..หัวใจใฝ่รัก... ( The Royal Promise ) ตอนที่ ๔๐ Ending of story 8/4/58 จบแล้วจ้า !!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ..หัวใจใฝ่รัก... ( The Royal Promise ) ตอนที่ ๔๐ Ending of story 8/4/58 จบแล้วจ้า !!  (อ่าน 38224 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เดี๋ยวเราจิ้นต่อเอง เออิ้กๆ

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 



ตอนที่ ๓๓



"อีอุสามันเป็นอย่างใดบ้าง? คงไม่ตายไปแล้วหรอกนะ?" เจ้าหยาดฟ้าเอ่ยถามอาการอุสาจากนางกำนันในตำหนัก เพราะใคร่อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างใดบ้างแล้ว?

"ยังเจ้า เจ้าหยาด แต่มันจับไข้เจ้า"

"ก็ดี นึกว่าจะตายไปแล้วซะอีก"

"แล้วเจ้าหยาดฟ้าจะหื้อทำอย่างใดกับมันต่อเจ้า?"

"ไปขอยาที่หมอหลวงมาทาหื้อมาซะ แล้วต้มยาหื้อมันกินด้วย"

"เจ้า!!" นางกำนันตอบแล้วคานเข้าออกไปจัดการตามที่เจ้าหยาดฟ้าสั่ง

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

สี่ห้าวันผ่านไปอาการเจ็บและไข้ของอุสาดีขึ้น   เพราะได้ยาดีที่เจ้าหยาดประทานมาให้ อุสาเป็นทาสที่เจ้าหยาดชุบเลี้ยงไว้ เพราะตัวมันเองแต่ก่อนหน้านั้นเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านที่ถูกจับนำมาขาย และถูกทารุณกรรมจากคนที่เป็นนาย จนในที่สุดมันก็หนีออกมา จนมาเจอกับเจ้าหยาดฟ้ากลางตลาดหน้าคุ้มหลวง เหตุการณ์วันนั้นมันวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนมาด้วยความหวาดกลัว จนมาชนเจ้าหยาดฟ้าล้ม มันยกมือขึ้นพนมเหนือหัว ร้องขอความช่วยเหลือ บอกว่าแม้แต่ชีวิตก็ให้ได้เพียงขอให้ช่วยชีวิตมันจากคนพวกนั้นไว้ จนมาถึงตอนนี้มันก็กลายมาเป็นทาส เป็นบ่าว เป็นนางกำนันผู้จงรักภักดีกับเจ้าหยาดฟ้า แม้ว่าจะด่า จะเคี่ยนตีมันยังไง มันก็ยังสำนึกในบุญคุณของเจ้าหยาดแต่ครั้งก่อนที่ได้ช่วยมันออกมาจากขุมนรกขุมนั้นไว้อยู่ดี


"เพล้ง!! ตุ๊บ!! เพล้งๆๆ เพล้ง!! ......ว๊าย!!! เจ้าหยาดใจเย็นๆก่อนเจ้า"

"มึงจะหื้อกูใจเย็นได้อย่างใด ในเมื่อแสงเมืองกลับไปหาเจ้าน้อยมันแล้ว!! กูสู้อุตส่าห์ยอมลงทุนวางแผนมาซะดิบดีขนาดนี้ เป็นเพราะมึงอีอุสา เป็นเพราะความง่าวของมึง ทำหื้อแสงเมืองหลุดมือไป กูบ่อยากเป็นคนแพ้ กูบ่อยากแพ้ไอ้เจ้าน้อยมัน กูบ่ยอม!! กูเกลียดมัน!! กูชังน้ำหน้ามันนัก!! ไอ้น้องน้องไส้!! ไอ้วิปริตผิดเพศ!!"  เจ้าหยาดฟ้ากล่าวบริภาษอย่างรุนแรง เหมือนนางกลางตลาดเหมือนแม่ค้าไม่มีผิด

"เพล้ง!!!!!!!!!" เสียงข้าวของตกลงบนพื้นเพราะฝีมือของเจ้าหยาด ทรงอารมณ์รุนแรงแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ใครๆก็รู้ แล้วยิ่งถ้าไม่ได้ดั่งใจ ก็ยิ่งอารมณ์โกรธเกรี้ยว พาลลงที่ข้าวของในห้อง หรือไม่งั้นก็นางกำนันที่อยู่ใกล้ๆ

"เจ้าหยาดเจ้าในเมื่อท่านแสงเมืองกลับไปหาเจ้าน้อยแล้ว แล้วเยี๊ยะหยัง (ทำไม) เฮาบ่ไปกราบทูลเจ้าหลวงว่า เจ้าน้อยกับท่านแสงเมืองประพฤติตนมิชอบ ผิดจารีตประเพณี แอบลักลอบคบหากันเชิงชู้สาว ป้อจายกับป้อจาย มันผิดธรรมชาติ วิปริต!! รับรองเจ้าหลวงต้องบ่ยอมแน่ๆเจ้า หนำซ้ำจะสั่งลงโทษทั้งสองคนตวยก็เป๋นไปได้นาเจ้า"

"หึ!! มึงนี้รู้ใจกูขนาดอีอุสา ใครทำกูเจ็บ มันจะต้องเจ็บกว่ากูเป็นร้อยเท่า พันเท่า!!  เดี๋ยวกูจะเข้าไปพบเจ้าป้อ รับรองงานนี้สะใจแน่ ฮ้าฮะๆๆๆๆ"

"ฮ่าๆๆๆ" เมื่อเห็นนายพึงพอใจ อุสาก็หัวเราะออกมาตามนายตนเองบ้าง

>>>>>>>>>>

"เจ้าป้อเจ้า ลูกมาเอาพวงมาลัยดอกมะลิมาถวายเจ้า!!"

"ขอบใจลูกมาก บ่เห็นต้องลำบากเลย ปกตินางกำนันก็ทำมาหื้อป้ออยู่แล้ว"

"เจ้าป้อสบายดีก่อเจ้า ลูกบ่ได้มาเยี่ยมเจ้าป้อหลายวันแล้ว?" เจ้าหยาดพูดอย่างประจบเจ้าแมนสรวง

"ป้อก็เรื่อยๆ ตามประสาคนแก่นะลูก"

"เจ้าป้อยังบ่แก่สักหน่อย ยังต้องอยู่ช่วยเลี้ยงลูกของเจ้าอ้ายมิ่งขวัญกับลูกอีกนาน ฮิๆๆ"

"ฮ่าๆๆ ป้อก็รอว่าเมื่อใดลูกของป้อจะมีหลานหื้อป้อสักที อ้ายของลูกก็บ่ยอมแต่งงานสักที ส่วนลูกก็บ่หันชอบพอหนุ่มคนไหนเลย ส่วนเจ้าน้อย.........." เจ้าแมนสรวงหยุดคำพูดลงเพราะ ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมลูกคนเล็กนี้เสียเลย แทบไม่รู้ความเป็นไปเลย รู้สึกผิดที่ไม่ได้สนใจใยดีลูกคนนี้เลย

"หึ!! เจ้าน้อย เจ้าป้อเลิกคาดหวังไปเลยเจ้า !!"

"ทำไมลูกพูดอย่างนั้นเจ้าหยาดฟ้า เจ้าน้อยก็น้องชายลูกนะ"

"ลูกทราบเจ้า เจ้าป้อ!! แต่ที่ลูกบอกหื้อเจ้าป้อเลิกคาดหวัง เพราะว่าเจ้าน้อยคงแต่งงานมีลูกเหมือนคนอื่นบ่ได้หรอกเจ้า!!"

"แล้วเป็นอย่างใดถึงเป็นไปบ่ได้เจ้าหยาดฟ้า?"

"นี่เจ้าป้อยังบ่รู้กาเจ้าว่า....ว่า...."

"ว่าอะหยังเจ้าหยาด?"

"ลูกขอประทานอภัยเจ้า เจ้าป้อ ตะ..แต่ลูกบ่สามารถจะพูดออกมาได้ มันบ่ดีบ่งาม ทำหื้อเสื่อมเสียชื่อเสียงราชวงศ์เรา เจ้าป้อจะทรงกริ้วได้" เจ้าหยาดแสร้งทำเป็นหลุดปากพูดมันออกมา แล้วทำเป็นอ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าตอบ เพื่อทำให้เจ้าแมนสรวงทรงอยากรู้คำตอบมากกว่านี้ ถ้าไม่ทำอยากนี้จะทำให้เจ้าแมนสรวงคิดว่าเจ้าหยาดใส่ร้ายน้อย ไม่รักน้อง

"บอกป้อมาเจ้าหยาด ถ้าลูกบ่บอกป้อจะไปหาเจ้าน้อยเอง" เจ้าหยาดนั่งก้มหน้าเงียบ จนทำให้เจ้าแมนสรวงทนไม่ไหว จะเดินออกจากคุ้มไปหาเจ้าน้อยที่ตำหนักเย็นทันที

"ลูกยอมแล้วเจ้า เจ้าป้อ ยอมบอกแล้วเจ้า คะ..คือ ลูกได้ยินเหล่าทหารและนางกำนันพูดกันว่า เจ้าน้อยแอบมีสัมพันธ์พิเศษกับทหารองครักษ์คนสนิทเจ้า เจ้าป้อ!!"

"สัมพันธ์พิเศษ ลูกหมายความว่าอย่างใดเจ้าหยาด? เจ้าแมนสรวงหน้าเคร่งเครียด จนคิ้วชนกัน เป็นที่รู้ว่าไม่ค่อยพอใจนักกับสิ่งที่ได้ยิน

"หมายถึง การมีสัมพันธ์ทางกาย จะ...จนหื้อทหารคนนั้นเข้าไป....ระ...ร่วมหลับนอนได้ถึงในห้องนอนเจ้า!!"

"บัดซบ!! ป้อจะไปหาเจ้าน้อย!!" เจ้าแมนสรวงตบมือลงบนโต๊ะทรงงานเสียงดัง เพื่อระบายความโกรธเกรี้ยว

"เจ้าป้อเจ้า เจ้าป้ออย่าไปเลยนาเจ้า ลูกคิดว่ามันอาจเป็นความเข้าใจผิด ข่าวลือ อย่างใดมันก็แค่ข่าวลือ อาจบ่ใช่ความจริงก่อได้นาเจ้า!!" เจ้าหยาดฟ้าแสร้งร้องห้ามเจ้าแมนสรวงไว้ แต่ในใจอยากให้เจ้าแมนสรวงไปจัดการเจ้าน้อยเสียตอนนี้เลยต่างหาก

"ปล่อยป้อ เจ้าหยาด ป้อจะไปถามเจ้าน้อยตรงๆ ว่ามันเป็นมาอย่างใดกันแน่?"ทเจ้าแมนสรวงเดินลิ่วไปตำหนักเล็กของเจ้าน้อยทันที

>>>>>>>

"เจ้าหลวง!!" บัวแก้วตกใจที่จู่ๆเจ้าแมนสรวงก็เสด็จมาถึงคุ้มเจ้าน้อย แล้วนั่งลงยกมือกราบลงแนบพื้น

"เจ้าน้อยอยู่ไหน?" บัวแก้วยิ่งแปลกใจเมื่อเจ้าแมนสรวงถามหาเจ้าน้อย ร้อยวันพันปีก็แทบจะไม่สนใจใยดี หรือถามไถ่อะไรเลย แต่วันนี้ทำไมถึงมาถึงที่นี่ได้

"นอนอยู่ในห้องบรรทมเจ้า เดียวข้าเจ้าไปเรียกหื้อเจ้า เชิญเจ้าหลวงรอกะ...." บัวแก้วยังพูดไม่ทันจบ เจ้าแมนสรวงก็เดินตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องนอนเจ้าน้อยเสียแล้ว



"เจ้าน้อย!!"

"เจ้าป้อ!!"

"เพี๊ยะ!!" แรงตบที่ฟาดลงมายังแก้มของเจ้าน้อยเสียงดังไปทั่วห้อง จนทำให้หน้าของเจ้าน้อยล้มลงกับพื้นทันที

"ว๊าย!! เจ้าน้อย!!" บัวแก้วถลามารับเจ้าน้อย แต่ก็ยังไม่ทันอีกคนที่อยู่ข้างๆ แสงเมืองรีบเข้ามาประคองคนรักเอาไว้ทันทีที่เจ้าแมนสรวงฟาดฝ่ามือลงกับหน้าเจ้าน้อย

เจ้าน้อยหันมาสบตาเจ้าแมนสรวงอย่างน้อยอกน้อยใจ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เจ้าแมนสรวงจะลงมือกับตนเองขนาดนี้ แค่ไม่รัก ไม่สนใจใยดีลูกคนนี้ เจ้าน้อยก็น้อยใจมากพอแล้ว น้ำตาหยาดหยดลงบนใบหน้างามทันที

"ฮึกๆ ๆๆ" ไม่มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญ มีแต่เพียงเสียงร้องไห้เบาๆ ตามด้วยเสียงสะอื้น แสงเมืองบรรจงใช้มือใหญ่ลูบเช็ดน้ำตาให้คนรักเบาๆ สงสารเหลือเกิน สงสารเจ้าน้อย หัวใจเจ้าน้อยเหมือนแก้วบางๆ แล้วแน่นอนว่าบัดนี้แก้วนั้นก็คงแตกสลายลงไปแล้ว

"มึงออกมาจากตัวเจ้าน้อยเดี๋ยวไอ้แสงเมือง!!" เจ้าแมนสรวงคำรามสั่งแสงเมืองอย่างโมโห

"กูก็นึกไม่ออกจากทหารคนใดที่จะมีสัมพันธ์กับลูกกู ที่แท้ก็เป็นมึงนี่เอง เพี๊ยะๆ !!" เจ้าแมนสรวงตบแสงเมืองอย่างไม่ยั้งมือ แต่ก็ยังไม่สาสมกับที่มันกล้าคิดกับเจ้าน้อยเช่นนี้ เจ้าแมนสรวงกัดฟันกรอดๆเพื่อข่มอารมณ์ของตนเอง

"ตอบเรามาเจ้าน้อย.. ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างใด? มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด?..... เราบ่ยอมหื้อมันเกิดขึ้น เจ้าน้อยจะเป๋นปู้เมียบ่ได้!!!!" เจ้าแมนสรวงโกรธจนตัวสั่น  แทบระงับไว้ไม่อยู่ ลูกน้อยที่ตนเองอุตส่าห์คอยดูอยู่ห่างๆ จะสนใจมากก็กลัวจะเป็นอันตราย เลยให้คนอื่นมาดูแลแทน แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า ตนเองส่งเนื้อไปให้ถึงปากเสือเสียเอง!!!!!!!!!!!!

"ลูกหื้อคำตอบเจ้าป้อไม่ได้หรอกครับว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างใด เมื่อใด? แต่ลูกรักเขา ลูกรักท่านแสงเมืองครับเจ้าป้อ!! หื้อๆๆ ฮื้อ ฮึก!! หื้อๆๆ"

"หยุด!! ทหารแยกตัวเจ้าน้อยออกมา แล้วเอาตัวไอ้แสงเมืองไปขังไว้คุกหลวง"

"ไม่นะครับเจ้าป้อ อย่าเอาเขาไป อยากพรากพวกเราเลย เจ้าป้อครับ!! เจ้าป้อ!!!......หื้อๆๆๆ หื้อๆๆ ฮึก หื้อๆ" เจ้าน้อยรู้สึกเหมือนใจจะขาดลงอีกครั้ง เมื่อเจ้าป้อได้สั่งให้จับแสงเมืองแยกออก แล้วเอาไปขังในคุกหลวง ที่นั่นมีแต่การทรมาน มีแต่กลิ่นอับชื้น และเย็นเยือกเพราะสร้างอยู่ใต้ดิน เจ้าน้อยสงสารสงเมือง

"หยุดได้แล้วเจ้าน้อย หยุดร้องไห้คร่ำครวญเสียที ต่อไปนี้เราขอสั่งให้เจ้าอยู่สำนึกตัวเองแต่ในคุ้ม ห้ามออกไปไหน นี่คือคำสั่งของเรา!!"

"หื้อๆๆ ฮึก!! เจ้าป้อ ลูกขอร้อง.. หื้อๆๆ อย่าเอาเขาไปจากลูกเลย ฮึก!! ลูกไม่เหลือใครอีกแล้ว!!!" เจ้าแมนสรวงได้ยินคำว่า ลูกไม่เหลือใครอีกแล้ว!! ของเจ้าน้อย คล้ายกับมันกระตุกหัวใจตนเองยิ่งนัก เพราะตนเองก็เป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเลยจริงๆ ทิ้งลูกไว้ลำพัง เติบโตเพียงลำพังกับพี่เลี้ยงคนสนิท โดยที่ไม่เคยให้ความรักและเอาใจใส่เหมือนกับลูกๆคนอื่นๆเลยหลังจากที่แม่ของเจ้าน้อยเสียไป

"เจ้าน้อย เจ้าลุกขึ้นก่อนเจ้า ฮื้อๆๆ อย่าทำอย่างอี้เลยเจ้า ฮึก!! ทูนหัวของปี้บัวแก้ว" บัวแก้วอดร้องไห้ไปกับเจ้าน้อยไม่ได้ เจ้าน้อยช่างน่าสงสารเหลือเกิน สงสารที่ต้องเจอกับรักต้องห้ามที่ไม่มีใครยอมรับ แม้จะรักกันแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้จริงๆ

"ปี้บัวแก้ว หื้อๆๆ ช่วยพูดกับเจ้าป้อหน่อย ฮึก!! อย่าเอาแสงเมืองไปจากเราเลย หื้อๆๆ"

"หยุด!! พอได้แล้ว บัวแก้วฝากดูเจ้าน้อยด้วย อย่าให้ออกไปไหนเป็นอันขาด!!"

"เจ้า เจ้าหลวง" พูดจบเจ้าแมนสรวงก็เดินออกไป ปล่อยเจ้าน้อยร้องไห้อยู่กับพระพี่เลี้ยงต่อไป แม้จะสงสารลูก แต่หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมไม่อยากให้ลูกได้ชื่อว่า เป็นคนวิปริตผิดเพศเด็ดขาด




>>>>>> เสิร์ฟมาม่าช้างน้อย ซองเล็กเบาๆ คิๆ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2015 20:56:46 โดย ApolloS »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
มันยังขายอยู่บ่นิ ยำยำช้างน้อย   :heaven
เผอิญช่วงนี้ยังมิหิว  ยังมิอยากกินเลยคนแต่ง5555

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 
@MukmaoY >>>> บ้านเค้ามีอยู่นะตัวเอง อิยำยำช้างน้อยเนี๊ยะ !! ของเค้าอร่อยนะขอบอก !!!

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดมาก เจ้าน้อยเอ้ยยยย


ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
นังหยาดฟ้านี่เลวจริงๆไม่น่าชื่อหยาดฟ้าเลยจริงๆน่าจะหยาดนรกมากกว่า

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สงสารเจ้าน้อยยยย  :sad4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เจ้านางหยาดฟ้าใจร้ายอ่ะ แค่ผู้ชายคนเดียวถึงกับต้องทำร้ายน้อง(แต่ก็คงไม่นับว่าเป็นน้องสินะ)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 


 

อีกไม่กี่ตอนก็คงจะจบแล้วนะครับ คิดว่างั้นนะ น่าจะประมาณ 40 ตอนรึเปล่าก็ไม่รู้!!

 

วันนี้เค้าจะมาพูดถึงเรื่องคำศัพท์ภาษาเหนือ ปล_ในเรื่องนี้เค้าปรับให้มันไม่เหนือเกินไป เพราะกลัวคนอ่านจะเข้าใจยาก ปกติบางครั้งที่มี ก็ใช้ในภาษากลางนะ เพียงแต่เติมไม้จัตวา เข้าไปเท่านั้นมันก็กลายเป็นภาษาเหนือแล้ว

 

1. หื้อ     :  ให้

2. บ่       :  ไม่

3. เจ้า     :  เป็นคำลงท้ายเช่นเดียวกับคำว่า "ค่ะ" ในภาษากลาง

4. อย่างอี้ : อย่างนี้

5. เจ้าป้อ : เจ้าพ่อ (พระบิดา)

6. เจ้าแม่ : เจ้าแม่ (พระมารดา)

7. แม่นเจ้า : ใช่ค่ะ

8. ปู้เมีย : เป็นคำพูดที่ใช้แทนคนที่มีรสนิยมชอบพอในเพศเดียวกัน หรือออกแนวตึ้งติ้ง

9. บุหรี่ขี้โย : บุหรี่ที่พันด้วยใบตองจ่อ หรือใบตองที่รีดด้วยเตารีดถ่านในสมัยก่อน ข้างในจะเป็นยาสูบและเปลือกมะขามแห้งตำละเอียด

10.สะตวง : การตระเตรียมของเซ่นไหว้ผี เพื่อทำการสะเดาะเคราะห์ ทำจากกาบกล้วยขวดเป็นสี่เหลี่ยมแล้วเอาไว้เสียบให้เป็นชั้นวางของได้ จากนั้นเอาของเซ่นเช่น พริก เกลือ บุหรี่ เมี่ยง ไม้ขีดไฟ ของกินใส่ลงไป ปกติจะเอาไปไว้ที่ทางสามแพร่งแล้วกล่าวคำสะเดาะเคราะห์ ส่วนมากจะให้คนที่เรียนคาถาโดยตรงมาทำพิธีให้

11. ปี้     : พี่สาว

12. ไปตวย : ไปด้วย (ปกติคำว่าตวย หรือโตย จะหมายถึง (ด้วย) ในภาษาเหนือ

13. ก่อเจ้า? : ไหมค่ะ? (ก่อในที่นี้เป็นประโยคคำถาม จะหมายถึง ไหม? ไหม๊?)

14. กา ?    : เหรอ? (ในภาษาเหนือมีคำว่า <กา?> ที่ใช้ในประโยคคำถาม ซึ่งหมายถึง เหรอ? เช่นคำว่า >>> ไว้ใจได้ได้กา? : ไว้ใจได้เหรอ? // กินข้าวแล้วกา? : กินข้าวแล้วเหรอ?

15. อู้.      : พูด

16. อะหยัง?  : อะไร?

17. ปิก : กลับ เช่น ปิกบ้าน หมายถึงกลับบ้าน // ปิกมา หมายถึง กลับมา

18. กาด : ตลาด

19. จ๊าง : ช้าง

20. กึด : คิด เช่น กึดนัก หมายถึง คิดมาก // กึดเติงหา หมายถึง คิดถึง

21.ข้าวแลง : ข้าวเย็น

23. ตี้ไหน : ที่ไหน

24. เยี๊ยะหยัง : ทำไม?

25. หัน : เห็น เช่นคำว่า บ่หันหน้าตั้งเมิน หมายถึง ไม่ (เห็น) หน้าตั้ง (นาน)

26. เมิน หมายถึง นาน

27. ผ่อ : ดู

 

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0




ตอนที่ ๓๔


"มะยมตื่นๆ พี่อิฐตื่นๆ กลับมาได้แล้วทั้งสองคน หมดก้านธูปหนึ่งดอกแล้ว ตื่นๆ"

"เอ่อ....." มะยมมีท่าทีเขินอายอย่างเห็นได้ชัด เพราะนึกถึงเหตุการณ์ของเจ้าน้อยและแสงเมืองตอนแก้คุณไสยด้วยพรหมจรรย์แล้ว ยิ่งทำให้แก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ ลามมาจนถึงกกหู และลำคอ ส่วนฝ่ายแสงเมืองไม่มีอาการอะไร นอกจากเอาแต่จ้องมะยมอย่างไม่ลดละ ด้วยสายตาความหวามเชื่อม บ่งบอกได้เลยว่าอิฐกำลังคิดอะไร? ทำให้มะยมเขินจนต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตา เจ้าน้อยนะเจ้าน้อย ทำให้เขาเขินอีกแล้ว แล้วในสมาธินั่นก็มีทั้งภาพแล้วก็เสียงด้วย แล้วอย่างนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี๊ยะ? จะกล้ามองพี่อิฐได้ยังไง?

"เอ๊ะ!! ทำไมมะยมถึงหน้าแดง? อากาศก็ไม่ร้อนสักหน่อยในถ้ำอะ" อิ๊ฟถามอยากแปลกใจ

"อะ...เอ่อ..."

"พอดีมีเหตุการณ์หนึ่งในสมาธิน่ะที่ทำให้มะยมเขิน??" แทนที่จะช่วยกันแก้ต่างไม่ให้อิ๊ฟสนใจ กลับทำให้อิ๊ฟยิ่งอยากรู้น่ะสิ

"พี่อิฐ!! อย่านะ!!"

"โหย...อะไรอะมะยม บอกกันนิดกันหน่อยก็ไม่ได้!!" อิ๊ฟทำท่าทีโอดครวญกับเพื่อน

"ไม่ได้มันคือความลับ!" มะยมทำสีหน้ากึ่งเล่นกึ่งจริงจัง จนอิ๊ฟค้อนใส่

"ก็ได้ ความลับก็ความลับ แต่...อ๊ะๆๆ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนานะ มีการสั่งพี่อิฐด้วย!!" มะยมเบิกตาโต หน้าแดงเพราะคำแซวของอิ๊ฟ ตัวเองไม่ได้สั่งพี่อิฐนะ ไม่ได้สั่ง แค่ขอร้องเฉยๆ

"อ้อ!! พี่ลืมบอกไปคือว่า พี่กะ...อุ๊บ!!" ยังไม่ทันได้บอกอะไร มะยมก็รีบถลาเข้ามาปิดปากอิฐเสียก่อน ทำให้อิฐอดยิ้มกับความขี้อายของมะยมไม่ได้ แค่จะบอกว่าตอนนี้เขาสองคนเปลี่ยนสถานะกันแล้วนะ ก็แค่นั้น!! ทำไมต้องเขินขนาดนั้นด้วย หึๆๆ

"คะ...คือไม่มีอะไรจ๊ะอิ๊ฟ คือ ๆ พี่อิฐจะบอกว่า.... นั่งสมาธินาน จนหิวน่ะ แหะๆ" มะยมแก้ตัวอย่างเป็นพัลวัน จนอิฐส่งสายตากรุ้มกริ่มแซวมาให้ มะยมก็เลยสะบัดหน้าหนีเข้าให้เลย

"อ้อ!! งั้นเราไปทานข้าวกันป่ะ อิ๊ฟก็หิวแล้วล่ะ?" มะยมรีบเดินออกไปก่อนที่ตนเองจะแสดงพิรุธอะไรมากกว่านี้ ใจเต้นแรงไปหมด

"พี่อิฐบอกอิ๊ฟเดี๋ยวนี้นะ เรื่องเมื่อกี้อะ? นะๆๆๆ" มะยมออกไปโน้นละ อิ๊ฟไม่ถามมะยมก็ได้ แต่แอบถามพี่อิฐแทน

"อะไรตัวจุ่น?" อิฐทำท่าทีไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งอิ๊ฟ

"จิ๊!! อย่ามาทำไขสือนะ ตัวเองกับมะยมไปถึงไหนกันแล้ว?"

"นี่ๆตัวยุ่ง ใช้คำให้มันดีๆหน่อย ถึงไหนๆของเราน่ะ มันลึกซึ้งแล้วนะนั่น หึๆๆ"

"อ้าวเหรอ แหะๆ ก็อิ๊ฟไม่รู้นิ ไม่รู้ล่ะบอกน้องมาเลยนะ!!"

"ก็.....อื้ม!!...." อิฐแกล้งอึกอักไม่ยอมบอก

"โอ๊ย.... อย่ามาลีลาพี่อิฐ น้องอยากรู้ ไหว้ล่ะ!!" อิ๊ฟอดประชดแกมเล่นๆกับอิฐไม่ได้ คนอยากรู้ แต่กลับลีลาไม่บอกซะได้

"ก็ตามนั้นแหละ!!"

"ตามนั้น ตามไหน? อะไรอิ๊ฟไม่เข้าใจ ตัวเองรู้กันสองคน แล้วมาบอกว่าตามนั้นแล้วน้องจะรู้ไหมพี่อิฐ บอกมาๆ"

"วู้ว!!! ก็เป็นแฟนกันแล้ว พอใจยังตัวจุ่น เรานี่นะ..มันจุ่นเรื่องของคนอื่นเหมือนชื่อเลยจริงๆนะ"

"อย่ามาพี่อิฐ เค้าไม่ได้ชื่อนั้นสักหน่อย แล้วอีกอย่างนั่นเพื่อนอิ๊ฟนะ จะไม่ให้สนใจได้ยังไง......ดีใจจัง ได้มะยมเป็นพี่สะใภ้ ไม่ชอบเลยยัยป้าพวกนั้น?"

"หมายถึงใครน่ะเรา หื้ม?"

"ก็จะหมายถึงใครได้ล่ะ? ก็หมายถึงคู่ควงก็ตัวเองนั่นแหละ แต่ละคนยิ่งกว่าปอบผีฟ้าซะอีก!!"

"ปอบผีฟ้ายังไง? หึๆๆ"

"ก็แต่งหน้าทาปากอย่างกะคนไปกินเลือดใครมาอย่างงั้นแหละ!!" อิ๊ฟพูดจบก็เบะปากใส่ทันที

"ไปว่าเค้าอย่างนั้นได้ยังไงน่ะเรา ไม่น่ารักนะรู้ไหม? หึๆๆ"

"ก็มันจริงนี่หน่า นิสัยก็ไม่น่ารัก สู้มะยมก็ไม่ได้ พวกนางอะนะ ต่อหน้าพี่อิฐอีกอย่าง ลับหลังนี่อีกอย่างหนึ่งเลย อิฐเคอะ!!... อิฐขาาาา!!" อิ๊ฟทำเสียงเรียนแบบคู่ควงของอิฐ จนทำให้อิฐหัวเราะออกมาเสียไม่ได้ เขารู้ว่าน้องสาวของเขาไม่ชอบพวกเธอเอาเสียเลย แม้แต่คุณย่าก็คงไม่ชอบใจนักกับพวกหล่อน แม้จะมีรูปร่างหน้าตาสะสวย แต่ความเป็นกุลสตรีนี้หาไม่ได้เลย เอาแต่งทำตัวสวยไปวันๆ ทำให้อดนึกถึงอีกคนตามที่อิ๊ฟพูดไม่ได้เลย หน้าตาก็ออกไปทางผู้หญิงอยู่นะ แล้วก็นิสัยน่ารักเลยทีเดียวแหละ งานบ้านงานเรือนก็ได้ หึๆๆ คิดแล้วหมั่นเขี้ยว อิฐคิดในใจ

"แล้วพี่อิฐจะเอายังไงกับพวกเธอ จะให้มาระรานเพื่อนอิ๊ฟไม่ได้ อิ๊ฟไม่ยอมนะจะบอกให้!!"

"รู้แล้วหน่า ถ้าเสร็จจากนี่แล้ว ก็ว่าจะกลับไปเคลียร์กับพวกเธอจริงๆจังๆสักที ไว้ใจพี่ได้หน่า คนนี้พี่จริงจัง!!" ความจริงไม่ต้องเคลียร์ก็ได้นะ เพราะเขาไม่เคยคิดจริงจังกับพวกเธออยู่แล้ว ไม่เคยเอ่ยปากขอคบ หรือขอเป็นแฟนเลยด้วยซ้ำ เป็นแค่คู่ควง ไปกินข้าวดูหนัง อื่นๆบ้างธรรมดาตามประสาผู้ชาย

"ก็ดีค่ะ ไม่งั้นอิ๊ฟจะยุให้มะยม เลิกกะพี่อิฐ มะยมยิ่งไม่ชอบคนเจ้าชู่หลายใจอยู่ด้วย"

"ครับผมๆ แม่องครักษ์พิทักษ์มะยม ป่ะ..ไปทานข้าวกัน หายไปนานเดี๋ยวมะยมสงสัยเอา"




"อาตมาคิดว่าพวกโยมน่าจะกลับไปในที่ขอพวกโยมได้แล้วล่ะ เพราะหน้าที่ขออาตมาก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพวกโยมเอง ที่จะทำมันต่อและฝันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้"

"จำคำอาตมาไว้นะว่า แม้ว่าต่อจากนี้จะเจออุปสรรคใหญ่น้อยแค่ไหน ขอให้โยมมีสติ คิดและไตร่ตรองมันให้ดี แล้วก็อย่าลืมว่าก่อนที่พวกโยมจะทำสมาธิต้องทำสิ่งใดก่อนบ้าง มันคือสิ่งสกคัญที่อาตมาได้สอนพวกโยมไป ส่วนสีกา สีกาเป็นคนที่คนดูแลเขามาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาตินี้ก็ขอให้เกื้อหนุนพวกเขาต่อนะ แล้วก็อย่าลืมว่า หมดก้านธูปหนึ่งดอก ต้องรีบปลุกพวกเขาทันที"

"หมายความว่ายังไงเหรอค่ะพระคุณเจ้า หนูเป็นคนที่เกื้อหนุนพวกเขาตั้งแต่ชาติที่แล้ว?" อิ๊ฟถามอย่างไม่เข้าใจ

"สีการู้สึกผูกพันก็กับเพื่อนคนนี้ของสีกามากไหม?"

"มากเจ้าค่ะพระคุณเจ้า"

"นั่นก็เป็นเพราะว่า ก่อนตายจิตสีกาหวนรำลึกถึงแต่เขา ดังนั้นเมื่อเกิดใหม่อีกชาติ จิตสีกาก็จะตามมาผูกพัน มาดูแลเขา เหมือนในชาติที่แล้วที่สีกาได้ทำไว้ แม่บัวแก้ว" พูดจบพระธุดงค์ก็เดินกลับเข้าไปในถ้ำเพื่อทำเข้าฌานทำสมาธิเหมือนเดิม

"เราไม่เข้าใจอะมะยม พระคุณเจ้าบอกว่าชาติก่อนอิ๊ฟเป็นคนดูแลมะยมอย่างงั้นเหรอ ดูแลยังไง? แล้วทำไมต้องดูแลล่ะ?"

"เอาอย่างนี้นะอิ๊ฟเราจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ สิ่งที่พระคุณเจ้าท่านต้องการบอกคือ ชาติที่แล้วเราสามคนเป็นคนที่เคยผูกพันกันมาก่อน โดยเฉพาะเราทั้งสองคน อิ๊ฟคือพระพี่เลี้ยงคนสนิทที่ชื่อ พี่บัวแก้ว เป็นคนที่คอยดูแลเราตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนเราก็อย่างที่อิ๊ฟได้รู้มาตั้งแต่แรก เจ้าน้อยผู้อาภัพไงล่ะ" มะยมยิ้มให้กับเพื่อนบางๆ อิ๊ฟไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก ออกจะเป็นที่เฉลียวฉลาดเสียด้วยซ้ำ จึงพยักหน้าเบาๆ บอกว่าเข้าใจแล้ว

"เพราะอย่างนี้นี่เองเราถึงถูกชะตากับมะยมตั้งแต่วันแรกที่เจอตอนรับน้อง อิอิ"

"ขอบใจนะอิ๊ฟที่คอยดูแลเราตั้งแต่ชาติที่แล้ว แล้วก็ขอบคุณที่คอยเป็นเพื่อนที่ดี เป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับเราเสมอมา"

"ป่ะ!! เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวต้องเก็บของ แล้วออกเดินทางอีก"

"เย้!! จะได้กลับบ้านแล้ว อิ๊ฟคิดถึงบ้านที่สุด คิดถึงคุณย่า คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ คิดถึงกับข้าวฝีมือคุณย่า คิดถึงเตียงนอนนุ่มๆ แต่อิ๊ฟขี้เกียจเดินกลับ มันไกลอะ"

"ขี้เกียจเดินงั้นก็อยู่นี่ต่อก็ได้นะตัวยุ่ง" อิฐพูดแกล้งน้องสาวเบาๆ

>>>>>>>>>>>>>>>>>>

"ยายจ๋าหนูกลับมาแล้วจ้ายาย" พอมาถึงบ้าน แต่ยังไม่ทันขึ้นเรือน มะยมก็ส่งเสียงร้องเรียกหายายซะลั่นบ้านเลย

"พระคุ้มครองหลานยาย" สองยายหลานกอดกันกลม ยายช้อยลูบหัวหลานชายด้วยความคิดถึง

"คิดถึงยายจัง ฟ๊อด!!"

"นั่งก่อนพ่ออิฐ เดี๋ยวยายไปเอาน้ำมาให้"

"ขอบคุณครับคุณยาย" น้ำลอยดอกมะลิเย็นๆ ทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก อิฐชอบความเป็นไทยแบบบ้านของมะยม ถ้าใด้มาอยู่คงจะปลอดโปร่ง ไม่เหมือนในเมืองที่มีแต่คนพลุกผล่าน รถราเยอะแยะเต็มไปหมด

"เหนื่อยไหมล่ะ พ่อคุณ? กลับมาจากป่าก็ต้องมาส่งหลานยายอีก"

"ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมเต็มใจครับ"

"ถึงเต็มใจก็เถอะ แต่ถ้าเหนื่อยก็ให้นอนที่บ้านโน้นอีกคืนก็ได้นะ ยายไม่ว่าอะไร"

"ไม่เอาแล้วครับยาย หนูคิดถึงยาย เป็นห่วงยาย อยากทานกับข้าวฝีมือยาย" อิฐหัวเราะ หึๆๆ ออกมาทันทีที่มะยมปฏิเสธว่าไม่อยากนอนบ้านเขาอีก จนทำให้มะยมหันมาค้อนใส่อย่างไม่จริงจังนัก

"ช่างขี้อ้อนจริงๆหลานคนนี้ อยู่กับพี่เค้าช่างอ้อนแบบนี้ไหมหื้ม?" มะยมตกใจไม่คิดว่ายายจะถามแบบนี้ ร่างบางไม่ตอบว่ายังไง ได้แต่มองหน้ายายอย่างไม่เข้าใจความหมาย

"ไม่ต้องมองหน้ายายอย่างนั้นหรอกเรา ยายอยู่มานาน ทำไมจะมองไม่ออกว่าเป็นยังไง?"

"ละ...แล้วยายไม่ว่า...."

"ยายไม่ว่าอะไรหรอกลูก ขอให้หนูมีความสุข ยายก็ดีใจแล้ว ชีวิตนี้เป็นของหลาน หลานก็เป็นคนเลือกเอง ส่วนยายเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จะอยู่กับหนูตลอดไปก็ไม่ได้"

"ไม่เอานะยาย ยายพูดอย่างนั้นสิ ยายต้องอยู่กับหนูไปนานๆนะ หนูรักยาย"

"ขอบคุณครับคุณยาย ผมจะดูแลมะยมให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ"






Talk :  กลับมาหวานกันบ้างเนอะ  หน่วงกันมาหลายตอนละ

  :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ขอหวานๆหลายๆตอนได้ป่ะเราชอบจัง

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ดีแล้วว   แต่เจ้าหยาดนี่กลับชาติมาเป็นกิ๊กพี่อิฐใช่ป่าว

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0



ตอนที่ ๓๕

"มะยมมาหาพี่อิฐเหรอ?"

"เปล่า..เรามาหาอิ๊ฟนั่นแหละ"

"ให้มันจริงเห๊อะ คนเป็นแฟนกัน มาหากันก็ไม่แปลกอะไรนิ คิๆ"

"อิ๊ฟ!!"

"โอ๊ะ..ไม่แซวแล้วก็ได้ พี่อิฐอยู่ในห้องโน้น ตื่นรึยังก็ไม่รู้? ไปปลุกให้ลงมาทานข้าวหน่อยสิมะยม เดี๋ยวจะปวดท้องเอานะ" มะยมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ถามว่าเราอะเหรอ? แล้วอิ๊ฟก็พยักหน้าให้สองสามทีบอกว่า อื้มใช่!! ฮ่าๆๆ

"ไปเหอะหน่า กลัวพี่ชายเราปล้ำรึไง?" ยิ่งถูกแซวมะยมยิ่งหน้าแดง

"ก๊อกๆ"

"อื้อ.....เข้ามาเลย ฮ้าววว!!.....มะยมเองเหรอ?" อิฐทำเสียงงัวเงีย ทีจริงเขาตื่นตั้งนานแล้ว น้ำเนิ้มก็อาบแล้วด้วย

"เอ่อ...........พี่อิฐครับ....อิ๊ฟบอกให้มาปลุกไปทานข้าวครับ" มะยม งมหาเสียงตัวเองไม่เจอ เพราะไม่คิดว่าจะมาเจออิดในสภาพนี้ เสื้อก็ไม่ใส่ ใส่แต่บ็อกเซอร์ผืนเดียว หนำซ้ำอะไรต่อมิอะไรยังเคารพธงชาติเด่นหลาซะขนาดนั้น เป็นใครเห็นก็ตกใจ แต่ก็นั่นแหละ ขนาดพึ่งตื่นใหม่ยังหล่ออะ คนอะไรน่าอิจฉาจริงๆ มะยมคิดในใจ แล้วเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า

"อื้ออออ แป๊บนึงนะครับ ข้าวเอาไว้กินทีหลังก็ได้ แต่ตอนนี้ขอชื่นใจแฟนก่อน ฟ๊อด!!"  มะยมที่อยู่ใกล้เตียงนอน ถูกดึงลงมาหอมจนทำให้ร่างทั้งร่างล้มลงบนตัวอิฐทันที

"คนนิสัยไม่ดี เจ้าเล่ห์!!"

"นิดหน่อยเอง คนเป็นแฟนกัน" คนถูกว่ากลับลอยหน้าลอยตาตอบเฉย

"ปล่อยได้แล๊ว!! อะ!! " มะยมถูกคว้าตัวมารวบไว้ก่อนที่จะลุกออกไป

"ขอจูบได้ไหม๊?" มะยมหน้าแดง ทุกทีไม่เห็นขอ ตอนนี้จะมาขอเพื่ออะไร?

"อื้อ......อึก.....!!"

"มือปลาหมึก!! นี่พี่อิฐแกล้งหลับใช่ไหม ทั้งที่ตัวเองตื่นแล้ว ไอ้คนเจ้าเล่ห์ คนฉวยโอกาส!!" ในระหว่างที่อิฐจูบ มือก็สอดเข้ามาในเสื้อของมะยม จนมะยมต้องเอามือออก แล้วมะยมก็รู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ คนหลับที่ไหนจะมีกลิ่นยาสีฟันกับกลิ่นครีมอาบน้ำติดขนาดนี้

"ก็โอกาสมันมีไว้ให้ฉวยนิ ฮ่าๆๆ .....อ๊ะๆๆ !! อย่าตีพี่นะ ไม่งั้นพี่จะจับปล้ำนะขอบอก ยิ่งเช้าๆแบบนี้มันยิ่งคึกนะ"

"หื้ย!! ตาแก่ลามก!'

"พูดจาไม่เพราะเลยเด็กน้อย แบบนี้มันต้องลงโทษ!!"

"อุ๊บ!! อื้อออออออ ....อื้อ...อื้อ...อ่าห์....."

"ถึงพี่แก่ แต่พี่แรงดีนะขอบอก ลองไหมล่ะ?"

"นี่พี่อิฐ!! ผู้หญิงของพี่เคยบอกไหม? ว่าพี่เป็นคนลามกหน้าตาย ละ..แล้วทะลึ่งที่สุดด้วย"

"ไม่เคยมีใครว่านะ พวกเธอออกจะชอบด้วยซ้ำ แต่พี่ขอแก้นิดนึงนะ พวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงของพี่ เพราะพี่ไม่เคยคบกับพวกเธอ แค่พาไปดูหนังกินข้าวเฉยๆหรอก"

"เชื่อก็บ้าละ!! เอาความภูมิฐานมาหลอกล่อคนอื่นเค้า แต่จริงแล้วพี่น่ะเป็นคนบ้ากามที่สุด!!"

"คำก็บ้ากาม คำก็ลามก เดี๋ยวพ่อจับปล้ำจริงซะหรอก?"

"อย่านะ!!"

"โอ๊ะ..ไม่ปล้ำดีกว่า อยากได้แบบเจ้าน้อยและแสงเมือง จะว่าไปเจ้าน้อยตอนนั้นก็ดูเซ็กซี่ดีนะ มะยมก็คล้ายเจ้าน้อยนะ ลองดูบ้างไหมล่ะ?"

"หน้าไม่อาย!! พูดไม่อายฟ้าอายดิน ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ อิ๊ฟรอนานแล้ว!!"

"ปล่อยก็ได้ แต่มะยมต้องให้รางวัลพี่นะ"

"ห่ะ? รางวัลอะไร?"

"รางวัลที่พี่พามะยมไปตามหาแสงเมืองกับเจ้าน้อย แล้วก็พากลับมาอย่างปลอดภัยนี่ไงล่ะ!!"

"ไม่เห็นเกี่ยวเลย"

"เกี่ยวสิ งั้นก็ไม่ปล่อยนะคนดี หึๆๆ"

"จิ๊!! รางวัลอะไรบอกมาสิ?"

"พี่ขอจูบหวานๆจากมะยม แต่มะยมต้องเป็นคนทำเองนะ"

"ไม่!!"

"งั้นก็อยู่อย่างนี้แหละ!" อิฐกระชับกอดมะยมเข้าไปอีก หมาป่ากับลูกแกะน่ะ ยังไงผู้ชนะก็คือหมาป่านะรู้ไหมเด็กน้อย? อิฐคิดในใจ

"หลับตาก่อนสิพี่อิฐ .....จุ๊บ!!" มะยมถอนหายใจก้มลงจูบอิฐเสียไม่ได้ ไม่งั้นคนข้างล่างคงรอนาน มันจะดูไม่ดีเอา

"แบบนั้นใครเค้าเรียกจูบกัน ต้องแบบนี้ต่างหากเล่า"

"อุ๊บ!! ....อื้อ!!........อื้อ.........อ่าห์!!......อึก!! พะ...อื้อ!! พอ เจ็บ!!" จูบเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่ได้หวานเหมือนในนิยายที่เค้าพูดกัน แต่มันให้ความรู้สึกอ่อนละมุน อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ สติสุดท้ายอิฐได้ยินเสียงมะยมบอกว่าเจ็บ เขาคงเผลอกัดและทำรอยกับมะยมไม่น้อยเลยจริงๆ อิฐแปลกใจเหลือตัวเองเหลือเกิน มะยมทำให้เขารู้สึกเหมือนกับคำว่า หื่นกาม ลามกที่เจ้าตัวพูดกับเขาเมื่อกี้เลยจริงๆ ปกติกับคู่ควงคนไหนก็ไม่เคยอยากจะครอบครองหรือทำรอยแสดงความเป็นเจ้าของเลย แต่กับมะยมไม่ใช่ อิฐก้มลงมองซอกคอขาวของมะยม แล้วเอามือตบที่หน้าผากตัวเองเบาๆ แล้วแบบนี้จะลงไปได้ยังไงวะ?

เสียงหอบของคนสองคน บ่งบอกได้เลยว่า ถ้าไม่หยุดมันตอนนี้ รับรองมันจะหยุดไว้ไม่อยู่แน่นอน อิฐถอนหายใจอย่างรุนแรง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหยุดมัน ความรู้สึกมันพุ่งพล่านจนสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมะยมก้มหน้าเอามือกำผ้าห่มไว้แน่นเลย

>>>>>>>>>>>>

"ก๊อกๆ ว๊าย!!" อิ๊ฟตกใจสภาพเพื่อนตัวเอง ไม่บอกก็รู้ว่าโดนพี่ชายของเขาฟัดมาแน่ๆ อิ๊ฟมองรอยที่คอขาวของมะยมสองสามรอย ไหนจะเสื้อผ้าที่แตกต่างกับตอนมาราวกับฟ้ากับเหวนั่นอีก เขาไม่น่าให้เพื่อนไปปลุกอิฐเลยจริงๆ เท่ากับว่าส่งเนื้อไปให้ถึงปากเสือเลยจริงๆ อิ๊ฟคิดในใจ

"เอ่อ...คือ..คืออิ๊ฟ เห็นว่าขึ้นมานานแล้ว เลยขึ้นมาตาม" อิ๊ฟรู้สึกเขินแทน ต้องกุมสองมือตัวเองไว้แก้เขิน แต่ที่แน่ๆ มะยมเอ๊กซ์มากตอนนี้ ปากเจ่อนิดๆ เสื้อเชิ้ตกระดุมหลุดลงมาจนเห็นหัวไหล่กับรอยสีกุหลาบนั่นอีกล่ะ เข้าใจพี่อิฐอยู่นะว่าทำไมถึงไม่ลงไปสักที

ส่วนมะยมตอนนี้นั่งตาโต แข็งทื่ออยู่ตรงหน้าอิฐเหมือนถูกสตาร์ฟไว้ยังไงอย่างงั้น ไม่คิดว่าอิ๊ฟจะขึ้นมาเห็น แล้วเขาเองก็ไม่ได้ล็อคประตูด้วย คิดว่าจะมาปลุกแป๊บเดียวแล้วลงไปนี่หน่า มะยมเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วตอนนี้

"เดี๋ยวพี่ตามลงไป!!" อิฐก็เขินจนต้องเิามือลูบท้ายทอยแก้เขินไป

"ค่ะ!!" พูดจบอิ๊ฟก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขินแทน แต่ที่แน่ๆ พี่ชายตัวเองร้ายกาจอะ

"โอ๋ๆๆ เด็กน้อย เพื่อนเราออกไปแล้วครับ" อิฐเข้ามาลูบหัวมะยมเบาๆ คงตกใจที่มีคนพรวดพราดเข้ามาเห็นตอนกำลัง.......

"คนบ้า คนนิสัยไม่ดี บอกว่าให้หยุดก็ไม่หยุด"

"โอ๊ะ!! เขินรุนแรงนะเราน่ะ หึๆๆ"

"หื้ย!!"

"เอาหน่า ไหนๆก็ไหนๆละ ยายของมะยมก็รับทราบแล้วว่าเราเป็นแฟนกันแล้ว ยัยอิ๊ฟก็รู้แล้ว อย่าคิดมากเลยนะครับ จุ๊บ!!"

"จิ๊!!" มะยมจิ๊ปากไม่พอใจนิดๆ

"งั้นขอพี่แต่งตัวแป๊บนึงนะ เดี๋ยวลงไปทานข้าวกัน" อิฐลงจากเตียงไปแต่งตัวแล้ว ส่วนมะยมก็กำลังจัดเสื้อผ้าให้ตัวเองใหม่

"ป่ะไปกัน" อิฐจูงมือมะยมลงมาทานข้าว ดีที่วันนี้คุณย่าไปวัด เพราะเป็นวันพระใหญ่ ไม่งั้นโดนดุแน่ๆ เอาลูกเอาหลานเค้ามาปู้ยี่ปู้ยำซะขนาดนี้





"วันนี้มีข้าวต้มปลาทูนะพี่อิฐ คุณย่าทำทิ้งไว้ให้" ระหว่างทานข้าว มะยมเอาแต่ก้มหน้าเขินจนหน้าจะชิดถ้วยข้ามต้มอยู่แล้ว ส่วนอิ๊ฟได้แต่สังเกตุเพื่อนตัวเอง ว่าไม่บุบสลายส่วนใดอีกใช่ไหม? พี่ชายตัวเองรุนแรงใช่ย่อย!! คิๆๆ

"พี่ชายเราแซบไหมมะยม?"

"แค๊กๆ ฮึก!!" มะยมสำลักข้ามต้มจนหน้าแดงเพราะคำถามของอิ๊ฟ จนอิฐต้องลูบหลังแล้วส่งกระดาษทิชชู่ให้ น่าสงสารจริงๆ เด็กน้อย









Talk
>>>>>>ฟินไหมตอนนี้?  อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
ตามอ่านเกือบสิบตอน ขยันมากเลยค่ะ
ร้องไห้เพราะสงสารเจ้าน้อยกับแสงเมืองเหลือเกิน
คนรักกันทำไมต้องจับแยกด้วย ฮือออ
ส่วนตอนปัจจุบันพี่อิฐมะยมน่ารักมากค่ะ
ชอบมากๆ ฟินมากด้วย
เห็นบอกจะจบแล้ว ใจหายมาก
ตามมาตั้งแต่แรกๆ แงๆๆ
ขอบคุณนะคะ ขอโทษที่มาช้า พอดีมีธุระ ^^
 :mew1:

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ฟินมากค่า ชอบหวานๆ อิอิ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
น่ารักกก    น้องช้ำหมดแล้ว

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

Talk :

B52 : แสดงว่าอิ๊ฟมีดงวด นางโชคดีนะ 5555ลองคิดดูเป็นเราจะฟินแค่ไหน555

บูมเบส  : บทจะฟินก็ฟิน บทจะเศร้าก็นะ

Akikojae. : ขอบคุณตัวเองนะที่ติดนามมาตั้งแต่แรกจนจะจบ รีบจบเพราะมีเรื่องใหม่มาจ่อแล้วอะ  มันฮึด 55555

Malila  : คู่มะยมก็หวานมาก ส่วนคู่เจ้าก็ขมมากเหลือเกิน >\\<

MukmaoY. :  ใกล้จบคงช้ำเรื่อยๆ555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0


ตอนที่ ๓๖


สั่งห้ามหื้อฮัก         มันหนักใจ๋จ๋น
บ่อยากเป๋นคน       หม่นหมองนองหน้า

ต่างฐานันดรศักดิ์   แม้ฮักเหลือเกิน
บ่สู้น้ำเงิน              คนเมินต่ำต้อย

แสงเมืองยากไร้     แต่ใจแกร่งกว้าง
สุดยากจะขวาง      สองทางรักเฮา

กึดอยากปาหนี      วิถีของเจ้า
ไปตายหน้าเอา      สองเราเจ้าน้อย


>>>>>>>>>>>>>ค่าวคำเมือง<<<<<<<<<<<<<<

"อ๊ะ!!"

"ชู่ววว!!!!!!!! เจ้าน้อยขอรับ กระหม่อมเอง แสงเมือง" เจ้าน้อยส่งเสียงตกใจเมื่อมีคนโผล่เข้ามาในห้องนอนยามค่ำมืดดึกดื่น จนทำให้แสงเมืองต้องรีบใช้มือปิดปากเจ้าน้อยไว้ กลัวว่าทหารและนางกำนันข้างน้องจะได้ยิน

"ท่านแสงเมือง!!" เมื่อรู้ว่าเป็นคนรัก เจ้าน้อยก็รีบโผเข้ากอด

"เราเป็นห่วงท่านมาก ท่านแสงเมือง"

"ขอบคุณขอรับเจ้าน้อย ยอดดวงใจของกระหม่อม"

"ฮึก!! ท่านออกมาได้อย่างใด? เจ้าป้อทรงปล่อย ฮึกๆ ท่านออกมาแล้วหรือ? ฮึก"

"กระหม่อมหลบหนีออกมาขอรับ กระหม่อมคิดถึงเจ้าน้อยเหลือเกิน ทนไม่ไหวที่จะอยู่ห่างกายเจ้าน้อยแม้เสียวนาที"

"ฮึกๆ เราก็เหมือนกัน" เจ้าน้อยร้องไห้ออกมาเบาๆ ความคิดถึงโหยหามันช่างทำร้ายคนเราได้เหลือเกิน และแน่นอนว่ามันมีอนุภาพมากพอที่จะทำให้แสงเมืองหนีออกจากคุกหลวงเพื่อมาหาเขาในตอนนี้

"ชู่วววว!! เงียบนะขอรับ กระหม่อมอยู่ตรงนี้แล้ว" เจ้าน้อยพยักหน้าอยู่กับอกแสงเมืองเบาๆ สองมืองามก็เช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเบาๆ

"เจ้าน้อยไม่ได้ถูกลงโทษอะไรใช่ไหมขอรับ?" แสงเมืองถามอย่างเป็นห่วง กลัวว่าเจ้าแมนสรวงจะทรงโกรธจนสั่งลงโทษเจ้าน้อย

"เปล่า เจ้าป้อเพียงแค่สั่งกักบริเวณเราเท่านั้น"

"ดีละขอรับ หากเจ้าน้อยทรงถูกลงโทษมากกว่านี้ หัวใจของกระหม่อมคงจะเจ็บและรู้สึกผิดไปมากกว่านี้" แสงเมืองประคองหน้าเจ้าน้อยไว้แล้วจูบเบาๆที่หางตาเพื่อซับน้ำตาให้

"เราคิดถึงท่าน คิดถึงจนใจแทบขาด กลัวว่าท่านจะถูกลงอาญา" ยิ่งคิดน้ำตาเจ้าน้อยก็ยิ่งไหลซึมออกมา ขนตาที่เป็นแพหนามีแต่หยาดหยดของความเสียใจ

แสงเมืองก้มลงจูบเบาๆ ลงที่ใบหน้างามของเจ้าน้อยอีกครั้งเพื่อซับน้ำตา แต่ครั้งนี้ปากหนาพรมจูบไล่ลงมาจนถึงแก้มนวล ปากบางของเจ้าน้อย

"อื้อ......!!!!!!!....."

"เงียบๆนะขอรับ เดี๋ยวทหารกับนางกำนันข้างนอกจะได้ยิน" แสงเมืองบอกกึ่งแซวเจ้าน้อย จนถูกเจ้าน้อยทุบเข้าให้สองสามที

"กระหม่อมคิดถึงเจ้าน้อยเหลือเกิน คิดถึงเหมือนใจจะขาด เจ้าน้อยขอรับ........หนีไปกับกระหม่อมไหมขอรับ?" เจ้าน้อยไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อที่จะได้ยินคำถามแบบนี้ เลยทำให้หูอื้อ สมองไม่รับรู้อะไรไปชั่วขนาด หนีงั้นเหรอ? หนีไปอยู่ที่ไหน? แล้วจะหนีจากเจ้าป้อพ้นอย่างใด? เมื่อได้สติ หัวเจ้าน้อยก็มีแต่คำถามเต็มไปหมด มันกระทันหันเหลือเกิน จนตั้งรับไม่ติด

"นะขอรับ ขืนอยู่ที่นี่กระหม่อมคงไม่ได้ออกมาหาเจ้าน้อยอีกแล้ว หรือไม่งั้นกระหม่อมอาจจะถูกเนรเทศไปอยู่ที่อื่นก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นกระหม่อมคงทนไม่ไหว หากร่างกายและหัวใจจะอยู่คนละที่อย่างนี้ กระหม่อมอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเจ้าน้อยนะขอรับ หนีไปอยู่กับกระหม่อมนะขอรับ เราจะไปสร้างบ้านอยู่ไกลๆ ตามชนบท ปลูกผักปลูกไม้ เลี้ยงไก่กันสองคนไงขอรับ ไปกับกระหม่อมนะขอรับ?" เมื่อความรักของพวกเขาช่างต่างฐานันดรศักดิ์กันเหลือเกิน คนหนึ่งเป็นถึงเจ้า ส่วนอีกคนเป็นเพียงแค่ทหารต่ำต้อย แล้วจะอย่างใดเล่าให้ความรักนี้สมหวัง ไม่ถูกพรากจากกันอย่างนี้?

        เจ้าน้อยคิดหนัก หากไม่มีแสงเมืองก็คงเหมือนร่างกายนี้ไร้จิตใจ แต่เขาจะตัดสินใจอย่างใดได้เล่า ในเมื่อยังมีคนข้างหลังที่ต้องนึกถึงอยู่ ปี้บัวแก้วจะถูกลงโทษไหมถ้าหากเขาทำเช่นนี้? แล้วเจ้าอ้ายล่ะ? จะทรงโกรธน้องคนนี้หรือไม่ที่หนีไปแบบนี้?

"อื้อ!! รอจะไปอยู่กับท่าน" ไม่ว่าจะทำอย่างใด แต่สุดท้ายเจ้าน้อยก็ต้องเลือก เลือกตามความรักไป เลือกหัวใจตนเอง

"ขอบคุณขอรับเจ้าน้อย กระหม่อมขอสัญญาว่าจะรักและดูแลเจ้าน้อยเพียงคนเดียว และตลอดไปขอรับ"

"ขอบใจท่านมากที่รักเรา"

"งั้นคืนพรุ่งนี้ตี4 ก่อนฟ้าสางกระหม่อมจะเอาม้ามารอรับเจ้าน้อยที่กระท่อมชาวนา ที่อยู่ด้านทิศตะวันออกของกำแพงเมืองนะขอรับ กระหม่อมต้องไปแล้วขอรับ เจอกันพรุ่งนี้นะขอรับ ยอดดวงใจของกระหม่อม จุ๊บ!!" ฟ้าใกล้สางแล้ว แสงเมืองต้องไปแล้ว มิเช่นนั้นจะถูกจับได้ แล้วหนทางที่จะได้อยู่ด้วยกันในอนาคตก็จะไม่มีอีก แสงเมืองจำต้องลาคนรักไปก่อนในตอนนี้ แต่อีกไม่นาน เขาจะกลับมารับเจ้าน้อยไปอยู่ด้วยกันให้ได้ เขาสัญญา!!

"แล้วท่านจะไปอยู่ที่ใดกันตอนนี้ ? คุ้มหลวงคงประกาศตามหาท่านไปทั่วแล้ว" เจ้าน้อยกล่าวอย่างเป็นห่วงแสงเมือง แม้นเป็นทหารแต่ถึงอย่สงใดก็สู้ทหารจำนวนมากของเจ้าป้อและเจ้าอ้ายไม่ได้

"ไว้ใจกระหม่อมเถิดขอรับ กระหม่อมเป็นทหาร เอาตัวรอดได้ อย่าทรงเป็นห่วงเลยขอรับ" แสงเมืองพูดให้เจ้าน้อยคลายความกังวลลง

"เราจะรอท่านมารับนะทานแสงเมือง!! เราจะรอ"

"เจ้าน้อย!!" แสงเมืองเอ่ยชื่อเจ้าน้อยอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าน้อยลดตัวลงนั่งกับพื้น แล้วใช้ผมดำงามของตนเองบรรจงเช็ดปลายเท้าให้แสงเมืองเบาๆ

"ขอบคุณเจ้าน้อยเหลือเกินขอรับ ที่รักและมอบชีวิตนี้ให้กับกระหม่อม กระหม่อมจะเก็บรักษาและถนุถนอมมันไว้เป็นอย่างดีขอรับ" การที่เจ้าน้อยเอาผมเช็ดเท้าให้แสงเมือง เป็นการแสดงออกของหญิงสาวที่มีต่อสามี เป็นการให้เกียรติและให้สัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์ตลอดไป แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา แสงเมืองก้มลงประคองเจ้าน้อยให้ลุกขึ้น แล้วจูบลงเบาๆหน้าผาก

"กระหม่อมต้องไปแล้วขอรับ อย่าลืมนะขอรับวันพรุ่งนี้ตี4 ก่อนฟ้าสาง กระหม่อมจะไปรอเจ้าน้อยที่กระท่อมชาวนาด้านทิศตะวันออกของกำแพงเมืองนะขอรับ"

>>>>>>>>>>>>>>>>>>



"ปี้บัวแก้วครับ ถ้าหากเราไม่ได้อยู่ที่นี้แล้ว ขอให้ปี้บัวแก้วกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวนะครับ แล้วนี่เป็นของส่วนตัวของเราที่อยากให้ปี้บัวแก้วเก็บไว้ ขอบคุณที่คอยดูแลเรามาตลอด เหมือนปี้สาว เหมือนแม่คนที่สอง ขอบคุณครับ" เจ้าอดบอกลาคนที่ดูแลตนเองมาตั้งแต่ยังเล็กไม่ได้ ปี้บัวแก้วเปรียบเหมือนคนในครอบครัว เป็นคนที่เจ้าน้อยรักและปรารถนาอยากให้มีความสุข แม้ว่าจากนี้ไปเจ้าน้อยจะไม่ได้เห็นความสุขเหล่านี้ก็ตาม

"เจ้าน้อยจะไปที่ไหนเจ้า? เยี๊ยะหยังอู้อย่างอี้?"

"เราไม่ได้จะไปไหน เพียงแต่ชีวิตคนเรานี้มันสั้นนัก จะเป็นอย่างใดใครจะรู้ เราแค่อยากให้คนที่เรารักมีความสุข ไม่ต้องคอยมารับใช้ใครอีกแล้ว นะครับปี้บัวแก้ว หากไม่มีเราแล้วให้พี่กลับไปใช้ชีวิตอยู่บ้านนะครับ สัญญากับเราสิพี่บัวแก้ว "

"เจ้าปี้สัญญา แต่ตอนนี้เจ้าน้อยอยู่นี่ แล้วจะหื้อปี้ไปอยู่ไหนเจ้า? ปี้จะอยู่กับเจ้าน้อย ขอติดตามเจ้าน้อยไปทุกที อยากหันเจ้าน้อยมีความสุขกับทุกวันของชีวิต จะไปอู้ถึงอนาคตหรือสิ่งบ่เป็นมงคลอย่างนั้นนาเจ้า เปิ้นว่าบ่ดี" บัวแก้วอดติงเจ้าน้อยเสียไม่ได้ คนโบราณเค้าถือเรื่องแบบนี้

"ครับ!!"




===||===|===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||===||

ประกาศจ้า : เรื่องนี้ใกล้จบแล้ว แต่เค้ามีแพลนจะแต่งอีกเรื่องนะ ชื่อเรื่องว่า "บุพเพ...น้องเขย"

                   เป็นแนวปกติละ ไม่ย้อนยุค หรือกลับชาติมาเกิดละ ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่คิดว่าจะต่อจนจบ

                   ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยจ้า คนแต่งมือใหม่!!

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ว้าววว  ได้รู้อะไรใหม่ๆอย่างเอาผมเช็ดเท้าสามีด้วย
แม้แต่เราเองยังหวงผมเลย  แล้วภรรยาที่ภักดีถึงขนาดเอาผมเช็ดเท้าได้นี่สุดยอด

คนแต่งแต่งดีนะ อยากให้มีคนมาอ่านเยอะๆจัง
แต่แนวเราอาจจะคนไม่นิยม ไม่mass
เป็นกำลังใจต่อไป  ฝึกแต่งตามใจตัวเองก็สนุกดี

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
น้ำตาไหลในความรักของสองคนนี้จริงๆค่ะ
เราชอบเรื่องนี้มากๆ เขียนดีมากเลย
เห็นว่าเปิดอีกเรื่อง ไว้ถ้าปลีกตัวจากงานหลักได้จะตามไปอ่านนะคะ
รอตอนหน้าน้า ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
 :mew2:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ขอให้หนีรอดได้ไหมอ่ะสงสารอ่ะ

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0


Talk : คำขอของคนอ่านไม่ได้ผลจ๊ะ สงสารนะ แต่เนื้อเรื่องมันวางมาแล้วอะ  @บูมเบส

Talk. : เสียดายคนอ่านไม่ชอบเรื่องแนวนี้กัน ขอบคุณครับAkikojae  ที่มาติดตาม เป็นแฟนพันธ์แท้ของเจ้าน้อยแสงเมือง


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>





ตอนที่ ๓๗

คืนทั้งคืนเจ้าน้อยแทบหลับตานอนไม่ได้ ทั้งกังวล ทั้งกลัวไปหมด เจ้าน้อยรีบเอาเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ออกมา พร้อมมองไปยังทุกที่ในห้องนี้อย่างอาลัย ไม่ว่าจะมุมไหนก็มีแต่ความทรงจำ หัวใจดวงน้อยเศร้าใจนัก

"เฮ้ย!! นั่นไผน่ะ? ออกมาบ่ะเดี๋ยวนี้!!" (นั่นใครน่ะ? ออกมาบัดเดี๋ยวนี้!!) ทหารเฝ้ายามเดินตรวจตราทั่วบริเวณคุ้มหลวงเอ่ยขึ้น ทำให้เจ้าน้อยที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้ตกใจ รีบเอามือปิดปากตัวเองไว้ หัวใจเจ้าน้อยแทบหยุดเต้น กลัวจะถูกจับได้

"เมี๊ยวววว!!"

"ที่แต๊ก่อแมว บ่ะไปเตอะ" เจ้าน้อยยังโชคดีที่มีแมวกระโดดออกมาจากพุ่มไม้พอดี ไม่งั้นเจ้าน้อยคงไม่รู้จะทำอย่างใดให้รอดจากจุดนี้ไปได้ ใจเต้นระรัว หน้าซีดเพราะความกลัว เจ้าน้อยรีบลอดกำแพงพุ่มไม้ด้านหลังคุ้มหลวงออกมาทันทีที่ทหารเดินยามเดินออกไป สองเท้ารีบจ้ำเดินออกไปยังกระท่อมชาวนาที่แสงเมืองนัดไว้

"เจ้าน้อยขอรับ!!" เจ้าน้อยโผเข้ากอดแสงเมืองทันทีที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย

"ท่านแสงเมือง" เจ้าน้อยเรียกชื่อคนรักด้วยเสียงแผ่วเบา น้ำตารินไหล ใครเล่าจะรู้ว่าน้ำตาที่ไหลตอนนี้เป็นเพราะตนเองกำลังเศร้าใจที่ต้องจำลาจากคนอันเป็นที่รัก เจ้าป้อ เจ้าอ้าย ปี้บัวแก้ว จำลาที่อันเคยพักอาศัยมาตั้งแต่เกิด ไหลบางสั่นสะท้านเพราะสะอื้นไห้ ระคนกลัวสิ่งที่กำลังจะทำตอนนี้

"ร้องออกมาให้หมดนะขอรับ แล้วเราจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน กระหม่อมรักเจ้าน้อยนะขอรับ ขอให้เจ้าน้อยมั่นใจว่า แสงเมืองคนนี้จะรักและดูแลเจ้าน้อยตลอดไปนะขอรับ" แสงเมืองปลอบเจ้าน้อยที่กำลังร้องไห้อยู่กับอกตนเอง

"ไปกันเถอะขอรับ เดี๋ยวฟ้าจะสางเสียก่อนขอรับ!!"

"อึ๊บ!!" แสงเมืองจับเอวเจ้าน้อยยกขึ้นบนหลังม้า ฝ่ายเจ้าน้อยก็รีบเกาะหลังม้าตัวนั้นไว้เพื่อเป็นที่ยืด กันตก จากนั้นแสงเมืองก็ขึ้นมานั่งด้านหลัง

"จำมันได้ไหมขอรับ? เจ้าม้าตัวนี้ ตัวที่เจ้าน้อยเคยนั่งตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน ตัวที่กระหม่อมเอามาสอนเจ้าน้อยขี่ม้าไงขอรับ"

"จำได้ เจ้าสีหมอก!!"

"ฮี่ๆๆ" ม้าก็เหมือนจะจำเจ้าน้อยได้ มันขานรับเจ้าน้อยเบาๆ

"จับให้ดีๆนะขอรับ ไป๊เร็วเจ้าสีหมอก!! ย่ะๆ"

ตลอดสองทางเจ้าน้อยมองเส้นทาบอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะยังมืดอยู่แต่ก็มีพระจันทร์กลมเด่นส่องแสงลงมาให้ทั้งคนและม้าเดินทางไป

"เจ้าน้อยขอรับ...กระหม่อมว่าเราต้องเร่งม้าแล้วขอรับ กระหม่อมได้ยินเสียงเหมือนมีคนตามมา

"ใครกัน เจ้าป้อเหรอ? หรือเจ้าอ้าย?" เจ้าน้อยรีบถามทันทีเพราะกลัวว่าถ้าหากเป็นเจ้าป้อหรือเจ้าอ้าย เขาทั้งสองคงหนีไปไหนไม่รอดแน่ๆ ใจดวงน้อยเต้นแรงเป็นระส่ำเพราะความกลัวอีกครั้ง

"ฟื่บๆ" เสียงแซ้ที่ใช้ฟาดเพื่อเร่งม้าดังขึ้น สองฝีเท้าเจ้าสีหมอกก็เร่งให้เร็วขึ้นตามความต้องการของเจ้านายมัน

"อย่ากลัวไปเลยขอรับ กระหม่อมจะอยู่ข้างๆเจ้าน้อยเอง ดวงใจของกระหม่อม" แสงเมืองกระชับแขนที่โอบเอวเจ้าน้อยไว้แน่ขึ้น เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกตอนนี้ไปให้ บอกว่าอย่าหวั่นกลัวไปเลยตราบใดที่มีเขาอยู่ด้วย

"กรับๆๆๆ" เสียงฝีเท้าของม้าของอีกฝ่ายที่ตามมา ไม่บอกก็พอจะเดาได้ว่าเป็นใครที่ตามมา ยิ่งเสียงควบม้าใกล้เข้ามายิ่งบีบหัวใจมากขึ้น

"กรับๆๆๆๆ ฟ๊าบๆ" เสียงแซ้ สลับกับเสียงฝีเท้าของอาชางามที่ลัดเลาะแนวป่าไป จากฟ้ามืดตอนนี้เริ่มสว่างขึ้นแล้ว พระอาทิตย์กำลังขึ้น เหล่านกน้อยใหญ่กำลังออกจากรังเพื่อไปหากิน หากเป็นปกติทั้งสองคงจอดชมความงามยามเช้าแล้วล่ะ แต่เวลานี้หัวใจกลับไม่อยากชื่นชมมันเลยสักนิด

"กรับ ๆ ๆ" เสียงม้าวิ่งผ่านป่า ลัดเลาะจนมาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนกระโดดลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็ว จับมือกันอย่างเหนียวแน่น คล้ายกับว่าไม่อยากให้ใครพรากคนตรงหน้านี้ไป แม้ว่าเบื้องหลังจะมีเพียงหน้าผาอันสูงชัน ทั้งสองสบตากันด้วยความจำนนต่อฟ้าดิน จำนนต่อโชคชะตา

"เจ้าน้อยขอรับ........." แสงเมืองเอ่ยชื่อเจ้าน้อย พร้อมมองหน้านวลนี้อย่างเศร้าในอกเหลือเกิน น้ำตาของลูกชายไหลริน

"ชาตินี้กระหม่อมคงทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ หากชาติหน้ามีจริง กระหม่อมขอเกิดมาเป็นคู่รักกับเจ้าน้อยอีก เราสองจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขออย่าได้มีอุปสรรคใดๆมาขวางกั้นความรักสองเราอีกเลยนะขอรับ" แสงเมืองพูดพรางใช้สองมือเช็ดน้ำตาของเจ้าน้อยเบาๆ เหตุไฉนรักแล้วต้องพรากจากกัน ใยสวรรค์ไม่เห็นใจเราสองบ้าง?

"ฟ้าดินเป็นพยานหากชาตินี้นั้นไซร้  ไม่ได้เกิดมาครองคู่กัน ก็จะขอตายตกตามกันไปยังชาติหน้า ขอให้ฟ้าดินจงเห็นใจเราสอง ให้ได้ครองคู่อย่างชู้ชื่น อย่าได้ขมขื่นเพราะรักถูกขัดขวางอีกเลย" เจ้าน้อยกล่าวออกมาทั้งน้ำตาที่รินไหล สุดขมขื่น สุดระทม ม่านประเพณีนั้นไซร้ที่พวกเขาไม่สามารถข้ามมันไปได้ ไหนจะฐานันดรศักดิ์อีกที่คอยแบ่งแยกพวกเขาออกจากกันอีก

"กระหม่อมต่ำต้อยนัก แต่กระหม่อมก็อยากจะขอรักเจ้าน้อยแบบนี้ตลอดไป จะกี่ร้อยชาติ พันชาติ กระหม่อมก็จะขอเกิดมาเพื่อนรักเจ้าน้อย รอที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งนะขอรับ กระหม่อมขอสัญญาว่าจะขอรักและรอเจ้าน้อยคนเดียว รอกระหม่อมด้วยนะขอรับ ดวงใจของกระหม่อม!!!" แสงเมืองพูดพลางจูบซับน้ำตาเจ้าน้อยเอาไว้ ตระกองกอดเจ้าน้อยเอาไว้จนได้ยินเสียงม้าควบตามมา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไม่สามารถหลบหนีไปที่ไหนได้อีกแล้ว ด้านหน้าคือผืนป่าที่ผ่านมา ส่วนด้านหลังคือหน้าผาอันสูงชัน

"เราก็รักท่านนะ อ้ายแสงเมือง อึ๊กๆ เราก็ขอสัญญา..ฮึก...แม้นว่าจะกี่ร้อยปี หมื่นปี โกฏิปี ฮึกๆ..หรืออสงไขยปี เราก็จะขอรักท่าน รอท่านแต่เพียงผู้เดียว!!! " เจ้าน้อยแกะผ้ามัดเอวออกมามัดข้อมือของตนเองและแสงเมืองเอาไว้อย่างแน่นหนา เขาตัดสินใจแล้ว หากรักนี้ไม่สมหวัง ก็จะขอรักกันในชาติหน้าดีกว่า

"ขอให้ผ้าผืนนี้เป็นดังสายใยที่คอยผูกมัดเราสอง ขอให้เป็นดั่งพันธนาการที่ผูกมัดสองดวงใจไว้ด้วยกัน อย่าได้มีสิ่งใดมาพรากเราออกจากกันอีกเลย" คำพูดที่บัดนี้แทบจะไม่เป็นคำ มีแต่เสียงสะอื้น แต่กระนั้นก็ยังสามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าน้อยตัดสินใจทำเช่นใด

"กรับๆ ๆ" เสียงม้าของคุ้มหลวงกำลังตามมาใกล้จะถึงแล้ว

"เจ้าป้อ!! เจ้าอ้าย!!"

"ไอ้แสงเมือง!!! มึงส่งลูกคืนมาบัดเดี๋ยวนี้ ปล่อยลูกกู!!!" ทันทีที่มาถึงเจ้าแมนสรวงก็แผดเสียงขึ้นทันที

"ทหารเข้าไปจับเอาตัวเจ้าน้อยออกมา!! แล้วเอาไอ้แสงเมืองกลับไปด้วย กูจะฆ่ามันด้วยตัวของกูเอง!!"

"หยุด!! อย่าเข้ามานะ!!" เจ้าน้อยตะโกนสั่งห้ามเหล่าทหารไม่ให้เข้ามา

"เราบอกให้หยุด!!" เจ้าน้อยร้องตะโกนสั่งทหารอีกครั้ง ทหารหยุดลังเล

"เจ้าป้อครับ เจ้าอ้ายครับ ฮึกๆ ปล่อยเราสองคนไปเถิด เราสองคนรักกันจริงๆ ฮึกๆ อย่า...พรากเราสองคนจากกันเลย ได้โปรด!!!" เจ้าน้อยเอ่ยขอร้องด้วยใจแทบสลาย วิงวอนขอความเห็นใจ

"ไม่ได้ เจ้าน้อยเป็นถึงราชบุตรแล้วอย่างใดถึงทำตัวอย่างนี้ กลับมาป้อเดี๋ยวนี้เจ้าน้อย อย่าขัดคำสั่งป้อ!!!"

"ไม่ครับเจ้าป้อ ฮึก!!! หากเจ้าป้อจะให้ลูกกลับไปโดยไร้เขา ฮึกๆ!! ลูกขอตายอยู่ตรงนี้ดีกว่า!! ลูกขาดเขาไม่ได้ หื้อๆๆ ฮึก!! ชีวิตนี้ลูกไม่เคยขอสิ่งใดกับเจ้าป้อเลย ฮึกๆ ลูกขอได้ไหมครับ อย่าพรากเราจากกันเลย!!" เจ้าน้อยจับมือแสงเมืองถอยหลังไปอีก จนเกือบติดหน้าผาแล้ว ก้อนหินก้อนดินหลายก้อนไหลตกลงไป ทำให้เจ้าแมนสรวงและเจ้ามิ่งขวัญต้องรีบหยุดฝีเท้าที่จะเข้าไปหาเจ้าน้อยละแสงเมือง

"เจ้าอ้ายครับ ฮึกๆ ช่วยบอกเจ้าป้อหน่อยนะครับ ฮึกๆ บอกเจ้าป้อหน่อยว่าอย่าพรากความรักของน้องเลย หื้อๆๆ แล้วชาตินี้น้องจะไม่ขอสิ่งใดกับเจ้าอ้ายอีกเลย นะครับเจ้าอ้าย" เมื่อวอนขอเจ้าป้อไม่ได้ เจ้าน้อยจึงวอนขอให้เจ้าอ้ายช่วยแทน

"เจ้าน้อย.... อย่าทำอย่างนี้เลยนะน้องพี่ น้องยังมีอ้าย มีเจ้าป้อ กลับไปอยู่ด้วยกันนะเจ้าน้อย ส่วนแสงเมือง...อ้ายสัญญาว่าจะขอเจ้าป้อไม่ให้ลงโทษมัน นะเจ้าน้อย!!" เจ้ามิ่งขวัญร้องห้ามเจ้าน้อย อีกมือหนึ่งก็พยายามส่งไปหาเจ้าน้อย อยากให้น้องกลับมาจากตรงนั้น มันอันตรายเหลือเกิน เขาไม่อยากจะเสียน้องชายคนนี้ไป

"บ่ได้!!  ทหารเข้าไปเอาตัวเจ้าน้อยบัดเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่งเรา!!" สิ้นคำสั่งของเจ้าแมนสรวง ทหารก็วิ่งเข้าหาเจ้าน้อยและแสงเมืองทันที

"หื้อๆๆ ฮึกๆ งั้นลูกก็ขอทูลลาครับเจ้าป้อ ขอทูลลาครับเจ้าอ้าย อภัยให้ลูกด้วย หื้อๆๆๆๆ"

"เจ้าน้อย!!!! /เจ้าน้อย!!!!" เจ้าแมนสรวงเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กตกลงไปจากหน้าผา น้ำตาของผู้เป็นพ่อหลั่งไหลออกมาไม่หยุด เจ้ามิ่งขวัญทรุดตัวลงกับพื้นข้างๆเจ้าแมนสรวง น้ำตาหลายหยดไหลลงอาบแก้ม ไม่มีแล้วน้องน้อยที่ตนเองคอยถนอมดูแล ไม่มีอีกแล้วคนที่เรียกเจ้าอ้ายๆ เสียงแจ้วๆ








ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ชาตินี้ไม่สมหวัง ก็ขอให้ชาติหน้า รักราบรื่นนะคะ

ออฟไลน์ ApolloS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Talk :

@ MukmaoY : การที่ผู้หญิงเอาผมบรรจง็ดเท้าให้สามีนั้นเป็นการแสดงถึงความรัก ความเคารพอย่างสูง ความซื่อสัตย์ ยอมหมดแล้วในชีวิตนี้ หรือการยกชีวิตนี้ให้นั่นเอง เป็นการแสดงออกของผู้หญิงทางเหนือ หรือแม่ญิงล้านนา

เราคิดว่าหัวหรือผมอยู่สูง แล้วเท้าอยู่ต่ำ เป็นของต่ำ การที่ผู้หญิงใช้ผมซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเช็ดเท้าให้ เช็ดของต่ำให้ แสดงให้เห็นแล้วว่ารักและภักดียิ่งครับ

@Malila. : ชาติปัจจุบันต้องรอลุ้นอีกอึดใจเดียวครับ จะพยายามเค้นให้จบถึงตอนที่ 40 ให้ได้จ้า ขอบคุณคราฟที่มาติดตาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2015 09:44:52 โดย ApolloS »

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
 :m15: :m15: :m15: เศร้าอ่ะพ่อใจร้ายมากทั้งที่ไม่เคยทำอะไรที่ดีให้ลูกเลยแท้ๆ เวรกรรมจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด