ตอนที่ ๒๙
"บ่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ มึงดูสิอุสา ในที่สุดแสงเมืองก็ยอมคุกเข่าเป็นทาสรักกู ฮ่าๆๆ" เจ้าหยาดฟ้ามองแสงเมืองอย่างพึงพอใจ ไม่คิดว่าพยัคฆ์ร้ายผู้แสนทรนงอย่างแสงเมืองจะยอมสยบให้กับตนเองได้ง่ายดายขนาดนี้ คงต้องขอบคุณหมอผีเฒ่านั้นจริงๆ เจ้าหยาดฟ้ายิ้มร้ายอย่างผู้ชนะแล้วหันไปลูบใบหน้าคมคร้ามแดดของแสงเมืองที่กำลังนอนหลับไหลอยู่ข้างๆตอนนี้
"แล้วเจ้าหยาดจะทำอย่างใดต่อไปเจ้า?"
"มึงไปเตรียมน้ำอาบให้กูหน่อยอุสา เดี๋ยวกูจะให้แสงเมืองอาบน้ำที่หมอผีเฒ่านั่นให้มา รับรองคราวนี้ไปไหนบ่รอดแน่ หึๆๆ" เจ้าน้อยก้มลงมาสั่งอุสาเบาๆ
........,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,..............
"เจ้าหยาดเจ้า เจ้าน้อยมาขอพบเจ้า"
"หึ!! ดี งั้นก็ให้เจ้าน้อยมาพบกูในห้องนี้เลยก็ได้" เจ้าหยาดยิ้มอย่างคนมีเล่ห์ แววตาเต็มไปด้วยความสะใจ
"ตื่นแล้วเหรอแสงเมือง อุ๊ย!! อย่าสิ....หึๆๆ อย่า...หึๆๆ เดี๋ยวนางกำนันข้างนอกได้ยิน จะเอาไปพูดจนถึงหูเจ้าป้อได้นะ นะคนดี ฟ้ายังสว่างอยู่เลย อดใจรออีกนิดนะ อุ๊ย!! เจ้าน้อยมาพอดี รอสักครู่นะเจ้าน้อยปี้ขอแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน พอดีว่าเจ้าน้อยมากระทันหัน แล้วแสงเมืองก็...เอ่อ...." ทันทีสองเท้าของเจ้าน้อยเข้ามาในห้องได้ไม่กี่ก้าว แม้ยังไม่ได้เห็นอะไร แต่ก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงหัวร่อต่อกระซิกของคนทั้งสอง ทำให้หัวใจเจ้าน้อยสั่นไหว ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพเหล่านี้เลย หากเป็นไปได้อยากขอหายไปจากตรงนี้ หรือไม่งั้นก็ขอตายมันซะตรงนี้เลย มันคงจะง่ายกว่าการที่เห็นคนรักของตนเองไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นแบบนี้
"ครับเจ้าปี้!!" เสียงตอบของเจ้าน้อยนั้นแผ่วเบา คล้ายจะหมดลมหายใจ หยาดน้ำตาคลอหน่วยตาจนแทบจะไหลรินออกมา มือเล็กๆได้แต่ปาดมันออกไป ถึงขนาดนี้แล้วน้ำตาก็คงไม่ได้ช่วยอะไร แต่แค่อยากมาเห็นกับตาตัวเอง แล้วจะได้กลับไปก็แค่นั้น สองมือเล็กกุมอยู่ตรงหัวใจ ที่เคยมีใครคนหนึ่งเคยพร่ำฝากหัวใจของเขามาให้ บอกว่ารักและจะไม่ขอทวงมันคืน แล้วตอนนี้ล่ะมันยังมีอยู่ไหมหัวใจดวงนั้นของท่าน? เจ้าน้อยหวนคิด
"นั่งก่อนสิเจ้าน้อย ปี้ต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท แต่ปี้รู้สึกอ่อนเพลียเหลือเกิน เพราะบ่ได้หลับมาทั้งคืน คิดว่าเจ้าน้อยเข้าใจพี่นะ อุ๊ย!!แสงเมือง ขอเราไปแต่งตัวก่อนนะ หึๆๆ!!" เจ้าน้อยเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างน้อยใจ ไฉนท่านลืมสัญญาของเรา ว่าจะรักเพียงเราคนเดียว น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงบนแก้มขาว เจ้าน้อยได้แต่ปาดมันออกไป
"เจ้าน้อยมาหาปี้เพราะเรื่องทหารคนสนิทของน้องเหรอ?"
"ครับ!!"
"ปี้ขอโทษอีกครั้งที่เป็นต้นเหตุให้คนของเจ้าน้อยบ่ทำการทำงาน และละทิ้งหน้าที่"
"ครับ"
"เจ้าน้อยยังจำได้ไหมว่าครั้งก่อนปี้เคยขอตัวแสงเมืองมาเป็นองครักษ์คนสนิทของปี้ แต่เจ้าน้อยปฏิเสธ มาถึงตอนนี้เห็นแบบนี้ เจ้าน้อยยังจะปฏิเสธอยู่อีกไหม?" แต่ละถ้อยคำ แต่ละการกระทำมันทำให้เจ้าน้อยเห็นแล้วว่า คนที่แสงเมืองรักเป็นใคร? เพราะขณะที่เจ้าหยาดพูดอยู่กับเจ้าน้อย แสงเมืองก็คอยคลอเคลียอยู่กับเจ้าหยาดอยู่เสมอ แล้วไฉนเลยเจ้าน้อยจะกล้าขอคนของตนเองคืนได้ล่ะ
"น้อยไม่ขอ...คะ..คืนแล้วครับเจ้าปี้ ฝากดูแลเขา..แทนน้องด้วยนะครับ น้องลาล่ะครับ!!" เจ้าน้อยมองหน้าแสงเมืองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเอ่ยตอบเจ้าหยาดฟ้าด้วยเสียงแหบพร่า เครือสั่นไหว น้ำตาหนอน้ำตาแม้ว่าอยากกลั้นไว้เท่าใด แต่กลับไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น
"ปิกคุ้มเฮาเตอะเจ้า เจ้าน้อย" แม้แต่บัวแก้วก็มิอาจทนเห็นภาพเหล่านี้ได้ พลันน้ำตาไหลตามเจ้านายน้อยของตนเอง บัวแก้วพาเจ้าน้อยที่หอบสะอื้นออกมาจากคุ้มของเจ้าหยาดฟ้า เจ้าน้อยเวลานี้เหมือนแก้วใสที่แตกละเอียดกระจัดกระจาย ไม่เหลือให้เห็นแก้วงามเหมือนครั้งก่อน ร่างบางทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง เหมือนหัวใจจะขาดรอนๆ ตอนเห็นคนรักประคองกอดคนอื่นที่ไม่ใช่เขา มันเจ็บจนอยากดิ้นตาย ไม่คิดว่าจะเจ็บมากมายขนาดนี้
"ทูนหัวของปี้ ไห้ออกมาหื้อหมดเตอะเจ้า หื้อน้ำตามันไหลเฉพาะวันนี้ วันพรุ่งนี้เฮาจะเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่าเดิมนะเจ้า หื้อๆๆ" บัวแก้วอดร้องไห้เพราะสงสารเจ้าน้อยเสียไม่ได้ ตั้งแต่เจ้าแม่ของเจ้าน้อยเสียไป เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่เจ้าน้อยทรงร้องไห้เสียใจมากที่สุดอีกครั้งหนึ่ง หัวอกคนเป็นพระพี่เลี้ยง ที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ก็พลันเจ็บตามไปด้วย
....................
"หื้อๆๆ ฮึก!! หื้อๆๆ"
"มะยมๆ ตื่นๆ ได้ยินเราไหม? ตื่นสิมะยม!!"
"พี่อิฐตื่น พี่อิฐ ตื่นๆๆ พี่อิฐ ช่วยตื่นมาดูมะยมหน่อย อิ๊ฟสงสารเพื่อน หื้อๆๆ ตื่นสิพี่อิฐ!" หมดก้านธูปดอกหนึ่งพอดี แต่ที่ทำให้อิ๊ฟร้อนรนขนาดนี้เพราะมะยมเพื่อนของเขากำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นขณะทำสมาธิ ปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น คล้ายกับว่าจิตของมะยมจมอยู่กับสิ่งที่ได้พบเห็นนั้นมาก อิ๊ฟจึงหันไปปลุกพี่ชายของตัวเองเพื่อจะให้มาช่วย แต่อิฐก็ทำท่าฮึดฮัด อยู่ในสมาธิของตนเองจนไม่ได้ยินเสียงอิ๊ฟเช่นกัน
"พระคุณเจ้าเจ้าขา ช่วยด้วยเจ้าค่ะ มะยมกับพี่อิฐเป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ ช่วยพวกเค้าด้วยนะค่ะ!!" อิ๊ฟรีบวิ่งไปบอกพระธุดงค์อย่างใจไม่ดี
"ตื่นได้แล้วโยม นำจิตของโยมกลับมากันได้แล้ว ตอนนี้พวกโยมไม่ใช่เจ้าน้อยหรือแสงเมือง จงกลับมาหาความจริงในปัจจุบันได้แล้ว" พระธุดงค์ท่องอะไรสักอย่าง แล้วเป่าลงที่หัวของคนทั้งสอง แล้วปลุกเรียกดวงจิตของมะยมและอิฐให้กลับมา
"เฮือก!! " มะยมและอิฐสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากสมาธิทันที
"หื้อๆๆ ฮึก หื้อๆๆ!! พี่อิฐ!! แสงเมือง หื้อๆ" มะยมโผเข้ากอดอิฐทันทีที่ออกจากสมาธิ แล้วเอาแต่ร้องไห้อยู่กับอกของอิฐ แม้ว่าจะออกจากสมาธิแล้ว แต่ทุกอย่างยังติดอยู่ในหัวอยู่
"พี่ขอโทษมะยม พี่ไม่ได้ตั้งใจ ยกโทษให้พี่นะ พี่ขอโทษ!!" อิฐเอ่ยขอโทษออกมา แล้วร้องไห้เบาๆกับเรื่องราวในอดีตที่ได้พบเห็น ไม่แปลกเลยที่มะยมจะร้องไห้คร่ำครวญขนาดนี้ เป็นใครเจอก็ต้องร้องไห้ออกมาเหมือนกัน เจ้าน้อยในอดีตช่างน่าสงสารเหลือเกิน แต่จะโทษใครได้ในเมื่อมันคือชะตาของพวกเขาในอดีต
"หยุดร้องไห้เถอะนะคนดี แม้ว่าชาติที่แล้วพี่จะทำผิดกับมะยมไว้มากเหลือเกิน แต่ให้โอกาสพี่ได้ไหม? ชาตินี้พี่จะไม่ทำให้มะยมร้องไห้เสียใจแบบนั้นอีกแล้ว พี่ขอโทษ" อิฐตัดสินใจดีแล้ว ตัดสินใจได้นานแล้วว่าอยากจะดูแลคนๆนี้ อยากให้เขามีความสุข อยากเห็นเขายิ้ม ไม่อยากให้มีความทุกข์เหมือนในอดีตชาติที่แล้วอีก