☁เมื่อผมเป็นข่าว‘ฉาว’กับซุปเปอร์สตาร์☁ ตอนพิเศษ3-4-59 P.64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คิดเห็นอย่างไรหากมีการรวมเล่ม

ซื้อแน่นอน
71 (42.5%)
ไม่ซื้อ
9 (5.4%)
ขอคิดดูก่อน
87 (52.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 167

ผู้เขียน หัวข้อ: ☁เมื่อผมเป็นข่าว‘ฉาว’กับซุปเปอร์สตาร์☁ ตอนพิเศษ3-4-59 P.64  (อ่าน 599819 ครั้ง)

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ภาคินได้เป็นลูกเขยอย่างเป็นทางการ ก็คงจะยิ้มหน้าบานไปอีกหลายวันเลยสินะค้าา ^^

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
คู่ภาคินเมฆดีขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาไปในทางที่ดี
ทุกคนยอมรับ ความรักดีๆ

เอาละพี่เพชร มาให้ชลปราบซะดีๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
นับวันยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆน้าาาา เมฆกับคินเนี่ย :hao7:

หวังว่าเพชรจะลงอีโก้ลงบ้างนะ จะได้ไม่แย่กว่าเดิม :hao4:

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
คินนายเปลี่ยนไปมากจริงๆๆๆๆ  o13
คินเมฆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
แม่ยอมรับแล้วนะ
ส่วนพี่เพชรต้องสู้ๆ 555
รออ่านชลเพชรค่ะ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
คู่พี่เพชรนี่น่าลุ้นมากกกกกกก
แต่ดูท่าจะมีเรื่องอีกเยอะะะ
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ bonusbobobo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หวานขึ้นเรื่อย ชอบบบ มันอบอุ่น จั๊กจี้หัวใจ ฮ่าๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เพชรอย่าเยอะเด้อ ตัวอย่างจากคินก็มีให้เห็นแล้ว อย่าทำตัวให้ฉาวมากเลย

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ผ่านพ้นเรื่องเสียๆมาทุ่มเทให้เมฆแล้วสินะคิน

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
คินกับเมฆตอนนี้ก็มีแต่เรื่องหวานๆแล้ว เหลือแต่ชลเพชรนี่แหละ จะว่าไปพี่เพชรหลังๆมานี่อีโก้แรงใช้ได้เลยนะไม่น่ารักเหมือนช่วงแรกๆเลยแบบนี้ต้องให้ชลปราบ หึหึ

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ชลเพชร ชลเพชร ชลเพชร อยากให้พี่เพชรโดนกด  :katai2-1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ออกแนวหวานจริง ๆ คู่นี้


รอคู่เพชรชลอยู่น้า จะลงเอ่ยยังไงคิคิ   :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ตอนนี้น้องแมวก็แฮปปี้ชีวิตดี๊ดีกะเค้าแล้วน้าาา

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13   :mew1: 
คินเมหหวานมาก น่ารัก
รอเผือกเพชรกับชลยาวๆค่ะ ชอบ  :pig4: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2015 10:29:07 โดย ❣☾月亮☽❣ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะจบแล้วเหรอค่ะ
ภาคินนนนนนน
ต้องจากกันแล้วสินะ TT^TT

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
หวานละมุน ชอบตอนให้แหวนกันจัง เขินแทน :o8:

ส่วนเรื่องพี่เพชร ยังคิดนะว่าพี่เพชรจะดีอยู่ อย่าทำข่าวเยอะน้า

รออ่านชล-เพชรนะจ้ะ :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
แหม มีให้แหวนกันด้วย น่าร๊ากกกก~

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
น่ารักอ้ะ ภาคินเปลี่ยนตัวเองได้ดีมากในความเห็นเราอะ

ว่าแต่ ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอเนี่ย ;__;

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
คบกันภายใต้การรับรู้ของผู้ใหญ่นี่น่ารักมาก

ออฟไลน์ masakiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เหยยยยยยยดอ่านทันแล้ว!!! หนุกหนานมากเลยอ่า PK น่ารัก :pig4:

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
อย่าเพิ่งจบเลยครับ ขอ ชล-เพชร อีกนิดนึง นะๆๆ :m5:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ฉาวครั้งสุดท้าย ||End





หลังจากที่พ็อกเก็ต บุ๊คของภาคินวางขายแล้ว กระแสวิพากษ์ วิจารณ์ก็กลับมาอีกครั้ง ถึงกับมีรายการทีวีมาขอทำสกู๊ปเลยทีเดียวแต่ภาคินก็ปฎิเสธไป เพราะไม่ต้องการสร้างกระแสให้ใหญ่โต ผมก็ได้อ่านแล้วเหมือนกัน ไม่คิดว่ามันจะใส่เรื่องของผมลงไปละเอียดขนาดนั้น แต่ก็ดีใจนิดหน่อยที่มันกล้าเปิดเผย ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะชวนภาคินไปเที่ยวที่ไหนสักที่ เพราะในพ็อกเก็ต บุ๊คของมัน ภาคินเขียนไว้ว่า

'ผมอยากไปเที่ยวไกลๆจะได้ไม่ต้องรับรู้อะไร อยากใช้ชีวิตธรรมดาแบบคนทั่วไป แบกเป้เที่ยวอะไรแบบนี้ แต่ก็ได้แค่คิดเพราะผมยังไม่มีจังหวะเหมาะสักที'

ผมจำได้ว่ามันเคยชวนผมไปเที่ยว แสดงว่ามันมีที่ที่อยากไปแน่ๆ นี่ก็ใกล้วันหยุดแล้ว คงไม่มีเวลาไหนเหมาะเท่านี้แล้ว

“คินศุกร์นี้ว่างไหม”ผมถามพร้อมกับปิดหนังสือนิยายที่อ่านอยู่ คนถูกถามละสายตามาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ค

“ว่างล่ะมั้ง ทำไมอ่ะ”มันบิดตัวไปมาพร้อมกับอ้าปากหาวหวอดๆ

“มีมั้งนี่แสดงว่าไม่แน่ใจใช่ไหม”

“ก็ติดงานออกบูธหนังสือน่ะ แต่ถ้าเร่งด่วนจริงๆฉันไม่ไปก็ได้ เพราะก็ไม่ได้มาร์คว่าฉันต้องไป”ภาคินทำสีหน้าจริงจัง

“ก็ใกล้จะถึงวันหยุดฉันอยากชวนนายไปเที่ยวไง”มันปิดโน้ตบุ๊คทันที ท่าทางสนใจ

“ก็ดีเหมือนกัน เรายังไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันสองคนแบบจริงๆจังๆสักที นายอยากไปที่ไหนล่ะ”

“แล้วนายล่ะ อยากไปที่ไหน”

“ฉันน่ะเหรอ...ฉันมีที่ๆอยากไปมานานแล้ว”

“ที่ไหนล่ะ”ผมถามเพราะความอยากรู้ ในหนังสือของมันก็ไม่ได้บอกเอาไว้ว่ามันอยากไปเที่ยวแบบไม่มีอะไรรบกวนคือที่ไหน

“ไม่บอก ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันมั่นใจว่านายต้องชอบ”มันทำสีหน้าลึกลับ ทำมีลับลมคมในแบบนี้ ผมก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปทุกที

“โอเค ฉันเชื่อนาย แต่ถ้าไม่เหมือนที่นายพูดล่ะก็...”ผมหรี่ตามองมัน

“ทำไมอ่ะ”มันทำสีหน้าสงสัยแบบเด็กๆ

“นายอดได้ของดีแน่”ผมก็พูดไปแบบนั้นแหละ ในเมื่อมันทำลับลมคมใน ผมก็จะทำบ้าง สำหรับผมไม่ว่าภาคินมันจะพาไปเที่ยวที่ไหนผมก็โอเคทั้งนั้นแหละ

“ของดี?...”ภาคินอมยิ้มเหมือนคิดทะลึ่งอะไรอยู่

“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะกลับมาสนใจอ่านนิยายต่อ ปล่อยให้ภาคินจัดการเตรียมตัวของมันไป ผมเดาว่าที่ที่มันจะพาผมไปจะต้องเงียบสงบและบรรยากาศดีสไตล์ภาคินแน่นอน


ผมจัดกระเป๋าสำหรับการพักผ่อนสี่วัน ภาคินบอกว่าให้หาชุดสบายๆไป แต่ไม่ได้บอกอะไรมากกว่านั้น ทำไมมันขยันเซอร์ไพรส์ผมจัง แบบนี้ต่อมอยากรู้ของผมก็ทำงานวุ่นวายเลยน่ะสิ ผมหยิบของบางอย่างที่ตั้งใจจะให้กับมันออกมาดู ผมไม่รู้ว่ามันจะชอบไหม เพราะผมเป็นพวกรสนิยมห่วย แต่ก็ช่างเถอะถึงยังไงผมก็ตั้งใจซื้อมาให้มันนี่นา ด้วยน้ำพักน้ำแรงของผมเชียวนะ คิดได้ดังนั้นผมจึงเลิกคิดเล็กคิดน้อยก่อนจะเก็บใส่ที่ก้นกระเป๋าตามเดิม

RRRRRRRR

ผมแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าพ่อของภาคินโทรมา

“สวัสดีครับ”

[ได้ข่าวว่าจะไปเที่ยวกับไอ้คินเหรอ ไปที่ไหนกันล่ะ]คุณพ่อนี่ก็รู้ข่าวเร็วจริงๆหรือตัวลูกไปโม้ให้ฟังเอง

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มันบอกว่าไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พ่อหัวเราะทันที

“แล้วพ่อพอจะรู้ไหมครับว่าภาคินมันอยากไปที่ไหน”ผมลองถาม ภาคินมันสนิทกับพ่อมันจะตาย ผมว่าท่านน่าจะรู้อะไรบ้าง

[ไอ้รู้น่ะมันรู้ แต่พ่อบอกไม่ได้หรอก เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์]

“โธ่...”ผมโอดครวญ

[แต่บอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าภาคินน่ะ วาดฝันเอาไว้ตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้วว่าจะไปที่นั่น]

“ทำไมอ่ะพ่อ คินมันมีความทรงจำดีๆกับสถานที่นั้นเหรอครับ”

[...ก็ไม่เชิงหรอก คือพ่อเคยพามันไปเมื่อตอนที่มันยังเด็กๆ ก่อนที่พ่อจำเป็นต้องเอามันไปฝากที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า...]ปลายสายเงียบไปพักใหญ่ จนผมกดหน้าจอดูว่าถูกตัดสายไปแล้วหรือยัง

[พ่อก็ค่อนข้างแปลกใจเหมือนกันที่มันอยากไปที่นั่นอีก แต่ถ้าให้พ่อเดา มันคงอยากสร้างความทรงจำดีๆเกี่ยวกับที่นั่นอีกล่ะมั้ง ]คุณพ่อเงียบไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมคุยอีกสักพักก็วาง



 ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะสร้างความทรงจำดีๆให้ภาคินเอง






*****************************************






คนอย่างภาคินมักจะทำให้ผมแปลกใจได้เสมอเลย เมื่อผมถูกปลุกตั้งแต่ตีสี่เพื่อมารอภาคินซื้อตั๋วที่สถานีขนส่ง ผมยังมึนไม่หายขณะที่นั่งกอดกระเป๋าของตัวเองมองผู้คนที่เดินไปเดินมาในสถานี ผมไม่อยากจะขัดมันในเมื่อตัดสินใจว่าจะตามใจมัน ร่างสูงร่างสูงโดดเด่นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนรอบตัวเดินมาหาผมพร้อมกับตั๋วรถในมือ ผมเห็นว่ามันไปซื้อตั๋วที่ตู้ จุดหมายปลายทางคือตราด ที่ท่องเที่ยวก็เยอะอยู่เหมือนกัน แต่สำหรับภาคินผมเดาว่ามันต้องไปทะเลแน่ๆ ตราดเองก็มีเกาะเกอะหลายที่ ว่าแต่มันจะพาผมไปไหน

“ไปเถอะ”ภาคินพยักเพยิดให้ผมขึ้นรถทัวร์ที่เพิ่งเข้ามาจอด

“นายกำลังทำฉันมึนนะรู้ไหม”ผมพูดในขณะที่เดินนำไปขึ้นรถทัวร์สองชั้น ตอนแรกผมก็คิดว่ามันจะขับรถไปเองเสียอีก แถมมันก็มีของพะรุงพะรัง ดันแบกกีต้ามาอีก

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันอยากไปเที่ยวแบบสบายๆชิลๆแบบคนปกติทั่วไปบ้าง ฉันขอนั่งติดหน้าต่างได้ไหม”มันถามเมื่อเดินมาที่เบาะกลางๆ

“ฉันก็อยากนั่งติดหน้าต่างเหมือนกัน”ผมชอบมองทิวทัศน์ข้างทาง

“งั้นแยกกันนั่ง โอเคไหม”มันไม่ได้พูดประชด ผมไหวไหล่ แล้วแต่มันล่ะกัน ดีที่รถทัวร์สายนี้ไม่ได้ฟิกที่นั่งตามเลขที่ ภาคินนั่งที่เบาะด้านหลัง

ผมหยิบโทรศัพท์มาฟังเพลงในขณะที่รอรถออก มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขึ้นมาเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่รุ่นราวคราวเดียวกับผม หล่อๆสวยๆทั้งนั้น ผมแอบเหล่มองเมื่อมีสาวผมบลอนด์นั่งลงข้างๆภาคินพร้อมกับชวนคุยเมื่อเห็นว่าภาคินเป็นลูกครึ่ง

“คุณจะไปที่ไหนเหรอ?”ผมได้ทีเงียหูฟัง เผื่อภาคินมันจะตอบ

“เรากำลังจะไปที่ที่เงียบสงบ ชิลๆ ผ่อนคลายน่ะครับ”เป็นคำตอบที่กว้างจริงๆ

“ฟังดูลึกลับจัง ว่าแต่เรา? คุณมากับเพื่อนเหรอ เขาอยู่ไหนล่ะ”อีกฝ่ายทำเสียงฉงน

“นี่ไง”มันเตะเบาะรถผมหนึ่งที ผมหันไปมองมันด้วยแววตาขุ่นมัว

“อย่ามาก่อกวนกันได้ไหม”ผมตอบเสียงหงุดหงิด

“เขาก็เป็นแบบนี้แหละ ขี้หงุดหงิดเหมือนลุงแก่ๆที่มีปมด้อย”ดูมันใส่ร้ายผม แม่สาวผมบลอนด์หัวเราะเบาๆ

“หวังว่าคุณกับเพื่อนจะสนุกกับทริปนะ”

“เช่นกันครับ”หลังจากนั้นเสียงพูดคุยก็เงียบลง ผมมองทิวทัศน์ด้านนอกไปเรื่อยๆ หันไปมองด้านข้างเมื่อรู้สึกว่าเบาะข้างตัวยุบลง ภาคินนี่เอง

“ย้ายมาทำไม”ผมถามเสียงบึ้งตึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่ผมหงุดหงิดเรื่องอะไรวะ ที่มันไปนั่งที่อื่น?หรือเพราะมันบอกว่าผมเหมือนลุงแก่ๆหรือที่มันคุยกระหนุงกระหนิงกับแม่ผมบลอนด์ด้านหลังนั่น แต่ล่ะอย่างดูไร้สาระทั้งนั้น

“ก็อยากนั่งด้วย นั่งตรงนั้นมันเหงา”

“เวอร์”สายตาจับจ้องที่นอกหน้าต่าง ภาคินหัวเราะเบาๆ ก่อนที่มันจะหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาให้ผม

“เราจะไปหนึ่งในนี้แหละ”ผมก้มมองนิตยสาร Big Map บนตัก ก่อนจะเปิดดูคร่าวๆก็ไม่ห่างจากที่ผมเดาไว้ มันต้องไปที่เกาะไหนสักที่แน่

“ง่วงนอน...ยืมไหล่หน่อย”ภาคินไม่รอฟังคำตอบ มันรีบเอนตัวมาพิงไหล่ผมทันทีพร้อมกับหลับตาลง ผมก้มมองคนที่พิงอยู่ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพราะไม่สบายตัว สรุปผมนั่งเมื่อยไปตลอดทางจนถึงสถานีขนส่งตราดเลย

“คิน ถึงแล้ว”ผมสะกิดมัน ภาคินสะดุ้งตื่นก่อนจะมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าถึงแล้วมันก็บิดขี้เกียจก่อนจะลงจากรถ

“มาตรงนี้ เดี๋ยวหลง”ภาคินมันทำอย่างกับผมเป็นเด็กที่แม่อนุญาตให้มาเที่ยว มันกระตุกชายเสื้อพาผมไปยังรถสองแถวที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“ฉันไม่หลงหรอกน่า”ผมกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อรอดูว่ามันะพาผมขึ้นคันไหน ภาคินก้มมองกระดาษในมือก่อนจะพาผมไปยังรถสองแถวของเกาะกูด เอ็กเพลส

“เราไปเกาะกูดกันเหรอ”ผมกระซิบถามภาคินที่นั่งลงข้างๆผม บนรถมีผู้หญิงวัยรุ่นสองคนนั่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม

“เซอร์ไพรส์ไหม”มันหัวเราะ

“นายเคยมาเหรอ”ผมถามในขณะที่รถเริ่มเคลื่อนที่ สองสาวฝั่งตรงข้ามจ้องมองมาที่ผมกับภาคินก่อนจะซุบซิบเมื่อมันเอนตัวมาคุยใกล้ๆใบหูของผม ทำเอาจั้กจี้แปลกๆ

“เคยเมื่อนานมาแล้วน่ะ แต่ไม่ใช่ความทรงจำดีๆอะไรหรอก”ภาคินทอดสายตามองไปด้านนอกรถ

“เอ่อ...ขอโทษนะคะ ขอถ่ายรูปได้รึเปล่า”หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆ ผมมองภาคิน

“ถ่ายไปทำไมครับ”ผมตกใจที่ได้ยินมันถามแบบนั้นทั้งๆที่ตัวเองเป็นนักร้องแท้ๆ สองสาวหัวเราะท่าทางเอียงอาย

“คือ เห็นว่าพี่สองคนท่าทางน่ารักดีอ่ะค่ะ”ท่าทางน่ารักอย่างนั้นเหรอ ภาคินยิ้มก่อนจะพยักหน้าเชิงว่าอนุญาตให้ถ่าย มันดึงหมวกออกก่อนจะยกมือลูบผมให้เข้าทรง ดูเหมือนสองสาวจะไม่รู้จักภาคิน ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ภาคินดูผ่อนคลายมากกว่าปกติ

“ขอถามอีกเรื่องนึงนะคะ ไปพักรีสอร์ทไหนคะ”

“ถามแบบนี้จะตามไปแอบถ่ายผมเหรอ”คำพูดของภาคินทำให้สองสาวหัวเราะ

“แค่อยากรู้เฉยๆน่ะค่ะ เพื่อจะพักที่เดียวกัน”ตั้งแต่เดินทางมา ภาคินยังไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรสักอย่างให้ผมฟังเลย ผมเปิดนิตยสารเล่มนั้นอีกครั้ง มีหลายรีสอร์ทให้เลือกเข้าพักมากมาย ซึ่งราคาก็ไต่ระดับตามความหรูหรา

“ผมพักที่อะเวย์รีสอร์ทครับ”

“อุ้ย ที่เดียวกันเลยค่ะ”

“ผมเลือกที่นี่เพราะเห็นขึ้นชื่อเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้วก็บรรยากาศดีน่ะครับ”ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่ามันเน้นคำว่าเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ ผมก็เห็นด้วยที่มันทำแบบนี้ถึงจะดูใจร้ายแต่ผมก็ไม่สะดวกใจเหมือนกันถ้าหากมีคนคอยมองด้วยสายตาเยิ้มๆมาคอยถ่ายรูป ผมเปิดไปหน้ารีสอร์ทนั้น ราคาต่อคืนและแบบเเพ็คแก็ตค่อนข้างสูงทีเดียว แต่เงินภาคินมันนี่นะ แค่นี้ไม่สะเทือนขนหน้าแข่งมันหรอก

กว่าจะถึงท่าขึ้นเรือข้ามไปยังเกาะกูดผมก็เมื่อยขบไปทั้งตัวแล้ว

“นายเมาเรือหรือเปล่า”ภาคินถามเมื่อขึ้นมาบนเรือแล้ว

“ไม่หรอกมั้ง”ก็ผมไม่เคยขึ้นเรือมาก่อนจะไปรู้ได้ไง ผมกับภาคินขึ้นไปรับลมบนดาดฟ้าเรือ ส่วนใหญ่จะมึแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โล่งอกไปหน่อย โชคดีที่สองสาวนั่นไม่ได้ขึ้นเรือลำนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นคงเอาแต่จ้องมองผมกับภาคินแน่ๆ

“ถ่ายรูปหน่อย หันหน้ามา”ภาคินยกกล้องที่เอามาด้วย ผมไม่ค่อยอยากให้มันถ่ายเท่าไหร่เพราะสภาพหน้ามันๆของผมตอนนี้ไม่เหมาะกับการถ่ายรูปจริงๆ

“ไม่เอา รอไปถึงรีสอร์ทก่อนดิ”ผมหันหน้าหนีไปอีกทาง ภาคินก็ฟังผมเสียที่ไหนมันก็ยังถ่ายรูปผมไปเรื่อยๆ พอเบื่อมันก็เลิกถ่ายก่อนจะชวนผมคุยแทน

“เมื่อก่อนฉันมาที่นี่กับพ่อแม่ ตอนแรกฉันก็ดีใจนะ ที่พวกท่านพาฉันมาที่เกาะสวยๆบรรยากาศดีแบบนี้ แต่ที่ไหนได้ พวกเขาแค่พาฉันมาเที่ยวส่งท้ายก่อนที่จะส่งฉันเข้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”ผมหันไปมองหน้าภาคิน สีหน้าของมันหมองลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องเก่า ผมวางมือลงบนหลังมือของอีกฝ่ายที่เกาะราวกั้นเรือเบาๆ

“เอาน่า มันผ่านมาแล้ว ฉันจะสร้างความทรงจำดีๆกับนายเอง”มันหันมามองผมพร้อมรอยยิ้ม

“ตอนนั้นพวกเขาคุยกันเรื่องฉันว่าจะทำยังไงกับฉันดีเพราะตอนนั้นพวกเขาทะเลาะกันและมันเลวร้ายถึงขั้นจะแยกทางกัน ฉันก็เลยคิดมาเสมอว่าถ้ารักใครสักคน ฉันอยากจะพาคนนั้นๆมาที่เกาะนี้”มันมองหน้าผมตรงๆจนผมต้องเบนสายตาไปยังทิศอื่นเพราะเริ่มจะเขินกับสายตาและคำพูดของมัน

เมื่อถึงเกาะก็มีรถจากรีสอร์ทมารับ โชคดีไปอีกที่ไม่ได้นั่งคันเดียวกับสองสาวคู่นั้น บรรยากาศรอบๆตัวรีสอร์ทเงียบสงบจริงๆ ภาคินมองไปรอบๆด้วยสายตาพอใจก่อนจะเข้าไปเช็คอิน ผมนั่งรอพร้อมกับจิบน้ำส้มปั่นที่เป็นบริการ welcome drinkของรีสอร์ท

“ชอบไหม”มันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

“อือ ขอบใจที่พามานะ”ปกติผมคงไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้หรอก

“บอกแล้วไง ว่านายต้องชอบ อย่าลืมให้ของดีที่นายพูดถึงด้วยนะ”

“ไม่ลืมแน่นอน แต่ฉันกลัวนายจะไม่ชอบน่ะสิ”ผมกลับมากังวลอีกครั้ง

“นายให้อะไรมาฉันก็ชอบทั้งนั้นแหละน่า”ภาคินวางมือลงบนศีรษะของผมก่อนจะจับโยกไปมา

“อย่าน่า คนมอง”ผมปัดมือมันออก ภาคินไหวไหล่เหมือนไม่แคร์

“กลัวอะไร ไม่มีใครรู้จักเราเสียหน่อย”

ภาคินแวะกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร มันคอยบริการนู่นนี่นั่นให้ จนผมแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว มันก็บอกไม่ถูก ก็เป็นปลื้มที่มันดูแลเอาใจใส่ผมดี แต่ก็แอบหงุดหงิดที่มันเอาใจผมขนาดนี้

“ไม่ป้อนน้ำให้ด้วยเลยล่ะ”ผมพูดขำๆเมื่อมันส่งทิชชูให้ ภาคินวางช้อนลงก่อนจะยกแก้วน้ำมาตรงหน้าผม เฮ้ย นี่มันจะทำจริงๆน่ะเหรอ

“เวอร์ ฉันล้อเล่น”ผมดันแก้วน้ำตรงหน้าออก ภาคินหัวเราะก่อนจะวางแก้วน้ำลงตามเดิม

“ไม่แน่จริงนี่นา...”มันหลิ่วตามอง

“ฉันไม่หน้าหนาเหมือนนายสักหน่อย”หมั่นไส้ก็เลยว่าซะ แต่มันกลับหัวเราะชอบใจ

“ฉันชอบทำอะไรเปิดเผยน่ะ”ผมที่กำลังตักข้าวเข้าปาก สำลักทันทีเพราะดันไปนึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นที่บ้านพ่อพอดี

“กินช้าๆดิ”มันตอบหน้าซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวส่งทิชชูให้ผมอีกรอบ

ภาคินเปิดห้องแถวด้านหน้าติดวิวทะเล ที่ระเบียงมีเก้าอี้เบาะนิ่มๆสำหรับชมวิว บรรยากาศที่นี่รมรื่นใกล้ชิดธรรมชาติสมคำโฆษณาจริงๆ ตลอดแนวจะมีบังกะโลอีกหลายหลัง ผมเห็นมีแปลญวนผูกกับต้นมะพร้าวต้นสูงด้วย แต่ก็ต้องระวังลูกมะพร้าวหล่นใส่หัวแบะ ตลอดแนวชายหาดจะมีกระท่อมที่มีเบาะนุ่มๆเต็มไปหมด

 ผมอยากออกไปสำรวจรอบๆแล้วสิ ด้านในห้องกว้างขวางมีเตียงคิงไซต์สองเตียงเพราะห้องเตียงเดียวเต็มหมดแล้ว ผมวางกระเป๋าได้ก็เดินสำรวจห้องทุกซอกทุกมุมทันที โอ้โห พูดตรงๆถ้าไม่ได้ภาคินผมคงไม่มีโอกาสมาแน่ๆ หลังจากสำรวจห้องน้ำเสร็จออกมาก็เจอภาคินนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียง

“ออกไปเดินเล่นด้านนอกกันเถอะ”ผมนั่งลงข้างมัน ภาคินพลิกตัวมากอดเอวเอาหน้าซุกหลังผมเหมือนเด็ก

“ไม่ล้าเหรอ พักก่อนก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยออกไปดู”ไม่พูดเปล่ามันยังดันให้ผมนอนลงกับมันด้วย ผมพลิกตัวไปหาภาคินกอดเอวมันหลวมๆ

“ไม่เห็นจะล้าเลย”

“เมื่อตอนบนเรือยังบ่นว่าเมื่อยอยู่เลย”ภาคินขมวดคิ้ว ย่นหน้า

“ก็ตอนนี้หายแล้วไง เห็นว่าตรงศาลาริมหาดมีนวดสปาด้วย น่าสนนะ”ภาคินเปลี่ยนมาเลิกคิ้วแทน มือลูบหลังผมเบาๆ

“เดี๋ยวฉันนวดให้เอง”ผมหน้าร้อนกับคำพูดของอีกฝ่ายยิ่งมันมานอนจ้องหน้าผมแบบนี้ผมก็ทำตัวไม่ถูก ผมกำลังจะพลิกตัวหนีแต่มันเอาขามาพาดตัวผมไว้ มือกอดผมแน่นจนหน้าผมซุกอยู่กับซอกคอของมัน

“อย่าเพิ่งน่า”ผมพูดเสียงอู้อี้ มือซุกซนของมันลูบผิวเนื้อใต้สาบเสื้อของผมแล้ว ภาคินนี่มันหื่นคงเส้นคงวาจริงๆ ผมขยับตัวเล็กน้อย เมื่อมือมันเลื่อนมาลูบวนเวียนอยู่แถวๆสะโพกของผม

“ไม่ปล่อยใช่ไหม”ผมพึมพำก่อนจะกัดตรงซอกคอของมันแรงๆ หยิกพุงมันด้วย มันขยับตัวหนีแต่ยังกอดผมแน่นเหมือนเดิม

“อย่าดิ้น”มันกระซิบเบาๆ ผมนอนแน่นิ่งเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มจะมีปฎิกิริยาโต้ตอบกลับมา ลมหายใจอุ่นของมันถี่รัว

“นายนี่มันจริงๆเลย”ผมพึมพำเบาๆ

“โทษที นิสัยไม่ดีเลยเนอะ”มันพึมพำกลับแตะริมฝีปากลงที่กกหูเบาๆ ผมผ่อนลมหายใจก่อนจะปล่อยให้มันทำรุ่มร่ามกับผมตามใจชอบ ผมขบเม้มผิวเนื้อตรงซอกคอของมันเบาๆ มันดันผมออก ประคองใบหน้าของผมให้รับจูบจากมัน ภาคินพลิกตัวมาทาบทับผมแทนทำผมใจหวิวขึ้นมา

“ภาคิน...”ผมกระซิบเรียกมันเบาๆ

“ว่าไง”มันพึมพำตอบ สบตาผม แววตาสีเข้มเหมือนจะขุ่นคลั่งไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน

“คือฉัน...”มันเลิกคิ้วมอง แต่มือยังไม่หยุดวุ่นวายกับตัวผม

“เป็นอะไร อยากให้หยุด ฉันหยุดก็ได้นะ”มันมีสีหน้าเป็นกังวล ผมส่ายหน้าไปมา ใจเต้นตึกตักอยู่ในอก

“เปล่า”ผมกลืนน้ำลายก่อนจะดึงรั้งลำคออีกฝ่ายลงมาใกล้ก่อนจะประกบจูบ สอดลิ้นเข้าไปค้นหา ภาคินเบียดตัวกอดผมแน่นมากขึ้น ผมเลื่อนไปขบเม้มติ่งหูของอีกฝ่าย ก่อนจะกระซิบคำว่ารักให้มันได้ยินเบาๆ มันมองหน้าผมด้วยความตกใจเหมือนไม่คาดคิดว่าผมจะพูดออกมา

“เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”ผมยิ้มจางส่งให้อีกฝ่าย ภาคินซุกหน้าลงกับซอกคอของผม

“ฉันก็รักนาย”

สรุปแล้วผมกับภาคินก็ขลุกอยู่ในบังกะโลตลอดบ่าย เพราะมันใช้ข้ออ้างที่ว่าใช้การกระทำแสดงความรัก ภาคินนี่มันภาคินจริงๆเลย



ช่วงตอนเย็นผมกับภาคินออกไปเดินเล่นริมหาดทรายสีขาว ภาคินสวมชุดสบายๆแต่ดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมแอบอิจฉาหน่อยๆเพราะถ้าเป็นผมใส่เสื้อผ้าโทนสีหม่นๆล่ะก็ผมคงดูโทรมเหมือนคนไม่อาบน้ำแน่ๆ

“พรุ่งนี้พายเรือคายัคไปอ่าวคลองเจ้ากัน”ภาคินชี้ให้ดูแนวแถวชายหาดที่มีต้นสนทะเลเรียงรายอยู่อีกฟาก

“นายพายนะ ฉันพายไม่เป็น”

“แน่นอน ฉันพานายมาทั้งทีก็ต้องเทคแคร์อยู่แล้ว”ผมเบ้หน้าใส่

“นายทำอย่างกับฉันแขนขาด้วน”

“ไม่ชอบเหรอ”

“ก็ชอบ แต่เยอะไปมันก็...น่าหงุดหงิด”จนบางทีมันก็แทบไม่เว้นช่องว่างให้ผมได้ดูแลเอาใจใส่มันบ้างเลย

“ฉันเป็นแฟนนายก็จริงแต่ไม่ใช่ว่านายจะต้องมาเทคแคร์ฉันฝ่ายเดียวนี่นา ให้โอกาสฉันโชว์แมนบ้างสิ”ผมพูดขำๆ

“นายจะทำอะไรให้ฉันล่ะ”

“เดี๋ยวก็รู้”

“ใช่ของดีที่ว่าหรือเปล่า”

“ก็ทำนองนั้นแหละ”ผมมองน้ำทะเลสีฟ้าใสด้วยอารมณ์เบิกบาน อากาศเริ่มเย็นและความมืดเริ่มกระจายเข้ามา ผมเดินไปเรื่อยๆตลอดแนวมีกระต๊อบริมทะเลเยอะมาก ชิงช้าด้วย ผมล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้นที่ใส่มา ของบางอย่างที่ผมหยิบมาให้สัมผัสเย็นๆอยู่ก้นกระเป๋า บรรยากาศกำลังดีเลยด้วย ผมสะกิดให้ภาคินเดินไปที่ชิงช้าที่ห้อยอยู่ใต้กิ่งไม้ที่ยื่นออกมาสู่น้ำทะเลตื้นๆ

“รู้ไหม ในชีวิตจืดชืดของฉันเนี่ย ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าอยากทำอะไรเพื่อใคร”ผมนั่งลงที่ชิงช้า ภาคินจับเชือกเส้นใหญ่เขย่าๆเหมือนจะชั่งน้ำหนักว่าแข็งแรงไหม ก่อนที่มันจะหย่อนตัวนั่งข้างๆผม

“จะบอกว่าตอนนี้นายอยากทำขึ้นมาเหรอ เพราะใครกันนะ”ภาคินทำเสียงหยอก

“ฉันไม่ใช่คนโรแมนติก นายคงรู้ใช่ไหม แล้วฉันก็ไม่ใช่พวกเข้าใจเรื่องรสนิยมอะไรด้วย เพราะฉะนั้น....”ผมเม้มปาก ในมือกำแหวนเงินเรียบๆที่ผมหมดปัญญาคาดเดาความชอบของภาคิน

“อะไร”มันหัวเราะเมื่อผมไม่พูดอะไรสักที ความมืดที่เริ่มแผ่กระจายทำให้ผมกล้าแตะปากลงบนหน้าผากของภาคิน ก่อนจะแบมือเผยแหวนเรียบๆให้ภาคินเห็น แต่มันยังดูมึนงงอยู่เล็กน้อย

“มันอาจจะไม่ใช่ของดีอะไร...ราคาก็ไม่แพงมาก แต่ฉันทำงานเพื่อซื้อมันมาให้นายเลยนะ ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยสักคน ...ชอบไหม?”ผมเริ่มหมดความมั่นใจเมื่อภาคินยังไม่พูดอะไรออกมา ผมหยิบแหวนให้มันดู

“เห็นไหมตรงนี้มีเพชรเม็ดเล็กๆฝังอยู่ด้วย”ผมชี้ให้มันมองเห็น

“ขอบใจนะเมฆ ที่ยอมทำเพื่อฉัน อาจจะฟังดูโอเวอร์ แต่ที่นายทุ่มเททำเพื่อฉันให้ได้แหวนวงนี้มา มันทำให้ฉันรู้สึกว่ามีความสำคัญ”

“ฉันขอใส่แหวนให้นายนะ”ผมเกาต้นคออย่างเก้อเขิน บ้าจริงทำไมมันต้องมองผมด้วยสายตาแบบนี้ด้วยวะ ผมเลื่อนแหวนใส่ที่นิ้วนางข้างขวาของอีกฝ่าย มองแหวนที่นิ้วมือของภาคินด้วยสายตาพอใจ



มื้อนั้นจบลงที่ห้องอาหารของรีสอร์ท บรรยากาศโรแมนติกอีกแล้ว ผมมองเทียนในแก้วบนโต๊ะของตัวเองอย่างเหม่อลอยระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ผมว่าผมทำหน้าที่แฟนบกพร่องไป อาหารมาเสิร์ฟจนครบ ผมมองภาคินที่กำลังดื่มน้ำ ก่อนจะตักแกงเขียวหวานทะเลใส่จานอีกคน เอาใจมันบ้างเดี๋ยวมันงอแง ภาคินกระพริบตามองผมงงๆ

“งั้นตักกุ้งให้ด้วยสิ”มันพยักเพยิดไปที่ผัดบลอคโคลี่ ผมตักกุ้งยื่นให้มัน ภาคินอ้าปากรอ ผมจึงต้องป้อนกุ้งเข้าปากมัน ภาคินมันร้ายกาจมาก มันจงใจแกล้งผมชัดๆเพราะโต๊ะข้างๆคือสองสามีภรรยาชาวต่างชาติที่หันมามองด้วยสายตาสนใจ

“อ้าปาก”ภาคินพูดเมื่อตักยำหอยเชลล์ให้ผมด้วยสีหน้าขำๆ ผมยิ้มให้โต๊ะข้างๆเมื่อมันป้อนผมเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ได้รับอิทธิพลมาจากภาคินหรือไงเธอถึงอ้อนให้สามีป้อนข้าวให้บ้าง

“พยายามเอาใจฉันเหรอไง”

“เถอะน่า...”ผมถลึงตาใส่มันให้เลิกล้อเลียนผมซะ

“ให้ตาย เจอสองคนนั้นอีกแล้ว”ภาคินพึมพำ มองไปยังโต๊ะด้านในสุดที่มีสองสาวเจ้าเดิมนั่งอยู่ที่สำคัญมองมาทางผมกับภาคินด้วย

“นายว่าสองคนนั้นเห็นช็อตเมื่อกี้ไหม”ดูจากสีหน้าทั้งคู่แล้ว ก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย

“จะเหลือเหรอ”มันดูขบขัน ผมก้มมองโทรศัพท์ที่หน้าต่างไลน์เด้งขึ้นมา ไอ้บอร์ทส่งลิ้งอะไรสักอย่างมาให้ เมื่อเปิดไปดูก็พบว่าเป็นเพจCute couples ที่มีรูปผมกับภาคินที่สองสาวเป็นคนถ่ายพร้อมบรรยายว่าไปเจอมาโดยบังเอิญ บลาๆ ดูๆไปแลเวสองสาวจะไม่รู้ว่าภาคินเคยเป็นนักร้อง คอมเม้นส่วนมากก็เข้ามาฮาเสียมากกว่า 

“ต้องยอมรับจริงๆว่าฉันเลยจุดนั้นมาแล้ว”มันพูดขำๆเมื่อผมส่งโทรศัพท์ให้มันดู

“ขออย่างเดียว อย่ามาทำตัวเป็นสายลับคอยแชะภาพก็แล้วกัน ฉันวีนใส่แน่ๆ”ภาคินพึมพำ มื้อนั้นผ่านไปอย่างสงบเงียบไร้การรบกวนใดๆ จนผมแอบคิดว่านี่มันเหมือนการมาฮันนีมูนหลังแต่งงานจริงๆ







 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด