ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน - ตอนที่ 40 รักแล้วรอหน่อยนะ(จบแล้ว)(29/8/19)  (อ่าน 49657 ครั้ง)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(ต่อกัน ๆ)


ไอ้คนบ้าอำนาจ

อยากจะชกหน้าหล่อ ๆ แต่กวนทีน นั่นซะจริง ถ้าไม่คิดว่าเขาไม่รู้ตัวจริงของผม ผมต้องนึกว่าเขากำลังแกล้งผมอยู่แน่ ๆ เลย คนบ้าอะไร เอาแต่สั่งโน่นสั่งนี่ตลอด

“ไหนแฟ้มรายจ่ายเปรียบเทียบ 5 ปีละครับ”
“นี่ครับ”

“คุณวางเฉยๆ แล้วผมจะรู้เรื่องไหม มาอธิบายด้วยซิครับ”
“....ครับ” ดูเขาซิครับ ผมว่าเขาไม่น่าจะไม่เข้าใจงานนะ เพราะ เลาะห์บอกว่า เขากลับมาทำงานที่รีสอร์ท ทุก ๆ ปีที่ปิดเทอม เฮ้อ ผมอยากออกไปจากห้องนี้ซะที

“คุณอย่ายืนซิ ผมไม่ชอบดูงานไปเงยหน้าไป คุณขนแฟ้มไปที่โซฟาดีกว่า”
“ห่ะ...อ่า..ครับ” เฮ้ย ไอ้บ้า จะเอาไงว่ะ แฟ้มตั้งหลายเล่ม อุตส่าห์ขนไปวางให้ที่โต๊ะ แล้วดันจะให้ย้ายไปที่โต๊ะโซฟาอีก ฮึ่ม

“นั่งลงซิครับ คุณจะยืนค้ำหัวผมอยู่ทำไม”
“.....” เฮ้อ ทำอะไรไม่ได้ผมจึงนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กข้างโซฟาตัวยาวที่เขานั่ง พร้อมทั้งตั้งท่าจะอธิบายรายงาน

“นั่งนั่นคุยไม่สะดวก มานั่งนี่ซิครับ”
“เหวอออ” คุณซันเขาคว้าแขนผมลากไปนั่งโซฟาตัวยาวข้าง ๆ เขา ด้วยแรงที่เขาลากผมไป ทำให้ผมเสียหลัก ถลาเข้าไปนั่งซะจนแทบจะเกยตักเขาเลยก็ว่าได้ ผมตกใจรีบ ๆ ถอยตัวออกห่าง แต่ก็ไปไม่ได้ไกล เพราะติดพนักพิงแล้ว ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนจะเห็นเขายิ้มมุมปากอยู่แวบนึง

“เอ๋...เสียงคุณตอนตกใจนี่ คล้าย ๆ คนที่ผมรู้จักเลย”
“อ่ะ เอ่อ คือ มะ มาเข้าเรื่องกันเถอะครับ เริ่มจากตรงนี้เลยนะครับ” บ้าจริง เผลอหลุดตอนตกใจซะได้ ต้องทำเนียน ๆ ไม่สนใจ รีบ ๆ อธิบายเขาให้เสร็จดีกว่า

“ไหน”
“...” เอ่อ ไม่ต้องก้มมาซะใกล้ขนาดนั้นก็ได้ จมูกเขาแทบจะโดนแก้มผมอยู่แล้ว หน้าผมร้อนไปหมด นี่ผมคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อย ต้องทำเป็นไม่สนใจ รีบ ๆ อธิบายต่อ

แต่เขาก็ยังไม่หยุดกวนใจผม บางทีก็เอียงตัวมาจนไหล่เราชนกันบ้าง จับมือผมให้เริ่มอธิบายเนื้อหาใหม่บ้าง แล้วยังกลิ่นหอม ๆ จากกายของเขาอีก มันทำให้หัวใจผมเต้นรัว ดีว่าผมใส่หน้ากากอยู่ ไม่งั้นเขาคงเห็นว่าผมหน้าแดงขนาดไหน













ได้เวลาเลิกงานซะที ผมเหลือบมองนาฬิกาเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง วันนี้ผมเดินเข้าเดินออกห้องสำนักงานพี่มีนทั้งวัน ก็จะอะไรอีกล่ะ ก็คุณซันนะซิ เดี๋ยวเรียก ๆ ขนาดหายไปห้องน้ำแป๊บเดียว ยังเรียกไปสอบถามเลย ว่าผมหายไปไหน บ้าสิ้นดี วันนี้เหนื่อยเหมือนทำงาน16 ชั่วโมงเลย

“...” ผมรีบ ๆ เก็บของ ไม่ต้องบอกลาใคร เพราะพี่มีนไปประชุมที่ภูเก็ต พี่วัชร ลา กำลังจะก้าวเดินอออกจากห้องบัญชี

“คุณจะกลับไปที่บ้านพักหลังรีสอร์ทใช่ไหม”
“...ครับ” ฮึ้ย ทำไมผมไม่ก้าวเท้าออกไปให้เร็วนี้ว้า

“ผมไปด้วย”
“ห๊ะ...ว่าไงนะครับ”

“ผมบอกว่าผมไปด้วย...ต่อไปผมจะพักที่นั่นด้วย ฝากเนี้อฝากตัวด้วยนะครับ หึๆๆ” เขาพูดออกมาหน้าตาระรื่น
“..........” แต่ผมว่าหน้าผมคงจะซีดสนิทแล้วล่ะครับ ทำไงดี ผมลืมไปซะสนิทเลยว่า ลุงบอกว่า เมื่อลูกชายแกกลับมา เขาจะมาพักที่นั่นกับผม แล้วไอ้ลูกชายลุงที่ว่านั่นก็คือหมอนี่

ผมหันหลังเดินจ้ำๆ ไม่หันไปมองหน้าเขาอีก ผมจะหลบเขายังไงได้ตลอดในเมื่อเราต้องเจอกันเกือบ 24 ชั่วโมง โอ๊ย ปวดหมอง เอาไงดีวะ

จริงซิ ผมขอให้พี่มีนหาห้องพักพนักงานให้ และรีบ ๆ ย้ายออกจากบ้านพักดีกว่า เออเอาตามนั้นแหล่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องทำงานยังไง ๆ ก็คงจะพอถู ๆ ไถ ๆ ปิดหน้าปิดตาไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยหาทางว่าจะทำยังไงต่อดี






พอมาถึงบ้านพัก ก็เห็นกระเป๋า 4-5 ใบตั้งอยู่ที่ชานบ้าน ไอ้ผมที่กะว่าจะรีบ ๆ เผ่นเข้าห้อง ก็จะทำใจดำไม่ช่วยก็ไมได้ อีกอย่างเขาเป็นเจ้านายผมด้วย จึงเป็นความจำเป็นกลาย ๆ ที่ยังไงผมก็ต้องช่วยเขาขนกระเป๋าเข้าไปไว้ในห้องของเขา

เขายักคิ้วให้ผม และผายมือให้ผมเดินหิ้วกระเป๋า 2 ใบนำเข้าห้องไปก่อน แล้วเขาจึงหิ้วที่เหลือเดินตามเข้ามา

คริ๊ก

หือ

เสียงเหมือนประตูล็อกทำให้ผมหันกลับไปดูหลังจากวางกระเป๋าไว้ข้างเตียงแล้ว คุณซันที่วางกระเป๋าไว้หน้าประตูจ้องผมเขม็ง พร้อมทั้งก้าวเข้ามาช้า ๆ

“เอ่อ..ระ..เรียบ..ร้อยนะครับ.....ผมขอตัวครับ มีอะไรก็เรียกได้นะครับผมอยู่ห้องอีกด้าน”

พอผมจะก้าวไปที่ประตู เขาก็มายืนดักไว้ ผมเงยมองหน้าเขาอย่างไม่วางใจ แต่เขาไม่พูดอะไรยังคงก้าวเข้ามา จนผมต้องถอยหลัง ไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าน่องของผม ชนกับขอบเตียง

คุณซันค่อย ๆ โน้มตัวลงมา ทำผมใจเต้นยิ่งกว่าเดิม พร้อมกระซิบคำที่ทำให้ผม ยิ่งกว่าใจเต้น
“หนีไม่พ้นหรอกเมียจ๋า”


!!!!!!!!!!!
ขนลุกซู่ กว่าสติจะประมวลผลคำพูดที่ได้ยินได้ หันไปมองหน้าคุณซันอย่างตกใจ เขายิ้มร้าย ก่อนจะเอื้อมมือมาหมายจะจับตัวผม

แต่ผมไม่รอให้เขาถึงตัว รีบผลักเขาแล้ว วิ่งหนีออกจากห้อง แต่มันไม่เร็วพอ คุณซันจับแขนผมได้ แล้วรวบผมไว้ทั้งตัว จนเราสองคนเซล้มลงบนเตียง โดยที่ผมอยู่ข้างล่างและเขาคร่อมทับผมอยู่

แว่นตาหน้ากากหลุดกระจาย ไปคนละทิศละทาง หน้าของเราอยู่ใกล้กันแค่ปลายจมูกชนกัน เขายังคงยิ้มมุมปาก หน้าระรื่น

“ไอ้บ้า ลุกไปเลยนะ.....รู้มาตลอดซินะว่าเป็นผม”
“ฮ่าๆๆๆๆ คุณตลกอ่ะ ไปเอาไอ้แว่นตาพิลึก ๆ นี่มาจากไหน”

“รีบ ๆ ไม่รู้จะหาจากไหน เลยวิ่งไปหน้ารีสอร์ท ไปเอาจากร้านค้าแถวนั้นมาก่อน ตังก็ยังไม่ได้ไปจ่ายเขาเลย”
“ฮ่ะๆๆๆ” ไอ้คนขี้แกล้ง ยังหัวเราะชอบใจไม่เลิก ผมกัดปากมองเขาแบบเคือง ๆ แต่ก็ไม่เห็นเขาจะสำนึก แถมยังก้มลงมาหอมผมฟอดใหญ่ เรียกให้หน้าผมขึ้นสีด้วยความเขินอาย

“หนีผมมาทำไม หือ”
“...ไม่ได้หนี...ซักหน่อย...มาทำงาน..ต่างหาก...” แต่ตอนนี้กำลังหดคอหนี คนที่ไซร้ซอกคอไปพลาง กระซิบข้างหู ถามเสียงหวานจนใจเต้น ไม่เป็นจังหวะ

“ผมเป็นห่วงคุณมากเลยนะ ตอนตื่นมาไม่เห็นคุณ”
“..ห่วง..อะไร..ห่วงผม...ขโมยของคุณรึไง”

“ก็คุณขโมยไปจริง ๆ นี่นา”
“อย่ามาใส่ร้ายผมนะ คุณไปเช็คดูของคุณเลย ผมไปขโมยอะไรของคุณ ฮ่ะ”

“หัวใจผมไง ดูซิ ทำผมใจหาย ต้องรับผิดชอบดูแลหัวใจผมด้วย”
“เลี่ยน แหวะ” หน้าผมกำลังจะระเบิดแล้ว ถ้าเขายังไม่หยุด

“ไม่เชื่อเหรอว่าผมรักคุณ”
“ไม่เชื่อหรอก...คุณยังไม่รู้จักผมดีด้วยซ้ำ”

“นิสัยคุณผมอาจจะยังไม่รู้จัก แต่ตัวคุณน่ะ....ผมรู้จักทุกซอกทุกมุมแล้วล่ะ”
“บ้า” ยังจะไม่เลิกพูดให้ผมเขินเข้าไปอีก เลยแก้เขินด้วยการชกไปที่ไหล่เขาไม่แรงนัก เพราะชกไม่ถนัด ถ้าไม่งั้นผมอยากเสยคางเขาให้หงายเลย

เขาจับข้อมือผมทั้งสองข้างตรึงไว้กับที่นอน ก่อนที่จะก้มมาจูบผมแผ่ว ๆ ขบเบา ๆ ที่ริมฝีปากบน ผมขัดขืนเขานะ แต่ก็ไม่แข็งแรงพอที่จะปฏิเสธอารมณ์ที่ตอนนี้เริ่มจะกรุ่นขึ้นมา จากการจูบ ไซร้ และการโลมเล้าจากคุณซัน  เขาล้วงเข้ามาในเสื้อผม ที่หลุดลุ่ยออกจากกางเกงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มือหนาลูบไล้จากกลางหลังเรื่อยลงมาถึงร่องใต้กางเกง ทำผมเสียวจนต้องบิดตัวประท้วง ปากเราก็ยังไม่ผละจากกัน ยังคงจูบ แลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อือ...อือ..อ่า..”ผมครางเสียงสั่น เมื่อเขาปล่อยริมฝีปากผมให้เป็นอิสระ แล้วหันมาจัดการเลิกเสื้อผมขึ้นแล้วเลียหน้าอกสองข้างของผมอย่างหื่นกระหาย ตอนนี้ต้องบอกว่าอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปเรียบร้อยแล้วครับ

คุณซันอาศัยจังหวะเห็นผมระทวย ถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างไว ก่อนจะหันมาถอดกางเกงผมออกแล้วโยนไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ

พอเว้นช่วงสติก็เริ่มมา ยางอายก็เริ่มมาเช่นกัน เขามองผมตาเยิ้ม ทำให้ผมอายจนต้องเขยิบตัวหนี
“ไปไหน มานี่” แต่ก็ถูกคว้าตัวกลับมานอนใต้เขาอีกครั้ง เขาไม่รอช้าจับส่วนอ่อนไหวของผมที่เริ่มจะแข็งขืน จนตอนนี้ เริ่มจะทนไม่ไหว บิดกายร้องครางไม่เป็นภาษา กำลังเคลิ้ม ๆ เขาก็ดึงมือขวาผมให้ไปจับของเขาบ้าง....ครั้งก่อนไม่ได้มีสติเต็มร้อย จึงไม่ทันได้สังเกตว่า ของเขามันใหญ่จัง ชะโงกหน้าขึ้นมามองสิ่งที่อยู่ในมือ ก็ต้องอึ้งไป 5 วิ แล้วเลยชักกังวลว่า มันเคยเข้าไปแล้วจริง ๆ เหรอวะ กลัวอ่ะ

ความกลัวยังไม่ทันจาง เขาก็ยกขาซ้ายผมขึ้นสูง แล้วเริ่มลูบ ๆ ถู ๆ ช่องทางด้านหลังของผม
“อย่า ๆ ไม่เอา ไม่มีเจลเหรอ” แฮะๆๆ ไม่ได้ไม่เอานะครับ แต่อยากได้ตัวช่วย กลับเจ็บ
“มี แต่อยู่ในกระเป๋า.....ไม่รู้ใบไหนดิ”

“งั้นไว้คราวหน้านะ นะครับ” อ้อน ๆ เขาหน่อย ขอความเห็นใจ
“คราวที่แล้วในรถก็ไม่ได้ใช้ ยังเข้าไปได้เลย.....ถึงจะยากนิดนึง แต่ฟิตชิบ”

“.....” แม่งไม่อยากบรรยาย ก็ตอนนั้นมันมืด ตกใจด้วย กลัวด้วย เลยไม่ทันคิดเรื่องขนาด
“ถ้าจะให้รื้อกระเป๋าตอนนี้ผมคงขาดใจตายก่อน ขอนะครับ ผมจะอ่อนโยน จะทำให้คุณมีความสุข นะครับ”

“อื้อ...อื้อ...” ไอ้คนหน้าด้าน แหย่นิ้วเข้าปากให้ผมอม แล้วชักออก ก่อนจะก้มลงมาปิดปากที่กำลังจะประท้วงของผม มือนึงก็รูดรั้งให้ผมเสียวสะท้าน อีกมือก็ป้วนเปี้ยนอยู่ด้านหลัง ก่อนจะค่อย ๆ ส่งเรียวนิ้วนำร่องเข้าไปก่อน

“ที่รัก อย่าเกร็งครับ” พูดง่าย แต่ทำไม่ยาก ฮ่ะๆๆๆๆ ผมไม่ใช่หนุ่มน้อยไร้เดียงสา ผมผ่านเรื่องอย่างนี้มาแล้ว จึงรู้จังหวะ ผ่อนลมหายใจ จนเขาเริ่มส่งนิ้วตามเข้ามาอีกสอง

เขาคงเห็นว่าผมพร้อมแล้วจึงรูดของตัวเองเรียกความแข็งแกร่งก่อนจะถู ๆ ไถๆ เหมือนจะบอกให้ผมเตรียมใจ เสียวจนต้องขมิบ จากนั้นจึงจ่อลงตรงทางเข้า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้าไปโดยไม่มีตัวช่วย กว่าจะดันส่วนแรกผ่านเข้าไปผมก็เจ็บจนขาสั่น
“โอ๊ย...เจ็บอ่ะ..เบา ๆ อย่าเพิ่ง ๆ อ๊าห์” ทำเหมือนจะหยุดให้ผมหายใจหายคอ แต่ไม่เลยเขาอาศัยจังหวะผมผ่อนหายใจกดตัวเข้ามาจนมิด เจ็บชิบหาย ไอ้บ้า

“อ๊า...ซี๊ดดดด...อ่า..สุดยอด อย่ารีบตอดซิวะ กูไม่อยากเสร็จไว” เขาแช่ตัวอยู่จนเห็นว่าผมเกร็งน้อยลง แล้วเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ เนิบ ๆ

“อ๊าๆๆ เสียว อย่าเพิ่งขยับ อ๊ะ อ๊ะ” เสียวจนต้องหุบขา แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะติดร่างกายคนด้านบน เขาก็ช่างใจร้าย แยกขาผมออกได้ก็เริ่มซอยถี่ ๆ สั้นยาวเป็นจังหวะ ก่อนจะเริ่มเร็วขึ้นอีก แรงและลึกขึ้น จนผมหัวสั่นหัวคอน

เสียวจนขย้ำผ้าปูที่นอนมากัดไว้กลั้นเสียงที่น่าอายที่ยังคงครางจากลำคอเรื่อย ๆ จนถึงจุด ผมปลดปล่อยออกมาจนตัวหอบตัวโยน เขาหยุดมองผมที่นอนระทวย โดยที่ส่วนของเขายังคาอยู่ และไม่มีทีท่าจะอ่อนตัวเลย เขาช้อนตัวผมขึ้นนั่งคร่อมตักเขา จูบผมอย่างเร่าร้อน ผมโอบแขนรอบคอเขา ด้วยความเสียวซ่าน แต่ก็ต้องครางไม่เป็นภาษาอีกครั้งเมื่อเขากระเด้งตัวแทรกลึกเข้ามาให้ผมต้องเด้งตัวสั่นอยู่บนตักเขา

“ซี๊ดดด..อาร์..ซี๊ดด ดีไหมเต้ ชอบไหมครับ”
“..อึก..อ่า..ดีๆ..ครับ ลึกจังเลย...ชอบครับ...อ๊ะๆๆๆ”



เราทำกันจนถึงฝั่งอีกหลายรอบจนหมดแรง นอนกอดก่ายกันทั้ง ๆ สารพัดคราบ บนที่นอน ผมซบอยู่ที่หน้าอกของคุณซัน ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นดังมาก

เรานอนคลอเคลียกันอีกซักพัก จึงลุกขึ้นมาช่วยกันอาบน้ำชำระร่างกายกันและกัน หลังจากนั้นคุณซันโทรให้พนักงานเอาอาหารค่ำมาส่งให้ที่บ้านพัก ส่วนผมก็พยายามเก็บเศษซาก ที่เราสองคนก่อขึ้น ผมกะว่าจะแอบ ๆ เอาไปไว้ที่ห้องซักรีด ไม่อยากให้รู้ว่ามาจากบ้านพัก อายเขาตายเลย

พอเก็บกวาดเสร็จ เดินออกมาก็พบว่าทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ได้ถูกลำเลียงมาวางที่โต๊ะที่ระเบียงเรียบร้อยแล้ว คุณซันนั่งจิบไวน์แดงหันมองไปทางทะเล แต่พอได้ยินเสียงผมเดินออกมา เขายื่นมือมาให้ผม ถึงผมจะผ่านเรื่องอย่างว่า แต่ก็ยังรู้สึกเขินเขาไม่น้อย จึงไม่ส่งมือให้เขา จะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามเขาแทน แต่เขาก็คว้าข้อมือผมแล้วดึงผมให้เซลงไปนั่งบนตักเขา
“โอ๊ย เจ็บนะ” เจ็บทั้งข้อมือ เจ็บทั้งก้น ไอ้บ้าเบา ๆ มือหน่อยก็ไม่ได้
“อ่ะ ขอโทษ ๆ คุณนะดื้อ ก็ผมบอกให้มานั่งนี่ก็ไม่มา ผมก็ดึงซิ ฮึๆๆ”

ผมงี้รับมือเขาแทบไม่ทัน เจอกันครั้งแรกสุภาพ มีน้ำใจ ยังกับคุณชายจุฑาเทพ เจอกันอีกที ทั้งฉุดกระชากลากถู ยังกับในหนังพิศาล แล้วดูเขาตอนนี้ซิ ยิ้มหวาน พูดคำหวาน จนผมแทบละลาย ตกลงเขาจะเอายังไงกับผมกันแน่

กว่าเขาจะปล่อยให้ผมได้นั่งกินข้าวดี ๆ ก็นัวเนียกันอยู่ซักพัก ร้อนหน้าร้อนร่างไปหมดแล้ว
“ไม่ทำแล้วนะครับ คุณซัน ไอ้ที่เพิ่งทำกันไปก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะไปทำงานไหวหรือเปล่า”
“หือ นั่นนะชดเชยที่หนีผมมา บวกดอกเบี้ยนิดหน่อย แต่ถ้าคุณไม่ไหว พรุ่งนี้ก็หยุดพัก ไม่ต้องไปทำงานหรอก”

“เฮ้ย จะหยุดได้ยังไง บ้าเหรอ” หันขวับมองหน้าคน ที่พูดอะไรเหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ
“ผมให้คุณหยุด ใครจะกล้าว่าอะไร”

“บ้าอำนาจ”
“ฮ่ะๆๆ ตกลงยอมเป็นแฟนผมแล้วนะ”

“ไม่อ่ะ ไม่เอา” ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย เรื่องนี้ ถึงผมจะรู้สึกดี ๆ กับเขา แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากผูกมัดกับใคร
“อะไรกัน ทำไมละครับ ยังไงผมก็ไม่ยอมหรอกนะ”

“มันเรื่องของคุณ ผมมาทำงาน ไม่อยากมีปัญหา”
“ปัญหาอะไรของคุณ”

“เฮ้อ....ข้อที่ 1 เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ข้อที่ 2 คุณเป็นเจ้านายผม ข้อที่ 3 ทางบ้านเราไม่ปลื้มหรอก” ถอนหายใจในความดื้อด้านของเขา ถ้ามีเวลาจริง ๆ ผมว่าผมหาข้อปัญหาได้มากกว่านี้อีกนะ
“ฮึๆๆ อากู๋คุณเขารู้แล้วนะเรื่องที่คุณเป็นเกย์”

“ห๊า” ผมร้องเสียงหลง ด้วยความตกใจ
“เฮ้ ไม่ต้องตกใจ ท่าน โอเค ที่อยู่คุณผมก็ได้มาจากท่านนั่นแหล่ะ หวังพึ่งเฮียตง แต่ก็คงเพราะคุณละซิ ที่ไม่ให้เขาบอกผม”

อดจะทึ่งเขาไม่ได้ ไม่เคยมีแฟน หรือเพื่อนคนไหนของผมที่กล้าเข้าไปหาอากู๋เลย เพราะกู๋จะตัวใหญ่ และดูดุมาก ทั้งกู๋ยังไม่ชอบให้ผมกลับดึก ๆ บางทีเพื่อน ๆ มาส่งที่ร้าน ก็จะถูกกู๋ซักซะจนเกือบจะร้องไห้กลับไปแทบไม่ทัน

“เอ้าๆ ไม่ต้องอึ้งขนาดนั้น ผมชอบท่านนะ ท่านเป็นคนตรง ๆ ดี แล้วผมจะบอกนะว่าปัญหาของคุณนะ เรื่องที่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่น่ะนะ แล้วยังไงล่ะ มันเปลี่ยนแปลงอะไรได้เหรอ หือ ส่วนที่ผมมาเป็นเจ้านายคุณ เราก็ไม่รู้กันมาก่อนใช่ไหม และสุดท้ายครอบครัวคุณ โอเค ครอบครัวผมก็ไม่ต้องห่วง ผมจัดการได้ ไง หมดปัญหารึยัง”

“แต่...”
“ไม่ต้องมีแต่ หรือว่ายังอาลัยอาวรณ์ไอ้เพชรมันอีก ห๊ะ” เขาพูดเสียงแข็งขึ้น อย่างคนเสียอารมณ์

“...ไม่..ไม่ได้คิดอะไรแล้ว”
“ดี ไม่ต้องคิดแล้ว มันเพิ่งจะแต่งงานไม่นานนี่เอง ได้ยินว่าที่ต้องรีบ เพราะไอ้ปันมันท้อง”

“.....” หัวใจเจ็บแปล๊บนิดนึง เมื่อคิดถึงว่าเขาสองคน ร่วมหลอมร่างกันจนมีอีกหนึ่งชีวิต กำเนิดขึ้นมา แต่ก็ดีแล้วที่ผมถอยออกมาก่อน ที่จะต้องมานั่งเสียใจ ว่าเป็นหนึ่งในปัญหาของเด็กคนนั้นในอนาคต

“หึ ทำไม เสียใจมากเหรอ”
“เปล่า...ก็..คิดอะไร..นิดหน่อย ก็ขออวยพรให้เขาทั้งสองคนครองคู่กันอย่างมีความสุข”

“ประชด?”
“ไม่ได้ประชด เลิกกันแล้ว ไม่คิดอะไรแล้วล่ะ” หมั่นใส้ไอ้หน้าตายียวน และน้ำเสียงกวนทีนนั่นจริง ๆ

“งั้นก็ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยอมเป็นแฟนผมแล้วใช่ไหม”
“....” กำลังหาเหตุผลอยู่

“เว้ย จะคิดอะไรมาก ไม่ตกลงก็เตรียมตัวรับศึกหนัก ไม่ต้องนอนกันเลย พรุ่งนี้ก็ไม่ให้ไปทำงาน”
“เฮ้ยๆ อะไรกัน คนบ้า ไอ้คนเผด็จการ”

“ฟอดดดด...เพราะรักหรอกนะเมียจ๋า” คุณซันรวบตัวผมจากด้านหลัง เอาคางมาวางทีไหล่ หอมแก้มผมฟอดใหญ่ และไม่วายพูดให้ผมเขินแก้มแทบแตก ทำอะไรไม่ถูกจนต้องยอมตอบตกลง ก็จะไม่ให้ตอบตกลงได้ไง ยังไม่อยากทำแฮททริกนี่นา

“แต่เวลาอยู่ในรีสอร์ท อย่าทำเป็นรู้จักกันนะ”
“คู๊นนนน เขารู้กันทั้งรีสอร์ทว่าเราพักอยู่บ้านพักเดียวกัน ทำเป็นไม่รู้จักกันมันไม่ตลกเหรอ”

“เออจริงแฮะ.....แต่...แต่ก็อย่าแสดงท่าทีเป็นคนรักกันต่อหน้าคนอื่นนะ”
“เรื่องมาก ไม่รับปากอะไรทั้งนั้น อย่าให้ไอ้หน้าไหมมาเกาะแกะล่ะ ไม่งั้นไม่เอามันไว้แน่”

“ไม่มีหรอก”
“แล้วไอ้เด็กเลาะห์ เมื่อตอนเที่ยงล่ะ เห็นหัวร่อต่อกระซิก กับมันอยู่นี่ อยากกินเด็กเหรอ”

“ไอ้บ้า ไม่เคยคิดเว้ย แค่เพื่อน ๆ กัน”
“เพื่อนก็ไม่ได้ จำเอาไว้”

“....” ตอนนี้มีอยู่คำเดียวผุดขึ้นมาในหัว ไอ้บ้า




(จบตอนล่ะ) เม้นคนละนิด จิตแจ่มใส เม้นวันละหน่อย ค่อยสบายใจ อิ๊ๆๆ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ยังติดตามอยู่นะคาบบบบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอบคุณคุณ maew189870 นะค่ะ แค่ทักมานิดก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย  :-[
สำหรับกำลังใจแอบ ๆ ก็ติดตามกันต่อไปนะค่ะ  :mew1:
ส่วนใครเป็นพืช ก็ขอให้สุขสันต์วันพืชมงคลนะค่ะ  :bye2:

*******************************************************


ตอนที่ 21 Watch your back







“เต้ ๆ จ๊ะ ค่ากับข้าวที่ป้า มาขอเบิกได้รึยัง นี่เงินที่ไห้ไว้จะไม่พออาทิตย์หน้าแล้วนะ”
“เอ๋ ป้านวลส่งใบเบิกมาแล้วเหรอครับ”

“ส่งแล้วซิตั้งแต่เมื่อ สองวันก่อนไง”
“แต่ป้า ผมยังไม่เห็นเลย ป้าให้ผมตอนไหนอ่ะครับ”

“เปล่า ป้าไม่ได้ส่งให้เต้โดยตรง ป้าฝากคุณวัชรไว้”
“...อ้อ ครับ งั้นผมจะจัดการให้เร็ว ๆ นะครับ” สะอึกเลยครับ ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมว่าพี่วัชร เขามีปัญหากับผมนะ เพราะช่วงหลัง ๆ ผมทำงานผิดพลาดให้พี่มีน ต้องบ่นอยู่เรื่อย ๆ แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ความผิดของผมเลยนะครับ เพราะเอกสารบางตัวผมก็หายบ้าง ได้รับช้าบ้าง โดยแต่ล่ะครั้งจะมีพี่วัชร และพวกพนักงานบางคนเป็นต้นเหตุของเรื่องเสมอ ผมไม่เคยแก้ตัวกับพี่มีน แต่พยายามระมัดระวังตัวเองแทน

ผมไม่ได้คิดมากไปเองแน่ และผมก็พอจะรู้สาเหตุที่บางคนไม่ชอบผม นั่นไงพูดถึงก็มาพอดี

“สวัสดีค่ะ น้องเต้”
“สวัสดีครับ นายหญิง”

“เรียกป้าก็ได้จ้า แล้ววันนี้งานยุ่งไหม” แหะ ๆ ท่านก็พูดง่ายนะครับ แต่จะให้ผมเรียกนี่ไม่ง่ายนะครับ
“เอ่อก็นิดหน่อยครับ มีอะไรจะให้ผมรับใช้เหรอครับ”

“อ้อ ไม่มีจ๊ะ แค่อยากหาเพื่อนคุยนะ เพราะลุงเขาไปสัมมนาที่ภูเก็ต”
“เอ่อ...” อยากถามท่านจริง ๆ ครับ ว่าทำไมต้องเป็นผมด้วยครับ

“อ่อ ไม่เป็นไรจ๊ะ ใครจะอยากมานั่งคุยกับคนแก่ ๆ “ เฮ้อ มามุกนี้ตลอด จะปฏิเสธก็คงไม่ได้ล่ะ
“เอ่อ มิได้ครับ ขอผมสะสางงานช่วงเช้านะครับ แล้วช่วงบ่ายผมจะไปคุยด้วยครับ”

“ก็ได้จ๊ะ ป้าได้ครีมตัวใหม่มาจากเพื่อนที่ญี่ปุ่น เห็นเขาว่ากำลังดังเลย”
“...ครับ”

“อ่ะ ไม่กวนล่ะ อย่าลืมนัดนะ”
“ครับ” เอ่อ นายหญิงครับ ผมไม่ถนัดเรื่องครีม เครือม อะไรทั้งนั้นครับ ไม่เคยใช้ ห๊า ว่าผมโม้เหรอ จริ๊ง จริง หน้าใส ๆ ที่เห็นกันทุกวันนี้ก็แค่โฟมล้างหน้า กับครีมบำรุงผิวราคาย่อมเยา ตามท้องตลาดนั่นเอง ขอโทษนะครับคนมันผิวดี (หลงตัวเอง)

นี่แหล่ะครับหนึ่งในต้นเรื่องที่ทำให้หลายคนไม่ชอบขี้หน้าผม ก็ตั้งแต่ลุงแล้ว ว่างไม่ได้ชวนผมดื่มชา กินขนมตลอด ส่วนคุณป้า ท่านก็เหมือนจะไม่ค่อยคุยในทีแรก แต่พอได้คุยกันซักพัก ท่านก็ชมว่าผมหน้าใส เรื่องเลยลามไปถึง เครื่องสำอางที่ใช้บ้างล่ะ วิธีดูแลผิวหน้าบ้างล่ะ ผมก็ได้แต่อือ ๆ อาๆ กับท่านไป

แต่ใจจริงแล้วผมชอบมากเลยที่ได้คุยกับคุณป้า ท่านเป็นคนสวย พูดจาหวาน ๆ ใบหน้าอ่อนโยน ทำให้อดจะมโนถึง แม่ของผมไม่ได้ ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ผมก็อยากจะได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่อย่างนี้บ้าง แค่นั่งมองท่านพูดคุย ได้ดูสีหน้าของท่านมันก็ทำให้ผมเป็นสุขใจมากมาย






“พี่เต้ “
“อ้าว ว่าไงเลาะห์ มีใครจะเบิกอะไรเหรอครับ”

“เปล่า ๆ ผมได้ยินป้านวลบอกเบิกได้เงินช้า จริงเหรอ พวกนั้นอีกแล้วเหรอพี่”
“อือ แต่ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง”

“ไม่ต้องห่วงบ้าซิพี่ เดือนนี้กี่ครั้งแล้ว เดี๋ยวก็เอกสารหาย เดี๋ยวก็ส่งให้ช้าบ้างลืมบ้าง มันจะเกินไปไหมพี่ ทำไมพี่ไม่บอกคุณมีน หรือคุณซันล่ะ”
“เฮ้ย ใจเย็นเลาะห์ พี่โอเค ๆ ไม่อยากกวนพี่มีน และอีกอย่างเราไม่มีหลักฐานด้วย”

“น่าเจ็บใจพวกขี้อิจฉาจริง ๆ ชอบเล่นลอบกัดตลอด”
“เออ ๆ ขอบใจที่เป็นห่วงพี่ ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวแขกรอบค่ำก็จะมากันแล้ว ไว้ถ้าพี่ไม่ติดอะไร เดี๋ยวพี่ไปช่วย”

“ครับพี่เต้ ไปล่ะครับ”

ฮู้ย ดีนะคุณซันไม่อยู่ ไม่งั้นล่ะผมไม่อยากจะคิด หึงอะไรไม่เข้าท่า ขนาดคนสวนมาเบิกเงินผม เขายังจ้องซะจนลุงคนสวนกลัวจนตัวเกร็งเลย  บ้าไปแล้ว






“เต้ เอกสารจัดซื้อ ไม่ต้องดูแล้วนะ พี่จะดูแลเอง”
“เอ่อ ...แต่พี่มีนบอกว่า”

“พูดไม่เข้าใจเหรอ พี่บอกว่าพี่จะดูแลเอง แล้วไม่ต้องอ้างชื่อคุณมีน พี่บอกยังไงก็ทำตามก็พอ”
“......ครับ งั้นผม เอาตั้งไว้ตรงนี้นะครับ”

“อือ”
“...”







เลิกงานผมก็หาอะไรรองท้องก่อนกลับมาที่บ้านพัก อารมณ์ขุ่นมัวจากที่ทำงาน ค่อย ๆ คลายลง เมื่อได้เห็นตัวอาคารบ้านพัก ไม่รู้เป็นไง มองทีไรผมก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด  ไม่ใช่เพราะว่ามีคุณซันอยู่ด้วย แต่มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว รู้สึกเหมือนมีอ้อมกอดอบอุ่น อ่อนโยน เป็นบรรยากาศอยู่รอบ ๆ ตัว

เดินมานั่งหน้าระเบียง วันนี้ไม่ได้พกงานอะไรกลับมาทำ เพราะเพิ่งถูกแย่งงานไป ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน จะโต้ตอบก็ทำได้ยาก เพราะพี่วัชรเขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ผมเพิ่งรู้จากเลาะห์ ว่าเมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนแบบนี้ แต่หลัง ๆ นี้ไม่รู้เขาเป็นอะไร หน้าตาเคร่งขรึม ไม่ค่อยพูดจาเล่นหัว เหมือนแต่ก่อน และเริ่มมีพนักงานบางส่วนที่ต้องลาออกไป เพราะเขาไม่พอใจ และคนใหม่ ๆ ที่เข้ามาก็เป็นคนที่เขาหามาเองทั้งสิ้น เลาะห์เล่าอีกว่า คนพวกนั้นขี้เกียจ ทำงานเอาหน้าเวลานายมาเท่านั้น พวกที่ทำก็ทำกันไป ไม่มีใครอยากยุ่งเพราะไม่อยากมีปัญหากับพี่วัชร

เฮ้อ ผมเองก็ไม่อยากมีปัญหากับเขาเช่นกัน แต่ก็คงต้องระวังตัวไว้บ้าง เพราะตั้งแต่ที่ผมทักเขาเรื่องของที่ส่งมาไม่ตรงตามใบเสร็จ ทำให้ผมแทบไม่เคยได้นับสต็อกอีกเลย พี่วัชร จะให้คนงานบางส่วนมาทำแทน และมักจะทำกันโดยไม่มีใครรู้เห็นเป็นพยาน

เคยเปรย ๆ กับพี่มีนเรื่องความน่าไว้วางใจของพี่วัชร ก็ได้รับคำตอบกลับมาเป็นสีหน้าและแววตาที่บอกว่าพี่วัชรเป็นคนที่ทำงานดี ไว้ใจได้ มีอะไรก็ให้ปรึกษาพี่วัชรได้โดยตรง ไม่ต้องรอพี่เขาก็ได้ เลยเหมือนน้ำท่วมปาก พูดอะไรออกไปก็อาจจะเข้าตัว จึงได้แต่เงียบไว้ และเริ่มระวังตัวเอง แต่ก็ไม่วายโดนเล่นงานหลายครั้งแล้ว

ไม่ใช่แต่เรื่องในห้องบัญชี ขนาดในรีสอร์ท บางทีก็ถูกชน ถูกขัดขา แถมยังหาว่าผมเป็นคนผิดอีก ดีว่าได้พวกในครัวและห้องอาหาร รวมถึงพวกแม่บ้านบางคน ช่วยไว้ จึงไม่เคยเป็นเรื่องใหญ่โต จนต้องถึงหูนาย


เวลาเหนื่อย ๆ ล้า ๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าได้พูดคุยกับคนที่รัก
“หวัดดีครับกู๋ สบายดีไหมครับ”
#สบายดี ๆ แล้วลื้อล่ะ งานยุ่งมากไหม เสียงเนือย ๆ นะ#

“เอ่อ ก็ดีครับ งานยุ่งนิดหน่อยครับ หน้าไฮท์แล้ว แขกเข้ามาพักเยอะเลย แล้วที่ร้านเป็นไงบ้างครับ”
#โอ๊ย ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ ดีว่าได้หลานอาหมูอีมาช่วย อาตงอีเลยสบายขึ้น เห็นอีบ่น ๆ ว่าอยากลองไปหาประสบการณ์ร้านอื่นดูบ้าง เผื่อเอามาใช้ในร้านได้ เอ่อของแห้งที่ลื้อส่งมาให้น่ะ ดีมากเลยนะ อร่อยดี ลูกค้าชอบกันทุกคน#

“ไว้ถ้าหมดแล้วกู๋บอกผมล่วงหน้านะ ผมจะสั่งเขาทำให้ใหม่ๆ เลย”
#ดี ๆ...แล้วไอ้หนุ่มนั่นล่ะ...อีดีกับลื้อไหม...#

“....กู๋...คือ คือว่าเรา เอ่อ ผม..”
#เฮ้อ อึก ๆ อัก ๆ อะไรกัน ยังไงชีวิตก็เป็นของลื้อ อยากทำอะไร อยากเป็นอะไรก็ ทำเถอะ ไม่ใช่อั๊วไม่รู้นา ก็หน้าตาอย่างลื้อน่ะ ไม่พ้นมีแต่ผู้ชายมาจีบทั้งนั้น ไอ้พวกลูกค้าที่มาที่ร้านมันถามหาลื้อกันให้จ้าละหวั่นไปหมด ฮ่ะๆๆๆ#

ได้ยินอากู๋หัวเราะได้ก็สบายใจขึ้น รู้สึกดีใจมาก ที่อากู๋ยอมรับความเป็นตัวตนของผมได้ แต่บอกตามตรง ผมว่าผมก็ไม่ได้สาวแตกอะไรนะ ทำไมอากู๋ถึงคิดว่าคนอย่างผมจะต้องมีแฟนเป็นผู้ชายด้วย ไม่เข้าใจ (เหรอ)

หลังจากนั้นก็คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงเรียกของโกหมู แกจึงต้องวาง ทุ่มนึงแล้ว เป็นเวลาที่มีลูกค้าเข้ามาทานอาหารเยอะที่สุด อยากคุยต่อแต่ก็คงต้องปล่อยกู๋ไปดูแลร้านต่อ






“คุยโทรศัพท์กับใครน่ะ”
“คุณซัน” ตกใจหมดอยู่ดี ๆ ก็มายืนข้าง ๆ มัวแต่คุยเลยไม่ทันเห็น

“ถามว่าคุยกับใคร ไหนเอาดูซิ ผู้ชายรึเปล่า”
“...ผู้ชาย ..รักมากด้วย” เห็นเขาจ้องเขม็ง ถามไม่ถามเปล่า จะพยายามแย่งโทรศัพท์ผมให้ได้ แล้วเลยอยากแกล้งเขาด้วยความหมั่นใส้

“พูดอย่างนี้ คืนนี้มึงไม่ต้องนอนแน่”
“เฮ้ย บ้า เค้าพูดเล่น นี่ไง ๆ ดูดิ คุยกับอากู๋” ได้ยินคำขู่นี่ เลี้ยวกลับเกือบไม่ทัน ต้องรีบ ๆ ส่งโทรศัพท์ให้ดู

“อ้อ แล้วไป อย่าให้จับได้นะว่าซุกกิ๊ก มึงตายแน่”
“อ่า ครับ โหดกันเข้าไป คำก็ตาย สองคำก็ไม่รอด”

“กูต่างหากที่จะไม่รอด ฟอด”
“ฮ่ะๆๆ ไม่เอา ๆ เพิ่งกลับมาถึงเหรอ กินอะไรมารึยัง” อดจะใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเขาถึงเนื้อถึงตัว ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย เริ่มหลงเขาแล้วซิเรา

“ซักพักแล้ว เพิ่งส่งรายงานให้พี่มีนดูเลยมาช้า แล้วก็เลยหาอะไรกินก่อนจะกลับมานี่แหล่ะ”
“ท่าทางเหนื่อยนะ ประชุมเครียดเหรอ”

“อือ ก็หลายเรื่อง พี่มีนเขาอยากจะขยายห้องพักเพิ่ม คงต้องหาพนักงานเพิ่มหลายตำแหน่ง”
“เหรอ งั้นมานั่งนี่มา เดี๋ยวจะนวดให้”

“นวดเป็นเหรอ”
“...ก็...นวด ๆ ไปอย่างนั้นแหล่ะ” เกือบหลุดไปแล้วว่าเคยนวดให้เพชร

“พรุ่งนี้วันหยุดไปลองเรือยอร์ชลำใหม่กันไหม พี่มีนสั่งให้กัปตันไปลองเครื่อง แต่ผมขับได้ เราไปกันสองคนนะครับ”
“ไม่ต้องมาครับ มาเคิบ ทำอย่างกับผมมีทางปฏิเสธได้งั้นแหล่ะ”

“เอ่อ เมียกูพูดเพราะก็บ่น พูดหยาบก็ว่า”
“เฮ้อ เลิกเรียกอย่างนั้นเถอะ รับสถานภาพไม่ได้”

“ฮึ งั้นเดี๋ยวกูย้ำสถานภาพเมียให้ เดี๋ยวมึงก็รับได้เองแหล่ะ”
“ไอ้บ้า ไปเลยไปอาบน้ำเลย”

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
สนุกมากครับ อ่านรวเดียวถึงตอนล่าสุดเลย

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
หวานขนาดนี้ไม่อยากนึกถึงมาม่าชามใหญ่เล๊ยยยยยย!!!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
มาทีเดียวยาวเลย ขอบคุณมากค่ะ
สารภาพว่าเห็นชื่อตอนแรก เอ๊ะ คุ้นๆนะ 5555
ซันหวานเชียว เห็นแบบนี้แล้วชื่นใจค่ะ
แต่สังหรณ์ว่าเพชรกับนังเมียคงจะมีการโคจรกลับมาก่อกรรมทำเวรอีกแน่ๆ
แต่ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนนะ
คนเก่าคนแก่นี่บ่อยครั้งตัวปัญหาเลยแหละเพราะว่าเป็นเจ้าที่สิงสถิตย์อยู่มานาน

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอโทษนะ  :mew6: หายหน้าไปนานเลย ติด Love sick อ่ะ ดูไม่พอ เม้าส์มอยกับเพื่อน ๆ อีกต่างหาก
ได้มีโอกาสไปเจอหน้านักแสดงบางคนมาแล้วด้วย บวกกับปัญหาส่วนตัว ที่เกือบจะต้องระเห็จหาที่อยู่ใหม่อีก
แต่ตอนนี้ ก็ผ่านไปได้ บ้างแล้ว (ก็ยังคงมีเรื่องบางเรื่อง) แต่ก็ถือว่าดีขึ้นแล้ว
ไม่เอาล่ะ มาว่ากันด้วยเรื่องราวของ ซัน กับเต้ ก้นดีกว่า เรื่องราวดำเนินมาครึ่งทางแล่ะ
มาลุ้นกันต่อดีกว่า  :bye2:

**********************************************************


ตอนที่ 22 Sweet sea or bitter

“อรุณสวัสดิ์ครับกัปตัน”
“อ้อหวัดดีครับน้องเต้”

“กำลังเตรียมเรืออยู่เหรอครับ”
“ครับ คุณซันบอกจะลองขับเอง ฮ่ะๆๆๆ แย่งงานผมอย่างงี้ผมก็ว่างนะซิ”

พอตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นคนขี้แกล้งเมื่อคืนแล้ว คงไปหาพี่มีนก่อน ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เลยเดินมารอที่ท่าเรือ มองเห็นกัปตันกำลังเช็คสภาพเรือ เติมน้ำมัน และน้ำ พร้อมทั้งอาหารและเครื่องดื่มขนขึ้นไปไว้ในเรือ เรือยอร์ชสีขาวสะอาดตา จอดอวดความสง่างามอยู่ที่ปลายท่า ทั้งชีวิต ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสขึ้นเรือหรู ราคาหลายสิบล้านอย่างนี้เลย อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบไล้ความเงางามที่เหมือนมายานี้

“อ้าวพี่เต้ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ มาทำไรแถวนี้อ่ะ”
“อ้อ คือ...พอดีคุณซันเขาจะไปลองเรือ เลยชวนพี่ไปด้วยนะครับ” ตกใจหมดไม่คิดว่าจะมาเจอเลาะห์ ซึ่งเสร็จจากขนของขึ้นเรือออกมาพอดี

“..เหรอครับ” อดจะรู้สึกว่าเลาะห์ อาจจะสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับคุณซัน จนเผลอหลบสายตา
“ก็ คือ จริง ๆ พี่ขอไปเองล่ะ ก็เรือยอร์ชเชียวนะ ชาตินี้ไม่รู้จะมีวาสนาได้ขึ้นซักครั้งไหมก็ไม่รู้ ฮ่ะๆๆ” ทำเป็นตลกกลบเกลื่อน

“พี่ ใกล้ข้างขึ้นแล้ว พวกผมจะไปตกหมึกกัน ไปด้วยกันนะ”
“เอ่อ..ตกหมึกเหรอ ก็ดี..”

“เต้ ไปได้แล้ว..” เหวอเลย ยังไม่ทันจะตอบเลาะห์ดี คุณซันก็ไม่รู้โผล่มาจากไหน ฉุดแขนแล้วลากผมขึ้นเรือไปต่อหน้าต่อตา ทั้งเลาะห์และกัปตัน ที่มองมาอย่างงง ๆ เฮ้อ เอาเลย เอาที่คุณสบายใจเลย คุณซัน

กัปตันตัวปลอม ลงมาก็เช็คสภาพ และตรวจสอบอะไรของเขาซักพัก ก็เริ่มนำเรือออกจากท่า
“เอ่อ คุณซัน แล้วคนอื่นล่ะครับ”
“ใคร?” เอ๊ะ ถามดี ๆ ทำไมต้องเสียงดังด้วย

“ก็กัปตัน หรือเด็กเรือ...”

“ไม่มีหรอก มีแค่เราสองคนนี่แหล่ะ
“อ้าว แล้ว..”

“แล้วอะไร อยากให้ใครมาด้วยรึไงครับ”
“เปล่านี่ แค่สงสัย ว่าทำไมมีแค่เราสองคน”

“มึงนี่ โง่หรือแกล้งโง่กันว้า”
“อ้าว ไหงมาว่ากันอย่างนี้ล่ะ” ไอ้คนบ้าอำนาจนี่ อยู่ ๆ มาด่ากันเฉยเลย เดือดซิครับ

แต่คนที่กำลังถูกด่าในใจชะลอเครื่องยนต์ จนมันสงบลอยลำนิ่ง ๆ แล้วเดินย่างสามขุมเข้ามาหา อดจะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ กำลังจะลุกหนี แต่ก็ไม่ทัน โดนคนตรงหน้าเอามือค้ำพนัก กักไว้ทั้งสองด้าน แล้วก้มหน้าลงมาใกล้จนรู้สึกได้ถึงกลิ่นกาย และลมหายใจอุ่นระริน รู้สึกหน้าร้อนไปหมด

“ก็แค่อยากจะมาเดทด้วยกันก็เท่านั้น”
“ก็ไม่บอกนี่ บอกแค่จะมาลองเรือ ๆ ใครจะไปรู้...” หน้าที่ร้อนอยู่แล้วนี่แทบระเบิดเลย เมื่อใบหน้าคมก้มลงมาใกล้ จนจมูกเราสัมผัสกัน อยากหลบสายตาแต่ก็ไม่สามารถทำได้

“ก็อยากให้ประหลาดใจนี่นา”
“งั้นก็ยินดีด้วย ประหลาดใจมากกกกกเลย”

“มาลองขับเรือดูไหม”
“เฮ้ย ไม่เอา กลัว ไม่กล้า” ใครจะกล้า พลาดไปทำเรือเขาพัง หรือเป็นรอย ได้ทำงานชดใช้หัวโต

“มาเถอะ มา ผมจะช่วยจับให้”
“อื่อ ไม่ๆๆๆ”

ดิ้นไปก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็โดนลากไปประจำที่ มือสองข้างของผมจับที่พังงา (พวงมาลัยเรือ) โดยมีมือของคุณซันจับไว้อีกที เขาที่ยืนซ้อนหลังผม เอาคางมาเกยที่ไหล่ และพร่ำบอกให้ผมดูหน้าปัดที่เต็มไปด้วยเข็ม และตัวเลขต่าง ๆ มากมาย อยากบอกว่ามันไม่เข้าหูซักคำก็เพราะ ร่างกายร้อนผ่าวของเขาแทบจะแนบสนิทกับด้านหลังผมเลยก็ว่าได้ ปากที่พูดไปพลาง จมูกก็ไซร้ตามซอกคอ กกหู ให้รู้สึกวาบหวาม จั๊กกะจี้จนต้องหดคอหนี

“เห็นม่ะ ไม่ยากใช่ไหมครับ”
“...ไม่...คือ มันจะง่ายกว่านี้ ถ้า....”

“ถ้าอะไรครับ หือ”
“ถ้าคุณจะเลิกเอาไอ้นั้นมาจ่อเอวผมซะที ไอ้หื่น”

“ฮ่ะๆๆๆ สงสัยต้องหาที่จอดเรือลงเกาะแล้วล่ะ” คนบ้ายังมีหน้ามาหัวเราะ หน้าระรื่นอีก ผมงี้หน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว

“ไม่ต้องเลย ไอ้บ้ารู้นะคิดอะไรอยู่”

“อ้าว รู้ทันซะนี่ แต่ก็ไม่เคยรู้เลยนะว่าชอบแบบนี้มากกว่า”
“??? อะไรอ่ะ...”

“ก็ ไม่จอดลงเกาะ งั้นก็ทำกันบนเรือนี่แหล่ะ”
“เฮ้ย ไอ้บ้า เมื่อคืนก็ทำไปแล้ว จะมาอยากอะไรอีก”

“เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืนซิ นี่ไงเปลี่ยนบรรยากาศด้วย”
“ไม่เอา อย่านะ อ๊า คุณซัน คุณซัน ไอ้ซัน”

หมดล่ะไม่ต้องสุภาพกันแล้ว ก็คนผีทะเลอุ้มผมตัวลอย พาดบ่า พาเข้าไปในห้องนอนด้านใน ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นอีกครั้ง










บทรักร้อนแรง และดุเดือดจบไปแล้ว เราสองคนนอนเปลือยกาย กอดก่ายกันบนที่นอน ผมนอนซบหน้ากับอกแกร่งของเขา มือของเราสองคนยังคงลูบไล้ผิวกายของกันและกัน ความรู้สึกยังคงร้อนผ่าว ในทุกสัมผัสที่พาดผ่าน

“เต้ครับ คุณมีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“ปัญหาอะไรครับ”

“ก็อย่างปัญหาที่ทำงานอะไรอย่างนี้ไง”
“....”
“ผมไม่ได้ตาบอด หูหนวกนะ ผมได้ยินพวกแม่บ้านเขาคุยกัน”
“โอ ระดับคุณซันก็เข้าสมาคมแม่บ้านด้วยเหรอครับ ฮึๆๆ”

“อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ตกลงมันจริงใช่ไหม ที่คุณถูกใครบางคนแกล้งอยุ่”
“...ก็...ผมไม่แน่ใจ บางทีผมอาจจะลืม หรือผิดพลาดไปเอง”

“เฮ้อ ไม่ว่ามีเรื่องอะไร หรือจะยังไงผมจะปกป้องคุณเอง มีอะไรคุณต้องบอกผมตรง ๆ นะ”
“..อือ ครับ ขอบคุณครับ”

จบคำเขาจูบผมที่ขมับอย่างแผ่วเบา แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยกับผมมาก  ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกถูกปกป้องอย่างนี้มาก่อนเลย เขาเป็นคนแรก และคนเดียวที่มอบสิ่งที่ผมไม่เคยมี ไม่เคยได้จากที่ไหน หรือใครมาก่อน ผมชักกลัวซะแล้วซิ ว่าวันหนึ่งถ้า...............ถ้า เขาหรือผมต้องแยกจากกัน ผมจะทนรับความรู้สึกที่ต้องสูญเสีย ทุกสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

“เป็นอะไรหน้าเครียดเชียว”
“...เปล่า คิดอะไรไปเรื่อยนะ”

“บอกแล้วมีอะไรให้บอกผม”
“...ไม่มีอะไรจริงๆ “

“คนที่บอกว่าไม่มีอะไรนี่คือต้องมีแน่ บอกผมมาเถอะ ผมอยากเป็นกำลังใจให้คุณนะ”
“....ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ...ก็แค่..คุณดีกับผมมากเลย  ผม..ผมกลัววันหนึ่งเราอาจจะ...”

“หึ ๆ คิดมากไปได้ ผมรักคุณนะ ไม่เปลี่ยนใจด้วย”
“ปากหวาน คำพูดก็เหมือนลม จับต้องก็ไม่ได้ หาความแน่นอนไม่ได้หรอก”

“ฮะๆๆ คำคมนะเดี๋ยวนี้ งั้นผมจะทำให้มันแน่นอนเอง ผมว่าผมจะคุยกับพ่อ เรื่องของเรา”
“ห๊า..เอาจริงอ่ะ ...แล้วถ้าลุงรับไม่ได้ล่ะ” ผมไม่อยากจะคิดว่าถ้าลุงรู้ว่าผมทำให้ลูกชายคนเดียวของแก เป็นแบบนี้ แกยังจะเอ็นดูผมอยู่อีกหรือเปล่า.......ผมว่าไม่

“ก็พาหนี วิวาห์เหาะ ก็น่าสนุกดีนะ”
“ฮ่ะๆๆๆ ทำเป็นเล่นอยู่เรื่อย”

“เรื่องคุณผมจริงจังเสมอนะครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมรับจูบแผ่วเบา แต่จริงจังสมกับคำพูดของเขา แต่คำพูดแสนจริงจังของเขา ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจเลย ผมมีลางว่า ความสุขครั้งนี้ของผม คงจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว


ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ตอนที่ 23 The new chef.





“พี่มีนครับ กรุ๊ปชาวจีน ที่จองมาสัปดาห์หน้า เขารีเควสเรื่องเมนูอาหารมานะครับ เขาจะให้ช่วยจัดงาน จัดสถานที่สำหรับเลี้ยงฉลองของครอบครัวพวกเขาด้วย ผมถามพี่เหน่งแล้ว แกบอกว่าทำไม่ทันหรอก แค่แกคนเดียว ถึงจะหาลูกมือมาช่วย แต่สุดท้ายแกก็ต้องเป็นคนทำอยู่ดี เอาไงดีครับ เราหาจ้างพ่อครัวมาจากที่ไหนก่อนชั่วคราวดีไหมครับ”

“อือ....เอาไงดีล่ะ กรุ๊ปจีนก็เยอะซะด้วย แล้วหลังจากนั้นยังมีตามมาอีกหลายกรุ๊ปเลย ซันนายลองไปลงประกาศดูซิว่า มีใครสนใจจะสมัครมาทำงานที่เกาะชั่วคราวไหม เสนอเงินเดือนให้น่าสนใจหน่อยนะ เป็นเกาะก็ลำบากงี้แหล่ะ ไม่ค่อยมีใครยอมลงมาอยู่กันหรอก”

พอดีผมเอาเอกสารเข้าไปให้พี่มีนเซ็นต์ เลยได้ยินสองคนพี่น้องเขาปรึกษากันเรื่องหาพ่อครัวจีน มันทำให้ผมปิ๊งไอเดียบางอย่าง

“เอ่อ...พี่มีนครับ”
“อ้อ ว่าไงเต้ อือ เอามาวางตรงนี้ก่อนเดี๋ยวพี่ดูให้นะ เสร็จแล้วพี่จะเรียกเข้ามาเอาจ้ะ”

“เอ่อ ครับ...แต่ว่าคือ...ผมได้ยินว่าพี่กำลังหาพ่อครัวอาหารจีนอยู่ใช่ไหมครับ”
“อื้อ ใช่แล้วล่ะ ก็แขกจีนจองมาเยอะมาก แถมมาเป็นกรุ๊ปใหญ่ ๆ อีก พ่อครัวเราคนเดียวทำไม่ทันแน่”

“คือผม รู้จักพ่อครัวอาหารจีนครับ ฝีมือดี หายห่วง”
“จริงเหรอ ก็ดีซิ ว่าแต่เขาจะยอมมาอยู่ที่เกาะอย่างนี้เหรอ”

“มาได้แน่นอนครับ”
“เฮ้ยเต้ อย่าบอกนะว่า...”

“อื้อก็นั่นแหล่ะ..”
“อากู๋มึงเหรอ”

“เฮ้ย ไม่ใช่ เฮียตงต่างหาก”
“ฮึ ไม่เอา ไม่รับ ไม่ให้มา”

“อ้าว ๆ ไอ้น้องคนนี้นี่ เงียบไปเลย นี่เป็นโอกาสดีนะ จะให้รอหาใครที่ไหนอีก เอ่อ เต้ ถามเขาให้หน่อยว่าเขามาได้ใช่ไหม และเขาเรียกร้องค่าแรง และอะไรอื่นอีกบ้างไหม แล้วฝีมือเขาดีจริง ๆ แน่นะ”

“หายห่วงครับ ผมรับประกันเลยครับคนนี้” ถึงเมื่อก่อนจะทะเลาะกันบ่อย ๆ ปากเฮียจะหมา ๆ แต่เรื่องฝีมือทำอาหารที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากอากู๋ จัดได้ว่าจัดจ้าน แล้วเฮีย มันยังขยันพลิกแพลง ดัดแปลง ปรุงแต่ง อาหารให้ดูดี น่าทานขึ้นมาอีกโข ขนาดเชฟ โรงแรมใหญ่ ๆ มากินยังติดใจ ยืมตัวเฮียมันไปช่วยงานอยู่เรื่อย ๆ



ผมไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของคุณซัน พอออกมาจากห้องพี่มีนได้ก็หยิบโทรศัพท์โทรหาเฮียตงทันที

#อ้าว ว่าไงไอ้น้อง มีอะไรโทรมาซะเช้าเชียว ฮ้าว ๆๆๆๆ#
“โห เฮีย หาวอะไรจะขนาดนั้น เมื่อคืนเที่ยวดึกหรือไง”


#เอ่อ ก็มันเริ่มมีเวลาว่างก็ต้องตักตวงให้คุ้มซิว่ะ ป๊าเล่นใช้งานกูตั้งแต่วัยรุ่น ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย อยู่แต่หน้าเตา จนจะแต่งงานกับกระทะ และมีตะหลิวเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว#

“ฮ่ะๆๆ ช่างเปรียบเทียบซะเห็นภาพเลย แต่ผมไม่เอาหลานหน้าบาน ๆ เป็นกระทะนะ”
#ฮ่าๆๆๆ มึงก็ว่าไปเรื่อย แล้วที่โทรมานี่ โฮมซิกเหรอ#

“เปล่า จะโทรมาถามว่าเฮียสนใจจะมาทำงานที่เกาะช่วงไฮท์ซีซั่นไหม แขกจีนเยอะมากกกกกเลย”
#เฮ้ย พูดจริงเปล่า เออ ๆๆ เอาดิ ตอนนี้ก็ว่างพอดี เพิ่งคุยกับป๊าไปไม่นานว่าอยากจะไปหาที่เรียนรู้เพิ่มเติม ถ้าได้ไปที่โน่นก็ดีเลย#

“เอ่อเฮียจะเอาเงินเดือนเท่าไหร่ล่ะ และสวัสดิการหรือต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม ผมจะได้ไปบอกเจ้านาย แต่เจ้านายผมใจดี ที่สำคัญสวยด้วย คิกๆๆ”
#ฮ่ะๆๆ สวยจริงป่ะ ถ้าสวยจริงนี่คิดราคาไม่แพง ไปบอกเลย เท่าไหร่ก็ได้ อย่าให้น่าเกลียดเป็นพอ#
“โหย ขี้หลีว่ะเฮีย เออๆๆ เดี๋ยวไปบอกเธอให้ ว่าแต่ถ้าตกลงเฮียจะมาได้เร็วขนาดไหนอ่ะ”

#ทันทีเลย#



ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(เฮียตง)




ทันทีที่ทางโน้นตอบรับให้ผมไปทำงานที่เกาะ ผมก็รีบ ๆ จัดกระเป๋าอย่างรีบด่วน ก็ไม่ใช่อะไรไง ไม่เห็นหน้าไอ้เต้มันนาน ๆ ก็ชักคิดถึง ป๊าเองก็บ่น อยากไปด้วย แต่ก็คงยังไปไม่ได้เพราะลูกค้ายังแน่นอยู่  แต่ร้านเราจะมีช่วงหยุดใหญ่ ๆ หลังปีใหม่ ตรุษจีน ประมาณนี้ ป๊าเลยบอกว่าค่อยไปก็ได้ แต่ผมดูออก สายตาป๊าบ่งบอกว่าอิจฉาผมมากที่จะได้ไปเห็นหน้าไอ้เต้มัน ว่ะฮ่ะๆๆๆ



ในชีวิตไม่ใช่ไม่เคยเห็นทะเลนะ ชะอำ พัทยา บางแสนก็ไปออกจะบ่อย
แต่มันไม่ใช่อย่างนี้ไง ทะเลทางใต้ โครตจะสวยเลย สีฟ้าเป็นสีฟ้า สีเขียวเป็นสีเขียว สวยมากกกก และก็ใสมากกกกก ด้วย หาดทรายก็สวย ถึงอากาศจะร้อน แต่ก็ไม่ร้อนแผดเผาอย่างกรุงเทพ มีลมพัดมาให้คลายร้อนเป็นระยะ ๆ ผมนั่งมองผู้คนที่โดยสารมากับเรือเที่ยวเช้าลำเดียวกันจนถึงเกาะยาวน้อย มีทั้งคนไทย ฝรั่ง จีน เยอะแยะไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าเกาะเล็ก ๆ อย่างนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

“มัวแต่มองอะไรอยู่ ผมรอนานแล้วนะ ไม่หันมาซะที”
“อ้าว ...เอ่อ มึง ...เอ่อ ชื่อไรว่ะ” หันมาตามเสียงเรียก ก็เจอโจทย์เก่า หน้ามันบูดเป็นตูด เลยอดที่จะกวนตรีนมันไม่ได้

“....เรียกผมว่าซันก็ได้”
“เออๆ ซัน ๆ ใช่ ลืมได้ไงว่ะ แล้วไหนเต้ล่ะ”ที่จริงก็จำมันได้นั่นแหล่ะ มึงเล่นมาที่ร้านทุกวัน จนป๊ากูยันคนล้างจานจำมึงได้หมดแล้ว ไม่อยากจะสนใจมันมาก มองเลยไปข้างหลังมันก็ไม่เห็นคนที่คิดถึง

“ทำงาน ไม่ว่างมารับ”
“หรออออ กูก็นึกว่า หมามันขวางไม่ให้น้องกูมาซะอีก” ต่อให้มึงอมพระประธานมากูก็ไม่เชื่อ เมื่อคืนเต้เพิ่งบอกว่าจะมารับผมด้วยตัวเอง ไม่ต้องเดาเลยว่า ไอ้หมาบ้านี่มันคงไม่ให้เต้มารับผมแน่

“...........”  มันจ้องหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เถียงกูไม่ขึ้นล่ะซี่
“เอ้า งั้นก็ไปกันเลยซิ จะยืนรอเรือเที่ยวต่อไปมาส่งรึไง” ผมยกกระเป๋าเหวี่ยงเกือบโดนหน้ามัน ก่อนจะเดินผิวปากออกมาทางที่จอดรถ


โหย อันนี้ก็อเมซิ่งอีกล่ะ รถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง ไอ้ซันมันขี่มารับผม เจ๋งว่ะ แม่งกูอยากลองขี่บ้างว่ะ ท่าทางจะไม่ยาก มันก็ขี้งก บอกแต่ไม่ได้ ๆ ขับยาก โด่ มึงจะกันซีนกูทุกอย่างเลยว่างั้น สุดท้ายก็ได้แต่นั่ง จนถึงรีสอร์ท เอ่อ หัวเหอกู ฟูไปหมด


“เฮียตง” ทันทีที่เสียงใสทักขึ้น ผมก็หันไปตามเสียง น้องชายที่คิดถึง วิ่งมาแต่ไกล อืม ยังน่ารักเหมือนเดิมนะมึง

“...เว้ย ว่าไงไอ้น้องรัก ดำไปเลยนะมึง” ไม่ถึงกลับดำหรอกครับ ผมแซวขำ ๆ แค่ดูคล้ำลง เจ้าตัวดี เบ้ปากให้ยิ่งดูน่ารัก จนเผลอเอามือขยี้หัวมันไม่ได้
“ก็อยู่ใกล้ทะเลนี่นา เป็นไงบ้างเดินทางมีปัญหาอะไรไหม”
“ถ้าเฮียมึงมีปัญหามันไม่มาถึงตรงนี้หรอก” ........ปากนะไอ้ซัน ไม่พูดก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้หรอก

“ปากเหรอนั่น ว่าเฮียผมได้ไง” ช่าย ๆ น้องกู ก็ต้องเข้าข้างกูอยู่แล้ว

“เอ่อ ๆ พวกมึงไปง่องแง่งกันวันหลังเถอะ เหนื่อยเหมือนกันนะ อยากอาบน้ำนอนพักซักแป๊บ”

“งั้นตามมาเลยเฮีย เดี๋ยวผมถือกระเป๋าให้ ที่พักเราเป็นส่วนตัว มีผมกับคุณซันอยู่กันแค่สองคนเอง”

“เฮ้ย ๆ อะไรๆ ทำไมไม่ไปพักที่ห้องพักพนักงานล่ะ” ผมชะงักเท้าทันที

“ก็..ก็..มันเต็มอยู่ เลย...และอีกอย่าง...บ้านพักห้องผม ก็..ก็ว่างอยู่...” ไอ้ตัวดี ทำหน้าเลิ่กลั่ก เหมือนพูดอะไรผิดออกไป รีบ ๆ แก้ตัวลิ้นพันกัน มีพิรุธ

“อะไร ๆ พวกมึงนอนห้องเดียวกันเหรอ”

“เปล่าเฮีย / ใช่แล้ว “ เชี่ยเอ๊ย ทำไมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะ พวกมึงไม่นัดกันก่อนตอบฮ่ะ เฮ้อ ได้แต่ทำใจ ก็เรามันอยู่ในฐานะพี่ชายนี่นา

“เฮ้ย ได้ไงว่ะ น้องกูไม่ใช่ไก่กานะ ยังไม่ทันมาขอ มึงเอามันไปกกก่อนได้ยังไง” ผมหันไปแหย่ ไอ้ซันก่อนจะตบบ่ามันเป็นเชิงหยอกล้อ
“ฮ่ะๆๆๆ ช่วงดูใจนะเฮีย ตกลงเรื่องสินยังไม่ลงตัว เลยสอดไปพลาง ๆ ก่อน”

“ฮือ ไอ้บ้า ไอ้คนลามก” จบคำตอบสองแง่สองง่ามของไอ้ซัน ไอ้เต้ก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึง หันมาด่าผัวมันทีก่อนจะสาวเท้าเดินนำไปอย่ารวดเร็ว ปล่อยเราสองคน มองหน้ากัน แล้วหัวเราะออกมายกใหญ่

“ฮ่ะๆๆๆ”



หลังการหยอกล้อจากผม บรรยากาศระหว่างผมกับไอ้ซันก็ดูจะดีขึ้นเป็นลำดับ มันคงรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้คิดจะมาเป็นคู่แข่งมัน ก่อนจะเดินผ่านรีสอร์ทเพื่อไปยังบ้านพักด้านหลัง เต้ชี้ให้ผมดูว่าถ้าผมตื่นขึ้นมาตอนไหน แล้วหิวก็ให้ไปทานอาหารที่โรงอาหารพนักงานได้เลย วันนี้คงจะยังไม่ต้องทำอะไร ไว้พรุ่งนี้ผมถึงจะได้คุยกับเจ้านายของเต้มัน

พอถึงบ้านพักหลังน้อย ที่ดูดี เป็นส่วนตัว ทั้งสองคนจึงขอตัวกลับไปทำงานต่อ ผมเปิดประตูห้องทางซ้ายเข้าไปวางกระเป๋าข้างเตียงที่ดูก็รู้ว่าไม่มีคนนอนมานานแล้ว ว่าจะไม่คิดแล้วเชียว แต่มันก็อดจะแปล๊บๆในใจไม่ได้ สุดท้ายก็เป็นได้แค่พี่ชายจริง ๆ นั่นแหล่ะ







 หลับเป็นตายเลย ตื่นมาก็เกือบ บ่าย 2 แล้ว ลุกจากที่นอนมาเปิดหน้าต่าง ลมทะเลพัดโชย เย็นสบาย มองออกที่ทะเล สวยจริง ๆ น่าอิจฉาคนที่ได้เห็นวิวแบบนี้ทุกวันจริง ๆ คนกรุงอย่างผม เห็นแต่ฝุ่นควัน ผู้คนมากหน้าหลายตา ไม่เคยมีเวลาที่รู้สึกผ่อนคลายอย่างนี้เลย

เวิ่นเว้อกับตัวเองซักพักก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อเชิ้ตสบาย ๆ กับกางเกงขาสั้น เดินไปตามทางที่เดินมาเมื่อเช้า ไปจนถึงรีสอร์ท ก็ชักงง ๆ เอ่อ เหมือนเต้มันจะชี้ว่าโรงอาหารไปทางนี้นะผมว่า ระว่างกำลังสบสนกับเส้นทาง ก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินจากตัวรีสอร์ทไปด้านหน้ารีสอร์ท จึงรีบ ๆ วิ่งไปถาม

“น้อง ๆ ๆ หยุดก่อน”
“.....”

“วุ้ยเดินเร็วจัง น้องรู้ไหมโรงอาหารพนักงานไปทางไหน.....” วิ่งตามซะเหนื่อยเลย เห็นตัวเล็ก ๆ เดินเร็วชะมัด แต่พอเข้าใกล้ก็ต้องตะลึงนิดๆ สวยน่ารักเป็นบ้าเลย
“.....”  แต่เธอคนนี้ ไม่ได้ตอบคำถามของผม กลับมองหน้าผมเขม็งแทน

“อ้าว ไม่ตอบ...เป็นใบ้เหรอ ......โถ...ไม่น่าเล๊ย สวย ๆ อย่างนี้ไม่น่าเป็นใบ้เลย”
“......” ผมแซวไปอย่างนั้นแหล่ะ รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นใบ้หรอก แต่คงจะสงสัยว่าผมเป็นใครมากกว่า พอถูกแซวเธอก็ชักสีหน้าเล็กน้อย พร้อมหน้าที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู

“....อยู่...อยู่ทางโน้นค่ะ...”
“อ้อ ขอบคุณครับ แล้วน้องชื่ออะไรครับ ทำงานที่นี่เหรอครับ”

“ใช่ค่ะ ฉันทำงานที่นี่ แล้วคุณล่ะ”
“พี่เพิ่งมาใหม่ พี่จะมาเป็นพ่อครัวที่นี่ เอาไว้พี่จะทำสุดยอดอาหารจีนตอบแทนให้กินล่ะกัน”

“....ค่ะ จะจำไว้ค่ะ ขอตัวนะค่ะ”

คนสวยมองค้อนนิดหน่อยก่อนจะหันหลังเดินจากไป ผมยังคงมองตาม รู้สึกถูกใจน้องคนนี้น่าดู ท่าทางไม่ยอมใคร ติดจะเชิดนิด ๆ ทำให้น่าปราบพยศไม่น้อย เอาเถอะยังไงต่อไปก็ต้องได้เจอกันอีก เพราะทำงานที่เดียวกันนี่ ไว้ทำอาหารไปผูกสัมพันธ์ที่หลังก็ได้

หลังอาหารเที่ยงจบ ผมโทรหาเต้ มันบอกว่าให้กลับไปพักก่อนก็ได้ ไว้เย็น ๆ ได้ยินว่าไอ้ซันมันจะเลี้ยงเหล้าผม เต้บอกมันสั่งอาหารให้ไปส่งที่บ้านพักแล้ว เฮอะ ทำมาเป็นเอาใจกูนะไอ้ตัวแสบ







“เฮีย อยากเล่นน้ำไหม”
“อื่อ เอาไว้ก่อนดีกว่า พวกมึงไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนเถอะ นี่เขาก็เพิ่งยกอาหารมาให้ รีบ ๆ เลยเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย”

“ฮิๆๆ พูดเหมือนกู๋เลย ลื้อไม่รีบกินเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย ก็มาโทษอั๊วทำไม่อร่อยซะอีก” ไอ้ตัวดีมันล้อเลียนเสียงป๊าซะเหมือนเลย อดจะขำหน้ามันไม่ได้ จะคว้าคอมันมาขยี้หัว

แต่มือก็วืดไป เพราะ??? เพราะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่ไว้ตัวแสบมันคว้าเอวน้องชายผม ไปหนีบไว้แนบเอว แล้วหันมายิ้มสยองให้ผม ชิ แค่นี้ทำเป็นหวง ไอ้ขี้งก




หลังจากรอพวกมันอาบน้ำแต่งตัวกันออกมานั่งกิน นั่งดื่มกันจนอิ่มหน่ำ และเริ่มมึน ๆ กันไป ก็คุยกันสวนเสเฮฮา ผมหัวเราะกับเรื่องที่เต้มันเล่า ว่าได้เจอพ่อไอ้ซัน ซึ่งก็คือเจ้าของรีสอร์ทที่นี่ แต่มันไม่รู้ ได้ยินเขาเรียกลุงแกว่า นายหัว ๆ มันก็นึกว่าแกคงจะมีอาชีพขับรถแน่ ๆ ดีว่ามันไม่ปล่อยไก่ถามลุงแกให้หน้าแตก ไม่งั้นคงเข้าหน้าลุงแกไม่ติดแน่ ๆ ฮ่ะๆๆๆ

ลมทะเลยามค่ำคืนพัดเข้ามาให้รู้สึกเย็นผิวกาย ผมหันไปมองท้องทะเลยามค่ำคืน ที่ไร้แสงใดๆ นอกจากแสงดาว และแสงจากเรือประมงที่เห็นอยู่ลิบ ๆ

เสียงคนสองคนคุยหลอกล้อกระซิบกระซาบกันเบา ๆ แต่ก็ยังเข้าหูผมอยู่ดี จนต้องหันกลับมามอง ภาพตรงหน้า ภาพที่ทำให้ผมไม่อาจละสายตาได้ น้องชายหน้าหวานที่ผมรักและเอ็นดูมาตั้งแต่เกิด หน้าแดงระเรื่อ เวลาถูกไอ้ตัวแสบมันหยอกเอิน อารมณ์หลายหลาย ที่แสดงออกมาผมไม่เคยเห็นเลย

หวนคิดถึงอดีต ผมมันงี่เง่าเอง ถึงรักษาเขาเอาไว้ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ผมเจอเขาก่อนใคร รักเขาก่อนใคร ...... แต่เพราะไม่ใช่ว่ามาก่อนต้องได้ก่อน แต่ลงมือคว้าก่อนย่อมได้ก่อนต่างหาก เผลอถอนหายใจ มองแก้วเหล้าในมือ ก่อนจะกระดกเข้าปาก เอาให้มันเมาหลับไปเลย จะได้หยุดคิดซะที











(มินตรา)






“..............”
“สวัสดีค่ะ คุณตรีกมล ยินดีต้อนรับสู่รีสอร์ทค่ะ หวังว่าเราคงจะร่วมงานกันได้เป็นอย่างดีนะคะ” หึ อึ้งล่ะซิ เมื่อคืนกว่าจะหลับได้ ก็นึกแต่ว่าถ้าวันนี้เขาได้รู้ว่าฉันเป็นใคร เขาจะทำหน้ายังไง ตอนนี้ได้เห็นเขาที่ยืนหน้าเหวอ อ้าปากค้างนี่ มันสะใจจริง ๆ

“อ่า...เอ่อ ครับ...คุณ...”
“มินตราค่ะ เรียกมีนก็ได้ค่ะ”

“...ครับ ...ฮ่ะ ๆๆ งั้นเรียกผมว่า ตง ดีกว่าครับ จะได้ดูสนิทสนมกันดี”

“...หวังว่าฝีมือคงสมราคาคุยนะค่ะ”
“อ้อ ที่บอกเมื่อวานเหรอครับ อย่าห่วงครับ เดี๋ยวผมจัดให้คุณได้ชิมแน่นอนครับ คุณมีน”
“.....” อีตาบ้า ไม่ได้มีท่าทีสลดเลย ที่เมื่อวานทำเปิ่นไว้ แถมยังทำสายตากรุ่มกริ่มมองมาให้ ฉันต้องเขินแทนซะเอง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เฮ้อ เงียบเหงาจุงเบย  o22  ยังมีคนอ่านเรื่องนี้อีกไหมน้าาาาาาาาาาา
5555   :katai2-1: ก็อยากจะดราม่าเหมือนชาวบ้านนะ แต่ะไม่ดีกว่า
ยังไงปณิธานตั้งแต่แรก ก็แค่อยากเขียนนิยายให้มีซักคนอ่าน
นี่ไม่ได้หลงตัวนะ แต่คิดว่าต้องมีซักคนอ่านแน่นอน ขอบคุณนะคะ
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด ขอให้รับรู้เอาไว้
ว่าคุณเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :กอด1:


*************************************************************




ตอนที่ 24 Overcast sky




หลังจากได้เฮียตงมาช่วย ห้องอาหารก็ดูคึกคักมากขึ้น แขกเหรื่อ ตางชื่นชมฝีมือทำอาหารของโรงแรม เป็นอย่างมาก พี่มีน ก็พลอยหน้าบานรับคำชมไปเน้น ๆ

ตอนแรกผมว่าพี่มีนเขาดูจะไม่ค่อยพอใจเฮียตงซักเท่าไหร่ คอยแต่บอกว่า ขี้โม้ ขี้คุย ไม่รู้จะเก่งสมราคาไหม แต่มาดูตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า พี่สาวผมออกอาการปลื้มเฮียตงมาก ไม่ว่าเฮียจะทำเมนูอะไรมาให้ลอง พี่ผมจะชมซะจนโอเว่อร์ (ถึงจะอร่อยจริงก็เถอะ) แล้วทำเป็นเมนูแนะนำ ขึ้นป้ายหน้าโรงแรมหราทันที แต่ก็ต้องยอมรับว่าได้ผล อาหารที่เฮียตงทำ นอกจากอร่อยแล้ว ยังสร้างสรรค์ สวยงาม ดูน่ารับประทานมาก และบวกกับ พี่เหน่ง เชฟอาหารยุโรปของเรา ที่แกก็มีฝีมือไม่ด้อยไปกว่าใคร เราเลยมียอดจองห้องอาหารเต็มยาวเหยียดไปถึงสิ้นเดือนหน้าเลย

“เหนื่อยไหมคะเฮีย”
“อ้อ ไม่ครับ ชิล ๆ น้องมีน มีอะไรจะให้เฮียทำรึเปล่าครับ”

“อ้อ ไม่มีหรอกค่ะ มีนแค่...เห็นว่าวันนี้แขกเยอะ ก็มาถามไถ่ดู”
“ว้า นึกว่าห่วงเราซะอีก”

“หึ ใครเขา จะห่วง ...ก็แค่ถามตามประสาเจ้าของกิจการ”
“ครับๆๆๆ คุณเจ้าของ ว่าแต่คืนนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม เอ่อ ผมได้ยินว่าคุณนายแม่ไม่ค่อยสบาย งั้นเดี๋ยวผมตุ๋น ซุปไก่ดำเห็ดหอม ให้ดีไหม จะได้บำรุงร่างกาย”

“อือ ก็ดีนะ เห็นท่านท่าทางเพลีย ๆ ให้มีนช่วยนะคะ”
“เอ จะดีเหรอครับ ทำเป็นเหรอครับ”

“ดูถูก เห็นงี้ ก็เคยไปเรียนทำอาหารที่ฝรั่งเศสนะ บอกเลย ถึงจะนานแล้วก็เหอะ”
“5555 อ่ะ ลองดู คุณนายแม่จะได้ชื่นใจ อาหารฝีมือลูกสาวสุดที่รักของผม”

“บ้า เนียนเฉยเลยนะ ใครสุดที่รักของเฮีย”
“แล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“บ้า ไม่พูดกับเฮียแล้ว”
“อ้าว น้องมีน ๆ ว้าเขินตัวแดงไปซะแล้ว”






.....................ผมว่าผมพลาดอะไรไปตอนไหนนะ เพิ่งจะ 3 อาทิตย์ เอง พี่สาวผมกับพี่ชายเต้ ไปคลิ๊กกันตอนไหนเนี่ยะ อะไรวะ......................  แต่ดูๆ ไปแล้วเขาสองคนก็เหมาะกันดี และก็ดีซะอีก เฮียตงมันจะได้เลิกมายุ่งกับเต้ของผมซะที ถึงผมจะไม่พูด แต่ก็ยังระแวงเฮียตงมันอยู่ดี



“อ้าว คุณซัน มายืนทำอะไรหน้าครัวครับ”
“อ้อ เต้ ...เปล่า ผมแค่.... เดินดูความเรียบร้อยน่ะ” ตกใจหมด จู่ๆ  คนที่คิดถึงก็โผล่มา

“ผมเห็นพี่มีน วิ่งหน้าแดงออกไป คงไม่ใช่ว่าเฮียเขารังแกอะไรพี่มีนหรอกนะครับ”
“.....หือ รู้กับเขาด้วยเหรอ....ว่าสองคนนั่นเขา....”


“ฮ่ะๆๆๆ ก็ต้องรู้ซิครับ ผมนี่เป็นที่ปรึกษาด้านความรักให้เฮียเลยนะ ที่พิชิตใจพี่มีนได้นี่ต้องยกความดีความชอบให้ผมเลยนา”
“งั้นรับรางวัลจากผมแทนล่ะกัน ฟอดดดดด” เจ้าตัวดี พูดไปยิ้มหน้าบานไป อย่างน่ารัก จนอยากจับมาฟัดซะให้หายหมั่นเขี้ยว แถมยังเป็นพ่อสื่อให้พวกพี่ ๆ อีก ผมเลยอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่

“เอ๊ย คุณซัน ทำอะไรอ่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น”
“ไม่มีหรอกหน่าผมมองแล้ว”

“เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง ผมไม่อยู่ให้เปลืองตัวแล้ว ไปทำงานก่อนดีกว่า”
“ฮ่ะๆๆๆ หนีได้ก็ตอนนี้เท่านั้นแหล่ะ คืนนี้เตรียมตัวรับรางวัลชุดใหญ่เลย”

“คนบ้า แบร่ๆๆ” ผมเริ่มจะเข้าใจเต้ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะครับ เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่าเขาเคยมีอะไรกับใครมาแล้ว คงจะแก่นซ่าก๋ากั่นน่าดู แต่ที่ไหนได้ ไม่ว่าเราจะมีอะไรกันกี่ครั้ง เขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นครั้งแรกของเขาเสมอ ยังคงเอียงอาย ขวยเขิน ในทุกสัมผัส ยิ่งกระเซ้าเย้าแหย่ ยิ่งหน้าแดง ช่างน่ารัก น่าเอ็นดูจนผม ยิ่งหลงเขามากขึ้นทุกที






“อ้าว พี่วัชร มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ” ผมที่กำลังจะเดินตามเต้กลับไปที่ห้องบัญชี ก็เห็นพี่วัชร ยืนมองจากหน้าต่างด้านข้างเข้าไปในห้องครัว ผมรู้สึกว่าพี่วัชร จะจ้องมองเฮียตงอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรเลย

“เอ่อ..อ่อพี่มาดู ๆ ว่าเขาทำอะไรเป็นมื้อเย็นนะครับ เริ่มจะหิว ๆ แล้วเลยมาตามกลิ่น”
“อือ ครับ หอมน่ากินทีเดียว ...เอ่อ พี่วัชรครับ ผมจะบอกพี่อยู่พอดีว่า ต่อไปหน้าที่จัดซื้อสินค้า พี่มีนเขาจะให้ผมเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระพี่นะครับ ยังไงพรุ่งนี้พี่ช่วยสอนผมด้วยนะครับ”


“......ครับ...” ผมมองพี่วัชร ไม่ละสายตา เขาไม่ค่อยสบตาผมเท่าที่ควร จากที่ผมรู้มา พี่วัชรนี่แหล่ะที่เป็นตัวเอ้ ในการกลั่นแกล้ง เต้ แต่ผมก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะพ่อและพี่มีน ค่อนข้างจะวางใจในตัวพี่วัชรมาก เขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่นี่ ทำงานมานาน มีความชอบก็ไม่น้อย ถ้าจะทำอะไรเขา ผมต้องมีหลักฐานให้แน่นหนาพอ ผมจึงขอพี่มีน เข้าไปช่วยงานพี่วัชร เผื่อจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้าง

“เอ่อ พี่วัชร อายุเท่าไหร่แล้วครับ ปีนี้?”
“...หือ..ทำไมเหรอครับ”

“คือผมเห็นว่าพี่วัชร ทำงานกับเรามาตั้งนานแล้ว ยังไม่เคยเห็นพี่มีแฟนเลย”
“...อ้อ ผมยังไม่อยากมีครอบครัวครับ ยังไม่พร้อม”

“เอ ยังไม่พร้อม หรือพี่แอบรักใครอยู่รึเปล่าครับ”
“..............”

“อุย อย่ามองผมอย่างนี้ซิครับ ผมหวังดี คิดว่าถ้าพี่มีแฟนซะที จะได้มีคนคอยดูแล”
“ขอบคุณที่หวังดีครับ แต่ผมไม่ต้องการ ขอตัวครับ”

ฮึ มาดหลุดเลยนะพี่วัชร ผมแหย่ เพราะรู้ว่าพี่วัชร คิดอะไรกับพี่สาวของผมอยู่ ผมดูออก เขาชอบพี่มีนมานานแล้ว ตั้งแต่พี่มีนยังเป็นวัยรุ่นก็ว่าได้ ผมพยายามบอกพี่มีนแล้ว แต่พี่เขาไม่เชื่อ บอกว่าพี่วัชรเป็นคนดี
และแก่กว่าหลายปี ไม่มีทางจะคิดอะไรด้วยหรอก ซึ่งผมผู้ชายด้วยกันทำไมจะดูกันไม่ออก สายตาที่พี่วัชรมองพี่มีนนะไม่ธรรมดาเลย ยิ่งตอนหลังที่มีเฮียตงเข้ามาพัวพัน พี่วัชร ก็มองเฮียตงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเลย ผมว่าถ้าผมไม่รีบ ๆ สะสางกับพี่วัชร แกต้องหาทางเล่นงานเต้ หนักข้อกว่าเมื่อก่อนแน่ เพราะหึงหวงพีมีน


ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(พี่วัชร)






โครม
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มาทำพูดจาใหญ่โต” น่าเจ็บใจจริง ๆ แค่เป็นลูกเจ้าของรีสอร์ท ก็ทำท่าทางวางโต มาเที่ยวสั่งโน่นสั่งนี่ ทำงานยังไม่เป็นเลย เมื่อก่อน วัน ๆ เอาแต่เที่ยวแตร่ สำมะเลเทเมา ตอนนี้จะมาทำเป็นขยัน เอาการเอางาน มันจะได้ซักกี่น้ำกันว้า
TTTTTT
TTTTTTTT
“.....อา..ครับ พี่หมาด...ครับพี่ผมรู้แล้ว ....ไม่นานครับพี่ พี่ก็รู้ผมเป็นคนยังไง ....ครับ ๆ ไม่พลาดแน่ครับ รับรองได้ ขอบคุณครับพี่หมาด”

หึ นี่ก็อีก โทรมาวอแวอยู่ได้ กูเคยผิดนัดมึงเหรอ แม่งแค่ช้าไปครั้งสองครั้ง ทำเป็นไม่ไว้ใจ ไอ้เชี่ยเอ๊ย





“เอ่อ พี่วัชรของตกครับ”
“อ๊ะ เต้.....เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” ตกใจจนสะดุ้ง จู่ ๆ ไอ้เด็กใหม่ก็ยื่นของที่กูเพิ่งปัดลงไปเมื่อกี้ขึ้นมา ไม่รู้มันได้ยินตอนที่คุยโทรศัพท์กับไอ้หมาดรึเปล่า

“อ้อ ผมเพิ่งเดินเข้ามาครับ มาผมช่วยเก็บนะครับ”
“ไม่ต้อง..เอ่อ ไม่ต้องหรอก ไปทำงานเถอะ พี่เผลอไปปัดโดนมันเลยหล่น เดี๋ยวพี่เก็บเอง”

“...ครับ..”
“........” หึ พวกมึงนี่มันเป็นมารกูทุกคนจริง ๆ ยิ่งไอ้หน้าอ่อนนี่ ตอนแรก ๆ ก็เห็นมันเป็นเด็กขยัน คงช่วยงานได้โข แต่พออยู่จนคุ้น ก็เริ่ม ซอกแซกเรื่องของกู ไม่พอยังพาพี่มันมาเป็นมารหัวใจกูอีก

คุณมีน ของกู กูรักเทิดทูนมาตั้งแต่น้อย เธอน่ารัก แสนดี น่าถะนุถนอม กูพยายามทำงานให้นายหัวเห็นค่า เพื่อว่าซักวันถ้ากูเอ่ยปากขอคุณมีน นายคงเมตตายกให้ แต่นี่อะไร ไอ้หน้าตี๋นั่นมันมายังไม่ทันไร ก็มาคว้าคุณมีนของกูไป ฮึ่ม เจ็บใจจริง ๆ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
โหย  :o เพิ่งจะเห็นว่าเรื่องนี้ลงตั้งแต่ พย.14 งั้นนี่ก็เกินปีแล้วซิ นานจัง ไม่น่าเชืี่อว่าจะเป็นเรื่องยาวขนาดนี้
เรื่องแรก แค่ ปีเดียวก็จบแล้ว นี่เพิ่งจะถึงครึ่งทางเองมั้ง  o7
ยังไง ๆ ก็ฝากดูแลกันต่อไปนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันนะ  :impress:

แล้วก็ขอสวัสดีปีใหม่  o14 ทุก ๆ คน ขอให้ประสบความโชคดี สมหวังในทุกด้าน เจริญในการงาาน เพี้ยง


*********************************************************


ตอนที่ 25 2 คู่ชูชื่น





ลมทะเลกลางคืน พัดพาให้เรือลอยลำสู่ทะเล ชาวประมง และเรือหลายลำ ลอยทอดอยู่ไกล ๆ บนเส้นขอบน้ำยามค่ำคืน เห็นเพียงแสงไฟ จากลำเรือ ในความมืดมิดของราตรีกาล

ตอนนี้เรา 4 คน พี่มีน เฮีย คุณซัน และผม เรากำลังนั่งทานอาหารค่ำ และคุยกัน ซึ่งเป็นประจำทุกคืนมาซักพักหนึ่งแล้ว ที่พี่มีน จะมานั่งทานอาหารค่ำกับพวกเราที่บ้านพักหลังน้อยนี้


“น้องมีน เฮีย กำลังคิดเมนูใหม่สำหรับ ช่วงเทศกาล อยากจะดูเลยไหมเดี๋ยวเฮียไปหยิบมาให้ดู”
“โหย เฮีย นี่เวลาส่วนตัวนะ เอางานมาพูดเสียบรรยากาศหมด”

“นั่นดิเฮีย ไม่ไหวเลย จริงไหมพี่มีน”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ดีซิพี่ชอบ เอาการเอางานดี”

“แหม๋ๆๆๆ พี่มีน พูดอย่างนี้ต้องรับผิดชอบพี่ชายผมด้วยนะครับ”
“ป๊าด ไอ้เต้ ไอ้ตัวดี เฮียแกดิ ต้องรับผิดชอบที่ทำให้น้องมีน มาชอบ ฮะๆๆๆ”

“...อะไร ใครบอกชอบ เฮียขี้ตู่ ที่พูดน่ะหมายถึงชอบคนขยันทำงานต่างหาก”
“อ้าว ก็เฮียขยันไง ก็หมายความว่าชอบเฮียไมใช่เหรอครับ”

“บ้าๆๆๆ ไม่คุยด้วยแล้ว”
“อ้าว น้องมีน ๆ “

“ตามไปซิเฮีย วู้ไม่เป็นเลย”
“เออๆๆ น้องมีนครับ รอเฮียด้วยซิครับ”


“ฮ่าๆๆๆ คุณซันดูเฮียดิ น่าขำชะมัดเลย”
“.....”

“อ้าว เป็นไรครับ ทำไมเงียบไปละครับ หนาวไหม ผมไปหยิบเสื้อหนาวให้นะ”
“ไม่ต้องหรอก ไม่ได้หนาว แค่หึง”
“อาราย หึงอะไร หึงใคร?”

“............”
“อย่าบอกนะว่าหึงเฮียตง บ้าไปแล้ว ไม่เห็นหรือไง คู่นั้นเขาหวานกันจน ทะเลพลอยหวานไปด้วยแล้ว”

“ฮึ ไม่รู้ล่ะ ก็คนมันเคยมีประวัตินี่ เวลาไม่นาน มันจะเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฮะๆๆ พูดอะไรอย่างนั้นครับ เฮียไม่ได้ชอบผมแบบนั้นหรอก ก็แค่เอ็นดูน้องก็แค่นั้นเอง”

“หึ เอ็นดูได้ อย่ามาดูเอ็นล่ะ ไม่ยอมหรอก”
“อ่ะ ทะลึ่งล่ะ ๆ ไม่คุยด้วยแล้ว ผมเก็บจานก่อนนะ”

“วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ เดี๋ยวตอนเช้าให้พนักงานมาเก็บ”
“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าแค่คุณกับพี่มีน ก็ไม่เป็นไร แต่มีของพวกเราพี่น้องด้วย ไม่อยากทำให้พนักงานคนอื่น ๆ เสียความรู้สึกอ่ะ แล้วอีกอย่างก็จัดการให้เรียบร้อยดีกว่า คุณไม่รู้อะไร กลางคืนมีลิง มาขโมยของด้วยนะ”

“ห๊า จริงๆ เหรอ ทำไมผมไม่เคยเห็นเลยล่ะ”
“ฮ่ะๆๆๆ ก็ไม่มีนะซิ เชื่อคนง่ายนะคุณนี่”

“หนอย กล้าอำผมเหรอ มาให้ทำโทษซะดี ๆ มานี่เลย”

“ฮ่ะๆๆ ผมขอโทษๆๆ ไม่เอา ๆ ไม่เล่นแล้ว ฮ่ะๆๆๆ”

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
(มินตรา)







อีตาบ้า ไม่เคยเปลี่ยนเลย ชอบทำให้ฉันใจเต้นแรง หน้าแดงได้ตลอด เกลียดจริง ๆ ไอ้สายตากรุ้มกริ่มนั้นนะ............ตอนเจอกันครั้งแรกก็แซวซะไปไม่เป็นเลย ตาบ้า

“น้องมีนครับ”
“..........” ไม่ยกโทษให้ง่าย ๆ หรอก ชอบพูดล้อเล่นอยู่เรื่อย






หือ ทำไมเงียบไป รีบ ๆ ง้อฉันซิ มัวรออะไรอยู่ ถ้าไม่รีบง้อจะไม่ยกโทษให้เลยนะ.......เอ๋ หรือว่ากลับไปแล้ว
คิดได้ดังนั้นจึงหันกลับไปดู............อ้าว ไปไหนแล้วอ่ะ?

“อยู่นี่ครับน้องมีน”
“.......” อีตาบ้า หันไปไม่เจอ ก็ใจแป้ว นึกว่าไม่มาง้อซะแล้ว ที่ไหนได้ เดินไปนั่งที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ซะนี่ บ้าจริง ๆ

“มานั่งนี่เถอะครับ”
“...” ว่าจะเล่นตัว แต่ รอยยิ้มเย็น ๆ กับเสียงทุ้ม ๆ ที่ใสกังวาน ก็ทำให้ใจอ่อนยวบ

“หนาวไหมครับ น้องมีน”
“....ไม่ค่ะ มีนชินแล้ว เป็นสาวชาวเกาะนะคะอย่าลืม”

“ครับ แม่สาวชาวเกาะ แต่เฮียดิ หน๊าววววววหนาว”
“งั้นเดี๋ยวมีน ไปเอาเสื้อหนาวมาให้นะคะ”

“ไม่ต้องหรอกครับ แค่น้องมีนนั่งใกล้ๆ เฮีย ก็อบอุ่นใจแล้วครับ”
“...หือ ปากหวานนัก”

“เคยชิมแล้วเหรอครับ หึๆ”
“ไม่เคยค่ะ ไม่อยากชิมด้วย”

“ว้า เฮียอยากให้ชิมใจจะขาด”
“ตลกล่ะเฮีย ปากหวานอย่างนี้ คงหลอกสาวมาแล้วหลายคนละซิ”

“ฮ่ะๆๆๆ ถ้าบอกว่าไม่เคยจีบสาวที่ไหนจะเชื่อไหมเนี๊ยะ”
“ไม่ค่ะ ไม่เชื่อเด็ดขาด”

“โหย ถูกปรักปรำ รู้ไหมเรียนเสร็จ ก็ต้องรีบกลับมาช่วยงานที่ร้าน ตลอดตั้งแต่เด็กจนโต เห็นแต่เตา กระทะ กับตะหลิวอ่ะ เต้มันยังแซวเลยว่าไม่อยากได้หลานหน้าบาน ๆ เป็นกระทะเลย”

“ฮ่ะๆๆๆ จริงเหรอค่ะ น้องเต้แซวได้น่ารักจริงๆ”
“..........”

“น้องมีนไม่รังเกียจน้องชายเฮียเหรอ...เขาสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่”
“..อือ ก็ไม่รู้ค่ะ ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจ แต่พอได้เห็นเขาอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ดูน่ารักดี ดูสบาย ๆ ดูรักกันมาก และอีกอย่างต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ก็เลย ไม่ได้คิดรังเกียจอะไร แล้วเฮียล่ะคะ รับได้เหรอ”


“.......น้องมีนครับ”
“...หือ ค่ะ เป็นไรค่ะจู่ ๆ ทำหน้าเครียดเชียว”

“เฮีย....เฮีย มีเรื่องจะสารภาพ”
“......อะไรค่ะ อย่าบอกนะว่ามีลูกมีเมียแล้ว อันนี้ไม่เอานะคะ มาหลอกกันนี่ จะเอาถึงตายเลยนะค่ะ”

“เฮ้ย ไม่ช่าย โห พูดซะไม่กล้าบอกเลย”
“ถ้าไม่บอกนี่เลิกคบกันเลยนะค่ะ”

“โหย ยิ่งแล้วใหญ่...........ก็ไม่มีอะไรมาก ก็ที่บอกว่าไม่เคยชอบผู้หญิงที่ไหนนะเรื่องจริง นะ.............แต่เคยชอบผู้ชายอ่ะ”
“ห๊ะ อะไรนะค่ะ เฮียเป็นเกย์เหรอ แล้วมาจีบมีนทำไมเนี๊ยะ”

“อู้ย ใจเย็น ๆ จ้ามีน ไม่เป็นจ๊ะ ไม่เป็นเกย์ ยังชอบผู้หญิงอยู่”
“แล้ว ที่บอกล่ะค่ะ”

“เฮ้อ คือจริง ๆ ก็ไม่แน่ใจว่ามันคือรัก ชอบ หรืออะไร แต่ก็เห็นมันมาตั้งแต่เกิด มันน่ารักมากเลยนะ ตัวขาว ๆ แก้มยุ้ย ๆ เวลาร้องงอแง ก็หน้าเป็นสีชมพู น่ารักมากเลย”

“....อย่าบอกนะค่ะว่า...........”

“ครับ ไอ้นั่นล่ะครับ”
“อ้าว แล้วทำไม ยังไง?”

“ไม่ทำไม ยังไงหรอก แค่แอบ ๆ ชอบมันมาตั้งแต่เกิดนะครับ แต่ผมมันไม่ได้เรื่องเอง แม่เต้มาคลอดโดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง เลยเป็นขี้ปากคนแถวบ้านไปทั่ว พอเต้มันเริ่มรู้ความ ก็มีคนไปว่ามัน ไอ้ผมเองก็ไม่กล้าปกป้องมัน เพราะความเป็นเด็ก หลังจากนั้นเลยกลายเป็นคู่กัดกันไม่เคย พูดกันดี ๆ เลย เฮ้อ บ้าจริง ๆ กว่าจะรู้ตัว มันก็เป็นของคนอื่นไปแล้ว”

“แล้วเขารู้ไหม ว่าเฮียชอบ...”
“รู้ครับ น้องชายมีนก็รู้ เรายังเคยต่อยกันเลย ฮ่ะๆๆ ขอโทษที่ทำร้ายน้องน้อง มีนนะครับ”

“ถึงว่า ตอนแรก ๆ ซันค้านน่าดูที่จะให้เฮียมาที่เกาะ”
“ฮ่ะๆๆๆ ผมรู้ครับ วันแรกเขาไปรับผมที่ท่าเรือ หน้าตาเหมือนอยากจับผมถ่วงน้ำ หรือไม่ก็มัดส่งกลับไปกับเรือยังไงอย่างงั้น”

“แล้วตอนนี้.....”
“อ้อ ตอนนี้เป็นพี่ชายครับ และก็ดีใจด้วยที่ได้เป็นพี่ชายมัน เพราะทำให้ได้มาเจอคนที่คิดว่าอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตที่เกาะนี้ ดีใจครับ”

“หึ ฝีมือทำอาหารนี่ ไม่เท่าฝีปากเลยนะค่ะ ไม่ต้องมาทำให้มีน ใจอ่อน สิ่งที่สารภาพออกมา มีนจะเก็บข้อมูลไว้พิจารณาความประพฤติ ถ้าแอบวอกแวก จะเอาให้ตายเลย”
“ครับ ๆ รับผมไว้พิจารณาเยอะ ๆ นะครับ ฮ่ะๆๆๆ”

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
สุขสันต์วันวาเลนไทน์  :L1: (ช้าไป 1 วัน) คนมีแฟนคงสนุกสนาน(ละซี่) ส่วนคนเขียนแฟนไม่มี ก็มองด้วยสายตาเฉยชากันไป 555  :hao7:
ส่วนคู่รักหวานชื่นของเราจะเป็นยังไงต่อไปคงต้องมาติดตามกันต่อนะจ๊ะ  :katai2-1:


*********************************************


ตอนที่ 26 ตะวันกับฟ้าใส



“ตื่นได้แล้ว คุณซัน วันนี้ เห็นพี่มีนว่าจะมีแขกพิเศษ มาพักไม่ใช่เหรอ ไปเร็วลุก อย่างอแง”
“อือ ขออีก 5 นาที หน่า”

“พูดอย่างนี้มา 2 รอบแล้วนะ จนผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วนี่”
“อือ 5 นาทีสุดท้ายแล้ว” คุณชายซันครับ 5 นาทีมาหลายรอบแล้ว

“เฮ้อ ตามใจนะ คุณเจ้านาย จะไปสายก็คงไม่มีใครว่า งั้นผมไปทำงานก่อนนะ..เหว๊ออออออออออ” เห็นท่าจะขุดเขาออกจากที่นอนไม่ได้ เงยหน้ามองนาฬิกาข้างฝา มันก็ใกล้เวลาทำงานแล้ว แถมต้องไปหาอะไรตอนเช้ากินอีก ผมว่าผมไปก่อนดีกว่า แต่ยังไม่ทันจะหันออกไป ก็ถูกกระชากมือไว้ จนเซล้มลงบนที่นอน

“หึ ไม่ให้ไป มาให้จูบก่อนมาม่ะ”
“ไม่เอา ไม่เล่น คุณซัน ชุดผมยับหมด” คนถูกดุไม่ได้มีอาการสลดเลย ผมพยายามจะดิ้นออกแต่ก็จนใจเพราะเขากดมือผมไว้เหนือหัวทั้งสองข้าง แถมยังขึ้นมาคร่อมผมไว้อีก

“งั้นถอดก่อนก็ได้ จะได้ไม่ยับ”
“จะบ้าเหรอ ไม่เอาครับ ฮ่า ๆๆ ไม่เล่นแล้ว จะไปทำงาน ฮ่าๆๆ จั๊กกะจี้ อย่า ๆๆๆ ไม่เอาแล้ว........” คนบ้า พูดไม่พูดเปล่า ก้มหน้ามาไซร้ซอกคอผม หนวดที่ยังไม่ได้โกน ทำให้จั๊กกะจี้ หัวเราะจนเหนื่อยเลย


แต่คุณซันนอกจากจะไม่หยุด ยังจูบปิดปากผม ไม่ให้ได้ประท้วงอะไรอีก อือ..... จูบแบบนี้ คิดว่าผมจะทนได้ซักกี่น้ำ ลิ้นแลกลิ้น จน เสียวสะท้านระทวย คุณซันจูบผมอยู่นาน จนเหมือนจะขาดอากาศหายใจ ก่อนที่จะถอนริมฝีปากออก แต่ก็ยังตามมาไล้เลียริมฝีปากเหมือนคนยังไม่อิ่ม ผมมองตามริมฝีปากหวานล้ำที่ค่อย ๆ ถอนออก

“เต้ครับ”
“...หือ..ครับ?”

“ผมว่าถึงเวลาแล้วล่ะผมจะคุยกับพ่อวันนี้แหล่ะ”
“ไม่เร็วไปเหรอครับ ..ผม..ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลย” พอได้ยินนี่ผมเด้งตัวขึ้นมานั่งเลยครับ ตกใจนะซิ จู่ ๆ ก็โผล่ง ว่าจะบอกลุงถึงความสัมพันธ์ของเรา ผมใจหายวาบ รู้สึกว่าไม่พร้อมจะเผชิญความจริงเลย กลัวสิ่งที่คิดจะเป็นจริง

“ไม่ต้องเตรียมแล้ว ผมอยากบอกพ่อแล้วอ่ะ อยากให้ท่านได้รับรู้ความรักของเรา อยากอยู่กับคุณอย่างเปิดเผย”
“ไม่อายคนเหรอ มีแฟนเป็นผู้ชาย” ท่าทางคุณซันจะเห็นเป็นเรื่องสนุก เขาดูท่าทางไม่เดือดไม่ร้อน เข้ามากอดผมเหมือนคนโอ๋เด็ก ผมพยายามโน้มน้าวเขาอีกครั้งเพราะยังไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา

“อายอะไร อายทำไม มีแต่คนจะอิจฉาผมซิไม่ว่า มีแฟนน่ารัก น่าฟัดขนาดนี้”
“ฮ่ะๆๆ บ้า” คุณซันยังคงยิ้มอย่างมั่นใจ เขาหัวเราะร่วน พอจบประโยคก็ฟัดผมจริง ๆ อย่างที่พูด มันทำให้ผมใจอ่อน และคิดว่า เอาวะ อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด








คุณซันจับมือผมแน่น พาผมเดินไปจนถึงหน้าห้องทำงานของลุง อายพนักงานบางคนที่มองมาเหมือนกัน แต่ชั่วโมงนี้หัวใจของผมพองโต ผมไม่รู้ว่าลุงจะยินดีกับเรื่องของเราไหม แต่ผมมั่นในว่าคุณซันจะมั่นคง และเราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม

“พร้อมนะครับ คนดีของผม”
“...ถ้าบอกว่าไม่พร้อมนี่จะเปลี่ยนใจไหม”

“โหย ไม่ทันแล้วครับ ที่รัก มาเถอะไปหาพ่อกัน”
“อื้อ”

ไม่วายหันมาหยอกผมก่อนที่จะเคาะและเปิดประตูเข้าไป
“พ่อครับผมมีเรื่อง......”






จู่ ๆ มือที่จับผมไว้ก็คลายออก และผละเดินเข้าไปในห้องทำงานของลุง ผมก็งง แต่ก็คิดว่าเขาคงต้องการจะบอกลุงก่อน

แต่พอผมเดินตามเข้าไป ก็พบว่าภายในห้องทำงานของลุง มีคนอื่นนอกจากลุงอีกหลายคน มีพี่มีน และชายหญิงสูงวัย แต่งตัวดี ท่าทางคงจะเป็นเพื่อนของลุงที่บอกว่าเป็นแขกพิเศษ และ.............หญิงสาวสวย ที่ดูสะดุดตา น่าจะวัยไล่เลี่ยกันกับผม ที่ตอนนี้ คุณซันเดินเข้าไปจับมือเธออย่างตื่นเต้น

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
“ฟ้าใส ๆๆ จริงๆ ด้วย”
“ซัน ว่าไงค่ะ ไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหม ฮ่ะๆๆๆ”
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกผมก่อน”

“เพิ่งกลับมาเมื่อวานซืนค่ะ นี่คุณลุงเพิ่งบอกว่าใกล้วันเกิดซัน เลยชวนฉันกับคุณพ่อคุณแม่มาร่วมยินดีด้วย”

“จริงเหรอ ดีจังเลย คิดถึงเธอมากรู้ไหม”
“แต่ฟ้าไม่ได้เตรียมอะไรมาให้เลยนะ ของยังไม่ได้เอาออกจากกระเป๋าเลย  ไว้จัดกระเป๋าเสร็จแล้ว ฟ้ามีของมาฝากซันเพียบเลยนะ” หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับ ฟ้าใส ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กมาด้วยกัน ชีวิตในวัยเด็กบนเกาะที่เลวร้าย มีเพียงพี่มีน กับฟ้าใสเท่านั้นที่เป็นดั่งแสง และความสดใส ในชีวิตวัยเด็กของผม ผมชอบฟ้าใสมาก ๆ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ห้าว ๆ แฟร์ ๆ ไม่สนใจใคร เราอยู่ด้วยกันเกือบปี จนเธอต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ และผมต้องเข้าโรงเรียนประจำที่กรุงเทพ ทำให้เราขาดการติดต่อกันหลังจากนั้น แต่ผมก็ได้ข่าวเธอผ่านทางคุณพ่อของผมอยู่บ้าง ไม่คิดเลยว่าการมาพบกันอีกครั้ง เธอจะสวยขึ้นมาก ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ตามแบบคนเมืองหนาว และที่สำคัญมันทำให้ผมรำลึกขึ้นมาได้ว่าผมเคยชอบเธอมากแค่ไหน จริง ๆ ผมเคยบอกรักเธอด้วย แต่เธอไม่ได้ตอบรับ บอกแค่ว่ารอได้ไหม ถ้ารอได้จะมาให้คำตอบ

“เอ๊ะ คนนั้นใครค่ะ?”

“.....” อ่า.....ผมลืมอะไรไป.....หันกลับไปมองคนข้างหลังที่ยังยืนอยู่ที่ประตู ก็ต้องชะงัก เต้มองตรงมาที่ผมและฟ้าใส ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ สายตาที่มองตรงมา ผมอ่านไม่ออก

“อ้าว เต้เข้ามาซิ มีอะไรเหรอ หรือว่ามีเอกสารจะให้เซ็น” ผมที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก กลายเป็นคุณพ่อที่ทักเต้ เพราะคิดว่าเขามาด้วยเรื่องงาน เต้เบนสายตาไปมองคุณพ่อ ด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยน

“อ้อ ไม่มีครับ เผอิญผมผ่านมาเห็นประตูเปิดอยู่เลยจะมาปิดให้ครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
“เต้...เดี๋ยว” ผมเอ่ยเรียกเต้ ก่อนที่สมองจะประมวลผลซะอีก มีความรู้สึกเหมือนเขากำลังจะหายไป เต้หยุดมือที่จะปิดประตูแต่ไม่ได้หันหลังกลับมา

“อ้าว ซันจะเรียกเขาไว้ทำไม เขาจะกลับไปทำงานแล้ว เธอนี่ยังตั้งใจทำงานอยู่รึเปล่า คุณลุงเล่าวีรกรรมเธอให้ฉันฟังเยอะเลยนะ”
“เฮ้ย ไม่มี วีรกรรมอะไร ผมออกจะตั้งใจทำงาน” ไม่รู้จะพูดอะไรกับเต้ แต่ก็ไม่อยากให้เขาหันหลังให้ผม แต่เพราะฟ้าใส ทักไว้ ผมเลยจำต้องหันมาคุยกับเธอก่อน
“อ้อ ใช่ ๆ ลุงไม่ได้บอกเหรอว่าเพิ่งจะมาช่วงนี้แหล่ะ ที่มันขยันผิดปกติ ฮ่าๆๆๆ” คุณพ่อก็ร่วมผสมโรงด้วย กว่าจะหันไปอีกครั้งเต้ ก็ปิดประตูห้องไปเสียแล้ว

“ท่าทางซันสนิทกับพนักงานคนนั้นจัง”
“...เอ่อ เต้...เป็น…..”
“อ้อ เต้เขา เป็นเพื่อนที่กรุงเทพของซันน่ะ เขามาทำงานที่รีสอร์ท มาช่วยงานบัญชีพี่เอง” ผมที่อึก ๆ อัก ๆ ไม่รู้จะแนะนำเต้ในฐานะอะไรดี ก็ต้องหันมาตามเสียงพี่มีนที่ตอบข้อสงสัยฟ้าใสแทนผม และมองมาที่ผมเหมือนกับไม่ต้องการให้ผมเผยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเต้

“อ้อ เหรอค่ะ พี่มีนคะ ฟ้าเองก็เรียนบัญชี และบริหารมา ถ้ายังไงฟ้ามาช่วยพี่ด้วยดีไหมค่ะ”
“...อือ เหรอจ๊ะ พี่ว่าคุณลุงคุณป้า ไม่ปล่อยลูกสาวคนเดียวมาเป็นลูกน้องพี่หรอก กิจการที่บ้านตั้งเยอะ พี่ว่ามันต้องการฟ้าใสมากกว่าพี่แน่”

“แหม๋ ก็เพิ่งจบมาจะเอาอะไรไปบริหารบริษัทล่ะคะ หนูก็อยากเรียนรู้จากคนเก่ง ๆ อย่างพี่มีนบ้างซิค่ะ นะๆๆๆ”

“จ้า ถ้ามีอะไรที่พี่ช่วยได้ ก็ไม่รังเกียจจ้า”
“เย้ รักพี่มีน ที่สุดเลย”

“เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้ ยัยฟ้า เกรงใจหนูมีนบ้าง ไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ”
“อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ หนูดีใจที่เจอฟ้าใสคะ น้องยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลย”

“ฮ่ะๆๆ บอกแล้วพี่มีนใจดี”
“เอ่อ ซันพาฟ้าใสไปทานอะไรที่ห้องอาหารก่อนนะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับคุณอันดา”
“ครับ”
“งั้นหนูไปทำงานก่อนนะคะ”
“จ้า เจอกันตอนเย็นนะพ่อจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อนรัก และหลานฟ้าใส”
“ค่ะ”

พี่มีน เดินออกไปจากห้องทำงานพ่อ โดยหันมามองผมแค่แว๊บเดียว สายตาพี่มีนดูจะมีแววกังวล ผมเข้าใจว่าพี่เขากังวลเรื่องอะไร ผมเองตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออก ผมยอมรับว่าผมรักฟ้าใส รักมาตั้งแต่แรก และก็ยังคงรักอยู่ ช่วงเวลาที่ไม่ได้พบกัน ก็ไม่ทันได้คิดอะไร จนมีเต้เข้ามาในชีวิต ผมก็ลืมเรื่องของฟ้าใสไปเลย ....ผมไม่เคยคิดเลยว่าการได้พบกับฟ้าใสอีกครั้งจะทำให้หัวใจของผม ตื่นเต้น และหวั่นไหวอีกครั้ง จนเผลอปล่อยมือเต้...ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้วตอนนี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ อีซันจะเป็นแบบอีเพชรอีกละ สงสารเต้อะ เข้าอีหรอบเดิมอีกละ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เต้หนีอีซันไปไกลๆเลย ให้มันอยู่กะอีนังฟ้าใสฟ้าหม่นนั้นสมใจ ชิๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถ้าซันจะเปลี่ยนใจก็บอกเต้ไปเลยเถอะ ถึงตอนแรกจะเจ็บมากแต่หลังจากนั้นคงจะดีขึ้น จะได้ไม่ต้องจมปลักอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเต้จริงๆ

ออฟไลน์ ammie_mn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เต้จะต้องเจ็บปวดกับความรักไปอีกสักเท่าไรนะ

ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอบคุณสำหรับกำลังใจให้กับ เต้ นะคะ  :mew6:
มันดีมากกกกกเลย เพราะเต้ คงต้องการมันเป็นอย่างมากกกกกก ในไม่ช้า


*********************************************


ตอนที่ 27 May be…..




“อ๊ะ ขอโทษครับ”
“อ๊ะ อ้าว พี่เต้ โหยก้มหน้าก้มตาเดิน ดีนะผมไม่ได้ถือของร้อน”

“ขอโทษนะ เลาะห์ พี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย”
“ฮ่าๆๆๆ อย่างพี่มีอะไรให้ต้องคิดด้วยเหรอ ออกจะใจเย็น”

“ฮึ คนอย่างพี่มันก็มีเรื่องให้ต้องคิดด้วยเหมือนกัน”
“เอ่อ พี่เห็นแขกนายหัวรึยัง โหยโครตสวยเลยอ่ะ หน้าตาอย่างกับพวกดารา ผิวพรรณดี๊ดี เห็นว่าเป็นครอบครัวเพื่อนสนิทนายหัว แต่ผมว่ามันต้องมีซัมติงแน่ๆ เลย บ้านนึงมีลูกชาย อีกบ้านมีลูกสาว ผมว่า..”

“เอ่อ ขอโทษนะเลาะห์ พี่มีงานด่วนแต่เช้าเลย พี่ขอตัวก่อนนะ”
“อ่อ  โอเคพี่เต้ งั้นเที่ยงกินข้าวกันนะ ผมได้ปลาสดมาจะทำแกงส้มให้กิน”
“ครับ ขอบคุณครับ พี่ไปนะ”




กว่าจะเดินมาถึงห้องบัญชี แต่ละฝีก้าวเหมือนมีหินถ่วงไว้ จนรู้สึกหนักอึ้ง
ท่าทางเขาสนิทสนมกันมาก คุณซันเอง ก็ดูตื่นเต้นที่ได้พบกับคุณคนสวยคนนั้น .........คุณฟ้าใส

ตอนนี้ผมรู้สึกโหวงๆ ในอก ไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน หึง หวง กังวล กลัว ไม่รู้ ผมไม่รู้ว่ารู้สึกอะไรตอนนี้ ผมน่าจะชินกับสภาพอย่างนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนที่ผมรักต้องเลิกรากันไป.........ไม่ใช่ เรายังไม่ได้เลิกรากัน ผมควรจะต้องไว้ใจคุณซันใช่ไหม เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย ผมควรจะต้องฟังเขาก่อน มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ แค่เพื่อน ญาติ คนรู้จัก.........................









“เต้ เต้ ฟังพี่อยู่รึเปล่า”
“ห๊ะ หา..เอ่อ ครับ ๆ พี่มีน” สะดุ้งสุดตัว เพราะมัวแต่คิดอะไรไร้สาระ จนไม่ทันฟังว่าพี่มีนสั่งงานอะไรเพิ่มอีก

“อะไร พี่พูดนี่เธอไม่ได้ฟังเลยเหรอ ใส่ใจหน่อย ดูตัวเลขที่มันไม่ลงตัวนี่ มันจะเป็นไปได้ยังไง เธอตรวจทานมาให้พี่ใหม่เลย .....” พี่มีนมีสีหน้าไม่พอใจ กับผลงานของผม ซึ่งผมเองก็รู้สึกเฟลเช่นกัน มันไม่ควรจะผิดพลาดอย่างนี้ นี่ผมทำอะไรลงไป กล้าทำงานชุ่ย ๆ มาส่งพี่มีนได้ยังไง

“..เอ่อ ครับ ผมขอโทษครับ คราวหน้าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีกครับ”
“....เต้”



“..ครับ?” ผมที่โค้งรับความผิด กำลังจะเก็บงานกลับไปแก้ ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่มีนที่เรียกผมไว้
“....อือ พี่...พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

“ครับ พี่มีนมีอะไรจะให้ผมทำเพิ่มหรือครับ” จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าสายตาพี่มีนมีแววหมองลง นี่ผมคงไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดอีกหรอกนะครับพี่มีน

“...เฮ้อ..มัน ไม่ใช่เรื่องงานหรอกเต้ ...พี่จะคุยเรื่องซันกับฟ้าใส”

“.........” ทันทีที่ได้ยินชื่อพวกเขาทั้งสอง หัวใจผมก็กระตุกไหว ขนที่คอและหลังลุกอย่างบังคับไม่อยู่ พี่มีนยังคงมองมาด้วยสายตาแน่วแน่ ทั้งห้องผมรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นช้าลง จนเหมือนจะหยุดเต้น





“...เต้ คือ......ฟ้าใสเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณลุงอันดา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อ...ตอนเด็ก ๆ ฟ้าใสไม่ค่อยสบาย หมอเลยแนะนำให้มาอยู่ที่เกาะ เพราะอากาศบริสุทธิ์กว่าอยู่ในเมือง คุณพ่อเลยอาสารับฟ้าใสมาดูแล และก็เป็นเพื่อนเล่นกับพี่และซันอยู่เกือบปี ฟ้าใสเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี รักความยุติธรรม ใครที่มารังแกซัน ก็โดนฟ้าใสเล่นงานซะอ่วมเลย ในตอนนั้นซันชอบฟ้าใสมาก พี่ว่าก็คงเพราะเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวด้วยแหล่ะ.............”

“......” พี่มีนเล่าถึงเรื่องราวแต่หนหลังพร้อมกับมองหน้าผมเป็นระยะ ๆ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าจะมาบอกผมทำไม แต่หลังจากที่พี่เขาพูดจบ ผมก็เริ่มรู้แล้วล่ะ ว่าสิ่งที่พี่มีนต้องการจะสื่อคืออะไร

“ตอนนั้นคุณลุงอันดาให้ฟ้าใสไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ผู้ใหญ่เขาก็ดูออกว่าเด็กๆ ชอบพอกัน คุณลุงกับคุณพ่อท่านพอใจมาก แต่ก็คิดว่าทั้งคู่ยังเด็ก ยังไม่ประสา เลยอยากให้แยกๆ กันไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่แค่เรื่องรัก ๆ ของเด็กๆ.......ซึ่งตอนนี้ฟ้าใสเรียนจบแล้ว และกลับมาแล้ว พี่...พี่ก็เพิ่งได้ยินคุณพ่อกับคุณลุงอันดาคุยกัน..........เรื่อง.....เรื่อง หมั้นหมายของซันกับฟ้าใส.........พี่...พี่ลำบากใจที่จะพูด แต่ว่า พี่อยากให้เต้ ทำใจไว้ก่อน ....เอ่อ พี่ว่าต้องดูว่าทั้งสองคนยังมีใจให้กันหรือเปล่า ถ้าไม่ พี่คิดว่าคุณพ่อและคุณลุงคงไม่ฝืนใจหรอก”

“....” ยิ่งผมเข้าใจวัตถุประสงค์ของพี่มีนเท่าไหร่ น้ำเสียงของพี่มีนเหมือนจะค่อยๆ  เบาลงเรื่อย ๆ ผมรู้สึกเหมือนจะจมดิ่งลงไปในทะเลที่หนาวเหน็บ จนเผลอก้มหน้า
“เต้...เต้...เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหม” พี่มีนจับแขนของผมให้ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่มีน ทั้งที่ในหัวสมองรู้สึกว่างเปล่า





“............ครับ....พี่มีน ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมเข้าใจครับ....ผมไม่ได้คิดอะไร คุณซันก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ....แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผม จะไม่ทำให้พี่และครอบครัวเดือดร้อนหรอกครับ” กว่าสติผมจะกลับมา กว่าที่ผมจะกลั่นกรองคำพูดออกมาเพื่อปกป้องความรู้สึกตัวเอง และปกป้องครอบครัวของผู้มีพระคุณอย่างลุงและพี่มีน มือผมออกเหงื่อที่ชื้นจนรู้สึกได้ สิ่งที่ผมพูดออกมามันไม่ใช่อย่างที่ผมรู้สึกจริงๆ  จนไม่กล้าสบตาพี่มีน

“เต้ ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ไม่ได้กลัวเดือดร้อน พี่เป็นห่วงเธอจริง ๆ นะ”
“ครับ พี่ผมเข้าใจครับ พี่มีนทำใจให้สบายนะครับ ...ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” พี่มีนจับแขนผมสองข้างให้ผมพยายามสบตบเธอ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ได้แต่ก้มหน้ารับคำเธอ ก่อนจะขอตัวออกไปทำงานต่อ

“เอ่อ..จ๊ะ” เธอถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยให้ผมหันหลังเดินออกมา


ผมเดินลอย ๆ กลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน หยิบเอกสารที่จะต้องบันทึกในเครื่องคอมขึ้นมา กดคีย์งานเข้าไปเหมือนทำงานตามปกติ

มันก็เหมือนระบบอัตโนมัติ ที่กำลังทำงานอย่างไร้ชีวิตจิตใจ  ตอนนี้ หัวผมโล่ง ขาวโพลนไปหมด แต่ที่ทำงานอยู่ได้เพราะมันเป็นงานเดิม ๆ บันทึกข้อมูลไม่ต้องคิดอะไรเลย ถึงให้คิด ก็คิดไม่ออกหรอกครับ............ทำเป็นปากเก่งบอกพี่มีน แต่ข้างในมันเหมือนจะร้องไห้ ......ผมเคยบอกรึยังว่า......



ไม่เคยมีอะไรที่เป็นของผมจริง ๆ










ผมชะเง้อมองตลอดว่าเมื่อไหร่คุณซันจะเข้ามาอธิบายเรื่องต่าง ๆ มาบอกให้ผมสบายใจว่าผมนะคิดมากไปเอง เขากับคุณฟ้าใสแค่เพื่อนวัยเด็กเท่านั้น มาบอกว่าเขารักผมคนเดียว เหมือนที่พร่ำบอกผมอยู่ทุกคืนวัน

แต่ก็ไร้เงาคนที่คิดถึง เห็นน้องวรรณ แม่บ้านบอกว่า คุณซันตามนายหัว และเพื่อนของท่านไปเดินชมส่วนต่าง ๆ และออกไปนอกรีสอร์ทแล้ว ผมได้ฟังก็ถอนหายใจ มิน่าเขาคงจะยุ่ง ผมเก็บของเตรียมกลับที่พัก ไปรอเขาที่บังกะโลดีกว่า ผมควรเชื่อใจเขา..............นะ








แสงอาทิตย์ดับไปนานแล้ว แต่วี่แววคนที่คอยก็ยังไม่กลับมา อาหารที่เตรียมไว้รอ คงต้องเก้อ ผมเองก็กินไม่ลง ได้แต่นั่งจิบน้ำผลไม้ ไปพลาง มองทางที่มาจากรีสอร์ท ไปพลาง

“อ้าวเต้ ยังไม่กินข้าวอีก”
“อ้าวเฮีย ไหนว่าจะนอนแล้วละครับ”

“ก็จะนอนแต่ก็เห็นลื้อยังนั่งอยู่....ไอ้นั่นยังไม่กลับมาเหรอ”
“....ครับ”
“ไม่โทรไปถามมันล่ะ มัวแต่นั่งคอยทำไม”
“เอ่อ...ผมว่าอีกเดี๋ยวเขาก็กลับแล้วละครับ เอ่อ ผมเก็บของพวกนี้ไว้ก่อนดีกว่า”

“เต้”
“ครับ” ผมที่กำลังเก็บจานอาหารก็ต้องชะงักหันมามองเฮียตงที่ยังไม่เดินเข้าห้อง

“...ไม่มีอะไร นอนได้แล้วล่ะ มันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้บ่าย ๆ ยังต้องไปช่วยเฮียอีก”
“อื้อ นี่เก็บเสร็จก็จะเข้านอนแล้วล่ะ เฮียไปนอนเถอะ” เหมือนเฮียมันอยากจะพูดอะไรมากกว่านั้นแต่ก็ไม่ได้พูด มือเฮียที่ยกขึ้นมายีหัวผม ทำให้รับรู้ได้ถึงความห่วงใย ก่อนจะกล่าวลาเข้านอน
“ราตรีสวัสดิ์”
“ครับ ราตรีสวัสดิ์”






หลังจากเก็บของเสร็จก็เข้าห้องแปรงฟัน เรียบร้อย ก่อนจะนั่งลงบนเตียง เตียงที่ผมนอนช่วงหลังทุกวัน แต่วันนี้ สัมผัสของมันช่างเย็นเยือก จนผมต้องยกมือขึ้นกอดอก

เฮียมันคงได้ยินข่าวอะไรมาบ้าง แต่ดีแล้วทีไม่ถามอะไรตอนนี้ เพราะผมเองก็ไม่มีคำตอบใด ๆ ให้เฮียเหมือนกัน มันยังโหวง ๆ ในอก หัวสมองก็โล่ง ๆ แปลก ๆ ผมไม่อยากจะคิดไปเอง มันอาจไม่ใช่อย่างที่คิด


เมื่อครั้งเพชรหมั้น ผมยังไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างนี้เลย ก็เจ็บปวดใจ แต่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนตัวจะขาดออกจากกันอย่างนี้ ทรมาน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมยอมรับว่ารักคุณซันมาก ไม่เคยรักใครเหมือนที่รักเขา เขาเข้ามาในใจผมช้า ๆ แต่มั่นคง ฝังรากลึกในใจผมอย่างเหนียวแน่น จนผมยังไม่อยากจะนึกเลยว่า ถ้าวันหนึ่งเขาเองก็ต้องไปมีครอบครัวปกติ มีทายาทสืบสกุล ........ผม...จะเป็นยังไง


ผมพยายามยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า คนแบบผม คงจะหารักแท้ และยั่งยืนยาก แต่ผมก็ไม่ลดความพยายาม ยังคงใฝ่หาความรัก ที่เหมือนกับมวลหมอก รู้สึกได้ แต่จับต้องไม่ได้





ใกล้เที่ยงคืนแล้ว เขายังไม่กลับมา หรือผมควรจะต้องทำใจแล้ว เผื่อจะได้มีเวลามากหน่อยให้ผมอีกซัก วินาที .......ความคิดร้าย ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ผม ควรจะข่มตานอน เพื่อจะพบว่าพรุ่งนี้ มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผม กังวล

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เที่ยงคืนแล้ว ผมก้าวเข้ามาในห้องนอน ที่ปิดไฟแล้ว คงมีแต่แสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาให้ผมได้เห็นร่างบาง ที่นอนหันหลังบนที่นอน ดึกมากแล้ว เต้คงจะหลับไปแล้ว

เข้าไปจัดการอาบน้ำในห้องน้ำครู่หนึ่ง จึงออกมานั่งที่เตียง เต้ยังคงนอนหันหลังให้ผม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ที่เต้ชอบนอนตะแคงขวา เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเต้คงจะหลับไปแล้ว

เอนกายลงนอนข้าง ๆ กัน เอามือก่ายหน้าผาก เหล่มองคนที่นอนข้าง ๆ กัน ก็ยิ่งหนักใจ ไม่รู้จะเริ่มพูดกับเต้อย่างไรดี วันนี้ พวกพ่อและคุณลุงอันดา ได้พูดคุยกับเขาเรื่องที่จะจัดการให้เขาได้หมั้นหมาย และแต่งงานกับฟ้าใส บอกเลยว่าตอนได้ยิน หัวใจผมพองโตด้วยความยินดี ปรีดา ผมรักฟ้าใสมานานแล้ว ถึงตอนนี้ก็ยังรักอยู่เหมือนเดิม แต่ขณะที่กำลังปลื้มปริ่มกับรอยยิ้มเขินอายของฟ้าใสที่มองมา ภาพใครคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมา ทำให้หัวใจของผม หดลงเหมือนลูกโป่งถูกเจาะเลยก็ว่าได้ ผมรักฟ้าใส แต่ผมก็รักเต้เช่นกัน ช่วงเวลาที่อยู่กับเต้ ผมลืมฟ้าใสไปสนิท ผมอยากคุยกับพ่อ แต่ก็ไม่มีโอกาส เพราะคุณลุงอันดาอยู่ด้วยตลอดเวลา  ผมว่าพ่อน่าจะให้คำปรึกษาผมได้ ผมไม่รู้จะบอกเต้อย่างไรดี ถ้าผมพูดไป ผมกับเขาจะเป็นยังไงกันต่อไป ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม จนเผลอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนี้จะคิดให้มันได้อะไร พยายามข่มตานอน พรุ่งนี้ค่อยแก้ปัญหาดีกว่า

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
“เฮ้อ”

เสียงถอนหายใจหนัก ๆ บ่งบอกว่าคนข้างกาย คงมีเรื่องหนักใจ คิดไม่ตก
ผมเองก็ยังไม่หลับ ได้ยิน และรับรู้ว่าคุณซันกลับมาแล้ว ใจหนึ่งอยากจะหันไปคุยด้วย แต่อีกใจก็ไม่กล้า กลัวคำตอบ เมื่อคิดว่าไม่รู้จะพูดอะไร จึงแกลัง ทำเป็นนอนหลับ ถึงแม้ใจจะเต้นระทึกไม่เป็นจังหวะ ถ้าเขาปลุกเราขึ้นมาคุยจะทำอย่างไร แต่จนแล้วจนรอด คุณซันเข้าห้องน้ำออกมาแล้ว ก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ แถมถอนหายใจหนัก ๆ อย่างคนลำบากใจ และที่สำคัญ .....เขาไม่ได้นอนกอดผม..... ปกติเขาจะนอนกอดผมทุกคืน

รู้สึกได้ว่าขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่มีเสียงสะอื้น นี่มันเป็นสัญญาณใช่ไหม

สัญญาณว่า ความสุขของผม กำลังจะหมดอายุลงแล้ว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้ออออ. สงสารเต้อะ อีซันแมร่งใจร้ายมากๆอะ

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สงสารเต้ เต้หนีไปเลย หนีไม่ให้ซันตามเจออ่ะ
หนีไปให้พ้นจากคนโลเล ไม่ปลื้มซันขอบอก  :beat:  :z6:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
จะว่าไงดี

ซันมันโลเลหรือเปล่านะ

ไม่งั้นก็ให้เต้เลิกกะซันแม่ม  :fire:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
หวัดดีคะ  :impress: มาต่อกันเลยดีกว่า เรื่องราวกำลังเข้มมมมมข้น ขอกำลังใจให้ทั้งคนเขียน และเต้ด้วยนะคะ



**************************************************





ตอนที่ 28 How to keep you two.



ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก ลุกขึ้นมานั่งเอื้อมมือไปปิดเสียงปลุก รู้สึกหนัก ๆ หน่วง ๆ ในหัว กว่าจะเรียกสติ กลับมาได้ก็คิดถึงเรื่องเมื่อวาน รีบหันไปมองไปที่เตียงข้างกาย ก็อดจะใจหาย

ว่างเปล่า ไม่มีแม้เงาของเต้

 ผมหันไปดูเวลา นี่มันเพิ่งจะ 7 โมงเช้าเอง ปกติเต้จะตื่นเช้ามาก เขาชอบออกกำลังกาย ก่อนจะไปอาบน้ำเสร็จแล้วถึงมาปลุกผม แต่วันนี้เขากลับไม่เหมือนเคย เขาไม่ได้มาปลุกผม แต่เปิดนาฬิกาให้ปลุกผมแทน มองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีวี่แววของเต้อยู่เลย เขาน่าจะไปทำงานแล้ว

ผมคิดว่าเขาคงจะรู้สึกอะไรบ้างกับเรื่องเมื่อวาน ไม่งั้นคงไม่ไปโดยไม่ปลุกผมแน่ ส่วนตัวผมเอง ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะคุยกับเต้อย่างไงดี

ผมว่าควรจะต้องค่อย ๆ คุยกับเต้ เขารักผม ผมก็รักเขา เราน่าจะคุยกันได้ไม่ยาก คิดได้ดังนั้นก็เบาใจขึ้นเลยลุกไปอาบน้ำเพื่อไปทำงาน







และก็เป็นอย่างที่คิด ยังไม่ทันเดินถึงห้อง ผมก็มองผ่านกระจกเห็นเต้นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าตาเต้ดูปกติดี ทำให้ผมเริ่มจะมีหวังมากขึ้นว่าเราคงจะคุยกันง่ายขึ้น ผมว่าทุกอย่างมันมีทางออก ขึ้นอยู่กับเราจะร่วมมือกันหาทางออกไหม

“เต้..” ผมที่เพิ่งจะเปิดประตูห้องบัญชีเข้าไปครึ่งตัว เรียกเต้ ซึ่งเขาก็หันมามองผม ตามปกติ
“ซัน อรุณสวัสดิ์ค่ะ”แต่ก็ต้องชะงักทั้งสองคนเพราะ ฟ้าใส เดินมาเรียกผมที่หน้าประตู

“ซัน วันนี้พาฟ้าไปเที่ยวเกาะหน่อยซิ” ฟ้าใสเดินเข้ามาคล้องแขนผมต่อหน้าเต้ ผมหันกลับไปมองเต้ ก็ไม่ทันที่จะเห็นแววตาของเต้ เพราะเขาก้มหน้าทำงานต่อไปซะแล้ว

“เอ่อ ...” ผมอยากจะเรียกให้เต้หันมามอง ผมอยากเห็นหน้าเขาชัด ๆ ที่สำคัญผมอยากเห็นแววตาของเขา
“นะ ๆ ๆ ซัน คุณลุงบอกว่า ซันขับเรือได้ ฟ้าอยากไป คุณลุงเลยบอกจะให้ซันเอาเรือออกให้”
“เอ่อ ฟ้าครับ ผม”
“เอ๋ หรือว่าซันไม่ว่างค่ะ ...ขอโทษคะฟ้าก็ไม่ทันคิด คุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไว้วันหลังก็ได้” ผมที่กำลังระล้าระลัง ไม่รู้จะทำไงดี คงทำให้ฟ้าใสคิดว่าผมไม่ว่างแล้วรู้สึกเกรงใจตามนิสัยของเธอ เสียงตอนท้ายฟังดูสลดจนน่าสงสาร

“เอ่อ เปล่า ๆ ผมว่าง ไปซิ วันนี้อากาศดีด้วย”
“จริงเหรอค่ะ เย้ ดีใจจังเลย จะได้ไปเที่ยวเกาะแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆ” เห็นท่าทางดีใจเป็นเด็ก ๆ ของฟ้าใสแล้วก็อดจะยิ้มตามไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ ทำให้ผมยิ้มได้เสมอ

“คุณ.. เอ่อ คุณเต้ใช่ไหมคะ ไปเที่ยวด้วยกันไหมค่ะ”
“....อ้อ ไม่ล่ะครับ ขอบคุณที่ชวน ผมมีงานค้างเยอะ เชิญคุณตามสบายเลยครับ” เต้เงยหน้ามามองฟ้าใส แต่ไม่สบตาผมเลย ไม่ว่าผมจะพยายามมองเขาแค่ไหนก็ตาม จนสุดท้ายเขาก็ก้มหน้าลง และตั้งหน้าทำงานต่อโดยไม่สนใจผมอีกเลย มันทำให้ผมรู้สึกขัดใจมาก อยากจะกระชากคนดื้อให้หันมามองหน้ากัน แต่ก็ทำอะไรตามใจไม่ได้ เพราะฟ้าใส ยังคงเกาะแขนผม และพูดคุยอยู่ไม่ห่าง จนใจเลยต้องปล่อยไปก่อน







เรือยอร์ชลำเดิม มีผมเป็นกัปตัน และมีผู้โดยสารคนเดียวคือฟ้าใส  เล่นผ่าเกลียวคลื่น ไปเรื่อย ๆ โดย จนถึงเกาะห้อง ผมจอดเรือเพื่อให้ฟ้าใส เล่นน้ำ
“ซันค่ะ ทาครีมกันแดดที่หลังให้หน่อยซิค่ะ” ผมถึงกับตะลึงเมื่อฟ้าใสก้าวออกมาจากเคบินมาที่ดาดฟ้าเรือ ด้วยชุดว่ายน้ำ ทูพีช หญิงสาวเกล้าผมลวก ๆ ปอยผมบางส่วนระตามลำคอระหง ทำให้ดูเซ็กซี่ รูปร่างสมส่วนที่อวบอัด แต่ก็ดูเพรียวบาง เยื้องย่างเข้ามาใกล้ กว่าจะรวบรวมสติได้ก็ได้ยินเธอเรียก

“แมงวันจะเข้าปากแล้วซัน ...ตะลึงละซี่”
“..ฮ่ะๆๆๆ ครับ ต้องยอมรับว่าตะลึงไปเลย ไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงเฮี้ยว ๆ เมื่อตอนนั้นจะกลายมาเป็นนางหงส์สง่างามซะขนาดนี้”

“ว้าย ๆ  พูดซะเขินเลย ใช่ซี่ ก็ตอนนั้นยังเด็กอยู่นี่ แต่ก็ขอบคุณที่ชมนะคะ ซันเองก็หล่อขึ้นมากเลย ไม่เหลือคราบเด็กขี้แยเมื่อก่อนเลย”
“ว้า ไม่ดีเลย คนที่เคยรู้เบื้องหลังเรานี่ ทำอะไรก็รู้ไปหมด”

“ทาครีมให้หน่อยซิ ฟ้าอยากเล่นน้ำแล้วอ่ะ”
“ครับเจ้าหญิง”
ผมรับหลอดครีมกันแดดมาแล้วค่อย ๆ บรรจงทาบฝ่ามือบนหลังของฟ้าใส ในขณะ ที่เจ้าตัวทาครีมที่แขน ขาของตัวเองอยู่ ผิวของฟ้าใสเรียบเนียน และนุ่มนิ่มมาก ผมค่อย ๆ ลูบครีมทั่วทั้งแผ่นหลังเนียน ลากมือขึ้นไปที่ลำคอ แล้วลากปลายนิ้วลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง

“อ่ะ” เสียงครางหวาน ๆ แว่วมาฟ้าใสแอ่นหลัง หนีมือผม แล้วหันหน้ามามองผมเขม็ง ด้วยดวงหน้าแดงกล่ำ
“หือ”
“คิดอะไรหรือเปล่านี่ซัน” ผมยิ้มให้กับคำถามตรง ๆ ของคนหน้าแดงตรงหน้า ถามว่าคิดไหม

คิดครับ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา ฟ้าใสงดงามเพียงนี้ บวกกับที่ผมรู้สึกรักใคร่เขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บรรยากาศเป็นใจซะขนาดนี้ จะไม่เผลอคิดได้ไงกัน

“แล้ว ที่หน้าแดงขนาดนี้ ฟ้าคิดอะไรเหรอครับ” ผมเย้าฟ้าใส โดยเอนตัวเข้าไปหา เธอก็ไม่ได้เอนตัวหนี แต่ก็เอนไปด้านหลังเล็กน้อย
“อย่ามาใช้เสน่ห์กับฟ้านะ หลงไปแล้วต้องรับผิดชอบด้วย”
“ฮ่ะๆๆ ก็คิดอยากรับผิดชอบอยู่นะครับคนสวย”

ใบหน้าของเราค่อย ๆ เข้าใกล้กันเรื่อย ๆ ฟ้าใสเริ่มหลบสายตา ท่าทางเขินอายอย่างน่าเอ็นดู ผมเกลี่ยจมูกข้างแก้มเธอ กลิ่นน้ำหอมราคาแพง กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ ผมค่อย ๆ บรรจงจูบริมฝีปากสีชมพูนิ่มอย่างแผ่วเบา เธอมีอาการเกร็งตัวเล็กน้อย ผมเริ่มลิ้มเลียริมฝีปาก แล้วส่งลิ้นเข้าไปกวาดหาความหวานจากโพรงปากของเธอ ลิ้นเล็กพยายามหนี ผมก็กวาดต้อนจน ลิ้นของเราเกี่ยวกระหวัดกันผมดูดดุนลิ้นน้อยจนเจ้าของร่างสั่นสะท้าน อ่อนระทวย เข้ามาซบผมทั้งตัว นวลเนื้อนิ่มสัมผัสกับอกแกร่งของผม ยิ่งกระตุ้นให้ผมรุกเร้า อย่างเร่งรีบ ผมละจูบเธอมาและเล็มที่ซอกคอ และใบหู


“พอแล้วๆ ซัน ไม่เอา ๆ หยุด ๆๆๆๆ” กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม จู่ ๆ ฟ้าใสก็ผลักผมออกแล้วลุกขึ้นมาลูบหน้าลูบตัว ตอนนี้ผิวขาว ๆ ของฟ้าใสแดงเป็นกุ้งทั้งตัว ก่อนจะหันมาส่งสายตาค้อน ๆ

“มือไวจริง ๆ เลย ซันนี่ เกือบเผลอใจไปแล้วเชียว”
“ฮ่ะๆๆ อะไรกัน ก็นึกว่าชอบนี่นา เห็นให้ความร่วมมือดีเชียว”

“ทะลึ่งล่ะ ใครเจอเธอโลมเล้าขนาดนั้นก็มีเคลิ้มทั้งนั้นแหล่ะ ตาบ้า ไม่เอาแล้ว ฟ้าไปเล่นน้ำดีกว่า”
ฟ้าใสตีแขนผม ก่อนจะกระโดดลงน้ำจากชั้นดาดฟ้า เฮ้อ เซี้ยวจริงๆ เห็นแล้วก็อดนึกเอ็นดูไม่ได้ เธอลงน้ำได้ก็ดำผุดดำว่าย ผมก็ได้แต่นั่งจิบเบียร์มองเธอเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน

แต่ก็ได้เพียงครู่ ภายในใจก็เผลอคิดถึงใครบางคน เมื่อกี้ถ้าฟ้าใส ไม่ผลักผมออก ก็คงเป็นผมนี่แหล่ะที่จะผละออกมาเอง ผมที่กำลังมีอารมณ์กับฟ้าใส แต่ก็ดันไปนึกถึงบทรักเร่าร้อนของผมกับใครอีกคนหนึ่งบนเรือลำนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ท้องผมรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาทันที ผมจะจัดการกับความรู้สึก และปัญหาของเรื่องระหว่างพวกเรายังไงดี











ช่วงบ่ายเราสองคนก็กลับเข้ามาที่รีสอร์ทอีกครั้ง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ และนัดเจอกันอีกทีช่วงบ่ายแก่ ๆ เพราะต้องไปทำธุระกันที่ภูเก็ต ผมจะอาบที่บ้านก็ได้ แต่ก็คิดว่ากลับไปอาบที่บังกะโลจะใกล้กว่า เลยเดินกลับไปที่บังกะโล



ผมเปิดประตูห้องเข้าไป แว๊บแรกก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ผมหยุดยืนมองไปรอบ ๆ ห้อง



ของทุกอย่างของเต้ หายไป ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้า รู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ กัดฟันกรอด ปิดประตูกลับไปอย่างแรง ก่อนจะเดินเร็วอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไปที่รีสอร์ท

“เต้ล่ะ”
“เอ่อ ไม่เห็นครับ”

“เห็นเต้บ้างไหม”
“เอ๋ ไม่เห็นค่ะ คุณซันมีอะไรจะให้ทำรึเปล่าค่ะ เดี๋ยวป้า...”

“ไม่มีอะไร ไปทำงานเถอะ”
หาทั่วทั้งที่ห้องบัญชี ห้องอาหาร ห้องแม่บ้าน กระทั่งห้องคนสวนก็แล้ว แต่ก็ไม่เห็นวี่แวว ไปไหนของเขานะ เหลือก็แต่ห้องครัวนี่แหล่ะ เฮียตงน่าจะรู้ว่าเต้ไปไหน คิดได้ก็เร่งฝีเท้าไปทางห้องครัว

“เฮียตง”
“อ้าวคุณซัน “

“เอ่อ พี่เหน่ง....เฮียตงล่ะครับ” มองไปรอบ ๆ ก็เห็นแต่พี่เหน่ง และผู้ช่วย

“อ้อ เขาขึ้นไปซื้อวัตถุดิบที่ภูเก็ตครับ คุณซันมีอะไร...อ้าวคุณซัน” ฟังไม่ทันจบผมก็รีบวิ่งออกมาทันที เฮียไม่อยู่แล้วเต้ไปไหน คนที่จะตอบผมได้คงเหลือแต่พี่มีนแล้วล่ะ




“พี่มีนครับ...” ผมเปิดประตูห้องพี่มีน เข้าไปอย่างรีบร้อน พี่เขาเงยหน้ามามองผมด้วยสายตาสงสัย
“อะไร กลับมาแล้วเหรอ สนุกไหม”

“พี่มีน เต้ไปไหนครับ”
“.......” พี่มีนหุบยิ้มที่ถามผมทันที ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองผมเขม็ง

“ผมหาทั่วรีสอร์ทแล้วก็ไม่เห็นเลย พี่ครับ เต้ไปไหนครับ”
“....อ้อ เฮียตงต้องไปซื้อของที่ภูเก็ต เต้เลยอาสาไปช่วยนะ” พี่มีนขยับกลับไปสนใจเอกสารต่อ ในขณะที่ยังพูดคุยกับผม

“แค่ไปซื้อของแล้วทำไมของ ๆ เต้หายไปจากห้องผมหมดเลยละครับพี่”
“....อือ...แล้วไง ก็ถูกแล้วนี่”

“พี่หมายความว่ายังไงครับ” ผมที่หัวเสีย รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่น่าพิสมัยของพี่สาวตัวเอง ก็ยิ่งรู้สึกหัวเสียมากขึ้น

“พี่ก็หมายความว่า เต้เขาเข้าใจอะไรง่ายดี นายเองก็ควรให้ความร่วมมือด้วย” พี่มีนเปรยตาขึ้นมามอง ก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารในมือต่อ

“ร่วมมือ.......ร่วมมืออะไรครับ” ผมตบโต๊ะทั้งสองมืออย่างแรง ทำให้พี่มีนถลึงตาขึ้นมามองอย่างเหลืออด
“ซัน ฟังพี่นะ แกกำลังจะหมั้นกับฟ้าใส......แล้วแกจะคบกับเต้ได้ยังไง” เสียงพี่มีนตวาดผม อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน จนผมถึงกับอึ้ง

“แต่ผม.....”
“ซัน...พี่ชอบเต้มากนะ แต่พี่ก็ชอบฟ้าใสมากด้วย ถึงจะรู้สึกผิดกับเต้ แต่พี่สนับสนุนฟ้าใส”

“แต่ผมรักทั้ง 2 คน...”
“เห๊ยย งั้นแกก็แก้ปัญหาของแกเองเถอะ ชั้นไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว” พี่มีนตบโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะตวาดลั่นแล้วเดินออกไปจากห้อง





ผมทรุดตัวนั่งที่โซฟารับแขก กุมขมับ
ใช่ผมมันเห็นแก่ตัว ผมรักฟ้าใส แต่ผมก็ไม่อยากเลิกกับเต้ ผมต้องทำอย่างไงถึงจะหาทางออกให้เรื่องของเราได้ พี่สาวที่เคยเป็นพวกด้วยก็ ไม่เห็นด้วยกับความคิดของผม แล้วอย่างนี้ผมจะสามารถทำอะไรได้อีก


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีซันเห็นแก่ตัวมากๆเลย

ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
หูยยยย..... มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันนะ....ดูโหดกับเต้ตลอดเบยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด