สวัสดีค่า หายหน้าหายตาไปนานมาก วันนี้กลับมาลงตอนพิเศษอีกตอนนึงให้ ไม่ยาวมาก แต่ก็ไม่สั้นกระจึ๋งนึง (จะจริงหรอ?) ฮ่าๆ เป็นตอนพิเศษที่ไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ ที่จริงคิดว่าจะเอาตอนนี้ลงในเล่ม เพราะมีแพลนว่าจะรวมเล่ม แต่คิดไปคิดมา เอามาลงให้คนอ่านหายคิดถึงสักหน่อยดีกว่า เดี๋ยวตอนรวมเล่ม ค่อยแต่งตอนใหม่ให้ล่ะกันเนอะ อิอิ
คิดถึงคนอ่านจังเลยค่ะ สบายดีใช่ไหมคะ? รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ รักเสมอค่ะ 
+++++++++++++++++++++
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
Special Part
ตำแหน่งใหม่...
เมื่อกลับมาจากฮันนีมูน ทั้งกวินและเอยก็กลับมาทำงานอีกครั้ง หลังจากได้พักผ่อนเติมพลังให้กับตนเองแล้ว ก็ถึงเวลากลับมาลุยงานต่อ ส่วนกวินนั้นไม่มีงานค้างให้ทำ แต่มีงานใหม่ๆที่มาจ่อคิวเพียบ ชนิดคุณทราย เลขาของกวินต้องขนแฟ้มเป็นตั้งๆมาให้กวินอ่านเลยทีเดียว
“มาถึงก็ทำงาน เมื่อไหร่จะได้พักนะ” กวินบ่นออกมา ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้า ยังไม่มีใครมาตอกบัตรทำงาน เอยจึงมาอยู่ที่ห้องของกวิน เพื่อดื่มกาแฟตอนเช้าด้วยกัน
“ก็เพิ่งพักไปเองนี่ครับ” เอยว่าพลางหัวเราะ ก่อนจะยื่นกาแฟที่เพิ่งชงเสร็จให้กวินดื่ม
“อยากพักอีกเยอะๆ...อยากอยู่ด้วยกันสองคนโดยที่ไม่ต้องทำงาน” กวินบอก
“ผมก็มีงานต้องทำนะครับ” เอยว่า
“จริงสิ...เปลี่ยนตำแหน่งไหม...มาเป็นผู้ช่วยฉัน” จู่ๆกวินก็เสนอความคิดเห็นนี้ขึ้นมา
“ทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ เดี๋ยวใครจะว่าเอาได้” เอยไม่เห็นด้วย
“ไม่อยากอยู่ด้วยกันตลอดหรอกเหรอ?” กวินถาม สีหน้านิ่งๆดูเศร้าไปเพียงครู่ ก่อนที่จะกลับมาปกติเหมือนเดิม
“ผมก็อยู่กับคุณตลอดนี่ครับ กลับไปก็...นอนด้วยกันทุกคืนอยู่แล้ว” เอยพูดเสียงเบาๆ เพราะกลัวคุณทรายที่เพิ่งออกไปจะได้ยินเอา
“ก็อยากเห็นเธออยู่ในสายตาฉันตลอด อีกอย่างเธอคงช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะแน่ๆ” กวินยังคงไม่ยอมท่าเดียว
“เดี๋ยวพนักงานคนอื่นก็พลอยเข้าใจผิดหรอกครับ ว่าที่ผมเลื่อนมาเป็นผู้ช่วยเพราะ...” เอยพูดก่อนจะเว้นวรรค
“เพราะอะไร?” กวินถาม
“เพราะเป็นแฟนของท่านประธาน...” เอยอ้อมแอ้มตอบ
“ก็แล้วยังไง เธอเองก็ทำงานดี ไม่ใช่พวกขี้เกียจเสียหน่อย” กวินบอก
“แต่แบบนั้นเหมือนใช้เส้นไม่มีผิดเลยนะครับ” เอยยังคงแย้ง
“ดื้อ...” กวินว่า ก่อนที่จะดึงเอยมานั่งลงบนตัก
“คุณกวินครับ...เดี๋ยวคุณทรายมาเห็น” เอยร้องท้วงขึ้น
“ทรายไม่เข้ามาหรอก เขารู้งานดี” กวินว่า ก่อนที่จะกอดเอยจากด้านหลัง
“ไม่คิดจะมาทำงานด้วยกันจริงๆเหรอ?” กวินถามเสียงติดจะอ้อนเล็กน้อย
“มันไม่เหมาะจริงๆนะครับ อีกอย่างตอนนี้ผมก็อยู่บริษัทคุณอยู่แล้ว ไม่ได้ไปไหนไกลเสียหน่อย” เอยบอก
“แต่ฉันอยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆกันนี่” กวินว่า
“ผมรู้ครับ แต่ถ้าเราตัวติดกัน คนที่จะเบื่อคือคุณกวินนะครับ” เอยว่า
“ทำไมถึงคิดว่าฉันจะเบื่อเธอ” น้ำเสียงกวินเริ่มติดจะไม่พอใจเล็กน้อย ที่เอยตัดสินเขาเสียเสร็จสรรพเช่นนี้
“เราควรจะมีช่องว่าง จะได้หายใจนะครับ ผม....ไม่อยากให้คุณกวินเบื่อผมเสียก่อน” เอยว่า
“จะอย่างนั้นก็ได้” กวินว่า ก่อนที่จะปล่อยเอยออกจากอ้อมแขน เอยลุกขึ้นอย่างงงๆ
“นี่ก็ใกล้จะเข้างานแล้ว ไปทำงานเถอะ” กวินบอกเอย ก่อนที่จะเริ่มอ่านเอกสารที่วางกองอยู่ตรงหน้า
“ตอนเที่ยงจะทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” เอยถามกวิน
“ตอนเที่ยงคุณทรายบอกมีนัดทานข้าวกับบริษัทอื่น” กวินตอบโดยที่ไม่มองหน้าเอยเลยสักนิด ถ้าคิดไม่ผิด กวินกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
“ถ้าอย่างนั้น ผมไปนะครับ” เอยบอก ก่อนที่จะออกไปจากห้อง โดยที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีสายตาจากกวินไล่มองพลางถอนหายใจออกมา
เอยกลับมายังโต๊ะทำงานของตนเอง พี่แปง และพี่ขาวก็มาถึงพอดิบพอดี ทั้งสามชวนกันคุย ถามถึงเรื่องการไปเที่ยว เอยเองก็ยื่นของฝากจากภูเก็ตให้แกทั้งสองด้วยเช่นกัน
“นี่ครับพี่ขาวพี่แปง ของฝาก” เอยบอก
“น่ากินจัง ขอบคุณนะเอย ไปฮันนีมูนแท้ๆ ยังอุตส่าห์คิดถึงพี่” พี่แปงว่า เอยรู้สึกอายๆกับคำที่บอกว่าไปฮันนีมูนของพี่แปง
“สนุกใช่ไหมเอย?” พี่ขาวถาม พลางแกะดูน้ำพริกกุ้งเสียบที่เอยซื้อมาฝาก
“สนุกมากครับ” เอยบอกกับพี่ขาว
“เดี๋ยวพักร้อนไปเที่ยวบ้างดีกว่า” พี่ขาวบอกอย่างนั้น
“ไปกับใครยะ?” พี่แปงถามขึ้น
“ก็..ก็ไปคนเดียวสิ” พี่ขาวพูด ท่าทางเลิ่กลัก
“แน่ใจ? คนเดียวหรือพ่วงคนอื่นไปด้วย” พี่แปงยังคงแหย่พี่ขาว
“ไม่พูดด้วยแล้วไอ้แปง” พี่ขาวว่า ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงาน ปล่อยให้พี่แปงยืนหัวเราะอยู่อย่างนั้น โดยที่เอยได้แต่งงๆกับบทสนทนาของทั้งสองคน
“มีงานของผมเยอะไหมครับ?” เอยถามพี่แปง
“มีจ๊ะ แต่ไม่เยอะ มาๆ เดี๋ยวพี่จะบอกให้” พี่แปงว่า เอยจึงเดินไปยังโต๊ะของพี่แปง เพื่อดูงานที่คั่งค้างของตนเอง
วันนี้เอยต้องกลับคอนโดก่อน เพราะทรรศมาแจ้งกับเอยว่ากวินบอกให้กลับไปก่อน มีงานด่วนที่กวินต้องจัดการให้เสร็จก่อน เอยจึงต้องกลับคอนโดคนเดียวอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยที่ทรรศเป็นคนมาส่งถึงคอนโด
...
..
.
ผ่านไปกว่าสองสามสัปดาห์ ที่กวินยังคงทำงานหนัก และทุกๆครั้งเอยต้องกลับคนเดียวแทบจะทุกครั้ง เอยนั้นก็เข้าใจดีกว่ากวินนั้นงานยุ่งมากจริงๆ แต่ก็จะกลับมาทานข้าวกับเอยทุกครั้งเช่นกัน แม้จะเหงาไปบ้างแต่เอยก็พร้อมที่จะเข้าใจกวินเสมอ
วันนี้เป็นวันเสาร์ เอยจึงคิดว่าจะรอกลับพร้อมกวินให้ได้ เพราะคืนนี้ต้องไปค้างที่บ้านเศวตเจริญ เมื่อถึงเวลาเลิกงาน คนในแผนกต่างพากันทยอยกลับบ้าน รวมถึงพี่ขาวและพี่แปงก็เช่นกัน
“เอย พี่กลับก่อนนะ” พี่แปงบอก ส่วนพี่ขาวก็ออกตามพี่แปงไปติดๆ
“ไปนะเอย” พี่ขาวโบกมือให้ ตอนนี้ทั้งแผนกจึงเหลือเอยเพียงคนเดียว
“คุณกวินทำอะไรอยู่นะ?” เอยถามตัวเอง พลางเก็บของไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เสร็จแล้ว จึงเดินออกจากแผนก ขึ้นลิฟต์ไปหากวินยังห้องของประธานบริษัท
เมื่อมาถึงก็พบว่ากวินยังคงทำงานอยู่ สีหน้าเคร่งเครียดภายใต้แว่นสายตาที่กำลังสวมอยู่บนใบหน้า กวินคงกำลังสะสางงานยังไม่เสร็จ
“คุณกวิน...ยังไม่เสร็จเหรอครับ?” เอยถาม
“ยังเลย กลับก่อนก็ได้” กวินบอกเช่นนั้น
“ไม่เป็นไรครับ...อยากดื่มอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมทำให้” เอยถาม
“อยากได้กาแฟ” กวินบอก ทั้งที่สายตากำลังอ่านเอกสารอยู่
“แต่นี่ก็เย็นแล้ว ผมว่าทานแค่โกโก้ดีกว่านะครับ” เอยแนะนำ เพราะไม่อยากให้กวินติดกาแฟมากไป
“อย่างนั้นก็ได้” กวินว่า
เอยจึงหันไปชงโกโก้อุ่นๆให้กวินมาแก้วหนึ่ง และไม่ลืมที่จะเผื่อคุณทรายที่ยังคงทำงานล่วงเวลาอยู่ เอยยกมันมาให้คุณทรายก่อน
“คุณทรายครับ โกโก้ครับ” เอยวางแก้วตรงหน้าคุณทราย
“ขอบคุณนะคะคุณเอย ใจดีจังเลย” คุณทรายยิ้มให้
“ไม่เป็นไรครับ” เอยว่า ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง เพื่อเอาโกโก้ไปให้กวิน
เอยเดินมาถึง กวินก็กำลังถอดแว่นพลางบีบนวดตรงระหว่างคิ้ว ดูจากสภาพคงเหนื่อยไม่ใช่น้อย เอยวางแก้วโกโก้ลง ก่อนที่จะเดินไปข้างๆกวิน
“ทำไมช่วงนี้งานคุณยุ่งจัง?” เอยถาม พลางมองหน้ากวิน
“ช่วงนี้เรากำลังเตรียมขยายการส่งออก เลยต้องวุ่นเป็นธรรมดา” กวินบอก
“ไหวรึเปล่าครับ” เอยถามอย่างเป็นห่วง พลางบีบไหล่ของกวินเบาๆ
“เหนื่อย...ถ้าได้ใครมาช่วยก็คงจะดี” กวินเปรยๆออกมา ไม่ใช่รู้ไม่ทัน ว่ากวินยังคงต้องการให้เอยมาเป็นผู้ช่วยของตนอย่างที่เคยบอกไป
“ยังยืนยันคำเดิมหรอครับ?” เอยถาม กวินดึงเอยให้นั่งลงตรงตักก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สูง
“จริงๆฉันคุยเรื่องนี้กับคุณเกริกเอาไว้แล้ว ว่าอยากให้เธอมาช่วยงานของฉัน” กวินบอก
“แต่ผม...ผม” เอยไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรดี
การที่มาเป็นผู้ช่วยกวิน แน่นอนว่าขีดความสามารถของเอยนั้นช่วยกวินทำงานตำแหน่งนี้ได้สบายมาก แต่เอยยังคงไม่อยากให้ใครมาเคลือบแคลงถึงการโยกย้ายตำแหน่งงานแบบนี้ ไม่อยากให้คนอื่นๆในบริษัทมองไม่ดี ถึงการใช้อภิสิทธิ์ในการเป็นคนรักของกวิน จนได้ตำแหน่งผู้ช่วยนี้มา
“ถ้าเธอลำบากใจขนาดนั้น ฉันก็ไม่อยากบังคับหรอก” กวินว่าก่อนที่จะดึงมือของเอยมาจูบเบาๆ แม้อยากจะให้เอยมาช่วยงานตนขนาดไหน แต่หากให้มาอย่างไม่สมัครใจ กวินเองก็ไม่อยากทำให้เอยไม่สบายใจเช่นกัน
กวินสะสางงานจนถึงทุ่มกว่าๆ จากนั้นทั้งสองก็นั่งรถโดยที่ทรรศเป็นคนขับ ตรงไปยังบ้านเศวตเจริญ บ้านนี้ยังคงคึกคักเช่นเดิม โดยเฉพาะเสียงของกรินที่เล่นกับฝาแฝดอย่างสนุกสนาน
“มากันแล้วหรอ ทำไมมาช้าจัง” คุณวิดาถามทั้งสองคนที่นั่งลงพอดี
“ช่วงนี้งานยุ่งครับ” กวินบอก
“พวกเราเพิ่งทานข้าวเสร็จกันพอดี ทั้งสองคนยังไม่ทานอะไรกันมาใช่ไหม?” ชมพูเป็นคนถาม
“ยังเลยครับ” เอยตอบ
“ถ้าอย่างนั้นไปทานข้าวก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน” คุณเกริกว่า ดูท่าจะมีเรื่องคุยกับกวินแน่ๆ
ทั้งกวินและเอยจึงนั่งทานข้าวกันเพียงสองคนเท่านั้น ใช้เวลาไม่นาน ทั้งสองคนก็ทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงกลับมานั่งยังห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้มีแค่คุณเกริกและคุณวิดาเท่านั้น นอกนั้นพากันหายไปหมดแล้ว
“มีเรื่องอะไรจะคุยเหรอครับ?” กวินถาม
“กวิน...พ่อขอคุยกับเอยเป็นการส่วนตัว” คุณเกริกบอก
“แต่ผมขออยู่ฟังด้วยครับ” กวินไม่ยอม
“กวิน..พ่อกับแม่ไม่ต้มยำทำแกงลูกเอยหรอกน่า ไม่นานนักหรอก ไม่เกินยี่สิบนาที” คุณวิดาว่า
“ก็ได้ครับ” ในที่สุดกวินก็ยอมลุกออกไปจากห้องนั่งเล่น กลับไปยังห้องของฝาแฝดแทนที่จะเป็นห้องนอนของตนเอง
“คุณพ่อ..มีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ?” เอยถาม สรรพนามที่เปลี่ยนไปหลังจากที่ได้แต่งงานงาน เอยเรียกคุณเกริกว่าคุณพ่อและคุณวิดาว่าคุณแม่ ตามที่ทั้งสองต้องการ
“กวินได้บอกหรือยัง กับเรื่องตำแหน่งผู้ช่วยประธานบริษัท” คุณเกริกถาม เอยนิ่งไปเพียงครู่ก่อนตอบ
“ครับ คุณกวินได้เกริ่นๆกับผมไว้แล้ว” เอยบอก
“แต่กวินบอกว่าลูกเอยปฏิเสธนี่”คุณวิกาพูดขึ้น
“ครับ..คือผม” เอยอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะบอกสาเหตุที่แท้จริงกับทั้งสองคนว่าอย่างไรดี
“พอจะบอกได้ไหม ทำถึงไม่รับตำแหน่งนี้” คุณเกริกถาม
“ผม....ผมไม่อยากให้พนักงานคนอื่นมองไม่ดี ว่าผมใช้อภิสิทธิ์ในการเลื่อนตำแหน่งครับ” เอยยอมบอกออกไปในที่สุด
“คิดอยู่ว่าแล้วว่าต้องคิดทำนองนี้” คุณเกริกว่า
“คิดมากไปรึเปล่าลูกเอย” คุณวิดาพูด
“การเลื่อนตำแหน่งกะทันหันแบบนี้ ผมกลัวคนอื่นเขาจะว่าเอาได้” เอยยังคงบอกถึงเหตุผลต่อไป
“ฉันรู้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เธอต้องนึกถึงกวินก่อนคนอื่นๆ การที่กวินต้องการให้เธอมาช่วย นั่นหมายความว่าเขาต้องการกำลังของเธอมาแบ่งเบางานของเขา เธอจะปล่อยให้กวินทำงานหนักแบบนี้ไปทุกวันโดยที่เธอได้แต่มองอย่างนั้นเหรอ?” คุณเกริกพูดเสียยาวเหยียด ทำให้เอยฉุกคิดขึ้นมาได้
หากตัดเรื่องกลัวคำครหานินทาแล้ว เอยสมควรนึกถึงกวินมากกว่าสิ่งเหล่านั้น เพราะ...กวินคือคนรัก คนที่ต้องทำทุกอย่างมาโดยลำพัง อีกทั้งทุกวันนี้งานมีมากขึ้นเรื่อยๆ กวินเองก็กลับช้าแทบทุกวัน เวลาที่มีให้กันเริ่มน้อยลงเรื่อยๆจนสังเกตได้ หากครั้งนี้จะต้องตอบแทน หรือทำสิ่งที่ตนเองพอจะทำได้ก็คงจะเป็นเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น
“ผมขอเวลาคิดสักครู่ครับ พรุ่งนี้ผมจะบอก...ต้องขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะครับ ที่ทำให้เป็นห่วง” เอยยกมือไหว้ทั้งสอง
“ไม่หรอก จริงๆทางเราก็รบกวนเธอมากไป แต่อยากให้เธอมองให้ดีๆ ว่าสำหรับเธอแล้ว กวินสำคัญมากพอขนาดไหนที่จะมองข้ามเรื่องที่เธอกังวลอยู่ไปได้รึเปล่า เพียงเท่านั้นเอง” คุณเกริกว่า
“ครับ ขอบคุณครับ” เอยยกมือไหว้อีกครั้งหนึ่ง
“ค่อยๆคิดก็ได้นะลูกเอย ถ้าลูกไม่อยากทำ พวกเราก็ไม่บังคับหรอก” คุณวิดาพูด
“ครับ”
เอยขอตัวจากคุณเกริกและคุณวิดา เดินกลับไปยังห้องนอน แต่พบว่ากวินไม่ได้อยู่ที่ห้อง เอยจึงเดินไปยังห้องนอนของฝาแฝด เพราะคิดว่ากวินน่าจะอยู่ที่นั่น และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ตอนนี้กวินกำลังนั่งเล่นอยู่กับกริม ส่วนกริฟชิงหลับล่วงหน้าไปก่อน
“มาอยู่ที่นี่เองเหรอครับ?” เอยถามขึ้น พลางนั่งลงตรงข้ามกวิน
“น้องเอยมาแล้วเหรอ?” ชมพูทักทายขึ้น ส่วนกฤศกำลังดูกริฟที่กำลังหลับอยู่
“ครับ...ว่าแต่ทำไมกริมถึงยังไม่นอนครับ?” เอยถาม พลางจิ้มแก้มกริมไปสองสามทีอย่างหยอกล้อ
“ไม่รู้วันนี้คึกอะไร ยังไม่ยอมหลับเลย” ชมพูว่า
“คุยเสร็จแล้วเหรอ?” กวินถาม
“ครับ” เอยตอบพลางพยักหน้า
“คุณเกริกกับคุณวิดาว่าอย่างไรบ้าง?” กวินถาม
“ก็..พูดเรื่องทั่วไปครับ” เอยตอบ
“แน่เหรอ?” กวินถามย้ำแบบไม่เชื่อ
“แน่ครับ” เอยยืนยัน
“ถ้าอย่างนั้นกลับห้องกัน” กวินบอก
“ผมกลับก่อนนะครับพี่ชมพู พี่กฤศ” เอยบอก
“จ๊ะ ฝันดีนะทั้งสองคน” ชมพูบอก ส่วนกฤศโบกมือให้
กวินและเอยกลับไปยังห้องนอน เมื่อเข้ามาถึงห้อง เอยก็ตรงไปยังห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำเข้านอน โดยที่ไม่รอให้กวินเข้ามาพร้อมกัน เพื่อระหว่างนี้จะได้ใช้ความคิดถึงเรื่องที่คุณเกริกและคุณวิดาพูด
เอยนั้นกำลังทบทวนถึงคำพูดของทั้งสองคน โดยเฉพาะของคุณเกริก จริงอยู่ที่เอยสมควรจะคิดถึงกวินมากกว่าใครๆ หรือแม้กระทั่งมากกว่าตนเองเสียด้วยซ้ำไป เพราะทุกวันนี้กวินเอาแต่ทำงานโดยลำพังมาโดยตลอด อีกทั้งตอนนี้..ตนกับกวินก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องก็คือคู่ชีวิตกันแล้ว ต้องเห็นความสำคัญของกันและกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพิ่มขึ้นไปอีก
เอยใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานมากพอควร จนกวินต้องเคาะประตูห้องน้ำเรียกสองสามครั้ง ในที่สุดเอยก็ออกมาพร้อมกับสามารถตัดสินใจได้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
“เป็นอะไรรึเปล่า เข้าไปอยู่ในนั้นนานแล้ว” กวินถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรครับ แค่คิดอะไรเพลินๆ” เอยบอกพลางยิ้มให้
“ฉันขออาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งหลับ มีเรื่องจะคุยด้วย” กวินว่า ก่อนที่จะเข้าห้องอาบน้ำต่อจากเอย
ผ่านไปไม่นานนัก กวินก็ออกมาพร้อมกับแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอยที่นั่งอ่านหนังสือรออยู่บนเตียง จึงวางหนังสือลง และเดินไปหยิบผ้าเช็ดผมผืนเล็กอีกผืนมา เพื่อมาเช็ดผมให้กวินที่นั่งรออยู่ที่ปลายเตียงอย่างรู้งาน
“มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?” เอยถาม มือนั้นก็เช็ดผมของกวินไปเรื่อยๆ
“คุณเกริกกับคุณวิดาคุยเรื่องอะไร?” กวินถาม
“ก็ เรื่องทั่วๆไปครับ” เอยตอบ
“ต้องมีมากกว่านั้นใช่ไหม?” กวินถามอีก
“ก็...ครับ ก็เรื่องที่จะให้ผมไปเป็นผู้ช่วยคุณ” เอยบอก
“ตอบเขาไปว่าอย่างไร?” กวินถามต่อ
“ผมยังไม่ตอบอะไรไปครับ แต่...ผมตัดสินใจแล้ว...ว่าผมจะขอลาออกครับ” เอยบอก
“หมายความว่าอะไร?” กวินถามเสียงเครียดทันที
“ผม..จะลาออก เพื่อจะรับตำแหน่งผู้ช่วยของคุณกวินครับ” เอยบอก
“เธอ...จะทำแบบนั้นทำไม ไม่เห็นต้องลาออกก่อน เธอก็มาเป็นผู้ช่วยฉันได้” กวินว่าอย่างไม่เห็นด้วย
“แต่ผมอยากทำแบบนั้น อย่างน้อยก็เพื่อตัวผมเอง ลาออกมาให้พ้นจากตำแหน่งพนักงานทั่วไป แล้วผมค่อยมาทำงานกับคุณในฐานะอื่นแทน” เอยบอกถึงเหตุผลที่ตนตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว
“เธอจะหมายความว่า มาทำงานกับฉันในฐานะคนของครอบครัวเศวตเจริญอย่างนั้นเหรอ?” กวินสรุปเรื่องราวที่เอยกำลังบอกเล่า
“ใช่ครับ ผมจะทำงานในฐานะคนในครอบครัวของบ้านเศวตเจริญ จึงต้องลาออกจากการเป็นพนักงาน เพื่อที่จะได้ไม่คลุมเครือในฐานะของพนักงานบริษัทที่ได้เลื่อนตำแหน่งครับ” เอยบอก
การที่เอยตัดสินใจจะลาออกนั้น เพราะเล็งเห็นว่า หากยังเป็นพนักงานธรรมดาแล้วได้เลื่อนขั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แน่นอนว่าจะต้องโดนคำครหาแน่นอน ถึงการเลื่อนตำแหน่งงานที่ไม่เหมาะสม แต่หากลาออกให้พ้นสภาพของพนักงาน แล้วจึงเข้ามาทำงานใหม่ในฐานะคนรักของกวิน คนของบ้านเศวตเจริญแล้ว ยังดูจะน่าเข้าท่ากว่าอย่างแรกมาก เอยจึงตัดสินใจออกมาเช่นนี้
“ที่เธอตัดสินใจแบบนี้ ไม่ใช่เพราะคุณเกริกกับคุณวิดาบังคับมาใช่ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันไม่อยากให้เธอเข้ามาทำโดยที่ไม่สมัครใจ” กวินว่า พลางเอี้ยวตัวไปมองเอยที่กำลังเช็ดผมให้อยู่
“คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้บังคับอะไรทั้งนั้นครับ ท่านทั้งสองแค่พูดถึงความเป็นจริงที่ผมมองข้ามไป ทำให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นก็เท่านั้นครับ” เอยบอก
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็โล่งอก ที่ไม่ต้องบังคับเธอ..ไม่อยากให้เธอทำอะไรโดยไม่สมัครใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม” กวินบอก
“ไม่จริงหรอกครับ บางเรื่องผมไม่ทันเอ่ยปาก คุณกวินก็คิดเองเออเองเสียแล้ว” เอยว่าพลางย่นจมูกนิดๆ
“อย่าเช่นเรื่องอะไรล่ะ?” กวินถาม พลางยิ้มกริ่ม
“เอ่อ..หลายเรื่องครับ” เอยหน้าแดงน้อยๆ
“ถ้าเรื่องที่ทำให้เธอหน้าแดงน่ะ ฉันก็คิดว่าเธอไม่ได้ขัดขืนเลยนี่” กวินว่า ก่อนที่จะหันหลังมากอดเอยพลางดันให้เอยลงนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว
“คุณกวิน ทำอะไรครับ ผมคุณยังไม่แห้งเลยนะ” เอยว่า
“เดี๋ยวมันก็แห้ง...” กวินว่า ก่อนที่จะพรมจูบเอยไปทั่งใบหน้า
“คุณกวิน...” ในที่สุดเอยก็ไม่อาจจะห้ามปรามกวินได้แต่อย่างใด จะเรียกว่านี่เป็นการยินยอมพร้อมใจของเอยที่มีต่อกวิน...อย่างนั้นถูกต้องหรือไม่?
The End