ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22  (อ่าน 246667 ครั้ง)

ออฟไลน์ rk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ฉันขาดตอน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ต้องนอนไม่หลับแน่ๆ

ออฟไลน์ Brow_Ney

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตามมาจากกระทู้นิยายแนะนำ สนุกดี รอติดตามอยู่ค่ะ


ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบสุดใจ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ตามลุ้นอยู่ค่า

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
นาย.....ไหม นี่คือเมาแล้วใช่มะ คำถามนี้5555

แล้ว เขา ของ พลุ คือใครน้าาา


ยิ่งอ่านยิ่งสนุก อ่านจบตอนไม่รู้ตัวเลย

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
ชอบที่เดาไม่ออกว่าใคร เมะ เคะนี่แหละ
ทั้งสองคนนน่าค้นหาหมดเลย
ตอนต่อไปจงมาาาาา

พลุกับปืน  ชื่อเข้ากันดีจัง ฮือ ชอบเรื่องนี้มาก

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
คิดถึงหมอปืนกับพลุ :z2:

ออฟไลน์ sb_ng

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
สนุกมากค่ะะะะ
น่าติดตามมากกกก อยากอ่านต่ออออ
แรกๆนี่รู้สึกว่าหมอปืนเมะนะ
พออ่านตอนล่าสุดละรู้สึกว่า หรือคุณหมอจะเคะดีคะ 55555
พลุน่ารักมาก ตอนอ่านมาเจอว่าตาบอดสีนี่ตกใจเหมือนกัน
พลุพยายามมากอ่าา
ถึงจะเรียนตามความฝันไม่ได้ แต่มีความสุขกับสิ่งที่ทำได้ก็ยังดีละเนอะ
เริ่มรำแฟนหมอปืนละค่ะ คุณหมอรีบเลิกเร้ววว 55555
ส่วนหมอจิวนี่ยังไง ถ้าคิดมากกว่าเพื่อนก็เตรียมใจแพ้น้องพลุเลยจ้าาา55555

รอติดตามต่อค่าาา สู้ๆค่ะ


ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ดันจ้าดัน รออ่านต่อ

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
บทที่ 3 ลูกพี่ลูกน้อง

ปาวัสม์กลิ้งตัวไปมาบนเตียง ในหัวปวดตุบจนไม่อยากลืมตา ทั้งแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่ทอลอดผ้าม่านสีเบจเข้ามากระทบเปลือกตาและเสียงเพลงอะไรก็ตามที่กำลังดังอยู่ข้างหูนี่ยิ่งกระตุ้นให้มันปวดมากขึ้นเท่าทวีราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้

“งืมมม...”

มือใหญ่เอื้อมป่ายเปะปะไปทั่ว ในที่สุดก็คลำเจอหมอนใบหนึ่งเขาดึงมันขึ้นปิดหน้าก่อนจะควานหานาฬิกาปลุกบนหัวเตียงต่อ... แต่มันกลับว่างเปล่า!?

เปลือกตาเปิดพรึบ! เขาดึงหมอนลงและกวาดตามองไปรอบๆ ห้องสีขาวเรียบๆ ไร้การตกแต่งจนมันดูเหมือนเป็นห้องชุดของโรงแรมจิ้งหรีด

...หืม... อะไรกัน? หมอน! ผ้าห่ม! ห้องนอน! มันไม่ใช่ห้องเรานี่ ไม่ใช่ห้องจิว ห้องน้องนิวหรือแม้กระทั่งห้องอุ้ม... ที่นี่มันที่ไหน! แล้วที่สำคัญคือทำไม... ทำไม... ทำไมเราถึงไม่ใส่อะไรเลยล่ะ!!... ไม่สิ! ยังเหลือบ๊อกเซอร์อีกตัวนี่หว่า แต่แค่นั้นมันจะช่วยอะไรได้วะ...

ปาวัสม์ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง นอนขดและขบคิดทบทวนเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา

...หลังจากโดนน้องนิวทิ้ง เราก็คิดจะไปตามหาเจ้าพวกนั้น แต่ก็ดันไปเจอพลุเสียก่อนหลังจากนั้นก็เลยไปนั่งกินเหล้าด้วยกันแล้วหลังจากนั้น... หลังจากนั้นล่ะ... โอ๊ย! ปวดหัว คิดไม่ออกเว้ย...

“ตื่นแล้วเหรอ”

...เสียงใครน่ะ!?...

ถึงจะอยากเปิดผ้าดูหน้าคนถามแต่เพราะตอนนี้เขามีอาภรณ์ติดกายอยู่ชิ้นเดียว แถมพอไม่ได้ใส่แว่นทุกอย่างตรงหน้าก็เป็นแค่จุดสีพร่ามัว เขารีบยื่นมือออกจากโปงผ้าเพื่อคลำหาแว่นไปรอบๆ

“ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณหมอจะอาบต่อเลยก็ได้นะ” เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งและมันเป็นเสียงของผู้ชาย

...เมา + ผู้ชายแปลกหน้า + อาบน้ำ = ???... บ้าน่า!!!

“เฮ้! หมอปืนตกลงคุณตื่นหรือยังเนี่ย”

ไม่พูดเปล่าเจ้าของเสียงยังถือวิสาสะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้และดึงผ้าห่มออกไปจากหัวเขา

“หมอปืนครับ!!”

ในที่สุดมือใหญ่ก็หาแว่นเจอ เขารีบสวมมันลงบนสันจมูก และแล้วจุดสีตรงหน้าก็กลายเป็นโครงหน้าชัดเจนของเด็กหนุ่มหน้าเป็น “พลุ!!”

...เอาวะ! ถ้าจะพลาดอย่างน้อยก็ไม่ใช่ผู้ชายแปลกน่าล่ะ...

“หรือหมอปืนอยากให้เป็นใครล่ะ”

“ที่นี่ที่ไหน” นัยน์ตาหลังกรอบแว่นมองสำรวจร่างโปร่งที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เรียวขาเหนือหัวเข่าขาวเนียนผิดกับส่วนน่องที่ออกแทนกว่า... นี่ถ้าไม่มาทำงานกรำแดดแล้วจับไปนั่งเรียนในห้องแอร์ผิวพรรณคงสวยน่าดูชม สมอ้างว่าเป็นลูกคุณหนูก็เชื่อเลยนะเนี่ย

“ที่นี่ห้องผมเองเมื่อคืนคุณหมอเมาเละเทะน่าดูเลย กว่าจะลากขึ้นรถพากลับมาได้แทบแย่แน่ะ” ภาวัฒน์บ่นกระปอดกระแปดและส่งแก้วกาแฟในมือให้ “เอ้า! ดื่มสักหน่อยสิครับจะได้หายแฮงค์”

“ขอบใจ” ปาวัสม์ขยับตัวลุกขึ้นนั่งโดยไม่ลืมถกเอาผ้าห่มมาพันรอบอกแน่น... ไม่รู้หรอกนะว่าเมื่อคืนจะเห็นไปถึงไหนต่อไหนแต่ตอนนี้ตื่นแล้ว ดังนั้นแม้แต่ขนหน้าแข้งสักเส้นก็อย่าหวังไอ้แอ้มเลย เห็นแบบนี้แต่เขาก็เป็นผู้ชายรักนวลสงวนตัวนะ

มือใหญ่รับแก้วกาแฟมาดมๆ ละไอควันร้อนพวยพุ่งกรุ่นกลิ่นหอมยิ่งนัก เขาใช้ปลายลิ้นแตะๆ พอรับรู้ว่าไม่ร้อนจึงยกขึ้นจิบ ปกติแล้วเขาเป็นคนไม่ดื่มกาแฟเลยบอกไม่ได้ว่าอร่อยไหมรู้แต่ว่ามันค่อนข้างถูกปากเขาทีเดียวล่ะ “วันหลังใส่น้ำตาลน้อยกว่านี้อีกนิดนะ ฉันไม่กินหวานน่ะ ขนาดน้ำเต้าหู้ยังไม่ใส่น้ำตาลเลย”

“ก็ผมเห็นหมอปืนดุ๊ดุอย่างกะ... เลยนึกว่าชอบกินอะไรหวานๆ ซะอีก”

“พูดให้ดีดุอย่างกะอะไรห๊ะ”

“ลูกแมวมั้งครับ... เหมียว” ภาวัฒน์ทำท่าแยกเขี้ยวและยกสองมือทำเป็นกรงเล็บได้น่าหมั่นไส้ที่สุด

ปาวัสม์คว้าหมอนใบใกล้มือที่สุดปาใส่คนตรงหน้าได้อย่างไม่พลาดเป้า “แล้วทำไมฉันถึงไม่ใส่อะไรเลยล่ะ” เขาแกล้งทำเป็นชวนคุยเรื่อยๆ แต่ในสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้บวกกับคำถามสุดท้ายเมื่อคืนที่ทำให้พ่ายแพ้อย่างราบคาบนั่น จึงกลายเป็นตัวเองที่คิดลึกจนพูดไม่ออกและนึกอยากฉวยเอาหมอนใบที่เพิ่งโยนไปมาปิดหน้าที่ตอนนี้สีต้องเข้มขึ้นแน่ๆ

ภาวัฒน์ยิ้มมีเลศนัยน์และนั่งลงบนขอบเตียง “นี่หมอปืนจำไม่ได้จริงๆ เหรอว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป”

...ก็เพราะจำไม่ได้น่ะสิถึงได้ถาม...

ปาวัสม์นิ่วหน้าและจิบกาแฟต่อ ดูท่าเขาชักจะติดใจรสมือ... เอ๊ย! กาแฟของเด็กหนุ่มขึ้นมาซะแล้ว

“ใจร้ายจัง ลืมกันง่ายๆ แบบนี้ผมเสียใจนะเนี่ย ตัวเองเป็นคนพูดเอง ทำเองแท้ๆ สงสัยต้องช่วยกระตุ้นให้นึกออกแล้วล่ะมั้ง” ไม่พูดเปล่า เด็กหนุ่มชะโงกหน้าเข้ามาใกล้และใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบกาแฟบนมุมปากปาวัสม์ที่ตัวแข็งเป็นก้อนหินไปแล้ว

...เฮ้ย! นี่อย่าบอกนะว่าเอาจริงน่ะ... คำถามนั้นฉันแค่ถามไปเล่นๆ นะเว้ย!...

‘นายลองมาเป็นแฟนฉันไหม?’

รอยริ้วสีแดงพาดเต็มสองแก้ม นึกคาดโทษตัวเองตอนเมาอย่างหนักที่ปากพล่อยพูดอะไรไม่คิด

เสียงเพลงเดิมดังขึ้นอีกครั้งแต่ดูเหมือนปาวัสม์จะสูญเสียประสาทการได้ยินไปแล้ว เมื่อประสาทการรับรู้จับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากได้รูปซึ่งขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่พุ่งกระทบริมฝีปาก ผ่านผิวแก้ม ก่อนที่มันจะเลยไปและปล่อยให้เขา... เอ่อ... รอเก้อล่ะมั้ง?

ภาวัฒน์ยืดตัวขึ้นนั่งตรงอีกครั้งพร้อมกับโทรศัพท์ในมือที่แผดเสียงเพลงดังกระหึ่ม

...แค่จะหยิบมือถือไม่เห็นจำเป็นต้องเข้ามาใกล้ขนาดนั้นเลยไอ้เด็กบ้า! โอย... หัวใจคนแก่แทบจะหยุดเต้นไปแล้วไหมล่ะ...

เด็กหนุ่มเหลือบตามองดูชื่อคนโทรเข้าเพียงอึดใจก่อนจะส่งให้ “อ่ะ”

“ฉัน?” ปาวัสม์สะดุ้ง ด้วยสายตายังไม่หยุดมองตามริมฝีปากเด็กหนุ่มที่เคลื่อนห่างออกไป

“หมอจิวโทรมา” ภาวัฒน์บอกเสียงขุ่นหน่อยๆ “ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ร่วมห้าสิบสายแล้ว”

มือใหญ่รับโทรศัพท์มาจ้องดูราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน นึกสงสัยว่ามีอะไรแปลกๆ แต่ก็ยังนึกไม่ออกและไม่ยอมกดรับสาย

“รับซะทีสิครับ”

จู่ๆ ปาวัสม์ก็หน้าตื่น ในที่สุดก็นึกออกว่าตัวเองลืมอะไรที่สำคัญที่สุดไป “นี่กี่โมงแล้วเนี่ย”

“เพิ่งสิบโมงกว่าๆ เองคุณหมอจะนอนต่ออีกหน่อยก็ได้นะครับแล้วค่อยกลับ แต่ช่วยรับสายหมอจิวก่อนเถอะ เขาจะได้เลิกโทรสักทีสงสัยจะเป็นห่วงคุณหมอมาก” ปลายเสียงตัดพ้อเล็กน้อย

“ไม่ห่วงก็บ้าล่ะ!!” คุณหมอหนุ่มตะโกนลั่นพร้อมกับกระโดดลงจากเตียง หน้าตาเลิกลั่กทำเอาเด็กหนุ่มหน้าหมองไปถนัด “วันนี้ฉันเวรเช้า! มันไม่ส่งไอ้อุ้มมาลากคอฉันไปก็บุญแล้ว... โอ๊ย! ไม่สิไม่ เป็นเพราะมันไม่รู้ต่างหากว่าฉันอยู่ที่ไหนไม่งั้นฉันคงตายไปแล้วหรือว่าฉันจะยอมตายจริงๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดี โอ๊ย! ทำไงดีๆ”

“คุณหมอเวรเช้าเหรอ” ภาวัฒน์ถามงงๆ “ผมนึกว่าหมอปืนเวรดึกเหมือนผมซะอีกถึงได้ไม่ปลุกไง”

“ก็เพิ่งแลกมา” ปาวัสม์บอก “ชุดฉันอยู่ไหนเนี่ย!!”

“มันเหม็นเหล้าหึ่งเลยน่ะผมเลยเอาไปซักให้ เพิ่งตากขึ้นราวเมื่อกี้เองตอนนี้คงยังไม่แห้งหรอกครับ”

“ช่างมัน! ใส่ทั้งเปียกๆ นี่แหละ”

“อย่าเลยเดี๋ยวไม่สบาย เอาของผมไปใส่ก่อนดีกว่า” ภาวัฒน์เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและเลือกชุดเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล๊คส่งให้ “น่าจะใส่ได้นะหมอปืนกับผมตัวก็พอๆ กัน”

ปาวัสม์พยายามมองข้ามสายตาที่โลมเลียตนอยู่และรีบสวมเสื้อผ้าก่อนจะวิ่งไปที่ประตู ในใจคิดหาคำแก้ตัวกับวิธีการไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด “รถอยู่ไหนวะ... แท็กซี่จะมีไหมเนี่ย ป่านนี้แล้วรถติดแน่เลย... เอาไงดีๆ” เขาเหลียวมองซ้ายขวาอย่างร้อนรน หอพักของเด็กหนุ่มนั้นทำเลค่อนข้างดีมองออกไปไม่ไกลก็เห็นถนนใหญ่แต่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะรีบไปยังไงไม่ให้สาย

“รถคุณหมอผมขอฝากไว้ที่ร้านเมื่อคืนก่อนน่ะครับ แต่ถึงจะนั่งแท๊กซี่ไปตอนนี้ยังไงก็สายอยู่ดี”

เสียงทุ้มดังขึ้น ปาวัสม์เหลียวมองเลิกลั่กด้วยไม่เห็นตัว แต่เพียงแค่อึดใจเจ้าของเสียงก็ปรากฏกายขึ้นบนหลังอาชาเหล็กสีดำเงินมันปลาบที่เจ้าตัวเพิ่งขับออกมาจากลานจอดรถ

ภาวัฒน์ที่สวมหมวกกันน็อคเรียบร้อยโยนหมวกอีกใบส่งให้ “ขึ้นมาสิผมครับจะไปส่ง”

“เอ่อ...” ปาวัสม์พูดไม่ออก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความงามของเจ้าพาหนะสองล้อนั่นหรือเพราะคนคุมบังเหียนเปลี่ยนไปสวมแจ๊ตเก็ตหนังสีดำดูเท่เหลือเกิน

“เร็วสิครับเดี๋ยวก็สายหรอก” เด็กหนุ่มเร่ง ร่างสูงจึงรีบสวมหมวกกันน็อคและกระโดดขึ้นซ้อนท้าย “จับแน่นๆ นะครับ”

“ห๊ะ!?” พูดได้เท่านั้นเมื่อภาวัฒน์บิดคันเร่งและพุ่งทะยานออกไปรวดเร็วจนเขาผวาเกาะบ่ากว้างไว้แน่น
OOOOOO

ปาวัสม์รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้นที่ได้เห็นประตูห้องฉุกเฉินในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขากระโดดลงจากรถและตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ เตรียมจะผละไป “ขอบใจนะ”

“เดี๋ยวก่อนสิครับ” ภาวัฒน์เรียกพลางดึงลำแขนร่างสูงไว้ “คุณหมอลืมอะไรไปหรือเปล่า”

“เอ่อ... ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืน...” ปาวัสม์พูดตะกุกตะกัก เขาควรจะรีบทำอะไรๆ ให้มันถูกต้องและเรียบร้อยไปสินะ “ฉันขอโทษที่พูดพล่อยๆ แบบนั้น... ฉันแค่อยากเอาชนะนาย”

“เรื่องนั้นผมรู้น่า เมื่อกี้ผมก็แค่อยากแกล้งหมอปืนเล่นหรอก ที่พูดถึงน่ะคือนี่ต่างหาก...” ภาวัฒน์หัวเราะพลางล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อและหยิบเอาแผ่นพลาสติกมีสายคล้องคอสีแดงออกมา มันคือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล “คุณหมอทำตกไว้บนที่นอนผมแน่ะ”

มือหยาบยกขึ้นคล้องสายบัตรประจำตัวลงรอบคอให้ และเพราะเด็กหนุ่มนั่งอยู่บนหลังเบาะมอเตอร์ไซค์เขาจึงต้องก้มศีรษะลงเพื่อให้ตัวเสมอกัน กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเรือนผมสีน้ำตาลที่เพิ่งสระใหม่ๆ ลอยมาแตะจมูกให้ความรู้สึกสดชื่นเป็นธรรมชาติดีกว่ากลิ่นน้ำหอมราคาแพงเสียอีก จนเขานึกอยากเอื้อมมือไปขยี้มันสักทีแต่ก็ต้องอดใจไว้เพราะเจ้าตัวเคยบอกว่าไม่ชอบ

...ซักเสื้อ ชงกาแฟ เตรียมชุดให้ ขับรถมาส่ง แถมยังช่วยดูความเรียบร้อยเครื่องแต่งกายก่อนเข้าทำงานอีก เจ้าเด็กแสบนี่ช่างเอาใจและขี้ดูแลผิดคาดแฮะ... นี่ถ้ารชญาจะน่ารักได้แบบนี้แค่สักครึ่งหนึ่ง ป่านนี้เขาคงขอเธอแต่งงานไปแล้วล่ะ...

“แล้วเจอกันนะ”

“เรายังจะเจอกันอีกงั้นเหรอ” ภาวัฒน์รำพึงกับตัวเองขณะเฝ้าดูร่างสูงวิ่งหายเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

เขาล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงและหยิบเอาบัตรประจำตัวอีกใบซึ่งเป็นแผ่นกระดาษอยู่ในซองพลาสติกใสออกมาอย่างทะนุถนอมราวกับมันเป็นของล้ำค่า สีที่เริ่มออกน้ำตาลบ่งบอกถึงวันเวลายาวนานร่วมหกปีที่มันผ่านมาได้เป็นอย่างดี

“ทีแรกผมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยุ่งกับคุณแล้วนะ แต่เล่นปล่อยเนื้อปล่อยตัวกันขนาดนี้ผมคงอยู่เฉยไม่ได้แล้วล่ะ” ตัวการ์ตูนรูปโดราเอมอนตัวจิ๋วที่ห้อยอยู่บนซองพลาสติกส่งยิ้มกว้างมาให้ ภาวัฒน์ยิ้มตอบ
OOOOOO

“โทษทีเพื่อนโทษที” ปาวัสม์ชิงพูดก่อน เมื่อเห็นหนุ่มหน้าตี๋นั่งหน้าหงิกอยู่หลังโต๊ะตรวจคนไข้ เพียงแค่เหลือบดูด้วยหางตาเขาก็บอกได้ทันทีกว่าคนไข้กว่าครึ่งของเขาในวันนี้ถูกโอนมาช่วยจัดการไปเรียบร้อยแล้ว

“ทำไมถึงมาช้า” วิทยาถามเสียงเครียด

“เมาแฮงค์นิดหน่อยน่ะ”

“เมาแฮงค์” วิทยาเหยียดริมฝีปากกับคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น “คนคอแข็งอย่างนายเนี่ยนะเมาแฮงค์ นี่นายกินไปกี่ขวดกัน แล้วหนีไปกินกับใครมา เพราะน้องนิวบอกฉันว่าทะเลาะกับนายแล้วหนีกลับบ้านตั้งแต่หัวค่ำแล้ว”

ภาพเด็กหนุ่มใบหน้าแดงเรื่อๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังหัวเราะร่าผุดเข้ามาในห้วงความคิด เขาอมยิ้มมุมปาก “เดี๋ยวเล่าให้ฟังน่า... ไปทำงานก่อนนะ” พูดจบก็รวบแฟ้มคนไข้บนโต๊ะครึ่งหนึ่งกลับไปห้องตรวจของตนโดยไม่ลืมรวบศีรษะคนหน้าหงิกมากอดขอโทษเร็วๆ ทีนึง “ขอบใจที่ช่วย เดี๋ยวมื้อเที่ยงฉันเลี้ยงข้าวนะ”

“ไอ้นี่” วิทยาใช้ปลายนิ้วลูบปอยผมหน้าที่ยุ่งขึ้นให้เรียบเพราะเพิ่งเอาไปสีกับอกกว้างมา เขาเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มคนไข้เล่มบนสุดและเริ่มเรียกคนต่อไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่แปลกไป

ทันทีที่ถึงช่วงพักวิทยาก็รีบลากปาวัสม์ไปลากรับประทานอาหารเช้าควบเที่ยงที่ข้าวแกงร้านโปรดของสวัสดิการโรงพยาบาล ไม่ใช่เพราะหิวหรืออยากทวงคำสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวแต่เขาต้องการจะเคลียร์ข้อสงสัยในใจ

“ไปกับนายภาวัฒน์มา” วิทยาอุทานทันทีที่ฟังปาวัสม์เล่าจบ ให้โกหกว่าไปนั่งกินเหล้าคนเดียวจนเมาเป็นหมาแล้วไปนอนหลับข้างเสาไฟฟ้ามาเขายังจะเชื่อซะกว่า แล้วที่เคยบ่นรำคาญเจ้าเด็กแสบที่ชอบกวนประสาทให้เขาฟังอยู่บ่อยๆ นั่นคืออะไร “นี่พวกนายสองคนไปสนิทกันจนถึงขั้นไปไหนมาไหนด้วยกันได้ตอนไหน”

“ก็บอกแล้วไงว่าบังเอิญไปเจอพลุเข้ากลางทาง เลยชวนไปกินข้าวด้วยกันมันก็แค่นั้นเอง พอดีแบตมือถือหมดฉันเลยไม่ได้โทรบอกนาย... ขอโทษน้า”

คำเรียกชื่อเล่นคนแปลกหน้าอย่างสนิทสนม ทำเอาวิทยานิ่งไปชั่วครู่ ปาวัสม์อาจไม่เคยรู้สึกแต่ตั้งแต่คบกันมาชื่อของเขาจะเป็นเบอร์ที่สองรองจากแม่ที่คนตรงหน้าจะโทรหาไม่ว่าเป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหนจนหลายต่อหลายครั้งที่แฟนๆ ของปาวัสม์มาเหวี่ยงวีนใส่เขาด้วยความเข้าใจผิด มันทำให้เขาเคยคิดว่าตัวเอง ‘สนิท’ และ ‘พิเศษ’ ยิ่งกว่าเพื่อนคนไหน

แต่มาวันนี้เขาอาจจะต้องทบทวนความคิดนั้นใหม่ทั้งหมด

“ถ้ามือถือนายแบตหมด เมื่อเช้าฉันโทรหานายติดได้ไงล่ะ”

มือที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงักค้าง นี่ยังไงล่ะสิ่งที่รบกวนหัวใจคุณหมอหนุ่มตั้งแต่เช้า โทรศัพท์เขาแบตหมดจริงๆ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนี่นาแล้วมันจะเปิดเครื่องเองได้ยังไง หนำซ้ำมันยังมีแบตเต็มใช้ได้อยู่จนถึงตอนนี้

“สงสัยพลุจะชาร์จให้มั้ง... ว่าแต่ทำไมนายต้องซีเรียสด้วยวะ ก็แค่ไปกินข้าวแล้วกินเหล้าต่อเอง”

คำถามราวลูกปืนที่พุ่งเข้ากลางอกทำเอาหนุ่มหน้าตี๋ตอบไม่เต็มเสียง “ก็นายมันพวกไม่ระวังตัว เมาทีไรเป็นเรื่องทุกที ถ้าไม่มีฉันกับอุ้มป่านนี้นายโดนสาวที่ไหนไม่รู้หลอกไปทำผัวหรือไม่ก็โดนรถชนตายไปแล้ว”

“ครับๆ คุณเพื่อนรัก คุณเพื่อนดีเด่นแห่งปี เมาไม่ขับรู้หรอกน่า ฉันถึงได้ไปนอนบ้านพลุมานี่ไง”

ช้อนที่กำลังจะส่งข้าวเข้าปากแทบหลุดจากมือ วิทยารู้สึกตกใจเป็นล้นพ้นกับความพันธ์ที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วระหว่างคนทั้งสองเพียงแค่ชั่วข้ามคืน “นี่นายไปนอนค้างบ้านเขามาด้วยเหรอ!”

“หรือนายจะให้ฉันหิ้วสาวที่ไหนไม่รู้เข้าโรงแรมล่ะ”

“นายก็เลยหิ้วผู้ชายแทนเนี่ยนะ!!” ถ้าลุกขึ้นตบโต๊ะได้วิทยาคงทำไปแล้ว ลำพังแค่หิ้วสาวก็เจ็บเกินพอ แต่นี่คือหิ้วผู้ชาย แถมยังอายุน้อยกว่าตั้งเกือบรอบ! นัยน์ตาเล็กตี่หรี่มองเสื้อเชิ้ตลายทางดูสุภาพแต่ทันสมัยที่ร่างสูงสวมใส่ผิดวิสัยคนชอบอะไรเรียบๆ ในที่สุดก็รู้ที่มาของกลิ่นที่ไม่คุ้นชิน

“พลุต่างหากที่หิ้วฉัน ฉันเมาไม่รู้เรื่องเลย”

“ฉันพูดผิดไหมล่ะ” วิทยาลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ถึงไม่เล่ารายละเอียดแต่ฟังจากน้ำเสียงเขาก็พออนุมานได้ว่าอย่างน้อยเพื่อนเขายังไม่คิดเปลี่ยนใจลองของใหม่

“เรื่องนั้นช่างเถอะ” ปาวัสม์เปลี่ยนเรื่อง “แล้วอุ้มล่ะเป็นไงบ้าง ยังโกรธอยู่ไหม”

วิทยานิ่งไปพลางยกมือขึ้นจับคางอย่างใช้ความคิด “เอางี้! ถ้าเปรียบเทียบว่าเป็นคนไข้ล่ะก็ นายบอกญาติให้เตรียมจองวัดได้เลย... ยังไงก็ไม่รอดขึ้นอยู่กับว่าจะไปขอพระท่านอาศัยอยู่ด้วยเมื่อไหร่”

“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ตัวเองทำเองแล้วยังมีหน้ามาถามอีก”

“ก็คนมันลืมนี่หว่า... เอาไงดีล่ะจิว ตอนนี้อุ้มมีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษไหม ฉันจะได้ซื้อไปง้อถูก”

“ไอ้ของที่อยากได้น่ะก็พอจะมีอยู่หรอก แต่นายแน่ใจแล้วเหรอที่จะง้ออุ้มด้วยวิธีนี้”

“ช่วยไม่ได้นี่หว่าก็ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว”

“แล้วนายมีงบเท่าไหร่ล่ะ”

“เฮ้ย!” ปาวัสม์อุทาน “มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ”

วิทยาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา “ปืน... ฉันมั่นใจว่านายคงจำได้ถึงผู้หญิงเพียงคนเดียวในโลกนอกจากแม่ ครูและอาจารย์ใหญ่ที่ทำให้นายกับฉันมีวันนี้ วันที่นายเป็นคุณหมอมือหนึ่งแห่ง ER มีคนนับหน้าถือตา มีลูกศิษย์ลูกหาและน้องๆ ที่นายกล้าด่าเต็มปากเต็มคำว่าไม่ได้เรื่อง”

นุชนันท์ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีที่สุดแต่เธอคือเพื่อนที่หาใครมาแทนไม่ได้

ลองคิดดูสิ! จะมีผู้หญิงคนไหนกล้าบุกเดี่ยวเข้าไปกลางวงไพ่ในบ่อนใหญ่ใจกลางเมืองกรุงเพื่อลากเขาพวกเขาสองคนออกมาสอบปลายภาค และอดทนนั่งติวหนังสือให้จนสอบผ่านชั้นม.สาม ถึงวิธีหักดิบของเธอจะโหดหินตรงจับพวกเขาล่ามโซ่ติดกับขาโต๊ะไม่ให้แอบหนีไปกินเหล้า แต่ที่น่ากลัวสุดคือเธอลบเบอร์ผู้หญิงทุกคนในโทรศัพท์ของปาวัสม์ทิ้งโดยให้เหตุผลง่ายๆ ว่า...

‘ถ้ามันเหงานักก็ไปอ่านหนังสือ แต่ฉันคิดว่านายคงไม่เหงา! เพราะตอนนี้นายมีฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวของนายมันก็มากเกินพอแล้ว... จบนะ!!!’

“ของบางอย่างมันซื้อด้วยเงินไม่ได้... อย่างคำว่า ‘เพื่อน’ แต่ถ้าคิดจะทำมันก็ต้องลงทุนมากหน่อยแต่จำไว้นะว่าจริงๆ แล้วสิ่งนายซื้อได้มันก็แค่ ‘เวลา’ กับ ‘โอกาส’ สุดท้ายก็คือตัวนายน่ะแหละที่ต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้คำว่า ‘เพื่อนรัก’ คืนมา”

หนุ่มหน้าตี๋เหยียดริมฝีปากออกยิ้มให้กำลังใจก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ ไม่คิดจะพูดอะไรอีก ในฐานะคนตรงกลางเขาก็อยากจะเป็นกลางจริงๆ เรื่องเมื่อคืนมันแทบจะเรียกได้ว่าทะเลาะกันหนักหนาที่สุด ถ้าเป็นเขาเองที่ต้อง ‘เลือก’ ระหว่างเพื่อนกับแฟนก็คงคิดไม่ตกเหมือนกัน

แต่ข้าวในช้อนยังไม่ทันได้เข้าปากเมื่อกระเป๋าสตางค์หนังสีน้ำตาลใบเก่าดูคุ้นตาถูกโยนลงมาตรงหน้า วิทยาช้อนสายตาขึ้นมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาคมที่มองสบมา... สายตาจริงจังที่เขาเฝ้ามองและรู้มาตลอดว่าใครก็ตามที่ผู้ชายขี้เหงาคนนี้หลงรักด้วยหัวใจจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก... ไม่ว่าจะเป็นญาติ เพื่อน หรือคนรัก... ซึ่งเขาเองก็อยากจะเป็นหนึ่งในสถานะอะไรก็ตามที่ว่ามานั้นเหลือเกิน

“ว่ามา! และอย่าถามคำถามนั้นกับฉันอีกเป็นครั้งที่สอง” ปาวัสม์บอกไม่เชิงไม่พอใจแต่ออกจะงอนๆ เสียมากกว่า “เพราะฉันจะถือว่านายไม่ใช่เพื่อนรักของฉัน”

วิทยากรีดยิ้มกว้างกับคำว่า ‘เพื่อนรัก’ ที่ได้ยินเต็มสองหู เขากวักมือให้ร่างสูงโน้มตัวเข้ามาใกล้ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู
OOOOOO

นางพยาบาลสาวร่างอวบแห่งวอร์ดอายุรกรรมหก ยกมือขึ้นถูจมูกอย่างหงุดหงิดหลังจากจามเสียงดังติดๆ กันมาสามรอบ โบราณว่าจามหนึ่งทีมีคนบ่นหา สองทีมีคนนินทา ถ้างั้นไอ้สามทีนี่ก็ต้องเป็น... 

เสียงรองเท้าส้นสูงที่ไม่อยากจะคุ้นเคยดังกระทบพื้น นุชนันท์แทบจะกลั้นใจเมื่ออึดใจต่อมามือคู่งามก็วางแฟ้มคนไข้ลงบนเคาน์เตอร์ “รับออเดอร์เพิ่มด้วยนะคะ”

“ค่ะ” นุชนันท์ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองแค่ได้ยินเสียงรองเท้าเธอก็รู้แล้วว่าเป็นใคร

รชญากำลังจะเดินจากไปอยู่แล้วแต่ความอยากรู้ในใจมันมากเสียจนต้องหันกลับมาอีกครั้งเพราะนับแต่แยกกันที่หน้าโรงหนังจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังติดต่อคนรักของเธอไม่ได้เลย “เมื่อวานเธอกับพี่ปืนไปไหนกันมา”

“ก็นั่นแฟนเธอไม่ใช่เหรอ มาถามฉันทำไม”

คุณหมอสาวหน้าหงิกขึ้นมาทันที “นี่เธอ เวลาพูดช่วยมองหน้าฉันด้วย...” พูดได้เท่านั้นเสียงโทรศัพท์จากคนที่กำลังเป็นประเด็นก็ดังขึ้นขัดบทสนทนา

“อุ๊ย! พี่ปืนโทรมา” เธอสะบัดผมไปด้านหลังด้วยท่าทีเป็นต่อพลางกดรับสาย “ค่ะพี่ปืน นิวกำลังดูคนไข้อยู่มีอะไรหรือเปล่าคะ”

...ขอให้พวกมันเลิกกัน!!!...

นุชนันท์แช่งในใจ ริมฝีปากเม้มสนิทขณะที่แอบฟังโดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลยเพราะรชญาตั้งใจจะประกาศให้ได้ยินอยู่แล้ว นี่ถ้าเปิดไมค์เอาออกเครื่องกระจายเสียงของโรงพยาบาลได้ล่ะก็ยัยนี่คงทำไปแล้วล่ะ แต่ก็ไม่แน่หรอกนะสักวันเธออาจจะทำก็ได้ ก็หล่อนน่ะมีศักดิ์เป็นถึงลูกสาวสุดที่รักของท่านผอ.นี่นา

“ค่ะ ว่างคุยได้ค่ะ... ไม่เป็นไรค่ะพี่ปืน นิวเข้าใจค่ะว่าพี่ปืนง่วง แต่วันหลังไม่เอานะคะ แล้วกลับถึงบ้านก็อย่าลืมชาร์ตแบตมือถือด้วยไม่ปล่อยให้หมดข้ามวันแบบนี้นะคะ นิวเป็นห่วง” คุณหมอสาวกดวางสายและหันมายิ้มอย่างผู้มีชัย “...ไปดีกว่า”

“ชิ!” นุชนันท์จิ๊ปากอย่างหมั่นไส้ ทันทีที่รชญาคล้อยหลังเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาบ้างทันที
นุชนันท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นดู ในใจนึกเตรียมคำต่อว่า (อันที่จริงคือคำด่าเลยล่ะ) ถ้าเป็นใครบางคนโทรมา แต่เคราะห์ดีที่ไม่ใช่เธอรีบกดรับ “มีอะไรจิว”

“ถามยังกับว่าไม่มีแล้วโทรหาไม่ได้แน่ะ” วิทยาแกล้งตัดพ้อ “เย็นนี้เธอว่างไหม”

“ขอโทษทีนะจิว เย็นนี้มีฉันมีนัดแล้ว บังเอิญว่าธุระสำคัญมากเสียด้วยสิ” นุชนันท์พูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย “เอางี้ดีกว่า ฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยเดี๋ยวกินเสร็จแล้วแวะไปหานะ”

“เฮ้ย! ไม่เป็นไร ธุระไม่รีบ ไม่รีบจริงๆ” วิทยารีบบอก “ไม่ต้องมา”

“ไม่เป็นไรๆ พอดีฉันอยากเจอนายด้วย มีเรื่องจะปรึกษา งั้นแค่นี้นะเดี๋ยวเจอกัน” ถึงจะสงสัยในน้ำเสียงที่ร้อนรนของอีกฝ่ายแต่ด้วยความอยากหาที่ระบายเธอจึงปัดความคิดบ้าๆ นั้นทิ้งและรีบปั่นงานให้เสร็จ

นุชนันท์ตัดสายทิ้งไปแล้ววิทยาจึงทำได้แค่จ้องโทรศัพท์ในมือตาปริบๆ ก่อนจะเหลียวมองผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ถัดออกไป นึกสงสารขึ้นมาจับใจว่าจะมีสักกี่คนกันที่จะซวยซ้ำซวยซ้อนได้มากขนาดนี้
OOOOOO

(ยังไม่จบนะคะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
บทที่ 3(ต่อ)

“ว่าไงจิว” นุชนันท์ตรงเข้าไปทักเพื่อนรักที่อุตส่าห์มายืนดักรออยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉินพลันสายตาเหลือบไปเห็นบุคลากรหน่วยงานอื่นที่มายืนผิดที่ผิดทางเหมือนเธอ

“มาแล้วเหรออุ้ม ตรงนี้คนเยอะไปคุยกันตรงโน้นไป” วิทยาคว้ามือดึงไปอีกทางแต่ร่างอวบนั้นยังคงไม่ขยับ

“ตรงนี้ก็ได้จิวเรื่องไม่สำคัญอะไร” กระแสเสียงที่ออกจากปากนุชนันท์เย็นชาและบาดลึกเมื่อภาพตรงหน้ามันช่างบาดตาและเจ็บใจยิ่งนัก

คุณหมอหนุ่มประจำห้องฉุกเฉินกำลังยืนหัวร่อต่อกระซิกกับแฟนสาวที่ตระกองกอดกุหลาบสีแดงสดช่อโต อย่างแสนรัก

...นายแน่มากปาวัสม์ที่อุตส่าห์ตามผู้หญิงคนนั้นให้พ้นมาจากฉันเพื่อจะได้งอนง้อขอคืนดีแบบไม่อายผีสางเทวดา งั้นครั้งนี้คงเป็นความผิดฉันเองสินะที่ดันแส่มาเห็นเอง...

“ไปเถอะอุ้ม” วิทยายังคงยืนยันและคว้าแขนล่ำๆ ของเธอไว้แน่น

“ไม่ไปเว้ย!” นุชนันท์กระซิบลอดไรฟัน และเธอยืนยันเช่นนั้นจริงๆ จนกระทั่งสายตาหันมาสบกับแววตาเจ็บปวดของคนในชุดกาวน์ข้างกาย ปากของเธอเม้มสนิท มืออวบๆ ทั้งสองกำเป็นหมัดแน่นก่อนจะพ่นลมหายใจออกจมูกเสียงดัง “ไปก็ได้”

...ฝากไว้ก่อนนะไอ้เพื่อนขี้โกหก! ถ้างานนี้ไม่ใช่เพราะเห็นแก่จิว แม่ได้กระโดดทับแกกับไอ้กุหลาบช่อนั้นลงไปบี้แบนติดพื้นแน่!...

ทั้งสองกำลังก้าวเท้าพ้นกรอบประตูห้องฉุกเฉินอยู่แล้วเมื่อเสียงใสๆ ราวกับร้องหาความช่วยเหลือดังขึ้น

“คนไข้อยู่นิ่งๆ สิคะ”

ชโลธรนั่นเอง เธอกำลังมีเรื่องลำบากใจด้วยตัวการที่โครงร่างแม้ไม่สูงใหญ่มากแต่ก็เต็มไปด้วยมัดกล้ามฟิตเสื้อยืดสีขาวขลิบคอสีกากีเช่นเดียวกันกับกางเกงขายาวสมหน้าที่การงานที่ทำอยู่

วิทยาขมวดคิ้ว ใหญ่มาจากไหนไม่รู้หรอกนะ สำหรับเขามันก็แค่คนไข้ขี้หลีหยอกเย้าพยาบาลสาว สายตาเจ้าชู้เปล่งประกายวาววับราวกับเสือจ้องตะครุบเหยื่ออย่างไม่ปิดบัง มือก็ป่ายเปะปะแสร้งดิ้นไปหาเรื่องแต๊ะอั๊ง เห็นแล้วมันขัดตารำคาญใจจริงๆ  เขาคว้าแฟ้มคนไข้เล่มใกล้มือที่สุดและหันไปหานุชนันท์ “เดี๋ยวฉันมานะ”

“เบาๆ หน่อยสิครับคนสวย คุณทำหัวใจผมเจ็บไปหมดแล้วนะ”

“ร้อยตำรวจตรีรติพัทธใช่ไหมครับ “วิทยายิ้มทักด้วยมาดนายแพทย์มืออาชีพ จะว่าอ่อนโยนก็ไม่เชิงเพราะมันแฝงความเคร่งขรึมในแบบที่เป็นแพทย์รุ่นน้องเห็นคงกลัวกันหัวหด “วันนี้ล้มได้แผลถลอกที่แขนมานิดหน่อยสินะครับ” ถามพลางคว้ามือปลาหมึกหมับเข้าให้ แกล้งทำเป็นสนอกสนใจรอยถลอกเล็กน้อยบนลำแขนแข็งแรงพร้อมทั้งเบียดตัวเข้าขวางระหว่างนายตำรวจหนุ่มกับชโลธรเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน “ยังเจ็บอยู่ไหมครับ”

“ระบมไปหมดเลยครับคุณหมอ แต่คงจะดีขึ้นถ้าได้พยาบาลน่ารักๆ มาดูแล”

“เหรอครับ” วิทยากรีดยิ้มกว้างขึ้นอีกและคว้าคีมในเซ็ตทำแผลที่ชโลธรเปิดทิ้งไว้คีบสำลีปลอดเชื้อจุ่มแอลกอฮอล์จนชุ่มจิ้มลงกลางแผลตั้งใจเลือกบริเวณที่คาดว่าน่าจะเจ็บเอ๊ย! อาการหนักมากที่สุด

“โอ๊ย!” นายตำรวจหนุ่มร้องเสียงหลง

วิทยาไม่สนใจ เขาหันไปหาชโลธรและยัดแฟ้มที่หยิบมาด้วยใส่มือเธอ “คุณพยาบาลช่วยไปรับออเดอร์ให้หน่อย ไม่ต้องห่วงทางนี้นะครับเดี๋ยวผมจะดูแลคุณรติพัทธเอง”

“ค่ะคุณหมอ” ชโลธรรีบผละไปทันที เธอเปิดแฟ้มจะตระเตรียมอุปกรณ์เมื่อพบว่าออเดอร์ทุกอย่างทำเสร็จเรียบร้อยแถมคนไข้ยังกลับบ้านไปแล้วอีกต่างหาก คิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อนุชนันท์เอ่ยขึ้น

“เขาก็เป็นคนใจดีแบบนี้แหละ” พยักพเยิดไปทางคุณหมอหนุ่มที่กำลังปะทะคารมกับคนไข้ มืออวบๆ พลิกแฟ้มของร้อยตำรวจตรีรติพัทธซึ่งเธอถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู “แค่ชอบน่ะได้แต่อย่าหลงรักล่ะ” เธอไล่สายตาอ่านไปเรื่อยๆ ไม่ใส่เท่าใดนักจนกระทั่งวนกลับมาที่ชื่ออีกครั้งและหยุดลงตรงนามสกุล

“หมอจิวเป็นแฟนพี่อุ้มเหรอคะ”

“เพื่อนน่ะ... เพื่อนที่รักมากจนไม่อยากให้เสียใจ” นุชนันท์วางแฟ้มคนไข้ลง คว้ารถหัตถการและย่างสามขุมเข้าไปหา

...ทีแรกแค่นึกอยากสั่งสอนผู้ชายขี้หลีแต่ตอนนี้ขอแถมข้อหาหมั่นไส้โทษฐานที่ใช้นามสกุลเดียวกับรชญาไปอีกข้อละกัน...

“เจ็บตรงไหนครับ” วิทยาฝืนยิ้มจนเหมื่อยปาก ถ้าเป็นคนอื่นทำแผลเสร็จคงไล่ตะเพิดกลับบ้านไปแล้วแต่กับนายตำรวจหนุ่มจบใหม่คนนี้ที่ใช้นามสกุล ‘ศิลปะเดโชชาญ’ จึงทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด เพราะเขามีศักดิ์เป็นหลานของผอ.โรงพยาบาล ลูกพี่ลูกน้องของรชญา แฟนสาวของปาวัสม์นั่นปะไร

รติพัทธกอดอก ไม่พอใจในการรักษาอย่างที่สุด เริ่มแรกไอ้หมอหน้าตี๋คนนี้ก็มาขวางเขาจากเหยื่อเอ๊ย! จากคุณพยาบาลสาวน้อยน่ารักคนนั้นแต่ที่ทำให้โมโหน่ะคือปากกำลังคุยกับเขาแท้ๆ แต่ดันส่งสายตามองไปทางไหนก็ไม่รู้

ผู้หมวดหนุ่มมองตามด้วยหางตา ภาพของญาติผู้พี่ตนกำลังคุยหัวร่อต่อกระซิกกับแฟนหนุ่มสำหรับเขาออกเป็นเรื่องชินตา เขาตวัดสายตากลับมาอีกครั้งแล้วก็ถึงบางอ้อ!

“เจ็บตรงนี้ครับ” รติพัทธตบมือเบาๆ ลงบนตำแหน่งหัวใจ

...แบบนี้สิน่าสนใจ...

“คุณเคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจไหมครับ” วิทยาขมวดคิ้ว เริ่มซักประวัติต่อนึกเกรงอยู่ในใจหากทำการรักษาผิดพลาดหรือไม่ครอบคลุมอาจมีปัญหาใหญ่ตามมา ไม่ใช่เพราะกลัวหรอกนะเพียงแต่เขาเบื่อเรื่องยุ่งยากก็เท่านั้น

“มีครับ” รติพัทธตอบเสียงใส “โรคหัวใจขาดรักน่ะ”

วิทยากำหมัดแน่น ...ไอ้ตำรวจขี้หลีนี่มันจะมาไม้ไหนวะ!

“เย็นนี้คุณหมอวิทยาว่างไหมครับ” เขาตีเนียนเรียกชื่อจากการอ่านบัตรประจำตัวที่คล้องอยู่รอบคอ

“ไม่ว่างครับ”

“เดี๋ยวพยาบาลขอเปิดเส้นหน่อยนะคะพอดีคุณหมอให้ฉีดยา”

รติพัทธเหลียวมองคนพูดแล้วสะดุ้งเฮือก แวบแรกที่คิดคือ พยาบาลหรือพญามารกันแน่ ผู้หญิงอะไรตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ เขารีบยื่นแขนให้ทันทีตามคำขอเพราะกลัวจะโดนคุณเธอกระโดดทับถ้าคิดอิดออด

“โอ๊ย!” รติพัทธครางหลังโดนสอยไปเป็นรอบที่สอง “ยังไม่ได้อีกเหรอครับ ผมก็ว่าเส้นผมใหญ่นะ”

“คงอย่างนั้นแหละค่ะคับโรงพยาบาลเลย” นุชนันท์แกล้งว่า “ทนเจ็บอีกนิดนะคะ”

วิทยามองเพื่อนสาวแล้วก็ให้ฉงน นุชนันท์แทบจะเป็นลำดับต้นๆ ของโรงพยาบาลที่จะถูกเรียกหาถ้ามีการให้ไปเปิดเส้นหรือเจาะเลือดคนไข้โคตรวีไอพี เพราะไม่ว่าจะเป็นคนไข้เด็กเล็ก คนแก่ที่เส้นจม เส้นเปราะและหาเส้นยากที่สุด ไม่เคยมีใครเกินความสามารถเธอ แต่กับนายตำรวจหนุ่มแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวเส้นเท่าเอ็นควายแบบนั้นกลับต้องใช้ความพยายามถึงสามครั้ง

“เดี๋ยวจะฉีดยาแก้ปวดให้นะคะ” นุชนันท์บอกพลางหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา

วิทยาขมวดคิ้วอีกครั้งแต่ก็ยังไม่คิดจะทัก จนกระทั่งพยาบาลสาวเปิดแฟ้มคนไข้และแสร้งอุทานด้วยเสียงสูง

“อุ๊ย! ฉีดเข้ากล้ามหรอกเหรอ” พูดจบก็คว้าแขนรติพัทธแล้วปักลงไปแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ถึงจะถูกตำแหน่งและถูกวิธีแต่ก็ทำเอาคนกลัวเข็มที่ไม่ทันได้เตรียมใจร้องเสียงหลง

“อ๊ากกกก!”

นุชนันท์เหลือบตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าถูกมอง ทันทีที่สายตาสองคู่ประสานกันวิทยาก็แอบกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวจนต้องแกล้งไอถี่ๆ

“คุณหมอไม่ว่างไม่เป็นไร งั้นผมขอเปลี่ยนเป็นมารับไปส่งบ้านแทนละกันนะครับ ผมอยากบริการ” รติพัทธยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ

“งั้นคุณก็ไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์สิครับถ้าคิดว่างานประจำที่ทำอยู่ยังว่างมากเกินไป”

“งานน่ะไม่ว่างหรอกครับแต่หัวใจผมน่ะมีพื้นที่ว่างมากมายไว้รอให้ใครบางคนจับจอง”

...ไอ้บ้านี่มันอะไรของมันวะเนี่ย!!...

วิทยาเริ่มจะปรอทแตกขึ้นมาจริงๆ เขาเงยหน้าขึ้นสบตานางพยาบาลสาวร่างอวบ “เมื่อกี้เปิดได้เส้นใหญ่ไหมอุ้ม ท่าทางสมองคุณรติพัทธจะได้รับความกระทบกระเทือน ฉันอยากส่งไปเอ็กซเรย์ดูสักหน่อยน่ะ”

“คงไม่ได้ล่ะนี่เบอร์ยี่สิบเองแต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจัดการให้” นุชนันท์พูดพลางหยิบเข็มอีกอันขึ้นมาตัวเลขบ่งชี้ว่าเป็นเบอร์สิบหกและขนาดของมันพอๆ กับเข็มเย็บกระสอบข้าวสารเลยทีเดียว

นายตำรวจหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อก! คำโบราณว่าชายชาตินักรบไม่เคยกลัวศัตรู ที่ทำให้ใจแข็งกร้าวต้องไหวหวั่นมีเพียงความอ่อนโยนของสตรีเพศไม่เคยกล่าวเกินจริง

“ไม่เป็นไรมั้งครับคุณหมอ” รติพัทธรีบบอก “หัวผมไม่ได้ไปฟาดโดนอะไรสักหน่อยนะครับ”

...แต่เห็นทีวันนี้คงต้องขอแก้คำโบราณเสียใหม่...

“กันไว้ดีกว่าแก้นะครับ” วิทยาบอกสีหน้าเคร่งเครียดทั้งที่ริมฝีปากกรีดยิ้มเหี้ยมเกรียม

...อีกสิ่งที่ทำให้ใจไหวหวั่น...

“แต่ผมต้องรีบไปทำคดีต่อ”

...มิใช่คมดาบกล้าหรือศาตรา อาวุธใด...

“ไหนว่าว่างไงครับ” วิทยาถามหน้าตาเฉย

...ถึงจะมีขนาดน้อยนิดแต่พิษสงนั้นน่าสะพรึงยิ่งกว่า!!...

“ไม่ครับ ไม่... ไม่... ผมยุ่งจริงๆ” หน้ารติพัทธไร้สีเลือด เขาจะชักแขนหนีเมื่อมืออวบๆ คว้าหมับไว้แน่น

“อยู่นิ่งๆ นะคะจะได้เจ็บครั้งเดียว”

...คมเข็มแหลมถูกเงื้อขึ้นสูงก่อนจะจ้วงลึกลงในมังสา... เลือดสดๆ ของเขาสาดกระจาย!!...

“โอ๊ย!!”

“เรียบร้อยแล้วค่ะแหม ตัวออกโตแต่ร้องเสียงดังกว่าเด็กอนุบาลอีกนะคะ” นุชนันท์ส่งยิ้มหวานปานเพชรฆาตให้

“ขอบคุณนะครับ แต่ผมเปลี่ยนใจไม่ทำแล้ว เห็นคนไข้แข็งแรงดีให้กลับบ้านได้เลยครับ โอ๊ะ! เข็มนั่นไม่ต้องเอาออกหรอกอุ้ม” ตาเล็กๆ ตามสไตล์คนจีนเหลือบมองนายตำรวจหนุ่มที่นั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มวันไหว้เจ้า วิทยาแสยะยิ้มสะใจอย่างไม่ปิดบัง “เป็นที่ระลึก”

แต่รติพัทธยังไม่เลิกตอแย “ตกลงเย็นนี้ผมมารับครับ”

วิทยาชะงักกึกชักอยากส่งคนไข้รายนี้ไปรักษาต่อที่ห้องดับจิตขึ้นมาตะหงิดๆ เขาเปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็งในอุณหภูมิที่ติดลบ “ผมไม่ได้บอกคุณแล้วเหรอครับ... ว่าผมไม่ว่าง”

เมื่อเจอความเย็นขนาดตัดขั้วหัวใจได้ รติพัทธจึงยกธงขาวยอมแพ้ เขามีสีหน้าเซ็งอย่างถึงที่สุดที่ต้องกลับไปมือเปล่าแต่ในสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำเช่นนี้การถอยไปตั้งหลักและค่อยกลับมาแก้ตัวใหม่วันหลังแลดูจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์รุก รับ ร่น ถอย ที่น่านำมาประยุกต์ใช้มากที่สุด

“ขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลยนะ” นุชนันท์ทำปากขมุบขมิบสาปส่ง “คนพี่ก็เอาแต่ใจ หลานชายก็ขี้หลี”

วิทยายกมือขึ้นกอดอก ใคร่ครวญถึงความไม่สมเหตุสมผลของการที่ผู้หมวดหนุ่มจะขับรถวนอ้อมโลกมาทำแผลที่เรียกได้เต็มปากว่าขี้ปะติ๋ว ห้องพยาบาลประจำสถานีก็มีหรือจะไปโรงพยาบาลตำรวจก็ใกล้กว่า เหตุผลมันไม่ใช่แค่เพราะเป็นหลานผอ.หรือน้องรชญาแน่นอนเมื่อเห็นกันอยู่ทนโท่แต่ไม่คิดจะทักทายกันสักคำ... ว่าแต่มันคืออะไรกันล่ะ?

“ฟังนะจิว” เสียงหวานปนดุของนุชนันท์เฉียบขาด “ในฐานะเพื่อนฉันขอสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้นายไปข้องเกี่ยวอะไรกับผู้ชายคนนี้ไม่ว่านายจะเป็นหรือไม่ได้เป็นเกย์ก็ตาม”

“เธอหมายความว่าไง” วิทยาขมวดคิ้ว เพราะมัวแค่คิดเขาจึงไม่ทันได้ฟังคนร่างอวบพูดมากนัก

“ก็หมายความว่าฉันจะฆ่ามันไปพร้อมๆ กับยัยพี่สาวตัวดีทันทีที่มีโอกาสน่ะสิ ว่าแต่ตกลงนายมีธุระอะไรกับฉัน”

นัยน์ตาเล็กตี่เหลือบมองหญิงสาวร่างอวบข้างกายก่อนจะมองร่างสูงที่ยังยืนคุยอยู่กับแฟนสาวและตวัดกลับมาสบตานุชนันท์อีกครั้ง วิทยากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอพร้อมทั้งกรีดยิ้มหวานเดียงสาให้แลดูน่าเห็นใจที่สุด “ปืนฝากฉันมาบอกเธอว่า...”

ถัดออกไปไม่ไกลบริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล ร่างสูงใหญ่เอนหลังพิงเบาะในรถตำรวจ นัยน์ตาภายหลังแว่นดำจ้องผ่านกระจกมองหลังไปยังชายหญิงในชุดขาวสองคนที่กำลังทุ่มเถียงอะไรกันสักอย่างหน้าห้องฉุกเฉิน เขาอมยิ้มมุมปากพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก “หน้าตาใช้ได้ถึงจะไม่สเปคเท่าไหร่แต่ก็น่าสนใจดี เป็นอันว่าผมตกลงรับงานนี้ขอเวลาไม่เกินเจ็ดวัน ผมจะทำให้เขาไม่มายุ่งกับคนของพี่อีกเลย” เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไป
OOOOOO

เมื่อสนธยาเริ่มมาเยือนก็ได้เวลาที่คุณหมอหนุ่มจะเลิกงานกะเช้า เขาลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจและเดินออกไปหน้าห้องฉุกเฉินกำลังนึกวางแผนจะให้วิทยาพาไปเอารถที่ร้านอาหารเมื่อคืน พลันเสียงเตือนของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นพร้อมกับข้อความเข้าจากเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย

[ คุณหมอคนเก่งเลิกงานหรือยังคับ ]

ปาวัสม์นิ่วหน้าก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อย เดาได้ทันทีว่าเป็นเบอร์ใครจากสำนวนเลี่ยนๆ กวนเส้นประสาทส่วนล่าง เขาเหลือบมองซ้ายขวาก่อนจะปั้นหน้านิ่งทำเป็นไม่สนใจและยัดโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋า พลันเสียงเรียกเข้าจากเบอร์เดิมก็ดังขึ้นทันทีตามที่คาด เขายกขึ้นกดรับ

“มีอะไรเจ้าเด็กแสบ”

‘อ้าว... หมอปืนก็รู้นี่นาว่าเป็นเบอร์ผมแล้วทำไมไม่ตอบล่ะครับ’

เสียงทุ้มที่เริ่มจะคุ้นเคยดังมาตามสาย

“ก่อนจะว่าคนอื่น สารภาพมาก่อนดีไหมว่าเอาเบอร์ฉันมาจากไหน” ปาวัสม์ถามกลับเสียงเข้ม

‘เอ่อ...’

ได้ผล ปลายสายที่เคยลัลลาออกอาการหมาหงอยขึ้นมาทันที นัยน์ตาเบื้องหลังกรอบแว่นสอดส่ายไปรอบๆ พร้อมกับสืบเท้าเบาๆ เพื่อหาเจ้าตัวดีที่คงจะนั่งแอบอยู่แถวนี้เพื่อดูท่าทีเขาเป็นแน่ ครู่เดียวเขาก็ได้ยินเสียงเด็กหนุ่มดังแว่วมาจากหลังเสาต้นหนึ่ง

‘เมื่อคืนตอนที่คุณหมอหลับ...’ เด็กหนุ่มยอมรับตามตรง ‘ขอโทษนะครับ คุณหมอโกรธหรือเปล่า’

“โกรธสิ!” ปาวัสม์ทำเสียงดุยิ่งขึ้นไปอีก และค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ เขาชะโงกข้ามเหลี่ยมเสา เห็นคนในชุดหมีสีดำคาดแถบสีส้มนั่งยองๆ กุมขมับขยี้เรือนผมสีน้ำตาลที่ยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งขึ้นไปอีกป้องปากคุยโทรศัพท์อยู่จึงแกล้งกดตัดสายทิ้ง

“อ้าว... คุณหมออย่าเพิ่งวางสายสิครับ... คุณ...”

“อยากรู้ทำไมไม่ขอดีๆ” 

ภาวัฒน์หน้าตาเหลอหราและลนลานลุกขึ้นยืน จะกลบเกลื่อนก็สายไปเสียแล้วเมื่อร่างสูงกอดอกพิงเสาจ้องคาดโทษตาเขียวปัด “ข... ขอโทษครับ”

คุณหมอหนุ่มมองลอดแว่น ทั้งที่ในใจนึกขัน อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธสักนิด แค่เบอร์โทรก็ไม่รู้จะหวงไปทำไม แต่เขาหมั่นไส้คนหน้าเป็นและอยากจะแกล้งกลับเท่านั้นเอง แหม... ไม่ใช่ว่าใจดีชาร์ตโทรศัพท์ให้ที่แท้แอบขโมยเบอร์โทรเขานี่เอง “ว่างนักใช่ไหมมาล้อฉันเล่นแบบนี้”

“นิดหน่อยอ่ะ ก็คืนนี้คนดวงเซิ้งบางคนไม่เข้าเวร ผมเลยนั่งหง่าวจนขาเป็นตะคริวแล้วเนี่ย” คนหน้าเป็นลอยหน้าลอยตาตอบ

“ก็ดีแล้วนี่ นายจะได้มีเวลาไปจีบคุณพยาบาลสาวๆ”

คนถูกกล่าวหาทำตาโต “ผมไม่เคยทำแบบนั้นสักหน่อย”

“พาไปเอารถหน่อยสิ” ปาวัสม์ว่า การไปเอารถกับวิทยาคงสบายใจกว่าแต่เห็นทีจะไม่สนุกเท่ากับการได้ต่อล้อต่อเถียงกับคนชอบแกล้งเขาคนนี้หรอกและมันเรื่องอะไรที่เขาต้องยอมอยู่ฝ่ายเดียว

“ห๊ะ!?”

“ ก็ว่างอยู่ไม่ใช่เหรอ” ร่างสูงเลิกคิ้วเป็นเชิงถามและเดินนำไป “ดีกว่านั่งหายใจทิ้ง ถือซะว่าไถ่โทษเรื่องเบอร์โทรละกัน... ตกลงจะไปไหม?”

“อย่ามาทำเป็นสั่งนะ” เด็กหนุ่มแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยประชดและเดินทอดน่องตามไปแบบเซ็งๆ ทั้งที่ใจวิ่งนำไปสตาร์ทมอเตอร์ไซค์รอตั้งนานแล้ว เพราะสาเหตุที่ส่งข้อความไปกวนก็เพื่อจะชวนไปเอารถด้วยกันนี่แหละ
OOOOOO

“ขอบใจนะพลุ” ปาวัสม์ขึ้นนั่งสตาร์ทรถพร้อมกับลดกระจกด้านข้างลง

เด็กหนุ่มได้ทีรีบยื่นหน้าเข้ามาเอาคางวางเกยบนขอบหน้าต่างเพื่อคุยกับเขา “เรื่องเล็กน้อยครับคุณหมอ... ขับรถดีๆ เจอกันพรุ่งนี้ที่งานนะครับ”

“นายก็ไปด้วยเหรอ?”

ถามออกไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กหนุ่มจะรู้เมื่อ ‘งาน’ ที่พูดถึงเป็นการประชุมใหญ่ระดับชาติซ้ำยังเกี่ยวพันโดยตรงถึงหน่วยงานอุบัติเหตุและศูนย์กู้ชีพอีก

“หมอปืนของผมอุตส่าห์ได้รับเลือกให้ขึ้นไปบรรยายทั้งทีผมจะพลาดได้ยังไงล่ะครับ” ภาวัฒน์ยิ้มหน้าแป้นแล้นและชูนิ้วโป้งให้สองมือ

ปาวัสม์เลิกคิ้วให้คนหน้าเป็นที่ถือดีมาใช้คำว่า ‘ของผม’ อย่างหน้าด้านๆ... เป็นอะไรกันหรือก็เปล่า นี่พอเห็นยอมเข้าหน่อยชักลามปามนะไอ้เด็กแสบ... ถึงจะรู้สึกตงิดๆ แต่น่าแปลกที่เขาไม่หงุดหงิดเลยสักนิด กลับกันออกจะชอบใจเสียด้วยซ้ำ คล้ายกำลังถูกลูกสุนัขตัวโตๆ ที่เลี้ยงไว้เกาะแข้งเกาะขาอ้อนขอขนม คิดแล้วคุณหมอหนุ่มก็อดใจไม่ไหวยกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลยุ่งๆ เหมือนขนลูกสุนัขพันธ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ด้วยความหมั่นไส้

“ไม่เล่นน่า”

แต่ปาวัสม์ไม่เลิก เส้นผมสีน้ำตาลที่เคยคิดว่าจะสากมือกลับอ่อนนุ่มจนไม่อยากปล่อย และเพราะเจ้าตัวแสบพยายามจะสะบัดศีรษะหนี เขาจึงต้องใช้มือทั้งสองข้างคว้าใบหน้าสีแทนนั้นไว้ในอุ้งมือ ดึงเชิดขึ้นให้สบตาก่อนจะนิ่งไปอย่างพิจารณา นิ้วเรียวไล้ไปตามแนวกรามที่เต็มไปด้วยไรหนวดเขียวครึ้ม นึกสงสัยขึ้นมาจับใจว่าถ้าดวงหน้านี้เกลี้ยงเกลาจะดูเป็นเช่นไร

“ทำไมนายถึงไว้หนวดล่ะ”

“ก็เพราะว่ามันเท่ไงครับ” ภาวัฒน์ยืดอกตอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

คิ้วหนาย่นเข้าหากัน “นายคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ แต่ฉันว่ามันรุงรังแถมยังดูแก่ด้วย... ไปโกนออกเหอะ” พูดจบก็ปล่อยมือจากเด็กหนุ่ม “เจอกันพรุ่งนี้นะ”

เขากดกระจกขึ้นและขับรถออกไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้เด็กหนุ่มยืนอ้าปากค้างเป็นปลาทองขาดน้ำอยู่คนเดียว
*******************************************
มาถึงตอนที่ 3 แล้ว กว่าจะมาอัพเกือบหมดสัปดาห์แน่ะ (งือ...ตอนนี้เค้างานยุ่งมากเลยยยย ขอกำลังใจหน่อยยยTT^TT)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และกำลังใจนะคะ [[ปลื้มปริ่มสุดๆ]] ^^ ถ้าคนอ่านอ่านแล้วยิ้ม เลกกี้อ่านคอมเมนต์แล้วยิ้มกว้างกว่าร้อยเท่าเลยล่ะ
ตอนนี้เปิดตัวละครใหม่หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ รู้สึกว่าบทนี้หมอปืนกะเจ้าพลุไม่ค่อยมีบทเลยยยยยย(ก็ตามชื่อตอนล่ะค่ะ)
ไว้ตอนหน้ามีเซอร์ไพรส์แน่ๆ ค่ะ

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คิดถึงเรื่องนี้พอดีเลยยยยยย


ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ร้ายใช่เล่นเหมือนกันนะหมอนิวและก็อีตาตำรวจด้วย
ต้องให้อุ้มจับตอนให้เข็ด

พลุจะค่อยๆซึมเข้าในชีวิตหมอปีนแล้ว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ร้ายทั้งพี่ทั้งน้อง หมอจิวพลอยซวยไปด้วย
ยังดูไม่ออกใครจะเป็นพระเอกระหว่างหมอปืนกับนายพลุ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
คิดถึง
แต่หมั่นไส้หมอปืนมากกกกกกกกกกก :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
นึกว่าจะเลิกซะแล้วยังกลับไปง้ออีก
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
หูยยยยยย น่ารักกกกกกกกกก

หมอปืนตอนตื่นเช้ามาหลังจากเมานี่หมดสภาพเลยค่ะ
หมดกันคุณหมอรูปหล่อ มาดครึม ดุดัน 5555555555555
นี่กลายเป็นคนละคนเลย ถถถถถถถถถถถ

แต่ตอนนี้รู้สึกว่าหมอปืนกับน้องพลุน่ารักมุ้งมิ้งจริงๆ นะนี่
อ่านไปยิ้มไป ขำไปด้วยค่ะ ขำหมอปืนมาก แทบลืมภาพลักษ์คุณหมอมาดดุไปเลย

ว่าแต่ว่าหมอจิวที่ต้องแอบคิดไม่ซื่อกับเพื่อนสนิทตัวเองแน่ๆ เลยใช่มั้ย?
ยัยน้องนิวนี่ก็น่าหมั่นไส้เหลือเกิน นี่ลากลูกพี่ลูกน้องเข้ามาเอี่ยวด้วยแบบนี้
หมอจิวอย่าไปตกหลุมพรางตำรวจขี้หลีนะคะ *เตรียมเข็มฉีดยาไว้เตรียมพร้อม*

รออ่านตอนหน้าค่ะ >_<
ทำงานสู้ๆ น้า  :กอด1:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
อีตาผู้หมวดคงไม่ได้คู่กับหมอจิวนะ
พลุก็ได้ใกล้หมอปืนมาอีกหน่อย  :mew1:

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มาแล้ว!! สนุกมากเลย ยิ่งอ่านยิ่งรักหมอปืนกับหมาพลุ? 5555

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
กดบวกกดไลค์ค่าาา ความสัมพันธ์คืบหน้าจุงเลย

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะค๊า สู้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อุ๊ยยยยยยย อีตาตำรวจชีกอวางแผนกับนางงูพิษมากีดกันพี่จิวกับหมอปืนของเราแน่ๆ :m16:
แบบนี้ต้องให้พี่อุ้มออกโรง ฆ่ามันๆๆๆๆ :m31:
อยากเห็นพลุโกนหนวดดดดดดดด
ต้องหล่อแน่ๆเลย ไว้หนวดมันแก่เร็วนะลูกกก ถึงจะไม่อยากเป็นเด็ก
แต่อ่อยๆไปเดี๋ยวหมอปืนก็ยอมเอง :hao7: อร๊ายยยยยยยย
รอตอนต่อไปน้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สงสารจิวค่ะ เจอแบบนี้เข้าไป

ป.ล. ไม่ใช่สองสาวทะเลาะกันมาก ๆ แล้วหันมาชอบกันเองนะคะ....

ออฟไลน์ khuan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ชอบค่ะชอบ  ลุ้นไปกับหนูพลุ คุณหมอนะคุณหมออะไๆยังไงๆ ซะแล้ว :กอด1:

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
‘นายลองมาเป็นแฟนฉันไหม?’  ว้ายยยย นี่หรือคือคำถามนั้น หมอปืนนน   :m3: ถามเล่น ๆ อะไร ไม่เชื่อ ๆ
ตอนเมาเนี่ยแหละ สิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกจะกลั่นออกมาเป็นคำพูดนะคะ มีการรอจูจุ๊บจากน้องพลุด้วยอ่ะ  :-[
นอกจากตอนรักษาคนไข้ ที่หมอปืนดูจริงจัง แถมดุ๊ดุ อย่างที่น้องพลุว่า แต่เวลาปกติ เป็นคนรั่ว ๆ อย่างนี้เองสินะ
ความคิดแต่ละอย่าง ขำ ๆ ดีอ่ะ ชอบ ๆ

ตกลงหมอจิวนี่ คิดยังไงกับหมอปืนกันแน่นะ แล้วร้อยตำรวจตรีรติพัทธ ขี้หลีเนี่ย อะไร ยังไง รชญาสั่งมาเหรอ
แต่รชญา ให้มาจัดการหมอจิว หรืออุ้มกันแน่ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า แต่ยังไงก็ไม่มาดีแน่ ๆ ล่ะ
ภายในเจ็ดวัน จะเกิดอะไรขึ้นกับหมอจิวหรือเปล่าอ่ะ กลัวจังเลย หวังว่าจะไม่มีดราม่าน้า

ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งหลงเสน่ห์น้องพลุมาก ๆ ขึ้น ๆ ไปทุกตอนเลย เข้าใจความรู้สึกหมอปืน หนุ่มน้อยช่างดูแล
ช่างเอาอกเอาใจ ใส่ใจเราขนาดนี้ ใครได้ใกล้ชิดแล้วจะไม่หลงรักบ้าง ไม่มีทาง ยิ่งตอนหน้า
น้องพลุต้องโกนหนวดตามคำสั่ง (?) แล้วมาโชว์หน้าใส ๆ ให้หมอปืนตกหลุมเสน่ห์อีกแน่เลย เย้ๆๆๆ

รอตอนต่อไปจ้า เป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ ๆ กับเรื่องงานนะจ้ะ ขอบคุณ ที่ถึงงานจะยุ่ง
ก็ยังมาอัพนิยายให้ตามสัญญา ขอบคุณมากเลยค่ะ ^^

ปล. หมอปืนนี่เป็นแฟนคลับโดราเอมอนใช่ไหมเนี่ย ทั้งพวงกุญแจ ทั้งบัตรประจำตัว(ใบเก่า) น่ารักดีจัง

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
อิตำหนวดกับยัยชะนีมีแผนร้ายนี่เองงงงง

พลุกับหมอปืนมีอดีตต่อกัน โรแมนติคจัง


ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ชอบบบบบบบบน้องพลุที่สุดเลยค่ะ  :-[ :-[ :-[
คือน้องน่ารักมากกกกกกก รักทุกอย่างที่เป็นน้องเลยอ่ะ ทั้งทัศนคติทั้งความกวนความเฟี้ยว คือน้องมีทุกอย่างที่ทำให้คนๆนึงตกหลุมรักจริงๆค่ะ! หมอจิวอาจจะบอกว่าคนที่หมอปืนรักเป็นคนที่โชคดีที่สุด แต่สำหรับเราคนที่น้องพลุรักต่างหากที่โชคดีสุดๆไปเลย >___<

ส่วนน้องนิว เอ่อะ ผู้หญิงน่ารำคาญแห่งปีป่ะคะ​ ? ขอเถอะ ทำไมหมอปืนต้องไปคบคนแบบนี้ด้วยเนี่ย -*-
ถ้าจะเลือกผู้หญิงซักคนให้อุ้มเรายังดีใจมากกว่ามากเลยนะคะ แต่แบบนี้ก็ดี จะได้หาข้ออ้างเลิกได้ง่ายๆไวๆ

ประเด็นคือสงสารหมอจิวมากเลยค่ะ ; ___ ; .. แอบชอบเพื่อนสนิทไม่สมหวังยังไม่พอ ยัยน้องนิวตัวร้ายยังส่งตำรวจเจ้าชู้มาหลีใส่อีก นิสัยไม่ดีเลยอ่ะคนตระกูลนี้ เห็นเรื่องความรักเป็นอะไรกันคะ ? นี่ถ้าหมอจิวรู้ว่าที่คุณตำรวจมายุ่งด้วยเพราะน้องสาวขอให้มากันออกจากแฟนตัวเองนี่คง .. เฮ้อ =______=
หวังว่าหมอจิวจะไม่ตกหลุมใครง่ายๆนะคะ สู้ๆค่ะ T T
ติดเรื่องนี้มากกกกกเลยค่ะจริงๆ อยากให้มาบ่อยๆจังค่ะ  :hao5:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รออยู่เสมอเลยค่า <3 .. นี่ตั้งแต่เข้าช่วงวันศุกร์มาก็มารอตลอดเลยแต่ไม่กล้าเม้นตาม แฮ่ะๆ
กะว่าถ้าวันนี้ไม่มาจะมาตามแล้วค่ะ แต่มาพอดี ~~ ดีใจมากเลยค่ะ  :mc4:
รักนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
สนุกจัง ชอบเรื่องนี้  พลุน่ารักมาก
ยัยน้องนิว ท่าทางจะร้ายใช่ย่อย หมอปืนตาสว่างทีเถอะ
ตอนหน้าจะเซอร์ไพรส์อะไร หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องร้าย ๆ นะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  สู้ ๆ นะ :L2:

ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่ะนะ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อใช้ม้ายยยยย น่ารักจริงๆน้าแต่ละตอนเนี่ย

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ขอบคุณมากค่ะที่มาอัพตอนใหม่ให้

ชอบโมเมนท์ของพลุกับปึน ดูแลกันดีมาก

ว่าแล้วเรึ่องหมอวิทย์ขอบหมอปึนจริงๆ จะอยู่ในสถานะไหนก็เถอะ  แต่ถ้าจะโดนคุณตำรวจลูบคมในไม่ช้า

ชอบอุ้มมาก เป็นตัวละครหญิงในนิยาย ช-ช ที่ชอบได้ไม่ยาก  อุ้มเป็นคนดีมากๆ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หมอจิวไปเหยียบตาปลาใครกันนะ

ออฟไลน์ katekate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
บังเอิญได้อ่านแล้วรู้สึดชอบมาก ทั้งการบรรยายและการใช้ภาษาดีมากค่ะ อ่านแล้วเพลินสุดๆ
ถึงตอนนี้ยังสับสนว่าจะหมอพลุหรือพลุหมอ แต่เชียร์ให้เป็นหมอพลุน้า
เดาว่าต้องมีอีกคู่คือหมอจิวกับญาติหมอนิวแน่ๆเลย

จะติดตามไปเรื่อยๆเลยน้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด