# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 26
ข้อตกลง
วันนี้วันเสาร์ วันสุดท้ายแห่งสัปดาห์ของการทำงาน เอยมาทำงานอย่างคิดหนัก ว่าพี่ขาวจะจำเรื่องเมื่อคืนได้หรือไม่ และตนจะมองหน้าพี่ขาวได้อย่างไรในวันนี้ เอยนั่งครุ่นคิดไปมาอย่างคิดไม่ตก
“จะมองหน้ากันได้ไหมเนี่ยะ” เอยพึมพำกับตนเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นไปยังห้องกาแฟ
พอดื่มกาแฟเสร็จแล้ว เอยก็กลับมายังแผนกต่อ พบว่าพี่แปงมาแล้ว และกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่
“อืม ได้ งั้นแค่นี้นะ” พี่แปงพูดก่อนที่จะวางสาย
“มาเช้าจังครับพี่แปง” เอยทักทาย
“จ้ะ...คือวันนี้ขาวมันลางาน นี่ก็เพิ่งโทรมาบอกพี่” พี่แปงบอก
“อย่างนั้นเหรอครับ”
“อืม สงสัยคงเมาจัดเลยแฮ้งค์” พี่แปงพูด
“น่าจะใช่ครับ” เอยไม่รู้จะหาอะไรมาพูดกับพี่แปงในเรื่องของพี่ขาว
“เอย...ยังรู้สึกไม่ดีกับขาวอยู่ใช่ไหม?” พี่แปงตัดสินใจถามออกไป
“ก็..แค่นิดหน่อยครับ” เอยตอบตามความจริง
“โชคดีที่วันนี้ขาวมันไม่มา อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอหน้ากันสักวันสองวัน เผื่อเอยจะรู้สึกดีขึ้น”
“คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะครับ”เอยตอบก่อนที่จะยิ้มให้พี่แปง
“มาๆ เริ่มทำงานกันดีกว่า”
ทั้งเอยและพี่แปงก็ต่างก็พากันทำงาน วันนี้เอกภพเข้ามาหาเอยด้วยอีกทั้งหันมายิ้มให้เอย จากที่หลายวันก่อนเอาแต่มองเขม่น อาจจะเพราะกวินบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือ เอกภพจึงไม่มีความเครียดแล้ว
เวลาล่วงเลยจนถึงเวลาเลิกงาน วันนี้เอยไม่มีโครงการจะไปไหน พรุ่งนี้ก็เช่นกัน คงคิดจะอยู่บ้านช่วยแม่เตรียมของอย่างเช่นเคย เวลาตอนนี้ก็ห้าโมงกว่าแล้ว เอยออกมาจากบริษัท รู้สึกว่าช่วงนี้อากาศหนาวลงแล้ว ท้องฟ้าจึงมืดเร็วกว่าปกติ
“คงจะกลับมาแล้วสินะ”
เอยนั่งบนรถเมล์พลางนึกถึงกวิน ซึ่งคาดว่าเวลาประมาณนี้กวินคงจะกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว เอยมองวิวท้องถนนพลางขบคิดในใจ ว่าตอนนี้กวินทำอะไรอยู่ ตอนนี้กวินจะไปไหนอีก จะกลับคอนโดเลยหรือจะกลับมาทำงานต่อ เอยเอาแต่นึกถึงกวินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้รถเมล์จะได้เลยป้ายไปแล้ว
“ตายล่ะ!!” เอยรีบวิ่งลงจากรถเมล์ ที่เลยไปป้ายหนึ่งแล้ว
“เฮ้อ...ใจลอยจนได้เรื่อง” เอยบ่นตนเอง ก่อนที่จะเดินย้อนกลับไปทางเดิมที่เลยมา เพราะไม่อยากเปลืองเงินไปกับรถแท็กซี่
จู่ๆมีเสียงบีบแตรรถไล่หลังเอยมา เอยหันมองไปยังข้างหลัง เป็นรถสปอร์ตหรูที่ดูคุ้นตา แม้กระจกรถจะติดฟิล์มสีดำสนิท แต่เอยก็เดาได้ว่านั่นคือใคร รถคันนั้นขับมาอย่างเอื่อยเฉื่อยมาเทียบข้างๆเอยที่หยุดเดินแล้ว
“ขึ้นรถสิ” กวินเลื่อนกระจกรถลง ก่อนจะพูดขึ้น
“ครับ” เอยว่า ก่อนที่จะเปิดประตูและเข้าไปนั่งในรถทันที
“กลับมาถึงกี่โมงแล้วครับ” เอยถาม พลางมองไปยังทางข้างหน้า ไม่กล้าหันไปมองกวินเสียเท่าไหร่ เพราะยังไม่ค่อยเคยชินที่ต้องสบตากวินใกล้ๆ
“ห้าโมงกว่าเห็นจะได้” กวินตอบ
“เหรอครับ” ความเงียบปกคลุมทั้งสองจนรถแล่นไปถึงหน้าบ้าน กวินดับเครื่องยนต์ ตอนนี้จอดสนิทอยู่หน้าบ้านของเอย
