**(22.11.57)**1 MONTH ตะครุบหัวใจนายเมียรักษาการ ตอนที่ 32|จบแล้วจ้า|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **(22.11.57)**1 MONTH ตะครุบหัวใจนายเมียรักษาการ ตอนที่ 32|จบแล้วจ้า|  (อ่าน 99312 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เห็นแววว่าจะกลัวเมียแน่ๆ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบจัง
ชอบนายเอกนิสัยแบบภีม ชอบอารมณ์ของเรื่องมากกก
ปล.ที่นี่สามารถลงฉากเรทได้จ้า แต่ไม่ควรจั่วหัวกระทู้ว่าเป็นตอนที่มี NC นะคะ

kcwndy1980

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไรจะลงตอนที่ 18 อะอยากอ่านจะคอยดูว่าเหล่าบรรดาเมียๆจะลองใจสามีแบบไหน

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
เมื่อไรจะลงตอนที่ 18 อะอยากอ่านจะคอยดูว่าเหล่าบรรดาเมียๆจะลองใจสามีแบบไหน

ไปอัพมาแล้วจ้า ลองเข้าไปดูใหม่น้า
 o13

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ยังไม่ทันได้เป็นเมีย ก็หงอแล้ว

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ขอจบสวยๆเถอะ

ถ้าจบแบบเศร้าก็ขอแนวพระเอกตายไรงี้
555 ล่อเล่นนนน

เรทลงได้แต่ไม่ต้องลงไว้หัวกระทู้ว่ามีNC
จะแรงแค่ไหนก็ลงมา กิกิกิกิกิ

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
สนุกมากเลยค่ะอ่านรวดเดียวเลย กลายเป็นติดไปซะแล้วอ่านที่นี่แล้วใจร้อนไปอ่านอีกที่ต่อ แถมมีกลับมาอ่านในเล้าใหม่ เป็นเอามากละ
บางทีก็คิดว่าน้องภีมดูมุ้งมิ้ง อารมณ์ผู้หญิงมากเกินไปค่ะ แต่มันก็ทำให้เราเอ็นดูปนหมั่นน้องนิดๆ 
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
สนุกมากเลยค่ะอ่านรวดเดียวเลย กลายเป็นติดไปซะแล้วอ่านที่นี่แล้วใจร้อนไปอ่านอีกที่ต่อ แถมมีกลับมาอ่านในเล้าใหม่ เป็นเอามากละ
บางทีก็คิดว่าน้องภีมดูมุ้งมิ้ง อารมณ์ผู้หญิงมากเกินไปค่ะ แต่มันก็ทำให้เราเอ็นดูปนหมั่นน้องนิดๆ 
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ชื่นใจเลยค่ะ
 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ 10

Part 1

 

ช่วงที่มันไม่ค่อยสบาย มันเป็นช่วงโปรโมชั่นของไอ้ปอจริงๆ จากที่มันคอยตามผมตลอด ผมต้องคอยปรนนิบัติพัดวีมันสารพัดราวกับเป็นลูกเมียน้อย ผมไม่ได้ค้างที่บ้านบ่อยนัก จะกลับไปก็ช่วงที่พ่อกับแม่มา หรือบางทีก็บอกท่านว่านอนบ้านเพื่อน ท่านมักจะฝากฝังผมให้อยู่กับเพื่อนเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเดิอนทางหลายรอบ ผมว่ามันก็ดีเหมือนกัน พ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องห่วง กลับมาหาผมบ่อยๆ

 

ก็อย่างที่ว่ามานั่นแหละ ผมยังไม่เสร็จไอ้ปอด้วยเพราะร่างกายตอนนี้เป็นต่อ แล้วก็ไม่มีทางที่จะต้องเสียแน่ๆ เพราะตราบใดที่มันยังใส่เฝือกอยู่แบบนี้ ถึงแม้มันจะคอยแทะโลมด้วยการกอดจูบ ผมว่ามันก็ดีกว่าเสียไปทั้งตัว อีกอย่าง มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีที่มันต้องการความรักต่อผม ก็ผมชอบมันไปแล้วนี่

 

แต่ใช่ว่าผมจะใจอ่อนยอมนอนให้มันเอาเพราะชอบมันนะ

 

มันหายปวดเข่า หัวที่แตกก็ตัดไหมแล้ว เดินได้คล่องปร๋อ มือข้างที่หักก็ขยับนิ้วได้สบาย จัดการธุระส่วนตัวได้แล้ว แต่มันก็ยังหาเรื่องเอาเปรียบให้ผมช่วยอยู่ดี จากที่ชอบพาผมออกไปกับมันข้างนอก มันเลือกที่จะชวนเพื่อนเข้ามาสังสรรค์ข้างใน ผมเกลียดที่ไอ้ต้นต้องมาด้วย ยิ่งในห้องแบบนี้แล้วยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่

 

สายตาของพี่พีและเพื่อนของมันก็ยังไม่เปลี่ยน ผมไม่สน คนที่ผมต้องสนคือไอ้ปอ แบบที่มันบอกผมไว้หลายต่อหลายครั้ง ไม่รู้ทำไมผมกลายเป็นคนเชื่อมั่นมันไปแล้ว

 

“ภีม มึงไปหยิบเหล้ามาให้เพื่อนกูซิ”

 

เสียงมันกวักมือเรียกผมที่นั่งปลีกตัวคนเดียวอยู่หน้าทีวีเพราะไม่กินเหล้ากับพวกมันทั้งกลุ่ม อีกอย่างผมไม่ชอบอยู่ร่วมวงกับเพื่อนมันด้วย ไม่ชอบสายตา ถึงจะมีบางคนชอบและแซวบ้าง แต่สายตาพี่พีกับเพื่อนมันนี่ผมรับไม่ได้ว่ะ

 

“จะแดกกันก็ไปหยิบเองดิ” ผมร้องกลับไปพลางกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีแสนซ้ำซากไปด้วย เสียงเพื่อนหัวเราะคิกคักกัน

 

“นี่มึงมีแม่มาเพิ่มแล้วเหรอวะ”

 

“มึงหุบปากไปเลยไอ้ภัทร ไอ้ภีม มึงจะลุกมาดีๆ หรือให้กูลุกไปจัดการ” มันว่ากับเพื่อนแล้วหันมามองผม

 

อะไรวะ ชอบมายุ่งกับกูจัง

 

“จะกินแล้วยังเรื่องมากกันอีก”

 

ปากของผมบ่นแต่ว่าตัวนี่ลุกขึ้นเดินแล้วครับ ความจริงผมไม่ได้กลัวมันซักนิดเดียว ผมสู้มันได้นะตอนนี้แต่เลือกที่จะไม่สู้มันมากกว่า ต่อหน้าเพื่อนมันผมอยากเป็นคนดีหน่อยเท่านั้นเอ๊ง นี่ไม่ได้เสียงสูงนะ

 

“เอ้า คราวหลังห้ามใช้กูอีก” ผมว่าพลางยื่นให้มัน ส่วนมันก็ยิ้มรับแล้วยื่นไปให้เพื่อน

 

“นี่น้อง เป็นเมียต้องรู้จักเอาอกเอาใจผัวถึงจะถูก ผัวใช้อะไรนิดอะไรหน่อยก็อย่าบ่นนักเลย เดี๋ยวเขาจะเบื่อเอาได้”

 

นี่มึงเทศน์อะไรวะพี่ คือกูเป็นผู้ชายไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือนจะเอาอะไรกับกูมากมายวะ ผมขมวดคิ้วตัวเองมองมันที่ยกแก้วดื่มทั้งที่แขนยังอยู่ในเฝือก ตาละมามองผมก่อนจะดึงผมเข้าไปหา อะไร…อะไรของมึงเนี่ย!

 

“ปอ กูอายเขา เมาแล้วก็อยู่ส่วนเมาสิวะ” ผมว่าพลางตีขามันเมื่อร่างกายถูกรั้งให้ไปนั่งบนตัก ใบหน้ามันแดงเพราะฤทธิ์สุราและยกยิ้ม

 

“คิดว่ากูเมาเหรอ หืม?”

 

ไม่เมาได้ไงกลิ่นเหล้าหึ่งขนาดนี้  ผมขมวดคิ้วใส่ไอ้ปอ ดึงมือมันที่กอดเอวออกจากตัวผมแต่แม่งทำไมมันแข็งแรงจังวะ มือของผมเองก็ขืนแรงปอมันสู้ต่อหน้าเพื่อนที่หัวเราะคิกคักกันยกใหญ่ กูไม่ขำ คือกูอาย!

 

“ไม่เมาก็ปล่อย กูจะไปดูทีวีต่อ” ว่าพลางชี้ไปทางโซฟาหน้าทีวี มันเลิกคิ้วถาม

 

“มึงสนุกเหรอ กูเห็นมึงดูแล้วก็หน้างออย่างกะพระจันทร์เสี้ยว”

 

ที่หน้าก็งอเพราะมึงแดกเหล้าไอ้สลัด

 

“เรื่องของกูน่า”

 

ผมส่ายตาหลบมัน คือมันไม่เมาจริงๆ ทั้งๆ พูดออกมากลิ่นเหล้ากระจายจนรับไม่ได้ มือผมบีบจมูกตัวเองกับควันบุหรี่และกลิ่นเหล้า ใบหน้าหยีแสดงถึงความรังเกียจที่มีให้ทั้งกลุ่มมันต่างจากไอ้ต้นที่นั่งชิลร่วมแดกกับกลุ่มแฟนตัวเองด้วย

 

“เหม็นเหรอ?”

 

“ก็เออดิ” ผมรีบตอบเมื่อถูกถามจากคนที่กอดเอว “ปล่อยได้แล้ว กูอายคนอื่นเขา กูไม่ได้หน้าด้านเหมือนมึงนะปอ”

 

“เออ ถูก” เพื่อนมันว่าเออออแล้วหัวเราะกันใหญ่

 

ผมอยากจะเดินหนีออกไปตั้งหลักสักสิบเมตร แค่นั่งใกล้ๆ กับพวกมันก็แทบจะเมาไปกับกลิ่นและควันบุหรี่ ยังดีที่ปอมันไม่สูบเหมือนคนอื่นเขา เรียนโรงเรียนช่างแต่ไม่จำเป็นต้องเสเพลเสมอไปนี่ แต่หันมาเจ้าชู้แบดบอยแทนน่ะนะ

 

 ผมปัดมือพร้อมทั้งถลึงตาใส่ปรามมันเต็มที่เมื่อมือหนาๆ ที่เกาะเอวลามปามมาหน้าท้อง

 

“ไอ้ปอ!”

 

“เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ เกรงใจพวกกูบ้าง”

 

“ถึงจะน่ากินยังไงก็อดใจหน่อยปอ มึงอะอย่าหื่นเกินเหตุพวกกูอิจฉา” นี่พวกมึงจะห้ามหรือจะยุกันวะพี่ ผมหันไปมองพวกมันพลางดึงมือไอ้ปอออกจากตัวเอง

 

“ปอ มึงเมาแล้ว” ผมว่ากับมัน มือหนึ่งก็บีบจมูกมือหนึ่งก็ดึงมือหนวดปลาหมึกมันออก

 

“อยู่เฉยๆ”

 

ใครมันจะไปอยู่เฉยได้วะ ผมหลบหน้าของมันที่โน้มจะมาจูบ พอเบี่ยงหลบแม่งก็ซุกลงบนคอแล้วก็จูบๆ เลียๆ อยู่นั่น ผมนี่ย่นคอหลบไม่ทัน หูเหอโดนมันทำหมด โอย กูทำหน้าไม่ถูก ทั้งรู้สึกดีกับลมหายใจอุ่นๆ ของมันทั้งอายเพื่อนมันไปด้วย

 

เมาแล้วหื่นไอ้นี่

 

ทำไงจะออกไปได้วะ

 

“ปอ มาเปายิงฉุบกัน ถ้ามึงแพ้มึงปล่อยกู” ผมร้องว่าพลางเบี่ยงคอหลบจมูกมันที่ซุกลง มันชะงักและฝังปากลงงับหูผมอีกครั้ง สัด! แม่งสยิวขนลุกชันเลย

 

มันเงยมาจ้องตา “ถ้ากูชนะล่ะ?”

 

เออว่ะ กูยังไม่ได้คิด ผมกลอกตามองเพื่อนมันที่ยิ้มและพูดคุย บางคนเลิกสนใจและหันไปคุยกันเอง บางคนก็ละสายตามามองหนังสด เอ๊ย! ความหื่นของมัน

 

แล้วมันก็ว่าต่อ “ถ้ากูชนะ คืนนี้มึงออนท็อปให้กูไหม?”

 

“ไม่อย่างแน่นอน!” ผมร้องว่าทันทีเรียกให้เพื่อนมันหันมาอีกครั้ง ไอ้ปอมันหลุดยิ้ม

 

“งั้นมาเป่าสิ ถ้ามึงชนะก็จะปล่อย ถ้ากูชนะเดี๋ยวค่อยคุยกัน”

 

ได้ กูรอมานานแล้ว

 

ผมพยักหน้ารับ เมาๆ แบบนี้ผมชนะชัวร์ ว่าแล้วนั้นผมก็กำมือของตัวเองเป็นการเริ่ม มันเองก็ยกมือขึ้นมาเหมือนกัน ดังนั้น ไอ้ผมก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีตามแผนที่วางไว้พร้อมกับรอยยิ้มที่เหนือกว่าให้มันที่เงยมองอึ้งๆ

 

“ใครจะไปท้าโดยที่จะมีโอกาสชนะแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์วะปอ เพราะยังไงกูก็ชนะร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ไอ้โง่ แบร่…”

 

ผมแล่บลิ้นให้มันที่อ้าปากค้างพลางชี้หน้าจะต่อว่าแต่ไม่ทัน เพราะตัวผมเดินลอยหน้าลอยตาออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของเหล่าเพื่อนๆ ที่ทับถมมันยกใหญ่กับการพ่ายแพ้และถูกหลอกครั้งนี้

 

รู้จักกูน้อยไปล่ะสิปอ มึงประเมินกูต่ำไป ฮ่าๆๆๆ

 

ดวงตาผมละไปมองไอ้ต้นที่นิ่งมองผมเงียบราวกำลังคิดอะไรอยู่เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ของผมกับไอ้ปอ ดวงตามันเหมือนจะไม่ได้คิดอะไร แต่ใบหน้าตอนที่มันถูกพี่ธามกอดจูบไม่มีความสุขสักนิด มือมันผลักไสเขาออกราวกับกำลังลำบากใจ คนแบบมันต้องการคนมากอดสักกี่คนกันนะ เท่าไรถึงจะพอใจให้มันหยุดได้ หรือมันร่านผู้ชายขนาดที่กี่คนกี่คนก็ยังไม่ถึงใจ

 

กูไม่อยากคิดกับมึงร้ายๆ หรอกนะต้น แต่มึงทำตัวเอง ทำให้กูคิดกับมึงแบบนั้นเองจริงๆ

 

มันนิ่งมองผมที่นั่งมองมันจากโซฟาตัวนี้ท่ามกลางคนอื่นๆ ที่กำลังสนุกสนานเฮฮา ตั้งแต่ผมเห็นมันมีอะไรกับไอ้ปอก็ถือว่าสุดที่จะทนแล้ว ทว่าตอนนั้นผมยังไม่ได้รักไอ้ปอไงเลยไม่ทันได้ถือสา โทษไอ้ปอที่เจ้าชู้เอง แต่นี่มันไม่ได้แอบนอนกับไอ้ปอคนเดียว มันนอกใจพี่ธามหลายต่อหลายครั้ง ผมไม่อาจทราบว่ามันทำแบบนี้ทำไม อยากรู้แต่ไม่อยากถามและไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

 

ช่างมันเถอะ ผมไม่อยากคิดแล้ว มันจะเป็นอะไรนอกใจใครก็ตามใจมัน ผมไม่เกี่ยว

 

 

ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนอนในห้องซึ่งหลบความวุ่นวายเข้ามาพักผ่อน ง่วงนอน วันหยุดทั้งทีต้องมาเจอกับพวกขี้เหล้าเมายาตั้งแต่บ่ายๆ ตาที่ไม่ได้จัดว่าโตมากของผมแหงนไปเห็นโมเดลรถมอเตอร์ไซต์คันเดิมวางอยู่บนหัวเตียงของปอแล้วเอื้อมไปหยิบมันมาพิศ นี่มันเรียกว่าอะไรนะ CBR เหรอ ถ้าปอมันขับคงเท่น่าดู

 

ให้มันกินกันไปเถอะ อย่างน้อยคืนนี้ปอมันก็ไม่มาหาเรื่องปล้ำผมเพราะเมาแอ๋นั่นแหละ ผมนอนมองเพดานห้องต่อหน้าแล้วถอนใจพลิกตัวนอนตะแคง นี่ผมคบกับมันผ่านมากี่วันแล้วนะ มือของตัวเองทั้งสิบก็ยกขึ้นมาไล่นิ้วนับตั้งแต่วันแรกที่ตกลงคบกับมัน ตาที่จะพริ้มหลับของผมเลื่อนลอยออกไกลเมื่อนับจบถึงวันนี้ เหลืออีกแค่สองอาทิตย์อย่างนั้นเหรอ

 

ปอมันถอดเฝือกวันไหนนะ มันไม่ได้บอกผมเลย จะทันได้เห็นมันถอดรึเปล่า

 

ไม่เอา ต้องคิดว่าเหลือตั้งสองอาทิตย์สิ

 

วันเวลามันผ่านมาไว กลัวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นวันสุดท้ายที่ต้องคบกับมัน ใจผมสั่นหวิวแปลกๆ มือยกกำที่อกข้างซ้าย ทุบมันรัวๆ อย่าเต้นแรงนัก

 

 

โอย ปวดหัวชิบ

 

ความมืดมิดในห้องและความเงียบเชียบภายในหัวนี่มันคืออะไร ผมยกมือกุมหัวดวงตากวาดไปมองหน้าต่างที่มีแสงไฟสาดเข้ามาสลัวๆ แล้วมองออกไปยังประตูที่ปิดสนิท ทำไมข้างนอกมันเงียบ มือควานหานาฬิกามาดู บ่งบอกเวลาว่าเป็นเวลาถึงสองทุ่มกว่าๆ แล้ว นี่ผมหลับไปตอนไหนวะเนี่ย ปวดหัวก็ปวด

 

ร่างของผมลุกขึ้นจากเตียงนอนไปเปิดประตูหาคนข้างนอก เหลือบไปเห็นขี้เมาหลายคนนอนเอกเขนกกองกันเป็นกองศพเหม็นๆ อยู่ ตาผมกวาดหาไอ้ปอ เห็นร่างมันนอนอยู่บนโซฟา ยังดีที่ไม่ไปกองรวมกับคนอื่นไม่งั้นกูปล่อยมึงนอนท่านี้ยันเช้าแน่ มือผมเอื้อมไปสะกิดมันให้ลุกขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าหาข้าวหาปลากิน

 

มันเออออห่อหมกแล้วก็นอนต่อ ปล่อยให้ผมยืนเกาหัวมองมันไปด้วยความอยากถีบให้ตกโซฟา พอเมาล่ะเหมือนหมาเชียวนะมึง

 

ร่างของผมทรุดตัวนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับที่มันนอนอยู่ ก้มลงไปแอบจูบแก้มมันทีหนึ่งด้วยความหมั่นเขี้ยว ตอนมันหลับน่ะน่ารักนะ ผมยิ้มแล้วหันมองสภาพห้องไปด้วย นี่มันรังหนูชัดๆ เลย สกปรกจริงๆ คิดแล้วนั้นก็เดินตามเก็บของ เศษขวดเหล้าเศษบุหรี่ แก้วเหล้าและที่เขี่ยบุหรี่รวมถึงยกผ้าห่มในห้องมาคลุมตัวพวกพี่ๆ ที่นอนก่ายกันอยู่นี่ด้วย

 

ผมถอนใจจะเดินเอาพวกจานไปเก็บทว่ากลับได้ยินเสียงอะไรสักอย่างในห้องน้ำที่อยู่นอกห้องนอน เออว่ะ ไอ้ต้นกับพี่พีมันหายไป ใจผมที่ว่าดีก็ตกลงมาชาวาบและมองประตูที่เปิดออกมา มันสองคนเดินออกมาพร้อมจัดเครื่องแต่งกายตัวเองไปด้วย เท้าที่ว่าเดินอย่างเบาตัวออกมาชะงักเมื่อเห็นผมยืนมองอยู่ทั้งคู่

 

เหอะ โคตรมั่วเลยว่ะ ผมส่ายหน้าระอากับมันสองคนเต็มที โดยเฉพาะไอ้พี่พีที่เห็นว่าผมรู้เรื่องของมัน หน้าเปลี่ยนสีราวกับกำลังทำตัวไม่ถูกในสิ่งที่ถูกจับได้

 

ผมไม่ว่าอะไร เดินเอาของมาเก็บเงียบๆ บนโต๊ะอาหาร เดี๋ยวให้แม่บ้านมาเก็บพรุ่งนี้ ว่าแล้วก็เดินกลับมาปลุกให้ไอ้ปอมันลุกขึ้นไปนอนเตียง

 

“ภีม…” เท้าของผมชะงักเมื่อใครสักคนเรียก ร่างหันขวับไปมองคนที่ตัวสูงกว่าเดินมาหยุดต่อหน้า

 

“ห้ามบอกไอ้ธาม”

 

เหอะ นี่มาสั่งกูเหรอ พวกมึงเล่นขายของอะไรกันอยู่วะพี่ ผมหันไปมองไอ้ต้นที่ยืนอยู่หลังมันก่อนจะหลุดหัวเราะ หัวเราะแบบไม่เชื่อในหูตัวเอง แบบประมาณว่า นี่กูกำลังเผชิญกับเรื่องอะไรอยู่วะเนี่ย

 

บ้าจริงๆ

 

“เอาเลย จะทำอะไรก็เชิญเลย” ผมว่าพลางยักไหล่ไม่สนใจ

 

มันมองตาผมเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง “หมายความว่าไง?”

 

“เอ้า หรือจะให้บอกพี่ธามล่ะ” ผมว่าเมื่อพี่พีมันสวน มองด้วยหน้างงๆ

 

“มึงคงจะไม่ตลบหลังกูนะ”

 

“พวกพี่น่ะอย่าเอาผมไปเกี่ยวด้วยแล้วกัน ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแค่ผ่านมาเห็นเฉยๆ”

 

“ขอบใจ”

 

“ถ้าพี่ธามรู้ความจริง พี่น่ะไม่ผิดหรอก” ผมว่าพลางละสายตาไปมองอีกคน

 

“กูต่างหากไปยุ่งกับมันก่อน”

 

นี่พี่พีมันไม่รู้เหรอว่าไอ้ต้นไม่ได้มีมันแค่คนเดียว ผมส่ายหัวกับเรื่องวุ่นๆ ต่อหน้าแล้วเดินเลี่ยงออกมาเฉยๆ คือกูทนดูไม่ได้แล้วกับความมั่วของพวกมัน ตัวผมก้มไปปลุกไอ้ปอให้ตื่นทว่ามันสองคนเดินตามมา

 

“มึงต้องมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน ไม่งั้นกูจะบอกไอ้ปอ”

 

“บอกเรื่องอะไร?” ผมหันไปว่า

 

“เรื่องที่มึงจะไม่ยอมนอนกับมันไง มึงรู้ไหมมันรอมึง รอให้ถึงวันนั้นใจจะขาด ถ้ามันรู้ว่ามึงไม่มีวันที่จะยอมมันล่ะก็นะ…”

 

ผมเบิกตาตัวเองในสิ่งที่มันขู่

 

“เอาสิ คิดว่าปอมันจะสนใจเหรอเพราะทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้ยอมมันง่ายๆ อยู่แล้ว”

 

“มึงลองดูไหมล่ะ คนแบบกูทำให้มันเปลี่ยนใจทำมึงได้ก็แล้วกัน” มันเดินมาว่ากับผมเสียงเบา ทำให้ผมรู้สึกขัดใจตัวเองกับรอยยิ้มแห่งความชนะของมันที่เห็นว่าผมกำลังกลัว ถ้าปอมันใช้กำลังกับผมเหมือนวันนั้นอีกผมสู้มันไม่ได้แน่

 

“เก็บความลับไว้ให้มันดีๆ ก็แล้วกัน”

 

ผมว่าเสียงเบา มือเขย่าไหล่ของปอให้มันตื่นเมื่อสองคนนั้นเดินละออกไปอยู่อีกมุม ปอมันเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสีหน้างัวเงียพลางลุกขึ้นนั่ง ทำหน้าแบบนี้โคตรเหมือนเด็กเลย ไอ้เด็กน้อย



ต่อพาทสองค่า

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ตอนที่ 10

Part 2




ผมกอดเอวพยุงมันท่ามกลางสายตาของทั้งสองคนนั้น พามันเข้าห้องไปนอนบนเตียงดีๆ เสียงมันหายใจติดขัดมือข้างไม่หักก็กอดคอผม


“มึงคุยอะไรกัน?” มันว่าเสียงเบา ผมปล่อยให้มันทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียง นี่มันได้ยินด้วยเหรอวะเนี่ย

 

“เปล่าหรอก นั่งด่าที่มึงเมาเหมือนหมานี่แหละ” ผมปัด

 

“เหมือนหมาอะไร”

 

“ชิวาวามั้งไอ้นี่ จะนอนก็นอนไป” ผมว่าพลางผลักจะให้มันล้มตัวลง แต่แม่งมันกอดเอวรั้งให้ผมลงทับตัวมันไปด้วย ผมร้องเหวอมองหน้ามันที่ลืมตาสลึมสลือมองมายังใบหน้าของผม ร่างของผมชะงักนิ่งเมื่อมันเอื้อมมือมาดึงคอผมเข้าไปจูบ

 

แต่แหวะ แม่งเหม็น

 

“ไม่เอา กูเหม็นเหล้า”

 

“น่า นิดเดียวนะเมียจ๋า”

 

“ใครเมียมึง?” ผมว่า พร้อมกับความร้อนแล่นขึ้นมาบนใบหน้าฉับพลันกับคำอ้อนน่ารักๆ ที่มันหลุดออกมาจากปาก บนใบหน้าหล่อเหลาของมันพอพูดอะไรแบบนี้แล้วทำผมเขินได้ไม่ยาก ปอมันยกมือมาแตะปากที่เม้มติดกันเบาๆ ของผมพร้อมกับกล่าวไปด้วยว่า

 

“ก็คนนี้ไง เมีย…”

 

เห้ย!

 

“อื้อ…”

 

ดวงตาของผมลุกวาวเมื่อมันเคลื่อนมือไปท้ายทอยและรั้งผมเข้าไปจูบแบบกะทันหัน ปากมันร้อนและนุ่ม แต่ละสัมผัสที่มันทำให้โคตรรู้สึกดี ทำให้ดวงใจของผมกระตุกวูบกับความอ่อนโยนและร้อนแรงในคราวเดียวกัน ดวงตาเคลิ้มหลับลงรับจูบและตอบสนองมัน จูบด้วยอารมณ์ที่ก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ยากที่จะดับได้แล้ว ผมไม่ได้รังเกียจมันเหมือนเมื่อก่อน มีแต่ความโหยหาเช่นเดียวกับมัน

 

มันดูดปากผมแน่น เบาและแรงผสมกันไป ก่อตัวเป็นความรู้สึกแปลกที่วิ่งวนในท้อง ขนผมลุกซู่เรียกอารมณ์อื่นตามหลังมาด้วย เสียงปากเราสัมผัสกันดังอยู่ในหัว เนิ่นนานจนผมต้องส่งเสียงปรามในลำคอตัวเอง

 

ปอมันผละปากออกมาจ้องตาผม มองริมฝีปากของผมที่เม้มกัดกันแน่นจ้องตามันตอบด้วยความไม่รู้ว่าความหมายของมันคืออะไร มันหยีหน้าตัวเองเบี่ยงหลบไปทางอื่นเก็บกลั้นอารมณ์ ใช่ มันเมา เข้าใจว่าควบคุมความต้องการตัวเองเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้

 

“ปอ…” ผมมองมันที่นอนตาฉ่ำกอดเอวรั้งผมไว้แน่น จะดิ้นยังไงก็ไม่ยอมหลุด

 

กลีบปากนิ่มๆ มันจูบแก้มผมพร้อมเสียงหายใจติดขัดตัวเอง มือขยับเคลื่อนมาไล้เอว ผมสะดุ้งมองหน้ามันไม่ให้หลุดครางกระตุ้นอารมณ์อยากของมันไปด้วย จะลุกก็ไม่ได้ ได้แต่จ้องตาหาความหมายที่แท้จริงของมัน

 

“ภีม กูทนไม่ไหว” มันว่าผ่านความเงียบ ดวงตาผมเบิกขึ้นกว้างรู้ถึงความหมายแล้ว

 

“เอ่อ คือว่า…”

 

มันลุกขึ้นนั่ง ดึงมือผมเข้าไปกุมแน่นและแนบปากจูบอีกระลอก ลิ้นไล่เกี่ยวกระหวัดลิ้นผม ลมหายใจผมติดขัดกับความร้อนและการผ่อนปรนอารมณ์ของคนที่กระทำ มือมันซุกซน แม้จะมีใช้ข้างเดียวแต่ไล่จับไปแต่ละส่วนที่ทำให้ผมขนลุกซู่ กระหน่ำจูบผมซึ่งแทบจะรับไม่ไหว

 

“ทนไม่ไหว…แล้วว่ะ” มันสั่น มือสอดเข้าชายเสื้อลูบไล้หลังและเอวผมเบาๆ กลืนน้ำลายตัวเองดับอารมณ์ไปพลาง

 

ผมสงสารมันว่ะ

 

“นะภีม…”

 

มันกำลังขอผม…

 

เสียงมันพร่าแหบและเบาหวิว แนบปากจูบหลังหูผมและขยับมางับติ่งหู ปากมันนุ่มนิ่มและไม่สากเลยสักนิด พรมจูบแก้มผมเบาๆ ราวกับกลัวมันเป็นรอย ผมเม้มปากเก็บอารมณ์ตัวเอง จากสงสารกลายเป็นตอบสนองมือของมันที่เคลื่อนมาไล้ตรงหน้าอก เลื่อนลงมาหน้าท้อง บั้นเอว วนอยู่แบบนั้น

 

“จูบก็พอแล้ว” ผมว่าเสียงเบา ปอมันกดปากลงบนคอผม เม้มแน่นจนเกิดเสียง กอดรั้งผมเข้าหาพร้อมเสียงหายใจที่ดังกระเส่าบอกอารมณ์ตัวเอง

 

“พี่ทำไม่ได้แล้วภีม โธ่!” มันกัดผมระบายอารมณ์ ผมหยีหน้ากับความเจ็บทั้งยกมือจับเส้นผมมันไปด้วย กอดมัน ลูบหัวมันปลอบใจ

 

ในใจผมสั่น พอเห็นมันพยายามอดทนต่อความต้องการตัวเองแล้วสงสาร

 

ก็ผมรักมัน เห็นมันเป็นแบบนี้ผมเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน

 

“พี่อยาก…นอนกับภีมจะแย่” มันว่าเสียงเบา เคลื่อนหน้ามาจูบแล้วล้วงมือเข้าไปในกางเกง ผมสะดุ้งเพราะตัวเองก็ตอบสนองมันไปแล้ว ยิ่งโดนมืออุ่นๆ ของมันแล้วผมกลับรั้งสติตัวเองไม่อยู่

 

“อย่า ปอ…”

 

มันเลียคอ เลียหู เสียงกระเส่า “อย่าดื้อ…นะครับ”

 

ผมไม่เห็นสีหน้ามันเลยตอนพูดคำนี้ออกมา เพราะทุกครั้งมันจะทำหน้าดุๆ ใส่และบังคับ วางอำนาจเต็มที่ แต่ครั้งนี้น้ำเสียงมันเว้าวอนผม ผมดันหน้ามันออกจากคอตัวเอง มันกอดเอวดึงรั้งเข้าหาตัวเองแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าเหมือนจะบอกว่ามันจะคลั่งแล้วตอนนี้

 

“ภีม พี่อยากครอบครองภีมไปทั้งตัว จะบ้าตายแล้วเนี่ย…”

 

เออ กูก็จะคลั่ง แต่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย

 

“ใจเย็นๆ นะปอ…”

 

“ไม่ มันหยุดไม่ได้แล้วภีม มันเจ็บจะตายอยู่แล้ว นะภีม นะครับคนเก่ง”

 

ผมส่ายหน้ากับเสียงเว้าวอนน่าสงสารของมันไม่ให้ใจอ่อน โอย ปอมันน่าสงสาร เสียงมันสั่นและหายใจติดขัด

 

อารมณ์มันกำลังจะปะทุ ไม่ต่างอะไรจากผมที่กำลังตื่นตัวจากมือของมันกำลังช่วย ผมกลืนน้ำลายเก็บน้ำเสียงแห่งความสุขที่จะออกมา อดที่จะดึงมันไปจูบและครางในลำคอตัวเองไม่ได้ ปอขยับมาแนบปากจูบ เล่นลิ้นไล่ตวัดลิ้นผม มือก็ไม่ยอมหยุดช่วยปรนเปรอให้

 

นุ่มนวล เก่งกาจ ผมพริ้มตาเชิดคอรับความรู้สึกนี้

 

“อื้อ อื้อ…” ยอมรับเลยว่ามีความสุขสุดๆ กับมือของมัน เสียงของมันก้มเข้ามากระซิบเสียงพร่าบอกว่า

 

“ทำให้พี่ด้วยสิ ทำไปพร้อมๆ กัน” มือหนาๆ ละมาจับมือผมให้เอื้อมไปแตะของมันบ้าง ล้วงเข้าไปในกางเกงนอน ใจผมหายวาบกับความร้อนข้างในกางเกงของมันก่อนจะร้องครางเมื่อมันกลับมาจับและช่วยสาวให้ความสุขอีกครั้ง

 

เราจูบกัน เสียงริมฝีปากสัมผัสกันดังอยู่ในหัวเนืองๆ เอาไงดีวะ สมองผมตื้อเบลอมองมือตัวเองที่ซุกอยู่ในกางเกงของมัน เสียงปอมันหอบหายใจดังข้างหู ลมร้อนๆ โดนหู ขนผมลุก โคตรเสียวเลย เสียงมันร้องเมื่อผมแค่จะขยับมือออก

 

เอาวะ

 

แลกเปลี่ยนความสุขกัน ไม่ได้เสียตัวให้มันแล้วมันจะได้ไม่มาบังคับขอนอนด้วย ผมมองตามันนิ่งก่อนจะจูบปากมันขอร้อง

 

“ห้ามขอมากกว่านี้นะพี่ปอ ถ้าทำให้น่ะ…”

 

มันมองหน้าผมพลางก้มลงซุกมาในคอครางตอบ

 

“ครับ…”

 

ให้ตายเหอะ ตอนมันควบคุมตัวเองไม่ได้นี่โคตรน่ารักเลย มือของมันไม่ได้ละไปจากน้องชายของผมที่กำลังถูกกุมไว้เช่นกัน ผมขยับมือไปแตะของมันก่อนจะรู้สึกถึงขนาดที่โตเต็มที่ ทั้งร้อนและแข็งแรง มันโผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงจนถึงสะดือแล้วด้วย

 

ทำไมผมตื่นเต้นวะ

 

ปอมันครางต่ำข้างๆ หู เมื่อผมใช้มือกำ นิ้วหัวแม่มือบี้และไล้ส่วนหัวลื่นๆ บนแท่งกายของมัน ทำให้คนทำอย่างผมอดที่จะฮึกเหิมไปด้วยไม่ได้ เพราะมือของผมเองที่สามารถทำให้มันเป็นแบบนั้น รู้สึกถึงชัยชนะของตัวเองที่ควบคุมมันได้ แต่เชื่อเหอะมันก็ควบคุมผมอยู่ เราจูบปากกันเพราะอารมณ์ตอนนี้ครุกรุ่นกับรสมือของแต่ละฝ่าย

 

ทำไมผมรู้สึกเมื่อยมือเร็วกว่านะ ก็ขนาดมัน…เท่านิ้วก้อยนี่นะ

 

ไม่ใช่ละ เต็มไม้เต็มมือขนาดนี้

 

“อืม แบบนั้นแหละภีม…”

 

มันกระซิบ ละมือมาถลกเสื้อผมขึ้นแล้วก้มหน้าลูบไล้ลิ้นยอดอก ผมสะดุ้งกับอารมณ์ตอนนี้ รู้สึกเหมือนจะถึงจากการโดนลิ้นมัน ผมกลั้นหายใจตัวเอง พอจะถึงมันก็ละมือออกมาใช้ปากจูบ ลิ้นเลียมาบนตัวให้ผมเล่นสนุกกับมันอย่างเชี่ยวชาญ ผิดกันกับผมที่อยากให้มันเสร็จไวๆ ได้แต่เร่งมือสาวท่อนไม้ เอ่อ…สาวหนอนยักษ์ให้ มันแค่ทำเสียงพึงพอใจแต่ไม่เสร็จสักที

 

“ปอ อะ…อื้อ” ผมจะร้อง ปอมันแนบปากมาจูบเก็บเสียง ลมหายใจสั่นไหว

 

ผมเชิดหน้ากับความเสียวสะท้านในร่างกายขณะที่มันสาวมือระรัวและผละมาใช้ลิ้นเลีย ขบกัดยอดอกของผม ดูดเม้มสลับกัน ตัวผมเกร็งอยากผลักมันออกบอกให้พอเพราะแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

 

“อื้อ ปอ…ปอ…” ผมทำได้แค่ร้องเรียกแต่ชื่อของมันเมื่ออารมณ์ตัวเองพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ มือก็สู้ให้มันสนองผมบ้าง มันหอบหายใจเหมือนคนใกล้ตายและครางต่ำขณะที่เราจูบกัน ริมฝีปากสัมผัสกันอยู่ๆ มันก็ผละมากล่าวด้วยว่า

 

“แบบนั้นแหละ แบบนั้น อะ!” มันกัดปากผมแล้วจูบแน่น ลิ้นละเลงกับลิ้นผมรุนแรง มือเร่งส่งผมขึ้นสวรรค์ ตัวผมร้อนรุ่มเร่งมือตัวเองขึ้นให้ไปพร้อมกันกับมัน

 

ผมรู้สึกดี มีความสุขที่มือนี้เป็นของมัน ของพี่ปอที่ผมรัก ไม่ใช่ไอ้ปอจอมหื่น

 

มืออีกข้างเอื้อมไปกอดตัวมันแน่นและกระตุกเร่าๆ รับมือมัน ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาแต่หาใช่เพราะความเจ็บปวดไม่ ในตัวผมกำลังจะพ่นความสุขออกมา

 

“อะ ปอ ปอ…”

 

ผมยกมือทั้งสองข้างมากำเสื้อมันแน่นพลางเชิดคอขึ้นสูดลมหายใจเข้าร่างตัวเองมากที่สุดพร้อมกับเกร็ง ลาวาร้อนพวยพุ่งออกจากร่างกายมาเปื้อนหน้าท้องและมือของมัน ร่างกายผมหอบหายใจเหมือนวิ่งรอบสนามสิบรอบเพราะมือของมันที่สาวรีดเอาน้ำกามออกมาพร้อมกับจูบปากผมแน่น

 

ผมละมือข้างหนึ่งออกจากตัวมันมาแตะบนร่างตัวเอง หลักฐานแห่งความสุขเกาะเต็มตัวอย่างไม่น่าเชื่อ มันสุดๆ แบบนี้นี่เอง

 

ผมจ้องตามันทั้งหอบหายใจ ตัวกระตุกรับซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

“ตาพี่แล้ว ช่วยพี่นะครับเมี่ยจ๋า…”

 

ปากหวานจังนะ

 

มันจูบลงขมับผม จับมือผมไปทำให้มันต่อ ผมกลืนน้ำลายรับจูบ พอไม่ได้หมกมุ่นกับอารมณ์ตัวเองแล้ว ฟังเสียงปอมันดีๆ โคตรเซ็กซี่เวลาผมทำให้กับมัน ต้องรีบทำให้เสร็จไม่งั้นได้ตื่นตัวอีกรอบแน่

 

ผมก้มมองของร้อนที่กำลังแข็งมือสู้ขนาดใหญ่ของมันพลางช่วยให้มันพอใจไปเรื่อย เร่งความเร็ว อดจะครวญไปกับปากมันที่ดูดเฟ้นบนลำคอ ใบหู และวนมาแนบจูปปากที่คงบวมเจ่อตอนนี้ไม่ได้

 

“อะ เร็วอีกภีม เร็วอีก!”

 

มันว่าน้ำเสียงกระเส่าข้างหู กอดผมแน่น ฝังปากมากัดไหล่ราวกับกำลังจะคลั่ง ตอบสนองผมอย่างคาดไม่ถึงจนอยากเห็นตอนมันถึงฝั่งฝันบ้าง ปอมันดึงเอวผมเข้าหาตัวไปกอดแน่น ซุกหน้าลงบนซอกคอหอบหายใจรุนแรงและเกร็งตัวปล่อยน้ำร้อนๆ ออกมาจนถึงหน้าท้องและกางเกงนอนของผมเช่นกัน

 

มันหอบตัวโยน กอดผมออดอ้อน ขยับมือตัวเองไปรีดน้ำออกให้หมดจากไอ้ปอเบอร์สองที่พองตัวผงาดชี้หน้าผม หน้าตามันโคตรเซ็กซี่ตอนกำลังใช้มือสาวของตัวเองมองตาผม ขนาดมันกุมเองด้วยมือตัวเองแทบจะไม่มิด คิดดูถ้าเข้าไปในตัวผมด้วยขนาดเท่านั้น โอย ขนลุก

 

ตูดพังแน่…

 

แล้วกูมาคิดอะไรตอนนี้วะเนี่ย

 

ก็…เห็นแล้วมันยิ่งทำใจไม่ได้นี่หว่า มันใช่จะเท่านิ้วก้อยอย่างที่แกล้งว่ามันเสียเมื่อไหร่ ผมเองก็เป็นผู้ชาย พอเห็นแล้วอดที่จะคิดไปไกลไม่ได้นี่หว่า

 

ผมละตาหนีก้มมองตัวเอง มือผมเลอะ ตัวเปื้อนไปด้วยน้ำของมันและของตัวเองเพราะขี้เกียจเปลี่ยนชุดให้มันจึงให้ไอ้ปอน้อยปล่อยมาใส่ตัวเอง ปอมันนั่งหายใจหอบต่อหน้าและกอดผม

 

“นอนนะปอ…” ผมว่าเสียงเบา กอดมันตอบ

 

ปอมันละมือออกแล้วกดจูบผม จูบไปทั่วหน้า ลำคอผมคงมีแต่รอยมันจูบเต็มไปหมดแน่ๆ ผมคลายมือที่กำเสื้อมันแน่นออกพร้อมกับตัวที่เบาหวิวโล่งแบบแปลกๆ

 

นี่ละมั้งที่ทำให้คนติดเซ็กส์กระชุ่มกระชวยอยากทำนัก

 

มือผมเอื้อมไปหยิบทิชชูมาเช็ดหน้าท้องตัวเองที่เต็มไปด้วยนำกามของตัวเองและมันที่ยังกอดจูบผมอยู่ เช็ดทำความสะอาดให้มันแล้วจับร่างของปอลงบนเตียง จัดแจงกางเกงของมันไปด้วย นี่ผมเป็นเมียที่โคตรจะดูแลมันดีเลย โอ๊ยคิดแล้วอายขึ้นมาตงิดๆ พอเห็นตัวเองที่เปื้อนด้วยไอ้เนี่ย

 

ไอ้น้ำขาวๆ ขุ่นๆ เหนียวๆ เนี่ย

 

แต่แม่ง โคตรมีความสุข มิน่าล่ะมันถึงเรียกร้องอยากได้นัก อารมณ์ตอนเสร็จมันแบบนี้นี่เอง มันเสพติดได้ง่ายขนาดนี้นี่เอง ผมได้แต่ยืนมองมันที่นอนหลับตานิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอ

 

หลับปุ๋ย คงจะเบาตัวเลยล่ะสิมึง

 

โอ๊ย แต่กูอาย ตื่นมาจะมองหน้ามันยังไงวะเนี่ย

 

ตายๆๆๆ กูตายแน่!

 

เมื่ออารมณ์มาปกติ ผมยกมือกุมขมับตัวเองด้วยความปวดหัวว่าไปทำแบบนี้กับมันได้ยังไงวะ เพียงเพราะสีหน้ามันเว้าวอนน่าสงสาร เสียงของมันรบเร้า ท่าทางของมันทำให้ผมอยากตอบสนอง หรือความอยากลองของผมด้วย

 

มันคงปนๆ กันไป คนที่ผิดน่ะผม เพราะผมไม่ได้เมาไง!

 

ร่างของผมเดินไปเปลี่ยนชุดที่เปรอะเปื้อนนั้นแล้วเดินกลับมามองมันที่นอนบนเตียงเงียบสงบ ตัวผมล้มลงนอนข้างมันแล้วถอนใจ ชอบหลอกล่อให้กูยอมนัก

 

ถ้าทำให้ความต้องการของมันลดลงบ้าง ผมก็ยอมว่ะ แล้วปอมันออกจะดี น่ารักแบบนี้ เชื่อฟังไม่บังคับขอผมไปมากกว่านี้

 

มือผมแตะไปที่หน้าเรียวยาว ผิวเนียนจากการดูแลอย่างดีตรงหน้า ใบหน้าของมันที่พริ้มหลับลุ่มหลงในนิทรา ขนาดตอนนอนยังหล่อเลยว่ะไอ้นี่ ผมได้แต่ยกยิ้มกับตัวเองมองมัน

 

เปลี่ยนตัวเองเถอะนะปอ ถ้ามึงเปลี่ยนกูยอมทอดกายให้มึงง่ายๆ เลย 

 

มือของผมเอื้อมไปหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วกลิ้งไปนอนข้างมัน เอาขาก่ายตัวมันครั้งแล้วครั้งเล่า ยังไงก็นอนไม่หลับสักทีเพราะมันยังไม่ถึงเวลานอนทุกวัน และทุกวันมันมักจะกอดผมให้ได้ไออุ่นของมันโดยที่ไม่ต้องร้องขอ

 

มือผมกอดมันนิ่งพร้อมกับจ้องมองใบหน้านี้ น้อยครั้งนักที่จะมีโอกาสได้มองเพราะทุกครั้งก็นอนก่อน และตื่นทีหลัง นิ้วมือทำงาน ไล้จมูกโด่งๆ ของมันพร้อมรอยยิ้ม ดวงตาที่พริ้มหลับสนิทพร้อมกับเสียงกรนหน่อยๆ ต่อหน้า

 

ผมโน้มเข้าไปจูบปากที่ปิดสนิทของมันด้วยความเบาและนุ่มนวลที่สุดที่เคยจูบกันมา

 

“ฝันดีนะปอ กูรักมึงนะ”

 

กูรักมึงมาก มากเกินไปแล้ว…

 

ผมกล่าวเสียงเบาแทบเป็นกระซิบกับมันที่ยังคงกรนไม่รับรู้ต่อไป แบบนี้น่ะดีแล้วอย่าได้ยินเลย รอยยิ้มผุดขึ้นมาประดับบนใบหน้าของผมที่ทิ้งหัวหนุนหมอนเดียวกันกับมัน ใบหน้าอยู่แค่คืบ มือยกกอดมันพร้อมกับจ้องใบหน้าที่หลับใหลอยู่อย่างนี้

 

โคตรอยากหยุดเวลาเลย เดินช้าๆ นะเวลา

 

กูขอร้อง…

 

 

 

 
 :m20:
จบตอนแบบซึ้งๆ


แต่ว่า ขอโทษนะคะ ไรต์ไม่ค่อยเก่งฉากเสียเลือดเท่าไหร่ พอไปวัดไปวาได้มั้ยตอบด้วย :katai2-1:

อีกอย่าง มีหรือไรต์และน้องภีมจะใจอ่อนให้พี่ปอมันได้กินน้องง่ายๆ ของแบบนี้มันต้องค่อยๆ เพิ่มเลเวลความร้อนแรงขึ้นไปสิมันถึงจะสนุก 55555 

ไว้รอลุ้นต่อไปนะคะว่าน้องจะเสียตัวตอนไหน แต่ไอ้ฉากเลือดสาดแบบนี้มีมาบ่อยค่ะ มีเซอร์วิสเยอะ แต่ชอบฉากมุ้งมิ้งกันกว่าใช่ปะ?

เอาล่ะมาดูกันว่าตื่นมาสองคนมันจะทำตัวยังไงต่อกัน

ส่วนต้นก็นะ นางก่อเรื่องอีกแล้ว จุดประเด็นเม้าธ์ไว้แค่นี้

ไปละจ้า อิอิ :bye2:

 

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อ่าน 10 ตอนจบรวดเดียว รู้สึกเกลียดต้นแต่บางทีก็สงสาร แต่สิ่งที่กลัวที่สุดคือวันครบรอบ 1 เดือน หลังจากนั้นถ้าเมินกันจริงๆคงเจ็บกันทั้งคู่

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :z1:
โอเคมากกก  ค่อยๆ เพิ่มเลเวลนี่แหละ เร้าอารมณ์ยิ่งนัก

ออฟไลน์ vivisama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านสิบตอนรวด สนุกมาเลย จะรอติดตามนะ ขอสมัครเป็น fc ปอภีมจ้า :mew1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ถ้าเรื่องนี้ต้นเป็นคนเล่าคงไม่มีใครเกลียดและมีแต่คนสงสาร

แต่เรืรองนี้เป็นเรื่องของภีม ภีมเห็นแค่ไหน เราก็รู้แค่นั้น

เบื้องลึกเบื้องหลังนางคงเยอะอยู่

ว่าแต่จะครบเดือนแล้ว เตรียมต้มน้ำทำมาม้า

honny

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ได้กินน้องภีม หลังวันที่ครบ 1 เดือนไปแล้ว 1 อาทิตย์ โฮ๊ะๆ เอาแบบ นันสต๊อปไปเลย

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
หวานๆซึ้งๆแต่ปวดหน่วงๆในใจ :ling2:

ออฟไลน์ army_van

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เรื่องนี้สนุกมากกกกก สนุกจังงงงงง 

ชอบๆๆๆ 

ขอถามนิ้ดดดนึง ดราม่าจะหนักมากไหมคะคนเขียนนนน กลัววว

รอติดตามนะคะ คนแต่งสู้ๆ

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ขอโทษนะคะอัพผิดตอนเฉยเลย ช่วงนี้มึนๆ โดนกระแสอีกเวบหนึ่งมา
 :hao5: :hao5:

 

ตอนที่ 11

Part 1

 

วิวรอบข้างทางยามอยู่บนรถเรียกให้ผมสนใจทั้งๆ ที่ก็มองเหมือนอย่างนี้ทุกวัน แต่ก็ไม่อยากหันไปมองหน้าไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ มันนิ่งมองผมแบบแปลกๆ มานานแล้วแต่ไม่พูดอะไรเพราะต่างฝ่ายต่างทำตัวไม่ถูก ผมจัดคอเสื้อดีๆ เพราะกลัวมันเห็นรอยจูบที่มันทำไว้เมื่อคืนเพราะเมื่อเช้ามันตื่นขึ้นมาทำหน้ากระลิ้มกระเลี่ย แล้วก็บอกผมว่ามันฝัน

 

ย้อนกลับไปเมื่อเช้า ผมน่ะเสียวสันหลังไม่หาย

 

ตอนตื่นขึ้นมาน่ะเหรอ

 

ไอ้ผมก็งัวเงียตื่นเพราะมันขยับแขนมากอด ลืมตาดูตัวเองที่กำลังนอนตะแคงหันหลังให้มันกอด ลมออกจากจมูกมันระต้นคอแบบสยิวๆ เรียกผมให้ตื่นแบบเต็มตา พอจะขยับตัวลุกเท่านั้นแหละ

 

อะไรวะ!

 

อะไรแข็งๆ ดุนหลังกูอยู่วะ ไม่อยากคิดเลยแม่ง กูนอนท่าล่อแหลมให้มันถูไถตูดนานขนาดไหนแล้ววะ ไอ้เชี่ยปอ ไอ้มักมาก เมื่อคืนแม่งไม่พอรึไง ตื่นมายังให้น้องชายมาทักทายกูแต่เช้าอีก!

 

โอย กูไม่กล้าขยับตัวเลยเนี่ย มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะปอ!

 

ผมหันไปมองมันที่เอาแขนในเฝือกแข็งๆ มากอดตัว หน้าอกถูกับหลัง ไม่ต้องคิดนะว่าตูดผมพรุนไปแล้วรึยัง ผมไม่เจ็บตูดเพราะยังไม่เสียตัว

 

แค่เสียว…เพราะกลัวเสียตูดไง

 

เอ่อ เซ็นเซอร์ด้วยนะ เด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดห้ามดู ยิ่งตอนมันเอาน้องชายมาถูกก้นผมก็ห้ามดูนะ เอารูปโดเรม่อนมาเซ็นเซอรไว้ด้วยรู้เปล่า แต่อันที่ทำกันเมื่อคืนอะดูได้ เพราะผมกับมันแค่เล่นว่าวในห้องกันเท่านั้นเอ๊ง

 

 

คิดไรอยู่วะเนี่ย อายนะ

 

ทั้งๆ ไม่มีใครแอบดูอยู่ มีแต่คนอ่านที่โรคจิตรอผมเสียตูดให้มัน ใครมันจะไปยอมง่ายๆ วะ ยอมก็บ้าแล้วถึงจะรักมันก็เหอะ อยากให้ผมเอากับมันพวกคุณเอามันไปแต่งงานด้วยเลยไป คนใจร้าย พวกคุณไม่ห่วงว่าผมจะเจ็บตูดขนาดไหนเลยรึไง ชิ!

 

ผมถอนใจ ปอแม่งเมาค้างแล้วยังจะมาแข็งแรงตื่นแต่เช้าอีก เดี๋ยวก่อนๆ ขอกูกระเถิบแปป แต่แม่งพอขยับตัวมันก็ดึงเข้าไปหามันอีก เอาขาก่าย ทีนี้ล่ะคุณเอ๊ย คุณปอน้อยสนุกสนานใหญ่ ขนนี่ลุกเลยเหอะ!

 

ทนไม่ไหวละ

 

“ปอ ลุกเดี๋ยวนี้เลย!” ผมว่าเสียงดังดันเอวมันออก

 

“เดี๋ยว กำลังเสียวเลย”

 

ไอ้สัด แสดงว่ามึงกำลังมีอารมณ์อยู่งั้นดิ เชี่ย ไอ้มักมาก ไอ้หื่นกาม ไอ้โรคจิตวิปริต!

 

“มึงลุกเดี๋ยวนี้เลย เลิกเอามาถูกูได้แล้ว เชี่ย!”

 

“พูดเพราะๆ หน่อยสิภีม” มันว่าพลางซุกหน้านอนต่อกับหลังผม เหม็นเหล้าชิบหาย อารมณ์หลงมึงเมื่อคืนหายหมดแล้ว มีแต่ความรังเกียจขยะแขยง ไอ้ปอ ไอ้เวรตะไล!

 

“ไม่พงไม่เพราะอะไรแม่งแล้ว! เอาน้องมึงออกไปเดี๋ยวกูลุกไปหยิบมีดมาตัดทิ้งแม่งให้ไม่ได้ใช้เลย!”

 

“ไม่เอาน่า นอนต่อเถอะนะที่รัก จุ๊บ”

 

อื้อหืม มันบ่นอู้อี้แล้วจูบหลังคอผมอ้อน  ผมนี่ขึ้นเลย ขึ้นไปด่ามันเนี่ย

 

“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วไม่ไปโรงเรียนน่ะหา มานอนแข็งอยู่ได้ ไปปลุกเพื่อนมึงไปโรงเรียน” ผมร้องว่าพลางทุบไหล่มัน ทีนี้ล่ะกลัวกูนะมึง

 

มันเกาหัวตัวเองตื่น แต่แม่งไม่ยอมปล่อย ผมผลักตัวมันด้วยสีหน้าที่บอกว่ากูรังเกียจมึงมากอะปอ มันงัวเงียพลิกตัวนอนหงาย ข้อศอกสองข้างดันพื้นแล้วยกหัวขึ้นมามองผมที่นั่งทำหน้ายักษ์ใส่มันอยู่ มันเบ้ปากแล้วก้มมองตัวเอง

 

“อา มาทักทายพ่อตั้งแต่เช้าเลยน้า” ว่าแล้วมันก็หัวเราะยกผ้านวมเปิดกางเกงตัวเองดู ยิ้มใบหน้าหล่อๆ หัวฟูๆ แบบนั้นน่ะแหละ

 

แม่งไม่ทักทายมึงคนเดียวดิสัด ทักทายกูด้วย ขนลุกเลย

 

“ออกไปไกลๆ” ลามปามจะดึงผมไปกอดอีกแล้ว ไอ้ผมก็ต้องไล่มันออกจากตัว มันก้มมองระหว่างขาตัวเองสีหน้าแม่งปกติสุดๆ มึงเคยคิดจะอายไหมในชีวิตนี้หาปอ! หน้านี่ฉาบด้วยปูนซีเมนต์กี่ชั้นวะ

 

มันทำหน้านิ่วก้มมองของตัวเองเรื่อยๆ นี่มึงอย่าบอกนะว่า

 

“เมื่อคืนแม่ง…”

 

มันว่าเสียงเรียบพลางทำหน้าครุ่นคิด อย่าบอกนะว่ามึงนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ทำกับกู เวรแล้วไง ไอ้ผมก็ขนลุกเมื่อมันครางบ่นๆ ในคอพังไม่ได้ศัพท์ฝ่าความเงียบ ก่อนจะหันมายิ้ม

 

“ฝันอย่างดีเลย สุดๆ เลยว่ะแม่ง” มันว่าพร้อมกับหลุดหัวเราะหน้าตายๆ

 

ใจกู ลอยหายไปตั้งแต่มึงทำหน้าซีเรียสแล้วปอ ไอ้บ้า!

 

ขอกูแอบปาดเหงื่อแปป ใจหายใจคว่ำนึกว่าจะจำได้ แต่แม่งไม่จบไง มันกลับมานั่งคิดนอนคิดอยู่นั่นแหละแล้วก็บ่นๆ ว่าไปด้วยตลอดทาง

 

ย้ำอยู่นั่น กูอาย!

 

“ภีม เมื่อคืนกูจำได้ว่ากูเสร็จนะ มันเหมือนความจริงมาก”

 

“มะ มึงฝันรึเปล่า?”

 

“กูก็ว่างั้นเพราะดูกางเกงในแล้วไม่เห็นหลักฐานเลย สงสัยแม่งฝันจริง” มันว่ากลางเกาหัวงงๆ ตัวเอง แต่ตอนนี้เหมือนมันกำลังนึกอะไรออกอย่างนั้นแหละ ผมล่ะทำหน้ากับมันไม่ถูกจริงๆ

 

ปอตอนแรกมันก็ดูอารมณ์ดีที่คิดว่าตัวเองฝันได้สุดท้องพุ่งปรี๊ดขนาดนั้น แต่พอนานไปเห็นแต่ทำหน้าหงุดหงิดที่นั่งคิดยังไงก็คิดไม่ออก ไอ้ผมที่รู้ทุกอย่างอะ เหงื่อแม่งอาบหลังละ ไม่ได้ร้อนตัวอะไรเลย จริงนะเชื่อผมดิ

 

“คันแขนว่ะ” มันบ่น

 

วันนี้มันมาเรียนแล้วก็สวมชุดช็อปโกโรโกโสของมันมาน่ะแหละ ทั้งๆ ที่ใส่แล้วก็หล่อชิบแต่สภาพชุดมันนี่ไม่คิดจะเปลี่ยนเลยรึไง ส่วนผมสวมชุดนักศึกษา ผูกเนคไทคและเสื้อแขนยาวเพราะเรียนสายวิทย์ ความจริงกฎโรงเรียน ชั้นของมันต้องสวมชุดนักศักษาและสวมชุดช็อปวันที่มีเรียนงานช่างเท่านั้น แต่มันสวมมาทุกวันจนเก่า

 

ข้างในเป็นเสื้อยืดคอกลมธรรมดาแล้วมันก็ไม่ติดกระดุมเสื้อช็อปข้างนอก ดูเท่นะแต่ผิดกฎ

 

“มึงถอดเฝือกวันไหน?” ผมหันไปว่า วันนี้มันไม่ได้ขับรถเองเพราะอย่างที่ว่า แขนมันหัก พ่อของมันจึงให้รถโรงแรมมารับมาส่งทุกวัน เป็นลูกคนรวยมันดีงี้แหละ

 

“อีกอาทิตย์กว่า ทำไม?” มันย้อน

 

“เอ้า กูถามไม่ได้เหรอ”

 

“มันก็ได้ แต่มึงกลัวว่ากูผ่าเฝือกแล้วจะไปทำอะไรมึงถนัดได้กว่าเดิมใช่ไหม หืม?”

 

สลัด!

 

ผมหลบตาไม่มองหน้า ดันมารู้ทันกูอีก

 

ผมหันไปถอนใจพูดไม่ออกและเบี่ยงไปมองทางข้างหน้าเมื่อรถแล่นมาจอดในที่จอดรถโรงเรียน รีบเปิดประตูเดินลงมาทันทีเพราะไม่อยากเถียงกับมัน มองหน้ามันแล้วเขิน ภาพตอนมันมองตาแล้วทำหน้าเสียวๆ สาวน้องชายตัวเองลอยมาแทบทุกครั้ง

 

อ๊ากกกกก อยากจะบ้า กูกลายเป็นไอ้หื่นตามมันไปแล้ว แม่งเอ๊ย!

 

“สัสภีม มึงเห็นไหมแขนกูไม่ดีคิดจะช่วยไหมหา” มันร้องตาม

 

“เอ้า ก็มึงลงมาได้แล้วไงจะบ่นอะไรวะ”

 

“แต่มึงเป็นเมียต้องคอยดูแลกูสิ”

 

“เหอะ เหตุผลมึงนี่อุบาทว์ชิบ มาๆ กูจะไปส่งที่ห้อง” แม่งเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว ผมเอื้อมมือไปดึงแขนมันเดินข้างๆ พร้อมกับมันที่ทำหน้าหงุดหงิดผมไปด้วย นี่คือกูผิดตลอดสินะ ดูแลปรนนิบัติยังไงก็ไม่ดีสักอย่างเลยสิน่า ผมเดินพามันเข้าโรงเรียนท่ามกลางสายตาคนในโรงเรียนนั่นแหละ

 

ดวงตาหันไปเจอะไอ้กรีนที่เดินเข้ามาพอดีก็ยิ้มทักทาย “ว่าไงกรีน เพิ่งมาถึงเหรอ?”

 

“เออ แล้วนายล่ะ”

 

“เหมือนกัน กินข้าวยัง ไปกินด้วยกันปะ?” ผมว่าชวนพร้อมพยักหน้าเรียกแต่ไอ้ปอแม่งขัดก่อน

 

“ไหนบอกจะไปส่งกู”

 

“เออ ไปส่งมึงก่อนแล้วกูจะลงมากินข้าวกับเพื่อนกู” ผมหันไปว่า กรีนมันยิ้มแล้วกล่าว

 

“ไม่เป็นไรก็ได้ นายไปกับแฟนเหอะ”

 

“เห้ย ได้ไง เดี๋ยวเรามานะ ไปรออยู่โรงอาหารก็ได้” ผมว่าพลางโบกมือ มันยิ้มรับพร้อมกับผมพาไอ้ปอเดินละมาขึ้นอาคาร มันไม่ค่อยจะพอใจกับผมเท่าไรนักแต่ก็ไม่พูดต่อว่า เดินเข้าห้องตัวเอง ผมมองไปเห็นร่างของพี่ธามที่นั่งรอปอมันอยู่ จึงชี้บอก

 

“พี่ธามมาแล้ว นั่นไง”

 

“รู้น่ะ” มันว่าเสียงเบาพลางเดินเข้าห้องเรียนตัวเอง คนในห้องหันมามองพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร ผมยิ้มรับก่อนจะโบกมือลาเมื่อปอมันหันมามอง มันพยักหน้ารับพร้อมทั้งหันไปคุยกับเพื่อนในห้องต่อ แต่คนๆ เดียวที่ไม่ยิ้มเลยสักนิดก็คือพี่ธาม

 

ผมเห็นเขาไม่เหมือนเดิม ดวงตานั้นเหมือนกำลังเครียดอะไรอยู่อย่างนั้น

 

ใจผมนึกถึงเรื่องของไอ้ต้นเป็นอันดับแรก

 

ผมทรุดตัวนั่งต่อหน้าไอ้กรีนพลางถอนใจ มันเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าแห่งความประหลาดใจก่อนจะส่งยิ้มแล้วเอ่ยถามขึ้นมาเฉยๆ ว่า “เป็นอะไรรึเปล่า ถอนใจซะดังเชียว”

 

ผมมุ่นคิ้วตัวเองจ้องตามัน “มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย แต่ช่างมันเหอะ”

 

“ยิ้มหน่อยสิ ตอนภีมยิ้มน่ารักจะตาย” มันว่าพลางชี้หน้า มันเองก็น่ารักแหละน่า

 

“ชมกันแบบนี้จะเอากี่บาท” ผมว่าทำท่าล้วงกระเป๋า

 

“พูดความจริงนะ ภีมออกจะน่ารัก แต่…” มันลากเสียงพลางละรอยยิ้ม

 

“อะไร?” ผมย้อนแววสงสัยเมื่อมันยกยิ้มนิดๆ ยกมือส่ายปฏิเสธ

 

“ไม่มีอะไรหรอก แต่เราคิดว่าแฟนภีม…ไม่เหมาะกับภีมเลย”

 

ผมละรอยยิ้มตัวเองลงทันที ใช่…

 

“มันรวยนะ ต่างกับเรามากเลย”

 

“ไม่ใช่ เราว่าเขาไม่มีอะไรดีพอที่ภีมจะไปคบด้วยต่างหาก” ผมเลิกคิ้วเมื่อมันว่ายิ้มๆ กับผมซึ่งละรอยยิ้มลงมองมันด้วยความแปลกประหลาดใจ นานๆ จะเจอคนคิดแปลกๆ แบบนี้

 

กรีนมันเป็นคนแปลกเอาการแฮะ ใครๆ ก็รู้จักไอ้ปอ อยากเป็นแฟนมันทั้งนั้น

 

“เล่นมุกใช่ไหม?” ผมว่า

 

“พูดจริงๆ” ผมกระเดือกข้าวที่เพิ่งตักเข้าปากไม่ลงแฮะ ดวงตาที่เหลือบมองผมอยู่ต่อหน้านั้นนิ่งก่อนจะที่ผมจะทำอะไรไม่ถูกเพราะเดาใจไม่ออก

 

“แต่เขาหล่อนะ” มันว่าพลางหลุดยิ้ม

 

“ฮ่ะๆๆๆ” ผมหัวเราะ

 

แต่ใจนี่คิดตามที่กรีนมันพูดไปแล้ว

 

เราเข้ากันได้ดีแต่เสียงออดเข้าแถวก็ดังขึ้นเสียก่อน ผมกับมันเดินแยกกันไปเข้าแถวคนละทางเพราะอยู่คนละห้อง ดวงตาของผมมองหาร่างของไอ้ปอทว่าไม่เห็น ทั้งๆ ก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงมันก็ไม่มาเข้าแถวหรือร่วมทำกิจกรรมเหมือนทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไมผมก็มองหาเผื่อจะเจอมันทุกวันนั่นแหละ

 

อยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว ทุกวัน มีทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็ไม่เป็นไร เป็นสีสันไป

 

 

“มึงๆๆ กูมีข่าวจะมาเม้าธ์”

 

เสียงตุ๊ดนางหนึ่งวิ่งเข้ามาและหวีดเสียงเรียกไอ้สันติหรือน้องซันนี่ที่นั่งข้างผมให้หันกลับไปมองเก้าอี้พวกมันที่นั่งอยู่ด้านหลัง สาวๆ หันขวับไปตามเสียง มีเพียงแค่ผมคนเดียวที่นั่งจัดของในเก๊ะไม่ได้หันไปเพราะยังไงพวกมันก็พูดเสียงดังและนินทาชาวบ้านอย่างเคย

 

“ไรวะอีสมปอง” ไอ้สันติหันไปว่า

 

“แหม อีนี่ กูบอกกูชื่อน้องปิงปอง”

 

เออ กูแนะนำให้มึงเปลี่ยนอย่างไว ผมส่ายหัวกับพวกมันไปด้วย “เออย่ะ ว่าแต่ว่ามึงได้ข่าวอะไรมาหาถึงได้วิ่งหางจุกตูดมาเนี่ย”

 

“กูต้องมีแน่ๆ พวกมึงจำไอ้ต้นได้ไหม?” มันว่า ผมเบิกตาเมื่อได้ฟัง

 

“ต้นไหนวะมีหลายต้น?”

 

“ก็ต้นที่มันแรดๆ น่ะ ที่เราเห็นแอบกินตับกับพี่พอร์ชผัวเก่ากูวันนั้นไง”

 

“อีนี่ก็แรง เขาไปกินมึงตอนไหน?”

 

“ในฝันเว้ย…” มันลากเสียงก่อนจะหัวเราะคิกคัก

 

“แล้วไอ้ต้นทำไมยะ เร็วๆ ฉันอยากรู้”

 

“มันทะเลาะกับสามีคนปัจจุบันกูเว่ย คือแบบเหมือนจะเลิกกันแล้วล่ะกูเห็นมากับตา พี่ธามนี่ตบกกหูไปเพี้ยะใหญ่ๆ เลยแหละ แถมลงไปต่อยซ้ำอีกทีด้วยคงจะโกรธน่าดู ผัวกูนี่ซาดิสม์ชิบหาย”

 

เห้ย!

 

ผมหันไปมองไอ้สมปองด้วยความไม่เชื่อหูตัวเอง “ทำไมวะ พี่ธามทำมันทำไม?”

 

ตุ๊ดสามนางมองมายังผมที่มองไอ้สมปองแบบตาแทบถลนออกจากเบ้าเมื่อได้ยิน สายตานี่แบบคือมึงหน้าตาอยากเสือกเรื่องของชาวบ้านมาก

 

“เออว่ะพี่ธามเพื่อนพี่ปอผัวมึงนี่หว่า” ไอ้สันติมันว่าพลางชี้หน้าผม

 

เชี่ย กูยังไม่ตกเป็นของมันเว่ย

 

ไม่เอากูไม่คิดเรื่องเมื่อคืน ขันติไว้ ใจเย็นๆ ไอ้ภีม

 

ผมสูดลมหายใจละความสนใจมายังไอ้สมปองทันทีแล้วว่า “พี่ธามตีไอ้ต้นทำไมวะไอ้ปอง”

 

“มึงเรียกกูงี้กูไม่ตอบย่ะ” มันว่าพลางเบ้ปาก แหมอยากตบคว่ำจริงๆ

 

“เออน้องปิงปอง มึงจะตอบกูได้ยัง?”

 

“กูไม่รู้ จบนะ กูเห็นแค่ทะเลาะกันแล้วพี่ธามก็ซัดไอ้ต้นแค่นั้นแหละ”

 

“โอยอีเหี้ย!”

 

กูรอฟังตั้งนาน

 

ขอบใจมึงมากซันนี่ที่ด่าแทน กูรักมึงก็คราวนี้แหละ

 

ผมเกาหัวแล้วหันกลับไปนึกถึงหน้าคนใจดีๆ แบบพี่ธาม เขาจะทำกับไอ้ต้นที่เขารักขนาดนั้นได้ยังไง ดวงตาผมเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อนึกออกถึงเรื่องราวทั้งหมด เชี่ย! อย่าบอกนะว่าพี่ธามรู้ความจริงหมดแล้ว ใจผมหายเมื่อนึกถึงคำสัญญาว่าจะไม่บอกความจริงกับพี่ธามระหว่างผมที่มีให้พี่พี แต่ผมไม่ได้บอกเขานะ เขาไปรู้มาจากไหน

 

คงไม่ใช่เรื่องนี้มั้ง เขาจะไปรู้ได้ไง

 

แต่ไอ้ต้นมันก็แรงนะ ในโรงเรียนใครๆ ก็เห็นมันบ่อยว่าไปแอบกินตับใครมาบ้าง ข่าวมีหลุดไปถึงหูพี่ธามบ้างคงไม่แปลก โอย นี่มันปัญหาระดับบิ๊กบึ้มนะเนี่ย

 

กูจะบอกไอ้ปอดีปะวะ เพราะมันเองก็รู้ดีว่าเมียพี่ธามเป็นคนยังไง ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวโดนมันด่าแล้วหาว่าหึงมันอีก ผมส่ายหน้าพลางคิดกับตัวเอง คิดได้แล้วนั้น ผมว่าผมไปแอบถามเขาด้วยตัวเองดีกว่า ครั้นชั่วโมงพักเบรกมาถึง ผมรีบเดินลงบันไดไปตึกของชั้นเรียนปวส. ทันที


เดี๋ยวต่อพาทสองน้า
 :katai4: :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2014 22:17:00 โดย noonaaRP »

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 
ตอนที่ 11

Part 2


ห้องของไอ้ปอ ห้องของไอ้ปอ

 

ผมท่องในใจแล้วเดินไปหยุดหน้าห้องที่เคยเดินขึ้นมาเมื่อเช้า หลายสายตาหันมามองผมก่อนจะยิ้มให้

 

“ไอ้ง่อย”

 

ผมหันขวับไปมองหน้ามัน อ๋อ ไอ้ที่มันใช้ผมไปซื้อน้ำให้แล้วผมดันไปกวนตีนมันวันรับน้องนี่เอง ผมเงยมองมันแล้วเลิกคิ้วตอบด้วยแววสงสัย “อะไร?”

 

“มึงมาตึกนี้ทำไม มาหาผัวเหรอ?” มันว่า

 

“เกี่ยวไรด้วย?” ผมย้อนพลางยักไหล่ มันเลิกคิ้วทำท่าทำทางมองตัวผมทั้งแต่หัวจรดเท้า ผมปิดคอตัวเองที่อาจจะเห็นรอยที่ไอ้ปอทำไว้ทันที

 

“ไอ้ปอมันตาถึงนะเนี่ย ขนาดกูยังมองผ่านเลย” มันว่าพลางพยักหน้าเหมือนพอใจอะไรสักอย่างแววตาโคตรกวนตีน “ข้างในคงซ่อนรูปว่ะ”

 

“ซ่อนรูปพ่อง…” ผมว่า

 

“หึ ปากนี่แน่ใจนะว่าไม่ได้อมหมามาด้วย เห่าจังนะมึง”

 

“ก็หมามันเห่ามาเลยเห่าตอบ”

 

ไอ้ตรงหน้าเริ่มเดือดเมื่อผมว่าตอบไป ทว่าคนจากด้านหลังเดินมาจับต้นแขนผมให้หันไปมอง เป็นคนที่ผมกำลังตามหา เขารั้งให้ผมไปมองพร้อมยกนิ้วชี้เรียวไว้ที่ปากตัวเองเป็นเชิงบอกให้เงียบ แต่ไอ้คนที่ยืนตรงหน้าผมดันไม่ร่วมด้วย มันหันไปในห้องแล้วตะโกน

 

“ไอ้เชี่ยปอ สัสธามมันฉุดเมียมึงไปแล้ว!”

 

ไอ้เวร! ปากมึงน่ะหมาเยอะกว่ากูอีก

 

ผมรีบเดินตามพี่ธามที่เดินนำลงมายังด้านล่างซึ่งเป็นต้นไม้ร่มรื่นหลังอาคารเรียน ตรงนี้มีคนก็จริงแต่นั่งห่างกันมากเพราะโต๊ะถูกจัดไว้ห่างกันเพื่อสะดวกในการอ่านหนังสือมากกว่า ผมทรุดตัวนั่งลงข้างเขาพร้อมกับหันไปมอง

 

พี่ธามหันมายิ้มก่อนจะละมันลงไปเสียเฉยๆ

 

“มาหาไอ้ปอใช่ไหม?” เขาว่า ผมหันไปส่ายหน้า

 

“เปล่า มาหาพี่นั่นแหละ”

 

เขาหันมามองผมด้วยแววสงสัย “มาหาพี่ทำไม?”

 

“พี่ธามกับต้นทะเลาะกันเหรอ ภีมเห็นพี่ช่วงนี้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย” ผมว่าเสียงเบา นี่กูถามตรงเกินไปรึเปล่าวะเนี่ย

 

“หึๆ เปล่า ยังรักกันดี”

 

อะไรของพี่เขาวะ แล้วที่ไอ้สมปองมันเห็นหมายความว่าไง ผมนิ่งมองพี่เขาที่ดูไม่สดใสเหมือนเก่า รู้เลยว่าใครโกหก ดวงตาผมละไปมองคนที่วิ่งเล่นบอลกันในสนามเล็กๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาให้กำลังใจและเตือนสติเขาไปในคราเดียวกัน

 

“ภีมเข้าใจอารมณ์พี่ธามตอนนี้นะ ว่าพี่ธามยังไม่อยากบอกใคร ยังไงก็อย่าใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลก็แล้วกัน รู้ไหม”

 

พี่ธามหันมามองผมก่อนจะยกยิ้ม “ขอบใจนะ”

 

“ปรึกษาภีมได้นะ” ผมหันไปว่า

 

“ที่พี่พาภีมออกมานี่…” พี่ธามลากเสียงตัวเองและจ้องมาที่ดวงตาผม เขาลังเลและไม่เป็นตัวของตัวเองเลย “พี่รู้ว่าต้นมันนอกใจพี่น่ะ พี่ถามมันดีๆ แล้วมันก็…มันก็ขอเลิกขึ้นมาเฉยๆ หาเรื่องพี่ให้พี่เลิกกับมัน”

 

อะไรของมันวะ ไหนบอกให้ผมเก็บเป็นความลับไงไอ้พวกนี้

 

“แล้วพี่ไปรู้ได้ไง?” ผมว่าเสียงเบา หลอกถามแบบนี้แหละแม่งดีที่สุดละ

 

“ไอ้ปอมันบอกพี่”

 

เห้ย เอาแล้วไง!

 

ผมมองพี่ธามพลางถลึงตาตัวเองนึกถึงหน้าไอ้ปอว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ถึงบอกเพื่อนตัวเองไปแบบนั้น จะว่าไปมันก็เป็นคนสอยเมียพี่ธามด้วยเหมือนกันนี่ ผมว่าไอ้นี่มันเลวเข้าขั้นโคตรเลวเลยล่ะ หื้ม อย่าให้ผมเจอหน้ามันนะ

 

จะก้มกราบบอกว่าเลิกทำนิสัยเฮียๆ แบบนี้เหอะ ก็…ทำอะไรมันไม่ได้อยู่แล้วนี่หว่า ใช้น้ำเย็นลูบเอาแล้วกัน ถึงแม้จะลูบมันแล้วร้อนกว่าเดิมก็เหอะนะ

 

“มันเดาคนเก่งจะตายไม่เหมือนกันกับพี่ ตามนิสัยต้นมันไม่ทัน พี่รักมันแทบจะก้มกราบตีนมันทุกวันยังทำกับพี่ได้”

 

พี่ก็เลยตบและต่อยไปผัวะสองผัวะหรอ

 

เอ่อ ผมพยักหน้ารับฟังพลางนึกถึงหน้าไอ้ปอ ไอ้นี่มันร้ายลึก คราวนี้ผมชักจะกลัวมันแล้วสิ เห็นหน้าตากวนตีน พูดจาหมาไม่แดกแต่ในใจคิดอะไรเดาไม่ออก แล้วมันทำแบบนี้ทำไม เพราะรู้ทันไอ้ต้นเหรอ

 

“แล้วยังรักกันดีอยู่เหรอ?” ผมถามย้ำไปอีกรอบเอาให้แน่ใจว่าเลิกไหม เขาเงยมามองหน้าแบบว่าไอ้นี่หน้าตาขี้เสือกจัง ผมเกาหัวตัวเองทันทีเถียงไม่ออก

 

“พี่ยอมเลิกกับมันแล้วว่ะ ขี้เกียจเจ็บ”

 

เห้ย เลิกง่ายๆ อะนะ

 

“จริงดิพี่ ทำไมมันง่ายแบบนั้นน่ะ คบมากันตั้งเท่าไหร่มาเลิกกันง่ายๆ เนี่ยนะ”

 

“พี่ถูกมันสวมเขานะภีม” พี่ธามหันมาว่า เออว่ะ ผมเกาหัว “แบบไอ้ปอมันเจ้าชู้ใครๆ ก็รู้ แต่แบบต้นนี่ ข้างนอกดูเงียบ พี่ไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นคนยังไง ทำไมมันทำลับหลังพี่แบบนั้นวะ คิดแล้วแม่งก็โมโห”

 

“ทำไมพี่เชื่อไอ้ปอว่ามันพูดความจริง” ผมว่า

 

“ปอมันไม่เคยโกหกพี่ ภีมรู้รึเปล่าว่าก่อนหน้าที่ภีมจะเข้าห้องแล้วโดนไอ้ปอยำน่ะ พี่เห็นต้นมันวิ่งออกมาจากห้อง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย”

 

“พี่เห็นเหรอ?” ผมเบิกตาตัวเองมอง

 

“พี่ไม่ได้โง่นะภีม เมื่อวานก็ด้วย พี่ได้ยินหมดทุกอย่าง!”

 

ตัวผมชาพลางมองหน้าพี่ธามที่ว่าอย่างใส่อารมณ์พลางจ้องตา แววเศร้าหมองจนผมจับได้ ตัวผมลอบกลืนน้ำลายพร้อมกับเหงื่อที่ซึมออกมาจากอาการร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด มิน่าล่ะถึงได้ลากผมลงมาเพราะเขารู้ว่าผมเองก็เห็น

 

แล้วไอ้ปอมันต้องการอะไร ผมอยากถามมัน ตอนนี้โคตรอยากรู้เลยว่ามันทำแบบนี้ทำไม

 

“พี่จะจบกันมันละ ถึงพี่จะรักมันขนาดไหนแต่พี่ก็เข็ดกับมันจริงๆ”

 

 

พี่ธามแม่งเอาจริงว่ะ

 

ผมเดินทอดน่องขึ้นอาคารเรียนของตัวเองช้าๆ พร้อมดวงตาที่เลื่อนลอยออกไปแสนไกล นึกถึงตอนปอมันมองมายังผม ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรแต่ไม่อาจนึกได้ว่าตอนนั้นมันกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมมันถึงเดาใจยากจังวะ ลำขาผมก้าวไปเรื่อยๆ ไร้จุดหมายกระทั่งเจอร่างของใครสักคนเดินอยู่ขั้นด้านบนตัวเอง ผมเงยหน้ามองมัน มันมาทำไมวะ

 

ผมนิ่งมองมันที่ก้มมาจ้องตา เดาไม่ว่าไม่ได้อารมณ์ดีแน่ตอนนี้

 

“มึงทำแบบนี้ทำไม?” มันเริ่มเรื่อง แล้วที่มันว่าน่ะหมายความว่ายังไงของมัน ผมไม่ค่อยเข้าใจ

 

“อะไร?”

 

“มึงไม่ต้องมาทำไขสือ มึงเกลียดที่กูเอากับพี่ปอใช่ไหม เอาแบบที่มึงไม่สามารถเอาได้ใช่ไหม?” มันว่า

 

“เห้ย นี่มึงเข้าใจอะไรผิดไปปะวะ” ผมว่าด้วยสีหน้างง

 

อย่าบอกนะว่ามันคิดว่าผมเป็นคนคาบข่าวไปบอกพี่ธามให้เลิกกับมัน

 

“มึงเป็นคนขอเลิกกับพี่เขาเองไม่ใช่รึไง?” ผมว่า

 

“มึงยอมรับแล้วใช่ไหมว่ามึงเป็นคนเอาเรื่องนี่ไปบอกพี่ธาม เขาไม่เคยทำนิสัยแบบนี้กับกู เขาเอาใจกู ง้อขอสารพัดเวลากูขอเลิก…มึงดูสิ รอยที่มันทำกับกู”

 

ผมชะงักมองหน้ามัน รอยแผลฟกช้ำนั่นมันทำให้ผมใจหาย

 

แต่มันเองที่ผิดไม่ใช่รึไง

 

“บางทีคนเราก็มีขีดจำกัดปะวะต้น มึงโทษสิ่งที่มึงทำดีกว่าไหม?”

 

ไอ้เชี่ย คิดว่าเขาจะตามง้อเหรอ มันเรื่องใหญ่นะนอกใจเขาน่ะ ผมล่ะปวดประสาทกับความเอาแต่ใจของมัน มันยิ่งกว่าผมที่งี่เง่าสิบคนและยิ่งกว่าไอ้ปอที่เอาแต่ใจอีกร้อยคนรวมกันเลยไอ้นี่เนี่ย แยกแยะไม่ออกเลยเหรอระหว่างเรื่องที่มันทำน่ะอันไหนเลวหรือไม่เลว

 

โอยผมปวดตับกับเรื่องที่มันเริ่มจะยุ่งเหยิงนี่ว่ะ

 

“ทุกอย่างเพราะมึงภีม ถ้ามึงไม่ไปยุพี่ธาม เขาก็ยังเชื่อใจกูเหมือนเดิม ยังรักยังตามใจกูเหมือนเดิม”

 

“ต้น แล้วมึงรักพี่เขาไหม?” ผมว่า มันนิ่งมองผม

 

“กูก็รักของกูสิ ไม่รักกูจะคบกับเขาทำไม!”

 

“แล้วมึงไปนอนกับคนอื่นทำไม?”

 

“ก็มันไม่นอนกับกู!”

 

ชิบหายล่ะ!

 

ผมตาค้างมองมันที่ร้องว่าพร้อมกับดวงตาเริ่มแดง กลับกลายมาเป็นฝั่งมันดราม่าแล้วซะงั้นเมื่อนึกถึงหน้าพี่ธาม ไอ้เชี่ย พี่เขายังเวอร์จิ้นเหมือนกันกับผมเลย

 

แต่เอ่อ มันไม่ใช่ประเด็นตอนนี้ปะวะ

 

ประเด็นคือพี่ธามมันไม่ยอมนอนกับไอ้ต้น

 

แม่ง คิดแล้วคือกูอยากเอาความดีงามของพี่ธามซักครึ่งมาแบ่งมึงมากเลยว่ะปอ นี่มึงทนคบพี่ธามได้ไงวะไม่ละอายใจบ้างเหรอที่มีเพื่อนเป็นพ่อพระแบบนี้

 

“กูก็เห็นเขากอดเขาจูบมึงนี่ แต่มึงไม่ยอมเขาเอง” เรื่องนี่เริ่มจะคล้ายผมแล้วสิ เพียงแต่ผมต่างจากพี่ธามคือต้องเป็นคนเสียตูดเท่านั้นเอง

 

อย่าเพิ่งนอกเรื่อง สมาธิอยู่กับไอ้ต้น อย่าเพิ่งมานะภาพตอนไอ้ปอกำลังเสียวอย่าเพิ่งมา

 

“มึงเข้าใจไหมว่ากูอยู่ใกล้มันแล้ว…คือกูรักมัน กูก็ไม่อยากโดนมันทำน่ะสิ เพราะตอนกูยอม กูมีอารมณ์แต่มันไม่สนองกู ไม่ช่วยกู มึงจะให้กูเอาตูดสีกับต้นเสาให้หายอยากรึไง ใครจะไปทนทรมานให้มันทำแค่นั้นละหา!”

 

อารมณ์มันมาเต็มครับ น่าจับมันไปคู่กับไอ้ปอจริง นิสัยแบบเดียวกับไอ้ปอเป๊ะ เพียงแต่ไอ้ปอมันไม่ได้รักผมแล้วมีอารมณ์ เพราะมันมีอารมณ์ของมันเองทุกห้านาทีอยู่แล้ว เหอะๆ

 

“แต่มันใช่เหตุผลที่มึงต้องไปนอนกับคนอื่นปะวะ”

 

“ทำไมจะไม่ใช่ ถ้ามันไม่รักกูแล้วจะแกล้งกูแบบนี้ทำไม มึงรู้ไหมกูหน้าด้านขอมันกี่ครั้งแล้ว” ต้นมันว่า หลังมือเช็ดน้ำตา “กับคนอื่นกูก็แค่ทำกับเขาภายนอก ยกเว้นพี่พีเมื่อวาน…กับพี่ปอ แต่ว่า”

 

มันเงยมองหน้าผม “กับพี่ปอกูไม่ได้ตั้งใจ ผัวมึงน่ะยั่วกู ขอกูให้นอนกับเขาเพราะมันเห็นกูถูกพี่ธามแกล้งแบบนั้นบ่อยๆ มันดูกูออกว่ากูลน ว่ากูกำลังอยาก มันรู้ใจกูทุกอย่างกูจะไม่ใจอ่อนได้ไง พี่ปอน่ะเป็นคนแรกของกู!”

 

ตัวผมชา มันยกมือขึ้นมากุมหน้า มือมันสั่น

 

“กูโคตรดีใจเลย วันนั้นที่มึงเดินเข้ามาขัดกูกับมัน กูต้องทำหน้าไม่รู้สึกอะไรเดินเข้าหามึง อยากคุยกับมึง อยากเป็นเพื่อนกับมึง แอบมองมึงทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงมึงก็ต้องเกลียดกู กูนี่โคตรบ้า เหอะ!”

 

“ต้น…” ผมพูดอะไรไม่ออก นึกถึงตอนที่มันขอไปเที่ยวด้วยรอยยิ้ม แต่ผมก็แกล้งมันปฏิเสธ ตอนที่มันผิดหวังอล้วเดินไป ผมใจเสียว่ะ คิดไม่ออกว่ามันเสียใจขนาดไหน

 

“มึงไม่ต้องมองกูด้วยสายตาสมเพชแบบนั้นก็ได้” มันหัวเราะ แม่งแต่น้ำตาไหลอาบแก้ม

 

“กูเปล่า กู…” ผมเม้มปากแน่น

 

ผมไม่ได้ผิด แต่ผมอยากขอโทษ

 

“กูขอโทษ…”

 

ผมโกรธตัวเองที่คิดอคติกับมันเกินไป ผมจำเมื่อวานได้ ที่พี่พีบอกว่าเขาเป็นคนเข้าหาไอ้ต้นก่อน เขาปกป้องมันและผมต่างหากที่มองมันในแง่ร้ายมาตลอด

 

“มันพังแล้ว ความรักของกูกับพี่ธามมันจบลงแล้วภีม ฮึก!”

 

ใจผมโหวงเหวงอย่างน่าประหลาด

 

พี่ธามไม่ยอมแตะต้องมัน คบกันแต่ไม่ได้ผูกพัน ไม่ได้ผูกมัดกันที่ร่างกายแต่ผูกมัดกันด้วยจิตใจ พี่พีคงแอบรักไอ้ต้นแหงๆ แต่ผมปวดหัวกับเรื่องที่ไอ้ปอก่อ

 

ยกมือกุมหัวด้วยกลัวว่าเลือดในสมองจะแตก

 

แล้วกูจะทำไง ไปบอกพี่ธามเหรอ พี่ธามเอาจริงเอาจังซะขนาดนั้น แถมพูดออกมาเหมือนจะไม่คืนดีกับไอ้ต้นอีกแล้วด้วย

 

เอาละวา ทุกอย่างมันมะรุมมะตุ้มซะแทบหัวจะระเบิดออกมาแล้ว ผมพยายามนั่งไล่เหตุการณ์ออกมาทั้งหมดที่ละเหตุการณ์ที่ตัวเองได้เจอมา สรุปได้คือว่า ผมโกรธเพื่อนไอ้ปอแล้วเดินหนีออกมาจากวงเหล้ามัน พอกลับมาที่ห้องเห็นไอ้ปอนอนกับไอ้ต้นซึ่งพี่ธามก็ดันเห็นเหตุการณ์นี้ด้วยแต่ไม่ได้บอกใคร

 

ไอ้ต้นมันนอกใจพี่ธาม แอบนอนกับเพื่อนพี่ธามแต่แท้จริงแล้วมันรักพี่ธามมากแต่พี่ธามกลับไม่คิดจะนอนกับมัน ผมไม่เข้าใจว่าพี่ธามคิดอะไรอยู่ แต่ ไอ้เวรปอมันนอนกับเมียเพื่อน แล้วดันไปบอกเพื่อนตัวเองเสียเองว่าถูกเมียสวมเขา นี่แหละปัญหา!

 

แล้วพี่ธามก็โกรธมากอีก ยังไม่รวมเรื่องที่ผมเดาใจไอ้ปอไม่ออกนะว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ผมถอนใจยกมือกุมขมับตัวเองปวดหัว มีใครแบกโลกไว้ทั้งใบเหมือนกูบ้างวะเนี่ย!

 

“มึงจะถอนหายใจอะไรนักหนา กูรำคาญ”

 

ผมหันขวับไปมองอีกคนที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันหน้าทีวี ร่างมันสวมชุดช็อปโรงเรียนข้อศอกข้างไม่หักค้ำบนพนักโซฟาหันมามอง เออ ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนผมก็นั่งคิดเรื่องนี้ตลอดเลยนี่นะ คิดมากจนลืมว่านั่งข้างมันแฮะ

 

“มึงรู้เรื่องพี่ธามเลิกกับไอ้ต้นยัง” ผมหันไปว่า จะหลอกถามมันดีไหมวะ

 

“รู้แล้ว ก็กูเป็นคนบอกให้มันเลิกเอง”

 

“ทำไมมึงทำแบบนั้น! ทำไมมึงไม่โดนต่อยซักทีสองทีตอนที่บอกพี่ธามว่ะ มึงอ่ะเป็นคนทำเขาแตกแยก”

 

“ไหนมึงเกลียดไอ้ต้นนักอะ ทำไมคราวนี้เข้าข้างมัน” มันหันมาว่า

 

“ก็มันไม่แฟร์ ไอ้ต้นโดนตบโดนตีส่วนมึงสมควรโดนกระทืบให้จมพื้นเลย เลวมาก เฮ้ย…” ผมร้องเหวอเมื่อมันดึงผมเข้าไปกอดรัดแน่นพร้อมกับถามเสียงต่ำๆ ไปด้วยว่า

 

“แล้วมึงสมควรโดนอะไร?”

 

กูใสๆ ไม่สมควรโดนอะไรทั้งนั้น

 

ผมยักไหล่ตัวเองเบ้ปากให้มันรู้ถึงความคิดตัวเอง มันยกนิ้วชี้แสดงถึงความไม่สบอารมณ์ของตัวเองบอกมากับผม อ้าว…นี่กูจะเดามึงออกไหมว่าเล่นรึไม่เล่น

 

“คนมักง่ายแบบมันเลิกกับไอ้ธามอะดีที่สุดแล้ว กูแค่ลองใจมัน เดินไปเล้าโลมหน่อยเดียวมันก็อ่อนปวกเปียกยอมให้กูเอาง่ายๆ กูจะบอกให้ที่กูนอนกับมันเพราะมึงหรอก กูอารมณ์ค้างมาจากมึงเฉยๆ แค่นั้นแหละถึงยอมนอนกับมัน”

 

อ้าว กูผิด

 

ผมมองหน้ามันก่อนจะหลบตาลงพื้นเฉยๆ เมื่อมันตอกย้ำความผิดที่ยังไม่ยอมรับของผม ถ้าไอ้ต้นมันรู้คงโมโหตายเลย

 

“ปอ…”

 

มึงเข้าใจไอ้ต้นผิดไปนะเว้ย

 

มึง…ตอนทำกับมันไม่รู้เหรอว่ามันยังซิง

 

หรือด้านหลังมันแน่นๆ แบบนี้กันหมดทั้งซิงและไม่ซิง โอย กูไม่อยากติดไม่อยากจินตนาการ

 

“อะไรล่ะ?” มันหันมาว่า

 

ผมหลบตามัน

 

“กูว่ามึงน่าจะเข้าใจไอ้ต้นที่สุดในโลกเลย ว่างๆ มึงโทรหามันเรียกมานั่งจับเข่าคุยขุดคุ้ยเรื่องปัญหาชีวิต ต้นสายปลายเหตุของนิสัยพวกมึงด้วยกันเลยนะเผื่อจะเจอจุดไหนที่ทำให้มึงกลายเป็นคนแบบนี้แล้วจะได้แก้ไขให้ทันท่วงทีก่อนที่เอดส์จะกินพวกมึงทั้งคู่ กูหวังดีว่ะ”

 

มันมองหน้าผม

 

“ไอ้สัด…”

 

ว่าแล้วมันก็โน้มมาขอบคุณด้วยการเบิ๊ดกะโหลกเจิมหัวให้ผมไปที ขอบคุณมาก

 

ไอ้นี่พูดไม่เพราะเลย กูอายุต่ำกว่าสิบแปดนะมึง ทีขอเอากูเรียกเมียจ๋าๆ ถุย…

 

กูหมั่นไส้มึงมากเลยว่ะปอ

 

 

คือพอสรุปได้ว่าที่มันนอนกับไอ้ต้นก็เพราะลองใจว่ามันง่ายไหม แล้วพอรู้ว่ามันง่าย ไอ้ปอมันก็เอาไปบอกพี่ธามเพราะกลัวเพื่อนตัวเองจะเสียใจภายหลัง แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองน่ะได้ซิงเมียเพื่อนไป ทุกคนที่ทำไปเพราะมีเหตุผลกันทั้งสิ้น

 

แต่ผมรู้นะว่าไอ้ปอมันรู้ดี ก็ตัวมันเองน่ะแหละที่อยากแล้วมาทำพูดสร้างภาพให้ตัวเองดูดี มาโทษว่าเป็นเพราะผม

 

นึกแล้วโมโห คิดว่าผมจะเชื่อมันรึไงวะ ชิ!

 

 

ใครกล้าด่าน้องต้นของพี่//ดึงนางมากอดในอก เสียใจหลายมาเป็นสามีพี่แทนเถอะ อิอิ

เค้าบอกว่าต้นดราม่าก็ไม่ยอมฟังๆ ด่าน้องอยู่นั่นแหละ ร้องไห้แปป บอกว่าอย่าเพิ่งด่าๆ จัดมาชุดใหญ่กันทั้งนั้น เนี่ยโดนทั้งตบทั้งต่อย ถูกจับไปเป็นของเล่นคนโน้นคนนี้ อิพี่ปอมันรู้มากเกินไปจนเข้าใจผิด ภีมก็เข้าใจผิดเห็นมะมันน่าสงสาร สามีก็มิรักมันแล้ว ตอนนี้มันเหลืออิพี่พีคนเดียว(เหลือเค้าด้วย)

เดี๋ยวนางจะดราม่ากว่านี้ตอนพี่ธามไม่รัก//กัดผ้าเช็ดหน้าร้องไห้แปป ทั้งเตะทั้งต่อยมาเต็ม อีพี่ธามมันซาดิสม์แต่นางยังคงรักมั่นคงค่า ส่วนภีมกับปอก็นั่นแหละ ยิ่งกัดกันก็ยิ่งรักกัน แต่ปอปากแข็งเนอะ อิอิ

สปอยคู่ธามต้นและพี(อ้าวนี่3P เหรอ อิอิ)

มารอลุ้นกันนะคะ เดี๋ยวบางทีจะมีพาร์ทต้นธามออกมาด้วยถ้ามีใครอินแบบเค้าอะนะ

ส่วนคนที่กลัวว่าเรื่องนี้จะดราม่า ขอบอกมันจะดราม่าแค่ช่วงพีคของเรื่องค่ะ แต่ก็เสียน้ำตาพอควร ฟังจากนักอ่านเขาบอกมา
 o13 o13   

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2014 22:20:49 โดย noonaaRP »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Ncกำลังจะมา !!!!!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :z2:  แต่ก็ไม่ชอบ  นางยอมง่ายไป

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งมากอ่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ใครจะดีจะเลวยังไงช่างเถอะ รู้แค่ว่าฉันรักฉันหลงน้องภีมคนเดียว

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ตอนที่ 12

Part 1

 

เสียงนักพากย์ภาษาอังกฤษประกอบกับเสียงเครื่องรถที่ถูกบิดดังแข่งกันเรียกให้ผมหงุดหงิด มือผมยกผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดหัวที่เปียกหลังจากอาบน้ำและโกรธที่มันทิ้งมะเขกขอบคุณผมเมื่อกี้ มองออกไปเห็นมันนอนบนโซฟาดูรายการแข่งรถมอเตอร์ไซต์ ผมเห็นหน้ามันดูสนอกสนใจจนไม่ได้ยินเสียงผมเปิดประตูออกมาอย่างนี้

 

มันสนใจมากจนผมอดที่จะยิ้มไปกับมันไม่ได้ว่าจะละทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักไปได้นานเท่าไร ผมเดินอ้อมไปเกาะโซฟามองมันที่มองไปยังรถที่บิดเต็มความเร็ว สองคันเบียดกันสูสีกันไปมาพร้อมกับเสียงพากย์สุดมันของนักพากย์ที่ชวนลุ้น

 

“โค้งสุดท้ายไม่เนียนมึงแพ้แล้วไอ้สัส กูอุตส่าห์เชียร์มาตกม้าตายซะงั้น” มันบ่นพลางยกมือกดรีโมทปิดทีวีก่อนจะเงยมามองผมที่ยืนยิ้มมองมันอยู่ก่อนแล้ว

 

“อะไรมึง?” มันว่า ผมยักไหล่

 

“เปล่า ดูเหมือนมึงจะชอบรถนะว่ามะ?” ผมว่าพลางมองหน้ามัน

 

“กูไม่ได้ชอบ ดูฆ่าเวลารอมึงน่ะแหละ”

 

รอกู ผมเลิกคิ้วมองมันแสดงถึงความสงสัยในเรื่องที่มันว่า “จะมารอกูทำไม?”

 

“มาต่อเรื่องเมื่อคืนให้จบ”

 

เรื่องเมื่อคืน

 

อ๋อ…

 

เรื่องที่กูกับมึงช่วยกันเล่นว่าวน่ะเหรอ ผมพยักหน้ารับเข้าใจในสิ่งที่มันสื่อก่อนจะชะงักหันไปมองหน้ามันอีกทีด้วยความงงว่ามึงรู้ได้ไง มันมองมายังผมพร้อมกับขมวดคิ้วตัวเองแทบจะรวมเป็นเส้นเดียวกัน

 

อะ เอ่อ… ทำไงดีวะ เชี่ยแม่งเดาใจไม่ออกจริงๆ

 

“มึง มึงเอาอะไรมาพูด กูไม่รู้เรื่อง!” ใช่ กูไม่รู้เรื่องมาก ดูจากเหงื่อที่ซึมออกมาจากหน้ากูสิ กูใสสุดๆ คือไม่เห็นจะรู้เรื่องซักนิด!

 

“แต่หลักฐานกูเต็มคอมึงเลยนะภีม”

 

หา หลักฐาน?

 

ผมยกมือกุมคอตัวเอง ชิบหายล่ะ! คอเสื้อชุดนอนแม่งกว้าง

 

“อะ ยะ…ยุงกัด”

 

“ยุงที่ไหน ยุงชื่อไอ้ปอใช่ไหม! กูนี่แหละกัด มึงคิดว่าจะหลอกกูได้เหรอภีม กูนึกออกแล้ว จำได้แล้วทุกอย่าง ทุกตอน ทุกสำเนียงตอนที่มึงครางเลยแหละ”

 

เชี่ยปอ!

 

ผมอ้าปากค้างมองมันที่ว่า ยกมือกุมหน้าด้วยตัวเองความอับอายประกอบกับมือมันเอื้อมมาดึงผมหน้าทิ่มลงมาหามัน นี่มึงไม่กลัวคอกูหักเลยใช่ไหมปอ นี่มันพนักพิงโซฟาสูงถึงเอวกูเลยนะเว่ยไอ้นี่ ผมผลักมันออกทั้งขยับตัวนั่งบนโซฟาดีๆ ก้มหน้า อายชิบ!

 

“ทำไมมึงยอมตอนกูเมาวะภีม ตอนกูขอมึงดีๆ ทำไมมึงไม่ยอม?” มันว่าเสียงเบา ผมรู้สึกถึงลมที่รดใบหู ผมไม่รู้จะตอบมันว่ายังไงดี

 

“ตอบกูมาซิภีม กูถามมึงดีๆ ไม่ได้หาเรื่องนะ”

 

เสียงมันไม่ได้โมโหโวยวาย พูดแบบคนใจเย็นแต่เหงื่อผมซึมเต็มตัวเลย “กูไม่ได้ตั้งใจจะยอมซักหน่อย”

 

“บอกมาว่าทำไม ตอบให้ตรงคำถาม”

 

ไอ้ปอ จะให้กูตอบยังไงวะ คิ้วผมคงขมวดแน่นกันแน่ มันถอนใจแล้วละไปมองด้านอื่นเมื่อได้เห็นสีหน้าของผมตอนนี้ ผมลอบกลืนน้ำลาย เพิ่งอาบน้ำเสร็จทำไมมันรู้สึกหงุดหงิดจังวะ

 

หน้ามันตอนนี้โคตรจะเสียเซลฟ์สุดๆ กับสิ่งที่ผมทำลงไป

 

แล้วเป็นไง กูแคร์มึง เห็นมึงเป็นแบบนี้ก็ใจไม่ดีไงล่ะ!

 

กูรักมึง กูสงสารมึง แต่กูอยากให้มึงเห็นค่าในตัวกูกว่านี้ไม่ใช่ตัวระบายความใคร่เหมือนตอนทำกับไอ้ต้น ผมอยากกอดมัน อยากโอ๋มันตอนนี้เหลือเกิน โคตรจะสับสนเลย ไม่เป็นผมไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเจ็บขนาดไหนที่ต้องต่อสู้กับใจตัวเอง มันเหนื่อย

 

นี่คงเป็นสาเหตุที่มันทำหน้าหงิกๆ แบบนี้สินะ

 

มือเรียวยาวของผมเอื้อมไปแตะบนหัวของมันพร้อมกับมันที่มองมาผมด้วยแววตาฉงน ผมชะงักมือตัวเองเมื่อสายตามันมีแต่เครื่องหมายคำถามมองมา ยอมรับเลยว่าตัวผมอ่อนใจกับมันมากเพราะความรัก

 

 แต่พอเจอเรื่องที่มันก่อไว้หลายอย่างก็ต้องทำใจให้แข็งไว้ ผมรู้ดีว่ามันแปลกที่ผมไม่โกรธมันเรื่องไอ้ต้น นั่นเป็นเพราะผมยังคบกับมันได้ไม่กี่วันและตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้รักมัน ยังไม่รู้ใจตัวเอง อีกอย่างตอนนั้นปอมันไม่ได้เป็นคนแบบนี้ ไม่ได้เชื่อฟังผมแบบนี้ มันหัวรั้นและขี้โมโหต่างจากตอนนี้จะตาย

 

หรือมันกำลังจะเปลี่ยน

 

ผมไม่อาจโกรธมันได้ สิ่งที่ทำได้คือรู้สึกผิดแทนปอต่อไอ้ต้น ทำได้แค่หึงเท่านั้นเพราะตัวผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ถึงขนาดขนาดจะครอบครองมันไว้ตลอดไป ลืมไปแล้วหรือไงว่าผมน่ะยื่นข้อเสนอให้มันว่ายังไง จะยอมคบกับมัน ยอมนอนกับมันภายในหนึ่งเดือน

 

สิทธิ์ของผมในตัวมันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมต้องยอมรับในข้อนี้

 

แต่ก่อนที่จะเสียตัวให้มัน ผมต้องทำทุกอย่างที่จะต้องเอาชนะใจมันให้ได้ กูต้องเปลี่ยนมึงให้ได้ก่อนปอ เพื่อที่สิทธิ์ของกูในตัวมึงจะเพิ่มขึ้น และเป็นเจ้าของมึงจริงๆ

 

และถ้ากูได้เป็นเจ้าของมึงแล้ว ถ้ามึงยังทำนิสัยแบบเดิมกับกูอีก

 

นั่นแหละจะถึงเวลาของกู มึงได้จะรับรู้รสชาติความเจ็บปวดว่าเป็นไง

 

มันทิ้งหัวลงนอนบนตักผมไม่บอกไม่กล่าว ไม่พูดอะไรต่อ มือขยับมากุมประสานกับนิ้วของผมหลวมๆ พร้อมทั้งแหงนมามอง

 

“มึงเข้าใจทั้งหมดแล้ว เลิกหึงกูกับไอ้ต้นรึยัง?”

 

ผมก้มลงมองมัน ขมวดคิ้วอารมณ์เสียกับความคิดมันด้วย มันรู้ทันผมไปหมดทุกอย่าง “กูไม่เคยหึง”

 

“กูไม่เชื่อมึงหรอกภีม วันนั้นมาซัดกูใหญ่” มันว่า มือดึงมือที่ประสานกับผมจะจูบ ผมชักมือตัวเองกลับมาทันทีไม่ให้มันแม่งฉวยโอกาส

 

“กูแค่โมโหกับความเอาไม่เลือกของมึง เข้าใจไหมว่ากูขยะแขยงหาไอ้ปอ”

 

ดึงเรื่องไอ้ต้นมาให้กูคิดมากอีกละ

 

“ขยะแขยงแล้วเมื่อคืนมึงยอมกูทำไม”

 

“ก็แค่ใช้มือแหละน่า” ผมว่า ความร้อนแล่นเข้าใบหน้ามาเฉยๆ

 

“มึงบอกมาเหอะว่ามึงก็อยากแต่ทำเป็นเล่นตัว”

 

“มึงเลิกทำนิสัยหยาบคายกับกูให้ได้ก่อนสิ” ผมตอบพลางกำเส้นผมมันแน่น มันหยีหน้าร้อง

 

“กูเจ็บ!”

 

แต่มันไม่ทำผมคืน ไม่สู้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันคงไม่ยอมผมแบบนี้ ผมคลายมือออกผ่อนปรนอารมณ์ตัวเองบอกมันไปด้วย “ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

 

“ไม่”

 

เมื่อตอบมาแบบนี้ ผมออกกำลังผลักหัวผลักไหล่ให้มันลุกออกจากตัก ร่างของมันลุกขึ้นนั่งแล้วหันมารั้งเอวผมเข้าหา โอย ไอ้นี่มันมือปลาหมึกรึไงวะ ผมเบี่ยงตัวหลบมือมันยกตัวขึ้นไปนั่งบนตัก ท่าล่อแหลมนี่อีกแล้ว เพียงแต่มันไม่ได้ทำต่อหน้าเพื่อนและไม่ได้กำลังเมา ตอนนี้เวลานี้อยู่กันสองต่อสอง ผมมุ่นคิ้วก้มลงมองหน้ามันอย่างขัดใจ และมันรับรู้ แทนที่จะคลายแขนที่กอดเอวแน่นแม่งกระชับเข้าหามากขึ้นกว่าเดิมจนรู้สึกอึดอัด

 

ถ้าสิงร่างกูได้คงสิงละ

 

“อยู่เฉยๆ”

 

ใครเชื่อก็บ้าละไอ้นี่

 

หน้าก็หื่น ร่างผมรู้สึกถึงขนที่ลุกไปทั่วเมื่อมันงับมายังยอดหน้าอกผ่านเสื้อนอนของผม ดวงตามองตามร่องรอยที่มันทำเองเมื่อคืนด้วยความภาคภูมิใจตัวเองนัก เคลื่อนใบหน้าก้มมาฝังปากจูบประทับบนรอยนั้นดังจุ๊บๆ อยู่หลายจุ๊บ

 

สยิวแฮะ ผมวางมือบนบ่ามันพลางเคลื่อนไปกุมที่คอของมัน ผมมันตกมาระต้นคอ เส้นตรง สวยว่ะ

 

แล้วนี่กูมาหลงใหลอะไรกับผมมันวะ สนใจไอ้ปอนี่ มันจะกินมึงไปทั้งตัวแล้วไอ้ภีม ไอ้โง่ อยู่ใกล้มันแล้วแม่งติดเชื้อหื่นมา วันนี้ทั้งวันแม่งภาพไอ้ปอนั่งเสียวช่วยตัวเองลอยมาในหัวแทบไม่เป็นอันเรียน นี่กูคงจะเข้าขั้นโคม่าแล้วแน่ๆ กูจะไปหาทางเลิกนิสัยนี่อยู่ไหนดีวะ

 

ถ้ำกระบอกนี่จะรับกูไหม

 

เดี๋ยวๆ เข้าเรื่องแปป

 

“ปอ…” ผมเคลื่อนมือไปเขย่าไหล่มัน

 

“อืม…”

 

“ถ้ากูบอกว่าอย่านี่จะโกรธไหม”

 

มันละปากออกจากลำคอของผมมามองตา มุ่นคิ้วตัวเองพร้อมกับตอบว่า “กูฟังมาตลอดแล้วภีม”

 

“มึงสัญญากับกูแล้วตอนอยู่ที่เกาะว่าจะไม่บังคับกูจำได้ไหม เมื่อคืนมึงพูดเข้าใจง่ายๆ ไม่ได้คอยบังคับแล้วก็ไม่สนคำขอร้องกูแบบนี้”

 

มันเงยหน้ามามองผมพร้อมกับยกมือกุมหน้าตัวเอง ตัวมันสั่นเหมือนโกรธมากแต่ไม่ว่าอะไรเลยนอกจากทิ้งหัวลงแหมะบนหน้าอกผมราวกับอ่อนแรง คงได้ยินเสียงหัวใจผมเต้นระรัว ผมกลัวมันไม่ฟังคำขอหรือสิ่งที่ผมบอก

 

แต่มันก็ยอมหยุด เชื่อฟังผม

 

ผมยกมือกอดมันไว้ทั้งตัวราวกำลังปลอบใจเด็กน้อยที่กำลังตกอยู่ในฝันร้าย ใบหน้าเรียวยาวของมันซุกอยู่ในอกรับนิ้วมือเรียวๆ ของผมที่ลุบหัวมันเบาๆ ชีวิตมึงขาดอะไรไปปอถึงทำให้มึงต้องการความรักขนาดนี้

 

กูไม่เข้าใจมึงเลย

 

 

 

“เป็นอะไรวะ ทำไมหน้าหงิกอีกแล้ว”

 

ผมชะงักพลางหันหลังไปมองตามเสียง ไอ้กรีนเดินมาทรุดตัวนั่งบนโต๊ะข้างๆ ก็เพราะไอ้ปอนั่นแหละ ก็เมื่อคืนมันอะแทนที่จะโกรธ จะโมโหจะโวยวายอะไรสักอย่างกับผมที่ไม่ยอมมัน มันกลับอาการแปลกๆ และเชื่อฟังผมง่ายๆ ผิดสันดานของมันที่อยากเอาชนะผมนัก แล้วก็ผมก็ต้องมานั่งคิดมากแบบนี้ไงเล่า!

 

“เปล่าหรอกกรีน แล้วนายไปไหนมาอะ” ผมว่า

 

“ไปเข้าชมรมมา นี่อย่าบอกนะว่านายโดด?” มันชี้หน้า ผมยิ้มพยักหน้ารับ

 

“ก็มันน่าเบื่อนี่หว่า”

 

“เอ้อ เราเห็นแฟนภีมแขนหัก ไปโดนอะไรมา?” ทำไมชั่วโมงนี้มีแต่ชื่อไอ้ปอเต็มหัวผมไปหมดนะ

 

“รถมอเตอร์ไชต์ล้มน่ะ”

 

“อ๋อ…” มันพยักหน้ารับก่อนจะหันมายิ้มๆ ว่า “ภีมสนิทกับเขามากไหม ตอนที่เจอกันครั้งแรกเห็นทะเลาะแล้วก็เข้ากันแทบจะไม่ได้นะ”

 

“อ๋อ สบายมากกรีนไม่ต้องห่วง ปอมันเอาเข้าจริงเก่งแต่ปากอะ ที่สำคัญของมันเท่านี่…” ว่าแล้วผมก็ยกนิ้วก้อยให้นินทาไอ้ปอไปด้วย รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าไอ้กรีนทันที

 

“ภีมยอมเขาเหรอ?” มันว่าฝ่าเสียงเราะเอาซะผมอ้าปากค้างกับคำถาม จะตรงไปตรงมาไปไหนวะ

 

“เอ่อ คือ…” จะตอบยังไงดีวะ ไอ้ผมก็ยิ้มแห้งๆ “ใครบอกว่าเรายอมมัน นี่กรีนยังไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวมันควายๆ หน้าแมนๆ แบบนั้นที่จริงมันน่ะรับนะจะบอกให้ ลับหลังคนอื่นนี่อื้อหืม…สาวแตกมาก ทีแรกเราก็ยังรับไม่ได้หรอกเพราะหน้ามัน…”

 

“ภีม!”

 

ชะอุ่ย!

 

นินทาซะเพลิน ลืมไปว่ากูนั่งรอมันอยู่นี่หว่า ผมหันไปยิ้มไม่รู้เรื่องให้คนที่ตัวเองกล่าวถึงซึ่งสวมชุดช็อปอันโสโครกเปื้อนน้ำมันเครื่องเดินออกมาจากห้องช็อป แขนเป็นแบบนี้ยังจะมาเรื่องมากให้ผมพามาอีก จะไปช่วยเขาลุยงานอะไรได้วะ

 

แล้วแม่ง ได้ยินกูนินทาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้

 

มันเดินออกมาหน้านี่เหี้ยมอย่างกับโจรพร้อมเอาสันหนังสือทิ้งลงบนหัว ย้ำว่าสันหนังสือนะครับไม่ใช่ธรรมดา มันแข็งนะเว้ย! ผมหยีหน้ารับพร้อมกับยกมือลูบป้อยๆ ด้วยความเจ็บ

 

“สัสปอ!” ว่าแล้วเงยส่งค้อนไปให้มัน

 

“นินทาอะไรกูได้ยิน มึงอย่าๆ” มันว่าพลางชี้หน้า ผมกลืนน้ำลายตัวเองก้มหน้าลูบหัวโนๆ ไปพร้อมรอยยิ้มไอ้กรีนไปด้วย เออว่ะสองคนนี้มันไม่รู้จักกัน

 

“เพื่อนกู ชื่อกรีน” ผมชี้ไปทางไอ้กรีน ไอ้กรีนมันเงยไปมองก่อนจะยิ้มยกมือไหว้ อยากบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองอะไรกับไอ้นี่มากหรอก เดี๋ยวสักพักตบหัวกันเล่นกระจาย เห็นไหมผมยังไม่นับถือมันเลย แต่ถ้าไม่ทำตามก็ดีนะ

 

“กูผัวมัน ไม่ต้องเรียกชื่อก็ได้ เรียกว่าผัวไอ้ภีมก็จบละ”

 

หืม มึงจะเกทับอะไรหัดเห็นใจกูบ้าง ผมเหล่ตาแสดงถึงความไม่พอใจให้มันเห็น มันรู้สึกสำนึกผิดเป็นอย่างมากที่ทำกับผมแบบนี้ จึงแสดงความรับผิดชอบด้วยการกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกผิดในตัวเองว่า “ผัวรักผัวหลงมันเลยล่ะ”

 

ผมสูดลมหายใจไล่ความอายตัวเองออกก่อนที่จะไม่เหลือยางอาย ผมว่าผมควรจะกลับบ้านพร้อมกับมันดีกว่าก่อนที่จะขายขี้หน้าไปกว่านี้ คิดได้แล้วนั้น ไอ้ผมก็ลุกขึ้นยืนหันไปลาไอ้กรีนทันที

 

“ไปก่อนนะ ไปเอาตะกร้อมาครอบปากมันก่อน”

 

“ไอ้ภีม!” ไอ้ปอมันว่าแทรกพร้อมกับผมที่หลุดหัวเราะ กรีนทันพยักหน้ารับพร้อมกับโบกมือลาไปด้วย

 

“ไว้เจอกัน”

 

“เออ ไว้เจอกัน” ผมว่าพลางเดินนำ ไม่รอไอ้ปอที่สาวเท้าตามมายังรถของโรงแรมที่ยังจอดรออยู่ หน้าไอ้ปอมันหงิกบ่งบอกอารมณ์ที่เสีย เสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรมา ทำไมมันยิ้มเหมือนไม่เคยยิ้มมาก่อนแบบนี้

 

“แม่…”

 

แม่เหรอ ผมมาอยู่กับมันนานเท่าไหนแล้วนะแต่เห็นแค่พ่อของมันโทร.มา ไม่เคยเห็นมันได้คุยกับแม่เลยสักครั้ง

 

“กำลังจะกลับครับ ทำไมแม่ถึงโทรมาได้ล่ะ?” ปอมันยิ้มตลอดเวลาที่คุยกับแม่ มันละสายตามามองผมก่อนจะชี้ให้ขึ้นรถ ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งเงียบฟังที่มันคุย อย่าหาว่าเสือกนะ ก็เสือกจริงๆ นั่นแหละ

 

“อ่า ผมเห็นแล้ว มันแพ้ใช่ไหม?”

 

มันว่า อะไรแพ้ๆ

 

“มันอ่อนซ้อมรึไง มัวแต่มั่วผู้หญิงไม่ยอมซ้อมล่ะสิ” ปอมันหลุดยิ้ม “อะ ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้แขนหักอยู่”

 

มันว่า ทำไมตอนอยู่กับแม่เป็นเด็กดีจัง อยู่กับกูแม่งใช้แต่อำนาจบาทใหญ่

 

“รถล้ม…เปล่าไม่ได้ล้มในสนามแข่ง ผมไม่ได้แข่งนานแล้ว” ปอมันละรอยยิ้ม “บอกไอ้เปรมด้วยนะว่ามันอ่อนมาก แข่งสนามใหญ่ทั้งทีได้แค่รองแชมป์”

 

“พ่อเหรอ…” มันลากเสียงแล้วละรอยยิ้มลง “ก็เหมือนเดิม คงสบายดีมั้ง”

 

มันละหันมามองผมแล้วโน้มหน้ามาจูบแก้มแบบกะทันหัน ผมหันขวับไปผลักหน้ามันแล้วต่อว่าด้วยความหงุดหงิดที่แม่งไม่อายคนขับรถ “ไอ้ปอ ไอ้นี่!”

 

ผมทำท่าจะตีมันปรามไปด้วย ลามปามนักไอ้นี่ แต่มันหลุดยิ้ม “อ้อ เสียงลูกแมวติดสัดน่ะ”

 

หืม มึงเห็นกูเป็นแบบนั้นเหรอ ผมหยิกแขนมันด้วยความหมั่นไส้ มันสะดุ้งหันหน้ามาคาดโทษทว่ากลับละไปสนใจคนอยู่ปลายสาย

 

“อะไรนะแม่ เดี๋ยวสิ แม่จะบินมาไหมเทอมนี้” มันรีบว่าก่อนจะยิ้มกว้าง  เอาแขนที่ว่าหักมากอดผมแน่น “จริงเหรอ ผมจะรอนะ ห้ามลืมสัญญานะรู้ไหมอย่าให้ไอ้เปรมมาคนเดียว”

 

เปรม พี่ หรือน้อง ผมนิ่งคิดตามมันที่วางสายแล้วกอดผมนิ่งด้วยรอยยิ้มที่มันดูจะมีความสุขเอาเสียมาก ผมซุกหน้าลงบนไหล่ของมันนิ่ง เออ มึงดีใจขนาดนี้เลยเหรอ

 

คิดแล้ว อยากรู้จริงว่าระหว่างมันกับพ่อเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปอมันวางสายและยิ้มอย่างอารมณ์ดี หันมามองผมที่ยังนั่งพิงไหล่ของมันมองออกนอกรถไป มือมันข้างไม่หักขยับมาจับผม จับแก้ม จับคางเชยให้หันไปมองมันตอนนี้

 

“แม่โทรมาเหรอ?” อดที่จะเสือกไม่ได้

 

“อืม”

 

“มึงมีพี่น้องด้วยเหรอ?” ผมว่าอีก มันเลิกคิ้วตัวเองมองตามผมก่อนจะโน้มหน้ามาใกล้ จะหาเรื่องจูบอีกละ ผมขยับตัวหนีเองและหลบมันไปด้วยเพราะอายคนขับรถ

 

“พี่ชายกูเป็นสิงห์บิดน่ะ” มันว่า แล้วมึงจะเขยิบตามกูมาทำไมเนี่ย

 

“พี่มึงท่าจะเท่นะ”

 

มันละมาจ้องตา ทำหน้าเข้มแล้วกระชากเอวเข้าไปหา นี่มาอารมณ์ไหนอีกวะเนี่ย ผมดันไหล่มันออกพร้อมเบี่ยงหน้าหลบมันไปด้วย นี่อย่าบอกนะว่าโกรธที่กูแค่ชมพี่ชายมันนิดเดียวเอง

 

“กูเท่กว่าเยอะ” เสียงมันว่าข้างหู กลีบปากร้อนๆ งับติ่งหูเบาๆ แต่ผมนี่สะดุ้งเลย มาทำต่อหน้าคนอื่นได้ไงวะ

 

“อย่าปอ…” ผมผลักมันออก ก้มหน้าก้มตาสงบเสงี่ยมขึ้นมาทันทีทันใด “ก็มึงไม่ได้เป็นนักแข่งเหมือนพี่มึงนี่หว่า ไม่ได้สวมชุดเท่ๆ ใส่แต่ไอ้ช็อปเหม็นๆ น้ำมันเนี่ย”

 

“กูก็มีหรอก ทำไมไม่บอกว่าอยากเห็นละเดี๋ยวกูไปรื้อมาใส่ให้มึงดูก็ได้ กูไม่ชอบเลยนะที่มึงชมมันแบบนั้นน่ะภีม”

 

“อะ กูยอมแล้วๆ” ผมว่าเสียงเบาไม่อยากเถียงต่อ อายคนขับรถ แม่งเห็นตามันละมาจ้องในกระจกหลายครั้งแล้วเนี่ย

 

“ยอมอะไร ยอมตามใจกูเหรอ?” มันว่า ผมกลืนน้ำลายขยับหน้าเข้าไปว่าเสียงเบาเป็นกระซิบ

 

“อายเขา”

 

“อายทำไม ไม่เห็นมีใครเลย?”

 

ที่ขับรถให้มึงนั่งน่ะหมารึไงวะ



ต่อพาทสองจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2014 19:40:25 โดย noonaaRP »

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa

ตอนที่ 12

Part 2

ผมถอนใจยกมือกุมหน้ากับความหน้าด้านของมันที่ไม่รู้จะแก้ยังไงดี พร้อมกันกับมันที่ขยับตัวเองมาจะออดจะอ้อนอีกครั้ง จมูกมันเคลียคลอกับต้นคอผมไม่ห่างก่อนจะผละไปมองคนขับรถ เออ มึงเห็นแล้วว่าถูกมองก็ควรจะหยุดได้แล้ว

 

“มึงขับรถไป แล้วก็ไปบอกพ่อด้วยว่าถึงจะตามดูกูยังไงก็ไม่สน!”

 

ผมชะงักดึงหน้ามันมาจ้องตา “มึงไปพูดแบบนั้นกับพี่เขาทำไม?”

 

“เงียบ!” มันชี้หน้าว่าเสียงเข้ม ดวงตาจ้องผมไม่ละแล้วหันไปพูดอีกทีว่า

 

“อย่ามาเสือกเรื่องของกูให้มันมากนัก ไม่งั้นมึงกับพ่อไม่อยู่สุขแน่ไอ้เศษขยะ!”

 

“ปอ…” ผมยกมือกุมปากมัน ทำไมแม่งปากหมาจังวะไอ้นี่ หุบปากไว้เลย แต่มันแม่งสะบัดมือผมออกไปว่ากับคนขับรถต่อ

 

“กูบอกว่ากูเอาจริง ถ้ากูรู้ว่ามึงเอาความเคลื่อนไหวไปบอกพ่อแล้วพ่อโทรมาหากูอีก กูจะตามไปจัดการแม่มึง น้องมึง…”

 

“ปอ หยุด!” อะไรของมัน จะโมโหอะไรนักหนากับแค่คนขับรถมอง

 

“มึงนั่นแหละหยุดภีม กูจะเคลียร์กับไอ้นี่ให้แม่งเข้าใจว่าแม่งอย่าเสือก ถ้ากูเสือกมึงบ้างแล้วมึงจะไม่ได้อยู่ดีแน่”

 

“พอแล้ว”

 

“กูต้องจัดการให้มันรู้แล้วว่ามันกับกูน่ะสถานะแม่ง…”

 

ฮึ่บ

 

มันชะงักพูดไม่ได้ จะพูดได้ยังยังล่ะก็ผมเอาตัวเองเข้าแลกกับความปากหมาน่ารำคาญของมันแบบนี้ มันนิ่งและตอบรับแทบจะทันทีที่ผมพุ่งเข้าไปประกบปากจูบมัน มือข้างที่ใช้ได้กอดเอวผมตอบและเบี่ยงหน้าให้ได้องศา บดขยี้ปากของผมแลกความหวาน ไล่ลิ้นวนและพัวพันกับลิ้นของผมไม่ยอมหยุด ผมหอบหายใจ ผละปากออกขณะที่ลิ้นยังพันรัวนัวเนียกันอยู่มาสูดลมหายใจ เสียงปากมันดูดเฟ้นกลีบปากล่างของผมด้วยความกระหาย เร่าร้อนและอ่อนโยนในคราเดียวกัน

 

ผมถอนใจหลังจากเราผละออกจากกัน หลบตาของมันที่จ้องมอง จะขยับหน้ามาจูบอีกครั้งทว่าผมเบี่ยงหนี ปากมันจรดลงแก้มและเคลื่อนมาใบหูแทน ตัวเคลื่อนเมื่อรถเบรก เข้าโค้ง ร่างผมไม่เสียหลักเลยเพราะปอมันกอดผมไว้แน่นและกอดหอมไม่ยอมละ ทั้งที่วันนี้แดดก็ร้อน เหงื่อก็ไหล ตัวมีแต่เกลือเต็มไปหมด

 

ปากปอมันร้อน ฝังลงบนคอ ผมไม่อาจขัดขืนมันได้อีกเพราะเมื่อวานทำท่าทางตอบสนองผมอย่างที่ไม่เคยเป็น ไม่โกรธที่ถูกผมปฏิเสธซึ่งทำให้ผมคิดมากทันที มือผมแตะบนบ่ามันเบาๆ เคลื่อนไปต้นคอ แตะเรือนผมสีดำของมันที่กำลังบรรจงฝังรอยไว้บนลำคอ นี่จะมาทำอะไรตอนนี้วะเนี่ย

 

แทนที่จะตอบรับ กูควรขัดขืนบ้างให้รู้ว่ากูไม่ง่ายหน่อยสิ ผมบิดตัวหนีเมื่อมันเคลื่อนมือมาล้วงกางเกง อันนี้คือไม่ได้แล้ว!

 

“ปอ หยุด” ผมว่า มันชะงักจูบ ขยับใบหน้าที่กำลังซุกอยู่แถวๆ ลำคอออกมาจ้องตา ผมเม้มปากตัวเองพยายามเก็บกลั้นความอาย “กูบอกว่า พอแค่นี้…”

 

มันนิ่งจ้องตา ไม่ขยับตัวทำอะไรต่อ

 

ผมเห็นมันถอนใจแล้วละออกไปเฉยๆ มองรถเคลื่อนเข้าโรงแรมแล้วก็รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด การเดินทางกลับมาที่นี่วันนี้มันช่างยาวนาน กูล่ะลุ้นว่ามันจะถึงไหมเพราะความปากหมาขอไอ้ปอ เราเดินลงจากรถพร้อมกันนั้นผมก็เพิ่งได้สังเกตว่าคนขับรถนั้นสวมชุดพนักงานโรงแรมมารับ ไม่ใช่คนขับรถ ไม่แก่เลยด้วย เขามองตามเรานิ่งและรู้ว่ากำลังถูกผมมองอยู่

 

เออ มันน่าสงสัยว่ะ

 

 

 

อีกไม่กี่วันก็จะครบเดือนแล้วสินะ

 

ในใจมันโหวงๆ แฮะ

 

ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเรื่องของพี่ธามมากนัก รู้แต่ว่าไอ้ต้นมันรักพี่ธามมากแต่ก็ยังคงความเอาแต่ใจอย่างลูกคุณหนูเหมือนเดิมไม่ยอมไปง้อ อันที่จริงมันก็โดนเสียเจ็บตัวขนาดนั้นก็คงต้องมีตั้งหลักกันบ้าง หลายวันแล้วที่มันเลิกกันและไม่ยอมกลับเข้าไปเคลียร์กันให้เข้าใจ ผมสงสารทั้งสองฝ่ายและสงสารตัวเองด้วย ก็ผมขอไอ้ปอกลับบ้านและมันก็ไม่ยอมปล่อยออกมาน่ะสิ ตั้งใจจะขังไว้ให้อยู่ในสายตามัน

 

พ่อแม่ผมกลับมาทั้งทีก็อยากเห็นหน้าบ้าง กลัวลืม

 

แล้วไหงมันจะต้องเสนอหน้าตามมาถึงที่บ้าน มานั่งทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อหน้าพ่อกับแม่ผมแบบนี้ด้วยวะเนี่ย ผมล่ะหงุดหงิดจริงๆ

 

“ปอเรียนที่เดียวกับน้องเหรอจ้ะ?” เสียงแม่สอบถามมัน ผมนั่งแอบเงี่ยหูฟังอยู่ห่างๆ แม่งถ้าไปนั่งฟังจริงๆ เดี๋ยวไอ้ปอมันสร้างภาพ

 

“ครับ เป็นรุ่นพี่มัน แล้วก็เป็น…”

 

เชี่ย! ผมหันไปมองหน้ามันที่กำลังยกยิ้มเหนือกว่ามาให้

 

“เป็นคนดูแลมัน เวลามันไปนอนค้างกับผมน่ะครับ”

 

“อ้อ ปอนี่เองที่ให้น้องไปนอนที่บ้านด้วย แม่ขอบใจมากนะจ้ะช่วยได้มากเลย ความจริงอยากจะย้ายให้ไปอยู่เสียที่โน่นแต่ภีมเขาไม่ยอมเพราะยังไงก็ต้องบินกลับมาอยู่ที่นี่อยู่ดี แต่พวกเราใช้เวลากับงานที่โน่นมากกว่าแล้วก็อยากให้น้องอยู่ในสายตาด้วย”

 

ปอมันละยิ้มนิ่งเมื่อได้ยินแม่ว่า “ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะดูแลมันเอง”

 

“มีปอแม่ก็หายห่วงจ้ะ ฝากน้องด้วยนะ เอาแต่ใจบ้างก็อย่าโกรธล่ะ”

 

อะไรวะ ผมตีหน้าบึ้งหันมาสนใจทีวีต่อหน้าเมื่อได้ยินเสียงไอ้ปอหัวเราะ

 

“แล้วเราเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันล่ะ?” เสียงพ่อถามขึ้น ปอมันชะงักเสียงหัวเราะมองหน้าเข้มๆ ของพ่อ พ่อกูมีปืนด้วยนะมึง ข่มขืนกูเมื่อไหร่กูให้พ่อมายิงมึงแน่

 

กูโหดนะเว่ย

 

“พ่อผม ทำธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรม ส่วนแม่ก็ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เมืองนอกน่ะครับ”

 

“อ้อ พ่อแม่แยกทางกันนี่เอง”

 

“คุณคะ เสียมารยาท”

 

“โทษทีๆ ว่าแต่เด็กโรงเรียนนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องความร่ำรวยอยู่แล้วนี่นะ พวกเราก็ต้องขยันมากขึ้นหน่อยจะได้เติบโตให้ไวกว่านี้”

 

อีกแล้ว พ่อคิดแต่แบบนี้

 

“ว่าแต่ พ่อเราน่ะ พอจะมีเงินให้กู้มาลงทุนไหมนะ…”

 

“คุณคะ พูดอะไรแบบนั้น”

 

“ก็มันจริงนี่คุณ ดูสิท่าทางทางบ้านเขาน่ะคงจะรวยไม่เบา แค่เห็นรถที่ขับมาส่งก็รู้แล้ว ว่างๆ พาพ่อแวะมาทานข้าวที่บ้านทำความรู้จักกันด้วยก็ได้นะปอ” พ่อว่าพลางยกยิ้ม

 

“ถ้าพ่อว่างเดี๋ยวผมชวนมาน่ะครับ” ปอมันตอบแล้วละรอยยิ้มลงมามองผมที่ยิ้มไม่ออกเช่นเดียวกัน ผมรู้สึกขายขี้หน้า

 

“เราก็เหมือนกันนะภีม ไปอยู่ที่โน่นทำตัวให้พ่อปอเขาเอ็นดูด้วยล่ะรู้ไหม?”

 

ผมอึกอักมองพ่อที่ว่ามา ทำไมถึงคิดแบบนี้วะ “ทำความสนิทสนมกันไว้ คราวหน้าลำบากอะไรพ่อปออาจจะช่วยได้นะ คิดไม่ผิดที่อุตส่าห์ดั้นด้นส่งไปเรียนโรงเรียนนี้จริงๆ”

 

“คุณค่ะ เมาแล้วก็พอเถอะค่ะ”

 

หน้าผมแม่งชา

 

ผมพาร่างตัวเองเดินขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนที่ปิดไฟสนิท ความร้อนแล่นมาทาบอยู่กลางหลังเมื่อปิดประตูลง ดวงตาก้มมองมือที่เกาะกุมกันบนท้องของตัวเองแล้วก็อดที่จะเงยขึ้นไปสบตากับมันไม่ได้ ผมถอนใจ อายไอ้ปอว่ะที่เห็นสภาพครอบครัวตัวเองเป็นแบบนี้

 

มันกอดผมนิ่งหลังจากเดินตามขึ้นมาเงียบๆ ด้วยท่าทางปกติทุกอย่าง

 

“มาอยู่กับกูนะภีม ถ้ามึงต้องอยู่แบบนี้คนเดียว” เสียงของมันเบาหวิว ผมก้มหน้าลงพื้นทันที

 

“ไม่ได้หรอก กูอยู่กับมึงได้เท่าที่จะอยู่ได้ เมื่อถึงเวลากูก็ต้องออกมา”

 

มันนิ่ง กอดผมด้วยแขนที่ถูกดามนั่น

 

ผมควรจะซ้อมการอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีมันได้แล้วนะ ควรกลับมานอนที่บ้าน ทำตัวให้เหมือนเดิมได้แล้ว เวลามันใกล้เข้ามาทุกที

 

“พอได้แล้ว กลับบ้านมึงไปเลย”

 

ผมว่าเสียงเบาพลางแกะมือมันออกพร้อมกับความปวดหนึบที่อกเมื่อนึกถึงวันที่ต้องเลิกกัน ยอมรับเลยว่าอยู่กับมันโคตรมีความสุข แต่งงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา พบแล้วก็ต้องจาก มันเป็นธรรมดาของโลก

 

ผมไม่มีสิทธ์เหี้ยอะไรในตัวมันเลย! ผมพยายามกับมันที่สุดแล้ว

 

ปอมันยืนนิ่งไม่ไหวติง แววตาของมันยังสับสน วุ่นวาย และเหมือนจะหงุดหงิดในตัวเอง พยายามเอื้อมมือมาจะแตะ ใจผมหายไม่ต้องการให้มันสัมผัสเพื่อสื่อความรู้สึก ผมไม่อยากรับรู้ว่ามันรู้สึกยังไง ยิ่งถ้ามันเจ็บผมก็ยิ่งเจ็บกว่า

 

ผมกลัวตัวเองเจ็บเวลาเลิก ผมควรจะทำใจ ปฏิเสธและเลิกให้ความหวังมันตั้งแต่ตอนนี้

 

 “ภีม เดี๋ยวสิ…”

 

เลิกทำร้ายใจตัวเองได้แล้ว

 

“บอกให้กลับไปไง!” ผมว่าพลางผลักมือมันไปด้วย แต่ใจโคตรเจ็บที่ทำอะไรตรงกันข้ามกับปาก มันดูผิดหวังและพยายามไม่เชื่อฟังผมอย่างเคย มันเอาแต่ส่ายหน้าไม่ยอมฟัง นี่ผมเป็นอะไรเนี่ย

 

ยิ่งคิดยิ่งงี่เง่า!

 

“พรุ่งนี้มึงไปนอนกับกูที่โรงแรมนะ”

 

“ไม่ไป กูจะอยู่กับพ่อแม่กูที่นี่” ผมว่า พยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด แต่มันคงจะไม่ปกติแน่ะสำหรับคนฟัง ปอมันแสดงความสงสัยหน่อยๆ มาจากใบหน้า

 

“แต่กูอยากให้มึงไป เหลืออีกไม่ถึงสิบวันนะภีมที่เราจะอยู่ด้วยกัน”

 

ใจผมสั่นแล้วก้มหน้าลงพื้นเก็บความรู้สึก กลัวมันเห็นเหลือเกินว่าผมเจ็บปวดขนาดไหน ทำไมมึงไม่ต่อเวลาให้กูล่ะ มันบอกว่ามันกลัวเวลาที่กำลังจะมาถึง ทั้งๆ ที่มันเปลี่ยนตัวเองได้ มันเลิกที่จะมีแฟนรายเดือนได้

 

มึงบอกกูสิว่าอยากคบกับกูต่อ แค่นั่นเอง กูจะยอมมึงง่ายๆ เลย

 

“กูไม่สน เพราะพ่อแม่กูสำคัญกว่า” ผมเงยขึ้นไปว่า

 

“ทำไมมึงทำแบบนี้วะภีม ทำไมช่วงสุดท้ายมึงไม่ไปอยู่ข้างๆ กู”

 

มันไม่บังคับให้ผมนอนกับมันแล้วเหรอ มันลืมเรื่องนี้ไปแล้วรึไง บังคับให้ผมอยู่ใกล้ตัวเพื่อจะได้ยอมนอนกับมัน ลืมสิ่งที่ตัวเองตั้งใจรอมานานขนาดนั้นลงไปได้

 

มึงเลิกคิดจะนอนกับกูตั้งแต่ตอนไหนวะปอ มันทำให้ใจกูสั่น!

 

ผมสงสารมัน ใบหน้ามันเว้าวอน พยายามเอื้อมมือมาจับมือผมที่สะบัดออกไม่ยอมให้แตะต้อง

 

“ที่นี่มันบ้านกูนะปอ เลิกทำแบบนี้” ผมว่า

 

“เอ่อ กูขอโทษ”

 

มันชะงักมือตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ในสิ่งที่ผมบอก มองตามผมที่ละไปทางอื่น ใจผมหวิวแปลกๆ ที่มันฟังและเข้าใจง่ายๆ มันจับผมเชยขึ้นไปมองหน้ามันตอนนี้ที่ดูเหมือนจะโกรธ เหมือนจะน้อยใจ เหมือนผิดหวัง ตัดพ้อคละเหล้ากันไปหมด ผมได้แต่ขืนแรงสู้

 

“อย่ามายุ่ง…”

 

“มองหน้ากูภีม มองมาที่ดวงตากู บอกกูว่ามึงต้องการอะไร กูจะทำตามที่มึงบอก”

 

กูอยากให้มึงเปลี่ยน! อยากให้มึงรักแค่กู อยากให้แคร์แบบนี้แค่กูคนเดียว!

 

ใจผมก่อนยวบลงทันที ถึงจะคิดแบบนั้นกลับไม่กล้าที่จะบอกมันสักนิด ไม่กล้า ผมกลัวเรื่องนี้เรื่องเดียวที่มันจะไม่ทำตามคำขอ ความร้อนแล่นเข้ามาที่ดวงตาแทบกลั้นไม่อยู่

 

ผมกลัวตัวเองร้องไห้ถ้ามองมันตอนนี้ สีหน้ามันตอนนี้ไม่เหมือนไอ้ปอคนเดิม มันมีแต่ไอ้ปอคนที่ผมรักสุดหัวใจ คนที่แคร์แต่ผม มองแต่ผม ห่วงใยแต่ผม

 

ตอนนี้มันโคตรดีเลย มันห่วงแต่ความรู้สึกของผม

 

ทำไมมันดีกับผมขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ยอมบอกว่ามันรู้สึกยังไง

 

ใจผมมันสั่นไหว รู้สึกดี

 

มือของผมยกขึ้นไปกอดคอของมันสุดแรงจนร่างมันโอนเอนตามลงมา ใบหน้ามันคงตกใจและทำอะไรไม่ถูกเพราะตัวมันชะงักนิ่ง ก่อนจะเคลื่อนมือมากอดผมตอบ ซุกคางลงบนซอกคอและจูบซับครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับรู้ว่าตอนนี้ผมปวดใจขนาดไหน เราไม่ได้พูดอะไรกันเลยเพราะตอนนี้ผมกำลังงี่เง่า ผมกำลังเอาแต่ใจตัวเองไม่สนว่ามันจะรู้สึกยังไง

 

พอคิดดูอีกที ผมมัวแต่กลัวตัวเองเจ็บถ้าถึงวันที่จะต้องเลิกกันจริงๆ

 

จนลืมไปว่าปอมันก็มีหัวใจ มันก็รู้สึกได้เหมือนกัน

 

ผมทำเย็นชาใส่มันโดยที่มันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร 

 

ผมแม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลยว่ะ!

 

“พี่ปอ…อยู่กับภีมที่นี่นะ…” เสียงผมโคตรสั่น ปอเองก็นิ่งฟัง มือของมันลูบหัวผมเบาๆ ปลอบใจอยู่แบบนั้นตลอดเวลา

 

กูรักมึง ปอ…

 

กูรักมึงมาก!

 

“พี่จะอยู่ข้างภีมเอง ไม่ว่าจะยังไง…”

 

ไม่ว่าจะยังไง…

 

หมายความว่าอะไร ผมไม่เข้าใจ

 

ผมกอดมันแน่น ไม่ยอมปล่อย เอาแต่ใจตัวเอง ปอเคลื่อนใบหน้ามาจูบขมับผมซ้ำๆ แล้วผละมาจูบที่ปาก ผมอ้าปากรับและตอบสนองทันที ตอบรับความต้องการของกันและกันตอนนี้อย่างโหยหา เสียงเราหอบหายใจ ผมผละปากออกมามองตามันนิ่ง

 

นิ้วหัวแม่มือไล้ปากผมอ่อนโยน ดวงตาที่แฝงความเศร้าตรงหน้า ผมไม่อาจหลอกตัวเองว่ามันเองก็กำลังใจเสียเหมือนกัน ผมไม่กล้าคิดเลย

 

“งั้น…” ผมเงยมองตาคนตรงหน้า ขยับตัวเข้าไปใกล้ มือเอื้อมไปกดล๊อคลูกบิดประตูที่อยู่ด้านหลังมันพร้อมกับมันที่แสดงถึงความฉงนเมื่อผมทำเช่นนั้น

 

“ไม่ว่าจะยังไง ช่วยตอบทีว่ายังไง…”

 

ผมจ้องตามันที่เบิกตาตัวเองประหลาดใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ เมื่อผมแสดงถึงความจริงจัง ไม่โวยวายไล่มันออกไปอย่างเคย ผมคิดดีแล้ว ช่วงเวลาสุดท้าย ผมไม่ควรทรยศมันที่กำลังรอผม ผมควรตอบสนองและยินยอมมันได้แล้ว แม้มันจะไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อผม

 

แต่ผมจะทำให้มันจดจำผม ให้มันไม่ลืมผม

 

 

จากเซ็กส์…

 

 

 

อะฮือ…

กัดผ้าเช็ดหน้าร้องไห้แปป ไม่ได้เศร้านะ คือเป็นห่วงว่าภีมเอ้ยหนูตัดสินใจแบบนั้นได้ไงอ่า! ไหนบอกว่าจะไม่ยอมง่ายๆ ไงคะลูก เข้าใจนะว่าใกล้จะครบเดือนแล้วเลยยอม ปอมันจะได้ไม่ลืมหนู แต่ว่า…เสียดายซิงหนูมาก เจ๊อยากเป็นคนเปิดซิงหนูเองอะ อะไม่เกี่ยวละ อิอิ

อ่านๆ ไปเห็นความเปลี่ยนแปลงจากตอนก่อนๆ จนมาถึงตอนนี้นี้ไหมว่าปอมันเปลี่ยนนะเอ้อ มีภีมคนเดียวที่ดูไม่ออก คิดอยู่นั่นแหละว่าสามีน่ารักๆ แต่ไม่สังเกตเลย ตอนที่แล้วนี่รุมด่าปอลืมไปแล้วรึไงที่ด่าๆกันเรื่องต้นอะ เป็นสิ่งที่ปอก่อไว้ตั้งแต่อดีตอะนะคะ ตั้งแต่ตอนอยู่ที่เกาะโน่น ตอนที่ภีมยังไม่รู้ใจตัวเองเลย นางบอกนางไม่มีสิทธ์ในตัวสามมี//ปาดน้ำตาแปป

แต่ว่าตอนหน้ามี NC นะคะ 5555 จะถึงขั้นไหนก็อ่านกันเอา ถึงขั้นได้เสียรึเปล่าน้า…

 :katai2-1: :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2014 19:41:14 โดย noonaaRP »

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa
 

ตอนที่ 13

Part 1

 

ผมจะยอมนอนกับมัน

 

ให้มันจำผมไว้

 

เสียงห้องเงียบกริบไม่มีใครเอ่ยพูดอะไรเลยสักคำ ร่างสูงๆ ของปอมันถูกผมดึงรั้งมาแล้วผลักให้ทรุดตัวนั่งลงปลายเตียงนอน ใบหน้าเรียวได้รูปของมันเงยมามองผมด้วยหลายหลากความรู้สึก แต่สิ่งหนึ่งคือมันตกใจและมีคำถามมากมายในหัวว่าผมจะทำแบบนี้ทำไม

 

“ภีม…”

 

เสียงพี่ปอมันว่าข้างๆ หู เมื่อผมทรุดตัวนั่งบนตักมันเบาๆ อย่างที่มันชอบทำ มือทั้งสองข้างยกขึ้นไปโอบกอดคอมันและจ้องตากันอยู่แบบนี้ มันนิ่ง สีหน้างุนงงและจ้องตาหาความหมาย ความเขินอายแล่นเข้ามาสู่ใบหน้าของผมทันที

 

“จะทำอะไร?” มันพูดเสียงเบา ผมแอบเห็นมันกลืนน้ำลาย ทำหน้าเหมือนกำลังทำตัวไม่ถูก

 

“ไหนบอกว่าอยากทำนักไง?” ผมว่า

 

“แต่นี่มันบ้านมึงนะ”

 

“ช่างมัน มึงไม่ต้องแคร์แล้วพี่ปอ”

 

มันหลุบตาเสไปทางอื่น ผมเห็นมันเหงื่อซึม “แต่ว่า…”

 

“มึงไม่อยากเหรอ ไหนบังคับกูนักหนา” ผมว่า มือกระชับกอดคอมันไปด้วย มันละสายตาไปมองทางอื่นหาทางหนีทีไล่

 

“ก็อยาก…”

 

“เออ ก็อย่าเล่นตัว” ผมว่าพลางก้มลงไปจูบปากที่ปิดสนิทของมันเบาๆ “ทำที่พี่ปออยากทำกับภีมสิ อยากทำอะไรก็ทำตามใจเลย”

 

“ภีม…” มันขมวดคิ้วตัวเองเงยมาจ้องตา “ภีมเป็นอะไร?”

 

จะถามทำไม ถามเหมือนไม่อยากทำ

 

“ก็กำลังจะยอมเป็นเมียจริงๆ ไง ไม่ได้โกหกนะ จริงๆ” ผมว่าพลางขยับไปจูบมันอีกรอบ จูบซ้ำๆ ทั้งที่มันปิดปากสนิทแบบนั้นแหละ มันนิ่งมองหน้าผม นิ่งมองอยู่แบบนี้จนใจผมสั่น

 

“มึงอยากเหรอ?” มันว่าฝ่าความเงียบ ใจผมอยู่ดีๆ ก็สั่นขึ้นมาเฉยๆ เมื่อถูกถาม ผมไม่ได้อยากและร่านขนาดจะยั่วใครง่ายๆ แต่เป็นเพราะคนๆ นั้นคือปอ คนที่ผมรัก ผมอยากให้มันมีความสุข

 

“ครับ…”

 

เสียงผมเบาหวิว

 

มันเงยหน้ามามองและเอื้อมมือมากอดเอวผมให้ขยับเข้าไปแนบชิดกับตัว ดวงตามันเต็มไปด้วยคำถามแต่ไม่ถาม เต็มไปด้วยความสับสนแต่ไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น

 

“ถ้าอยากจะทำให้”

 

ผมไม่ตอบ แต่ขยับใบหน้าเข้าไปประกบจูบ มันเงยมารับและตอบสนองด้วยการไล่ลิ้นวนเวียนในโพรงปากอวดลวดลาย ดูดเม้มปากของผมรุนแรง ผละออกและประกบเข้ามาจับจองไปทั่วทั้งปาก ผมอ้าปาก ลิ้นถูกดูดดุนด้วยปากของมันเบาๆ ราวกับหยอกล้อ มือก็ไล้ไปตามมบ่ากว้างของมันไม่รู้ตัว

 

ผมเม้มปากที่เลือดกำลังวิ่งพล่านเมื่อผละออก จับหัวมันขยับเข้ามาจูบ ปอมันซุกหน้าลูบเลียลำคอพร้อมกับผมที่จูบขมับ จูบเส้นผมมันตอบสนอง เสียงริมฝีปากมันดูดเม้มลำคอและลมหายใจกระเส่าของเราประสานกันอยู่เนืองๆ

 

ผมพริ้มตา เชิดคอเมื่อมันเคลื่อนต่ำลงมาใช้ปากงับแกะกระดุมเสื้อนักศึกษา ละเลงลิ้นกับยอดอกที่แข็งตัวบ่งบอกอารมณ์ มือก็ล้วงเข้ามาในกางเกง ผมไม่ขัดขืน จิกมือสลับปรับเปลี่ยนเป็นลูบไล้ลงบนไหล่ของมันกับความเสียวที่แล่นในตัวอย่างช่วยไม่ได้

 

“ปอ มึงไม่ได้เมาแล้วนะ” 

 

ผมว่าเสียงเบา ชันเข่าตั้งขึ้นมือกอดคอก้มลงมองน้องชายตัวเองที่ถูกจับออกมาด้วยมือของคนที่ผมรัก มันก้มหน้าก้มตามองอย่างกับไม่เคยเห็นเรียกความอายแล่นเข้ามาได้ไม่ยากเลย

 

“คราวนี้เห็นชัดเลย ภีม น่ารักมาก เสียงภีม…” พี่ปอมันขยับเข้ามากระซิบพลางขยับมือบนภีมน้อยที่ขยายใหญ่ตอบมือมันแล้ว ลิ้นร้อนๆ เลียหูผมจนเปียกไปด้วยน้ำลาย ขนผมลุกบิดตัวรับทันที

 

“อืม…”

 

ผมคงทำหน้าเหมือนจะอยากร้องไห้ เหยเกกับความเสียวในท่อนกายตัวเองตอนนี้ที่กำลังเพิ่มพูนขึ้นด้วยมือของคนทำ ปอมันไล้หัวแม่มือแกล้งผมบนส่วนหัว ก้มมองมันที่กระดกตอบสนอง และกอบกำสาวช้าๆ พลางค่อยๆ เงยมาจ้องตาผมที่เม้มปากตัวเองมองตามันไปด้วย

 

“อย่าทำหน้ายั่วนักสิ”

 

มันว่าเสียงเบา ซุกหน้าลงบนคอ ตอนนี้ผมอยู่บนตักมัน ตัวมันอยู่กลางหว่างขาผมที่กำลังชันเข่าขึ้นและกอดคอมันไว้กันตก เท้าจิกเตียงจากอารมณ์ซ่านเสียวในท้อง มือผมข้างหนึ่งละจากคอมาลูบหน้าท้องตัวเองกับความรู้สึกแปลกๆ อดที่จะกระตุกไปตามความสุขสมไม่ได้

 

“อะ ปอ ขยับเร็วๆ” ผมทุบมือลงบนไหล่มันระบายอารมณ์เอาแต่ใจ มันเงยหน้ามาสบตาและแย้มยิ้ม จูบปาก จูบคางไล่ไปจนถึงหูราวกับต้องการหยอกล้อ

 

“สนุกกันก่อนสิ จะรีบไปไหน หืม?” มันว่า ใบหน้าแดงๆ ผมก้มมองน้องชายตัวเองในมือมันแล้วกลืนน้ำลาย คอแห้งผาก ได้แต่เลียลิ้นบนริมฝีปากตัวเองและกล่าวอ้อนวอน

 

“ภีมอยากเสร็จไวๆ”

 

“อย่าใจร้อน คนเก่ง” พี่ปอมันว่า ผมเอื้อมมือไปกุมมือมันด้วยความขัดใจ เร่งมือของมันให้เร็วขึ้นและปล่อยเสียงครางออกมาอย่างชอบใจและสุขสม

 

มันต้องแบบนี้สิปอ กูอยากได้แบบนี้

 

“ไม่เอาน่ะ เอามือภีมมาทำให้พี่ดีกว่านะ” มันว่าพลางจูบไหล่เปล่าๆ ของผม จูบแล้วจูบอีก ผมละมือออกอย่างว่าง่ายแต่เอื้อมไปกอดคอมันแทน จูบปากมันและก้มลงซบบนไหล่หลุดคราง

 

“เดี๋ยวมึงก็ได้กูแล้ว กูไม่ทำให้หรอก”

 

ผมบ่นในลำคอ เสียงมันหัวเราะหึและไม่ว่าอะไรต่อทั้งสิ้น ตั้งใจค่อยๆ มองตัวผม จ้องสิ่งที่อยู่ในมือตัวเอง ใช้มือลูบไล้บนตัวแก่นกลางความรู้สึกผมปรนเปรอ

 

“อะ อื้อ!”

 

ผมเม้มปาก กอดไหล่มันขมวดคิ้วตัวเองแน่น เมื่อมันค่อยๆ เพิ่มความเสียวขึ้นมาเรื่อยให้ผมสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนจะค่อยๆ ละลงให้ผมสนุกสนานกับความรู้สึกนี้นานๆ มันทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเก่งกาจและผมก็สุขสมอย่างถึงที่สุด

 

“อา…พะ พี่ปอ”

 

ผมจูบแก้มมันเว้าวอนให้ส่งผมขึ้นสวรรค์สักที เสียงผมหอบหายใจอยู่ข้างหูมัน ลมร้อนๆ รดหูมันครั้งแล้วครั้งเล่า มันคงเครื่องติดตั้งแต่ขอให้ผมทำให้ ป่านนี้ไม่เจ็บมากแล้วเหรอ

 

ขานตอบผมที ผมอยากได้ยินเสียงเพราะๆ ของมัน

 

“พี่ปอ…” ผมกัดหูมันไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยวกับหน้าหล่อๆ นี่ ปอมันสะดุ้งหันมาขมวดคิ้วตัวเองที่ถูกยั่ว ดึงเอวผมเข้าหาแล้วหันมาแนบปากจูบ

 

“อย่าทำแบบนี้” มันว่าเสียงเข้ม

 

“ทำไม อีกหน่อยพี่ปอก็ได้ปลดปล่อยแล้ว” ผมว่าพลางงับซ้ำไปอีกที ปอย่นคอหลบมผ่อนอารมณ์ตัวเองเต็มที่ ฟังจากเสียงลมหายใจขัดๆ น่ะ

 

“ภีม มันเสียวนะรู้ไหม พี่บอกให้หยุด”

 

“ไม่หยุด อยากล่ะสิ…” ผมว่า งับคอมันแกล้งไปอีกที

 

“อย่าดื้อ พี่บอกดีๆ นะ”

 

“เหรอ อะ อา…โอย…” ผมซี๊ดปากตัวเอง มือลูบหน้าท้องตัวเองกับความเสียว อีกข้างก็กอดไหล่คนทำแน่น ได้กลิ่นน้ำหอมบนเสื้อยิ่งเรียกอารมณ์ไปกันใหญ่ กลิ่นตัวปอโคตรดี ฟีโรโมนเหรอ

 

“อ๊ะ อะ พี่ปอ แบบนั้น…” ผมงับหูมันอีกครั้ง ก็มันนุ่มนิ่มดีนี่ ปอมันครางฮึ่มฮั่มในคอ

 

“พอแล้ว จะยั่วไปถึงไหน?”

 

“เปล่านะ ทีพี่ปอยังชอบทำกับภีมเลย”

 

“มันไม่เหมือนกัน พอได้แล้วเดี๋ยวพี่จะทนไม่ได้แล้วทำภีมเจ็บนะ”

 

มันว่าแล้วเร่งมือตัวเองรุนแรงให้ผมปล่อย ผมอ้าปากปล่อยเสียงครางข้างๆ หู มันคงได้ยินชัดเจนว่าผมเสียวแค่ไหนกับมือของมัน มือข้างหนึ่งกอดไหล่และอีกข้างกุมมือมันที่สาวตัวผมไปด้วย ผมกลืนน้ำลายพยายามเก็บเสียงตัวเองไม่ได้ร้องดังจนเกินไป

 

“อื้ม…มะ ไม่ไหวแล้ว!”

 

ความร้อนในตัวผมพุ่งสูงพร้อมกับผมที่ซุกใบหน้าลงบนไหล่หอบหายใจ ลาวาสีขาวพุ่งออกมาจนเปื้อนทั้งผมและมัน ผมไม่สน แอ่นเอวปล่อยความสุขออกมาจนหยดสุดท้ายพร้อมกับร่างของปอที่นั่งนิ่งมองร่างทั้งหมดของผมไม่ละ

 

มีความสุข ผมมีความสุขมาก

 

เสียงผมหอบหายใจข้างหูมัน ริมฝีปากอุ่นๆ จูบซับลงบนขมับที่มีเหงื่อของผม มันเบี่ยงให้ผมลงนอนบนเตียง ใจผมหล่นวูบทันทีเมื่อเกมต่อไปกำลังจะเริ่ม ดวงตามองละลงไปที่น้ำรักของตัวเองซึ่งเปรอะเปื้อนมันไปทั้งตัว อยากเช็ดให้มันก่อนจะแห้ง อายแทนมัน

 

“พี่ปอ…” ผมว่าเสียงเบาเมื่อมันจะโน้มมาแนบปากจูบ “เสื้อพี่เลอะ”

 

“ช่างมัน”

 

“เช็ดออกก่อน”

 

ปอมันชะงัก แตะมือผม ดึงไปจูบบนหลังมือซ้ำๆ และผละใบหน้าเคลื่อนมาซ้ำลงบนแก้มสองข้าง จูบไปทั่วทั้งตัวรวมดึงตรงที่มีรอยน้ำรักของผมติดอยู่ ผมนอนนิ่ง ปล่อยให้มันทำตามใจ

 

ผมจะทำยังไง อวดลีลาตัวเองบ้างเหรอ หรือทำเป็นนิ่งๆ ยอมให้มันสอนทำต่อไป

 

ใจจริงก็อยากจะกร้านโลก ปรนเปรอมันคืนบ้าง แต่ติดที่ผมไม่มีประสบการณ์ตรงเลยนอกจากคลิป ที่สำคัญมันไม่ใช่คลิปชายชายน่ะสิ ผมควรนอนนิ่งๆ ใช่ไหม

 

ผมควรใช้ปาก เลียไอ้นั่นมัน

 

ผมควรออนท็อปให้มัน ขึ้นขี่มันเพราะแขนมันหัก

 

ใช่ๆ ผมต้องเป็นฝ่ายทำให้มันมีความสุข

 

ผมหลับตาปี๋คิดเมื่อมันเคลื่อนปากลงมาถึงหน้าท้องที่มีก้อนกายของผมนอนราบอยู่ ไล้วนตรงสะดือจนอดที่จะแอ่นเอวรับไม่ได้ ผมไม่ได้ตั้งใจ มันทำเหมือนรู้ว่าจุดเร้าผมอยู่ตรงไหน ปอมันเก่งเกินไปจนผมอ่อนระทวยไปหมด

 

มันจับขาผมชันขึ้น ข้างหนึ่งพาดบนบ่า ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมันอยู่ในท่านี้ ต้องเป๋นฝ่ายถูกกระทำ แต่ทำไมแม่งรู้สึกดี ผมตอบสนองทุกครั้งทุกที่ที่ถูกสัมผัส ทุกที่ที่ลิ้นมาแตะ

 

เพราะเป็นปอ เพราะๆ คนๆ นั้นคือพี่ปอ

 

ปอเลียขาอ่อนจนเกิดเสียง ผมสะดุ้งกำผ้าปูแน่นกับอารมณ์วาบหวามในท้องทั้งๆ ที่มันไม่ได้แตะน้องชายผมสักนิด โอย…ผมกำลังจะคลั่ง

 

ผมควรทำอะไรนอกจากนอนนิ่งๆ แบบนี้

 

“อะ แม่ง!”

 

มันสบถพลางลุกขึ้นนั่ง ผมชะงักความคิดทั้งหมดเมื่อมันแสดงถึงความเจ็บออกมาและกุมเป้ากางเกงของตัวเองไว้อย่างเดียว ผมรีบลุกขึ้นนั่งตามไปทันที

 

ทุรนทุรายเหรอ อดทนทำไม ผมยอมแล้ว อยากทำอะไรก็ทำสิ

 

“มาสิปอ ปลดกางเกงออก” ผมว่าพลางจะเอื้อมมือ

 

“ไม่!”

 

ดวงตาผมชะงักเมื่อมันปัดมือผมออกพลางก้มลงทรุดตัวฟุบตัวขดบนที่นอน ผมได้แต่นิ่งมองมันที่หยีหน้าตัวเอง

 

“พี่ปอ ภีมจะช่วย”

 

“ไม่ พี่ไม่อยากให้ช่วย” มันพยายามผลักมือผมออกจากตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อเห็นว่าผมจะเอื้อมไปช่วยมัน

 

หมายความว่าไง

 

หมายความว่าไง

 

ตอบหน่อยสิว่ามันทำแบบนี้กับผมหมายความว่ายังไง

 

“ทำไมทำแบบนี้ปอ?” ผมว่าเสียงเบา ผมแม่งอยากร้องไห้

 

“กูกลับก่อนนะ” มันว่าเสียงเบา

 

นี่มันอะไร

 

“นี่กูอยู่ตรงหน้ามึงแล้วนะปอ กูพร้อมแล้วนะ ทำไมมึงทำแบบนี้!”

 

มันละสายตาไปด้านอื่น ทั้งที่อยากจะนอนกับผม กางเกงมันนูนเด่นขึ้นมาและสีหน้าแสดงถึงความต้องการออกมาขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจว่ามันปฏิเสธทำไม

 

ไม่ตอบ…

 

“พี่ไปล่ะ ไว้เจอกันนะ”

 

มันเลือกที่จะวิ่งหนี วิ่งออกไปด้วยตัวแบบนั้น ไม่นานก็เห็นรถเคลื่อนออกไปคาดว่าไม่เจอใครข้างล่าง ผมยกมือกุมหน้าไล่ความร้อนออกไปจากดวงหน้า เก็บความเจ็บปวดในใจไม่ให้มันพรุ่งพรูออกมาจากดวงตามากไปกว่านี้

 

ทำไมมันทำผมแบบนี้ ในวันที่ผมคิดว่าจะยอมมันแล้ว มันไมมันถึงคิดปฏิเสธผม

 

ผมแม่งไม่เข้าใจอะไรเลย โคตรสับสันในชีวิตกับสิ่งที่มันเลือกจะทำ

 

ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ นึกถึงตอนมันโหยหาและสีหน้าเจ็บปวดที่พยายามระงับความต้องการของตัวเองไม่แตะต้องผมมากไปกว่านี้ จะบอกว่าเกรงใจพ่อกับแม่ผมงั้นเหรอ

 

พี่ปอ มึงแคร์กูงั้นเหรอ

 

ผมกุมหน้าตัวเองนอนร้องไห้ สองคืนแล้วที่ผมนอนที่นี่ ผมไม่ยอมไปเจอหน้ามัน ผมอายที่จะต้องหน้าด้านวิ่งหามันทั้งๆ ที่ยื่นตัวให้แต่มันกลับปฏิเสธ

 

ผมเจ็บ โคตรเจ็บเลย

 

 

ต่อพาท2

ออฟไลน์ noonaaRP

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
    • fanpage Noonaa


ตอนที่ 13

Part 2

เข้าวันที่สามแล้วที่ผมหนีหน้าไอ้ปอทั้งๆ ที่ยังไม่เลิกกัน ผมก็มาเรียนตามปกติ แต่เลือกที่จะไปในที่ที่มันคิดว่าจะไม่ไป เลือกที่จะหลบหน้าเพื่อนๆ ของมันด้วย

 

เสียงของเพื่อนๆ พูดคุยกันและตะโกนโหวกเหวกโวยวายตามทางเดินยามออกมาจากโรงเรียนเป็นแบบนี้ทุกวัน ผมเดินเอื่อยๆ มาหยุดยืนอยู่หน้าป้ายรถเมล์ ทำไมถึงไม่รู้สึกชินกับการมายืนรอรถกับคนอื่นแบบนี้นะ ทั้งๆ ก็ไม่ได้ขึ้นมาแค่ไม่กี่วัน ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ

 

ผมคงต้องพยายามทำใจให้ชินซะแล้ว เดี๋ยวก็กลับมาขึ้นรถเมล์เหมือนเดิมแล้ว อีกไม่กี่วัน ไม่ถึงอาทิตย์แล้วนี่ ผมกับปอกำลังจะจบกัน

 

รถคันหนึ่งเคลื่อนมาจอดตรงหน้าแทนรถเมล์ พวกเรามองกันงงๆ กระทั่งมันเปิดกระจกแสดงให้เห็นว่าเป็นใครที่กล้ามาจอดที่ที่รถเมล์จอดได้ ผมมองมันด้วยความสงสัยพร้อมกับดวงตาคมๆ ในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยนั้นมองมายังผมเช่นกัน

 

“ขึ้นมา” มันว่า ผมชี้หน้าตัวเองย้อนถาม “เออ มึงนั่นแหละไอ้ภีม!”

 

เรียกขนาดนี่คงใช่กูแล้วแหละ

 

ผมถอนใจเดินขึ้นไปบนรถท่ามกลางสายตาคนทั้งโรงเรียน นี่แม่งจะเอากูไปนินทาว่าร้ายรึเปล่าก็ไม่รู้ ผมถอนใจมองคนขับว่ามันต้องการอะไร

 

“พาผมไปส่งที่บ้าน ผมไม่ไปโรงแรม” ผมว่าเมื่อมันพาไปยังแยกไฟแดงที่มันเป็นแยกระหว่างบ้านผมกับโรงแรมว่าไปคนละทาง พลางชี้นิ้วไปอีกฝั่ง

 

กูไม่อยากเจอไอ้ปอ

 

มันเปิดไฟเลี้ยวตามที่ผมบอก ร่างกายมันสวมชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของจังหวัด ชั้นปีที่สอง รุ่นเดียวกับไอ้ปอ ก็เพื่อนกลุ่มเดียวกันแค่ไม่ได้เรียนที่เดียวกันเท่านั้น

 

“พี่ธามรู้เรื่องพี่ไหม?” ผมว่าผ่านความเงียบ

 

“ไปคุยที่บ้านมึง”

 

“ไม่เอา คุยบนรถ ที่บ้านพ่อกับแม่อยู่”

 

ผมปฏิเสธ ในหัวก็คิดว้าวุ่นในใจว่ามันจะเอาอะไรกันแน่ สีหน้าโคตรเครียด แล้วทำไมผมต้องร้อนรน ก็เพราะกลัวว่ามันจะเข้าใจผิดเหมือนไอ้ต้นไง โยนความผิดมาให้ผมทั้งๆ ที่ความจริงน่ะออกมาจากปากไอ้ปอ

 

“มันไม่โกรธกู มันโกรธไอ้ต้น!” ผมนิ่งมองคนขับ

 

“ก็มันความผิดไอ้ต้นนี่พี่พี ถึงพี่จะเป็นคนเข้าหามันก่อนแต่มันไม่ควรตอบรับพี่”

 

“กูจะเอามันแต่มันไม่ยอม มันรักไอ้ธาม! วันนั้นกูบังคับมันแล้วมันก็สู้แรงกูไม่ไหวมึงเข้าใจไหม!?”

 

ผมอ้าปากค้างมองมันที่ว่า นี่หมายความว่า เป็นไอ้ปอคนเดียวที่ได้ซิงไอ้ต้นไปจากการยินยอมสินะ ทำไมต้นมันยอมไอ้ปอวะ ผมได้แต่สงสัยกับตัวเองใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ 

 

แต่คิดไปคิดมาแล้ว เวลาผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มาได้ยินคำหวานๆ เว้าวอนของไอ้ปอ ใจผมก็กระเจิงไปไหนต่อไหน แทบจะยอมให้มันทำง่ายๆ เหมือนกันแฮะ

 

หรือต้นมันเองก็หลงไปกับความปากหวานออดอ้อนของไอ้ปอนะ แถมแม่งก็ประสบการณ์เยอะ ปอมันอาจมีวิธีที่ทำให้ไอ้ต้นมีความสุขก็ได้ ปอมันคงจะเก่ง เพราะตอนที่ผมเห็นมันสองคน ต้นมันไม่ทำหน้าเหมือนเจ็บเลยนี่นะ

 

รายกาจ ไอ้นี่มันร้ายกาจ

 

“ทุกอย่างเป็นความมผิดมึง ถ้ามึงไม่ไปบอกไอ้ธามมันก็จะไม่เกิด จนกว่าไอ้ธามมันจะเห็นค่าในตัวไอ้ต้น แต่มึงมาเสือกไงภีม”

 

กูว่าแล้วไงงานต้องเข้ากู

 

“ผมไม่เกี่ยวนะเว้ย”

 

“มึงน่ะตัวดี ถ้ามึงไม่บอกเรื่องกูกับไอ้ต้นแล้วหมาที่ไหนมันบอก”

 

หมาในปากไอ้ปอไง ผมล่ะอยากจะตะโกนใส่หน้ามันแบบนี้จริงๆ แต่ไม่อยากจะเป็นต้นเหตุให้มันกับพี่พีต้องทะเลาะกัน แล้วผมเป็นบ้าอะไรวะ ทำไมต้องแคร์ชีวิตมันขนาดนั้นด้วย

 

“แล้วแต่จะคิดก็แล้วกันถ้าไม่ยอมเชื่อที่ผมบอก”

 

“เออ แล้วมึงกับกูจะได้เห็นดีกัน มึงเห็นไหมไอ้ต้นมันเสียใจขนาดไหนที่ไอ้ธามไม่ยอมง้อมัน”

 

“พี่เองก็ผิด ไปตามเซ้าซี้บังคับเขาทำไม!?”

 

“เออ เพราะกูชอบไอต้นไง”

 

ชิบหายละ!

 

ผมหันไปมองหน้ามันที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดมองทางต่อหน้า คนอย่างมึงรักคนเป็นด้วยเหรอ นี่มันอะไรอีกกันวะเนี่ย

 

“มึงจะให้กูอดทนตอนที่ต้นมันอ่อนแอเพราะไอ้ธามเหรอ กูแค่คิดว่าอยากจะช่วยมัน อยากปลดปล่อยมัน แต่มึงก็ดันเอาเรื่องนี้ไปบอกไอ้ธาม มึงเป็นอะไรไปวะภีม”

 

“ผมเปล่า พี่เลิกคิดว่าตัวเองทำแบบนี้แล้วมันถูกซักทีเถอะ พี่เป็นเพื่อนพี่ธามไม่ควรไปบังคับมันแบบนั้น! ถ้ามันไปทำกับคนอื่นค่อยว่ากันอีกที”

 

มันหันมามองหน้า “ไอ้ภีม มึงอย่าปากหมา”

 

“จริงๆ ผมว่าจะไม่พูดแล้วนะแต่พี่ไม่ได้เรียนอยู่ที่เดียวกันกับมัน พี่คิดได้ไงว่ามันยอมพี่คนเดียว”

 

“มึงหุบปาก!”

 

ผมกลั้นสิ่งที่ต้องการว่าทันทีเมื่อรู้ตัวว่าพูดมากเกินไป แต่ผมไม่อยากทนถูกกล่าวหาโดยที่ไร้การตอบโต้ออกไปแบบนี้ จะบอกว่ารักไอ้ต้นแต่ก็ยังเห็นแก่ตัวเอาความผิดมาโยนให้ ไม่ยอมรับว่ามันผิดจริงๆ

 

“กูไม่นึกเลยว่ามึงจะเป็นคนแบบนี้ภีม มึงเป็นเมียไอ้ปอได้ไงวะ เชี่ยเอ๊ย!”

 

ผมหันไปมองมันสบถหน้าถมึงทึง “เพราะพี่มันไม่รู้เรื่อง คิดแก้ไขปัญหาแบบเด็กๆ ไง”

 

“มึงหุบปาก!”

 

มันหันมามองหน้าผม เบรกรถกะทันหันแล้วเดินลงมากระชากตัวผมออกจากรถ ร่างของมันโน้มตัวลงไปหยิบหนังสือที่ผมถือติดมือมาโยนให้ รวมทั้งกระเป๋าเหวี่ยงมาใส่หน้า ผมยกมือป้องใบหน้าและหัวก่อนจะก้มลงมองสิ่งของของตัวเองนิ่งใจหายกับความเจ้าอารมณ์ของมันที่หันมาจ้องตาด้วยความเคียดแค้น

 

“แล้วมึงจะได้เห็นดีกับกู!”

 

เสียงปิดประตูรถดังปังพร้อมกับเคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็ว

 

ผมกลืนน้ำลายเก็บของมาถือไว้ มองทางรอบตัวที่เป็นป่ารก ใจสั่นอย่างตั้งตัวไม่ติด ตรงนี้มีรถวิ่งเข้าออกเพราะเป็นเส้นทางใหญ่ แต่ใจของผมหวิวเมื่อร่างกายตัวเองยืนโดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง กลัวโจร กลัวคนโรคจิต ผมจะทำยังไงดี ผมจะไปต่อยังไงดี

 

ดวงตามองหาแท็กซี่ทว่าไม่มีเลย ผมยืนกอดกระเป๋าตัวเองนิ่งด้วยความใจหายกับสิ่งที่ต้องเจอและไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง รอรถเมล์วิ่งผ่านก็ยังไม่เห็นมาเพราะมาตามเวลา มือยกกุมหน้า มันสั่นระริกด้วยความกลัวผมรู้ดี

 

ในช่วงเวลาหนึ่งของความคิด ผมนึกถึงภาพใครสักคนลอยขึ้นมา ใจมันสั่นไหวและร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปเสียเฉยๆ ผมคิดถึงมัน ผมอยากถูกมันปลอบโยนใจจะขาด

 

มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กดไล่หาเบอร์บนโทรศัพท์ บ้าชิบหาย! มือผมสั่นจนแทบจะควบคุมไม่ได้

 

ปอ…

 

ผมมองเบอร์มันนิ่ง มองรูปตอนมันยิ้มส่งมาให้

 

ผมต้องการปอ!

 

ก่อนจะยกมือขึ้นเอามาแนบกับหูฟังเสียงรอสาย มันดังอยู่นานสองนาน ผมกดโทรซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายสะดุ้งกับเสียงแตรใครบางคนบีบแซว รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างจับใจ

 

รับสิปอ รับสายสิ

 

น้ำตาผมไหล ร่างกายทรุดตัวนั่งยองๆ ไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนต่อ มองเงาตัวเองที่ถูกแดดอาบไปทั้งร่าง เจ็บปวดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ผมรอมัน ผมหวังว่ามันจะรีบกดรับสาย แต่ไม่เลย มันเป็นสิบสายที่ผมโทรไป

 

ผมฟังเสียงรอสายครั้งแล้วครั้งเล่าและคิดว่าสายนี้เป็นสายสุดท้าย ผมจะเดินกลับไปบ้านเองแบบนี้ ทว่ามีเสียงคนกดรับสาย ใจผมหายและกลั้นสะอื้นรีบกรอกเสียงลงไปทันที

 

“ปอ…มารับกูที”

 

มันฟังเสียงของผม ภายในสายเงียบ

 

“พี่ปอ ฮึก…”

 

หลังมือผมเช็ดน้ำตา ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้เรียกร้องความสนใจมัน แต่มันไม่ตอบผมเลย ผมหลุดสะอื้นและไม่เข้าใจว่าทำไมมันนิ่งกับผม มันเงียบกับผมและไม่ตอบสนองอย่างเคย เฉยชากับผมทำไม

 

ผมเคยทำแบบนี้กับมันและเข้าใจเลยว่าแม่งโคตรเจ็บ

 

“ฮึก…ปอ มารับกูหน่อย กูกลัว…”

 

ผมก้มหน้าลงพื้น ไม่ชอบแบบนี้เลย ไม่สนุกเลย

 

“พี่กำลังออกไป ไอ้พีมันโทรมาบอกแล้ว”

 

ผมนิ่งฟังเสียงมัน ใจชื้นขึ้นมา เงียบฟังเสียงจากสายของมันที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเสียงอากาศหลังจากมันตอบกลับมา คาดว่ามันจะวางทิ้งไว้ที่เดิมและไม่ได้กดวาง ผมก้มหน้าลงมองพื้น ฟังเสียงรถคันแล้วคันเล่าแล่นผ่านด้วยใจที่โหวงเหวง

 

ที่มากกว่าการมารับคือเสียงของมัน ผมอยากได้ยินเสียงของมัน

 

“ฮึก!”

 

เสียงรถที่ผมคุ้นชินแล่นเข้ามาจอดตรงหน้า เสียงปิดประตูและร่างของเจ้าของเดินลงมา กลิ่นน้ำมันเครื่องผสมกลิ่นน้ำหอมโชยมายังผมที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงนี้

 

“ภีม…”

 

ร่างผมกำลังนั่งยองๆ กอดกระเป๋าตัวเองแบบนี้เมื่อได้ยินเสียง ใบหน้าฟุบลงบนกระเป๋าไม่มองหน้ามัน ในที่สุดมันก็มา ในที่สุดพี่ปอก็มา

 

ผมกลัวแทบตาย!

 

“ภีม ไม่เป็นไรนะ”

 

“มึงแม่งใจร้าย! ไอ้เหี้ยปอ!” ผมว่าอย่างสุดทน เงยใบหน้าขึ้นไปต่อว่ามันมือก็ทุบตัวมันระรัวให้สาสมกับความกลัวในใจตอนนี้ เสียงมันดังตุบตับพร้อมกับมือของมันที่พยายามจับแขนผมไว้

 

“มึงมันไม่เคยสงสารกู! โคตรเหี้ยเลยพี่ปอ! ไอ้สัด ไอ้เลว แกล้งกูสนุกไหม ฮึก!?”

 

“กูขอโทษ”

 

“ทำไมไม่ไม่พูดอะไรเลย มึงก็รู้ว่ากูกลัว มึงก็น่าจะบอกกูให้กูสบายใจ พูดกับกู…”

 

มือผมทุบมันระรัวด้วยความเอาแต่ใจ ผมรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองงี่เง่า พยายามเรียกร้องให้มันสนใจมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่เริ่มเดิมทีที่ไม่เคยรู้สึกกับมัน เริ่มก่อตัวและมากขึ้นเรื่อย ต่างกันกับมันที่ให้ผมเต็มร้อยและลดลงสวนทางกัน มันลดลงไปจนไม่เหลือในที่สุด

 

“พี่ขอโทษภีม พี่ขอโทษ…”

 

มันจับผมเข้าไปกอด ดึงให้ลุกขึ้นยืน ใบหน้าผมซุกกับอกของมันแน่นพร้อมกับทั้งร้องไห้เสียงดังกว่าเดิมให้มันรู้สึกผิด และการแสดงตอบสนองของมันเป็นแบบนั้น มือมันลูบหัวผมปอยๆ  และจูบลงขมับซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

“ไม่ร้องนะภีม ไอ้เหม่งพี่มันเก่งจะตาย”

 

แต่กูอยากอ่อนแอตอนอยู่กับมึง

 

กับมึงคนเดียวพี่ปอ

 

ผมฟังมันว่าเสียงเบา กอดผมปลอบในคราวเดียวกัน ผมกอดมันแน่น เอาหน้าเช็ดเสื้อมันไปด้วย ตอนนี้คือกูต้องถูกทุกอย่าง ห้ามทำอะไรขัดใจกู

 

“กลับบ้านกัน” มันว่า ผมซบหน้าลงซ่อนความรู้สึกแล้วกอดมันแน่น

 

“กลับบ้านภีมนะ ไม่ไปโรงแรม”

 

มันผละมากุมแก้มผมทั้งสองข้าง ดวงตาผมมองมือที่หักของมัน มันไปผ่าเฝือกมาแล้วและไม่ได้เป็นอะไรมาก ใจผมชื้นขึ้นและเลยมาจ้องตามันผ่านม่านน้ำตา ตอนนี้ผมโคตรอ่อนแอ ผมยอมรับ

 

“พี่อยากให้เราอยู่ด้วยกัน”

 

“ไม่” ผมรีบตอบ

 

มันละหน้าไปมองทางอื่น ราวกับต้องการควบคุมอารมณ์และผมมองไม่ออกว่ามันโมโหไหม มันเลิกโวยวายเอาแต่ใจกับผมตั้งแต่เมื่อไร ผมจำไม่ได้ มารู้ตัวอีกทีปอมันเปลี่ยนไปเยอะมากจริง เป็นฝ่ายผมเองที่งี่เง่ามากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ก็ได้ ไปขึ้นรถสิ” มันบอกเสียงเบา ยกมือขึ้นยีหัว โน้มมาจูบหน้าผากและเดินนำไป ใจผมที่ว่าร้อนรนนั้นก็เป็นมากกว่าเดิมที่มันไม่ยอมแสดงท่าทางอะไรเลยนอกจากนิ่ง

 

โอย ผมเดาปอมันไม่ออกอย่างเคย มันเป็นอะไรของมัน

 

มันควรจะบังคับผมสิหลังจากผมไม่ยอมดีๆ มันทำแบบนี้มาตลอดนะ

 

ผมใจสั่นจริงๆ

 

“พรุ่งนี้พ่อกับแม่บิน” ผมว่าผ่านความเงียบ มันหันมามองผมละจากถนน

 

“จะให้ไปรับไหม?”

 

“ยังถามโง่ๆ อีก” ผมหันไปว่ามัน ความขัดใจเกิดขึ้นมาน้อยๆ พร้อมรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของมัน

 

“เออ นั่นสิ ถามอะไรโง่ๆ” มันว่าพลางหันมามอง มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาจับแก้มหยอก ผมหันไปมองมันเอ็ดใจด้วยสีหน้า ปอมันยิ้มแล้วกล่าวต่อ “เมียกูมันคิดถึงกูขนาดนี้ จะไม่ไปรับก็กระไรอยู่”

 

“รู้แล้วก็รีบมารับกูด้วย”

 

ไม่ปฏิเสธแม่งหรอก ให้มันรู้ไปสิว่าผมคิดถึงมัน

 

ผมยกแขนกอดอกนิ่งๆ คนเดียววางฟอร์ม ปอมันหัวเราะหึในลำคอและเงียบไปเสียเฉยๆ บรรยากาศแบบนี้ผมไม่ชอบเลย ชอบตอนที่เถียงกับมัน ทะเลาะกับมันมากกว่าอีก

 

ผมอยากถามว่าทำไมถึงทิ้งผมไปแบบนั้น ผมอยากรู้จริงๆ

 

ปอมันไปส่งผมที่บ้าน แวะคุยกับพ่อแม่และท่านก็ฝากผมไว้กับมันตามเคย ก่อนไปมันจูบผมซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธมันเลยสักครั้ง เพราะไม่ถึงอาทิตย์เราก็ต้องแยกจากกัน ทำราวกับพรุ่งนี้ผมกับมันจะไม่ได้เจอกันอย่างงั้นแหละ มันทำให้ผมรู้สึกกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นมา

 

ผมกลัวจริงๆ

 

 

อีกครั้งที่ตอนนี้ผมนั่งเหม่อ ชามข้าวที่อยู่รงหน้ายั่วยวนจนไอ้สันติกับสมปองเอร็ดอร่อยไม่พูดไม่จา ทว่าผมกินไม่ลง อีกไม่กี่วันเท่านั้นที่ผมกับมันจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาเห็นมันเป็นคนแรก จะไม่ถูกมันปลุกให้ตื่นมาโรงเรียน นึกแล้วน้ำตาก็พาลจะไหลออกมา ผมยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มก่อนจะเงยหน้ามองคนที่วางชามข้าวแรงๆ ต่อหน้าด้วยความตกใจ

 

ไอ้บอย

 

มันยิ้มเหยียดๆ มายังผมก่อนจะทรุดตัวนั่งต่อหน้า

 

“มึงมาทำไมอีบอย ใครจุดธูปเชิญมึงยะ?” สันติมันว่า บอยมันยกยิ้มแล้วว่าเสียงเรียบ

 

“กูมาทำความรู้จักกับว่าที่อดีตเมีย ที่สุดท้ายจะเป็นเมียเก่าพี่ปอด้วยกันน่ะ”

 

ใจผมหายมองหน้ามันไม่ละ มันยกยิ้มกับแล้วทำหน้าแสแสร้งประหลาดใจว่า “อ้าว! ก็ไหนว่าเป็นคนปากดีอวดดีจังเลยล่ะ ไม่เห็นตอบโต้อะไรสักอย่าง เสียใจที่ผัวกำลังจะทิ้งเหรอจ๊ะพ่อคุณ”

 

“มึงเงียบไปเลยอีนี่ โดนเขาทิ้งแล้วมาพาล” สมปองมันว่า

 

“มึงน่ะไม่เหมือนภีมหรอกเว้ยเพราะพี่ปอเขาคบกับมันครบเดือน ไม่ใช่โดนเขี่ยทิ้งตั้งแต่สองอาทิตย์แรก อิอิ” สันติมันว่าเสริมพร้อมทั้งหัวเราะไปด้วย บอยมันขบกรามตัวเองแน่นหันมามองหน้า

 

“มึงไม่มีใครคบด้วยสินะถึงมาคบพวกอีตุ๊ดปากหมานี่ เหอะ!”

 

“โหยอีบอย มึงน่ะดีตายแหละ อีขี้อิจฉา อีนางร้ายไม่มีทะเบียน อีกสังคเวศ” สันติมันว่า ผมเบิกตา

 

“มึงนั่นแหละอีตุ๊ดสัมพเวศี อีพวกหูรูดเสื่อม!”

 

“หนอย มึงว่าเหมารวมเลยเหรอหา มึงอยากโดนตุ๊ดตบไหมละหา!” สันติมันร้องว่าพลางง้างมือ ผมรีบลุกขึ้นห้าม

 

“จะทะเลาะกันทำไมวะ ทะเลาะกันให้ได้อะไร?” ผมว่า

 

“กูก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับอีกตุ๊ดหัวโปกนี่นักหรอก”

 

“อีบอย!” ไอ้สันติมันว่า “มึงมาหาเรื่องภีมแล้วมาด่าพวกกูก่อนนะอีนี่ อีขี้อิจฉา”

 

“พอเถอะซันนี่ กูไม่ได้เป็นอะไร มันพูดถูก ยังไงกูก็ต้องเลิกกับไอ้ปออยู่ดี”

 

“แต่พี่ปอยังไม่ได้ว่าจะเลิกนะ”

 

“ยังไงมันก็ต้องเลิก มันไม่เลิกกูก็จะเลิก กูอยากจบ!” ผมว่าเสียงเบาพลางผละเดินกระแทกเท้าออกมาท่ามกลางคนรุมมุงดูกลุ่มเรา ผมแหวกคนเดินออกมาด้วยหลายหลากความรู้สึก สิ่งหนึ่งคือเจ็บปวดที่พูดออกมาแบบนั้น

 

ดวงตาผมชะงักเมื่อเห็นใครยืนอยู่ตรงหน้า

 

ปอ…

 

ใจผมหายและอ่อนยวบเมื่อเห็นสีหน้า แววตาของมัน แต่ผมไม่อยากแสดงท่าทีที่อาลัยอาวรณ์มันให้มันได้ใจและให้คนอื่นนินทาขนาดนั้น ผมอยากปกป้องความรู้สึกตัวเองไม่ให้เจ็บไปกว่านี้อีกแล้ว ร่างผมชาดิกเมื่อกะว่าจะเดินสวนมันออกไปแต่กลับถูกมืออุ่นๆ นั้นรั้งไว้

 

มันไม่ได้พูดอะไรฝ่าความเงียบตอนที่เราหันมาสบตา ท่ามกลางคนทั้งโรงเรียนที่หันมามอง ผมไม่ชอบเลย ไม่ชอบแบบนี้เลย

 

“มาคุยกับกูให้รู้เรื่อง” มันว่าเสียงเบา ลากผมเดินแท่ดๆๆ ออกไปท่ามกล่างสายตาคนอื่น ทำไมช่วงนี้ผมหาเรื่องมันบ่อยจังวะ

 

“พอแล้ว คุยกันตรงนี้” ผมว่าพลางดึงมือกลับ คือหน้าโรงอาหาร มันยกมือสองข้างเท้าสะเอวหันมามองผมนิ่ง

 

“ไปพูดแบบนั้นทำไม!”

 

มึงโกรธอะไรปอ กูพูดความจริง

 

“มันคือเรื่องจริงไง กูพูดไปตามใจที่ตัวเองคิด”

 

“มึงคิดอะไรอยู่หาภีม?” มันเอื้อมมือมาแตะ ดวงตามองผมนิ่ง ตัดพ้อ แลดูน่าสงสาร

 

“ก็คิดว่าอีกไม่กี่วันกูกับมึงจะได้เลิกกันไง”

 

“แต่มันยังไม่ถึงวันนั้น”

 

“ถึงหรือไม่ถึงมันก็เหมือนเดิมปะวะ ยังไงกูกับมึงก็เลิกกันอยู่ดี กูพูดออกมามันจะเป็นไร”

 

“มึงอยากเลิกขนาดนั้นเลยใช่ไหม!?” ผมชะงักเมื่อมันตะเบ็งเสียงใส่ มันไม่เคยทำแบบนี้ตั้งแต่สองสามวันแรกที่คบกับผม คราวนี้ดูมันเหมือนกำลังโกรธจริง

 

ผมนิ่งเมื่อหลายสายตาหันมามองตามเสียง

 

“ทำไมมึงต้องเสียงดังขนาดนั้นด้วยวะ”

 

“กูถามว่ามึงอยากเลิกกับกูมากขนาดนั้นเลยเหรอ!” มันว่าพลางเอื้อมมือมาแตะ ผมนิ่งมองมัน ไม่กล้าตอบ เพราะผมไม่คิดอยากเลิกกับมันเลยไง แต่ผมไม่อยากรู้สึกเจ็บ ผมพูดไม่ออกว่าไม่อยากเลิก แต่ก็ไม่กล้ากล่าวคำว่าอยากจะเลิกกับมันเช่นกัน

 

เสียงออดเข้าเรียนช่วงบ่ายดังขึ้นคั่นกลางระหว่างเรา

 

ผมถอยตัวออกจากมันนิ่งพร้อมกับมันที่ส่ายหน้าว่า “ห้ามไป ตอบกูมาก่อน”

 

“ไม่” ผมว่า ส่ายหน้าตอบมันไปด้วย

 

“มาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน!”

 

ไม่เอา กูตอบมึงไม่ได้ปอ กูรักมึง กูอยากอยู่ข้างๆ มึงตลอดไป แต่กูไม่อาจบอกมึงได้

 

“ภีม…ตอบพี่สิ!”

 

และนั่นเป็นเสียงร้องของมันที่ตามหลังมา ผมวิ่งไม่คิดชีวิตหนีมันออกมาดื้อๆ อย่างไม่กลัวใครว่าเลยว่าเป็นไอ้ขี้แพ้ ไอ้อ่อนแอ ผมยอมโดนครหาทุกอย่าง

 

ผมทนมองหน้ามันต่อไปไม่ได้แล้ว

 

กลัวที่ตัวเองจะร้องไห้

 

 

 

อิอิ แอบหัวเราะเบาๆ

เรื่องฉาก NC คงมีทั้งคนสมใจและไม่สมใจ นิยายเรื่องนี้มีคนเชียร์สองฝั่ง เชียร์ให้ยอมแล้วได้กัน กับเชียร์ว่าอย่ายอมต้องดัดนิสัยพี่ปอก่อน ไรต์เขียนไว้อยู่แล้วไงคะไม่ได้เขียนสด แต่งจนจะจบแล้วไง ผลก็เลยออกมาเป็น น้องภีมยอมแต่ปอไม่ยอม กร๊ากกกกกก แต่ก็นะ ฉากนี้ก็ถือว่าเรียกเลือดได้อยู่ละน่า หยวนๆกันไปเหอะ น้องเขาอุตส่าห์ถวายตัวขนาดนี้เพื่อรีดที่น่ารักน้า

ประเด็นคือพี่ปอทำไมไม่ทำอย่างที่ตัวเองอยากทำ พี่ปออดทนทำไม เหมือนพี่ธามเหรอ จงเดามาคนละหนึ่งข้อหรือสิบข้อก็ได้เดามาเหอะ 5555 เรื่องเข้มข้นขึ้นแล้วนะคะ เริ่มจะดราม่า แต่สอดแทรกความฮาความน่ารักของภีมมาอยู่หรอกไม่ต้องกลัว


ตอนหน้าก็ NC ค่ะ รอบไฟนอลล่ะ
 :o8: :o8:

 

 

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
สนุกค่าาาาา

ลุ้นสุดๆ

ตกลงยังไม่ได้กันนะ

โอเครอตอนหน้า 555

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อารมณ์ค้างทั้งภีม ทั้งปอ และคนอ่าน  :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด