ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22  (อ่าน 246440 ครั้ง)

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #30 เมื่อ13-12-2014 11:59:42 »

มาจากห้องแนะนำนิยาย ไม่ผิดหวังเลยจริงๆๆ
เขียนดีมากเลยค่ะ เหมือนได้ไปอยู่เหตุการณ์นั้นๆๆ เลย

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #31 เมื่อ13-12-2014 13:07:41 »

สนุกดี มาต่ออีกเร็วๆน้าาาา  :mew1:

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #32 เมื่อ13-12-2014 16:48:39 »

บทที่ 2 รู้จัก

‘พี่ปืนจะไปไหนกับใครนะคะ’ เสียงหวานๆ ของรชญาร้องถามมาตามสายโทรศัพท์ในเย็นวันศุกร์หลังจากแฟนหนุ่มโทรมารายงานว่ากำลังจะออกไปไหน
ปาวัสม์หนีบโทรศัพท์เข้ากับหูข้างหนึ่งพลางถอดเสื้อกาวน์โยนใส่ล็อคเกอร์ในห้องพักแพทย์ซึ่งอยู่ติดกับห้องฉุกเฉิน “ไปกินข้าวกับจิวไงครับ” เขาใช้สะโพกกระแทกประตูโลหะที่เริ่มขึ้นสนิมปิดและก้าวยาวๆ ออกจากห้อง ยังอารมณ์ดีเกินกว่าจะเอะใจกับโทนเสียงที่เริ่มสูงขึ้น

‘แต่วันนี้พี่ปืนนัดกับนิวว่าจะไปดูหนังด้วยกันไม่ใช่เหรอคะ’
มือที่กำลังไขประตูห้องพักปิดชะงักกึก พวงกุญแจในมือร่วงกระทบพื้นเสียงดังแกร๊ง! “หนัง?”

‘อย่าบอกนะคะว่าพี่ปืนลืมน่ะ’

“คือ... เปล่า... ใครมันจะไปกล้าลืมนัดกับนิวล่ะครับ... อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันนะ บาย”
คุณหมอหนุ่มยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนจะยกสองมือขึ้นกุมขมับและขยี้แรงๆ คิดไม่ตกว่าจะทำยังไงดีกับปัญหาโลกแตก เมื่อมือข้างหนึ่งยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับพวงกุญแจคล้องตุ๊กตาโดราเอมอนยิ้มกว้างหน้าตาแป้นแล้น

“ไอ้นี่ของหมอปืนหรือเปล่า” เด็กหนุ่มที่หน้าเป็นไม่แพ้ตัวการ์ตูนในมือซึ่งเดินผ่านมาพอดีถาม

“ขอบใจ” ปาวัสม์รับพวงกุญแจมาใส่กระเป๋า เขาถอนหายใจดังเฮือกพลางหมุนตัวเดินกลับไปตามทางที่วุ่นวายของห้องฉุกเฉิน นัยน์ตาคมตวัดดูเวลาบนนาฬิกาติดผนังตรงหน้าโถงทางเดินซึ่งบอกเวลาหกโมงกว่าแล้ว ...ป่านนี้วิทยากับนุชนันท์คงรออยู่ที่ร้านประจำพร้อมอาหารเต็มโต๊ะ ถึงจะไม่อยากเบี้ยวนัดที่เขาเป็นคนนัดเองแต่มันก็ช่วยไม่ได้... เขาถอนหายใจอีกครั้งและหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก

‘ว่าไงปืนถึงไหนแล้ว ฉันกับอุ้มจะรอนายไม่ไหวแล้วนะ’
เสียงของวิทยาดังมาตามสาย ทั้งที่ดีใจที่ได้ยินเสียงแต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกผิดอย่างที่สุด

“โทษทีพอดีฉันท้องเสีย เห็นทีคงไปไม่ไหวแล้วว่ะฝากขอโทษอุ้มด้วยนะ”

เสียงทุ้มของอีกฝ่ายคล้ายจะตอบอะไรบางอย่างแต่อึดใจต่อมามันกลับแทนที่ด้วยเสียงหวานปนดุ

‘จะพาน้องนิวไปไหนหรือคะคุณปาวัสม์’

ขนอ่อนหลังคอปาวัสม์พร้อมใจกันลุกเกรียวขึ้นทันที “ไปไหนอะไรอุ้ม แล้วเกี่ยวอะไรกับนิว ฉันท้องเสียจริงๆ นะ”
เขาเดาได้ไม่ยากถึงริมฝีปากบางของสาวร่างอวบที่กำลังเม้มสนิท ทำไมเขาจะไม่รู้ว่านุชนันท์เกลียดการโกหกมากขนาดไหน แต่บางครั้งการโกหกก็อาจจะดีกว่าการพูดความจริงที่จะทำให้อีกฝ่ายเสียใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาผิดนัดกับเพื่อนรักทั้งสองด้วยสาเหตุนี้และนุชนันท์ก็ประกาศจะไม่อภัยให้เขาถ้ายังมีครั้งต่อไป
ทว่ากระแสเสียงที่ตอบกลับมาทำให้ปาวัสม์รู้ในทันทีว่าเขาคิดผิด!

‘นายจะเบี้ยวนัด ฉันก็โกรธพอตัวอยู่แล้ว แต่ทำไมนายต้องมาโกหกให้ฉันเกลียดด้วย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายจะไปไหน ไม่รู้ล่ะ! นายสัญญากับฉันแล้ว ถ้าคืนนี้ฉันไม่เห็นหน้านาย นายก็อย่าหวังว่าจะได้ความเป็นเพื่อนจากฉันอีก... เพื่อนอย่างฉันกับผู้หญิงคนนั้นนายจะเลือกใครก็คิดเอาเองละกัน!!’

ปาวัสม์แทบจะได้ยินเสียงนิ้วอวบๆ นั้นกระแทกปุ่มกดตัดสายพร้อมกับภาพสาวร่างอวบโยนโทรศัพท์คืนวิทยาและฟาดงวงฟาดงาด้วยความโมโหลอยขึ้นมาในหัว เขายัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและภาวนาจนสุดใจขอให้โลกแตกไปจริงๆ เสียยังจะดีกว่า

เด็กหนุ่มในชุดหมีมองคุณหมอหนุ่มเดินคอตกออกไปจากห้องฉุกเฉิน นึกสงสัยขึ้นมาจับใจว่าทำไมคนที่ลงทุนโกหกเพื่อนเพื่อจะไปกินข้าวกับแฟนถึงมีสีหน้าอมทุกข์ขนาดนั้น ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งๆ โคลงเบาๆ ก่อนนัยน์ตาสีดำขลับจะหรี่ลงเล็กน้อย

...ของบางอย่างไม่ตามไปดูให้เห็นกับตา ก็ไม่มีทางเข้าใจสินะ...
OOOOOO

“นิวจะดูเรื่องนี้เหรอ แต่นิวก็รู้นี่นาว่าพี่ไม่ชอบดูหนังแบบนี้” ปาวัสม์นิ่วหน้ากับบิลบอร์ดอันใหญ่ของหนังรักโรแมนติกที่แฟนสาวหมายมั่นว่าจะดูให้ได้ ลำพังแค่ชื่อเรื่องก็ชวนยี้แล้วโดยไม่ต้องอ่านคำโปรยและเดาได้ทันทีว่าในอนาคตอันใกล้นี้เขาต้องหลับสนิทชนิดฝันได้เป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว

“แต่นิวจะดู แล้วพี่ปืนก็ต้องดูกับนิว ห้ามหลับห้ามง่วงห้ามทำหน้าน่าเบื่อด้วยนะคะ” เครื่องหน้าหวานของรชญาเชิดขึ้น เธอใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าอกเขาจึกๆ กอดจะสะบัดกลับไปกอดหน้าอกไว้แน่น

นอกจากมารดาแล้วในจักรวาลนี้ปาวัสม์รู้จักผู้หญิงดีแค่สองคน คนแรกคือนุชนันท์และคนที่สองคือรชญาซึ่งบอกได้คำเดียวว่าทั้งสองสาวช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เริ่มจากหุ่นของเธอที่บอบบางราวกับนางแบบ ผมดำยาวสลวยถึงกลางหลังดัดเป็นลอนอ่อนๆ ดูเป็นสาวน้อยน่ารัก และจมูกเชิดรั้นบ่งบอกนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนเอาแต่ใจเพราะเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านได้เป็นอย่างดี

สำหรับปาวัสม์แล้วความเอาแต่ใจนี่ไม่นับเป็นความไม่น่ารักหรอกนะ มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงอยู่แล้วแค่จะมีมากหรือน้อยเท่านั้นแหละ และเขาก็ผ่านบทเรียนที่แทบจะเรียกได้ว่าหนักหนาที่สุดมาทั้งชีวิตกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแม่กับเพื่อนรักแล้ว แค่นี้สำหรับเขามันไม่น่าลำบากใจสักนิด... แต่บอกตรงๆ นะว่าไอ้หนังเรื่องนั้นน่ะมันไม่ไหวจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นหนังบู๊ Sci-Fi หรืออะไรเทือกนี้ก็ว่าไปอย่าง

“แต่ว่า...” ร่างสูงกลืนน้ำลายเอื๊อก ลำพังแค่ไม่ทำหน้าน่าเบื่อยังพอเฟคได้แต่ห้ามง่วงนี่ใครมันจะไปทนไหวล่ะ โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งออกเวรมาเหนื่อยๆ ยิ่งได้นั่งนิ่งๆ เจอแอร์ๆ เย็นเป่าเข้าหน่อย... ขอพนันร้อยเอาบาทเดียวเลย! เต็มที่เขาก็ฝืนสังขารนั่งตัวตรงได้แค่สิบนาทีก่อนที่ศีรษะจะแพ้แรงโน้มถ่วงของโลกซุกมุมใดมุมหนึ่งของเก้าอี้นวมนั่นน่ะแหละ

“ไม่มีแต่ค่ะพี่ปืน พี่ปืนต้องชดใช้ความผิดที่ลืมนัดกับนิว”

“แต่พี่ก็อุตส่าห์ยกเลิกนัดกับเพื่อนแล้วมากับนิวแล้วไง”

“พี่ปืนใช้คำว่าอุตส่าห์ได้ยังไงในเมื่อพี่ลืมเอง” รชญาสวนทันควันชนิดที่ถ้าเป็นปืน ลูกกระสุนก็พุ่งเข้ากลางแสกหน้าไปแล้ว “หรือว่าพี่ห่วงผู้หญิงคนนั้น ถ้ากลัวว่าเขาจะโกรธพี่ปืนกลับไปหาเขาก็ได้นะคะ นิวดูคนเดียวได้” หน้าหวานหม่นลงจนเห็นได้ชัด กอปรกับนัยน์ตากลมโตที่เคลือบสีสันสดใสนั้นเริ่มรื้นน้ำตานิดๆ ทำให้ใจของปาวัสม์อ่อนยวบ

“ไม่เอาไม่งอนน่า แล้วผู้หญิงคนไหนอีกล่ะครับนิว ไอ้จิวมันไม่ใช่กะเทยสักหน่อย”

“อยากให้นิวบอกจริงๆ น่ะเหรอคะว่าเป็นใคร”  รชญาพูดลอดไรฟันพร้อมกับสะบัดหน้าหนี

“ไม่เอาน่านิวพี่ขอโทษนะ” ปาวัสม์เดินอ้อมตัวเธอไปและคว้าไหล่มนไว้ดึงให้หันมาสบตา ในที่สุดเขายอมแพ้อย่างราบคาบ “มาเถอะยังมีเวลาอีกเกือบชั่วโมงกว่าหนังจะฉายนิวอยากทานอะไรพี่จะพาไปเลี้ยงหรือว่านิวอยากได้อยากทำอะไรพี่จะตามใจทุกอย่างเลยยกโทษให้พี่แล้วยิ้มนะจ๊ะนะ”

รชญาเหลือบมองมือใหญ่ที่อยู่บนหัวไหล่ทั้งสอง ริมฝีปากบางสีกุหลาบกรีดยิ้มหวานเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันกลับมาสบตาช้าๆ “พี่ปืนเตรียมหมดตัวได้เลยค่ะ”
OOOOOO

“รถมันจะติดอะไรกันหนักกันหนาวะ” ปาวัสม์บ่นอย่างหัวเสียกับการจราจรในเมืองใหญ่ เมื่อรถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำสนิทของเขาจอดติดแหงกอยู่แยกไฟแดงเดิมมาร่วมชั่วโมงเศษแล้ว

การเดทกับรชญาดูจะจบเร็วเกินกว่าที่คิดไว้ เพราะผลมันออกมาตามโผอย่างที่คาดไว้แล้วว่าต้องหลับและสิ่งที่ตามมาติดๆ คือเขาถูกแฟนสาวลากออกจากโรงหนังตั้งแต่กลางเรื่องและทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเพียงแค่หลุดปากไปว่า ‘ทีมาดูกับอุ้มแล้วเผลอหลับ อุ้มยังไม่บ่นเลย’

นิ้วเรียวเคาะไปบนพวงมาลัย ปาวัสม์เอื้อมมือไปเร่งแอร์และเปิดเสียงเพลงในรถให้ดังขึ้นอีกแต่การทำเช่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ใจที่ร้อนรุ่มเย็นลงเลย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือที่ไม่ว่าดูสักกี่ทีหน้าจอก็ยังดำมืดไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นมาดูอีกครั้งก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋า และหันกลับมาเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยต่อ
...จะโทรง้อแฟนก็ไม่ได้ จะโทรหาเพื่อนก็ไม่ได้แบบนี้เซ็งชะมัด...

รถคันหน้าเริ่มขยับอีกครั้ง ปาวัสม์ใส่เกียร์และขับตามไปช้าๆ
พลันสายตาเหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่ในชุดหมีสีเขียวขี้ม้าถือแท่งไฟสะท้อนแสงโบกไหวๆ ให้ทางอยู่หลังรถมูลนิธิร่วมกตัญญูที่จอดเปิดไซเรนอยู่กลางถนน ถัดไปเล็กน้อยมีรถเก๋งคันหนึ่งชนอัดเสาไฟฟ้าจนหน้ายุบเข้ามาครึ่งคัน และนั่นเองคือสาเหตุให้การจราจรเป็นอัมพาตอยู่ในขณะนี้
นัยน์ตาคมเบิกโพลง ...โดยไม่มีอาการลังเล ปาวัสม์กระพริบไฟผ่าหมาก ชิดรถเข้าข้างทางและเปิดประตูลงไปทันที
มีไทยมุงให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย คุณหมอหนุ่มเบียดตัวแทรกเข้าไปจนถึงด้านใน... เข้าไปจนใกล้มากพอจะเห็นเลือดกองใหญ่กับรองเท้าผ้าใบขาดๆ ข้างหนึ่งบนพื้นถนนลาดยาง

ร่างสูงแทบหยุดหายใจ การทำงานหลายปีในห้องฉุกเฉินสอนให้รู้ว่าปริมาณเลือดกองเท่านั้นไม่ว่ามันจะไหลออกมาส่วนใดของร่างกายก็ตาม คนๆ นั้นมักจะไม่รอด
สายตามองไล่ไปตามพื้นถนนเพื่อหาคนเจ็บ ภาวนาจนสุดใจขอให้มีโอกาสสักหนึ่งในล้านที่ประสบการณ์ของเขาจะบิดเบี้ยวไป ในที่สุดการค้นหาก็จบลงตรงปลายเท้าเปลือยเปล่าซึ่งโผล่พ้นกลุ่มเจ้าหน้าที่ในชุดสีเขียวขี้ม้าสามคนที่กำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่าง

ร่างสูงโผเข้าไปทันที

“คุณครับเข้าไม่ได้นะครับ!” เจ้าหน้าที่คนที่โบกไฟให้ทางอยู่พุ่งมาจับตัวเขาไว้

“ผมเป็นหมอ!” ปาวัสม์ตะโกนก้องดึงดันจะเข้าไปให้ได้ “ผมเป็นหมอครับ... ขอผมดูคนเจ็บหน่อย” ปากร้องบอกไปสายตาก็ชะเง้อข้ามไหล่คนในชุดหมีสีเขียวขี้ม้าตรงหน้า
เจ้าหน้าที่คนเดิมส่ายหน้า “คุณหมอมาช้าไปแล้วครับ” แต่ก็ยินยอมปล่อยตัวคุณหมอหนุ่มและเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขาเห็นเหตุการณ์ชัดขึ้น

“ไม่จริงน่า!” ปาวัสม์บอกอย่างดื้อแพ่ง และจ้ำพรวดไปหาร่างที่เห็นนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น แต่มันก็เหมือนกับละครตอนจบ ต่างกันตรงที่ไม่ได้มีม่านสีสวยรูดปิด มีแค่ถุงผ้าดิบสีขาวมอซอที่ห่อร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่งไว้และกำลังถูกยกไปขึ้นท้ายรถมูลนิธิ

“ไม่จริง!!” เสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ปาวัสม์เงยหน้าขึ้นมอง เธอเป็นหญิงวัยกลางคนเนื้อตัวมอมแมมและมีคราบเลือดสดๆ เปื้อนเปรอะตามร่างกาย เธอเองก็คงเป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุแต่โชคดีรอดชีวิตมาได้ ขาของเธอกระเผลกไปข้างหนึ่งแต่กลับวิ่งได้รวดเร็วน่าเหลือเชื่อเมื่อโผเข้าไปกอดร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าดิบนั้นไว้ และยื้อยุดกับเจ้าหน้าที่ไม่ให้เอาร่างนั้นขึ้นท้ายรถ ใบหน้าบิดเบี้ยวอาบด้วยหยาดน้ำตาแห่งความสูญเสีย “เขายังไม่ตาย! ไม่จริง!”

ริมฝีปากเม้มสนิท มือทั้งสองกำเป็นหมัดแน่น เขากลับหลังหันเพื่อหนีจากภาพตรงหน้า สองขาลากช้าๆ พาร่างกายที่บรรทุกหัวใจห่อเหี่ยวไว้กลับไปยังรถของตน นัยน์ตาสีดำสนิทเลื่อนลอยครุ่นคิดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งได้เห็น

...ถ้าเพียงแต่เขาผ่านมาเร็วกว่านี้จะช่วยผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นได้ไหมนะ...

มันเป็นคำถามที่เขาตอบตัวเองไม่ได้ ปาวัสม์รู้สึกขอบตาร้อนผ่าว เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีหมึก

ทันใดนั้นกลุ่มเมฆเหนือหัวเคลื่อนวนเร็วขึ้นและจับกลุ่มหนาตัวลอยต่ำลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นเมฆฝนตกลงมาห่าใหญ่ ฟ้าผ่าเสียงดังครืนครางน่ากลัวแต่มันเทียบไม่ได้เลยกับความสยดสยองของของเหลวสีแดงที่ซึมผ่านเสื้อนักเรียนสีขาวตัวนั้นขึ้นมาเป็นวงกว้างและกระจายออกไปตามพื้นอย่างรวดเร็ว
สองขาหยุดนิ่ง มือใหญ่เลื่อนขึ้นกุมหน้าอกโดยอัตโนมัติ หัวใจเต้นแรงเสียจนเขารู้สึกเจ็บ

พลันแสงไฟสูงจากหน้ารถสาดมากระทบหน้าจนตาพร่ามัว พร้อมกับเสียงบีบแตรยาว ปาวัสม์สะดุ้งเฮือกและเหลียวไป

“หมอปืนระวัง!!!”

ทุกอย่างหายไปและกลายเป็นสีดำมืดในพริบตา

ปาวัสม์กระพริบตาถี่ๆ เมฆฝนหายไปแล้วและท้องฟ้าก็กลับมาเป็นสีหมึกปราศจากดวงดาวอีกครั้ง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนพื้น แต่น่าแปลกที่พื้นถนนลาดยางนั้นกลับไม่แข็งเลยสักนิด

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!”

เสียงทุ้มเดิมดังขึ้นข้างหู ปาวัสม์กระพริบตาอีกครั้งและรับรู้เป็นครั้งแรกถึงความอบอุ่นของวงแขนแข็งแรงจากใครคนหนึ่งที่โอบรอบเอวเขาไว้แน่น

“เกิดอะไรขึ้น” ใบหน้าสีแทนครึ้มหนวดของภาวัฒน์บิดเบี้ยวและอยู่ห่างจากแก้มเขาไม่ถึงคืบ คิ้วหนาขมวดมุ่น ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มต้องหงุดหงิดซ้ำยังตะโกนใส่หน้าเขาจนน้ำลายแตกฟองขนาดนั้น

“ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถาม! หมอปืนเดินเหม่อออกไปริมถนนเกือบโดนรถชนแล้วรู้ตัวไหม”

ปาวัสม์สะดุ้งเฮือก ได้สติเต็มที่ สายตาคมช้อนขึ้นมองท้องถนนที่รถราวิ่งขวักไขว่เบื้องหน้าแล้วขนลุกซู่... นี่เขาเหม่อจนเกือบเดินไปหาที่ตายเองแล้วไหมล่ะ!... เขาก้มลงมองอ้อมแขนที่ยังไม่ยอมคลายออก สัมผัสได้ถึงความชื้นจากฝ่ามือที่สั่นน้อยๆ “ขอบใจที่ช่วยนะ”

ถึงจะยังขัดใจไม่หายกับผู้ใหญ่จอมซุ่มซ่าม นี่ถ้าอายุสามขวบไม่ใช่สามสิบเขาคงได้เอาไม้เรียวฟาดหรือไม่ก็จับแก้ผ้าตีก้นไปแล้ว แต่เพราะความจริงมันตรงข้าม คนอายุน้อยกว่าจึงได้แค่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เกรงว่าถ้าขืนโวยวายไปมากกว่านี้ต้องโดนว่าเป็นเด็กขี้วีนแน่ๆ ไหนๆ ก็ได้กอดแถมคำขอโทษมาแล้ววันนี้จะยอมปล่อยไปก่อนละกัน

“ไม่ต้องมาพูดเลย! แล้วก็ลุกได้แล้ว... ลุกกกก ขาผมเป็นตะคริวแล้วเนี่ย เห็นตัวแค่นี้แต่หนักเป็นบ้าเลย”

ปาวัสม์ตวัดสายตาลงต่ำอีกนิดและได้คำตอบในที่สุดว่าทำไมพื้นถนนถึงไม่แข็งซ้ำยังนั่งสบายสุดๆ ก็เพราะเขาหย่อนก้นลงบนตักเจ้าเด็กหนุ่มนี่น่ะสิ ร่างสูงรีบโดดผลุงลุกขึ้นยืน
เมื่อขาทั้งสองข้างเป็นอิสระภาวัฒน์ก็ยันตัวลุกขึ้นบ้าง นัยน์ตาคมเหลือบมองเด็กหนุ่มปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า เขาดูแปลกตาไปมากทีเดียวเมื่อถอดชุดหมีมาสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์... จะเรียกว่าดูเด็กสมวัยก็คงจะได้ล่ะมั้ง? แต่หนวดเครารุงรังที่ล้อมกรอบใบหน้าเล็กๆ นั้นอยู่ทำให้ดูแก่แดดแก่ลม ไม่น่ารักเอาเสียเลย

คุณหมอหนุ่มหันมองไปรอบๆ ซึ่งเป็นคอนโดสูงเสียดฟ้าย่านคนรวย สนนราคาห้องหนึ่งไม่ต่ำกว่าหลักหลายล้าน แล้วก็ให้เกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง ที่นี่มันไม่ใช่ที่ๆ เด็กหนุ่มน่าจะอาศัยอยู่ อีกทั้งแถวนี้ก็ไม่มีห้างร้านหรือถนนคนเดินใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเช่นนั้นเจ้าเด็กแสบนี่มาทะลึ่งโผล่ตรงนี้และช่วยเขาไว้ได้ยังไง เหตุการณ์มันจะประจวบเหมาะเกินไปหรือเปล่า

“นายมาทำอะไรที่นี่”

ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือกกลัวถูกจับได้ว่าแอบตามมา แต่ถึงโดนจับได้จริงใครจะบ้ารับสารภาพ สมัยนี้ไม่มีแล้วเรื่องที่จะลดโทษลงกึ่งหนึ่งอะไรนั่นน่ะ โดยเฉพาะกับคนหน้าดุคนนี้ด้วยแล้วล่ะก็ “ก็แล้วหมอปืนมาทำอะไรที่นี่ล่ะครับ”

ปาวัสม์ย่นคิ้ว ...ตกลงนี่ใครถามใครกันแน่วะ? “ฉันขับรถผ่านมา”

“ผมก็บังเอิญขับรถผ่านมาเหมือนกัน” ภาวัฒน์ตอบพลางพยักเพยิดไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ถัดออกไปจากรถเขาไม่ไกล “เห็นมีอุบัติเหตุก็เลยแวะช่วยเหมือนคุณหมอน่ะแหละ”

ถึงจะพบช่องโหว่มากมายในคำตอบที่แถจนแทบตกคลองแต่เขาก็ไม่สนใจถามต่อ “งั้นฉันไปก่อนนะ”

“จะรีบไปไหนล่ะครับ” ภาวัฒน์ฉวยข้อมือคุณหมอหนุ่มไว้ “นี่หมอปืนไม่คิดจะตอบแทนที่ผมช่วยไว้หน่อยเหรอ”

สัมผัสหยาบกร้านที่กอบกำรอบข้อมือโดยไม่ตั้งตัวทำให้ร่างสูงสะดุ้ง เขาเกือบจะสะบัดมือนั้นทิ้งอยู่แล้วเมื่อสายตาคมบังเอิญหันไปสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำสนิท
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในหัวอีกครั้ง มันดังมากเสียจนร่างสูงโงนเงนไปเล็กน้อย ฝ่ามือเล็กๆ ของร่างโชกเลือดที่เอื้อมมาไขว่คว้านั้นทั้งซีดและเย็นจนน่าใจหาย แต่แววตาที่จ้องมากลับเป็นประกายกล้าราวกับดวงดาวที่ไม่มีวันอับแสง

ปาวัสม์สะบัดศีรษะเบาๆ ไล่ความทรงจำเก่าๆ ออกไปจากสมองและมองตอบสายตาที่ยังคงมองตรงมา เป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่วันที่เขารู้สึกราวกับโดนสะกดด้วยมนต์ในนัยน์ตาคู่นั้น

“นายกินข้าวหรือยัง”

...พูดไปแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม วินาทีนี้รู้เพียงว่าอยากทำ เขาอยากรู้จักเด็กคนนี้ให้มากขึ้นแค่นิดเดียวก็ยังดี อยากรู้จับใจว่าอะไรคือสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนัยน์ตานั่น... เพราะมันช่างเหมือนกันเหลือเกินกับนัยน์ตาคู่นั้น นัยน์ตาคู่ที่เขาไม่เคยลืมหรือลบมันทิ้งไปจากใจได้เลยแม้สักวินาทีเดียว...
OOOOOO
ตอนที่ 2 ยังไม่จบนะคะ...

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #33 เมื่อ13-12-2014 16:49:36 »

บทที่ 2 รู้จัก(ต่อ)

ขับรถเลี้ยวออกมาจากย่านนั้นเพียงเล็กน้อยก็เจอ ‘Midnight’ ร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศน่านั่ง คิดดูอีกทีการที่มาเจอภาวัฒน์ในเวลาเช่นนี้ก็นับเป็นเรื่องดีไปอีกแบบ ข้อหนึ่งคือถึงเขาจะอยากไปหาเพื่อนๆ ใจแทบขาดแต่ตอนนี้ร่างกายก็เปิดใช้โหมดอัลตร้าเพาเวอร์เซฟวิ่งแบบเต็มสตรีมเสียจนพลังชีวิตแทบจะหมดตามแบตโทรศัพท์ไปอยู่รอมร่อ ...อย่างน้อยในวันศุกร์แห่งชาติที่โดนทิ้งนี้เขาก็ไม่ต้องนั่งหง่าวกินข้าวเย็นเหงาๆ คนเดียว อย่างที่สอง ก็ถือว่าตอบแทนเด็กหนุ่มเรื่องช่วยเขาไว้อย่างที่บอกไปนั่นแหละ
บริกรหนุ่มส่งเมนูให้ เขายังไม่ทันจะเริ่มต้นแนะนำอาหารด้วยซ้ำเมื่อคนหิวจัดรัวคำสั่งใส่ไม่ยั้ง

“ต้มยำกุ้งไม่เผ็ด ไข่เจียวหอยนางรม ปลาทับทิมนึ่งมะนาว เนื้อปูผัดผงกระหรี่ ข้าวสวยหนึ่งโถ อ้อ... ขอไก่ทอดด้วย” ปาวัสม์เม้มปากอันที่จริงเขาอยากจะสั่งอีกแต่เห็นว่าเด็กหนุ่มยังไม่ได้สั่งจึงพอเท่านี้ก่อน “นายจะกินอะไร”

คนหน้าเป็นส่ายศีรษะและยิ้มระรื่นจนน่าหมั่นไส้... แค่ได้มากินข้าวสองต่อสองกับคุณหมอหนุ่มเขาก็ดีใจจนอิ่มทิพย์ไปถึงชาติหน้าแล้ว “ที่หมอปืนสั่งก็พอกินกันทั้งหมู่บ้านแล้วมั้งครับ ถามจริง นี่กินคนเดียวหมดเหรอครับ”

ปาวัสม์ไม่สนใจ เขาหันไปสั่งอีกสองเมนูในใจที่เหลือ “กุ้งทอดกระเทียมกับยำวุ้นเส้นด้วย... ไม่เผ็ดนะ”

“ท่าทางจะหิวจัด” คนที่แค่ฟังก็อิ่มแล้วนึกจดจำรายละเอียดต่างๆ ไว้ในใจ

...กินได้ทุกอย่างยกเว้นผักกับของเผ็ดสินะ...

“มันก็เรื่องของฉัน” ปาวัสม์ตอบ สายตายังจับจ้องอยู่บนหน้าเครื่องดื่มกับของหวานในรายการอาหาร เขาเพิ่งเห็นว่ามีเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์จำพวกค๊อกเทล เบียร์ ไปจนถึงเหล้าดีกรีแรงด้วย

“หมอปืนนน...” ภาวัฒน์ลากเสียงเรียกร้องความสนใจคนที่เอาแต่ดูเมนู “ค่าอาหารเราหารกันคนละครึ่ง แล้วผมขอเปลี่ยนของตอบแทนเป็นอย่างอื่นได้ป่ะ”

นัยน์ตาคมตวัดขึ้นมองคนที่นั่งกอดอกเท้าแขนลงบนโต๊ะจ้องมองเขาอยู่ ปาวัสม์ปิดเมนูฉับแล้วโยนสไลด์ไปบนโต๊ะ เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และยกมือขึ้นกอดอกบ้าง “ได้คืบจะเอาศอกนะเรา แล้วตกลงจะเอาอะไร”

“ผมอยากฟังเรื่องของหมอปืน” นัยน์ตาสีดำพราวระยับเสียจนน่าหมั่นไส้

คิ้วหนาเลิกขึ้นข้างหนึ่ง “ทำไมฉันต้องยอม”

“ถือว่าตอบแทนผมไง” คนถือไพ่เหนือกว่าอมยิ้มกรุ้มกริ่ม “เอางี้! ถ้าหมอปืนคิดว่าผมเอาเปรียบ งั้นเรามาเล่นเกมผลัดกันถามคนละคำถามก็ได้นะครับ”

คิ้วหนาย่นเข้าหากันอยู่อึดใจ ไม่ว่าทางไหนเขาก็เสียเปรียบเห็นๆ พลันมุมปากกระตุกขึ้นอมยิ้มกับแผนแกล้งเด็กที่เพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ ปาวัสม์จึงยอมหลวมตัวเล่นเกมกับเด็กหนุ่มอย่างเต็มใจ

“เอางั้นก็ได้”

เขากวักมือเรียกบริกรที่ยังยืนรอรับเมนูเครื่องดื่มอยู่ให้ก้มหน้าลงมาและป้องปากกระซิบกระซาบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่บริกรจะพยักหน้าและเดินหายไปหลังเคาน์เตอร์
คุณหมอหนุ่มหันกลับมาสบตาคนหน้าเป็นที่ยังทำหน้าระรื่นไม่ล่วงรู้ถึงแผนการของเขา... ยิ้มไปเถอะ! เดี๋ยวนายจะไม่มีโอกาสทำหน้าทะเล้นแบบนั้นใส่ฉันอีกแล้ว... 

“แต่ถามไปถามมาทั้งฉันและนายก็คงมีเรื่องที่ไม่อยากตอบ เพื่อไม่ให้เกมหมดสนุก ดังนั้นเราจะใช้ ‘เจ้านี่’ เป็น ‘สิทธิ์ผ่าน’”

บริกรคนเดิมเดินกลับมาอีกครั้งและวางขวดแก้วทรงกลมขนาดใหญ่บรรจุของเหลวสีเหลืองอำพันกับแก้วทรงสี่เหลี่ยมหนึ่งใบลงบนโต๊ะ

“หนึ่งช๊อตต่อหนึ่งคำถาม”

คนผมสีน้ำตาลเหลือบตาดูเครื่องดื่มมึนเมาดีกรีสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางโต๊ะไม่เชิงหวาดกลัวแต่ออกจะกังวลเสียมากกว่าเพราะนอกจากจะไม่รู้อะไรแล้วเขาอาจต้องแบกคนเมากลับบ้านฟรีอีก “ลองเล่นอาวุธหนักแบบนี้ คืนนี้ทั้งคืนเราก็อาจไม่ได้คำตอบกันเลยน่ะสิครับ”

ปาวัสม์ไหวไหล่ “กติกายังไม่จบสักหน่อย... ถ้าใครเลือกที่จะตอบ คนถามต้องเป็นฝ่ายกินแทน ตกลงไหม”

เขากอดอกมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม... สมัยเป็นเด็กแม่ของเขาทำงานบาร์  เขาจึงโตมากับร้านเหล้า สมัยเป็นวัยรุ่นเรียนชั้นมัธยมก็เป็นเด็กเที่ยวพอตัว สมัยเรียนมหาวิทยาลัยยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่เหล้าเถื่อนต้มเองยันเหล้านอกขวดเป็นหมื่นก็ผ่านลิ้นมาหมดแล้ว ครั้นจะให้อวยตัวเองว่าเป็นคนคอแข็งก็ไม่ใคร่แน่ใจเท่าใดนักเพราะก็เคยตื่นมาเจอผู้หญิงแปลกหน้านอนร่วมเตียงหมอนไม่เรียงกันอยู่บ่อยๆ ...แต่ที่จำได้แม่นยำแน่ๆ คือตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยดวลเหล้าแพ้ใครและเขาก็ไม่คิดจะเอาสถิตินั้นมาโยนทิ้งเสียวันนี้ซะด้วยสิ

...เล่นกับใครไม่เล่น เดี๋ยวจะเอาให้เดินสี่ขา เมาเป็นหมากลับบ้านไม่ถูกเลย...

เด็กหนุ่มยกมือข้างหนึ่งขึ้นจับคาง ...ตั้งกฏนี้ขึ้นมาแสดงว่าไม่คิดจะเมาคนเดียวสินะ แบบนี้ค่อยน่าลุ้น... เขาลดมือลงและเงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาคมเต็มตา ริมฝีปากกรีดยิ้มกว้างยียวน “ตกลงครับ”

ครู่เดียวอาหารที่สั่งไว้ก็ทยอยยกมาเสิร์ฟ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะท้องว่างทำให้เมาเร็วกว่าปกติ พวกเขาจึงตกลงจะเริ่มเกมหลังกินอิ่ม ความจริงปาวัสม์ก็ไม่ได้แคร์เรื่องนั้นสักเท่าไรหรอกนะแต่ตอนนี้เขาหน้ามืดจนแทบจะกินช้างได้ทั้งโขลงแล้วต่างหาก ดังนั้นเกมเกิมอะไรนั่นต้องมาทีหลัง

เพียงพริบตาของทุกอย่างก็ถูกกวาดลงท้อง ทุกจานสะอาดเกลี้ยงเกลาจนแทบพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้มันเคยใส่อะไรมา
ปาวัสม์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งยกขึ้นจับตะเข็บเสื้อนึกอยากปลดกระดุมออกสักเม็ดสองเม็ดใจแทบขาด แต่เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้าดันจ้องเขาไม่วางตา ต่อมละอายบนหนังหน้าเลยบงการให้เขาต้องแกล้งทำเป็นลูบท้องถี่ๆ แทนเผื่อว่ามันจะไปช่วยกระตุ้นอัตราการย่อยได้บ้างแม้สักนิดก็ยังดี

มือใหญ่เอื้อมหาแก้วน้ำเมื่อภาวัฒน์ฉวยแย่งเอาไปเติมน้ำแข็งและน้ำจนเต็มก่อนจะยื่นมาตรงหน้าจนขอบแก้วเกือบจะแตะริมฝีปากอย่างเอาอกเอาใจ “นี่ครับ”
ปาวัสม์หรี่ตามองคนหน้าเป็นตรงหน้า

“ไม่ต้องห่วงครับ ไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆ ลงไปแน่นอน”

“ขอบใจ” เขาบอกและรับแก้วน้ำมาดื่ม “ภาวัฒน์... นายชื่อเล่นชื่ออะไรนะ”

เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว “นั่นถือเป็นคำถามหรือเปล่าครับ” เขาแกล้งยวนทั้งที่จริงอยากตอบใจแทบขาด

มุมปากกระตุกขึ้นยิ้มเล็กน้อย ปาวัสม์วางแก้วน้ำเปล่าลงแล้วหยิบแก้วทรงสี่เหลี่ยมที่เอาไปหลบไว้จนถึงเมื่อครู่ออกมา จัดแจงคีบน้ำแข็งใส่ลงไปหนึ่งก้อนและริน ‘สิทธิ์ผ่าน’ ใส่จนเต็ม “จะตอบหรือจะกิน”

ภาวัฒน์จุ๊ปาก “เล่นอ่อยกันแบบนี้ระวังจะเสียใจทีหลังนะครับ”

ปาวัสม์หยิบแก้วเหล้ายื่นไปตรงหน้า “ถ้าไม่ตอบก็กิน”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้างไปจนถึงนัยน์ตา “พลุครับ”

คุณหมอหนุ่มชักมือกลับและกรอกของเหลวสีอำพันลงคอรวดเดียวหมด “พุ... น้ำพุน่ะเหรอ”

“นั่นก็ถือเป็นคำถามนะครับ” ภาวัฒน์รีบคว้าขวดเหล้ามารินใส่แก้วจนเต็มอีกครั้งทันที “พลุ... ดอกไม้ไฟน่ะครับ”

“พลุ” ปาวัสม์ทวนคำหลังจากดื่มแก้วที่สองหมด “เออ... จำง่ายดี มิน่าสิถึงได้ผิวสีนี้ที่แท้ก็โดนไฟไหม้จนดำนี่เอง”

“โหย หมอปืนอ่ะ พูดแบบนี้มีเคืองนะครับ ผมนี่คนเมืองเชียงใหม่แท้ๆ เลยนะ ที่ดำนี่เพราะตากแดดหรอกจริงๆ แล้วผิวผมออกจะขาวจั๊ว”

“จริงเหรอ”

“อยากพิสูจน์ไหมล่ะครับ”

“ก็อยากจะลองล่ะนะ” ปาวัสม์กรีดยิ้มยั่ว “แต่บังเอิญนายมันไม่ใช่สเปคน่ะสิ”

ภาวัฒน์ทำเสียงจึ๊กจั๊กในลำคอรำคาญผู้ชายนิสัยเสียที่ชอบหยอกให้คิดแล้วทำให้ผิดหวัง “ตาผมแล้ว ผมได้สองคำถามนะ”

“ว่ามา”

“ทำไมหมอปืนถึงมาเป็นหมอล่ะครับ”

“ฉันไม่เคยคิดอยากเป็นหมอสักนิด” ปาวัสม์ตอบจากใจจริง “ตอนเด็กๆ ฉันเกลียดโรงพยาบาลจะตาย กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อมันทำฉันแสบจมูก แถมยังมีแต่เลือดน่ากลัว แค่นั้นไม่พอฉันยังชอบหนีโรงเรียน เป็นเด็กเสเพลเต็มขั้น การบ้านก็ไม่เคยทำ สอบก็เอาแค่พอผ่าน ตอนที่บอกว่าจะมาเป็นหมอมีแต่คนคิดว่าฉันบ้า ขนาดแม่บังเกิดเกล้าแท้ๆ ยังหาว่าฉันเมาแล้วจะจับส่งเข้าสถานบำบัดเลย”

ภาวัฒน์ขำก๊าก “หมอปืนล้อผมเล่นใช่ไหม คนที่จบคณะแพทยศาสตร์อันดับหนึ่งของไทย แถมยังขึ้นว่าเป็นเทพแห่งER เนี่ยนะ... อย่ามาโกหกซะให้ยาก อมพระประธานวัดพระแก้วมาพูดผมยังไม่เชื่อเลย”

“ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่มันคือเรื่องจริง” ปาวัสม์ไหวไหล่พลางชงเหล้าแก้วใหม่ “ตั้งแต่ม.หนึ่งยันม.หก รายงาน การบ้านเคยทำเองซะที่ไหน ฝีมืออุ้ม... เพื่อนน่ะ ตอนนี้เป็นพยาบาลอยู่แผนกอายุรกรรมโรงพยาบาลเรานี่แหละ... ช่วยทำทั้งหมดเลย ไปเปิดสมุดดูสิไอ้ลายมือแปลกๆ ที่โผล่มาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยนั่นน่ะถึงเป็นของฉัน ถ้าไม่มีอุ้มฉันก็เรียนไม่จบหรอก ผู้หญิงอะไรสุดยอด ฝ่าพวกการ์ดหน้าบ่อนเข้าไปลากฉันที่กำลังเล่นไพ่ออกมาสอบปลายภาคได้ ฉันล่ะซึ้งน้ำใจเพื่อนคนนี้เลย”

“แล้วหมอจิวไปไหนล่ะครับ ก็เห็นว่าอยู่แก๊งเดียวกันนี่”

“จะไปไหนล่ะมันก็นั่งเล่นอยู่กับฉันน่ะแหละ” ปาวัสม์ว่า “คิดแล้วยังเซ็งไม่หาย เสียมาทั้งคืนกำลังจะป๊อกได้คืนอยู่พอดีเลย ไอ้อุ้มดันโผล่มาซะก่อน ทั้งที่ตัวเองก็เพิ่งจะผละออกไปอาบน้ำเตรียมไปสอบเมื่อตอนตีสามนี่เอง”

คำตอบของคุณหมอหนุ่มทำเอาภาวัฒน์ขำแทบตกเก้าอี้ “แล้วคุณหมอมากลับตัวได้ตอนไหนครับ”

“ตอนขึ้นม.หก”

“นั่นก็สายไปแล้ว”

“ช่วยไม่ได้ก็คนมันหัวดี” ปาวัสม์เลื่อนแก้วเหล้าให้เด็กหนุ่ม “ได้เวลาทำโทษแล้ว”

ภาวัฒน์รับมาดื่มอย่างไม่ลังเลและเติมเหล้าลงไปใหม่ทันที “เล่าต่อสิครับ ผมอยากฟังอีก ทำไมจู่ๆ คุณหมอถึงคิดจะกลับตัวล่ะครับ”

“ก็ไม่มีอะไรมาก” ปาวัสม์พูดเนิบช้า นัยน์ตาว่างเปล่าราวกับหลุดลอยกลับไปสู่ความทรงจำในวัยเยาว์ซึ่งให้พูดกันตามตรงแล้วไม่เคยมีฝันหรือเป้าหมายอะไรชัดเจนสักอย่าง ทุกๆ วันผ่านไปอย่างไร้ค่าและไม่มีแก่นสาร “เมื่อชีวิตมันมาถึงทางเลือกก็เลยต้องเลือก... แค่นั้นแหละ”

“ผมไม่เข้าใจอ่ะ... แล้วทำไมต้องเลือกอะไรที่มันยากๆ ด้วยล่ะ... ทำไมไม่เรียนนิเทศ บริหารหรือวิศวะไรงี้ล่ะครับ... อาชีพมีเป็นร้อย ทำไมถึงต้องเป็นหมอ”

ถ้าไม่ติดว่าเสียดายสารน้ำที่เหลือ ปาวัสม์คงเอาขวดเหล้าฟาดหัวที่ปกคลุมด้วยผมสีน้ำตาลยุ่งๆ นั้นแล้วโทษฐานถามจี้ใจดำ “ก็เพราะเพื่อนสนิททั้งสองคนของฉัน คนหนึ่งดันอยากเป็นหมอส่วนอีกคนจะไปเป็นพยาบาล แล้วแบบนี้นายคิดว่าฉันจะมีทางเลือกอะไรได้ล่ะ!”

เด็กหนุ่มหัวเราะเอิ๊กอ๊าก คิดไม่ถึงว่าคนเก่งๆ มีอุดมการณ์สูงส่งครั้งหนึ่งในชีวิตก็เคยเป็นเด็กเที่ยวธรรมดาๆ และได้เป็นหมอเพียงเพราะมาสอบตามเพื่อนเท่านั้น
จนปาวัสม์ต้องเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปฟาดแรงๆ สักทีถึงจะหุบปากได้แต่ก็ยังไม่วายอมยิ้มกลั้นขำจนหน้าขึ้นริ้ว “หยุดหัวเราะแล้วกินได้แล้ว”

ภาวัฒน์ยกแก้วขึ้นแตะริมฝีปากเมื่อคุณหมอหนุ่มถามแทรกขึ้นเบาๆ คล้ายกับพูดกับตัวเองเสียมากกว่า

“ผิดหวังหรือเปล่า”

“หมอปืนว่าอะไรนะครับ”

“สาเหตุที่ฉันมาเป็นหมอน่ะ” ปาวัสม์ถอนหายใจยืดยาว “มันน่าผิดหวังสินะ... ใครๆ ก็คิดแบบนั้น แย่งที่คนอยากเรียนมาเรียนชัดๆ เชื่อไหม สมัยเรียนฉันเคยได้รับฉายา ‘ไอ้หมอไม่ได้เรื่อง’ ‘ไอ้ห่วย’ อะไรแบบนี้ด้วยนะ”

เด็กหนุ่มมองผ่านก้นแก้วที่กำลังยกขึ้นสูง เห็นความวูบไหวเล็กๆ ในนัยน์ตาคนตรงหน้า เขากลั้นใจรีบซดรวดเดียวหมดและวางแก้วเปล่าลงเพื่อมองคุณหมอหนุ่มให้ชัดขึ้น

“ไม่เลยครับ... จุดเริ่มต้นอาจไม่สวยหรู แต่ตอนนี้หมอปืนก็ไม่ใช่แบบนั้นแล้วนี่นา” ภาวัฒน์เอื้อมมือข้ามโต๊ะไปคว้ามือคุณหมอหนุ่มและบีบแรงๆ ครั้งหนึ่ง “มีคนมากมายหายดีและรอดชีวิตเพราะมือคู่นี้ของคุณหมอ คุณหมอน่าจะภูมิใจนะครับ”

นัยน์ตาสีดำขลับที่มองตรงมาจริงจังและลึกซึ้งราวกับมันไม่ได้สบแค่ที่เลนส์ตาแต่มันแทงทะลุลงไปถึงอวัยวะในช่องอกที่เรียกว่าหัวใจ ปาวัสม์รู้สึกใบหน้าร้อนผะผ่าว ทำไมกันนะ... ทั้งที่เป็นแค่คำพูดธรรมดา แต่เมื่อผ่านออกมาจากปากเด็กหนุ่มคนนี้กลับทำให้เขารู้สึกสบายใจเหลือเกิน “ขอบใจ” เขาดึงมือกลับเพื่อยกแก้วเหล้าขึ้นซดเมื่อภาวัฒน์ห้ามไว้

“ไม่เป็นไร... เมื่อกี้ผมไม่นับครับ หมอปืนยังมีสิทธิ์ถามอยู่”

“แกล้งอ่อยกันแบบนี้ระวังจะเสียใจทีหลังนะ”

“เสียใจน่ะไม่เท่าไหร่ ขอเป็นเสียอย่างอื่นแทนได้ป่ะ” ภาวัฒน์อมยิ้มกรุ้มกริ่ม “แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่าคนเสียคงไม่ใช่ผม”

ปาวัสม์พ่นลมออกจมูกกับคำตอบสองแง่สามง่าม “งั้นทำไมนายถึงมาเป็นหน่วยกู้ชีพล่ะพลุ ยังเด็กอยู่แท้ๆ ทำไมถึงไม่เรียนหนังสือหรือไปทำงานอื่นที่มีความก้าวหน้ามากกว่านี้”

“ปีนี้ผมอายุยี่สิบ ก็ไม่ถือว่า ‘เด็ก’ แล้วนะครับ” ภาวัฒน์เสียงเข้มขึ้นมาทันที ในขณะที่ปาวัสม์ได้แต่อมยิ้มและเถียงเบาๆ ในใจว่า... ไอ้นิสัยแบบนี้แหละโคตรเด็กเลย... “ใช่ว่าผมไม่อยากเรียน ผมเรียนไม่ได้ต่างหาก ผมเคยเรียนหมอแต่ลาออกมาตอนอยู่ปีสอง”

“ขอโทษทีฉันไม่น่าถามเลย”

“ผมตาบอดสีน่ะครับ”

คำอธิบายต่อมายิ่งยังความแปลกใจอย่างถึงที่สุด “อย่ามามั่ว! ต่อให้นายอมวิหารวัดพระแก้วมาพูดฉันยังไม่เชื่อเลย”

“แค่สอบสัมภาษณ์ก็ไม่น่าผ่านแล้วใช่ไหมล่ะ” ภาวัฒน์ขำให้กับวีรกรรมของตัวเอง “ปลอมเอกสารตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล โกงตอนสอบสัมภาษณ์ ผมทำหมดแหละครับขอแค่ให้เข้าไปได้ หมอปืนรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วมันไม่ยากอย่างที่คิดเลย... ผมตาบอดสีแดง” เขาชี้ไปที่แจกันใส่ดอกไม้บนโต๊ะ “กุหลาบดอกนั้นผมเห็นเป็นสีเขียวแต่จริงๆ แล้วมันคือสีแดงใช่ไหมครับ”

ปาวัสม์พยักหน้า

“ก็แค่นั้น... โลกของผมเป็นโทนสีฟ้าเขียว แต่ผมรู้ว่า ‘โลกจริง’ มีสีอะไรบ้างด้วยหลักการถามและจำ โดยแกล้งทำเป็นลืมไปซะว่าสิ่งที่ตาเห็นจริงๆ แล้วคือสีอะไร”

“สุดยอดเลย” ปาวัสม์จุ๊ปากอย่างนึกทึ่ง

“ทีแรกมันก็เหมือนว่าจะไปได้สวย แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ไหว” ภาวัฒน์พูดต่อ “เส้นเลือดคนเรามันเยอะเกินไป คุณหมอก็รู้นี่ครับว่าการศึกษาจากร่างอาจารย์ใหญ่ด้วยเทคนิคการย้อมสีกับของจริงมันไม่เหมือนกัน... ผมหมดทริคและจนปัญญาที่จะจำ พอขึ้นปีสองเกรดก็ตกเอาๆ ตอนนั้นผมท้อแท้มากแต่คิดอีกทีถ้าผมจบไปได้มันจะดีเหรอ ถ้าชีวิตของคนๆ หนึ่งจะฝากไว้กับหมอเดาอย่างผม ผมจึงตัดสินใจลาออกก่อนที่ตัวเองจะเสียใจเกินไป แต่สุดท้ายผมก็ตัดใจจากทางสายนี้ไม่ขาด เลยหันมามุ่งมั่นกับการเป็นหน่วยช่วยชีวิตนี่ยังไงล่ะครับ” เขาสรุปอย่างภาคภูมิใจ

“ตัวแค่นี้แต่คิดได้ตั้งขนาดนี้นี่ยอดเยี่ยมไปเลย!” ปาวัสม์ชมจากใจจริง “ว่าแต่ทำไมนายถึงต้องยึดมั่นกับมันขนาดนั้นล่ะ” เขาถามต่อยิ่งรู้สึกสนใจและอยากค้นหามากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมองดูเด็กหนุ่มตรงหน้า ยิ่งเหมือนมองกระจกเงาที่สะท้อนตัวเขาเมื่อในอดีต แต่เพราะเป็นเงา ภาพที่เห็นจึงกลับกันคนละด้าน

เด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดฝันอยากทำอะไรเพื่อสังคมกลับจับพลัดจับพลูได้มาเป็นหมอ กับเด็กอีกคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นแน่แน่ว แต่กลับเดินตามฝันนั้นได้เพียงแค่ครึ่งทาง
และ ‘อะไร’ หรือ ‘ใคร’ คือตัวผลักดันให้เด็กหนุ่มพยายามถึงขนาดนี้

“ถ้านายอยากเป็นหมอเพราะอยากช่วยคน มันก็มีอาชีพอื่นอีกเยอะนี่อย่างตำรวจ ทนายความ... อะไรที่ไม่ต้องใช้สีน่ะ”

“หมอปืนก็ชมเกินไป ความจริงผมก็ไม่ใช่เด็กดีนักหรอกครับ เผลอๆ จะแสบยิ่งกว่าคุณหมออีกมั้ง และผมก็ไม่เคยคิดอยากเป็นหมอด้วย” แอลกอฮอล์ซึ่งเริ่มออกฤทธิ์ทำให้คนปากแข็งเล่าสิ่งที่เก็บอยู่ในใจออกมา นัยน์ตาสีดำขลับสบสายตาคมและส่งยิ้มให้ “แต่เป็นเพราะ ‘เขา’... ผมแค่อยากจะช่วยเป็นกำลังและอยู่เคียงข้าง ‘เขา’ ก็เท่านั้นเองครับ”

ไม่รู้ว่าปาวัสม์คิดไปเองหรือเปล่าที่จู่ๆ ประกายในนัยน์ตานั่นเจิดจ้ากว่าทุกที จนใบหน้ารู้สึกร้อนฉ่าขึ้นเรื่อยๆ เขาเสชงเหล้าแก้วใหม่เพื่อหลบสายตา “‘เขา’ ที่ว่านี่คือพ่อของนายเหรอ”

ภาวัฒน์ส่ายหน้า “‘เขา’ เป็นผู้มีพระคุณของผม”

“ผู้มีพระคุณ” ปาวัสม์ทวนคำอย่างสงสัย “แล้วตกลง ‘เขา’ นี่เป็นใครกันล่ะ”

เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นใจหนึ่งอยากระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจนี้ให้หมดเปลือก แต่พูดไปแล้วจะได้อะไรเมื่อคนตรงหน้าไม่มีวันเข้าใจและตราบใดที่เขายังไม่อาจ ‘ข้ามเส้น’ นั้นไปได้

ภาวัฒน์ตัดสินใจหยิบแก้วเหล้ามากระดกลงคอรวดเดียวหมดแทนคำตอบ

เกมยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนครึ่งค่อนคืน แม้คำถามข้อหลังๆ จะนอกแนวไร้สาระเสียส่วนใหญ่อย่างผู้หญิงในสเปค ชื่อหมาที่บ้านหรือกระทั่งยี่ห้อกางเกงในตัวโปรด แต่ก็ไม่มีใครยอมใครจนถึงที่สุด

ฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับความอ่อนล้าสะสมทำให้ปาวัสม์เริ่มออกอาการมึนนิดๆ เขาเพิ่งแพ้ด้วยคำถามง่ายๆ ที่ว่าวันนี้ใส่กางเกงในสีอะไร... ก็แหม... เข้าเวรติดกันมาสามสิบหกชั่วโมงรวด เจ้าตัวนี้นี่ใส่มาตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าแถมรีบๆ คว้ามาทั้งที่ยังเมาขี้ตาอยู่ต่างหาก ใครมันจะไปจำได้ล่ะ ไอ้ครั้นจะให้เปิดดูตรงนี้ก็กระไร เขาเลยต้องจำใจยอมแพ้ไปแบบแมนๆ

เขากระดกแก้วกลืนของเหลวอึกสุดท้ายลงคอและกระแทกแก้วเปล่าลงบนโต๊ะ รู้ตัวดีว่าถ้าแพ้อีกรอบคงไม่รอดแน่จึงตัดสินใจเผด็จศึกเด็กหนุ่มที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตาเป็นสระอิฉ่ำเยิ้มไม่แพ้กัน

...เดี๋ยวเถอะ! เดี๋ยวจะทำให้ยิ้มไม่ออกเลย…

ปาวัสม์รินเหล้าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง บางทีอาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้การตัดสินใจของเขาผิดเพี้ยนไป ในยามปกติเขาไม่มีวันกล้าถามแบบนั้นแน่ๆ แค่คิดเล่นๆ ยังขยาด แต่ตอนนี้ประโยคคำถามนั้นกลับหลุดออกจากปากง่ายดายและสิ้นคิดราวกับมันออกมาจากประสาทไขสันหลังโดยไม่ได้ผ่านการคัดกรองจากสมอง

“นาย... ไหม”

ก่อนจะถาม มีแวบหนึ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นคำถามเด็ด ต่อให้คนทะเล้นตรงหน้าใจกล้าหน้าด้านแค่ไหนก็ไม่มีวันตอบได้เด็ดขาด แต่แล้วเขาก็ได้รับรู้ในเวลาเพียงแค่เสี้ยวนาทีว่าเขาคิดผิด!

ใบหน้าครึ้มหนวดกระตุกเล็กน้อย ก่อนริมฝีปากจะแย้มออกเป็นรอยยิ้มกว้างพร้อมกับที่แก้วสี่เหลี่ยมใบเดิมถูกยื่นมาตรงหน้า และทันทีที่ของเหลวสีอำพันหยดสุดท้ายไหลผ่านลงคอปาวัสม์ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #34 เมื่อ13-12-2014 17:25:17 »

เลกกี้ขอเมาท์นิดนึงค่า....
(ขอ)ตอบ(ก่อน)
pim-lovemj ขอบคุณที่ติดตามนะคะ หวังว่าจะอยู่กันไปจนจบน้า^^ ส่วนเรื่องอดูด เอ๊ย อดีต อ่านบทที่ 2 คงพอจะเดาได้บ้างแล้วล่ะค่ะ
sirin_chadada ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
Kano Jou คิดไม่คิดก็ต้องติดตามต่อไปนะคะ
Ta_ii ดีใจมากเลยค่ะที่ชอบ
snowboxs คิด...ไม่คิด... คิด...ไม่คิด?
qxchanim ขอบคุณมากค่า ไม่เสียแรงที่หาข้อมูลเยอะมากกกกกกก
B52 ขอบคุณค่ะ
Minibusez เป็นพระเอกค่ะเลยต้องเท่นิดนึง555...เกี่ยวไหม?
Naneku อืม..........เรียนดีไหมเอ่ย? ไม่บอกดีกว่า แต่ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ชอบ^^
โคมรัตติกาล ติดตามกันไปเรื่อยๆ น้า
Nemesis ขอบคุณค่ะ
Maemix อ่านบทที 2 จะช่วยไขข้อข้องใจได้บางส่วนล่ะ อิอิ
Praewp ขอบคุณค่ะ
Tokio hotel คนเขียนก็ลุ้นแทบตายเหมือนกันค่ะว่าคนอ่านจะชอบไหม
Millet ขอบคุณค่ะ
จี้จัง ขอบคุณค่า
kail ย้ายมาค่ะย้ายมา ไม่ใกล้ไม่ไกลย่านใจกลางเมืองหลวงค่ะ 555
aiLime13 อุต๊ะ! อ่านตอนเดียววิเคราะห์คาแรคเตอร์หมอปืนได้ทะลุขนาดนี้จะมาแย่งหมอปืนจากน้องพลุป่าวเนี่ย คริคริ
Pure love ขอบคุณมากค่า... สำหรับคำชมและรีวิวในห้องแนะนำนิยาย(เค้าแอบแคปเก็บไว้ด้วย^^) แอบทำเอาเรากดดันกับตอนต่อๆ ไปมากเลยว่าจะถูกใจกันหรือเปล่า
Celestia ขอบคุณค่ะ^^
LiqueuR คนเขียนก็ฟินค่ะ ที่คนอ่านชอบ
UsslaJlwaj ขอบคุณค่ะที่จำกันได้ ตอนนั้นได้ที่ 2 ค่ะ
Sweetbasil ช่วยติดตามต่อไปด้วยนะคะ
double9JH ขอบคุณค่ะ

มาต่อแล้วนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ เลย อย่างที่บอกนี่เป็นิยายเรื่องแรกที่ลงในเล้าถ้าผิดพลาดประการใดช่วยชี้แนะด้วยนะคะ(ปกติแต่งแต่ฟิคสิงอยู่บ้านชินไทย)...แล้วก็ขออนุญาตถามหน่อยค่ะ อ่านมาสองบทแล้วพอจะเดากันออกไหมคะว่าใคร Me ใคร Ke เดาเล่นๆ นะคะไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีรางวัลด้วยแต่จะมีเฉลยในตอนพิเศษค่ะ
ปล.ถ้าพิมพ์ชื่อใครผิดขออภัยด้วยนะคะ
ปล.ด้วยภาระการงานอันหนักหน่วงเราจะเข้ามาอัพอาทิตย์ละครั้งนะคะ ช่วง ศ ส อา. วันใดวันหนึ่งบอกไม่ได้แต่จะมาแน่ๆ ค่ะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #35 เมื่อ13-12-2014 17:25:39 »

นาย...........ไหม
มันคืออะไร หมอปืนถามอะไรพลุ
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #36 เมื่อ13-12-2014 19:13:56 »

เฮ้ย ถามว่าอะไรน่อวววว
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #37 เมื่อ13-12-2014 19:29:29 »

แว้บมาให้กำลังใจค่าา
เพิ่งอ่านไปตอนเดียว แต่สนุกมากกก ภาษาสวย บรรยายได้ดีมาก มาเม้นให้ก่อน เดี๋ยวเคลียร์ภารกิจให้เรียบร้อยแล้วจะมาอ่านส่วนที่ยังตามไม่ทัน ต้องละเมียดอ่านค่ะละเมียดเขียนมาขนาดนี้  :mew1:

ออฟไลน์ RinNam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #38 เมื่อ13-12-2014 19:38:52 »

สงสารอ่า คนเรามันมีเรื่องทีบางทีก็ทำอะไรไม่ได้อยู่จริงๆนะ

ถ้าไม่ตาบอดสีก็หมอกินหมอแย้วว แต่งี้ก็น่ารักไปอีกแบบ เค้าชอบบ

ชอบคนแบบนี้นะ มีความตั้งใจแรงกล้าาา

ปล.หมอจิวนี่ยังไง เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อปะเนี่ยยยยย

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #39 เมื่อ13-12-2014 21:25:10 »

ตัดฉับ
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
นาย..............ไหม
อยากรู้แล้วค่ะ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2014 10:05:15 โดย ciaiwpot »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ER-นาทีหัวใจ
« ตอบ #39 เมื่อ: 13-12-2014 21:25:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1012
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #40 เมื่อ13-12-2014 21:28:55 »

อัพแล้วแก้หีวข้อตรงรีพลายแรกด้วยนะจ๊ะ เขียนตอ เขียนวันอัพ คนอ่านจะได้รู้ว่าอัพแล้วนะคะ  แวะมาบอกก่อนไปอ่าน



เอ๊ๆๆๆๆ หรืองานนี้เด็กกินคนแก่กันน้า
ผูมีพระคุณคือหมอปืนใช่มั้ยๆๆ แล้วเด็กที่ร่างกายโชกเลือดใความทรงจำหมอปืนเนี่ย น้องพลุรึเปล่า
น้องพลุน่าสงสารนะ ตาบอดสี โลกที่ขาสีสันไปค่อนข้างเยอะ  น้องมีความพยายามมากอ่ะ สู้ๆๆๆ จะติดตามต่อไปแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2014 07:21:50 โดย ::UsslaJlwaJ:: »

ออฟไลน์ ♥MPEGz♥

  • ชอบดูหนุ่มๆ เขาอยู่ด้วยกัน♥
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #41 เมื่อ13-12-2014 21:32:40 »

มาติดตามด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #42 เมื่อ13-12-2014 21:40:54 »

โอ้ว...ประวัติคุณหมอช่าง...เอิ่ม  แต่รักสุดๆอ่ะ ไม่สร้างภาพอะไรเล้ย
แต่ก็ดูขัดๆกับ ที่คบกับนิว ที่เอาแต่ใจโคตรๆ งี่เง่าสุดตีนได้อะนะ ไม่คิดว่าแบดบอยอย่างคุณหมอจะทนเธอได้ขนาดนี้ ยอมเกิ๊น
 น้องพลุๆ น้องน่าฟัดมาก ในความคิดของคนๆหนึ่ง อายุเท่านี้คิดได้ขนาดนี้ สุดยอดเลย อย่างพี่หมอว่า o13 o13 o13
ว่าแต่ "คนเขียน....ไหม"  :laugh:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #43 เมื่อ13-12-2014 21:45:58 »

หมอปืนถามอะไรอ่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #44 เมื่อ13-12-2014 22:33:22 »

เรา......ไหม?

กรี๊ดดดดดดดเดดเเ

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #45 เมื่อ13-12-2014 22:45:53 »

หมอปืนเสร็จเด็กแน่นแน่  :o8:
อ่านตอนนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลายมากเลยค่ะ
ตอนแรกก็หงุดหงิดแทนหมอปืนนัดอุตส่านัดไปกินข้าวกับเพื่อนอย่างดี
แต่ยัยแฟนนี่สิ เหนื่อยแทนจังเลยค่ะ หมอปืนลาออกจากการเป็นแฟนน้องนิวดีมั้ยคะ?
แล้วมาเซิ้งยันเช้า(?)กับน้องพลุแทน 55555555555555

แล้วก็ตอนที่เจออุบัติเหตุอยู่กลางถนน
ทำเราอยากรู้มากๆ เลยว่าอดีตที่ฝังใจของหมอปืนคืออะไร
เดาว่าที่เล่นเกมส์ตอบคำถามกับน้องพลุไป คำตอบที่่ว่าทำไมถึงมาเป็นหมอคงตอบไปไม่หมดหรอก (มั้ย?)

น้องพลุน่าสงสารมากเลย T_T
เราเองก็มีเพื่อนตาบอดสีเหมือนกันค่ะ เป็นอะไรที่ตัดโอกาสสำคัญไปหลายอย่างเหมือนน้องพลุเลย
อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจ คนอยากเป็นหมอ แต่สุดท้ายก็ต้องลาออก ถึงยังไงก็ได้ทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือคน
อย่างที่ชอบแล้วล่ะเนอะ ได้เจอหมอปืนอีกต่างหาก กำลังสงสัยว่าสองคนนี้มีอดีตอะไรกันรึเปล่าน้า?
อ่านตอนที่แล้วไม่ชัด แต่ตอนนี้รู้สึกมันชัดขึ้น คล้ายๆ ว่าแรงบันดาลใจของน้องพลุจะเกี่ยวข้องกับหมอปืน?
แต่หมอปืนไม่รู้ หรือไม่ก็จำไม่ได้รึเปล่า? ลุ้นๆ รออ่านตอนต่อๆ ไปนะคะ >_<


ส่วนคำถามที่คนเขียนทิ้งท้าย ตอนแรกเราคิดว่าหมอปืนเป็นพระเอก แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะ 555555555555 รอติดตามไปพร้อมๆ กันดีกว่า (แต่ก็อยากให้หมอปืนเป็นพระเอกนะคะ 555) เกรงว่าหมอปืนจะเสร็จเด็กจริงๆ นะนี่ (เสร็จอัลไลลลลลล กร้ากกก) ไปถามอะไรรรรรน้องงงงงง

ปล.เวลาอัพตอนใหม่ อยากให้แก้ไขตรงหัวข้อแล้วใส่วันที่อัพด้วยนะคะ นิยายในเล้าเยอะมาก เรากลัวพลาด หาไม่เจอ บางทีก็เบลอๆ ว่าตอนนี้อ่านไปรึยัง >_<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-12-2014 22:51:33 โดย aiLime13 »

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #46 เมื่อ13-12-2014 22:54:15 »

เขาถามอะไรกันนะ :ruready

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #47 เมื่อ13-12-2014 22:55:06 »

แอบไปหาชื่อ กับเรื่องครเขียน แล้วเจอผลงานในเด็กดี บอกตามตรงนะ  ชอบทุกเรื่องเลย ไม่ว่าเขียนเรื่องไหนมันก็สนุกอ่ะ   ชอบมากๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #48 เมื่อ13-12-2014 23:01:50 »

สนุกมากๆ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #49 เมื่อ13-12-2014 23:13:50 »

สนุกๆๆๆๆ ค่า ชอบจังเรื่องหมอๆ อิอิ
พลุคือเด็กในความทรงจำคนนั้นของหมอปืนล่ะสิ
อยากอ่านต่ออออออออออออออออออ

ปล..เชียร์ให้หมอเป็นพระเอกอ่าาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-12-2014 13:45:04 โดย JJHJJH »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
« ตอบ #49 เมื่อ: 13-12-2014 23:13:50 »





ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #50 เมื่อ13-12-2014 23:35:02 »

ตอนนี้หลงรัก หมอปืน กับ พลุ มากๆๆ
ฟังพลุเล่าเรื่องที่ตัวเองตาบอดสี แล้วสงสารจัง
อยากเห็นตอนพลุโกนหนวด  :z1:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #51 เมื่อ14-12-2014 00:34:08 »

หือออ หมอปืนถามว่าอะไรอ่ะ??   :hao6:
รอนะฮะ :')

ออฟไลน์ bluecoco

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ บทที่่ 2. รู้จัก
«ตอบ #52 เมื่อ14-12-2014 00:42:13 »

บรรยายสนุกมากเลย

น่าค้นหาอีกต่างหาก
 o13

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ดีใจจังเลยค่ะที่ได้ตามมาเจอเรื่องนี้ ฮือ ; _____ ;
บรรยายสนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วอินตามตั้งแต่ห้อง ER เลย หมอปืนเท่ห์สุดๆ >_________<
แต่ชอบน้องพลุนะคะ น่ารักแล้วก็จริงใจมากๆ ตอนน้อง CPR ให้คนไข้เด็กผู้หญิงนี่แบบ ซึ้งจับใจเลยค่ะ
คุณหมอปืนนี่ก็เก่งจริงๆ ชอบมากเลยค่ะ

อันที่จริงแอบอยากให้ไรเตอร์สอดแทรกวิธีการ CPR ลงในเรื่องด้วยนะคะเนี่ย
เด็กไทยยังมีความรู้เรื่องนี้น้อยมากจริงๆค่ะ จะมีกี่โรงเรียนที่มีหุ่นคนมาให้ลองทำลองสอบล่ะ
ทำให้เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้ป่วยถึงไม่ได้รับการช่วยชีวิตเบื้องต้นอย่างถูกวิธี เอาแต่รอรถพยาบาลกับถ่ายคลิปเงี้ย =______=
เซ็งเบาๆค่ะ . _ .

เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์และเรื่องนี้นะคะ จะรอติดตามเลยเพราะชอบอาชีพแพทย์อยู่แล้วด้วย ^^
สู้ๆนะคะ <3

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ขนลุกกกกกก แบบส่าฉากยังกับซีรี่ย์เกาหลี ลุ้นสุดๆเลยค่ะ. ะูดถึงใครเคะใครเมะ เราอยากให้หมอเมะอ่าาาา กินเด็กกระชุ่มกระชวยเติมพลังชีวิตให้หมอน้าาาา

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
 :oo1: ใช่มั้ยนะ แอร๊ยยยยยยยย

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
นิว สมแล้วที่อุ้มว่าเป็น ยัยลูกคุณหนู สุด ๆ เลยอ่ะ นิสัยแบบนี้ แล้วเป็นหมอ ตอนรักษาคนไข้นี่จะเป็นยังไงนะ
หรือนิสัยนี้เป็นเฉพาะกับแฟนเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยที่ไม่ถูกกับเพื่อนอุ้มน่ะ

โชคชะตา มักเล่นตลกกับชีวิตคนเราเสมอเลยนะ อยู่ที่ว่าคน ๆ นั้น จะมีวิธีรับมือกับมันยังไง
เสียดายโอกาสที่จะเป็นหมอของน้องพลุมากเลย แต่เด็กอายุขนาดนี้ สามารถคิดได้ขนาดนั้นนี่ ยกนิ้วให้เลย
คุณหมอปืน หวั่นไหวกับดวงตาของน้องพลุอีกแล้ว  :o8:
ทำไมคุณหมอถึงได้ฝังใจกับนัยน์ตาของเด็กชายคนนั้น(ซึ่งก็คิดว่าคือน้องพลุนั่นแหละ) ขนาดนั้น
'เขา' ของน้องพลุ ก็น่าจะเป็นหมอปืนสินะ แต่คุณหมอจำน้องไม่ได้ใช่ไหม แล้ว ' ข้ามเส้น ' ของน้องพลุนี่ คืออะไรนะ

หมอปืน คิดจะแกล้งเด็ก เป็นไงล่ะ 555  คำถามสุดท้าย "นาย...ไหม" อะไรอ่ะ ถามว่าอะไร
แล้วน้องพลุ ตอบไปว่าอะไร อยากรู้ ๆ  :ling1:
 
ใครพระใครนาย ใจจริงอยากให้หมอปืนเป็นพระเอกนะ แต่อ่าน ๆ ไป รู้สึกหมอปืนจะแพ้ทางเด็กแสบอยู่เยอะเลย
มีแววว่าจะถูกเด็กกินมากกว่านะนั่น 555  แต่แบบไหนก็ได้ค่ะ ชอบหมอปืนกับน้องพลุ รอเฉลยตอนพิเศษน้า

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เจอเรึ่องตาบอดสีนี่จุกค่ะ  ลูกชายก็เป็นเหมือนกันสีแดงด้วย ตอนนี้ยังแค่ 10 กว่าก็ยังไม่เป็นไร แต่ก็เสียใจที่โอกาสหลายๆอย่างจะไม่มีทางเป็นไปได้

ประทับใจกับอุ้มเพึ่อนสาวหมอปึนมากๆ นี่สินะผลของการมีเพึ่อนที่ดี  ส่วนนิวนี่ขาด EQ อย่างแรงเลย นึกภาพนางเหวี่ยงใส่คนไข้ออกเลยนะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สงสารพลุจัง
ว่าแต่หมอปืน
ถามอะไรไปนะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คำถามนั้นคืออะไรรรรรร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด