ตอนที่5 ผลัดรัก (จบ)หนึ่งปีผ่านไป..
ตั้งแต่วันนั้นความสัมพันธ์ของสองเพื่อนที่เคยสนิทกลายเป็นอดีตจนคนรู้กันเกือบทั้งโรงเรียน
ตอนนี้ทั้งคู่ได้ศึกษาจบมัธยมหกแล้ว ภพตั้งใจจะไปเรียนที่มหา’ลัยต่างจังหวัดและเขาก็ทำสำเร็จ
ฝั่งเจลตัดสินใจต่อมหา’ลัยในกรุงเทพเพราะไม่อยากจากบ้านไปไหนไกลๆ
ส่วนพี่ชายและน้องชายที่เคยบาดหมางกันเพราะเรื่องรักๆใคร่ๆคนเดียวกันก็เคลียร์จบไปโดยที่ภพยอมถอยหลังหลีกให้น้องเข้าไปยืนแทนที่
คิดไปคิดมามันก็จริงอย่างที่ไอ้ภัคมันพูด เขาไม่มีปัญญาทำให้เจลมีความสุขซ้ำยังเอาแต่จะทำให้มันเสียใจก็สมควรแล้วที่ต้องอยู่คนเดียว ตลอดเวลาที่ผ่านมา เวลามันได้พิสูจน์ทุกอย่างไปแล้ว
“ไม่ได้ไปส่งนะภพ อาทิตย์นี้สอบทั้งอาทิตย์เลย”
“เออไม่เป็นไร” ภพพยักหน้าให้น้องชายที่ยืนส่งเขาอยู่หน้าประตูบ้าน
วันนี้พ่อกับแม่บอกว่าจะขับรถไปส่งลูกชายคนโตจนถึงที่หมาย น้องคนเล็กเลยต้องอยู่บ้านคนเดียวสักสองสามวัน
“จะออกไปไหนมาไหนปิดบ้านดีๆนะภัค” แม่สั่งครั้งสุดท้ายก่อนเดินขึ้นรถไป
“รู้แล้วครับ ขับรถดีๆนะพ่อ” ภัคยกมือไหว้บุพการีโบกมือส่งยิ้มให้
...ตลอดระยะเวลาจวบจนปีกว่าๆ เขาไม่ได้เข้าไปข้องแวะกับพี่เจลอีกเลย
ไม่ใช่ว่าหมดรัก หากแต่แค่ให้เวลาทำใจเท่านั้น รอก่อนเถอะสอบเสร็จเมื่อไหร่จะไปบุกถึงบ้านแน่ๆ
แม้พวกเขาจะเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน แต่ใช่ว่ามันจะแคบๆเสียเมื่อไหร่ อาทิตย์นึงก็อาจจะบังเอิญเดินสวนกันที เพราะเขากับพี่เจลอยู่กันคนละชั้นปี และแม้ว่าจะเดินสวนกัน เราทั้งคู่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากไปกว่ามองผ่านๆ
มันอาจจะเป็นเรื่องดีที่ภัคเว้นที่ว่างไว้ให้เจลได้รักษาบาดแผลในใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าพอถึงตอนนั้น เจลจะยังเกลียดเขาเหมือนเดิมรึเปล่าล่ะนะ
…..
“สอบเสร็จแล้วไปสมุยกับพวกกูไหมวะภัค?”
“ไม่ว่ะ กูมีธุระ พวกมึงไปกันเถอะ”
“ธุระอะไรวะ ปิดเทอมทั้งที งั้นตามใจ แล้วเจอกันนะเว้ย”
“เออ” ภัคเดินไปตบหัวบอกลาเพื่อนแล้วเรียกแท็กซี่ไปหาคนที่ไม่ได้เจอกันมาปีกว่าๆ
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายและเขาก็หมายมั่นปั้นมือจะไปหาพี่เจลทันทีเมื่อสอบเสร็จ
ภัคในเวลานี้ไม่ได้เป็นแค่เด็กตัวเล็กกว่าพี่นิดเดียวอีกแล้ว ตอนนี้เขากำลังจะขึ้นมัธยมหก รูปร่างและส่วนสูงก็โตขึ้นตามวัยไปด้วย
.
.
.
“เจลลูก คืนนี้พ่อกับแม่จะไปงานแต่งลูกสาวเพื่อนพ่อนะ อยู่คนเดียวปิดบ้านดีๆละ”
“ครับแม่” เจลวิ่งลงมาชั้นล่าง รอพ่อขับรถออกไปกำลังจะปิดประตูบ้านยังไม่ทันสนิทก็มีคนมากดออดเรียกทำให้เขาต้องเดินเข้าไปใกล้ประตูรั้วเพื่อต้อนรับแขก
แต่พอเห็นหน้าคนมาหา...เขาแทบอยากจะวิ่งขึ้นบ้านไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เมื่อตอนอยู่โรงเรียนก็พยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอทั้งพี่ทั้งน้องแล้วนะ กระทั่งวันจบการศึกษา นึกโล่งในอยู่ในอก คิดไว้ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาไม่ต้องทำตัวหลบๆซ่อนๆอีกแล้ว แต่พอมาวันนี้ ไอ้คนน้องของอดีตเพื่อนสนิทกลับมายืนกดออดอยู่หน้าบ้าน...
มันคืออะไร?
“เปิดประตูให้หน่อยได้ไหม?” ภัคยิ้มกว้างตะโกนถาม
“มาหาใคร?” เจลไม่ตอบ ยืนอยู่ที่เดิมขมวดคิ้วตะโกนถามกลับ
“มาหาเจล”
เจ้าของบ้านกอดอกยืนมองคนก้าวร้าวตรงหน้าตาขวาง เขาโตกว่าตั้งปีนึงแต่มันกลับมาเรียกชื่อเฉยๆ ใช่เหรอแบบนี้
“หาทำไม? มีธุระอะไร?” เจลเสียงแข็งถามอีกรอบ เขาจะไม่รู้สึกใจเต้นอะไรเลยถ้าคำพูดประโยคต่อมาของมันไม่ชวนให้คิดแบบนี้
“มาบอกรักครับ” ภัคตะโกนตอบแล้วปืนรั้วข้ามไปอีกฝั่งที่มีเจ้าของบ้านยืนอยู่
“เห้ย” คนพี่ตกใจรีบเดินเข้าไปยืนลุ้นอยู่ใกล้ๆเกรงว่ามันจะพลาดแล้วตกลงมาตายซะก่อน อากัปใจเต้นเมื่อกี้หายเป็นปลิดทิ้ง
ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย!!
“ห่วงเหรอ?” พอข้ามมาได้จนเท้าเหยียบพื้นสำเร็จคนบ้าระห่ำก็ยิ้มแผล่ถามล้อๆ
เจลไม่ตอบหันหลังเดินเข้าบ้านไม่สนใจ วันสุดท้ายที่มันมาบ้านเขาแล้วทำเรื่องบ้าบอยังติดอยู่ในใจ
ทุกประโยคที่มันพูดวันนั้นยังชวนให้เขาคิดมากอยากรู้ความหมายมาตลอด จนวันนี้ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเพราะประโยคมาบอกรักอะไรนั่น
บอกรัก?
รักเขา?
เขาเนี่ยนะ?
งั้นเหรอ?
แล้วมันไปรักเขาตอนไหนกันละ?
ช่างน่าขันเสียจริง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาอาจไม่เคยได้สังเกตการกระทำของมัน แต่ถึงอย่างนั้น สายตามันที่คอยมองมาอย่างจับผิดเวลาไปบ้านมันก็ทำให้เขาเข้าใจแบบกระจ่างอยู่แล้วว่ามันไม่ชอบเขา
ก็มาลองดูแล้วกันว่าวันนี้จะมาไม้ไหน จะไม่ยอมจบจริงๆใช่ไหม ในเมื่อเขากับพี่มันก็สะบั้นกันไปตั้งนานแล้ว
“ตกลงมีอะไร?” เขาเดินนำไปนั่งโซฟากลางบ้านแล้วถามขึ้น
“มีรักมาให้ เอาไหม?” คนพูดตามไปนั่งข้างๆจนชิดติดกัน เจลรีบถอยหนี ภัคเลยจับแขนไว้ให้นั่งนิ่งๆ
“ไม่เอา เป็นบ้าอะไร รักอะไรของมึง ช่วยรีบพูดจาที่มันเป็นไปได้ออกมาแล้วรีบไสหัวออกไปได้แล้ว” เจลยังคงใช้เสียงแข็งคุยกับมัน พยายามบิดแขนออก แต่ให้ตายเถอะ ไอ้หมอนี่มือใหญ่ชะมัด
อะไรกันวะ ถึงจะนานๆเจอกันที แต่ทำไมเขาไม่รู้เลยว่ามันจะโตไวขนาดนี้
“ลืมพี่ชายผมได้รึยัง? หมดเวลาแล้วนะ” ภัคพูดเสียงจริงจัง
เจลหยุดแขนที่กำลังจะบิดออก มองหน้าคนพูด
อะ...อะไรนะ?
นี่ที่มันบอกตอนตะโกนข้ามรั้ว มันหมายความว่าอย่างงั้นจริงเหรอ?
“รู้ใช่ไหมว่าไม่เคยเกลียด? แล้วก็รู้ใช่ไหมว่ามองมาตลอด?”
เจลเงียบก้มหน้าก้มตา
“ทำไมไม่มองให้ลึกๆละ มองตาผมลึกๆอีกหน่อย พี่จะได้รู้ ว่าสายตาที่ผมใช้มองพี่มาตลอดมันหมายความว่ายังไง” ภัคกระซิบเสียงเบา มองซีกหน้าของเจลที่ตอนนี้กำลังนั่งหูแดงใส่
เอาวะ มาถึงขนาดนี้แล้ว เป็นไงเป็นกัน
“เจล... เปิดโอกาสให้ผมหน่อยได้ไหม?” คนฟังนั่งกัดปาก ก้มมองหน้าตักตัวเองนิ่ง ใจเต้นรัวกับคำพูดมัน
เพิ่งมารู้ก็วันนี้ว่าสองพี่น้องนิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงๆ
ตั้งแต่คบกับไอ้ภพเป็นเพื่อนจนมาสนิทแบบมีความรู้สึกดีๆให้กัน มันก็ยังไม่เคยพูดแบบนี้ เขาเลยได้แต่ตามน้ำไป มันไม่พูดเขาก็ไม่พูดบ้าง เรื่องมันเลยเลยเถิดไปสู้สถานะคลุมเครือ
ส่วนไอ้คนน้องนี่กล้าพูดกล้าทำจนเขาชักหวั่นใจกับนิสัยคนเด็กกว่า
“ถ้าวันนี้จะบอกว่ารัก รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?” ภัคเปลี่ยนจากจับข้อมือคนพี่มาประสานนิ้วกันไว้บนตักตนแล้วบีบไว้แน่น บอกให้รู้เป็นนัยๆว่า จะไม่ปล่อยมือข้างนี้ไปเด็ดขาดถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่อง
“...ขอโทษที่วันนั้นหน้ามืดตามัวหึงไปหน่อย เลยทำอะไรบ้าๆบอๆไป ช่วยเข้าใจเด็กขี้หึงหน่อย..นะ” จะมาแพ้ยอมใจอ่อนก็ตรงลูกอ้อนคำสุดท้ายของมันนี่แหละ!
ใจบ้าเอ๊ย...อย่าเต้นดังสิวะ อย่าๆ เดี๋ยวมันได้ยิน งื้ออออ >.<
“ภัค...กำลังจะทำให้...พี่ กลายเป็นคนเอาไม่เลือกทั้งพี่ทั้งน้องนะ” เขาพยายามใช้สรรพนามที่คิดว่าเหมาะที่สุดสำหรับเวลานี้ถามมัน
ไอ้ครั้นจะยังให้มากูๆมึงๆเห็นจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้คนฟังมันก็ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินละนะ
“สนอะไร! พี่เคยเอากับพี่ชายผมเหรอ!?” คนโดนถามเสียงเขียวถามกลับ แถมยังตวัดตามองเป็นของแถม
เห้ย เดี๋ยวๆ ได้ข่าวมันมาขอความรักจากกูอยู่ไม่ใช่หรือไง อะไรกันวะ แปปๆก็มาทำเอาแต่ใจใส่อีกแล้ว แม่ง
“ก็ไม่เคยไง แต่มันจะดูไม่ดี ถามจริง นี่รักกูจริงๆน่ะเหรอ?” หมดสิ้นกันแล้ว อารมณ์เมื่อครู่ เจลถามมันเสียงจริงจัง หันไปมองสบตาคนข้างๆ
“ครับ... รักนะ รักจริงๆ อย่าถามนะว่าทำไม เพราะแม้แต่ตัวผมเอง พยายามค้นหาเหตุผลมาตลอดปีกว่าๆ ก็ยังหาไม่ได้เลย ไม่รู้สิ มันรู้สึกแค่ว่ารักออกมาจากข้างใน” ภัคตอบเสียงนุ่ม ยิ้มละมุนตบท้าย
วันแรกที่เจอเจล คือวันที่เขาไปสมัครเรียนแล้วเจอคนตัวเล็กๆคนนี้ตะโกนเรียกน้องๆที่เดินไม่รู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าอะไรอยู่จุดไหนเสียงดังฟังชัด ภัคหยุดเดินยืนมองอยู่อย่างนั้นสักพักจนกระทั่งพี่ชายวิ่งเข้ามาตบบ่าแล้วบอกให้รีบไปสมัครอยู่ตรงจุดที่เพื่อนเขาอยู่ ซึ่งก็คือตรงที่เจลแหกปากไปเมื่อครู่
วินาทีแรกที่เห็นหน้าตอนอยู่ใกล้ๆ เขาก็ว่ารุ่นพี่คนนี้น่ารักดี เป็นผู้ชายตัวเล็กซะยิ่งกว่าผู้หญิงแต่ยังคงความแมนไว้ด้วยการพูดหยาบยิ่งกว่าหน้าตา แต่สิ่งที่ทำให้เขาใจเต้นแรงคือ รอยยิ้มกว้างบวกกับนิ้วโป้งของเราที่สัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจตอนเขายืนใบสมัครไปให้
มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนอื่น แต่สำหรับคนที่เขามองว่าน่ารัก มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ใจเต้นแรงเป็นบ้า และตั้งแต่นั้นมา เขาก็เพิ่งรู้ว่าเจลเป็นเพื่อนสนิทภพ และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ได้สนิทแบบธรรมดา นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาต้องคอยมองเจลอยู่ห่างๆด้วยความรู้สึกและสายตาที่ปะปนกันไป
มันอยู่ในดวงตาคู่นี้หมดนั่นแหละ การกระทำของคนข้างๆ แต่ที่เขาต้องทำเป็นใช้สายตาดุดันปกปิดไว้ เพราะเจลคือเพื่อนสนิทที่ไม่ธรรมดาของพี่ชายเขาไง จะว่าหลีกทางให้พี่ชาย คำนั้นก็ใช้ได้นะ แต่ในเมื่อหลีกให้แล้ว พี่เขามันทำตัวไม่ดี ณ เวลานี้ ก็คงต้องขอทวงสิทธิ์คืนแล้วแหละนะ
“คิดอะไรอยู่” เจลถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภัคตอบคำถามเขาแล้วนั่งเงียบมองหน้าอยู่นาน
“กำลังคิดอยู่ว่า...พี่เคยเป็นแฟนกับพี่ชายผมไหม?” ภัคสติกลับมาส่งยิ้มตอบแล้วถามเล่นๆ
เจลส่ายหัวค้านในใจ แค่เคยรู้สึกดีๆให้ มาวันนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันหายไปนานแล้ว ถ้าจะให้มาเจอหน้ากันอีกก็สามารถทำได้ โชคดีที่เขากับมันรู้สึกแบบนั้นต่อกันแค่ไม่กี่เดือนและยังมีคำว่าเพื่อนมาคั้นกลางไว้
“นั่นสินะ ไม่เคยเป็นแฟนภพ แต่เป็นแฟนผม งั้นจะกลัวคนเขานินทาทำไมเรื่องเอาทั้งพี่ทั้งน้อง” ภัคเนียนๆพูดไป แต่คนฟังกลับไม่เนียนด้วย
“อะไร? อย่ามามัว ไม่ได้เป็นโว้ย นี่กลับไปได้แล้ว เลิกพูดจาไร้สาระสักที” เจลทำโวย ดึงมือออกแล้วลุกขึ้นยืน ไม่ลืมดึงแขนแขกไม่ได้รับเชิญให้ลุกขึ้นตามด้วย
“เดี๋ยวก่อน...” ภัครั้งแขนตัวเองไว้ เนียนคว้ามือเจลมากุมไว้หลวมๆแล้วเงยหน้าถามอีก
“งั้นเป็นไหม? คบกับผม เป็นแฟนกับภัคนะ” เขาร้องวอนขอ สบตาคนยืนตรงหน้าอ้อนๆแล้วใช้แก้มตัวเองแนบลงไปบนมือเล็กนุ่มนิ่ม
...อยากทำแบบนี้มานานแล้ว...
“หะ..ห๊ะ...” เจลพูดไม่ออก เม้มปากแน่น ใจเต้นรัวกับการกระทำนั่น ให้ตายเถอะ นี่เขาไม่อยากจะยอมรับเลยว่าตอนนี้รู้สึกใจเต้นแรงมากกว่าตอนไอ้ภพมาทำดีด้วยซะอีก
ไม่รู้จะบอกยังไงให้ไอ้เด็กข้างๆนี่ไม่หลงดีใจจนเกินไป แต่แก้มเขามันก็ดันแดงนำหน้าไปแล้ว
จะปฎิเสธเหรอ...อืม...ไม่อยากเห็นน้ำตาไอ้หมอนี่เลยแฮะ
“ตกลงว่าไงครับ?” มันเร่งแต่น้ำเสียงลุ้นเต็มที
“ขอเวลาคิด” เจลตอบแล้วเงยหน้าขึ้น ไม่ก้มหน้ามองแม่งอีกแล้ว ยิ่งมันอ้อนเท่าไหร่ ใจเขายิ่งอ่อนแรงต้านทานจากมันเท่านั้น
“โห้ ให้ทั้งเวลาคิด ทั้งเวลาอยู่คนเดียวตั้งเป็นปียังไม่พออีกเหรอ?” มันงอแงหน้างอพูด
จะให้ว่ายังไงดีละ คือถ้าจะถามว่าเขาชอบมันไหม ตอบเลยว่าไม่ แต่ก็เกือบๆจะชอบเพราะลูกอ้อนมันนี่แหละ เขาไม่รู้ว่ามันมาชอบเขาตอนไหน และคงยังไม่ถามตอนนี้ เขาอยากให้เราค่อยๆเป็นค่อยๆไปกันได้ไหม แต่ถ้าตอบไปแบบนั้น ไม่รู้มันจะเสียใจรึเปล่า
“ถามจริงๆ ไม่แคร์ใช่ไหมที่พี่กับพี่ชายภัคเคยรู้สึกดีๆต่อกันมาก่อน” เจลก้มมองหน้า ลองหยั่งเชิงถาม
ภัคส่ายหัวตอบเสียงจริงจัง “ไม่แคร์ แล้วก็เชื่อด้วยว่าทุกวันนี้พี่ไม่ได้คิดและรู้สึกอะไรต่อพี่ชายผมแล้วนอกจากความเป็นเพื่อนกันจริงๆ”
โห้... มันเอาความมั่นใจมาจากไหนเยอะแยะวะนั่น
“แล้วครอบครัว..?” เจลเอียงหน้าพูด หยั่งเชิงถามต่อไป มือที่มันจับไว้ ยังอยู่แบบนั้น
“บ้านผมไม่มีปัญหา เพราะผมไปขอแม่คบกับพี่ไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้ว ส่วนบ้านพี่ถ้าพี่ไม่กล้าพูด เดี๋ยวผมพูดให้”
เห้ย เดี๋ยวๆๆๆๆ
เจลทำหน้าเหรอหรา ตาลีตาเหลือกถามเสียงแปลกใจ “ขอตอนไหนวะ?”
“ก็วันถัดมาหลังกลับจากบ้านพี่แหละ...ตกลงว่าไงครับ เป็นไหม? นอกเรื่องไปเยอะแล้วนะ” ภัคทำเสียงจริงจังตอนแรกแล้วแอบดุตอนท้าย
เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่ทำทีเมินเฉยมองไปรอบบ้าน รออยู่นานเจ้าตัวก็ยังไม่ยอมก้มมาสบตาด้วยสักทีเลยต้องทำการกระตุกมือนิดๆ เขาถึงจะยอมนั่นแหละ
“ก็...เอ้อ... เดี๋ยวดิ ไม่ให้เวลาคิดเลยรึไง อยู่ๆก็บุกมาหาที่บ้าน บอกร้งบอกรักอะไร แล้วมาเร่งเอาคำตอบ ไม่ให้เวลาคิดเลยวะ” เจลแอบบ่นงุบงิบ ทำเป็นเลี่ยงสายตามันอีกแล้ว
ไม่อยากจะบอกเลย ถ้าให้คุยเรื่องพรรค์นี้กับมันตอนสบตากัน เขาต้องใจอ่อนแน่ๆ
“แล้วจะให้ทำยังไงละครับ หืม?” ภัคถามเสียงอ่อน ซุกหน้ากับมือขาวของรุ่นพี่
“ก็... ดูๆกันไปก่อนได้ไหมละ แบบ... เรื่อยๆ อะไรแบบนั่นน่ะ...” เจ้าของบ้านตอบเสียงเบา หาจุดโฟกัสให้สายตาตัวเองเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ กระทั่งยอมใจ ต้องก้มหน้าสบตากับมันตรงๆเพื่อรอคำตอบของมันเช่นกัน
“...อืม งั้นขอคิดก่อนนะ” ภัคครางตอบเอียงหัวไปมา แต่ก็ยอมรับว่าคำตอบของเจลทำให้พอใจอยู่ไม่น้อย ถึงจะแอบขัดใจแบบนิดๆก็เถอะ..
แต่เดี๋ยวนะ ทำไมไปๆมาๆ การสนทนามันถึงกลับกลายเป็นว่า เจลกำลังขอความรักภัคแบบนั้นละวะเนี่ย... ไม่ใช่ไหมหรือยังไง
“มีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอไง ห๊ะ” เจลหมั่นไส้คนทำท่าทางคิดจนต้องออกแรงกระตุกร่างมันให้ยืนขึ้น
ถึงเวลาที่เขาต้องไล่แขกกลับแล้ว ขืนปล่อยให้มันอยู่ต่อ บ้านเขาต้องร้อนไปกว่านี้แน่ๆ
เออแหะ... พอมามองใกล้ๆแบบนี้เพิ่งสังเกตว่าเด็กที่เขาเคยสูงกว่ามาวันนี้ตัวเกือบๆเท่ากันแล้ว เผลอๆภัคจะดูสูงกว่าเขาซะด้วยซ้ำสักสี่ห้าเซ็นต์ละมั่งนั่น
“สูงขึ้นเปล่าเนี่ย?” เขาพูดหยอก ยกมือข้างที่ว่างลูบหัวว่าที่แฟนเล่นๆ
“ก็มากอยู่ กลัวพี่ขายหน้าอ่ะ มีแฟนเตี้ยกว่าเลยกระเสือกกระสนไปเล่นฟิตเนตมา ล่ำขึ้นด้วยนะจะบอกให้” ภัคถกแขนเสื้อนักเรียนขึ้นโชว์กล้าม คนเป็นพี่หมั่นไส้เลยชกเข้าให้เบาๆ
“เหอะ แต่เดี๋ยวก่อนเถอะ ใครบอกจะเป็นแฟนด้วยไม่ทราบ?” เขาผลักภัคให้เดินนำออกไปหน้าบ้าน รอจนแท็กซี่ขับผ่านมา
“เจล...” ภัคหันกลับมาครางเสียงอ้อน แต่ทำหน้าจริงจังจนคิ้วขมวด “ตกลงว่าไง”
“ลามปาม นี่รุ่นพี่นะ”
“ไม่เอาดิ คุยเรื่องสำคัญของเราก่อน”
พอเจอภัคแบรกอารมณ์ เจลเลยจำต้องหยุด แล้วพูดสิ่งที่คิดไว้ในใจขึ้นมา
“ภัคฟังนะ ถ้าจะให้พี่ตอบอะไรที่มันจริงจังระบุสถานะแบบชัดเจน พี่ยังให้คำตอบไม่ได้ แต่ถ้าพี่จะขอให้เราดูกันเรื่อยๆได้ไหมภัค?”
ภัคยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไหร่ “ทำไมละ? ผมไม่ชัดเจนตรงไหน?”
เจลยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่หรอก ภัคชัดเจนดีแล้ว ชัดเจนดีมาก เอาไว้เมื่อไหร่ที่พี่คิดว่ากำลังจะตกหลุมรักภัค เดี๋ยวพี่พูดคำนั้นเอง”
“ห๊ะ?” คราวนี้ถึงทีภัคทำเสียงแปลกใจบ้าง
“ได้ไหมละ ทำให้พี่ตกหลุมเราสิ แล้วพี่จะขอเป็นแฟนเอง ส่วนตอนนี้...ก็แค่ ใกล้ๆจะชอบแล้วอ่านะ” เจลพูดเองก็เขินเอง
แม่งเอ๊ย นี่กูกำลังอ่อยให้ผู้ชายมาจีบตัวเองอยู่ใช่ไหมนี่... ให้ตายเถอะ
“แล้วถ้ามีคนมาถามว่าเจลมีแฟนรึยังละ?” ภัคยังสงสัยไม่เลิก ถามเซ้าซี้หน้างอ
“ก็บอกว่าไม่มี แต่มีคนจองที่ตรงนี้ไว้แล้วไง แค่เนี้ย ไม่เห็นยากเลย” ที่พูดอยู่ปาวๆเนี่ย ไม่ใช่ไม่เขินนะ บอกไว้เลย เขินตัวแทบบิด แต่ต้องหน้าด้านตอบๆไป มันจะได้รีบกลับซะที
...อยากยิ้มกว้างๆจะแย่อยู่แล้ว...
“งั้นมัดจำไว้ก่อนดิ” ภัคขอด้วยสีหน้ามีเลศนัย นั่นทำให้เจลทำหน้าหวั่นๆ
“อะไร?”
“...จูบที”
“มากไปโว้ย ไปเลยไป ไสหัวกลับไปได้แล้ว” เจลตะโกนตอบแล้วเตะหน้าแข้งมันไปที มือเล็กผลักไสร่างโตๆจนมาถึงหน้าบ้าน บังเอิญมีแท็กซี่ขับผ่านมาพอดี ภัคเลยบอกลาแล้วขึ้นรถไป
เจลเดินกลับเข้ามาในบ้าน ส่ายหัวไปมา ยิ้มน้อยๆให้ตัวเองก่อนจะพึมพำถึงคนที่เพิ่งมาหา “ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย”
.....
RRR
เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงทำให้เจลรีบหยิบขึ้นมาดูอย่างแปลกใจ
เบอร์ที่ไม่ได้โทรมาหานานแล้ว... ไอ้ภพ
ใจเจ้าของโทรศัพท์เต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่ใช่เต้นแรงเพราะยังรักหรืออะไร แต่มันเต้นแรงเพราะนานแล้วที่ไม่ได้คุยกับเพื่อนสนิทไม่ว่าจะทั้งต่อหน้าหรือทางเครื่องมือสื่อสารก็ตาม
“วะ..ว่าไงวะภพ?” เจลรับโทรศัพท์เสียงทั้งสั่นทั้งเบา แต่หากปลายสายกลับตอบมาอย่างร่าเริง
“ไงว่าที่น้องเขย ได้ข่าวว่าน้องกูบุกไปขอเป็นแฟนถึงบ้านเลยเหรอ?”
“ห๊ะ...เดี๋ยว...มึง..รู้ได้ไง!?" เขาโวยลั่นถาม ก็เหตุการณ์มันเพิ่งจะผ่านมาได้ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
ฮึ่ม!! หรือจะเป็น..
“มันเพิ่งโทรมาบอกกูเมื่อกี้” ภพหัวเหราะลั่น นึกภาพคนปลายสาย ป่านนี้คงโมโหน้องเขาน่าดู
“น้องมึงนี่ปากสว่างเหมือนมึงไม่มีผิดเลยนะ อะไรวะ นึกว่านิสัยจะต่างกันทุกเรื่องซะอีก” เจลผ่อนลมหายใจ ล้มตัวนอนหงายบนเตียงคุยอย่างสบายๆ ไม่นึกติดใจอะไร
“ไอ้ภัคมันเป็นคนบ้าระห่ำ คิดจริงทำจริง บางครั้งก็ทำก่อนแล้วค่อยมาคิด มึงอ่ะ ห้ามๆมันหน่อยแล้วกัน” ภพบอกด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่ได้อะไรกับเรื่องที่น้องตัวเองเพิ่งโทรมาเย้ยว่าคุยกับไอ้เจลแล้ว แต่กลับกัน เขาดันดีใจแทนมันด้วยซ้ำ
“ไอ้ภพ..” เจลครางเรียกชื่อเพื่อนผ่านลำคอ รู้สึกขอบคุณมันอยู่ในใจ
อย่างน้อย...ความเป็นเพื่อนของเราก็ยังคงอยู่ ถึงแม้จะใช้เวลารักษายาวนานก็เถอะ
“อะไร? นี่อย่าบอกนะว่าจะกลับมาหากู บอกไว้ก่อนนะเว้ยว่ากูไม่อยากมีปัญหากับไอ้น้องบ้านั้นอีกแล้ว” ภพยังคงรื่นเริงบอก จนไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้คนอีกฝั่งยิ้มทั้งน้ำตา
“ขอบคุณมึงมากนะ”
“กูต่างหากที่ต้องขอโทษแล้วก็ขอบคุณมึง”
เจลเงียบรอฟังเพื่อนพูดต่อ
“ขอโทษนะที่ตอนนั้นกูเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลย ทำให้มึงเสียน้ำตา ไม่เคยทำให้มึงมีความสุข แล้วก็ขอบคุณมึงด้วยที่ให้โอกาสน้องกู... เราจะยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหมวะ?”
“..อืม ได้ดิ ยังไงกูกับมึงคงหนีกันไม่พ้นหรอก ฮะๆ... เออเฮ้ย แค่นี้ก่อนนะ น้องมึงโทรมา เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่”
เจลบอกภพเมื่อเห็นว่าสายที่โทรซ้อนเข้ามาเป็นใคร เขารีบวางแล้วรับสายที่กำลังรออยู่
พอรับสาย ภัคก็ซักทันที
“ทำไมรับช้าครับ?”
“อะไร? อย่ามาเว่อร์ แค่ดังไม่กี่ครั้ง”
“ก็จะเว่อร์อ่ะ อยากให้โทรแล้วรับเลย ทำให้ได้ป่ะ?”
“ไม่ได้”
“อ่า..ก็ได้ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ผมถึงบ้านแล้วนะ ขึ้นมาบนห้องแล้วเรียบร้อย” ภัคยิ้มกว้างอธิบายเป็นฉากๆ
“ปลอดภัยดีก็ดีแล้ว”
“ครับผม แล้วนี่พ่อกับแม่กลับมารึยังครับ?”
“เหมือนคืนนี้จะไม่กลับมั่ง ไม่รู้ดิ พ่อขับรถตอนกลางคืนไม่ค่อยได้ อีกชั่วโมงถ้าไม่กลับคิดว่าคงนอนที่บ้านเพื่อนแล้วแหละ”
“งี้เจลก็อยู่บ้าคนเดียวอ่ะดิ”
“ก็คงงั้น”
“งั้นล็อคบ้านดีๆนะครับ เดี๋ยวคืนนี้คุยด้วยจนเช้าเลยดีไหม?” เขาเตือนด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหยอดในประโยคท้าย
“รู้แล้วหน่า สั่งเป็นเด็กๆไปได้ ว่าแต่คืนนี้จะไม่นอนแล้วว่างั้นเถอะ”
“ก็หรือไม่เด็ก? จะเถียงไหมละ”
“ไม่เด็กโว้ยยยย”
“นี่ทำไมชอบพูดโว้ยนัก รู้ไหมว่ามันไม่เข้ากับหน้าตาเจลเลยนะ?”
“เมื่อไหร่จะนับถือแล้วเรียกว่าพี่สักที ลามปามไม่เลิกนะ”
“ก็ไม่ได้อยากให้เป็นพี่สักหน่อย ไม่เรียกหรอก”
ฮะๆ ไอ้เด็กนี้ เห็นแววว่าจะเริ่มเอาแต่ใจแล้วนะ
“อย่างอแงดิ ก็บอกไปแล้วไง จีบให้ติดแล้วกัน”
“อื้อ รู้แล้วหน่า จีบติดเมื่อไหร่นะ เตรียมขอผมเป็นแฟนเลยเถอะ” ภัคบอกอย่างหมายมั่นปั้นมือ อดใจรอให้ถึงวันนั้นแทบไม่ไหวแล้ว
“หึหึ ห่วงตัวเองเห้อ”
เจลบอกแล้วยิ้มกว้าง จัดท่าทางการนอนหลับตาคุยกับภัค แต่คิดว่าคงไม่นอนเพราะคนในสายก็บอกมาแล้วนี่หว่าว่าจะคุยด้วยถึงเช้า
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปรอบๆตัวคนสองคนที่แม้จะอยู่กันคนละที
แต่ก็สามารถสัมผัสความรู้สึกที่สื่อถึงกันได้
เจลไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่จะตกหลุมรักภัค
ไม่รู้หรอกว่าภัคจะจีบเขาด้วยวิธีไหนบ้าง
รู้แค่ว่าเขาจะผลัดขอเป็นแฟนมันไปเรื่อยๆเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะขอยังไง
ส่วนตอนนี้...ขอให้มันจีบแบบนี้ไปเรื่อยๆก็พอแล้ว
สบายใจดี..
END
ขอบคุณทุกการติดตามค้าบบบ