ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22  (อ่าน 249142 ครั้ง)

ออฟไลน์ bookie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • facebook
ใครจะเป็นคนมากำจัดนังนิว รีบๆ มาเลย ไม่ไหวกับนางแล้ว

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
พ่อพลุทำให้เรื่องมันหายไปบางส่วนหรือเปล่า?
คุณพีระถึงได้ไม่อยากเอาเรื่อง
อาจจะมีการชดใช้กันให้
แต่เราว่าพลุก็อาการสาหัสอยู่ตรงนั้นด้วยนะ
หมอปืนก็ได้ช่วยพลุด้วยไม่ใช่หรือ?
ต้องกลับไปอ่านอีกรอบ

ชะนีนิวคะ เราขอให้เพื่อนสาวของหมอปืนเป็นคนจัดการคุณนะคะ
เอาให้รากเลือดไปเลย
ไม่ผิดที่สู้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการแต่ผิดที่วิธีค่ะ   ดีออกกกกก

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ w-for-winnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
หมอนิวต้องทำอะไรกับข่าวแน่ๆเลยอ่ะ
ภาวัฒน์น่าจะเป็นคนขี่มอเตอร์ไซต์จริงๆ แต่เราเดาว่าคนที่ปาวัสน์ช่วยน่าเป็นภาวัฒน์มากกว่านะ เพราะนึกถึงตอนที่ภาวัฒน์เล่าเรื่องอุบัติเหตุในอดีตให้เทมส์ฟัง
และก็เหมือนว่าเหตุผลที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ได้มีแค่ที่พีรยุทธพูดมา น่าจะมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ

ว่าแต่ภาวัฒน์เอามอเตอร์ไซต์มาจากเชียงใหม่ได้ยังไงอ่ะ
หนีพ่อมาเรียนกรุงเทพไม่ใช่อ่อ? ไม่น่าจะหนีโดยขับมอเตอร์ไซต์จากเชียงใหม่มากรุงเทพนะ

ค้างงงงงงง
 :katai1: :katai1: :katai1:

มาต่อไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-04-2015 02:28:58 โดย w-for-winnie »

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
 :katai1:  เค้าอิ่มทั้งมาม่าและข้าวไข่เจียว

อยากกินไข่ลูกเขยยยยยย

ลุงปืนคะ อย่าใช้แต่สมองค่ะ ใช้ความรู้สึกสิคะ
สิ่งที่มองเห็นด้วยตา พิสูจน์ว่าคือความจริงไม่ได้เสมอไป

เป็นกำลังใจให้น้องพลุ เหตุผลของหนูคงมากพอถึงได้ก้มหน้าทำตามสิ่งที่นิวบอก

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
นิวกับนายน์ เห็นแก่ตัวที่สุด

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เรื่องเมื่อหกปีก่อน เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย  :monkeysad:
แต่ไม่คิด ว่าน้องพลุจะต้องมาเจอกับคู่กรณีตรง ๆ อีกครั้งอย่างนี้นะเนี่ย
สงสารน้องพลุมาก แต่ก็เข้าใจพีรยุทธนะ ไม่แปลกที่จะโกรธแค้นน้องพลุ
แต่คุณพ่อของพีรยุทธนี่สิ เป็นผู้ใหญ่ที่ใจกว้างมาก ๆ น่านับถือจริง ๆ
ว่าแต่ ทำไมอุบัติเหตุครั้งนั้น ถึงบอกว่ามีผู้บาดเจ็บแค่สองคนล่ะ
ทำไมไม่มีพูดถึงพลุ หรือว่าคุณพ่อของพลุจัดการปิดข่าวเกี่ยวกับพลุนะ
แล้วพี่หมอปืนจะเชื่อจริง ๆ ไหม ว่าเด็กคนที่ตัวเองช่วยชีวิตไว้ ไม่ใช่พลุน่ะ
มีแต่ต้องให้พี่หมอ เจอบัตรประจำตัวกับโดราเอมอนตัวจิ๋วที่ให้น้องพลุไว้สินะ
น้องพลุถึงจะปฏิเสธไม่ได้อีก แต่พี่หมอ จะได้เจอน้องพลุอีกเมื่อไรนี่สิ
น้องพลุโทรหาคุณพ่ออย่างนี้ หรือว่าจะยอมกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ
จู่ ๆ น้องพลุหายไปนี่ พี่หมอจะเป็นยังไงบ้างนะ อยากรู้จริง หึหึ

ท่าทางพี่อุ้ม จะเริ่มรู้แล้วสินะ ว่าพี่หมอปืน มีความรู้สึกพิเศษ ๆ ให้กับพลุ
เซ้นต์ของผู้หญิงก็ดีอย่างนี้แหละ รวมถึงรชญาด้วย มีแต่พี่หมอปืนนั่นแหละ
ว่าเมื่อไรจะรู้ใจตัวเองสักที หวังว่าจะไม่รอให้อะไร ๆ มันสายจนแก้ไม่ได้หรอกนะ
ตอนนี้ขอเป็นกำลังใจให้น้องพลุ ผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปให้ได้เร็ว ๆ น้า  :กอด1:


ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
อย่าไปเชื่อนังรชญานะคะ
มันร้ายนะคะคุณพี่ !!!!

โอ้ยย รู้สึกว่ามันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังยังไงไม่รู้
ยัยน้องนิวคัมแบคคืนวงการนางร้ายช่องสามได้อย่างสวยงามเลยค่ะ
โผล่มาท้ายตอนนี้ทำเอาคนอ่านรู้สึกหมั่นมาก อยากตบมาก ก๊ากกกกกกก

สงสารก็แต่น้องพลุอ่ะ ฮือออออออออ  :hao5:
เรายังเชื่อนะ เชื่อว่ามันคือปฏิหาริย์ที่หมอปืนกับน้องพลุเจอกันครั้งแรก
แล้วก็เชื่อว่าสองคนนี้ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง น้องพลุคือแรงบัลดาลใจของลุงหมอจริงๆ

ความเสียใจของน้องพลุตอนนี้มีเยอะมาก  :hao5:
ไหนจะเรื่องอุบัติเหตุเมื่อหกปีที่แล้ว ไหนจะเรื่องหมอปืน ไหนจะเรื่องที่ตกลงกับหมอนิวไว้อีก
มีลางสังหรณ์ว่าน้องพลุจะกลับมาไปหาพ่อ คือถ้าลุงหมอยังจั๊ดหง่าวอยู่อย่างนี้ก็ให้น้องพลุไปดีเถอะค่ะ
เชียร์เทมส์ล่ะเนี่ย เชียร์ออกนอกหน้ามาก 555555555555 น้องเทมส์ต้องดูแลน้องพลุด้วยนะ
ช่วงนี้จิตใจบอบบางและอ่อนไหว นี่ถ้ากระโจนเข้าไปในฟิคได้จะกอดปลอบแรงๆ แล้ว  :กอด1:


เป็นตอนที่อ่านแล้วรู้สึกว่าดราม่ามาก
ว่าแต่สปอยด์ชื่อตอนเสียงจากหัวใจตอนหน้านี่ หวังว่าจะเป็นเสียงของหัวใจหมอปืนนะคะ TvT
รู้ตัวเองสักทีเถอะค่ะ ว่าที่เป็นอยู่กับน้องพลุตอนนี้น่ะ ไม่ใช่แค่น้องชายธรรมดาๆ แหล่ววววววววว

อย่าไปฟังหมอนิวมากนะคะลุงหมอ ฮือออออ  :ling1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :call:  มาต่อๆ ขอเท้อ พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านนอกอันไร้อินเตอร์เน็ต ตั้ง 1 อาทิตย์แหน่ะ  :call:

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
บทที่ 12 ‘เสียง’ จากหัวใจ (ครึ่งแรก)

ถือเป็นเรื่องดีที่ภาวัฒน์ไม่กลายเป็นคนเก็บตัวหรือเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่รชญาคาดการณ์ อันที่จริงเขารับมือกับเรื่องทั้งหมดได้ดี ด้วยการทำตัวเหมือนปกติและปล่อยให้เรื่องซาไปเอง

จะว่าไปแล้วอย่างเดียวที่ไม่ปกติคือการที่เด็กหนุ่มหลบหน้าปาวัสม์นับตั้งแต่วันนั้น แถมยังไม่ยอมพูดด้วยแม้จะเอ่ยปากทักทายเมื่อเจอหน้ากันตรงๆ ตอนนำคนเจ็บมาส่งก็ตาม
จึงกลับกลายเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายเซื่องซึมจนไม่เป็นอันทำอะไร

ความเหงาที่น่าจะคุ้นชินวันนี้มันเป็นคนแปลกหน้าที่เขารับมือไม่ถูก

แล้วใครกันล่ะที่มาทำให้ใจหลงลืมความรู้สึกนั้นไปและเติมเต็มบางสิ่งที่อบอุ่นกว่าเข้ามาแทนที่

“พลุ...”

คุณหมอหนุ่มเม้มปากสนิท เป็นอีกครั้งที่ร่างโปร่งในชุดหมีเดินสวนไหล่เขาไปโดยไม่หันมามองกัน
ฝ่ามือที่กำลังจะยกขึ้นโบกทักทายชะงักค้างและปล่อยทิ้งคว้างลงข้างตัว ใจที่กำลังพองโตเพราะได้เห็นหน้าเหี่ยวฟีบลงเร็วกว่าลูกโป่งโดนเจาะลม พยายามคิดในแง่บวกว่าบางทีเด็กหนุ่มอาจกำลังรีบ ขาทั้งสองกำลังจะก้าวกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินเมื่อเสียงหวานๆ ของคุณพยาบาลสาวสวยดังมาจากหน้าเคาน์เตอร์

“น้องพลุมาลงทะเบียนส่งคนไข้ด้วยนะคะ”

“คร้าบ”

ร่างสูงเหลียวมองตามเสียงทุ้ม เห็นคนที่เพิ่งจะเมินใส่เขาไปหัวเราะคิกคักกับคนอื่นแล้วมันเจ็บแปลบในอก

“พี่ชโลธรคนสวยทานข้าวเช้าหรือยังครับ”

“ยังเลยจ๊ะ เพิ่งจะแปดโมงแท้ๆ แต่คนไข้ยุ่งมากเลย”

“ดีจัง ผมนึกว่าจะหิ้วไอ้นี่มาเก้อซะแล้ว” พูดพลางส่งน้ำเต้าหู้ให้สองถุง “กำลังร้อนๆ เลยรีบทานนะครับ “

รอยยิ้มร่าเริงบนเรียวปากคนผมน้ำตาลที่มักทำให้เขายิ้มตามได้เสมอ ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้กลับเป็นยิ่งกว่าคมมีดที่กรีดลงกลางใจเพียงแค่เห็นว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่ได้ถูกส่งมาให้เขา
ปาวัสม์กำมือแน่นเสียงวิทยาเรียกดังมาจากด้านในห้องฉุกเฉินแต่เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ร่างสูงก้าวยาวๆ ตรงไปที่หน้าเคาน์เตอร์และลงทุนเดินอ้อมไปอีกด้านเพื่อขวางทางออก ไม่มีทางที่ภาวัฒน์จะกลับออกไปโดยไม่เห็นเขา วันนี้จะต้องคุยให้รู้เรื่องว่าหลบหน้าเขาทำไม “คุยอะไรกันน่าสนุกเชียว”

“น้องพลุซื้อน้ำเต้าหู้มาให้ค่ะ หมอปืนมาทานด้วยกันไหมคะ” ชโลธรบอก

นัยน์ตาคมเหลือบดูของในถุงก่อนจะตวัดมองคนผมน้ำตาลที่หันหน้าหลบสายตาเขาทันควัน “คุณพยาบาลทานคนเดียวเถอะครับ เพราะดูท่าเขาจะไม่ได้ซื้อมาฝากผม”

“น้องพลุใจดีจะตายไม่ว่าหรอกค่ะ เนอะ!” ชโลธรกำลังจะหยิบน้ำเต้าหู้ออกมาหนึ่งถุงเมื่อมือหยาบเอื้อมมาดันมันกลับลงไปและดึงเอาอีกถุงขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์แทน

“ถุงนี้ไม่หวาน” ภาวัฒน์กระซิบทั้งที่ยังก้มหน้ากรอกเอกสาร

นัยน์ตาคมจับจ้องคนในชุดหมีตรงหน้า ทั้งที่หลบตาแต่ยังอุตส่าห์รู้ใจว่าเขาชอบไม่ชอบอะไร “ไม่ได้ซื้อมาฝากฉันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไม่ใส่น้ำตาลมาเหมือนๆ กันทั้งสองถุงล่ะ”

“ไม่รู้สิครับ อาแปะเขาทำมาให้แบบนี้”

“แล้ว...”

“ปืน” หนุ่มหน้าตี๋ในชุดกาวน์เดินออกมาขัดจังหวะเพราะเรียกตั้งนานแล้วแต่ปาวัสม์ก็ไม่ยอมหันมา “ออกเวรแล้วรีบไปนอนเถอะ วันนี้นายมีนัดทานข้าวกับท่านผอ.ตอนเที่ยงนี่ หรือว่านายจะนอนห้องพักแพทย์ล่ะเดี๋ยวฉันจะอยู่เป็นเพื่อนปลุกนายลุกขึ้นมาแต่งตัว”

“คุณหมอปาวัสม์จะไปคุยเรื่องแต่งงานเหรอคะ” ชโลธรถามด้วยความตื่นเต้น “ดีใจด้วยนะคะ”

“ไม่มีอะไรต้องเซ็นแล้วใช่ไหมครับ” ภาวัฒน์พูดแทรกเสียงดังพร้อมทั้งดันสมุดลงทะเบียนกับปากกาคืนให้ แล้วหมุนตัวเดินหลบร่างสูงออกไป

“นอนห้องพักแพทย์ก็ได้” ปาวัสม์ตอบเสียงแผ่วทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันที่เขาควรจะมีความสุข เขาควรจะต้องยิ้มได้ แต่ทำไมรู้สึกในใจมันว่างเปล่าเหมือนกับว่ามันหายออกไปจากช่องอก

...มันหายไปอยู่ที่ไหน...

นัยน์ตาคมเหลียวมองตามแผ่นหลังคนหัวยุ่งไปจนลับตา พลันภาพนัยน์ตาสีดำขลับที่ได้สบเมื่อครู่ปรากฏซ้ำในความคิด
ประกายวิบวับที่เห็นเสมอมาหายไปจนเกือบจะดูรื้นน้ำตา มือใหญ่เอื้อมไปหยิบถุงน้ำเต้าหู้ แต่ความร้อนที่ส่งผ่านมากลับจุดติดขึ้นที่ริมฝีปากก่อนจะแผ่ซ่านไปยังหัวใจ ภาพในค่ำคืนที่เผลอใจนั้นฉายชัดขึ้นพร้อมกับคำตอบต่อคำถามที่เฝ้าสงสัยว่าทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นกับเด็กหนุ่มที่อายุห่างกันเกือบรอบได้ถึงสองครั้งสองครา

ก้อนเนื้อในช่องอกเต้นแรงและเร็วจนเจ็บแปลบ เขาใช้ฟันกัดริมฝีปากจนเจ็บเพื่อลบรสหวานปนขมที่ปลายลิ้นยังคงจดจำได้
มือยกขึ้นกุมหน้าอกอยากจะบีบให้มันหยุดเคลื่อนไหว

แต่สุดท้ายปาวัสม์ก็ต้องยอมแพ้ เขาเอื้อมมือไปคว้าคนในชุดกาวน์ข้างกายมาซบหน้าลงบนหัวไหล่

ในที่สุดก็เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่หัวใจพยายามจะบอกมาเนิ่นนาน

OOOOOO

“เป็นอะไรปืน”

วิทยาปะเหลาะถาม หลังจากที่คว้าตัวเขาไปกอดเสียแน่นไม่ยอมปล่อยหน้าห้องฉุกเฉินนั่นปาวัสม์ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรอีก
จนใครๆ ต่างพากันจ้องมองและซุบซิบ ถามว่าเขาอายไหมถ้าจะโดนเข้าใจผิด นั่นล่ะคือสิ่งที่เขารอมานานและพร้อมช่วยกระพือข่าวด้วยซ้ำ นัยน์ตาคมที่แดงก่ำกับสีหน้าอมทุกข์ราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบนั่นต่างหากที่ทำให้เขาต้องรีบลากร่างสูงเข้ามาหลบในห้องพักแพทย์และโทรตามนุชนันท์มาช่วยเป็นการด่วน

“ทำตัวให้มันกระฉับกระเฉงหน่อย วันนี้นายมีนัดกินข้าวกับท่านผอ.ไม่ใช่เหรอ น้องนิวรอนายอยู่นะ”

“แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากเจอนิวนี่จิว” ปาวัสม์ตอบอย่างซังกะตายมาจากโซฟาตัวเก่าที่กลางห้อง การที่เพิ่งจะมาเข้าใจหัวใจตัวเองในวันสำคัญที่กำลังจะตัดสินชีวิตคู่แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเลย “ฉันอยากนอนหลับแล้วตายไปทั้งแบบนี้เลย”

“อย่าเอาเรื่องความตายมาล้อเล่น!” วิทยาเริ่มขึ้นเสียงอย่างเหลืออด “บอกมาซิว่านายเป็นอะไร นี่ฉันยังเป็นเพื่อนรักนายอยู่หรือเปล่า นายปรึกษาพวกฉันสองคนได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม”

“ฉัน... “ปาวัสม์อ้ำอึ้ง ใช่ว่าไม่อยากเล่า แต่ครั้งนี้มันแตกต่างและเขาไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน “บอกตรงๆ ฉันกำลังสับสนว่ะ ฉันเคยคิดว่าฉันรักนิว แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ใช่”

“สรุปคือนายคิดว่านายกำลังรักใครอีกคนอยู่ใช่ไหม” นุชนันท์ถามตรงๆ

ปาวัสม์พยักหน้ายอมรับ

“ถ้างั้นก็ไปบอกเลิกรชญาซะสิแล้วไปคบคนใหม่ ก็แค่ทำเหมือนกับผู้หญิงคนก่อนๆ ของนายไง” นุชนันท์พูดราวกับเป็นเรื่องลมฟ้าอากาศ

“ถ้ามันง่ายแบบนั้นก็ดีสิอุ้ม”

นุชนันท์เบะปาก “แล้วอะไรล่ะที่มันยาก”

“ฉันไม่เคยเป็นฝ่ายบอกเลิกใครก่อนเธอก็รู้” และมันเป็นเรื่องจริง ความรักทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาเป็นฝ่ายเขาที่ถูกบอกรักแต่แล้วกลับถูกบอกเลิก ด้วยเหตุผลต่างๆ นานาที่เขาไม่เคยเข้าใจว่าทำไม

“นายแค่ไม่เคยรักผู้หญิงพวกนั้นจริงๆ ต่างหาก” นุชนันท์พูดแทงใจดำ “เพราะถ้านายรักพวกเธอจริงทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นนายฟูมฟายเสียใจแบบคนกำลังอกหักเลยล่ะ นายยอมรับเหตุผลงี่เง่าพวกนั้นง่ายๆ แค่หันหลังให้กันและปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป”

“แล้วอะไรคือความรักที่แท้จริงล่ะ” ปาวัสม์ถามกลับ

นุชนันท์เหลียวมองหนุ่มหน้าตี๋และลอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

“ยกตัวอย่างง่ายๆ นะปืน สำหรับผู้หญิงที่ชื่อรชญาความรักคือการแย่งชิง... แม้จะร้ายสักแค่ไหนแต่ฉันยอมรับนะว่าอย่างน้อยผู้หญิงคนนั้นก็รักนายจริง เธอยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวนาย ไม่งั้นเธอคงไม่เอาตำแหน่งผอ.โรงพยาบาลคนต่อไปมาล่อนายหรอก คิดเหรอว่าท่านผอ.จะวางใจลูกเขยของท่านง่ายๆ ลูกสาวคนเดียวแถมขี้เอาแต่ใจอย่างรชญาคงไปคุกเข่าอ้อนวอนกับพ่อมาล่ะ”

“ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”

“มีมากกว่านั้นอีกนะ” นุชนันท์ว่า “ความรักคือการเสียสละ... ยอมเสียสละทุกอย่างได้แม้กระทั่งความรักของตนเพื่อให้คนที่รักมีความสุข อย่างพวก...” นัยน์ตากลมค้อนควับใส่หนุ่มหน้าตี๋ที่เอาแต่นั่งนิ่ง “แอบรักเพื่อนอะไรแบบเนี้ย ยอมเก็บคำว่ารักติดตัวไปจนตายเพราะไม่อยากเสียความเป็นเพื่อนไป”

ปาวัสม์นึกถึงศุภพัฒน์ มันก็คงคล้ายๆ กับแบบนั้น

“นายเคยมีความรู้สึกประมาณนี้กับใครสักคนไหมล่ะ” สาวร่างอวบพ่นลมออกจมูกพร้อมกับเบะปาก “คงจะไม่มีสินะ!”

“ตอนนี้ฉันเจอแล้วล่ะ”

นุชนันท์เลิกคิ้ว “แน่ใจ?”

ปาวัสม์พยักหน้า “เป็นครั้งแรกที่มีคนมาทำให้หัวใจฉันเต้นแรงได้ขนาดนี้ คนที่ทำให้ฉันหายเหงาและยิ้มได้ทุกครั้งเพียงแค่นึกถึง”

“ก็ไปเขาบอกซะสิ ไม่ต้องมาบอกฉันหรอก” นุชนันท์กอดอกด้วยความหมั่นไส้ ไม่ใช่แค่คำพูดแต่เป็นเพราะขณะที่พูดถึง ‘คนนั้น’ แววตาของชายหนุ่มอ่อนโยนและเต็มตื้นอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

“ก็อยากจะทำนะ” ปาวัสม์อ้ำอึ้ง “แต่ติดตรงคนที่ฉันตกหลุมรักเป็นผู้ชาย”

“นายพูดบ้าอะไรน่ะปืน!” วิทยาที่นั่งฟังเงียบๆ ไม่ออกความเห็นมาโดยตลอดลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดังปัง “นายไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย นายชอบผู้หญิงนะ!”

“คนๆ นั้นเป็นใคร” นุชนันท์ตาโต มือทั้งสองกำชายกระโปรงชุดพยาบาลแน่น เธอไม่ได้ตกใจที่เพื่อนกำลังจะกลายเป็นเกย์แต่ตกใจว่าใครกันที่ทำให้คนที่ไม่รู้จักความรักอย่างปาวัสม์ยอมรับออกมาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้

นัยน์ตาคมเหลียวมองเพื่อนรักทั้งสองสลับกัน เขาใช้ฟันหน้ากัดริมฝีปากจนเจ็บ ยังคิดไม่ตกจนนาทีสุดท้ายที่จะตอบออกไป
แต่เพียงกระพริบตาพลันภาพของใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นชัดเจน และเขาปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ปาวัสม์กระซิบแผ่วเบาทว่าหนักแน่น

“ฉันชอบพลุ”

“เรื่องจริงเหรอ” วิทยาทรุดตัวลงนั่งทันทีที่ได้ยินชัดเต็มสองหู

“มันเป็นไปไม่ได้สินะที่ฉันจะไปรักกับผู้ชายด้วยกัน” นัยน์ตามคมหลุบลงมองปลายเท้าตัวเอง สองมือที่กุมประสานไว้ตรงหน้าเย็นจนไร้ความรู้สึก

นุชนันท์ไม่คิดจะถามย้ำ คำตอบในสายตาอธิบายได้ดียิ่งกว่าถ้อยคำใด เธอมองร่างสูงที่นั่งไหล่ลู่ลงด้วยสายตาที่อ่อนลง

“ก่อนจะพูดฉันขอออกตัวก่อนว่านี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันไม่ชอบขี้หน้ารชญา และฉันไม่ได้รู้สึกดีไปมากกว่าเดิมถ้าเพื่อนรักของฉันจะตัดสินใจหันหลังให้ผู้หญิงและไปเลือกผู้ชายอีกคน”

“พูดมาสิ”

“มันก็แค่ความรัก” นุชนันท์บอก “และความรักมันไม่มีเพศ อย่าเอาความคิดและค่านิยมมายัดเยียดให้ความรัก ถ้านายถามความเห็นฉัน ฉันก็ตอบนายได้เต็มปากว่าฉันไม่คิดอะไรและไม่เสียใจเลยไม่ว่านายจะเลือกใครหรือรักใคร ขอแค่อย่างเดียวปืน...” เสียงหวานปนดุเต็มไปด้วยความอ่อนโยน มืออวบเอื้อมไปบีบมือใหญ่แรงๆ ครั้งหนึ่ง “ขอแค่นายเลือกคนที่นายรักและคนที่ใช่สำหรับนาย และการตัดสินใจนั้นจะไม่ทำให้นายต้องมานั่งเสียใจภายหลัง”

“ขอบใจนะอุ้ม” รอยยิ้มค่อยคลี่ขึ้นบนเรียวปากร่างสูง นัยน์ตาคมสบนัยน์ตาสาวร่างอวบอย่างซึ้งใจและขอบคุณที่เข้าใจเขาเสมอมา

พลันเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้น ปาวัสม์เหลือบตามองชื่อบนหน้าจอเพียงอึดใจ

“นิวโทรมาตามแน่ะ” เขาบอกสั้นๆ “ขอตัวก่อนนะ แล้วเย็นนี้กลับมาเข้าเวรจะมาร้องไห้ให้เธอปลอบนะจ๊ะที่รัก” ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อกาวน์โยนไว้บนโซฟาและเดินไปที่ประตู

“พร้อมเสมอจ๊ะ”

 “อุ้ม” วิทยาเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อบานประตูปิดลง

“อะไรแก”

“เจ็บว่ะ” วิทยากระซิบมือทั้งสองที่กุมกันไว้จิกแน่นจนเล็บฝังลงไปในเนื้อ แต่เขากลับไม่รู้สึกใดๆ เลยเพราะนาทีนี้มันถูกบดบังด้วยความเจ็บปวดจากที่อื่นจนสิ้น “เจ็บที่สุด”

“ฉันขอโทษที่...”

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ” วิทยาส่ายหน้า “เพราะฉันตัดสินใจไปแล้วแบบนั้น ยังไงมันก็ต้องเจ็บ ที่เธอพูดแบบนั้นไม่ใช่แค่ให้ปืนตัดสินใจให้เด็ดขาดแต่เพื่อจะให้ฉันตัดใจด้วยใช่ไหม ขอบใจนะ” วิทยายกแขนขึ้นโอบรอบตัวนุชนันท์และกอดเธอแน่น รู้สึกขอบคุณจากใจจริงๆ “ฉันจะลืมปืนให้ได้” ปากบอกเช่นนั้นแต่ในขณะเดียวกัน ในส่วนลึกของหัวใจเขารู้ดีว่าเขายังตัดใจไม่ได้ตราบใดที่มันยังเจ็บจนแทบขาดใจแบบนี้

********************************************TBC*********************************************

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
บทที่ 12 เสียงจากหัวใจ(ครึ่งหลัง)

วิทยานั่งเหม่ออยู่ในรถ หลังจากได้รับฟังเรื่องราวจากปากเพื่อนที่ตนแอบรักมานานทำให้เขาคิดอะไรไม่ออก สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือกลับบ้านแต่ใจที่อ่อนล้าพาให้ร่างกายหมดเรี่ยวแรงจะทำอะไร เขานั่งจมอยู่ในรถมาร่วมชั่วโมงเศษแล้ว กุญแจก็เสียบคาอยู่

เขาสตาร์ทรถ มือจับพวงมาลัยเตรียมจะเหยียบคันเร่งแต่แล้วก็กลับถอนหายใจดับเครื่องแล้วซบหน้าลงบนพวงมาลัย วนเวียนอยู่แบบนี้เป็นวัฏจักรซ้ำแล้วซ้ำอีก

จนตะวันตกดินและฟ้าเริ่มมืด เสียงฝีเท้าเดินมาตามทางของลานจอดรถดังแว่วมา แต่วิทยาไม่สนใจ ที่นี่เป็นลานจอดรถของโรงพยาบาลจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนมา แม้เสียงฝีเท้าจะเข้ามาใกล้มากแต่เขาก็ยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมา

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะเบาๆ ลงบนกระจกรถฝั่งคนขับปลุกให้หนุ่มหน้าตี๋สะดุ้งตื่นจากภวังค์ของความคิด เขาหันไปมองด้วยความตกใจแต่แล้วก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แม้จะไม่อยากเจอแต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า

“สวัสดีครับหมอจิว” รติพัทธเรียก ใบหน้ายิ้มแป้น “ในที่สุดก็หาคุณเจอจนได้ โชคดีจังที่คุณยังไม่กลับบ้าน ไปทานข้าวเย็นด้วยกันไหมครับ”

“ไปไกลๆ เลยไป วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับนาย”

ผู้หมวดหนุ่มกำลังจะเล่นลิ้นต่อตามประสาแต่แล้วท่ามกลางแสงสลัวในลานจอดรถ เขาก็สังเกตเห็นขอบตาที่บวมช้ำ นัยน์ตาที่แดงก่ำและสีหน้าอมทุกข์ที่เหมือนกำลังแบกโลกไว้ทั้งใบของคนที่นั่งอยู่ในรถ “ใครทำอะไรคุณ” เขาถามเสียงเครียดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีใครทำอะไรฉันทั้งนั้น หรือถ้าจะมีก็คงเป็นนายนี่แหละ”

“งั้นมานี่เลย” จู่ๆ รติพัทธก็เลือดขึ้นหน้า เขาไม่ได้โกรธที่ถูกต่อว่าแต่เขาโกรธว่าใครกันที่เป็นคนมาทำให้วิทยาอยู่ในสภาพแบบนี้ และเมื่อคำตอบที่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวคือปาวัสม์มันกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่าจะสนุกเหมือนที่ผ่านๆ มา

“นั่นนายจะทำบ้าอะไร” วิทยาร้องเสียงหลงเมื่อรติพัทธเปิดประตูรถแล้วจับเขาโยนไปนั่งฝั่งข้างคนขับและมุดขึ้นรถมานั่งแทนที่  วิทยาพยายามขัดขืน ทั้งผลักทั้งดันรติพัทธออกไป

“ก็ถ้าในเมื่อผมจะโดนคุณต่อว่าตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร” รติพัทธคว้าข้อมือทั้งสองของวิทยาไว้และรวบไว้ในมือข้างหนึ่ง “ผมก็ขอทำอะไรให้สมกับที่โดนหน่อยก็แล้วกัน” เขาพูดเสียงดังและมันไม่ใช่การขู่ ร่างสูงใหญ่โน้มตัวข้ามคนตัวเล็กกว่าไปคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ ก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไป

“นายจะพาฉันไปที่ไหน!”

“นั่งไปเงียบๆ เดี๋ยวก็รู้เอง”

“อย่ามาเสียงดังใส่ฉันนะ เจ้าเด็กบ้านี่!” วิทยาคว้าไหล่รติพัทธ “จอดรถเดี๋ยวนี้นะ!”

รติพัทธกระทืบเท้าลงบนเบรคทันทีตามคำขอ รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงหยุดกึกกลางถนน ทั้งสองหน้าเกือบทิ่มกับคอนโซลรถจากแรงเฉื่อย โชคดีที่ทั้งคู่คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ แต่รถที่ขับตามมาข้างหลังเกือบจะไม่โชคดี เสียงบีบแตรรถยาวด้วยความโมโหลากดังก้องทั้งท้องถนน

“นี่นายเป็นบ้าอะไรจู่ๆ ก็หยุดรถ” วิทยาเหลียวมองด้านหลังเลิกลั่ก ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

“ก็คุณเป็นคนบอกให้ผมหยุดเองไม่ใช่เหรอ” รติพัทธคว้ามือทั้งสองข้างของวิทยาแล้วกระชากเข้าหาตัว “เลิกเสียงดังแล้วทำตัวดีๆ นั่งไปเงียบๆ ไม่งั้นคุณก็จะได้รู้เดี๋ยวนี้แหละว่าไอ้เด็กบ้าคนนี้จะทำอะไรบ้าๆ ได้อีกบ้าง”

หนุ่มหน้าตี๋แสยะยิ้มยั่วอย่างไม่กลัวเกรง “‘เด็ก’ ปากดีอย่างนายจะมีปัญญาทำอะไรได้”

รติพัทธดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้จนแทบจะนั่งบนตัก เขากรีดยิ้มกว้างกว่า และยื่นหน้าเข้าไปใกล้เสียจนเกือบจะชิด “อยากรู้เหรอว่าเด็กอย่างผมจะทำอะไรได้” ก้มหน้าลงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู “ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก แต่ขอเตือนไว้ก่อนละกันว่าของบางอย่างไม่ได้ใช้ปัญญาทำ” และแกล้งพ่นลมใส่หูหนุ่มหน้าตี๋จนขนแขนลุกชูชันและสะบัดตัวหนีไปจนชิดประตูอีกฝั่ง

ใบหูของวิทยาเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ เขาอยากจะอ้าปากเถียงต่อแต่ก็เปลี่ยนใจกัดริมฝีปากไว้

รติพัทธมองคนที่กำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขาด้วยหางตาแล้วอดอมยิ้มออกมาไม่ได้ นี่เขาไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าผู้ชายคนนี้น่ารัก บางสิ่งที่อยู่ภายใต้เสื้อที่สวมไว้เต้นกระทบผนังอกจนเขารู้สึกได้ราวกับมันกำลังพยายามเคาะบอกอะไรบางสิ่ง

“นั่งดีๆ นะครับ” 

รติพัทธแกล้งพูดเสียงเข้มและสตาร์ทรถอีกครั้ง อารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย ปลายเท้าที่กดเหยียบคันเร่งราวกับจะกดปิดเสียงที่ดังอยู่ในอก

เปล่า... เขาไม่ได้อยากจะปฏิเสธหรือเก็บซ่อนมันไว้ แต่เขาจะไปอยากได้ยินสิ่งที่มันอยากจะบอกทำไมล่ะในเมื่อตอนนี้เขารู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร

OOOOOO

“คุณดื่มเยอะเกินไปแล้วนะครับ” รติพัทธบอกพลางดึงแก้วเหล้าออกจากมือบาง เริ่มนึกเสียใจที่พาวิทยามาที่นี่ ทีแรกเขาแค่คิดอยากจะให้ชายหนุ่มได้ดื่มและระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่าหนุ่มหน้าตี๋กลับซดเหล้าหมดเป็นขวดๆ ไวเสียยิ่งกว่าน้ำเปล่าจนเขาตกใจ

“ช่างฉัน”

วิทยาบอกพร้อมทั้งเอื้อมมือมาแย่งแก้วคืนแต่ด้วยความสูงและโครงสร้างร่างกายที่เล็กกว่าจึงไม่มีทางไหนเลยที่เขาจะเข้าถึงตัวอีกฝ่าย วิทยาจึงเปลี่ยนเป้าหมาย เขาหันไปคว้าขวดเหล้าและยกขึ้นซดเพียวๆ ก่อนจะสำลักให้กับความขมที่บาดคอและกระแทกขวดเหล้าที่เหลือลงบนโต๊ะ

“บอกฉันทีว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เมื่อเหล้าเข้าปากความจริงที่อยู่ลึกที่สุดของใจก็เริ่มพรั่งพรู “ใช่! นายมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ปืน... ฉันอุตส่าห์ตั้งปฏิญาณไว้แล้วว่าจะอดทนว่าจะไม่พูดจะยอมเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว ทำใจแล้วกับรักข้างเดียวที่ไม่มีวันสมหวังเมื่อนายไม่ใช่เกย์ แล้วทำไมล่ะปืน ในเมื่อนายรักผู้ชายคนนั้นได้แล้วที่ฉันอดทนมาเกือบยี่สิบปีนี่เพื่ออะไร มันเรื่องบ้าอะไร!!”

“หมอจิว!” รติพัทธร้องอย่างอ่อนใจ จริงอยู่ว่าทีแรกเขาตั้งใจจะมอมเหล้าวิทยาให้เมา แต่ครั้นเอาเข้าจริง พอได้เห็นคนตรงหน้าเมาและเริ่มฟูมฟายกลับกลายเป็นเขาเองที่รู้สึกเจ็บแทนจนทนไม่ได้ “พอเถอะครับผมขอร้อง” คนๆ หนึ่งทำไมต้องอดทนเก็บความรักเพื่อใครสักคนมานานขนาดนี้ นั่นเป็นเรื่องที่เพลย์บอย อย่างเขาไม่เคยเข้าใจสักนิด

เขาคิดว่ารักเป็นสิ่งสวยงามแต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่จีรัง เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีรักก็ควรรีบฉกฉวยความสุขจากรักนั้นไว้ก่อนที่มันจะจบลง และบังเอิญที่ความรักของเขามันก็ยาวพอแค่วันไนท์แสตนด์

“ไม่พอ” วิทยายกขวดเหล้าขึ้นซดอีก “ขอเถอะวันนี้ฉันอยากเมา ฉันอยากลืมเรื่องปืนให้หมด”

“เหล้ามันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอกนะครับ” รติพัทธคว้าร่างบางที่กำลังซวนเซไว้ไม่ให้ล้มและสามารถชิงเอาขวดเหล้ามาจากคนเมาได้สำเร็จ

“ใช่!” วิทยาตอบขึ้นมาจากอ้อมอกที่เขายืนพิงไว้ “เหล้าไม่ใช่คำตอบแต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ฉันลืมคำถาม... ลืมว่าครั้งนึงฉันเคยรักเขามากขนาดไหน”

รติพัทธโอบมือรอบแผ่นหลังชายหนุ่มที่สั่นสะท้าน “คุณอยากลืมจริงๆ เหรอ”

วิทยาชกมือเปะปะลงบนหน้าอกกว้าง “ใช่! เพราะงั้นส่งเหล้ามาให้ฉันได้แล้ว”

“เหล้ามันทำให้ตับพัง” รติพัทธกระชับวงแขนแน่นขึ้นเล็กน้อยและก้มหน้าลงกระซิบถ้อยคำที่ข้างหู “คุณลองอย่างอื่นดีกว่า นอกจากเมาแบบไม่ทำลายสุขภาพแล้วยังมีความสุขอีกด้วย”

“จริงสินายเป็นตำรวจนี่” ใบหน้าแดงก่ำของคนเมาเงยขึ้นมาด้วยความสนใจ “ไหนนายมียาอะไรมาเสนอฉัน”

“สัญญามาก่อนสิว่าถ้าลองแล้วคุณจะไม่เสียใจ”

“เอามาลองก่อนสิ”

ริมฝีปากกรีดยิ้มพราวระยับไปจนถึงนัยน์ตา “ถือว่าคุณสัญญาแล้วนะ”

ร่างสูงกว่าก้มหน้าลงต่ำและประกบริมฝีปากตนลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายที่แม้เมามายเต็มที่หากยังปิดสนิทอย่างขัดขืน แต่รติพัทธไม่เร่งรัดเขาขบเม้มกลีบปากบางพร้อมทั้งใช้ปลายลิ้นสัมผัสหยอกเย้าเบาๆ ก่อนจะถอนริมฝีปาก

“นายทำอะไรน่ะ” วิทยายกหมัดขึ้นเงื้อแต่แรงคนที่ไม่เคยออกกำลังกายซ้ำยังเมาหรือจะสู้คนออกกำลังทุกวันได้ 

“คุณสัญญาแล้วนะว่าจะไม่เสียใจ” รติพัทธกระซิบ ริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่แถวจมูกอีกฝ่ายรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกัน “มาเมาไปกับผมเถอะนะหมอจิว คืนนี้ผมจะดูแลคุณเอง”

“ผู้ชายฉวยโอกาสอย่างนายนี่มัน...”

“เอาเถอะครับจะด่าผมยังไงก็ได้เพราะผมไม่ใช่พระเอกของคุณมาตั้งแต่ต้นแล้วนี่” สิ้นคำรติพัทธก็ประกบปากลงมาอีกครั้ง ที่ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่เต็มใจแต่คนตัวเล็กกว่าก็ยินยอมให้เขารั้งร่างเข้าแนบชิด

OOOOOO

วิทยาลืมตาตื่นขึ้นในความมืด แม้จะเมามายแต่เขาก็ไม่ได้ขาดสติถึงขั้นไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป นัยน์ตาเล็กตี่เหลียวมองร่างกำยำที่ตอนนี้เขาหนุนนอนต่างหมอนไว้ ร่างนั้นกำลังหลับสนิทสังเกตได้จากเสียงกรนเบาๆ ที่ลอดออกมาจากริมฝีปาก

วิทยาดันกายลุกขึ้นนั่งรู้สึกเวียนหัวอย่างที่สุดแต่มันคงจะดีกว่าถ้าเขาจะสามารถจากไปก่อนที่อีกฝ่ายจะลืมตาตื่น พอแล้วล่ะกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนเพราะเพลย์บอยอย่างรติพัทธคงคิดไม่ต่างกัน ไม่สิ! หมอนี่ก็หวังแค่ร่างกายเรามาแต่แรกอยู่แล้วนี่ เขายันตัวจะลุกขึ้นยืนเมื่อพบว่าเอวของเขาถูกโอบรัดไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรงของผู้หมวดหนุ่ม

“ปล่อยได้แล้ว” วิทยากระซิบ หากร่างนั้นกลับขยับตัวเข้าหาและกอดแน่นขึ้นอีกราวกลับรู้ว่าเขากำลังพยายามจะหนีไป “อย่ามาทำเหมือนคนรักกันน่า” พึมพำในลำคอพร้อมทั้งออกแรงแกะแขนอีกฝ่ายออกจากตัวก่อนจะควานเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่รอบห้องมาสวมใส่และกลับออกไปเงียบๆ

“เพิ่งสังเกตนะว่าแมนชั่นหมอนี่หรูเอาเรื่อง” วิทยาตั้งข้อสังเกตเมื่อมาถึงที่จอดรถและขับออกไป ฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่หัววันเริ่มตกพรำๆ “เอาไงดีพรุ่งนี้เข้าเวรเสียด้วย จะกลับไปนอนบ้านหรือว่าไปอาบน้ำที่โรงพยาบาลดีนะ”

พลันสายตาเหลือบไปเห็นคนในชุดหมีสีดำคาดแถบสีส้มสะท้อนแสงโบกไฟขอทางอยู่ข้างหน้า เขาแตะเท้าเหยียบเบรกทันที และลดกระจกลงถาม

“เกิดอะไรขึ้นเหรอน้อง”

“รถชนกันสามคันน่ะพี่ คนเจ็บเต็มเลย” คนในชุดหมีตอบ “พี่รีบไปเถอะรถติดจะแย่แล้ว เดี๋ยวรถพยาบาลจะฝ่าเข้ามาไม่ได้”

ได้ยินดังนั้นวิทยาก็ชิดรถเข้าข้างทาง เปิดไฟผ่าหมากและกระโดดลงจากรถ

“เฮ้ย! พี่ทำอะไรน่ะ ผมบอกให้พี่รีบไปไง”

“ผมเป็นหมอ” วิทยาตอบ “คนเจ็บอยู่ไหน”

“คุณหมอทางนี้ครับทางนี้” เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งสัญญาณเรียกเขามาจากกองของสิ่งที่เคยเป็นยานพาหนะสองคันที่ตอนนี้บี้แบนจนแทบจะเป็นคันเดียวกัน และถัดออกไปไม่ไกลรถอีกคันหงายหลังเอาล้อชี้ฟ้าสภาพยับเยินไม่ต่างกัน

วิทยาพุ่งไปที่ร่างคนเจ็บที่ยังติดอยู่กับซากรถฝั่งข้างคนขับ เขาไม่ได้สติแต่ยังคงหายใจ

“คุณหมอช่วยดูเขาไว้ทีนะครับ ระหว่างนี้พวกผมจะพยายามตัดเอาประตูนี่ออก”

“แล้วคอลล่าร์ (Collar) ล่ะครับ” วิทยาถามถึงอุปกรณ์สำหรับประคองคอขณะเคลื่อนย้าย

“คนเจ็บมีจำนวนมากเกินไปครับคุณหมอ อุปกรณ์ของเรามีไม่พอ” เจ้าหน้าที่กู้ภัยตอบ “ฝนตก รถติดแบบนี้จะรอหน่วยอื่นมาช่วยคงไม่ทันการ”

“เดี๋ยวก่อนครับ” วิทยาบอกพลางมุดเข้าไประหว่างช่องหน้าต่างที่แตกออก “พวกคุณอย่างเพิ่งขยับ ผมจะเซฟคอเขาไว้ด้วยมือเอง”

“คุณหมอมันอันตรายระวังตัวด้วยนะครับ”

“ขอบคุณครับ ผมรู้ความเสี่ยงดี พวกคุณรีบจัดการเถอะ”

ในที่สุดเขาก็พาคนเจ็บออกมาได้ แม้จะในสภาพทุลักทุเลแต่ก็ปลอดภัยและใช้เวลาน้อยกว่าที่คาดไว้

“คุณครับตื่นๆ” วิทยาเรียกปลุกจนคนเจ็บเริ่มรู้สึกตัว “คุณประสบอุบัติเหตุ ผมและหน่วยกู้ชีพกำลังช่วยคุณอยู่ คุณปวดคอไหมครับ”

คนเจ็บส่ายหน้า “ปวดหัว”

“ครับ คุณมีแผลที่หัวครับ” วิทยาบอก “คุณขยับนิ้วมือ ได้ไหมครับ” คนเจ็บทำตามอย่างว่าง่าย “นิ้วเท้าล่ะ... เยี่ยมครับ ตอนนี้ผมต้องไปดูแลคนอื่นคุณนอนรออยู่ตรงนี้เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะเอาเปลมารับคุณไปส่งโรงพยาบาลนะครับ “

“คุณหมอครับมาช่วยทางนี้หน่อยครับ”

“ได้ครับ” วิทยาลุกขึ้นยืนและกำลังออกวิ่งเหยาะๆ ไปเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูและพบว่ามาจากรติพัทธ เขากดตัดสายทิ้งทันทีโดยไม่ลังเล เพราะเขาไม่ยังอยากคุยและต้องการตั้งสมาธิกับการช่วยคนเจ็บตรงหน้ามากกว่าด้วย

“คุณหมอครับทางนี้ครับ”

วิทยาโบกมือให้สัญญาณว่าได้ยินแล้ว เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเขาไม่คิดจะหยิบมันขึ้นมาดูอีก ได้แต่ปล่อยให้มันดังจนสายตัดไปเองอยู่อย่างนั้น

“เสียงโทรศัพท์คุณหมอหรือเปล่าครับ” หนุ่มกู้ชีพคนหนึ่งทักขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์ปริศนาดังต่อเนื่องไม่หยุด กะคร่าวๆ อย่างน้อยก็น่าจะร่วมสิบสายแล้ว

“ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอก” วิทยาบอกอย่างไม่ใส่ใจพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตัดสาย “รีบไปช่วยทางโน้นต่อเถอะ” พร้อมกับลุกเดินกึ่งวิ่งนำไปยังอีกฟากหนึ่งของถนนที่ยังมีคนเจ็บนอนอยู่

ทันใดนั้นท่ามกลางความมืดสลัว แสงไฟสูงจากไฟหน้ารถส่องกราดมาจนทำให้สองตาของเขาพร่ามัว วิทยาได้ยินเสียงบีบแตรยาวพร้อมกับเสียงตะโกนแต่ว่าทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วเสียจนเขาไม่อาจตั้งตัว

“คุณหมอ! ระวัง!”

เอี๊ยด! โครม!

ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปราย วิทยานอนหงายอยู่บนพื้นถนนมองท้องฟ้าเวิ้งว้างสีดำสนิท นึกไม่ออกว่าเกิดอะไรเพิ่งขึ้นกับเขา ร่างกายไม่รับรู้แม้กระทั่งความเจ็บปวด ไม่ได้ยินแม้เสียงอึกทึกรอบตัว สิ่งเดียวที่รับรู้ในตอนนี้คือเสียงโทรศัพท์ในมือที่ยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด ซึ่งในที่สุดเขาก็ยอมกดรับสายและยกขึ้นแนบหู

‘หมอจิว นี่คุณอยู่ไหนทำไมจู่ๆ ก็ออกไปล่ะ บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าตื่นก่อนก็ให้ปลุกผมด้วยเดี๋ยวจะออกไปส่ง’ เสียงรติพัทธดังแหวกอากาศขึ้นมาทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาหงุดหงิดมากขนาดไหน

“ไม่จำเป็น” วิทยากรอกเสียงลงไป

‘ไม่จำเป็นได้ไงครับ’ รติพัทธยังไม่เลิกเสียงดัง ‘ก็ผมเพิ่งจะ... เอาเป็นว่าผมเป็นห่วงคุณนะครับหมอจิว ให้โอกาสผมได้ดูแลคุณเถอะนะครับ’

“ไม่จำเป็น”

‘ไม่จำเป็นอะไรครับ นี่หมอจิว...’ และเขาคงจะโวยวายต่อเนื่องถ้าไม่ใช่ด้วยประสบการณ์ของการเป็นตำรวจทำให้เขาคุ้นชินกับเสียงไซเรนและนึกเอะใจทันทีในความไม่ปกติแม้มันจะเป็นเพียงเสียงที่ดังแว่วผ่านตามมาสายโทรศัพท์ก็ตาม ‘นั่นเสียงรถหวอนี่ เกิดอะไรขึ้น... ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนปลอดภัยดีใช่ไหม!’

ถึงตอนนี้วิทยาเริ่มขยับริมฝีปากตอบคำถามอย่างยากเย็น “ไม่เป็นไร” พูดได้เท่านั้นสติก็ดับวูบ โทรศัพท์หลุดจากมือตกลงข้างตัว ในขณะที่ปลายสายยังคงตะโกนเรียกไม่หยุด

เขาได้ยินเสียงที่กำลังตะโกนคล้ายคนกำลังเป็นบ้า เสียงคนโหวกเหวกโวยวาย ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเม็ดฝนที่หล่นกระทบหน้า แต่ทำไมนะเขาถึงไม่ได้ยินเสียง... หัวใจตัวเอง

*********************************************************************************************

ก็ยังคงยืนยันกระต่ายขาเดียวว่านี่ feel good
ที่แรกว่าจะลงแค่ครึ่งแรก แต่เราว่าเราโดนฆ่าปาดคอแน่เพราะมันค้างก็เลยกลั้นใจลงจนจบ
หมอจิวก็หลวมตัวเมาไปกับแล้วสินะ :hao5:
(มา! จะมมาม่า ไข่เจียว ไข่ลูกเขย เอามาเทรวมกันซะเลย... แต่เราอยากกินไข่หมอ เอ๊ย! ไม่ใช่!.... ไข่ไรดีแว้ ตบมุกตัวเองไม่ลงอ่า)

ตอนหน้า ไม่สปอยชื่อตอนล่ะ แต่จะแอบกระซิบว่าจะคลายปมแล้ว
เรื่องดำเนินมาจนเกือบจะถึง  'นาที่สุดท้ายของหัวใจ' เต็มที่แล้ว
ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กันเสมอมานะคะ^^ ทั้งRecommendดีๆ และรีวิวน่ารักๆ

ปล.แอบเห็นคนเชียร์น้องเทมส์... อยากบอกนี่ก็เชียร์ เบื่อหมอปืนเต็มทีล่ะ รักไม่รักก็เอาสักทีสิปัดโธ่ววววววววววววววววววว!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2015 02:14:06 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
นี่ขนาด feel good แล้วนะเนี่ย  :hao4:

หมอจิวคะเจ็บแต่อย่างน้อยหมอก็ไม่ได้ทรมาณอย่างเดียวดายนะคะ
อิลุงปืนคะ  ไม่เรียกหมอปืนแล้วนะ
แมนหน่อยน่า  ยึดอกบอกความจริงไปเลย
เลิกกับคุณดอกชะนีนั่นเสีย
เผลอๆยังทำงานต่อได้อีกนะถ้าหากว่าท่านผอ.รพ มีวิจารณญาญพอ
ท่านน่าจะรู้ดีแล้วยอมย้ายลูกสาวดีกว่า
อย่าได้ทำเวรทำกรรมกับมวลมนุษยชาติที่ต้องใช้บริการโรงพยาบาลท่านยด้วยการปล่อยให้ลูกสาวท่านทำงานต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :a5:  ห๊ะ จะจบแล้ว นาทีสุดท้ายของหัวใจ  :hao7:

ออฟไลน์ w-for-winnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
วิทยานี่อึดไปนะ พึ่งผ่านศึกมาแต่ก็ยังทำหน้าที่ไม่บกพร่อง
ขอให้วิทยาไม่เป็นอะไร  :call:

รอน้องพลุออกมาอธิบายเรื่องในอดีตอยู่นะคะ

 :katai1: :katai1: :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2015 05:20:09 โดย w-for-winnie »

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
โอ้ว! อย่าเป็นอะไรนะหมอจิว

ส่วนหมอปืน รู้ใจตัวเองก้อดีแล้ว
รีบๆหน่อยเพื่อพลุ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
จะพยายามเชื่อ....Feel Good!!!!!!!

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
หมอจิวววว แงงง  :monkeysad: อย่านะ ๆ อย่าให้พี่หมอจิวเป็นอะไรไปนะ
ทั้ง ๆ ที่ทำความดีอยู่แท้ ๆ ช่วยคนเจ็บอยู่แท้ ๆ ทำไมต้องเจอแบบนี้ด้วย
หมอจิว ทุกข์ใจมาเยอะแล้วนะ กำลังจะได้มีความสุขแล้วด้วย
เชื่อว่า นายเมื่อรู้ใจตัวเองแล้ว ต้องทำทุกอย่างให้พี่หมอจิวรับรักให้ได้
แล้วก็เชื่อว่าไม่นานด้วย ที่พี่หมอจะตัดใจจากพี่ปืนได้ เมื่อมีนายเข้ามา
เพราะฉะนั้น ให้พี่หมอจิวได้มีความสุขในความรักเสียทีเถอะนะ อย่าใจร้ายกับพี่หมอจิว
ส่วนน้องพลุของเรา เก่งมากกกกก ปรบมือ :m4: เข้มแข็งมาก ๆ เลย โหย รักน้องพลุ
แอบสะใจนิด ๆ ด้วยล่ะ ที่เมินใส่พี่ปืน แหม แค่นี้นิดหน่อยนะพี่ปืน
น้องพลุเจ็บกว่าพี่มานานกว่าตั้งเยอะ (ซ้ำเติมพี่ปืนเข้าไป555)
น้องพลุ ทำอย่างนี้ก็ดี ไม่งั้นพี่หมอปืน ก็คงปิดหูปิดตา ไม่รับรู้เสียงหัวใจตัวเองอยู่นั่น
พี่อุ้ม พูดโดนใจ ถูกใจสาววายจริง ๆ  o13 รู้จักพี่หมอปืน ดีกว่าพี่หมอรู้จักตัวเองซะอีก
แต่ตอนแรก คิดว่าพี่อุ้มรู้แล้วซะอีกนะ ว่าคนที่พี่หมอรักจริง ๆ คือน้องพลุ
ในเมื่อรู้ใจตัวเองแล้วนะพี่หมอ ตอนนี้ก็ต้องอยู่ที่ จะทำอะไรต่อไปเพื่อความรักล่ะ
นิว จะร้ายขึ้นอีกแค่ไหน แล้วใครจะได้ผลกระทบต่อมาบ้าง นี่แหละที่กลัว
ตอนนี้เอาใจช่วยพี่หมอจิวที่สุด อย่าดราม่ามากกว่านี้เลยนะคะ ฮือออ  :sad4:
 
ใกล้จบแล้วเหรอคะ คู่ของน้องเทมส์เราอยู่ที่ไหนอ่ะ สงสารน้องเทมส์คนไร้คู่น้าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2015 09:48:22 โดย PURE LOVE »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คุณหมอห้ามตายนะ ยังไม่ได้แก้แค้นอีตาตำหนวดเลย  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
รถเข้ามาชนได้ไงงงง :z3:

ออฟไลน์ natpicko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เย้มาต่อแล้ววว :o12:
แต่นี่feel goodจิงๆใช่ไหม

ออฟไลน์ bookie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • facebook
ถึงลงจบก็ค้างอยู่ดี 555555

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
หมดปืนไปยกเลิกงานแต่งกับหมอนิวแน่ ๆ  ......
นายนายส์ นายต้องบ้าตายแน่ ๆ เพราะหลงรักหมอจิวเข้าเต็มเปาซะแล้ว..555...

ออฟไลน์ waterlily

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ผู้หญิงแบบนิวเป็นประเภทที่ยื้อไว้จนนาทีสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า หมอปืนเปลี่ยนไปแล้ว แต่ตราบใดที่เขายังไม่พูดออกมา ก็ยังคิดว่า

ตนเองยังมีสิทธิหรือเปล่า  :hao5: :katai1: :call: :pig4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หมอปืนรู้ใจตัวเองสักทีนะ
พลุก็นะ ว่าจะขรึมก็ยังอดห่วงไม่ได้

สงสารหมอจิวจังเต็บทั้งใจเจ็บทั้งกาย

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :m15: อย่าเป็นอะไรน้าา 

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
เรื่องนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ
ทั้งการผูกปม การบรรยาย รายละเอียด แล้วก็มิติของตัวละคร
สมจริงไปหมด

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เหยยยยย หนังชีวิต พลิกไปมาตลอดเวลา!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด