~ เจ้าหนี้หรือสามี บอกผมสิจะเป็นใคร~ [ตอนพิเศษ 4 ต้อนรับวันแม่] |P.39|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้านิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์สนใจจะสั่งซื้อหรือไม่

แน่นอนอยู่แล้ว ดีงามขนาดนี้
ก็ไม่แน่รอตอนต่อไป
ไม่มีทางได้กินเงินชั้นหรอก

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ เจ้าหนี้หรือสามี บอกผมสิจะเป็นใคร~ [ตอนพิเศษ 4 ต้อนรับวันแม่] |P.39|  (อ่าน 335162 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noina_Pn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อ่านรวดเดียวจบเลยน้าาาาาาาา
แฝดสามน่ารักที่สุด ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
เรื่องนี้ฮาน้องปันสุดอ่ะ ตั้งแต่เจอพี่สาวคนสวยล่ะ(พี่บอส) น้องปันน่ารักมากๆๆๆ   ปัน บรีส โทนี่ น่าจะเราสามคนได้เนอะ คงฮากระจาย  หมี่เย็น , เค้ก , ไหนจะต้มมาม่า , ล่าสุด คอ...วอ...เฮ้ยติดเรท 555

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮาเกินจะกล่าว :jul3:
เป็นผู้ชายปกติอยู่ดีดี ท้องได้ซะงั้น! :m20:
อะไรก็เกิดขึ้นได้กับเรื่องนี้ :laugh:

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
บอสเป็นแม่คนแล้วววววววว
แถมมีลูกแฝด3ด้วยอ่ะ
คุณปู่ คุณย่า คุณตา เปรมกันถ้วนหน้าเลย
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
เรื่องนี้บทจะฮาก็ฮา บทจะหน่วงก็หน่วง เออเริ่ด  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
สนุกดีครับ มาฮาอีตรงมีลูกเนี่ยแหละ :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2

ออฟไลน์ ที่เดิมในหัวใจสาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ่านรอบที่ 2 และ หนุกดี เหอๆๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imseries

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ imseries

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เป็นสาวเป็นนางจูบผู้ชายก่อนไม่ดีนะอิอิ

ออฟไลน์ Noodle Cup

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พึ่งเข้ามาอ่านสนุกดีนะ :pig4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น่ารัก ดีใจจริง มีลูกด้วย
ขอบคุณคนแต่งค่าสำหรับนิยายน่ารักๆ และฮาๆ

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
555ตุ๊กตากระดาษ ทำเอานึกถึงตัวเองสมัยเด็กเลย :jul3:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4

ออฟไลน์ Blueniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
การใช้หนี้ครั้งพิเศษ 4  :  กลัว

“ บอสว่าลูกเราเล่นกันอยู่แค่ 3 คนจะเหงาหรือเปล่า? ”

“ บอสว่าไม่นะครับพี่ปูน เพราะพี่เลี้ยงของเจ้าสามแสบเยอะจะตาย ไหนจะเจ้าปีใหม่ คุณพิท ยัยปัน ยัยบรีส โทนี่ พ่อ แม่ ป๊า น้าอุ่น ลุงเพิ่ม นี่ยังไม่รวมลูกน้องพี่ปูนเลยนะครับ บอสว่าไม่เหงาเหรอก ”

“ แต่พี่ว่า คนที่อายุใกล้กันเล่นด้วยกันมันจะสนุกกว่าหรือเปล่า? ”

“ เดี๋ยวนะครับ พี่ปูนพูดงี้หมายความว่าไง ” ผมที่นั่งเช็ดหัวอยู่ปลายเตียงต้องรีบหันค้อนกลับมามองคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ด้านหลัง แล้วก็เป็นจริงตามคาด สายตาคู่นั้นไม่เคยปิดบังอารมณ์ตัวเองได้เลยจริงๆ

“ ก็หมายความว่า...” พี่ปูนเว้นจังหวะลมหายใจไปช่วงหนึ่ง พร้อมกับใช้สายตาแทะโลมร่างกายผม จนผมรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ “ เรามาทำน้องๆ ให้เจ้าสามแสบกันดีกว่า ”

“ อย่านะครับพี่ปูน พรุ่งนี้บอสมีนัดตอนเช้า ”

“ ก็เลื่อนสิ ไม่ก็ให้คุณพิทจัดการแทนก็ได้นี่ ”  คนตัวใหญ่พูดพลางใช้ปลายจมูกไล้ไปตามซอกคอขาวพร้อมกับที่มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายของผม

“ ต...แต่...ซี้ด ”

“ น่านะ.. ” ไม่รอรับการอนุญาตใดๆ มือใหญ่ก็ล้วงเข้าไปในบ็อกเซอร์ของผมแล้ว

“ ฮึก ” ผมพยายามกลั้นเสียงครางเอาไว้และเริ่มออกแรงผลักพ่อตัวดีออกไป เพื่อไม่ให้อะไรๆ มันเกินเลยมากไปกกว่านี้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนเดิมคือผมสู้แรงอะไรของเขาไม่ได้เลย ในวินาทีที่ผมเริ่มจะถอดใจแล้วกำลังปล่อยให้อะไรๆ เป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น เสียงทุบประตูก็ดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออก

ปังๆๆๆ แอ๊ดดดด

ผมรีบกระโดดลุกจากเตียงด้วยความเร็วแสง จนทำให้คนข้างๆ หงายหลังลงไปบนเตียงเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว

 “ หม่าม้าๆๆ !@#$!%$^&* ” เด็กๆ วิ่งเข้ามาเกาะแข้งเกาะขาผมก่อนจะเริ่มแย่งกันพูดจนผมฟังไม่ได้ศัพท์ เลยต้องยกมือทั้งสองขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุด ซึ่งเด็กๆ เองก็ยอมทำตาม ผมจึงก้าวถอยหลังมานั่งที่ปลายเตียงข้างสามีที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่ก่อนแล้วเพื่อที่จะได้คุยกับลูกๆ ได้ถนัดขึ้น

“ ยกขบวนเข้ามาหาหม่าม้าดึกๆ มีอะไรกันหื้ม? อ๊ะๆ อนุญาตให้พูดทีละคนนะครับ ”

“ ไออยากฟังหม่าม้าเล่านิทาน ” ไอเดินมาเกาะขาซ้ายผมก่อนจะเริ่มอ้อน เจ้าแอมกับเจ้ายัวร์เห็นก็เดินตามเข้ามาเกาะขาอีกข้างบ้าง

“ แอมก็อยากฟัง ”

“ ยัวร์ด้วยๆ ”

ผมมองเจ้าตัวเล็กด้วยความเอ็นดูพลางอมยิ้มให้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผิดกับคุณสามีที่เอาแต่ทำหน้ามุ่ยเป็นตูดลิงเพราะไม่พอใจที่เด็กๆ มาขัดจังหวะ

“ ไหนมาดูสิวันนี้จะให้หม่าม้าเล่าเรื่องอะไร? ”

“ เจ้าชายกบ/นางเงือกน้อย/ปลาบู่ทอง ” เป็กออฟไอซ์ยังต้องอายเมื่อเจอสามเสียงประสานของเจ้าสามแสบเข้าไป และทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด สงครามเล็กๆ เริ่มขึ้นแล้ว

“ ไอจะฟังเจ้าชายกบ ”

“ ไม่เอา แอมจะฟังนางเงือกน้อย ”

“ แต่ยัวร์จะฟังปลาบู่ทอง ”

“ วันนี้มันตาไอเลือกนิทานนะ ”

“ ไอมั่ว ไอเพิ่งเลือกไปเมื่อวาน วันนี้ตาแอม ”

“ ตายัวร์ต่างหาก ”

ตุบตับๆ

และก่อนที่เด็กทั้งสามจะลงไม้ลงมือกันมากไปกว่านี้ คนที่เงียบมาตลอดจึงเปิดปากเพื่อยุติสงคราม

“ ไอแอมยัวร์ สต็อป! ”

ทุกการกระทำเมื่อครู่หยุดชะงักเหมือนโดนเอลซ่าพ่นน้ำแข็งใส่ เพราะคำพูดของผู้เป็นบิดาถือเป็นสิทธิ์ขาด หากฝ่าฝืนก็จะได้รับการลงโทษ ไม่ใช่การตีเหมือนที่พวกเราเคยโดนตอนเด็กๆ เพราะมากที่สุดที่ผมเคยเห็นคือพี่ปูนจะให้ลูกไปนั่งสำนึกผิดหันหน้าเข้ากำแพง 3 นาที ตอนแรกๆ ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของเขาเท่าไหร่เหรอก ลูกของเรายังเด็กนะ ตอนนี้ก็เพิ่งจะสองขวบครึ่งเอง เขาจะไปเข้าใจอะไร แต่หลังจาก 3 นาทีผ่านไปแล้วผมถึงรู้ว่า เขาเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว เขาไม่ได้ใจร้ายแบบไม่มีเหตุผล แต่สิ่งที่เขาทำเพื่อสอนให้เด็กๆ รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ให้เด็กๆ ได้ทบทวนในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ก่อนที่เขาจะอธิบายให้ลูกๆ ฟังอีกทีว่ามันไม่ดีและไม่ควรจะทำอีก และทุกอย่างก็จบลงด้วยการหอมแก้มฟอดใหญ่จากผู้เป็นบิดา

“ วันนี้หม่าม้าเหนื่อยแล้ว ให้ปะป๊าเล่าแทนนะ ”

เด็กๆ ทำหน้าตกใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ปะป๊าอาสามาเล่านิทานให้ฟัง สายตาทั้งสามคู่ประสานกันเพื่อถามความคิดเห็นจากคนอื่น ก่อนที่ไอผู้เป็นพี่ใหญ่จะพูดสรุปผลการประชุมทางสายตาเมื่อครู่

“ โอเค ” พูดเสร็จ เจ้าไอก็ปีนขึ้นเตียงมานั่งแทรกกลางระหว่างผมกับพี่ปูน ก่อนที่เด็กอีกสองคนจะทำตาม จนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมกับพี่ปูนนั่งห่างกันเกือบเมตร จากที่ตอนแรกที่นั่งติดกันจนมดเดินผ่านยังต้องเขม่วพุง เห็นแบบนี้แล้วก็ดูเป็นครอบครัวอบอุ่นดีครับ ไม่รู้ว่าพี่ปูนคิดเหมือนกันหรือเปล่า หน้านี้หงิกเชียว

“ ไหนใครอยากฟังปะป๊าเล่านิทานบ้าง ยกมือ ” ผมถามเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้เด็กๆ และเป็นการให้เวลานักเล่านิทานมือใหม่เตรียมตัว ซึ่งมันก็ได้ผลดีตามที่คาด เด็กทั้งสามชูมือขึ้นสุดแขนบอกให้รู้ว่าอยากฟังสุดๆ ไปเลย แต่ทางปะป๊าน่ะสิดูจะน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย เห็นสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดหลายรอบแล้ว

“ พร้อมไหมๆ ”

“ พร้อมมมมม ”

“ แล้วปะป๊าพร้อมไหม? ”

“ ... ”

“ พี่ปูน ”

“ ห๊ะ? ”

“ พร้อมหรือยัง ลูกรออยู่ ”

“ พ..พร้อม แต่มันเริ่มยังไงนะ อ๋อๆ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.. ”

เด็กทั้งสามนั่งนิ่งหันมองหน้าพี่ปูนอย่างตั้งอกตั้งใจฟัง แม้ว่านิทานที่พี่ปูนเล่ามันจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่มันก็น่าตื่นเต้นมากพอที่อยู่ๆ พ่อที่ชอบเก็กหน้าโหดอยู่ตลอดเวลาจะยอมมาทำอะไรที่ขัดกับบุคลิกเล่านิทานแถมยังดัดเสียงเป็นตัวละครในเรื่องให้ลูกฟังอีก ซึ่งมันก็เป็นอีกมุมหนึ่งของเขาที่ผมไม่เคยเห็น และพอได้เห็นผมก็ยิ่งมั่นใจว่าผมเลือกผู้ชายไม่ผิดเลยจริงๆ

“ และสุดท้ายหมูทั้งสามก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป ” เสียงพี่ปูนจบลงพร้อมกับนิ้วเรียวของเขาที่เอื้อมมาสะกิดตรงต้นขาผม ผมละสายตาที่มองลูกๆ ที่ตอนนี้ล้มตัวลงนอนกันหมดแล้วหันไปมองสามีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเตียงโดยมีเด็กสามคนนอนกั้นอยู่

“ บอส ไหนๆ ลูกหมูสามตัวของเราก็ยึดที่เราไปแล้ว งั้นวันนี้เราไปเปลี่ยนบรรยากาศที่ห้องลูกกันดีไหม? ”
ผมเริ่มอยากจะถอนคำพูดว่าผมเลือกคนไม่ผิดก็ตรงนี้แหละ คนอะไรในสมองมีแต่เรื่องใต้สะดือ เอะอะๆ ก็วกเข้าเรื่องนี้ตลอด

“ นะครับ ” เขาคงคิดว่าสายตาแบบนั้นมันได้ผลสินะ ถึงได้ขุดมาใช้กับผมทุกครั้งที่จะชวนผมทำเรื่องอย่างว่า

“ อืม ” แต่เขาคิดถูกแล้วล่ะ เพราะสายตาคู่นั้นมันมีอิทธิพลกับผมมากจริงๆ มากจนผมไม่อาจปฏิเสธเขาได้เลยสักครั้ง ผมรีบก้มหน้าคางชิดอกด้วยความเขินหลังจากที่ให้คำตอบสามีไป เพราะไม่อาจทนเห็นรอยยิ้มของเขาได้

‘รอยยิ้มแห่งชัยชนะ’

พี่ปูนลุกออกจากเตียงด้วยความเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะอ้อมมายืนอยู่ด้านหลังผม ผมมองดูลูกๆ อีกครั้งให้แน่ใจว่าพวกเขาหลับสนิท แอบรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันนะที่ทิ้งเขาไว้แบบนี้

“ พี่ปูน ลูกจะไม่ดิ้นตกเตียงใช่ไหมอ่ะ ” ผมกระซิบถามทันทีที่ลุกมายืนข้างเขา

“ ไม่เหรอก ลูกเราไม่นอนดิ้น แต่ถ้าบอสไม่รีบไป ปูนจูเนียร์มันจะดิ้นออกมาตรงนี้แล้ว ”

ผลั๊ว

ผมหันไปฟาดพี่ปูนฉาดใหญ่ ทำเอาพี่ปูนร้องเสียงหลง ผมเลยต้องรีบเอามืออุดปากให้เขาเงียบก่อนที่จะทำลูกตื่น

“ โอ้ย! ”

“ ชู่ว เสียงดังเดี๋ยวก็ไล่ให้ไปนอนนอกห้องคนเดียวซะเหรอก ”

“ โธ่บอสอย่าใจร้ายกับพี่นักเลย แค่นี้พี่ก็ทรมานจะแย่แล้ว ”

ผมเตรียมจะอ้าปากด่าเขาต่อ แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะคนตัวสูงเล่นฉวยโอกาสเอาปากตัวเองมาปิดปากผมซะงั้น

“ อ่ะๆ อย่าเสียงดังเดี๋ยวลูกตื่น ถ้าบอสเป็นห่วงลูกก็รีบไปกับพี่เดี๋ยวนี้ จะได้รีบกลับ โอเค๊? ”

ผมกำมือตัวเองแน่นด้วยความหงุดหงิด อยากจะตะโกนด่าคนตรงหน้าแต่ก็ทำไม่ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ แค้นนี้ต้องชำระคอยดู หลังจากใช้สายตาคาดโทษบุคคลที่ยังยิ้มหน้าระรื่นไม่สำนึกเรียบร้อยแล้ว ผมก็หันหลังเดินไปทางประตูห้อง แต่ยังไม่ทันที่มือจะเอื้อมไปจับลูกบิด เสียงจากข้างหลังก็ทำให้ผมชะงัก

“ หม่าม้า ”

ผมค่อยๆ หันหลังกลับไปมองก็เห็นลูกชายคนเล็กลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางงัวเงีย ดวงตาที่เล็กอยู่แล้วยิ่งบวกกับอาการของคนเพิ่งตื่นเลยทำให้มันเล็กลงไปอีกจนเกือบจะกลายเป็นเส้นตรงมองมาทางผม

“ จะไปไหนกัน ยัวร์ไปด้วยสิ ”

สิ้นคำถามของเจ้าตัวเล็ก ผมก็เงยหน้าขึ้นไปสบตาสามีที่ยืนอยู่ข้างๆ ดูหน้าก็รู้ว่าเสียอารมณ์ขนาดไหน แต่ทำไงได้ล่ะ เจอแบบนี้คงต้องผลัดไปวันหลังแล้วล่ะ

“ หม่าม้าเดินมาปิดไฟให้ แล้วก็จะกลับไปนอนกับยัวร์นะครับ ”

“ แต่บอส.. ”

“ ชู่ว ”

ผมหันไปดุพี่ปูนครั้งหนึ่งก่อนจะปิดไฟแล้วเดินกลับมานอนที่เตียงตามที่บอกกับลูกไว้ ตายัวร์เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มให้ก่อนจะเอนตัวลงนอนที่เดิมอีกครั้ง ส่วนคุณสามีก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากชักสีหน้าเล็กน้อยแล้วจำใจเดินตามมานอนลงบนเตียงข้างตาไอที่ยังว่างอยู่

คืนนี้จึงเป็นคืนแรกที่เราห้าคน พ่อ แม่ ลูก ได้นอนรวมกันบนเตียงในห้องของเรา เพราะปกติเจ้าสามแสบจะนอนห้องตัวเองโดยมีน้าอุ่นคอยดูแล ถึงจะมีสมาชิกมาเพิ่มอีก 3 คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดนะครับ ด้วยความที่เตียงของเราเป็นไซส์พิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นกลับทำให้ยิ่งรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกถึงความเป็นครอบครัวมากขึ้นไปอีก  ถึงจะมีบางคนไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ในตอนต้น แต่สุดท้ายก็นอนกรนทั้งคืนแถมยังตื่นเป็นคนสุดท้ายอีกต่างหาก




“ เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ? ” ผมถามสามีที่เพิ่งลงมากินข้าวเช้าตอนเที่ยง ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับที่ผมเพิ่งกลับถึงบ้านหลังเสร็จธุระ

“ แล้วบอสคิดว่าพี่หลับสบายไหมละ พี่เกือบตกเตียงตั้งหลายรอบ เนี่ยดูใต้ตาพี่สิอย่างกับหมีแพนด้า ”

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี พี่ปูนก็ไม่เคยเปลี่ยน เขายังคงชอบโวยวายกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเด็กเวลาที่ถูกขัดใจ แล้วก็นิสัยขี้ฟ้อง ขี้อ้อนของเขาก็ไม่มีใครเกิน จนบางทีผมก็เผลอคิดว่าตัวเองมีลูกชาย 4 คนซะอีก

“ เหรอครับ? งั้นวันนี้เราไปซื้อเตียงใหม่กันดีไหม เอาให้ใหญ่กว่าเตียงเดิม 2 เท่าเลย วันหลังลูกๆ มานอนด้วยจะได้ไม่เบียดพี่ปูน ”

“ ไม่เอา! ”

ผมหัวเราะกับปฏิกิริยาตอบสนองของคนตรงหน้าที่ทำช้อนหลุดมือหลังจากได้ยินสิ่งที่ผมพูด

“ บอส ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากให้ลูกมานอนด้วยนะ แต่พี่แค่อยากมีเวลาอยู่กับบอสสองต่อสองบ้าง คิดดูสิกลางวันบอสก็ทำงาน กลับมาก็ต้องอยู่กับลูกยันส่งลูกเข้านอน กว่าจะกลับมาที่ห้องก็เกือบ 3 ทุ่มแล้วยังต้องเตรียมงานวันรุ่งขึ้นอีก แค่นี้ก็ไม่มีเวลาให้พี่แล้ว เพราะงั้นให้ลูกนอนห้องเดิมน่ะดีแล้ว ยังไงซะน้าอุ่นแกก็ดูแลได้ไม่ต้องห่วง ”

“ ฮ่าๆ ล้อเล่นนะครับ ”

ผมเข้าใจพี่ปูนนะ เพราะเวลาใน 1 วันผมก็ใช้ไปอย่างที่พี่ปูนว่าจริงๆ แต่ที่ผมเร่งทำงานหนักก็ไม่ใช่เพื่อใคร นอกจากครอบครัวของเรา ตั้งแต่มีลูกผมก็แบ่งหน้าที่กับพี่ปูนใหม่ โดยที่ผมกับคุณพิทจะเป็นคนดูแลเรื่องการทำสัญญาปล่อยเงินกู้ ส่วนพี่ปูนกับลูกน้องจะเป็นฝ่ายติดตามทวงหนี้และเก็บดอกเบี้ย ซึ่งส่วนใหญ่พี่ปูนจะยกหน้าที่ให้ลูกน้องทำซะมากกว่า เว้นแต่ลูกหนี้ที่มีปัญหาจริงๆ พี่ปูนถึงเป็นฝ่ายไปเจรจาด้วยตัวเอง

ในหนึ่งเดือนมีลูกหนี้รายใหม่ไม่เยอะเหรอกครับ จริงๆ ผมจะยกหน้าที่นี้ให้คุณพิทก็ได้ แต่ผมไม่อยากทำ และที่เห็นผมออกจากบ้านทุกวันเพราะผมเพิ่งเปิดมูลนิธิสำหรับเด็กเรียนดีแต่ไม่มีทุนทรัพย์ไปเมื่อไม่นาน เลยต้องเข้าออฟฟิศทุกวันจนกว่าอะไรๆ มันจะลงตัว ตอนแรกพี่ปูนก็คัดค้านนะว่าจะทำไปทำไม ทั้งๆ ที่มันไม่ได้กำไรอะไรสักอย่าง แต่ผมก็บอกเหตุผลไปเรื่องที่ผมคิดถึงตัวเองกับบรีสตอนที่ต้องดรอปเรียนแล้วมาทำงานหาเงินทั้งๆ ที่สอบติดมหาวิทยาลัยแล้วแท้ๆ ผมไม่อยากให้อนาคตของชาติต้องมาสะดุดลงเพียงเพราะเรื่องเงิน ในเมื่อฐานะครอบครัวของเราในตอนนี้ก็เรียกได้ว่าอยู่เฉยๆ ก็มีกินมีใช้ไปทั้งชาติ แล้วทำไมเราไม่เอาเงินดอกเบี้ยที่ได้มาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ เพราะยังไงซะการศึกษาก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอยู่แล้ว ทุนของผมที่ให้ไปไม่ได้หวังว่าจะได้คืน 100% ก็จริง แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้รับทุนต้องปฏิบัติตามเช่นกัน ถ้าไม่ทำตามละก็ได้เจอกับเจ้าพวกยักษ์ในชุดสูทแน่

“ พี่ปูน ”

“ หื้ม? ”