“เอ่อ...มาหาผม ทำไมเหรอครับ?” เอยถามออกไป กวินแสดงสีหน้านิ่งๆก่อนตอบ
“ว่าจะชวนเธอไปค้างที่คอนโด” กวินบอก เอยรู้สึกหน้าแดงนิดๆที่กวินพูดออกมาเช่นนั้น
“เอ่อ...” เอยไม่รู้จะตอบตกลงหรือว่าอย่างไรดี
“จะปฏิเสธเหรอ?” กวินถามขึ้น น้ำเสียงดูจะไม่พอใจ
“ปะ..เปล่าครับ ผม ขอเข้าไปบอกแม่ก่อน เชิญ...คุณเข้าไปรอในบ้านก่อนไหมครับ?” เอยตอบตะกุกตะกัก
“ได้สิ” กวินตอบตกลง ทั้งสองจึงเดินลงจากรถเดินไปเข้าไปในบ้าน
“มาแล้วหรอเอย?” แม่ของเอยร้องถามขึ้น แต่ก็เมื่อเห็นกวินเข้ามาด้วยก็เกิดแปลกใจเพราะไม่คุ้นหน้าค่าตา
“แม่ครับ..นี่ เอ่อ...เพื่อนเอยเอง” เอยบอกไปเช่นนั้น กวินปรายตามองเอย ดูจะไม่ชอบใจที่เอยบอกไปว่าเป็นเพื่อนกัน
“สวัสดีครับ ผมกวินครับ” กวินแนะนำตัวเองก่อนที่จะยกมือไหว้แม่ของเอย
“ไหว้พระเถอะลูก ทานอะไรมาหรือยัง แม่ทำกับข้าวเสร็จพอดี อยู่ทานข้าวด้วยกันนะกวิน” แม่ของเอยเอ่ยชวนกวินทานมื้อเย็น กวินยิ้มบางๆพลางพยักหน้า
“แม่ครับ...เอยขอไปค้างบ้านเพื่อนนะครับ” เอยหันไปบอกแม่
“ไปค้างบ้านใครเหรอลูก บ้านไทป์เหรอ?” แม่ถามขึ้น กวินที่ตอนนี้นั่งลงบนโซฟาหน้าทีวีคิ้วขมวดเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของแม่เอย
“ปะ...เปล่าครับแม่ ค้าง เอ่อ...บ้านกวินครับ” เอยตอบ
“อย่างนั้นเหรอ อืมๆ งั้นทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยไปนะ” แม่ว่า เอยพยักหน้า ก่อนที่จะขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสะพายสองชุด คือชุดนอนและชุดสำหรับพรุ่งนี้พร้อมของใช้ส่วนตัวอีกนิดหน่อย เมื่อลงมาพบว่ากวินย้ายตัวเองมานั่งที่โต๊ะทานข้าวเรียบร้อยแล้ว
“มาๆ กินข้าวได้แล้วเอย” แม่ของเอยเรียก เอยจึงนั่งลงข้างๆกวินและลงมือทานข้าว
“ถูกปากไหมกวิน?” แม่เอยถามกวินที่กำลังตักแกงกะทิอยู่
“อร่อยครับ” กวินตอบ ก่อนที่จะทานต่อ
“เพิ่มข้าวได้นะลูก” แม่ของเอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นกวินทานข้าวได้เยอะ เอยได้แต่แอบๆมองกวินที่กำลังทานอย่างเอร็ดอร่อย แม้สีหน้าจะนิ่งเฉย แต่จากท่าทางดูก็รู้ว่าชอบอาหารตรงหน้า
มื้ออาหารนี้เล่นเอาเอยจุกท้องเพราะอิ่มเกินไป กวินแตะท้องตนเองเบาๆคาดว่าน่าจะอิ่มมากเหมือนกัน
“นั่งย่อยสักพักแล้วค่อยไปกันนะ” แม่ของเอยว่า เอยจึงยกจานทั้งหมดไปล้าง กวินยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม มองเอยที่กำลังล้างจานอยู่
“เอ่อ...อร่อยไหมครับ?” เอยพยายามชวนกวินคุย
“อืม อร่อย” กวินตอบ เอยยิ้มออกมาจากนั้นจึงจัดการล้างจานจนเสร็จ
“ไปกันเถอะ” กวินพูดก่อนที่จะลุกขึ้น
กวินเดินไปหาแม่ของเอย ก่อนที่จะยกมือไหว้อีกครั้ง แม่ของเอยแค่ยิ้มออกมาและบอกให้ขับรถระมัดระวัง ทั้งสองขึ้นรถและตรงไปยังคอนโดของกวินทันที เอยที่นั่งดูข้างทางไปเรื่อยๆ กวินเองก็เงียบเช่นเดียวกัน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเอยก็ดังขึ้น เมื่อเอยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นพี่ขาวโทรมา
“ครับ พี่ขาว” เอยกรอกเสียงลงไป
“เอ่อ....เอยว่างรึเปล่า” พี่ขาวถาม เอยหันไปมองหน้ากวินที่ตอนนี้กำลังแสดงสีหน้านิ่งๆ แต่เหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้น เอยกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“ไม่สะดวกครับพี่ขาว” เอยตอบออกไป
“เหรอ...งั้นพี่ขอโทษนะเอย ไว้คุยกันที่ทำงานนะ” เสียงพี่ขาวดูจะสลดไปสักนิด
“ครับๆ” เอยพูด ก่อนจะตัดสายไป
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า?” กวินถามขึ้นมา
“เอ่อ...ไม่มีหรอกครับ” เอยตอบไป แม้สีหน้านั้นจะขัดแย้งกับคำพูดก็ตาม
“อย่าโกหก” กวินพูดแค่นั้น ก่อนที่จะหักพวกมาลัยเลี้ยวเข้าคอนโด
“คือผม....” เอยไม่รู้จะบอกอย่างไรกับกวินดี
“ไปคุยกันที่ห้อง” กวินพูดแค่นั้น ก่อนที่จะขับรถไปจอดตรงลานจอดรถ และลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว เอยรีบก้าวขายาวๆเพื่อให้เดินตามกวินให้ทัน
เมื่อมาถึงห้อง กวินก็ดึงข้อมือเอยเข้าไปยังห้องนอนทันที เอยที่ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจำยอมถูกลากไปตามแรงของกวิน
“บอกมา...มีเรื่องอะไร?” กวินดันให้เอยนั่งลงบนเตียง ก่อนที่จะถอดเสื้อสูทออก คลายเนคไทและปลดกระดุมสาบเสื้อออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกที่เอยไม่เคยเห็นมาก่อน เอยรู้สึกใจเต้นแรงรีบหลบสายตาไปจ้องมองฝาผนังแทน
“บอกมา” กวินพูดย้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ ดึงไหล่ของเอยให้หันมามาองหน้าตนเอง
“คือ...” เอยอ้ำอึ้ง เพราะกลัวว่าหากบอกออกไปกวินจะโมโหและจะไล่พี่ขาวออกจากงาน
“บอกมา!!” กวินพูดอย่างขู่กลายๆ
“สัญญากับผมได้ไหมครับ ถ้าผมบอกไปจะไม่ทำอะไรพี่ขาว” เอยต่อรอง
“บอกมาก่อน” กวินเองก็ไม่ยอมรับปาก
“สัญญาสิครับ ถ้าผมบอกไป ห้ามทำอะไรพี่ขาว” เอยเองก็ยังคงยื่นข้อต่อรอง
“แล้วฉันจะได้อะไรจาการทำสัญญากับเธอ?” กวินถาม เอยมองหน้ากวิน
“คุณไม่ได้เสียหายอะไรเลยนะครับ” เอยว่า พลางก้มหน้า
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่รับปาก ไม่มีของฟรีในโลกหรอกนะเอย จะทำอะไรก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
กวินว่าพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเข้าเล่ห์ พาลให้เอยนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นในห้องกาแฟ ที่เอยขอทราบเหตุผลในการติดตามเอกภพ แต่กวินกลับขอข้อแลกเปลี่ยนเสียอย่างนั้น กวินนี่สมกับเป็นนักธุรกิจเสียจริงๆ
“ว่าอย่างไรล่ะ?” กวินถามอีก เอยได้แต่ครุ่นคิด
“ต้องการอะไรล่ะครับ?” เอยตัดสินใจออกไป
“แค่ตามใจฉัน....เท่านั้นก็พอ” กวินว่า
“ก็..ก็ได้ครับ” ในที่สุดเอยก็ยอมตกปากรับคำ เมื่อได้ยินเช่นนั้นกวินก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นอีกครั้ง แต่แววตาของกวินนั้นดูแตกต่างไปจากทุกที ดูแพรวพราวกรุ้มกริ่มจนเอยนึกจะหวั่นๆที่ยอมตกลงในข้อเสนอนี้
“ถ้าอย่างนั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรชินภัทร” กวินเองก็ยอมรับปากเอยแล้ว
“ครับ” เอยว่าก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“บอกมา ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“คือ....ผมกับคุณปาริตา...เอ่อ พี่แปงน่ะครับ ไปงานวันเกิดพี่ขาวที่บ้าน...แล้วพี่ขาวเมามาก คือ คงจะเมามากนะครับเลยไม่ได้สติ”
“เขาทำอะไรเธอ?”
“คือ พี่ขาวพยายามกอดผม....แล้วกดผมลงบนเตียง...” เอยพูดไปก็รู้สึกแย่ไปด้วย เพราะไม่อยากนึกถึงตอนนั้นเสียเท่าไหร่ กวินกำหมัดแน่น รู้สึกได้ว่าตอนนี้กวินกำลังโมโหมาก มากเสียจนน่ากลัว
“เลยเถิดไปถึงไหน?”
“เขาแค่พยายามครับ แต่ไม่ได้ทำอะไร พี่แปงเข้ามาช่วยพอดี” เอยตอบ
“ฉันจะจัดการชินภัทร” กวินพูดแค่นั้นก่อนที่จะลุกเดินไปหยิบโทรศัพท์ เอยดึงมือของกวินไว้ทันที
“อย่านะครับ สัญญากับผมแล้วไม่ใช่เหรอครับ ว่าจะไม่ทำอะไรพี่ขาว” เอยร้องเสียงดัง กวินหันมาสบตาของเอยอย่างเกรี้ยวกราด
“มันไม่ได้ขาดสติหรอก แต่เขาเรียกว่าจิตใต้สำนึกที่ปะทุออกมาต่างหาก” กวินว่า ดูเกรี้ยวกราดเสียมากเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด
“ขอร้องเถอะครับ คุณสัญญากับผมแล้วนะครับ” เอยยังคงขอร้องกวิน
“มันกล้ามาก...กล้ามาแตะต้องของๆฉัน” กวินกัดฟันพูด
“อย่าเลยครับ ผมไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่อง พี่ขาวแค่พลาดเพราะเมาแค่นั้นเอง ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ” เอยบอก
“อย่าเข้าใกล้มันอีก ฉันขอเตือน ถ้าไม่อย่างนั้นฉันอาจจะผิดคำสัญญากับเธอได้” กวินว่า ก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ลงบนพื้นพรม เอยจับมือของกวินไว้เช่นนั้นก่อนที่จะบีบเบาๆพร้อมเอ่ยออกมา
“ขอบคุณนะครับ...ผมสัญญาว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
“อย่าให้มีครั้งที่สอง” กวินพูดก่อนที่จะดึงเอยมากอดไว้
“เธอเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น...ฉันไม่อนุญาตให้เธอถูกใครสัมผัสพร่ำเพรื่อ นอกจากฉันเท่านั้น”
“ครับ” เอยตอบเบาๆในอ้อมแขนของกวิน ทั้งสองกอดกันอยู่หลายนาที ก่อนที่กวินจะผละออก
“ไปอาบน้ำได้แล้ว” กวินว่า
“ครับ”เอยทำท่าจะหันหลังจะเดินออกจากห้องไปยังห้องน้ำอีกห้องที่อยู่นอกห้องของกวิน แต่กวินกลับดึงรั้งเอยเสียก่อน
“จะไปไหน?”
“ก็...อาบน้ำไงครับ” เอยตอบอย่างงงๆ เพราะเมื่อครู่กวินเป็นคนบอกเองว่าให้ไปอาบน้ำแท้ๆ
“ถึงเวลาที่เธอต้องทำตามสัญญา...” กวินว่า
“หมายความว่าไงครับ?” เอยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็สัญญาที่ว่าจะตามใจฉันไง” กวินพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก
“จะให้ผมทำอะไรครับ?” เอยถามอีก ลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อครู่นี้ว่าต่อรองเรื่องนี้เอาไว้กับกวิน
“ไปอาบน้ำด้วยกันกับฉัน” กวินตอบ
“หา!! วะ...ว่ายังไงนะครับ?” เอยตาโตอย่างตกใจเมื่อกวินพูดออกมาเช่นนั้น
“ทำไก๋ไมได้นะ เธอสัญญากับฉันแล้ว” กวินบอกอย่างเป็นต่อ
เอยแทบจะตบหน้าผากของตัวเองที่ยอมตกปากรับคำพล่อยๆออกไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง แล้วทีนี้จะทำอย่างไรได้ในเมื่อกวินมาทวงคำสัญญาเสียแล้ว
“โง่จริงไอ้เอยเอ๊ย”
เอยได้แต่คิดในใจพลางมองหน้ากวินที่ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ บทจะนิ่งก็นิ่งหน้าตาย บทจะร้ายก็น่ากลัว และที่สำคัญ...บทจะเจ้าเล่ห์ก็มากมายเสียไม่แพ้ใคร แล้วทีนี้เอยจะต้องทำเช่นไรต่อไป...
+++++++++++++++++++++++++++