักมากลูกอ่านตอนแรกนี่แบบ อ้าวๆ ลมหนาวจะมีมือที่สามเร๊อะ! อ่านไปเรื่อยๆ อร๊าย พี่กิต แต่ที่ยกให้อันดับหนึ่งในเรื่องคือพี่ทิวค่า ชอบมากก คือชอบผู้ชายที่ดูอบอุ่นอ่ะ แบบFCพี่ทิวเลย 55 ก็ติดตามไปเรื่อยๆค่ะ มาลงตอนต่อไปไวๆเน้อ555
ปล.ตอนแรกกะว่าจะไปเป็นพี่วินัย ขอเปลี่ยนใจล่ะกันค่ะ สงสารน้อง555 ขอไปเป็นพี่แฝงดีกว่า555ไปเกาะติดน้องผู้ชายวิศวะนิสนุง กรี๊ด นี้พูดอะไรไป55555

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
คู่นี้หวานต้อนรับปีใหม่
 :katai5: :katai5: :katai5:
รออ่านคู่หลักจร้า

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สิบสาม

(ปันปัน)

ให้ตายเถอะ เมื่อไหร่ไอ้หนาวจะมาสักทีวะ แม่ง หืม อ่อ อ่าว ไง ดีครับ ผมปันปัน คนที่เกือบจะได้เป็นเฮดวินัยของเมดเทค ถ้าไม่ใช่ว่าหนาวมันเป็นคู่กรรมกับเฮดวิศวะคนปัจจุบันมาน่ะนะ

แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ... สำคัญที่ตอนนี้ผมว่าผมมีปัญหา... งานเข้านิดหน่อยแบบงง ๆ แล้วแหละ

ผมรู้สึกแปลก ๆ พิกล ๆ มาหลายวันแล้ว มันเริ่มมาตั้งแต่ก่อนที่จะประชุมการตัดน้องเมื่อสามวันก่อนซะอีก ตอนแรกก็ว่าคงคิดไปเอง แต่ผมจะคิดไปเองนานขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย

มันไม่ใช่แม่งแล้ว

ต้องมีอะไรแน่ ๆ โถ่เว้ย เมื่อไหร่ไอ้หนาวแม่งจะมาถึงสักทีวะ ห้านาทีแล้วนะโว้ยย อิเชี่ย

"ชักสีหน้าเป็นตูดให้เห็นแต่ไกลเลยนะเอ็ง"ในที่สุดคนที่รอก็มาถึงสักที หล่อเซียว ๆ มาตามฉบับ แค่เสื้อยืดแขนยาวพับแขนกับกางเกงยีนส์นี่

เดือนคณะออร่าแม่งจับทั้งชาติ

แล้วกูมานั่งชมมันทำไมวะ

"มีไรวะ ถึงเรียกมาอย่างด่วนเนี่ย"ลมหนาวตวัดตัวนั่งลงตรงข้ามผมแล้วเลิกคิ้วถาม "ว่ามาเร็ว อยากรู้"

"กูรู้สึกเหมือน... มีใครสักคนตามกูอยู่"ผมกดเสียงพูดให้เบาที่สุด หนาวมุ่นหัวคิ้วน้อย ๆ สายตามองผมมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ผมบอก "จริง ๆ นะเว้ย"

"คุณปันครับ คุณปันมีจิตสัมผัสหรือมีญาณทิพย์ครับ เป็นคุณริวจิตสัมผัส หรือคุณเจน ญาณทิพย์ครับคุณ"เชี่ยนี่กวนประสาทได้อีก โอเค... ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันจริงคนอย่างไอ้ลมหนาวมันไม่กวน ไม่เล่นด้วยหรอก ผมรู้ แต่เชี่ย แม่งใช่เวลาเปล่าวะ

"กูจริงจังครับเพื่อน"ผมพูดเสียงเข้มให้มันรู้ถึงความจริงจังของผม ซึ่งคนที่ความรู้สึกไวอย่างลมหนาวไม่มีทางพลาดอยู่แล้วล่ะ "ซีเรียสนะมึง"

"ไม่ได้คิดไปเองแน่นะมึง"ลมหนาวมันถามกลับเสียงเข้มไม่แพ้กัน ดวงตาที่ฉายแววขี้เล่นตอนแรกเปลี่ยนเป็นจริงจัง

"เออ กูมั่นใจ ต้องมีใครตามกูอยู่แน่"ผมย้ำอีกครั้งกับเพื่อนสนิท "แม่ง ยิ่งช่วงเย็นเหมือนโดนจับตาดูทุกฝีก้าวเลยด้วย"

"คนหรือผี"เป็นคำถามที่ดี แต่ขอคำถามถัดไป เชี่ยนี่ "กูถามจริง ไม่ใช่ว่ามึงลืมไหว้อาจารย์ใหญ่แล้วท่านตามมาเอาเรื่องมึงนะ ปันปัน"

"กูไหว้อยู่กับพลอยเว้ย"ถึงจะไม่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่แล้วแต่ผมก็ไม่เคยลืมไปไหว้ท่านนะ ปีนี้จัดชุดใหญ่ด้วย (บนไว้ ถ้าได้A พาโธกับเคมีคลีนิคจะจัดชุดใหญ่ให้ท่านน่ะ ฮะ ๆ ได้แล้วก็ต้องแก้สักหน่อย) "มึงเป็นคนไปซื้อแตงโมกับส้มให้กูเอง ลืมหรือไง"

"ลืม"ตอบเร็วไปไหมวะ เพิ่งผ่านมาเดือนเศษเองนะเว้ย "กูจำได้แต่น้ำแตงโมปั่นที่มึงลืมเอาเม็ดออกแล้วให้กูดื่ม รสชาติโคตรไม่อร่อย"

"เรื่องดี ๆ มีไม่จำ"ผมอดที่จะสบถออกมาไม่ได้ เออ หลังจากนั้นผมเลยเอาผลไม้ไปให้พี่สักแกทำให้แทน หลังจากทำเม็ดแตงโมติดคอไอ้หนาวไปสี่ตลบ (เม็ดส้มด้วย) "แต่จริง ๆ นะเว้ย กูจะเป็นบ้าแล้วเนี่ย"

“แล้วใครตามมึงอยู่กัน”ลมหนาวจ้องหน้าผม ไม่พอ มันมองผมตั้งแต่หัว ไล่ลงมาจนถึงสุดเท่าที่สายตามันจะเห็น แล้วกลับขึ้นมาจ้องหน้าผมอีก “หน้าตาก็อืม... ไม่เลว ผิวเข้ม ตาคม หัวดำ สูงใช้ได้ หุ่นก็... ถ้าบอกไม่ดีเข้าตัวเอง ดีก็ได้ เรื่องเรียน... ไม่ได้เรียนด้วยกันก็ไม่น่ารู้ว่ามึงเก่ง ส่วน...”

“มีอย่างนึงที่กูเดาไว้... แล้วไม่น่าพลาดนะ”พูดขัดคอหนาวไว้ก่อนที่มีนจะสาธยายออกมาเยอะกว่านี้... แม่ง ไอ้หุ่นนี่มันยังไง ๆ อยู่นะ ดีก็ได้? ผมออกกำลังกายมากับไอ้คนพูดเนี่ย หกแพคนะเว้ย ไอ้ดีก็ได้มันน่าถีบชิบเลยว่ะ คนใต้แท้ ๆ อย่างผมจะให้ผิวขาวเป็นหยวกอย่างมันหรือไง? “กูว่าต้องไม่ใช่คนในคณะเราแน่ ๆ”

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”คุณประธานวินัยลมหนาวเท้าคางมองผมอย่างสงสัย “คนคณะเราแอบชอบมึงก็มีอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“เพราะเขามาไม่เป็นเวลาไง... แล้วส่วนใหญ่ก็มาแต่ตอนเย็น ๆ ที่พวกเราไปเล่นกีฬากันด้วย”ผมชี้แจงให้เห็นถึงจุดสังเกตของผม จริง ๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าสโตรกเกอร์ที่ตามผมอยู่นี่มาตอนไหน นับจากความรู้สึกตัวเองล้วน ๆ “ตอนแรกกูคิดว่าตามมึง แต่พอแยกกันแล้วความรู้สึกที่โดนจ้องมันก็ยังไม่หาย จนถึงหอเลย”

“เซ้นส์ดีนิ”จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันนะ... “แล้วคิดว่าเป็นคนในมหาลัยเราไหมล่ะ”

“ไม่แน่ใจ...”คำถามนี้ตอบยาก มหาลัยมันไม่ได้มีแต่คนข้างในเข้าออกเหมือนมัธยมที่พอถึงเวลาเข้าเรียนประตูก็ปิด ไม่มีใครเข้าออกอีกจนเลิกเรียน แต่มันสามารถเข้าได้ทั้งวัน กี่โมงก็ได้ รับบัตรเข้ามาก็จบ... หรือถ้าไม่ได้เอารถมา เดินเข้ามาดื้อ ๆ เลยก็ยังได้ เนียน ๆ เครื่องแบบสักนิด

“ปัน มึงคิดว่าคนที่ตามมึงเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”อีกคำถามที่ผมยังหาคำตอบไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้นึกถึงด้วย คิดแต่มีคนตามผมอยู่

“ไม่รู้...”ตอบไปตามตรง ไอ้หนาวเลยหรี่ตาใส่ผม ก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างหน่าย ๆ คนมันโดนตามติดชีวิตเดือนอยู่ ใครจะไปมีกระใจมโนว่าผู้ชายหรือผู้หญิงวะ

“อย่างนายน่าจะผู้หญิงแหละมั้ง...”มีมั้งด้วย หน้าตากูไม่ได้เสป็คของผู้ชายนะเว้ย แมนแท้ หล่อ ล่ำ สมชาย สาวตรึม “ไม่ก็เกย์ควีน กระเทย”

“ที่พูดมาไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิดว่ะ”ผมถอนหายใจอย่างไม่รู้จะเอายังไงต่อดี มันเป็นแค่ความรู้สึกที่ผมแน่ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าใครตามอยู่ และตามทำไม...

“ค่อย ๆ ดูไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังไงมึงก็อย่าไปไหนคนเดียวช่วงนี้...”อยู่ ๆ ดวงตาของคนตรงหน้าก็พราวระยับขึ้นมา พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก “เดี๋ยวโดนฉุดไม่รู้ด้วยนะ”

“บ้าหรือไงวะ แม่ง”พูดมาได้ ขนลุกชิบ ใครจะมาฉุดผู้ชายอย่างผม ไม่ได้เอวบาง ร่างน้อยอย่างพี่เบียร์ปีสี่สักหน่อย (สาวประเภทสองตัวแม่ของคณะเลย...) นิสัยขี้เล่นไม่เป็นเวลาของมันนี้ แม่ง ทำสยิว ขนลุกยันตูดเลย “เครียดนะเว้ย”

ผมยกมือขึ้นจะขยี้กบาลตัวเองแก้เครียด แต่ได้หนาวมันจับเอาลงไว้ก่อน หน้าที่ยิ้มนิด ๆ ของมันเคร่งขรึมขึ้น แต่ไม่วายส่งซิกให้รู้ด้วยมาหางตามันเห็นอะไร

เด็กปีหนึ่งสี่ห้าคนกำลังเดินมาทางที่พวกผมนั่งอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอารมณ์ไหน (ยกเว้นโกรธ หงุดหงิด) ก็ต้องหันมาตีสีหน้าเรียบเฉยเอาไว้หน่อย ยิ่งช่วงตัดแบบนี้มันยิ่งเสี่ยง คนมันก็มีหลายแบบน่ะนะ บางคนตอนโดนตัดก็กลัวจนหงอ แต่ขณะเดียวกันบางคนก็หลงระเริงหนัก

“สวัสดีครับ / ค่ะ พี่”น้อง ๆ ยกมือไหวพวกผม คิดเหรอว่าจะรับไหว้... ไม่ล่ะ ยังไม่ใช่ตอนนี้ จากท่าทางที่ดูทีเล่นทีจริง ต้องกลับมาสวมหัวโขนเป็นวินัยอีกรอบ ตัวผมน่ะมันผู้ตาม ไม่เท่าไหร่หรอก แต่หนาวนี่ดิ “พี่ครับ / คะ สวัสดีค่ะ”

ปีหนึ่งไหว้อีกรอบ แต่ก็ไม่มีแม้แต่หางตาไปจากประธานวินัยของพวกเรา ลมหนาวตีหน้านิ่งได้เก่งขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก แต่ผมรู้... ว่าในใจมันแกว่งไม่น้อย เพราะมันเป็นคนที่ใจดี และเสียสละมาตลอด (ตอนปีหนึ่งมันเคยบอกว่าจะไม่มีวันทิ้งน้อง แต่ปีนี้ต้องมาตัดน้องซะเอง ทำเอาโทรมยิ่งกว่าปีที่แล้วเลย ฮ่า ๆ)

น้องมันยืนยกมือค้างอยู่แบบนั้น ดวงตาสั่นระริกจ้องมองพวกผม หวังจะให้หันไปมองสักนิดล่ะมั้ง... ถ้าเป็นปกติยู่คนเดียว ผมอาจจะหลุดหันไปพยักหน้าให้น้องมันไป ๆ สักหน่อย แต่นี้อยู่กับคุณประธาน เปอร์เซ็นการหลุดแล้วโดนจับเจี๋ยนเป็นปันเจี๋ยนสูงเกิน ไม่เสี่ยง

“เดี๋ยวผมจะคอบช่วยคุณดูแล้วกัน น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง”กู มึง อย่างสนิทสนมของเราต้องโดนเบรกไว้แต่เพียงเท่านั้น “อีกไม่นานคงได้รู้กัน”

“ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”ผมตอบรับไปด้วยเสียงและท่าทีที่เคร่งขรึมพอ ๆ กัน น้องที่ยืนอยู่ก็ไม่ไปสักที ยืนไหว้เหมือนกูเป็นศาลเจ้าไหว้ขอพรอย่างนั้นแหละ

ครืด

อะไร ของใครสั่น... ยังไม่ทันได้สำรวจ เฮดวินัยจอมเฮี๊ยบก็หยิบไอโฟนที่มีชื่ออันเลิศหรูว่า ‘ไคฟง’ ของมันขึ้นมาดู ก่อนจะมุ่นหัวคิ้ว

“ผมคงต้องไปทำธุระแล้ว... ปัน คุณต้องไปกับผม”ลมหนาวพูดขึ้นระหว่างที่มันลุกขึ้นหยิบของรอบตัวเก็บใส่กระเป๋ากางเกงอย่างไว(มีแค่มือถือ กระเป๋าตังค์ กุญแจรถ เยอะดีนะ)

“อืม”ไม่ถามเหตุผล มันอาจจะแค่ช่วยให้ผมออกจากตรงนี้ไปก็ได้ น้องไม่ยอมไปสักที ก็มีแต่เราที่ต้องเป็นคนไปเอง

“ประธานคณะแพทย์เรียกรวม”ประโยคนี้ทำสะอึก พี่ทิวไผ่เรียกรวม? นานปีมีหนที่พี่เขาจะเรียก ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญจริง ๆ (อย่างเรียกไปเทศน์ที่ทำให้ใครบางคนไม่สบาย...)

“อย่างนั้นรีบไปเถอะ”ถ้าไปเลทมากคุณอาจจะได้อยู่ไม่สุกกับสายโทรศัพท์ที่จะเข้ามาไม่ยั้ง ยิ่งถ้าเอาใส่ไว้ในกางเกงแล้วเปิดสั่น อาจจะเสร็จไม่รู้ตัว

ผมกับลมหนาวเดินออกมาจากหน้าแลปไปลานจอดรถอย่างไว โดยไม่แม้แต่จะหันไปมองน้องที่ไม่รู้ว่าจนตอนนี้จะเลิกยกมือไหว้ขอพรหรือยังว่าเป็นยังไงบ้าง ใจนึงผมก็สงสาร แล้วก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ที่ให้น้องมันยกมือไหว้อยู่แบบนั้น แต่อีกใจก็อยากฝึกให้น้องรู้...

ไม่ใช่ว่าทุกเวลาจะมีคนคอยยื่นมือเข้ามาป้อนทุกอย่างให้ถึงที่ แต่ต้องรู้จักเดินทางไปหามันด้วยสองมือของตัวเองบ้าง...

แต่นะ ชาววินัยเมดเทคอย่างเรา ๆ ไม่ได้หวังว่าน้องจะรู้ความนัยน์แฝงของสิ่งที่ทำให้พวกเขา แต่แค่ได้เห็นน้องรักกัน สามัคคีกัน มันก็โอเคในระดับนึงแล้ว

แต่ก่อนจะคิดถึงเรื่องนั้น... ผมจะทำยังไงกับคนที่ตามผมอยู่ดีเนี่ย

แม่งงง ต้องการเหี้ยอะไรจากกูวะครับ บอกมาเลย!!

ฮ้วย


(ลมหนาว)

อยู่ ๆ ก็ไลน์มาเรียกให้กลับไปห้องประชุมเล็กที่คอนโด ไม่รู้ว่ามีอะไร หรือจะทำแผนอะไรอีก พี่ทิวยิ่งไม่ค่อยเหมือนใครเขาอยู่ด้วย จะเรื่องชิงธงหรือเปล่า หรือเป็นเรื่องงานอื่น การไม่บอกอะไรมากไปกว่าทำธุระเสร็จให้รับกลับของพี่เขา แล้วยังให้เอาเพื่อนไปด้วยนี้ ทำผมเครียดหนักกว่าเก่าอีกนะครับ

“เห้ยยย เบาาาา ในเมืองไม่ใช่สนามแข่งรถนะเว้ย ไม่ต้องเหยียบขนาดนั้น”ปันปันร้องขึ้น หลังจากที่ผมเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วจากแปดสิบขึ้นมาเป็นร้อยยี่สิบ วันนี้ถนนโล่งนี่ครับ จะกลัวอะไร “หนาววว ระวังรถสิบล้ออ”

“เออ เห็นแล้ว”หักหลบแล้วปาดหน้า เข้าเดี๋ยวต้องเลี้ยวซ้าย ถ้าเข้าไม่ทันได้อ้อมไกลน่ะครับ “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มึงไปถึงคอนโดพี่ทิวสภาพครบสามสิบสองแน่”

จริง ๆ ผมว่าผมก็ขับรถไม่ได้เร็วมากนะครับ ถ้าเทียบกับเวลา ขนาดเหยียบแล้วบางทียังไปมหาลัยสายเลย (เรียนเช้า แต่ดันกลับไปนอนที่บ้าน เหยียบ ปาด แซง ครบสูตรคนด่าเลยครับ แหะ ๆ) หลัง ๆ เลยกลับบ้านเฉพาะวันหยุดยาว ไม่ก็มีเรื่องสำคัญเท่านั้นล่ะครับ ไม่ต้องห่วงมาก ยังไงพี่โซนก็คอยดูแลพ่อแม่อยู่แล้ว (พี่โซนร้อน พี่ชายของผมเองครับ ดูไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่เลยว่าไหมครับ)

ใช้เวลาไม่นานก็กลับมาถึงคอนโด โดยที่ยังไม่มีใครโทรตาม โล่งอกไปหน่อยนะครับ ไม่งั้นสายโทรศัพท์ได้ไหมแน่ ๆ

ผมเดินนำปันปันขึ้นไปที่ห้องประชุมเล็ก จะว่าไปวันนี้มีรถที่ไม่คุ้นมาจอดเยอะเหมือนกันนะครับ ทั้งมอเตอร์ไซต์และรถยนต์

ใครนัดชุมนุมสังสรรค์กันข้างในคอนโดที่รักษาความปลอดภัยเป็นเลิศนี้หรือไงกันนะ... แต่ผ่านยามกับประชาสัมพันธ์ของที่นี่เข้าไปได้ คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งครับ

“ยังหรูเหมือนเดิม”เสียงเพื่อนในคณะที่มาด้วยกันเปรยขึ้นให้ได้ยินเบา ๆ

“ก็นะ... เขายังไม่ได้ปรับปรุงอะไรใหม่”คอนโดที่ผมยืนอยู่นี่เทียบได้กับโรงแรมห้าดาวมั้งครับ ตอนแรกเห็นว่าคุณลุงเขาสร้างขึ้นมาให้ลูกชายมาอยู่เล่น ๆ แต่ทำเลทอง เลยสร้างเป็นคอนโดขึ้นมาเปิดขายห้องชั้นล่าง ๆ ชั้นบน ๆ เก็บไว้อยู่กันเอง แต่จนแล้วจนรอด ที่บอกไว้อยู่กันเอง ก็มีพี่ทิวคนเดียวที่มาอยู่ล่ะครับ

“พี่ทิว มีอะไร...”ผมว่าผมรู้แล้วว่ามีอะไร ทั้งหม้อ ผัก ของสด แล้วก็คนที่โคตรจะเยอะอย่างนี้... อยู่ ๆ พี่ทิวแกก็จัดปาร์ตี้ขนาดย่อม ๆ ขึ้นมาเนี่ยนะครับ?! มอง ๆ แล้ว รู้สึกจะมีแต่คนคณะเทคนิคการแพทย์ คณะแพทย์ แล้วก็... พวกวิศวกรรมศาสตร์

“มาแล้วเหรอหนาว”พี่ทิวเดินออกมาจากในครัวเข้ามาหาผมพร้อมด้วยรอยยิ้ม “พี่เห็นพวกเราเครียด ๆ กัน เลยหาอะไรมาผ่อนคลายความเครียดสักหน่อย”

“ครับ...”ผ่อนคลายครับ เอาคณะที่เป็นคู่อริกันมาชนกันแบบนี้ โคตรผ่อนคลายเลยครับ พี่ทิวมองผมด้วยแล้วตารู้ทัน ก่อนที่จะยกมือถ้ามาส่ายนิ้วชี้ให้ผม

“ห้ามทะเลาะกันนะครับ หนาว รู้ไหม”เสียงอุ่น ๆ ที่แฝงแววดุหน่อย ๆ ถูกส่งผ่านเข้าโสตประสาททางอากาศ... ใครจะไปเถียงกันต่อหน้าพี่ทิวล่ะ...

สิ้นคิดเกินไปแล้ว

“ผมไม่มีอารมณ์จะมาทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ”พี่ทิวยิ้มรับแล้วลากผมเข้าไปข้างใน นั่งข้าง ๆ พี่เขานั่นล่ะครับ ขวามือเป็นพี่คิน ก็คุยกันอยู่บ่อย ๆ นะครับกับพี่คนนี้ ทำงานเป็นเฮดมาด้วยกัน แต่ตรงข้ามดันเป็นอีกคนที่ผมไม่อยากจะเสวนาสักเท่าไหร่...

จะใครได้ล่ะ ก็เฮดว๊ากของวิศวะอย่างพายุไงครับ

“เออ หนาว เห็นว่าตัดน้องแล้ว เป็นไง น้องเริ่มดีขึ้นบ้างไหม”พี่คินหันมาชวนคุย ทำให้ผมละสายตาจากคู่กันตรงหน้ามาหาพี่เขาแทน

“ยังไม่เลยครับ เหมือนเดิมด้วยซ้ำ ยังไม่ได้ยินเสียงน้องซ้อมร้องเพลงเลยด้วย”คิดแล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ ถึงจะตัดออกไป แต่ผมก็รอฟังอยู่นะครับ.. รอฟังความรัก และความสามัคคีของระดับชั้นปีพวกเขา... แต่มันอาจจะเป็นไปได้แค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ “ปีนี้เทคนิคการแพทย์คงไม่ได้ธงหรอกครับ”

“ไม่แน่เสมอไปน่า หนาว รอดูต่อไปก่อนนะ”พี่คินบีบไหล่ผมหนัก ๆ ให้กำลังใจ... แต่ผมว่าผมไม่น่าเดาผิดหรอกครับ... มันดูไม่มีความหวังเลยจริง ๆ

“อย่าเครียดไปก่อนน่า หนาว มา กินเถอะ”พี่ทิวคีบเอากุ้ง เนื้อปลา ปลาหมึก มาใส่ถ้วยผม พร้อมกับผัดการขาวที่ต้มจนเปื่อยแล้ว “อย่าคิดมากเลยนะครับ”

“ครับ...”ตอบรับไปทั้งที่รู้ตัวเองว่าทำไม่ได้ แต่พี่ทิวก็ทำเพื่อผมมามากแล้ว จะให้เขามากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ไม่นานก็ผ่านไปแบบนี้ เพราะผมคงใช่ที

เอาเถอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

อยู่ ๆ ก็มีแก้วน้ำส้มมาวางตรงหน้าผม พายุไปตักน้ำมาให้ผม? วันนี้พายุเข้าแน่ ๆ ครับ หมอนั่นวางแก้วลงมาแล้วไม่พูดอะไรอีก ว่าแต่... กินได้แน่ไหมเนี่ย

“ขอบใจ”ถึงไม่ได้อยากจะพูด และไม่พอให้ทำให้ แต่มันเป็นมารยาทอันควร เขาทำให้ยังไงก็ต้องขอบคุณสักนิดล่ะนะครับ

“อืม”เป็นคำตอบที่สั้นเกินคนอย่างพายุไปหน่อยนะ... ผมเงยหน้าขึ้นไปมองจ้องตากับคนที่นั่งตรงข้ามอย่างสงสัยในการสงบปากสงบคำของมัน

พายุกระตุกยิ้มน้อย ๆ แล้วพูดออกมาอย่างไม่มีเสียงว่า

‘กินเยอะ ๆ นะครับ ผมจะได้กอดได้เต็มมือ’

แม่ง... ใครจะให้มันกอดวะครับ วิศวกรรมศาสตร์มีสอนวิชา มโนขั้นเทพด้วยหรือยังไง

‘ไม่มีวันที่คุณจะได้กอดผม’ตอบกลับไปอย่างไม่มีเสียงเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ถึงคำที่เราพนันกันเอาไว้นี่ครับ

‘อีกไม่นานก็จะได้รู้กัน’

ผมกับพายุจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร เป็นคนอื่นอาจจะมีอ่อนให้บ้าง แต่กันมัน ผมไม่ยอมเหมือนกันล่ะครับ

“อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าทะเลาะกันอยู่ทางสายตา ถ้าไม่อยากโดนดีก็เลิกทะเลาะกันได้แล้ว”เสียงพิฆาตแบบเย็น ๆ แสกหน้าขึ้นมา ทำเอาผมหยิบช้อน คว้าตะเกียบกินสารพัดของในชามแทบไม่ทัน... ไม่ใช่แค่ผมหรอก ไอ้พายุก็ด้วย

พี่ทิว... Winner ตลอดกาล

อ่อ... อีกอย่าง น้ำส้มกินได้นะครับ...

+++++++++++++++++++++++++++++++++ๅ

มาแบบสั้นหน่อย... แหะ ๆ สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้านะคะ เผื่อวันปีใหม่ไม่ได้มาลงนิยาย 555 ตอนต่อไปจะถึงคิวของน้องปีหนึ่งบ้างแล้ว

เย้

ปล. ใครยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษปีให่1 เข้าไปอ่านกันได้ที่ https://www.facebook.com/notes/midnigt-k-story-z%C7%90s%C3%A8/happy-new-year-1-%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%95/766548993423413

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เข้าไปอ่านตอนปีใหม่ใน Facebook แล้วคร้า รอตอนต่อจากตัดน้องอยู่นะคะ (ลุ้นความสัมพันธ์พายุกับลมหนาวด้วย) :impress3:

ออฟไลน์ morningflower

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อยากให้น้องสามัคคีกันเร็วๆ สงสารหนาว  :hao5:

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :m20:  โมเม้นนี้ ทำไมพี่ทิวเหมือนพ่อ ที่เห็นลูกๆทะเลาะกันเลยนะ  :m20:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
ตอนพิเศษปีใหม่2 เป็นพายุ ลมหนาว เจอกันวันที่ 31-1 นะคะ <3

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ถ้าเราเป็นน้องกลุ่มนั้นนี่ มีเงิบเลยนะ 555

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
พี่ทิวนี่พ่อของลมหนาวชัดๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น้ำหนาวกินน้ำส้ม????  อ๋อย...นางเอกมาแล้ว

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
เข้าไปอ่านตอนปีใหม่ใน Facebook แล้วคร้า รอตอนต่อจากตัดน้องอยู่นะคะ (ลุ้นความสัมพันธ์พายุกับลมหนาวด้วย) :impress3:


ตอนต่อไปแล้วค่ะ ^^

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อยากอ่านตอนไปเลยยยยย

ออฟไลน์ aiyarin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
https://www.facebook.com/notes/midnigt-k-story-z%C7%90s%C3%A8/happy-new-year-2-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8-x-%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7/769046739840305

เปิดวาร์ปอีกแล้วค้า เย้ (ร้องไห้แปป เปิดบ่อยเกิน)

คราวนี้ของคู่หลักที่รอคอย (หรือเปล่า) นะคะ

ตอนหลักตอนต่อไปของคีตา ฮิ้วว ได้คิวน้องปีหนึ่งแล้วว // หยิบทิชชู่

แล้วพบกันตอนต่อไปค้า ^3^

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage

ออฟไลน์ morningflower

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คู่นี้หวานจริงๆเลย ว่าแต่...เตรียมอุปกรณ์ขนาดนั้นแล้ว ไม่ใช้หน่อยหรอพายุ~  :hao6:

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่สิบสี่

(คีตา)

หลังจากวันที่โดนตัดสาย พี่ปีสอง ปีสาม ปีสี่ ก็แทบจะหายไปจากชีวิตของปีหนึ่งอย่างพวกผมจริง ๆ ทักไลน์ไปไม่ตอบ โทรไปไม่รับ เจอกันไม่ทักทาย ไหว้ไปก็เฉยเมย ไม่รับไหว้เหมือนเคย ไม่ใช่แค่เทคนิคการแพทย์ แต่รวมไปถึงพวกวิศวะหมาหงอยด้วย

โคตรอึดอัดเลยโว้ย

แต่จากเหตุการณ์วันนั้น ทำให้ผมรู้ได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกว่าลุงเทคของผมคือพี่ลมหนาว ผมนี่เย็นยะเยือกเลย และผมก็มั่นใจโคตร ๆ ด้วยว่าคนที่ผมโทรหาทุกวัน ไม่ใช่พี่ลมหนาวแน่ ๆ (ก็เบอร์พี่แกทนโท่อยู่หลังป้าย แม่ง คนละเบอร์ชัด ๆ) จะใครผมไม่สนแล้วตอนนี้

เพื่อนในชั้นปีทำหน้าเป็นหมาหงอยกันหมด ยิ่งเจอพี่เทคตัวเองเมินยิ่งห่อเหี่ยวกัน โทษกันเองอีกว่าเป็นเพราะใคร ผมนี่อย่างเซ็ง

"เฮ้ย ๆ คี พี่มึง"ไอ้วัฒน์เพื่อนซี้ผม พยักเพยิดให้ผมที่กุมขมับด้วยความปวดกบาลกับโคตรปัญหาที่เห็นตรงหน้ามองไปยังพี่เทคตัวกลมหน่อย ๆ ของผมเอง

ใบหน้าของพี่เกดเรียบเฉย ทั้งที่หันหน้าตรงมาหาพวกผมอยู่ทำเอาผมใจแกว่ง รู้สึกเข้าใจเพื่อนที่หงอยเพราะพี่เทคเมินสนิทขึ้นมาตงิด ๆ

“พี่เกด สวัสดีครับ”ผมทักทายพี่เขาด้วยเสียงที่ร่าเริง แต่พี่แกไม่แม้แต่จะหยุดชะงักเลย เดินตรงไปที่ตึกห้องสมุดที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากเรื่อย ๆ “พี่เกด เดี๋ยวดิ”

ผมยิ่งไปดักหน้าพี่เขา แทนที่พี่เทคผมจะหยุด เปล่าเลย เบี่ยงหลบแล้วเดินต่อไป หน้ายังไม่มองด้วยซ้ำ เรื่องอะไรจะยอมกัน ไม่อาแบบนี้ดิ

“พี่เกด อย่าเพิ่งไปสิครับ คุยกับคีก่อน”ผมเดินถอยหลัง ในขณะที่พี่เกดเดินจ้ำ ๆ เข้ามาอย่างไม่คิดจะหยุด พอผมหลุดเดิน พี่เขาก็เดินเบี่ยงไป จนเป็นผมเองที่ต้องวิ่งตาม “พี่เกดดด คุยกับคีก่อนนะครับ พี่เกด”

ไม่ได้รับสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียกอยู่ดี พี่เทคคนดีของผมเดินเข้าไปในอาคารห้องสมุดอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่จะปรายตามองผมเลย รู้สึกช้ำใจอย่างแรง

ผมเดินกลับไปนั่งกับเพื่อนในกลุ่มอย่างหงอย ๆ ไอ้เล (ชื่อเต็ม ทะเล) ประธานชั้นปีที่หนึ่งบีบไหล่ผมอย่างให้กำลังใจ โอเค มันเฟลหน่อย ๆ เหมือนกัน

ก็ปกติเวลาเจอพี่เกดทุกครั้ง พี่เขาจะยิ้มให้ เข้ามาคุยเล่น เล่นหัวนิดหน่อย ไล่เตะบ้างบางครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกว่ายังมีตัวตน แต่เจอแบบนี้มัน... รู้สึกไม่ดีเลยแหะ

“ไม่อยากจะเชื่อนะว่าพี่เกดเขาจะเฉยได้ขนาดนั้น”ยิปโซเปรยขึ้นมาท่านกลางความเงียบ “ปกติเห็นออกจะขี้เล่น คุยก็เก่ง ไม่เคยไม่ยิ้มให้คีเลยด้วย”

“อืม”ขอเวลาทำใจแปป ยังพูดไม่ออก พี่เกดปกติเขาไม่เคยเมินผมเลยสักนิดนะ เจอกันออกจะบ่อยด้วย อย่างน้อยก็น่าจะมองกันสักหน่อยก็ยังดี

“แต่คิดอีกแง่ พี่เขาทำได้แบบนั้นก็ไม่แปลกนะ”เลพูดตอบกลับยิปโซไป แปลกไม่แปลกไม่รู้ ที่รู้คือผมอยากคุยกับพี่เทคเหมือนเดิม... ไม่ชอบการไม่มีตัวตนแบบนี้เลยโว้ย “ถึงจะเป็นพี่กล้อง แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นน้องเทคของพี่ลมหนาว น้องเทคของประธานวินัยเลยนะ”

“อีกอย่าง...”คราวนี้เป็นวัฒน์เอ่ยขึ้นบ้าง จะย้ำกันให้ผมช้ำใจเล่นทำไมเนี่ย “ถ้าพี่เกดเขาม่ได้เป็นพี่กล้อง ผ่านนี้เขาเป็นพี่วินัยไปแล้วด้วย”

“พอเหอะ”ผมถอยหายใจอย่างอดไม่ได้ อายุลดลงไปอีกแล้วสิ บ้าจริง เมื่อวานไลน์ไปหาพี่กิต พี่เขาก็ไม่แม้แต่จะอ่าน เซ็งงงง “เรามาคิดกันดีกว่าว่าจะทำยังไงให้มันหลุดจากความกดดันพวกนี้ เพื่อนคนอื่น ๆ ก็แน่ละ รพล่ำกันไปหมด ถ้าเป็นอย่างนี้เราไม่มีทางได้ธงมาแน่ ๆ”

“นั่นสินะ... ว่าแต่...”ทะเลเหล่มองผมแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “นายก็พูดอะไรที่มีสาระเป็นเหมือนกันนี่หว่า คุณเดือนมหาลัยคีตา”

“ใช่เวลาเล่นไหม เค็ม”ผมแยกเขี้ยวใส่เพื่อนข้างห้อง ใช่ เชี่ยนี่อยู่ข้างห้องผมเอง วันดีคืนดีเคาะกำแพงกวนตอนผมงีบอีกต่างหาก (ผมเลยไปเคาะแกล้วมันคืนตอนดึก ๆ 5555) เชี่ยทะเล เชี่ยเค็ม

“ยังไงก็ต้องนัดดันมาซ้อมร้องเพลงก่อนว่ะ ไม่อย่างนั้นก็ร้องกันไม่ได้แน่”วัฒน์เข้าสู่โหมดจริงจังแล้ว ทำเอาคนที่เหลือบนโต๊ะต้องเข้าโหมดไปด้วย

“แล้วเพื่อนจะมากันไหมอ่ะ”ผู้หญิงคนเดียวนโต๊ะพูดสิ่งที่อยู่ในใจผมออกมา นั่นสิ นัดอ่ะ ไม่ยากหรอก แต่จะมากันไหมนี่เรื่องใหญ่ “ถ้านัดแล้วไม่มาก็เท่านั้น... อีกอย่างพวกเราจะไปซื้อกันที่ไหน”

“ก็หน้าแลปนี่แหละ”เลชี้ไปด้านหน้า หน้าแลปของคณะเทคนิคการแพทย์ ใหญ่พอจะจุคนได้เกือบทั้งคณะ แน่นอนว่ามันพอสำหรับพวกเรา... “ยังไงพวกวิศวะก็ต้องไปหาทางของพวกมัน เราก็ต้องทำให้พวกเราพร้อมที่สุด ก่อนจะถึงวันจริงให้ได้ ไม่อย่างนั้น...”

“เฮ้อ...”ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพวกเราทำพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยอีกมันจะเป็นยังไง จะได้พี่คืนไหม

โดนตัดมาหลายวัน ไม่มีใครให้ผมไปกวน ไปอ้อนก่อนนอนเลย เหงา ๆ พิกลเหมือนกัน (โทรกลับบ้านไป ก็ไม่มีใครรับ สงสัยออกนอกประเทศกันไปอีกแล้วล่ะมั้ง)

“เอาน่า พวกเราต้องสู้สิ ถ้าเราไม่พยายาม เราจะได้สิ่งที่เราต้องการได้ยังไง จริงไหม”เลมันชูกำปั้นขึ้นอย่าฮึกเหิม เอ้า ลุยกันสักตั้งจะเป็นอะไร

สู้ตาย!!


หลังจากตกลงกันได้แล้ว ทะเลกับยิปโซเลยไปคุยกับเพื่อน ๆ ในชั้นปี ตกลงกันว่าทุกเย็นเราจะมาซ้อมร้องเพลงชิงธงกันที่หน้าแลป เพื่อนส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้อยากจะได้พี่ไม่สนใจ ไม่คิดจะทำ ซึ่งนั่นทำให้เพื่อนในกลุ่มของพวกเขาต้องรับผิดชอบเอาเพื่อนตัวเองมาให้ครบกันเอง

ตัวผมก็ต้องฝึกร้องเพลงให้คล่อง ๆ ไว ๆ จะได้เอาไปสอนเพื่อน แล้วก็คอยจับพวกที่ร้องไม่ได้ด้วย ในช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้คุยเล่นอะไรกับเพื่อนในคณะ เพื่อนเก่า เพื่อนนอกคณะสักเท่าไหร่ (ไม่ใช่แค่ผม เพื่อนที่อยากได้พี่ทุกคนก็เป็น บางคนถึงขั้นมีเวลาว่างไม่ได้ ต้องนั่งฮัมเพลงที่ใช้ชิงธงทั้งหมดวนลูปไปเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ)

ผมมองโทรศัพท์อย่างเหงา ๆ ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วพี่กิตกับพี่เกดก็ไม่ได้ตอบไลน์อะไรกลับมา เฟสก็ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว บางทีมันก็เป็นแรงฮึดให้ช่วยผลักดันเพื่อน แต่บางทีมันก็ท้อ...

ผมอยากได้กำลังใจสักนิดก็ยังดี

เวลาแบบนี้ พอได้นึกถึงตอนประกวดดาวเดือนแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้เหมือนกัน พี่เกดเขาให้กำลังใจอยู่ตลอด เอาผลไม้ เอาข้าวมาให้บ้าง ส่วนพี่กิตก็เทรนผมให้พร้อมขึ้นเวทีอย่างหนัก ยิ่งการแสดงตอนนั้นที่ให้เป็นคนคิดมาให้ก็ไม่รู้ ทั้งที่พี่กิตเองก็ไม่ได้เก่งการแสดง แต่ก็พยายามทำให้ผมดูเป็นตัวอย่าง

ถึงจะเหนื่อยกาย แต่ก็มีความสุขเล็ก ๆ ล่ะนะ

ต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง...

อาจจะยังพอมีโชคบ้างที่นอกจากวันนั้นแล้วผมก็ไม่ได้เจอพี่เกดอีกเลย พี่กิตเคยเห็นหลังไว ๆ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยเรียกเขาก็ไปแล้ว

เหงาจริงว๊อยยย

พวกเราใช้หน้าแลปเป็นที่ฝึกซ้อมทุกเย็น แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเป็นหน้าแลปของคณะเทคนิคการแพทย์ ยังไงก็ต้องเจอรุ่นพี่ปีสามปีสี่ที่เรียนข้างในแลปเกือบทุกวัน

แต่ไหว้พี่ ๆ ไปก็ไม่มีพี่คนไหนสนใจ และหันมารับไหว้เลย โดยเฉพาะถ้าในเวลานั้นมีประธานวินัยอย่างพี่ลมหนาวอยู่ด้วย ยิ่งแล้วใหญ่

ห่างเหินแท้

แต่ไม่ว่ายังไง ผมกับเพื่อน ๆ ต้องเอาพี่คืนมาให้ได้ล่ะ อยู่กันเองชั้นปีเดียวมันว้าเหว่เกินไป ทำอะไรก็ไม่รู้ว่าถูกไหม ที่สำคัญเรื่องการประสานงานกับทางสโมสรนักศึกษา ยังดีที่มีพี่คณะแพทย์เข้ามาช่วย ไม่อย่างนั้นคงเน่าไม่มีชิ้นดีแน่ ๆ

“คี นายกว่ามันจะไปรอดเหรอวะ”นนท์ เพื่อนคนนึงในคณะผม มันค่อนข้างจะแอนตี้ระบบโซตัสขั้นหนักพูดขึ้นอย่างเซ็ง ๆ “เขาม่ได้บอกว่าถ้าได้ธงมาแล้วจะคืนพี่ปีสองให้นี่หว่า”

“เออ ใช่ คี เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าถ้าได้ธงมาแล้วเราจะได้พี่ปีสองคืนอ่ะ”ดรีม คนนี้เป็นเด็กที่ซิ่ววิศวะมาเลยไม่ค่อยสนพี่เท่าไหร่สวนขึ้นถามเสริมจากนนท์

“เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะได้พี่คืนไหม”พอผมพูดประโยคนี้จบ เสียงเซ็งแซ่ของเพื่อน ๆ ทั้งหมดในชั้นปีก็ดังขึ้น ทำนองว่าแล้วจะตั้งใจทำไปเพื่ออะไร ทำทำไม “แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่ทำอะไรกันเลยไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่จะนำมาต่อรองเอาพี่ของเราคืนมาได้นี่”

“ทั้งที่อาจจะทำไปเสียเปล่าเนี่ยนะ”ดรีมชักสีหน้าไม่พอใจใส่ผม ดวงตาของเธอฉายแววหงุดหงิดอย่างไม่ปิดบัง “เสียเวลาเปล่า ๆ”

“ดรีมครับ ถ้าเรายังไม่ลองพยายาม แล้วเราจะได้สิ่งที่เราต้องการไหมครับ”ผมทำใจเย็นแล้วเอาน้ำเข้าลูบ ถ้าไม่ติดว่ามีคำว่าสภาค้ำหัวอยู่ คงมีขึ้นเสียงกันบ้างล่ะ ยิ่งเซ็ง ๆ อยู่ด้วย “ดรีมครับ ตอนนี้พวกเราทุกคนต้องช่วยกันแล้วนะครับ เราต้องร่วมมือกัน จะขาดใครคนใดคนนึงไม่ได้นะครับ”

“หึ”แม่ง ถ้าไม่คิดว่าแสตนด์ชิงธงต้องขึ้นให้ครบนี้ ผมจะเหวี่ยงให้พวกไม่เต็มใจขึ้นออกไปให้หมด ไม่ต้องมาง้องอนอยู่แบบนี้แน่
“นะครับดรีม ถือว่าช่วยเพื่อนนะ”หมดคำจะพูดแล้ว ถ้าเขาไม่ยอม คงต้องให้คนอื่นมากล่อมแทน

มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมาง้อเพื่อนทุกคนให้ขึ้นชิงธงนี่น่า แค่ความร่วมมือเล็ก ๆ ยังให้กันไม่ได้เลยแบบนี้ ต่อไปจะทำงานที่ใหญ่กว่านี้ได้ยังไง

“ก็ได้”ดรีมย่นจมูกใส่ผม เอ่อ ทั้งที่ไม่ได้สวยอะไรอยู่แล้ว อ้วนกลมเป็นเลขศูนย์ ทำหน้าแบบนี้เหมือนแม่หมูอารมณ์เสียเลยนะนั่น... “แล้วคีจะรู้ว่าเสียเวลาเปล่า”

แม่นางสะบัดผมเสีย ๆ ของคุณเธอ แล้วกลับไปนั่งประจำที่ ผมล่ะอยากถอนหายในสักสามร้อยที จะบ้าตาย ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย

หลังจากที่ซ้อมร้องเพลงไปอีกหลายรอบ ทะเลมันเห็นว่าเพื่อน ๆ จำเนื้อได้บ้างแล้ว เลยซ้อมการลุก นั่ง ยืน ตามจังหวะนับอย่างที่พี่ ๆ เคยสอนมา

ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ด้วยดีนั่นล่ะฮะ จนกระทั่งคนที่คุ้นเคยสองคนของผมเดินออกมาจากห้องแลป

“พวกคุณมาทำอะไรกันหน้าตึกของคณะเทคนิคการแพทย์ครับ”เสียงที่ส่งมานั้นเฉยชายิ่งกว่าตอนที่ลงวินัยก่อนจะตัดพวกเราออกจากการเป็นน้องซะอีก

กับพี่ลมหนาว ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่พี่เขามายืนกอดอกอยู่ตรงนี้... แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ นี่สิ นอกจากจะทำให้ผมแปลกใจแล้ว ยังทำให้ผมใจเสียด้วย... ครับ พี่เทคของผมเอง พี่เกด

“พวกคุณขออนุญาตใครใช้พื้นที่ตรงนี้มารวมตัวกันหรือคะ”เสียงของพี่เกดฟังดูเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อ ผมใจว่าพี่เขาเป็นน้องเทคพี่หนาว แต่ก็แค่น้องเทคไม่ใช่น้องแท้ ๆ เขาทำได้ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?

แต่ยังไม่ทันที่จะมีใครได้ตอบ ได้พูดอะไรต่อ ก็มีคนอีกคนหนึ่งเปิดประตูออกมาจากห้องแลป

พี่เดือนปีสองเดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนเหมือนเดิม รอยยิ้มจาง ๆ ฉาบทับบนใบหน้า ก่อนจะเลือนหายไปเมื่อเห็นพวกผม  ตอนแรกผมนึกว่าพี่กิตจะเดินกลับเข้าไปในห้องแลป แต่เปล่า พี่เขาเดินเข้ามารวมกับพี่หนาวและพี่เกด มองพวกผมด้วยใบหน้าเรียบ ๆ แทน

“พวกคุณมารวมตัวกันที่นี่ ต้องการอะไรเหรอครับ”เสียงนั้นฟังดูอ่อนโยนเหมือนเคย แต่แฝงความห่างเหินเอาไว้อย่างชัดเจน “ที่นี่เป็นพื้นที่ของคณะเทคนิคการแพทย์ พวกคุณมาใช้โดยพละการได้ยังไงเหรอครับ”

“ขออนุญาตครับ”ประธานชั้นปียกมือขึ้นแนบหูตามหลักการพูด ผมหันไปมองเพื่อนอย่างให้กำลังใจ “ผมและเพื่อน ๆ เป็นนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่ 1 จึงขอใช้พื้นที่ส่วนนี้ในการฝึกซ้อมร้องเพลงชิงธงครับ”

“พวกคุณบอกพวกคุณเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ มีอะไรมายืนยันเหรอครับ”คราวนี้เป็นพี่ลมหนาวพูดบ้าง ดวงตาคมกริบอย่างกับมีดนั้นกวาดมองไปรอบ ๆ “หรือมีใครยืนยันตัวตนของพวกคุณได้บ้างครับ”

“พวกเรามีสายรัดข้อมือ และป้ายห้อยคอ ซึ่งเป็นของคณะเทคนิคการแพทย์ค่ะ”จีจี้ เพื่อนหญิงในคณะพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด เรียกสายตาของพี่ ๆ ทั้งสามคนให้หันไปหาเธอได้เป็นอย่างดี

“ป้ายห้อยคอและสายรัดข้อมือ...”พี่เกดเปรยขึ้นเสียงไม่เบานัก พร้อมกับมองของสองสิ่งที่อยู่บนตัวพวกผม “เป็นสิ่งของที่มีคนทำให้ ไม่ใช่ของที่เป็นของทางคณะเทคนิคการแพทย์ จะยืนยันได้อย่างไรคะว่าพวกคุณเป็นนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์จริง”

“และไม่ได้ทำของเหล่านั้นขึ้นมาเอง”พี่กิตเสริมท้ายได้เจ็บจี๊ดเลย สำหรับผม ผมเชื่อว่าเพื่อนทุกคนในชั้นปีไม่มีใครกล้าจะทำของที่พี่เป็นผู้มอบให้ขึ้นมาเองหรอก แต่การจะเสริมบทพี่เกด ประโยคนี้จะทำให้สมบูรณ์ที่สุดจริง ๆ

ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอพี่กิตออกมาสายตาของผมก็มองแต่พี่เขา ยิ่งพี่เขาพูดออกมาได้อย่างเย็นชาอย่างนั้น ผมยิ่งเสียใจ และอดที่จะน้อยใจไม่ได้

ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้พี่กิตเบือนหน้ามาสบตากับผมพอดี แต่สบได้พักหนึ่ง พี่เขาก็หันหน้าหนีไป... ไม่ดิ หลบสายตาจากผมไปซะอย่างนั้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อย ๆ เป็นนิสัยของพี่เขาเวลาคิดอะไรในใจหนัก ๆ

แต่เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าพี่เกดเขาสูงพอ ๆ กับพี่กิตเลย เตี้ยกว่าไม่มากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าพี่กิตเตี้ย หรือพี่เกดสูงกันแน่ แต่มันใช่เรื่องที่จะมายืนดูตอนนี้เหรอวะ ไอ้คีตา

“เมื่อพวกคุณยืนยันว่าพวกคุณเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ พวกคุณก็มีสิทธิ์ที่จะใช้บริเวณที่เป็นของทางคณะได้”ผมเหลือบมองหน้าเพื่อน ๆ ที่อยู่ด้านข้างและด้านหลัง เห็นหลายคนยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง รวมทั้งตัวผมเองที่เริ่มมีความหวังในหัวใจ “ตัวผมเองก็ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการอะไรจากคณะวิชาของพวกผม แต่รู้ไว้ว่าพวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรก็ตามที่ทำให้ทางคณะต้องเดือนร้อนแม้แต่นิดเดียว และหากเกิดอะไรขึ้นในที่นี้ พวกคุณจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดทุกคน โดยไม่มีสิทธิ์ในการโต้แย้งใด ๆ”

“สิ่งที่พวกคุณจะทำ ต้องไม่เป็นการรบกวนผู้ที่ใช้บริการในส่วนสถานที่แห่งนี้ ทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่แลป นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นที่ 1 จนถึงรุ่นที่ 39 ซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบัน รวมทั้งแม่บ้านผู้อำนวยความสะดวกด้านความสะอาด”คำของพี่เทคตัวกลมของผมนี่ทำเจ็บยิ่งกว่าคำพูดอื่น ๆ ที่พี่อีกสองคนพูดมาอีก พวกผมเข้ามาเป็นรุ่นที่ 40 ซึ่งพี่เขาไม่นับในนั้น “และกรุณาอ่านกฎการใช้สถานที่ให้แตกฉานด้วยค่ะ”

พี่กิตเคาะเบา ๆ ที่ประตู 1 ของห้องแลป ซึ่งมีกระดาษเคลือบด้วยพลาสติกติดเอาไว้อยู่ นั่นเป็นกฎหการใช้ห้องแลป และการใช้สถานที่ของคณะเทคนิคการแพทย์ ที่ผมและเพื่อนได้อ่านมาแล้ว

“หวังว่าจะไม่มีพวกคุณคนใดก่อความเดือดร้อนให้กับพวกผมนะครับ”รอยยิ้มบาง ๆ คลี่ส่งให้ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั้นจะเดินออกไปจากหน้าคณะ

พี่ลมหนาวกับพี่เกดยืนมองพวกผมอยู่อีกแปปนึง แล้วจึงหันหลังเดินออกไปอีกทาง ซึ่งเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารของคณะ

คำพูดของพี่ ๆ ที่ได้รับฟังกันนั้น ทำให้กำลังใจถดถอยกันไปไม่ได้ บรรยากาศที่น่าอึดอัดกลับเข้ามาสู่พวกเรา นักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบอีกครั้ง

ผมมองสำรวจเพื่อน ๆ โดยรอบ เกือบทุกคนที่ทำหน้าเศร้า บางคนถึงกับน้ำตาซึม แต่ก็มีบางคนที่ทำหน้าไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดี แต่นี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งแรกผลักดันให้พวกเราก้าวต่อไปได้

“เราจะต้องพิสูจน์ให้พวกพี่เขาเห็นนะทุกคน”วัฒน์ที่นิ่งไปนานพูดขึ้นเรียนดัง ให้เพื่อนที่ก้มหน้ากันอยู่ขึ้นมามองที่มัน “พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าพวกเรานั้นคู่ควรที่จะเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบ ให้เขาเห็นถึงศักยภาพของพวกเราทุกคนยังไงล่ะ”

“เราจะมาท้อกันแค่นี้ไม่ได้นะครับ”ผมสูดลมหายใจลึกแล้วยิ้มออกมา ไม่ใช่ไม่เสียใจ ไม่ใช่ว่าไม่ท้อ แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาล้มอยู่แบบนี้แล้ว “พวกเราจะต้องทำให้พี่ ๆ ยอมรับในตัวพวกเรา ให้พวกเขากลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมให้ได้นะครับ”

“ใช่แล้วนะทุกคน เราจะมาท้อเพราะเรื่องแค่นี้ไม่ได้”ทะเลหันหน้ากลับมาหาทุกคน ทั้งที่ตามันยังแดงจาง ๆ อยู่ มันเองก็คงเสียใจ และอยากร้องไห้ แต่มันเป็นเสาของปีหนึ่งอย่างพวกเรา มีตำแหน่งผู้นำค้ำคออยู่ จะล้มให้ทุกคนเห็นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก “มาเถอะ เรามาซ้อมกัน เวลาเหลือไม่เยอะแล้ว มาพยายามกันเถอะ”

เพื่อนผู้หญิงบางคำยกมือขึ้นปาดน้ำตาออก หลายคนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกลับเข้ามาตั้งแถวกันเหมือนเดิม แล้วซ้อมยืน ซ้อมร้องเพลงที่จะต้องนำไปชิงธงอีกครั้ง

วันนี้พวกเราซ้อมกันหนักมาก ไม่มีการหยุดพักนาน ๆ เหมือนทุกที มีแต่ให้ไปดื่มน้ำ ปัสสาวะ ทำธุระส่วนตัวเป็นระยะแค่นั้น จนกระทั้งฟ้ามืดสนิทถึงจะแยกย้ายกันกลับที่ทางของตัวเอง

ผมกลับเข้ามานอนบนเตียงในหออย่างด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง และร่างกายที่เหนื่อยล้า แม้จะอาบน้ำให้สดชื่นแล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลยสักนิด

หยิบมือถือขึ้นมาดูไลน์ที่เคยส่งหาพี่กิตอย่าห่อเหี่ยว วันนี้พี่เขาก็ยังไม่อ่าน เฮ้อ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมไม่ได้เจอทั้งพี่เกดและพี่กิตในวันเดียวกัน โชคสองชั้น ซวยสองเด้งของแท้


Key tA ♫ : พี่กิตครับ

Key tA ♫ : ผมดีใจที่ได้เจอพี่นะครับ

Key tA ♫ : ผมคิดถึงพี่นะ

Key tA ♫ : เมื่อไหร่จะกลับมาสักที


ข้อความที่พิมพ์ส่งไป โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่กิตจะเปิดเข้ามาอ่าน

เฮ้อ... เหงาจังเลยโว้ยยยยย

นอน!!

+++++++++++++++++++++++

บทที่ 14 มาแล้วค่ะ // ช่วงนี้ขยัน อัพไว๊ไว 555

เรื่องตัวละครในเรื่องนี่ ส่วนใหญ่ดึงมาจากคนรอบตัวนี่ล่ะค่ะ (อ้าววว) //มองซ้ายมองขวาก่อนว่ามีเพื่อนหลุดมาอ่านเรื่องของเราไหม

ไว้เจอกันตอนหน้า ตอนที่ 15 ชิงธงแล้ววว

เย้ :mew1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
คู่นี้อะไรยังไงกันตอนไหน ;^;

ป.ล. อึดอัดแทน

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เป็นอะไรที่น่าเศร้าและกดดันที่สุด ตอนเรียนมหาลัยไม่เคยเจอสภาวะการเป็นน้องใหม่แบบนี้ เจอแบบชิวมาก ถ้าเจอแบบนี้รับรองบ่อน้ำตาแตกแน่ะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คู่คีตามาตั้งกะเมื่อไหร่คะเนี่ย?

ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ตอนที่สิบสามคือแบบ สงสารน้องปีหนึ่งมากกกกกกกกกกก  :z3: ฉากเรียกน้ำตาเลยก็ว่าได้คือน้องมีความพยายามมากอ่ะยังยืนไหว้อยู่อย่างนั้น ปันกับหนาวก็ใจแข็งน่าดู แต่เดี๋ยวหนาวก็ต้องซึมไปอีกแน่ งือออ แล้วก็เห็นใจข้าวน่าดู TT ความเป็นพ่อพระของพี่ทิวกำลังทำร้ายข้าวโดยไม่รู้ตัว ฮือออออ ข้าวหลงรักพี่ทิวแล้วสินะ  ท้ายๆมีพายุโผล่มาด้วย สองคนนี้กัดกันแล้วน่ารักดีๆ พี่ทิววินเนอร์จริงๆนะ  :z2: :z2:
ตอนที่สิบสี่  เมื่อวานไลน์ไปหาพี่กิต พี่เขาก็ไม่แม้แต่จะอ่าน เซ็งงงง เอ๊ะ คีตา 55 อยู่ๆก็ฟินกับประโยคนี้ :-[ อ่านพาร์ทนี้ของคีแล้วแบบ นางขี้อ้อนมากกกก แล้วนางก็ดูเด็กน้อยมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง 55  แต่ความจริงก็ได้เปิดเผย? คำคีย์ของพี่กิตมาแล้ว55 อ่านจบแล้วอยากอ่านต่อเลย รู้สึกค้างๆ  :z10:
 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ miho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ความรู้สึกที่เคยโดน อึดอดมาก พี่กดดันจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว 555ความรู้สึกเดียวกันคีตา
ไหว้พี่เหมือนไหว้ศาลยังไงก็ไม่รู้ พี่แกมีความสามารถพิเศษมองทะลุขั้นสุดยอด สกิลโหดจริง
สู้ๆคีตา ทำให้ได้จะได้เห็นลมหนาวกะพายุซัดกันสักที  :hao6:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด