เดือนเกี้ยวเดือน #14
ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกไม่ดีหรอกครับที่อยู่กับไอ้พี่ป่าสองต่อสองในห้อง
มันรู้สึกดีมากกกกกกกกก แต่ว่าการที่ผมทำอะไรไม่ถูกนี่ก็ชวนอึดอัดมากเหมือนกัน ไม่ใช่ในทางแง่ลบนะครับ คือคุณต้องเข้าใจว่าไอ้พี่ป่ามันคือคนที่ผมชอบ และผมไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เลย กลัวจะหลุดขี้เหร่ให้มันเห็น กลัวจะทำอะไรให้มันอึดอัดและก็รำคาญผมเปล่าๆ การแอบรักข้างเดียวนี่มันเหนื่อยจริงๆ ต้องคิดถึงใจตัวเองไม่พอยังต้องคิดถึงใจคนอื่นอีก นี่ผมเริ่มเหนื่อย...
“ทำไมทำหน้างั้น” ไอ้พี่ป่าที่เล่นไอแพดอยู่เงยหน้ามองผมที่กำลังมีความคิดตีกันเองในสมอง “กูกวนมึงเหรอ”
ตั้งแต่ที่พี่แกอาบน้ำเสร็จ พี่แกก็นั่งจุมปุกอยู่บนโซฟาและก็เอาแต่เล่นแท็บเล็ตในมือ เขาจะกวนผมได้ยังไง
“กูออกไปก็ได้นะ ถ้ามันทำให้มึงนอนไม่หลับ”
ผมคิดว่าผมคิดไปเองเก่งคนเดียวซะอีก...
“เปล่าหรอก มึงล่ะอึดอัดรึเปล่า” ตอบไม่พอผมยังชิงถามคำถามที่ค้างคาใจผมอีก
ถ้ามันอึดอัดนะ...ผมขออนุญาตโดดลงสระว่ายน้ำข้างนอกระเบียงแป๊บ...ชีวิตคงจะดูน่าอัปยศอดสูมาก
“บ้าเหรอ” พี่ป่าพูดพร้อมกับมองหน้าผมไปด้วย “มึงกับกูนั่งห่างกันตั้งนี่ ต่างคนต่างอยู่ มึงไม่ได้กวนอะไรกูสักหน่อย”
โล่งอก...
“ขอโทษนะอยู่กับกูมันคงไม่สนุกเท่าไหร่” ผมค่อยๆพูดออกมา
“อะไรของมึง ต้องสนุกต้องหัวเราะตลอดถึงจะอยู่ด้วยกันได้เหรอ บ้าหรือเปล่า”
เหมือนมันพูดแบบไม่ได้คิดอะไร แต่ทำไมผมคิดไปไกลล่ะครับ!
“แล้วนี่มึงทำไรอยู่อ่ะ” ผมนั่งอยู่บนเตียง ส่วนมันอยู่บนโซฟา ผมเห็นแค่ตัวสูงๆของมันที่กึ่งนั่งกึ่งนอนจดจ่อกับไอแพดที่วางบนเข่าก็เลยชวนคุยดู
“ดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยอ่ะ”
“อะไรล่ะ”
พี่ป่าชักสีหน้านิดหน่อยเหมือนกับว่าผมซักพี่เขามากไป อ้าว ก็ถ้าเมิงไม่ตอบบทสนทนาจะราบรื่นมั้ยเล่า...
“คอร์ดเปียโน”
“เล่นเปียโนเหมือนกันเหรอ” ผมอ้าปากค้าง เท่าที่จำได้ไอ้พี่ป่าตอนอยู่โรงเรียนเก่าไม่เล่นบาสก็เล่นกีต้าร์โปร่งดีดเล่นๆกับเพื่อนที่ใต้ถุนอาคาร ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเล่นเปียโนเหมือนกันด้วย
“เปล่า กูไม่ได้เล่น” อ้าว ผมคิดผิด “ดูให้มึงเนี่ย อีกไม่นานจะแข่งแล้วมึงไม่ได้คิดอะไรไว้เลยเหรอ”
อึ้งสัด...
เรื่องของผมแท้ๆมันยังเก็บเอาไปคิด...
ซึ้ง…
“อะไรของมึง ทำหน้าตลกชิบ ซึ้งเหรอ”
“เปล่าสักหน่อย” ผมรีบปฏิเสธ “แล้วดูเพลงอะไรไว้ล่ะ”
“ก็ไม่รู้ไง กูไม่ใช่คนเล่น” พี่ป่าพูด อ้าวเห้ย แล้วมันจะดูไปทำไมวะ... “มึงก็มานี่ดิ มาเลือกดู”
ผมใจเต้นขึ้นมาเลยทันทีที่พี่เขาพูดจบ มันสมควรเป็นเวลาที่เป็นการเป็นงาน แต่การอยู่ใกล้พี่ป่าสองต่อสองในห้องที่ปิดมิดชิดแบบนี้ ผมกลัวผมเผยความในใจไม่ทางคำพูดก็ทางสายตาอ่ะ
“กูไม่กัดมึงหรอก” พี่ป่าลุกขึ้นนั่งเป็นที่เรียบร้อย
เอาวะ...มีคนช่วยคิดก็ยังดีกว่าคิดเองคนเดียวว่าควรเล่นเพลงอะไร จากที่ไอ้มิ่งเคยเป็นที่ปรึกษาที่ดีมาโดยตลอดคราวนี้ผมควรจะปล่อยให้มันไปซ้อมต่อยมวยในการแสดงความสามารถพิเศษเดี่ยวของมันบ้าง
ผมค่อยๆเดินเข้าไปหาพี่ป่า...พี่เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นพร้อมนอนเต็มที่ แม้จะไม่ได้ทำอะไรกับผมและก็หน้าแต่ผมบอกได้เลยว่ามันโคตรหล่อ
“เอาไง เพลงไทยหรือสากล”
สติผมไปแล้วววววว...ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว นั่งข้างพี่ป่าขาของผมกับพี่เขาห่างกันแค่หนึ่งคืบ
“เตี้ย…”
“หา”
“ถามว่าจะเล่นไทยหรือสากล” พี่แกดูจริงจังดีนะครับ...
“อืม มึงคิดว่าไงล่ะ”
“ถามกูทำไมเล่า มึงเป็นคนเล่น”
“ก็อยากฟังความคิดเห็นของมึงอ่ะ” จริงๆแล้วพี่ป่าพูดว่าไงผมว่าตามหมด...มีความรักแล้วจะเข้าใจครับ
“อืม” พี่ป่ามองหน้าผมอย่างพินิจพิจารณา “อังกฤษไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับมึง...” ทำไมคิดงั้น...หน้าผมดูอินเตอร์อาเซียนมากเลยงั้นเรอะ “…แต่กูว่าเพลงไทยดีกว่า”
“ตามนั้นเลย”
“เห้ย” พี่ป่าตกใจ “คิดมั่งดิ”
“ก็…คิดไว้อยู่แล้ว” ผมแถ แกล้งกระแอมทำเป็นมองจอไอแพดบนตักพี่ป่า
“เพลงอะไรดีล่ะ มึงชอบแนวไหน”
“มึงคิดว่าไง” ผมถามพี่เขาเพื่อหลอกเอาคำตอบอีกแล้วครับ ฮ่าๆๆ
“สาด…คิดสิครับคิด” มันจะคิดว่าผมคิดเองไม่เป็นมั้ยเนี่ย...
“ก็ไม่รู้จะเอาเพลงไรนี่หว่า เพลงแม่งมีเป็นล้าน”
“ลาวดวงเดือนมั้ย”
“หา”
“เรียกคะแนนจากอาจารย์ป้าได้นะเว้ย”
“เอาจริงเหรอ” ผมอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“หึ กูพูดเล่น” พี่ป่าเม้มปากนิดๆก่อนที่จะกดไอแพดไล่คอร์ดเปียโนดูไปเรื่อยๆ
ให้ตายเถอะ...ช่างเป็นการกวนตีนที่หว่านเสน่ห์ที่สุด...มันทำอย่างงี้ใส่ใครล่ะก็โดนรักโดนหลงแน่ๆ ขนาดผมที่พยายามเก็บอาการแล้วเก็บอาการอีก แค่เห็นหน้าที่เกือบจะยิ้มของมันแค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ ใจเต้นเป็นส่ำไม่ยอมหยุดเลย มันจะได้ยินเสียงหัวใจของผมมั้ยเนี่ย
“ความรู้สึกของมึงตอนนี้...เป็นยังไง” จู่ๆพี่ป่าก็ถามคำถามนี้กับผม
เดี๋ยวนะ...หรือมันจะได้ยินจริงๆเนี่ย
“ฮะ…”
“กูว่ามึงเล่นเพลงที่ตรงกับใจมึงตอนนี้ที่สุดน่าจะได้คะแนนเยอะ เข้าใจคำว่าอินเนอร์ใช่มั้ย”
โห…ต้องคิดอะไรที่มันลึกซึ้งขนาดนั้นเลยเหรอวะ “อืม เข้าใจ”
“เลือกเลย” พี่ป่าเอาไอแพดของเขาส่งมาให้ผม
พระเจ้า ไอแพดพี่ป่าครับ ไอแพดพี่ป่าอยู่ในมือผมมมมมม! คลิปโป๊จะมีมั้ยวะเนี่ย อยากรู้จริงๆ นี่ถ้าเขาไม่จ้องผมอยู่ตลอดผมคงซอกแซกอย่างไร้มารยาทไปแล้ว
เพลงที่ตรงกับความรู้สึกของผมมากที่สุดในตอนนี้เหรอ
มุม เพลย์กราวน์
ไกลแค่ไหนคือใกล้ getsunova
รู้ไหม นัททิว
ให้ตายสิ...เพลงแอบรักทั้งนั้นเลย...
“ใจเย็นๆ คิดไม่ออกก็ค่อยๆคิด” พี่ป่าคงตีความผิดคิดว่าผมเครียด แต่เปล่าหรอกผมไม่ได้เครียด ผมแค่อึ้งที่ในหัวผมมีแต่เพลงแอบรัก
คงเป็นเพราะผมแอบรักไอ้คนข้างๆเนี่ย...
“หิวมั้ยวะ” พี่ป่าถาม “กูว่าจะไปหาอะไรกิน...เอาอะไรรึเปล่าเดี๋ยวซื้อมาเผื่อ”
“กูยังเป็นเบ๊มึงอยู่นะ มึงสิควรสั่งกูไปซื้อ”
“แต่เป็นเบ๊ที่ป่วยมาก กูไม่อยากแกล้ง” ท่าทางพี่เขาจะหิวจริงๆเพราะเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์แล้ว “ตกลงจะเอาอะไรมั้ย”
นี่พี่เขาอยู่ในสภาพพร้อมนอนเต็มที่ก็ยังไม่กลัวที่จะเดินออกไปข้างนอกอีก ผมนี่โคตรอึ้ง สภาพผมตอนนี้พร้อมนอนเหมือนกัน ใส่ชุดนอนลายทาง ใส่แว่นหนาเตอะพร้อมกับมัดจุกอีก
“แป๊บ เดี๋ยวไปด้วย” ผมคว้ากระเป๋าตังค์และก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
“เตี้ย มึงทำไร”
“เปลี่ยนชุด” ผมตอบ ดีนะเอามาเยอะ...
“เปลี่ยนทำไมล่ะ ไปชุดนี้แหละ”
“เดี๋ยว…ชุดนี้เนี่ยนะ”
“ก็น่ารักดี มึงจะกลัวอะไร”
“ชุดนอนนะ” ผมเถียงกลับแบบไม่ได้ฟัง...จนลืมไปว่าเมื่อกี้ไอ้พี่ป่าพูดว่าไงนะ...
น่ารักใช่มั้ย...
หืออออออออออออออออออ...
“มาได้แล้ว หิว” พี่ป่ารีบเดินออกไปนอกประตู
ตกลงผมจะออกไปเดินท่อมๆพร้อมๆกับใส่ชุดนอนจริงๆใช่มั้ยเนี่ย
กูไม่ได้เทพบุตรเหมือนเมิงนี่ที่ใส่อะไรก็หล่ออออออออออ...
แต่ก็เอาเหอะ อย่างกับอยู่ด้วยกันและก็ไปเดทตอนดึกเลยครับ...ประมาณนั้นเลย...
“ไม่ต้องเอาเป๋าตังค์มาหรอก”
และแม่งก็กวนตีนโยนกระเป๋าตังค์ผมลงบนเตียง สาดดดดดดดดด...ป๊าอุตส่าห์ซื้อมาฝากจากเกาหลี!
เซเว่นหน้าที่พัก...
แถวนี้มันจะมีอะไรดีกว่านี้นอกจากเซเว่นล่ะครับ ลมเย็นนิดหน่อยเพราะติดกับทะเล ผมยืนนิ่งในเซเว่นไม่กล้าซื้ออะไร(เพราะเงินไม่มี) ในขณะที่ไอ้พี่ป่าหยิบของลงตะกร้าเยอะมาก นี่เมิงเลี้ยงตัวเองหรือเลี้ยงหมูทั้งคอกวะถามจริง
“เอาอะไรก็หยิบมาดิ” พี่แกพูด
“กูไม่มีตังค์” ใส่ชุดนอนมาเซเว่นไม่พอ ยังซื้ออะไรไม่ได้อีก อนาถชีวิต
“ไม่รู้เหรอว่ากูจะเลี้ยง”
“เอ้าจริงดิ”
“คิดไม่ทันหรือไม่คิดหรือมึงโง่”
พ่อง...ไอ้ปากเสียเอ๊ย “เลี้ยงกูใช่มะ ด้ายยยยยยยยย” ผมเดินไปหยิบตะกร้าอีกอัน
โป๊ก
พี่ป่าเคาะหัวผมเบาๆ “แค่นี้ก็กินกันไม่หมดแล้ว หยิบที่อยากกินมาแค่นั้นพอ ไม่กลัวอ้วนรึไง”
เออว่ะ...
“นิ่งเลย...ล้อเล่น อยากแดกอะไรก็แดกเหอะ เร็วๆด้วยลมมันหนาว เสื้อมึงยิ่งบางๆอยู่”
“คร้าบพี่คร้าบ” ผมนี่แทบจะยกมือไหว้พี่ป่าอยู่แล้ว
จะว่าไปพี่เขาก็ทำตัวดีกับผมเยอะขึ้นมากเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงพี่เขาเข้า แต่ก็นะ นี่แหละครับตัวจริงไอ้พี่ป่า แม้จะกวนตีนและก็พูดจาเบื่อหน่ายโลกไปบ้าง แต่ความจริงแล้วใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น จากที่เคยได้ยินมาแบบห่างๆตอนนี้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองก็ได้แต่ภาคภูมิใจว่าเลือกคนไม่ผิด
แม้ว่ามันจะยังไม่เลือกผมก็ตาม...ชิ ตัวเลือกเมิงเยอะนี่...
“เตี้ย ได้ยัง...”
“อ้าว พี่ป่า” เสียงหนึ่งทักขึ้น เป็นกุ๊กไก่ห้องตรงข้ามที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วพี่ป่าบอกว่าเธออ่อยพี่เขาอยู่เลย(ขอพูดภาษาชาวบ้านเลยแล้วกันครับ) เธอมาพร้อมกับทราย คนสวยนี่ใส่อะไรก็สวยจริงๆนะครับ เสื้อยืดขาสั้นแค่นี้ก็งามแบบบานตะไทแล้ว ดาวก็คือดาวอยู่วันยังค่ำ “มาซื้อของกินเหรอคะ ทำไมไม่เคาะประตูชวนล่ะ”
ผมนี่กลายเป็นท่อนไม้ข้างหลังไอ้หล่อเดือนมหาลัยไปแล้ว ไม่รู้เพราะราศีมันกลับหรือเพราะสองสาวเธอไม่สนใจผมกันแน่
“คิดว่านอนกันไปแล้วน่ะ” ไอ้หล่อก็ตอบแบบมีมารยาทเอามากๆจนน่าหมั่นไส้...เอ๊ะ ผมหงุดหงิดอะไรเนี่ย
“ยังไม่นอนหรอกค่ะ เพิ่งจะสามทุ่มกว่าเอง” เธอยิ้มแฉ่ง “พี่ป่ากับ...” ขอบคุณพระเจ้าในที่สุดเธอก็เห็นผมสักที “พี่ป่ากับโยรอแป๊บนะคะ เดี๋ยวกลับพร้อมกัน”
พี่ป่ามองหน้าผมแป๊บหนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้า “อื้ม เอาสิ”
ก็มันทางเดียวกันอยู่แล้ว เดินไปพร้อมกันนั่นแหละถูก...ผมกำลังคิดหาเหตุผลให้ตัวเองรู้สึกดีอยู่ครับ
มันหงุดหงิดแปลกๆน่ะ ไม่ใช่ว่ากุ๊กไก่มีความผิดที่ชอบพี่ป่าเหมือนผม แต่ไม่รู้สิ มันขัดใจ...
ผมแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆไม่ได้เหมือนเธอ...นั่นแหละครับที่ทำให้ผมอิจฉาเธอขึ้นมาตะหงิดๆ
ไม่นานนักสาวๆก็เลือกขนมกันเสร็จ พระเจ้า กินกันคนละอย่างสองอย่าง สองคนรวมกันไม่สู้ของในมือพี่ป่าเลยแม้แต่นิดเดียว
“พี่ช่วยถือมั้ย”
ผมไม่น่าชมไอ้หมอพนาเลยที่ว่าชอบช่วยเหลือคนอื่น ถุงเล็กๆแค่นั้นผู้หญิงเขาถือได้นะเว้ย...
แต่ก็เอาเถอะ...เรื่องของมันนี่...
ผมงับป๊อกกี้ที่อยู่ในมืออย่างเซ็งๆ...
“ขอบคุณค่ะ” กุ๊กไก่ยิ้ม และเธอก็เดินไปข้างหน้าเพื่อที่จะไปเดินข้างๆพี่ป่า ในขณะที่ทรายถอยหลังมาเดินข้างผม
“รู้ใช่มะ” ทรายพูดยิ้มๆ “กุ๊กไก่ชอบพี่ป่าอยู่ล่ะ”
เด็กปอสี่ก็รู้มั้ง... “อืม” ผมตอบเธอ
“เฮ้อ จริงๆเราก็ว่าพี่ป่าหล่อนะ แต่ไม่รู้สิ จีบให้ตายยังไงก็คงไม่ติด ไม่สู้อ่ะ” นี่อย่าบอกนะว่าเป็นคู่แข่งของผมอีกคน “ถ้าคืนนี้พี่ป่ากับไอ้กุ๊กไก่จะอยู่ด้วยกัน ฉันไปอยู่กับแกละกันนะโย...”
ว่าไงนะ...
“เห้ย ฉันไม่ปล้ำแกหรอก” ทรายหัวเราะ
ไม่ใช่เรื่องนั้น... “เขาจะไปอยู่ด้วยกันเหรอวะ”
“ก็ไม่รู้สิแก คิดเผื่อไว้น่ะ” ทรายยิ้ม “ไอ้กุ๊กไก่มันบอกฉันว่าพี่ป่าก็เหมือนจะอยากได้มันอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนั้นแกมาแทรกเหตุการณ์พอดี พี่ป่าเลยหุนหันออกจากห้องไอ้กุ๊กไก่ไป...”
หา…
จริงเหรอ...
ผมอ้าปากค้างมองดูร่างสูงกับร่างระหงที่ยืนข้างกันตรงหน้า...ทั้งคู่พูดจาดีคุยกันได้ราบรื่น...เหมือนจะประกอบคำพูดของทรายได้เป็นอย่างดี
รู้สึกเหมือนโดนสาดน้ำใส่หน้ายังไงไม่รู้...
“พี่ป่าก็ดูหื่นๆ ไอ้กุ๊กไก่มันก็สวย...เหอะๆ แกอย่าไปบอกพี่คนไหนละกันนะถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ”
ผมจะไปบอกใครเขาได้ล่ะ...
…ในเมื่อตัวผมเองก็ยังไม่อยากจะยอมรับเลย
ตอนมาถึงห้องผมเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“พี่ป่าคะ เดี๋ยวกุ๊กไก่มีอะไรจะให้ เข้าไปในห้องก่อนสิคะ”
ห้องที่อยู่ตรงกันข้ามกันถูกเปิดประตูออกทั้งคู่ ผมเดินเข้าไปในห้องตัวเองแล้ว กุ๊กไก่เองก็เหมือนกัน ทรายยักไหล่ใส่ผมเตรียมจะเข้ามาหาผมในห้อง ในขณะที่พี่ป่ายืนทื่อมะลื่อด้วยความงง
“อะไรเหรอ”
“เครื่องดื่มน่ะค่ะ เข้ามาก่อนสิคะ”
ไม่อยากจะฟัง ไม่อยากจะดู ผมกลอกตาพร้อมถอนหายใจเดินเข้าไปในห้องตัวเอง...ทรายตามเข้ามาติดๆ “ขนมห้องแกเยอะดี ยังไงก็ฝากท้องไว้หน่อยนะคืนนี้”
“อืม” ผมตอบรับเสียงเซ็ง...เปิดระเบียงห้องเดินออกไปข้างนอก
ไม่รู้ว่าข้างในเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ผมรู้แค่ว่าผมหงุดหงิด หงุดหงิดทุกอย่างที่ผมได้ยินและก็เห็น ไอ้พี่ป่าไม่ใช่ของผม อันนั้นผมก็รู้ แต่ผมรับไม่ได้จริงๆหากมันจะเอาผู้หญิงในระยะที่โคตรจะใกล้ผมแบบนี้ มันเหมือนเหยียบหัวใจของผมด้วยเท้าใหญ่ๆของมัน มันเจ็บปวดไปหมด...
“เตี้ย…” พี่ป่าเปิดประตูระเบียงออกมา “…เดี๋ยวเกี๊ยวกุ้งเย็นหมดนะ”
ผมหันหลังกลับไปมอง...ตอนนี้ในห้องของผมไม่มีทราย มีแต่ไอ้พี่ป่ากับประตูห้องที่ปิดไปแล้ว หน้าหล่อๆของพี่ป่ามองหน้าผม สงสัยจะงงว่าผมเกิดอินดี้อะไรขึ้นมา
“มากินเร็ว ไม่งั้นเสร็จกู”
“เห้ย ของกู” ผมสั่งให้พนักงานเวฟเองนะ ผมรีบเข้าไปในห้องกลัวไอ้พี่ป่าจะแย่งของกิน นั่งลงกลางพื้นห้อง และก็หยิบชามเกี๊ยวกุ้งขึ้นมาเตรียมโซ้ย
เห็นของกินแล้วลืมดราม่าเลยกู...
“แล้วไม่ไปอยู่ห้องกุ๊กไก่แล้วเหรอ”
“สาด” พี่ป่าด่า “จะให้พูดอีกกี่ครั้งว่าน้องเขาพยายามอ่อยกู”
“ที่ได้ยินมามันไม่ใช่แบบนั้นนะ”
หมับ…
พี่ป่าจับมือที่ถือช้อนของผม
“มึงว่าไงนะ”
ผมตัดสินใจจ้องหน้าฝ่ายตรงข้าม “ที่ได้ยินมามันไม่ใช่แบบนั้น” ผมพูด “เขาบอกมึงทำท่าอยากได้เขา แล้วพอกูโผล่ไป มึงก็เลยหยุด...”
“เอามาจากละครช่องห้าเหรอ”
“ฮะ”
“มึงเชื่อ?”
“หรือมันไม่ใช่ความจริง”
“ก็ไม่ใช่อ่ะดิ” พี่ป่าพูดเสียงหงุดหงิด “มึงไม่ควรเชื่อคนอื่น มึงควรจะเชื่อกู”
เหมือนโดนอะไรไม่รู้แทงกลางใจ...
“ถามจริง...คิดว่ากูเป็นคนอย่างนั้นเหรอ”
ผมกลืนน้ำลาย “ไม่รู้ดิวะ เสือผู้หญิง เจ้าชู้…ประมาณนั้นมั้ง”
พี่ป่ายังไม่ยอมปล่อยมือที่ถือช้อนของผมเลย
มิหนำซ้ำยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก...
“เตี้ย” น้ำเสียงพี่เขาดูจริงจังซะจนผมขนลุกขนพอง
และเอาเข้าจริงๆ...ดูเหมือนหลังจากนี้ไปพี่เขาคงจะพูดแต่ความจริง
“กูเคย...แต่เลิกแล้ว”
ผมกระพริบตาปริบๆ “ปล่อยมือกูได้ยังวะ...”
“กูจะไม่มีวันโกหกอะไรมึง...มึงเข้าใจมั้ย”
ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไง จริงๆแล้วผมไม่กล้าสบนัยน์ตาคมๆของพี่ป่าในเวลานี้เอามากๆเลยครับ
“…เอ่อ”
“ตอบมา เข้าใจรึเปล่า”
ไอ้นี่แม่งโหด TT
“เออ เข้าใจแล้ว” ผมพูด ขยับมือไปตักเกี๊ยวกุ้งขึ้นมาหวังจะเบี่ยงเบนความสนใจ แต่มือใหญ่ๆของไอ้พี่ป่าแม่งก็ยังไม่ยอมปล่อยมือผม จนกระทั่งได้ชิ้นเกี๊ยวขึ้นมาเท่านั้นแหละ
“โทษฐานที่มึงเข้าใจกูผิด...” มันยื่นหน้าเข้ามา จับมือผมป้อนชิ้นเกี๊ยวนั้นเข้าปากมัน “…ชิ้นนี้กูขอ”
ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลย...ถ้ามันจับมือผมแล้วมันไม่จ้องหน้าจ้องตาผมขนาดนี้...
ผมไม่ใช่เจ้าของเขา...
…แต่ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกดีใจที่พี่เขาพูดกับผมถึงขนาดนี้
พูดให้ผมเชื่อใจเขา...
จริงๆแล้วพี่ป่าไม่ควรจะมาแก้ตัวอะไรกับผมเลยด้วยซ้ำ...
“เตี้ย…มึงหลับยังวะ...”
“…”
“หลับแล้วใช่มั้ย...”
“…”
“ฝันดีนะครับน้องโย”
TBC*