**(22.11.57)**1 MONTH ตะครุบหัวใจนายเมียรักษาการ ตอนที่ 32|จบแล้วจ้า|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **(22.11.57)**1 MONTH ตะครุบหัวใจนายเมียรักษาการ ตอนที่ 32|จบแล้วจ้า|  (อ่าน 99240 ครั้ง)

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รอลุ้นคู่ ต้น+ธาม+พี ต่อไป เพื่อนปอคงไม่หวังจะงาบเพื่อนกันเองนะ
ประเด็นคือ ไม่ค่อยไว้ใจปอซักเท่าไหร่ ของมันเคยๆ คิดมากแทนภีม

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
กะแล้วว่ากรีนต้องมีอะไรในใจสักอย่างแน่ๆ

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อยากรู้เรื่อง ของต้นแล้วอะ  :m1:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เรื่องคือแแบบบหนาวง ยุ่งเหยิง อิรุงตุงนังมาก แก้ปมนู้นเสร็จ ปมนี้พัน พอจะเสร็จปมนู้น ปมที่แล้วพัน คือมันยุ่งเหยิงมาก คืออ่านยาวๆแบบอัดที่เดียวนี่อ่านได้ซักสามสี่ตอนพักแปปไปอ่านใหม่ มันปวดตบไตมาก แต่สนุกดีคะ ตัวละครดูมีอะไรดีดูมีที่มาที่ไปเพระาอะไรถึงเป็นอย่างงี้  มาลงต่อนะ :)

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 25

 

ผมนิ่งมองบัตรนักศึกษาตัวเองบนรถเงียบๆ ปล่อยให้เพลงในรถบรรเลงไปเรื่อยๆ เมื่อคิดว่าอีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะถึงวันเกิดแล้ว ตอนที่ปอมันยื่นบัตรมาให้ ไม่รู้มันสังเกตเห็นหรือเปล่าว่าอีกไม่นานจะถึงวันสำคัญของผม คิดแล้วก็หงุดหงิดกับมัน บทจะรู้เรื่องก็รู้เรื่องเกินไป ไอ้บทรู้ความแบบนี้มันจะทำได้ไหมนะ หาของขวัญให้ผม อวยพรวันเกิดให้ผมโดยที่ไม่ลืมน่ะ

 

มองเห็นมันตอนนี้แล้วบอกเลยว่าหงุดหงิดแม่ง

 

ดวงตามองไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่บนคอนโซลรถ รู้ไหมเมื่อตอนเที่ยงผมแอบเห็นตอนที่มันเดินไปทักไอ้กรีนก่อน ล้วงหยิบโทรศัพท์มาจากกระเป๋าแล้วก็พูดอะไรสักอย่างขึ้นมา อาจจะเป็นขอเบอร์ ขอลายน์  ผมเห็นไอ้กรีนส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเดินหนีไป

 

อะไรวะกูอยากรู้

 

แม่ง ไอ้ปอ ภาพตอนมันทำตาละห้อยมองตามหลังไอ้กรีนยังติดตาผมอยู่เลย ผมรู้ผมไม่ควรคิดมากแต่ปอมันทำตัวแปลกไปปะวะ

 

“เออ ภีม สอบเสร็จพรุ่งนี้ใช่ไหม กูเสร็จวันนี้นะ” มันว่าขึ้น

 

“อือ”

 

“แต่กูก็จะไปโรงเรียนเหมือนเดิมนั่นแหละ ปิดเทอมนี้คงต้องไปโรงเรียนทุกวันไม่ได้พักหรอก” มันว่าพลางเปิดไฟเลี้ยวเลี้ยวเข้าโรงแรม

 

“ทำไม?”

 

มันหันมามองหน้าผมก่อนจะขมวดคิ้วตัวเองบอกว่าไม่ชอบใจเหมือนกัน “ก็ต้องรีบทำโครงการไง กลัวไม่ทันจบ ไม่อยากมาทำตอนซัมเมอร์น่ะ”

 

“ซัมเมอร์มึงมีแพลนจะไปไหนล่ะ?”

 

“กูจะบินไปหาแม่” มันว่าพลางก้มลงมองเกียร์ใส่เกียร์ว่าง ดึงเบรกมือหันมามองผมที่ขมวดคิ้วรออยู่

 

“แล้วกูล่ะ?”

 

มันละรอยยิ้มตัวเองลง ทำอึกอักละสายตาไปมองทางอื่น “อย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้นึกถึงกูเลย?”

 

“ไม่ใช่ กูอยากบินไปหาแม่กูที่โน่น แต่ยังไงกูก็นึกถึงมึงนะภีม แม่น่ะนานๆ กูได้เจอทีก็เลยอยากไปอยู่ด้วยกันบ้าง”

 

มันว่าเสียงเบา ผมพยักหน้ารับ ก็แม่มันน่ะสำคัญตั้งแต่แรกแล้วนี่ ที่มันโกรธพ่อตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะเรื่องของแม่มัน ผมเองก็ไม่ได้มีความสำคัญพอขนาดนั้นสักหน่อย อีกอย่างแค่สองเดือนผมอยู่ได้สบายอยู่แล้ว

 

“มึงคุยกับพ่อมึงบ้างรึยัง?” ผมว่า มันหันมามองอีกครั้ง

 

“ก็คุยบ้าง”

 

“กูเข้าใจมึงนะปอที่มึงจะโกรธพ่อเรื่องที่ท่านทำให้แม่มึงต้องหนีไปเพราะท่านเป็นเกย์ แต่ยังไงท่านก็เป็นพ่อมึงนะ”

 

มันจ้องตาผมนิ่งอึ้ง คงตกใจที่ผมรู้ “มึงรู้ได้ไง ใครบอกมึง?”

 

“กูรู้เอง ทำไมล่ะปอ ในเมื่อมึงก็ยังติดต่อกับแม่ได้ ทำไมต้องโกรธพ่อขนาดนั้น”

 

“ก็เพราะเขาไม่เคยทำหน้าที่พ่อหน้าที่แม่ให้กูไง เอาเวลาไปอี๋อ๋อกับไอ้หมอนั่นแทนที่จะมาใส่ใจกู”

 

“ท่านก็ใส่ใจมึงดีนี่นา พี่ชายมึงไม่เห็นทำตัวเหมือนมึง งี่เง่ากับแม่เหมือนมึงเลย”

 

“ก็แม่ไม่ได้ผิดอะไรนี่ แม่ต้องอายจนบินหนีไปเมืองนอกเพราะพ่อเป็นเกย์” มันหันมาว่า จับมือผมนิ่งคิ้วขมวดชนกัน แววตามันเศร้าสร้อยพลางดึงมอผมไปแนบแก้ม

 

ทำไมปอมันทำตัวน่าสงสารจังวะ

 

“มึงก็เลยทำให้ท่านเจ็บปวดเพราะการกระทำของมึงเหรอปอ?”

 

มันนิ่ง “เขาจะได้รู้ว่าแม่กู พี่กูและกูจะรู้สึกยังไง”

 

“มึงถามทางนั้นรึเปล่าว่าเขาเจ็บปวดไหม หรือมึงคิดเอง?”

 

มันก้มหน้ากุมมือผมไปแนบแก้มมัน สีหน้าบอกทนไม่ไหว “พอ พอแล้วภีมกูไม่อยากคุยเรื่องนี้”

 

มันคงสุดทนแล้วจริงๆ ตัวมันร้อนรุมไปหมด แก้มร้อนจนหลังมือผมสัมผัสถึง ผมว่าผมต้อนมันจนเกินไปจนไม่มีเวลาคิด มีแต่แววตาที่สับสนแสดงออกมา มันเองก็คงกำลังเจ็บปวดอยู่เหมือนกันที่ต้องทำอะไรแบบนั้นกับพ่อตัวเอง ผมเห็นตอนที่มันมองพ่อ

 

รู้แล้วว่าจะต้องทำไง ต้นเหตุคือมันโกรธที่พ่อมีแฟนแล้วไม่ให้เวลามันสินะ ส่วนเรื่องของแม่ ผมไม่มีโอกาสคุยกับท่านเลย

 

เรื่องของตัวเองยังคิดมากอยู่ แต่ผมเก็บเอาเรื่องของไอ้ปอมาคิดอีกเรื่องแล้ว

 

ผมกับมันพากันเดินเข้าไปเงียบๆ เห็นพ่อของมันยืนยิ้มรออยู่ ผมยิ้มและยกมือไหว้เห็นร่างของลูกชายตัวดีเดินนำออกไปแล้ว ทำนิสัยเอาแต่ใจแบบนี้นี่อยากให้พ่อสนใจแหงๆ

 

“ดื้อซะไม่มี” ผมบ่นกับตัวเองพลางมองตามหลังมันไปด้วย

 

“ดื้อก็ดื้อแต่กับพ่อนี่แหละ กับภีมคงเชื่อฟังเลยล่ะสิ”

 

“เปล่าครับ หัวรั้นน่าดู ถ้าเชื่อฟังผมขนาดนั้นคงยอมมาขอโทษพ่อดีๆ แล้ว”

 

“อย่าไปบังคับเขานักเลย พ่อก็ผิดส่วนหนึ่ง”

 

“แต่พ่อก็ยอมรับแล้วนี่ครับ เดี๋ยวผมจะเกลี้ยกล่อมมันจนยอมใจอ่อนเลย ไปนะครับไม่กวนเวลาทำงานแล้ว”

 

เขายกยิ้มตอบ พร้อมกับร่างของผมที่เดินละไปขึ้นลิฟท์ด้วยความอารมณ์เสีย จะสอนเด็กน่ะสอนได้ แต่เฒ่าทารกแบบไอ้นี่จะสอนยังไงวะ ใช้ไม้ตายไหนถึงจะดัดได้ คิดแล้วก็ปวดหัวขึ้นมาทันทีเลย ผมก้าวเท้าเดินเอื่อยๆ ไปยังหน้าประตูห้องประจำที่พัก เปิดประตูที่มันไม่ได้ล๊อคและเดินลากเท้าไปเรื่อยๆ แทนที่จะปวดหัวเรื่องการสอบแต่ปวดหัวเรื่องผัว นี่ผมจะแรดไปถึงไหนวะ

 

วางกระเป๋าไว้บนโซฟาข้างๆ มันที่กำลังดูทีวี ดูรายการแข่งรถ พอมันเห็นเท่านั้นแหละหันมาโวยผมทันทีเลย “เอาไปเก็บให้เข้าที่ มันรก”

 

แหม ไอ้เวรตะไล พอมึงเป็นคนทำความสะอาดบ้านแล้วเอาใหญ่เลยนะ เห็นไหมมันทำยากแค่ไหน

 

“บ่นอยู่ได้ วางไว้ก่อนก็ได้หรอก” ผมว่า

 

“วางไว้ก่อนก็ได้ แต่กูก็เก็บให้มึงทุกทีนั่นแหละน่า”

 

“เออ เอาไปเก็บให้เลยมันง่ายกว่าจะต้องมาเถียงกับกูไหมวะ”

 

“มึงก็หัดเก็บของให้เป็นที่เป็นทางหน่อยสิวะ”

 

แหม มึงขึ้นวะกับกูเหรอ ผมยกกำปั้นทุบบ่ามันไปทีด้วยความหมั่นไส้

 

“พอเถียงไม่ได้ก็ใช้กำลังกับผัวตลอด” มันว่าพลางขมวดคิ้ว แล้วก็หยิบกระเป๋าเข้าไปแขวนไว้ดีๆ ครับ ไอ้ผมก็หมั่นไส้ถอดถุงเท้าวางไว้อีก

 

“ถุงเท้าด้วยปอ”

 

มันหน้ามุ่ยเดินมาเก็บเงียบๆ ครับ น่ารักดีจริงๆ “ผ้าใส่แล้วเต็มตะกร้าเลย เอาลงไปร้านซักรีดด้วยนะพี่ปอ”

 

พูดเพราะๆ หน่อยเดี๋ยวแม่งไล่เตะตูดผม

 

มันหันมามองหน้าผมแบบว่าหงุดหงิดมาก ทางนี้ก็นั่งยิ้มแดกน้ำส้มที่มันรินไว้กินเอง ซัดของมันหมดแก้วแล้วนอนลงดูทีวี เอ้อ มีผัวไว้รับใช้ก็ดีเหมือนกันนะ

 

ใช่ครับเมื่อครู่คุณอ่านไม่ผิด ตอนนี้ผมไม่ได้มีสามีอย่างเดียวครับ มีคนรับใช้พ่วงตามหลังมาด้วย หลังๆ นี่ผมเป็นเทวดามาก พอมันบ่นผมก็เถียง พอมันเถียงผมก็ใช้กำลังบังคับข่มเหง แบบที่มันบอกจะยอมผมเปี๊ยบเลยแหละ ปอมันทำทุกอย่างให้ทั้งงานบ้านงานเรือน ปัดกวาดเช็ดถูห้องเองทั้งหมด จริงๆ ผมก็เก็บนะแต่ส่วนใหญ่มันเป็นคนทำมากกว่า

 

อย่างเรื่องเสื้อผ้า ถ้าผมบอกว่าไม่อยากข้ามถนน ไม่อยากร้อนแดด ปอมันก็ใจดีเดินลงเอาไปซักให้ตามใจทุกอย่าง ส่วนห้องนี่ช่วยกันดูแล แต่ก็ส่วนใหญ่เป็นปอนั่นแหละที่เก็บของ มักจะมาดุให้เก็บเข้าที่เข้าทาง อยู่ด้วยกันนานๆ ไปก็เริ่มกลับมาทะเลาะกัน เถียงกันแบบนี้บ่อยขึ้น แต่ผมก็เห็นว่ามันรักผมมากขึ้น ความหวานอาจลดน้อยลงบ้าง แต่มันก็หมั่นเติมให้ผมถึงแม้จะบอกว่ายุ่ง

 

ตอนนี้มันโคตรน่ารัก จากที่เคยเลวมากๆ ตอนนี้ถ้าใครแย่งมันไปผมจะตามไปตบ เอ่อ…กระทืบถึงบ้านเลย นี่ไม่ได้ขู่นะ พี่ปอน่ะเป็นของผมคนเดียวไม่ยกให้ใครหรอก

 

เสร็จจากเอาผ้าไปซัก มันถือของกินจากเซเว่นมาเยอะแยะ ผมนี่หันไปมองเลย ส่งสายตาไปบอกประมาณว่าขอกินด้วยดิ มันยักไหล่เดินเอาไปวางไว้บนโต๊ะล่อหน้าล่อตาผมครับ เหงื่อมันผุดตามตัวเพราะมันเป็นคนที่ขี้ร้อนเอามากๆ แค่เดินขึ้นลงไปยังร้านซักรีดที่อยู่ตรงข้ามตากแดดนิดๆ หน่อยๆ นี่เหงื่อเต็มตัว

 

มันถอดเสื้อเดินหันหลังเอาไปใส่ตระกร้า ผมยิ้มมองตามร่างสูงๆ ไปด้วย น่ารักจริงๆ คิดถูกแล้วที่ยอมมาอยู่ด้วย ก่อนจะชะงักสายตา

 

เอ๊ะ รอยอะไรแดงๆ บนหลัง ผมนี่อารมณ์ขึ้นทันทีเมื่อเห็นอย่างนั้น

 

นี่มึงอย่าบอกนะแอบไปนอนกับใครมา!

 

“ปอ!” ผมรีบเดินไปหามันทันที มันหันกลับมาแสดงถึงความสงสัย

 

“อะไร ไม่ต้องใช้แล้วนะ พี่จะอาบน้ำมันร้อนเนี่ย” มันบ่นพลางเปิดประตูตู้จะหยิบผ้าขนหนู

 

ผมซัดมันไปหนึ่งเพี๊ยะ “รอยอะไร?”

 

“หะ?” มันย้อนพลางเลิกคิ้ว

 

“กูถามว่ารอยที่หลังมึงอะ รอยอะไร?”

 

“รอยที่หลัง?” มันย้อนแล้วก็คิด มึงต้องคิดนานขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ กำลังจะห้าข้อแก้ตัวใช่ไหม!

 

“ตอบกูมา มึงแอบไปนอนกับใครใช่ไหมปอ ไอ้เหี้ย ไอ้สัด ไอ้มักมาก โรคจิตสันดานไม่เคยพอ!”

 

“เดี๋ยวๆๆ เปล่า พี่เปล่านะภีม!” มันหันมาจับมือผมที่กำลังจะซัดมันแล้ว มึงไม่ต้องมาแก้ตัวเลย กูคิดไว้แล้วไม่มีผิด

 

“เปล่ายังไง! นั่นมันรอยอะไรล่ะ!?”

 

“มันเป็นรอยยังไงล่ะมองไม่เห็น?”

 

“รอยข่วนนั่นน่ะ ตรงหลังมึงน่ะไม่ต้องมาแก้ตัวเลยปอ”

 

“รอยข่วนอะไรวะ ภีม แม่งเอ๊ย…”

 

มึงด่ากูเหรอ

 

ผมตัวสั่นมองมันด้วยความโกรธ ยกมือมาซัดตัวมันดังตุบตับพร้อมกับมันที่จับข้อมือผมส่ายหน้าบอกว่าไม่ใช่ “เปล่าภีม ฟังก่อน รอยนั่นน่ะ…”

 

“อ๋อ มึงคิดออกแล้วใช่ไหม ไปนอนกับใครมา ไอ้พี่คนนั้นใช่ไหมปอ กูผิดหวังในตัวมึงมากมึงรู้ไว้เลย!”

 

“เปล่าภีม ฟังก่อน”

 

“ไม่! กูไม่ฟังอะไรมึงอีกแล้วปอ กูจะไม่อยู่กับมึงอีกแล้ว!”

 

“ไม่ใช่!”

 

ผมชะงักนิ่ง เมื่อมันตะเบ็งเสียงให้ผมเงียบฟังด้วยดวงตาแข็งราวกับกำลังดุผม ตัวผมชะงักก่อนจะนิ่งมองมันที่จ้องตาผมราวกับลังโมโห อะไรกัน มันต่างหากที่ผิดที่นอกใจผม ร่างกายผมสั่นไปหมดจะโกรธก็โกรธ อยากจะระบายมันก็เอาแต่เถียง

 

ผมนิ่งเงียบจ้องตามัน

 

“จะหึงอะไรก็หัดมีเหตุผลบ้างสิภีม ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ!” มันว่าเสียงดัง กำลังดุผม กำลังบ่นผม นี่ผมทำอะไรผิดวะ

 

“ก็มึงน่ะ…”

 

“ฟังพี่!” มันว่า

 

“จะหึงน่ะได้ แต่ฟังพี่ก่อนได้ไหม ถ้าพี่ผิดจริงๆ ค่อยว่าค่อยตีพี่จะยอมรับ”

 

“ก็มึงผิดจริงๆ นี่ รอยนั่น…”

 

“อย่าเอาแต่ใจ!” มันขึ้นเสียง ผมตัวสั่นกำหมัดจะตีมันอีกรอบ มือมันกำข้อมือผมแน่น

 

ผมได้แต่ดิ้นให้มันปล่อยทั้งร้องว่า “มึงก็เหมือนเดิม จะดีไปได้นานแค่ไหนก็นิสัยเดิม สันดานเดิม!”

 

ผมก้มหน้า น้ำตาแม่งไหลเพราะทำอะไรไม่ได้ ปอมันนิ่ง

 

“ภีม ทำไมไม่ฟังพี่บ้างวะ”

 

“ก็หลักฐานมันชัดขนาดนั้น!” ผมเงยขึ้นไปว่า กลั้นสะอื้น

 

“รอยนั่นภีมเป็นคนทำจำไม่ได้รึไง เมื่อวานตอนถูหลังให้น่ะ”

 

มันว่าเสียงเบา จูบหัวผม “ขอโทษนะที่เสียงดัง แต่ฟังก่อนสิก่อนที่จะโวยวายอะไร”

 

“เมื่อวาน…”

 

“ใช่ เมื่อวานน่ะโกรธอะไรไม่รู้มาข่วนหลังพี่”

 

เออ…

 

ผมนิ่งมองมันก่อนจะกลอกตานึก ใช่นี่หว่า กูผิดเองนี่หว่า

 

กูมันเอาแต่ใจจริงๆ

 

ได้แต่พยักหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี ผมแม่งโคตรตกใจที่ปอมันขึ้นเสียงใส่เลย นึกว่ามันจะเถียงอย่างเดียว อยากเอาชนะอย่างเดียว

 

แล้วนี่ดันใส่อารมณ์ใส่ฟีลลิ่งทุบตีซะตัวมันแดงขนาดนี้ ผมก้มหน้าลงมองพื้นยอมรับฟังเทศน์จากมันแต่โดยดีไม่เถียงอะไรอีก ก็มันทำตัวมีพิรุธเองนี่นา

 

“ใครมันจะไปรู้ล่ะ ก็เห็นเป็นรอยเล็บข่วนก็นึกว่า…”

 

“เอาอะไรมาคิดแบบนั้น บอกแล้วไงให้เชื่อใจพี่น่ะหา”

 

ผมก้มหน้าตัวเอง มือมันขยับมาจับหัวผมลูบเบาๆ ราวกำลังปลอบ “ก็เราคืนดีกันเป็นเดือนแล้วนี่ แต่ปอก็ไม่มีอะไรกับภีม ก็เลยคิดว่าอาจจะไปนอนกับใคร…”

 

“บ้ารึไง ใครจะนอกใจภีมได้ พี่สัญญาแล้วแล้วก็เป็นคนรักษาสัญญามากพอน่า”

 

ผมเงยหน้าไปมองตอนมันพูด “ก็ปอขาดเซ็กส์ไม่ได้! งั้นบอกมาสิว่าทำยังไงล่ะถ้าไม่ไปนอนกับคนอื่น คนแบบมึงกูรู้ดี ปอ!”

 

ปอมันยกมือกุมหน้าตัวถอนใจราวกับเหนื่อยอ่อน จับมือผมดึงไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาแล้วก็ดึงเข้าไปจูบ แนบปากจูบด้วยความรักที่มันมอบให้ ไล่ลิ้นวนในโพรงปากพร้อมกับเม้มริมฝีปากล่างของผมด้วยความอ่อนโยน ในหัวของผมมีแต่คำถาม ว่าที่ปอกำลังทำหมายความว่ายังไง

 

ผมผละปากออกไปจ้องตามันผ่านม่านน้ำตา จ้องตาหาความหมาย นิ้วมันปาดน้ำตาให้ผมด้วยความใจดีอย่างเคย มันปลดซิบกางเกงตัวเองดึงมือผมให้ไปจับน้องชายของมันผ่านเนื้อผ้าบ๊อกเซอร์ แค่จูบ ทำไมมันตอบสนองไวแบบนี้

 

ผมมองตามันนิ่ง ขยับเข้าไปจูบปากมัน

 

“ขอโทษนะปอ ขอโทษที่ไม่ไว้ใจ”

 

“ไม่เป็นไร ดีใจนะที่หึงขนาดนี้” มันยิ้ม ซุกหน้าลงบนซอกคอของผมแนบจูบ “ไม่มีวันไหนเลยทีแตะต้องตัวภีมแล้วไม่รู้สึก ทรมานนะภีม แต่พี่ก็ต้องรอจนกว่าภีมจะพร้อม…”

 

“พร้อมแล้วปอ พร้อมแล้ว”

 

ผมว่าทันที มือยกขึ้นกอดไหล่ของมันที่กำลังซุกไซ้คอ แนบจูบได้ยินเสียงจุ๊บๆ ยอมรับเลยว่าตอนถูกปอมันกอดจูบบางทีก็อยากให้มันเกินเลยบ้าง อยากให้มันทำมากกว่านั้นเพราะมันทำให้ผมมั่นใจว่ามันจะมีผมแค่คนเดียว

 

ผมคิดมากจริงๆ




ต่อพามสองจ้า
 :haun4:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ 25

Part 2


 

“ถ้าเจ็บนี่ห้ามบ่นนะ” มันว่า

 

“อืม ก็…ทำเบาๆ ด้วยสิ”

 

ผมว่าพลางก้มจูบมัน งับหูมันไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยว อารมณ์วูบไหวตอบสนองเมื่อมันสัมผัสไปทั่วตัว มือผมทำงานด้วยรู้หน้าที่ ถอดเสื้อตัวเองแล้วผลักมันเอนตัวพิงพนักโซฟา เห็นแววประหลาดใจของมันที่ฉายออกมาเมื่อผมขยับไปนั่งบนตัก

 

มันยกยิ้มกับตัวเอง นี่กูไม่ได้อยากนะ แค่จะให้รางวัลมึงเฉยๆ ที่อดทนมาโดยตลอด

 

“ที่ผ่านมาทำยังไง?” ผมว่าพลางมองตามัน มือคล้องคอแล้วก้มลงไปจูบปากมัน ลิ้นพันรัวนัวเนียกันจนเกิดเสียง ผมผ่อนลมหายใจตัวเองผละมาจ้องตามันด้วยความอยากรู้

 

“ทำแบบนี้ไง?”

 

มันว่าพลางปลดกระดุมบ๊อกเซอร์ ดึงไอ้ปอเบอร์สองออกมาตั้งผงาดชี้หน้า ผมไม่เห็นมันแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว ได้แต่มองปอที่มันขยับมือเข้าไปกำของตัวเองขยับมือสาวขึ้นลง ดวงตามันมองหน้าผมเม้มปากตัวเองทำหน้าทำตาเซ็กซี่ใส่

 

บอกเลยว่าสยิวกับท่าทางมันมาก มันจะบอกว่ามันใช้มือช่วยตัวเองมาตลอดทั้งๆ ที่ผมนอนอยู่กับมันทุกวันเนี่ยนะ ผมกอดคอมันแน่น ทำไมปอมันน่ารักแบบนี้วะ

 

“ปอ น่ารักว่ะ” ผมว่าเสียงเบา หลุดหัวเราะตามมันที่ดึงผมเข้าไปกอด

 

“รักมากๆ สิ”

 

“อื้ม…รักมากกว่าเดิมอีก รักพี่ปอนะ”

 

ผมว่าเสียงเบา แนบจูบหูมัน จูบคอมันแสดงความรัก ปอมันขยับมือบนก้อนกายตัวเองเสียงครางฮึ่มฮั่มในคอเมื่อถูกผมพรมจูบบนลำคอและใบหูของมัน บอกว่ารักมันตลอดเวลา มันกอดผมและบอกว่ารักตอบเช่นกัน

 

ผมดึงมือมันออกจากก้อนกายตัวเอง ดึงให้มันขยับล้มตัวลงตามมาขณะที่เอนตัวลงนอนหงายบนโซฟา ปอมันมองตัวผม ไล้มือไปตามตัวจนร้อนวูบวาบ ผมเม้มปากตัวเอง แค่มันสัมผัสก็เรียกอารมณ์วาบไหวได้ทั่วทั้งร่าง ได้แต่ช้อนตามองมันที่ก้มมองร่างกายของผมราวกับกำลังโหยหาและอยากจะขย้ำเสียเต็มประดา

 

ขย้ำสิปอ ขย้ำเลย เอาให้พอใจ

 

ผมหลับตาเมื่อมือมันสอดเข้ามาในกางเกงสัมผัส เสียงผมหลุดครางดังออกไปเรื่อยๆ เมื่อมันขยับมืออยู่ข้างใน ผมลืมตาหยีหน้า จับมือมันบอกให้พอ ปอมันลอบกลืนน้ำลาย ดึงขอบกางเกงผมร่นออกจากเอวพร้อมกางเกงใน หน้าผมร้อนวูบวาบกับความเขินอาย เพราะไม่ว่ายังไงก็ยังไม่ชินกับสายตาโลมเลียของมันสักที

 

เสื้อผ้าผมถูกโยนไปไหนสักแห่ง ตัวผมร้อนรุ่มเมื่อปอมันล้มตัวมาทาบทับอีกครั้ง จูบปากผมและขยับมือมาแนบผสานกับผม ความรู้สึกตอนนี้มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ลิ้นมันแตะบนยอดอกของผม ดูดเลีย เม้ม กัดหยอกล้อ ลากลงมาหน้าท้อง ลมหายใจผมติดขัดรู้สึกถึงก้อนกายตัวเองที่กระตุกวูบ

 

ผมก้มมอง ปอมันวนลิ้นอยู่แถวสะดือ ลากต่ำลงมา โอย…ผมได้แต่จิกไหล่ของมันด้วยความซ่านในท้องน้อย มือมันจับก้อนกายผมสาวขึ้นลง ผมได้แต่พยายามหลับตาผ่อนอารมณ์ตัวเอง อะไรร้อนๆ แตะบนส่วนปลาย ผมยกหัวขึ้นมอง ความรู้สึกคือเขินมากเมื่อเห็นว่าเป็นลิ้นของมัน มันเลีย เล่นกับส่วนกลางของหัวก่อนจะครอบไปทั้งปากราวกับรู้ว่าผมมองอยู่ ผมสะดุ้งเฮือกใหญ่

 

“ปอ…” ผมหยีหน้า เสียวครับเสียวจริงๆ เมื่อมันขยับหัวขึ้นลงรูดแท่งของผมด้วยปากได้ยินเสียงจุบจับจากปากเมื่อขยับ เหมือนตอนผมใช้ปากให้มัน เพียงแต่ของผมไม่ได้อลังการเหมือนมันเท่านั้นเอง

 

โอย ผมลูบหน้าท้องตัวเอง เหมือนผีเสื้อบินว่อนในท้องเป็นร้อยๆ ตัว

 

มันช้อนตามามองผม มองตาผมใบหน้าเหยเกที่สูดลมหายใจเข้าปาก แอ่นเอวตอบมันอย่างไม่รู้ตัว อารมณ์แบบนี้มันเหมือนตอนมีอะไรกับผู้หญิงหรือเปล่า มันต่างจากใช้มืออย่างสิ้นเชิงเลย มันอุ่นมากๆ นิ่มมากจากปากของปอ

 

“อะ พี่ปอ พี่ปอ!” จะเสร็จแล้ว

 

ผมดันไหล่มัน มันโยกหัวไม่ยอมหยุด มือก็บีบขาอ่อนผม ผมหยีหน้าอยากร้องไห้ อารมณ์ตอนนี้สุดๆ แบบว่าจะลอยขึ้นสวรรค์ให้ได้

 

“เอาปากออกปอ จะเสร็จ!” ผมดันไหล่มันออก ปอมันละออกมาแล้วยิ้ม  แนบปากจูบแล้วใช้มือส่งผมให้ถึงฝั่ง ลิ้นเราพันกันแนบจูบอย่างโหยหา ผมผละไปกัดคอมันเมื่ออารมณ์ถึงขีดสุด ชั่วโมงนี้ผัวน่ารักน่ากัดมาก

 

ตัวกระตุกเกร็งเมื่อมืออุ่นของปอระรัวอย่างเก่งกาจ ผมฉีดน้ำออกจากตัวพร้อมกับสมองตื้อเบลอไปชั่วขณะ กัดปอมันและใช้ลิ้นเลียปลอบ เม้มดูดคอมันและกอดแน่นราวกับกลัวใครมาพรากเราจากกัน มันเองก็กอดผมเช่นกัน กอดด้วยความรักที่มอบให้ผม

 

ผมเชื่อเสมอ

 

เรานิ่งจ้องตากันหลังจากผมเสร็จกิจ ดวงตาผมมองร่างกายที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิด ตอนนี้มันถูกประดับด้วยน้ำกามของตัวเอง ปอมันยิ่งมองด้วยความชอบใจ ลุกไปถอดกางเกงเหลือแต่บ๊อกเซอร์ขยับเข้ามาหา บ้องข้าวหลามมันยังตั้งแข็งแรงเสมอ กระดกบอกว่าอยากปลดปล่อยเต็มที ผมเม้มปากขยับตัวเข้าหา

 

“กูทำให้”

 

ว่าเสียงเบาปนหอบ มันเลิกคิ้วเมื่อถูกผลักให้พิงพนักโซฟาอีกครั้ง ชั่วโมงนี้อยากเซอร์วิสให้รางวัลมัน

 

“ไม่ต้องฝืนก็ได้นะ” มันว่า ขยับมือมาไล้ตัวผมเลื่อนไปยังบั้นท้าย แสดงว่ามันอยากสอดใส่แล้วล่ะสิ ผมมองตามันนิ่ง

 

“เจลอยู่ไหน?”

 

มันเลิกคิ้วตัวเอง ไหนบอกว่ามึงเก่งนักหนาทำไมคราวนี้ไม่เป็นงานเลย “ไปหยิบมาสิมัวรออะไร จะเอาไหม?”

 

“วันนี้มาแปลกนะ”

 

มันว่าพลางเดินไปหยิบทั้งเจลทั้งถุงยางเตรียมพร้อม นี่ผมแปลกขนาดนั้นเลยเหรอ

 

“กูออนท็อปให้นะ”

 

“หา?” มันว่าพลางเบิกตา

 

นี่กูแปลกขนาดนั้นจริงๆ ขนาดมึงต้องตกใจเลยเหรอ

 

ผมหลบตามันด้วยความเขิน ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนตัก เมื่อรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อๆ ของมันราวกับกำลังรู้ใจว่าผมตั้งใจจะเอาอกเอาใจเป็นการง้อ

 

ปอมันดึงเอวผมเข้าไปหาไม่รีรอ บีบเจลใส่มือแล้วดันนิ้วเข้าไปในตัวผมทันที แม้มันจะกอดจูบให้คลายความกลัว ด้วยเพราะผมห่างมือมันนานมากแล้วข้างหลังก็เลยกลับมามีหยากไย่เกาะกรังใช้งานไม่ดีแบบนี้ไง ผมรู้สึกถึงความเจ็บ ร้องครางในคอบอกให้มันเบาๆ แค่นิ้วเดียวนะเนี่ย ปอมันจูบผมปลอบ ใช้อีกนิ้วตามไปติดๆ ขยับเข้าออกให้ผมรู้สึก

 

“อะ ปอ…” ผมเม้มปาก ก้มลงไปจูบแลกลิ้น แค่นี้ก็ตื่นตัวเป็นรอบที่สองแล้ว

 

ปอมันเพิ่มนิ้ว ผ่อนคลายอารมณ์ด้วยมืออีกข้างมาสาวข้างหน้า อารมณ์ตอนนี้อยากจะเสร็จอีกรอบมาก ทั้งข้างหน้าข้างหลัง ผมเอื้อมมือไปหยิบถุงยางมาฉีกอย่างรู้งาน แต่ทุลักทุเลไม่น้อยเพราะมัวแต่กระตุก ปอมันได้แต่มองตัวผมเหมือนต้องการจดจำรายละเอียด มองหน้าผมที่ตอนนี้คงแดงมากแน่ๆ

 

ไม่ได้จะแรดจะร่านแบบนี้กับใครหรอกนะปอ กูยอมมึงคนเดียว ผมส่ายหัวให้ตัวเองที่มัวแต่กระตุกตามแรงคนทำ ไม่มีสมาธิ พยายามขยับมือใส่ถุงยางให้มันจนสุด รู้สึกโล่งเมื่อมันถอนมือออกจากด้านหลัง แต่ตัวผมจะแตกให้ได้เหอะ

 

“มาสิ คนเก่ง” มันว่า ขยับมือจับถุงยางหลังจากเทเจลใส่ อีกมือดึงเอวผมเข้าหา

 

ตื่นเต้นครับไม่โดนนาน เอ่อ…นั่นแหละ

 

ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่มันข่มขืนผมแล้วเลิกกัน และถึงจะบอกว่าเมื่อก่อนเคยโดนมันทำมาหลายครั้ง หลายแบบ แต่ก็ยังกลัวนะว่าจะเจ็บ แต่ถ้าปอมันอ่อนโยนใจดีกับผมแบบนี้ บอกเลยว่ายอมให้ง่ายๆ ทุกครั้ง

 

ก็มันทำตัวดีขนาดนี้ แถมครั้งนี้ผมผิดเต็มๆ เลย

 

ให้ผมง้อมันบ้าง

 

ผมขยับตัวเข้าหามันที่สาวมือบนแก่นตัวเอง จับมันตั้งรอให้ผมเข้าไป ดวงตาผมลอบมองมันที่ตอนนี้ก็จ้องไอ้ตรงที่มันกับผมกำลังจะรวมร่างกันนั่นแหละ มันจ้องของผมตาไม่กระพริบ ผมนี่ทำตัวไม่ถูก ได้แต่ค่อยๆ ขยับไปหามัน ช่องทางรักของผมกับแท่งร้อนๆ ของมันบรรจบกัน ปอมันถูๆ ไถๆ อยู่ครู่ ทำเสียงซี๊ดซ๊าดชอบอกชอบใจ

 

ผมเม้มปาก เอาวะ

 

“อย่าเพิ่งนะ ให้ภีมทำเอง” ผมว่า จับของมันตั้งขึ้นแล้วค่อยวางก้นตัวเองลง ยอมรับว่าใส่ยากมาก ปอมันช่วยขยับไปมาเมื่อผมค่อยๆ ทิ้งเอวลง กลั้นหายใจเมื่อแก่นกายมันแทรกเข้ามาในตัวผมช้าๆ เจ็บมาก

 

ผมมองหน้ามันแล้วทำหน้าตัวเองว่าเหมือนจะร้องไห้ แต่เห็นหน้ามันแล้วหยุดไม่ได้ ปอมันกำลังมีความสุข อีกอย่างมันก็คงจะเจ็บแค่ตอนใส่ส่วนหัวเท่านั้นแหละ คิดแล้วนั้นก็พยายามดันตัวเองลงไปจนมิดหัว ผมพักหายใจรู้สึกตึงและร้อนมากข้างใน

 

ปอมันมองตาผม เสียงมันหายใจกระเส่าบีบบั้นเอวผม ตอนนี้มันคงรู้สึกดีมากๆ แน่  ผมขยับตัวเคลื่อนให้มันเข้าไปจนสุด ลึกมากจนรู้สึกว่าท้องผมเต็มไปด้วยตัวอุ่นๆ ของปอ เราเป็นของกันและกันอีกครั้ง

 

“อะ โคตรแน่นเลย”

 

ปอมันครางต่ำเมื่อหัวเหน่ากระทบก้นผม ความรู้สึกดีตีอกผมเมื่อเห็นมันไม่เป็นตัวเอง มือขยับมาทิ้งบนหน้าอกเป็นหลักให้ยึดเกาะ เอวผมค่อยๆ ขยับขึ้นลงข้าๆ โอย ไม่ใช่แค่เจ็บ อารมณ์หลายอย่างผสมปนเปในท้องน้อยผมให้ตัวเองรีบเร่งขยับตัวบนก้อนกายมัน

 

ทั้งเสียวทั้งฮึกเหิม ยิ่งได้ยินเสียงปอมันพึงพอใจผมยิ่งชอบใจ ก้อนกายตื่นตัวเต็มที่แม้มันไม่ได้แตะต้องอะไรเลย ผมหอบคราง ได้ยินแต่เสียงลมหายใจกระเส่าของตัวเองและเสียงเนื้อกระทบกัน ปอมันกระทุ้งเอวสวน ยกมือจับเอวผมดึงลงมาแรงๆ ผมลืมเจ็บรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้โคตรเสียว โคตรรู้สึกดี

 

“อื้อ อื้อ…ปอ”

 

ผมจ้องตามัน มองตัวมันที่มีเหงื่อซึมออกมาเต็มตัว มันจับเอวผมขึ้นค้างไว้แล้วสวนขึ้นถี่ๆ ข้างในตัวผมร้อนเป็นไฟ ได้ยินเสียงตัวเองร้องในลำคออย่างบ้าคลั่ง เสียงของปอที่กำลังมีความสุขตอบกลับมา เสียงแห่งความสุขสม ผมไม่ได้ยินมานานแล้ว พอได้ฟังมันยิ่งกระตุ้นอารมณ์มากขึ้นไปอีก

 

“อะ อะ…” เสียงผมขาดหายเมื่อมันกระแทกตัวเข้ามา มือปอกอดผม บีบบั้นเอวบอกว่าตัวเองก็มีอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างกัน ก่อนร่างผมถูกจับนอนหงาย

 

“อ้าขาภีม อ้ากว้างๆ” เสียงปอกระเส่า ทั้งสั่นทั้งไม่มีแรง

 

ผมทำตามอย่างว่าง่าย อ้าขาออกให้มันโน้มตัวเอาแขนมาเท้าพื้นโซฟาขยับเอวกระแทกสวบๆ เข้ามาไม่หยุดยั้ง ตัวผมไหวไปตามแรง จ้องตามันที่กำลังกัดริมฝีปากล่างตัวเองครางอย่างพอใจ โคตรเซ็กซี่เลย เห็นแล้วยิ่งมีอารมณ์ มือผมเกาะคอมันดึงมาจูบ ขยับไปกอดเอวมันที่ยังขยับ ช้าเร็วปะปนกันไปตามอารมณ์

 

ปอมันนิ่งมองตา ยกยิ้มนิดๆ ไอ้ผมก็เขินน่ะสิ มายิ้มให้กันตอนมีเซ็กส์น่ะ

 

“กอดพี่ไว้นะ ตรงนี้มันแคบ”

 

ตัวผมถูกอุ้มลอยขึ้น ขาผมเกาะเกี่ยวเอวปอไว้แน่น มือกอดคอ มันอุ้มพาผมเข้าไปวางไว้บนเตียง ลำขาถูกจับแยกออกจากกันพร้อมร่างหนาๆ ของคนตรงหน้าแทรกตัวมาทาบทับ จูบผม บอกว่ารักผมขณะที่เอวยังทำงาน

 

ผมเชื่ออย่างสนิทใจ ได้แต่ขานรับมันอย่างไม่ได้ศัพท์ ดวงตาเอ่อไปด้วยน้ำตา เพราะทุกครั้งแม้พี่ปอมันจะรุนแรง บ้าคลั่งโหยหาราวกับเสือโหยขนาดไหน มันก็ยังไม่ลืมที่จะขยับเข้ามากระซิบบอกว่ารักผมด้วยความอ่อนโยนเสมอ แม้มันจะขอให้ผมยอมทำตามที่ตัวเองต้องการ ริมฝีปากอุ่นไม่เลยละจากแผ่นหลังของผม มันจูบซับ พรมไปทั่วราวกับลุ่มหลงในตัวผมแม้เหงื่อจะเกาะไปทั้งตัวยังไง จมดิ่งกับความสุขที่ผมสมยอมง่ายๆ

 

ครั้งแรกของเรา มันดีกว่าที่ผมคิดไว้

 

“อะ! พี่ปอ จะ จะเสร็จ!”

 

ผมฟุบหน้ากับหมอน ผมเสร็จรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ตอนนี้อยู่ในท่านอนคว่ำหันหลังให้ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องหู มือปอมันเอื้อมมาสาวก้อนกายให้ผม ร่างผมกระตุกเกร็งอีกครั้ง ตอดรัดตัวมันแน่น ได้ยินเสียงมันซี๊ดหยุดขยับตัวเร่งให้ผมเสร็จ ตัวผมขดกระตุกปล่อยลาวาอุ่นๆ ออกมาอีกครั้ง

 

“อะ ภีมมันรัดแน่น เบาๆ สิ” ปอมันว่า สาวมือรีดน้ำให้ผมเสร็จโดยไว เหงื่อไหลทั้งๆ ที่ห้องเย็นเฉียบ ผมหันไปมองมันที่ขยับตัวจับนอนตะแคงเปลี่ยนท่า

 

“เมื่อยไหม?” มันจูบคางผมถาม ผมส่ายหน้า ชั่วโมงนี้ยอมทุกอย่างแล้ว

 

“อื้อ อื้อ…” ปอมันดึงหน้าผมไปแลกลิ้นจูบ ตัวก็เริ่มขยับอีกครั้ง เดี่ยวผมก็ได้ตื่นตัวมาอีกรอบ ตัวผมสะเทิ้นไปตามแรงกระแทกด้านหลัง ลิ้นพันกันกับปอที่ยังแนบจูบอย่างตะกละตะกลามราวกับกลัวว่าผมจะไม่ยอมนอนกับมันอีกงั้นแหละ

 

มือหนาๆ มันอีกข้างจับข้อพับขาผมไปคล้องกับแขนมันให้ลอยขึ้น ผมร้องสุดเสียงเพราะแม่ง มันลึกแล้วก็ใส่เข้าไปได้สุดๆ

 

ปอมันครางในลำคอ เร่งความเร็วบ่งบอกว่ากำลังจะเสร็จ ตัวผมสะเทิ้นระรัวไปตามแรงก่อนที่มันจะถอนตัวออกมาดึงถุงยางโยนทิ้ง แทรกตัวระหว่างกลางตัวผมใช้มือสาวระรัว ผมขยับตัวไปจูบปากมัน ได้ยินเสียงแห่งความสุขสมในลำคอมันชัดเจน ตัวหนาๆ กระตุกเกร็งแล้วปล่อยน้ำขาวขุ่นๆ ออกมาเกาะบนตัวผม

 

โรคจิต

 

จะให้น้ำของตัวเองเกาะในตัวผมเพื่อจะได้เก็บเอาไว้จำ หรือไม่ก็เป็นหลักฐานว่ามันเสร็จใส่ผมแล้ว ผมเดาใจแม่งออกเมื่อมันจับผมนอนหงายให้มันมองอย่างสมใจ หน้าท้องมันยังเกร็งพยายามรีดออกมาให้หมด สายตากวาดไปทั้งตัวของผม มองรางกายที่มันประทับตราไว้ทั้งหมดด้วยความภาคภูมิใจ

 

แต่ใช่แค่ผมทำคนเดียวเสียเมื่อไรที่ถูกประทับตรา บนตัวมันก็มีรอยของผมเหมือนกัน รอยที่ผมกัดคอมันก็ยังอยู่ รอยจูบปื้นแดงๆ บนลำคอมันก็ยังเหลือ เยอะแยะเลย คราวนี้ไอ้รุ่นพี่คนนั้นมันจะได้รู้สึกทีว่าปอแม่งมีเจ้าของแล้ว

 

ผมมองมันที่ก้มลงมาแนบจูบ นิ้วมือผมยกมือไล้หัวมันเบาๆ ราวกับปลอบเด็กน้อย มันหอบหายใจทิ้งน้ำหนักลงทับตัวผม หนักครับ ตอนทีอะไรกันทับมาได้หมดไม่รู้สึกเลย แต่ตอนนี้บอกเลยแม่งตัวหนัก

 

“อีกยกนะ” มันว่าเสียงเบา ผมหันไปมองมันที่หันมาสบตาเหมือนกัน

 

ไอ้สัดใจอ่อน

 

ยะ ยอมเหมือนเดิมครับ คราวนี้ไม่อวดเก่งแสดงวิชาที่มันสอนแล้ว นอนแหกปากครางอย่างเดียวให้ไอ้ปอเบอร์สองสวนเข้าสวนออกในตัวผม มันไม่ใช่เล็กๆ เลยนะ ปอมันเหมือนเก็บกด ใส่ไม่ยั้ง กว่ามันจะเสร็จผมน่ะขึ้นสวรรค์นำไปสองเท่า

 

แหกครับ ตูดผมแหกแน่แหละ สงสัยผมใช้งานบ้านมันหนักมากเกินไปมันเลยใช้งานหนักผมคืนบ้าง เอาซะผมลุกไม่ขึ้นเลยล่ะ

 

“อีกยกนะ” มันว่าเสียงกระเส่า

 

เดี๋ยวปอ กูเข้าใจแล้วว่ามึงหิวโหยมานาน ไว้ทดวันหลังได้ไหม ขอยามาให้กูกินด่วน!

 

“อีกหลายยกก็ได้” ผมว่า ดันเอวมันออกจากตัว “มายกกูไปอาบน้ำ เสร็จแล้วยกกูไปแต่งตัว พอกูแต่งตัวเสร็จหาข้าวให้กูแดกด้วย!”

 

ผมร้องว่า มันหลุดหัวเราะ

 

“เดี๋ยวกูยกไปต่อในห้องน้ำ เสร็จแล้วยกไปต่อหน้าตู้เสื้อผ้า แล้วสุดท้ายเอามึงขึ้นไปต่อบนโต๊ะอ่านหนังสือ”

 

ดะ เดี๋ยว ไม่ใช้อย่างนั้น!

 

ผมร้องครวญเมื่อมันจับผมอุ้มเข้าไปในห้องน้ำ ผมจะไม่ขอความเห็นใจจากใครๆ บอกเลยว่าจุดจบของผมที่แกล้งใช้งานมันเยี่ยงทาส จบแบบผมตัวซีดตัวผอมถูกมันจับรีดน้ำทั้งคืนครับ คืนนั้นน่ะเหรอ มันเอาผมซะหลับขณะที่มันยังคารูผมอยู่เลย สงสัยนี่จะโหยมากจริงๆ พอได้ทีแล้วจัดชุดใหญ่มาให้ผมเลยทีเดียวด้วยความปรารถณาดีจากพี่ปอ

 

ขยาดพี่ปอเบอร์สองอีกนานครับ

 

ผมว่าผมทำถูกแล้วนะ แต่ไหงสุดท้ายแม่งได้เดินขาถ่างไปสอบวันสุดท้ายก็ไม่รู้ เวลาเดินนี่เจ็บตูดขัดๆ ผมงอนมันครับที่เล่นไม่บันยะบันยังแบบนี้ เมื่อเช้ามันเลยง้อผม ขอผมอีกยกก่อนมาโรงเรียน ไอ้ผมเห็นวิธีง้อของมันแล้วหายงอนเป็นปลิดทิ้งเลย

 

“เห้ยปอ มึงโดนโรคจิตลากไปข่มขืนมาเหรอ?”

 

แถมผมนี่ต้องอายจนไม่รู้จะเอาหัวไปไว้ไหน เมื่อวันนี้เพื่อนมันทั้งกลุ่มมายืนรอที่ลานจอดรถครบครันกันทุกคนอย่างจะต้อนรับนายก ไอ้ปอมันก็เสือกแต่งช็อปมาโรงเรียน เสื้อยืดแล้วก็สวมช็อปทับมาง่ายๆ แล้วก็เห็นไอ้รอยจูบที่ผมทำไว้ไง

 

ผมนี่อายชิบหาย!

 

กลับกันกับผม ปอแม่งไม่ทำไว้เลยเพราะรู้ว่าวันนี้ผมแค่เดินขาถ่างมาโรงเรียนมันก็น่าอายมากพอแล้ว กูซึ้งใจมึงมากปอ กูซึ้งมาก ถ้ามึงดีขนาดนั้นตอนเอากูมึงน่าจะเพลาๆ ลงบ้าง!

 

คิดแล้วขึ้นครับ เดินขาถ่างขึ้นไปสอบต่อ

 

ไอ้นี่แม่งก็หน้าด้าน เดินเข้าไปในกลุ่มเฉยๆ เพื่อนแซวนี่ยิ้มหน้าระรื่นไปหา แต่กูน่ะอาย ดีนะแม่งมันเดินเข้าช็อปเลยไม่มีเรียนหรือต้องเดินเพ่นพ่านในโรงเรียน ไปตั้งใจทำงานอย่างเดียว คนที่เห็นก็แค่เพื่อนของมัน หน้าผมก็พอจะเซฟไว้บ้างจะได้ไม่อายมากไปกว่านี้

 

“แหม เบาตัวเลยดิไอ้สัด” เพื่อนคนหนึ่งว่ามัน

 

“สงสัยเมื่อคืนชุดใหญ่”

 

 หน้าผมร้อนเมื่อไอ้ปอมันหันมาเขย่าหัว

 

“กูไปทำงานนะ สอบเสร็จโทรเรียกด้วย ไม่งั้นก็เดินมาหาที่ช็อปกู มึงรู้ปะเนี่ยว่าอยู่ส่วนไหน”

 

“ไม่รู้กูก็ถามคนอื่นได้หรอกน่ะ ไปสอบแล้วนะ”

 

มันยกยิ้ม ผมเดินละออกมา พยายามเดินให้ปกติที่สุดเดี๋ยวเพื่อนไอ้ปอแม่งหัวเราะ ถึงจะอายขนาดไหนแต่ทำให้ไอ้รุ่นพี่เพื่อนมันเห็นได้ก็นับว่ากูมีชัย ฮึ่ย เดี๋ยวกูตีตราสามีกูทุกวันเลย

 

วะฮะฮ่า

 

อูยเจ็บตูด

ไม่ได้เจ็บขนาดเดินขาถ่างขนาดนั้นหรอก พอจะนอนกับมันได้ ตอนที่ปอมันทำมันใจดีกับผมมาก ถามผมตลอดว่าเจ็บไหม เมื่อยตัวไหม แคร์ผมขนาดนั้น

 

 

โคตรรักมึงเลยปอ

 

ถ้าจะให้กูรักมากกว่านี้มึงช่วยเบาๆ หน่อยก็ดี เพื่อตูดกูเนี่ย!

 



 
 :-[
มาอัพให้แล้วจ้า ตอนนี้เอ็นซีนะรู้ยางงงงง ถึงไม่รู้ก็รู้ไว้เหอะ 5555

นี่เรื่องตะครุบหัวใจฯ นะไม่ใช่สามีตีตราอย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องไปไหนนะ 5555 เป็นไง เขินแปป เอ็นซีพอไปวัดไปวาได้ไหม ตอนนี้ภีมแรดอ่ะ อิอิ นางเซอร์วิสสามีนิดนึง ชอบไม่ชอบบอกกันด้วยน้า ตอนแรกอินอ่ะดิน้องมโนว่าพี่ปอนอกใจ พี่ปอนี่ขึ้นเลย

ชอบปอตอนนางเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนนะ เชื่อฟังเมียดี น่ารักๆ

ยังไงถ้าชอบก็อย่าลืมแบ่งปันเพื่อนๆ อ่าน แชร์ความฟินเน่อ ฝากโฆษณานิดนึง อิอิ
 

 เจอกันตอนหน้าจ้า ช่วงนี้เค้ากลับบ้านช้าน้าคงมาอัพได้ประมาณเวลานี้แหละ แต่เค้าจะอัพทุกวันไม่ต้องห่วง เจอกันตอนหน้าจ้า บ๊ายบาย


 :bye2:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อาว ตอนนี้ NC เหรอ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย อิอิ :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
นางเอก แรงอะตอนนี้ อิอิ :katai1:

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
ปอขอเบอร์กรีนทำไม แล้าเพื่อนคนนั้นอีกละ จะนอกใจมั้ยเนี้ยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สุขกายสบายใจละช่วงนี้

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 26

 

ยังเจ็บอยู่ครับยังไม่หายง่ายๆ

 

หลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จเป็นเวลาบ่ายสอง ผมมองโทรศัพท์ตัวเองจะกดโทรหาปอบอกว่าเสร็จแล้ว แต่ไม่เอาดีกว่า มันคงกำลังงานยุ่ง ผมว่าผมเดินเข้าไปหามันที่ห้องช็อปเลยดีกว่า และเมื่อคิดได้อย่างนั้นผมจึงเดินลงไปยังด้านล่างเพื่อที่จะเข้าห้องช็อป เห็นกรีนมันนั่งอยู่ใต้ต้นไม้หน้าตึกคนเดียว ผมว่าผมควรหาคนเข้าร่วมเพื่อที่จะเข้าไปข้างในนะ เดินไปคนเดียวเดี่ยวๆ มันชักจะมั่นใจเกินไปยังไงไม่รู้ เมื่อคิดได้ ผมจึงเดินเข้าไปหามันทันที

 

มันเงยมามองก่อนจะยกยิ้ม “สอบเสร็จแล้วเหรอ?”

 

“เออ แล้วนายล่ะ?”

 

มันพยักหน้าตอบพร้อมยิ้ม “เออ เราว่าจะเข้าไปในช็อป ไปกับเราไหม?”

 

“มะ ไม่ดีกว่า นายไปเถอะ”

 

มันส่ายหน้าปฏิเสธทันที แปลกๆ นะไอ้นี่ หรือมีความลับอะไรปิดบังผมอยู่วะ เห็นแล้วภาพตอนที่มันถูกไอ้ปอเรียกเข้าไปคุย ไปขอเบอร์ขอลายน์อะไรทำนองนั้นเข้ามาในหัว

 

คิดมากอีกแล้วกู

 

“งั้นเราไปกับไอ้ต้นก็ได้” ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์โทรหามันไปด้วย ฟังเสียงรอสายอยู่ครู่ก่อนที่มันจะกดรับสาย

 

“อะไร?”

 

หืม นี่มึงลืมเพื่อนไปแล้วงั้นเหรอ

 

“ไปช็อปกับกูไหม?” เข้าเรื่องเลยละกัน

 

“ไปทำไม?”

 

เออ ไปทำไมวะ

 

“ไปนั่งให้กำลังใจพวกมัน”

 

“คิดถึงพี่ปอเหรอ?”

 

ผมขมวดคิ้วตัวเอง “เปล่าซักหน่อย จะไปไหมเนี่ยถ้าไม่ไปกูไปคนเดียวก็ได้”

 

“ไปๆ เดี๋ยวกูเดินตามไป มึงอยู่ไหน?”

 

“อยู่หน้าตึกกับกรีนเนี่ย”

 

“เออ รอกูก่อน”

 

เมื่อผมเตรียมไพล่พลเป็นที่เรียบร้อย เอาเพื่อนไปกันหน้าแตกด้วยเพราะผมแม่งอายเพื่อนมันอยู่เลยเรื่องเมื่อเช้า จะให้เดินลั้นลาไปอย่างหน้าด้านๆ ก็คงจะไม่ใช่ ผมไม่ใช่คนแบบไอ้ปอนะครับ

 

ทำไมไอ้กรีนไม่ยอมไป มันมีอะไรในใจรึเปล่า

 

แล้ววันนั้นเห็นมันคุยกันกับไอ้ปอ ไม่อยากหลงตัวเองว่าไอ้กรีนมันไม่ชอบไอ้ปอเพราะผม แต่เพราะอะไรวะ ผมมีแต่คำถามเกิดขึ้นในหัวมากมายและหาเหตุผลมารองรับไม่ได้

 

ผมนิ่งถอนใจกับตัวเอง

 

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เรากำลังนั่งรอให้ไอ้ต้นเดินลงมาจากตึกเรียน มือผมควานมันขึ้นมาด้วยความสงสัยว่าใครกันที่โทรมาในเวลานี้ ก่อนจะนิ่งจ้องเบอร์ด้วยความสงสัยและแปลกใจเมื่อรู้ว่าเป็นใครที่โทรมา แต่ก็ยอมกดรับสายในที่สุด

 

“ฮัลโหล…”

 

ผมนิ่งฟังปลายสายที่กรอกเสียงกลับมา เป็นแม่ของผมเอง คิดว่าน่าจะกำลังงานยุ่งอยู่เสมอนี่นะ “ภีมลูก หนูสอบเสร็จแล้ใช่ไหมจ๊ะ?”

 

“ครับ ทำไมเหรอ?” ผมย้อน

 

 แปลกๆ ที่แม่จะโทรมา ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดโทรมาสักที จะมาบ้านก็มาเลยนี่นะ

 

“เดี๋ยวพ่อกับแม่จะบินไปจัดการเรื่องเอกสารให้ลูกนะ”

 

เอกสาร เอกสารอะไร ผมไม่เข้าใจ

 

“หมายความว่าไงแม่?” ผมว่า เสียงปลายสายหัวเราะนิดๆ

 

“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกจ้ะแม่รู้ว่าหนูดีใจนะที่จะได้มา พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้วที่ทิ้งลูกไว้อยู่บ้านคนเดียวน่ะมันไม่ดีเลย แม่ก็เลยจะให้หนูย้ายมาเรียนที่นี่เลยน่ะจ้ะ”

 

ใจผมหายวาบ

 

“มะ แม่!” ผมว่าเสียงดัง เมื่อกี้ผมได้ยินผิดไปใช่ไหม

 

“อีกสองสามวันแม่จะบินไปนะลูก จัดการเรื่องสอบให้เสร็จนะรู้ไหม?”

 

“ไม่ แม่ครับ…”

 

“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอก แค่สามวันนะลูกแม่จะไปจัดการเรื่องให้เลย ทีแรกพ่อก็ไม่ยอมหรอกนะแต่แม่ขอร้องให้พามา ถึงหนูจะโตแล้วแต่อยู่คนเดียวมันอันตรายนะ”

 

“ภีมอยู่ได้ ภีมไม่ค่อยได้อยู่บ้านแม่ก็รู้ ภีมมาอยู่กับพี่ปอ…”

 

“ตายจริง งานตรงนี้ยังไม่ได้เคลียร์เหรอเนี่ย ขอโทษนะจ้ะภีมเดี๋ยวแม่โทรหาใหม่ทีหลังนะ”

 

“แม่ ฟังภีมก่อน แม่!” ผมชะงักเมื่อปลายสายวางไปด้วยความเร่งรีบ ใจตกลงไปถึงตาตุ่มเมื่อได้รับรู้ในไม่กี่นาทีที่ผ่านมาว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

 

ไม่จริง จะมารู้สึกผิดอะไรตอนนี้!

 

ตัวผมสั่นนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเจอในอนาคต

 

พี่ปอ…

 

ปอ!

 

ผมฟุบหน้าลงกับโต๊ะกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองท่ามกลางคำถามของกรีนที่คอยถามเสมอด้วยความงุนงงว่าผมกำลังเป็นอะไร ผมกำลังเจ็บปวดเมื่อคิดได้ว่าตัวเองรั้นนานเกินไป ตอนที่ปอมาขอคืนดีกับผม ผมปล่อยให้เวลามันผ่านมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้อยู่กับมันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ

 

ผมจะทำไง! ผมจะทำยังไงให้ตัวเองได้อยู่กับมันต่อไป!

 

“ภีม บอกเราสิว่าภีมเป็นอะไร?”

 

ผมก้มลงร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ผมเกลียดพ่อกับแม่ คนที่พรากความสุขออกไปจากผมครั้งแล้วครั้งเล่า ในตอนนี้ผมกำลังมีความรัก ผมมีความสุขกับคนที่ผมรัก ท่านก็ยังใช้ความเห็นแก่ตัวพรากเราออกจากกัน

 

อีกไม่กี่วัน! อีกไม่กี่วันเท่านั้น!

 

ที่ผมจะได้นอนข้างๆ ปอ ที่ผมจะได้ลืมตาตื่นมาเจอมันเป็นคนแรก

 

มือผมสั่น ไม่มีแรงที่จะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ผมจะเดินไปบอกปอยังไงว่าอีกไม่กี่วันผมกับมันจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ยิ้มเหรอ หัวเราะเหรอ

 

ในเมื่อตัวผมเองที่กำลังกลัวการอยู่ห่างจากมันขนาดนี้

 

“ภีม ภีม!”

 

“ฮึก…ไม่เอา” ผมว่าเสียงเบาพลางเงยหน้ามามองกรีน หน้าตาของผมตอนนี้คงทุเรศมาก ผมร้องไห้เสียงดังและไม่พูดไม่จากับใคร แม้แต่กับไอ้ต้นที่เดินมาหน้างงๆ ว่าผมร้องไห้ทำไม มือมันเขย่าบ่าของผมสุดแรงเรียกให้หันไปมอง

 

“เป็นอะไร อย่าเพิ่งโวยวายนะภีม” มันว่า เรียกสติผม

 

“ต้น กู…” ผมว่าเสียงสั่น มองมันผ่านม่านน้ำตา

 

ปากผมสั่นจนพูดไม่ออก รู้สึกถึงความร้อนของใบหน้าตัวเอง น้ำร้อนๆ ไหลออกมาจากดวงตาไม่ขาดสาย ผมห้ามตัวเองไม่ได้ เมื่อผมเสียใจ ผมเจ็บปวด ผมต้องร้องไห้ระบายมันออกมาจนหมดถึงจะพอ

 

และต้นมันคงเห็นแบบนั้น มันปล่อยให้ผมร้องไห้ ผมร้องไห้เป็นชั่วโมงท่ามกลางเสียงปลอบใจของกรีน แม้มันจะไม่รู้ว่าผมเป็นอะไรก็ตามที

 

“กูจะไม่ได้อยู่กับพี่ปอแล้วว่ะต้น” ผมว่าเสียงเบา

 

“หมายความว่ายังไง?”

 

“กูจะต้องย้ายโรงเรียน กูจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว”

 

ผมว่าเสียงเบาพลางเงยหน้าไปมองมันทั้งสอนคนผ่านน้ำตาที่เอ่อชื้นรอบดวงตา ผมนิ่งมองพวกมันที่พูดอะไรไม่ออก ต้นมันหน้าถอดสี ทว่ากลับมายกยิ้มขึ้นกับตัวเอง

 

“กูคิดว่ากูจะไปคนเดียวซะอีก…”

 

ผมเงยหน้ามองมัน ถึงจะยิ้มอยู่แต่ตอนนี้ผมกำลังดูออกว่ามันกำลังฝืนยิ้ม มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ผมไม่ค่อยเข้าใจ อันที่จริงผมไม่เคยเดาใจไอ้ต้นได้ตั้งแต่ทีแรก

 

“หมายความว่ายังไงต้น หมายความว่าไง?” ผมถามย้ำ มันยกยิ้มนิดๆ

 

“กูว่าหลังสอบ กูจะย้ายไปเรียนที่อื่น อาจจะไปเริ่มใหม่อยู่ต่างประเทศ”

 

“ต้น!” หมายความว่าไง

 

ผมไม่เข้าใจ ได้แต่ส่ายหน้า “แล้วพี่ธาม พี่พีล่ะ มึงตัดสินว่ายังไง”

 

ผมนิ่งมองมันที่เอื้อมมือมาแตะผมเบาๆ ผมปัดมันออกไม่ใยดีด้วยความโกรธที่มันทำอะไรไม่นึกถึงใจคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังเสียใจแต่บอกเลยว่าตอนนี้ผมทนไม่ไหว ผมไม่เข้าใจมันเลยว่าจะทำแบบนี้ทำไม

 

“นี่แหละการตัดสินใจขอกู ตอนที่กูเข้าไปคุยกับพี่ธาม คุยกับพี่พี ทั้งสองดีแตกต่างกัน มีกูคนเดียวทีเลว แล้วพวกเขาก็ไม่สมควรมารักคนเลวๆ แบบกูด้วย กูมันสกปรก กูมันร่านยอมให้คนอื่นเอาง่ายๆ ขอกูไปเถอะ ไปจากพวกมันเงียบๆ”

 

“ไม่!” ผมว่าเสียงดัง

 

“ทำไมจะต้องบอกว่าไม่ พวกพี่เขาน่าจะเจอคนที่ดีกว่ากู ไม่ใจง่ายเหมือนกู กูไม่อยากได้สิทธิ์ที่จะต้องเลือกทั้งๆ ที่ค่าของกูไม่มีพอเลยที่จะได้รับสิทธิ์นั้น กูขอเป็นคนไป ขอเป็นคนที่เจ็บคนหนึ่งร่วมกับพี่ๆ เขา เพราะถึงกูเลือกไป กูก็ต้องเจ็บที่ใครสักคนต้องเสียใจอยู่ดี ถ้ากูยังเลือกไม่ได้แบบนี้ ให้กูไป…”

 

“ไม่…” ผมว่าเสียงเบา “ไม่เอาแบบนี้”

 

“ไม่เอาน่าภีม ยังไงมันก็ต้องถึงวันนี้ปะวะ มึงน่ะไม่ต้องมาคิดมากเรื่องกูหรอก ยังพอมีเวลาอยู่กับพี่ปอ มึงไปเคลียร์กันดีๆ ดีกว่าไหมภีม ดีกว่ามานั่งร้องไห้ นัดกันว่าจะเจอกันยังไง ช่วงปิดเทอมจะเจอกันตอนไหนแล้วก็ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง”

 

ผมเงยมองหน้ากรีน มันส่ายหน้าแสดงถึงความใจหายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็เหมือนกัน ไม่ต่างอะไรจากพวกมันสักนิด อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ

 

มันทั้งสองคนคือเพื่อนที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมี ผ่านอะไรหลายๆ อย่างมาด้วยกัน

 

ใจผมหาย มือสั่นระรัวราวกับกำลังหนาว

 

“ร้องไห้ให้พอนะภีม แล้วไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย เรื่องมันจะเกิดหรือไม่เกิดมึงตัดสินใจเองได้ ถ้ามึงอยากยื้อมึงก็ต้องยื้อให้นานที่สุด อยู่กับพี่ปอให้นานที่สุด ถ้ามึงจะต้องไป มึงก็ต้องไปตกลงว่าจะเอายังไงไม่ใช่มานั่งร้องไห้แบบนี้”

 

“แต่ถ้าเป็นเรา อยู่ห่างกันขนาดไหนก็ยังรอนะ” กรีนมันว่า ขมวดคิ้วตัวเองมองมายังผม “ถึงเราจะไม่ชอบที่ภีมคบกับพี่ปอ แต่ว่าภีมอย่าเลิกกับเขาเลย เราเอาใจช่วยนะ”

 

ผมนิ่งมองมัน ปล่อยน้ำตาไหล

 

ใช่…

 

ผมอาจจะช๊อคไปหน่อย แต่สิ่งที่ผมควรทำเป็นสิ่งถัดไปคือจัดการ ผมต้องจัดการเรื่องผมกับปอให้มันเข้าที่เข้าทางถ้าจะต้องย้ายโรงเรียนกันจริงๆ ผมจะต้องเดินเข้าไปบอกกับปอว่าเราจะต้องห่างกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ถ้าปอรักผมจริงๆ ก็ต้องรอได้

 

ผมเดินไปล้างหน้าล้างตา ทำตัวเองให้เข็มแข็ง ดวงตามองใบหน้าแดงๆ ของตัวเองผ่านกระจกตรงหน้า ถ้าเดินไปหามันแบบนี้มีหวังมันคงรู้แน่ว่าตอนนี้ผมกำลังเป็นอะไร

 

เข้มแข็งก่อนภีม อย่าเพิ่งโวยวาย

 

ไม่แล้ว กูไม่โวยวายแล้ว

 

ผมคิดมากเรื่องของไอ้ต้นแทนนี่สิ มันตัดสินใจแน่แล้วเหรอว่าต้องการแบบนี้ โอย…ผมปวดหัว

 

ต้องกลับไปเป็นไอ้ภีมคนเดิมก่อน กลับมาสิกลับมา อย่าไปร้องไห้ให้ไอ้ปอมันเห็นเด็ดขาดเลย

 

“มึงบอกเรื่องนี้กับพี่ธามพี่พีรึยังต้น?”

 

ผมว่าขณะที่เราสามคนเดินเอื่อยๆ เข้าช็อป กรีนมันเป็นห่วงผม ยอมตามผมมาถึงแม้ตัวเองจะไม่อยากมา ส่วนต้นมันหันมายิ้มกับผมแววตาเศร้าสร้อยบ่งบอกว่ากำลังปวดหัวใจ

 

“ไว้บอกตอนจะไปทีเดียว”

 

“ได้ยังไง?” ทำไมมันคิดจะทำอะไรแบบนี้

 

“กูไม่อยากเปลี่ยนใจว่ะภีม ถ้ารีบบอกพวกพี่ๆ เขาจะต้องทำให้กูเปลี่ยนใจ มึงเองก็อย่าเพิ่งบอกนะกูขอร้อง”

 

ผมหันไปมองหน้ามัน ถ้าตัดสินใจอย่างนี้แล้วผมคงจะทำอะไรไม่ได้ ผมว่ามันค่อนข้างที่จะไตร่ตรองมานานสมควรถึงได้เลือกตัดสินแบบนี้ ผมควรจะเข้าใจมันสิ ไม่ใช่ค่อยเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นหลัก ต้นมันน่ะเจ็บปวดมามากพอแล้ว

 

“ภีม!” เสียงคนจากห้องหนึ่งเรียก

 

ที่จริงในช็อปนี้เป็นโรงช่างขนาดใหญ่มากๆ เพื่อรองรับกับนักเรียนหลายสาขางาน แบ่งแยกเป็นสาขาวิชาช่างต่างๆ มากมาย มีทั้งหมดสองชั้นด้วยกันรองรับจำนวนนักเรียนที่เข้ามาเรียน เครื่องไม้เครื่องมือแต่ละห้องครบครันสำหรับใช้งานได้จริง โรงเรียนมีชื่อเสียงเกี่ยวกับงานอาชีพที่สามารถสอนแล้วนำไปใช้งานได้จริง มีโรงงานและบริษัทในเครือมารอรับตัวตั้งแต่ก่อนเรียนจบ

 

เมื่อมีการประกวดแข่งขันอาชีวะระดับประเทศไม่ว่าด้านสาขาไหนมักจะติดท๊อปเสมอ ตั้งแต่งานช่างฝีมือ งานวิชาการ หรือแม้แต่ความหน้าตาดีของนักเรียนที่ติดระดับประเทศทั้งนั้น พ่อแม่ผมจึงดั้นด้นส่งผมเรียนแม้ค่าเทอมจะแสนแพงนี่ยังไงล่ะ

 

ผมคิดว่าเรื่องค่าเทอมเป็นส่วนหนึ่งที่พ่ออยากให้ย้ายโรงเรียนด้วย นี่แค่เทอมเดียวที่มาเรียนเองนะ

 

เรามองไปยังร่างของไอ้ปอที่กวักมือเรียก มันถือแก้วน้ำดื่มยืนรอด้วยรอยยิ้มใจดีอย่างเคย หน้าผมชานิดๆ พยายามตีหน้าให้เป็นปกติยกยิ้มให้มัน ตรงนี้เหมือนเป็นอู่รถยนต์ขนาดย่อม มองๆ ป้ายบอกว่าเป็นห้องของพวกมัน

 

“สอบเสร็จเร็วนะเนี่ย” มันว่าพลางยกมือมาแตะหัว ยกน้ำดื่มแล้วพูดต่อกับผม “พี่เพิ่งจะได้ออกมาพักน่ะ เหนื่อยจริงๆ”

 

ผมพยักหน้ารับ “กินข้าวเที่ยงยังปอ?”

 

“ยังเลย แต่เพิ่งจะกินตอนสิบโมงน่ะเลยไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” มันว่าพลางยกน้ำกินดังอึกๆ คงเพลียน่าดู ผมมองเข้าไปด้านในห้อง เห็นเพื่อนๆ มันขมักขเม้นอยู่บนรถยนต์คันเก่าสนิมเขรอะคันหนึ่งอยู่ เพื่อนห้าหกคนรุมกันจัดการมันด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง แต่ก็คุยกันหัวเราะสนุกสนาน

 

ปอมันคงสนุกเวลาอยู่กับเพื่อนนะ

 

ผมมองไปยังร่างเล็กๆ ของรุ่นพี่คนนั้น คนที่ชื่อเพื่อน พอเห็นใส้ชุดช็อปทำท่าท่างว่องไวจับโน่นจับนี่แล้วบอกเลยว่าต่างกับหน้าตามาก พี่เขาเท่มากเลยว่ะ

 

“จะทำอะไรกับรถคันนี้อ่ะ?” ผมถามมันที่มองไปยังกลุ่มเพื่อน

 

“โมดิฟายทั้งคัน จะเอาให้มันกลับมาโลดแล่นบนถนนได้อีกครั้ง”

 

ผมนิ่งมองแล้วยิ้ม ความฝันของพวกมันสินะ

 

“รถคันนี้เป็นรถเก่าของปู่ไอ้เพื่อน มันอยากทำให้ปู่มัน แต่ปู่มันบริจาคเอาไว้ใช้ในโรงเรียนแล้ว เหมือนกับไอ้เจ้าเนี่ย ที่พวกกูคืนชีวิตให้มันช่วงปวช. 3 ตอนนี้ก็เอาไว้ขี่เล่นๆ ในโรงเรียน ให้อาจารย์ขี่บ้าง เวลามีกิจกรรมโรงเรียนก็เอาไปใช้ได้นะภีม”

 

กูคงไม่มีโอกาสได้ใช้หรอกปอ

 

ผมมองไปยังรถมอเตอร์ไซต์คันเก่าที่มันชี้ให้ไปดู ความสุขของช่างก็คือการซ่อมสินะ ได้มองสิ่งที่ตัวเองซ่อมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งมันทำให้คนซ่อมมีกำลังใจที่จะทำต่อไป ผมยกยิ้มหันไปมองมันก่อนจะชะงักเมื่อไอ้ต้นมันสะกิด

 

จะเอายังไงดี

 

“จะให้นั่งตรงไหน?” ผมเริ่มเรื่อง ปอมันพยักเพยิดหน้าเข้าไปในห้องเครื่องมือข้างใน ความจริงมันมีโต๊ะสำหรับนั่งอยู่ แต่พวกพี่ๆ เขาทำงานแล้วจะให้ผมสามคนไปนั่งดูเนี่ยนะ

 

“พักก่อนมึง ใครหิวกันบ้าง?” ปอมันร้องว่า จูงมือผมเข้าไปข้างใน ไอ้ผมก็เอื้อมไปดึงมือไอ้ต้นที่พร้อมใจขยับไปคว้ามือไอ้กรีนตามเข้ามา

 

“มึงเอาอะไรไหมเพื่อน กูเห็นเมื่อเช้ามึงไม่ได้กินอะไรกับพวกกูเลย”

 

“อ๋อ เออ เอาแบบพวกมันก็ได้ ง่ายๆ สั่งเหมือนกันจะได้ไม่ต้องรอ”

 

“เออดี ไม่เรื่องมาก” ปอมันว่าพลางจดใส่กระดาษ

 

ผมมองคนชื่อเพื่อนที่กำลังเช็ดเหงื่อเดินมาทรุดตัวนั่งยิ้มให้ตรงข้ามกับผม ก็คือนั่งข้างๆ ไอ้ปอตรงข้ามกับไอ้กรีน ใจผมหายเมื่อเห็นมันสองคนมองตากัน ถึงจะมองแบบเพื่อนก็เถอะแต่ผมก็ไม่มั่นใจอยู่ดี ถึงปอมันบอกว่าเชื่อใจ แต่ผมไม่เชื่อใจคนๆ นี้

 

กรีนมันนั่งเงียบ ไม่พูดไม่จาข้างๆ ผม ไอ้ต้นนิ่งมองพร้อมกับยกยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่บอกว่ามีเลศนัยสุดๆ เพราะพี่ธามเองก็ไม่ได้จะหาเรื่องหรือพูดอะไรสักอย่างกับมันราวกับพูดคุยเข้าใจกันแล้ว เรานั่งร่วมกลุ่มคุยกันบนโต๊ะซึ่งมีไอ้ปอเป็นคนเริ่มเรื่องมาทุกครั้ง

 

“เพื่อน มึงอยู่เฉยๆ นะห้ามพูดอะไร” ปอมันหันไปว่ากับคนที่นั่งข้างๆ

 

ส่ายตาผมมีแต่คำถามส่งไปให้มันที่พูดแบบมีลับลมคมในอยู่สองคน

 

ผมโกรธนะ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อใจ

 

“เดี๋ยวๆๆ ขอกูพูดอะไรสักนิดเหอะ” พี่เพื่อนว่า

 

“เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวป๋าจัดให้” ปอมันว่าพลางหลุดหัวเราะ

 

“ไอ้ป๋าใหญ่ ก็เมื่อวานเพราะมึงทำป๋าแบบนี้กับกูไง”

 

“เออๆ เอ่อ…มึงจะออกไปสั่งข้าวกับกูไหม?”

 

ปอมันว่า ผมขมวดคิ้วมองมันทั้งคู่แล้วได้แต่ผ่อนอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธมัน แต่มันไม่สนใจผมเลยสักนิด พออยู่กับเพื่อนแล้วก็ติดเพื่อน

 

“อะ เอ่อ…” พี่เพื่อนละสายตามองไอ้กรีนที่นั่งขรึมเงียบๆ กวาดสายตาไปยังไอ้ต้นที่กำลังจ้องจับผิดพี่เขาจนผมยังรู้สึกได้

 

มองขนาดนี้มึงถามพี่เขาไปตรงๆ เลยเถอะว่ะ

 

“ไป ไปก็ได้…” พี่เขาว่ายิ้มๆ

 

ใจผมหายและทำได้เพียงเงียบมองปอมันเดินไปคุยโน่นคุยนี่กับเพื่อนด้วยความร่าเริง หยอกล้อกันแล้วก็ทวนเมนูที่เพื่อนๆ สั่ง ร่างเล็กๆ ของพี่เพื่อนหัวเราะกับมุกเพื่อนๆ และละมามองทางผมอยู่บ่อยครั้ง บ่อยผมจนรู้สึกได้

 

มองทำไม วางตัวไม่ถูกเหรอ

 

“ปอ…” ผมเรียกมัน มันหันมาส่งยิ้มให้พลางเดินมายกมือแตะหัวอย่างเคย

 

“กูมีเรื่องจะคุยด้วย”

 

“เออ เดี๋ยวมาคุยด้วยนะ ไปสั่งข้าวก่อน”

 

ผมนิ่งมองตามหลังมันที่หยิบกุญแจรถไปเสียบบนรถมอเตอร์ไซต์แล้วก็ขับออกไป ไอ้ผมที่อ้าปากจะร้องเรียกต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นตัวเล็กๆ ของรุ่นพี่ที่ชื่อเพื่อนนั้นขึ้นนั่งเบาะข้างหลังของมัน เกาะกอดเอวของมันแล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม

 

ยิ้มให้ผมทำไม

 

ใจของผมหล่นตุบเมื่อเห็นเช่นนั้น ผมควรจะบอกปอไหมว่าเรากำลังจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมกลัวความห่างเหินระหว่างเราทำให้คนที่อยู่ข้างหลังปอมันคืบคลานเข้าไปจับจองหัวใจมันแทนผม ผมไม่อยากเสียปอไปอีกแล้ว คนแบบปอน่ะ ผมไม่อยากเสียมันเป็นรอบที่สอง!

 

ใจผมหาย มือสั่นมองมันที่ขับรถออกจากช็อปไป ผมเห็นกรีนก้มหน้ามองโต๊ะนิ่ง เมื่อรู้สึกว่าผมกำลังมอง มันเงยมายกยิ้ม

 

“พี่คนนั้นใครวะ?” ไอ้ต้นว่า

 

“ลูกพี่ลูกน้องไอ้ปอ สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”

 

ผมมองเพื่อนปอที่ตอบขึ้นมา พี่ธามยกยิ้มให้ผม มองตามไอ้ต้นที่ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผิดกันจากผม ไม่มีวันที่จะกลบเกลื่อนความรู้สึกได้ง่ายๆ คิดแล้วต้นมันเก่งจริงๆ มันคงเข้มแข็งมากแน่ๆ ที่ต้องบังคับใจตัวเองขนาดนี้

 

“มันไม่รู้เหรอว่าพี่ปอมีเมียแล้ว ตามติดตัวพี่ปอแจขนาดนั้น” ต้นมันว่าต่อ

 

“มึงไม่รู้อะไรไม่ต้องมาพูดหรอก ขนาดเมียมันแท้ๆ ยังไม่เห็นหึงเลย”

 

ใครบอกว่ากูไม่หึง

 

“หรือหึงหว่า?” เสียงอีกคนว่า ผมชะงักหันไปมอง

 

“มะ ไม่ได้หึง”

 

“แน่นา…อย่าไปหึงไอ้เพื่อนมันเลย ไอ้นี่มันก็สนิทกับทุกคนแบบนี้แหละ มันใจดีเข้ากับคนง่ายเจอใครก็ยิ้มใส่ท่าเดียว” ผมนิ่งคิด

 

ยิ้มใส่อย่างเดียวเหรอ

 

แบบตอนที่ยิ้มมาให้ผมเมื่อกี้อย่างนั้นเหรอ

 

ยิ้มตอนที่มันกอดไอ้ปออยู่อย่างงั้นเหรอ

 

ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมมองตามคนรักของผมอยู่ก็ยังหันกลับมาส่งยิ้มให้

 

ผมก็หวงของผมเป็นนะ

 

ร่างกายผมอ่อนล้า ผมอยากกลับไปพักแล้ว ไม่อาจทำให้ตัวเองเข้มแข็งต่อหน้าใครได้อีก ความร้อนแล่นเข้ามายังดวงตาพร้อมกับผมที่พยายามกระพริบถี่ๆ

 

“กลับก่อนนะ บอกปอด้วยว่าผมจะนั่งแท็กซี่กลับ”

 

“อ้าว เดี๋ยวสิภีม”

 

“ภีม อย่าไปนะภีม!” ผมชะงักขณะที่กำลังจะเดินออกมา ได้ยินเสียงของกรีนร้องตามหลังด้วยความตกใจที่ผมทำแบบนี้

 

ร่างของมันเดินมาดึงแขนให้ผมหันไปมองดวงตาของมันที่นิ่งจ้องอยู่นาน แววตามันสับสนและงุดลงพื้นพยายามรวบรวมความกล้า กรีนมันแปลกๆ ตั้งแต่เดินเข้ามาในช็อปแล้ว ไม่พูดไม่จาเอาแต่นั่งเงียบอยู่คนเดียว

 

อันที่จริงก็แปลกตั้งแต่ชวนมันมานี่นะ มันไม่อยากมาที่นี่

 

“ถ้าภีมหึงพี่ปอเพราะเรื่องรุ่นพี่คนนั้น ฟังเราก่อนนะ ที่พี่เขาต้องออกไปพร้อมพี่ปอไม่ใช่ว่าเขาชอบพี่ปอหรอก มันเป็นเพราะ…”

 

ผมนิ่งมองมันที่ลากเสียงตัวเอง มันไม่เป็นตัวเองเลย ปกติจะกล้าแสดงออกแล้วพูดมาตรงๆ นี่นะ

 

เพราะอะไร บอกเรามาสิ ผมนิ่งจ้องตามันที่ละไปด้านอื้น

 

ผมมองผิดไปหรือเปล่า มันกำลังเขิน หน้าแดง หูเหอแดงไปหมดไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด

 

“เพราะพี่เขาชอบเรา เขาไม่กล้าอยู่ต่อหน้าเราน่ะ”

 

อะ อะไรนะ

 

ผมนิ่งมองมันตอนว่า ได้แต่อ้าปากค้างมองกรีน

 

“ระ รุ่นพี่คนนั่นน่ะเหรอ?” ผมแหงนมองหน้ากรีนย้อนถาม

 

“ใช่ เมื่อวานพี่ปอมาขอเบอร์เราให้พี่เขาน่ะ แต่เราปฏิเสธไปเพราะเรายัง…”

 

ยังชอบผมอยู่

 

ผมนิ่งมองกรีนก่อนจะถอนใจ เงยหน้ามองมันที่นิ่งจ้องผมอย่างไม่ละ ทำไมกรีนแม่งเป็นคนดีจังวะ ถ้ามันทำให้ผมเข้าใจปอผิดแล้วก็ทะเลาะกับปอ มันอาจจะทำให้กรีนกับผมมีหวังขึ้นมาบ้าง แต่มันเลือกที่จะบอกว่าความจริง

 

คนแบบกรีนนี่ดีจริงๆ มันยกยิ้มให้ก่อนจะดึงแขนผม

 

“เพราะงั้นอย่ากลับบ้านเลยนะ”

 

ผมยิ้ม ยิ้มให้มันสุดๆ แบบที่ไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อน ยอมเดินกลับไปแต่โดยดี รอตอนที่ปอกลับมาแล้วผมจะกอดมันให้แน่นจนสุดแรง ที่มันไม่คิดจะนอกใจผม ที่มันย้ำเตือนตัวเองว่ารักผม ขอบคุณที่ทำให้ผมได้เชื่อใจว่าสิ่งที่มันทำคือ รักแท้

 

ผมรู้แล้วครับ ว่าผมจะทำยังไง

 

ผมจะไป…

 

ผมจะให้ปอมันไปอยู่กับแม่ได้อย่างที่ฝันในช่วงซัมเมอร์ ผมจะให้มันใช่เวลาในการซ่อมสิ่งของที่มันรักอย่างดีที่สุดอย่างเต็มความสามารถ และ…

 

ผมให้มันเข้าในการรออย่างแท้จริง

 

และผมจะกลับมาในไม่ช้า…

 

แต่ช่วงเวลานี้ ผมต้องใช้กับมันให้คุ้มค่าที่สุด

 

ผมจะบอกรักมันทุกวันเลย

 

 

รัก…

 

 

รักพี่ปอแค่คนเดียว

 

ตลอดไปเลย….

 

 

 

 
 :hao5:
เอาแล้วไง มีงานเข้า!

หลังจากล่อลวงคุณผู้อ่านด้วยฉากฟินๆหวานๆ ไปแล้ว

ก็ถึงตอนฉากเสียเลือด และตามมายังฉากดราม่าที่คืบคลานเข้ามาเรียกน้ำตาคนอ่านอีกครั้งอย่างแนบเนียน อิอิ

งื้อออออ พี่ปอน้องภีมจะต้องจากกันโอ้มายก้อด แล้วจะได้กลับมารักกันไหม รอติดตามนะคะ ช่วงนี้เฉลยเรื่องพี่เพื่อนแล้วนะว่าอะไรยังไง มีคนมาดามใจกรีนแล้วน้า ใครเชียร์นางยกมือขึ้น

ระหว่างสามพีก็ยังเศร้าไม่หาย ต้นตัดสินใจแบบนี้แล้วจะยังไงต่อละเนี่ย พอจะดราม่าก็ดราม่านะ อย่าลืมคอมเม้เป็นกำลังใจหนูนาด้วยน้า ช่วงนี้ติดตามให้ดีๆ ใกล้จะจบเต็มทีแล้ว

 
อัพไม่บ่อยค่ะอัพแค่ทุกวัน เพิ่มตอนใหม่ตลอดด้วย

สโลแกน อัพเร็ว อัพบ่อย อัพถี่ๆ ต้องหนูนานะค๊าาาา อิอิ ขอบคุณสำหรับสโลแกนอีกครั้ง 555

งั้นเจอกันตอนหน้าจ้า บ๊ายบาย

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
พี่ปอออออออออออออออออออออออ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
งานเข้าอีกแล้ว

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอบคุณครับ  :katai2-1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
กลัวระยะทาง และความห่างไกล  :mew2:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 27

 

“มาๆ กินข้าวกันก่อน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

 

เสียงที่รักของผมว่าพลางยกข้าวกล่องจำนวนหลายกล่องมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้างหลังเป็นร่างของพี่เพื่อนที่ถือถุงน้ำหลายชนิดเดินตามหลังมา ตอนนี้สังเกตดีๆ เขาเขินจริงๆ ด้วยแฮะ ต่อหน้าพวกผมกับไอ้กรีน พี่เขาเหมือนจะวางตัวไม่ถูก

 

เหมือนที่ผมรู้สึกตอนแรก ที่วางตัวไม่ถูกเพราะเขินไอ้กรีน ไม่ใช่เพราะเรื่องไอ้ปอ

 

ผมยกยิ้ม โล่งใจอย่างน่าประหลาด

 

ลอบมองไอ้กรีนเองที่ยังเกาคอตัวเองทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นรอยยิ้มมีเลศนัยของไอ้ปอ ไอ้นี่ก็พ่อสื่อแบบที่ไม่ยอมปรึกษาผมสักคำ ปล่อยให้ผมคิดมากจนต้องยอมเสียตูดให้มันทั้งคืน กลับไปผมจะเล่นให้น่วมเลย

 

ซัดมันนะ

 

ปอมันขยับมาทรุดตัวข้างๆ ผมหลังจากยื่นข้าวกล่องให้เพื่อนๆ ผมเงยไปมองหน้ามันด้วยความเขินทันที แม่งน่ารักขึ้นมาทุกวัน อย่างนี้ผมจะทิ้งมันไปไหนได้

 

อยากอยู่ใกล้ๆ ทุกวัน บอกรักมันทุกวัน

 

มือผมเกาะหลังมันพลางเงยไปสบตานิ่ง พร้อมกันกับปอที่ก้มมามองด้วยแววสงสัยกับอาการตอนนี้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือยิ้มหวานๆ ให้ แม้มันจะประหลาดใจก็เถอะ ช่วงสุดท้ายผมจะเอาอกเอาใจมันอย่างเดียว ไม่เอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว

 

จะรักพี่ปอให้มากๆ เลย

 

จะทำให้ปอมีความสุขที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

“เฮ้ยไอ้เพื่อน เอาน้ำให้น้องเขาหน่อยสิวะ บริการนิดหนึ่ง” ปอมันร้องแซวแล้วหลุดยิ้ม ผมมองใบหน้าไอ้กรีนแล้วก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ มันรับขวดน้ำจากมือพี่เพื่อนมาถือพร้อมกับยิ้มรับพี่เขานิดๆ

 

“นั่งเลย นั่งข้างๆ น้องเขาน่ะ”

 

พี่เพื่อนยิ้มแห้งๆ เกาหัวตัวเอง “ไม่ดีมั้ง ตัวกูเหม็นแต่น้ำมันเครื่องเดี๋ยวติดเสื้อน้องเขา”

 

“กล้าๆ หน่อยดิวะไอ้นี่”

 

ไอ้ปอมันเชียร์สุดใจขาดดิ้น ผมหลุดหัวเราะพลางสะกิดไอ้กรีน “ชวนพี่เขานั่งสิ”

 

มันหันมามองหน้าผม หน้ามันเขินแล้วมองพี่เพื่อนงงๆ สงสัยมันคงไม่เคยมีคนมาจีบ อีกอย่างถูกคนน่ารักๆ แบบนี้จีบครั้งแรก เป็นผมก็เขิน

 

พี่เขาน่ารักจริงๆ ยิ้มอย่างเดียว

 

“นั่งครับพี่ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวผมซื้อใหม่ก็ได้ ปิดเทอมแล้วยังไงก็ไม่ได้ใส่” กรีนมันว่าพลางขยับตัวให้พี่เขานั่ง

 

“เอาๆๆ นั่งเลย”

 

คนทั้งห้องร่วมใจเชียร์มันครับ นับว่าเป็นอะไรที่ลุ้นมาก เพิ่งสังเกตเห็นว่าพี่เพื่อนน่ะเป็นคนออกจะแมนๆ กิริยาท่าทางผู้ชายมาดแมนมาก แต่ไม่ได้ดูแลตัวเองเลย ปล่อยตัวเลอะกับงาน ไม่สำอาง เวลากินก็มูมมามนิสัยผู้ชายมากแต่ตัวเล็กนิดเดียว เห็นแล้วน่ารักดีแฮะ

 

ส่วนไอ้กรีน มันนั่งเงียบๆ ตลอดอย่างพูดไม่ถูก มันตัวสูงกว่าผมนิดเดียว ตอนนี้ก็น่าจะพอๆ กันกับพี่เพื่อนด้วย แต่ผมว่าปีหน้ามันจะสูงขึ้นเยอะมาก ดูจากสัดส่วนของมันน่ะ

 

เย็นนี้ผมก็เลยยิ้มหน้าบานที่ไม่ต้องรู้สึกผิดกับไอ้กรีนอีกต่อไป หวังว่าเมื่อผมกลับมาที่นี่อีกครั้ง มันก็น่าจะคบกับพี่เพื่อนอยู่และสูงขึ้น หล่อขึ้นไปกว่าเดิมนะ

 

 

ผมนึกถึงเรื่องของอนาคต ทั้งๆ ตอนนี้ตัวเองยังเด็กมาก ควรสนุกกับการเรียนอย่างเดียว แต่ผมควรวาดฝันความจริงที่ตัวเองต้องการได้แล้ว ควรบอกสิ่งที่ตัวเองอยากได้อย่างแท้จริงกับพ่อแม่ได้แล้ว ว่ามันไม่ใช่เงินทองและของอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมต้องการความอบอุ่นจากพวกเขา เมื่อเขาพรากสิ่งที่มีค่าจากผม เขาควรจะทดแทนมัน

 

แต่ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ

 

“อะ โอย…อืม…”

 

ผมนั่งอยู่บนตักมัน มือลูบหน้าท้องตัวเองเม้มริมฝีปากแล้วก็โยกเอวตัวเองมองใบหน้าของปอ มันกำลังเหยเกด้วยความเสียว ตั้งแต่กลับมาผมก็เอากับมันอย่างเดียว ยอมมันทุกอย่าง มือผมกอดคอมันแน่นยกเอวตัวเองกระแทกลงไปเสียงดัง เนื้อกระทบเนื้อผสานกับเสียงครางของเรา ไม่มีวันเหนื่อย ผมหอบตัวโยนนั่งบนตัวมันที่สูดปากไล้มือเล่นบนยอดอก เคลื่อนมาบีบเนื้อบั้นท้ายเค้นคลึง

 

“ปอ…จะเสร็จ ละ…” มันขยับมาแนบปากจูบ จับเอวผมกระทั้นลงมาด้วยความเร็ว มองผมด้วยสายตาแห่งความเสน่หา โหยหา ต้องการ

 

ทั้งๆ ที่เมื่อคืนมันอิ่มหนำสำราญ

 

ผมแอ่นตัวผ่อนลมหายใจไม่ให้ร้องเสียงดัง ร่างกายเกร็งไปทุกส่วนเมื่อถึงจุดสุดยอด ฉีดน้ำร้อนใส่ตัวของคนตรงหน้าออกมาไม่รู้รอบที่เท่าไร

 

ปอนิ่ง มันเองก็คงจะเสร็จพร้อมกับผม มันจิกหลังผมและหอบตัวโยน แต่เพราะใส่ถุงยางผมถึงไม่รู้สึกตกใจ ดวงตามันเงยมองผมแววฉงน รอยยิ้มผมส่งไปให้มันก่อนจะขยับไปจูบปากกัน แม้ปอมันจะงงว่าผมทำแบบนี้ทำไม แต่ก็ไม่เคยคิดปฏิเสธ

 

ผมนั่งแช่อยู่แบบนั้น กอดปอ บอกว่ารักมัน

 

“ภีม…” มันไล้แผ่นหลัง จูบไหล่เปลือยเปล่าของผม

 

มันกำลังสงสัย กำลังอยากรู้ ผมยิ้มหวานให้มัน จูบคางสากๆ ของมันอ้อน

 

“เอาอีกยกไหม?” ว่าแล้วจูบซ้ำไปอีกที มันก้มมองผม สงสัยจริงๆ อยากรู้จริงๆ

 

“บอกพี่มา…”

 

“อะไร ให้เอาไม่ดีรึไง วันหลังไม่ให้แล้วนะถ้าถามแบบนี้” ผมว่าเสียงค้อน

 

“บอกพี่มาเดี๋ยวนี้”

 

“รักปอนะ”

 

“ไม่ใช่แบบนี้” มันว่าพลางจับตัวผมออกมาจ้องตา ผมละหนี

 

“ไม่อยากได้ยินกูบอกว่ารักแล้วเหรอ?”

 

“เปล่า แต่ภีมปิดบังอะไรพี่?”

 

มันขมวดคิ้วตัวเองเป็นก้อน ถอนแก่นกายตัวเองไปหยิบทิชชู่มาม้วนถุงยางลงถังขยะ ผมกอดมันแน่น ซุกหน้าบนอกของมัน ยังไม่อยากนึกถึง ยังไม่อยากเสียใจ

 

ผมคิดได้ว่าไม่ควรบอกมัน ถ้าปอมันรู้ คงจะเหมือนไอ้ต้นที่เป็นอยู่ จะลำบากใจที่จะต้องไป

 

ดังนั้น ปอยังไม่ควรรู้เรื่องนี้

 

เสียงเคาะประตูเรียกให้เราทั้งคู่หันไปมอง ก่อนที่ปอมันจะละมาจับตัวผมเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกันด้วยกลัวใครจะเข้ามาเห็น มือหนาขยับถอดกางเกงเปลือยต่อหน้าแล้วเอาผ้าขนหนูพันเอวโชว์หน้าอก หยิบชุดคลุมมาให้ผมสวมด้วยความห่วงใย ทำท่าจะโน้มเข้ามาจูบอีกทีไอ้ผมเลยต้องเบี่ยงหน้าหนี

 

“ไปได้แล้ว คนเคาะเขารอนาน”

 

“รอนานยังไง ถ้าอยากเจอก็ต้องรอ”

 

ผมแทบสะอึกเมื่อได้ยินมันว่าเช่นนั้น ก่อนจะยกยิ้ม มองตามแผ่นหลังกว้างๆ ของคนที่ผมรักที่สุดเมื่อมันละเดินออกไป

 

รอนานยังไง ถ้าอยากเจอก็ต้องรอ

 

รอ…

 

รอภีมนะพี่ปอ

 

ผมก้มลงยกมือกุมอันหน้าร้อนรุ่ม ไล่ความเสียอกเสียใจออกไปจากใบหน้า ถ้าปอเดินกลับมาคงถามผมอีกแน่ว่าเป็นอะไร ผมไม่มีทางที่จะร้องไห้ต่อหน้ามันอีกเป็นอันขาด เสียงมันคุยกับคนข้างนอกดังอยู่เนืองๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วมันเริ่มจะดังขึ้นเพราะน่าจะเชิญเขาเข้ามา ใครวะ พี่พี พี่ธามเหรอ

 

เสียงผู้หญิงนี่

 

ผมนิ่งฟัง ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู “ไหน ออกมาโป๊ๆ แบบนี้ ซ่อนผู้หญิงในห้องชัวร์เลย”

 

“อย่า…”

 

เสียงปอมันร้องปรามพร้อมกับผมที่ยกผ้าคลุมมาคลุมตัวเองด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเปิดประตูเข้ามา ผมเห็นคนตัวสูงต่อหน้ายืนตาค้างมองมายังร่างผมด้วยความตกใจไม่แพ้กัน เขามีใบหน้าคล้ายปอมาก ทรงผมคนละทรงและดูท่าจะเป็นพี่ชายของมัน

 

เขามองผม มองร่างที่เกือบเปลือยของผมนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวออกไป ได้ยินเสียงของผู้หญิงหัวเราะร่วนกับท่าทีของเขาคนนี้ “นี่อึ้งขนาดนี้ น้องซ่อนไว้ทีเดียวสามคนเลยใช่ไหมเปรม?”

 

เธอว่าพลางเดินมาแทรกตัวที่ประตู ใจผมหายวาบ

 

มะ แม่ของปอ!

 

เห็นร่างของปอมันวิ่งดุ่ยๆ มาจัดแจงปิดร่างกายผมให้มิดชิด มองผมพลางขมวดคิ้วเข้มไม่พอใจคนข้างหลังเป็นอย่างมาก

 

“ผู้…ผู้ชาย!” คนที่อยู่หน้าประตูทั้งคู่ร้องว่า

 

ผมอยากร้องไห้ เมื่อการพบกันครั้งแรกระหว่างผมกับแม่มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดไว้ เธอนิ่งมองผมราวกับกำลังช๊อค แต่เมื่อรั้งสติตัวเองได้ เธอรีบผละออกจากประตูอย่างหน้าเสียไปพร้อมกับพี่ชายของปอ

 

ปอมันจับตัวผมให้มิดชิด มองตาแล้วละออกไปด้วยความขุ่นมัว

 

“ไปอาบน้ำแต่งตัวดีๆ นะ คนเก่ง”

 

กูไม่เก่ง

 

ผมก้มหน้าเงยไปมองมัน “แม่ปอจะเกลียดไหม?”

 

ที่มาเห็นตอนเอากันเสร็จใหม่ๆ แบบนี้

 

“อย่าคิดมากน่า…”

 

“ไม่ให้คิดมากได้ไง มาเห็นกับตาแบบนี้น่ะ!”

 

ปอมันเคยบอกไม่ใช่เหรอว่าแม่ของมันต้องบินหนีไปอยู่ถึงต่างประเทศเพราะความอับอายที่พ่อเป็นเกย์ แม่มันต้องผิดหวังแน่ๆ ที่เห็นมันเป็นเกย์ เอากับผู้ชายด้วยกัน มันยิ่งรักเทิดทูนแม่ของมันขนาดนั้น ผมยกมือกุมหน้าตัวเองสะอื้น

 

“อย่าร้องนะภีม มันอาจไม่เป็นแบบภีมคิดก็ได้”

 

ผมนิ่งมองตามันผ่านม่านน้ำตา เอื้อมมือไปแตะแก้มของมันเบาๆ มือผมสั่นไหวด้วยความกลัว “ถ้าแม่ปอไม่ชอบภีมขึ้นมาจริงๆ ปอจะเลือกใคร ขัดใจแม่รักกับภีมต่อไหม?”

 

มันขมวดคิ้วมองผม มองใบหน้าที่มีน้ำตาอาบแก้ม

 

“ไม่เอา อย่าถามพี่แบบนี้นะภีม”

 

“ตอบมา…” เสียงผมสั่นไหว

 

ปอมันกุมมือที่ผมแตะไปหน้ามันราวกับกำลังเดาใจออก ดวงตาคิดไม่ตกว่าจะเลือกสิ่งไหนดี

 

ผมยกยิ้ม “ยังไงก็ยอมตามใจแม่ รักภีมน้อยว่าอยู่แล้วใช่ไหม?”

 

“ไม่ใช่…”

 

ผมงุดหน้าลงพื้น “งั้นตอบมาสิว่าเลือกอะไร?”

 

“ปอ แม่กับลูกมีเรื่องจะต้องคุยกัน ออกมาทั้งอย่างนั้นแหละ”

 

ปอมันส่ายหน้าบอกว่าสิ่งที่ผมกำลังคิดไม่ใช่สิ่งที่มันต้องการ

 

มันพยายามปฏิเสธ

 

แต่เสียงคนจากด้านนอกว่าผ่านความเงียบของเราทั้งคู่ที่จ้องตากัน ผมกลั้นสะอื้นของตัวเองมองตามัน รับนิ้วมือของมันที่ขยับมาปาดน้ำตาด้วยความรัก ใช่…ปอรักภีม ภีมรักปอ เรารักกัน แต่ทำไมการได้อยู่ด้วยกัน

 

ตลอดไป

 

ของเรามันยากเย็นจังนะ เพราะเราเด็กเหรอ งั้นผมจะไป ผมจะรอจนกว่าเราจะเติบโตและดูแลตัวเองได้

 

แต่ไม่รู้วันนั้นปอจะยังรอผมอยู่ไหม

 

ถ้าอยากเจอ นานแค่ไหนก็จะรอ…

 

ผมเชื่อคำนี้ของพี่ปอ

 

ผมได้แต่ร้องไห้ มองตามแผ่นหลังของปอที่เดินออกไป เขาจูบผม บอกว่ารักผมคนเดียวให้ผมได้เชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ พี่ปอที่แสนดีและรักผมยิ่งกว่าใครๆ

 

 

เสียงโทรศัพท์กรีดร้องบนหัวเตียงกลางดึกของคืนนี้ ผมลุกขึ้นมาควานหาด้วยความงัวเงียเพราะเพิ่งจะหลับไป รู้สึกหนักเปลือกตาจากการบวมเพราะเสียน้ำตาเยอะ มองร่างของปอที่นอนหลับสนิทข้างๆ ตัวในความสลัวของห้อง มันเงยมาลืมตามองผมที่นิ่งจ้องมองเบอร์ของไอ้ต้น ใบหน้าของไอ้ต้นมันที่กำลังยิ้มแป้นส่งมาให้บนหน้าจอทำผมใจหาย มันโทรมาทำไมกลางดึกอย่างนี้

 

มือผมกดรับสาย ก้มมองใบหน้าของพี่ปอที่ตอนนี้กำลังกอดเอว นอนฟังข่าวอยู่ข้างๆ “ฮัลโหล…”

 

เสียงปลายสายดังเหมือนกำลังอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันเงียบไปสักพัก “ภีม…”

 

“เออ ต้น มีอะ…”

 

“กูไปก่อนนะ”

 

ใจผมกระตุกวูบ หมายความว่าไง “อะไรต้น ไปไหน!?”

 

“เหอะ ก็ไปเมืองนอกไง ตอนนี้กูอยู่สนามบิน กำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว”

 

น้ำตาผมไหลอีกครั้ง “ต้น!”

 

“ตกใจอะไรนักหนา ฮ่ะๆๆ แต่ก็…มีเรื่องมากมายที่อยากจะบอกนะ ตอนแรกก็ว่าจะคุยด้วยแต่เห็นมึงคิดมากเรื่องพี่ปอ ก็เลย คิดว่าจะบอกตอนไปเลยดีกว่า ภีม…” ต้นมันว่าเสียงเบา ผมได้แต่ส่ายหน้า มือสั่นๆ ยกมากุมปากตัวเองไม่ให้สั่น

 

“ขอบใจนะเว้ยที่ยอมเป็นเพื่อนกู กูแม่งจำได้ว่าอยากเป็นเพื่อนมึงแทบตายแต่มึงก็หนีกูตลอด บทจะเป็นเพื่อนกันก็…”

 

“ต้น กูยังทำใจไม่ได้ว่ะต้น อย่าไปเลย…” ผมว่าเสียงสั่น ไม่กลั้นสะอื้น ไอ้แต่ร้องไห้โฮออกมาจนปอมันตกใจ

 

“ถ้าพี่ปอรั้งมึงไว้เหมือนมึงรั้งกู มึงจะยอมไหมถ้าได้ลองตัดสินใจไปแล้ว?” มันย้อนถาม ผมได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหล

 

“ภีม เป็นอะไร อย่าร้องสิ”

 

ผมส่ายหน้าเมื่อปอมันกระซิบว่า ใจสั่นฟังเสียงในสาย ควบคุมตัวเองไม่ได้เลยตอนนี้  ฟังต้นมันแค่นหัวเราะออกมา ภายนอกเข้มแข็งแต่ใจมันกำลังเจ็บปวดผมรู้ “ฝากลาพี่ปอด้วยนะ”

 

“อืม…”

 

“ขอบใจนะที่เป็นห่วงกู” มันว่าเสียงเบา “ถึงแม้กูจะดูเหี้ยในสายตาใครๆ แต่มึงก็ดีกับกู เป็นห่วงกูมาโดยตลอด มึงเหมือนพี่ชายกูเลยว่ะภีม กูเป็นลูกคนเดียว กูเอาแต่ใจตัวเองมานาน ขอบใจนะที่ดูแลกูมาตลอด”

 

“ไม่เอา อย่าพูดแบบนั้นสิ” ผมว่าเสียงสั่น

 

“เหอะ แต่พี่กูนี่แม่งโคตรสำออยเลย ร้องไห้ทำไมเนี่ย?” มันว่าปนหัวเราะ

 

“กูรอมึงนะต้น กูจะใช้เบอร์เดิมนะ ถึงแล้วโทรหากูนะ ทักลายน์มาหากูก็ได้” ผมว่าเสียงสั่น

 

“อือ…”

 

ปลายเสียงมันสั่น จากที่พูดมากถูกย่อมาเหลือแค่ครางตอบในลำคอสั่นๆ ผมรู้ว่ามันกำลังร้องไห้แต่ทำเป็นเข้มแข็ง ปากไม่ตรงกับใจเลย

 

“แค่นี้นะภีม ไว้เจอกันนะ…”

 

ผมครางตอบ ก่อนที่สายจะถูกตัดไป เสียงลมหายใจปลายเสียงมันสั่นเครือจนผมจับได้ว่ามันกำลังร้องไห้และเสียใจกับการลาจากครั้งนี้ ผมวางโทรศัพท์แล้วฟุบตัวลงไปกอดปอสะอื้นร้องไห้ เสียงปอมันกอดปลอบผมเบาๆ แต่ไม่พอ ผมร้องไห้ทั้งคืนกับการลาจาก และผมเองก็เชื่อว่าต้นมันต้องร้องไห้ตลอดเส้นทางการเดินทางนี้แน่

 

ไว้เจอกันนะต้น เพื่อนรัก

 

“มันโอเคแล้วภีม อย่าร้องนะ อย่าร้อง…”

 

พี่ปอกอดผม ดึงเข้าไปกอดในอก เรานอนกอดกันอยู่แบบนั้นรับความอบอุ่นจากกันและกัน จูบของปอแนบลงบนหน้าผากของผมซ้ำๆ กับเสียงหวานๆ ปลอบประโลมด้วยความใจดี

 

“ไอ้เหม่งพี่มันไม่ขี้แยขนาดนี้นี่”

 

มันว่า ผมหลุดหัวเราะทั้งน้ำตา กอดมันแน่น “ก็จะไม่ได้เจอกันแล้วนี่ คงคิดถึงมันแย่เลย”

 

“อืม ความห่างไกลมันจะทำให้คนเรารู้ค่าของความคิดถึง”

 

ผมพยักหน้ารับ

 

ใช่แล้ว…

 

ผมจะคิดถึง

 

ได้แต่นอนกอดปอนิ่งนึกถึงสิ่งที่พูดและคิดออกมาช่วงนั้น เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา ถ้อยคำจากแม่ของปอก้องอยู่ในหัวผมครั้งแล้วครั้งเล่า

 

สำหรับเรื่องเมื่อตอนเย็น มันผ่านมาด้วยดีอย่างไม่คาดคิด ทั้งๆ ที่ใจผมกลัวเหลือเกินว่าแม่ของปอจะเกลียดเราทั้งคู่ หาทางให้เราเลิกกัน แต่ไม่เลย หลังจากที่ปอเดินออกไปจากห้อง ผมลุกพาตัวเองไปอาบน้ำ ทำตัวให้เข็มแข็งกว่านี้ ถ้ามัวมาร้องไห้เขาคงเกลียดไปกว่าเดิม สู้ผมเดินออกไปอธิบายดีกว่า

 

เมื่อผมอาบน้ำเสร็จ ร่างของผมเดินออกมาพร้อมชุดคลุม เท้าชะงักเมื่อเห็นว่าใครนั่งรออยู่บนปลายเตียงพร้อมกับปอที่แต่งตัวแล้ว ใจผมหายและไม่กล้าที่จะสู้หน้าเธอ แม้จะบอกว่าพยายามที่จะเข้าไปอธิบายให้เธอเข้าใจก็เถอะ แต่ผมกลัว

 

เธอนิ่งมองมายังผม สีหน้าดูเป็นคนใจดี

 

ปอเดินมาจับตัวผมเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งข้างๆ เธอโดยที่มันเองก็นั่งจับมือ นิ้วผสานให้ผมเชื่อมั่นอยู่ข้างๆ พร้อมกับว่า “แม่ครับ นี่เมียผม”

 

ใจผมหายวาบ อยากจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ ได้แต่แหงนหน้ามองคนพูดที่ยังแสดงถึงความจริงจังออกมา ผมกุมมือปอแน่น ยกมือไหว้ทั้งๆ ที่ยังกุมมือกันแบบนั้น

 

ปอกล้าที่จะบอกใครๆ ว่าผมเป็นของมัน มันเป็นของผม แล้วผมจะทรยศพี่ปอได้ยังไง

 

“ภีมเขากลัวแม่จะไม่ชอบน่ะ”

 

ผมหันไปมองหน้ามัน อึกอักเมื่อคนตรงหน้ายังนิ่ง เธอถอนใจแล้วขยับมือมากุมมือเราทั้งสองคน “ใจจริงฉันก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะที่เธอสองคนรักกัน แต่ถ้าลูกชายฉันรักใคร แสดงว่าเขาเลือกมาอย่างดีที่สุดแล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธเขาหรือโกรธเธอ”

 

ผมกลืนน้ำลายพยักหน้ารับ “ที่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ ก็คงจะผ่านตาของปราชญ์มาอีกทีแล้ว ถ้าทั้งปอและปราชญ์เห็นว่าเธอโอเคและเหมาะสมที่จะรักกันได้ ฉันจะไม่แย้งการตัดสินใจของพวกเธอเด็ดขาด แต่…”

 

ผมนิ่งมองเธอที่จ้องตา

 

“ครอบครัวของเธอล่ะ เขารู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า”

 

ผมส่ายหน้าตอบ เมื่อเห็นเช่นนั้นเธอก็กุมหน้าอกตัวเองมองหน้าของปอ “ลูกจะทำยังไงต่อไปในเมื่อพาลูกเขามาทำแบบนี้โดยที่พ่อแม่ของเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยปอ ถ้าเขาไม่ชอบขึ้นมามันจะยุ่งไปใหญ่”

 

“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ มันจะไม่เกิดขึ้น”

 

ผมว่าฝ่าความเงียบเมื่อปอไม่พูดอะไรสักอย่าง ราวกับกำลังนึกไม่ออก

 

ก็ผมกำลังจะไปจากปอแล้ว

 

“จะแอบคบกันงั้นเหรอ ยังไงทางนั้นก็ต้องได้รู้อยู่ดี ถ้าเขารู้ว่าทางนี้รู้อยู่ก่อนแล้วแต่ไม่บอกก็โดนถอนหงอกแย่น่ะสิ” เธอว่าพลางยกมือกุมอกตัวเองตกใจ

 

ผมส่ายหน้า “พี่ปอเองก็ไปที่บ้านบ้างครับ แล้วพ่อกับแม่ก็ชอบมาก”

 

“แต่เขาไม่รู้นี่ว่าเธอสองคนเป็นคนรักกัน ถ้ารู้ก็คงจะเกลียดลูกชายฉันมากเหมือนกัน”

 

“แล้วคุณเกลียดผมไหม?” ผมย้อนพลางมองตาเธอผ่านม่านน้ำตา เธอชะงักนิ่งมองผม ก่อนจะถอนหายใจละใบหน้าไปด้านอื่น

 

“ฉันไม่เกลียดเธอหรอก เธอไม่ได้ผิดอะไร”

 

“งั้นพ่อกับแม่ผมก็คงไม่เกลียดปอหรอก จริงๆ ท่านก็มีเหตุผลมากพอ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่คิดจะบอกท่านอยู่แล้ว”

 

“ถ้าเธอตัดสินใจอย่างนั้นฉันก็ยอมรับ เพราะฉันคิดอยู่แล้วว่ายังไงเสียเรื่องความรักของเพศเดียวกันมันก็ไม่ยั่งยืนอยู่แล้ว พวกเธออาจจะเลิกรักกันก่อนที่พ่อแม่จะรู้ความจริงก็ได้ พวกเธอก็ยังเด็ก อาจจะไม่รู้จริงๆ ก็ได้ว่าความเป็นจริงมันน่ากลัว”

 

ผมนิ่งมองเธอที่มองละออกไปไกลแสนไกล แทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนๆ นี้คือคนเดียวกันที่ต้องร้องไห้เสียใจหอบเสื้อผ้าบินไปเริ่มชีวิตใหม่ถึงเมืองนอก ทำไมเธอถึงได้เข้มแข็งและใจกว้างขนาดนี้

 

ผมไม่เข้าใจ

 

“ถ้าเธอโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากกว่านี้ เธอจะรู้ว่าความรักไม่ใช่การบังคับให้เขามารักเรา ความรักคือทั้งเขาและเรารักกัน แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่หัวใจยังคิดถึงเขาตลอดเวลา ร้องเรียกหาเขาตลอดเวลา…ความรักไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาหรอกนะ ตอนนี้เธออาจจะรักกันมาก แต่อีกสองเดือน สามเดือน แน่ใจนะจะรู้สึกเหมือนเดิม?”

 

“ต้องแน่ใจสิ ผมรอภีมมานาน ผมไม่ทำลายมันแน่” เสียงปอว่า

 

“ทั้งสองคนต้องโตกว่านี้นะ” เธอว่า หางเสียงเบาหวิว สายตาเธอดูเหมือนจะไม่มั่นใจในตัวของผมและลูกชายตัวเองเสียเท่าไรนัก ไม่มั่นใจในความรักของเราว่าจะอยู่ได้นาน จะต้องเลิกรากันไปในไม่ช้าเหมือนคู้รักเกย์ทั่วๆ ไป

 

ผมจะแสดงให้เห็นเอง ว่าผมทำได้ และผมเองจะเชื่อมั่นว่าปอเองก็ทำได้

 

ครับ…

 

ผมจะนึกถึงปอตลอดเวลา

 

จะเรียนรู้และเติบโตมา เพื่อที่จะกลับมาหาปออีกครั้ง

 

แต่ช่วงเวลานี้ ผมขอมีความสุขกับปอจนวินาทีสุดท้าย

 

ก่อนเอ่ยลา…

 

 

 

 
 :sad4: :sad4:
มาอัพให้แล้วน้า งือออออ//ปาดน้ำตา น้องต้นของเจ๊ไปแล้ว

อยากบอกว่าใครอ่านแล้วไม่ร้องไห้หนูนาบอกเลยตอนเขียนเสียน้ำตาเยอะมาก ยิ่งฉากต้นลาน้องภีมนี่บอกเลยเศร้ามาก เป็นคนที่ค่อนข้างรับไม่ได้กับเรื่องการจากลา ไม่ว่าจะเป็นใครจาก ไรต์ใจเสียตลอดเลย ก็เลยคิดว่าจะมีบางคนบ่อน้ำตาตื้นเหมือนกัน กับมิตรภาพของภีมกับต้น แล้วพอนึกถึงเรื่องปอกับภีม ไรต์ทนเขียนต่อไปไม่ไหวค่ะ ไรต์ไปนั่งร้องไห้ตั้งนาน รับเรื่องที่ตัวเองเขียนไม่ได้ คือเป็นคนเกลียดการพบแล้วจากมาก :ling1:

ยิ่งคิดยิ่งเสียใจ ยิ่งร้องไห้ ไม่เคยร้องไห้กับนิยายตัวเองมากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ แต่คิดว่าทุกคนในเรื่องนี้ต้องโตขึ้น ต้องมีพัฒนาการมากขึ้น คนเขียนอย่างเราก็สำเร็จมากขึ้น และคิดว่าถึงยังไงเขาทั้งคู่ก็ต้องมาเจอกันอีกก็เลยมีกำลังเขียนต่อ หวังว่าคนอ่านก็คงจะมีกำลังอ่านต่อนะคะ อิอิ

 

เจอกันพรุ่งนี้นะคะ
 :o12:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
การจากลาทุกครั้งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนะน่ะคนเรา

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เวลา และความห่างไกล จะพิสูจน์ความรักของคนสองคน  :เฮ้อ: ทรมาณจัง

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 28

 

เสียงขลุกขลักบนหัวเตียงเรียกผมให้ที่กำลังหลับสบายลืมตาตื่น รู้สึกหนักเปลือกตาที่ตอนนี้คงบวมเป่งน่าเกลียดอยู่แน่ๆ ผมพยายามเบิกตา แหงนมองขึ้นไปเห็นพี่ปอกำลังจัดหัวเตียงใหม่ เมื่อปอเห็นว่าผมมองเขาก็หันมาส่งยิ้ม ยีหัวและจัดของต่อไป ชั้นหนังสือการ์ตูน กระถางต้นกระบองเพชรจิ๋วที่มันบอกว่าไปเที่ยวแล้วก็ซื้อมา เป็นผมที่คอยรดน้ำทุกวันให้ โมเดลรถมอเตอร์ไซต์ถูกจับวางคู่กับเจ้ากระต่ายฟันเหยินตัวเล็กที่กำลังส่งยิ้มหน้าบาน ปอมันบอกว่าเหมือนผม

 

บนตัวสูงๆ ของมันกำลังสวมชุดช็อป ดวงตาผมตื่นเต็มตาเมื่อเห็นว่ามันกำลังจะไปโรงเรียนแล้ว ไอ้ผมที่กำลังนอนใต้ผ้าห่มนวมผวารีบลุกไปกอดมันจากด้านหลังด้วยความใจหาย

 

“ไม่ให้ไป วันนี้อย่าไปนะปอ” ผมว่าเสียงเบา ซุกหน้าไปบนบ่ากว้างๆ ของมัน

 

“พี่ต้องไปทำงานให้เสร็จนะ ไว้เจอกันตอนเย็นนะภีม”

 

“ไม่เอาปอ อย่าไป หยุดสักสองวันได้ไหม?” ผมกอดมันพูดออดอ้อน

 

“ภีม พี่กินแรงเพื่อนไม่ได้”

 

“นะปอ ขอร้อง อยู่กับกูที่นี่นะ”

 

“ภีม…”

 

“นะพี่ปอ อยู่ด้วยกันเถอะนะ ไม่อยากให้ไปเลย”

 

อยากให้อยู่ใกล้ๆ กันแบบนี้

 

ตอนที่ผมกล่าวออกมานั้น หางเสียงมันคงสั่นจนปอมันจับได้แล้วแน่ มือเรียวยาวผมกอดมันแน่น พยายามยื้อสุดแรงไม่ให้พี่ปอของผมไปจากตรงนี้ ผมอยากให้มาอยู่กับผมตรงนี้จนวินาทีสุดท้าย และความคิดนั่นคงทำให้ความสงสัยของมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่อวานตอนที่ปอมันถาม ผมไม่ได้ตอบอะไรมันไปเลยสักคำ

 

“ก็ได้ แต่พี่หยุดแค่วันนี้วันเดียวนะ”

 

ผมรีบพยักหน้าหงึกๆ วางแก้มลงบนบ่าของมันแล้วเอ่ยปากชม “น่ารักมาก…”

 

“ไม่ต้องมาพูดดีเลยภีม จะงอแงงี่เง่าอะไรแต่เช้า หืม?”

 

เสียงมันบ่นว่าผมงอแงอะไรตั้งแต่เช้า มือก็ตวัดนิ้วบนจอทัชสกรีนโทรศัพท์หาเบอร์เพื่อนตัวเองไปด้วย ผมไม่ตอบอะไรสักคำ เอาแต่กอดมันแน่นกลัวว่ามันจะหายไป ตอนปออาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ตัวโคตรหอม ผมได้แต่ซุกจมูกไว้ที่ซอกคอแบบนี้จนคนถูกทำต้องย่นคอหลบไป

 

ว่าแต่กู พอโดนเองเป็นไงล่ะ ผมยิ้มมองมันที่นั่งฟังเสียงรอสายด้วยสีหน้าปกติ หันมาเอ็ดผมที่ยังแหย่ด้วยการกัดคอมัน ครั้นเขารับสายทางนี้ก็รีบกรอกเสียงบอกเพื่อนในสายทันที

 

“เออ ธามวันนี้กูไปไม่ได้นะ เมียกูมันงอแงตั้งแต่เช้า”

 

ผมยกยิ้ม คำที่มันว่าผมเหมือนว่าเด็กน้อยเลยนะ คิดแล้วยกหน้าไปจูบแก้มมันออดอ้อน “หา! อะไรนะ มึงก็ไม่ไปเหรอ?”

 

อ้าว พี่ธามเลว

 

“มึงอยู่ไหน หา…ไปทำห่าอะไรพัทยา?”

 

สงสัยพี่ธามเองก็ยังเสียใจเรื่องไอ้ต้น ตอนนี้คงยังเมาค้างแหงๆ

 

“เออ งั้นเดี๋ยวกูโทรไปบอกไอ้เพื่อนก็ได้ มึงบอกมันแล้วรึยัง ถ้ายังก็จะได้บอกให้ อืม…โอเคๆ ไว้เจอกัน มึงไหวปะวะ เออ งั้นขับรถกลับดีๆ นะมึง”

 

ปอมันวางสาย หันมาหาผมที่ยังกอดมันจากด้านหลังอยู่อย่างนี้ ก็ตัวปอมันอุ่น มือหนาๆ มันเอี้ยวมาลูบผม จับจมูก จับแก้ม มืออีกข้างก็ไล่หาเบอร์พี่เพื่อนไปด้วย

 

“ไอ้ธามแม่งทำใจเรื่องไอ้ต้นไม่ได้”

 

ใจผมหาย แล้วปอจะทำใจได้ไหม ได้แต่นิ่งมองมันอย่างนี้ “เอ่อ…ปอ”

 

ควรบอกมันตอนนี้ไหม

 

ผมกลัวว่าปอจะทำใจไม่ได้เหมือนกัน

 

“คุยธุระเสร็จเราต้องคุยกันนะภีม” มันพูดเสียงแผ่วเบา ผมพยักหน้ารับ มือตีหน้าท้องมันขณะที่กอด ปอมันทำหน้าเข้มหันมาดุทั้งฟังเสียงรอสายพี่เพื่อน

 

ผมได้แต่นิ่งคิดกับตัวเอง คิดว่าควรตกลงกับปอว่าจะเอายังไงกันแน่ ไม่ใช่แบบนี้ ปอควรรู้ว่าผมกำลังจะไปและทำใจเพื่อรอผมสิถึงจะถูก ผมไม่ควรตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่ควรห่วงแต่ความรู้สึกของตัวเองไม่แคร์คนด้านหลัง ถ้าทำแบบนั้นปอคงเลิกที่จะศรัทธาในตัวผมไปเลยแน่ๆ

 

ผมได้แต่คิดซ้ำๆ

 

ครั้นคุยธุระกับพี่เพื่อนแล้ว ปอมันก็แกะมือผมออกแล้วหันมาจ้องตาด้วยความอยากรู้ ผมยกยิ้มให้มัน ผวาเขาไปกอดคอทำเป็นไม่รู้เรื่อง

 

“ในที่สุดก็หาเรื่องให้พี่ปอโดดจนได้ ไปเที่ยวกันไหม ที่ไหนดีน้า?” พยายามทำเสียงตื่นเต้น มันกอดผม มองผมด้วยความสงสัย

 

“พอเลย อย่ามาเฉไฉ คุยกับพี่ก่อน”

 

“ไม่เอา อาบน้ำให้กูหน่อยนะ แล้วก็ไปเที่ยวกัน” เมื่อได้ยิน ปอมันเลิกคิ้วด้วยแววสงสัยอีกครั้ง

 

“อาบน้ำนี่ จำได้ว่าขออาบด้วยกันกี่ครั้งไม่เห็นยอมเลยนะ”

 

“ก็วันนี้อารมณ์ดี จะอาบพร้อมกันไหมล่ะ?”

 

“ไม่เอาอ่ะพี่อาบแล้ว”

 

ผมขมวดคิ้วตัวเองมองหน้ามัน ทุบบ่ามันไปที “นี่กูอ่อยยังไม่รู้ตัวอีก มาๆ อาบน้ำด้วยกัน”

 

ปอมันเกาหัวตัวเอง แล้วก็ยิ้มมองผมอยู่อย่างนั้น ยกมือกอดผม จูบผมด้วยความเอ็นดูและบอกว่ารักกับผม มันทำแบบนี้ทุกๆ เช้า แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกไม่นานจะไม่ได้ยินพี่ปอบอกรักทุกครั้งที่ตื่นนอน คิดแล้ว รอยยิ้มผมละลงไปอย่างไม่สามารถเรียกกลับได้

 

ใจมันหาย มันหวิว มันโหวง

 

“ภีม เป็นอะไร เมื่อกี้ยังยิ้มน่ารักอยู่เลย เป็นอะไรวะ หืม?”

 

ผมชะงัก มองใบหน้าที่อยากรู้ของอีกฝ่าย พยายามฝืนยิ้มอย่างเต็มกลืนทั้งๆ ที่ใจเจ็บปวด “ขี้เกียจเดิน อุ้มไปอาบน้ำหน่อยสิปอ”

 

“ขอเยอะเกินไปแล้ว ถ้าเห็นภีมแก้ผ้าพี่คงทนไม่ไหว ไม่ได้แค่อาบน้ำอย่างเดียว” มันว่ายิ้มๆ มือเชยคางผมให้จ้องตา

 

“อ๋อ ที่ไม่ยอมอาบให้เพราะกลัวอดใจไม่ไหวเหรอ ป๊อดว่ะปอ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปอมันเลิกคิ้วพลางชี้หน้า

 

“จะยั่วใช่ไหมเนี่ย?”

 

“เปล่านะ” ผมยักไหล่ทำไม่รู้เรื่อง

 

“มานี่เลย จะซัดให้ลุกไม่ขึ้นเลย”

 

ไม่ว่าอย่างเดียว จับตัวผมลอยขึ้นมุ่งสู่ห้องน้ำ เสียงของผมหัวเราะคิกคักเมื่อหลอกล่อมันได้สำเร็จ เราหยอกล้อกันในห้องน้ำกันเป็นเวลาเกือบชั่วโมง แค่กอด แค่จูบ สุดท้ายพี่ปอก็ยอมอาบน้ำพร้อมกัน

 

ผมเคยเล่นตัวตั้งนาน เพิ่งมาคิดได้ว่าเอาเข้าจริงเราเพิ่งจะได้อาบน้ำพร้อมกันแค่ครั้งเดียว ยังมีอีกตั้งหลายอย่างที่ปอขอแล้วผมเอาแต่ดื้อดึง ไม่ยอมตามใจมัน

 

ทั้งๆ ที่มันออกจะสนุกขนาดนี้

 

สลับกันถูหลัง บนตัวเรามีแต่ฟองสบู่ นิ้วมือเรียวๆ ขยับมาเกลี่ยฟองออกจากใบหน้าให้ด้วยความอ่อนโยน ผมได้แต่รู้สึกร้อนใบหน้า กลัวตัวเองร้องไห้

 

สุดท้ายวันนี้ ปอก็ไม่ได้พาผมออกไปไหนอย่างที่ผมขอไว้ว่าอยากออกไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ใจจริงๆ ผมเองก็อยากใช้เวลาทั้งวันอยู่กับมัน จ้องตา บอกว่ารักกันตลอดทั้งวันอยู่แบบนี้ดีกว่าจะออกไปไหนเสียอีก แม้ปอจะงงและสงสัย กลับไม่ถามอะไรอีกเมื่อผมพยายามบ่ายเบี่ยง มันคงรอตอนที่ผมบอกเอง

 

ใช่…ปอรู้ว่ายังไงผมก็ต้องบอก

 

ผมนิ่งมองร่างหนาๆ ที่นอนพริ้มตาหลับในช่วงบ่ายของวัน ใบหน้าไร้การแต่งแต้มสีหน้าต่างๆ ผมขยับเข้าไปกอดมันแน่น จูบปาก และเฝ้ามองใบหน้านี้ให้ละเอียดเมื่อนึกถึงวันหนึ่งที่จะต้องไม่ได้เจอกัน ผมจะจำใบหน้าหล่อๆ นี้ไว้

 

เฝ้านึกถึง และคิดถึง

 

รอวันที่จะได้กลับมา คิดแล้วผมได้แต่พริ้มตาหลับ เราต้องโตขึ้นนะปอ

 

โตอย่างที่แม่ของปอต้องการ

 

 

ผมพาร่างตัวเองเดินเอื่อยๆ ลงมายังด้านล่างด้วยใจที่เบาหวิวแปลกๆ จะให้คิดหมกมุ่นอยู่แต่ในห้องก็ทำไม่ได้ มัวแต่กลัวการจากลาที่จะต้องเผชิญแล้วผมกลัวตัวเองจะไม่กล้าที่จะเดินจากปอมา

 

เห็นพ่อของปอกำลังนั่งคุยกับใครสักคนอยู่ เขาละมามองผมแล้วส่งยิ้มให้ ผมยกยิ้มตอบท่านทันทีก่อนจะละสายตาหลบเมื่อเห็นว่าคนที่เขาคุยด้วยหันมา เธอส่งยิ้มใจดีพร้อมกันนั้นคุณพ่อท่านก็ลุกเดินมาหา พาร่างผมเดินเข้าไปร่วมวง ใจจริงก็ไม่ชอบเลยที่จะต้องเข้าหาแบบนี้

 

สายตาของพี่ชายปอทำผมลำบากใจ

 

“ปออยู่ในห้องเหรอ?” คุณพ่อถาม

 

“เขานอนครับ ผมเลยออกมาเดินเล่น”

 

“วันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอ เห็นว่ารีบทำงานนี่” ผู้หญิงคนเดียวบนโต๊ะว่า ผมหลบสายตาตัวเองเมื่อเห็นเธอมองตา แววตาของเธอไม่ได้มีแววโกรธเคืองอะไรแต่ผมกลับรู้สึกผิด

 

“ผม…ขอไม่ให้ไปเองครับ”

 

“ทำไมล่ะ?”

 

“ผม…”

 

“พวกเธอน่ะเด็กกันจริงๆ รู้ไหม เห็นไหมเรื่องแบบนี้ยังชวนทำอะไรที่ทำให้เราดูออกว่ายังเด็กกันมาก ชวนแต่ออกนอกลู่นอกทางแล้วอย่างนี้จะให้ฉันวางใจยังไง?” แม่ของปอว่า ผมก้มหน้ามองมือที่กุมกันแน่น

 

“อีกหน่อยก็เลิกกัน เชื่อผมสิ” พี่ชายปอกล่าว

 

ผมนิ่ง ทำไมผมต้องมานั่งตรงนี้ มาถูกคนวิพากวิจารณ์เรื่องความรักของเรา เพียงเพราะว่าเรายังเด็กอย่างนั้นเหรอ แปลว่าถ้าเราทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่และดูแลตัวเองได้แล้ว นั่นหมายความว่าเมื่อเราตัดสินใจทำอะไรลงไปจะไม่ผิดใช่ไหม

 

“อย่าเพิ่งตัดสินเด็กคนนี้เพราะการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เลย ที่ปอดีขึ้นมาได้ก็เพราะเขา ฉันชอบที่ภีมฉุดปอให้โตเป็นผู้ใหญ่เมื่อทั้งสองคนได้รักกัน”

 

“เธอไม่รู้อะไรหรอกปราชญ์”

 

“ทำไมฉันจะไม่รู้ ฉันสังเกตพวกเขาเวลาอยู่ด้วยกันตลอด” คุณพ่อพูดขึ้นมา อต่ถึงยังไงผมก็ไม่รู้สึกดีที่เขาจะเถียงแทน

 

“เธอสังเกตก็จริงแต่ไม่เข้าใจวิถีชีวิตจริงๆ เหมือนฉัน”

 

“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ ฉันคิดว่าฉันเข้าใจลูกดีกว่าเธอด้วยซ้ำ”

 

“หมายความว่าไง?” เธอว่า ผมหน้าชายกมือกุมขมับ

 

“พ่อกับแม่ไม่ควรมาเถียงกันเรื่องนี้หรอกครับ มันไม่น่าคิดมากเลย ผมว่าไม่นานพวกเขาก็เลิกกัน เหมือนที่พ่อเลิกกับคู่ขาเก่าของพ่อ ยังไงพวกเกย์มันก็ไม่มีรักแท้อยู่แล้ว”

 

ใจผมหายเมื่อเห็นสายตาคนว่ามองมา “ที่พ่อต้องเลิกเพราะมีเหตุจำเป็น เกย์ไม่ได้รักง่ายหน่ายเร็วขนาดนั้น แค่เราพยายามหาคนที่รักเราและสามารถอยู่ข้างเราได้ แต่อุปสรรคคือมันหาไม่ได้ง่ายๆ ไง”

 

“พ่อเลิกเถียงข้างๆ คูๆ เถอะ ยังไงเสียเกย์มันก็ยึดเรื่องเซ็กส์เป็นหลักอยู่ดี พอไม่ได้ตามใจเดี๋ยวก็เลิกกัน ผมเห็นมานักต่อนักแล้วที่บอกว่ารักกัน อยู่ด้วยกันไม่เห็นถึงปีสักคู่”

 

“เปรม ลูกใช้อคติกับเกย์มากเกินไป”

 

“ก็มันจริงนี่ ถ้าเห็นว่าผมอคติพ่อก็พิสูจน์สิ นายก็ด้วย!”

 

ผมสะดุ้ง เงยมองหน้าคนว่าที่ยังจ้องตาผมเขม็งราวกับกำลังโกรธ ผมไม่รู้เขาโกรธเขาเกลียดเกย์ขนาดไหน แต่สายตาแบบนี้รู้ดีเลยว่าไม่น้อย ผมได้แต่หลบตาและไม่กล้าสู้หน้า

 

ทำไมนะ ทำไมผมต้องมานั่งทนฟังอะไรแบบนี้ด้วย

 

“ผม…จะพิสูจน์”

 

ทั้งสามเงยมามองผมเป็นตาเดียว คนที่ต่อว่าผมเมื่อครู่เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อยเมื่อเห็น ลูกตาผมถูกกลบด้วยน้ำตา มันเอ่อและหล่นแหมะใส่หลังมือที่สั่น ผมกลัวจริงๆ

 

“ผมจะพิสูจน์เองว่าเรารักกันจริงๆ”

 

“เฮอะ นายฝันอยู่งั้นเหรอ?” คนตรงหน้าว่า

 

“ผมกับปอจะพิสูจน์ว่าเรารักกัน เราอยู่กันได้”

 

“ปอมันบอกว่าจะพิสูจน์เหรอ หรือนายคิดคนเดียว?”

 

“ผมคิดคนเดียว แต่คิดว่าปอคงจะทำด้วยแน่ๆ”

 

“อย่าละเมอนักเลย ฉันรู้จักน้องฉัน ถ้ามันไม่ได้ออกปากอะไรออกมาเอง อย่าฝันว่ามันจะทำให้”

 

คนตรงหน้าว่า น้ำเสียงดูหมิ่นผมที่นั่งตรงนี้

 

“ผมจะเลิกกับปอ ผมจะไปจากที่นี่”

 

ภายในวงสนทนาเงียบกริบเมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมไม่รู้ทุกคนรู้สึกอย่างไรแต่มั่นใจแน่ว่าคงมีตกใจที่จู่ๆ ก็พูดคำนี้ขึ้นมา คุณพ่อเงยมามองผมพลางส่ายหน้าปฏิเสธ

 

“ทำแบบนี้หมายความว่าไงภีม พ่อไม่เข้าใจ”

 

เขานิ่งมองตา ส่ายหน้าอย่างไม่มั่นใจในสิ่งที่ผมกำลังจะกล่าว “ผมจะเลิกกับปอครับ”

 

“เหอะ พูดแล้วไง ฉันคิดแล้วไม่มีผิด” พี่ชายของปอกล่าว น้ำเสียงเยาะผมรู้ดี

 

“แต่ที่ผมเลิก เพราะจะรอวันที่เราโตพอ เราจะกลับมา…”

 

“น่าขำ นายมันบ้าไปแล้ว ใครมันจะไปรอ บอกว่ามาสิว่ากว่านายจะโตน่ะอีกกี่ปี ตอนนี้นายอายุเท่าไหร่ สิบห้า สิบหก แล้วกว่านายจะประสบความสำเร็จ กว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ น่ะกี่ปี ห้าปี สิบปี ใครมันจะไปอดทนรอได้”

 

ใจผมหายเมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาว่า

 

นั่นมันก็จริง แต่ถึงปอจะไม่รอ

 

ยังไงฝ่ายผมน่ะต้องรอ

 

มันอาจจะนานมาก ปออาจมีคนรักใหม่ อาจแต่งงานมีลูก ถึงวันนั้นผมอาจเสียใจจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอนอีกครั้ง ผมก็ยังจะรอ แม้ปอจะไม่เชื่อมั่นในผมและหนีไปคบใครก่อน ผมจะไม่โกรธเคืองอะไรเขาเลยสักนิด

 

ถ้าปอมีความสุข ถ้าได้เห็นปอในอนาคตมีความสุขผมก็โอเค เพราะตอนนั้นผมคงโตพอที่จะยอมรับได้แล้ว แม้จะเสียใจเพียงไหนก็ตาม

 

“ไม่จริงใช่ไหมภีม?”

 

ผมชะงัก ดวงตาเบิกโพลงเมื่อได้ยินเสียงของใครสักคนกล่าวจากด้านหลัง ใบหน้าผมชาแทบไม่กล้าที่จะหันกลับไป

 

“ปอ…”

 

เสียงฝีเท้ากระแทกมาก พร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบต้นแขนรั้งให้ผมหันไปหา ใบหน้าของคนถามขึงขังจนผมเป็นฝ่ายหลบส่ายตาไปด้วยความกลัว กลัวใจตัวเอง กลัวปอโกรธ กลัวมันจะจบไม่สวยเหมือนที่ผ่านมา

 

“ตอบกูมา!”

 

ผมเม้มปากให้สั่น ไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา เมื่อดวงตาของคนตรงหน้าจ้องเขม็ง มันโกรธ มันโมโหเมื่อผมไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้กับมัน

 

“ตอบมาสิภีม ตอบกูมา!”

 

มันตะเบ็งเสียง ลากแขนผมให้เดินตามหลังไป ความรู้สึกเจ็บที่ต้นแขนไม่ได้ทำให้ผมร้องไห้ แต่ผมเจ็บตรงที่หัวใจที่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้ระบายมันออกมา ส่งเสียงแห่งความเจ็บปวดบอกปอไปว่าผมเองก็เจ็บไม่น้อยว่าปอเลย

 

ผมรักปอ ยังไงก็ยอมรับไม่ได้ที่เราต้องจากกันอย่างนี้

 

ร่างของผมถูกผลักลงบนเตียงพร้อมกับปอมันมันจ้องตา มือผมสั่น พยายามเอื้อมไปแตะมันให้เข้าใจว่าตอนนี้ผมเสียใจ มือหนามันปัดผมออก แต่ผมจะไม่ร้องไห้เสียใจเลยเมื่อเห็นแววเศร้าในดวงตาของมัน

 

“ปอ ฟังก่อน…”

 

“มึงทำแบบนี้ได้ไง ทั้งที่กูคิดจะอยู่กับมึงตลอดไปแต่มึงกำลังคิดที่จะทิ้งกู!”

 

ดวงตามันมีแต่ความเจ็บปวดสื่อออกมาระหว่างที่กระแทกกระทั้นเสียงใส่ ผมได้แต่จะเอื้อมมือไปขอร้อง “อย่ามาแตะกู! ทำไมมึงถึงทำแบบนี้วะภีม กูทุ่มเทให้มึงขนาดนี้มึงยังไม่คิดที่จะเชื่อในตัวกู มึงยังคิดที่จะทอดทิ้งกู มึงก็เห็นว่ากูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึงอยู่ด้วย กว่ากูจะขอร้องให้มึงกลับมามันยากขนาดไหน มึงยังไม่เห็นค่าแล้วจะทิ้งกูไป…”

 

“ปอ…” ผมกุมหน้าอกตัวเอง มันเจ็บจนต้องหยิกให้มันชา

 

“ขอโทษ…”

 

“กูไม่รับ กูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!”

 

ทันว่าพลางทรุดตัวนั่งหันหลังให้ผมปลายเตียงเงียบๆ คนเดียว พยายามเก็บอารมณ์ความรุ่นรุ่มในอกต่างจากปอคนเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่โวยวาย ไม่อาละวาด ไม่ทำลายข้าวของ น้ำตาผมไหลอาบแก้ม มันพรุ่งพรูออกมาไม่ขาดสายและควบคุมไม่ได้ ไม่คิดว่าปอมันจะเสียใจขนาดนี้ ทำไมผมมันเลวขนาดนี้วะ

 

ดวงตาผมมองแผ่นหลังกว้างๆ ของพี่ปอนิ่ง มันกำลังไหวขึ้นลง

 

ด้วยแรงสะอื้น

 

ใจผมจะขาดเมื่อเห็นเช่นนั้น ตั้งแต่คบกันมา ผมไม่เคยเห็นพี่ปอร้องไห้เพราะผมเลยสักครั้ง นั่นอายจบอกว่ามันกำลังเสียใจมากที่สุดกับสิ่งที่ผมคิดกระทำ

 

“ปอ…ฮึก ขอโทษ…” ผมว่าเสียงเบา คลานไปกอดมันจากด้านหลัง รู้สึกถึงแรงสะอื้นของมันอย่างเต็มที่

 

“ภีมจะทิ้งพี่ไปจริงๆ เหรอ?”

 

ใจผม มันจะขาดเมื่อได้ฟังเสียงสั่นเครือตรงหน้า น้ำตาหยดใส่เสื้อของมันหยดแล้วหยดเล่า ผมรู้ว่าปอมันเสียใจ อาจจะมากว่าผมด้วยซ้ำ

 

“ภีมมีเหตุผลนะ”

 

“ไม่…มึงจะทิ้งกู!” มันกระแทกเสียง ผมได้แต่กอดมันแน่น “มึงจะทิ้งกูไป กูรู้แค่นี้ภีม..”

 

“ไม่ เรายังรักกันเหมือนเดิมปอ เรายังรักกัน ภีมรักปอ ปอรักภีม”

 

“ถ้าภีมไปมันจะไม่เป็นแบบนั้น”

 

มันพูดเสียงสั่นเครือ ดวงตาผมจ้องเสื้อของมัน เก็บเสียงสะอื้น

 

“รอภีมได้ไหมปอ?”

 

“ไม่…”

 

ผมนิ่ง ฟังเสียงสะอื้นของมันและตัวเองผสานกัน “นะ…สัญญานะว่าจะรอ”

 

“ไม่…” มันลากเสียงว่า มือขยับมากุมมือผม มือหนาๆ และแข็งแรงมันกำลังสั่นไหว

 

ปอมันกำลังกลัว โธ่…ปอ

 

“อย่าไปนะภีม พี่ขอร้อง…อย่าไปจากพี่”

 

“อย่ารั้นได้ไหมปอ บอกมาสิว่าจะรอ จนกว่าเราจะโตแล้วดูแลตัวเองได้”

 

“ไม่ภีม ไม่…”

 

ปอมันส่ายหน้า มือกุมมือผมที่กอดมันแน่น มันเอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ ภายนอกมันดูแข็งแกร่งแต่ภายในมันอ่อนแอและหวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิด ไม่ต่างจากผม เมื่อเห็นปอร้องไห้และเสียใจขนาดนี้ ผมได้แต่ต่อว่าตัวเอง คิดได้ยังไงว่าจะไปแบบไม่บอกปอ

 

“มึงนี่เป็นเหมือนที่พี่มึงว่าไว้จริงๆ ยังไงก็ทำให้กูไม่ได้สินะ”

 

ผมว่าเสียงเบา ขยับไปวางใบหน้าบนบ่ากว้างๆ ไม่กล้าเงยขึ้นไปมองใบหน้าของมัน ใจผมคงแหลกละเอียดถ้าเห็นหน้าของมันเปื้อนไปด้วยน้ำตาเพราะผมเป็นคนทำร้ายมัน

 

“บอกมาสิว่าไม่อยากไป พี่ทำให้ได้”

 

“ไป ยังไงก็ต้องไป ถ้าปออยากอยู่ด้วยกันตลอดไปก็ต้องไป”

 

“ทำไม เราอยู่กันตอนนี้ก็ได้” มันว่าพล่งส่ายหน้า

 

“แล้วจากกันภายหน้าน่ะเหรอ สู้จากกันตอนนี้ แล้วได้อยู่ด้วยกันตลอดไปสิ” ผมว่าเสียงเบา ปอมันเงียบไป ได้ยินแต่เสียงสะอื้น

 

“รักกูไหมปอ?”

 

“รัก รักภีมคนเดียว จะรักตลอดไปเลย” มันว่า

 

“งั้นก็ต้องรอ สัญญานะ รอนะปอ อย่าทิ้งกูนะปอ…ฮึก!” ผมหลุดร้องไห้ เป็นผมที่อ่อนแอ

 

“ไม่อยากเชื่อเลย…”

 

“รับปากมาสิ ว่าจะรอ กูเองก็จะรอ จะรีบโตแล้วรีบมา”

 

“โธ่…” มันลากเสียง ได้แต่เงียบๆ ร้องไห้คนเดียวไม่ยอมตอบ ผมนิ่งกอดมันจากตรงนี้ ร้องไห้และรอฟัง สุดท้ายมันก็ไม่ยอมตอบอะไรมาเลย

 

“สุดท้ายมึงก็ไม่ยอมรับปาก มึงมันรั้น งั้น…เราเลิกกันตลอดไปเลยก็ได้ กูจะไม่ทำร้ายมึง ไม่ต้องรอกูหรอกนะ ถ้ามีใครมาจีบ หรือชอบใครและเห็นว่าเขาใช่มากกว่า ก็อย่าปิดกั้นเข้าใจไหม?”

 

มันนิ่งฟัง ใจผมหายพลางว่าต่อ “อย่าปิดตัวเองรอกู กูไม่รู้ว่ามึงจะมั่นคงกับกูมากแค่ไหน ถ้าคิดว่าจะเจอคนที่มั่นคงมากกว่าก็คบกับเขาซะ ไม่ต้องรอ…”

 

แต่กูจะรอมึง รอมึงคนเดียวและกลับมา

 

“ไม่ต้องรู้สึกผิดกับกูนะถ้ากูกลับมาเห็นมึงมีลูกมีเมีย…”

 

“พอได้แล้ว มึงก็รู้ว่ากูรักใครไม่ได้อีกแล้ว กูไม่คิดจะรักใคร…”

 

ผมใช้หลังมือปาดน้ำตา ยิ้มทั้งๆ ที่กำลังร้องไห้เมื่อได้ฟัง คนที่ถูกกอดหันมามอง ทำให้ใจของผมสั่นแทบจะทะลุออกจากอกเมื่อเห็น ใบหน้าที่กำลังเสียใจของปอ

 

“กลับมาเร็วๆ นะภีม พี่จะรอ”

 

ผมกอดมันแน่น ได้แต่พยักหน้ารับด้วยความดีใจที่ปอยอมตกลงในสิ่งที่ผมเสนอ ใบหน้าผมขยับเข้าไปแนบจากจูบเป็นคำสัญญา รับรู้ว่าปอเจ็บปวดขนาดไหน ริมฝีปากของมันร้อนรุ่ม สั่นเครือ ราวกลับกำลังกลัวว่าผมจะหายไปจากตรงหน้า

 

สัญญาแล้วนะปอ

 

กูจะรอ

 

และเชื่อมึงเสมอว่ามึงจะทำตามที่ตัวเองบอกได้

 

สัญญาว่าเมื่อเราโตพอ เราจะเดินกลับมาหากันดังเดิม

 

ผมยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นว่าเราจ้องตากันหลังจากผละปากออก มือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าหล่อๆ นี้ด้วยความห่วงใย อย่าร้องไห้เลยปอ ปอโตขึ้นมาก และอนาคตก็มั่นใจเลยว่าปอจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ สามารถดูแลตัวเองและผมได้

 

รักปอนะ จะรอตลอดไป

 

 

 
 :hao5: :hao5:
มาอัพให้แล้วค่ะ//ปาดน้ำตา เศร้าอ่า

น้องกำลังจะไปแล้ว ตอนหน้าเป็นพาร์ทพี่ปอ ไม่อยากสปอยอะไรมาก แค่ตอนหน้าเศร้าแบบทรหดมาก

มีข่าวดีมาบอกว่า นิยายผ่านการพิจารณาแล้วจ้า จะได้ออกมาเป็นรูปเล่มต่อจากปิ๊งรักคุณพ่อลูกติดนะคะ(ดูตรงแบนเนอร์ด้านบนนะ เผื่อใครไม่รู้ว่าคนเขียนคนเดียวกัน อิอิ) มีใครอยากเก็บบ้างป่าวเหอะ เค้าคิดรูปแบบปกไว้แล้วน้า (ฮา) เนื่องจากพอรวมเล่มแล้วเนื้อเรื่องยาวและหนามาก ไรต์ก็เลยทำตอนจบให้มันกระชับขึ้นนะคะ เพราะตอนพิเศษไรต์กะจะจัดเต็ม ให้สี่-ห้าตอนเลย

บ๊ายบายจ้า
 :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
ทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เศร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
อุตสาได้กลับมาคบกันแล้วแท้ๆ ต้องแยกจากกันเพื่อพิสูจน์รักแท้
สู้นะพี่ปอออออออออออออออ :m8: :m8: :m8: :m8: :m8:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
งืีออออ ร้องไห้เลยง่า :mew4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ทำไมไม่พูดกันตรงๆ เฮ้อออ โตไม่โตไม่เกี่ยวเหรอก ความมรักต่อให้สิบขวบถ้ารักกันจังก็อยู่ด้วยกันไปตลอดได้ :katai1:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :katai1:  :katai1: เศร้าอะ ความรักหนอความรัก  :hao5:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 29

-P’ Por Part-

 

ผมนอนนิ่งมองคนที่ยังนอนจ้องตากับผมไม่ละ

 

คนๆ นี้…คือคนที่ผมรัก และผมเองคิดว่าจะไม่รักใครอีกแล้ว

 

เรานอนตะแคงบนเตียงมองหน้ากันแบบนี้นานมากแล้ว คงเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงแล้ว ใบหน้าเรียวยาวข้างหนึ่งฟุบแนบกับหมอน ดวงตานั้นยังชุ่มเปียกไปด้วยน้ำตา นัยน์ตาสีดำขลับจ้องมองยังผม เราอาจใจตรงกัน อาจกำลังเก็บใบหน้านี้ไว้เพื่อจำ และเอาไว้คิดถึงกัน

 

นิ้วมือผมเอื้อมไปแตะแก้มของภีม ยอมรับว่าช่วงเวลาเลวร้ายนี้ผมอ่อนแอกว่ามันมาก ภีมมันคอยโอ๋ไม่ให้ผมร้องไห้ตลอดเวลา โอ๋ผมด้วยน้ำตา คิดว่าผมจะหยุดร้องไปได้ยังไงถ้ายังเห็นมันร้องไห้เสียใจแบบนี้

 

แต่ถ้าภีมต้องการให้ผมตอบรับสัญญา ผมยอม ผมทำได้

 

ผมแค่กลัวการตื่นขึ้นมาไม่เจอมัน การทำผิดแล้วไม่ถูกเสียงงอนๆ ของมันต่อว่า รู้และคิดเสมอว่ามันก็เจ็บไปไม่น้อยกว่าผมเลยสักนิดเดียว ถ้ามันเข้มแข็งได้ ผมก็เข้มแข็งได้เช่นกัน ผมจะรอมัน

 

จะรักแค่มัน ผมให้สัญญา

 

ผมรักมันจริงๆ ทุกๆ วันที่พูดบอกออกไป ผมพูดจากใจจริงๆ เชื่อจริงๆ ว่าภีมเองก็รักผมจนหมดหัวใจเช่นกันอย่างที่ผมเป็น

 

รอยยิ้มหวานๆ ผุดขึ้นมาประดับบนใบหน้าตรงหน้า ภีมมันยกยิ้ม ยกมือมาแตะใบหน้าผมเหมือนกัน เรามองตากัน ยกยิ้มและไม่คุยอะไรกันทั้งสิ้น ผมขออยู่แบบนี้ไปสักพัก ได้มองหน้าภีม ได้บอกรักภีมไปแบบนี้สักพักเถอะ

 

และเราก็มองกันแบบนี้แทบทั้งคืน

 

กระทั่งภีมมันง่วง ร่างเล็กขยับตัวเข้ามาซุกกายขอไออุ่นจากผมด้วยความเศร้าหมอง สิ่งเดียวคือทำได้แค่กอดและมอบจูบหวานๆ ให้ ใจผมหายเมื่อคิดว่าอีกไม่นาน บนเตียงนี้จะมีแค่ร่างของผมนอนอยู่เพียงลำพัง

 

ผมอยากร้องไห้มาอีกรอบแบบไม่อายภีม

 

แต่เมื่อสัญญาไว้แล้ว ผมก็ต้องยอมทำใจ

 

 

ภีม…

 

พี่รักภีมว่ะ

 

โคตรรักมึงเลย สิ่งที่กำลังจะเกิดมันยากจะทำใจได้

 

“ปอ ตื่นได้แล้วปอ…”

 

ผมลืมตา เงยมองคนที่นั่งบนเตียงก้มมองมายังผมที่เพิ่งจะหลับลงไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ส่วนมันน่ะหลับก่อนหน้าผมไปตั้งนานแล้ว แค่คิดว่าตัวเองจะไม่ได้เห็นภีมตอนหลับแบบนั้น ผมเอาแต่มอง และเฝ้ารอให้คืนนี้ผ่านไปอย่างช้าๆ

 

ขอให้สิ่งที่ผมกำลังเจอเป็นแค่ฝันร้ายๆ ให้ผมกับภีมอยู่กันแบบนี้อีกต่อไปนานๆ

 

แต่ความจริงช่างตลก เมื่อทุกวันนี้ใจผมปวดหนึบและรู้สึกเสมอเมื่อเห็นหน้าคนรัก อยากให้เป็นความฝันยังไง สุดท้ายมันก็คือความจริง

 

“ภีม กี่โมงแล้ว?”

 

คนตรงหน้าหยิบโทรศัพท์มาดู “หกโมงเช้า”

 

“ทำไมตื่นเช้าจัง ปกติแปดโมงไม่เห็นตื่น” ผมว่าพลางดึงมันเข้ามากอด

 

“อยากอยู่กับปอนานๆ” มันพูดกับผมแผ่วเบา ผมลืมตา ตาสว่างขึ้นมาทันที

 

“พี่ไม่ไปโรงเรียนหรอก มานอนกับพี่ตรงนี้ต่อ” ผมกอดมันแน่น

 

“ถ้าตื่นมาปอต้องอยู่ข้างๆ นะ ห้ามลุกไปไหน”

 

“อืม พี่จะอยู่จนกว่าภีมจะตื่น”

 

ผมว่า ยกหัวไปจูบหน้าผากมันเป็นคำสัญญา ใบหน้าใสๆ ของมันขยับมาใกล้และจรดปากจูบแก้มผม พรมจูบไปทั่วหน้าอย่างที่ผมชอบทำกับมัน บอกว่ารักมันผ่านการกระทำ ก่อนที่ภีมจะวางหัวลงบนต้นแขน ในอ้อมกอดของผมอีกครั้ง

 

อยู่ข้างๆ พี่ไปนานๆ นะภีม

 

อยู่อย่างนี้นานๆ นะ

 

มือผมยกมาเช็ดน้ำตาตัวเองที่อาบลงไปหู ไม่อยากให้ภีมมันเห็นว่าตัวเองอ่อนแอ มันส่งมืออุ่นๆ กอดผมภายใต้ผ้าห่มนวมผืนโต คางถูกคนในอ้อมกอดยื่นหน้ามาจูบครั้งแล้วครั้งเล่า โหยหา ขอความรัก ผมกอดภีมแน่นและพริ้มตารับจูบนั้นซ้ำๆ ด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกัน

 

ไม่ว่าจะนานขนาดไหน สัญญาว่าจะรอ และจะโตขึ้นให้ได้

 

“พี่โทรหาภีมได้ใช่ไหม?” ผมว่าฝ่าความเงียบ

 

“ได้…”

 

ใจผมชื้นขึ้นมาบ้าง

 

“เราจะแชทกันได้ใช่ไหม วิดีโอคอลล่ะ?”

 

ผมพูดต่อ ภีมมันพยักหน้ารับ กอดผมและแนบหน้ากับหน้าอก ตรงหัวใจผมที่กำลังเต้นบอกว่ารักมันคนเดียว ผมพริ้มตาเมื่อรับรู้ว่าเรายังมีทางติดต่อกันได้บ้าง เท่านี้ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวด ขอแค่ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้าภีมสักนิดก็มีกำลังใจแล้ว

 

“พี่จะรอภีม แค่เห็นรูปภีมพี่ก็รอได้”

 

“จริงนะ?”

 

“จริง” ผมว่าเสียงเบา

 

และนั่น คงเป็นคำมั่นสุดท้ายที่ผมฝากเอาไว้กับภีม

 

เมื่อคนเราได้พบ ต่างก็ต้องยอมรับว่าต้องมีการจาก ผมซึ้งใจกับสัจธรรมคำนี้จนน้ำตาไหลและใจหายทุกครั้ง ภีมสัญญาว่าจะคอยผมและติดต่อมาทุกครั้ง

 

ผมทำใจไม่ค่อยได้ แต่ถึงทำใจไม่ค่อยได้ขนาดไหนก็ต้องมาส่งมันอยู่ดี เรามองตากันนิ่ง ยกยิ้ม โบกมือลาอย่างคนเข้มแข็งแต่หารู้ไม่ว่าหลังจากนั้นผมกลับมานอนร้องไห้ทุกคืน ผมเฝ้าคิดถึงแต่ช่วงเวลาที่อยู่กับมัน ช่วงเวลาตอนนี้ทำใจยากกว่าตอนที่ผมเลิกกับมันเสียอีก

 

ต้องนอนรอวันที่มันจะกลับมา

 

ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไร อีกนานสักแค่ไหน

 

แต่ใจก็ชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อภีมมันเดินทางถึงอย่างปลอดภัยและโพสต์ข้อความมาบอกผมแล้วว่าถึงที่หมาย บอกว่ารักว่าคิดถึงผม รอยยิ้มของผมที่มองผ่านหน้าจอนั้นเปื้อนไปด้วยน้ำตา

 

ผมพยายามเข้มแข็ง กลับไปตั้งใจทำงานและเรียนให้จบไวๆ

 

แรกๆ ก็เสียใจ เหงาไปบ้าง แต่พอมาเจอเพื่อนๆ ความเหงาก็ทุเลาเบาบางลง ยังมีคนเจ็บปวดกว่าผม ทั้งไอ้ธาม ไอ้พี ต่างเดินเป็นหุ่นยนต์ไม่มีชีวิตชีวาไปตามๆ กัน

 

ผมได้แต่มองรูปวอลเปเปอร์โทรศัพท์ตัวเอง ภาพภีมตอนที่บังคับให้ผมกอดด้วยความเอาแต่ใจ มันเรียกรอยยิ้ม ความหดหู่ใจออกมา แม้จะเจ็บแต่ก็สุขใจทุกครั้งที่ได้มองมัน เฝ้ารอและขอให้มันกลับมา

 

เราคุยกันทุกคืน ก่อนนอน บอกว่ารักว่าคิดถึง ความรู้สึกของผมยังมั่นคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง รักยังไงก็ยังรักอย่างนั้น อาจเพิ่มพูนมากจนอธิบายไม่ได้ด้วยคำพูด ผมรอที่จะบอกภีมด้วยการกระทำ

 

ภีมยังสดใส ร่าเริงชวนยิ้มได้เหมือนเคย เราคุยกันจนกระทั่งผมเรียนจบ แต่ผมเลือกที่จะไปทำในสิ่งที่ตัวเองหยุดฝัน คือการกลับไปแข่งรถอีกครั้ง เพราะเคยสัญญากับภีมไว้ว่าจะพามันไปเชียร์ที่สนามแข่ง แต่ผมมันรั้น ดื้อดึงไม่ยอมฟังมัน จนสายเกินไป ผมพยายามลบคำสบประมาทของคนที่เคยดูถูกจากเรื่องที่ตัวเองเคยก่อในอดีต เรื่องที่ผมหนีการแข่งออกมาดื้อๆ นำมันมาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองสู้ไม่ถอย พยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่นานผมก็ได้แชมป์มาครองอีกครั้ง

 

ผมก้าวกระโดดมาด้วยความเร็ว พร้อมเวลาที่เราห่างกันมาเดินไวอย่างน่าประหลาด ภีมส่งข้อความมาอวยพรวันเกิดครบ 21 ปีของผมพร้อมกับดีใจที่ผมได้แชมป์ในการแข่ง เรามีความสุขมาก เวลาเดินเร็วไปพร้อมกับความสำเร็จแรกของผมที่กลับมามีชื่อเสียงจากวงการกีฬาอีกครั้ง เมื่อผมซ้อมมากเกินไป จุดพลิกผันของผมกับภีมจึงได้เริ่มต้นขึ้น

 

เข้าสู่ปีที่สองที่ภีมส่งข้อความมาอวยพรวันเกิดผ่านเฟชบุ้ค ผมมีความสุขเมื่อได้อ่านมัน แต่เมื่อส่งข้อความไปอีกครั้ง ภีมก็ไม่ได้ตอบกลับมา ใจผมว้าวุ่นนึกถึงแต่มัน คิดถึงมัน เกิดอะไรขึ้นกับภีมที่ผมรักกันแน่ ผมเฝ้าส่งข้อความไปหามันซ้ำๆ แต่ไร้วี่แววคนที่จะตอบกลับมา ใจผมหายอย่างน่าประหลาด ผมคิดที่จะออกไปตามหามันแต่ติดที่ตัวเองต้องลงแข่ง และผมต้องมีความรับผิดชอบกว่านี้

 

นานเป็นเดือนกว่าภีมจะตอบกลับมา บอกเพียงว่าตัวเองกำลังยุ่ง ผมพยายามติดต่อกลับไปและขอที่จะวิดิโอคอลกับมัน ภีมปฏิเสธ

 

และหายไปอีกครั้ง

 

ท่ามกลางการรอคอยของผม ผมเติบโตและเริ่มจะรู้จักหาความก้าวหน้าให้กับตัวเอง ผมเปิดกิจการเกี่ยวกับอะไหล่รถมอเตอร์ไซต์ที่ตัวเองรักและมันก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการจ้องมองโทรศัพท์ของผม ผมรอภีมที่จะตอบกลับมา

 

ภีมกลับมาอวยพรวันเกิดผมในวัย 23 ปี

 

ใจผมหาย ผมส่งข้อความไปถามว่าตอนนี้ภีมอยู่ไหน ผมโทรหาภีมไม่ติดและไม่ได้ยินเสียงของเขามาเป็นปี ช่วงเวลานั้นผมเครียดและทุ่มเทกับงาน ไม่อยากคิดมาก เอาเวลาไปเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย กลับมาจะได้หลับเป็นตายไม่ต้องนอนคิดถึงตอนที่ตัวเองอยู่กับมัน

 

ผมรอที่จะเจอภีมอย่างใจจดใจจ่อ แต่การติดต่อกลับมาคือข้อความอวยพรวันเกิดสั้นๆ ทุกปี ผมมองมันผ่านม่านน้ำตาตัวเอง เฝ้าแต่คิดและหาเหตุผลว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเมียผมกันแน่ ตอนนี้ภีมอยู่ที่ไหน ผมร้องไห้อย่างไม่อายถึงแม้รูปร่างหน้าตาตัวเองเปลี่ยนไป โตขึ้นขนาดไหน แต่ผมอ่อนแอเมื่อนึกถึงมัน ได้แต่มองโทรศัพท์ตัวเองซ้ำๆ

 

นี่ผมบ้าไปแล้วจริงๆ

 

ผมกำลังฝัน กำลังเพ้ออะไรอยู่ ผมมองข้อความอวยพรวันเกิดในวัย 25 ปีของตัวเองด้วยมือสั่นๆ มองข้อความสั้นๆ จากมันและคิดกับตัวเองว่ากำลังรออะไรจากมันกันแน่

 

และสิ่งที่ตัวเองกำลังรอมันมีจริงไหม

 

ภีมที่ผมรักอยู่แห่งหนไหน หรือใครกันแน่ที่ส่งข้อความนี้มาทุกๆ ปี ใครก็ได้ช่วยตอบผมทีว่าภีมยังมีชีวิตอยู่ ยังรออย่างที่ผมเพ้อผมฝันอยู่ ผมได้แต่นอนร้องไห้

 

"ลืมเด็กนั่นไปซะปอ มึงโตจนป่านนี้ยังมาหวังอะไรล้มๆ แล้งๆ อีกวะ ป่านนี้มันไปมีผัวใหม่แล้ว" เสียงพี่ชายของผมบอกขณะที่ยังนั่งมองโทรศัพท์ตัวเอง มองข้อความที่ภีมส่งมาให้

 

"กูจะรอ กูจะพิสูจน์ให้มึงดู"

 

แม้กูจะกลัวแค่ไหนก็ตาม

 

ทิ้งร่างของตัวเองพิงพนักโซฟาบนล้อบบี้กว้างขวางในโรงแรม ตอนนี้ผมมาหาแม่ที่ยังบินกลับมาเยี่ยมเป็นระยะๆ แม้เขาทั้งคู่จะเลิกกันแต่ก็ยังติดต่อ พูดคุยกันเหมือนเดิม ตอนนั้นผมยังเด็ก ยังเอาแต่ใจ จำได้ว่าแม่ตบผมมาทีด้วยความโมโหจากความรั้นไม่เข้าเรื่อง และบอกความจริงมา

 

"แม่เป็นคนผิดเอง แม่เป็นคนขอหย่าเพราะแม่คิดว่าตัวเองไม่สามารถเป็นภรรยาที่ดีให้พ่อของลูกได้ แม่ไม่เคยทำหน้าที่ภรรยาให้กับเขาเลย ไม่เคยอยู่ข้างๆ เขาเวลาที่เขาต้องการแม่ แม่ไม่อยากให้พ่อของลูกเสียใจ แล้วก็แม่น่ะคิดว่าแม่รู้ตั้งนานแล้วว่าพ่อของลูกเป็นเกย์"

 

ผมไม่ค่อยเข้าใจแม่เท่าไรนักตอนพูด แต่แม่โกรธที่พ่อยอมรับเอาความผิดเก็บไว้กับตัวเอง ปล่อยให้ผมเข้าใจเขาผิด

 

"ที่แม่บินไปต่างประเทศเพราะแม่อยากไปทำงาน อยากไปตั้งใจทำงาน แล้วเลือกที่จะพาเปรมไปด้วยเพราะเขาโตพอที่จะเข้าใจแม่ได้ ปอยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจอะไรแบบนี้"

 

ใช่ ผมไม่เข้าใจแม่จริงๆ

 

"ลูกมันโง่ ที่พ่อเขาอยากให้ลูกอยู่กับเขาเพราะเขารักลูก อยากดูแลลูก"

 

แต่ไม่เข้าใจพ่อมากกว่า ผมร้องไห้มองพ่อตัวเองที่เอาแต่ปรามไม่ให้แม่ต่อว่าผม ไม่ให้แม่ดุผมที่ทำตัวแย่กับเขา ผมเสียเวลาเอาแต่ใจมาตลอดทั้งๆ ที่พ่อก็รักผมมากขนาดนั้น

 

แม้เขาจะเป็นเกย์ แต่ผมก็รับรู้ว่าพ่อเสียใจที่แม่จากไป

 

ผมมันเอาแต่ใจ มารู้ทีหลังก็เมื่อสาย ผมกอดท่านและได้แต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น ได้ยินเพียงเสียงปลอบและคำว่าไม่เป็นไรตลอดเวลา มันทำให้ผมมีกำลังใจ สุขใจที่เข้าใจท่าน

 

กับพี่ชาย ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับมัน ผมเฝ้ารอให้ภีมกลับมาเท่านั้นให้มันได้เห็นว่ารักของเกย์ ไม่ได้มีจุดจบแค่เรื่องอย่างว่าอย่างเดียว เราเองก็มีรักแท้ได้เหมือนกัน

 

แต่เมื่อไร ผมไม่รู้...

 

แม้อ่อนแอ ตื่นมาผมต้องเข้มแข็งกลับไปทำงาน ผมซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้แล้ว ย้ายของที่เป็นของตัวเองออกจากโรแรมมาอยู่คนเดียว แต่ก็ยังกลับไปเยี่ยมพ่อบ้าง สิ่งของที่เคยใช้ร่วมกับเมียยังอยู่ดี ตุ๊กตาแฝดภีมยังนั่งยิ้มส่งมาให้ บางทีผมก็คิดว่าผมอาจบ้าไปแล้ว

 

ผมถอดใจครั้งแล้วครั้งเล่า

 

แต่นึกถึงวันที่สัญญา ผมคิดว่าภีมจะไม่จากผมไปไหน จะไม่ผิดสัญญาจนกว่าจะตายจาก หรือภีมอาจตายไปแล้ว มันทำให้ผมร้องไห้และคิดว่าภีมอาจคิดถึงผมมาก ผมคิดอยากตายเลยด้วยซ้ำ

 

แต่มันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้น ผมเฝ้าแต่ภาวนาขอให้โชคตะตาไม่เล่นตลกกับผม

 

ไม่ฆ่าไอ้สารเลวอย่างผมด้วยวิธีนี้

 

หลายครั้งที่ผมเจอคนที่ดีเข้ามาในชีวิต ผมเปิดรับอย่างที่ภีมเคยบอก แต่ก็ไม่เคยรักมากกว่าที่ผมรักภีมเลยสักนิด ผมพยายามทำใจให้ตัวเองรักเขา แต่ทำไม่ได้ ถ้าผมต้องนอกใจเมียตัวเอง ผมทำไม่ได้ ถ้าคิดว่าภีมกลับมาต้องเสียใจที่เห็นผมรักคนอื่น

 

เป็นร้อยๆ โพสต์ที่ผมส่งไปหามัน ผมหวังว่าสักวันมันจะตอบกลับมา

 

เฝ้าเปิดดูทุกวัน วันละหลายๆ รอบ แต่ไม่มีสักข้อความ

 

ผมมันบ้า บ้าชิบหาย!

 

 

ผมพาร่างตัวเองเดินเอื่อยๆ ลงบันไดโรงเรียน ตอนนี้ผมรับหน้าที่เป็นอาจารย์พ่วงอีกตำแหน่ง ถึงจะไม่ได้จบสูงแต่เพราะผมสร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียนไว้มาก จึงได้รับเกียรติให้มาเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์แก่เด็กๆ

 

มองสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้วหลายอารมณ์ตีอก มองเด็กๆ ที่ผมเคยคิดว่าช่วงเวลานี้ตัวเองโตพอแล้ว คงจริงอย่างที่ภีมบอก เรายังเด็กเกินไปที่จะรักกัน

 

“อาจารย์ครับ”

 

เสียงจากใครสักคนเรียกให้ผมหันกลับไปมอง เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินยิ้มมาหาพร้อมกับสาวเท้าเดินพร้อมๆ กัน “ขอบคุณมากนะครับที่เสียเวลามาสอนพวกเรา ผมชอบคำที่อาจารย์พูดมากๆ ที่บอกให้รู้ค่าของเวลา”

 

ผมหันไปมองคนพูด “ฉันดีใจนะที่เธอชอบ”

 

“อาจารย์คงมีประสบการณ์ตรงสินะครับ ผมคิดว่างั้นนะ คนเราจะไม่เข้าใจอะไรง่ายๆ ไม่ประสบด้วยตัวเอง”

 

“ก็คงใช่…”

 

คนที่เดินข้างผมเงยมามอง ก่อนจะนิ่งเงียบไป “อาจารย์…ดูเศร้าๆ นะครับ”

 

“ทำไมคิดงั้น?”

 

“ก็ดวงตาอาจารย์มันดูหม่นหมองไม่มีชีวิตชีวาเลย”

 

“สบตาฉันแล้วเหรอ?” ผมว่าพลางยกยิ้มกับตัวเอง คิดแล้วยิ้ม “เธอเหมือนใครบางคนเลยแฮะ คนที่ฉันรู้จักดี…”

 

คนที่เดินข้างๆ เงยหน้ามามองพลางเกาหัวตัวเองสงสัย ผมสาวเท้าไปเงียบๆ รออีกฝ่ายถาม “ใครกันนะ?”

 

“ชอบสังเกตแล้วคิดเองเออเองคนเดียว ไม่ไหวเลย…”

 

ผมบ่นกับตัวเอง ดวงตามองออกไปไกลแสนไกลเมื่อนึกถึงคนที่กล่าวออกมา

 

ภีม…

 

ตอบทีว่าภีมอยู่ที่ไหน ตอบทีว่าภีมยังอยู่ดีไหม กินข้าวตรงเวลาไหม ดูแลสุขภาพดีไหม ผมอยากได้ยินคำตอบ ไม่อยากเดาแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

 

ผมเสียใจ เมื่อนึกถึงก็พาลให้ผมเศร้า ร่างของผมหยุดชะงักพร้อมกับปวดหนึบที่อก ขาไม่มีแรงขึ้นมาเฉยๆ

 

“อาจารย์ อาจารย์เป็นอะไรครับ?”

 

“เปล่า ฉันโอเค…” ผมว่าพลางเงยขึ้นไปมองนักเรีบนที่ก้มมองด้วยสีหน้าตกใจ ยกมือบอกว่ายังไหว ยังไม่ได้เป็นอะไร

 

เวลาล่วงเลยมากว่าห้าปี ผมพร้อมทุกอย่างแล้ว แล้วเมื่อไรภีมจะพร้อม

 

ผมอยากรู้

 

ช่วงเวลาที่รอนี้ผมเจ็บปวดมากกว่าสุขใจ ผมอยากบอกให้ภีมหยุดมัน หยุดมันที ใจผมทรมานจนแทบไม่เหลือความรู้สึก เมื่อไรภีมจะกลับมาหา มานอนอยู่ข้างๆ อย่างเคย

 

อีกกี่ปี หนึ่งปี สองปี ห้าปี สิบปี ยี่สิบปี

 

หรือตลอดไป…

 

“ผมเคยได้ยินมาว่าอาจารย์เรียนที่นี่ อาจารย์ป๊อบมากเลย” คนที่ยืนข้างๆ ว่า พร้อมกับยกยิ้ม ผมหัวเราะหึในลำคอทั้งส่ายหน้า

 

“ตอนนั้นฉันยังเด็ก”

 

“เท่จะตาย…”

 

“ไม่เห็นเท่ตรงไหน สิ้นคิดเกินไปด้วยซ้ำ” ผมว่า

 

“ทำไมอาจารย์คิดงั้นล่ะ?”

 

“เพราะตอนนั้นฉันใช้เวลาให้เสียเปล่าไปนานเกินไป ทำให้วันนี้ฉัน…”

 

ทรมานขนาดนี้

 

“อะไรครับ?” เด็กที่ยืนข้างๆ ว่าพลางเดินตามผมมายังรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจ ผมยกมือล้วงหากุญแจในกระเป๋าพล่างส่ายหน้า

 

“ลาก่อนเจ้าหนู”

 

ผมยิ้มให้เจ้าตัวเล็กที่ยืนเกาหัวตรงหน้า ก่อนจะหยิบหมวกกันน๊อคมาสวม สตาร์ทรถแล้วบิดคันเร่งออกมาบนท้องถนนแสนกว้าง ลมเย็นทว่าแดดร้อนเท่าไร ผมไม่เคยหวั่น พยายามใช้ชีวิตที่ใครๆ ต่างบอกว่าเป็นชีวิตของผู้ใหญ่อย่างว้าเหว่

 

นี่หรือความเป็นผู้ใหญ่

 

ทำไมมันเป็นแบบนี้

 

ท้องถนนแสนกว้าง ผมพาร่างตัวเองไปยังร้านซ่อมขนาดใหญ่ที่ดูจะโอ่อ่าเกินไปสำหรับเจ้าของ ร่างผอมบางของมันเดินออกมันพร้อมกับรอยยิ้มอย่างเคย คนที่เอาแต่ยิ้มอย่างนี้ตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้มันสวมชุดช็อปที่เรียกได้ว่าสุดแสนจะโสโครก เนื้อตัวมอมแมม แถมยังปล่อยหนวดเคราไม่เข้ากับหน้าตา

 

อีกคนเดินออกมาตามหลังพร้อมรอยยิ้ม มันยกมือไหว้ผมเหมือนจะเคารพ แต่ผมรู้ว่ามันเลิกเคารพกันไปตั้งนานแล้ว “เป็นไงพี่ปอ ไปโรงเรียนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ไหมพี่?”

 

“เออ ใครมันจะสวีทหวานเหมือนพวกมึงวะ” ผมตอบมันไปพลางเบ้ปาก “คบกันตั้งนานยังไม่เบื่ออีก กูเป็นมึงทิ้งมันไม่มีเมียใหม่ตั้งนานแล้วกรีน คนอะไรสกปรกชิบหาย”

 

“เห้ยๆๆ ไอ้ปอ มึงจะมายุแฟนกูทำไม ทำเป็นอิจฉาไปได้ ก็กรีนมันรักมันหลงกูนี่” ไอ้เพื่อนมันหน้าด้านเถียงมาได้

 

“ใครบอกว่าผมหลงพี่?”

 

“เอ้า แล้วกรีนทนคบพี่มาได้ไง?”

 

สมยิ้มพลางส่ายหน้ากับไอ้สองตัวนี่

 

พวกมันหันไปเคลียร์กัน ผมเลือกที่จะเดินเข้าไปด้านในอย่างถือวิสาสะและความคุ้นชิน เห็นมันสองคนหยอกล้อกันเดินตามหลังมา ชั่วโมงนึกถึงความหลังของผมก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ผมเหงา ผมอยากคุยกับเพื่อน อยากหาให้สักคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

 

ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เมื่อคิดๆ แล้ว ห้าปีที่ผ่านมามันก็เร็วเหลือเกิน

 

พี่มีเรื่องตื่นเต้นๆ จะเล่าให้ฟังมากมาย เมื่อไรจะกลับมา กลับมาฟังพี่

 

กลับมาเล่าว่าภีมเจออะไรบ้างในเวลาที่เราห่างกัน

 

ผมจำได้ ว่าเคยบอกภีมไป ว่าความห่างไกลทำให้เรารู้ค่าของความคิดถึง ผมรู้แล้ว ผมรู้ซึ้งจริงๆ แล้วเมื่อไรโชคชะตาจะนำพาคนที่ผมรักที่สุดกลับมา

 

อีกกี่ปี…

 

 

 

 
 :heaven :heaven :heaven :heaven
อยากบอกว่าไรต์อ่านทุกบรรทัด ทุกวรรค คืองงว่า ภีมหายไปหนายยยยยยย!

พี่ปอคิดมากงะ คืออ่านแล้วน้ำตาไหลเอง หน่วงเอง สงสารนางงงงง

เจอกันตอนหน้านะคะ พาร์ทภีม แล้วจะได้รู้ว่าภีมหายไปไหน พาร์ทภีม ภีมเล่าตอนอายุเท่าไร แล้วภีมกลับมาไหม อ๊ากกกกก ไปร้องไห้ก่อน!

 
 :hao5: :hao5:
จะไม่สปอยเพราะใกล้ตอนจบลงไปทุกที ฮือออออ T T
 :mew4:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
รู้สึกเหมือนปอโดนเอาคืน 555

แต่ที่จริงเราว่าภีมคงคิดถึงมากๆเหมือนกันแหละ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
พี่ปออออออออออออออออออออออออออ
 :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2: :m2:
 :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8: :m8:
ทำไมต้องเป็นแบบนี้น่าสงสารปอ
อดทนไว้นะ

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :z3: :z3: ภีมหายไปไหนอะ  :katai1: หรือภีมได้คืบจะเอาศอก  :hao5:

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
รู้สึกเหมือนปอโดนเอาคืน 555

แต่ที่จริงเราว่าภีมคงคิดถึงมากๆเหมือนกันแหละ

 :katai5: :katai5: :katai5:
ที่เขียนให้ปอเลวแรก เพื่อรอวันนี่แหละค่ะ ล้างแค้น(ฮา)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด