โรงที่3 B10-11 วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่มีงานค้างสต็อก ไม่มีรายงานต้องเร่งส่ง ไม่มีโปรเจคกลุ่มให้ปวดหัว เป็นวันหยุดที่เหมาะแก่การพักผ่อนที่สุดในระยะเดือนกว่าๆที่ผ่านมา
หลังจากเมื่อวานผมใช้เวลาทั้งวันไปกับการนอนหลับกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างสบายอารมณ์ ชนิดที่ไม่อาบน้ำอาบท่า ตื่นมาแปรงฟันกินข้าวล้มตัวลงนอน แล้วคว้าขนมสักห่อมากิน ก่อนจะเปิดเพลงฟัง แล้วหลับตาด่ำดิ่งสู่ห้วงนิทรารมย์ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
วันนี้เลยลากสังขารตัวเองออกมาเดินห้างไล่ขนตามตัวที่ขึ้นมาจนอุยเพราะความขี้เกียจ คิดๆแล้วก็เดินขึ้นชั้นบนไปดูว่ามีหนังอะไรน่าชมบ้าง...ไม่ได้ดูมาหลายเดือนแล้ว
หืมม...หนังเข้าเยอะเหมือนกันนะ
หนังรัก...ไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่
หนังบู๊...เสียงก็ดังเกินไป
หนังผี...ขี้เกียจตกใจ
อ๊ะ! มีโดเรม่อนด้วย?! ดูโดเรม่อนก็ได้
RrrrRrrrr
RRrrrrrrr ระหว่างที่กำลังตัดสินใจเลือกหนังอยู่นั้น โทรศัพท์ที่ผมไม่เคยเปิดเสียงเลยตั้งแต่ใช้มาก็สั่นขึ้นในกระเป๋ากางเกง พอหยิบขึ้นดูก็ปรากฏชื่อเพื่อนสนิทหราเต็มหน้าจอ
“อือ ว่าไง”
[อยู่ไหนอ่ะมึง คืนนี้ข้าวสารเปล่า]
“อยู่ห้าง มาดูหนัง”
[คนเดียวเหรอวะ?]
“อื้อ”
ผมตอบรับไปแล้วเขยิบออกจากหน้าจอแสดงรอบหนัง เมื่อรู้สึกว่ามีคนยืนซ้อนหลังผมอยู่นานแล้ว
[เปลี่ยวสาด ตกลงคืนนี้ว่าไง]
“งือ เดี๋ยวดูเสร็จโทรหา”
[โอเค จะรอนะจ๊ะ]
ปลายสายว่าแล้ววางสายไปอย่างรวดเร็ว ผมเหลือบมองไปด้านหลังแล้วก็ไม่เจอใคร...
พอเลิกสนใจแล้วหันไปมองที่ซื้อตั๋วก็ต้องเบะปาก...คนเยอะอ่ะ!
ผมยืนต่อแถวจนเกือบจะถึงคิว ระหว่างนั้นก็เหลือบมองช่องซื้อตั๋วด้านในริมสุดที่มีป้ายเชิญใช้บริการช่องอื่นวางขวางไว้อยู่ ทั้งยังไม่มีพนักงานประจำตำแหน่งด้านใน
คนเยอะแบบนี้ยังจะอู้อีก...ไม่ไหวๆ
วันนี้วันหยุดคนเลยเยอะล่ะมั้ง มองหน้ามองหลังมองซ้ายมองขวาก็เจอแต่คนมาเป็นคู่ๆ ไม่ก็กลุ่มเพื่อนเยอะๆ คงไม่มีใครมาดูหนังคนเดียวเหมือนผมแล้วสิ?
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องกวนใจผมสักเท่าไหร่ ผมไม่ค่อยได้ดูหนัง เพราะเรียนหนัก เวลาหมดงานที่ไรไม่หลับเป็นตายอยู่บ้านก็ไปนั่งชิวอยู่ร้านเหล้ากับเพื่อนที่มหาลัยหรือเพื่อนเก่าตามประสาหนุ่มโสดไร้ห่วงผูกคอ เพราะฉะนั้นหากวันไหนที่นึกครึ้มอยากเข้าโรงหนังขึ้นมา การซื้อตั๋วแค่ใบเดียวมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าเขินอะไรนัก
อ๊ะ...ถึงคิวผมแล้ว
โชคดีชะมัดที่พอคนด้านหน้าก้าวออกจากแถวไปเพราะถึงคิว ไอ้ช่องที่เว้นว่างอยู่เมื่อครู่ก็มีคนมาหยิบป้ายออกแล้วยกมือเรียกผมให้เดินเข้าไป เลิกอู้แล้วสิ...ค่อยดีหน่อย
หืม...หน้าพนักงานที่นี่ยังเด็กอยู่เลยนะ
“โดเรม่อนที่นึงครับ”
นี่ผมคิดไปเองไหมเนี่ยว่าไอ้พนักงานนี่มันยิ้มมุมปาก...ดูการ์ตูนมันน่าขำตรงไหนวะ?
“เลือกที่นั่งเลยครับ”
ผมกวาดตามองรอบจอแล้วก็เลิกคิ้ว...คนน้อยชะมัด เดี๋ยวนี้โดเรม่อนมันไม่ฮิตแล้วเหรอ?
“อืม...ตรงนี้แล้วกัน B10”
“ครับ”
มันก็เป็นไปตามกระบวนการ ผมกำลังจะควักเงินจากกระเป๋าตังค์ส่งให้ไปตามขั้นตอน และก็น่าจะจบลงตรงที่รับตั๋วพร้อมเงินทอนแล้วเดินออกมาแต่โดยดี ถ้าไม่ใช่เพราะ...
ไอ้พนักงานนั่นมันกดเลือก B10-11 2ที่!! เพื่อ?! กูมาคนเดียว มึงเห็นใครข้างหลังกูเหรอ??? “เฮ้ย ผมจองที่เดียว แค่B10ครับ”
อีกฝ่ายเงยหน้ามองเลิกคิ้วเหมือนไม่เข้าใจในคำพูดของผม แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากอธิบายในสิ่งที่ไม่น่าจะต้องย้ำคำ ผมเองเป็นฝ่ายที่ต้องนิ่งไปเพราะความงุนงงเหมือนโดนหมัดฮุกเข้าเสียก่อน
“อ๋อ...ผมจะดูด้วยครับ” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยถ้อยคำสบายๆมาพร้อมมือที่ยื่นมารับเงินจากผมไปพลางหยิบเงินจากกระเป๋าตังค์ของตัวเองใส่เพิ่มตามไปด้วย...
“เอ้อ...โรงที่3นะครับ”
ในขณะที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตกอยู่นั้น รอยยิ้มที่ถูกส่งมาจากคนตรงหน้าพร้อมตั๋วหนัง1ใบเล่นทำเอาผมสะดุ้งโหยง หน้าร้อนวาบแปลกๆ
คิดถูกคิดผิดที่มาดูหนังคนเดียววันนี้เนี่ย?! เหมือนว่าตั้งแต่วินาทีนี้จะมีอะไรประหลาดๆเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเสียแล้ว E N D แหะ เรื่องสั้นตอนเดียวจบที่สั้นมากๆๆๆ เผอิญแต่งตอนนั่งรอตรวจงานชิวๆ
หวังว่าจะทำให้คนอ่านยิ้มอย่างงุนงง (ว่ามันจบแล้วเหรอ?!) ฮ่าๆๆๆ
เรื่องของเรื่องคือได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนที่ชอบดูหนังคนเดียว ><
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
