DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป -UPตอนพิเศษ คริสอู๋เต๋ารีเทิร์น 2/5/58 p14  (อ่าน 87741 ครั้ง)

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ


10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2015 14:15:37 โดย MimicClub »

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
«ตอบ #1 เมื่อ24-11-2014 19:00:15 »

DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป


นิยายเรื่องนี้แต่ตามจินตนาการของนักเขียนล้วนๆ ไม่ได้เกิดจากเรื่องจริงแต่อย่างใด... ถ้ามันจริงก็แปลกนะ ฮ่าๆๆๆ

เป็นพล็อตที่ได้มาจากการอ่าน การดู อนิเมะทั้งหลายแหล่ที่เกี่ยวกับตุ๊กตาจนเกิดความอยากขึ้นในใจ

ส่วนใหญ่แต่งนิยายพีเรียดแนวจีนกำลังภายในบนเว็บเด็กดี แต่ตอนนี้เป็นแนวแฟนตาซีไทยๆภาษาง่ายๆไม่ซับซ้อนมาก

เป็นนิยายแนวใสๆ สนุกหรือไม่ๆรู้ต้องอ่านไปเรื่อยๆค่ะ ถ้าสนุกก็บอกๆกันบ้างนะคะ เม้นสักนิดเพื่อความกระชุ่มกระชวยในหัวใจ

ภาษาของนักเขียนไม่แข็งแรงผิดพลาดตรงไหนทักได้ค่ะจะเป็นการดีอย่างยิ่งที่มีคนสนใจ

อ่านแล้วได้โปรดอย่ามองผ่านไปเลยพลีสสสสสส...

ใครเล่นทวิตสามารถแท็กคอมเม้นพูดคุยได้ที่แท็ก #DOLLFIEตุ๊กตาต้องสาป

ไม่มีการทวงนิยายนะคะ แต่งเรื่อยๆ มากน้อยแล้วแต่อารมณ์ขยัน ตามแรงผลักดันของคนอ่านจากการคอมเม้นด้วย

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายชายๆ บ้าๆบอตามประสาหยาบคายบ้างเป็นเรื่องปกติ อาจจะมีฉาก... มาจิ๊จ๊ะมาครั้งคราวตามเนื้อเรื่อง
เพราะฉะนั้นไม่ได้ต้องการให้คาดหวังมากแต่ก็อยากได้กำลังใจดีๆ ขอบคุณค่ะ!



DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
[/size]


 

เคยไหมครับ... เวลาที่เราชอบอะไรสักอย่างมันมีความรู้สึกเหมือนหลงใหลไปกับสิ่งนั้น มันเคลิบเคลิ้มในเวลาที่เห็น กระดี๊กระด๊าไม่ต่างจากพวกผู้หญิงเวลาเจอคอลเลคชั่นสุดโปรด เเต่บังเอิญคุณเป็นผู้ชายที่จะต้องรักษาภาพพจน์หนุ่มมาดแมนแฮนด์ซั่มเอาไว้  ทำได้เเค่มองส่งสายตาเชื่อมวิ๊งๆเป็นประกายพร้อมด้วยความอยากที่กำลังจะทะลักออกมา เเค่ผมเห็นเขาผมก็รู้สึกถึงโลกส่วนตัวของเราสองคนเเล้วอะไรเทือกนั้น ชนิดที่ว่าหลงใหล เเละคลั่งไคล้พวกเขาเเทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเลยล่ะ!

ตู้กระจกบานใสที่เห็นข้างในได้อย่างชัดเจนเป็นตัวแบ่งกั้นความรักของเรา ถ้าพูดง่ายๆมันก็เหมือนอุปสรรค์เล็กๆที่ขวางกั้น เเต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น สิ่งที่เป็นอุปสรรค์ที่เเท้จริงมันควรจะเป็นป้ายราคาที่เเพงลิบลิ่วข้างๆเขาเสียมากกว่า

"สามแสน" บ้าไปแล้ว!

ผมย่นคิ้วสายตาละห้อยมองเขาที่จับจ้องมาทางผมไม่กระพริบ ดวงตาสีครามทะเลนั่นออกไปทางเขียวมรกตเเต่ผมไม่รู้ว่าเขาเรียกสีตานั่นว่าอะไร แต่ดวงตาของเขามันดูมีเเสงประกายราวกับมีชีวิต ผิวขาวออกสีไข่ไก่จางๆใบหน้าคมคายจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ดวงตาเรียวที่รับกับคิ้วหนาซึ่งปกปิดด้วยเรือนผมสีบรอนราวกับเจ้าชาย ชุดที่สวมใส่เป็นชุดขุนนางในช่วงสมัยก่อนๆของชาวอังกฤษ คุณลองนึกสภาพเสื้อขุนนางสีน้ำเงินเข้มในเรื่องไพรเรท ออฟ เดอะ แคริบเบียนอะไรเทือกนั้นเเล้วคุณจะถึงกับบางอ้อ เขานั่งชันคางมองผมอยู่บนเก้าอี้บุนวมสีเเดงขลิบดำ มันทำให้เขามีเสน่ห์มนต์ขลังทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็นต้องเคลิบเคลิ้มรวมไปถึงผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย!

"จะบ้า!" ผมบ่นอุบพร้อมด้วยความรู้สึกของขึ้นเหมือนลงเเดงเสี้ยนยา แต่เปล่า ผมไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น เเค่หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเรื่องราคาที่วางอยู่ข้างๆเขาเฉยๆ! อะไรจะเเพงโคตร! ดอลฟี่ที่เคยซื้อราคายังไม่ถึงขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ!
ถอนลมหายใจพรั่งพรูเเล้วสัมผัสไปตามกระจกบานใส

ฮือ... อยากได้... ทำได้เเค่ลูบคลำอยู่ข้างนอกแบบนี้เองหรอวะ! เเต่จะให้ควักเงินก้อนขนาดนั้นผมก็ไม่ไหว ลำพังนักศึกษามหาลัยรัฐจะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อ ขนาดดอลฟี่เด็กๆที่อยู่ที่บ้านผมยังต้องใช้เวลาทำงานเก็บเงินตั้งหลายเดือนกว่าจะได้สักตัวหนึ่ง นี่ถ้ามีใครใจดีมีคนซื้อให้ผมเป็นของขวัญวันเกิด พ่อจะกระโดดฟัดเเก้มหอมซ้ายหอมขวาเป็นคำขอบคุณเลยครับ!

เฮ้อ....! ถอนลมหายใจมันซ้ำเเล้วซ้ำเล่า นี่ถ้าลมหายใจมันหมดตัวได้ผมนี่คงเเห้งเหี่ยวตายมันอยู่ตรงนี้...

"ตุ๊กตารุ่นไรว๊าอยากได้" ก็ทำได้เเค่บ่นนั่นล่ะครับ ไม่มีปัญญาซื้อ ไม่มีปัญญาที่จะครอบครอง โลมเลียด้วยสายตาที่อยากจะจับมาฟัด พอเถอะ! ผมควรออกไปจากตรงนี้ได้เเล้วไม่อย่างนั้นความเจ็บช้ำจะฝังรากลึกเสียยิ่งกว่าโดนสาวๆหักอก! แต่พอจะก้าวขาออกไปเเววตาของเขาที่นั่งอยู่เหมือนฉุดรั้งไม่ให้ผมไปไหน ผมนี่อยากจะร้องไห้เลยครับ...!

"พ่อไม่มีปัญญาจะซื้อเรานะ... มันเป็นพรมลิขิตที่โคตรเศร้าเลยว่ะ"

สายตาของคนที่เดินผ่านผมไปมาอย่าได้เเคร์ ประหนึ่งคนบ้าที่ยืนคุยอยู่คนเดียวก็ไม่ปาน เอาวะ! ได้มองอยู่อย่างนี้ก็ยังดีอย่างน้อยก็เป็นความสุขเล็กๆที่เรียกว่ารักทำให้หัวใจมีเเรงที่จะขยันทำงานเก็บเงินเพื่อกลับมาซื้อ เเต่... กี่เดือนกี่ปีละครับกว่าจะได้ ถ้าไม่ชวดเพราะโดนซื้อตัดหน้าไปก็บ้าเเล้ว!

ในใจรำลึกเเค่อยากได้...  อยากได้... แค่นั้น เเต่จิตใต้สำนึกผมกำลังย้ำเตือน
ไม่มีปัญญาซื้อเฟร้ย! มึงเข้าใจไหม มึงควรก้าวขาออกไปจากตรงนี้ซะก่อนที่มึงจะตัดใจจากเขายาก!

แต่อีกใจ...
มึงต้องทำยังไงก็ได้ที่จะเอาเขากลับไปด้วย...

สามแสน... พร่องงงงง ทำเหมือนเกมเศรษฐ์หาเงินง่ายๆด้วยการทอยเต๋าหรอวะสาดดดดด!

"คุณลูกค้าสนใจตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ?"

อ่ะเฮือกกกกกก!!!!
ผมนี่สะดุ้งโหยงยิ่งเสียกว่าดูหนังสยองขวัญอีกครับ! หันสายตาไปทางพนังงานร้านที่ย่นคิ้วมองผม ประดุจผู้ต้องสงสัยทำตัวมีพิรุธซึ่งอาจจะเป็นขโมยมาดูลาดเลาไรงี้ แหงล่ะใครเห็นใครก็คิดอย่างนั้นในเมื่อผมยืนเเช่อยู่ตรงนี้มาเกือบชม.!

ทำได้เเค่ยิ้ม "แหะๆ" พลางยกมือลูบท้ายทอยเเก้เขิน สงสัยผมจะบังหน้าร้านเขาแน่ๆ

"มะ ไม่ครับ พอดีตุ๊กตาตัวนั้นมันน่าสนใจก็เลยเผลอมองอยู่นาน"

เธอเลิกคิ้วเเล้วพยักหน้า "ออ... ค่ะ ตุ๊กตาตัวนี้เพิ่งนำเข้ามาจากอังกฤษค่ะ เป็นตุ๊กตาไม้เนื้ออ่อนที่ต้องใช้ความประณีตในการแกะสลักเเต่เเข็งเเรงมากสามารถขยับตัวได้เหมือนดอลฟี่ทัวไป เเละเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ตามฤดูกาล มีเสื้อชุดเซทตามฤดูเป็นของเเถมถ้าคุณลูกค้าสนใจ"

สนครับ!

"มะ ไม่เป็นไรครับเอาไว้วันหลังเดี๋ยวผมมาดูใหม่"

"ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคุณลูกค้าสนใจต้องรีบซื้อนะคะเพราะเรามีเเค่ตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่นำเข้ามาในไทย"

อ่ะฮรึกกกกก! ผมรู้ครับผมรู้ ผมรู้ดีว่ามันคงไม่มีตุ๊กตาตัวไหนที่ดูดีได้เท่าตุ๊กตาตัวนี้อีกแล้ว เเต่อย่างว่าล่ะครับ ผม...ไม่มีปัญญาซื้อ...

ผมยิ้มเจื่อนหันไปมองตุ๊กตาตัวนั้นด้วยสายตาละห้อย เหมือนถูกจุดชนวนความอยากเพิ่มเป็นสิบเท่าทวี ดวงตาสีครามทะเลนั่นทำให้ผมรูสึกเจ็บปวด เคยไหมครับเวลาที่โดนผู้หญิงหักอกโดยที่เรายังไม่ได้เริ่มที่จะบอกรักเขาเลยก็โดนบอกไม่ชอบตัดเยื่อใยกันซะเเล้ว... มันเจ็บ... เหมือนคนอกหัก...

ผมว่า... ผมโดนส้นตีนอัดหน้าเเม่งยังไม่เจ็บเท่าชวดตุ๊กตาที่ผมอยากจะได้นี่เลยอ่ะ...

แงงงงงงงงง! ใครก็ได้ซื้อให้ผมที!







 :katai5:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2014 19:21:52 โดย MimicClub »

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
«ตอบ #2 เมื่อ24-11-2014 19:08:34 »

จะรอติดตามค่าาา

ออฟไลน์ may5658

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
«ตอบ #3 เมื่อ24-11-2014 19:22:22 »

 :hao7: น่าสนใจๆ จะรออ่านน๊า
ภาษาที่ใช้เราว่าก็ดีนะ ไม่ติดไร
 :hao4: มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: [Intro] DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - 11/24/57
«ตอบ #4 เมื่อ24-11-2014 21:06:48 »

ชอบๆครับแนวแปลกดี อ่านง่ายสบายๆ
ติดตามต่อเนื่องครับ
 :mc4: o13 :L2:

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 1 - 11/25/57
«ตอบ #5 เมื่อ25-11-2014 12:35:47 »

 :hao7:






DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป

1







ความอยากได้ตุ๊กตาทำให้ผมเป็นกังวล...

ผมนั่งมองสมุดบัญชีในธนาคารที่บอกยอดคงเหลือในบัญชีแค่หลักหมื่น แต่อย่างว่าล่ะครับหลักหมื่นในนี้คือค่าใช่จ่ายจิปาถะรวมไปถึงค่าอุปกรณ์ในการเรียนของผมในแต่ละเทอมด้วย ถ้าอยากจะเติมให้มันมีจำนวนแบบเหลือใช้นี่ก็คงต้องออกไปหางานพิเศษไม่ก็รับจ๊อบจากลูกค้า แต่ช่วงนี้เหมือนลูกค้าเหล่านั้นจะหายหน้าหายตาไปทำให้ยอดเงินในบัญชีที่คงเหลือร่อยหรอกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา...

"เฮ้อ....!" ถอนลมหายใจแบบปลงๆแล้วโยนสมุดบัญชีกลับเข้าไปในลิ้นชักตามเดิมก่อนจะเอนหลังไปบนที่นอนนุ่มด้วยความรู้สึกปวดใจจี๊ดๆ เวลาที่หันไปเห็นดอลฟี่ลูลู่ ดอลฟี่มินนี่ ดอลฟี่เซย์ แล้วมันสะเทือนใจยังไงชอบกล พวกเขาคือลูกๆของผมเองล่ะครับ ทุกตัวได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของผมทั้งสิ้น

เวลาที่จ้องมองตาของพวกเขามันทำให้ผมมีความสุข ตุ๊กตาทุกตัวก็มีจิตวิญญาณเหมือนกันนั่นล่ะครับทุกตัวต้องการความรักจากเจ้านายของมันทั้งนั้น คนที่รักตุ๊กตาอย่างผมพวกเขาคงจะรู้ดีว่าความรู้สึกของผมเป็นยังไง แต่ลูกที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ผมจัดท่าทางเอาไว้พวกเขาไม่ได้มีแววตาเหมือนกับตุ๊กตาตัวนั้น...

มันดู... มีเสน่ห์ รู้สึกเคลิบเคลิ้ม เศร้า... และ... มันดูมีชีวิตจริงๆ

"..."

"บ้าเอ๊ย!" สบถกับตัวเองด้วยความหงุดหงิดชิบหาย ตั้งแต่วันนั้นที่ผมกับเขาได้เจอกันผมก็มักจะนั่งคิดมากตลอด ไม่อยากไปเจอเขาอีกเพราะกลัวจะเจ็บปวด อาการของผมนี่ยิ่งกว่าโดนผู้หญิงหักอกอีกว่ะ แต่ถึงอยากจะไปดูอีกก็กลัวว่าจะทำใจได้ยาก แค่ตอนนี้ที่คิดผมก็คิดแล้วล่ะว่าดอลฟี่ตัวนั้นจะเจอเจ้านายที่ดีสำหรับเขาแล้วหรือยัง อย่างน้อยราคาเหยียบแสนนั่นก็คงทำให้หลุดรอดไปจากมือของไอ้พวกเด็กๆที่ยังไม่เลิกกินนมผง ผมหวังว่าเขาจะเจอเจ้านายที่มีฐานะ สามารถแต่งตัวให้เขาได้ คอยดูแลทำความสะอาด และ... คุยกับเขาเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง...

ผมนี่แม่ง... เป็นผู้ชายที่โคตรมุ้งมิ้งเลยว่ะ!

พอๆ สะบัดหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกไป ผมควรลืมได้แล้วว่าอย่าเอาเรื่องนั้นมาทำให้ชีวิตนักศึกษาอย่างผมต้องรวนเร เพราะตุ๊กตาตัวนั้นนั่นล่ะที่ทำให้ผมโดดเรียนมาเกือบทั้งอาทิตย์แล้ว!

(มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจ...)

RRRRRrrrrrrrrrrr

ชะอุ้ย!
สะดุ้งตกใจพอเป็นพิธีเมื่ออาการเหม่อของผมทำให้จิตตกอะไรนิดหน่อยก็ผวาไปซะหมด หันไปมองมือถือที่ส่องไฟสว่างวาบแล้วดูหน้าไอ้คนโทรมา...

"เชี่ยไก่" เบะปากให้ไอ้เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบอาทิตย์

"เอออออ...."

[[ตายยังคับคุณเพื่อน หรือมึงกลายร่างเป็นดอลฟี่ของมึงไปแล้วไม่โผล่หัวมาให้กูเห็นเลยนะแหม่]] น้ำเสียงติดประชด

"เออ ยังไม่ตาย แล้วยังไม่ได้กลายร่างด้วยแค่เบื่อๆนอนอืด"

[[อย่างมึงเนี่ยนะที่จะอยู่ในสภาวะนั้น ถามจริงเหอะที่ไม่มามหาลัยนี่มึงติดหญิงหรือติดดอลฟี่มึง]]

"ถ้ามีหญิงมาจีบกูๆคงไม่มานั่งเล่นตุ๊กตาหรอกเชี่ยไก่ แค่เขาเห็นหน้ากูก็วิ่งหนีกันหมดแล้ว"

[[เออไอ้คนหน้าโหด ว่าไงครับจะเข้าซุ้มหรือเปล่า]]

"ถ้ากูบอกว่าขี้เกียจล่ะ"

[[เชิญมึงนอนตายอยู่ในห้องมึงเถอะไอ้เต๋า! ไม่ได้เว้ยต้องเข้า วันนี้พี่โอเขาจะเซอร์วันเกิด...]]

ผมย่นคิ้วกับประโยคที่มันเงียบเสียง "อะไรวะไม่พูดต่อ"

[[เออๆ มาเหอะถ้ามึงไม่เข้าซุ้มมึงขาดกับพี่เขาแน่]]

"อะไรวะร้ายแรงมากเลย?"

[[มาก็รู้ไม่มามึงก็อย่าได้เข้าซุ้มอีก แค่นี้นะเว้ย!]]

"เอ๊า! ไอ้เหี้ยนี่" ยังไม่ทันรู้เรื่องก็วางสายไปฉิบ

ผมยังคงงงกับไอ้บทสนทนาเมื่อครู่ สรุปนี่คือต้องเข้ามหาลัยจริงๆใช่ไหมวะ แต่ขี้เกียจว่ะ ขี้เกียจโคตรๆ ขี้เกียจจนไม่รู้อะไรจะเอาอะไรมางัดจากที่นอนดี...

ผมยันตัวเองลุกขึ้นนั่งด้วยอาการอึนๆ มองไปทางดอลฟี่ที่นั่งนิ่ง เป็นตุ๊กตานี่ก็ดีเว้ยวันๆไม่ต้องทำอะไรเลย ผิดกับมนุษย์ที่มีหน้าที่มีภารกิจที่จะต้องทำ แล้วทำไมผมถึงอยากเป็นตุ๊กตาล่ะวะเป็นมนุษย์ดีๆอยู่แล้วแท้ๆ พอๆเลิกฟุ้งซ่านทางที่ดีผมควรรีบอาบน้ำแล้วรีบไปมหาลัยก่อนจะดีกว่า ไอ้พวกเพื่อนๆนี่มันทำตัวแปลกๆ ยิ่งใกล้วันเกิด...

"เออวันนี้วันเกิดกูนี่หว่า..."

บางครั้งเรื่องสำคัญในชีวิตก็เหมือนไม่สำคัญนั่นล่ะครับ เพิ่งระลึกได้ว่าวันนี้วันเกิดตัวเอง อันที่จริงผมควรที่จะโทรไปหาแม่ผมตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เป็นเพราะว่าลืม ผมเลยต้องรีบโทรไปหาท่านตอนที่นึกขึ้นได้

[[ว่าไงลูก]]

"แม่ วันนี้วันเกิดเต๋าแต่เต๋าไม่มีโอกาสไปไหว้แม่ สบายดีใช่ไหมครับขอบคุณที่เลี้ยงดูเต๋ามาจนโตขนาดนี้ ขอบคุณนะครับเต๋าจะเป็นเด็กดี"

[[ฮ่าๆ อะไรของเราเนี่ยมาซะเสียงเศร้าเลย]]

"ก็คิดถึงไง"

[[จ้าๆ ว่าแต่เรียนอยู่หรือเปล่าโทรมาป่านนี้]]

"เปล่าครับวันนี้ไม่มีเรียน แม่เองก็อย่างหักโหมร่างกายนะ ทางโน้นหนาวไหมล่ะแม่"

[[ไม่หรอกลูกที่นี่อากาศหนาวแค่ช่วงเช้า เหมือนเมืองไทยนั่นล่ะ ว่าแต่เราเถอะอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า]]

"ไม่เอา ไม่อยากได้"

ถึงอยากได้แต่มันก็แพงเกินไปผมคงไม่กล้าที่จะขอ ถึงจะรู้ว่าแม่สามารถให้ได้ แต่... ผมรู้อีกนั่นล่ะว่าแม่ต้องโทรไปขอผู้ชายคนนั้น ซึ่งผมไม่คิดอยากได้ของๆจากเขาเลยสักนิด แม่เงียบเสียงไปสักพักพร้อมๆกับผมที่คิดว่าน่าจะเลิกคุยได้แล้ว

[[เต๋า]]

"ครับแม่"

[[ไปไหว้พ่อเขาบ้างนะลูกอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง]]  หน้าผมจากอารมณ์ดีนี่เปลี่ยนเป็นเบื่อหน่ายในทันทีที่แม่พูดถึงเขา

"ครับแล้วเต๋าจะโทรไปหา แต่ไม่ใช่วันนี้ แค่นี้นะแม่"

ผมตัดสายทันทีไม่รีรอให้แม่ต้องพูดถึงคนๆนั้นกรอกหูผมอีก แต่ถ้าอยากให้ผมโทรไปหาหรอ ฝันไปเถอะ ผมไม่มีวันโทรไปหาคนที่ทิ้งแม่กับผมแล้วไปมีคนอื่นหรอกนะ ถึงเขาพยายามจะรับผิดชอบผมยังไงผมก็ไม่มีวันที่จะยอมรับอะไรจากเขา ...

หยุดคิดเรื่องไร้สาระแล้วไปอาบน้ำซะ!

ผมวางโทรศัพท์ลงข้างๆอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วแค่สิบนาทีเท่านั้น และออกมาแต่งตัวพร้อมกับหยิบอุปกรณ์ที่จะไปนั่งวาดรูปเล่นที่ซุ้มใส่เป้ แต่ก่อนจะออกจากบ้านผมต้องบอกลูกๆของผมซะก่อน

"วันนี้อาจจะกลับเย็นนะ แล้วอย่าตีกันล่ะพ่อจะรีบกลับมา" ยิ้มให้พวกเขาแล้วลูบผมตัวละทีก่อนจะวิ่งไปที่ประตูเมื่อรู้ว่ามันสายมากแล้ว

มันอาจจะแปลกที่ผมทำแบบนี้ แต่มันเป็นความสุขเล็กๆของผมที่ไม่เคยมีใครเข้าใจแม้แต่เพื่อนสนิทของผมอย่างไอ้ไก่  มันชอบด่าผมว่าปัญญาอ่อนเล่นกับตุ๊กตาเหมือนเด็กสามขวบ ผมไม่เถียงครับไม่ได้ว่ามันกลับไปด้วยในเมื่อผมชอบแบบนั้นจริงๆ  แค่มันไม่ล้อว่าผมเป็นตุ๊ดนี่ก็บุญของมันที่ไม่โดนบาทาผมก็พอแล้ว ไอ้เพื่อนผมมันรู้ดีวาผมชอบ แต่คนอย่างไอ้เต๋านี่แมนร้อยเปอร์เซ็นต์

เพียงแค่ว่าผู้ชายหล่อๆแมนๆอย่างผมใครเขาจะคิดว่าจะเป็นเหมือนพวกสาวน้อยที่บ้าดอลฟี่เป็นบ้าเป็นหลัง แน่นอนครับมันเป็นเพียงแค่รสนิยมอย่างหนึ่งซึ่งไม่ได้เหมารวมว่าจะต้องชอบตุ๊กตาไปทั้งหมด มันก็แค่... ความชอบของคนเราที่ไม่เหมือนกัน...




"กว่าจะมาได้นะมึง" ผมยิ้มให้ไอ้พวกเพื่อนๆที่มารวมตัวอยู่ที่ซุ้มหลายสิบคนพูดง่ายๆเหมือนรวมเครือญาติยังไงอย่างงั้น มีพวกพี่พลรุ่นปู่ก็มาด้วย ค่อนข้างที่จะประหลาดใจกับพวกเขานิสนึง

"รถติดว่ะ" ผมบอกไอ้ไก่ที่ทักผม พวกมันกำลังนั่งเล่นเกมเศรษฐีกันเลยครับ

"เต๋ามานี่ๆ" เป็นพี่โอเองนั่นล่ะครับที่เรียกผมๆเลยต้องลากขาไปหาพี่เขาแล้วยกมือไหว้พอเป็นมารยาทของน้องที่ดี

"เย็นนี้อยู่กินเลี้ยงก่อนนะ กำลังให้ไอ้แบคไปซื้อเหล้าห้ามชิ่งหนีนะเฮ้ย!"

"เลี้ยงในโอกาสอะไรอ่ะพี่ข้ออ้างป่าวผมเห็นพวกพี่เลี้ยงทุกอาทิตย์นะเหล้าน่ะ แดกจนบวมหมดแล้วเนี่ย"

"อ้าวไอ้ห่าปากหมาเดี๋ยวพ่อตบคว่ำ"

"แหะๆผมล้อเล่น" ผมยกมือไว้ขอโทษพี่โอแบบกวนๆ สีหน้าพี่แกนี่อยากจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้พี่เขาดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษว่ะ ถ้าปกตินี่ผมคงโดนเตะก้นไปแล้ว ผมกวาดสายตามองหาที่ว่างที่พอจะแทรกตัวนั่งได้บ้าง วันนี้สมาชิกชาวศิลป์เยอะจริงๆ โต๊ะหินอ่อนที่อยู่หน้าซุ้มพวกไอ้ไก่ก็ครองไปหมดแล้วคงเหลือแต่วงไพ่เนี่ยละวะที่พอจะมีที่ว่าง แต่เมื่อหย่อนก้นนั่งลงไปอย่างหวังว่าจะได้อยู่เฉยๆ

"สัดเต๋า นั่งทำบื้อไรล่ะมึงวางตังดิ่"

"โหยไรวะมาถึงก็จะให้กูเล่นแล้วห่านี่" ผมด่าไอ้ดีโด้ที่เป็นเจ้ามือประจำวงมันกำลังเคาะไพ่คะยั้นคะยอให้ผมวางเงินให้ได้

"อย่าพูดมากในเมื่อหย่อนก้นลงมาแล้วก็อย่าเสือกทำตัวแตกต่าง"

"เออรีบเหอะมึง กูจะลุ้นไพ่" ไอ้ชินโวยสงสัยจะขาดตอนผมเลยต้องควักหาเศษเหรียญอย่างจำใจ แล้วไอ้ดีโด้ก็เริ่มสับไพ่ สักพักไอ้พี่โอที่เลิกจากงานศิลป์แน่นอนว่ากลิ่นสีนี่ติดตัวตามมาด้วย หย่อนก้นนั่งข้างๆผมแล้วควักเงินลงมาสมทบพร้อมๆกับขยิบตาให้ผมเหมือนรู้กัน เดี๋ยวพ่อจะแดกเจ้าให้หมดตูดเลยเหอะ ไม่รู้ซะแล้วว่าชวนใครไม่ชวน มาชวนเจ้าพ่อแห่งโชคลาภถ้ายิ่งนั่งข้างๆกับไอ้พี่โอนี่แล้วใหญ่ เทคนิคการโกงอย่างฉับไวนี่ใครก็ไม่สามารถมองเห็น ห้ามลอกเลียนแบบนะครับแบบนี้มันไม่ดี แต่ถ้าทำกับเพื่อนนี่มันจะสะใจไปอีกอย่าง

นี่แหละครับชีวิตมหาลัยเป็นไปอย่างชิลๆไม่มีอะไรพิเศษหวือหวา ก็แค่เรียนๆเล่นๆไปวันๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ว่าจะต้องไปแข่งขันกับใคร เพียงแค่สำนึกไว้ว่ารับผิดชอบงานตัวเองให้ดีก็พอ มหาลัยผมเป็นมหาลัยเปิด และทางมหาลัยไม่ได้เคร่งเครียดอะไรกับเรื่องเล็กๆเหล่านี้

 แน่นอนครับว่ามันผิดกฎแต่ถ้าอยู่ในซุ้มข้างหลังที่ลับตาคนพวกผมเลยไม่ค่อยจะเกรงใจเท่าไร แต่พวกรุ่นน้องคณะอื่นเดินผ่านนี่ก็ไม่อยากจะเดินเฉียดเข้ามาในอาณาจักรของพวกผมนักหรอกครับ อาจจะเป็นเพราะกลัวโดนไอ้พวกรุ่นพี่หน้าเถื่อนๆติสต์แตกพวกนี้ฉุดกระทำชำเลาก็เป็นได้ สายตาของพวกคนเหล่านั้นชินแล้วล่ะครับไม่ต้องไปสนใจ

หลังจากที่แดกเจ้ามือไพ่ไปหลายตา ไอ้ดีโด้ก็เริ่มหน้าเผือดสีเหมือนคนปวดขี้ แน่นอนว่าข้ออ้างแม่งคงไม่พ้นปวดขี้นั่นแหละสุดท้ายวงไพ่เลยล้มเลิกเพราะไม่มีใครอยากจะเป็น แหงล่ะในเมื่อไอ้เพื่อนเลวสองตัวที่กำลังนั่งหัวเราะคิกคักเพราะโกงเหรียญจากไอ้โด้ได้มาเต็มกระเป๋า ซึ่งรวมไปถึงเงินของไอ้เพื่อนๆที่โดนเจ้าแดกด้วย ใครมันจะกล้าลงต่อล่ะ ส่วนผมนี่พอเถอะจะให้เป็นเจ้า ฝัน? ฮ่าๆๆๆ

"เอ้าไอ้ห่ามัวแต่เล่นกันให้กูไปซื้อของ โคตรแดกแรงกูเลย" เสียงไอ้แบคด่าพวกไอ้ไก่ที่เล่นเกมเศรษฐีมาราทอนกันจนเย็นพร้อมๆกับวางของอะไรไม่รู้เยอะแยะ น้องเป็ดที่คาดว่าน่าจะโดนเรียกไปช่วยใช้ตังถือของพะลุงพะลังไม่ต่างกัน ผมเห็นขวดเหล้าขวดเบียร์ที่อัดแน่นอยู่ในถุงแล้วรู้สึกอยากขึ้นมาตงิดๆ เลยพากันลุกไปช่วยมันเคลียร์โต๊ะแล้วเก็บที่เคลียร์ทาง เพื่อนั่งก๊งเป็นกิจวัตร

"เค้ก? เค้กใครวะ" ถามไอ้แบคที่ดึงเบียร์ออกมาจากถุง มันมองไปทางพี่โอที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลัง ผมเลยหันไปทางพี่โอแทน

"ไม่รู้สิ วันนี้วันเกิดใครก็ไม่รู้" ลอยหน้าลอยตาพูดมากเลยพี่

"วันเกิดหมาครับพี่ วันเกิดหมางงแต่ผมว่าแม่งแกล้งทำเป็นไม่รู้มากกว่า"

"ไอ้ไก่เหี้ยแดกเดี๋ยวกูอัดปากด้วยก้นขวด"

"ฮ่าๆๆๆ" มันยังมีหน้ามาหัวเราะผมที่ถือขวดเบียร์จะทำจริงๆ

"วันเกิดอยากจะแดกไงไอ้ห่า ไอ้นี่ก็ถามแปลก"

"พอๆเลยพวกมึงสองตัวนี่ทะเลาะกันทุกวัน แม่งตีกันแล้วก็แดกกันเอง เชิญมึงไปตีกันตรงนู้นค่ะไอ้คู่จิ้น"

"อ้าวอีแคทเดี๋ยวกูจับมึงทำเมียเลยสัด!" ไอ้ไก่ค่อนข้างจะของขึ้น แต่มันน่าจะแกล้งแหย่มากกว่า

"หรา ดีเหมือนกันว่ะกูกำลังหาผัว"

แล้วมันก็หัวเราะกันเองรวมไปถึงผมที่ยืนขำกับการทะเลาะกันของพวกมัน เนี่ยล่ะครับเอกศิลป์อยู่กันอย่างพี่น้องไปวันๆไม่ได้หวือหวาแต่สนุกจนลืมเรื่องบางเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่ไป เสมือนครอบครัวของผมเลยก็ว่าได้ สุดท้ายแล้วไอ้สองคนนั้นก็ถูกจับแยกโดยพี่พลที่ดึงพวกมันออกมาเพื่อห้ามศึกมวยไก่ กับมวยลูกแมวที่กำลังจะเกิด

"นี่แกล้งไม่รู้ใช่ไหมเนี่ยว่าวันเกิดใคร" ผมหันไปมองพี่โออีกครั้งแล้วส่ายหน้าไม่รู้จริงจริ๊ง!

"ดีแล้วล่ะ" พี่เขาว่ายิ้มๆ แล้วหันไปส่งซิกทำท่าเหมือนไปสั่งให้เพื่อนเขาทำอะไรบางอย่างแล้วไฟก็ดับพรึบ! เค้กที่เคยวางอยู่หายไปครับแล้วมันก็โผล่มาอยู่ข้างหน้าผมพร้อมๆกับเทียน21ที่จุดไฟจ่ออยู่ที่ปาก ไอ้เพื่อนๆมันก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิดร์เดย์โดยมีผมยืนงงอยู่...

เอ้า! นี่เลี้ยงวันเกิดให้ผมหรอ? ผมนี่ซึ้งน้ำตาจะไหล แล้วยืนเขินแม่งอยู่ตรงนั้นที่พี่โอซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่สุดถือเค้กแล้วยื่นให้ผมเป่า

"เอ้าสุขสันต์วันเกิด" ผมยิ้มเขินๆครับ ไม่ต้องรอให้เขาสั่งอธิฐานอะไรผมหลับตาไปครู่หนึ่ง

กูอยากได้ดอลฟี่สามแสน...

แล้วผมก็เป่าปู้ดไปพร้อมๆกับวางยาด้วยการแถมน้ำลายพอเป็นพิธี แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าแดกครับ ฮ่าๆๆๆ

"โหยมีเซอร์ไพรส์ผมด้วยนี่ปลื้มวะ" ผมบอกพี่โอแล้วหันไปมองไอ้เพื่อนๆที่เริ่มจะก๊งเหล้ากันแล้ว ถึงในใจจะรู้ว่ามันก็เป็นแค่ผลพลอยได้ละวะ ในเมื่อพวกผมดื่มกันเป็นเรื่องปกติ นี่แหละอนาคตของชาติที่ดี...

"ฮ่าๆๆ ตอบแทนที่ทำให้ชีวิตของพี่ไม่จืดชืด"

"ฮะ?" ผมหันไปมองงงๆ พี่เขาโบยมือไหวๆ

"ไม่มีไร กินข้าวเย็นเหอะหิวแล้วจะได้แยกย้ายกลับบ้านหรืออยากไปนอนกับพี่"

"หึ ไม่เอาอ่ะครับผมเกรงใจ" ผมส่ายหน้าแทบจะทันที

"อย่าไปชวนมันเลยพี่ ไอ้เต๋ามันไม่ชอบค้างที่อื่นมันกลัวลูกๆมันงอน"

"ไอ้ไก่" ผมปรามมันพร้อมสายตาดุๆ ไอ้ห่านี่มันอมยิ้มแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ได้น่าถีบมาก

"ลูก?" หน้าพี่โอเหมือนสงสัยผมเลยแก้ตัว

"ไม่มีไรหรอกพี่ไอ้ไก่มันแค่แหย่เล่น" แล้วเดินไปตบหัวไอ้ไก่ป้าบหนึ่ง ไอ้เพื่อนเลวที่คิดจะแฉความลับของผมคลำหัวป้อยๆแล้วเงยหน้ามองผมเป็นหมางงแดก แล้วยิ้มแหยๆให้ผมที่ทำตาเขียวใส่มัน

ไอ้ห่าเอ๊ย! ถ้าขืนมีใครรู้ว่ากูบ้าตุ๊กตาหมดกันภาพพจน์ผู้ชายแมนๆ แต่มันคงจะรู้ตัวนั่นล่ะครับว่าผมไม่พอใจ มันรีบเอาใจด้วยการรินเบียร์ใส่แก้วให้ผมซะล้น แล้วยิ้มหวานให้ผมพร้อมๆกับนวดไหล่ให้ผมหายงอนมัน แล้วหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโห่แซวของไอ้เพื่อนๆผู้หญิงแก๊งชะนีสาววายที่ชอบเอาผมไปจิ้นกับมันร้องแซว จนผมอยากจะยันไอ้เพื่อนให้ออกห่าง แม่งยังมีหน้ามาหัวเราะ

แต่ผมไม่รู้หรอกว่าพี่โอเขาจะติดใจหรือเปล่า ผมแอบชำเลืองมองพี่เขาแต่พี่แกก็ไม่ได้เห็นจะสนใจไรอีก พี่แกก็นั่งดื่มเหล้ากับพวกเพื่อนๆเขาปกติไม่ได้แสดงความอยากรู้อยากเห็นอะไร มีแต่ผมละมั้งที่รู้สึกกลัวไปเอง ทำไงได้ล่ะผมกลัวว่าจะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ดนี่ ถึงแม้ว่าเอกผมจะมีประเภทนี้เกือบสามสิบเปอร์เซ็น และพวกเราก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แต่อย่างว่าล่ะ... ผมไม่ชอบให้ใครเข้าใจผมผิด...






"มึงยังโกรธกูอีกหรา ไอ้เต๋า เชี่ยเต๋า โอ๋ๆอย่างอนกูนะ"

เสียงอ่อนเสียงหวานใส่อย่าคิดว่ากูจะใจอ่อนเฟร้ย! หยุดฝีเท้าในระหว่างที่ผมกำลังเดินกลับห้องของตัวเอง ซึ่งไอ้เพื่อนตัวดีที่ตามผมต้อยๆคงจะมาอาศัยค้างกับผมด้วย แน่นอนว่าถึงผมจะไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่มันก็ยังคงหน้าด้านที่จะนอน

"งอนพร่องมึงสิ" แล้วก็เดินฉับๆหน้าตูมไปเรื่อยๆ ไอ้ห่านี่ก็พันแข้งพันขาอยู่ได้วุ้ย!

"โหยไอ้นี่เล่นพ่อว่ะ กูก็แค่แซวขำๆ"

"กูขำด้วยปะห่า แค่นี้กูก็หาแฟนไม่ได้เพราะโดนจับจิ้นกับมึงเนี่ย แถมไปบอกว่ากูมีลูกรุ่นน้องได้เข้าใจผิดหมด" ไอ้พวกนั้นยิ่งปากไม่มีหูรูดอีกป่านนี้กระจายข่าวซุบซิบแพร่กระจายเป็นไวรัสแล้วมั้ง!

"ใครว่า! พี่เต๋าออกจะหล่อ ออกจะแมน เสียอย่างเดียวชอบทำหน้าตึง ไอ้ที่มึงหาแฟนไม่ได้นี่อย่ามาโทษกูสิวะไอ้นี่"

"เออเพราะมึงนั่นแหละ!" ผมส่ายหน้าเอือมๆกับไอ้ท่าทางกวนตรีน! ที่ยิ้มแก้มปริแล้วยักคิ้วใส่ผมนี่แหละ ไม่ให้ผมหน้าตึงได้ไงโดนมันกวนตีนตั้งกะอยู่ที่มหาลัยแล้วนี่ยังจะตามมากวนตีนต่อที่หอ นี่ถ้าไม่เห็นว่ามันเมามันคงโดนผมดีดกระเด็นไปนานแล้ว

"ฮ่าๆๆ อะไรว๊าวันเกิดตัวเองแท้ๆอารมณ์ดีหน่อยน่า" มันยังมีหน้ามาเกาคางผมอีก ปัดมือมันออกไปด้วยความรำคาญแล้วสงครามขนาดย่อมก็เกิดขึ้น แต่สงครามนั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผมเห็นเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่หน้าห้องผม พวกเราหยุดชะงักกึกอยู่กับที่ ยกเว้นไอ้ไก่ที่หยุดยืนเพราะงงกับอาการของผม

"อะไรวะ?"

ผมเพ่งไปที่สิ่งนั้นด้วยความสนใจ เสื้อผ้าแบบนั้น... แล้วท่านั่งพิงประตูนั่นอีก....

"เอ้าไอ้นี่ถามไม่ตอบ"

ผมเดินฉับๆไปที่ตุ๊กตาดอลฟี่ซึ่งผมมั่นใจว่ามันต้องใช่แน่ๆ และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด ในทีแรกผมนึกว่าลูกๆของผมแอบออกมานั่งเล่นหน้าห้อง แต่จะบ้าเรอะ! ตุ๊กตามันจะเดินเองได้ที่ไหน แต่พอผมย่อตัวลงอุ้มเขาขึ้นมา อาการตกใจหัวใจของผมนี่รัวอย่างกับเต้นแท็ป

ดวงตาสีครามทะเล ใบหน้าคมจมูกโด่งกลีบปากอวบอิ่มผมสีบรอน ผมไม่อยากจะเชื่อ! นี่ผมเมาไปหรือเปล่าวะที่เห็นภาพหลอน...

"ดอลฟี่ตัวใหม่ของมึงหรอทำไมมานั่งตรงนี้วะ?" แล้วคำยืนยืนจากไอ้ไก่ที่บอกว่าผมไม่ได้ฝันไป!

ผมรีบลุกขึ้นแล้วควักกุญแจไขเข้าไปในห้องในทันทีแล้ววางเขาเอาไว้ที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง อาการตกใจ และดีใจของผมทำให้สับสน

ถามเขา"มาได้ไง" แบบงุนงงสุดๆ

"มึงลืมหยิบกระเป๋ามาด้วยว่ะ" ผมหันไปมองไอ้ไก่ที่ถือกระเป๋าที่มีรูปร่างเหมือนกล่องมากกว่าเข้ามาด้วย ผมเลยรีบเดินไปรับที่มือมันแล้วเปิดเพื่อสำรวจว่าข้างในนั่นคืออะไร

มันเป็นเซทแต่งตัวของตุ๊กตาครับ จำเซทที่พนักงานคนนั้นบอกผมได้ไหม นั่นล่ะมันอยู่ในกล่องนี่ทั้งหมดพร้อมๆกับจดหมายสีขาวที่แนบอยู่ ผมงุนงงกับมันมากว่าใครส่งดอลฟี่ราคาเหยียบแสนมาให้ผม
รู้สึกโกรธที่ไม่ยอมให้ผมกับมือแล้วมาวางไว้หน้าห้อง ถ้าเกิดมีใครขโมยหรือหยิบไปจะเกิดอะไรขึ้นวะ! ดีนะที่ผมมาเห็นก่อน

"พ่อ..."
ผมครางเสียงต่ำรู้สึกเซงที่เขายังคงวุ่นวายกับผมไม่เลิก

"ของขวัญพ่อมึงส่งมาหรอ?" ผมพยักหน้าให้ไอ้ไก่ที่นอนแผ่บนโซฟาข้างๆผม

"เหมือนรู้ใจเลยเนอะส่งดอลฟี่มาให้ แต่น่ารักดีว่ะ" ไม่พูดเปล่ามันยังอุ้มมาดูด้วย ผมรีบตบมือมันแล้วเอามากอดเอาไว้เอง มันเลิกคิ้วแล้วหัวเราะให้กับอาการหวงของ และเห่อตุ๊กตาตัวใหม่

"ไม่โทรไปขอบคุณเขาหรอวะ"

"ทำไมกูต้องโทร? ไม่ได้ขอให้ซื้อ"

"แต่มึงก็ชอบนี่" ผมเงียบแล้วมองมันตาขวาง

"ถ้ามึงอยากนอนค้างกับกูก็อย่าพูดอีก"

"เอ้าไอ้นี่กูแค่ถามโกธรกูอีกละ มึงนี่สมควรแล้วที่ไม่มีแฟนขี้งอนชิบหาย"

ผมยักไหล่อย่างไม่ยีระในคำพูดของมันแล้วหันมามองดอลฟี่ที่อยู่ข้างหน้า ใครจะไปคิดไปหวังล่ะว่าเขาจะได้มาอยู่กับผมจริงๆ หลังจากที่เศร้า และนอยมาหลายวันเรื่องที่ไม่มีตังซื้อเจ้าตุ๊กตาดอลฟี่ตัวนี้ วันดีคืนดีกลับมานั่งอยู่หน้าห้อง เรียกได้ว่าเป็นของขวัญที่ทำให้ผมดีใจที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ผมข้องใจว่าพ่อผมรู้ได้ไงว่าผมอยากได้มัน...

"กูไปนอนก่อนนะ" ผมพยักหน้าให้มันไปทีแต่สายตายังจับจ้องไปที่ดวงตาสีครามนี่อยู่ มันดูมีประกาย และผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าตุ๊กตาตัวนี้เขาดูเหมือนอารมณ์ดีไม่ต่างจากผม เมื่อผมเห็นมุมปากที่มักจะทำหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลากำลังยกยิ้มขึ้นมาบางๆ...

บางทีผมอาจจะคิดไปเอง...

"ยินดีต้อนรับลูกพ่อ! ชื่ออะไรดีล่ะ" ผมเอียงคออย่างใช้ความคิดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และผมก็ตื่นเต็มสองลูกตาพร้อมด้วยการสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง หันไปมองลูลู่ มินนี่ และเซย์ที่นั่งอยู่แล้วยิ้มบางๆ

"ชื่อคริสดีไหม หรือจะชื่อเควิ่น ไม่ๆไม่ดีกว่าชื่อคริสน่ะดีแล้ว จะได้หล่อ และเก่งเหมือนคริสเรสฟิลไง ฮ่าๆๆๆ"

"มึงนี่คิดชื่ออื่นไม่ออกแล้วสินะ เอาไอดอลกูมาตั้งเฉย" ไอ้ไก่มันยังไม่วายบ่นครับ

"นอนไปเหอะไอ้ห่าไก่กูคุยกับลูกกู"

"เดี๋ยวเช้ามึงมาไฟว์กับกูเลยดีกว่ารอบที่แล้วยังเล่นค้างเอาไว้เลย"

"กูไม่เล่นเว้ย! กูจะเล่นกับลูกกู"

"เออ! เรื่องของมึง" น้ำเสียงเอือมๆพร้อมๆกับตะแคงหันหลังให้กับผม สงสัยมันคงจะขี้เกียจเถียงผมแล้วแน่ๆ แต่ผมไม่สนหรอกในเมื่อมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงหน้า

"คริส... นายนี่น่ารักจริงๆเลยนะ"

ผมยิ้มให้กับคริสที่มองผมตาไม่กระพริบ รู้สึกมีความสุขอย่างแปลกประหลาด และรู้สึกว่าตัวของคริสเองก็รู้สึกดีที่ได้มาอยู่กับผมไม่น้อย นับว่าเป็นอีกวันที่ทำให้ผมยิ้มได้อย่างมีความสุข ความน่าหลงใหลของเขาทำให้ผมไม่อาจที่จะข่มตาหลับได้ ในเมื่อดวงตาที่ดูมีเสน่ห์กำลังจับจ้องมองผมอยู่อย่างนั้น เหมือนเป็นแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่บอกผมว่า...

เจ้าจงตกอยู่ในห้วงแห่งความรักของข้าเสียเถอะ...











ขอบคุณสำหรับคำคอมเม้นค่ะจะพยายามปั่นเท่าที่ความขยันจะบังเกิดแฮ่...

 :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2014 13:12:58 โดย MimicClub »

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 1 - 11/25/57
«ตอบ #6 เมื่อ25-11-2014 13:53:37 »

อ่านแล้วนึกถึงเรื่องLover's dollของคุณmishima kazuhiko คนรักตุ๊กตากับตุ๊กตามีชีวิต
ปูเสื่อรอติดตามค่า  :mc4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 1 - 11/25/57
«ตอบ #7 เมื่อ25-11-2014 19:57:23 »

แอบคิดเหมือนความคิดเห็นข้างบน ว่าน่าจะเป็นความรักระหว่างคนชอบตุ๊กตากับตุ๊กตา
แต่ชื่อเรื่องแอบน่ากลัวนะ... เลยไม่แน่ใจเท่าไหร่
เต๋าน่ารักดี ชอบอาการที่มักจะคุยกับตุ๊กตาอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #8 เมื่อ25-11-2014 22:57:39 »



 :hao5: บรรยายอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยเก่ง เลยไม่รู้จะคุยกับคนอ่านอย่างไรดี
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ! ไปอ่านกันเถอะ  :ling2:










DOLLFIE 
ตุ๊กตาต้องสาป
2
[/color]






ภายในค่ำคืนดึกสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจของชายหนุ่มสองคน แต่เห็นจะดังจนน่ารำคาญคงจะเป็นร่างของผู้ชายตัวโตที่นอนอยู่บนเตียงเสียมากกว่า ร่างที่นั่งแน่นิ่งภายในอ้อมกอดของเจ้านายคนใหม่ เสมือนไม่มีชีวิต และไร้จิตวิญญาณ หากแต่นั่นมันก็แค่สิ่งที่ตุ๊กตาทั่วไปควรจะเป็นแต่ไม่ใช่สำหรับเขา...

ร่างเล็กๆค่อยๆขยับ เรียวนิ้วกระดิกไปมาเหมือนกับมนุษย์ไม่มีผิด ดวงตาสีครามทะเลที่มักจะเบิกค้างอยู่ตลอดเวลาไหวระริก พร้อมๆกับกระพริบตาปริบๆหลายๆครั้ง กวาดสายตาไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นเคยนัก ความมืดสลัวทำให้ไม่อาจรู้ว่าตัวเขาอยู่ที่ไหน

ครั้งสุดท้ายที่จำได้... เขาอยู่กับเด็กชายซึ่งเป็นลูกเศรษฐีคนหนึ่ง และนั่น... มันก็ผ่านมาร้อยปีแล้ว...

เงยหน้าขึ้นมองเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจผะแผ่ว ใบหน้าคมคายในยามที่หลับตาพริ้ม ครั้งแรกที่รู้สึกคือความรักที่ส่งผ่านมาให้ นี่สินะคือเจ้านายคนใหม่ของเรา...

ขยับกายออกจากอ้อมกอดแล้วกระโดดลงไปยังพื้นห้อง ร่างของตุ๊กตาที่หันหลังให้ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ กลับกลายเป็นชายร่างสูงขึ้นมาในบัดดล ร่างกายสูงใหญ่ ผิวสีขาวไข่ไก่ ดวงตาเรียวคมออกไปทางดุดันในยามที่ตวัดดวงตา จมูกโด่งเป็นสันกลีบปากอวบอิ่มรับกับใบหน้าคมหล่อเหลา เรือนผมสีบรอนเป็นเอกลักษณ์สะท้อนแสงจนเกิดประกายวาว ดวงตาสีครามทะเลมองมือของเขาที่ขยับไปมาอย่างอิสระ และขยับกายเพื่อไล่ความเมื่อยล้าที่อยู่ข้างในเสียงดังกรอบแกรบราวกับกระดูกที่ลั่นเมื่อมันยึดตัวจนแข็ง 

กวาดสายตาไปรอบๆห้องแล้วหันไปทางเตียงของคนที่นอนอยู่ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีกลิ่นของความชั่วร้ายคงไม่น่าเป็นอันตรายสำหรับเขา ก่อนจะหันกลับไปยังเจ้านายที่หลับตาพริ้ม ดวงตาคมเอาแต่จับจ้องอยู่อย่างนั้น กลีบปากอวบอิ่มค่อยๆเผยอยิ้มออกมาที่มุมปาก มือเรียว และใหญ่สัมผัสไปที่พวงแก้มของคนที่แหงนหงายคอไปตามโซฟา สัมผัสความรัก และแววตาที่เป็นประกาย...

ความรัก  คริส...  จดจำมันได้อย่างชัดเจน...







"ไอ้เต๋า ไอ้เต๋า! สัดเต๋าตื่นเดี๋ยวลูกมึงก็เดี้ยงหรอก!"

หือ? เห?

"ฮะ!? อะไรวะ?" ผมลืมตาขึ้นพรึบ! ด้วยอาการมึนงงแล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเสียงของไอ้ไก่ที่พยายามจะเรียกผมดังกรอกอยู่ที่หู มองไอ้เพื่อนที่ยืนมองผมหัวฟูหน้าตานี่บ่งบอกว่าเพิ่งจะตื่นนอนไม่ต่างกัน

"ห่าอะไรล่ะ มึงนอนทับขาตุ๊กตาตัวใหม่ของมึงอยู่ไง"

"ทับหรอ?"

ทับได้ไงวะ? ผมเกาหัวแกรกๆด้วยด้วยอาการเมาขี้ตาที่ยังไม่ตื่นดีนักแล้วหันไปทางข้างๆ ซึ่งคริสที่ไอ้ไก่มันบุ้ยปากให้ผมหันไปมอง ปรากฏว่าดอลฟี่ของผมนั่งอยู่ข้างๆซึ่งก่อนหน้านั้นผมยังคงนอนทับเขาอยู่  เฮ้ย! ได้ไงวะเมื่อคืนจำได้ว่านั่งหลับซึ่งจำได้แม่นว่ามีคริสอยู่ในอ้อมกอด แล้วไหงมานอนทับดอลฟี่ตัวเอง ผมไม่เคยละเมอแบบนี้เลยนะ!

"เมื่อคืนก็ไม่ได้แดกเยอะนี่หว่า เมาค้างป่าววะ"

ผมไม่ตอบเพราะยังคงตกใจอยู่รีบอุ้มคริสขึ้นมาดูแล้วสำรวจว่าเสียหายตรงไหนหรือเปล่า พอมองสำรวจแล้วยังคงปกติผมนี่แทบยกภูเขาออกจากอก ถอนลมหายใจเฮือกแล้วเงยหน้ามองไอ้ไก่ที่ยืนเกาพุงเปลือยๆของมันแกรกๆ

"ไม่นะ... แต่สงสัยกูจะละเมอ" มันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้ผมสำรวจลูกชายตัวเองอยู่อย่างนั้น

โชคดีแค่ไหนที่ไม่แตก ถ้าแตกมีหวังคงได้เกิดเรื่องดราม่าขึ้นแน่ๆ แต่คงจะยากในเมื่อคริสทำขึ้นมาจากไม้ แต่... เป็นไม้ที่นุ่มมาก นุ่มเสียจนผมรู้สึกหลับฝันสบายเลยก็ว่าได้ เมื่อเห็นว่าคริสยังคงปลอดภัย ผมยิ้มให้เขาแล้วทักทาย

"อรุณสวัสดิ์" แล้ววางเขาเอาไว้ข้างๆรวมกลุ่มกับดอลฟี่ตัวอื่นๆ แน่นอนว่าผมไม่มีทางลำเอียงพวกเขาหรอกอย่างน้อยผมก็ทักทายพวกเขาทุกตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำแล้วเคาะประตูปังๆเพื่อเร่งให้ไอ้ไก่ออกมา

"สัดไก่เข้านานไปแล้วมึงกูปวดขี้!"
แน่นอนครับว่า... เช้าๆแบบนี้เรื่องขี้ไม่เข้าใครออกใครแม้กระทั่งผม...

แล้ววันนี้ก็เป็นวันธรรมดาสำหรับพวกผม แน่นอนครับว่าวันนี้ไม่มีเรียน! วิฮี้วววว!!! รู้สึกดีใจเหมือนหยุดยาวทั้งเดือน ทั้งๆที่ผมก็หยุดมันมาเกือบจะอาทิตย์แล้วเหอะ ความขี้เกียจนี่ยังสุมอยู่ตามร่างกายแน่นอนว่ามันสลัดออกไปไม่หลุดหรอก แต่อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับมันไม่ดี แต่ถ้าเป็นโดยสันดานแล้วนี่ก็เลยตามเลย ฮ่าๆ  :hao7:

วันนี้ก็เลยชิลๆสำหรับผมแล้วก็ไอ้ไก่ที่ยังคงสิงสถิตไม่กลับห้องมันด้วยข้ออ้างที่ว่าขี้เกียจนั่งรถเมล์ แถมด้วยเวลานี้เป็นเวลาที่รถติดบรรลัย มันยังคงนั่งอืดไม่ต่างจากผมนั่นล่ะครับหลังจากที่ซดมาม่าเป็นอาหารเช้าไปคนละสองห่อ

"เอามาให้กูเล่นมั่งดิ่"

"อะไร? ลูกกู ไหนว่ามึงไม่ชอบ"

"กูพูดตอนไหน กูแค่บอกว่าไม่ได้สนใจแล้วบ้าเหมือนมรึง!"

อื้อหือ... เอฟเฟคคำว่ามรึงนี่เต็มๆหน้าผมเลยครับ ผมเลยประเคนส้นตีนยันมันไปที แล้วมันก็ทำหน้ามุ่ยใส่ผมประมาณว่าอยากจะเอาคืน แต่ด้วยพละกำลังของผมที่มีมากกว่ามันอย่าหวังว่าจะมันจะสู้ผมได้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ไอ้ไก่มันโดนผมข่มอยู่ตลอด ยกเว้นเวลาที่ผมต้องการให้มันช่วยเรื่องงานนั่นแหละมันถึงจะได้นั่งแท่นแล้วให้ผมคำนับแทบคุกเข่าอ้อนวอนยกให้เป็นเต้ยเป็นใหญ่ แทบจะเรียกลูกพี่เลยล่ะ กวนตรีนไหมล่ะ

"ไม่เล่นก็ได้วะ" มันบ่นแล้วก็เดินไปทางโต๊ะทำงานของผม แน่นอนว่าเป้าหมายไม่ใช่ไรอื่นไกลนั่นคือโน๊ตบุ๊คของผมที่นอนแน่นิ่งอยู่

"เอาค่าชั่วโมงมาด้วย"

"ไอ้งกเอาขนหน้าแข้งกูไปก่อนไหม!" ผมหัวเราะให้มันไปทีแล้วกลับมาสนใจกับตุ๊กตาที่ผมกำลังเห่ออยู่ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ผมเอาแต่ลูบคลำคริสนั่งจ้องกันอย่างนี้ทั้งวัน นี่ถ้าเป็นปลากัดคงจะท้องกันไปข้าง แต่มันคงไม่มีทางเป็นจริงในเมื่อคริสเขาเป็นผู้ชาย แต่ก็น่ารักเหมือนดอลฟี่ผู้หญิงนะ...

"น่าร๊าก"

'อย่าเรียกว่าน่ารัก!'

"หืม?" ผมเงยหน้าไปทางไอ้ไก่ด้วยความงงเหมือนได้ยินมันว่าอะไรผมสักอย่างขณะที่ผมกำลังเอื้อมจะไปหยิบกล่องที่ใส่อุปกรณ์ของดอลฟี่ ไอ้ไก่มันรู้ตัวแล้วหันกลับมาทางผม

"อะไร?" หน้ามันดูงงๆครับ ผมเลยส่ายหน้า

"เปล่าสงสัยจะหูฝาด"

มันพยักหน้าเออออแล้วหันไปเปิดเกมวินนิ่งเล่นอย่างเคย ส่วนผม... สงสัยต้องแคะขี้หูบ้างแล้วว่ะ

วางคริสเอาไว้ข้างๆแล้วก้มลงรื้อค้นเสื้อผ้าของคริสขึ้นมาสำรวจ ส่วนใหญ่มักจะเป็นชุดที่อลังการไม่น้อย เหมือนพวกคอสเพลย์ในอนิเมะอะไรเทือกนั้นแต่แหงล่ะส่วนใหญ่ดอลฟี่ก็ใส่แต่แบบนี้ แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ผมมักจะวาดแบบแล้วให้ร้านตัดเสื้อตัดให้ผมอีกทีมากกว่า ขนาดตัวของคริสคงจะใช้เสื้อผ้าร่วมกับลูลู่หรือมินนี่ไม่ได้  ถึงเซย์จะดูเหมือนไล่เลี่ยกันแต่เซย์ก็ตัวเล็กกว่ามาก ซึ่งขนาดตัวของคริสนี่เหมือนกับเด็กหนึ่งขวบเลยด้วยมั้ง

"นี่อะไรวะ? ลูกตา" ผมหยิบกล่องพลาสติกขึ้นมาซึ่งมันดูเหมือนกับลูกตาของคน พอมันมาอัดแน่นวางเรียงกันเป็นคู่ๆ สีตาหลากหลายไปตามเชื้อชาติแล้วผมรู้สึกสยองชอบกล

"เดี๋ยวนี้ดอลฟี่แม่งล้ำว่ะ มีเล่นแต่งตัวเปลี่ยนลูกตาเปลี่ยนสีผมด้วย ถามจริงเหอะมันสนุกตรงไหนวะ"  ไอ้ไก่มันถามเสมือนมันมีตาหลังก็ไม่ปาน ผมไม่ตอบมันครับยังคงสำรวจทำความเข้าใจในเมื่อดอลฟี่ของผมตัวเก่าไม่ได้ล้ำขนาดที่จะเปลี่ยนลูกตาได้ แน่นอนว่า... มีวิกผมอยู่ในกล่องใบนี้ด้วย ตาผมนี่เป็นประกายวิ๊งๆเลยล่ะครับเหมือนได้ของเล่นชิ้นใหม่มาก็ไม่ปาน ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมมันถึงได้แพงขนาดนี้ และนี่... คือสิ่งที่ทำให้ผมกระจ่างแก่ใจ

แล้ว... มันเปลี่ยนยังไงล่ะ?
ด้วยความมือใหม่แล้วมันดันไม่มีคู่มือห่าเหวอะไรแนบมาเลยทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด จะเล่นกับดอลฟี่ทั้งทีแต่ก็เกร็งว่าเขาจะเสียหายซึ่งผมเองก็คิดว่าดวงตาของเขาคู่นี้ก็สวยดีอยู่แล้วเลยเลิกสนใจมันซะโยนมันกลับเข้าไปในกล่องตามเดิมแล้วดึงชุดฤดูหนาวขึ้นมาคลี่ดู เป็นเสื้อโคทที่มีฮูดขอบๆจะเป็นขนฟูๆนิ่มๆน้ำตาลเข้ม ข้างในเป็นเสื้อกันหนาวถักสีไข่ไก่ดีไซน์นี่เหมือนกับของคนไม่มีผิดเพี้ยน จริงๆแล้วตอนนี้ก็เข้าหน้าหนาวแล้วนะ แต่สำหรับเมืองไทยนี่ห่างไกลคำว่าหนาวครับผมเลยคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อให้เขาเพราะชุดขุนนางนี่ก็หล่อดีอยู่แล้วเลยเอาเสื้อกลับไปไว้ในกล่องตามเดิม

ร่างเล็กๆของคริสนั่งอยู่บนตักของผม สุดท้ายแล้วสิ่งที่อยากได้ที่สุดก็มาอยู่ตรงหน้า นี่ผมต้องขอบคุณเขาสินะที่มอบขวัญที่พิเศษชิ้นนี้ให้ แต่... คำขอบคุณมันจะไม่มีวันหลุดออกมาจากปากผมเด็ดขาด

"วินนิ่งเปล่ามึง" เสียงไอ้ไก่ที่เริ่มจะชักชวนผมอีกครั้งสงสัยคงจะเหงา ไหนๆก็ไหนๆแล้วไอ้เพื่อนรักมาก็มาค้างห้องทั้งทีผมก็ควรที่จะสนใจมันบ้างสินะ

ถอนลมหายใจแล้วพยักหน้าเนิบๆวางคริสเอาไว้ที่โซฟาแล้วเดินไปไฟว์วินนิ่งกับมันสักตาคงไม่เป็นอะไร ถ้าขืนยังไม่สนใจมันเชื่อเหอะทั้งวันมันก็คงรบเร้าผมแบบนี้ สุดท้ายแล้วผมก็นั่งเล่นกับมันยันเย็นนั่นล่ะครับเรื่องเตะบอลไม่ว่าจะในเกมหรือนอกเกมเป็นอะไรที่ผู้ชายแม่งทำได้ทั้งวันไม่เคยเบื่อ แล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกหนึ่งวันอย่างไร้ค่าไม่ได้มีสาระอะไรเล้ย

"กลับแล้วว่ะ พรุ่งนี้เจอกันที่ซุ้มนะเว้ย"

"เออๆ" ผมพยักหน้าให้มันส่งๆมองไอ้ไก่ที่ใส่รองเท้าแล้วเตรียมจะออกไปจากห้อง

"เออ กูว่าจะบอกมึงแต่กูลืมไปหลายรอบละ พี่โอเขาจะจัดนิทรรศการซุ้มว่ะแล้วเขาให้พวกเราเตรียมงานไปคนละชิ้นอย่าลืมทำนะเว้ย"

"ส่งเมื่อไรวะ" ผมหันไปถามมัน

"สิ้นเดือนแล้วอย่าลืมล่ะ" ผมพยักหน้าให้มันอีกครั้ง และมองมันที่ปิดประตูจากไป แล้วห้องทั้งห้องก็กลับคืนสู่ความเงียบซึ่งมีผมคนเดียวอีกตามเคย ไม่สิ ต้องบอกว่าอยู่กับดอลฟี่ตามลำพังซึ่งผมเองก็ชินแล้วล่ะ ยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจจนกระดูกลั่นกรอบๆแล้วเดินไปเปิดทีวีดูการ์ตูนอนิเมะที่กำลังฉายในช่วงเย็น

มันก็... เป็นกิจวัตรประจำวันของผมนั่นแหละที่ทำอะไรซ้ำซาก ถ้าไม่เรียนอยู่ซุ้มก๊งเหล้า ก็นอนตีพุงอยู่ในห้องเปิดทีวีนอนดูการ์ตูนในห้องแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมๆกับลูกๆที่นั่งอยู่บนตักขนาบข้างซ้ายขวา แต่วันนี้คริสค่อนข้างที่จะได้เปรียบตัวอื่นๆหน่อยที่ได้นั่งอยู่บนตักผม พวกเรานั่งดูการ์ตูนกันจนหิวนั่นล่ะครับผมถึงต้องขยับตัวด้วยความเกียจคร้าน วางคริสเอาไว้แทนที่นั่งผมแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นสำรวจว่ามีเสบียงอะไรเหลือบ้าง

แน่นอนว่า... "ไม่มีห่าไรเลย"

สรุปนี่คงต้องลงไปหาซื้ออะไรกินข้างล่างสินะ?

ผมหันไปมองพวกเด็กๆที่นั่งอยู่แล้วต้องถอนลมหายใจปิดตู้เย็นไปตามเดิม เดินฉับๆไปหยิบกางเกงกับเสื้อใส่เพื่อที่จะลงไปข้างล่างไปหาซื้ออะไรขึ้นมากิน ถ้าหวังจะกินมาม่าทั้งวันผมคงกลายเป็นพวกขาดสารอาหารแน่นอน

"เดี๋ยวมานะเด็กๆอย่าตีกันล่ะ" เตือนทั้งๆที่รู้ว่ามันคงไม่มีประโยชน์อะไร และแน่นอนว่าดอลฟี่ของผมคงไม่วันขยับตัวลุกขึ้นมาตีกันได้อย่างเด็กขาด นี่ถ้าเกิดไอ้ไก่มันอยู่แล้วได้ยินมีหวังผมโดนหัวเราะเยาะแน่ๆ นี่เดาสภาพหน้ามันตอนขำกลิ้งได้เลยแต่อย่าให้มันรู้เลยจะดีกว่า

ผมปิดประตูห้องพร้อมด้วยการล็อกจากข้างนอกเพราะกลัวขโมยเข้าไปฉุดบรรดาลูกชายผมนี่แหละ รีบวิ่งไปที่ลิฟต์เพื่อซื้อของกินข้างล่างเพราะกลัวว่าจะไม่ทันการ์ตูนโคนันที่จะฉายในรอบต่อไป ผมใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็ได้ข้าวผัดกับแปปซี่หนึ่งถุงหิ้วขึ้นมากินบนห้อง เพราะกินข้างล่างแล้วมันวุ่นวายในเมื่อหอที่ผมอยู่คนค่อนข้างเยอะ และเป็นแหล่งชุมชน กินในห้องนี่เป็นการดีที่สุดแถมไม่เหงาด้วยเหอะ ค่อยๆเปิดประตูเข้าไป และเดินผ่านพวกเด็กๆที่นั่งอยู่ ทุกตัวยังคงนั่งเรียบร้อยไม่ไหวติง แต่ผิดที่โทรทัศน์ผมนั่นล่ะทำไมมันถึงดับวะ?

ตอนแรกจำได้ว่าเปิดทิ้งไว้เพราะเดี๋ยวยังไงก็ต้องขึ้นมาดูต่อด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบลดโลกร้อนประหยัดพลังงาน (ประชดตัวเอง) ก็เลยไม่ได้ปิด แต่ตอนนี้ห้องทั้งห้องกลับเงียบกริบมีเพียงแค่เสียงแอร์ที่ยังคงดังหึ่งๆ...

เอ่อ... กูจำได้ว่ากูไม่ได้เปิดแอร์...

ผมย่นคิ้วด้วยอาการงุนงงว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนขี้ลืมว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะผมปิด และเปิดมันเอง แต่มั่นใจว่าทั้งหมดทั้งมวนนี่ผมไม่เป็นคนทำเลย แล้ว... มันเกิดอะไรขึ้นวะ?

อาการงุนงงทำให้ผมกวาดสายตาหารีโมท แต่ไม่ต้องมองหาให้วุ่นวายในเมื่อทั้งสองอันมันวางอยู่ข้างๆคริส ซึ่งดอลฟี่ของผมยังคงนั่งท่าเดิมสงบนิ่งไม่ได้ขยับเขยื้อนผิดท่านั่งอะไร ก็มีแต่มือของคริสนั่นล่ะที่พาดอยู่บนรีโมททีวี สงสัยมือของเจ้าตัวอาจจะหล่นแล้วมาโดนปุ่มปิด แต่คือนี่ข้องใจแอร์? มันเปิดได้ไงวะอากาศเย็นจะตายห่า แถมผมก็เปิดกระจกบานเลื่อนเอาไว้ด้วยเพราะหน้าหนาวในช่วงกลางคืนนี่หนาวจริง

ผมหยิบรีโมทสีขาวที่วางอยู่ตรงปลายเท้าของคริสขึ้นมาแล้วปิดมันซะด้วยอาการขี้หนาวของตัวเอง จริงๆนี่เปิดเฉพาะช่วงหน้าร้อนเพราะที่หอค่าไฟค่อนข้างที่จะแพงแล้วมันจะเป็นภาระกระเป๋าตังของผม
แต่บางทีผมอาจจะลืมไปเองนั่นล่ะว่าเป็นคนเปิดทิ้งไว้ ไม่ได้สนใจอะไรครับแค่วางรีโมทไว้ตามเดิมแล้วหยิบอีกอันมาเปิดทีวีดูโคนันที่กำลังฉายพอดิบพอดี หยิบโต๊ะญี่ปุ่นที่วางแอบไว้ที่มุมห้องออกมาตั้งเพื่อโซ้ยข้าวผัดหอมๆ เสียพลังงานไปกับการเตะบอลกับไอ้ไก่มากพอควรเลยต้องเติมพลังให้ร่างกายเสียหน่อย ไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไมซิกแพคผมถึงได้มีแค่แพคเดียว ถึงมันกำลังจะก่อตัวขึ้นอีกก้อนน้อยๆอยู่บนพุงผม แต่มันก็แทบจะมองไม่เห็นนั่นล่ะ...

ไม่เอาๆ ไม่พูดดีกว่าผมอาย...

ข้าวผัดที่อยู่ในกล่องถูกผมจัดการไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น และเอนหลังพิงไปตามโซฟาตาจ้องไปที่โทรทัศน์ดูดแปปซี่ในถุงเพื่อคลายความกระหาย พอทุกอย่าเสร็จก็นั่งพักท้องแล้วเอนคอไปข้างหลังซึ่งศีรษะของผมจะอยู่ตรงกลางระหว่างคริสกับลูลู่

แหมะ...

หืม?
ผมเงยหน้ามองขึ้นไปเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนหน้าผากผม อันที่จริงก็อยู่ตรงกลุ่มผมๆนั่นล่ะ แต่พอมองว่ามันคืออะไรกลับเป็นเป็นมือของคริสที่วางอยู่สงสัยผมคงไปโดนเขาเข้า ก็เลยยิ้มหล่อให้เขาจนตาหยีแล้วกลับไปดูการ์ตูนโคนันต่อ แต่ด้วยนิสัยของคนขี้เกียจ พอกินอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน จากที่นั่งดูการ์ตูนกลับกลายเป็นผมนั่นล่ะที่ให้เจ้าหนูโคนันนั่นดูแทน  บรรยากาศที่เย็นสบายชวนให้เคลิบเคลิ้ม ความอิ่มทำให้ร่างกายทุกสัดส่วนของผมผ่อนคลาย ถึงจะนอนเน่ามันอยู่ตรงนี่ก็ตาม...

เสียงของการ์ตูนที่ดังอยู่เสียงเงียบลงไป ภายในห้องดูเหมือนจะเงียบสงบราวกับว่าอะไรบางอย่างไม่อยากจะทำให้ผมตื่น สัมผัสนิ่มๆ และอบอุ่น เหมือนมีใครบางคนกำลังลูบกลุ่มผมของผมผะแผ่ว ปรือดวงตาด้วยอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ปรือตาที่หนักอึ้งแทบจะไม่สามารถที่จะถ่างตามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ ใครบางคนที่รูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งหัวของผมกำลังพิงอยู่บนตักเขา เงาเรือนลางที่เห็นกลีบปากอวบอิ่มนั่นกำลังระบายยิ้มส่งลงมา แล้วอยู่ๆร่างกายก็เหมือนลอยหวืออยู่ในอากาศ

ทั้งๆที่ตัวผมก็ไม่ได้เล็กพอที่จะสามารถโอบอุ้มได้ง่ายๆ แน่นอนว่าผมค่อนข้างที่จะสูง และมีน้ำหนักพอตัว แต่ใครคนนั้นที่น่าจะสูง และรูปร่างใหญ่กว่าผมกำลังพาผมเคลื่อนตัวไปยังเตียงนอนอย่างช้าๆ สัมผัสนุ่มนิ่ม และอบอุ่นทำให้ผมรู้สึกขอบคุณเขาในใจลึกๆ

ฝันงั้นหรอ? ทำไมฝันมันถึงรู้สึกเหมือนจริงอย่างนี้ล่ะ...

ผมกำลังถามตัวเอง และกำลังถามเขาคนนั้นอยู่ ดวงตาที่ปรือของผมกำลังมองเพ่งผ่านความสลัวที่พร่ามัว ดวงตาสีครามทะเลที่กำลังทอดมองผม พร้อมๆกับที่เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ และประทับจุมพิตบนหน้าผากมนของผมในเวลาต่อมา ความอ่อนโยนนั่นคือสิ่งที่จดจำ และ... รู้สึกงุนงงว่าเขา... คือใคร?




ตกลง...  นี่ผมฝันจริงๆหรือเปล่า...











 :katai5:

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #9 เมื่อ25-11-2014 23:28:43 »

ก็แอบหลอนเบาๆนะ ถ้ากลับมาห้องแล้วเจอแอร์เปิดทีวีปิดแบบนี้.. ไม่รู้เต๋าจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่ามันไม่ใช่ฝัน  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
« ตอบ #9 เมื่อ: 25-11-2014 23:28:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #10 เมื่อ25-11-2014 23:50:44 »

 :-[ ชอบแนวนี้อ่ะ
มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #11 เมื่อ26-11-2014 00:01:20 »

 o13

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #12 เมื่อ26-11-2014 02:13:34 »

โฮกกก เค้าหลงรักนิยายเรื่องนี้

เค้าชอบนายเอกเล่นตุ๊กตา >///<

ออฟไลน์ LoveYoukissme

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #13 เมื่อ26-11-2014 10:44:14 »

แอบหลอนเบาๆอ่ะ  :a5: :a5: :a5: :a5: o22 o22

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 2 - 25/11/57
«ตอบ #14 เมื่อ26-11-2014 17:21:56 »

ชอบมากค่ะ มาต่อไวๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #15 เมื่อ27-11-2014 00:34:32 »



 :katai5:







DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
3





แปลก...

ทำไมผมรู้สึกแปลกๆในใจพิลึก...

ผมมองไปรอบๆห้องตัวเองด้วยอาการมึงงงปนสับสน ทั้งๆที่คิดว่าพอลืมตาขึ้นมาจะต้องจ๊ะเข้ากับจอทีวี แต่ทำไมผมถึงมานอนอยู่บนเตียงได้วะ? ซ้ำไม่พอ ไอ้จอทีวีมันกลับดับสนิทเหมือนมีใครไม่รู้หวังดีปิดให้ซึ่งผมจำได้แม่นว่าตัวเองเผลอหลับไปเมื่อตอนหัวค่ำโดยให้เจ้าหนูโคนันยอดนักสืบนั่นดูผมนอนแทน ยัง! ยังไม่พอนะ ไอ้เจ้าเสียงแอร์ที่ดังหึ่งๆทำให้ห้องเย็นเฉียบชนิดที่ว่าผมนั่งตัวแข็งไข่หดนี่ยิ่งสร้างความประหลาดใจเข้าไปอีก...

"ฮัดเช้ย!!!!"  เอาแล้วไง...

ใช้นิ้วถูจมูกไปมาเมื่อหวัดกำลังเล่นงานผม สงสัยเมื่อคืนละเมออีกแล้วแน่ๆ แต่นี่มันหนักไปป่าววะ? ไอ้ที่ผมทำลงไปทำไมถึงจำไม่ได้เลย? รู้สึกข้องใจใครรู้ช่วยบอกผมทีเหอะไอ้เต๋านี่จะอาการหนักแล้วครับ

ค่อยๆเลื้อยลงจากที่นอนด้วยสภาพเน่าๆชุดยังคงเป็นตัวเดิมที่ออกไปซื้อของเมื่อคืน เดินฉับๆไปที่โซฟาที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงผมเท่าไรนักแล้วใช้รีโมทปิดแอร์ซะ มองข้าวของที่ยังคงวางระเกะระกะ กินอะไรไว้ก็ยังอยู่เหมือนเดิมยกเว้นแต่ผมกับไอ้เครื่องแอร์ตัวปัญหานั่นล่ะ อ้อทีวีนี่ด้วยซึ่งไม่รู้ตัวว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไป ยืนคิดมันอยู่อย่างนั้นแล้วสายตาผมก็ไปหยุดอยู่ที่คริสที่นั่งพิงอยู่ตรงที่วางแขนของโซฟา ซึ่งอยู่อีกฝั่งกับพวกลูกๆผมที่นั่งเรียงกันอยู่สามตัวไม่ได้ผิดท่าไปจากเมื่อคืน มีก็แต่คริสนั่นล่ะที่แยกตัวไปนั่งตรงนั้น...

เอ๋?

หรือลูกชายผมจะรักสันโดษวะ?

มันใช่ประเด็นปะวะ!

สบตาสีครามนั่นด้วยความรู้สึกหวาดกลัวในใจพิลึก หรือเมื่อคืนผมจะเป็นคนวางคริสเอาไว้เองวะ แต่มั่นใจว่าผมไม่ได้ทำอย่างนั้นแน่นอน!

ใช่! เมื่อคืนผมจำได้ว่าดูโคนันแล้วหลับไป แล้วทำไม... ทำไมถึง...

พลันความคิดที่กำลังสับสนก็ทำให้รูขุมขนของผมตั้งชันไปทั้งอณู มันวาบขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปจนถึงศีรษะ ร้อนๆหนาวๆชอบกล หรือผมจะโดนผีหลอกวะ? บ้าเหอะกูนอนห้องนี้มาสามปีกว่าแล้วเพิ่งจะเจอหรอตลกตาย!

"ไร้สาระว่ะไอ้เต๋า"

พยายามปลอบใจตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด พยายามมองในแง่ดีว่าผมอาจจะเป็นคนทำ และลืมมันเอง จะถือว่าเมื่อคืนเมาแปปซี่แล้วเผลอทำสิ่งนี้ลงไปก็แล้วกันวะ กะอีกแค่เครื่องใช้ไฟฟ้ามันเปิดปิดเอง แล้วก็... ลูกชายที่รักสันโดษไปนอนแอ้งแม้งอยู่ตรงนั้นลำพัง...

เอิ่ม...

"คริสนายไม่ใช่..." ชักระแวงขึ้นมาตงิดๆ

สบตาสีครามที่มองมาทางผม ในขณะนั้นทำไมความรู้สึกผมมันถึงได้หนาวอย่างนี้วะ แอร์ก็ปิดไปแล้ว มองใบหน้าของดอลฟี่ที่มักจะบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลาบัดนี้กลับกลายเป็นยกยิ้มที่มุมปากราวกับว่าคริสกำลังสนุกที่ได้แกล้งผม...

ชิบหาย...

คิดไปเอง... ระแวงไปเอง หวาดวิตกไปเอง... กรูมโนไปเอง...

หายใจเข้าไอ้เต๋า หายใจออกชายเต๋า... อย่าเอาความปอดแหกไร้สาระมาทำให้ความสัมพันธ์ของมึงกับคริสต้องผิดใจกัน...
ผมรู้สึกประหม่าจนเผลอถอยหลังไปรวมอยู่กับดอลฟี่ลูกๆของผมนั่นแหละ ซึ่งอันที่จริงก็กำลังกลัวคริสอยู่อย่างน้อยผมก็ยังคุ้นเคยกับลูลู่ มินนี่ แล้วก็เซย์มากกว่าคริส แถมเพิ่งได้มาด้วยอันนี้ไม่น่าไว้วางใจ แต่ถ้าพูดถึงตามหลักวิทยาศาสตร์ถึงความเป็นไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นมักจะมีสาเหตุของมัน ไม่แน่ผมอาจจะทำสิ่งเหล่านั้นเองแล้วดันลืมเพราะอาจจะง่วงมากไรงี้ สบตาคริสตาปริบๆอยู่นานสองนานซึ่งดอลฟี่ผมก็ยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง...

เอ่อ... นี่กูกำลังทำบ้าอะไร?

เกาหัวแกรกๆด้วยความมึนซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง ค่อยๆลุกออกจากลูกๆแล้วนั่งลงไปบนโซฟา เอื้อมแขนอุ้มคริสขึ้นมาแล้วจ้องตาเขม็งคิ้วขมวด

"ห้ามแกล้งพ่อนะคริสไม่งั้นพ่อจะโกรธจริงๆด้วย" ทำไมผมต้องรู้สึกงอนตุ๊กตาตัวเองด้วยวะทั้งๆที่เขาอยู่ของเขาเฉยๆ ผมนี่รู้สึกว่าจะบ้าตุ๊กตาอย่างที่ไอ้ไก่มันด่ากรอกหูอยู่บ่อยครั้งจริงๆ มองยังไงก็เห็นเป็นตุ๊กตาไม่เห็นจะมีพิษสงไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว น่ารักแบบนี้ใครเขาจะกลัวลงกันล่ะ  ยิ้มให้ลูกชายก่อนทำจากจู๋จุ๊บไปที่เหม่งของคริสแรงๆแถมด้วยน้ำลายเพื่อทำตำหนิว่านี่ของกรู ก่อนจะวางเขาเอาไว้ตามเดิมเมื่อความรู้สึกปอดแหกของผมเมื่อครู่กำลังกลับคืนสู่ภาวะปกติ

"เดี๋ยววันนี้ขากลับแวะไปร้านตัดเสื้อให้คริสดีกว่า" บ่นกับตัวเองแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อเตรียมไปมหาลัยซึ่งตอนนี้มันก็สายมากแล้ว แต่ใจจริงก็ยังไม่เลิกสงสัยหรอกแต่เดี๋ยวไปถามกูรูอย่างไอ้ไก่ที่มหาลัยเอา ไอ้เพื่อนมันอาจจะรู้ว่าไอ้ที่ผมเจอนั่นมันคืออะไร แต่ผมก็ยังเชื่อนะว่า ยังไงตุ๊กตามันก็เป็นตุ๊กตาอยู่วันยังค่ำ โตมาเป็นมนุษย์โลกจนอายุ21นี่ผมยังไม่เคยเห็นผีเลย กะอีแค่เจอเรื่องแปลกๆแค่ครั้งนี้มันกลับทำให้ผมกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปในพริบตา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธนะว่าผมไม่ได้กลัวผี ขออย่าให้เจอเลยจะดีกว่าชาตินี้  เพราะผมเองก็ขี้ขลาด และกลัวผีทั้งๆที่ไม่เคยเจอนั่นล่ะ!






"อืม... แปลกจริงๆว่ะ" น้ำเสียง และสีหน้านี่บ่งบอกว่าเชื่อมาก... เชื่อโคตร เชื่อชิบหายเลย...

"มึงช่วยหยุดแดกแล้วทำเหมือนว่ามึงเชื่อกูจริงๆทีเหอะไอ้ไก่  เดี๋ยวกูยันโครม" ไม่ว่าเปล่าผมเตรียมขาพาดขึ้นมาบนเก้าอี้หินอ่อนเตรียมจะยันมันจริงๆถ้าขืนมันยังทำตัวกวนตีนแบบนี้อยู่ หลังจากที่ผมเล่าเรื่องราวแปลกๆให้มันฟังมันก็เอาแต่แดกขนม แล้วก็พยักหน้า ไม่ก็ครางอือเออออไปกับผม แต่หน้าตานี่แม่งไม่มีความเชื่อผมเลยสักกะติ๊ดนึง

"เอ้า! แล้วมึงจะให้กูทำไงล่ะ จะให้ไปปรามผีให้มึงไง?"

"กูไม่ได้บอกว่ามีผีแต่กูแค่งงเฉยๆว่าอยู่ๆทำไมกูถึงทำอะไรลงไปแล้วเสือกจำอะไรไม่ได้เลย"

"อัลไซเมอร์แดกมั้ง"

"ไม่มีทางอ่ะ" ผมส่ายหน้าคอนี่แทบจะหลุดแน่นอนว่าผมไมได้เป็นแบบนั้นแน่นอน

ไอ้ไก่มันมองหน้าผมเหมือนกำลังใช้ความคิดแบบหน้านิ่งๆ ปากนี่ก็เคี้ยว มือนี่ก็ล้วงไปด้วยเพื่อไม่ให้ขนมที่มันกินขาดตอน มันอร่อยตรงไหนวะเลย์เนี่ย!

หมับ!

"ไอ้สัด  เลย์กูเอาคืนมา!"

"มึงชวยกูคิดก่อนดิ่" ยกยิ้มยักคิ้วให้มันแล้วเอียงห่อเลย์หลบมือยาวๆที่พยายามจะแย่งของมันคืนไป ไอ้ไก่มันทำหน้ามุ่ยแล้วกลับไปนั่งท่าปกติของมัน

"วุ่นวายจริงๆเลยมึงเนี่ย มึงก็ถามลูกๆมึงสิ"

"เอ้าไอ้นี่ถ้าลูกกูพูดได้กูไม่ต้องมานั่งถามมึงหรอก"

มันเหล่สายตามองผมเหมือนหมั่นไส้อย่างไรชอบกล สายตามันดูกวนตรีนมากครับ สักพักมันก็ยิ้มเหมือนคิดอะไรออก

"กูว่านะ คริสต้องเป็นตุ๊กตาผีแน่ๆ"

"ผีพร่อง!"

"ไอ้เหี้ยด่าพ่อกูอีก" มันยกมือเตรียมจะโบกกบาลผม แต่อย่างหวังว่าจะทำสำเร็จในเมื่อวิทยายุทธ์ของผมมันล้ำเสียยิ่งกว่านินจา... เอ่อ... คนละเรื่องล่ะไม่ช้าย! ผมนี่ก็ยังอุตส่าห์มาตลกเนอะ

"ก็มึงใส่ร้ายคริส!"

"อ้าวววววว... กูก็แค่สันนิฐานตามที่มึงเล่า"

"สันนิฐานห่าไรมึงบ้าปะตุ๊กตาผีมึงมีที่ไหน"

"อ้าวไอ้นี่สงสัยจะอยู่หลังเขามานานนะมึงอ่ะ ไม่เคยดูแอนนาเบลหรอวะ" ผมส่ายหัว

"ตำนานตุ๊กตาอลิซล่ะ" ผมส่ายหัวอีก "เมอร์ซี่" ยืนยันคำตอบเดิม "จูเลียต"

"หึ"

"คิคุโกะ"

"ไม่อ่ะ"

"เออกูพอเข้าใจละไอ้บ้าตุ๊กตา!" มันทำหน้าแบบเหนื่อยใจสุดๆหลังจากที่รู้ว่าผมไม่ได้สนใจในตำนานตุ๊กตาผีพวกนั้น พอๆกับที่มันไม่ได้สนใจตุ๊กตาเหมือนผม

"เอ้า! แล้วมันเกี่ยวยังไงล่ะวะ!?" ผมก็เริ่มสุดจะทนแล้วเหมือนกัน

"เออ เชิญมึงบ้าแล้วหาคำตอบเองเถอะกูขี้เกียจเล่าเดี๋ยวหาว่ากูพยายามเป่าหูให้เกลียดคริสอีก แต่มึงอย่าเอามาใส่ใจเหอะกูว่าไม่มีอะไรหรอก อะไรมันจะโชคร้ายขนาดนั้น"

"หรอวะ" ผมยังคงมึนอยู่ และรู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่ตัวผมเองก็ยืนยันกับตัวว่าคริสก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติ คือรักลูกมากทุกตัวไง เขาคงไม่ใจดำแกล้งผมหรอกมั้ง แล้วผมก็ถูกชะตา และชอบเขามากๆด้วยในตัวของดอลฟี่ตัวนั้น

"งั้น... คืนนี้มึงอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยดิ่" ผมหันไปบอกไอ้ไก่ที่หันมามองผมด้วยสีหน้าที่กวนตีนมาก ปากมันยิ้มๆ สายตามันดูเจ้าเล่ห์ชอบกล หรือไอ้ที่เล่ามาให้ผมฟังนี่มันจะเป็นแผนวะ?

"ด๊าย! แต่มึงต้องเลี้ยงข้าวเย็นกูนะ"

โป๊ะเชะ! ไอ้สันดาน...

"มาม่าสองห่อเหมือนเดิมก็แล้วกัน..."

ไอ้ไก่มันดูอึ้งๆให้คำตอบผมแล้วมันก็เบะปากเหมือนโคตรเอือม...  อะไร? มาม่านี่ก็บุญแล้วเหอะดีกว่าแดกตีนกูอีกนะ
ผมหัวเราะใส่มัน"หึหึ" กวนตีนมันกลับ แล้วกลับมาสนใจกับสมุดวาดภาพที่อยู่ตรงหน้า

วันนี้ที่ซุ้มเงียบเหงาพอควรครับสงสัยจะมีเรียนกันในช่วงบ่าย แต่พอบ่นไปไม่เท่าไรไอ้แบคมันก็บึ่งรถมาจอดอยู่ตรงลานเล็กๆ ข้างๆซุ้มนั่นล่ะ พวกเราทักทายกันตามประสา

"ไงไอ้แบคหน้าตูมเหมือนคนปวดขี้" ผมทักมันไปอย่างเช่นทุกวัน

"ปวดขี้ห่าไรล่ะ กูปวดใจมากกว่าเมียไม่ให้มาสองคืนละเนี่ย"

"อ้าว" ผมครางด้วยความประหลาดใจ ลูกตานี่เบิกขึ้นด้วยอาการหูผึ่ง

นี่คบกันมาตั้งสองปีกูเพิ่งรู้ว่ามันมีเมีย เห็นกระหนุงกระหนิงกับไอ้ดีโด้กูนึกว่าซัมติ้งกันซะอีก ผมมองไอ้แบคที่เดินเข้ามาแล้วกระแทกก้นนั่งอยู่อีกฝังแล้วเอาขาตั้งเข่ากดโทรศัพท์ยิกๆเหมือนกำลังจะโทรหาใคร สงสัย... แม่งโทรง้อเมีย

"แล้วมึงไปทำไรให้เมียมึงโกรธวะ?" ต่อมเสือกยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี ไอ้แบคมันส่งสายตาโหดๆมาให้ผมแล้วเดาะลิ้น จิ๊จ๊ะ เหมือนไม่พอใจคำถามผมเท่าไร

"ก็วันก่อนเสียไพ่ให้มึงไง มันเลยหาข้ออ้างบอกช้ำใจไม่มีอารมณ์ คราวหลังมึงไม่ต้องนั่งข้างๆพี่โอเลยนะ"

"อ้าวเกี่ยวไรกับกู" งงสิครับ กระผมนี่งงเป็นไก่ตาแตกมองไอ้แบคที่ดูหงุดหงิด และพร้อมจะแยกเขี้ยวใส่ผมได้อยู่ตลอดเวลา ถามจริ๊ง! กูไปรู้จักกับเมียมึงตอนไหนวะ!?

หันไปถามไอ้ไก่ "ใครเมียมันวะ"

"มึงลองเข้าชาญเดี๋ยวก็นึกออกเอง"

"พ่อง!" เหอะช่วยได้มากเลยไอ้เหี้ยไก่

"ทำอะไรกันอยู่นะ" ชะอุ้ย!

นี่ก็มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง!

ผมหันไปมองพี่โอที่ก้มลงกระซิบข้างหูจากทางด้านหลังแน่นอนว่าเขาจงใจทำให้ผมตกใจเล่นไปงั้น เออ... กูขวัญอ่อนแล้วชอบแกล้งกันใหญ่กับจุดอ่อนกูเนี่ย

"โหพี่ มาแบบนี้เดี๋ยวผมแบล็ค!"

"แบล็คอะไรครับ?" พี่แกเลิกคิ้วแล้วยิ้มกวนๆ แต่สายตานี่บ่งบอกว่า ถ้ามึงตอบไม่เข้าหูแน่นอนว่าอาจจะได้โดนบาทาของท่านพี่แน่ๆ ผมหัวเราะแหะๆ แล้วตอบกลับไป

"ก็แบล็คเลเบิ้ลไงพี่ กำลังอยาก" สเต็ปการแถนี่อย่างกับเดอะฟาสภาค4

พี่โอเลิกคิ้วแล้วนั่งลงข้างๆผม "โหนี่กินของแพง ไปนอนห้องพี่สิเดี๋ยวเลี้ยงแน่"

"โหพี่! แค่เลี้ยงเหล้าทำไมต้องนอนค้างด้วยอ่ะ อย่าบอกนะว่าจะมอมเหล้าผม" ผมหลิ่วตาแล้วทำสายตากรุ้มกริ่มแกล้งพี่แกให้ขนลุกเล่น เหมือนเวลาที่อีเจย์มันทำกับพวกผมเวลาที่คิดจะไปก๊งเหล้ากันที่ห้องใครสักคน แต่สำหรับพี่โอนี่นิ่งได้อีก แถมมีการนั่งอมยิ้มจนตาหยีแก้มนี่แทบจะปริออกมาละ โหยๆๆ ไม่สนุกเลยว่ะ

"ฮ่าๆๆ ตลกละเต๋าพี่ก็แค่เป็นห่วงตอนเรากลับบ้านมากกว่ามันอันตราย อีกอย่าง ขอให้เราไปได้ก่อนเถอะแล้วค่อยมาแซวพี่" ผมมองหน้าพี่แกตาปริบๆแล้วเกิดอาการเกรงใจรุ่นพี่ขึ้นมาในทันที เพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่แกชวน นอกจากที่มหาลัยแล้วผมก็ไม่ได้เคยดื่มที่ห้องใครหรอกครับเพราะกลัวเด็กๆที่รออยู่ที่ห้องจะเหงาไม่ต่างกัน อันที่จริงผมไม่ชอบไปนอนค้างห้องใครด้วยล่ะ

"ฮะๆ" หัวเราะกลบเกลื่อน "โหยพี่ไม่ได้หรอกเดี๋ยวที่บ้านผมเป็นห่วง เขาไม่ชอบให้ผมค้างข้างนอก" แถสดรอบสอง

"หืม? นี่อยู่บ้านหรอ" ผมพยักหน้าหงึกๆคอแทบจะหลุดว่ามันจริงอย่างที่พี่เขาเดา แล้วไอ้ไก่ก็เอาคางมาเกยบ่าผมแล้วตอบกวนตีน
"มันค้างข้างนอกไม่ได้หรอกพี่เดี๋ยวลูกเมียมันเป็นห่วง"

"ไอ้สัดไก่!"  ผมเอามือดันหน้ามันออกไป แล้วไอ้ห่าเพื่อนมันก็ระเบิดหัวเราะเหมือนมันสามารถกวนตีนผมคืนได้  นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าพี่โอนั่งอยู่กูจะถีบมึง!

"ร้ายนะเนี่ยมีครอบครัวแล้ว?"

ผมรีบหันกลับไปมองแล้วโบกมือปฏิเสธ "โหยไม่ใช่พี่ผมยังโสดร้อยเปอร์ อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวสาวๆเขาไม่แลผม"
พี่โอเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มบางๆเหมือนจะขำ "จริงหรอ อย่างนี้สาวๆก็พอมีหวังน่ะสิ"

"หนุ่มๆด้วยพี่ไม่ใช่แค่สาวๆ"

"เงียบไปเลยไอ้ไก่!" หันไปตะคอกเมื่อไอ้เพื่อนมันเริ่มจะเกรียนเมื่องานของมันที่กำลังปั่นใกล้จะเสร็จ ผมหันกลับมาทางพี่โอพลางยิ้มแหยๆแบบ... คือผมทำตัวไม่ถูกกับสายตาพี่แกว่ะ มันดูประหลาด... ยังไงดีล่ะ ก็... มันประหลาดก็แล้วกันซึ่งผมเองก็อธิบายไม่ถูก หันไปทางไอ้ห่าไก่แล้วเร่งๆมันให้รีบๆทำงานให้เสร็จ เพราะผมเกร็งไอ้สายตาไอ้พี่โอนี่แหละ กูกลัว...







"มึงว่า... ไอ้พี่โอนี่แปลกๆเปล่าวะไอ้ไก่" ผมหันไปถามไอ้ไก่หลังจากที่ซดมาม่าเป็นมื้อเย็นอย่างที่ผมบอกมันไว้จริงๆหลังจากที่พวกเรากลับมาที่ห้องของผมแล้ว ผมนอนตีพุงใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวปล่อยให้พัดลมโกรกดากสบายอุรา มองไอ้ห่าไก่ที่นั่งโชว์แผ่นหลังของมันกำลังเปิดจอคอมเตรียมจะไฟว์วินนิ่งกันอีกตามเคย

"หืม? แปลกไงวะ" มันถามผมกลับไม่ได้สนใจนัก

"ก็... พี่เขาดูใจดีกับกูแปลกๆอ่ะ"

"อ้าว ก็ดีแล้วนี่หว่า พี่เขาคงเอ็นดูมึงเหมือนน้องมั้งก็เลยใจดีเป็นพิเศษ"

"แต่กูเกร็งว่ะ เวลาจะกวนตีนพี่แกแล้วกูเกรงใจ เวลาที่เขาสุภาพแล้วกูดูเถื่อนไปเลย"

"มึงก็อย่ากวนตีนเขาดิ่งั้น"

ผมถอนลมหายใจเซงๆให้กับไอ้เพื่อนที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์อะไรกับผมสักอย่าง ผมขอปลดตำแหน่งมันออกมาจากยอดกูรูที่ผมได้ยกย่องมันไว้ บวกด้วยความคิดที่ว่าไอ้ห่านี่มันไม่ได้เป็นประโยชน์โตดโต้งอะไรกับผมเลย แถมไอ้ที่ชวนมานอนเป็นเพื่อนแล้วรีบแจ้นมานี่คงไม่พ้นอยากไฟว์วินนิ่งกับผมมากว่าเป็นห่วงว่าเพื่อนจะโดนผีหลอก

"ลุกดิ่กูเตรียมเสร็จแล้วเนี่ย" มันหันมาเร่งผม

"เออๆๆ" รับมันแบบรำคาญแล้วลุกขึ้นคลานไปปลายเตียงแล้วรับจอยมาจากมัน

สรุปแล้วไอ้ที่มันมานี่คือมาแค่เล่นเกม ส่วนไอ้เรื่องแปลกๆภายในห้องนี่พวกผมก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิดแถมลืมไปเสียสนิท แต่ถึงจะลืมมันก็ไม่ได้เกิดอะไรที่ว่าแปลกขึ้นเลยกระทั้งเที่ยงคืนกว่าๆนั่นล่ะที่เริ่มจะง่วงกันแล้วมีความเห็นตรงกันคือสมควรจะนอนได้แล้ว

"ทำไรวะ?" ไอ้ไก่กระดิกเท้าตะแคงข้างถามผมที่กำลังจับลูกๆให้นั่งเป็นระเบียบ

"กู๊ดไนท์ลูกกู" มันเบะปากใส่แล้วหันหลังใส่ผมไปตามเดิม

"เออ รีบๆด้วยกูแสบตา" ยังไม่วายสั่งเร่งผมอีก

แต่จะด่านี่ก็เปลืองน้ำลายครับ ผมหันกลับมายังลูกของผมที่นั่งอยู่ จับลูลู่อิงไปที่หมอนนิ่มๆแล้วจับมินนี่นอนตักพี่เขา ส่วนเซย์นี่ตัวค่อนข้างใหญ่กว่าลูลู่กับมินนี่ผมเลยพาเขาไปนั่งที่เก้าอี้เล็กๆสำหรับดอลฟี่ เอาหมอนเด็กเล็กที่ผมซื้อมาวางเอาไว้ก่อน เพราะกลัวว่าเซย์จะปวดหลัง ก่อนจะหันไปทางคริสที่จ้องมาทางผมเขม็ง ยิ้มให้กับเขา

"คริส วันนี้เรานอนด้วยกันดีกว่า" ผมชวนตามนิสัยของคนที่ชอบพูดกับตุ๊กตา

"ระวังนะมรึงงงงง..." แล้วไอ้ห่าไก่ก็ยานคางส่อความใน

"ระวังห่าอะไรวะ" ถามมันน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไร  มันหันมาเหล่มองผมแล้วยิ้มกวนตีน

"ระวังคริสมึงจะกลายเป็นแอนนาเบลเวอร์ชั่นดอลฟี่"

"เหี้ยไก่นอนไปเลยสัด! ก่อนที่กูจะกลายร่างเป็นเดอะฮักแล้วทุ่มมึงลงหน้าต่าง"

"ฮ่าๆๆๆ โหดจ๊าง เออๆๆๆกูล้อเล่น" ล้อได้กวนตีนกูมากไอ้บ้าเอ๊ย! อุตส่าห์ลืมแล้วนะเนี่ย!

ผมหันกลับมามองคริสด้วยอาการที่เกิดปอดแหกขึ้นมาอีกแล้ว สองจิตสองใจเกิดลังเลว่าผมควรที่จะเอาคริสไปนอนกอดดีไหม แต่ตัวนิ่มๆลื่นๆของคริสที่เหมือนกับผิวคนจริงๆทำให้ผมอดใจไม่ไหว คืออยากนอนกอดลูกชายอ่ะจะเป็นตัวห่าอะไรก็ช่างเหอะ!
เดินไปปิดไฟกลางห้องพรึบ! แต่ก็เปิดไฟห้องน้ำเพื่อให้ความสว่างภายในห้องเป็นแสงสลัวๆ แล้วเดินกลับมาที่เตียง ใช้เท้าเขี่ยๆให้ไอ้ไก่ขยับออกไป มันแค่จิ๊ปากเหมือนรำคาญแต่ก็ขยับไปแต่โดยดีผมเลยจัดที่จัดทางแล้วล้มตัวลงนอนโดยให้คริสนอนด้านนอกซึ่งผมนอนอยู่ตรงกลาง โชคดีที่ว่าเตียงผมค่อนข้างที่จะใหญ่เลยไม่ค่อยจะนอนอึดอัดกันสำหรับผู้ชายตัวโตๆสองคนอย่างผมกับไอ้ไก่ สบตาคริสที่ตะแคงมองผมแล้วบอก "กู๊ดไนท์" ยิ้มๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งเพื่อเข้านิทรา เมื่อความเงียบมันทำให้ผมเคลิ้ม...

แต่... ผมควรจะหลับไปตั้งแต่ตอนที่หลับตาในนาทีนั้น...

ทว่า... ความรู้สึกของที่นอนที่ยุบลงด้วยน้ำหนักของอะไรบางอย่างทำให้ผมที่กำลังจะเคลิ้มตื่นขึ้นมาสลึมสลือ มองฝ่าความมืดแล้วคราง "อือ..." ในลำคอเมื่อสัมผัสนิ่มๆของริมฝีปากกดจูบมาที่ขมับข้างของผมผะแผ่ว ฝ่ามือหนาลูบคลึงไปตามกล้ามเนื้อสะโพกของผมที่อัดแน่นจนรูขุมขนตั้งชัน ในนาทีนั้นผมรู้แล้วว่ามันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายผม และสิ่งนั้นมันกำลังทำให้ผมกลัว เมื่อดอลฟี่ที่เคยนอนอยู่ตรงหน้าตอนนี้กลับกลายเป็นผู้ชายผมสีบรอนที่ใส่ชุดขุนนางชุดเดียวกันกับคริสเดะๆ!

ไม่พอ!

ด้วยอาการตกใจของผมทำให้ผมนอนเกร็งตาค้างฝ่าความมืดไม่กล้าสบตาเขาคนนั้น เมื่อใบหน้าคมหล่อที่สะท้อนแสงไฟสลัวนั่น ค่อยๆก้มหน้าลงมาที่ข้างหูของผมแล้วกระซิบเสียงกระเส่าว่า...

"ฉันหิว..."

 :o

กี๊สสสสสสสสสสสสสสส!!!!!!












 :ling2:

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #16 เมื่อ27-11-2014 00:56:35 »

หิว!! หิวอะไรลูกกกกกกกกกก  :katai1:

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #17 เมื่อ27-11-2014 01:22:30 »

เต๋าทำไมหนูฮาอย่างงี้ลูกกกกกกกกกกกกกกกก o17

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #18 เมื่อ27-11-2014 03:24:16 »

หิวเหรอลูกกก ซัดเจ้านายตัวเองเล้ยยยย

ออฟไลน์ ไป๋ไป๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #19 เมื่อ27-11-2014 04:11:34 »

เฮือก!!!!!! :a5: :a5: :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-11-2014 04:11:34 »





ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #20 เมื่อ27-11-2014 06:08:46 »

เอาแล้วเห็นเต็มๆ


ขนลุกเลยอะ



รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #21 เมื่อ27-11-2014 07:12:25 »

อร๊ายย หิวอัลไลคะ
คริสเอ้ยมาเงียบๆเต๋าช็อกตายพอดี

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #22 เมื่อ27-11-2014 07:37:24 »

หิวอะร๊ายยยย :serius2:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #23 เมื่อ27-11-2014 08:19:51 »

คริสขี้แกล้ง ถ้าเต๋าหัวใจวายทำไงเนี่ย5555555555555555

"ฉันหิว..."
หิวอะไรคริสพูดให้เคลียร์ เราจิ้นนะ :hao6:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #24 เมื่อ27-11-2014 08:24:44 »

โห คริส นี่ตุ๊กตาแวมไพร์ปะเนี่ยขอดูเขี้ยวหน่อย     :-[

เต๋าของเราโก๊ะนะ จะเข้าใจว่าหิวไข่เจียวไรงี้รึเปล่า

กลัวเพื่อนตื่นมาช็อคจัง  กินกันเบาๆนะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #25 เมื่อ27-11-2014 09:24:39 »

อร๊ายโดนกินแน่???

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #26 เมื่อ27-11-2014 10:26:35 »

 o22
คริสหิวอะไรรรรร

ออฟไลน์ dariganae

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #27 เมื่อ27-11-2014 12:29:41 »

อยากบอกคำเดียวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า.......
ชอบมากค่ะ!!!!!!!!!
ชอบแนวเรื่อง ชอบพล็อตเรื่อง น่าติดตามน่าลุ้น
มาอัพไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้^^

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #28 เมื่อ27-11-2014 13:31:25 »

กินเลยค๊าาาาาาา55555555

ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: DOLLFIE ตุ๊กตาต้องสาป - Up 3 - 27/11/57
«ตอบ #29 เมื่อ27-11-2014 14:01:55 »

โอ้มายดอลฟี่ หลอนมาก  แต่ท่าทางจะฟินน   หิวไรหว่า  เหอๆๆ :hao6: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด