เดือนเกี้ยวเดือน...พิเศษหลังการประกวด [ป่าวาโย]
หลังจากทานข้าวกันเสร็จผมก็ขนของของโยทุกอย่างขึ้นมาบนห้องของเขาเพื่อช่วยเหลือเขาครับ ดอกกุหลาบที่ใช้โหวตทั้งหมดยังคงอยู่หลังรถผมและที่เขาหอบขึ้นมาโดยไม่ถามผมเลยสักนิดก็คือช่อกุหลาบอันใหญ่บิ๊กเบิ้มนั่น ท่าทางจะชอบมากเพราะถือเพียงอย่างเดียวนอกนั้นก็ให้ผมถือของทุกอย่างหมด แปลกที่ผมไม่โวยวายอะไรแต่กลับยิ้มมองดูคนกอดช่อดอกไม้ไม่ปล่อย
คน(ที่ฝาก)ให้มันปลื้มมากนะรู้มั้ย...
“อุ้ย” ระหว่างที่ขึ้นบันไดสวนกับน้องปีหนึ่งคณะไหนไม่รู้ครับ ท่าทางเธอทั้งคู่จะตกใจที่เห็นเราขึ้นบันไดสวนพวกเธอไป “ที่เล่นเปียโนนี่นา”
โยยิ้มแห้งๆ
“พี่ป่า...วาโย...อยู่หอนี้เหรอคะ”
“ตายละ”
ทั้งสองแทบจะหลุดกรี๊ดออกมากันเลยทีเดียว โยเกาหัวเก้อๆในขณะที่ผม(ซึ่งชินแล้วมั้ง)ผงกหัวทักทายพวกเธอนิดหน่อยก่อนที่จะมุ่งหน้าไปห้องของโย
“เสื้อผ้าไม่เท่าไหร่นะ แต่ไอ้ตุ๊กตุ่นพวกนี้คืออะไร” ผมอดถามโยไม่ได้ เพราะที่ผมช่วยถือมีตุ๊กตาขนาดพอดีมือติดมาในถุงของโยด้วยประมาณสามสี่ตัว
“เพื่อนให้มาน่ะ รุ่นพี่ และก็...” โยเพ่งมองอย่างไม่แน่ใจ “อีกตัวใครให้วะ”
“อื้ม ฮอตนี่” ละม้ายคล้ายผมประชดประชันไปซะฉิบ
“เปล่า เค้าแค่อยากให้กำลังใจ”
“เก้าสิบเก้าดอกก็พอแล้วมั้ง” ผมพูดลอยๆ ในขณะที่โยกำลังไขกุญแจห้อง เขาหันมายิ้มให้ผมเล็กๆก่อนที่จะเปิดประตูห้องเข้าไป
ห้องที่ผมนอนเมื่อคืนก่อน...ให้ตายสิ...รู้สึกอยากมานอนอีกไม่ได้อยากแค่มาส่ง
“วางไว้ตรงไหนก็ได้ครับ เดี๋ยวโยจัดการเอง” โยเอาช่อดอกไม้ไปวางบนโต๊ะที่ผมขอเรียกว่า ‘คอลเลคชั่นของพนา’ เพราะบนโต๊ะนั่นมีแต่รูปผมเต็มไปหมด โยไม่ได้สนใจผมที่ยืนอยู่ข้างหลัง เอาแต่สนใจว่าจะวางดอกไม้พวกนั้นยังไงให้เข้ากับโต๊ะดี
“ไม่นานมันก็เหี่ยวและโยก็จะได้เอาไปทิ้งนะ”
“ไม่อยากทิ้งอ่ะ...” เขาทำหน้าเสียดาย
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ถือหรอก” ผมถือว่าได้ให้ไปแล้วอีกอย่างหนึ่งเขาเอาแต่กอดเจ้าช่อดอกไม้นี่ไม่ปล่อยแค่นั้นผมก็ปลื้มสุดๆแล้ว
“แต่ว่า...”
“เดี๋ยวมันจะเหี่ยวคาห้องโยนะ”
“งั้น...สองสามวันค่อยทิ้งได้มั้ย”
“ตามใจ” ผมยิ้มก่อนที่จะวางของทุกอย่างโดยวางเป็นระเบียบเพื่อที่เขาจะได้หยิบง่ายๆ
รู้สึกเหมือนหมดหน้าที่เลยกู...ผมนั่งลงบนเตียงของโย ปลดชายเสื้อปลดกระดุมอย่างผ่อนคลายราวกับว่านี่เป็นห้องของตัวเอง ส่องตัวเองในกระจกเงาข้างๆและก็มองโยผ่านเงาในนั้น
เขาก็ยังคงง่วนอยู่กับจัดวางช่อดอกไม้อยู่นั่นแหละ
เห็นหลังผอมๆนั่นขยับไปมาแบบไม่รู้ตัวแล้วผมรู้สึกอยากแกล้งว่ะ ใช้เวลาคิดสองวิเสร็จปุ๊บแกล้งเลยละกัน
หมับ...
โยโดนผมสวมกอดทางด้านหลัง...โอ้โหตัวโคตรบางเลย ทั้งๆที่เขาก็ตัวสูง(แต่ผมเรียกเตี้ย)แต่ทำไมดูตัวเล็กกอดง่ายแบบนี้ฟะ
คนถูกกอดอ้าปากค้าง...มองดูเงาตัวเองในกระจกข้างๆโต๊ะโดยมีผมมองดูบ้าง เรามองหน้ากันผ่านกระจกโดยที่ผมกอดน้องจากทางด้านหลังอยู่
“เหี้ยพี่ป่า ทำไรวะ”
“ตัวจริงอยู่นี่ก็ยังมัวแต่สนใจช่อดอกไม้อีก” ผมยักคิ้วส่งให้เขาในกระจก
“ทำบ้าอะไร ปล่อยเลยไม่งั้น...” โยชูกำปั้นขู่ผม...น่ากลัวชิบหาย(ประชด)
“ต่อยเลย มาๆ” ผมยื่นหน้าให้ต่อย โยเลยต่อยผมเบาๆ
“ปล่อย ไม่ร้อนเหรอ...”
“ไม่นะ...พี่ชอบ”
โยเริ่มมีใบหน้าแดงซ่าน ในขณะที่ผมเองก็ใจเต้นตึกๆ...
“โกรธมั้ยเนี่ย...มาแต๊ะอั๋งแบบนี้”
“ถ้าโกรธ...จะยืนนิ่งๆให้ทำมั้ยล่ะวะ”
ตอบถูกใจว่ะ...ผมเลยชิงหอมแก้มเขาไปหนึ่งทีก่อนที่จะค่อยๆปล่อยเขาให้เป็นอิสระ
ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง...แผ่กางขาอล่างฉ่างพร้อมขยับไปมา โยหันกลับมามองผมแล้วพูดกับผมว่า “ตกลงนี่ห้องพี่ป่าหรือห้องโย...”
“ไม่ไปไหนง่ายๆหรอกนะ...”
“ด้านเนอะ”
“แน่นอน”
โยทำปากขมุบขมิบด่าผม...ก่อนที่จะเดินไปรื้อของในถุงที่ผมช่วยขน อันดับแรกเขาดึงสายสะพายออกมาก่อนเลย เอามาวางพาดลงบนเตียงในส่วนที่ผมไม่ได้นอน แล้วเขาก็ถ่ายรูป
“ลงไอจีรึไง...”
“เปล่าหรอก ป๊าไม่เชื่อว่าลูกป๊าได้ตำแหน่งเยอะขนาดนี้”
บางทีป๊าของโยอาจจะจำภาพโยสมัยมัธยมมาก็ได้มั้ง เลยไม่เชื่อเท่าไหร่
แต่ผมนี่เชื่อเต็มๆ ถ้าเป็นกรรมการ ผมให้โยเป็นเดือนมหาลัยด้วยเลยอ่ะ...
คิดไปคิดมาไม่ดีกว่า...เพราะแค่นี้ผมก็เริ่มรู้สึกว่าผมต้องปาดเหงื่อหากเจอใครก็ตามที่บังอาจเข้ามาอยู่ใกล้โย
ไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วสิ...
“เออนี่...” ผมค่อยๆพูด
“อะไรเหรอ”
“คืนนี้พี่อยู่ห้องโยดึกหน่อยนะ”
“อื้ม...ได้” โยรื้อของในถุงต่อ “ว่าแต่ไม่ไปอ่านหนังสือล่ะ”
“เปล่าหรอก...นี่รอ...”
“รออะไร...”
“ไม่บอก”
“เอ้า ไอ้พี่ป่านี่”
ท่าทางโยจะไม่ได้เอะใจอะไร...ผมเริ่มนอนตะแคงกัดเล็บเครียด(ท่าเหมือนเด็กอนุบาลนอนกลางวันมาก) จริงๆแล้วผมมีอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์เตรียมไว้ให้โย...และเซอร์ไพรส์นั่นมันยังมาไม่ถึง
ตอนเข้าห้องน้ำในร้านอาหารที่ไปกินข้าวกับโย...ผมโทรหาไอ้บีม ไอ้บีมนี่ด่าผมชิบหายแบบไม่ให้ผมผุดผมเกิดเลยทีเดียว
“ก็เขาโทรมาบอกว่าของมาวันนี้นี่หว่า...”
“ไอ้เหี้ยป่า...เวรตะไลเอ๊ย...งานแต่งพวกมึงกูไม่ใส่ซอง!”
มันประกาศกร้าวอย่างโมโห...พอถึงเวลานั้นผมจะบังคับให้มันใส่อยู่ดี(อย่างต่ำสามหมื่นละกันนะเพื่อน)สงสารมันครับที่ต้องตีรถจากร้านที่มันกำลังจะไปดริ๊งกลับไปยังห้างเพื่อที่จะเอาของให้ผม
นั่นแหละที่ผมจะเซอร์ไพรส์โยเขาล่ะ...
ลับหลังโย...ผมแอบส่งไลน์ไปหาไอ้บีมว่ามันถึงไหนแล้ว มันบอกว่ากำลังจะถึง...ซึ่งกำลังจะถึงของมันนี่ผมไม่รู้ว่ามันติดไฟแดงตรงไหนรึเปล่า
ผมเกาหัวด้วยความไม่ได้ดั่งใจ...ในขณะที่โยผู้ไม่ได้เอะใจอะไรกับท่าทางแปลกๆของผมก็มัวแต่จัดของให้เป็นระเบียบ พอผมมองดูเขาอีกทีหายแว้บไปเปิดไอแมคเพื่อเช็ครูปตัวเองในเฟสบุ๊คแล้วซะงั้น
ผมเองก็อยากดูรูปเหมือนกัน...ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินไปเอาคางเกยบนหัวโย
“…เชี่ยมิ่งหล่ออ่ะ” โยพึมพำ... “และดูคนเม้น...ฮ่าๆๆ ขวัญใจชาวเทย”
“เลื่อนไปดูรูปโยดิ”
“แป๊บดิ นี่ก็ใจร้อน” โยกดหยุดที่รูปผม... “โอ้โห”
“ทำไม”
“เปล่า” เขากระแอม “เคยชิน...ลืมไปว่าตัวจริงยืนเอาคางมาหนักหัวโยอยู่”
“ปกติเห็นรูปพี่ต้องร้องอย่างนั้นเหรอ” ผมถามยิ้มๆ
“ก็...หนักกว่านี้”
โยยักไหล่...คำพูดเขาทำเอาผมอยากจะโทรเร่งเชี่ยบีมให้รีบมาไวๆ
“จะว่าไปไม่มีรูปคู่เราเลยเนอะ ตอนมอบสายสะพายป๊อบปูล่าร์ก็ติดหน้าเหี้ยๆของไอ้มิ่ง” โยบ่นพึมพำงึมงำเป็นเด็กๆ
“ถ่ายสิ ถ่ายเลย” ผมยื่นโทรศัพท์ผมให้โย
“มันก็ไม่เหมือนกันครับแหม่”
จังหวะนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้บีมโทรมาหาผมพอดี เยส!
“เดี๋ยวพี่มานะ” ผมหอมหัวที่ยังไม่ได้ล้างของโยก่อนที่จะออกจากห้องไปอย่างรีบๆ
“จะไปไหน”
“เดี๋ยวมา”
โยพยักหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมเนี่ยสิกำลังจะใส่เกียร์หมาเพื่อที่จะไปเอาของกับเชี่ยบีม...
“เหี้ย...ไม่ใช่อันนี้” ผมโวยวายทันที “ผิดอันแล้วโว้ย!”
“หา...กูว่ากูดูดีๆแล้วนะ”
“ไม่...ผิดถุงแน่มึง ปิดยังวะ” ผมรีบกดโทรศัพท์โทรออกเข้าเบอร์ร้านของที่ผมต้องการ
“เชี่ยป่า...ต้องวันนี้เลยเหรอวะ”
“อืม” ผมรีบพูด “ถ้าวันอื่นกูปวดหัวมากกว่านี้แน่ๆ”
“ทำไมวะ...”
“คนจะเข้ามาหาโยไม่หวาดไม่ไหวเพราะงั้น...กูต้องตัดกำลังคนก่อน”
ไอ้บีมทำหน้าเหมือนปวดสมองกับผม โชคดีที่พี่พนักงานร้านยังคงรับสาย ผมก็เลยชี้แจงไปว่าเพื่อนไปเอาของมาผิด พี่เขาตกใจใหญ่และก็บอกว่าจะหยิบของของผมออกมาให้แต่ต้องเจอกันนอกห้างเพราะห้างปิดแล้ว เอามาแลกกันตามสถานที่ที่เขานัดหมายเอาไว้
ผมนี่แทบปวดหัว...เงยหน้ามองดูห้องของโยที่ไฟยังเปิดสว่าง
“เอาไงก็เอาวะ...” ผมแย่งกุญแจรถบีมมาเพื่อที่จะขับ “...ไปเป็นเพื่อนกูเลย”
“เหี้ย...” บีมบ่น “...กูไม่ใส่ซองนะ”
“เออ อนุญาต”
ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆแถมรถยังติดอีกเพราะเพิ่งเลิกงานใหญ่ของมหาลัยไป จะบ้าตาย จากที่จะให้โยรอเป็นหลักสิบนาที ตอนนี้ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าแล้ว และผมก็เพิ่งรู้ตัวว่ารับสายไอ้บีมเสร็จ...ผมก็วางโทรศัพท์ไว้บนห้องของโย
รู้สึกตะหงิดๆว่าจะโดนด่า...
กว่าจะเจอเจ๊พนักงาน(ที่ได้ใจมากเมื่อได้เห็นหน้าผมอีกรอบ ผมมาหาพี่เขารอบแรกลับหลังโยตอนที่โยยังคงง่วนอยู่กับการซ้อมบล็อคกิ้ง) และก็กว่าจะแลกของ ตรวจสอบคุณภาพของ ขับรถกลับ กินเวลาไปเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ ที่แน่ๆเลยเที่ยงคืนไปแล้ว...
ผมตายแน่...นี่มันผ่านมาเกือบสามชั่วโมงเข้าให้แล้วนะ
“ขอบใจนะมึง...” ผมตบบ่าไอ้บีมทันทีที่ถึงหน้าหอ
“กูเชื่อว่าน้องเขาจะตกลง” มันพูดยิ้มๆก่อนที่จะกลับรถตัวเอง
ตกลงหรือไม่ตกลงไม่รู้ล่ะวันนี้ผมต้องได้ขอ ผมวิ่งขึ้นบันไดห้าชั้นด้วยความไวชนิดที่ว่าก้าวทีสามสี่ขั้น และในที่สุดผมก็มาถึงหน้าห้องโย เคาะสองสามครั้ง ไฟมืดเป็นที่เรียบร้อย
รู้สึกผิดไปถึงเยื่อหุ้มกระดูก...
โยหลับไปแล้วตอนที่ผมไปถึง ผมเห็นหลังของเขาอยู่ภายใต้ผ้าห่มพร้อมๆกับเสียงแอร์ที่เปิดอ่อนๆ...ผมค่อยๆถือวิสาสะทิ้งตัวลงไปนอน สวมกอดโยเอาไว้หลวมๆ โยที่หลับไปแล้วสะลึมสะลือขึ้นมาและเมื่อรู้ว่าผมกอดอยู่ เขาตีแขนผมหนึ่งที
“ไปไหนมาวะ เอามือออกไป”
นั่นไง...โกรธจริงๆด้วย
“ไปเอาของมา”
โยพลิกตัวกลับมาหันมามองหน้าผมในความมืด ผมเชื่อว่าดวงตาของผมจะต้องประกายกับไฟริมระเบียงของโยแน่ “สำคัญมากหรือไง นี่มันกี่โมงแล้ว แล้วไม่เอาโทรศัพท์ไปอีก แล้วบอกว่าเดี๋ยวมา ไอ้คนรอมันก็รอไง คนห่วงมันก็ห่วงไง”
โยคงโกรธมากจริงๆ...ผมก็เลยต้องรวบหัวเขามากอดเอาไว้...รู้สึกว่าตัวเองกล้าขึ้นเยอะหลังจากตอนที่น้องแอบจะมาหอมแก้มผมแต่ผมดันหันไปเจอกลายเป็นจุ๊บ
มันก็เพิ่งผ่านมาไม่กี่ตอนเองนี่หว่า...
“ขอโทษ” ผมกระซิบ โยก็เลยอ่อนลงแต่ก็ตีผมไปหนึ่งที “โอ้ย”
“กลับห้องไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนใช่มั้ย”
“อื้ม...แต่อีกเดี๋ยว”
“อะไร...”
“จะบอกให้ว่าหายไปเอาอะไรมา”
ผมไม่เปิดไฟ...นอนตัวหงายหยิบของออกมาจากถุง ถุงที่สีไม่ต่างอะไรจากกล่องของขวัญที่บรรจุกำไลสีดำที่โยจะมอบให้ผมครับ
ใช่แล้ว...นี่เป็นกำไลสีขาวแบรนด์เดียวกันที่ผมเพิ่งสั่งไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ของค่อนข้างหายากเพราะมันเป็นรุ่นเก่า แบรนด์นี้ก็เลยจัดการทำให้ใหม่พร้อมๆกับที่ผมจะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้นมากกว่าเดิม
ผมสวมหมับเข้ากับข้อมือข้างเดียวกันกับที่ผมใส่ มันดูเหมาะกับโยดูแฮะทั้งๆที่ผมมองอยู่ในความมืด
“เห้ย...พี่ป่า ไปหามาจากไหน เลิกผลิตแล้วนะ”
“เทพ” ผมพูดสั้นๆ...โยนอนหงายในขณะที่ผมดึงมือน้องขึ้นมาแล้วส่องดูกำไลคู่กันที่ใส่ข้างเดียวกัน ท่าทางเหมือนเด็กๆกำลังชี้ดวงดาว “รู้ใช่ป่ะว่าต่อไปพี่จะพูดอะไร...”
“วันนี้ให้ไรมามั่งเนี่ย เยอะแยะไปหมดแล้วนะ”
“แต่ต่อไปนี้สำคัญที่สุดนะ สำคัญต่อชีวิตโยแล้วก็ชีวิตพี่ในอนาคตต่อจากนี้ไป...”
“อะไร...”
โยพูดเสียงแผ่วเบา...ผมที่ตื่นเต้นไม่น้อยรวบรวมความกล้าให้น้องหันหน้ามาเอาหน้าผากมาจรดหน้าผม
“โย...”
ดวงตากลมโตของโยจ้องมองดวงตาผมที่อยู่ใกล้กันมาก
“หือ...” ท่าทางเขาทั้งแปลกใจและก็ตื่นเต้นไปในคราวเดียวกัน
ให้ตายเถอะใจผมเต้นแรงมาก...นี่มันบรรยากาศแบบไหนกัน
ไม่พูดตอนนี้แล้วพูดตอนอื่นผมว่าผมนี่แหละที่จะอกแตกตายก่อน...
คนบางคนต้องโดนตีตราจอง...จริงมั้ยครับ...ยิ่งคนที่เหมือนจะฮอตมากฮอตมายในมหาลัยขณะนี้อย่างโยอีก
“คือว่า...”
“ว่า...”
“เราสองคนก็ใจตรงกันมานานแล้วเนอะ”
โยกระพริบตาปริบๆ “อือฮึ...”
“โยชอบพี่ พี่ก็...ชอบโย”
“…”
“ไม่สิ...รักมั้ง”
โยกลืนน้ำลาย ดวงตาของเขาสั่นระริก มืออีกข้างที่ไม่ได้อยู่ใกล้อกผมกำลังจิกผ้าห่มแน่นท่าทางจะเกร็งมาก
เออ ผมเองก็เกร็งมากเหมือนกัน...
ลุ้นยิ่งกว่าตอนสอบหมออ่ะ...
“ต่อไปนี้...”
“…”
“ให้พี่ดูแลโยในฐานะแฟนของโยได้มั้ย”
โยอึ้งมาก...ดวงตาของเขาสั่นไปหมด
“คบกับพี่นะ...”
และจู่ๆดวงตาที่สั่นนั่นก็มีน้ำตาหยดลงมาหนึ่งหยด
“ฮึก...”
ปั้ก! ผมโดนทุบไปหนึ่งที...โยปาดน้ำตาด้วยความไวแสงก่อนที่จะทำเหมือนกับว่าไม่ได้ร้องไห้
“เหี้ยพี่ป่า...”
“ตกลงมั้ยเนี่ย”
“ยังจะถามอีกเนอะ”
ผมคว้าน้องมาสวมกอดหมับ...
“ก็มันไม่แน่ใจนี่หว่า”
“เดี๋ยวถีบ...รูปตัวเองเยอะแยะอยู่ในห้องโยยังจะมีหน้ามาไม่แน่ใจ”
ผมกอดโยราวกับว่าโยเป็นหมอนข้าง...เมื่อวานและก็วันนี้มีแต่เรื่องดีๆ และผมก็อยากที่จะมีเรื่องดีๆแบบนั้นต่อไปโดยที่มีโยอยู่เคียงข้าง
“เป็นแฟนพี่แล้วนะ...”
โยพยักหน้าหงึกๆ...
“…ใครมาถามก็บอกไปนะว่ามีแฟนแล้ว”
โยทุบผมอีกรอบ
“...บอกตัวเองดีกว่ามั้ง”
ผมยิ้ม...
มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายระหว่างโยและผม
และวันนี้เป็นวันที่สองเรานั้นสมหวังในที่สุด...
ผมเชื่อครับว่า...ทางเดินนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
แต่ผมเชื่อว่า...เราสองคนจะผ่านมันไปได้แน่
“พี่รักโยนะ”
TBC*
TALK : ขุ่นผู้อ่านใจเย็นๆนะคะ ยังไม่จบเรื่องนะ 5555 ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพให้ดีนะคะ คนเขียนเป็นหวัดแล้ว T^T