เดือนเกี้ยวเดือน #28
“บ่ายมึงไม่มีเรียนใช่มั้ย”
“ใช่”
“กูไปหานะ”
ไอ้มิ่งไม่ฟังอะไรผมเลยครับ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มันต้องโดนนางฟ้าเพื่อนผมแทะๆโลมๆอยู่เนี่ย พอดีตอนบ่ายไม่มีเรียนแต่ก็ต้องมาจัดกลุ่มแลป เตรียมอุปกรณ์ และก็ซื้อสมุดคู่มือการเรียน ระหว่างที่รอ ไอ้มิ่งซึ่งรอข้างนอกไม่ไหวเข้ามานั่งรอหนังสือคู่มือในห้องของผมด้วย และนั่นแหละครับท่านผู้ชมครับ(เสียงสรยุทธ) มันถึงได้โดนแทะโลมทางคำพูด ทางสายตา และก็ทุกๆทางที่นางฟ้ามันพอจะทำไหว
ส่วนผมที่อยู่กับพวกมันตลอด...แม่งไม่เคยเห็นหัว...นอกจากอิเบอร์หนึ่งมันนึกครึ้มอยากจับเป้าผมขึ้นมา ผมถึงจะมีค่าในสายตาพวกมัน
“มิ่ง ตกลงฉันหรือมันสวยกว่ากัน” อิมนชี้ไปหาอิอ้วนเบอร์หนึ่งคู่ปรับ ใกล้จะตบกันแล้วครับ กลายเป็นโจ๊กหน้าห้องไปซะฉิบ ไม่มีเพื่อนคนไหนหวังดีช่วยห้ามเลย สงสัยกลัวลูกหลง
“เอ่อ”
“บอกมาเลยไม่ต้องเกรงใจจ้ะ บอกไปเลยว่าฉันสวยกว่า...ตอบถูกใจมีรางวัลให้นะจ๊ะ” จริตจก้านแม่งมาเต็มมากอิช้างน้ำ
“รางวัลเหรอ ไม่เอาได้ป่ะ” ไอ้มิ่งพูด ถึงแม้มันจะพูด ก็ไม่มีใครสนใจฟังมัน
“เขาจะโกหกทำไมล่ะอิอ้วน กูนี่สวยกว่ามึง แม้นมกูจะเล็กกว่าก็เหอะ มิ่ง...รอเค้าแป๊บนะ เก็บเงินทำนมแป๊บ ตอนนี้มีตังค์แค่ค่ายาคุม”
“หึ นมไม่เด้งแบบกูก็เงียบปากไปเลยอิมน”
“ขอให้เด้งฟาดจมูกแบนๆของมึงเลยละกันนะอิอ้วน”
“ตบกับกูเลยมั้ยคะถ้าจะพูดขนาดนี้!”
“มาสิคะ มาๆๆ”
มันสองคนทำท่าจะตบกัน...แต่ก็ไม่ตบ...ไม่เคยจะตบกันจริงๆสักที
ผมมองขำๆ แต่มีคนๆหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่ขำด้วย นั่นก็คือไอ้มิ่ง ผมรู้ว่าในใจของมันคิดเรื่องอะไรอยู่ และนั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุที่มันมาเกาะติดผมตลอดทั้งบ่ายนี้ก็เป็นได้
เรื่องพี่คิท...
ไม่เค้ยไม่เคยจะเห็นมันซึมเศร้าเหงาหงอยเพราะใครมาก่อน ไอ้มิ่งที่ผมรู้จักมันแพรวพราวเจ้าเสน่ห์จะตาย ตอนมันเรียนอยู่มัธยมบางคนมันก็คบไว้อวดเพื่อน บางคนเพื่อนก็บอกว่ามันคบทั้งๆที่มันไม่ได้คบ สารพัดข่าวลือเลยครับที่มันต้องพบเจอ แต่เชื่อเถอะครับว่าไม่ว่ามันจะผ่านมาเยอะขนาดนี้ แม่งก็ไม่เคยเก็บใครเอามาคิดจนใกล้บ้าและหน้าหมองขนาดนี้
มันเอาแต่บอกผมว่าไม่จริง และก็ไม่จริง เรื่องที่พี่บีมกับพี่คิทจะคบกัน
ผมไม่มีความเห็น มีหน้าที่อย่างเดียวคือรับฟังและก็คอยเคียงข้างมันตามประสาเพื่อนที่ดี บอกตามตรงเห็นสภาพมันแล้วนึกถึงตัวเองตอนมอปลายชะมัด ตอนที่เป็นบ้าคิดไปเองต่างๆนานาเรื่องพี่ป่า ตอนนี้ไอ้มิ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผมในตอนนั้นเลยครับ และผมรู้ว่ามันมีความรู้สึกเจ็บปวดมากเท่าไหร่กับการที่ไม่รู้ใจคนๆนั้นไม่ว่าจะทำยังไง
“อีกนานมั้ยวะ” มิ่งเอ่ยขึ้นมา
“มึงจะให้กูพาไปไหนวะ”
“คณะแพทย์”
ผมถลึงตา... “เห้ย มึงก็รู้เขามีเรียนทั้งเช้าทั้งบ่าย”
“ไม่รู้เว้ย ก็วันนี้กูไม่มีเรียนอ่ะ”
“แล้วทำไมต้องลากกูไปด้วยล่ะวะครับ”
“ก็ถ้า...ไม่รู้สิ...ถ้าพี่บีมกับพี่คิทแม่งคบกัน กูจะไปตอบได้ไงว่ากูไปหาพี่คิท ถ้าเขาถามกูก็จะตอบไปว่าพามึงมาหาพี่ป่า”
อ้าว ซะงั้นไอ้บ้า...
“มึงเข้าใจมั้ยว่าคนมันไม่เชื่ออ่ะ”
“แล้วมึงจะพิสูจน์ยังไง จะไปถามเขาตรงๆเหรอ”
“มึงมีความคิดที่ดีกว่านี้มั้ยล่ะเมียพี่ป่า”
ดู๊ดูมันเรียก...เดี๋ยวบั๊ด... “กูว่าคนที่มึงควรถามที่สุดน่าจะเป็นพี่คิท จริงไม่จริงยังไงพี่คิทน่าจะตอบมึงได้ดีที่สุด เพราะงั้นมึงไปถามพี่คิทเถอะ” ผมพูดออกมา “แต่ว่ามึงจะไปทั้งๆที่เขากำลังเรียนอยู่เนี่ยนะ แผนการนี้มันดีจริงๆเหรอวะ”
“นั่นสิ” เดือนมหาลัยปีนี้กัดเล็บ...ผมมองมันแล้วก็รู้สึกห่วงตะหงิดๆ ผมเข้าใจไงว่ามันเครียดขนาดไหน ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว “แม่งเอาไงดีวะ”
ตอนที่มันบ่นตั้งหนังสือคู่มือเรียนแลปก็ถูกยกเอามาส่งพอดี เพื่อนในเสคผมหยิบมาแล้วก็แจกๆๆจ่ายเงินไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นผมก็เดินเคียงคู่กับไอ้มิ่งข้างหน้าไอ้พวกนางฟ้าที่ใกล้จะตบกันเพราะไอ้มิ่ง เสคอื่นที่เดินออกมาจากห้องแลปต่างก็มองไอ้มิ่งตาเป็นมันเพราะรู้กันหมดว่ามันเรียนวิศวะไม่รู้มาทำแป๊ะไรที่ตึกคณะวิทย์
“กิ๊กกับโยเหรอ”
นั่นคือเสียงที่แว่วเข้ามาในหูผม...กูว่าแล้วต้องมีคนคิดแบบนั้น
“ไม่หรอกมั้ง ท่าทางชอบผู้หญิงทั้งคู่นี่”
อืม คนนี้ความคิดเข้าท่า
“มิ่งอาจจะใช่ แต่โยน่ะไม่เลย กูว่าเขาชอบผู้ชายนะ”
แม่งเซ็ง ผมชอบผู้ชายแค่คนเดียวไม่ได้ชอบผู้ชายทั้งโลก!
เดินมองหน้าไอ้มิ่งที่ทำหน้าเครียดสักพักหนึ่งหัวผมก็ไปชนเข้ากับอะไรอย่างจัง ไอ้มิ่งที่เห็นเหตุการณ์พอดีดึงแขนผมเอาไว้กลัวจะชนอะไรไปมากกว่านี้ และนั่นทำให้ผมเห็นจริงๆว่าสิ่งที่ผมเกือบชนคืออะไร
ไอ้คนที่ขอเบอร์ผมและก็คนที่ผมบังเอิญเจออยู่ห้างเมื่อวันก่อนนั่นไง
แม่งเจอมันบ่อยชิบหาย...และผมก็กลัวสายตามันเอามากๆด้วย
นึกสงสัยว่าเพื่อนมันฝากมันมาขอเบอร์จริงๆหรือตัวมันเองกันแน่
“เฮ้ย...เอาแล้วไงๆ” ได้ยินเสียงเพื่อนมันดังมาจากข้างหลัง ผู้ชายทั้งโขยง ผมพอจะรู้แล้วว่ามันอยู่เอกฟิสิกส์
“เปลี่ยนคนควงแล้วเหรอ” มันยิ้มแฉ่งโชว์ฟันขาว แม่งหน้าตาดียิ้มแล้วหล่อแต่ทำไมน่ากลัวแบบนี้วะ “เมื่อวานควงคน วันนี้ควงอีกคน ไม่เบาเลยนะ เดือนทั้งนั้นเลยนี่”
“ใครวะ” ไอ้มิ่งผู้ไม่สบอารมณ์มาแต่เก่าก่อนถามผม
“กูก็ไม่รู้ว่ะ”
“แนะนำตัวให้ก็ได้ เราชื่อปาร์ค อยู่เอกฟิสิกส์”
“อืม ไปนะ” ผมรีบกระตุกแขนให้ไอ้มิ่งที่จ้องหน้าคู่กรณีให้รีบเดินไปอย่างเร็วที่สุด ตรงนี้มันเป็นจุดศูนย์กลางของชั้นนี้เพราะใกล้ลิฟต์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนมองเห็นกันทั้งนั้น
และไอ้ปาร์คกับไอ้มิ่งมันเด่นน้อยซะที่ไหนกัน...
“โย”
ไอ้ปาร์คร้องเสียงไล่หลังผมมา ผมหลับตาอย่างหนักใจก่อนที่จะหยุดเดิน
“เราได้เบอร์นายมาแล้วนะ”
เพื่อนผมถึงกับมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ
“โทรไปก็รับสายด้วยล่ะ”
ผมรีบดึงแขนเพื่อนแล้วรีบเดินหนีไป แม่งน่ากลัวชิบหาย ผมรู้ครับว่าผมไม่ควรตัดสินใจอะไรง่ายๆและรวดเร็วเกินไป แต่การที่ผมแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบ ไม่สานต่อ ไม่อะไรกับมันทั้งนั้นแต่มันก็ดันเสือกที่จะพยายามรุกต่อ ผมว่ามันเริ่มน่ากลัวก็ตรงนี้นี่แหละ
“เชี่ย” ไอ้มิ่งบ่นออกมา “เหี้ยไรวะโย”
“กูไม่รู้”
“ให้กูกับเพื่อนมาเคลียร์มะ”
“สัด” ผมด่ามัน “ทำเป็นเก่ง เดี๋ยวแม่งได้ไฝว้กันทั้งคณะหรอก วิศวะปะทะวิดยางี้เหรอ พอเหอะ ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“ขอให้มันไม่มีอะไรแล้วกัน ขนาดกูไม่ใช่พี่ป่าของมึงกูยังรู้สึกเป็นห่วงมึงเลย”
“ซึ้งนะเนี่ย...คิดไรกับกูป่ะวะ...”
“มึงหน้าไม่เหมือนคิทแคท”
“เออกูขอโทษ” ผมทำท่ายกมือไหว้ “แล้วตกลงมึงจะเอาไง...”
“กู...”
ระหว่างที่มันกำลังจะพูด โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาพอดี
“ครับ...เออใช่ เฮ้ย เกือบลืม ผมขอโทษ ครับๆ เดี๋ยวผมรีบไป หา...ว่าไงนะ...ชื่ออะไรนะพี่ หมูหวาน?”
งานเข้าไอ้มิ่ง...นั่นแฟนเก่ามันไม่ใช่เหรอ...ผมจำได้ ผมได้ยินไอ้มิ่งพูดว่าเตงๆๆอยู่นานหลายเดือนเลยครับ
“อยู่คณะเหรอ! ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ไอ้มิ่งกดวางสายแล้วมองหน้าผม “ชิบหายแล้วมึง”
“อะไรวะ”
“หมูหวานมา!”
“หือ”
“อยู่คณะกูตอนนี้เนี่ย เขารอกูอยู่”
“มึงนัดกับเขาไว้เหรอ” ผมทำหน้างง
“ไม่ได้นัด”
“ก็รีบไปหาเขาสิ ให้ผู้หญิงรอไม่ดีนะเว้ย” ผมรีบเขี่ยๆไอ้มิ่งให้มันรีบไป
“จริงๆกูมีถ่ายรูปโปรโมทคณะ พี่โฟร์ทเพิ่งโทรมาเตือนกูเมื่อกี้ ไอ้เชี่ย งานเข้ากูหลายงานเลยว่ะ” มันขยี้หัวและก็จับไหล่ผม “ไอ้โย กูรักมึงนะ...”
แม่งคนละฟีลกับพี่่ป่าบอกผมเลยครับ
สิ่งที่ไอ้มิ่งบอก...แม่งหวังผลชัดๆ
“ไปคณะเป็นเพื่อนกูที กูขอร้อง”
ผมมาคณะมันผมจะมีประโยชน์อะไรวะ...
ที่แน่ๆทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถ เจอสาวสวยโบกไม้โบกมือให้ตั้งแต่ไกลๆเลยครับ อู้หู เข้ามหาลัยแล้วหมูหวานสวยขึ้นมาเป็นกอง จากเด็กคอนแวนต์ใสๆมัดหางม้ายาวๆ บัดนี้เลยคำว่าใสไปนานแล้ว กับชุดนักศึกษารัดติ้วและกระโปรงที่สั้นคืบนิดๆนั่น
ทำชาววิศวะน้ำลายสอกันยกใหญ่
คนที่ไม่มีเวลาน้ำลายสออย่างไอ้มิ่งรีบเดินเข้าไปหา...ท่าทางมันหนักอกหนักใจหนักแม่งทุกอย่าง หมูหวานดีใจใหญ่ที่เห็นไอ้มิ่ง ดูก็รู้ว่าเธอยังมีใจให้มันเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน แต่ไอ้มิ่งน่ะสิ...ดูอึดอัดยังไงก็ไม่รู้
“ทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่าจะมา”
“บอกแววแล้วไง วันนี้นอนหอแววด้วยนะ”
“นี่โยนะ จำโยได้มั้ย” ไอ้มิ่งเอ่ย ผมก็เลยยิ้มให้หมูหวาน
“โห นี่โยเหรอ ทำไมหล่อขึ้นแบบนี้ล่ะ!” เธอมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“เอ่อ...แหะ” ผมยิ้มแห้งๆ
“ยังไงก็อยู่กับโยก่อนนะ...พอดีต้องไปถ่ายรูปโปรโมทคณะอ่ะ” ไอ้มิ่งดูลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมรู้แล้วว่ามันเรียกผมมาทำไม...
…มึงต้องเลี้ยงชาบูกูแล้ววันหลังอ่ะ
“ไปด้วยไม่ได้เหรอ” หมูหวานส่งเสียงอ้อน “เค้าอุตส่่าห์โดดเรียนตั้งหลายตัวเพื่อที่จะมาหาเลยนะ”
“ก็...มัน...” ท่าทางไอ้มิ่งจะไม่มีทางออก “โอเค งั้นไปดูด้วยก็ได้ แต่ว่าไม่รู้จะเสร็จกี่โมงนะ”
“เตงจะพาเค้าไปหาไรทานหลังเสร็จงานด้วยใช่มั้ย!”
หมดกัน แผนเรื่องพี่คิทของไอ้มิ่ง มันมองหน้าผมเหมือนตัดสินใจลำบาก ผมได้แต่ยักไหล่ กรรมใดใครก่อนะเพื่อนนะ
“ก็...ได้...มั้ง”
“โอเค ตามนั้นเลย!” หมูหวานควงแขนไอ้มิ่งเย้ยสายตาชาววิศวะหลากหลายคู่ที่มองตรงมา ไอ้มิ่งมันเอาผมมาด้วยทำไมวะ ในเมื่อสายตาหมูหวานมีแต่มัน ผมเกาหัว มองดูเพื่อนผมที่จู่ๆแฟนเก่าก็มาหา ว่าแต่แฟนผมล่ะ ตอนนี้จะเรียนเสร็จหรือยังนะ...
ผมกดโทรออกสองสามครั้ง ติดครับ แต่ไม่มีคนรับ คงอาจจะทำแลปอยู่
“ไม่คิดว่ามึงจะมาด้วย” พี่โฟร์ทเดินเข้ามาทัก “แล้วนี่ใคร สวยจัง” เขาถามเมื่อเห็นหน้าหมูหวานที่นั่งห่างจากผมไม่เท่าไหร่ เธอเอาแต่มองไอ้มิ่ง ไม่สนใจคนอื่นๆ ณ ที่แห่งนี้เลย
“เพื่อนไอ้มิ่งครับ” ผมตอบขณะที่มองดูไอ้มิ่งกำลังถูกถ่ายรูปด้วยสตูดิโอที่โคตรแจ๋ว “แฟนเก่า...” อันนี้ผมกระซิบให้พี่โฟร์ทได้ยินคนเดียว
“โอ้โห แฟนเก่ามันสวยขนาดนี้ แล้วแฟนปัจจุบันมันจะขนาดไหน” พี่โฟร์ททิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม
หึหึ...ถ้าพี่คิทแคทตกร่องปล่องชิ้นกับไอ้มิ่งเมื่อไหร่...ผมตอบได้เลยว่าต่างกันอย่างสุดขั้ว
“เมื่อคืนเป็นไรวะ โทรศัพท์สัญญาณไม่ดีเหรอ”
เมื่อคืน...ตอนที่พี่โฟร์ทโทรมาไอ้พี่ป่ามันกำลังสนุกกับการนัวเนียผม! แต่ผมจะตอบออกไปตรงๆได้ยังไง เสียหายตายห่า
“ประมาณนั้นพี่...”
“เสียงมึงดูอื้อๆนะ”
จะบ้าตาย...เพราะพูดไปโดนจูบนั่นจูบนี่ไปจะให้ทำไง ผมเกาหัวไม่รู้จะตอบอะไรพี่โฟร์ท พี่เขาหัวเราะหึหึในลำคอก่อนที่จะพูด
“กูผิดเองแหละ โทรไปกวนมึง”
“พี่โฟร์ท...”
“รู้ทั้งรู้อยู่ แต่จะให้กูทำยังไงได้ล่ะ” พี่โฟร์ทยักไหล่ นัยน์ตาพี่เขาส่อแววเศร้าออกมาอย่างปิดไม่มิด ผมรู้สึกใจไม่ดีเลยครับ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ “ถ้ากูเป็นมัน...กูก็คงจะทำแบบมันไม่ได้แตกต่างอะไร”
“ทำ...ทำอะไรวะพี่”
“จ้องจะแดกมึงนี่ไง”
ผมสาบานได้ ขนผมลุกขึ้นชูชันไปทั่วทุกจุด...
“กูดูมึงดิ...ขาวก็ขาว...ตัวก็ผอมๆ...เอวก็คงจะคอดด้วยสินะ...เซ็กซี่ชิบ”
“กูเท่านั้นที่จะพูดแบบนั้นกับโยได้ ไอ้เหี้ยโฟร์ท”
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงผู้มาใหม่ เป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้พี่ป่า ท่าทางโกรธฟึดฟัดมาแต่ไกลพร้อมมีเรื่องได้ทุกเมื่อ
“พี่ป่า ทำไมมาถึงนี่ได้อ่ะ” ผมร้องถาม
“ทำไมต้องตกใจด้วย มีเดทกับไอ้โฟร์ทหรือไง” พี่ป่าจ้องหน้าพี่โฟร์ทเขม็ง
“ก็ต้องตกใจดิ รู้ได้ไงว่าโยอยู่นี่ โทรศัพท์ก็ไม่ได้คุยกัน”
พี่ป่าทำหน้าแปลกๆ “ถามเพื่อนโยมา...ว่าแต่เพื่อนโยนี่เป็นแบบนั้นทุกคนเลยเหรอ”
“ไปตามถึงที่คณะโยเลยเหรอ”
“เออดิ เมื่อเช้าลืมเอาโทรศัพท์มา เรียนเสร็จก็เลยบึ่งไปหา แต่แม่งไม่อยู่ มาขลุกอยู่กับไอ้โฟร์ทเนี่ย”
“น้อยๆหน่อย” พี่โฟร์ทเอ่ยปราม “ถึงกูอยากจะให้จริงแต่มันก็ไม่จริง อย่ามาพูดมาก”
“ว่าไงนะ” พี่ป่ากำหมัดแน่น ผมจับแขนพี่เขาเอาไว้แน่น ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมาท่าทางแม่งโคตรหงุดหงิด
“ใจเย็น...” ผมรีบพูด
“พี่ไว้ใจโยนะ แต่บอกแล้วไง อย่ามาห้ามให้พี่ไม่หึง มันทำไม่ได้หรอกนะ”
“อิจฉา?” ท่าทางพี่โฟร์ทจะหาเรื่องอยู่ไม่น้อย
“ไอ้เชี่ยนี่” พี่ป่าทำท่าจะพุ่งใส่
“หยุด” พี่คิทที่เพิ่งเดินมาถึงมาจับแยกพวกเขาทั้งสอง “ปกติพวกมึงถูกกันจะตายห่า นี่จะมาแตกคอกันเพราะผู้หญิง เอ๊ย ไม่สิ เพราะผู้ชายคนเดียวกันงั้นเหรอ”
“มันกวนตีน” พี่ป่าจ้องหน้าพี่โฟร์ทเขม็ง
“มันหาเรื่องโย ไม่มีเหตุผล” อีกรายก็ไม่ยอมพอกัน
“พอได้แล้วมึงสองคน บ้าพอแล้ว” พี่คิทห้ามทัพ “ใจเย็นๆ ไอ้เชี่ยป่า กูรู้ว่ามึงหึง แต่ไอ้โฟร์ทมันนิสัยดีพอที่จะไม่แทงข้างหลังมึง ส่วนโฟร์ท มึงหักห้ามใจตัวเองซะบ้าง...น้องมันคบกับเพื่อนกูแล้ว”
สิ้นเสียงพี่คิท...ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ผมที่ยืนอยู่ตรงกลางรู้สึกตัวเล็กลงเท่ามด การที่เห็นคนที่เคยสนิทกันมาทะเลาะกันเพราะผมทำผมรู้สึกแย่ๆจริงๆ แต่สิ่งที่พี่คิทพูดออกมา ผมเถียงไม่ได้เลยว่ามันไม่จริง และนั่นเป็นสิ่งที่พี่ทั้งสองควรจะทำอย่างที่สุด
ไอ้มิ่งที่ถ่ายเสร็จแล้วเดินตามมาสมทบ มันดูตะลึงที่มีคนมากมายยืนกองอยู่ที่เดียวกัน แต่ดูเหมือนมันจะอึ้งพี่คิทมากที่สุด
คนที่มันอยากไปหา...ดันมาอยู่ใกล้ๆมันซะเอง
มีคนที่ไม่สนใจเหตุการณ์บ้าๆบ๊องๆนี่ นั่นก็คือหมูหวาน
“เตง...เป็นไงบ้าง เหนื่อยป่าว นี่น้ำค่ะ” หมูหวานส่งน้ำให้ไอ้มิ่ง
และนั่นก็อยู่ในสายตาของพี่คิททุกการกระทำ...
ผมอ่านสายตามันออก มันอ่านว่า ‘ชิบหาย’
พี่ป่ากระตุกมือผมพร้อมๆกับดึงให้ผมออกไปจากเหตุชลมุนวุ่นรักของไอ้มิ่ง...ผมมองเพื่อนผมที่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พร้อมๆกับอวยพรให้มันโชคดีทางปาก...
นี่ผมก็อยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกันเหรอ มันเป็นระเบียงลับตาคนห่างจากห้องที่ไอ้มิ่งถ่ายภาพไม่เท่าไหร่ ผมยืนประจันหน้ากับพี่ป่าสองคน ไม่ใช่บรรยากาศที่ชวนหงุดหงิดอารมณ์เสียและลงเอยด้วยการทะเลาะกัน แต่เป็นการเปิดอกคุยกันมากกว่า
“นี่เราต้องมาเคลียร์กันอีกแล้วทั้งๆที่คบกันไม่กี่วันเนี่ยนะ” พี่ป่าเอามือแปะหน้าผากตัวเอง “โยดึงดูดคนอื่นหรือพี่ขี้หึงไป”
“ไม่รู้สิ” ผมพูด “พี่ป่าอ่ะ พี่โฟร์ทเค้าพูดถูกนะ โยไม่ได้อะไรกับพี่เขาสักหน่อย”
“นั่นสินะ...พี่คงจะขี้หึงไป”
“…”
“ก็ดูโยดิ...คนเข้ามาหาเยอะมากขนาดนี้จะไม่ให้พี่ไม่หึงได้ไงเล่า” พี่ป่าขยี้หัวผม “พรุ่งนี้ใส่แว่นเลย...”
“เห้ย น่าเกลียด” ผมรีบพูดสวนไป
“พี่มองโยตั้งแต่ก่อนนู้นเพราะโยใส่แว่นนะอย่าลืมสิ”
ผมเถียงไม่ออก...
“น่ารักสำหรับพี่ก็พอ ไม่ต้องน่ารักสำหรับใครอีกหรอก ตกลงมั้ย”
ไม่ทันที่ผมจะได้ตกลง ผมได้ยินเสียงคนคู่หนึ่งกำลังเดินลงมา นั่นมันเพื่อนผมกับพี่คิทนี่! ผมรีบดึงแขนพี่ป่าที่ดูงงๆมาหลบอยู่หลังตู้เก่าๆใบหนึ่ง
“อะไร” พี่ป่าไม่เข้าใจ
“แอบฟังไงพี่่ป่า เงียบๆเลยนะ”
“โยเป็นพวกชอบรู้เรื่องชาวบ้านเหรอ”
ให้ตายสิ... “พี่ป่าอยากรู้มั้ยล่ะ”
“อืม...คิทมันก็เป็นเพื่อนพี่”
สรุปแม่งก็อยากรู้พอๆกันนั่นแหละวะ...
ฟอด
จู่ๆผมก็โดนขโมยหอมแก้ม ผมทำมือจะตีพี่ป่า แต่พี่ป่ายักไหล่ไม่ใส่ใจ “ก็อยากตัวหอมเองทำไมล่ะ”
ยังจะมีอารมณ์นี้อีก...
“กูไม่มีอะไรจะพูดกับมึง” นี่คือเสียงพี่คิท โกรธหน้าดำหน้าแดงอย่างที่ผมไม่เคยมาก่อน ปกติผมเห็นพี่เขาอยู่ในสไตล์ชิวๆสบายๆ ดูเป็นผู้ใหญ่มีเหตุมีผล แต่นี่มันเกินคาดไปหน่อยแฮะ
“แต่ผมมีนี่” เพื่อนผมพูดตอบ สายตามันดูก็รู้ว่าแคร์คนตรงหน้ามันขนาดไหน “พี่คิท...” มันเอื้อมมือไปจับแขนพี่คิท
และมันก็โดนพี่เขาสะบัดแขนใส่อย่างไม่ใยดี
แม่งฮาร์ดคอสัด ผมนี่อ้าปากค้าง พี่่ป่าที่ฟังแต่เสียงอยู่ข้างๆและคอยเอาแต่มองผมเอื้อมมือมาดีดปากล่างของผมเล่น...ให้ตาย มันใช่เวลามั้ย!
“ปล่อยกู...” พี่คิทตอบ
“พี่จะไปไหน”
“กูรีบ”
“ไปหาพี่บีมเหรอ”
พี่คิทเงียบ...คำพูดนี้ทำให้พี่ป่าสนใจพอที่จะหยุดเล่นปากล่างของผมได้
“อืม”
เสียงรับคำของพี่คิททำเอาไอ้มิ่งหน้าเสียไปเลย
เวรแล้วไง...เพื่อนกู
“ตกลง...มันจริงใช่มั้ย ที่พี่บีมพูด พวกพี่สองคน...ตกลงคบกัน”
ผมเห็นหน้าพี่คิทไม่ชัด แต่ผมเห็นหน้าเพื่อนผมชัดเจน พี่คิทหันหลังให้ไอ้มิ่ง เพราะงั้นผมถึงไม่รู้ว่าตอนที่พี่เขาพูด พี่เขาทำหน้ายังไง
“อืม...”
เสียงนั้นดังพอๆกับฟ้าผ่าสำหรับไอ้มิ่ง
“รู้แล้วก็เลิกยุ่งกับกูซะ”
ผมทึ้งหัวตัวเอง...พี่คิทเดินหนีจากไอ้มิ่ง ทิ้งให้ไอ้หล่อตัวสูงยืนไม่ค่อยมีแรงอยู่ด้านหลัง
“ไปหาแฟนลูกระนาดของมึงโน่น”
พี่่ป่าถอนหายใจ...จับแขนผมราวกับรู้ว่าผมรู้สึกยังไง ผมมองไอ้มิ่งอย่างเป็นห่วง โผล่ออกไปตอนนี้ไม่รู้ว่าจะกลายเป็น้ซ้ำเติมมันรึเปล่าเพราะผมแอบฟังเต็มๆ
ไม่รู้ว่าสาสมมากพอหรือยัง สำหรับบาปกรรมที่มันเคยทำ...
แต่ตอนนี้ผมสงสารเพื่อนผมจับใจ...
“ก็มันเลิกยุ่งไม่ได้...จะให้ทำไงวะ”
TBC*
Talk : สวัสดีปีใหม่ 2558 นะคะ : )