ตอนที่12
เรื่องคืนนั้นจบลงด้วยผมที่ไล่ทุบพ่อของน้องจีทั่วบ้าน น้องจีเองทีแรกก็ทำหน้าจริงจังเรื่องน้อง พอเห็นผมไล่ตีคุณพ่อ ก็อยากทำบ้างก็เลยวิ่งไล่คุณพ่อบ้าง สักพักตัวเองกลับถูกไล่กลับ ร้องไห้วิ่งมาหลบหลังผมอีก กว่าจะนอนกันได้ก็ปาไปครึ่งคืน ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ น้องจีเริ่มนอนดึกขึ้นทุกวัน แต่ถึงแบบนั้นเช้าวันเสาร์แบบนี้เจ้าตัวก็ยังตื่นเร็วกว่าคนเป็นพ่ออีกเช่นเคยน้องจีไม่รอช้าล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็รีบวิ่งลงมาจากชั้น2ของบ้านทันที
“หิว”
“นี่คุณล้างหน้าแปรงฟันแล้วหรือยัง จะกินน่ะ”
“ผมไม่ใช่ลูกนะ ล้างแล้ว”ไอ้ท่าทีงอนเป็นตุ๊ดเนี่ยน้องจีสอนมาหรือยังไง
ผมก็หันมาทำอาหารเช้าต่อ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ต้องรีบทำ ผมเลยสามารถทำอาหารหนักๆได้แต่เช้า ปล่อยให้สองพ่อลูกนั่งดูทีวีไป
จะว่าไปบรรยากาศแบบนี้มัน เอ่อ พ่อแม่ลูก เลยนี่น่า นี่ผมคุ้นชินบรรยากาศแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“เรื่องโรงเรียนของน้องจี คุณว่าไง”ผมถามทันทีที่นั่งลงที่โต๊ะกินข้าว โดยมีพ่อของน้องจีนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และน้องจีที่ในมือมีซ้อมของเด็กที่ปลายมีไส้กรอกรูปปลาหมึกเสียบอยู่ แต่ตาเจ้าตัวกลับจ้องมองไปที่ทีวีจอใหญ่ไม่ว่างตา
“น้องจีกินข้าวก่อน”ผมว่าพร้อมตักใข่เจียวใส่ในถ้วยข้าวของน้องจี
“จีกินข้าว”ทั้งๆที่ผมพูดด้วยกลับไม่ยอมฟัง แต่พ่อคุณพ่อกดเสียงลงต่ำ กลับหันมากินอย่างไว
“ว่าไงละ”ผมเริ่มเข้าเรื่องต่อ
“จริงๆก็ยังไม่ต้องรีบก็ได้ ยังไงลูกก็เพิ่ม3ขวบแล้วนี่มันก็เทอมสองแล้ว รอส่งเข้าอนุบาล1เลยทีเดียวดีกว่า ระหว่างนี้ก็ให้เขาเรียนรู้สถานที่ใหม่ๆก่อน”เขาว่าอย่างมีเหตุผล ผมพยักหน้าเห็นด้วยเพราะเข้าตอนนี้ก็ครึ่งกลางๆคงจะไม่ทันอะไร ยังไงผมเองก็ว่างๆอยู่บ้าน ถ้าลูกไปเรียนผมก็คงเหงาเหมือนกัน
“พ่อฮะๆ น้องจีอยากไปที่นั้น”น้องจีร้องเรียกคุณพ่อด้วยความกระตือรือร้นเราสองคนหันไปมองที่ทีวีพร้อมกัน
“สวนน้ำ?”
“ฮะ”น้องจีมองหน้าอย่างมีความหวัง
ภาพที่ฉายในจอทีวีคือภาพของสวนน้ำแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแถบชานเมืองมีตุ๊กตาและเครื่องเล่นมากมาย
“ได้ซิ”เขาพูดพร้อมกับลูบหัวน้องจีไปมา
“เย่เย้ จีรักพ่อที่สูดดดดเยยยยย”
“พอได้อะไรเข้าหน่อย ก็รักอย่างโน้นอย่างนี้ ทีเมื่อคืนวิ่งมาหลบหลังเชียว”ผมว่าเขวะ แต่ดูเหมือนน้องจีจะไม่เข้าใจเพราะยังคงก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ มีแต่คนเป็นพ่อที่ส่งสายตาเหยาะเย้ยมาให้ผมแทน
“แวะซื้อชุดว่ายน้ำให้น้องจีก่อนนะ”ผมบอกในขนาดที่เรากำลังจะขับรถตรงไปยังสวนน้ำที่น้องจีเห็นเมื่อเช้า
“ที่โน้นเขาก็มีขาย”คนพ่อว่า น้องจีที่นั่งตักมองหน้าผมและพ่อของเขาสลับไปมา
“ที่โน้นมันแพง”จริงๆครับสถานที่ที่เป็นแบบนั้นชุดว่ายน้ำยิ่งแพงเข้าไปใหญ่
“แม่หนูนี่นะ ขี้งกจริงๆ”เขาหันมาพูดกับน้องจี แต่ก็ยอมเลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้า
“คุณแม่น้องจีอย่างได้สีชมพู น้องจีว่าพร้อมกับเดินไปที่หุ่นเด็กที่สวมใส่กางเกงว่ายน้ำสีชมพูสะท้อนแสงมีลายหมีคุมะอยู่กลางตัว
“ได้ครับ”ผมบอกพร้อมกับมองหาพนักงาน
“ไม่ได้ ลูกเป็นผู้ชายจะให้ใส่สีแบบนี้ได้ยังไง”คนเป็นพ่อรีบเข้ามาห้าม น้องจีมองหน้าอย่างเริ่มสงสัย
“ทำไมฮะ”
“สีนี้เป็นสีของผู้หญิง ผู้ชายที่ดีเขาไม่ใส่กันนะครับ”คนเป็นพ่ออธิบาย
“แต่เด็กคนนั้นใส่”น้องจีชี้ไปยังเด็กผู้ชายอีกคนที่กำลังลองชุดว่ายน้ำอยู่ในห้องลองชุด จะว่าเด็กก็ไม่ใช่เพราะดูแล้วคงอายุมากกว่าน้องจี5-6ปีเห็นจะได้
“ตัวเองไม่เด็กเลย”ผมแซว
“จีโตแล้ว ปกป้องแม่ได้ด้วย”น้องจีกอดอกเชิดหน้าหลับตาอย่างภูมิใจ
“หรอออออ”ผมว่าขำๆ
“เอาตัวนี้ไหมค่ะสีฟ้า ผู้ชายใส่ได้ด้วย ทำจากฝ้าย100%ไม่ละคายเคืองด้วย”พนักงานสาวเดินมาแนะนำ
“มีไซส์เด็กสามขวบไหมครับ”ผมถาม มีค่ะ เชิญคุณพ่อด้านนี้ค่ะ
“ไม่ใช่คุณพ่อซะหน่อย นั้นแม่น้องจีนะ!”น้องจีตะโกนขึ้นมาอย่างเสียมารยาท
“น้องจี!”ผมหันไปเอ็ดเพราะเจ้าตัวทำตัวไม่ดี ยังไม่พ้นสามวินาที น้ำตาหยดใหญ่ก็หล่นลงพื้น
“ฮือๆๆ อือออ”ก่อนที่จะตัวจะหันไปกอดขาคนเป็นพ่อแล้วร้องไห้ พนักงานที่แนะนำเริ่มทำหน้าไม่ถูก
“เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องดุเลย”ทอสก้มลงอุ้มน้องจีขึ้นมา เจ้าตัวเล็กก็รีบซบไหล่ร้องไห้ต่อเลยทันที
“ถ้าตัวแค่นี้ยังบอกสอนไม่ได้โตไปจะทำยังไง”ผมเริ่มมีอารมณ์ เมื่อก่อนนี้จีไม่ใช่เด็กแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้พูดอะไรไม่เคยฟัง สาเหตุหลักๆก็คงเป็นเพราะมีพ่อค่อยหนุนหลังนี่แหละ
“ลูกยังเด็ก!”เขาก็เริ่มเถียงกับ
“เอ่อ ขอโทษนะค่ะ เป็นความผิดของดิฉันเอง น้องตกใจหมดแล้วค่ะ”พนักงานสาวหันมาห้ามผมกับเขาให้เลิกทะเลอะกันเสียงดังเพราะตอนนี้น้องจีมองผมกับคุณพ่อของเขาด้วยสายตากลัวๆ
“ขอโทษครับ น้องจี”ผมบอกเพราะเสียงดัง โชคดีที่ในร้านตอนนี้แทบไม่มีลูกค้าคนอื่นแล้ว
“ขอโทษฮะ”น้องจียกมือขึ้นไหว้ขอโทษ พนักงานสาวยิ้มๆก่อนจะขอตัวไปเอากางเกงว่ายน้ำที่ผมต้องการมาให้
“แม่ฮะ “น้องจีร้องเรียกพร้อมกับโน้มตัวแล้วกางแขน เพื่อต้องการให้ผมอุ้ม แต่ผมยังแกล้งเฉยเจ้าตัวก็เลยเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“ครับๆ”เพราะว่าวันนี้พาน้องจีมาเที่ยว ถ้าร้องมากกว่านี้คงจะไม่ได้เที่ยวกันผมเลยยอมยื่นแขนไปอุ้มน้องจีมา เจ้าตัวเองก็คงรู้ว่าผมโกรธเลยได้แต่กอดคอและซบหน้าอยู่ที่ไหล่เงียบๆ
บ้างครั้งอาจจะดูเหมือนผมดุมากเกินไปและใครหลายๆคนคงไม่เข้าใจโดยเฉพาะคนเป็นพ่อที่ยืนมองผมแบบไม่พอใจอยู่ ผมว่าการเลี้ยงน้องจีคนเดียวแบบเมื่อก่อนยังไม่เหนื่อยเท่าตอนนี้เลย
“ได้แล้วค่ะ”พนักงานส่งกางเกงมาให้ผม ผมลองจับดูแล้วขนาดคงจะพอดีกับน้องจี ไม่จำเป็นต้องลอง ผมก็ขอให้เขาคิดเงินและ
ซื้อไปอีกสี ในแบบเดียวกันเพื่อน้องจีใช้
“นี่ครับ”ผมกำลังจะยื่นเงินให้แต่ไม่ทันคนเป็นพ่อที่ยื่นบัตรให้ก่อน ถึงจะเป็นแค่กางเกงว่ายน้ำเด็กแค่สองตัว แต่ราคาไม่ใช่เบาเลยครับ ตัวละตก600กว่าบาท
“มองทำไม”เขาถามเมื่อผมเอาแต่จ้องหน้าของเขา เบื่อพวกอวดรวย
ผมไม่ตอบแต่อุ้มน้องจีที่ดูเหมือนจะหลับออกมาเลย ปล่อยให้เขาจ่ายเงินและถือของตามมา ผมอุ้มน้องจีเข้าไปนอนที่เบาะหลังที่มีเกาอี้สำหรับเด็กอยู่เพราะที่นี่กรุงเทพ รถเยอะและผมไม่รู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า ผมจึงไม่อุ้มน้องจีนอนที่ตักเหมือนก่อนๆ
“จะโกรธอะไรหนักหนา”คนเป็นพ่อพูดขึ้นเมื่อผมยังแสดงท่าทีไม่สนใจเขาต่อ
“.....”ผมยังคงเงียบ
“โถ่โว้ย”เขาสถบออกมาไม่ดังนักคงเพราะน้องจีหลับอยู่ ซึ่งนั้นก็ถือว่าเขายังรู้ว่าตัวเองยังคงเป็นพ่ออยู่
ไม่นานเราก็มาถึงสวนน้ำหลังจากซื้อบัตรและเปลี่ยนชุดกันเรียบร้อยแล้วก็พากันเดินมายังสระน้ำที่ลายล้อมไปด้วยเครื่องเล่นมากมาย วันนี้คนค่อนข้างเยอะคงจะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นหยุด เสียงเด็กหัวเราะกันดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงเพลงที่ทางสวนน้ำเปิดเพื่อสร้างบรรยากาศ
“แม่ฮะๆ กันต์ๆ”น้องจีที่ตอนแรกแช่อยู่ในสระเด็กวิ่งมาหาผมด้วยความดีใจแล้ววิ่งกลับลงไปในสระต่อ
“หืม”ผมร้องถามเพราะผมก็นั่งดูลูกอยู่ที่ขอบสระ แต่กลับไม่เห็นน้องกันต์อย่างที่น้องจีบอกเลย
“สวัสดีครับเอฟ”และในขณะที่ผมกำลังมองสอดส่องหาน้องกันต์อยู่คุณหมอนนต์ก็เข้ามาทักจากทางด้านหลัง
“อ้าว สวัสดีครับ บังเอิญจัง”ผมร้องทักก่อนจะเห็นน้องกันต์ที่ใส่กางเกงว่ายน้ำสีชมพูหวานเดินเข้ามาหาน้องจี
“ครับ ว่าจะโทรไปชวนน้องจีอยู่พอดีเลย”
“น้องกันต์ระวัง”ในขนาดที่ผมกำลังทักทายคุณหมออยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกน้องกันต์ทำให้ผมและคุณหมอหันไปสนใจที่ต้นเสียงอย่างพร้อมเพียงกัน
“โอ๊ย”ภาพที่เห็นคือเด็กผู้ชายที่หน้าจะอายุราว16-17ปีที่ตอนนี้ล้มลงกับพื้นปูนมีน้องกันต์นั่งทับอยู่ที่หน้าท้อง
“เกรว!”คุณหมอนนต์รีบวิ่งลงไปช่วยเด็กคนนั้นทันที
“ผมไม่เป็นไรครับ น้องกันต์เจ็บไหม”ผมเองก็รีบเดินเขาไปดู ไม่รู้น้องจีเล่นอะไรพิเรน หรือเปล่า
“ไม่ฮะ”เสียงเล็กๆน่ารักราวกับเสียงของเด็กผู้หญิงบอกตอบพร้อมส่ายหน้าเล็กๆไปมา
“คุณหมออุ้มน้องกันต์ให้ยื่นขึ้นแล้วเริ่มดูเด็กคนนั้นที่ช่วยน้องกันต์
“มีอะไรหรือเปล่า”ทอสที่กลับมาจากไปซื้อเครื่องดื่มคงจะเห็นผมกับเจ้าหน้าที่ยืนอยู่เลยรีบเข้ามาหา
“คือน้องกันต์จะล้มน่ะเด็กคนนี้เลยมาช่วย ไม่รู้น้องจีเล่นอะไรแรงๆหรือเปล่า”
“ขอโทษครับ”น้องจีรีบยกมือไหว้ผมเองก็ไม่เห็นหรอกว่าลูกทำอะไร แต่การที่เจ้าตัวขอโทษสาเหตุคงมาจากน้องจีจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับ” เด็กน่ารักคนนั้นตอบกลับมา
“ผมช่วยครับ”ทอสรีบเสนอตัวเมื่อรู้ว่าสาเหตุมาจากน้องจี คนเป็นพ่อจึงแสดงความรับผิดชอบโดยการจะเอาไปช้อนตัวน้องคนนั้นให้ออกมาจากบริเวณสระ
“ไม่เป็นไร ผมอุ้มเอง”แต่คุณหมอที่หน้าตาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดกลับปฏิเสธแล้วช้อนตัวน้องคนนั้นขึ้นคงจะรู้จักกันเพราะเห็นคุณหมอเรียกชื่อ
“ผมฝากน้องกันต์ก่อนนะครับ”คุณหมอว่าแล้วเดินตามเจ้าหน้าที่ไป สระเด็กถึงจะมีน้ำค่อยช่วยพยุงแต่มันก็แค่ระเอวของเด็กๆเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่แบบเราๆมันก็แค่เลยหัวเข่ามานิดเดียว ดังนั้นถ้าผู้ใหญ่ล้ม และด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่ากับระดับน้ำขนาดนี้แทบ
จะไม่ช่วยอะไรเลย ก็ไม่ค่อยต่างจากล้มบนพื้นเท่าไหร่
“น้องจีทำอะไรครับ”ผมรีบหันมาสอบสวนน้องจีที่ทำหน้าจ๋อยๆ
“จีผลักกันต์ เลยล้มพี่เกรวเลยเข้ามา”แต่กับเป็นน้องกันต์ที่ตอบแทน แต่ผมลองคิดดูแล้วถ้าให้น้องกันต์ล้มคงไม่เจ็บอะไรเพราะผมเห็นเด็กๆในสระก็ล้มกันแทบทุกคน แต่น้องจีอาจจะผลักแรงจริงๆจนน้องคนนั้นตกใจก็ได้ อย่างนี้มันน่าทำโทษไหมเนี่ย
“ก็กันต์ผลักจีก่อน”ทั้งสองคนเอาแต่โทษกัน ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงก็แค่เด็กๆเล่นกันแต่กลับรู้สึกผิดเมื่อมีคนเจ็บ
“ครับๆ แต่น้องจีก็ผิดนะเพราะพี่เขาต้องเจ็บอย่าเล่นอะไรแรงๆเล่นกันดีนะครับ”ผมว่า ไม่อยากจะดุตอนนี้เพราะเด็กๆกำลังตกใจเดี๋ยวจะไปกันใหญ่
“มากินน้ำก่อนมา”คนเป็นพ่อเรียกทำให้น้องจีเอ่ยชวนน้องกันต์เดินมาที่โต๊ะของผมที่มีน้ำผลไม้กล่องว่างอยู่3กล่องกับแก้วน้ำที่มีน้ำปั้นสีสวยอีก2แก้ว
“ทำไมซื้อมาเยอะ”ผมถามเพราะมันดูมากเกินสำหรับเราสามคน
“เพื่อน้องจีหิว”เขาว่า แต่ก็ดีเพราะเพื่อน้องกันต์ก็ได้กินด้วย
“คนนี้พ่อจีล่ะ”เจ้าตัวเล็กเริ่มอวด
“หล่อเนอะ”น้องกันต์ก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“ไม่ให้หรอกนี่พ่อจี”น้องจีก็รีบเข้ามาขว้างไม่ให้น้องกันต์ได้มองพ่อของตัวเอง
“ไม่เอาหรอก พ่อกันต์ก็หล่อ พี่เกรวก็สวย เหมือนคุณครูเลย”น้องกันต์เปลี่ยนเป้าหมายหันมามองผมแทน
“เอ่อ น้องกันต์พี่คนนั้นเกรวหรอครับ”ผมเริ่มสอบถาม
“ฮะ พี่เกรวชื่อพี่เกรว พี่เกรวอยู่บ้านกันต์ กันต์ชอบพี่เกรวอยากได้เป็นแม่จะได้เหมือนคุณครู แต่พ่อไม่ยอม”น้องกันต์ว่าขึ้นอย่างงอนๆแต่ผมนี่ซิเริ่มอึ่งเข้าไปใหญ่
“ก็พี่เขายังเด็ก”ผมพูดขึ้นลอยๆ
“ทำไม กลัวไอ้หมอนั้นชอบเด็กคนนั้นหรือยังไง”ลืมไปว่ามีคนไม่มีเหตุผลนั่งอยู่ข้างๆ
“คุณนี่นะว่าไปเรื่อย พอๆเดี๋ยวก็ทะเลอะกันอีก”ผมรีบตัดไฟ เพราะเริ่มจะชินกับอารมณ์ไร้เหตุผลของเขาแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นน้องจีกับน้องกันต์ก็กลับไปเล่นน้ำกันต่อโดยมีผมนั่งดูอยู่ที่เดิมใต้ร่มสีขาวข้างๆมีคุณพ่อน้องจีนอนอยู่
บนใบหน้าหล่อราวกับรูปสลัก มีแว่นกันแดดราคาหลายหมื่นประดับอยู่ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ที่สวมเพียงเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวที่เห็นหมัดกามหน้าท้องลางๆก็เรียกให้ทุกสายตาที่เดินผ่านไม่ว่าจะหญิงหรือชายหันมามองกันเทียบทุกคนจนผมเริ่มอึดอัด
TBC
เรื่องคำผิดต้องขอโทษด้วย พยายามตรวจสอบแล้วนะ
เเล้วก็ถึงจะปีใหม่แล้ว แต่ต้องทำงานไม่ว่างนะเอ่อ
ปล.พี่หมอเป็นโชตะค่อนล่ะ