ผมเรียกชื่อสามีด้วยเสียงอ้อยอิ่งก่อนจะก้มดูเวลาบนข้อมือ

“ กว่าลูกๆ จะกลับก็อีก 2 ชั่วโมง อีกอย่างตอนนี้บอสก็ว่าง แล้ว... ” ผมมองคนฟังอย่างไม่คิดจะหลบตา ทำเอาช้อนในมือของคนตรงหน้าร่วงอีกรอบ เพราะคงไม่คิดว่าอยู่ๆ ผมจะพูด ยิ่งเป็นตอนกลางวันแบบนี้ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้เข้าไปใหญ่

“ งั้นรอช้าทำไมล่ะ ขึ้นห้องสิ ”

เรียกได้ว่าอาหารตรงหน้าเป็นหม้ายไปโดยปริยาย เมื่อพี่ปูนตัดสินใจทิ้งมันโดยการลุกขึ้นแล้วเดินมาหาผม ผมหัวเราะในความรีบร้อนของเขาก่อนจะลุกขึ้นตาม มือของผมถูกมือใหญ่สอดนิ้วเข้าประสานเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่คนตัวสูงจะเริ่มออกเดินแล้วลากผมไปในลักษณะกึ่งวิ่งซะมากกว่า ผมว่าถ้าเขาไม่แคร์สายตาลูกน้องละก็เขาคงอุ้มผมขึ้นพาดบ่าไปแล้ว

ในจังหวะที่ผมกับพี่ปูนกำลังจะก้าวเท้าเหยียบบันไดขั้นแรก เสียงประสานจากด้านหลังก็ดังขึ้น

“ หม่าม้า ปะป๊า พวกเรากลับมาแล้ว ”

เป็นการประกาศให้ทุกคนในบ้านรู้ว่าเจ้าตัวป่วนได้กลับมาแล้ว ซึ่งแน่นอนครับว่าเหล่าบรรดาคุณปู่ คุณย่า คุณตา และทุกคนต่างวิ่งกรูกันออกมารับด้วยความดีใจ เว้นก็แต่คนข้างๆ ผมเนี่ย ที่ทำหน้าบูดอย่างรู้ชะตากรรม

“ เอกณัฏฐ์หลานย่า ”

“ ทวิพัทธ์หลานตา ”

“ เตวิชญ์หลานปู่ ”

“ คุณย่า/คุณตา/คุณปู่ ”

ทั้งสามคู่โผเข้ากอดกันหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบ 4 ชม. เป็นภาพที่เกิดขึ้นเป็นประจำหลังจากที่ลูกๆ ของผมกลับมาจากโรงเรียนเตรียมอนุบาล Litter Bear (ของแท้ต้องมีหมีสามหัวอยู่หน้าโรงเรียน) ที่คุณพงษ์แฟนของคุณพิทเป็นเจ้าของกิจการ

“ คุณพิทมานี่หน่อย ”

ทันทีที่คุณพิสิษฐ์เดินเข้ามาในบ้านพี่ปูนก็กวักมือเรียกให้คุณพิสิษฐ์เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์

“ คุณชายมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ? ”

“ ที่โรงเรียนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงเลิกเร็ว ”

“ อ๋อ ไม่มีอะไรมากครับคุณชาย พอดีเมื่อเช้าผมแวะไปหาพงษ์ที่โรงเรียน เขาเลยบอกว่าช่วงนี้ไข้เลือดออกกำลังระบาด ทางโรงเรียนเลยตกลงกันว่าจะพ่นยากำจัดยุงลายวันนี้ จึงต้องงดการเรียนการสอนช่วงบ่ายน่ะครับ ผมก็ว่างๆ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วเลยรีบพาเด็กๆ มาส่งบ้าน กลัวว่าพ่อแม่จะคิดถึง ”

“ ขอบคุณมากนะครับคุณพิท แต่คราวหลังโทรบอกผมก็ได้นะครับ ผมเกรงใจ เลยต้องลำบากคุณพิทเลย ทั้งๆ ที่วันนี้วันหยุดของคุณพิทแท้ๆ ”

“ ไม่ลำบากเหรอกครับคุณบอส ผมอยู่ที่โรงเรียนอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็ว่าจะเข้ามาคุยเรื่องมูลนิธิกับคุณบอสด้วย ”

“ ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ทีเรื่องอื่นไม่เห็นเคยรีบแบบนี้ ” พูดเสร็จคุณปูนก็เดินสะบัดก้นขึ้นห้องไป ที่หน้าบันไดเลยเหลือแค่ผมกับคุณพิท 2 คน ส่วนพวกคุณปู่ คุณย่า คุณตาและก็หลานๆ พากันไปหาอะไรกินที่โต๊ะอาหารตั้งนานแล้ว

“ ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าครับคุณบอส ดูเหมือนคุณชายจะไม่พอใจผมเท่าไหร่ ”

“ ยังไม่ชินอีกเหรอครับ คนวัยทองก็งี้แหละ ”

“ นั่นสินะ ฮ่าๆ ”


[ มีต่อด้านล่าง ]

ออฟไลน์ Blueniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
[ต่อ]

หลายวันต่อมาในระหว่างที่ผมกับพี่ปูนกำลังนั่งจิบน้ำชามองดูลูกๆ วิ่งเล่นกับเจ้าปีใหม่ใต้ต้นหูกระจง (มันปลูกห่างจากตัวบ้านนะครับ ไม่ต้องห่วง) พี่ปูนก็พูดขึ้น

“ บอส วันนี้อากาศดีนะ ว่าไหม? ”

“ ดีเหรอครับ บอสว่าร้อนออก ”

“ นั่นไง งั้นพี่ว่าเราออกไปข้างนอกกันดีไหม? ”

“ ไม่เอาอ่ะครับ วันนี้วันอาทิตย์บอสอยากอยู่บ้านกับลูกมากกว่า ”

“ โธ่บอส พ่อแม่ก็อยู่ น้าอุ่นก็อยู่กลัวอะไร น่านะ ไปแป๊บเดียวเอง  ”

“ ไม่เอาอ่ะครับ ”

“ แต่พี่อยากให้บอสไป... ”

“ ไปด้วย! ” เสียงตะโกนดังลั่นมาแต่ไกลแม้จะไม่เห็นว่าใครเป็นคนพูด แต่ก็เดาได้ไม่ยาก

“ ปะป๊า หม่าม้า จะไปเที่ยวไหนกัน ไอไปด้วย ”

“ แอมก็ไปด้วย ”

“ วันนี้ยัวร์จะได้ไปเที่ยว เย้ ”

พี่ปูนหันมามองหน้าผมด้วยความกระอั่กกระอ่วน ส่วนผมนะเหรอ? หัวเราะเขาตั้งแต่เห็นเจ้าตัวเล็กวิ่งมาแต่ไกลแล้ว




“ บอสถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปพี่ไม่ไหวแล้วนะ พี่ว่าพักหลังมานี่เจ้าสามแสบทำตัวแปลกๆ ”

“ แปลกยังไงเหรอครับ บอสว่าลูกก็ปกตินะ มีแต่พี่ปูนนั่นแหละที่แปลก ”

“ อย่างพี่น่ะเขาเรียกหื่นเป็นปกติ บอสอยู่กินกับพี่มาตั้งหลายปีน่าจะชินได้แล้ว ช่างเถอะๆ แต่ลูกเราแปลกจริงๆ นะ บอสไม่สังเกตเหรอ? ว่าเจ้าพวกนั้นนะจะมาหาเราได้ถูกจังหวะตลอดเลย เหมือนจงใจมาขัดยังไงไม่รู้ ”

ที่พี่ปูนพูดมันก็น่าคิด เพราะตั้งแต่คืนที่เด็กๆ ยกขโยงมานอนที่ห้องพวกผม เจ้าพวกนั้นก็ไม่ยอมกลับไปนอนที่ห้องตัวเองอีกเลย

“ ไม่ได้การละ พี่ต้องคุยกับลูกให้รู้เรื่อง ”

“ เห้ย พี่ปูน! ”

ไม่ทันแล้วครับ พี่ปูนลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารเช้าไปหาลูกๆ ที่นั่งเล่นกับยัยปันและบรีสที่โซฟา

“ อ้าวพี่ปูนมีเรื่องอะไรทำหน้าเครียดเชียว ”

“ มีอะไรกันหรือเปล่าพี่บอส? ”

“ ปัน บรีส ขึ้นห้องไปก่อนไป พี่ขอคุยกับลูกแป๊ปนึง ”

เด็กสาวทั้งสองมองหน้าพี่ปูนอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ขยับตัวเตรียมจะลุกขึ้นแต่โดยดี ติดก็แต่เจ้าสามแสบห้ามไว้

“ ไม่เอาๆ ไอไม่ให้อาปันไป ”

“ น้าบรีสห้ามทิ้งแอมไปนะ ”

“ ยัวร์จะอยู่กับอาปันแล้วก็น้าบรีส ”

พี่ปูนสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะพูดขึ้น “ โอเคๆ งั้นป๊าถามตรงนี้ก็ได้ ทำไมลูกไม่ยอมกลับไปนอนห้องตัวเอง? ”

“ เรื่องแค่นี้อ่ะนะพี่ปูน ” ยัยปันถามอย่างคนไม่ประสีประสา แต่พอหันมาเห็นหน้าผมก็ดูเหมือนว่าน้องแกจะเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมาหน่อย “ อ๋อ เพราะเด็กๆ พี่ปูนกับพี่บอสก็เลย... ”

“ อย่างนั้นแหละ ว่าไง ไอ แอม ยัวร์ ที่ป๊าถาม? ”

“ ไอ... ”

เด็กสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กๆ ไม่นานเขื่อนกั้นน้ำตาก็แตก ผมไม่รอช้าวิ่งเข้าไปปลอบลูกๆ แล้วตวัดสายตาตำหนิพี่ปูนให้หยุดพูดทันที

“ โอ๋ๆ ม้าอยู่นี่แล้วนะ ไม่เป็นไรนะครับ พี่ปูนค่อยพูดวันหลังเหอะ วันนี้พอแค่นี้แหละ ”

“ แต่บอสพี่สอนให้ลูกเราเป็นคนมีเหตุผลนะ พี่ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมลูกเราถึงทำแบบนี้เฉยๆ พี่ไม่ได้ดุไม่ได้ด่าอะไรเลย ไอแอมยัวร์อย่าทำให้ป๊าเป็นคนเลวได้ไหม? เดี๋ยวคืนนี้ป๊าโดนไล่ออกไปนอกห้องทำไง ” น้ำเสียงของพี่ปูนอ่อนลงทันทีเมื่อเห็นว่าผมเริ่มโมโหจริง

“ ก็ดีสิ ฮึกๆ ”

“ ห๊ะ? เมื่อกี้ว่าไงนะ ” พี่ปูนอุ้มเจ้าไอที่นั่งอยู่บนตักน้องปันขึ้นมาแนบอกแล้วถามพลางใช้มือลูบหัวอย่างปลอบประโลม

“ ไอ ฮื่อๆ ไอบอกว่า ก็ดี ฮื่อๆ ไอไม่อยาก ฮึกๆ ให้ป๊า ฮึกๆ อยู่ใกล้ม้า ”

ช็อกสิครับ!

ทั้งผม พี่ปูน น้องปัน และบรีส ต่างมองไปที่ไอเป็นตาเดียว ถึงผมจะยังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ลูกพูด แต่คิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่

“ แอมก็ไม่อยาก ”

“ ยัวร์ด้วย ”

“ อ้าว ทำไมอย่างนั้นละ ป๊าทำอะไรผิด ไหนๆ เงียบ หยุดร้องนะครับคนดีของป๊า ป๊าเคยบอกว่าไงลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง เพราะฉะนั้นไม่ร้องนะ แล้วหันมาคุยกับป๊าดีๆ ”

“ ม้า เพราะว่าป๊ากับม้าอยู่ด้วยกันเลยมีพวกเราใช่ไหม? ” ยัวร์ที่นั่งตักผมอยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นถามหลังจากที่เริ่มควบคุมตัวเองให้หยุดร้องไห้ได้ ผมยิ้มให้ก่อนจะใช้นิ้วเรียวปราดคราบน้ำตาที่แก้มนั่นอย่างเบามือ

“ ใช่ครับ ป๊ากับม้าอยู่ด้วยกัน เพราะเราสองคนรักกันมาก สวรรค์เลยส่งพวกหนูมาให้เป็นของขวัญไง ”

“ แล้วสวรรค์จะส่งของขวัญมาให้อีกไหม ” คราวนี้เป็นเสียงตาแอมที่นั่งบนตักบรีสถามขึ้นบ้าง ผมว่าผมเริ่มจะจับประเด็นอะไรบางอย่างได้แล้วนะ

“ ถ้าส่งมาแล้วป๊ากับม้าจะยังรักพวกเราอยู่ไหม? ”

เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้น การที่เด็กๆ อยากให้พี่ปูนอยู่ห่างจากผม เป็นเพราะพวกเขากลัว กลัวว่าผมจะท้อง กลัวว่าจะมีใครมาแทนที่พวกเขาต่างหาก

“ ไอ แอม ยัวร์ มาหาม้ามา ” พี่ปูนนั่งลงที่โซฟาข้างๆ ผมแล้วปล่อยให้เจ้าไอที่เริ่มหยุดร้องไห้มาหาผม เจ้าแอมก็ปีนลงจากตักบรีสแล้วมาหาผมเช่นกัน ผมอุ้มเด็กๆ ทั้งสามขึ้นไว้บนตักแล้วกอดเอาไว้ในคราวเดียว “ เราเป็นครอบครัวเดียวกันใช่ไหมครับ? ”

“ ครับ ” ทั้งสามตอบรับเบาๆ ผมเลยถามต่อ

“ แล้วคนที่เป็นครอบครัวเนี่ยต้องรักกันใช่ไหมครับ ”

“ ครับ ”

“ ถ้าอย่างนั้น ถึงสวรรค์จะส่งของขวัญมาให้ม้ากับป๊าอีกกี่ชิ้น เราก็ต้องรักกันถูกไหมครับ? ในเมื่อเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ”

“ … ”

เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากเด็กๆ ผมเลยเปลี่ยนคำถาม เผื่อว่าพวกเขาจะตอบง่ายขึ้น

“ ทำไมลูกถึงคิดว่าถ้าม้ามีน้อง แล้วป๊ากับม้าจะรักหนูน้อยลงละ หื้ม? ”

“ ก็... ” แอมเงียบไปหลายอึดใจ เล่นเอาทั้งผม พี่ปูน ยัยปัน ยัยบรีส ลุ้นระทึกหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะอยากจะรู้ว่าลูกคนกลางจะตอบว่าอย่างไร

“ มีคนบอกว่าถ้าม้ามีน้อง ม้าก็จะรักแต่น้องแล้วก็ลืมพวกเรา ” สิ้นคำลูกชายคนรอง ลูกชายคนเล็กก็เสริมทัพ ก่อนจะตามด้วยลูกชายคนโต

“ พวกเราก็เลยไม่อยากให้ป๊าอยู่ใกล้ม้า ”

“ พวกเราไม่อยากให้สวรรค์ส่งของขวัญมาให้ม้าอีกแล้ว ”

“ พวกเราไม่อยากเป็นหมาหัวเน่า ” ทั้งสามประสานเสียงกันลั่น คำตอบนี้ก็ไม่ต่างจากที่ผมคิดไว้สักเท่าไหร่ ผมกระชับกอดเด็กๆ แน่นขึ้นไปอีกเพื่อเพิ่มความมั่นใจ พี่ปูนเองก็เริ่มเบียดตัวมาใกล้ผมแล้วใช้สองแขนโอบล้อมตัวผมและลูกๆ อีกที

“ มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ม้าสัญญา เพราะว่าม้ารักไอแอมยัวร์มากนะครับ รักมากกว่าป๊าซะอีก ” ผมพูดติดตลกทำเอาเด็กๆ ขำพรืดอย่างชอบอกชอบใจ มีก็แต่คนถูกพาดพิงที่ทำหน้ามุ่ย

“ อ้าว บอส! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ”

“ หรือว่าพี่ปูนไม่รักลูก? ”

“ ก็รัก แต่ก็รักเมียด้วยอ่ะ ถ้าต้องให้เลือกพี่ก็เลือกไม่ได้ ”

“ เหรอ??? ”

“ ยัยปันอย่ามามองพี่แบบนั้นนะ ” พี่ปูนหันไปดุน้องสาวตัวเอง ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าล้อเลียนพี่ชายอยู่

“ ไอ แอม ยัวร์ เชื่อม้านะครับ ว่ายังไงเราทั้ง 3 คนก็คือคนสำคัญที่สุดของม้า ”

“ ของป๊าด้วย ”

“ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะพูดยังไง พวกหนูไม่ต้องไปสนใจ รู้ไว้แค่ป๊ากับม้ารักหนูมากและจะไม่มีวันเลิกรักหนูก็พอ ”

“ ครับ ไอก็รักป๊ากับม้านะ ”

“ แอมด้วย รักๆ ”

“ ยัวร์รักป๊ากับม้าที่สุดในโลกเลย ” 

ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของเด็กทั้งสามพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ นั่นจะสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ใหญ่ทั้ง 4 ที่นั่งฟังอยู่ได้มากขนาดนี้ แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับเราเพียงไม่นาน เมื่อจู่ๆ คุณสามีเกิดนึกขึ้นได้ว่ายังมีบางคำถามที่ยังค้างคา

“ ว่าแต่ใครมันบอกลูกแบบนั้น? ”

เด็กสามคนมองหน้ากันสักพักเหมือนลังเล ก่อนที่เจ้ายัวร์จะหันไปเห็นอะไรที่ประตูทางเข้าเลยตะโกนลั่น

“ นั่นไง ”

ผมหันไปมองตามก็เห็นคนมาใหม่กำลังเดินเข้ามาใกล้โซฟาที่เรานั่งกันอยู่ ในมือทั้งสองข้างหิ้วของพะรุงพะรังเหมือนเพิ่งกลับจากการช้อปปิ้ง

“ อ้าว มาทำอะไรกันตรงนี้ครับ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย บรีส ผมซื้อของที่บรีสชอบมาฝากด้วยนะ เดี๋ยวผมเอาไปใส่จานให้ แล้วก็นี่ไก่ทอดของไอแอมยัวร์ด้วย น่ากินใช่ไหมละ? ”

คนข้างตัวผมกำหมัดแน่นพลางมองตามหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษเกาหลีที่หันหลังเดินไปทางห้องครัวอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างไม่ละสายตา ก่อนที่จะลุกพรวดพุ่งตรงเข้าไปหาหวังจะชำระแค้นให้สาสมกับที่หมอนั่นทำ

“ ไอ้โทนี่ มึงตาย!!! ”

“ เห้ย! ”

ผลั๊ว!


----------------------

“ โอ้ย เบาๆ หน่อยสิ เดี๋ยวก็เป็นแผลเป็นเหรอก ”

“ สมน้ำหน้า ตอนทำไม่รู้จักคิด นี่ดีนะที่ฉันกับปันวิ่งไปห้ามพี่ปูนได้ทัน ไม่งั้นป่านนี้นายได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลแน่ ”

“ ฮ่าๆ ”

“ ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก นี่แน่ะๆ ”

“ โอ้ยๆ เบาสิครับ แค่นี้ก็เจ็บจะแย่แล้ว ”

“ ทีตอนนี้มาทำเป็นเจ็บ ไหนเล่ามาสิว่าไปพูดแบบนั้นกับหลานฉันทำไม ”

“ หมันไส้ ”

“ ว่าไงนะ? ”

“ เรื่องที่ฉันขอเธอแต่งงานแล้วพี่เขยเธอคัดค้านจำได้ไหม? ฉันเลยต้องเอาคืนซะบ้าง เป็นไงบ้างล่ะ ได้ข่าวว่าอดสวีทกับพี่ชายเธอเกือบ 2 อาทิตย์เลยนี่ สมน้ำหน้า ”

“ นายมันคนร้ายกาจ ”

“ แต่สู้พี่เขยเธอไม่ได้เหรอก เธอก็อีกคน จะไปเชื่อฟังอะไรเขานักหนา แค่เขาไม่ให้แต่ง เธอก็ไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือไง ”

“ ฉันจะทำอะไรไปทำไมล่ะ ในเมื่อฉันเป็นคนบอกให้พี่บอสไปบอกพี่ปูนให้พูดแบบนั้นเอง ”

“ ห๊ะ? นี่ฉันฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า? ”

“ โทนี่ ฉันว่าฉันอยากไปเรียนต่อ ”

“ บรีส แต่ฉันรอเธอมา 4 ปีแล้วนะ เธอจะให้ฉันรอไปถึงเมื่อไหร่กัน? ”

“ แล้วรอได้ไหมละ? ”

“ ไอ้ได้มันก็ได้ แต่ฉันไม่อยากรอ เธออย่ามาทำให้ความอดทนของฉันหมดนะบรีส ไม่งั้นเธอได้ไปวิวาห์เหาะกับฉันแน่ ”

“ นายนี่มัน... ”


“ ฉันร้ายได้มากกว่าที่เธอคิดนะ ยวิษฐา ไม่เชื่อก็ลองดู! ”


The End

----------------------------

สวัสดีค่ะทุกคน ^^

สุขสันต์วันแม่นะคะ

วันพิเศษดีๆ แบบนี้เลยเอาตอนพิเศษมาฝากกัน

หวังว่ายังคงไม่ลืม I Am Your กันน้า

คงเป็นธรรมดาใช่ม้า? ที่เด็กๆ มักจะกลัวการมีน้อง

เพราะไม่อยากจะให้พ่อกับแม่รักใครมากกว่าตัวเอง

แต่พ่อแม่ทุกคน ย่อมรักลูกเท่ากันเสมอและไม่มีวันลดน้อยลง

ยังไงอ่านตอนนี้กันจบแล้ว ก็อย่าลืมไปหาพ่อกับแม่กันด้วยนะคะ

พาท่านไปเที่ยว ไปกินข้าว เอาพวงมาลัยมากราบท่าน

และที่สำคัญ อย่าลืมบอกรักท่านด้วยนะคะ

เดี๋ยวเราก็จะไปหาแม่เช่นกัน

บ้ายบาย เจอกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ

รักทุกคนนะคะ  :mew1:

Blueniie



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3

ออฟไลน์ ดึงดาว

  • โตขึ้นหนูอยากเปนไร
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านจบแล่นาจา สนุก ฮาๆดี ขอบคุณสำหรับนิยาย

ออฟไลน์ ดึงดาว

  • โตขึ้นหนูอยากเปนไร
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ gunghan

  • In the end, we must separate, that’s it
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ได้การลงโทษนั่งหันหน้าเข้าหากำแพงนี้มาจากอัปป้าซงอิลกุกรึป่าวคะเนี้ย

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อิ๊ยยยยยน่ารักจังเหล่ยยยยย :katai5: :katai5:
มีความอัปป้าซงด้วยงะะะ

ออฟไลน์ armsa2531

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ mu_mam555

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เรื่องนี้สนุก น่ารักมากค่า
บทจะม่าก็น้ำตาไหลเลย 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด