ตอนที่25
หลังจากนั้นอีก1อาทิตย์น้องจีก็ไปโรงเรียน วันแรกของการเข้าเรียนทั้งผมและพี่ทอสไปส่งถึงหน้าประตูห้อง มีเด็กมากมายที่มีผู้ปกครองมาส่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมไม่เห็นความเศร้าในแววตาของน้องจีเลย
“น้องจีตั้งใจเรียนอย่าเกเรและก็ต้องเชื่อฟังคุณครูนะครับ”ผมบอกลูกชายตัวเล็กที่สวมใส่ชุดเอี๊ยมสีเหลืองสดข้างกายของเจ้าตัวมีเด็กชายน่ารักในชุดแบบเดียวกันยืนอยู่ข้างๆ
“ฮะ”น้องจีรับคำก่อนจะมองไปทั่วทุกมุมอย่างสนใจ
“น้องกันต์ครับครูฝากดูน้องจีด้วยนะครับ”ผมหันไปพูดกับน้องกันต์ที่โดนน้องจีดึงมือยึดไว้ไม่ให้ไปไหน
“คับ”น้องกันต์รับปากก่อนจะยิ้มกว้าง หลังจากที่นั้นผมก็ไปทำงานกับพี่ทอส เพราะน้องจีไม่อยู่บ้านผมเองก็เลยแทบไม่มีอะไรทำเลยขอพี่ทอสมาช่วยงานที่โรงแรม แต่พอมาถึงผมกับต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพี่ทอสเฉยๆส่วนพี่ทอสก็ไปประชุม
ผมนั่งอ่านเอกสารโน้นนี่ไปมาเพราะเลขาเอามาวางไว้ให้พี่ทอสเซ็นผมเลยอาสาอ่านตรวจสอบให้ก่อนพอพี่ทอสมาจะได้เซ็นเลย
“คุณเอฟผมยาวไวจังค่ะ”คุณปรางเป็นเลขาของพี่ทอสทักขึ้นเมื่อเอาน้ำองุ่นมาให้ผมตามที่พี่ทอสสั่งไว้
“นั้นซิว่าจะไปตัดอยู่ครับแต่ยังไม่ค่อยมีเวลา”ผมบอกยิ้มๆ
“อย่าตัดเลยค่ะไว้แบบนี้สวยดี เหมือนสาวเกาหลีเลยค่ะ ยิ่งช่วงท้องผิวพรรณยิ่งดู เปร่งปรั่ง”เธอว่าชม ส่วนผมได้แต่ยิ้มรับนิดๆจากนั้นเธอก็ขอตัวไปทำงาน คุณปรางเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้ว่าผมท้อง จะว่าไปนี่ก็เข้าเดือนที่5 แล้วท้องผมนับวันก็ยิ่งใหญ่ขึ้น ใหญ่กว่าตอนท้องน้องจีอีก เพราะแบบนั้นตอนนี้ผมเลยแทบไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเท่าไหร่นักเพราะเริ่มมีคนมอง ยังไงเรื่องผู้ชายท้องได้ก็ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับใครหลายคนหรือแทบจะทุกคนและผมยังไม่อยากให้อะไรมันวุ่นวายตอนนี้
ช่วงนี้ผมจึงมักใส่วิกไปหนมาไหนเพราะผมต้องใส่ชุดคุมท้องการที่ผู้ชายใส่ชุดคุมท้องไปไหนมาไหนคงไม่เหมาะเท่าไหร่หรอกจริงไหมครับ แต่พอผมเริ่มยาวผมก็ไม่ได้ใส่วิกแล้ว ตอนแรกพี่ทอสก็บ่นว่าจะใส่ทำไมใครจะมองก็มองไปทำไมต้องสนใจ เรียกได้ว่าฉุนอยู่พักใหญ่ๆเลยครับ แต่ผมก็พยายามไม่ทำตัวให้ดูเป็นผู้ชายมากนักก็เลยพอกลบเกลื่อนไปได้บ้างต้องขอบคุณคุณแม่ที่ให้หน้าตาผมคล้ายท่านมากกว่าคุณพ่อไม่งั้นคงตลกหน้าดู
ชุดคลุมท้องที่ผมใส่ก็ไม่ใช้ชุดกระโปรงอะไรหรอกครับเพียงแค่เสื้อมันตัวใหญ่แล้วทรงก็คล้ายๆผู้หญิงแต่ผมก็ยังคงใส่กางเกงอยู่เพราะถ้าให้ใส่กระโปรงผมคงไม่ไหวแน่นๆ
ตลอดทั้งอาทิตย์กิจกรรมผมก็ไม่มีอะไรมากครับตื่นมาก็มาส่งน้องจีเสร็จก็มาอยู่กับพี่ทอสเย็นก็ไปรับน้องจีกลับบ้าน ส่วนงานบ้านตอนนี้พี่ทอสจ้างแม่บ้านมาดูแลแทบทุกอย่างแต่ก็ยังคงไปกลับๆอยู่เพราะพี่ทอสหวงความเป็นส่วนตัวมากๆ
ดูเหมือนชีวิตผมจะสงบจนเกินไปเพียงอีกอาทิตย์ต่อมาผมก็ถูกเรียกไปพบที่โรงเรียนของน้องจี เนื่องจากเจ้าตัวเล็กไปต่อยเพื่อนอีกห้องจนปากแตก
“เชิญคุณเอฟนั่งรอก่อนนะค่ะ”เลขานุการหน้าห้องเชิญผมนั่งรอทันทีที่มาถึงเพราะอีกฝ่ายยังไม่มา
“ครับ”ผมนั่งอย่างลำบากเพราะท้องผมมันใหญ่ขึ้นอีก
“แม่ใส่วิกทำไม”น้องจีที่นั่งหน้าบูดถาม วันนี้ผมใส่วิกมาครับเพราะอะไรหลายๆอย่าง ผมไม่อยากอธิบาย
“เงียบเลยเราน่ะ แม่ให้มาเรียนกำชับแล้วกำชับอีก นี่แค่2อาทิตย์เองหนูต่อยเพื่อนปากแตกแล้ว”ผมว่าน้องจีนั่งหน้างอยิ่งกว่าเดิมก็จะโกลับมาว่า
“มันไม่ใช่เพื่อน”ผมนี่ตาโตเลยครับเพราะน้องจีใช้คำพูดไม่สุภาพ
“ไปจำมาจากไหน หนูจะเรียกคนอื่นว่ามันไม่ได้นะครับ”ผมพยายามใจเย็น
“ทีมัน เอ้ย ทีตามยังเรียกน้องจีว่ามันเลย”หัวผมหมุนเลยครับบอกตรงๆ
“ไม่ได้นะครับ ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีแล้วหนูทำตามทุกอย่างอย่างนี้ก็แย่น่ะซิ”ผมพยายามสอน แต่ดูเหมือนน้องจีจะไม่ยินดีฟังพอคู่กรณีที่มีฝาปิดแก้มอันใหญ่เดินมาเจ้าตัวก็ทำท่าขู่ทันที
“ต๊าย เด็กอะไรเกเร”คุณแม่ของเด็กคนนั้นว่าก่อนที่ลูกชายเขาจะเดินไปกอดแม่แล้วเริ่มฟ้อง
“ใช่คับ คุณแม่ตามเรียนกับคนเกเรไม่ได้หรอกนะคับ เดี๋ยวตามเกเรตาม”เอาตรงๆเลยนะครับ ถึงผมจะรู้ว่าลูกผมผิดแต่พอได้ยินแบบนี้คิ้วก็เริ่มกระตุกเหมือนกัน
“ใครเขาอยากเรียนด้วย ทุกวันนี้อย่างกับตัวเองมีเพื่อนแหละ”น้องจีกอดอกเชิดหน้าว่าอย่างจริงจัง
และก่อนที่เรื่องราวมันจะบานปลายไปมากกว่านี้ ครูใหญ่ก็มาเชิญเข้าห้อง หลังจากนั้นก็ให้ดูเทปกล้องวงจรปิดจริงๆก็ไม่มีอะไรมากครับก็แค่เด็กอนุบาลทะเลาะกัน ในภาพเหมือนน้องกันต์กำลังถือดอกไม้อะไรสักอย่างพอเดินพามาน้องตามคู่กรณีก็เข้าไปแย่งตามภาษาเด็กกำลังซนน้องจีที่เดินตามมาที่หลังเห็นก็ตรงเข้าไปแย่งดองไม้คืนแต่ดอกไม้ก็แค่ของที่เปาะบางไม่ทันไรดอกก็ร่วงน้องจีก็เลยต่อยเข้าที่หน้าน้องตามทันทีจากนั้นก็ตะรุมบอลกันสักพักครูก็เข้ามาแยก ส่วนน้องกันต์ยืนตกใจอยู่ แต่ที่หน้าแปลกคือทำไมลงไปนอนคลุกกันขนาดนั้นแต่น้องจีกับไม่มีแผลเลย
ครูใหญ่ก็พูดดีมากครับไม่ได้ตั้งใจจะให้เอาผิดกันแต่แค่อยากให้พ่อแม่รับรู้พฤติกรรมซึ่งจะส่งผลต่อไปในอนาคตจากพื้นฐานนิสัย น้องตามไม่ใช่เด็กไม่ดีแต่แค่ไม่รู้วิธีเข้ากับคนอื่น ครูจึงต้องขอปรับเปลี่ยนการสอนโดนย้ายน้องตามไปห้องเรียนที่เน้นเรื่องและทำกิจกรรมเป็นกลุ่มเพื่อให้น้องรู้จักเข้าหาคนและต้องเข้าชั้นเรียนศาสนาเพิ่มอาทิตย์ล่ะ3วัน ส่วนน้องจีครูบอกว่าโดยพื้นฐานเป็นเด็กดีที่รักความยุติธรรมแต่เป็นเด็กขี้หวงและยังใจร้อน ถ้าไม่เริ่มทำอะไรตอนนี้ต่อไปน้องจีอาจจะกลายเป็นเด็กก้าวร้าว แต่ด้วยเป็นเด็กที่มีนิสัยที่ค่อนข้างดีแต่ไม่ค่อยคิดวิธีแก้ปัญหาและยังไม่สนใจเหตุผลน้องจีจึงต้องเข้าเรียนศาสนาเหมือนกันและยังต้องฝึกเล่นดนตรีและกีฬาด้วย ครูบอกว่าดนตรีจะทำให้เด็กรักความสงบเป็นเครื่องมือกล่อมเกาอารมณ์อย่างดีและกีฬาจะช่วยให้น้องจีใช้เหตุผลและรู้จักเห็นใจผู้อื่น
ซึ่งผมเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าค่าเทอมคุ่มค่ามากกับการเอาใจใส่เด็กแต่ละคนอย่างคงทั่วถึง แถมโปรแกรมการสอนของเด็กแต่ละคนจะถูกคิดให้เข้ากับเด็กคนนั้นแต่จะเน้นที่สัญชาติญาณหรือพื้นฐานจิตใจของเด็กแต่ละคนซึ่งผมว่าคุ่มมากๆกับค่าเทอม
ที่นี่อาจารย์ทุกคนจะต้องไปเรียนหลักจิตวิทยาเพิ่มกันทุกคนและต้องเข้าอบรมความรู้ใหม่ๆทุกๆ2เดือน เพื่อเลือกวิธีการสอนให้เด็กแต่ละคนเพื่อที่เด็กจะมีพื้นฐานที่ดีที่สุด
แต่ทั้งนั้นพ่อแม่ก็เป็นส่วนสำคัญที่สุดจึงต้องแจ้งให้พ่อแม่ทราบถึงวิธีการสอนเพื่อสงเสริมและยอมรับในเนื้อแท้ของเด็กแต่ละคน ไม่ใช่ให้เขาอย่างที่เราอยากให้เป็น แต่ให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาเป็นได้
ผมกับคุณแม่น้องตามก็ต่างขอโทษกันเพราะไม่ว่ายังไงก็ผิดทั้งคู่และแยกย้ายกันไปคุยรายละเอียดการสอนของลูกตัวเองตามผู้เชี่ยวชาญของแต่ละคน เหมือนส่งลูกเข้าศูนย์วิจัยเลยครับ ทุกอย่างที่เขาบอกทั้งแผนการสอนทั้งหมดอธิบายออกมาได้อย่างดีและจริงอย่างที่น้องจีเป็น นับว่าเป็นโรงเรียนที่ดีมากๆครับถ้าทุกโรงเรียนในประเทศเป็นแบบนี้ผมว่าเด็กที่พื้นฐานอัจฉริยะคงเป็นกำลังที่สำคัญของชาติแน่น ขนาดอนุบาลนะครับยังดูแลขนาดนี้เห็นดีประถมก็คงต้องเรียนที่นี่อีกแน่น
หลังจากนั้นผมก็พาน้องจีกลับด้วยเลยครับเพราะจะไปเล่าให้พี่ทอสฟังด้วย ช่วงนี้พี่ทอสสั่งคนที่โรงแรมมาเป็นคนคอยขับรถรับส่ง ตอนนี้ผมจึงต้องนั่งรถตู้ของโรงแรมไปไหนมาไหนตลอด
แต่ตอนที่กำลังจะเดินออกมาขึ้นรถก็เห็นน้องกันต์ยืนมองตาแป๋วผมก็เลยลังเลอยู่สักพักเลยโทรไปบอกคุณหมอว่าขอพาน้องกันต์โดดเรียนหนึ่งวันเพราะเรื่องที่เกิดเมื่อวานก็ทำเอาน้องกันต์แทบไม่มีใครอยากเข้าใกล้ไม่ใช่กลัวน้องกันต์แต่กลัวน้องจีตังหาก ไม่รู้ว่าต่อไปน้องกันต์ต้องลำบากอีกแค่ไหนถ้าน้องจียังเป็นแบบนี้
“น้องกันต์เดี๋ยวคืนนี้นอนกับน้องจีไหมครับครูโทษขอคุณพ่อให้
“คับ”น้องกันพยักหน้ารัวๆรับคำทันทีผมจึงโทรไปขอคุณหมอเพราะยังไงพรุ่งนี้ก็วันเสาร์น้องกันต์ก็ต้องมาเล่นที่บ้านอยู่แล้ว ตอน
นี้คุณหมอขึ้นแท่นบริหารโรงพยาบาลเองแล้วครับเพราะคุณพ่อของคุณหมออายุมากแล้วจึงขอตัวไปเป็นอาจารย์สอนที่มหาลัย
แพทย์แทน คุณหมอเลยค่อนข้างยุ่งและก็บนว่ากลัวน้องกันต์เหงาจึงมักให้น้องกันต์มาค้างที่บ้านบ่อยๆ น้องเกรวที่เพิ่งสอบติดหมอก็เรียนหนักเพราะต้องปรับพื้นฐานอีกมากซึ่งก็ได้ครูส่วนตัวอย่างคุณหมอนนต์นี่แหละครับที่ค่อยช่วยติวอย่างใกล้ชิด
“เป็นไงไอ้ตัวแสบ”พี่ทอสที่ลงมารอรับเดินเข้ามาขยี้หัวน้องจีอย่างหมั้นเขี้ยว น้องกันต์ที่ตามลงมาก็ยกมือไหว้อย่างมือมารยาทเหมือนเคย
“สุดๆเลยครับเล่นเอาฝั่งโน้นแก้มบวมฉึ่งเลย”ผมก็ว่าอย่างอดไม่ได้ตัวก็แค่นี้ทำไมมีแรงเยอะขนาดนั้น
“หึหึ”แต่ดูเหมือนพี่ทอสจะชอบใจมากกว่าไม่พอใจซะอีก”เหนื่อยไหม”หลังจากที่ให้น้องจีและน้องกันต์วิ่งเข้าไปที่ตัวโรงแรมพี่ทอสก็เดินเข้ามาหาผมพร้อมจัดวิกผมของผมให้เข้าที่ ถึงผมจะพยายามแต่งหญิงแต่ผมก็ไม่ได้แต่งหน้าอะไรหรอกนะครับถ้ามานั่งจ้องดีๆก็คงรู้ว่าผมเป็นผู้ชายแต่ถ้ามองเพลินอาจดูไม่เหมือนผู้ชายเท่าไหร่จึงพอกลบเกลื่อนได้บ้าง
“ถ้าร่างกายไม่เป็นไหรครับแต่ถ้าในเนี้ยเยอะเลย น้องจีต้องเริ่มเรื่อนพัฒนานิสัยเยอะเลยต้องเล่นกีฬากับดนตรีด้วย”ผมว่าพร้อมเดินเข้าตัวโรงแรมโดยมีพี่ทอสโอบเอวประคองเดิน ช่วงนี้ถ้าเดินด้วยกันพี่ทอสจะทำแบบนี้ตลอดครับซึ่งผมดีใจกับความเอาใจใส่ของพี่ทอสมาก
“ก็ดีแล้วนี่”พี่ทอสว่ายิ้มๆก่อนจะเดินพาผมและน้องจีน้องกันต์เข้าตัวพัทคานของโงแรมและเข้าไปนั่งห้องvipทันที
“แล้วต้นเหตุคือ?”พี่ที่พาผมนั่งเรียบร้อยแล้ว
“ก็เดิมๆครับ”ผมว่าพร้อมมองไปที่น้องกันต์ที่นั่งข้างๆน้องจีโดยมีพนักงานหญิงกำลังจัดอาหารให้
“หึหึ”พี่ทอสก็พยักหน้าเข้าใจเพราะเริ่มคุ้นเคยแล้ว
หลังจากทานอาหารเสร็จน้องจีกับน้องกันก็ไปว่ายน้ำโดยมีพนักงานโรงแรม3คนดูแลอย่างใกล้ชิดส่วนผมที่เดินไปมาทั้งเช้าก็เริ่มเพลียจึงขึ้นมานอนพัก
“น้องที แม่พักหน่อยนะครับ “ลูบท้องสองสามครั้งแล้วผมก็หลับไป
รูปถ่ายของคนที่ได้ชื่อว่าภรรยาของลูกชายที่สวมใส่วิกผมและไม่ใส่ในอริยะบถต่างๆถูกส่งมาแทบจะทุกสัปดาห์ใช่ชายผู้ที่มีเป็นพ่อเพื่อรายงานเรื่องเหลือเชื่อที่ตลอดชีวิตของเขานั้นไม่หน้าเป็นไปได้ไปรับรองแพทย์และเอกสารมากมายบงบอกว่าผู้ชายที่ลูกเขาเก็บมาเป็นเมียนั้นกำลังตั้งท้องหลานคนที่สอง ท้องถึงสองครั้งทั้งๆที่เป็นผู้ชาย
“ขนาดนี้คุณพ่อยังไม่เชื่ออีกหรอครับ”ลูกชายวัน30เอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเอกสารเดิมถูกส่งมาแทบจะทุกอาทิตย์ แต่คนเป็นพ่อกลับไม่เคยเชื่อเอกสารพวกนั้นเลย
“...”ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงเกาอี้ที่หมุนตัวและหันหลังเป็นเชิงไล่ให้เขาต้องออกจากห้องไปอย่างช่วยไม่ได้เมื่อ2วันก่อนเขาถูกเรียกให้มาอังกฤษกะทันหัน เพราะคุณแม่โทรมาร้องไห้เรื่องน้องชายตัวดีที่ตอนนี้ปีกกล้าขาแข็งเดินหน้าสร้างตัวโดยไม่สนใจพ่อแม่เลยสักนิด
แต่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา เพราะรู้อยู่แล้วรู้ตั้งแต่ตอนยังเด็กว่าน้องชายที่เอาแต่เงียบและไม่เคยบ่นอะไรไม่ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรที่ไม่ชอบและต้องโยนสิ่งที่ชอบทิ้งไปก็ทำแค่ก้มหน้ารับคำและทำตามอย่างว่าง่ายนั้นสักวันคนจะระเบิดความอดทนออกมา แต่ที่เขาสนใจคือ ภรรยาที่ไม่รู้จู่ๆโผล่มาจากไหนตังหากที่สำคัญยังมีหลานน่ารักที่โตป่านนี้และไหนจะในท้องอีกคน และที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าคือแม่ของเด็กดันเป็นเพศเดียวกับเขา ถ้าจะให้บอกนี่เป็นครั้งแรกที่ที่สิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดเกิดขึ้นตรงหน้า
“หน้าสนุกดีออก แล้วเจอกันนะไอ้น้องชาย”ภาพถ่ายใบพอเหมาะถูกยัดเก็บในลิ้นชักโต๊ะทำงานอย่างหมดประโยชน์
“จองตั๋วเครื่องบินกลับไทย เอาพรุ่งนี้เลย”เมื่อสิ้นเสียงสั่งเลขาส่วนตัวเอาก็ทำแค่เปิดแอพพิเคชั่นสุกฮิตระดับโลกพร้อมขอความสั้นๆเป็นภาษาสากล Comeback To Thailand. ‘ see you’
TBC.
ชีวิตวุ่นวายสุดๆ ช่วงนี้อาจจะลงช้าหน่อยนะจนกว่าจะพ้นเดือนเมษาคาดว่าทุกอย่างหน้าจะดีขึ้น